✈️ จาก New York สู่ Khonkaen [25 ตอนจบ] (ตอน 21.04: ความเข้มแข็ง) [จบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✈️ จาก New York สู่ Khonkaen [25 ตอนจบ] (ตอน 21.04: ความเข้มแข็ง) [จบ]  (อ่าน 27080 ครั้ง)

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
โถ...อาเฟ่ย555+น่ารักจริงๆเลยครอบครัวนี้

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :กอด1: :L2: :L1: :pig4:

ชอบความผูกพันแบบนี้ อบอุ่น ยาวนาน

ออฟไลน์ Chanik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องนี้น่าร้าาาก :mew1: :mew1: ชอบมากๆเลย ไม่หน่วง และตัวละครค่อนข้างมีเหตุผล เนื้อเรื่องถูกจริตเราสุดๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เด็กๆกับแดดดี้สอง พ่อกิต น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pinkii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z3: ลูกกก ป้าจิ้นหนูกับอเล็กกกกกซ์

ขอบคุณนะคะ ชอบๆเรื่องนี้ :katai2-1: วันวาเลนไทน์ไม่ได้แค่วันแห่งความรักของคนหนุ่มสาว
ชอบตรงที่บอกว่า ในนั้นเขียนบอกว่า..พวกเขารักผมมากเพียงใด..

ซึ้งง่ะ   :o12:  ครอบครัวรักหนูมากนะลูก เป็นเด็กดีนะครับ :L1: :L1:

ออฟไลน์ ohuii

  • Why I cannot upload profile picture?
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-4
หนุ่มน้อยกับวาเลนไทน์ เจ้าเฟ่ยน่าร๊าก

ออฟไลน์ Anynomous

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0


ตอนที่ 21.03 : ฟองสบู่

บรรยากาศในร้านกาแฟแบบ Out-door ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ..

มันสวยขนาดนี้เลยเหรอนี่..

ที่ญี่ปุ่นมีธรรมชาติที่สวยงาม แม้ผมจะไม่เคยดื่มด่ำกับมันมากนัก
อาจเพราะเเต่ไหนแต่ไรมาไม่ได้มีเวลาสังเกต..

ภาพของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวมอง กับคนที่อยู่ที่นี้จริงๆนั้นแตกต่างกัน..

ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศสบายๆสวยงาม เดินไปไหนก็จะเห็นแต่ต้นซากุระ ขนมอร่อยๆ
เพื่อนบ้านมีมิตรไมตรีต่อกัน..

สังคมที่นี้เคร่งครัด มีระเบียบวินัย และรักษากฎเสมอ
สังคมมีกฎของมัน ..อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป


"แล้วพอคุณขวัญ เลขาของผมเห็นผมเอาแต่ดูไลฟ์ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นก็บ่นผมใหญ่เลย.."

ร่างสูงยิ้มกว้างก่อนจะบ่นพึมพำว่า 'บ้าชะมัด' ผมหัวเราะเบาๆ

"คุณต้องแบ่งเวลาสิ โจเซฟ ..ผมยังไม่เคยไลฟ์หน้าคุณให้นักศึกษาดูเลยนะ"

ผมพูดก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่ม พลางมองเขา ..ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราคุยกันได้สนิทใจแบบนี้

..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน..

จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนเปิดเผย ไอ้เรื่องจะรับใครเข้ามาในชีวิตนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของผม
และคนที่เข้ามาในชีวิตของผมส่วนใหญ่ก็เพราะมีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องต่อกันเท่านั้น..

ผมรอบคอบ เจ้าวางแผน เเละเคร่งครัดต่อตัวเองอยู่เสมอ..
แตกต่างจากคนตรงหน้าลิบลับ..

"เฮ้อ.."
โจเซฟเหยียดเเขนออกวางบนโต๊ะก่อนจะเอาคางเกยเเขนตัวเองไว้

"ก็ผมคิดถึงคุณนี่"

ผมเงียบ มองเขา ก่อนจะละสายตาออก..

"ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้"

"ก็มันจริง..นี่ คุณไม่สนใจไปทำงานให้บริษัทระดับโลกหรืออะไรทำนองนั้นมั่งเหรอ.."
โจเซฟเงยหน้ามองผม ผมส่ายหัว

"ทำไมอ่ะ..ความสามารถอย่างคุณนี่ไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะนะ"

ผมเลิกคิ้ว มองเขา

"คุณคิดงั้นเหรอ"

"แน่นอน..ผมชอบคุณนะ "

ผมเงียบอีกครั้ง..อาจเป็นเพราะเขาถูกเลี้ยงมาโดยมีตัวเองเป็นศูนย์กลาง..คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ
อยากจะพูดอะไรก็พูด..

เขาไม่จำเป็นต้องสนว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร..

ตัวเขาเองอาจจะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดตัวเองจริงๆด้วยซ้ำ..

ผมไม่ควรเก็บคำพูดของเขามาคิดจริงจังสินะ...

และอาจเพราะว่าผมเป็นคนเงียบๆ การสนทนาส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องของเขา

โจเซฟมักจะมีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ
และเขาก็ดูมีความสุขในการได้คุยกับผม..

เอาวะ..ยังไงงานของผมก็มักเป็นงานที่ปรึกษาอยู่แล้ว..
จะรับปรึกษาไอ้คุณชายฝรั่งสักคนจะเป็นไรไป..

"คุณเปรม.."

ผมพูดขึ้น

"หมอเปรมอะนะ?"

"อื้ม ที่คุณจะทำโครงการร่วมกับเขา..เริ่มปีหน้าใช่ไหม"

โจเซฟพยักหน้า..ผมเคาะนิ้วคำนวนบางอย่างในใจ..

"คุณอย่าลืมนะว่าปีหน้าจะเป็นปีแรกที่บังคับใช้พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง..คุณเปรมเป็นเจ้าของที่ ส่วนคุณลงทุนในส่วนอสังหา ผมเข้าใจว่าในสัญญาร่างคงแบ่งสัดส่วนหุ้นกันชัดเจนอยู่แล้ว..แต่อย่าลืมว่าระหว่างที่ทยอยสร้าง ที่ดินเปล่าๆภาษีจะเพิ่มขึ้นทุกปี"

"เพิ่มขึ้นทุกปีงั้นเหรอ?"

ผมพยักหน้า

"กฎหมายฉบับใหม่กันพวกกว้านซื้อที่ดินเปล่าๆเอาไว้เยอะๆและเก็บนานๆน่ะ..แต่ผมคำนวนเเล้วไม่น่าเกิน 3% ..คุณกับคุณเปรมจะเก็บส่วนที่ดินเปล่าไว้เกิน 7 ปีไหมล่ะ.."

"ยังไม่แน่ใจหรอก..บางโครงการมันก็ต้องใช้เวลา.. 3 %...เยอะชะมัด!"


"เอาเป็นว่า..คุณต้องคุยกับคุณเปรมดีๆ ระบุไปในสัญญาด้วยว่าภาษีที่ดินเปล่า ต้องเป็นส่วนของเขาที่ออก เพราะที่ดินเปล่าเป็นของเขา..หรือคุณอยากจะรับภาระด้วยก็ตามใจ"

ผมมองเขายิ้มๆ เขาใช้มือจับแก้วกาเเฟผมก่อนจะทำหน้ายู่

"เพดานของไอ้กฎหมายนี้มันกี่ % อ่ะ"

"5"

"งั้นที่ดินเปล่าผมตั้งเยอะอยู่ต่างจังหวัด..กะว่าจะทำพวกอสังหาตึกแถว..ผมควรทำไงดี..นี้มันบีบบังคับคนรวยชัดๆ"

โจเซฟร้องโอดโอยก่อนจะหมุนแก้วกาเเฟผม ผมดีดมือเขาดังเพี้ยะ..

"คุณคิดว่ากฎหมายทำอะไรพวกคุณได้จริงๆเหรอ..ติ๊งต๊องน่า.."

"แล้วผมต้องทำไง?"

ผมยิ้มหวานให้เขา

"รู้ไหม ..ค่าปรึกษาของผมชั่วโมงละเท่าไหร่"

ผมพูดก่อนจะยิ้ม เขายิ่งร้องโอดโอยเข้าไปอีก...คราวนี้ผมหัวเราะ..

และอยู่ๆเขาก็มองหน้าผม ..นิ่ง

"มีอะไร?.."

"คุณ..หัวเราะเหรอ"

เอ..นี้มันคิดว่าผมเป็นตัวอะไรเรอะ?
ผมหัวเราะมันผิดตรงไหน??

"คุณสนใจมาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ผมไหม"
ร่างสูงตรงหน้าถามก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างคาสโนว่า..

ไม่อยากยอมรับ..แต่ไอ้หมอนี่มันหล่อจังวะ..

ผมมองเขากลับอย่างดุๆ

"ผมมีงานทำมากมาย!..ไม่มีเวลาว่างมาตามติดคุณหรอก"

..หรือเวลาว่างให้คุณมาตามติดกันแน่นะ?..ดูจากการที่เขาชักจะตามติดผมไปทุกแห่งอย่างนี้..

คิดแล้วมันคุ้นๆ..ลางสังหรณ์ผมก็ร้องเตือนแปลกๆ..
พ่อเทพบุตรนี่เคยทำให้ชีวิตตอนม.ต้นของผมเกือบย่อยยับมาแล้ว..

แล้วชีวิตของผมตอนนี้ล่ะ..?!

เขาเริ่มขยับตัวมาใกล้ผมเรื่อยๆ..
ตั้งเเต่วันที่ผม'บังเอิญ'ไปกินเหล้าในโรงแรมของเขา

เรื่อยมาจนถึงวันนี้...

จนถึงญี่ปุ่น..

จนถึงที่นี้...


นี่จะเป็นสัญญาณของ'ความชิบหาย'บางอย่าง..หรือเปล่านะ?



หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ..(ผมยอมให้คำปรึกษาเจ้าหมอนี้ไปฟรีๆแบบที่ไม่เคยมีในเวลาปกติ!)
โจเซฟก็ชวนผมไปพักในโรงแรมของเพื่อนเขาที่อยู่เเถวมหาลัย..

"ไม่ล่ะ..ผมต้องอยู่อีกตั้ง 3 เดือน.."

ใครจะไปมีปัญญาจ่าย..โรงแรมหรูขนาดนั้น!..ประโยคหลังนี้ผมละไว้

"น่า..เดี๋ยวผมจ่ายแบบเหมาให้เลย..ถือซะว่าเป็นค่าปรึกษาเมื่อกี้..คำแนะนำคุณช่วยประหยัดเงินผมไปได้เกือบ500ล้านเลยนะ..นี้ถือว่าเล็กน้อยมาก"

มันก็จริง..แต่..ผมไม่อยากรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณใคร..
ผมไม่ชอบการติดค้าง ไม่ชอบการผูกมัด.. ไม่ชอบสัญญา..

"นะ..? นะครับ วินด์"

ผมมองหน้าเขา ..มองผู้ชายตัวใหญ่ที่เกาะเเขนผมก่อนจะก้มเอาหน้าผากมาชนเเขนผม

"เออ..ถ้าคุณว่าอย่างนั้น.."

"เป็นอันว่าตกลง!"

โจเซฟพูดก่อนจะกระดี๊กระด๊ากดโทรศัพท์ต่อสายให้รถจากโรงแรมมารับ..

"คุณต้องไปเก็บของที่ที่พักก่อนไหม?"

ผมพยักหน้า

"งั้นเดี๋ยวให้รถของโรงแรมพาไปที่พักก่อน..ออกนอกเส้นทางนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมกลับไปเก็บของเเล้วจะนั่งรถประจำทางไป..ผมรู้จักโรงแรมนั้นอยู่"

"มันจะลำบากคุณไหม"

ผมยักไหล่

"ถ้าคุณสั่งอย่างนั้นมันจะลำบากคนอื่น.."

อย่างที่ผมบอก..ที่ญี่ปุ่นมีกฎของเขา..คุณแค่ต้องรู้จักเคารพ
เคารพในกฎหมาย เคารพในสิทธิ..

ซึ่งจะว่าไปก็เป็นตลกร้าย

เพราะตั้งแต่ผมจบมา ได้ทำงาน

งานของผมถ้าไม่เกี่ยวกับพวกนอกกฎหมาย ..ก็มักจะเป็นงานหาช่องโหว่ของกฎหมาย..
ไม่ได้เคารพกฎหมาย หรือเคารพสิทธิของใครต่อใครอย่างที่ผมชอบอ้างเลยสักนิด..

หลังจากขอปลีกตัวออกมาจากโจเซฟสำเร็จ
ผมก็ขึ้นรถประจำทางของมหาวิทยาลัย เพื่อเดินทางไปยังที่พัก..

"ตืด..ตืด...ตืด"

เสียงโทรศัพท์เข้า ผมเหลือบตามอง เมื่อพบว่าเป็นเบอร์เลขาของนายท่าน ผมก็เกร็งเล็กน้อย...

นายท่านแค่ต้องการให้ผมไปไกลหูไกลตา เพื่อจะไม่สามารถสร้างเรื่องให้รำคาญใจเขาได้..
แต่เขาก็ไม่สามารถ'พัก'งานให้กับผมได้จริงๆ..

เพราะนอกจากผมแล้ว นายท่านไม่ได้ไว้ใจให้คนอื่นดูแลงานให้เขาเลย..

ถ้าผมเป็นนายท่านผมก็คงไม่ไว้ใจเหมือนกัน

ไม่ว่าจะพวกลิ่วล้อขี้ประจบสอพลอ
หรือแม้กระทั่งลูกชายแท้ๆ..เด็กมีปัญหาที่ถูกส่งไปให้พ้นหูพ้นตาอยู่อเมริกา..

พี่อาทิตย์..

พี่อาทิตย์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นายท่านจำเป็นต้องมีผม..
พี่อาทิตย์เป็นลูกชายแท้ๆเพียงหนึ่งเดียว

แต่พฤติกรรมและนิสัยเหลวแหลกจนแม้กระทั่งพ่อแท้ๆยังทนไม่ไหว..

ตอนที่นายท่านรับอุปการะผมมาจากบ้านเด็กกำพร้าวันแรก
ก็เป็นวันเดียวกับที่พี่อาทิตย์ถูกประกันตัวออกจากคุกเยาวชนข้อหาเสพยา..

ก่อนจะถูกส่งตัวไปเมืองนอก..

และเขาไม่เคยกลับมาอีกเลย..

ไม่เคย ไม่เลยจริงๆ

..ตอนที่ยังเด็กกว่านี้ ผมยังไม่สงสัยอะไรเท่าไหร่..
แต่เมื่อโตขึ้น ผมกลับเริ่มคิดว่า..

หรือจริงๆพี่อาทิตย์ตายไปตั้งเเต่วันนั้นแล้วนะ..?

เพราะนับแต่นั้นผมไม่เคยเห็นเขาอีกเลย..

ไม่เลยสักครั้ง..

ความคิดที่ว่า..แม้แต่ลูกแท้ๆเขายังสามารถฆ่าได้อย่างง่ายดาย
ทำให้ผมในวัย 14 ปีขนลุกเกรียว..

มันฝังใจผมมาตั้งแต่ตอนนั้น..

หากขัดใจเขา..ผมก็มีสิทธิตายได้เหมือนกัน..

"วินด์พูดครับ"

"คุณวินด์..เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ! อาบอบนวดของของเราถูกตำรวจบุกและพบการค้าประเวณี..
เจ้าของมันไม่ยอมรับผิดกะจะโยนให้เราลูกเดียว.. อีกแค่อาทิตย์เดียวจะเลือกตั้งเเล้วด้วย..
คุณท่านเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลยค่ะ..จริงๆท่านสั่งไม่ให้ดิฉันติดต่อคุณมา..แต่ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรเเล้วจริงๆ

ดิฉันไม่รู้ว่ามีใครที่ยังเชื่อใจได้เหลืออีกบ้าง.."

ปลายสายพูดเสียงค่อยลงเหมือนระเเวดระวัง..

ผมขมวดคิ้ว..ไม่มีทางที่อยู่ๆจะถูกตำรวจจับแน่..เรามีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ถ้าไม่จำเป็นพวกเขาไม่อยากชวนทะเลาะหรอก..

แต่ก็เพราะเป็นเวลานี้..เวลาที่นายท่านอ่อนแอ ผมก็อยู่ต่างประเทศ..
เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการจะลงมือทำอะไรสักอย่าง..

และคนที่รู้ก็ต้องเป็นคนวงในพอควร..
เพราะข่าวการออกนอกประเทศของผมนั้นค่อนข้างเงียบ..

"โอเคครับ..คุณศศิธร..ใจเย็นก่อน.. เจ้าของอาบอบนวดอาจจะซักทอดมาถึงเรา..แต่คำพูดของเขาไม่มีหลักฐานอะไรที่จริง ในสัญญาตอนที่ผมเขียนนั้น ไม่มีรายชื่อใคร หรืออะไร ที่จะเกี่ยวข้องกับเราเลยแม้แต่น้อย ผมมั่นใจว่าผมไม่พลาดเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนั้น.."

"ดังนั้นในชั้นศาลเรามีน้ำหนักกว่า.."

"..แต่ คุณวินด์คะ.. พวกเขามีชื่อคนที่เกี่ยวข้อง..คนที่ลงนาม"

"ใคร?"






"คุณอาทิตย์ค่ะ"



สิ้นเสียงนั้นผมตัวเย็นไปทั้งตัว..เป็นไปไม่ได้..พี่อาทิตย์..เขาไม่เคยกลับมา..เขาไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้วด้วยซ้ำ..

"...นายท่านรู้หรือยัง?"

"..นายท่านถึงได้เข้าโรงพยาบาลไงคะ..ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรเเล้ว..คุณวินด์อยู่ที่นั้นไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ..
ระวังตัวด้วยนะคะ.."

"ไม่มีปัญหาครับ..คุณศศิธรครับ..หากมีเรื่องอะไรรบกวนติดต่อผมให้เร็วที่สุดนะครับ..แล้วก็..ผมขอข้อมูลการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของนายท่านด้วยนะครับ..ส่งมาให้ผมภายในวันนี้"

ผมพูดอย่างเคร่งเครียด..ก่อนที่เลขาจะวางสายไป..

ผมกดโทรศัพท์ไปหาหัวหน้าบอดี้การ์ดส่วนตัวของผมที่อยู่ไทย



"โยฮันเนสพูดครับ หัวหน้า"

"ฉัน วินด์นะ โยฮันเนส เพิ่มกำลังคุ้มกันให้กับคุณเกรียงเป็นสองเท่า..หากมีผู้ชายที่อ้างว่าเป็นลูกชายของเขา ชื่ออาทิตย์ ปรากฎตัวขึ้น ให้'จับตาดู'เขา และรีบติดต่อฉันมาทันที เข้าใจไหม.."

ผมสั่งโยฮันเนสไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

"ครับ..หัวหน้า..ว่าแต่ หัวหน้าจะกลับเมื่อไหร่ครับ..สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเลยครับ.."

"...3 เดือน.."

"ไม่นานไปเหรอครับหัวหน้า"

"มันเป็นคำสั่งนายท่าน..ฉันต้องทำตาม..อย่าถามอะไรล้ำเส้นนัก โยฮันเนส"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น มันเป็นปกติที่ผมจะต้องย้ำเตือนสถานะของเขาอยู่เสมอ..

ต้องแยกให้ชัดเจน..ลูกน้องคือลูกน้อง หัวหน้าคือหัวหน้า
ไม่มีเพื่อน ไม่มีสนิทหรือไม่สนิท ไม่มีการล้ำเส้น

"ขอโทษครับ..แล้ว..หัวหน้าต้องการให้ผมส่งลูกน้องไปคุ้มกันไหมครับ.."

"ไม่เป็นไร..นายดูแลนายท่านให้ดีเถอะ"
ผมพูดก่อนจะกดวางสาย

แล้วถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ

...................................

"ไปสระว่ายน้ำกันวินด์~"

โจเซฟพูดก่อนจะสวมกอดผมจากด้านหลัง..
กล้ามเนื้อของเขาทำให้ผมอึดอัดเล็กน้อย

ผมทำหน้าตึงก่อนจะดันตัวเขาออกไป

พฤติกรรมถึงเนื้อต้องตัวของเขาเป็นสิ่งที่ผมเริ่มชินอีกอย่าง..
เขาเป็นคนแสดงออกชัดเจนในทุกๆเรื่อง

อาจเป็นเพราะรู้ว่าไม่มีใครจะขัดเขาได้..

"ไม่ไป..ผมเหนื่อย"

ผมตอบไปตามความจริง ช่วงนี้ผมมีเรื่องให้คิดมากมายเหลือเกิน
กอปรกับผมเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบสังสรรค์

ไอ้ครั้นจะให้ไปดื่ม เต้น ฟังเพลง ..ถ้าไม่ใช่ตอนที่เศร้าจริงๆผมไม่ทำหรอก..

"คุณก็พักผ่อนบ้างสิ..คุณแบกทุกอย่างไว้ไม่ได้หรอกนะ.."

"ไม่"

"น่า..มาเถอะ..ผมจะพาทำอะไรสนุกๆ.. คุณเคยเห็นปาร์ตี้ฟองสบู่หรือยัง เวลาเล่นแสงไฟมันจะเป็นสีรุ้งด้วยนะ
ไปดูกันเหอะะะ"

จากนั้นโจเซฟก็พูดข้อดีและความสนุกน่าประทับใจมากมายที่เขาเคยได้รับจาก 'ปาร์ตี้ฟองสบู่'

"เราสามารถอาบน้ำในปาร์ตี้ได้เหรอ?"
ผมถาม เพราะรู้สึกหลงกล..เอ๊ย .. รู้สึกสนใจในปาร์ตี้นี้ขึ้นมานิดๆ..

"แน่นอน! มันเป็นปาร์ตี้ฟองสบู่นะ คุณก็ประหยัดเวลาที่จะต้องขึ้นมาอาบน้ำ อาบในสระว่ายน้ำปาร์ตี้ไปเลย แถมมีเพื่อนช่วยอาบด้วย! คุณเคยอาบน้ำกับเพื่อนไหมล่ะ"

ผมส่ายหัว

ผมไม่เคย..อย่าว่าแต่อาบน้ำเถอะ..นอกจากสอง(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังนับผมเป็นเพื่อนไหม?) ก็มีแต่คุณนี้แหละ โจเซฟ ที่ผมเรียกได้ว่าเป็นเพื่อน..

กับคนที่มีเพื่อนน้อยอย่างผมนี้ จะไปรู้จักกิจกรรมอะไรที่เพื่อนทำกันมากมาย?!


ในที่สุดผมก็ตัดสินใจไป ปาร์ตี้ฟองสบู่

ซึ่งก็ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางอะไรมากมาย
เพราะปาร์ตี้จัดอยู่ชั้นบนของโรงเเรมนั่นเอง..

โจเซฟดึงผมก่อนจะกระโดดลงสระว่ายน้ำ

"ตู้มมมม!!"

ผมสำลักน้ำก่อนจะโผล่หน้าขึ้นมาไอ
ส่วนไอ้เจ้าคนแกล้งนั้นมุดหายไปใต้สายน้ำเสียเเล้ว!!

ไม่นานนักโจเซฟก็โผล่มาข้างหลังผม ก่อนจะเอาฟองสบู่ในสระเทใส่หัวผม

"ไอ้บ้า!"
ผมตะโกนด่าเมื่อฟองสบู่ไหลเข้าปาก

"อย่าพูดๆ.."
โจเซฟพูดก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยฟองแล้วทำเป็นหนวดบนหน้าเขา

ผมหัวเราะลั่น..

เราเล่นอะไรแบบเด็กๆกันอีกสองสามอย่าง
เป็นต้นว่า กระโดดลงสระน้ำด้วยท่าที่พิสดารที่สุด..

และเเข่งกันเอาฟองสบู่ถมตัวเองโดยให้เหลือพื้นที่น้อยที่สุด..


ผมชอบอยู่กับเขา..มันสนุก

สบายใจดีด้วย...

มันเหมือนกับปัญหาของผมไม่มีอยู่อีกต่อไป

เพราะเราเอาแต่เล่นอะไรแผลงๆ

แล้วก็แข่งกันหัวเราะ...



ชั่วโมงนั้นผมไม่ใช่ 'วินด์' แต่เป็นใครสักคน..

ใครสักคนที่เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง..

มีครอบครัว มีพ่อ มีแม่ พวกท่านเเสนดีและรักผม
มีเงินทองมากมาย
มีเพื่อนที่ดี เเละเราสามารถปาร์ตี้กันได้ทุกอาทิตย์

ผมหัวเราะให้กับเรื่องโง่ๆ ผ่อนคลายได้ในทุกอย่าง
ผมไม่ต้องแบกรับ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร..
ไม่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ..

ไม่ต้องเป็นหัวหน้า ไม่ต้องเป็นลูกน้อง..

ชั่วโมงนั้นผมเป็นใครอีกคน..

ใครอีกคน จนกระทั่งเสียงปืนดังขึ้น
และสีสันสายรุ้งของฟองสบู่เเปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด...




ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เรื่องนี้อ่านแล้วทำให้อมยิ้มตลอดเวลา ประทับใจตั้งแต่แรกอ่าน จนจบ จนตอนพิเศษ ก็ยังรู้สึกประทับใจเหมือนเดิม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Anynomous

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ตอนที่ 21.04: ความเข้มแข็ง




เมื่อเสียงปืนดังขึ้น
ผมกดโจเซฟลงไปใต้น้ำโดยอัตโนมัติ

.....

น้ำในสระค่อยๆถูกย้อมด้วยสีแดงเป็นสาย..

มันออกมาจากร่างของคนข้างๆผม..

คนธรรมดาๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่..
แค่บังเอิญมาปาร์ตี้ฟองสบู่..

และบังเอิญมายืนข้างๆผม..

ฝูงชนแตกตื่น เสียงกรีดร้อง น้ำกระเพื่อม ..และผู้คนทยอยวิ่งขึ้นจากสระ
หน่วยรักษาความปลอดภัยวิ่งเข้ามา..

ทีมกู้ชีพดึงร่างชายข้างๆผมขึ้นจากสระ

ผมผลักโจเซฟขึ้นไปบนขอบสระ ก่อนจะดันตัวเองขึ้นไป

ผมเดินนำเขาไป..

สงบเงียบ.. ใจเย็นอย่างน่าประหลาด

นี้ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ผมถูกลอบยิง..
แน่นอนว่าการทำงานสายนี้ ผมต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้ทุกประเภท..

เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้..ผมรู้ตัวดี


ใครว่าชีวิตมีทางเลือกเสมอ..

ผมไม่เคยมี


..................................


ผมยื่นผ้าเช็ดตัวให้กับโจเซฟ เขารับมันไปก่อนจะเช็ดผมตัวเองอย่างลวกๆ

ผมไม่พูดอะไร..



โชคดีของผมที่ครั้งนี้พวกมันทำงานพลาด..

หรือไม่มันก็ตั้งใจพลาดเพื่อ'ตักเตือน'




"ถามจริงๆเถอะ..วินด์..คุณทำงานอะไรกันแน่?"



ผมชายตามองเขา ก่อนจะยิ้ม

"ทนายไง..ตอนนี้เป็นผู้ช่วยอาจารย์"




"ทนายธรรมดาๆที่ไหนตกเป็นเป้ายิงกัน..วินด์"

ร่างสูงพูดก่อนจะขมวดคิ้วมองผม..

"ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่..แต่สิ่งที่คุณกำลังทำมันอันตราย..คุณยังมีอนาคตอีกไกลนะ

อย่าเอามามันมาทิ้งเพราะอะไรก็ไม่รู้นี่เลย.."


ผมมองหน้าโจเซฟ..

มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว

ไม่ว่าใคร .. ไม่ว่าใครที่เข้ามา

มาบอก มาตักเตือน บอกให้ผมทำอย่างนี้ ไม่ทำอย่างนี้

ทำเหมือนเข้าอกเข้าใจชีวิตผมดีเหลือเกิน..
ทำเหมือนคิดว่าผมมีทางเลือกมากมาย..


มันไม่มี..

มันไม่มีเลยรู้หรือเปล่า..

ผมอยากกรีดร้อง อยากลงไปนอนเป็นเด็กเล็กๆ
อยากทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เขารับรู้..

ว่าผมนั้นอ่อนแอเพียงใด

สั่นเทิ้มเพียงใด..


ได้โปรด..

ได้โปรดมองเห็น..ความหวาดกลัวนี้..ความขลาดเขลานี้..




แต่ที่ผมทำคือการยืนนิ่งๆ


"ไม่ต้องห่วง ผมดูแลตัวเองได้"




โจเซฟถอนหายใจ.. เขาเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมที่เปียกของผม..



"คุณไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งตลอดเวลาหรอกนะ.."



ผมส่ายหัว


"ผมจำเป็น"


ประสบการณ์ชั่วชีวิตของผม ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่อาจอ่อนแอได้
ไม่อาจทำได้ แม้เพียงสักวินาทีเดียว..



คืนนั้นก่อนจะนอนผมตัดสินใจโทรไปวางแผนการคุ้มกันนายท่านใหม่ทั้งหมด
เตรียมหลักฐานสู้คดีค้าประเวณี..
จัดแผนการสอนสำหรับนักศึกษา..

และคืนนั้นเมื่อหลับตา..
ใบหน้าขมุกขมัวเล็กๆก็ค่อยๆย่องเข้ามาในราตรีที่แสนยาวนาน


ผมกรีดร้อง



.................................







"วินด์ วินด์ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะโอเค"


ผมตัวสั่นเทิ้มอยู่ในอ้อมแขนของโจเซฟ..



ห้องพักของเราเป็นห้องชุดเเบบพิเศษ..
คือ มีห้องนอนสองห้องและเชื่อมหากันได้..


โจเซฟเป็นคนช่างเลือก..



"..คุณจะโอเค.."

เขากระซิบก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น



ความรู้สึกเปียกชื้นบนใบหน้ายังไม่หายไป..

แต่ความร้อนกลับขึ้นมาแทน...


ผมผลักเขาออก


"..ท..โทษที.."

ผมชินกับการตื่นมาพร้อมน้ำตาทุกครั้งที่ฝันร้าย..
แต่ผมไม่ชินกับการตื่นมา ..แล้วมีคนคอยอยู่ข้างๆ..



แม้จะเป็นเขาก็เถอะ..


น่าอายชะมัด..


ไม่อยากให้เห็นเลย..


"แค่..ฝันร้ายน่ะ"
ผมพูด พยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ


โจเซฟลุกไปกดน้ำอุ่นมาให้ผม
"คงไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นใช่ไหม.."

ผมไม่ตอบ

"คุณฝันร้ายบ่อยนะวินด์..ตอนนั้นก็เหมือนกัน"
ร่างสูงพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

"คุณมีอะไรอยากจะเล่าไหม..ผมจะฟังนะ"

โจเซฟพูดก่อนจะจ้องมองเข้ามาในดวงตาของผม
เมื่อผมมองกลับดวงตาสีเขียวมรกตนั้น..หัวใจของผมสั่นไหวแปลกๆ..


แปลก..


ความรู้สึกนี้ไม่คุ้นเคย..
ความรู้สึกของใครสักคนที่ยอมให้ผมพึ่งได้..
ใครสักคนที่จะเเบกรับมันได้..


ผมกลัว

ผมส่ายหัว

"ผมไม่เป็นอะไรเเล้ว จริงๆ.."

ผมพูดและรอบตัวเราสองคนก็ปกคลุมด้วยความเงียบ

"แล้วนี่คุณจะกลับเมื่อไหร่"

ผมถาม และเขาขมวดคิ้ว

"ทำไมอยู่ๆถามอย่างนั้น ..ผมอยู่ด้วยไม่ดีเหรอ?"

"เปล่า คิดว่าคุณคงต้องมีงาน ขลุกอยู่ที่นี้นานๆไม่มีประโยชน์อะไรหรอก"

เขายิ้มเเล้วส่ายหัวให้ผม

"...ผมดูแลงานของตัวเองได้น่า ผมเป็นห่วงคุณมากกว่า"

"ไม่ต้องห่วงผม ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร!"

ผมเผลอขึ้นเสียงใส่เขา ก่อนจะคิดได้ จึงพูดต่อด้วยเสียงที่เบาลง

"คุณกลับไปนอนเถอะ"

โจเซฟถอนหายใจ มองผมอีกครั้ง ก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์และเดินกลับห้องไป..


น่าแปลกที่หลังจากนั้นในความฝันของผมมีเพียงความมืดมิด
ราตรีที่เงียบสงัด โดดเดี่ยว และยาวนาน

.................................



"หัวหน้าครับ...คุณอาทิตย์ติดต่อขอเข้าพบนายท่านอย่างที่หัวหน้าบอกไว้เลยครับ..
ให้ผมทำอย่างไรดีครับ?"

โยฮันเนสรายงานเสียงมาตามสาย ..ผมขมวดคิ้ว ไม่อยากจะเชื่อ..

"ปฏิเสธไป บอกว่าตอนนี้นายท่านป่วยหนักมาก ห้ามใครเข้าพบจนกว่าอาการจะดีขึ้น"

"..แล้วเมื่อไหร่อาการจะดีขึ้นล่ะครับ.."



"เมื่อฉันกลับไป"


หลังจากนั้นทั้งอาทิตย์ผมต้องทำงานถึงสามอย่างพร้อมๆกัน

เป็นอาจารย์ผู้ช่วย... เป็นไกด์ .. เป็น'หัวหน้า'..

ผมยอมรับว่าอย่างที่สองทำให้ผมค่อนข้างปวดประสาทอยู่บ้าง
แต่เมื่อเทียบกับงานอื่นๆแล้ว มันเหมือนเป็นการพักผ่อนเสียมากกว่า

อย่างเช่นตอนนี้


"หืมม รูปปั้นเยอะดีนะ.. ผมแปลกใจที่มหาลัยนี้สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่เป็นเเบบตะวันตกเก่า..อาคารเรียนเอย รูปปั้นเอย"

"ที่นี้เมื่อก่อนก่อตั้งในยุคที่ชาวตะวันตกเริ่มเเพร่หลายเข้ามาน่ะ.. เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แรกๆ สาขาเรียนที่โดดเด่นก็คือนิติศาสตร์นี่แหละ.."
ผมพูดอย่างภูมิใจนิดๆ

"แล้วคุณก็ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองจากที่นี้ ..โอ้มายก็อด โคตรจะเทพ"
เขามองหน้าผมอึ้งๆ ก่อนจะทำท่าบูชาจนผมหัวเราะ

"เว่อตลอด"

"จริงง..เออเเล้วผมก็ชอบพวกต้นซากุระต้นแปะก๊วยพวกนี้ด้วย ดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่น พอรวมๆกับสถาปัตยกรรมโบราณตะวันตกหน่อยๆก็เข้ากันดีนะ.."

ผมปล่อยให้ร่างสูงตรงหน้าเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรั้วมหาวิทยาลัย
ในขณะที่ตนเองก็ลอบสังเกตเขาไปด้วย..


สบายใจ..


ก็ทั้งชีวิตคงไม่เคยเจออะไรลำบาก


ก็คนที่อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ..




"ดีใจจังนะ ได้มาเที่ยวกับคุณเนี่ย.."



"พูดเหมือนไม่เคยมาญี่ปุ่น"

ผมพูดก่อนจะชายตามองเขา..


"เคยมามันก็ส่วนหนึ่ง..แต่ ไม่รู้สิ.. ตอนเด็กๆผมอยากไปที่ไหนก็ได้ไปเลยน่ะ.. แต่ก็แค่นั้น.. ไม่มีใครพาเที่ยวแบบนี้"

ร่างสูงพูดก่อนจะยิ้มๆให้ผม..ทำไมอยู่ๆก็หมั่นไส้ไม่ค่อยลงไม่รู้..


"คุณอาจจะคิดว่าผมเนี้ย คนรวย เกิดมาอยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง"

ดวงตาสีเขียวมรกตมองตรงมาที่ผมก่อนจะพูดว่า


"คุณคิดถูกแล้วแหละ"

ผมเผลอใช้ฝ่ามือตีหน้าอกเขาไปดังเพี๊ยะ! เขาหัวเราะลั่น ก่อนที่ผมจะหัวเราะตามไปด้วย..


"อยู่กับผม ผมไม่ให้นะ.. อยากได้อะไรก็จะไม่ให้สักอย่าง"

ผมพูดกวนเขาไป และเขายิ้มกว้าง


"ดี ผมชอบ"



ผมนิ่งไปสักครู่ก่อนจะพูดเบาๆว่า..ให้มันจริงเถอะ



"เอ้อแต่ที่ผมอยากจะพูดตอนแรกคือ ผมก็มีปัญหาของผมเหมือนกัน คือเกิดมาแล้วไม่มีใครรักน่ะ.. ครอบครัวผมภายนอกก็ดูสมบรูณ์แบบกันดี.. พ่อแม่ลูก ตระกูลร่ำรวย ประสบความสำเร็จ.. แต่เอาเข้าจริงๆผมรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด"

โจเซฟพูดด้วยท่าทีสบายๆมากกว่าคนที่มีปัญหา..นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม..


"แต่ผมจะเป็นเด็กมีปัญหาไปตลอดชีวิตไม่ได้..ตอนเด็กๆอาจใช่อยู่ อาจเอามาอ้างได้ว่าพ่อแม่รังแกฉัน.. แต่นี่ผมโตแล้ว ผมเลยต้องใช้ชีวิตต่อ จะเอาแต่ร้องงอแงเหมือนเด็กๆก็ไม่ได้"


"อย่างหนึ่งเป็นเพราะต่อให้ทำอย่างนั้นไปก็ไม่มีใครอยากปลอบใจแล้วด้วยนั่นล่ะ"

โจเซฟพูดก่อนจะทำหน้าเซ็งจนผมต้องกลั้นขำอีกครั้ง..




ความสามารถพิเศษของหมอนี่หรือไงกันนะ..


ทำให้ทุกอย่างดูสบายอกสบายใจไปได้หมดอย่างนี้..






บางทีผมน่าจะลอง..




ลองให้พื้นที่เขาอีกสักนิด..เผื่อว่า


เผื่อว่าเขาจะนำความ'สบายใจ'แบบนั้น..
แบ่งปันให้ผมได้บ้าง..




"จริงๆผมมาจากบ้านเด็กกำพร้า"


ผมพูดขึ้น และเขาหยุดฟัง



"คุณพ่อรับผมมาเลี้ยง..ท่านไม่ใจดีกับผมมากนัก แต่ผมก็ขอบคุณท่าน.."


อย่างน้อยนายท่านก็ใจดีกับผม..มากกว่า..หญิงอ้วนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า..

สถานที่ที่เหมือนนรกนั่น..



ผมเงียบไป..สักพักเขาจึงพูดว่า


"จบแล้ว?"

ผมพยักหน้า


"เอาจริงดิ?!"

ผมพยักหน้าอีก..

..ก็ผมอยากเล่าแค่นี้นี่..




"...อืมม..แล้ว..สถานเด็กกำพร้านั่นเป็นยังไง"










"แย่มาก"


ผมพูดและเขาเอียงคอ




"เหมือนในหนังโรคจิตป่าว"



"หนังโรคจิต?"



"แบบใช้เเรงงานเด็กๆ.. ให้กินอาหารน้อยๆ ทำงานหนักๆ ทุบตี ข่มขืน.."



ผมกลืนน้ำลาย..แล้วพยักหน้า..




"เฮ้ย..จริงดิ?!!"



"จริง"

ผมพูดก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น..ไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว..

และดูเหมือนโจเซฟจะเข้าใจ..




"ตอนนี้คุณก็มีทุกอย่างเเล้ว..ไม่คิดกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรที่นั่นหน่อยเหรอ"



ผมหันไปสบตาร่างสูง.. เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ..

แต่เจตนาของประโยคนั้นส่งผลต่อตัวผมมาก..




"ผมไม่..ไม่อยากกลับไป"




"เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน..เราทำงานการกุศลสร้างภาพลักษณ์กันหน่อยเป็นไง"

โจเซฟพูดก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วลากให้ผมเดินเร็วขึ้น..


ไม่รู้ทำไม..ผมสบายใจขึ้นนิดหน่อยตอนได้จับมือเขา..



"ไม่เอา"


"เอา เชื่อผมสิ..มันจะดี.. ผมว่าเวลาผ่านไปหลายปี หลายๆอย่างคงเปลี่ยนไป.. มันไม่ใช่ที่เดิมที่คุณเคยรู้จักแล้วนะ..
แถมยังมีเด็กๆอีกเยอะรอเงินสนับสนุนจากพวกเราอยู่...เฮ้อ..คนหล่อ รวย ใจบุญ รักเด็ก.. ใครจะเกิดมาได้เทพบุตรอย่างนี้ไม่มีอีกแล้วว"


"โจเซฟ"

ผมลากเสียงขอร้องเขา ดึงมือออกมาอย่างแรง..แต่ไม่สำเร็จ


สุดท้ายคนเอาแต่ใจก็ลากผมกลับโรงแรม..ก่อนจะบังคับแกมขู่เข็ญให้ผมบอกชื่อสถานสงเคราะห์นั้น..



"เดี๋ยวคุณกลับไทยเมื่อไหร่ผมจะลากคุณไปที่นั้นให้ได้"

ร่างสูงพูดอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ..ผมส่ายหัวอย่างอ่อนเพลีย..




..................................



คืนนี้โจเซฟชวนผมมาจิบไวน์ที่ชั้นล่างของโรงเเรม..


เรื่องของเรื่องคือผมเป็นพวกไม่นิยมเครื่องดื่มมึนเมา..ถ้าไม่จำเป็น..

แต่ดูเหมือนคนข้างๆจะชื่นชอบมันเป็นพิเศษ..



แถมยังหวังดีให้พนักงานรินใส่แก้วให้ผมอยู่เรื่อยๆอีกด้วย..




"ผมพอแล้วนะ..ผมไม่ค่อยได้ดื่ม"



"เอาหน่อยน่า"

ร่างสูงพูดก่อนจะชนแก้วกับผมอีกครั้ง..และเมื่อสบสายตาคู่นั้น..



เฮ้อ...ปฏิเสธไม่ได้สักที..






เวลาล่วงเลยไปเท่าไหร่ผมไม่อาจรู้ได้..

รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกตัวเบา..มีความสุข..


ปนง่วงนิดๆ..





"ผมง่วงแล้ว"

ผมพูดก่อนจะเอียงตัวซบไหล่คนข้างๆ..แล้วสักพักก็มีมือหนาๆดึงผมเข้าไปซบ..



"ผิดคนแล้ว..ฮ่าๆๆ"

ผมเหลือบตาขึ้นมองโจเซฟ..นี้ผมอยู่ในอ้อมแขนเขาอีกแล้วเหรอนี่..



..อบอุ่น..สบายใจจัง..




"เฮ้ยๆ อย่าอ้อนดิคุณณ"

ร่างสูงพูดก่อนจะใช้มือลูบหัวผมเบาๆ.. ผมซุกตัวเข้าหาเขามากยิ่งขึ้น..



"ไม่ได้อ้อน"


"เมาแล้วนะเนี่ย.."



"Nope"



"Yes, you are"

โจเซฟพูดก่อนจะประคองผมขึ้นแล้วพาผมเดิน..เพื่อที่จะกลับไปยังห้องพัก..





.................................




"ผมก็เมานะ"


ร่างสูงพูดก่อนจะวางผมลงบนเตียง ผมขมวดคิ้วมองเขา



"กอด.."



"ให้ผมกอด?"



ผมพยักหน้า และเขาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม



"กอดผม"



"ไม่เอาน่า.. คุณโตแล้วนะวินด์..อ้อนแบบนี้ถ้าผมล่วงเกินจะทำไงห้ะ.."

เขาใช้ดวงตาสีเขียวที่ดูมีเสน่ห์นั้นมองผมก่อนจะเม้มปาก..อยู่ๆผมก็น้ำตาไหลออกมา..



"ฮึก..ไม่เอาอีกแล้ว..ไม่เอา.."


ผมมองเห็นหญิงร่างอ้วนเดินเข้ามา..เธอถอดเสื้อผ้าแล้วเรียกผมกับน้องๆไปหา..




'เอาแค่เด็กผู้ชาย..'


เธอบอกก่อนจะบังคับให้น้องของผมคนหนึ่งก้มลงอยู่ข้างล่าง..

เด็กๆผู้มีใบหน้าขมุกขมัว..ใบหน้านั้นเลือนลางทว่าหยาดน้ำตากลับชัดเจนยิ่ง..






"ฮึก..ไม่เอา...ไม่.."





ผมนอนตัวสั่น..และอ้อมแขนที่กอดผมไว้..น้ำหนักเตียงที่ยวบลงไป..


กับจูบที่หนักแน่น..มึนเมา.. สัมผัสและรสชาติเป็นของไวน์..มันทำให้ผมเวียนหัว..







"เรากำลังทำอะไร.."


ร่างสูงกระซิบกับผมเบาๆ..

ผมรู้สึกโหวงในท้องน้อยเมื่อน้ำหนักตัวของเขากดทับลงมาแรงยิ่งขึ้น..


ผมร้องไห้เบาๆก่อนจะใช้สองมือโอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้..

ราวกับจะยึดมัน..






"ถือว่านี้เป็นคำปลอบโยนจากผมละกัน"

ปลายลิ้นร้อนชื้น..กลิ่นไวน์ที่ชวนเวียนหัว.. แทรกซึมเข้ามา.. ตอนแรกเริ่มที่ต้นคอ..
ลงมาที่หน้าอก..



เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกดึงออกอย่างลวกๆ..



ผมสับสน.. น้ำตาเริ่มแห้งเหือด..


ความรู้สึกร้อนวูบวาบเข้ามาแทนที่..





..ผมอาจต้องการคำปลอบโยน..





ในตอนนั้นผมไม่มีทางรู้เลยว่าค่ำคืนนี้จะเปลี่ยนแปลงพวกเราสองคน




เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

























"โจเซฟมีแฟนแล้วค่ะ...คู่หมั้น..คบกันมานานแล้วด้วย" :laugh:

ติดตามต่อไปว่า One night stand แบบผิดศีลธรรมจรรยานี้จะไปจบลงที่ใด..
และวินด์..ผู้ที่ทั้งฉลาดเฉลียวแต่บิดเบี้ยวและเปราะบางจะได้พบเจอความรักจริงๆหรือไม่..

หรือต้องหอบหัวใจบอบช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า..

ครั้งนี้ชีวิตของเขาจะมีทางเลือกไหมนะ..หรือมันจะไม่เคยมีอย่างที่เขาบอกจริงๆ..


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ(โค้ง)



--Anynomous--
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2018 01:01:18 โดย Anynomous »

ออฟไลน์ SmileCheek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชั้นไปอยู่ที่ไหนมา....ถึงเพิ่งมาเจอเรื่องนี่.... ชอบความแรดของสอง.....ชอบความตรงของกิด....5555 :pighaun: :pighaun:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ยังรออ่านตอนพิเศษเสมอ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มาอ่านใหม่ ลำลึกความสนุก ยังสนุก ยังชอบบบบ เหมือนเดิม
ไรท์ เขียนดีมากกกกกกกกกกก จริงๆ  :z3:  :sad4:  :hao5:
       :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด