Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)  (อ่าน 680286 ครั้ง)

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
55
รสชาติของความเจ็บปวด
[กาย..♥]





ผมเดินหมดแรงอ่อนล้าไปกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
 
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ผมยังยืนอยู่บนสรวงสวรรค์ แต่มานาทีนี้ เหมือนผมกำลังตกนรกทั้งเป็น
 
หัวใจผมถูกบีบแน่น เจ็บร้าวไปทั่วทั้งอก
 
‘กูนอนกับผู้หญิงไซส์ 36’

ตอนแรกก็คิดว่าพี่มันพูดแบบนั้นเพื่อปกปิดความจริงกับเพื่อน ๆ แต่สิ่งที่พี่เอกทำคือทับถมผม
 
‘กูจะแต่งงาน’

หึ นี่ซินะ คือสาเหตุที่พี่เอกไม่ตอบรับน้ำคำใด ๆ กลับมา
 
‘มื้อแรกที่เมียทำให้ ต้องกินอย่าให้เหลือ’

หึ ถึงจะอาย แต่ผมก็แอบดีใจที่พี่มันพูดแบบนั้น อย่างน้อยก็รู้ว่าคำรักของผม มันเข้าไปตรึงอยู่ในหัวใจของพี่เอกบ้าง
 
แต่ผมคิดผิด
 
พี่เอกไม่เคยรู้สึกอะไรกับผมเลย
 
ก็แค่คนคนหนึ่ง ที่ผ่านเข้ามา แล้วผ่านเลยไป และคงเป็นอีกคนที่นอนอ้าขาให้พี่แกยำเล่น แล้วเอาไปพูดสนุกปาก ไม่ต่างกับผู้หญิงคนอื่น ๆ
 
ผมหยุดเท้าตัวเองลง หลับตาลงแน่น ยิ้มสมเพชตัวเองนิดหนึ่ง เมื่อรู้ว่ามีสายน้ำอุ่น ๆ ไหลออกมาจากดวงตา
 
ผมคงร้องไห้อีกแล้ว
 
ผมหันหลังหวังก้าวไปยังอีกเส้นทาง เพื่อไปบอกอาจารย์ชาติว่าวันนี้แกคงไม่ได้งานแล้ว ก่อนหยุดนิ่งเพราะมีใครบางคนยืนอยู่ด้านหลัง ผมเงยหน้ามอง แต่ภาพตรงหน้าพร่าเลือนเอามาก ๆ จนผมมองไม่ออกว่าเป็นใคร
         
เขาใช้หลังมือเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มให้ผมเบา ๆ

ผมกะพริบตาหวังไล่หยาดน้ำบางส่วนทิ้งไป ก่อนหยาดน้ำมากมายจะไหลเข้ามาแทนที่ ผมกะพริบตาอีกครั้ง เพื่อมองคนตรงหน้าให้ชัด ๆ อีกที
 
พี่โอ๊ค…
 
เทวดาของผมนี่เอง
 
“พี่โอ๊ค”
เสียงผมทั้งเครือทั้งพร่าจนน่าสมเพช
 
หึ ร้องไห้ให้กับผู้ชายที่ไม่คิดจะเห็นค่าของตัวเอง
 
“พี่เคยเตือนมันแล้วว่าอย่าทำให้กายต้องร้องไห้อีก แต่มันก็ยังทำ” พี่โอ๊คพูดอะไรสักอย่าง ที่ทำให้ผมได้แต่มองตามตาปริบ ๆ
 
“เจ็บมากไหม” พี่มันถามต่อ
 
ถามว่าเจ็บไหม
 
เจ็บครับ เจ็บมาก ๆ
 
แต่ผมไม่ได้ตอบ ปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินลงมาเรื่อย ๆ 
 
“เป็นพี่ได้ไหมกาย”
พี่มันถามอะไรต่อ ผมมองหน้าพี่มันด้วยความแปลกใจ
 
“เลือกพี่แทนเอกได้ไหม แล้วพี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้กายต้องร้องไห้เป็นอันขาด”
 
ผมกะพริบตาไม่เข้าใจในสิ่งที่โอ๊คพูดแม้แต่น้อย
 
“พี่ชอบกายนะ”
 
ผมยืนอึ้งอยู่กับที่
 
ชอบผม...
 
พี่โอ๊คเนี่ยนะ…
 
ชอบผม
 
“พี่ชอบกาย พี่ไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พี่ตัดสินใจแล้ว ถ้าเอกมันดูแลกายไม่ดี ก็ปล่อยเขาไป กายเลือกพี่แทนได้ไหม”
พี่โอ๊คดึงมือผมไปกุมไว้
 
ผมไม่ได้ให้คำตอบพี่แก แม้จะอึ้งไปกับสิ่งที่ได้รับรู้ แต่ความเจ็บนั้นมีมากกว่า เจ็บจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับหัวใจช้ำ ๆ ดวงนี้แล้ว
 
และดวงตาผม ก็ไปปะทะกับคนคนหนึ่งเข้า เขาคนนั้นที่เป็นเจ้าของคำพูดที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวด
 
พี่เอกตามมา
 
แล้วพี่เอกจะตามมาทำไม หรือพี่เอกจะตามมาพูดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่น แล้วลากผมขึ้นเตียงเหมือนเดิม
 
พี่เอกเดินมาหยุดอยู่ใกล้ ๆ
 
“ฝากเก็บกวาดด้วยนะ ของเก่าของกู”
 
“แก!! ไอ้เอก!!!”
พี่โอ๊คหันไปง้างหมัดหวังซัดใส่หน้าพี่เอก แต่พี่เอกหลบทัน แล้วพี่แกก็หันหลังก้าวเดินจากไป
 
ผมยืนนิ่ง ราวกับโดนฟ้าผ่า
 
หึ พี่แกแค่เดินมาตอกย้ำ กลับมาพาดพิงให้ผมเจ็บช้ำ กลับมาทำให้ผมรู้สึกด้อยค่าลงไปอีก
 
ภาพวันคืนดี ๆ มันหมดไปแล้ว
 
ผมยิ้มทั้งน้ำตา คว้าจับแขนพี่โอ๊คที่กำลังจะเดินไปหาเรื่องพี่เอกต่อไว้
 
“พอเถอะพี่โอ๊ค”
 
“แต่มันพูดแบบนั้น”
 
“พอ… อย่าทำให้ผมรู้สึกสมเพชตัวเองมากไปกว่านี้เลย”
 
พี่โอ๊คหยุดขาตัวเองไว้
 
“พอแล้ว พาผมออกไปจากที่นี่ที”
ผมร้องขอ
 
ตอนนี้ผมกำลังอ่อนแอ อยากออกไปจากที่นี่ ออกไปจากจุดนี้ ไปให้ไกล ๆ
 

 
พี่โอ๊คพาผมมานั่งอยู่ริมสระ ตรงจุดที่เราเคยนั่งด้วยกันนั่นแหละ
 
“ไหวไหม”
 
ผมนั่งกอดเข่า ทอดมองผืนน้ำนิ่งสงบด้านหน้า หัวเราะออกมาเบา ๆ ไปกับคำถามที่ได้ยิน 'ไหวไหม' คำถามแบบนี้ ผมเคยถามพี่เป้มาก่อน แต่มาตอนนี้ผมกลับถูกถามซะเอง
 
ผมเข้าใจความเจ็บปวดที่พี่เป้พบเจอขึ้นมาทันที
 
พี่เป้คงเจ็บไม่น้อยไปกว่าผม เพราะความรักของพี่เป้ เป็นไปไม่ได้ และความรักของพี่เป้ มีมายาวนานมากกว่าผม
 
ผมซบหน้าลงกับเข่า เอียงคอมองผืนน้ำไร้คลื่นต่อไป
 
 
[ต่อ..40%]



 

              'ใคร.. คนที่เคยรู้ใจ รอยยิ้มที่เคยรู้จัก..
            กำลังจะหายลับไปทุกที...
            คำพูดที่ซึ้งใจ... ที่เคยว่ารักมากมาย...
            ไม่มีอีกแล้วนับจากนี้...
            แต่คนจะไปก็ต้องไป...รักเท่าไหร่แต่ฉันคงทำได้เท่านี้...
            ‘ได้แต่ยินยอมรับความเจ็บปวด...
และฉันจะอดทน... แม้แทบขาดใจ...
ไม่อาจจะวิ่งหนีความจริง... ที่มันโหดร้าย...
จะพร้อมจะยอมเข้าใจความเปลี่ยนแปลง...
จะอยู่เพื่อเรียนรู้ความเจ็บปวด...
จะฝืนเดินต่อไป แม้ไร้เรี่ยวแรง...
และคงมีที่สักวันหนึ่ง... ฉันจะเข้มแข็ง...
ถึงแม้ไม่รู้ต้องนานสักเท่าไร...'                                   
 
ผมนั่งฟังเพลงจากไอพอดตัวจิ๋วไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ผมอยู่บนรถทัวร์ฮะ กำลังจะไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าที่ต่างจังหวัด
 
แต่เหตุผลที่แท้จริง คือต้องการหลีกหนีจากใครบางคนมากกว่า ผมไม่ใช่คนเข้มแข็ง อันนี้ผมรู้ดี เที่ยวปลอบใจใครเขาไปทั่ว แต่พอถึงคราวตัวเอง กลับไม่รู้จะทำยังไงซะงั้น
 
เปล่า.. ผมไม่ได้คิดจะหลบหนีตลอดไป แต่แค่ต้องการมารักษาแผลใจให้หายดีเท่านั้น
 
หึ คำรักที่ไร้ค่า
 
การปกป้องที่ไร้ความหมาย
 
สุดท้าย ผมมันก็แค่ไอ้งั่งคนหนึ่ง ที่ไปรักคนที่ไม่สมควรจะรักเข้า
 
หลงรักพระอาทิตย์
 
แล้วสุดท้าย ก็โดนพระอาทิตย์แผดเผาลงกลางดินกลางหญ้า
 
ส่วนเรื่องมหาลัย ไม่มีปัญหาครับ ผมลาอาจารย์มาอาทิตย์หนึ่ง (โดยใช้เส้นของอาจารย์ชาติช่วย)
 
นานหน่อย
 
แต่ผมยังทำใจให้กลับไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ แม่ก็เป็นห่วง พ่อก็โทรหาตลอด แต่ผมก็ยืนยันว่ายังโอเค
 
ผมไม่อยากพูดกับพ่อ
 
พ่อเชื่อใจผม
 
แต่ผมกลับทำร้ายความเชื่อใจนั้นลงด้วยน้ำมือตัวเอง
 
ผมไม่อยากให้พ่อผิดหวังในตัวผม
 
ผมมั่นใจว่าพ่อเข้าใจ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างผมเสมอ รวมถึงไอ้เต้ยด้วย ถึงแม้มันจะยังมีเรื่องไม่สบายใจก็เถอะ แล้วไหนจะพี่เชนกับพี่โอ๊คอีก
 
แม่ยังอยู่ที่กรุงเทพ
 
แต่ดีแล้วล่ะ เพราะผมไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจกับสภาพผมในตอนนี้
 
ผมก้าวลงจากรถสองแถว เดินตรงไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และต้นหญ้าหลากหลายสายพันธุ์ ผมเอากล้องกับโน็ตบุ๊คมาด้วย ที่นี่ไม่มีเน็ต คงอัพข้อมูลอะไรไม่ได้ แต่ถ้าอยากอัพจริง ๆ ก็นั่งรถเข้าเมืองไปทำก็ได้
 
ผมเดินทอดน่องไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย มันเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ผมกลับมา แต่ผมก็ยังจำมันได้ดี
 
ถนนที่ผมเคยวิ่งเล่น…
 
ต้นไม้ที่ผมเคยปีน…
 
บึงน้ำที่ผมเคยมานั่งตกปลา…
 
ทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อหลอมมาเป็นผม
 
เขาว่าทุกคนเกิดจากดิน
 
และตอนนี้ผมกำลังจะกลับสู่ดินอีกครั้ง
 
ผมก้มหยิบก้อนหินก้อนหนึ่งเอาไว้ในมือ แอบนึกถึงเพลงของพี่โรส สิรินทิพย์ตอนนั่งรถทัวร์
 
เพลงก้อนหินก้อนนั้น
 
ถ้าเรากำก้อนหินเอาไว้ในมือ เราก็จะเจ็บมือ แต่ถ้าเราไม่กำ เราก็จะไม่เจ็บ ผมลองกำดู กำแน่นจนเจ็บมือไปหมด แล้วคลายปล่อย
 
ผมเพิ่งรู้นะฮะ ว่ามันเจ็บตอนกำ และกว่าจะหายเจ็บ ก็ใช้เวลานานทีเดียว
 
หัวใจผมก็คงจะเหมือนกัน ยิ่งผมรักพี่เอกมากเท่าไหร่ เวลาที่ผมต้องใช้ในการรักษาเยียวยาหัวใจตัวเองคงมากขึ้นเท่านั้น
 
ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นพระอาทิตย์กำลังส่องแสงเจิดจ้า ราวกับคนกำลังเกรี้ยวกราด
 
นิสัยเหมือนพี่เอกเปี๊ยบ เดี๋ยวร้อนแรง เดี๋ยวอบอุ่น เดี๋ยวอ่อนแสง
 
บางทีผมอาจเป็นพระจันทร์ ที่อยู่บนผืนฟ้าเดียวกันกับพระอาทิตย์ อยู่จุดเดียวกัน แต่ไม่อาจมาบรรจบกันได้
 
เป็นเพศเดียวกัน มีอะไรกันได้
 
แต่ไม่อาจใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันได้อย่างคนปกติทั่วไป
 
มีลูกให้ก็ไม่ได้
 
เอาออกสังคมก็ไม่ได้.
 
ทำให้คนยอมรับก็ไม่ได้
 
ผมยิ้มให้พระอาทิตย์พิโรธ ก่อนก้มมองตรงหน้าอีกที
             
“พี่กาย!!!!!”
มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักวัยสี่ขวบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา ผมรีบวางของไว้ที่พื้นย่อตัวลงไปอ้าแขนรับทันที
 
“เป็นไงบ้าง สาวน้อย”
ผมก้มหอมแก้มนุ่ม ๆ ที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นแป้งเด็กโคโดโมะซ้ายทีขวาที สาวน้อยหัวเราะคิกคัก คงจั๊กจี้
 
“คิดถึงพี่กายที่สุดเลย”
แล้วเด็กน้อยก็หอมแก้มผมคืนบ้าง
 
“โอ้ ในที่สุด พ่อหนุ่มเมืองกรุงก็มาถึงจนได้”
 
ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียงใส ๆ ของอาพิม น้องสาวของพ่อ แม่ของไอ้ตัวเล็กที่ผมกอดอยู่
 
“อาพิม”
ผมลุกขึ้นมาหวัดดีและกอดแกไว้เบา ๆ
 
“แหม หลานอาหล่อขึ้นทุกวันเลยนะ”
 
“อานี่ตาถึงแฮะ” ผมแซวยิ้ม ๆ
 
“คิดถึงกายจัง”
 
“คิดถึงอาเหมือนกัน เที่ยวนี้มาแบบไม่มีของฝากนะฮะ”
 
“โอ๊ยแค่เอาตัวมาให้เห็นหน้าก็ดีถมถืดแล้ว ของฝ่งของฝากไม่จำเป็นหรอก”
 
ผมยิ้มรับ ไอ้ตัวเล็กด้านล่างกอดขาผมหมับ ผมก้มมอง อาพิมหัวเราะหึ ๆ พยักหน้ามาทางลูกสาวตัวเอง เจ้าตัวยุ่งคงอยากให้ผมอุ้ม 

ผมยิ้ม ก้มลงไปช้อนอุ้มน้องสาวตัวน้อยมาไว้ในอ้อมแขน สาวน้อยยิ้มจนเต็มหน้า แก้มขาวอมชมพูดูแดงหน่อย ๆ จากความร้อนของพระอาทิตย์ 
 
“ป่ะ เข้าบ้านกันก่อนดีกว่า แดดร้อนจนแสบผิวไปหมดแล้ว”
 
ผมพยักหน้านิด ๆ เงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์อีกที
 
หึ ขนาดหนีมาตั้งไกล ยังไม่พ้นถูกแสงของพระอาทิตย์ทำร้ายอีกนะ สงสัยต้องไปหาซื้อครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ มาไว้ใช้ซะแล้ว
 
 
 
“หวัดดีครับย่า ลุงพงษ์”
ผมวางเจ้าตัวยุ่งไว้ที่พื้น ยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่สองคนที่ยืนคอยอยู่หน้าบ้าน คนแรกเป็นหญิงสูงวัยผู้ให้กำเนิดพ่อผมมา ส่วนอีกคนเป็นพี่ชายพ่อผมเองครับ หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมาก แต่แกดูคล้ำกว่านิดหนึ่งและแต่งตัวแนวบ้าน ๆ มากกว่า คงเพราะอยู่ต่างจังหวัด ตากแดดตากลมนาน ๆ ไม่เจ้าสำอางเหมือนพ่อผม
 
ผมเดินเข้าไปสวมกอดย่าเบา ๆ ท่านกอดตอบ ลูบหัวลูบแขนผมใหญ่
 
“แหม หลานย่าหล่อจัง”
 
“อยู่แล้วครับ เชื้อปู่ดี”
ผมยักคิ้วให้คนสูงวัยที่เพิ่งเดินออกมาจากตัวบ้าน ผมยกมือไหว้ ท่านเดินเข้ามาใกล้แล้วลูบหัวผมเบา ๆ เหมือนกัน แล้วทุกคนก็พากันสอบถามสารทุกข์สุกดิบ พื้นเพชีวิตเมืองกรุงทั่วไป ผมก็ตอบไปตามจริงบ้าง กวนประสาทกลับบ้างตามประสา
 
ผมยิ้ม ผมหัวเราะ พยายามผ่อนคลายอะไรหลาย ๆ อย่างออกไป ผมกวาดมองทุกคนอีกครั้ง ทั้งปู่ทั้งย่า ทั้งลุงทั้งอาและน้องสาวตัวน้อย ผู้คนที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
 
ผมว่า ถ้าผมอยู่ที่นี่ กับผู้คนเหล่านี้ พวกเขาคงจะช่วยให้ผมรักษาแผลใจได้เร็วขึ้นแน่ ๆ
 
 
ผมอยู่พูดคุยกับทุกคนจนดึก คนแก่เริ่มง่วงหงาว ผมเลยขอตัวไปอาบน้ำ ปล่อยให้คนแก่ได้พักผ่อน หลังจากนั้นก็คว้ากล้องกับข้าวของบางอย่าง เดินออกไปยังลานกว้างหน้าบ้าน เพื่อดูดาว

ผมหยิบกล้องออกมาเซต หวังถ่ายภาพใบหน้าเศร้าสร้อยของตัวเอง ผมอยากเก็บทุกความรู้สึกของตัวเองไว้ อยากรู้เหมือนกัน ว่าเวลาที่ตัวเองเศร้าจะเป็นยังไง
 
ผมตั้งกล้อง มาร์กจุดด้วยสเปรย์ที่พื้น ตั้งจุดที่ผมควรจะยืนหรือนั่ง แล้วให้ตัวกล้องลั่นชัตเตอร์ด้วยตัวเอง ผมสามารถตั้งให้มันกดชัตเตอร์ทุก ๆ สิบวินาที หรืออาจมากกว่านั้นก็ได้
 
เมื่อเซตกล้องเสร็จ ผมก็มายืนมองพระจันทร์อยู่ตรงจุดที่ผมเซตไว้
 
เมื่อตอนกลางวัน ตรงจุดเดียวกัน พี่เอกเพิ่งฉายแสงอยู่ตรงจุดนั้น ผมกำจี้ที่คอ ยกมันขึ้นมากดจูบเบา ๆ
 
แม้จะเจ็บปวด แต่ผมก็ไม่คิดจะถอดสิ่งนี้ออก ผมอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ
 
ถึงพี่เอกไม่รักผม แต่ผมจะรักพี่เอกต่อไป
 
ผมมาที่นี่ เพื่อมาลบความเจ็บปวดแต่ไม่ได้มาทิ้งความรัก
 
ผ่านไปร่วมยี่สิบนาที กล้องคงหยุดทำงานไปแล้ว ผมกวาดมองไปรอบ ๆ

               ที่นี่เป็นลานกว้าง โอบล้อมลานด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีสายลมพัดเอื่อยพอให้กิ่งไม้พากันไหวเอนเบา ๆ ผมไม่ใช่คนกลัวความมืดเลยไม่มีปัญหากับภาพหลอนรอบด้าน หรือเสียงต่าง ๆ ที่พากันดังระงม แต่ถ้าเป็นไอ้เต้ย มันคงบ่นไม่หยุด ยิ่งให้มาถ่ายรูปตอนกลางคืนนี่มันยิ่งไม่เอาใหญ่ เพราะมันกลัวว่าจะถ่ายติดวิญญาณมาด้วย
 
 ผมเพิ่งรู้นะฮะว่าแถวบ้านมีเสาของทรูมาติดด้วย ใช้ 3G ได้สบาย ๆ พรุ่งนี้ผมกะจะเอาภาพที่ผมถ่ายไว้ทั้งหมดลงบอร์ดด้วย
 
ผมเก็บกล้อง มุดตัวเข้าไปในเต็นท์กันยุง มันทำจากผ้าคล้ายมุ้ง โปร่งตา เห็นข้างนอกได้ชัดเลย
 
ผมทิ้งตัวนอนหงาย หนุนหัวไว้บนแขนทั้งสองข้าง ทอดมองท้องฟ้าและหมู่ดาวนับล้านด้านบน ก่อนหยุดดวงตาเอาไว้ยังพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
 
“ผมรักพี่นะฮะ”
ผมสามารถพูดคำนี้ได้โดยไม่กระดากปาก เพราะมันมาจากหัวใจ มาจากความรู้สึกของผมจริง ๆ
 
ผมกำจี้ที่คออีกที ยกขึ้นมากดจูบเบา ๆ




 
ผมนอนมองพระจันทร์ไปเรื่อย ๆ กระทั่งความง่วงเริ่มแทรกแซง ผมถึงได้ลุกเก็บข้าวของเพื่อเข้าบ้าน
 
พอหันหลัง หัวใจผมแทบหยุดเต้น เพราะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมายืนอยู่ใกล้ ๆ ตัวขาว ๆ หน้าขาว ๆ พร้อมเส้นผมที่สยายจนเต็มแผ่นหลังและไหล่ ใส่ชุดสีขาวบาง ๆ ยาวลากพื้น
 
พอเพ่งมองให้ชัด ๆ อีกที
 
“อ้าว อาพิมนี่เอง คิดว่าโดนผีที่ไหนหลอกซะอีก”
 
ดีนะ ที่ตัวเองไม่ใช่พวกขี้กลัวจนหัวหด ไม่งั้นคงได้กรี๊ดแตก หัวตั้ง วิ่งป่าราบ หรือที่เลวร้ายไปกว่านั้น คือฉี่แตก ไม่งั้นคงน่าอายแย่
 
ผีสาวส่งค้อนให้ผมที
 
“ผีที่ไหนจะสวยขนาดนี้ยะ”
ไอ้โรคหลงตัวเองนี่เป็นกรรมพันธุ์ส่วนตัวของครอบครัวผมรึเปล่าฮึ
 
“ครับ เป็นผีที่สวยที่สุดไง”
ผมชมต่อ

อาแกทำท่าเขินใหญ่เลย น่ารักดี
 
อาเดินเข้ามาใกล้ โอบไหล่ผมไว้ แล้วเราสองคนก็พากันเดินไปตามทางเพื่อเข้าบ้าน อาแกตัวเล็กกว่าผมฮะ โอบไม่ค่อยจะถึงแต่ความพยายามแกสูง
 
“มานั่งทำมิวสิกแบบนี้ อกหักมารึไง”
 
จึก!!
 
หอกอันเบ้อเร่อทิ่มอกผมเต็ม ๆ
 
“อาพูดถูกใช่ไหมล่ะ”
 
“ผมรู้แล้วล่ะ ว่าผมฉลาดเหมือนใคร”
ผมชมยิ้ม ๆ กลบเกลื่อนความเจ็บจี๊ด ๆ ในหัวใจตอนนี้
 
อาแกยิ้ม
 
“ไม่เป็นไรนะหลานรัก รักให้เป็น ทุกข์ให้เป็น เราจะได้รู้ค่าของมันทีหลัง”
 
ผมจ้องตาแกกลับ ก่อนพยักหน้ารับ
 
“อกหักสักครั้งมันไม่ตาย~”
อาครวญเป็นเพลง ทำท่าจะร้องต่ออีก ผมรีบเบรกเอาไว้ทันที
 
“พอเถอะฮะอา สงสารจิ้งหรีดจิ้งเหลนแถวนี้บ้าง มันคงไม่อยากฟังเสียงโหยหวนของอาเท่าไหร่”
 
โป๊ก!!
ผมได้มะเหงกมาลูกใหญ่เลย
 
“ปากนะนั่น”
 
“เชื้อย่ามันแรง”
แอบนินทาผู้ใหญ่นี่เป็นนิสัยที่ไม่ดีนะฮะ แต่เรื่องปากปีจอนี่ ผมรับรองได้ว่าได้มาจากคุณย่าชัวร์ ๆ
 
“ถ้าย่าได้ยิน คงรีบวิ่งเอาไม้ตะพดมาเคาะหัวโน”
 
“ฉลาดน้า ได้พรจากไม้ตะพดย่าเนี่ย”
ผมยังแซวต่อไม่หยุด
 
พอเข้าบ้าน คิดว่าทุกคนหลับกันหมดแล้ว แต่ที่ไหนได้ อยู่กันครบเชียว ผมเลยไปนั่งล้อมวงคุยกับพวกท่านต่อ
 
ผมยิ้ม ผมหัวเราะ ผมมีความสุข
 
แผลใจของผมกำลังถูกเยียวยารักษาทีละเล็กทีละน้อยแล้ว
 
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ นั่นท่าจะจริง
 
เพราะทันทีที่ผมมั่นใจว่ารักพี่เอกปุ๊บ ความทุกข์ก็วิ่งเข้ามาแตะมือผมทันที
 
แต่ถึงยังไง ผมก็ยังเลือกที่จะรักพี่เอกอยู่ดี
 
ถึงจะไม่สมหวังก็เถอะ 
 
To be con..
รักน้องกาย ไม่รักพี่เอกแล้วตอนนี้ รักคนอ่าน
หนึ่งเม้นท์หนึ่งกำลังใจค่ะ ^^
#kisslove #เอกกาย

ฝากอ่าน>>http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47105
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2016 17:06:20 โดย memew »

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :m16: :m31: ทำน้องกายของฉันทำไมไอ่พี่เอกแกนะแก ตอนจบเปลี่ยนพระเอกค่าาาาา ทนไม่ได้ทำน้องกายสุดน่ารักของเจ้ต้องร่ำไห้ ตบพี่เอกมันไปเลยเปลี่ยนค่ะเปลี่ยนนนนนนน
 :z6:

ออฟไลน์ live_evil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อย่าหายไปนานเลยน้า
มาต่อไวๆเถอะ อยากอ่านมากกกก

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2

ออฟไลน์ zenesty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ๊าากกกกกกกก.  ค้าง! อย่างแรง  รอๆๆๆ   :katai1: :katai1: :katai1:
 รอมาใกล้จะเดือนก้อยังรอ รอต่อไป เคืองอีพี่เอก หึงไม่ดูไรเล้ยยยยยย:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 23:18:47 โดย zenesty »

ออฟไลน์ live_evil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาอัพต่อเถอะนะคะ รออ่านอยู่ อย่าหายไปนาน 55+
ไม่อยากเข้าไปอ่านในเด็กดี เพราะมันตัดบางฉาก
เลยมารออ่านเต็มๆในเว็บนี้  :hao5:

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยยยยยยมาต่อเร็วๆน้าาาาาาาาาาเค้าไม่ถนัดไปอีกที่ อยากเฝ้าที่นี่ที่เดียวอะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ขอ  :z6: ไอ้พี่เอกทีเถอะ

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อแล้ววววววววมาบ่อยๆยิ่งดี มาต่อทุกวันเราก็จะมาเฝ้าทุกวัน เพื่อรอกาย :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฉันรอเธอมานานแสนนาน สาธุให้กายรักอิฐจบ เย้
คิดถึงกายยยยยยยยยยยยย  :hao5: นานมากเลยกว่าจะมาที่รักอย่าทรมานฉันอีกเลย อัพทุกอาทิตย์เถอะนะ  :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ live_evil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อไวๆนะคะ รออ่านอยู่  :katai5:

ออฟไลน์ uglydutchy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอๆ มาต่อเร็วๆนะคะ
อ่านรวดเดียวเลย ชอบมากกกกก :mew1:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
น้องกายยยย สู้ๆน้าาาา เกลียดอิพี่เอกมากก ไม่หนักแน่นเลย

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนเข้าใจไม่ขึ้น ไม่มีให้อ่านนนนนนนนนนฮื้ออออออออยากอ่าน

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :z13:
ไหนๆตอนเข้าใจจจจ

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
ตอนที่ 56 : เข้าใจ [เอก...☼]


 
ผมนั่งทำงานแบบฟาดหัวฟาดหางมาได้มาหลายวันแล้ว พวกเพื่อน ๆ แทบจะเข้าใกล้กันไม่ได้ ทุกคนพากันตระหนกตกใจกันหมด
 
ยกเว้นไอ้โอ๊ค
 
ผมไม่รู้ว่ามันเอากายไปกกไว้ที่ไหน ผมไม่เห็นมันมาหลายวันแล้ว แต่ผมไม่ได้ถามใคร ว่ามันหายหัวไปไหน
 
ผมขับรถไปที่บ้าน ก็เห็นบ้านมันล็อกอยู่ แม่คงไปเชียงใหม่
 
แล้วไอ้ตัวเล็กล่ะ
 
หรือมันไปค้างบ้านผู้ชายคนอื่น
 
ผมไม่ได้อาลัยอาวรณ์ แต่อยากตามไปเหยียบมันให้มากขึ้นแค่นั้นเอง
 
แต่มันไปไหน?
 
ผมกับไอ้โอ๊คแทบจะมองหน้ากันไม่ติด มันไม่พูดอะไรเกี่ยวกับกายเลย ผมก็เฉย ๆ ถ้ามันคิดจะหักหลังเพื่อนแบบผมได้ ผมก็ไม่คิดจะรับมันไว้เป็นเพื่อนเหมือนกัน (นอกจากมันจะสำนึกผิดน่ะนะ)
 
ดูไอ้เป้มันก็เฉย ๆ และที่สำคัญไปกว่านั้น มันกับไอ้เต้ยยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม สายตามันยังมองไอ้เต้ยแบบเดิม จนผมชักไม่แน่ใจเรื่องมันกับกาย
 
แล้วภาพที่ผมเห็นวันนั้นล่ะ คืออะไร
 
ภาพมันกับกายที่โอบกอดกันไว้
 
ผมหงุดหงิดฟาดหัวฟาดหางให้กับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และที่มหาลัย
 
“ไอ้หมาเอก ยังไม่ถึงเดือนสิบสอง มึงเป็นบ้าอะไร” ไอ้อ้อยมันคงทนไม่ได้
 
“เปล่า”
 
“มึงนี่หัดมีสติซะบ้างสิ ถ้าอดอยากมากนัก ก็หาที่ระบายซะบ้าง” ไอ้มอมันแนะนำตามสไตล์มัน
 
“ว่าแต่ หนึ่งในกิ๊กมึงอ่ะ ไอ้กายมันหายไปไหน ไม่เห็นมันมาหลายวันแล้วนะ ปกติเห็นโผล่มาแทบทุกวัน” มันถาม
 
ผมหน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม
 
“มึงไม่ต้องมาเรียกชื่อนั้นให้กูได้ยิน”
 
ไอ้มอมันหันมามอง
 
“นี่ตกลง ที่มึงมานั่งฟาดหัวฟาดหางแบบนี้ เพราะเรื่องของไอ้กายมันใช่ไหมเนี่ย”
 
“เปล่า”
 
“กูว่าร้อยเปอร์เซ็นต์เลย แม่ม.. มึงนี่ แล้วนี่ไอ้กายมันหายไปไหน”
 
“กูไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับกู”
 
“ไม่เกี่ยว.. แต่แค่ตัวเชื่อมติดกัน มึง ก่อนที่มึงจะโดนพวกกูยำตีน รีบไปเคลียร์กับมันให้เรียบร้อยดีกว่า”
 
“ทำไมต้องเคลียร์ กูกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
 
คราวนี้ ทุกคนหันมามองหน้าผมกันหมด
 
“ก็แค่คู่นอนชั่วคราว และตอนนี้กูก็เบื่อแล้วด้วย”
 
ตึง!!!!
 
ผมเงยหน้ามอง ตอนแรกคิดว่าเป็นไอ้โอ๊ค แต่ที่ไหนได้...
 
เป็นไอ้เป้
 
มันถีบเก้าอี้ว่างตรงหน้ามันเสียงดัง เดินลิ่ว ๆ เข้ามาหา แล้วง้างหมัดซัดใส่ปากผมเต็มแรง ผมหน้าหันไปตามแรงหมัดก่อนค่อย ๆ หันกลับมามอง ทุกคนอ้าปากตาค้างไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น
 
“เอ้ย!! มึงทำอะไรวะเป้!!” ไอ้มอที่ได้สติก่อนรีบท้วงขึ้น
 
“หึ จะทำอะไร ก็ปกป้องเมียมันไง!!” ผมตะคอกตอบแทน “ได้กันกี่ครั้งแล้วล่ะ ถึงได้ลุกขึ้นมาปกป้องกันขนาดนี้”
             ต่อมหงุดหงิดผมถูกรบกวนอย่างหนัก ทำให้พูดอะไรออกไปโดยไม่ยั้งคิด จริงไม่จริงไม่รู้ ขอพาลไว้ก่อน
 
“กูผิดหวังในตัวมึงมากเลยนะเอก ถึงมึงไม่คิดจะจริงจัง แต่กูก็คิดว่ามึงจะให้เกียรติน้องกูบ้าง มึงทำแบบนี้ก็ไม่ต่างกับตัวเหี้ยดี ๆ นี่เอง น้องกูก็อุตส่าห์รักอุตส่าห์ชอบมึง แต่มึงกลับเอาความรักของน้องเขามาขยี้ขยำเล่น”
 
“มึงไม่ต้องมาพูดดี มึงก็เป็นไอ้ตัวเหี้ย ที่อยากเอาน้องมาเป็นเมียเหมือนกัน!!”
 
ทุกคนพากันเงียบกริบ
 
ดวงตามันวาวโรจน์ขึ้น ก่อนนิ่งสงบลง
 
“ใช่ กูยอมรับ กูอยากเอาน้องตัวเองมาเป็นเมีย เพราะกูรักมัน แต่ความเป็นคนของกูก็ยังอยู่ ยังทำให้กูรู้จักยับยั้งชั่งใจ พยายามตัดใจจากมัน แต่คนอย่างมึง กลับเอาคนดี ๆ มาเป็นเครื่องระบายอารมณ์ พอหมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้ง”
 
มันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก
 
“กายเคยแนะนำกูไว้ครั้งหนึ่ง ว่าทำไมกูไม่ลองหาใครสักคนที่ทำให้กูรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ข้าง ๆ กูก็บอกไปว่า กูไม่อยากเอาหัวใจใครมาเป็นเครื่องมือ แต่ถ้าถามว่ากูอยู่กับใครแล้วสบายใจที่สุด ก็คงเป็นมัน... ในเวลาที่กูเหนื่อย มันก็มาให้กำลังใจกู ในเวลาที่กูเสียใจ มันก็มาปลอบใจกู ในเวลาที่กูร้องไห้ ก็มีมันนี่แหละ ที่คอยซับน้ำตาให้ มีแค่มันคนเดียว ที่คอยโอบกอดกูไว้ในเวลาที่กูอ่อนแอที่สุด”
 
พวกเพื่อน ๆ พากันเงียบกริบ
 
ไม่ต่างกับผม
 
โอบกอด…
 
ในเวลาที่มันอ่อนแอที่สุด
 
งั้นภาพที่ผมเห็นในวันนั้น…
 
“กูเคยบอกมันว่าถ้าไม่ติดว่าจะโดนมึงฆ่า กูคงคว้ามันมาคบเพื่อให้ตัดใจจากน้องกูไปแล้ว แต่ตอนนี้กูเปลี่ยนใจแล้วว่ะ ถ้ามึงไม่ต้องการมันแล้ว จะทิ้งจะขว้างมัน กูก็ยินดีรับของเหลือเดนจากมึง เพราะเดนของมึง มันเป็นสิ่งมีค่าสำหรับหัวใจที่บอบช้ำของกู ขอบใจที่มึงทิ้งมัน เพราะมันเป็นโอกาสที่กูจะได้หัวใจดวงใหม่ ที่มีคุณค่ามาไว้ในครอบครอง”
มันพูดแค่นั้น แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
 
ทิ้งทุกคนไว้ให้อยู่กับความเงียบ
 
เงียบอยู่นานมาก จนมีเสียงเลื่อนเก้าอี้ออกเบา ๆ ผมและเพื่อน ๆ หันไปมองคนที่ทำให้เกิดเสียงนั้น

“กูเคยบอกมึงแล้วนะเอก ว่าอย่าทำให้กายร้องไห้อีก แต่มึงก็ยังทำ ถ้ามึงไม่ต้องการกายแล้วจริง ๆ งั้นก็ปล่อยกายให้เป็นอิสระ อย่าไปยุ่งกับมันอีก แล้วกูจะเป็นคนดูแลกายแทนมึงเอง”
มันพูดแค่นั้นแล้วเดินจากไป ทิ้งเพื่อน ๆ ทุกคนให้ยืนตะลึงกับคำสารภาพที่ทุกคนไม่เคยรู้
 
“ที่ไอ้โอ๊คพูดหมายความว่ายังไง” ไอ้โอมมันถามขึ้นมามึน ๆ
 
“ก็หมายความว่า มันชอบกายยังไงล่ะ แต่กายมันมีหมาคอยหวงไว้ มันเลยชอบไม่ได้ พอหมาคิดจะทิ้ง มันก็เลยคิดจะเสียบ ก็ดี เพราะจะว่าไปแล้ว ไอ้โอ๊คก็นิสัยดี แต่ถ้าให้เครดิต กูให้ไอ้เป้ว่ะ เพราะรายนั้น รักใครรักจริง และถ้าเรื่องที่มันพูดเป็นเรื่องจริง มันจะได้ตัดใจจากน้องมันได้ด้วย”
ไอ้กิ๊ฟมันพูด พาเอาทั้งตัวทั้งหน้าและหัวใจของผมรู้สึกชาและด้านไปหมด
 
“คนเรามีของมีค่าอยู่ในมือ แต่ไม่รู้วิธีรักษา ค่ามันก็สูญเปล่า”
มันย้ำต่อ
 
ผมยังคงนั่งนิ่ง ภายใต้สายตาประณามหยามเหยียดจากเพื่อน ๆ
 
“อ้อ ไอ้เอก กูมีเรื่องจะถามมึงด้วย”
 
ผมเงยหน้าเหม่อ ๆ มองมัน ตอนนี้สมองผมกำลังตียุ่งไปหมด ไม่รู้เรื่องไหนเป็นเรื่องไหนแล้ว
 
เหมือนถูกน็อกกลางอากาศ
 
“กายเขาเคยเจอพวกน้องชายมึงแล้วใช่ไหม”
 
ผมพยักหน้า
 
“แล้วมันเคยพูดอะไรเกี่ยวกับน้องมึงให้ฟังรึเปล่า”
 
ผมส่ายหัว
 
มันล้วงหยิบมือถือขึ้นกด สักพักเสียงข้อความจากมือถือของผมที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น ผมเหลือบตามอง ก่อนหันไปมองไอ้กิ๊ฟอีกที มันพยักหน้าทีเดียวมายังมือถือเครื่องนั้น ผมจำใจต้องหยิบมันขึ้นมาดูอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
 
สิ่งที่เห็นคือกายกำลังถูกจูบ จากใครบางคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับผม แต่ไม่ใช่ผมแน่ ๆ
 
“กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ แต่นี่พวกทโมนมันส่งมาให้กูดู มันได้มาจากมือถือของไอ้อาร์ตอีกที”
 
ผมนั่งอึ้ง
 
“กูสงสัยว่าทำไมไอ้อาร์ตถึงมาจูบกับกายได้”
 
ผมก็สงสัย เพราะจากภาพที่มอง กายไม่ได้มีท่าทีสมยอม ดูจะขัดขืนด้วยซ้ำ ทำให้ผมนึกไปถึงวันสุดท้ายที่มันทำงาน วันที่มันมีท่าทีแปลก ๆ
 
‘พี่เอกใช่ไหม’
ท่าทีตระหนกทุกครั้งที่เจอผม การปัดป้องเหมือนคนกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่างจากผม
 
“มันเคยโทรมาถามกู ว่ารู้วิธีแยกมึงกับอาร์ตออกไหม กูก็บอกมันไปว่า อยู่ไปนาน ๆ ก็รู้เอง มันถามว่ามีวิธีที่เร็วกว่านั้นไหม เพราะมันต้องการแยกออกตอนนั้นเลย มันหมายความว่ายังไง แล้วทำไมมันต้องรีบแยกให้ออกขนาดนั้น แล้วทำไมคนที่จูบกายไม่ใช่มึง แต่เป็นไอ้อาร์ต”
มันไล่จี้ผม และผมก็กำลังไล่จี้ก้านสมองตัวเอง
 
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมยังจำสายตาหวาดผวาเวลาที่มันเจอผมได้ และความรู้สึกจากจูบที่มันมีให้ผม จูบที่หนักหน่วง แล้วยังร่องรอยเหมือนมีคนจงใจมาจูบมากกว่าจูบแบบปกติที่ผมเคยจูบมัน
 
“กูไม่ฉลาดพอว่ะเอก แต่มึงก็โง่กว่ากู ที่ทิ้งคนดี ๆ แบบกายไป ถ้ากูเป็นผู้ชาย กูก็อยากจะเอากายมาเป็นเมียเหมือนกัน แต่บังเอิญกูเป็นผู้หญิง เลยอยากได้ผู้ชายแมน ๆ ไม่ใช่แบบเมีย ๆ อย่างน้องมัน แล้วมึงก็โง่ ที่ทิ้งเมียดี ๆ ให้คนอื่นคาบไปแดก”
มันพูดใส่หน้าผมแค่นั้น แล้วหันหลังเดินจากไป
 
ผมรู้ว่ามันกำลังโกรธ มันรักกายเหมือนน้องเหมือนนุ่ง และมันก็คงจะเดือดร้อนแทน
 
พวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่เหลือก็พากันทยอยเดินออกไป ทิ้งให้ผมนั่งอยู่คนเดียวเงียบ ๆ หลังโต๊ะทำงาน
 
มันเงียบเอามาก ๆ จนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของตัวเองคลอไปกับเสียงแอร์ภายในห้อง ผมก้มมองภาพในมือถือตัวเองอีกที ภาพของไอ้ตัวเล็กที่กำลังถูกใครบางคนจูบอยู่
 
และคนคนนั้นก็เป็นน้องชายของผมเอง

ไอ้อาร์ต


[50%]



 
ผมรีบขับรถตรงดิ่งกลับบ้าน เดินไปกระชากเปิดประตูห้องนอนของไอ้อาร์ตออก มันหันมามองขณะกำลังปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก ผมเดินไปสวนหมัดซัดใส่ใบหน้ามันทันที จนมันเสียหลักล้มไปนอนกองอยู่ที่พื้น ผมตามไปคร่อมร่างมันไว้ จับคอเสื้อมันยกขึ้นมากระชากถาม
 
“มึงทำอะไรกาย!!”
 
มันมองผมตะลึง ๆ ก่อนคลี่ยิ้มเย็น
 
ปกติเวลาผมคบใคร ผมไม่ค่อยจะมีเวลามาเทคแคร์ดูแลใครเท่าไหร่ พอผู้หญิงเหล่านั้นมาเจอไอ้อาร์ต บางทีก็พากันเปลี่ยนใจจากผมไปหามันก็มี
 
บางคนนะ ไม่ใช่ทุกคน
 
วันแรกที่เจอกัน ผมถึงไม่ไว้ใจให้กายอยู่กับมันเพียงลำพัง กลัวกายเปลี่ยนใจ แต่ดีที่มีอิฐอยู่ เลยพอจะช่วยหารความหวาดระแวงลงไปได้บ้าง แต่ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำอะไรแบบนั้นในร้าน
 
ผมไม่รู้ว่ามันทำอะไรไปบ้าง กายถึงได้ทำท่าหวาดกลัวขนาดนั้น
 
แล้วผมก็ยังไปซ้ำเติมมันอีก
 
ในเวลาที่มันหวาดกลัว มันคว้าผมไปกอดเพื่อให้คลายความหวาดผวา แต่ผมกลับคิดว่ามันกำลังทำตัวร่าน ไม่ต่างกับพวกผู้หญิงที่ผมเคยเจอ
 
“คิดอะไรมากล่ะพี่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้หญิงของพี่มาชอบผมซะหน่อย”
 
“แต่กายไม่ใช่ผู้หญิง”
 
มันเลิกคิ้วสูง
 
“แต่คนที่มายั่วผมก่อนคือกายนะ ทั้งกอดและจูบ กายก็เป็นคนเริ่มก่อนทั้งนั้น ไม่ใช่ผม”
 
ผมง้างหมัดใส่จนมันเลือดกบปาก
 
“กายไม่ใช่คนแบบนั้น”
 
มันยกยิ้มมุมปาก
 
“ใช่ไม่ใช่ กายก็เป็นคนเริ่มก่อน”
 
ผมกำหมัดแน่น ซัดมันไปอีกที แต่ครั้งนี้มันหลบและสวนผมกลับ
 
“พี่ไม่เคยจริงจังกับใครอยู่แล้วนี่ แล้วมาเดือดร้อนอะไรกับคนคนเดียว”
 
ผมง้างหมัดไว้เหนือหน้ามัน
 
“มึงทำอะไรกาย” ผมถามเสียงเครียด
 
มันยิ้มพราว
 
“ไม่มีอะไร ก็แค่จับ..”
มันพูดเนิบ ๆ ช้า ๆ ราวกับจะยั่วยวน
 
“แล้วก็จูบ...”
 
ผมพยายามระงับอารมณ์ตัวเองอีกที
 
“ลูบ ๆ คลำ ๆ แค่นั้นแหละ หวานลิ้นดี เสียงครางก็อื้อฮือ ทำเอาผมตั้งเลย”
 
ผมตัดสินใจง้างหมัดใส่หน้ามันอีกทีเต็มแรง แล้วผละตัวลุกหนีมา
 
ทำไมผมไม่เอะใจเรื่องนี้
 
ผมรีบล้วงหยิบโทรศัพท์มากดหามัน แต่มีเพียงเสียงข้อความตอบรับเท่านั้น ผมกระหน่ำโทรอีกแทบจะติด ๆ กันเหมือนพวกโรคจิต
 
นึกถึงแววตาตัดพ้อ
 
นึกถึงสายตาเจ็บปวด
 
นึกถึงคำพูดและการกระทำผสมหวาดกลัวของมันแล้วอยากกระทืบตัวเองให้จมดิน
 
จะอีกกี่ครั้งกันที่ผมต้องทำให้มันเจ็บปวด ด้วยการกระทำของตัวผมเอง
 
ด้วยปากผมและหัวใจผม
 
ผมผลักไสมัน ทั้ง ๆ ที่มันรักผม
 
และผมก็….


 
ผมโทรศัพท์เข้าบ้านก็ไม่มีคนรับ ผมไม่มีเบอร์แม่ ที่เชียงใหม่ผมก็ไม่รู้ ไม่รู้เบอร์พ่อมันด้วย
 
ผมหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินเอาไว้กับที่
 
ผมเคยรู้เรื่องอะไรของมันบ้าง
 
นอกจากไซส์ตัวมัน
 
นอกจากทำให้มันเหน็ดเหนื่อย ทรมานและทุกข์ทน
 
ผมรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง
 
ผมจำใจโทรหาไอ้กิ๊ฟ มันกดรับหลังจากปล่อยให้ผมยืนฟังเพลงรอสายอยู่นานสองนาน
 
‘ว่ามา’
 
ผมอึกอักอยู่พัก ก่อนถามมัน
 
“มึงรู้ไหม ว่ากายอยู่ไหน”
 
‘กูไม่รู้ แต่เห็นอาจารย์ชาติบอกว่า กายลาหยุดยาวอาทิตย์หนึ่ง หรืออาจมากกว่านั้น ไปต่างจังหวัด’
 
ผมยืนอึ้ง
 
นี่ถึงขนาดต้องหนีผมไปไกลเลยเหรอ แล้วมันไปอยู่ที่ไหน
 
ผมรีบกดมือถือให้เลขาจองตั๋วเครื่องบินแบบด่วนให้ผม
 
ตอนนี้ใจผมร้อนยิ่งกว่าลาวาซะอีก
 
ผมทำร้ายมันครั้งแล้วเล่า ทั้งที่บอกจะเชื่อใจมัน แต่กลับเป็นคนที่เชื่อใจมันน้อยที่สุด ในขณะที่คนรอบข้าง เห็นคุณค่าของมัน และกำลังจะแย่งมันไปจากผม
 
ผมได้เที่ยวบินด่วนภายในสองชั่วโมง และไม่เกินสามชั่วโมงนับจากจองตั๋ว ผมก็มายืนอยู่หน้าบ้านของไอ้ตัวเล็กเรียบร้อย
 
ผมกดกริ่ง คาดหวังว่าจะได้เจอมันที่นี่ เห็นมันเดินหัวฟูออกมาเปิดประตู ผมจะได้กอดมันได้ บอกขอโทษมันได้
 
แต่คนที่เดินออกมา กลับเป็นแม่มันเท่านั้น
 
“คุณแม่”
 
แม่มีสีหน้าแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นผม ผมยกมือไหว้
 
“กายอยู่ไหมครับ”
 
แม่เลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ
 
“มีอะไรหรือเปล่า กายไม่ได้อยู่เชียงใหม่หรอก ไปน่านหาปู่หาย่าน่ะ”
 
หัวใจผมแป้วไปเยอะ
 
“คืออยู่ที่ไหนครับ ผมอยากไปหา”
 
แม่มองผมด้วยสายตาแปลก ๆ ผมไม่รู้ว่าท่านจะสงสัยอะไรไหม แต่ถ้าแม่ถามผมก็จะยอมรับตรง ๆ
 
“แน่ใจนะ”
 
ผมขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
 
“ครับ?”
 
“แน่ใจกับสิ่งที่กำลังจะทำ แม่ไม่เคยเห็นกายเป็นแบบนี้มาก่อน คนเป็นแม่ทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นลูกตัวเองเสียใจ”
 
ผมเข้าใจความหมายที่แม่ต้องการจะสื่อทันที
 
“ผมเข้าใจครับ และผมก็เสียใจที่ทำให้กายเสียใจ”
ผมมองตาแม่ตรง ๆ
 
“แม่ไม่ชอบให้ใครมาสัญญา เพราะมันไม่เคยยั่งยืน แต่ให้รู้ไว้ ว่ากายมีหัวใจ และกายก็เป็นหัวใจของใครอีกหลาย ๆ คน การที่เขาเจ็บ ไม่ได้ทำให้หัวใจของเขาเจ็บเพียงคนเดียว แต่ยังมีหัวใจที่รักเขาอีกหลาย ๆ คนต้องเจ็บตามไปด้วย”
 
“ครับ และตอนนี้ หนึ่งในนั้นก็คือหัวใจผมเอง”
 
แม่จ้องหน้าผมนิ่ง ๆ
 
“คืนนี้ไม่มีรถหรอก ต้องค้างที่นี่แหละ พรุ่งนี้จะขับไปส่ง ขืนบอกเส้นทางให้ไปคนเดียว คงได้เตลิดไปลาวแน่ ๆ”
แม่บอก
 
ผมยิ้มจนเห็นฟัน
 
“ถ้าพ่อเขารู้ นายได้โดนแหกอกแน่”
 
“ผมยอมครับ เพราะผมทำเขาเจ็บเยอะกว่า”
 
แม่หันมามองหน้า ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินนำผมเข้าไปภายในบ้านและพาขึ้นไปยังชั้นสอง
 
“ตอนแรกว่าจะให้นอนห้องรับแขก แต่ไปนอนห้องกายดีกว่า เพราะวันนี้จะมีแขกไม่ได้รับเชิญมานอนด้วย แล้วก็เตรียมล้างหน้ารับหมัดไว้ด้วยล่ะ”
 
ผมเสียวสันหลังวูบ
 
ไม่ต้องบอกเลยครับ ว่าแขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นเป็นใคร
 
ผมเดินเข้าไปภายในห้องที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างเรียบ ๆ แต่คงความเป็นไทยเอาไว้ เพียงแค่ก้าวเข้ามาผมก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันทีไม่ต่างกับมีมันอยู่ในอ้อมแขน

ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ลูบไล้ฝ่ามือไปมา หวังสัมผัสให้เจอเรือนร่างของมัน
 
แต่สิ่งที่สัมผัสได้ มีเพียงความว่างเปล่าและความเงียบเหงาเท่านั้น

ผมหลับตาลง ภาพมากมายก็หลั่งไหลเข้ามา
 
มันเป็นคนใจดี มีความอดทน ทำเพื่อคนอื่น และชอบที่จะมีความสุข เวลาที่มันมีความทุกข์ มันจะเก็บเอาไว้คนเดียว แต่เวลาที่มันมีความสุขมันชอบแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ผ่านทุกเส้นทาง
 
ผมมองไปยังคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ชั่งใจอยู่พัก ก่อนตัดสินใจ ลุกจากที่นอนเดินไปเปิด
 
สิ่งแรกที่เห็น พาเอาผมต้องตะลึง
 
เพราะภาพแบล็กกราวน์ของคอมพิวเตอร์เป็นภาพของตัวผมเอง

‘ดั่งดวงอาทิตย์’
 
และเมื่อกี้ถ้าผมจำไม่ผิด ตรงฝาบ้าน ก็มีภาพดั่งดวงอาทิตย์ของผมรวมอยู่ด้วย
 
ผมมองไปรอบ ๆ ห้องอีกที มีภาพอื่น ๆ ของผมประดับอยู่ที่ข้างฝาอีกสองภาพ ทั้ง ๆ ที่มันยังไม่มีโอกาสได้มาอยู่ที่นี่จริง ๆ จัง ๆ แต่กลับมีสิ่งที่เป็นผมอยู่ตั้งหลายจุด ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องมันก่อนหันมายังคอมพิวเตอร์ตรงหน้าอีกที
 
ผมคลิกเปิดไปที่เว็บบอร์ดของมัน ไม่รู้ทำไม แต่ผมอยากเปิด ตั้งแต่วันที่ผมดูวันนั้น ผมก็ไม่มีโอกาสได้เปิดดูอีกเลย
 
นี่ผมละเลยมันมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
 
ผมจึงใช้เวลาหลังจากนั้น นั่งดูรายละเอียดแทบจะทุกจุดของบอร์ดมัน จนเวลาล่วงเลยไปดึกดื่น
 
ผมง่วงและกำลังตัดสินใจจะเข้านอน แต่เห็นอะไรบางอย่าง ที่ดูแล้วน่าจะเป็นการอัพเดทครั้งล่าสุด ไม่รู้ผมปล่อยให้จุดนี้คลาดสายตาไปได้ยังไง
 
ผมรีบเลื่อนเม้าส์ไปคลิกเปิด
 
หัวใจผมเต้นระรัว เพราะวันที่มันอัพคือไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง เป็นภาพถ่ายพร้อมข้อความอย่างที่มันเคยทำ
 
ภาพนี้เป็นภาพของมันที่กำลังยืนมองพระจันทร์ด้วยสีหน้าและแววตาเงียบเหงา
 
ผมปวดแปลบไปกับสิ่งที่เห็น
 

อีกภาพเป็นภาพของพระอาทิตย์อันร้อนแรง
 
‘ผมอยากอยู่เคียงข้างพระอาทิตย์ แต่ดูเหมือนพระอาทิตย์จะร้อนแรงเกินไป และพระอาทิตย์คงไม่ต้องการพระจันทร์ดวงนี้ พระจันทร์จึงได้แต่ทอดมองพระอาทิตย์จากที่ห่างไกล แต่ผมก็ยังดีใจ ที่พระจันทร์ได้อยู่ภายใต้ผืนฟ้าเดียวกันกับพระอาทิตย์’
 
หัวใจผมราวกับถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็นมากขึ้น
 
และภาพสุดท้าย เป็นภาพที่มันใช้สองมือโอบพระอาทิตย์เอาไว้ทั้งดวง
 
‘ถึงพระอาทิตย์จะร้อนแรง แต่พระอาทิตย์ก็เป็นสิ่งที่ผมรักและคลั่งไคล้ที่สุด’
 
หัวใจผมแทบหยุดเต้นไปกับสิ่งที่เห็น
 
มันไม่ได้ตัดพ้อต่อว่า
 
มันไม่คิดจะหยุดรักผม
 
แม้ผมจะร้อนแรง แม้ผมจะแผดเผามัน แต่มันก็ยังเลือกที่จะโอบกอดผมไว้
 
ผมนั่งมองภาพเหล่านั้นอยู่นานสองนาน แต่คงไม่นานเท่ากับที่มันเคยนั่งมองภาพ ‘ดั่งดวงอาทิตย์’ ของผมหรอก

 
ตีสามแล้ว ผมกำลังจะกดปิดเว็บบอร์ด แต่อยู่ ๆ ก็มีการแจ้งการอัพเดทขึ้นมา
 
นี่มันตีสามแล้วนะ มันยังไม่นอนอีกเหรอ
 
ผมตัดสินใจเลื่อนเม้าส์ไปคลิกเปิดดู
 
สิ่งที่เห็นคือภาพถ่าย

เป็นภาพมือคนที่กางนิ้วชี้และนิ้วโป้งจรดกันเป็นรูปหัวใจ กางไว้กลางอากาศ โดยมีแบล็กกราวน์เป็นท้องฟ้าสีมืดและดวงดาวนับร้อยนับพัน เคียงด้วยพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
 
‘ผมรู้ว่าดึกแล้ว แต่ทำไมไม่รู้ ผมถึงได้รู้สึกว่าอยากลงภาพนี้ และพูดคำคำนี้ให้ใครบางคนได้ยิน’
 
‘รัก’
 
หัวใจผม โดนขยำแรงอีกครั้ง ผมไม่แน่ใจว่ากายจะรู้ไหมว่าผมอยู่ตรงนี้ นั่งมองภาพของมันอยู่ หรือเป็นเพียงสัญชาตญาณ หรืออะไร แต่มันพูดคำรักผ่านเว็บบอร์ด ในตอนที่ผมกำลังนั่งอ่านอยู่พอดี
 
ราวกับคำพูดนี้ มันต้องการส่งผ่านมาให้ผม…เพียงคนเดียว



To be Con...         

เป็น 50% ที่เรียกน้ำตาออกมาได้เบา ๆ บางครั้งกลับมาย้อนอ่านนิยายที่ตัวเองแต่งก็นึกทึ่งว่า'เราแต่งไปได้ยังไง' เรื่องนี้ถือเป็นนิยายที่คนเขียนภาคภูมิใจที่สุด เพราะถ้าให้ย้อนกลับไปแต่งใหม่ ก็คงจะแต่งให้ได้ดีแบบนี้ไม่ได้อีก มันจะกลายเป็นคิสเลิฟในอีกเวอร์ชั่นไป 

คนเขียนจะอ่านเรื่องคิสเลิฟเมื่อต้องการผ่อนคลายบางความรู้สึก เวลาอ่านแล้วเหมือนได้เยียวยาบางความรู้สีกที่มันแย่ๆ มันทั้งอบอุ่น มีความสุข แม้บางพาร์ทจะทำให้รู้สึกเศร้าบ้าง แต่มันก็ยังเป็นความเศร้าที่กลมกล่อม คงให้ความรู้สึกเหมือนเวลาเบื่อๆ เหนื่อยๆ พอหยิบเรื่องนี้มาก่อน ก็ไม่ต่างกับได้เดินออกจากห้องไปท่องเที่ยวจริง ๆ หรือไปนั่งร้านกาแฟแนวอาร์ต ๆ สักแห่ง จิบกาแฟมองวิว อะไรทำนองนั้น

บางข้อคิดเราก็ลืมไปแล้ว อ่านใหม่ก็ทำให้กลับมาคิดได้ 

รักน้องกาย รักพี่เอก รักตัวละครทุกตัว เลิฟยูออล

............
หนังสือ & e-book เรื่องนี้ค่ะ [>Books & E-book<]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2016 19:05:25 โดย memew »

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
หายไปนานเลยจนเราต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ รออีกครึ่งอยู่นะ คนแต่งดูแลตัวเองด้วยนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยยยยยยยยยยย  :ling1:
ค้างงงงงงงงง :z3:
มาต่อไวๆที่รัก อาร์ตจะโดนตีนไหมอะ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NUBTANG

  • Nothing is impossible. "[+++++]"
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เอกอารมณ์ร้อนเกินไป...

จัดการอาร์ตให้ขาดด้วย!

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
สมน้ำหน้า
ไปจัดการเลยนะ
รู้เรื่องแล้วนิ เริ่มจากน้องชายตัวเองก่อนละกัน

ขอให้กายไม่ยอมคืนดีง่ายๆ
ชิส์

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
หายโง่ยังเอก นิสัยแบบแกไม่เหมาะเป็นพระเอกเลยว่ะ เหลาะแหละ นี่ถ้าคบกันต่อไปมีหวังน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ๆ เชียร์เป้อ่ะ

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จับไอพี่เอกฟาดกำแพงสิบตลบ  :angry2: :angry2: :angry2:

เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย สนุกมากกกกกกกกกกกกกก o13

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาแล้วววววววโอ้ยยยยยยสงสารกายอะ ไม่น่ามาหลงรักคนแบบพี่มันเลย

ออฟไลน์ nuchhxk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ค้างมาก มาอัพต่อไวๆนะคะ  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
ไปง้อน้องด่วนเลยเอก หงุดหงิดงุ่นง่านมากตอนนี้ 5555555555

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
โอ้ยชอบมากอยากได้จะเปิดพรีออเดอร์ไหม

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
อยากจะอวดว่าเรามีเรื่องนี้มาครอบครองแล้ว ในบทตอนต่อๆไปคุณจะเกลียดอิเอกมากไปกว่านี้  :katai1:เกลียดแบบถ้าเป็นเราเราจะไม่มีวันอภัยให้อ่ะ :fire: กายน้อยก็ใจอ่อนเกิ๊น :เฮ้อ: แต่มันก็คือนิยายอ่ะเน๊อะ ยิ่งอ่านยิ่งติดนะคะเรื่องนี้ขอบอกเลย :กอด1:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อิพี่เอกนี่เป็นพระเอกที่โคตรไม่เหมือนพระเอก
เหมือนอยู่อย่างเดียวตรงที่หล่อ 55555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด