ตอนที่ 3 ปฏิบัติการสูบ 1.2ฉันยัดเจ้าเมล็ดน้ำตาลอมม่วงเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย....พร้อมกับนึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่ประเดประดังเข้ามา...ฉันไม่ค่อยมีสมาธิกับการแข่งเท่าไหร่ แต่ผู้ชายตัวโตที่ส่งยิ้มให้ฉันจากตรงนั้น เรียกสติและความมุ่งมั่นให้กลับคืน...
“พ่อหนุ่มน้อยของเราเก่งจริง ๆ ครับ สมกับเป็นแชมป์สามสมัยซ้อน”
ฉันเริ่มจะเข้าใจ เมื่อไอ้โฆษกปากมากเสียงดังนั่นพูดขึ้น....ไม่ได้เข้าใจในตอนนั้นหรอก แต่เพิ่งจะเข้าใจในตอนที่คิดถึงมันนี่แหละ.
ว่าเก้งแอ๊บที่ถูกแซวว่าเป็นไอ้ตุ๊ดนั้นเจ็บปวดเท่าไร.....
กะเทยที่เปิดเผยถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ชายก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน!!!!!(ไอ้หนวดบ้า...อ๊างงง~)
“ปรบมือให้กับผู้ชนะด้วยครับ เจ้าหนูนักกินถั่วของเราทำได้อีกแล้ว”
ในที่สุดการแข่งขันกินถัวต้มก็จบสิ้นเสียที ฉันเดินเข้าไปหาคุณพ่อยังหนุ่ม พร้อมกับฉีกยิ้ม ในมือของฉันมีธนบัตรใบละห้าร้อยสองใบ....ฉันชูหราด้วยความดีใจ
“ครึ่ง-ครึ่งเลยเจ้าเคี้ยง”
“เรื่อง!!!! เคี้ยงหม่ำ ๆ ถั่วจนท้องเกือบแตก เนี่ยเดี๋ยวก็ต้องนอนตดทั้งคืน ป๊าจะมาขอแบ่งง่าย ๆได้ไงฟะ”
“ชิส์ เจ้าเด็กขี้งก.....เออ ๆ งั้นจะกลับหรือยังล่ะ”
ฉันยิ้ม ก่อนจะยัดเงินทั้งหมดที่ได้เข้ากระเป๋าของชายคนนั้น
“เฮ้ย...ไอ้เคี้ยง อะไรของแกน่ะ”
“เคี้ยงให้ป๊าหมดเลย ป๊าพูดสิ ว่าป๊าภูมิใจในตัวเคี๊ยง”
“ป๊าภูมิใจในตัวแกเสมอแหละ อยากกินอะไรล่ะเย็นนี้”
“ตามใจป๊า”
เราพ่อลูก เดินเที่ยวงานเทศกาล เล่นเกมส์ตามซุ้มไปตามเรื่องจนกว่าเงินนั่นจะหมด.....
.
.
.
.
.
.
.
อืม
นี่ก็ผ่านมาสิบปีแล้วสินะ ตอนนั้นฉันแค่สิบสาม ส่วนป๊าก็อายุแค่สามสิบ
เวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ อยู่ ๆ ฉันก็นึกถึงวันเก่า ๆ ที่เราทั้งสองต่อสู้กันเพียงแค่เรา.....พ่อกับลูก ฉันกำพร้าแม่ แต่ไม่รู้สึกขาดเลยแม้แต่นิด
นึกถึงอดีตแบบนี้ ฉันคงจะแก่แล้วสินะ.....อรั๊งงงงค์
“อ้าวเฟิร์ส.....มาแต่เช้าเชียวนะ”
ฉัน.....กะเทยสาวออฟฟิศสุดฮ๊อตร้อนฉ่า.....ผู้ซึ่งกำลังเมาขี้ตาไปพร้อม ๆ กับการอดัลท์แอโรบิค(หรือพวกคุณอาจจะเรียกไทเก๊ก)....เอ่ยทักไอ้เด็กหน้าหล่อ น่าลากลงไปกินในน้ำ....แผล็บ ว่าแต่ว่ามันมาทำพระแสงอะไรของมันเนี่ย
“เฟิร์สช๊อยส์.....ผมชื่อเฟิร์สช๊อย ตัวเลือกแรก ไม่ใช่ที่หนึ่ง เรียกชื่อผมให้ถูกด้วยอาอึ้ม....”
ปึด.....กวนประสาท.....กวนประสาท
“จ้า.....มาหาเจ้าม้งสินะ”
“ผมมารับม้งไปทำงานกลุ่มที่บ้าน มันตื่นยัง”
“ยัง....เดี๋ยวพี่ปลุกให้ รอเดี๋ยวนะ”
“เดี๋ยวชกเลย ป้ารำไทเก๊กตรงนี้แหละ ผมจะขึ้นไปรอมันเอง รบกวนคนหลับมันเสียมารยาท คุณครูเค้าไม่สอนป้ารึไง”
ปึด.....ปึด.....ปึด
ฉันทิ้งไม้ไผ่ที่ใช้ประกอบการเต้นแอโรบิคแบบผู้ใหญ่ด้วยความฉุนจัด ก่อนจะหันไปสั่งตาแก่ที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เป็นหมีไขข้อเสื่อม
“ป๊า.....เปิดเพลงของบี้ ณ บัดนาว ลูกจะเซิ้ง”
“ครับคุณลูกบังเกิดเกล้า”
เต้น ๆ ๆ ๆ ๆ เต้นให้หายเครียด อะไร ฉันยังไม่ยี่สิบห้าด้วยซ้ำ แล้วไหงมีแต่คนแซวว่าอีป้า...ไอ้น้องนิ๊งหน่องวินหน้าปากซอยก็คนหนึ่งแล้ว...
“อ๊ะจริงสิ.....ป๊า....หนูลืมไปเลย ว่านัดผู้ชายเดินห้าง ป๊า....หาข้าวกินเองนะวันนี้ บ๊ะ....”
จู่ ๆ มันก็นึกออก นึกออกว่านัดหัวหน้าแผนกไปเดินเที่ยว ช้อปเครื่องสำอางเคาท์เตอร์แบรนด์ แลกกับบางสิ่งที่ฉันต้องไปเสาะแสวงหามาอย่างยากลำบาก....ฉันต้องเอาหมายเลขบัตรประชาชน ชื่อ ของคน ๆ นั้นไปเซิร์ชข้อมูลในอินเตอร์เน็ต สืบจนรู้ว่าเขาเรียนที่ไหน แล้วฉันก็ต้องสุ่มหาคนในเฟซบุ๊คเพื่อหลอกถาม...โอ๊ยย ยากอ่ะ แทบจะลืมงานรูทีนของตัวเองไปเลย
“ไอ้หนวด แกทำงี้กับป๊าอีกแล้นนะ....แกบังคับป๊าออกมาเต้นจนหิว แล้วก็คิดจะชิ่งไปแบบนี้น่ะเรอะ ไอ้ลูกบ้าเอ๊ยยยย”
ฉันอาบน้ำ แต่งตัว สวมเชิ๊ตสีเหลืองเลมอน กับกางเกงขาเดฟสีเขียว ซึ่งไม่ขาวจริงสวมแล้วดับนะจ๊ะ....ฉันยีผมและฉีดสเปรย์...ฉันลืมบอกไปว่าตัดผมแล้ว จากยาวกลางหลังเหรอแค่บ๊อบประบ่า ดูเด็กขึ้นเป็นกอง อย่างกับสาวคาวาอี้
หึหึหึไอ้ม้ง ต่อไปนี้แกจะมาเรียกพี่ว่าไอ้โป่งหินเหล็กไฟไม่ได้แล้วนะ พี่แกน่ะเริ่มจะมีเค้าลางของความโมะเอะแล้วนะเฟ้ย
ว่าแล้วก็สะพายกระเป๋าแบรนด์เนมป้าดากุชจี่.....ใบที่ไถหัวหน้ามาจนได้นั่นแหละ เอาล่ะอีเคี้ยงพร้อมแล้ว
“แต่งตัวอย่างกับถูกกระป๋องสีสาดใส่”
กรี๊ดดดดดดดด อีเด็กสินเชื่อ นี่แกยังอยู่อีกเรอะ!!!! ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน.....ไอ้เด็กหล่อไร้มารยาท ไอ้โดม ปกรณ์......ลัมมมมม
“ไม่ต้องมองผมแบบนั้นเลย พี่แต่งตัวประสาไรฟะ เสียงดังชะมัด หม่งม้งของผมกำลังหลับสบาย ตื่นจนได้ เพราะพี่แท้ๆ”
“อั๊ยย๊ะ ชั้นก็แต่งตัวของชั้นแบบนี้ แกมีปัญหาอะไร๊.....ไอ้เด็ก.....อึ้บบบบบ ไม่ด่าดีกว่า ด่าไปก็เท่านั้น”
“พี่ต้องเปลี่ยนนะ ขืนทำตัวแบบนี้ ก็จะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้ม้ง แล้วต่อไปม้งของผมก็จะ....”
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อีม้งน่ะมันทรามกว่ากูอีกเว้ยเฮ้ยยยยย
เดี๋ยวนี้มันเป็นเอามาก มันชักเลี่ยนขึ้นเลี่ยนขึ้น แล้วดูสิ ช่างพูดได้เต็มปากว่าหม่งม้งของผม ชิส์
“พี่เคี้ยงงงงง สวยจัง พี่เคี้ยงของม้งสวยขึ้นทุกวันเลย พี่เคี้ยงสวยเหมือนคริส หอระฆังมิมีผิด”
เค้าชื่อคริส หอวังเว้ยอีม้ง ไอ้เด็กดอยเต่าตื่นขึ้นมาก็ตะโกนชมฉันเสียงดังลั่นจนฉันละอาย แหมถ้าสวยได้แบบนั้น พี่แกคงมีผัวไปแล้ว ไอ้เด็กหล่อจ้องฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ....หึงหวงกันก็มาลงที่อีเคี๊ยง ชิส์
แล้วนี่ฉันจะมาประสาทเสียกับพวกมันทำไม ป่านนี้.....ป่านนี้แล้วหัวหน้าไม่เห็นจะมารับฉันอย่างที่บอกเลย ไอ้คนลวงโลก
ครืดครืด“หัวหน้าคะ หนูแต่งตัวเสร็จแล้ว กำลังรออยู่เชียว ถึงไหนแล้วเอ่ย”
“ผมอยู่ห้างแล้ว”
“อ่ะ....อ้าว”
“หึ....อยากได้ในสิ่งที่ต้องการก็พยายามหน่อยสิเคี้ยง ไหน ๆ ก็จะไถผมแล้วอ่ะนะ ผมไม่เสียเวลา เสียค่าน้ำมันรถขับไปรับคุณหรอก ไกลด้วยแถมยังรถติดอีกตังหาก ผมให้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมง ถ้าคุณยังไม่มาผมจะกลับ”
“นี่คุณประวิทย์นี่คุณกล้าพูดกับคนที่จะช่วยคุณ.....”
“ตรู๊ดดดดดด......ตรู๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ”
ฮะหน็อย นี่ฉันคงจะหลอกไถแกมากไปสินะ แต่คราวนี้น่ะ มันสุดยอดจริง ๆ นะเว้ย บังอาจเล่นตัวกับอีเคี้ยง เดี๋ยวแม่ก็เชิ่ดกลับซะนี่
“ม้ง...เฟิร์ส”
“เฟิร์สช๊อยส์ตังหาก”
“พี่จะทำยังไงดี”
.
.
.
.
.
.
.
.
แค่ก ๆ ๆ ๆ
นี่ฉันเพิ่งจะผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาหรืออย่างไรกันนะ อีตาลุงวินแกขับรถได้ผาดโผนสุดยอด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แกปรี่เข้าไปแฉล่บกับรถพ่วงสิบแปดล้อ อีเคี้ยงคิดไปไกลถึงยมโลก คิดแม้กระทั่งจะมาเข้าฝันให้หวยพ่อกันเลยทีเดียว
ตายไปศพคงไม่สวย ไอ้ของเดิมก็เละจนคนไม่อยากจะมองอยู่แล้ว....
“พี่คะ เอ๊ย....ลุงคะ ถ้าจะขับรถได้ฉิบหายวายป่วงขนาดนี้ ลุงกับไปขี่ไอ้ทุยที่บ้านไหม ชีวิตหนูมีค่านะ ต้องเลี้ยงกี่ปากกี่ท้อง มันเทียบได้มั้ย กับชีวิตสั่ว ๆ ที่น่าสมเพชของลุง ถ้าลุงอยากจะตายโหงตายห่า ก็เชิญค่ะ แต่อย่าทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อน ขับชนตูดรถเมล์แมร่งเลยค่ะลุง”วีน...วีน....ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะฉันจะวีน ฉันจะเหวี่ยง....
ฉันด่ามันเป็นชุด ก่อนจะควักแบงค์ยี่สิบปาใส่หน้ามัน และเดินจากมาอย่างองอาจ อย่างผู้ชนะ.....เยส
“ร้อยหกสิบ”“นี่ค่ะ”
พุทโธ่ ไอ้ที่ด่าเป็นชุดเมื่อกี้นี้ มันก็ได้แค่นึก อีเคี้ยงไม่ใช่คนจริงค่ะคุณ รอดมาได้ก็บุญแล้ว ยังจะให้มาโดนลุงตัวโตหน้าเถื่อนกระทืบไส้แตกตายหน้าห้างให้คนเขาสมเพชหรือคะ เอาน่าคนไทยด้วยกัน ต้องรู้จักให้อภัยกันสิ อย่างน้อย ๆ ลุงแกก็พาฉันมาทันเวลาเป๊ะเด๊ะ แต่ฉันก็แอบเอาแบงค์เก่า ๆ ดำ ๆ ให้มันไปนะ ฉันนี่ก็เจ๋งเหมือนกัน ทำเป็นเล่น
“ไม่มีทอน” กรี๊ดดดดด ตะคอกฉันทามม๊ายยยย แค่สี่สิบบาทเนี่ยนะ จะไม่มีเชียวเรอะ....อ๊ากกกกกก ทำแบบนี้เคี้ยงยอมมิได้ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นะเฮ้ย
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ หนูทิป”
“รวยนักหรือไง ทีหลังหัดพกเศษซะบ้าง รอแปบ เดี๋ยวไปแลกมาให้.....ให้ตายสิเด็กสมัยนี้....บลาห์บลาห์บลาห์”
พะ....พ่อกูยังไม่เทศน์กูขนาดนี้เลยเฮ้ย....ฮึบไว้ อย่าโกรธ อย่าเครียด เดี๋ยวแก่ เดี๋ยวไม่สวย แกเพิ่งยี่สิบสาม เคี้ยง ท่องเอาไว้ แกยังเด็ก แบ๊ว ผ่องแผ้ว สดกรอบ
.
.
.
.
.
.
“รักแร้ชุ่มเชียวนะเคี้ยง”
“คุณมันบ้าที่สวด.....”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าคิดว่าผมจะยอมอยู่ใต้อุ้งมือแมวเหมียวของคุณตลอดสิเคี้ยง ส่งข้อมูลมา เดี๋ยวผมประเมินเองว่าคุณจะได้อะไรเป็นการแลกเปลี่ยน”
“ไอ้เขี้ยวลาก”
“ด่าหัวหน้า ระวังจะโดนเด้งนะครับน้องผีเฮี้ยน”
“ฉันหิวน้ำค่ะ พาฉันไปดื่มอะไรเย็น ๆ ก่อน”
“พลีสด้วยสิ”
“พลีส~~~~อรั๊งค์”
“น่ารักมากเคี้ยง”
.
.
.
.
.
.
“ฉันตามสืบประวัติของไอ้ปาล์มมาให้คุณ มันเป็นชายแท้ร้อยเพอร์เซ็นต์ เพอร์เซ็นต์นี่คิดจากคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมกับมหาลัยนะ มันเคยมีแฟนเป็นชะนีสองตน....สวยเอ๊กซ์หนึ่ง อันนั้นคบกันแค่ขำ ๆ ส่วนอีกคนนี่สิ....หึหึหึ”
“ว่าต่อสิเคี้ยง”
“เป็นผู้หญิงจืดชืดเสียไม่มีอ่ะ ยัยนี้ชื่อปราง....ไม่ใช่สาวแบ๊วหรือห้าวด้วยซ้ำ ไม่ใช่แม้แต่เด็กเรียน เป็นชะนีเห่ย ๆ ที่ปลวกชิบ ไร้ซึ่งจุดเด่น หน้าตาก็ไม่เคยที่จะแต่ง....”
“เอาแบบสรุปเคี้ยง”
“ยัยปรางทิ้งมันไปด้วยเหตุผลที่นอนเซ้นส์”
“ยังไง”
“นังปรางเนี่ยมันชอบนักร้องเกาหลี ไอ้ตอนที่คบกันมันก็ช่วงรอยต่อระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวันบูมสุด ๆ อ่ะนะ ซึ่งนางก็ไม่ใช่คนบ้าดาราเสียด้วย แล้วเรื่องมันเป็นงี้ พอมันเริ่มกรี๊ดซุเปอร์จูเนียร์ มันก็หันมาเข้ากลุ่มสาววาย ไม่เข้าใจอ่ะสิ สาววายคือไร แต่จุดแตกหักมันอยู่ตรงที่ นังปรางลืมวันเกิดของไอ้ปาล์ม เพราะแมร่งเสือกเป็นวันเดียวกันกับไลฟ์คอนในไทย แล้วชาวเอลฟ์จะพลาดได้ไง....นี่ก็ไปตบได้บัตรฟรีมาใบนึง แต่ก็ไม่ได้ไป ไข้แดก....”
“จะหลับแล้วเคี้ยง ฮ๊าววววววว”
“ไอ้ปาล์มด่าแฟนมันแรงมาก ๆ ไม่สิ ที่แรงน่ะ....มันดันไปพาดพิงถึงสมาชิกในวงเอสเจ มันด่าพี่คังอินสุดล่ำด้วยถ้อยคำที่น่ารังเกียจ พี่คังอินเท่ห์นะยะ แบดบอยจะตาย....แบ๊วด้วย แล้วทีนี้.....ทีนี้”
“อะไรเคี้ยง”
“แฟนก็เลยบอกเลิกมัน มันก็เลยเฮิร์ท แล้วตั้งตนเป็นอริกับทุกสิ่งที่มาจากแดนกิมจิ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะงั้นหัวหน้าอย่าได้สะเหร่อทำตัวเป็นพระเอกเกาหลีเด็ดขาด นอกจากจะไม่เวิร์คแล้ว ยังจะถูกมันต่อยตาแตก”
“แค่นี้เอาไปแค่หนังเรื่องเดียวก็พอ ไร้ประโยชน์จริง ๆ”
“อะไรยะ นี่มันเป็นปมในเรื่องความรักเลยนะ เพราะหลังจากนั้นสาวไทยก็แห่กันทำแบ๊วซารางเฮ....แม้แต่นังปรางก็แอบขโมยตังค์เตี่ยไปทำหน้าซะสวยเช้ง....แถมยังเปลี่ยนชื่อเป็นปรางแทกู....ปรางแทกู เสร่อชิบอีปลวกเอ๊ย ขอให้หน้าแกเยิน เพราะไปทำคลินิกเถื่อน เพี้ยง!!!!”
“ดูเรื่องอะไรดีล่ะ”
“แล้วปาล์มมันก็ไม่เคยชายตาแลสาวใดอีกเลย จะคบสาวจืดก็ขยาด เพราะเดี๋ยวแมร่งก็เป็นแฟนคลับดาราเกาหลี ครั้นจะคบสาวแบ๊ว แบบมันก็เกลียดเกาหลีเข้าเส้น....ส่วนสาวสวยเอ๊กส์ FHM นี่บอกศาลาไปได้เลย เพราะแมร่งถูกเพื่อนหักหลังคาบไปแดก อีพวกนี้มันขี้ร้อนเสียด้วย เอะอะถอด ใจง่ายดีแท้”
“ผมไม่มีโปรแกรมอ่ะ เอาไปร้อยยี่สิบละกัน อยากดูอะไรก็ไปเลือกเอา”
“หัวหน้าอ่ะ”
“ล้อเล่นหรอกน่า โถ....เด็กน้อยผู้ผิดหวังในรักงั้นเหรอ ดีล่ะ พี่วิทย์คนนี้จะเยียวยาหัวใจน้องด้วย......”
“เพลงเมทัล”
“ขอบใจเคี้ยง คุณนี่มันสุดยอด เออนี่ บัตรกำนัลร้านสปาน่ะ ไปใช้มาแล้วใช่มั้ย สวยขึ้นผิดหูผิดตา”
“บ้า หัวหน้าก็”
“ผมจะพาคุณไปเลือกครีมบำรุงผิวก็แล้วกัน หน้าคุณจะได้ใสกิ๊ก จะได้มีผู้ชายมาติดกับซักคนสองคน”
“ต้องแบบนี้สิ ค่อยสมกับทีเด็ดที่เตรียมมาเซอร์ไพรซ์”
“อะไรเหรอเคี้ยง”
“พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ตื่นสาย ๆ แต่งตัวนาน ๆ เลือกชุดที่หล่อที่สุด เพราะเคี้ยงนัดมันให้คุณแล้ว เจอกันที่ร้าน XXX สุขุมวิทที่เดิม ร้านที่คุณเคยพาเคี้ยงไปเลี้ยงนั่นแหละ คุยกันไปชิว ๆ เดี๋ยวเคี้ยงจะค่อย ๆ ชิ่งกลับบ้านก่อนเอง แบบนี้โอเคมั้ย?”
“นางฟ้าของผม ขอโทษที่สบประมาทคุณนะเคี้ยง คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ”
งั้นเหรอ
นี่คุณชมฉันใช่ไหม.....ฉันมันก็เก่งแต่ไอ้เรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระแบบนี้
หน้าเงิน....ไร้หัวใจ.....รักใครไม่เป็น
สมควรแล้วที่จะอยู่คนเดียว
.
.
.
.
.
.
“คุณไม่ช่วยยิงเลย....ปล่อยเคี้ยงยิงอยู่คนเดียว แล้วนั่นจะยิงไปไหนนั่น”
เชื่อไหม ว่าผู้ชายทุกคนนั้น มีความเป็นเด็กน้อยเบบี๋อยู่ในตัว
หลังจากหมดเงิน(ของหัวหน้า)....ไปหลายพันให้กับสกินแคร์ตัวที่คัดแล้วว่าเจ๋งจริง เราก็พักเหนื่อยกันที่หน้าตู้เกมส์ยิงซอมบี้แบบหยอดเหรียญ
ตลกเนอะ
คนที่เดินผ่านไปมาคงตลกพวกเรา....อีกคนหนึ่งก็ช่างหล่อเหลือ คนมีมาดแบบนี้มาทำอะไรกับกะเทยหน้าคุณป้า มายืนยืนถล่มฝูงซอมบี้แบบนี้ ฉันชักจะอายแทนคุณประวิทย์ ฉันเข้าใจผู้ชายนะ ว่าการที่ต้องมาเดินกับตัวประหลาดอย่างฉันน่ะ มันน่าขายน่าแค่ไหน ถ้าไม่มีเรื่องของเด็กคนนั้นเข้ามาเกี่ยว….
เราสองคนจะได้มาเที่ยวกันแบบนี้มั้ย
ไม่เห็นต้องถาม มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน“ทำหน้ายุ่งเชียว เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“คุณนี่ดู ๆ ไปก็น่ารักดีนะ เอาน่า เดี๋ยวน้องผีเฮี้ยนก็จะสวยแล้ว”
“ถ้าฉันช่วยให้คุณสมหวังได้ ฉันไถเงินคุณไปทำจมูกดีกว่า”
“โด่งแล้วน่า”
“โด่งกลับในน่ะสิ.....”
“ไปดูหนังกันเถอะเคี้ยง”
“เห?”
เห?.....อ่าเด๊ะ?
หัวหน้าชวนฉันไปดูหนัง ไม่จริงใช่มั้ย.....
บ้าเอ๊ย....หวั่นไหวสุด ๆ อ่ะ หัวหน้ายิ้มแบบนี้ มันโดนใจ....มันใช่เลยอ่ะ.....
“ค่ะ”
ฉันว่าฉันตอบแกเสียเสียงดังฟังชัดซะไม่มีอ่ะ
.................................................
To be con
นาน ๆ โผล่ที คนอ่านลืมไปหรือยังเนี่ย