Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)  (อ่าน 680521 ครั้ง)

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
เสร็จพี่เอกแน่

ออฟไลน์ eyeaptchy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมากเลยยยยยยยยยยยยยยยย > <
ชอบกายกับเต้ยมากกกก พี่เป้ก็ด้วย โอ้ยยยยย
ติดตามค่ะๆ

namwaan1992

  • บุคคลทั่วไป
หนุกมากอ่ะๆ  ><
  ต่อเลยนะ ^^

ออฟไลน์ kiyomaro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
สนุกจ้าาาาาา

รออยู่นะ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
งานนี้ไม่รอดแน่ๆ น้องกาย  :z1:

ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2
สนุกมากครับ

คนของเธอ

  • บุคคลทั่วไป
ชอบกายกับเต้ยมากๆๆๆๆๆ  น่ารักอ้ะ พี่เอกด้วยอ้ะ นั่นคิดจะทำอะไรค่ะ   :impress2: :impress2:
น้องเต้ยกับพี่ชายนี่ ดูเหมือนจะทะเลาะกันได้ตลอด แต่จริงๆ แล้วรักกันมากอ้ะ อยากได้พี่ชายแบบนี้บ้างจัง   :กอด1:

ping2226

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบตอนนี้ละ น่ารักอ่ะ อยากอ่านต่ออีกแล้วคร้าบบบ :กอด1:

ออฟไลน์ Orange151987

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาอัพเร็วน่ะ รออยู่จร๊าา

น่ารักมากอ่ะ....ชอบ :impress2: :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Koyy

  • บุคคลทั่วไป
ชอบอ่ะ

รออยู่นะคะ :-[ :-[

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

thun39

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Kiss Love ♥ [04] มื้อแรก
[เอก...☼]
                                       


 


ผมมองตามแผ่นหลังที่ก้าวห่างออกไปเรื่อย ๆ ของมัน…

ไอ้เด็กนี่มันเอ๋อรึเปล่า?

“ติดใจหรือวะเอก”
ไอ้มอมันพูดกวน ๆ ผมหันไปมองหน้ามัน

“หยุดคิดไปเลย”

“อ้าว กูจะไปรู้ไหมล่ะ ก็ตอนเล่นเกมเมื่อวาน มึงเล่นจูบน้องเขาซะจนเข่าอ่อน แล้วเมื่อคืน กูก็เห็นมึงจูงน้องเขาเข้ามาด้วย”

“กูไม่ได้จูง มันเกาะเสื้อกูมาเอง” ผมแก้ ไอ้นี่ มาพูดจาชักใบให้เรือเสีย
 
“แต่กูถือว่ามึงจูง เพราะถ้ามึงไม่ชอบจริง ๆ มึงคงสลัดทิ้งไปแล้ว ไม่ปล่อยให้มันจับมาจนถึงที่พักขนาดนั้นหรอก”

“มึงเห็นหน้ากูไหม”
ผมชี้หน้าตัวเองให้เพื่อนดู มันพยักหน้า
 
“กูหล่อ กูรวย กูเลยนิสัยดีพามันไปส่ง”
 
ไอ้พวกที่อยู่ในน้ำพากันโก่งคออ้วกเป็นทิวแถว

“ถุ้ย!! แม่งหลงตัวเอง พูดดีไปเหอะมึง อย่าไปติดใจน้องเขาละกัน”

“ไม่มีทาง”
ผมตอกกลับ เลิกสนใจมัน หันมายกผ้าเช็ดตัวเช็ดหัวตัวเองแทน มองไปยังไอ้สองพี่น้อง ไอ้เป้มันพยายามห่อตัวน้องมันด้วยผ้าเช็ดตัวสองผืน ผมขมวดคิ้วมอง อากาศก็ใช่จะหนาวมากมาย มันจะห่อทำไมขนาดนั้น
 
ไอ้เต้ยมันดึงผ้าเช็ดตัวออก ผมถึงได้เห็นว่าเสื้อมันบางแล้วก็แนบเนื้อขนาดไหน ไอ้เป้รีบดึงผ้ามาห่อไว้เหมือนเดิม มันทำหน้าดุ ๆ ปราม ไอ้เต้ยหน้าบูด จำยอมห่อตัวเองไว้เหมือนเด็กอย่างช่วยไม่ได้

มึงนี่อาการหนักนะเป้

 
ผมหยิบเสื้อกับกางเกงมาใส่เตรียมพร้อมสำหรับเริ่มงานวันแรก พวกเรามีเวลากันแค่สามวัน ต้องเร่งมือกันหน่อย
 
“กูไปก่อนล่ะ”
ผมบอกพวกมันแล้วเดินกลับไปก่อน เป็นหัวหน้าต้องดูแลหลายอย่าง จะทำเล่นๆ เหมือนพวกมันไม่ได้
 
ที่สำคัญ หิวแล้วด้วย
 

 

ผมเดินไปยังโซนอาหารที่พวกชาวบ้านเขาทำไว้ให้ จานชามที่นี่จะทำจากใบตองทั้งหมด ป่าเขาแบบนี้ จะให้ไปหาถ้วยชามจำนวนเยอะ ๆ มารองรับพวกเราคงยาก ขนมาทั้งหมู่บ้านก็ยังไม่พอ หัวหน้าหมู่บ้าน เลยต้อนพวกผู้หญิงมานั่งพับใบตองทำเป็นชามให้พวกเราแทน
 
ผมหยิบขึ้นมาส่องดู มันแข็งแรงใช้ได้ ทำง่าย ๆ ครับ แค่ฉีกเอาใบตองมาซ้อนกันสองชั้น หักมุมแต่ละด้านสี่ด้าน แล้วกลัดด้วยไม้แหลม ๆ ที่ทำจากไม้ไผ่คล้ายเข็มอีกที (เคยอ่านเจอในหนังสือน่ะ)
 
ผมตักข้าวใส่ งานนี้คงต้องวนสักสี่ห้ารอบถึงจะอิ่ม พอตักข้าวจนพูนก็หันไปตักแกง กับข้าวส่วนใหญ่ทำจากผักที่ชาวบ้านแถวนี้ปลูกกัน ส่วนเนื้อสัตว์ที่เห็นก็มีแค่เนื้อปลากับเนื้อไก่เท่านั้น

ผมกำลังจะเอื้อมไปหยิบทัพพีแกงส้ม เป็นจังหวะเดียวกับที่ใครอีกคนยื่นมาจับด้วย สองมือชะงัก ผมหันไปมอง พอ ๆ กับที่มันหันมามองเหมือนกัน

“พี่เอก”
มันเรียกผมเสียงเบา ผมละมือออกปล่อยให้มันตักก่อน มันทำหน้าอึกอัก แต่ก็ยอมหยิบทัพพีตักแกงส้มใส่ถ้วยมันเอง

“พี่ชอบเนื้อหรือผักมากกว่ากัน”
มันถาม ผมมองหน้ามันงง ๆ

“เนื้อ”
พอผมพูดจบ มันก็ควานหาเนื้อปลาในหม้อแล้วตักขึ้นมาค้างไว้ปากหม้อ ผมมองงงๆ มันพยักหน้ามาทางถ้วยข้าวผมนิดหนึ่ง ผมเลยยื่นถ้วยไปใกล้ แล้วมันก็ราดลงบนถ้วยข้าวผม 
 
“ขอบใจ”
ผมบอกมันแค่นั้น
 
มันวางทัพพีลง แล้วหันไปตักแกงอย่างอื่น โดยไม่สนใจผมอีกเลย ผมก็ไม่คิดจะสานอะไรต่อ

ตอนแรกว่าจะยืนกิน แต่เด็กมันเยอะ ผมเลยเดินไปหาที่นั่ง เจอว่างอยู่ที่หนึ่ง ใต้ร่มไม้ เลยเดินไปทิ้งตัวลงนั่ง แล้วก็ตักข้าวกิน
 
ไอ้คนที่ตักแกงส้มให้ผม มันยืนหันรีหันขวาง คงหาที่นั่งเหมือนกัน จริง ๆ จะนั่งกินตรงไหนก็ได้ ถ้าด้านพออ่ะนะ แต่เวลาเกือบเก้าโมง แดดอย่างเปรี้ยง เพราะงั้นหาที่ร่มกินจะเวิร์คกว่า
 
มันหันมาทางผม ทำท่าชั่งใจ ก่อนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แล้วต่างคนก็ต่างกินข้าวกันไปเงียบ ๆ

“พี่กินแค่นั้นอิ่มเหรอ”
มันถาม ผมหันไปมอง

“ไม่หรอก คงอีกสักสี่ห้าถ้วย”

มันชะงักช้อนจ้องผมตาค้าง
 
“คนรึควายกิน”

ดูปากมันครับ ผมหน้าหงิกทันที ถึงยังไงมันก็เป็นรุ่นน้อง มาพูดแบบนี้วอนจะโดนตบกะบาลไม่รู้ตัว
 
“ขอโทษฮะ งั้นเดี๋ยวผมไปตักมาให้อีกถ้วยละกัน”
มันรีบหนีความผิด ชิ่งไปหยิบถ้วยใบตองแล้วตักข้าวมาซะพูน
 
มึงใส่ข้าวมาซะขนาดนั้น แล้วมึงจะราดแกงยังไง
 
มันหันไปหยิบถ้วยเปล่าอีกสี่ใบ เพิ่มข้าวพูน ๆ มาอีกหนึ่งถ้วย ที่เหลือเป็นกับข้าวอย่างละถ้วย มันหันไปหยิบถาดที่วางอยู่ไม่ไกล ยกของทั้งหมดใส่ถาด เดินตรงมาที่ผม
 
“เดินรอบเดียวจบ”
มันบอกแค่นั้น แล้วหันไปหยิบถ้วยข้าวของตัวเองกินต่อ ผมมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้างง ๆ

คิดไม่ถึงเหมือนกันแฮะ วิธีนี้

“ขอบใจ”
ผมบอกมันเสียงเรียบ อย่าไปแสดงความโง่ให้มันเห็น
 
เดี๋ยวหมดหล่อ…
 
พอผมพุ้ยข้าวในถ้วยของตัวเองหมดก็ตักข้าวในถ้วยข้าวเปล่าพูน ๆ ใส่ถ้วยตัวเอง แล้วตักแกงมากิน ผมหันไปเห็นข้าวมันจะหมดถ้วยแล้ว เลยทำตัวเป็นพี่ที่ดี ยกถ้วยข้าวเปล่าที่ผมตักเหลือเมื่อกี้ให้มัน

มันจ้องกลับงง ๆ
 
“ทานด้วยกันสิ แค่นั้นคงไม่อิ่ม”
ถึงมันจะไม่กินเยอะขนาดผม แต่ถ้วยเดียวคงไม่พอเหมือนกัน

“กินเยอะ ๆ วันนี้ต้องใช้แรงเยอะ”
ผมสำทับอีกรอบ
 
มันพยักหน้าเข้าใจ ตักข้าวไปใส่ถ้วยมันพอประมาณ ผมวางถ้วยข้าวเปล่าไว้ที่เดิม แล้วเราสองคนก็นั่งกินกันไปเงียบ ๆ
 


“เคร้ง!!”
สองช้อนชนกันตอนกำลังจะตักแกงส้ม สงสัยมันจะชอบเหมือนผม มันเปลี่ยนทิศทาง เลื่อนจากแกงส้มไปที่ผัดฟัก ส่วนผมก็ตักแกงส้มมากินเหมือนเดิม
 
“แหม สองคนนี้มานั่งสวีทกินข้าวด้วยกันสองคนไม่ชวนเลยนะ”
 
ผมหันไปมองเจ้าของเสียงพูดเพราะ ๆ แต่ความหมายไม่รื่นหูของไอ้เพื่อนตัวดี

“พี่กิ๊ฟมาทานด้วยกันซิฮะ”
ไอ้ตัวเล็กข้างผมมันชวน
 
“ไม่ละ ไม่อยากขัดคนกำลังสวีทกัน”
พูดแค่นั้น แล้วมันก็เดินจากไป
 
ไอ้เพื่อนเวร แค่มึงก้าวเข้ามา มึงก็ขัดการกินอันราบรื่นของกูแล้ว เจ้าตัวเล็กข้างผมรีบพุ้ยข้าวเข้าปากจนแก้มโย้ ขย้ำถ้วยข้าวในมือลุกขึ้นยืน
 
“ผมไปก่อนละ ต้องไปหาเสื้อให้ไอ้เต้ยมันใส่อีก”
มันรีบเดินลิ่ว ๆ หายไปทันที
 
ผมกลับมานั่งกินข้าวเงียบ ๆ อีกที

เมื่อกี้นี้ นั่งกินข้าวเงียบ ๆ

แต่มันไม่รู้สึกเงียบ…
 
แต่ตอนนี้ นั่งกินข้าวเงียบ ๆ

แต่รู้สึกมันโคตรเงียบเลย…

 
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ผมซัดข้าวที่ไอ้ตัวเล็กจัดมาให้จนหมดไม่เหลือแต่แม้แต่เศษน้ำแกง รวบเก็บใบตองเปล่าเอาไปทิ้ง
 
ตรงนั้นมีกลุ่มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุประมาณห้าหกขวบ แต่งชุดแม้วมานั่งเขี่ยดินเล่นกันอยู่ ผมยิ้มให้ ลูบหัวเล็กของเด็กคนหนึ่งเบา ๆ
 
เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองงง ๆ แผงขนตางอนยาวกระพริบปริบ ๆ ท่าทางแบบนั้นทำให้ผมนึกถึงดวงตาของใครบางคน เพราะแทบจะทุกครั้งที่ผมเห็น มันจะกระพริบตาแบบนี้ทุกที
 
เหมือนมันจะงง ๆ มึน ๆ หรือเอ๋อ ๆ ยังไงบอกไม่ถูก ผมอมยิ้ม เดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ










เก้าโมงตรง ทุกคนมารวมตัวกันกลางลานกว้าง มีชาวบ้านมาร่วมด้วยสี่ห้าคน ที่เหลือก็ไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว รอบ ๆ เต็มไปด้วยเด็ก ๆ ชาวเขาที่มาให้กำลังใจกัน เพราะอีกไม่นาน เด็ก ๆ เหล่านี้ก็จะมีโรงเรียนเป็นของตัวเองแล้ว

 
ผมแบ่งงานให้เพื่อน ๆ นำเด็ก ๆ ในกลุ่มของตัวเองไปทำหน้าที่ ผมกับไอ้เป้แผนกก่อสร้างหลัก ไอ้โอมกับไอ้มอไปจัดหาอุปกรณ์และวัตถุดิบเพิ่ม (พอดีของขาดเยอะ) ไอ้โอ๊คกับไอ้ปิงไปจัดการเรื่องโต๊ะเก้าอี้ ส่วนพวกผู้หญิงดูแลรายละเอียดและคอยสนับสนุนผู้ชายไป
 
ผมต้องทำหน้าเข้ม เสียงดุ ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เพื่อให้พวกเด็ก ๆ เร่งงานตามคำสั่ง ยิ่งยืดเยื้อ คนที่เหนื่อยก็ตัวผมนี่แหละ ใครจะหาว่าผมโหดก็ช่าง
 
ถ้าทำให้งานออกมาดี…

ผมยอม

พวกชาวบ้านเขาถางพื้นที่ไว้ให้แล้ว พวกเราแค่ปรับเกลี่ยดินให้เรียบร้อย และลงมือก่อสร้างได้เลย อุปกรณ์มีไม่เยอะครับ ส่วนมากก็ขนมาจากกรุงเทพนั่นแหละ

พอวัดพื้นที่กันเรียบร้อย แผนกขุดอย่างผมก็คว้าจอบอันใหญ่ไปลงมือเจิมหลุมเพื่อปักเสาทันที

 เราทำโรงเรียนกันแบบง่าย ๆ มีเพียงตึกเดียว สร้างคล้าย ๆ กับโรงอาหารขนาดใหญ่ เน้นกว้าง กันแดดกันฝน หน้าต่างแบบบานยกค้ำ (ง่ายและประหยัดงบดี) หลังคากระเบื้อง (อันนี้มหาลัยเราออกให้) กำแพงจากไม้ พวกโต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำและชั้นหนังสือ พวกเราก็ต้องมานั่งทำเองกันหมด รวมไปถึงห้องน้ำ และโรงอาหารขนาดเล็กด้วย
 
มันคงจะดูรก ๆ เก่า ๆ เน่า ๆ สำหรับคนเมือง แต่สำหรับชาวบ้านที่นี่แล้ว สิ่งที่ได้ คือสมบัติล้ำค่าเลยแหละ
 
กว่าจะได้แต่ละหลุม เหงื่อผมไหลแทบหมดตัว พวกสาว ๆ ก็พากันแวะเวียนเข้ามาเสิร์ฟน้ำไม่หยุด ค่อยหายเหนื่อยหน่อย ผมตั้งหน้าตั้งตาขุดไปเรื่อย ๆ พอเสร็จหลุมแรกก็ไปต่อที่หลุมสองและสามอยู่อย่างนั้น
 
ผ่านไปไม่รู้นานแค่ไหน ผมรู้แค่ว่า แดดมันตรงกะบาลแล้ว ขุดมากมือเริ่มช้ำ แม้ว่าจะใส่ถุงมืออย่างหนาก็เถอะ เหงื่อเหง่อหน้าหน้อมอมเป็นลูกหมา ดีที่พวกสาว ๆ เอาผ้าเย็นมาเช็ดให้ตลอด หน้าถึงได้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง
 
“พี่เอกคะ เช็ดหน้าหน่อยไหม”
 
ผมหันไปมองคนเรียก ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร แต่คิดว่าน่าจะอยู่ปีสอง ผมพยักหน้า ยืนค้ำจอบยื่นหน้าเปื้อน ๆ ไปให้

ได้ยินเสียงกรี๊ดของพวกผู้หญิง ผสานเสียงโห่ของพวกผู้ชายดังมาเป็นทาง ผมไม่ได้สนใจอะไรมาก พอหน้าสะอาดก็ลงมือขุดต่อ
 
ต้องปล่อยให้สาว ๆ รอกันไปก่อน เสร็จงาน ค่อยว่ากัน

 


“พี่เอก พักก่อนก็ได้นะคะ เที่ยงกว่าแล้วนะ”
สาวน้อยคนเดิมพูด ผมเงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์ วันนี้ไม่ได้พกนาฬิกาครับ กลัวมันเสีย
 
ผมพยักหน้าวางจอบไว้ที่พื้น ถอดถุงมือทิ้งไว้ข้างจอบ
 
“พี่เอกคะ”
สาวน้อยแก้มแดงนิด ๆ ยืนบิดหน่อย ๆ เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
 
“ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ”

ผมมองคนตรงหน้า น้องหน้าตาน่ารักใช่ย่อย ช่วงพักเที่ยง ได้กินข้าวกับสาวสวยก็ดีไปอีกแบบ ผมพยักหน้า เดินตามน้องไป
 
แต่ยังไม่ทันจะถึงหม้อข้าว แขนผมก็โดนใครบางคนกระชากให้หยุด
 
“โทษทีน้อง พอดีพี่ต้องการเพื่อนพี่ไปคุยเรื่องงานนิดหน่อย”
 
ไอ้กิ๊ฟครับ มันลากผมเดินลิ่ว ๆ หนีน้องมา ไอ้นี่หน้าหวานแต่ดันแมนแตก วันนี้มันก็ลงมือขุดดินด้วยตัวเอง แก้มขาว ๆ ของมันแดงปลั่งไปหมด
 
“มึง กูจะกินข้าวกับสาว ๆ”
ผมรีบค้าน มีหญิงมาให้ท่าถึงที่เชียวนะโว้ย กูทำงานมาเหนื่อย ๆ ขอรางวัลให้กูหน่อยสิ

“มึง เรื่องหญิงเอาไว้ทีหลัง เรื่องงานต้องมาก่อน”
 
“มีอะไร”
ผมขมวดคิ้วถามกลับ ท่าทางแบบนี้คงไม่ได้พูดเล่นแน่ ๆ
 

พอไปถึง ก็เห็นพวกมันนั่งทำหน้าเครียด ผมกวาดมองไปรอบ ๆ มีกับข้าวสามอย่างวางเรียงกันเป็นแถวอยู่บนโต๊ะ (พวกมันเพิ่งทำกันเมื่อเช้า) แต่ละคนมีถ้วยข้าวประจำตำแหน่ง แถมยังมีปีสองโผล่มาด้วยสองคน ไม่ต้องเดาครับว่าใคร หนึ่งในนั้นเป็นน้องไอ้เป้ ส่วนอีกคนก็คนที่ตักข้าวให้ผมเมื่อเช้านี้แหละ
 
มันเหลือบตามองผมนิดหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงไปกินต่อ

ผมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามมันซึ่งเป็นที่นั่งข้าง ๆ ไอ้กิ๊ฟ มันเลื่อนถ้วยข้าวที่ตักไว้เผื่อมาตรงหน้า ในขณะที่ปากมันก็พูดไป

“ตอนแรกเราติดต่อเพื่อซื้อไม้จากหมู่บ้านข้าง ๆ แต่ไม่รู้ติดต่อกันอีท่าไหน พอไปเอาเข้าจริง ๆ เขากลับไม่มีของให้ พวกเราคงต้องหาไม้กันใหม่”

ผมขมวดคิ้วทำท่าคิด ก่อนพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วมึงจะให้กูไปดูด้วยตัวเอง หรือจะให้ใครรับผิดชอบ”
ผมปรึกษา
 
“มึงนั่นแหละ ไปกับไอ้เป้มัน เพราะมันรู้เรื่องไม้ดีกว่าใคร”
ไอ้อ้อยเลขาผมเป็นคนเสนอ ผมพยักหน้า งานนี้ถ้าหาไม้ไม่ได้ก็สร้างโรงเรียนไม่ได้
 
“พวกมึงรีบกินแล้วรีบไป กูติดต่อหารถให้แล้ว”
ไอ้อ้อยมันบอกต่อ
 
ผมรีบตักข้าวเข้าปากด้วยความรวดเร็ว
 
แน่นอนครับ มื้อนี้คงต้องสี่ถ้วยเหมือนเดิม…

 
“กินเยอะ ๆ สิ ต้องใช้แรงเยอะนะ”
ไอ้เป้มันบอกน้องมัน มือก็พุ้ยข้าวใส่ถ้วยน้องมันจนล้น
 
“กูไม่ได้กระเพาะควายเหมือนมึงนะ”
ไอ้เต้ยมันเถียง
 
“เอาเถอะมึงเป็นน้องของควาย มึงก็ต้องทำตัวควาย ๆ เหมือนพี่มึง กินให้หมด ตัวจะได้โต ๆ”

ไอ้เต้ยทำหน้าเซ็ง คุ้ยตักข้าวกิน แต่พอพี่มันเผลอ มันก็แอบตักไปให้เพื่อนมัน เจ้าตัวเล็กหันไปมองเพื่อนตาเขียว
 
“ไอ้เต้ย” มันกระซิบใส่เพื่อนเสียงเบา “กูกินไม่หมด อิ่มจะตายอยู่แล้ว”
 
ไอ้นี่มันก็รู้นะ ไม่โวยวายให้ไอ้เป้รู้ 

“ช่วยกูหน่อยดิ กูไม่อยากถูกฆ่า”
 
มันอ้าปากจะเถียง ก่อนจะหุบลง แล้วตั้งหน้าตั้งตากิน มันเหลือบตามองผมนิดหนึ่ง ก่อนหลุบเปลือกตาลงไปนั่งกินต่อไม่สนใจผมอีกเลย
..

..

..

..

..

ตามคาดครับ มีไอ้เป้ที่ไหน ก็ต้องมีไอ้เต้ยที่นั่น มันยังไม่วายลืมคีบน้องมันมาด้วย อยู่บ้านไม่เท่าไหร่ แต่พอมาค่าย มันติดน้องมันหนักยิ่งกว่าเดิมอีก สงสัยกลัวน้องมันหลงป่า
 
รถกระบะมีแค็ปเก่า ๆ เน่า ๆ สีเป็นสนิมซะส่วนใหญ่ ตอนนี้มันบรรจุสิ่งมีชีวิตตัวผู้ทั้งหมดสี่ตัว ผม ไอ้เป้ ไอ้เต้ย และแน่นอน ว่ามีไอ้เต้ยอยู่ที่ไหน ไอ้ตัวเล็กก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วย

“มึงจะลากกูมากับมึงทำไมอ่ะเต้ย กูกำลังช่วยเขาอยู่”
 
“ถ้ามึงจะด่ากู มึงต้องด่าพี่กู เพราะมันลากกูมาก่อน”
 
พวกมันสองตัวนั่งเถียงกันอยู่ที่แค็ปด้านหลัง โดยมีผมเป็นคนขับและไอ้เป้นั่งข้าง ๆ
 
“พี่มึงลากมึง ไม่ได้ลากกู” 

“กูไม่อยากมาคนเดียว”
 
“คนเดียวที่ไหนพี่มึงก็อยู่”
 
“เหรอ กูคิดว่ามันเป็นหมีควายซะอีก”
มันจงใจแขวะเสียงดัง

ผมหัวเราะหึ ๆ จนไอ้เป้หันมาด่าทางสายตา มันไม่เถียงครับ เพราะกำลังดูรายละเอียดที่ไอ้กิ๊ฟจดให้มาอยู่
 
ไอ้นี่มันจริงจังเวลาทำงานพอ ๆ กับผมนั่นแหละ…

“เอาน่า กูเลี้ยงขนมมึงก็ได้”

พวกมึงอายุกี่ขวบกันวะ ง้อกันด้วยขนมเนี่ยนะ ไอ้ตัวเล็กมันคงจะยอมหรอก
 
“มึงสัญญาแล้วนะ”

 แต่มันก็ยอม = =

“เอ้อก็ได้”
 แล้วพวกมันสองคนก็คุยกันงุ้งงิ้ง ในขณะที่ผมกับไอ้เป้ปรึกษากันเรื่องงานไป
 

เราต้องขับรถไปอีกหมู่บ้าน (ซึ่งตอนมาผมเห็นแล้วว่าอยู่ตรงไหน) เพื่อไปรับชาวบ้านคนหนึ่งเป็นคนนำทางไปโรงไม้

บอกตามตรง ขุดดินว่าเหนื่อยแล้ว การต้องวิ่งไปหาชาวบ้านที่คุยภาษาไทยได้บ้างไม่ได้บ้างนี่ยากยิ่งกว่า พวกเราวิ่งวุ่นกันอยู่ค่อนวันถึงหาไม้ได้ กว่าจะไปถึง เขาแทบจะปิดโรงไม้กลับบ้าน
 
ยังดีที่คุณลุงเจ้าของแกใจดี แกเป็นไทยแท้ พอบอกว่าจะเอามาสร้างโรงเรียนให้น้อง ๆ ก็ลดแลกแจกแถมใหญ่ แต่ก็ไม่มาก เพราะแกก็ชาวบ้านธรรมดา ยังต้องค้าขายเพื่อเลี้ยงครอบครัวอีก (ตอนไปถึงเห็นยืนอมนิ้วกันหน้าสลอน 3 ชีวิต)
 
แค่เขาลดให้นี่ก็ประหยัดงบประมาณไปได้เยอะแล้ว จะได้เอาเงินที่เหลือไปทำอย่างอื่นกันต่อ

 
กว่าพวกเราจะเสร็จธุระก็ดึกสงัดแล้ว ผมขับรถไปส่งพี่อุ๋ย(คนนำทาง) ที่หมู่บ้าน แล้วพวกเราก็รีบขับรถกลับ (ไม้จะมาส่งอีกทีพรุ่งนี้)

ตอนนี้รอบด้านมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถเท่านั้น
 
“เอกจอดรถก่อนดิ”
ไอ้เป้มันสั่ง ผมจอดรถตาม ไอ้เป้มันเปิดประตูลงจากรถแล้วผลักเบาะเลื่อนไปด้านหน้า
 
“กายมานั่งหน้ากับเอก พี่จะนั่งกับเต้ย”
 
ผมมองมันงง ๆ ไอ้เต้ยมันนั่งกับกายก็ดีอยู่แล้ว แล้วมันจะไปนั่งด้วยทำไม ไอ้ตัวเล็กพยักหน้า ลงจากรถแล้วให้ไอ้เป้เข้าไปนั่งแทนที่ พอผมหันไปมองไอ้เต้ยก็พอเข้าใจ

มันนั่งตัวตรงแน่ว หน้าออกแนวซีด ๆ ไอ้เด็กนี่มันคงกลัวความมืดจัด ๆ ครั้งที่แล้วมันก็นั่งช็อคตาค้างเลย
 
ในเมืองกรุง ถึงมืด แต่มันมืดแบบมีแสงสว่างบ้าง แต่ในป่าที่มีต้นไม้รกครึ้ม ถ้าไม่ใช่เดือนหงาย มันจะมืดแบบมืดสนิทเลย แล้วรถก็ไม่มีกระจกด้วย ได้ยินเสียงพวกสรรพสัตว์ยามค่ำคืนคร่ำครวญกันดังสนั่น แม้รถจะจอดสนิท ก็มีสายลมพัดผ่านมาปะทะผิวหน้าเป็นระลอก หนักบ้างเบาบ้างให้เย็นสะท้านจนขนแขนลุก
 
แล้วสายลมเหล่านั้น ก็พัดพาเอาใบไหม้ตามสองข้างทาง ไหวเอนไปมาเบา ๆ กิ่งก้านเสียดสีกัน สร้างเสียงและภาพให้ดูน่ากลัว ถ้าใครขวัญอ่อนอยู่แล้ว คงจะนั่งไม่ติดเบาะแน่ ๆ
 
พอไอ้เป้มันนั่งได้ มันก็บีบมือน้องมันแน่น ผมสังเกตว่าไอ้เต้ยมันตัวสั่นด้วย
 
มึงก็รู้ว่าน้องมึงกลัว แล้วมึงจะเอาน้องมึงมาด้วยทำไมวะ

“ไม่ต้องมองนอกรถนะ”
มันบอกเสียงนุ่ม ดึงหน้าน้องมันไปซบกับอกมันอีกที ซึ่งไอ้เต้ยก็ทำตามอย่างว่าง่าย คิ้วผมขมวดด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก มันคงห่วงน้องมันจริง ๆ

พอไอ้ตัวเล็กย้ายมานั่งข้างผมเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกันต่อ


         
           
TBC..

             
Note :
1. รู้สึกตัวเองเหมือนเต่าหน่อย ๆ นะ ฮ่า ๆ ช้าดีกว่าไม่มาเนอะ ^^
2. ยังไม่ว่างเอาอิมเมจมาลงให้ เข้าไปดูกันที่แฟนเพจละกันนะคะ ^^ "แฟนเพจ Kiss Love หรือ แฟนเพจน้องคีส ก็ได้^^"
3. ขอบคุณคร้าบบบบบบบ  :bye2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2012 15:45:02 โดย memew »

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อ่าน(ในเด็กดี)แล้ว...ก็อ่าน(ในเล้าเป็ด)อีก :z1:

อ่านแล้วมีความสุข....ในวันวาเลนไทน์ :-[

 :L2:ให้ดอกไม้คนแต่ง


ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
o13 ตามจ้าตาม o13

อ้ายหมี :)

  • บุคคลทั่วไป
ขอเข้าไปดูอิมเมจเเว๊บ :z1:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า สู้ๆ  :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ทนรอไม่ไหวจนต้องไปตามในเด็กดีแทน ><

คนของเธอ

  • บุคคลทั่วไป
พี่เป้รักน้องจังนะ   :z1: :z1:

PrAeW

  • บุคคลทั่วไป
พี่เป้นี่เกินพี่น้องแล้วนะแบบนี้
อยากเห็นคู่พี่เอกหวานมั่งจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Forget_Me_Not

  • ความศรัทธา ความหวัง และรักแท้ ™
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-13
เคยอ่านจากเด็กดีแล้ว  มาอ่านอีกทีที่เล้าเป็ดและกัน  :laugh:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Kiss Love ♥ [05] จูบอีกครั้ง
[กาย...♥]






ผมนั่งเงียบมาตลอดทั้งเส้นทาง โดยมีพี่เอกเป็นสารถี ไอ้เต้ยนั่งซุกพี่มันเหมือนเดิม เส้นทางเริ่มขรุขระมากขึ้นจนผมต้องหาที่ยึด คนขับเองก็หัวสั่นหัวคลอนไปตาม ๆ กัน

ขับไปได้สักพัก รถดันติดหล่ม พี่เป้กับพี่เอกลงไปช่วยกันเข็น ผมทำหน้าที่บังคับพวงมาลัย ส่วนไอ้เต้ยนั่งอยู่เฉย ๆ ครับ ดีที่สุด เพราะมันขับรถไม่เป็น

ผมเหยียบคันเร่งแรง ๆ ล้อมันวิ่ง แต่รถไม่เคลื่อนที่   

พอดีมันมืด แล้วไฟหน้ารถก็ริบหรี่คล้ายคนแก่ใกล้สิ้นลม ทำให้ไม่เห็นว่าทางตรงหน้า มีแอ่งโคลนขนาดใหญ่ขวางอยู่ พอรถเฉียดเข้าไปใกล้ ล้อมันก็ไถลจมลงไปซะครึ่ง
 
สองหนุ่มใส่จังหวะให้ท้ายรถกันคนละด้าน โยกกันอยู่สักพัก รถก็หลุดวิ่งขึ้นมาได้ ผมเคลื่อนตัวรถไปด้านหน้าแล้วจอดให้พี่เอกมานั่งประจำตำแหน่ง   

ผมหันไปมองพี่เอกกับพี่เป้ เมื่อกี้คงโดนล้อฟรีใส่ โคลนกระเซ็นเลอะไปทั่วทั้งตัวเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้า เคยเห็นแต่ในเอ็มวี ไม่คิดว่าจะได้มาเจอของจริงแบบนี้ แต่ต่างกันหน่อย ตรงที่ในเอ็มวี มักจะมีสายฝนลงมาช่วยชะล้าง แต่ตอนนี้ไม่มี 
 
ผมมองหน้าหล่อ ๆ ของพี่เอกอีกที รายนี้ไม่สนใจที่จะเช็ดซะด้วย พอมองไปที่เนื้อตัว… เสื้อก็เปื้อน ตัวก็เปื้อน มือก็เปื้อน แล้วจะเอาส่วนไหนมาเช็ดล่ะ

ผมหันซ้ายหันขวามองหาสิ่งที่จะเอามาเช็ดหน้าให้พี่มันได้บ้าง

น้ำ...ไม่มีสักขวด

ทิชชู่…ไม่มีสักแผ่น
 
ผ้าเช็ดรถ...ไม่มีสักผืน

ตัวรถเองก็เน่าเขรอะเกรอะกรังพอ ๆ กับตัวพี่เอกตอนนี้นี่แหละ พอหาอะไรไม่ได้ ผมเลยตัดสินใจ…

“พี่เอกก้มลงมาหน่อย”

พี่มันทำหน้างง ๆ ก่อนจะทำตามที่ผมบอก ผมดึงชายเสื้อตัวเองเช็ดพวกโคลนออกจากหน้า โดยเฉพาะช่วงตา น้ำไม่มีแบบนี้ ขืนโคลนเข้าตาคงยุ่ง

พอเช็ดจนสะอาดหมดจด ผมถึงได้ปล่อยให้พี่แกเป็นอิสระ พี่มันทำหน้านิ่ง ๆ จ้องกลับ

“เสื้อนายเลอะหมดแล้ว”

ผมก้มมองเสื้อตัวเอง ก่อนเงยมองพี่มันอีกที

“แต่ของพี่เลอะกว่า”

พี่เอกพยักหน้า หันกลับไปมองหน้ารถเหมือนเดิม

 

“ไอ้พี่เป้บ้า!! เอาหน้ามาซุกเสื้อกูทำไม ไปนั่งห่าง ๆ เลยไป้!!”

ผมเอี่ยวตัวไปมอง เห็นไอ้พี่เป้พยายามซุกหน้ากับอกเสื้อไอ้เต้ยอยู่ ส่วนไอ้เต้ยก็พยายามกระถดตัวถอยหนีจนไปชิดข้างรถ

“ไม่เห็นรึไง หน้ากูเลอะขนาดไหน หัดทำตัวเป็นน้องที่ดีซะบ้าง นี่ถ้าไม่ได้พวกกู มึงก็ต้องนั่งอยู่ท่ามกลางความมืดแบบนี้ไปตลอดทั้งคืนเลยนะ” 

พี่มันให้เหตุผล เขยิบตัวไปซุกหน้ากับอกไอ้เต้ยต่อ ไอ้เต้ยมันก็พยายามดันมือกั้นหน้าเปื้อน ๆ ออก แต่แรงมันรึจะสู้แรงของพี่มันได้

สุดท้ายพี่เป้ก็ทำสำเร็จซุกหน้าเข้ม ๆ กับเสื้อของมัน 

“ไอ้พี่บ้า”
แล้วไอ้เต้ยก็ยอมนั่งนิ่ง ๆ ให้พี่มันทำ
 

ผมอมยิ้ม เขยิบตัวหันกลับมายังจุดเดิม แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่ใครอีกคนกำลังจะหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเหมือน กัน ปากผมเฉียดกับริมฝีปากเปื้อนโคลนเบา ๆ

ผมชะงัก ตาโตจ้องมองคนตรงหน้าหน้าตื่น พี่มันจ้องกลับผมนิ่ง ๆ เหมือนกัน ผมรีบตีเนียนเขยิบตัวกลับไปนั่งให้เข้าที่เข้าทางอีกครั้ง...

ทั้งที่หัวใจกำลังเต้นแรงสุด ๆ
         






 

พวกพี่ ๆ ดีใจกันใหญ่ที่เราสามารถหาไม้กันได้ พูดคุยปรึกษาอะไรกันต่ออีกนิดหน่อย พวกพี่ ๆ ก็ไล่ให้พวกเราไปอาบน้ำกัน

คือ...

สภาพพี่เป้กับพี่เอกตอนนี้ เหมือนไม่ใช่มนุษย์ ทั้งเนื้อทั้งตัวเลอะไปด้วยโคลน และตอนนี้มันก็แห้งจนรุ่ยเป็นแป้งร่วงระนาวลงตามพื้น ของผมกับไอ้เต้ยไม่เท่าไหร่หรอก เปื้อนเฉพาะเสื้อกับมืออีกนิดหน่อย   

ผมกับไอ้เต้ยเดินไปหยิบอุปกรณ์การอาบน้ำให้ตัวเอง เผื่อแผ่ไปให้สองคนนั้นด้วย ขืนให้เดินไปเอากันเอง

ดินเป็นก้อนร่วงตุบตับ


ไอ้เต้ยมันโอดใหญ่ มันยิ่งกลัว ๆ ความมืดอยู่ด้วย นี่ต้องเดินฝ่าความมืดไปอาบน้ำท่ามกลางความมืดอีก แล้วสิ่งที่พกติดตัวไป มีเพียงตะเกียงเจ้าพายุสองอันเท่านั้น

งานนี้ไอ้เต้ยรักพี่มันขึ้นมาทันที เวลามันกลัว มันไม่ค่อยอยู่ติดผมหรอก มันคงเห็นว่าผมพึ่งพาได้น้อยกว่าพี่มันละมั้ง ซึ่งก็แปลกตรงที่พี่เป้ไม่ปากหมาเหมือนเวลาปกติเหมือนกัน

พี่เป้เดินถือตะเกียงนำหน้าเคียงข้างด้วยไอ้เต้ยที่เกาะแขนพี่มันแน่นหนึบ ตามด้วยผม แล้วรั้งท้ายด้วยคนถือตะเกียงอีกดวง

ตะเกียงเจ้าพายุให้ทางดีกว่าไฟฉายกิ๊กก๊อกอันที่แล้วของพี่เอกซะอีก
 


พอไปถึงลำธาร พวกเราก็เดินลงน้ำกันทั้งชุดเปื้อน ๆ นั่นแหละ ถือซะว่าซักเสื้อผ้าไปในตัว ไอ้เต้ยมันก็ด่าพี่มันไปวักเอาน้ำราดหัวพี่มันไป โคลนแห้ง ๆ ล้างออกยากยิ่งกว่าโคลนเปียกซะอีก ผมหันกลับมามองคนข้างตัว

พี่มันพยายามแงะเอาโคลนออกจากหลังหูอยู่ครับ

ผมแอบขำ ปัด ๆ เหมือนหมาดี

ผมถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออก เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ เอาเสื้อชุบน้ำจนชุ่มแล้วเอาไปถูให้ ยังไงผ้าน่าจะเช็ดออกง่ายกว่ามือ พี่เอกชะงักมองหน้าผม แต่ก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้ผมวักน้ำไปขัดหัวขัดตัวไปเรื่อย ๆ 

ตอนนี้พี่มันถอดเสื้อออกแล้ว เหลือแต่กางเกง พวกเรายืนกันอยู่ในน้ำที่ลึกประมาณต้นขา สักพักพี่เอกก็ย่อตัวลงไปนั่งกลางน้ำให้ผมทำได้ถนัด ๆ

ผมหันไปหยิบยาสระผมมาผสมน้ำแล้วขยี้ลงบนหัวพี่มัน บริการเขาหน่อยครับ อุตส่าห์ทำเพื่อเด็ก ๆ ขนาดนี้

ผมกับได้เต้ยอาบน้ำด้วยกันบ่อย เราชอบนวดหัวให้กัน สบายดี ผมเลยเมามันกับการนวดหัวพี่เอก ดูพี่แกน่าจะชอบด้วย เห็นกอดอกหลับตาทำหน้าผ่อนคลายใหญ่

“อย่าหลับนะพี่เอก”
ผมเตือนขำ ๆ คนที่หลับตาอยู่ถึงได้ลืมตามอง

“เพลินดี”

“แน่นอน ผมกับไอ้เต้ยชอบนวดให้กันบ่อย ๆ ผ่อนคลายดี”

พี่เอกพยักหน้าเห็นด้วย

“ดีทำให้พี่นาน ๆ หน่อยละกัน เหนื่อยอยู่เหมือนกัน” พอพูดจบ พี่แกก็หลับตาลงอีกรอบ ตอนนี้หน้าพี่เอกอยู่ระดับเดียวกับหน้าอกผมแล้ว


นวดไปได้สักพัก ตัวพี่เอกก็เริ่มเอนหน่อย ๆ เหมือนคนหลับ ผมรีบละมือออก วักน้ำใส่ พี่มันถึงได้รู้สึกตัว ลุกขึ้นยืน ก้มหัวมุดหน้าลงไปในน้ำ เอามือปัดๆ ล้างยาสระผมออก พอขึ้นจากน้ำได้ ก็สะบัดหัวแรง ๆ เหมือนหมาสะบัดขน ผมหันหน้าหนีหลบน้ำที่กระเซ็นมาใส่

“อย่าสะบัดขนแรงสิพี่เอก”

ปากผมครับ ไอ้เต้ยมันเคยเตือนว่าชอบเลี้ยงหมาไว้ในปากเหมือนกัน

“โทษที” พี่มันบอกพรางใช้สองมือรวบเสยผมไปด้านหลังทั้งหมด

ผมยืนนิ่ง วางสองฝ่าเท้าตั้งมั่นไว้บนผืนดินผสมกรวดหินใต้ผืนน้ำ สองดวงตาจ้องมองเพียงภาพที่ปรากฏฉายชัดอยู่ตรงหน้า ภายใต้แสงเงาเดือนมืด แสงสีส้มสลัวจากตะเกียงเจ้าพายุส่องสว่างมากพอให้ผมได้เห็นโครงหน้าหล่อเหลา ราวกับเทพบุตรของพี่มันได้ชัดเจน

เวลาพี่เอกเสยผมไปด้านหลังแบบนี้ทีไร ผมละสายตาไปไหนไม่ได้ทุกที

มันดูเท่ ๆ แมน ๆ ดี


ท่ามกลางธรรมชาติ ผมได้ยินเสียงสายน้ำไหลหลากจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ผสมคละเคล้าเข้ากับเสียงของเจ้าสัตว์ตัวจ้อยยามค่ำคืน ผมสะกดสายตาตัวเองไว้ยังดวงตานิ่งเรียบพร้อมแพรขนตาชุ่มฉ่ำหยาดน้ำ เลื่อนลงมายังปลายจมูกที่มีเม็ดน้ำใส ๆ เกาะอยู่ มันสะท้อนเข้ากับแสงไฟจนเหมือนไข่มุกต้องแสงจันทร์ ไล่ต่ำลงมายังริมฝีปากได้รูปที่ผมเคยจูบมาก่อน

อยากจะละสายตาหนี แต่ก็เพลิดเพลินเกินไป และดูเหมือนริมฝีปากนั้น กำลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

จนในที่สุด…

มันก็มาแนบไว้กับริมฝีปากผม

ผมยืนนิ่ง หัวใจแทบจะหยุดเต้น แต่ก็ไม่คิดจะห้ามปราม ลมหายใจอุ่น ๆ รดอยู่ตรงข้างแก้ม ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะขยับเบา ๆ

จากความหยุดนิ่ง กลายเป็นความวาบหวิวแปลก ๆ ผมเผลอตัวเผยอริมฝีปาก ลิ้นร้อนชื้นก็ฉกเข้ามาทันที

ผมยืนนิ่ง สมองคล้ายกับมีหลุมดำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ไร้คำสั่งให้ขัดขืนหรือตอบรับ แต่ไม่นานลิ้นเชี่ยวชาญก็นำพาลิ้นที่หยุดนิ่งของผมให้เคลื่อนไหวตามไป
 
จากแรกที่บดเบียดเพียงแผ่วเบา ก็เริ่มเปลี่ยนจังหวะเป็นหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตัวผมเอนไปด้านหลัง ผมรีบยึดสองแขนแกร่ง กันตัวไว้ไม่ให้ล้ม   
 

เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผมไม่รู้ สมองมันโล่งไปหมด กระทั่งเสียงหัวเราะของไอ้เต้ยดังขัดขึ้นมาในโพรงประสาท ผมกับพี่เอกถึงได้รีบดีดตัวออกจากกันทันที
         
ผมหันไปมอง เพราะไม่รู้ว่าไอ้เต้ยมันจะเห็นภาพเมื่อกี้หรือเปล่า ยังดีที่พวกนั้นยืนหันหลังให้ โดยมีพี่เป้นั่งอยู่ในน้ำ และไอ้เต้ยกำลังยืนนวดหัวให้อยู่ 

มันคงโดนบังคับให้ทำ

“ที่เหลือพี่คงอาบเองได้ ผมจะได้อาบบ้าง” ผมเคลื่อนตัวไปคว้าสบู่มายืนหันหลังอาบน้ำ กัดปากตัวเองแน่น ไม่กล้าหันไปมอง

เป็นบ้าอะไรของแก ไอ้กาย

ผมรีบอาบน้ำให้เร็วที่สุด ก่อนจะขึ้นจากน้ำไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอว หันไปมองคนที่ยังอยู่ในน้ำอีกที 

แต่ตอนนี้...พี่มันโป๊อยู่ครับ!

พอผมขึ้นจากน้ำ พี่แกก็ล่อถอดเสื้อผ้าออกหมดเลย แล้วเดินไปยืนอยู่ในน้ำที่ลึกประมาณเอว แต่น้ำมันใส เลยเห็นภาพใต้น้ำได้ชัดแจ๋ว ผมรีบหันหลัง

ไอ้ร่างกายผู้ชาย มันก็ไม่มีอะไรน่าอายหรอกนะ

แต่ว่า… 

มันคงไม่ใช่ร่างกายของผู้ชายที่ตัวเองเพิ่งไปแลกลิ้นมาด้วยเมื่อกี้แน่ ๆ

ผมรีบหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้เร็วที่สุด ไอ้เต้ยมันหันมาเห็นพอดี

“นี่กาย อย่าเพิ่งแต่งตัวสิ มานวดหัวให้กูก่อน” มันเดินลากขาเข้ามาสั่งปนอ้อน

“ไม่เอากูแต่งตัวแล้ว”

“น่านะ นิดเดียวเอง กูอยากนวดอ่ะ ห้านาทีก็พอ แล้วกูจะกลับไปนวดให้มึงมากกว่าสองเท่าเลยเอ้า”

“ทำไมไม่ให้พี่มึงทำให้ล่ะ”

มันเบ้ปากหันไปทางพี่ชายมันที่เดินไปคุยกับพี่เอกแล้ว

พี่เอกก็ด้านว่ะ ยืนโป๊ในที่สาธารณะคุยกับเพื่อนก็ได้ด้วย

“มือหนักอย่างกับอะไร หัวกูได้หลุดกันพอดี น่านะ” มันอ้อนครับ นาน ๆ ทีเจอมันเวอร์ชั่นนี้ มีรึผมจะขัดได้ ผมพยักหน้าก้มลงพับขากางเกงขึ้นสูงเหนือเข่า เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโขดหินเหนือน้ำนิดหน่อย ไอ้เต้ยมันเดินมาทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นใต้น้ำ พาดแขนไว้บนเข่าผมสองข้าง แหงนหน้านิด ๆ เตรียมให้นวด

ผมหยิบยาสระมาเทลงบนหัวมัน ผสมน้ำนิดหนึ่ง ขยี้เบา ๆ ให้เกิดฟอง แล้วเริ่มต้นนวดให้มันอย่างเบามือ

“กูชอบเวลามึงนวดหัวให้นะ สบายสุด ๆ ถ้ามึงเป็นผู้หญิงนะ กูจะจีบให้มึงมานวดให้กูทุกวันเลย”

ผมหัวเราะ แกล้งขยี้หัวมันแรงขึ้น

“ถึงกูจะเป็นผู้หญิง กูก็ไม่เลือกมึงมาเป็นแฟนหรอก ไอ้อ่อนกลัวความมืด”

“โหย อย่าพูดเด๊ะ มันเป็นปมด้อยของกู พยายามรักษาอยู่เนี่ย”

“แล้วทำได้ไหมล่ะ”

“ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา”

“เอ้อ กูเชื่อ” ผมตอบกลับมันขำ ๆ

“ยาสระผมที่นี่กลิ่นหอมดีเนอะ กลิ่นเหมือนอะไรสักอย่าง” มันทำจมูกฟุตฟิตเพื่อพิสูจน์กลิ่น

“กลิ่นอะไร”

“ไม่รู้สิ มึงลองดมดูดิ”

ผมก้มลงไปดมใกล้ ๆ

“ไม่รู้ดิ”

“ดมดี ๆ สิ” มันยืนยัน “กูเดาไม่ออก เหมือนกลิ่นของต้นอะไรสักอย่างที่บ้านกูมี”

ผมก้มลงดมอีกที คราวนี้ก้มนานกว่าเดิม ดมแล้วก็ทำท่าคิด

อืม… มันรู้สึกคุ้น ๆ จริง ๆ นั่นแหละ กลิ่นของต้นอะไรน้า…

ขณะกำลังช่วยกันระลึกชาติอยู่ อยู่ ๆ ไอ้เต้ยก็ถูกกระชากออกแรง ผมเงยมองคนกระชากหน้าตื่น เห็นไอ้พี่เป้มันทำหน้าโหดใส่ผมอยู่

“ทำอะไรกัน!!” พี่มันตะคอกถามไอ้เต้ย

“โอ๊ย!! ไอ้พี่เป้ ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย กูเจ็บนะ!!”

“แล้วเมื่อกี้พวกมึงทำอะไรกัน!!” พี่มันถามเสียงเข้ม

“จะทำอะไรเล่า ก็สระผมไง ไม่เห็นรึไง ฟองฟอดอยู่เนี่ย” มันชี้หัวให้พี่มันดู พี่เป้มองหัวมันสลับกับผม สักพักพี่มันก็ปล่อยมือออก แล้วเดินฟึดฟัดขึ้นฝั่งไป

“อะไรของมันวะ” ไอ้เต้ยบ่นเสียงเบาตามหลัง

พอทุกคนแต่งตัวเสร็จก็พากันเดินกลับค่าย พี่เป้ลากไอ้เต้ยเดินลิ่ว ๆ หนีผมไปเลย ผมได้แต่มองตามตาค้าง

“อะไรของเขาเนี่ย” ผมพึมพำ พอไม่มีแสงนำจากพี่เป้ ผมก็ต้องลดระดับลงมาเดินเคียงข้างกับคนตัวสูงข้างกายแทน
 

ภายใต้แสงสว่างจากตะเกียงเจ้าพายุดวงเดิม เราสองคนเดินคู่กันไปเงียบ ๆ โดยไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดกันสักคำ

ผมกลับเข้าเต้นท์ ทิ้งตัวลงนอนทั้งที่หัวยังเปียกอยู่ อยากข่มตาให้หลับเร็ว ๆ แต่มันก็ยากกว่าที่คิด คืนนั้นกว่าสติจะจางหายไป ผมก็ใช้เวลาไปเกือบค่อนคืน 


 

TBC...

1. ขอบคุณสำหรับทุกเม้นท์นะคะ ^______________^ เรื่อย ๆ เรียบ ๆ มาเคียง ๆ
2. สิวขึ้นสองเม็ดบนหน้าผาก ทำไงดี =*=
3. :seng2ped:  ชอบอิตัวนี้อย่างไร้เหตุผล ฮ่า ๆ
4. ใครที่อ่านสองบอร์ด อยากบอกว่า "นายแน่มาก"  o13
5. "น้องคีสรักทุกคนค่ะ"^^ (แล้วอาหมวยก็โอ้ลั่นล้าเดินจากไป = =)

จริง ๆ อยากจัดหน้ากระดาษให้สวยกว่านี้นะ แต่แบบว่า = = คือเอาอย่างนี้ไปก่อนละกัน ว่างจะมาแก้ T^T
บุ้ย ๆ :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2012 22:16:04 โดย memew »

ออฟไลน์ pppp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 387
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ตามมากรี๊ดพี่เอกค่าาาาา
น้องกายก็นะ ยอมให้พี่เค้าจูบเอา จูบเอา ผิดผีแล้วนะ
อย่างงี้เสียหายนะคะ ไปบอกพี่เอกให้เอาแม่มาขอเด๋วนี้

คนของเธอ

  • บุคคลทั่วไป
เป็นการอาบน้ำที่ล่อแหลมมาก ยั่วกันสุด ๆ  :z1: :z1:

ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า  (เปล่า นักเขียนจงใจให้คิด :laugh:)  พี่เป้ดูเหมือนจะ 'หึง' น้องยังไงไม่รู้  o18

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :o8: จูบกันอีกแล้ว

ออฟไลน์ you13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
พี่เอกหวั่นไหวแล้วน่ะ

 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ชอบมากกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
พี่เป้คิดกับเต้ยเกินกว่าพี่น้องกันหรือเปล่า ^^

พี่เอก น้องกาย เกิดนึกอยากดูแลขึ้นมาเหรอ
ทำโน้นนี่ให้ ใส่ใจกันดีเหลือเกิน

แน่ๆ เผลอจุ๊บๆ กันอีกแล้ว  :o8:

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ทำไมกายไปยอมเขาง่ายๆหยั่งงั้นล่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
ตามอ่านทั้งสองที่อย่างเงียบๆค่ะ,,, > ชอบคู่ หลัก ของเรื่องมากเลยนะคะ    แต่ที่อยากจะเข้ามาบอกก็คือ แอบเชียร์ คู่ พี่-น้อง!!!!!

โอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พี่เป้ กับ น้องเต้ย!!!  (หรืออาจจะเป็นเพราะ อารมณ์ ชาย - ชาย ว่ายาก แล้ว ชาย - ชาย ที่เป็นที่น้อง มันดู เข้าถึงยากเข้าไปอีก ไหนจะ สังคม และครอบครัว ปัจจัยเหล่านี้นั่นเอง ที่เรา กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!)   :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด