Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)  (อ่าน 681060 ครั้ง)

ออฟไลน์ junjou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • www.facebook.com
เอ๊ะ!! เหมือนเคยเห็นเรื่องนี้ใน dek-d
ดีแล้วค่ะที่เอามาลงเล้า (เพราะส่วนตัวแทบไม่โผล่ไปเด็กดี 555555)

เรื่องนี้สนุกมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  o13 o13
กายนี่แบบเป็นเคะที่ตามหาอ่ะ น่ารักแบบ...ม๊ากกกกกกกกกกกกกกก  :-[ :-[
รักจริงๆเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ!!!

 :L1: :L1: :L1:

premierfour

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดด !!! ตามมาจากเด็กดี(Dek-d) อร้างงงงงงง >___________<;;

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
 :m1:  มาแล้ว!!!

tawan

  • บุคคลทั่วไป
ยังรออยู่นะ

อย่าหายไปนานนะ

 :call:

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ตอนนี้พี่เอกเร่าร้อนจัง กายจ๋าเจ็บน่าดูเลยใช่มั้ย
รอตอนต่อไปค่ะ

MonKey

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เลยค่ะ 5555 งานการไม่ทัน ติดน้องกายกับพี่เอก ><
ชอบน้องกายอะ น่้ารักมาก ๆ เลย พี่เอกก้เท่อะ หื่นด้วยย ~ -..-
ชอบมาก ๆ เลยค่ะ  ^^
มาต่อเร็ว ๆ นะคะ รออยู่ 55555
ขอบคุณค่ะ ;)

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
 :m20: :m20: :m20: :m20:


หายไปนานเลย

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
นอนกันไปก้อหลายครั้ง

พี่เอกบอกรักกายบ้างเหอะ

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แอร๊ยยย!! อยากกินข้าวต้มกุ้งไวๆจัง

karenlarent

  • บุคคลทั่วไป
พี่เอกกกกกขาาาาาาาาา  :กอด1: 5555555555555555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
รอตอนต่อไปน๊า พี่เอกน่ารักมาก

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
พี่เอกน่ารัก น้องกายก็น่าฟัด  :-[

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
 Kiss Love ♥ [20] จะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไร
[เอก...☼]
 



ผมยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ ไอ้เป้ มันยังยืนมึน ๆ อยู่ อันนี้เป็นเรื่องปกติของมันตอนเมาแล้วตื่นนอน ต่างกับไอ้เต้ยที่สดใสแต่เช้า สงสัยมันอารมณ์ดีที่ได้นอนกอดพี่มันทั้งคืน

ผมหันไปมองไอ้สี่ตัวที่ยังนอนหลับสนิทอยู่ในห้องรับแขก เมื่อคืนเห็นไอ้โอ๊คมันนอนอยู่ที่พื้นแต่ตอนนี้มันขึ้นไปนอนอยู่บนโซฟาแล้ว มันนอนคว่ำหน้าแขนร่วงระพื้น ส่วนไอ้สามตัวที่เหลือนอนเกยกันอยู่ที่เดิม ไอ้มอนอนหงายแผ่หลาผมชี้โด่เด่ เสื้อมันเลิกสูงเผยกล้ามท้องแข็งแรงหกห่อ มีไอ้โอมนอนน้ำลายไหลยืดทับพุงมันอยู่ ส่วนไอ้ปิงได้แขนไอ้มอเป็นหมอนรองหัว งอตัวขดเป็นกุ้ง ผ้าห่มสี่ผืนถูกมันลากไปม้วนเป็นก้อนกลม ๆ กอดคนเดียวจนหมด

ผมปล่อยให้พวกมันนอนกันไปก่อน ยังไงซะวันนี้ก็วันเสาร์ ปล่อยพวกมันไป

ไอ้เต้ยยืนแกะกุ้งอยู่ข้างไอ้ตัวเล็กที่กำลังซาวข้าวในหม้อ

เมื่อคืนผมเมา แล้วก็ทำเรื่อง เอ่อ…อย่างนั้นไป

จริง ๆ ผมก็รู้ตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ แต่เวลาเมาผมจะอึดมากกว่าปกติ แถมยังชอบความรุนแรงด้วย ออกแนวซาดิสม์หน่อย ๆ ด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นมันทำท่าหวาดกลัวเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เมื่อคืนเลยเผลอฟัดมันไปหลายยก กว่าจะหมดแรงก็เกือบเช้า แอบทึ่งที่มันยังลุกขึ้นมาเดินได้

ใจจริงผมก็อยากนอนต่อ แต่เป็นห่วงมัน เลยลุกตามมันมาด้วย เห็นมันเดินแปลก ๆ เป็นบางจังหวะ คงฝืนอยู่ ยังดีที่มื้อเช้ามันทำอะไรง่าย ๆ เลยไม่ต้องช่วยอะไรมาก ผมยืนมองไอ้ตัวเล็ก ในขณะที่ไอ้เป้ยืนมองน้องมันเหมือนคนหลับใน

“นี่ ๆ มีหมูสับไหมมึง สับแหลก ๆ เลยนะ พี่กูชอบ”
ไอ้เต้ยมันสะกิดเพื่อนมัน
 
“อืม หมูอยู่ในตู้เย็น ไปหยิบมาดิ”

ไอ้เต้ยรีบวิ่งจู๊ดไปหยิบมาให้ทันที ไอ้ตัวเล็กรับหมูมาล้าง วางไว้บนเขียง เตรียมสับ มันเบ้หน้าหน่อย ๆ ตอนลงมีดแรก มันคงสะเทือน ผมรีบเดินไปคว้ามีดจากมือมัน มันเงยหน้ามอง ผมจ้องกลับนิ่ง ๆ ให้รู้ว่าที่ผมแย่งมาเพื่ออะไร มันไม่ค้านครับ หันไปทำอย่างอื่นต่อ ส่วนผมก็ยืนสับหมูไป

“โห พี่เอกเก่งจัง”
ไอ้เต้ยมันชม

“กูก็ทำได้”
ไอ้เบลอมันพูดขึ้นมาบ้าง นิสัยเก่ามันกำเริบ ต้องเป็นที่หนึ่งสำหรับน้องมันเท่านั้น สงสัยจะเบลอจัด จนลืมว่าตัวเองกำลังแอ๊บเมินอยู่

ผมเลยยื่นมีดให้มัน มันรับไปสับโป๊ก ๆ โดยมีไอ้เต้ยปรบมือชื่นชมอยู่ข้าง ๆ ไอ้สองตัวนี่ก็ตลกดีวุ้ย ผมเลิกสนใจพวกมันหันไปช่วยไอ้ตัวเล็กหั่นผักทำเครื่องเคียงต่อ
 

ผ่านไปประมาณสามสิบนาที กลิ่นหอมคงลอยไปเตะจมูกของคนที่นอนอยู่เข้า พวกมันถึงได้พากันสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเกาหัวเกาพุงกันยกใหญ่ พวกผู้หญิงก็พากันเดินลงมาแล้วเหมือนกัน

“หอมจัง ทำอะไรกันอยู่”
ไอ้กิ๊ฟมันทัก ผมแอบมองมือมันนิดหนึ่ง ดูว่ามันทิ้งแมลงสาบไปแล้วรึยัง

“ข้าวต้มกุ้งฮะ”
ไอ้ตัวเล็กตอบ

“ใส่หมูสับด้วย”
ไอ้เต้ยเสริม

“แหม มึงนี่โชคดีว่ะเอก”
ไอ้มอมันเดินแฮงค์ ๆ มายืนอยู่หน้าห้องครัว ผมหันไปมองมันงง ๆ

“ทำไมวะ”

“ก็เมียมึงอ่ะ เป็นแม่ศรีเรือนดี”

ไอ้ตัวเล็กทำทัพพีตกพื้นดังเคร้ง มันรีบก้มเก็บ พวกคนที่เหลือพากันหัวเราะยกใหญ่

“มึง.. ถ้าไม่อยากโดนตีนกูอุดปากก็เงียบไปเลย”

มันเงียบครับ แล้วเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ ไอ้ตัวเล็กแทน

“พี่ขอถ้วยหนึ่งนะ กำลังหิว”
มันพูดเสียงหวานเหมือนตอนที่มันใช้ป้อสาว ๆ ไอ้ตัวเล็กยิ้มพยักหน้าให้มันที

“พี่จะอาบน้ำก่อนไหม”
มันถามไอ้มอด้วยความเป็นห่วง

ผมกวาดมองไปรอบ ๆ อีกที พวกผู้หญิงคงอาบน้ำล้างหน้ากันมาแล้ว พวกนี้เตรียมพร้อมตลอดแหละ คงรู้ว่ายังไงก็ต้องค้าง เลยพกพวกโฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ครีมทาผิวและอะไรอีกสารพัดสำหรับผู้หญิงติดตัวมาด้วย

แต่สำหรับพวกผู้ชายคงไม่

“ไปอานน้ำกันก่อนก็ได้ฮะ ชั้นบน ห้องไหนก็ได้”
มันบอกอีกที

ไอ้โอมมันวิ่งลิ่วขึ้นไปจองห้องรับแขกก่อน ไอ้โอ๊คกับไอ้ปิงตอนแรกกำลังจะเดินไปห้องไอ้ตัวเล็ก แต่ไอ้มอมันดักไว้ก่อน

“กูจะอาบห้องกาย พวกมึงสองคนไปอาบห้องแม่เลยไป้!”
แล้วมันก็หันมาหากายอีกที

“พี่ไปอาบน้ำก่อนนะแล้วจะรีบลงมา”
มันทำเสียงหวานอีกแล้ว ไอ้ตัวเล็กยิ้มรับ มันรีบหันหลังวิ่งลิ่ว ๆ ขึ้นไปทันที

คันครับ…

ตอนนี้ผมกำลังคันหน้าอกอยู่ ยิ่งเห็นไอ้มอทำท่าสนิทสนมมากเท่าไหร่ มันยิ่งรู้สึกคันหน้าอกแปลก ๆ ยังไงบอกไม่ถูก อย่าว่าแต่ไอ้มอเลย ตอนนี้ใครเข้าใกล้ไอ้ตัวเล็ก ผมก็รู้สึกคันไปหมดแหละ

“ไอ้เอก”
ไอ้กิ๊ฟมันเดินมาตบหลังผมดังป้าบ ผมหันไปมอง

“ลด ๆ ลงซะบ้างเหอะ ไอ้รังสีหึงหวงของมึงเนี่ย แม้แต่กับเพื่อนมึงก็ยังไม่เว้นนะ”

ผมขมวดคิ้วมองมันงง ๆ มันยิ้ม แต่ไม่พูดอะไรแล้วเดินจากไป

รังสีหึงหวงอะไรของมันวะ

“กายพี่ขอถ้วยหนึ่งนะ”
แล้วพวกผู้หญิงก็เดินต่อคิวมาให้ไอ้ตัวเล็กตักข้าวต้มให้ มันยิ้ม ตักใส่ถ้วยของแต่ละคน

ขนาดทำกับข้าว มันยังเน้นสวยงามเลย พอมันตักใส่ถ้วยเสร็จ ก็โรยด้วยผักชี ราดพริกไทยเป็นสาย ๆ ซะสวยงาม

อย่าว่าแต่เพื่อน ๆ ผมจะน้ำลายไหลเลย ตัวผมเองยังทำน้ำลายหกไปหลายแหมะ เหมือนมันจะรู้ว่าผมหิว มันเลยเดินถือข้าวต้มถ้วยใหญ่มาไว้ตรงหน้า

พวกเรากินกันไม่เป็นที่ครับ กินกันในครัวนั่นแหละ อยากกินตรงไหนก็กิน สาว ๆ ยึดครองเคาน์เตอร์ทำอาหาร กินไปเม้าท์ไปตามประสา ผมนั่งคู่ไอ้ตัวเล็ก ไอ้เบลอนั่งคู่น้องมัน

ไอ้เต้ยจ้วงตักหมูในถ้วยตัวเองให้พี่มันกิน ส่วนตัวเองก็แย่งกุ้งจากพี่มันมากินอีกที ดู ๆ ไปแล้วก็น่ารักดี

ไอ้ตัวเล็กมันตักข้าวต้มใส่ถ้วยเรียงกันไว้อีกสี่ถ้วยข้างหม้อ เผื่อพวกที่ยังอาบน้ำกันอยู่ สักพักไอ้โอมก็วิ่งลงมา

“ของพี่ละกาย”
มาถึงมันก็ทวงทันที

ไอ้ตัวเล็กใช้ปลายช้อนชี้ไปยังถ้วยข้าวต้มที่วางเรียงกันอยู่ ไอ้โอมฉีกยิ้ม รีบเดินไปยกมาถือถ้วยหนึ่งแล้วเอาไปนั่งกินที่พื้นเหมือนเด็ก ๆ ตามมาติด ๆ ด้วยไอ้มอ มันรีบเข้าประชิดไอ้ตัวเล็กทันที แถมยังชิดมากกว่าปกติอีกด้วย

ผมขมวดคิ้วมอง ไอ้ตัวเล็กมันก็ชี้บอกเหมือนเดิม แต่มันทำตัวเรื่องมาก บอกขอนู่นขอนี่เพิ่ม จนไอ้ตัวเล็กต้องลุกไปทำตามที่มันขอ ไอ้มอยืนยิ้มรื่นหันมายักคิ้วใส่ผมสองที

ผมหน้าตึงค้างช้อนไว้ที่ปาก

มึงคิดอะไรของมึงไอ้มอ

สักพักไอ้สองตัวคู่หูเกียรตินิยมก็เดินลงมาบ้าง หล่อเฟี้ยวมาเชียวแต่ละคน

ไอ้ตัวเล็กมันก็บริการดี ลุกไปยกถ้วยข้าวต้มให้พวกมันทีละคน ไอ้ปิงรับไปก่อน เอาไปนั่งกินข้าง ๆ ไอ้โอมมัน ตามติดด้วยไอ้โอ๊ค เห็นมันยืนหน้าซีด ๆ สงสัยจะแฮงค์หนัก เมื่อคืนมันดื่มเยอะด้วย

ผมชะงักงับปลายช้อนค้างไว้ที่ปากเหมือนเดิม มองตามมือไอ้ตัวเล็กที่เลื่อนไปยังแก้มไอ้โอ๊คเบา ๆ มันก็ดูจะอึ้ง ๆ ไม่แพ้กัน ไอ้นี่มันชอบจับหน้าคนรึไงฮึ ไอ้เป้ก็ทีแล้ว

“ไหวไหม ผมว่าพี่น่าจะกินกาแฟดำสักแก้วแก้แฮ้งค์ก่อนกินข้าวดีกว่านะ ไม่งั้นเข้าทางไหนมันคงออกทางนั้นแน่ ๆ”

ไอ้โอ๊คมันพยักหน้าซีด ๆ รับ

ไอ้ตัวเล็กหันไปชงกาแฟดำมายื่นให้ มันรับไปจิบ รสชาติคงขมจัด หน้าหล่อ ๆ ของมันเบี้ยวไปแถบ แต่ก็ดูดีขึ้นเยอะ พอกาแฟหมดแก้วมันก็ลงมือกินข้าวต้มต่อทันที

ตอนแรกก็กินกันแบบกระจัดกระจาย สักพักพวกมันก็พากันมายืนสุมหัวกินกันที่โต๊ะแทน เบิ้ลกันไปคนละหลายรอบด้วย
 
ของคนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่อย่าให้นับของผม
 

สรุป แทนที่พวกมันจะยกโขยงกันกลับ ก็พากันสิงสถิตนั่งเล่นเกมกันต่อ ส่วนพวกผู้หญิงก็พากันไปสุมหัวเรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพจากไอ้ตัวเล็กมัน บ้านใหญ่เลยดูคับแคบไปถนัดตา เสียงโวยวายของพวกมันนี่ คงดังไปถึงหน้าปากซอยเลยมั้ง
 
“กลับมาแล้วจ้า!!”
ได้ยินเสียงหวานสดใสทักทายมาจากทางหน้าประตู พวกเราที่นั่งเล่นกันอยู่หันพรึบไปมอง

เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรังอีก เต็มมือ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังสวยเอามาก ๆ ด้วย คงสูงไม่ถึง 170 ตัด ผมหน้าม้า ด้านหลังปล่อยยาวจนเกือบถึงสะโพกสีดำสนิท ใบหน้าหวานหมดจด ใส่เสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงยีนสีซีด รองเท้าผ้าใบไร้ถุงเท้า ดูเซอร์ ๆ เท่ ๆ ดี เดา ๆ เอาว่าอายุน่าจะประมาณยี่สิบต้น ๆ เหมือนพวกเรา

เค้าโครงหน้าเหมือนไอ้ตัวเล็กเอามาก ๆ แต่ต่างกันตรงที่สีผม เพราะไอ้ตัวเล็กมีผมสีน้ำตาล

“ว้าววว กลับมาแล้วเหรอฮะ คิดถึงจัง”
ไอ้เต้ยครับ มันวิ่งลิ่ว ๆ ไปซุกอกอิ่มทันที ซึ่งคนสวย (ในสายตาผม) ก็อ้าแขนที่ถือของบางส่วนไว้ออกรับ

“ของฝากผมล่ะ”
มันเงยหน้าขึ้นทวง

พวกเรายังงงอยู่ครับว่าเป็นใคร

“นี่จ้ะ ของเรา ส่วนนี้สำหรับพวกรุ่นพี่เรา”
คนสวยยื่นถุงของฝากขนาดใหญ่ให้มัน

“แม่”
เสียงไอ้ตัวเล็กดังมาจากทางหลังบ้าน

“มาได้ไง ก็ไหนว่าจะไม่กลับจนอาทิตย์หน้าไง”

“แหม ลูกชายได้รางวัลทั้งที ต้องมาอวยพรหน่อยสิ”

“หา!! คุณ แม่จริง ๆ เหรอเนี่ย คิดว่ารุ่นเดียวกับพวกเราซะอีก”
ไอ้อ้อยออกตัวหลังจากยืนตะลึงมานาน อันนี้ไม่ได้เว่อร์ครับ ผมก็คิดอย่างนั้นจริง ๆ

“โห คุณแม่ยังสาวและสวยเอามาก ๆ เลยครับ”
ไอ้มอรีบเข้าไปเสนอหน้าทันที ต่อมม่อมันฟุ้งกระจายเชียว

คุณแม่ทำท่าเอียงอายกุมแก้มแดง ๆ บิดซ้ายบิดขวา

เอ่อ…

ท่าเขินโนเนะมาก - -

ตอนแรกผมก็นึกว่าพวกนักเขียนต้องใส่แว่นตาหนาเตอะ ผมเผ้ารุงรัง ใส่ชุดซอมซ่อ หน้าตาไม่แต่ง ผมไม่หวี ทำตัวมืดมนอะไรทำนองนั้น ไม่คิดว่านักเขียนตัวจริงจะสวยขนาดนี้

“แม่จะกลับบ้านเลยหรือไปเชียงใหม่ต่อ”
ไอ้ตัวเล็กมันถาม

“กลับเลย แล้วจะบินไปเชียงใหม่อีกทีอาทิตย์หน้า พอดีเพิ่งปิดต้นฉบับได้”

ไอ้ตัวเล็กมันยิ้มร่า พวกเราเลยได้อานิสงส์ของกินเป็นน้ำพริกหนุ่มกับแค๊บหมูจากเชียงใหม่ อิ่มหมีพีมันไปตาม ๆ กัน

ไอ้เต้ยดูจะอ้อนคุณแก้วมากกว่าไอ้กายมันซะอีก มันกับแม่มันเหมือนเป็นพี่กับน้องกันมากกว่า ที่เหมือนแม่กับลูกน่าจะเป็นไอ้เต้ย

พวกเรานั่งเล่นนอนเล่นกันจนถึงบ่ายโมงก็พากันลากลับ ไอ้ตัวเล็กเดินออกมาส่งพวกเราที่หน้าบ้าน พวกสาว ๆ กลับรถใครรถมัน ไอ้เป้ไปส่งน้องมันที่บ้าน ส่วนไอ้โอ๊คกับไอ้ปิงไปด้วยกัน ไอ้มอมันติดรถไอ้โอมกลับ รายนี้จะขับรถเองก็ต่อเมื่อมีสาว ๆ มากับมันเท่านั้นแหละ ที่เหลือเกาะไอ้โอมตลอด

ส่วนผมขับรถกลับคนเดียว

นึกถึงรอยยิ้มของมันวันนี้แล้วก็พลอยพาเอาผมอดอมยิ้มตามไม่ได้ ผมชอบตอนมันอยู่กับแม่มัน เหมือนเป็นพี่น้องกันมากกว่า น่ารักดีครับ

เห็นแล้วอยากปกป้องมันดี

หือ?
ปกป้องเนี่ยนะ

มันเป็นผู้ชาย คงไม่อยากให้ผมไปปกป้องอะไรหรอกมั้ง ผมคิดกับตัวเองเงียบ ๆ เลี้ยวรถเข้าคอนโดไป   
..
..
..
..
..
..
..
..
“พี่เอกคะ”
เสียงหวาน ๆ หยุดเท้าผมไว้ระหว่างทางที่กำลังจะเดินไปห้องสภา ผมหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น นึกทบทวนอีกทีว่าเป็นใคร

“หนิง”
ผมลองเรียกดู

หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง
“คิดว่าพี่จะลืมหนิงซะแล้ว”

ผมยิ้มรับไปที หนิงคือคนที่คอยดูแลผมตอนไปสร้างโรงเรียนให้เด็กดอยกันนั่นแหละ

“มีอะไรรึเปล่า”
ผมถามกลับเรียบ ๆ

“คือ..พี่พอจะว่างไหมคะ พอดีหนิงมีตั๋วหนังว่างอยู่สองใบน่ะคะ”
แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนมาก ผมยิ้ม กำลังจะตกปากรับปาก หากสายตาไม่เหลือบไปเห็นใครบางคนเข้าก่อน

“กาย”
ผมกำลังจะเรียก แต่เสียงของใครอีกคนเรียกตัดหน้าผมไป

คิ้วผมขมวดชนกันมองภาพตรงหน้า ถ้ามันเรียกเฉย ๆ จะไม่คิดอะไรมาก แต่นี่ มันดันเรียกแล้วฉุดไอ้ตัวเล็กให้เดินตามไปด้วย ผมก้าวขาเตรียมจะเดินตามบ้างแต่ถูกหนิงเบรกเอาไว้ก่อน ผมหันไปมอง

“โทษทีนะ พอดีพี่ติดธุระ เอาไว้ครั้งหน้าละกัน”
ผมบอกแค่นั้น แล้วรีบเดินกึ่งวิ่งตามสองคนนั้นไป คลาดกันนิดเดียว ผมหันซ้ายหันขวามองหา จนเห็นแผ่นหลังไอ้ตัวเล็กไว ๆ ตรงมุมทางเดิน ผมรีบวิ่งตามไปทันที

“ช่วยพี่หน่อยนะกาย”

ผมหยุดเท้าตัวเองไว้ แอบยืนดูอยู่ห่าง ๆ

“ผมพยายามแล้วนะ แต่พี่ก็น่าจะรู้นิสัยมันดี รายนั้นถ้าไม่ได้คำตอบที่แท้จริงมันไม่มีทางปล่อยแน่ ๆ”

“พี่รู้ แต่ความอดทนของพี่ใกล้หมดแล้วนะ ถ้าขืนมันยังเข้าใกล้พี่อีก พี่ไม่แน่ใจว่าพี่จะทำอะไรมันลงไปบ้าง พี่…”

ผมรู้ครับ ว่าเรื่องที่พวกมันคุยกันอยู่คืออะไร แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ทำไม่มันต้องใกล้ชิดกันขนาดนั้นด้วย ผมกำมือแน่นจ้องมองไอ้ตัวเล็กในอ้อมแขนของไอ้เป้ ไอ้ตัวเล็กมันกอดตอบเช่นกัน

ความสับสนครอบงำจิตใจผม มันยอมนอนกับผม แล้วทำตัวเงียบเชียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่ยอมรับ..แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

แล้วมันทำแบบนี้กับผมคนเดียว หรือทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย

“ไม่เป็นไรนะพี่ ผมจะช่วยด้วยอีกแรง”
มันย้ำ

ไอ้เป้กอดร่างเล็กแน่นขึ้น สองมือผมยิ่งกำแน่นตามไปด้วย

ผมเกือบจะกระโจนเข้าไปกระชากพวกมันออกจากกันแล้วถ้าไม่มีเสียงหวาน ๆ มาเบรกเอาไว้ก่อน พวกมันผละออกจากกัน

ผมหันไปมองคนเรียก

“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ”
หนิงเดินเข้ามาหาตามติดด้วยเพื่อนสาวอีกสองคน ผมรีบเขยิบตัวออกมายืนอยู่ห่าง ๆ พวกมันพากันเดินออกมาบ้างเหมือนกัน ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผมอยู่ตรงนี้

ผมเหลือบมองไอ้ตัวเล็กตาขุ่น ก่อนก้มมองหญิงสาวตรงหน้าอีกที

“พี่ตกลงนะ”

“คะ?”
หนิงใส่เครื่องหมายคำถามด้วยความแปลกใจ

“ไปดูหนังกัน”
ผมพูดเรียบ ๆ เหลือบตามองไอ้ตัวเล็กอีกที เห็นมันเปลี่ยนสีหน้านิดหน่อย ก่อนกลับมาเป็นปกติ หนิงฉีกยิ้มกว้าง เพื่อน ๆ ก็พากันกระโดดดีใจยกใหญ่ 

ผมทิ้งคำตอบไว้แค่นั้นแล้วหันหลังเดินจากมา ไม่คิดจะทักทายพวกมันสองคนแม้แต่น้อย

ผมไม่รู้ ว่าทำไมผมถึงต้องทำแบบนี้

แต่ตอนนี้ผมกำลังหงุดหงิด หงุดหงิดที่ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ได้รับความพิเศษจากมัน

สรุป ผมก็ดูหนังไม่รู้เรื่องอยู่ดี ในหัวมีแต่ภาพของมันที่ถูกกอดจากไอ้เป้

ผมนั่งขมวดคิ้วจ้องมองพระเอกกำลังปั่นจักรยานโดยมีนางเอกนั่งซ้อนท้าย มือหนึ่งโอบเอวชายหนุ่มไว้ ส่วนอีกมือกรีดเส้นผมออกจากพวงแก้มขาวไปทัดใบหู เรียวหน้าสวยแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ทอดดวงตามองวิวจากสองข้างทางที่โอบรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวขจี

แล้วภาพเหล่านั้นก็เปลี่ยนไปกลายเป็นตัวผมเองที่กำลังปั่นจักรยานอยู่โดยมีไอ้ ตัวเล็กนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง มันกำลังสนุกอยู่กับการถ่ายรูปจากกล้องตัวเก่ง ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มเคล้าเสียงหัวเราะตอนผมแกล้งปั่นจักรยานเป๋ ๆ เข้าข้างทาง

“พี่เอก”
มันยิ้มร่าเรียกผมด้วยน้ำเสียงสดใส

“พี่เอก”
แต่เสียงมันหวานเกินไปแฮะ

“พี่เอกคะ”

“หื้อ?”
ผมหันไปขานรับทันทีที่รู้ว่าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่

“ไม่สนุกเหรอคะ เห็นเหม่อ ๆ”

“เปล่าหรอก พอดีพี่คิดเรื่องงานอยู่น่ะ”

หนิงยิ้มรับ

“มีเรื่องอะไรให้หนิงช่วยก็บอกหนิงได้นะคะ”
เธออาสา

ผมพยักหน้ารับไปที ตอนนี้อารมณ์บ่จอยครับ

 

หลังจากดูหนังจบ ผมว่าจะพาหนิงไปกินข้าวต่อ แต่ระหว่างทางผมเหลือบไปเห็นอะไรเข้าก่อน และภาพนั้นก็ทำเอาผมก้าวขาแทบไม่ออก

ไอ้ตัวเล็กยืนอยู่ตรงนั้น มันกำลังเลือกกล้องอยู่ในร้านขายกล้องขนาดใหญ่ โดยมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วชายคนนั้นก็กำลังกอดเอวมันอยู่ กอดเหมือนที่ผมเคยกอดนั่นแหละ ท่าทางดูสนิทสนมกันมากด้วย

มันยิ้มรื่น หันไปทำท่าออดอ้อนอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันไม่ได้อ้อนเยอะเหมือนไอ้เต้ย แต่ก็ถือว่าอ้อนเยอะแล้วสำหรับผม แววตามันเวลามองชายคนนั้นเต็มไปด้วยความรัก ความคลั่งไคล้ จะว่าด้วยความเสน่หาด้วยก็ได้

ผมยืนนิ่งกำหมัดแน่น

ภาพที่มันกำลังสั่นสะท้านภายในอ้อมแขนผมแตกกระจายกลายเป็นภาพมันที่กำลังสั่นสะท้านภายในอ้อมแขนของชายคนนั้นแทน

“พี่เอกคะ”
หนิงเรียกด้วยน้ำเสียงหวาด ๆ มองผมทีสลับกับคนที่ผมมองที

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“เปล่า”
ผมตอบห้วน ๆ

หนิงมองไปยังคนที่ผมกำลังมองอยู่บ้าง

“เอ๋…นั่นใช่กายหรือเปล่าคะ เด็กใหม่ในกลุ่มพี่ที่เคยไปเข้าค่ายด้วยกัน ถ้าหนิงจำไม่ผิดนะ”

ผมมองคนที่กำลังฉีกยิ้มดีใจเมื่อชายคนนั้นควักเงินก้อนโตซื้ออุปกรณ์กล้องราคา แพงให้ แล้วหลังจากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีดวงไฟลุกพรึบท่วมตัว เมื่อชายคนนั้นจิ้มแก้มตัวเองเบา ๆ แล้วเจ้าตัวเล็กก็ยืดขึ้นสุดตัวไปกดจูบ

ผมรีบหันหลัง เดินออกไปจากจุดนั้นทันทีโดยมีหนิงวิ่งตามมาติด ๆ
..
..
..
..
..
..
..
..
และตอนนี้ผมก็มานั่งเคาะนิ้วใส่พวงมาลัยรอใครสักคนอยู่ในรถ ประตูหน้าบ้านยังปิดสนิท กุญแจยังคล้องอยู่ที่ห่วง ทำให้รู้ว่าเจ้าของบ้านยังมาไม่ถึง ผมนั่งรอมาร่วมชั่วโมงแล้ว และยังคงตั้งหน้าตั้งรอคอยต่อไป กระทั่งมีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดสนิทหน้าบ้าน ผมจอดรถไว้ห่าง ๆ ไม่ให้มันสังเกตเห็น มันก้าวลงจากรถ โดยมีชายคนนั้นก้าวตามลงมาด้วย

ชายคนนั้นมองเข้าไปในบ้าน มันพยายามฉุดแขนให้เข้าไปด้วยกัน แต่เขาปฏิเสธ สุดท้ายมันก็ยอมแพ้ รับของทั้งหมดมาถือไว้ แล้วยืนนิ่งให้อีกคนหอมแก้ม

ชายคนนั้นเดินกลับขึ้นรถไป มันยืนส่งด้วยรอยยิ้ม ก้มโบกมือบ๊ายบายผ่านกระจกที่เปิดลงมาจนสุด กระทั่งเขาขับรถจากไป 

ความหงุดหงิดเกิดขึ้นในใจ

ผมมาทำอะไรอยู่ตรงนี้

มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผม นอกจากเป็นคู่นอนกันชั่วครั้งชั่วคราว

ผมไม่ควรจะใส่ใจมากมายใช่ไหม

แต่ตอนนี้ ผมกำลังก้าวลงจากรถ เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างหลังมันที่กำลังไขประตูเข้าบ้าน มันสะดุ้งโหยงหันมามอง คงแปลกใจที่เห็นผมมายืนอยู่ตรงนี้

“พี่เอก”
มันเรียก

ผมคว้าจับต้นแขนมันแรง หมุนเปิดประตูออก ดันมันก้าวเข้าไปภายใน ผลักประตูปิดตามดังโครม แล้วลากมันไปโยนไว้บนโซฟา

“พี่เอก!” 
         
ผมทิ้งร่างลงไปคร่อมมัน โน้มหน้าปิดปากมันไว้ด้วยปากตัวเอง ปิดกั้นไม่ให้ทุกเสียงเล็ดลอดออกมาได้ มือไม้ก็ฟ้อนเฟ้นไปทั่วผิวเนื้อภายใต้ชุดนักศึกษาของมัน มันพยายามครางห้าม แต่ผมหน้ามืดแล้ว
 
ไฟมันกำลังไหม้ตัวผม และผมรู้ว่าใครที่จะช่วยดับมันได้
 
จากครางห้าม เสียงมันเริ่มเครือครางกลายเป็นครางวาบหวิว มือไม้ที่เคยผลักไสเริ่มอ่อนแรงกำเสื้อผมแน่น ดวงตาหวาดผวาปรอยลงจนฉ่ำ ผมจับมันพลิกคว่ำ คลี่ถอดกางเกงมันออก แล้วนำพาความเป็นชายของตัวเองจ่อไว้ที่ปากทางเข้าทันที ไม่มีอารัมภบทแล้วครับ
 
ผมรู้แค่ว่าผมกำลังโกรธ โกรธที่มันยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้คนอื่นเชยชม
 
คนอื่นที่ไม่ใช่ผม
 
ผมต้องทำให้มันรู้ว่ามันเป็นของผม
 
ของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น
 
ช่องทางแคบ ๆ ของมันรัดผมแน่น มันกำลังต่อต้านด้วยความไม่พร้อม แต่ผมไม่มีอารมณ์มาทำให้มันพร้อมแล้ว ผมขยับอยู่สองสามทีเสือกไสตัวเองเข้าไป ก่อนที่เราสองคนจะเชื่อมร่างเป็นหนึ่งเดียว มันหอบหนัก
 
แล้วผมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเอาแต่บรรเลงเพลงโทสะจนตัวมันสั่นคลอน เสียงอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจไม่ผ่านโสตส่วนไหนของผมแม้แต่น้อย ฟังแล้วเหมือนเสียงร้องขอให้ผมกระทำการรุนแรงมากกว่า
 
ผมจับสะโพกมันยกสูงในขณะใส่จังหวะให้ช่วงล่างหนักหน่วง ผมสาดใส่ความโกรธอยู่ไม่นานก็พุ่ง มันไปก่อนผมนานแล้ว ผมค้ำตัวหอบหายใจแรงบนตัวมัน
 
มันหมดแรง นอนหายใจรวยริน กลืนน้ำลายในคออึกใหญ่ มันค่อย ๆ พลิกหน้ามามอง แววตามันยังฉาบความกลัวเอาไว้อยู่
 
“พี่เอก.. เมาเหรอ”
มันทักกลับซื่อ ๆ
 
ผมชะงักจับมันพลิกหงาย เกี่ยวสองขามันมาพาดไว้ที่แขน สอดใส่ความพร้อมเข้าไปอีกที แล้วจัดการขยับเข้าออกเป็นจังหวะ
 
“อ๊า..พี่เอก”
มันครางครับ ครางหวานเอามาก ๆ หน้าอกมันแม้จะมีเสื้อปกปิดอยู่แอ่นขึ้นสูง แต่ดูยั่วยวนอยู่ไม่น้อยสำหรับผม มันเอียงหน้าแนบแก้มกับพื้นโซฟา ไถลรับจังหวะกระแทกกระทั้นจากผม
 
ผมหอบหายใจหนัก มันปรายตามองผมนิดหนึ่ง ก่อนกัดฟันพยายามไม่เปล่งเสียงใด ๆ ออกมา มันคงพยายามอดทนอยู่ ผมโหมใส่จังหวะรุนแรงขึ้น จนเป็นมันเอง ที่หมดความอดทนเชิดหน้าส่งเสียงครางออกมา ตามันปิดสนิท ก่อนปรือเปิดขึ้นมามองผมอีกครั้ง กลีบปากแดง ๆ นั้นก็ครางสะท้านใส่ผมไม่หยุด
 
สายตาแบบนี้ ผมอยากให้มันมองผมเพียงคนเดียว น้ำเสียงแบบนี้ ผมอยากให้มันมีไว้เพื่อผมเพียงคนเดียว และชื่อที่มันครางเรียก ก็ควรจะเป็นของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น
 
“พี่เอก…”
 
“กาย นายต้องเป็นของพี่นะ ของพี่เพียงคนเดียวเท่านั้น”
ผมก้มบอกมันข้างหู ไม่รู้ว่ามันตอบรับหรือเปล่า แต่เห็นมันเชิดหน้า แล้วครางเสียงดังยิ่งกว่าเดิม


TBC…

อ่านกันให้หนุกเน้อ ^^

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เขาเป็นใครกัน พี่เอกอย่าคิดมากนะ

ออฟไลน์ ArMee

  • BTU"R
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เดาว่า ผู้ชายคนนั้นอาจจะเป็น " พ่อ " ของกายหรือเปล่า?

ออฟไลน์ redcapet2013

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • www.facebook.com
 :m25: :m25: :m25: :m25: :sad4: :sad4: :sad4: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:                                                                    .............พี่.....เอก.............พี่เอก..............ไอ้พี่เอก............          รักน้องกายเข้าแล้วละซิ...........ไอ้ความรู้สึก....ไม่พอใจที่เห็นน้องกายโอบกอดคนอื่น ที่ไม่ใช่ตน        ก็แหม.........สักคำ เคยบอกรัก น้องกายบ้างไหม............................ เจอหน้ากันทั้งที            แทนที่จะบอก กันดี ๆ ว่า รักนะ........กลับโหมทำรุนแรง จนน้องกายตั้งตัวไม่ติดซะอย่างนี้.........            แล้วเมื่อไหร่จะรู้ใจตนเองหล่ะ...........แค่เนี้ย.......น้องกายก็รัก ก็หลงพี่เอกจนหมดใจแล้ว........     ยังจะ....อะไรอีก......รีบบอกรักน้องกายซะที......ไม่งั้นคนอ่าน........... :haun4: :m25:......เลือดท่วมจอซะก่อน      เพราะ..จินตนาการ....... :impress2:....ของคนแต่ง........ :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป
คนนั้นคือพ่อของกายชัวร์555
ที่ไม่เข้าบ้านเพราะคงไม่อยากเจอแม่ของกายมั๊ง

ออฟไลน์ monsterkim

  • I think therefore I am. = เพราะฉันคิด ฉันถึงมีอยู่
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
อ้ากกกกกกกกกก พี่เอกกกกกกกกกกกกกกกก  :pighaun:  :haun4:

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
พี่เอกแม่มหลอกตัวเอง อาการแบบนั้นเค้าเรียนว่าหึงชัดๆๆ

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
พี่เอกน่ากลัวอ่ะ ทั้งตอนเมาตอนหึง สงสารน้องกาย
พี่เป็นอะไรกับน้องเขาหา  :angry2: มาทำกันอย่างนี้ได้อย่างไร

แล้วชายคนนั้นเป็นใครอ่ะ ถึงได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับกายขนาดนั้น หอมก้งหอมแก้มกันในที่สาธารณะด้วย หรือว่าจะเป็นคุณพ่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






biwtiz

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
คือ เกรงว่าคนที่ทำให้เอก -หึง- รุนแรงขนาดนี้ จะเป๊น "พ่อ" ของกายอ่ะดิ

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ว๊ากกกกก พี่เอกหึงได้เร่าร้อนมากเลยอ่า

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
พี่เอามาลงในเล้าละเหรอออ  :mc4: :mc4: :mc4:
ตามอ่านอยู่ในเด็กดี
เขินกายอ่ะ  :o8:
แต่หมั่นไส้พี่เอก  :m16:  :m31:  :fire:  :angry2:  :serius2:  :z6:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :

Kiss Love รักวุ่นวายนายสุดหล่อ #21

ตอน : เขาเรียกกันว่า 'หึง' ไง

[กาย...♥]




ผมงงครับ

บอกตามตรงว่างงเอามาก ๆ
 
ผมไปเที่ยวกับคุณพ่อมา ท่านเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ หล่อเฟี้ยวมาเชียว ไม่ได้เจอกันนาน ผมอยากให้พ่ออยู่กับผมนาน ๆ เลยเทกระสุนออดอ้อนไปยกใหญ่ แต่พ่อก็ใจแข็งใช่ย่อย ชวนให้เข้าบ้านก็ไม่ยอมเข้า
 
และตอนนี้ผมกำลังหอบหนัก งุนงงกับคนที่กำลังโหมแรงใส่ผมอยู่ มาถึงพี่แกไม่พูดอะไรนอกจากจับผมปล้ำกลางโซฟาในห้องรับแขกเลย
 
ยังดีที่แม่บินไปเชียงใหม่แล้ว ไม่งั้นคงยุ่ง
 
“กาย…นายต้องเป็นของพี่นะ ของพี่เพียงคนเดียวเท่านั้น”
 
ผมชะงักกับคำที่แกพูด ผมควรจะดีใจใช่ไหม แล้วทำไม พี่ต้องรุนแรงกับผมแบบนี้ด้วย
 
ผมงงครับ
หรือพี่เอกเมา แต่ก็ไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอลจากพี่แกเลยนี่นา
 
แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น…
 
ผมนอนหมดแรงโดยมีร่างพี่เอกหอบหนักอยู่ด้านบน พี่แกยกตัวขึ้นมาจ้องตาผม ดวงตาคมเคลือบไปด้วยเพลิงโทสะ
 
นี่ผมไปทำให้พี่เอกโกรธมาตั้งแต่ชาติปางไหนเนี่ย
 
“ตอบพี่มาตามตรง”
 
ก่อนมึงจะถามอะไรกู ช่วยปล่อยให้กูเป็นอิสระก่อนได้ไหม
 
มันถามพร้อมดันบางส่วนเข้ามาแน่นขึ้น
 
ตัวผมกระตุกไปวูบ
 
มึงจะรีดคำตอบอะไรจากกูด้วยวิธีอื่นไม่ได้รึไง
 
“ผู้ชายที่มาส่งเมื่อกี้เป็นใคร”
 
ผมปรือตามอง คนที่มาส่งผม…
 
“เขาเป็น…อื้อ”
กำลังจะตอบ แต่ของพี่แกกระตุกครับ คำพูดผมถูกกลืนหายไป
 
“อย่าเพิ่งยั่ว! พูดมาก่อน!”
 
ไอ้เชี่ย! กูยั่วมึงตรงไหน ของมึงมันกระตุกต่างหาก ผมปรือตามองอีกที
 
“ปล่อยผมออกก่อน”
 
“ไม่!! พี่จะอยู่อย่างนี้ จนกว่านายจะตอบคำถามพี่ทั้งหมด”
มันว่าพลางถอนร่างและใส่กลับเข้ามาใหม่
 
โอ๊ย ให้ตายสิ
 
กูจะบ้าตาย
 
ผมปรือตามองอีกที
 
“เขาเป็นอื้ออ…”
กำลังจะตอบครับ แต่ของพี่แกกระตุกอีกแล้ว
 
“กายตอบมา!!”
พี่แกสั่งเสียงดุ
 
ไอ้เชี่ยนี่!
 
“พะ พ่อ”
 
พี่มันชะงัก
 
“อะไรนะ”
มันถามย้ำเสียงเบา
 
ผมปรือตามองอีกที ก็กูตอบไปแล้วจะเอาอะไรกับกูอีก กูอยากตอบให้ชัดเจนกว่านี้ แต่ช่วยเอาน้องมึงออกไปก่อนได้ไหม
 
…กูเสียว
 
“พ่อ เขาเป็นพ่อผม”
ผมย้ำอีกที
 
พี่มันนิ่งครับนิ่งไปนานเลย สบโอกาสให้ผมได้กระเถิบถอนตัวเองออกมาจากแรงดึงดูดของโลก ปล่อยให้พี่มันนิ่งไปก่อน ผมขยับตัวลุก แต่ยังไม่ทันจะหลุดออกจากโซฟา ผมก็ถูกกระชากกลับไปนอนที่เดิมท่าเดิม

“พ่ออะไร”

แน่ะ ยังจะมาถามอีก พ่อก็พ่อสิวะ มีพ่ออะไรอีก

“ก็พ่อ”

“พ่อแบบไหน พ่อแท้ ๆ พ่อเลี้ยง หรือพ่อทูนหัว”
พี่มันให้ช้อยมาสามข้อครับ

ผมทำหน้างง ๆ

“พ่อแท้ ๆ”

พี่มันชะงักอีกรอบ ผมน่าจะอาศัยจังหวะนี้หนีออกไปใช่ไหม แต่กลัวว่าพี่มันจะกระชากผมกลับมาอยู่ที่เดิมอีก

มันจะโกรธอะไรผมนักหนา

“แล้วพี่มาโมโหผมเรื่องอะไร แล้วพ่อมาเกี่ยวอะไรด้วย”
ผมอ้อมแอ้มถาม

พี่มันยังทำหน้ายักษ์อยู่ แม้จะเบาบางลงแล้วก็ตาม
 
“เปล่า”
พี่มันตอบแค่นั้น คลายแรงรัดที่เอวผมลง

“แล้ววันนี้ไปไหนมา”
พี่มันถามอีกที

แต่ก่อนจะรีดคำตอบอะไรจากกู ช่วยปล่อยให้กูเป็นอิสระก่อนจะได้ไหม

“เอ่อ ผมว่า ใส่เสื้อผ้าก่อนดีไหม”
ผมอ้อมแอ้มขอ

“พี่ถามว่า ไปไหนมา!!”
พี่มันไม่สนใจคำร้องขอของผม กระชากถามเสียงเข้ม 

“พ่อพาไปซื้อของขวัญที่ภาพของผมได้รางวัลที่หนึ่งจากการประกวดน่ะ”
ผมรีบรัวลิ้นบอก

พี่มันพยักหน้า พ่นลมหายใจแรง แล้วก้มลงพิงหัวกับไหล่ผมอีกที

“พี่โกรธผมเรื่องอะไร”
ผมถามอีกรอบ

คือ..หาสาเหตุไม่เจอจริง ๆ

“เปล่า”
มึงจะงาบหัวกูอยู่แล้ว ยังมาพูดว่าเปล่าได้ยังไง

“พี่โกรธผม”

“เปล่า พี่ไม่ได้โกรธนาย แต่พี่กำลังโกรธตัวเอง”

งงครับ
มึงโกรธตัวเอง แล้วมาลงที่กูทำไม กูไม่ใช่ที่ระบายของมึงนะโว้ย

“พี่โกรธตัวเองที่โกรธนาย เวลามีคนมาแตะต้องตัวนาย”

เอ่อ พี่ครับ…

ไอ้ความรู้สึกนั้น เขาเรียกกันว่า…‘หึง’ รึเปล่า?
ผมว่าผมไม่ได้กำลังดีใจอยู่นะ แต่มุมปากผมมันกระตุกแปลก ๆ แถมหัวใจยังเต้นแรงอีกด้วย

แต่ผมไม่กล้าบอกพี่แกหรอก ว่าแกกำลังหึงผมอยู่

จะว่าไปวันนี้ผมก็แอบนอยด์ไปนิดหนึ่งเหมือนกัน ตอนเห็นพี่แกควงสาว แต่ลืมครับ พอดีพ่อโทรมาเลยลืมเรื่องพี่เอกไปเลย

ผมไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะพี่เอกยังไม่ชัดเจนกับผมเท่าไหร่ แต่ถ้าพี่เอกชอบผมขึ้นมาจริง ๆ จะหึงผมก็ไม่ผิด แต่นี่ พี่มันไม่พูดไม่บอกอะไรสักอย่าง ในขณะที่พี่แกก็มีทั้งผมและใครอีกหลายคนเคียงกาย

ผมไม่รู้ว่าพี่เอกจะตาม “หวง” คนที่นอนด้วยทุกคนหรือเปล่า

ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเพื่อผมคนเดียว หรือกับทุกคนที่พี่เอกควงด้วย

ผมไม่กล้าพูด และไม่กล้าที่จะถามด้วย

กลัวคำตอบที่ได้น่ะ

“ขอโทษที่รุนแรงนะ”

ผมเงียบไม่ตอบโต้อะไร

“งั้นพี่ขอไถ่โทษด้วยการทำเบา ๆ แทนละกัน”

“เอ๊ะ?”

ครับ พี่มันเริ่มกระบวนการไถ่โทษที่ผมมีแต่เสียกับเสีย

แม่ม… หื่นจริง ๆ
..
..
..
..
..
..
..
..

“ไปดูหนังกันไหม”
พี่มันชวนหลังจากผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว

“พี่ดูมาแล้วไม่ใช่เหรอ”
ก็จำได้ว่าวันนี้พี่เอกชวนหญิงไปดูหนังอยู่ นึกแล้วก็ปวดแปลบในใจ ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ แฟนก็ไม่ใช่ ทวงสิทธิ์อะไรไม่ได้อยู่แล้ว

และที่สำคัญ ผมยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองด้วย

พี่มันทำท่าอึกอัก

“พี่อยากดูอีกรอบ”
ให้เหตุผลแค่นั้น แล้วลากผมออกจากบ้านไป

และตอนนี้เราก็มายืนกันอยู่หน้าโรงหนัง แต่ต้องรอเวลาหนังฉายอีกเป็นชั่วโมง พอดีหนังเรื่องที่ผมอยากดูมันเพิ่งเข้าโรง คิวยาวเหยียด เราสองคนเลยพากันไปเดินเล่นฆ่าเวลา พี่แกพาเดินดูเสื้อผ้าบ้าง นาฬิกาบ้าง น้ำหอมบ้างแต่ละอย่าง ราคาพาเอาผมหูตั้งทั้งนั้น

ผมพยายามพาพี่แกออกห่างจากโซนแบรนด์เนมให้มากที่สุด แล้วบังเอิญชั้นล่างสุดของห้าง มีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายพอดี ผมเลยรีบลากพี่เอกจากชั้นสี่ลงไปที่ชั้นหนึ่งตรงลานกว้างทันที

ผมยิ้มปากแทบฉีก เมื่อรู้ว่าส่วนหนึ่งของภาพที่นำมาจัดแสดงนั้น มีภาพของคุณชรินทร์ร่วมอยู่ด้วย ผมรีบเดินเข้าไปดูทันที โดยมีพี่เอกยืนหน้าหงิกอยู่ข้าง ๆ แต่ผมไม่สนใจ

ตอนนี้ภาพถ่ายสำคัญกว่า

ผมยืนมองภาพดอกหญ้าสีเหลืองอ่อนกลางดงใบหญ้าสีเขียวขจีบนผืนดินกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา

“เจอกันอีกแล้วนะ”

ผมหันไปตามเสียงทักนุ่ม ๆ ฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร

“คุณชรินทร์”

“เรียกพี่ดีกว่า อย่าเรียกว่าคุณเลย”

ผมทำหน้าไม่ถูก ให้เรียกพี่เลยเหรอ โห เป็นเกียรตินะเนี่ย

“ฮะ พี่ชรินทร์”

“เชน”

“เอ๊ะ?”

“ชื่อเล่นของพี่เอง เรียกว่าพี่เชนก็ได้”

ผมยิ้มแป้น
“ไม่รู้มาก่อนเลย”

“ก็พี่ไม่เคยบอกใคร นายเป็นคนแรกที่พี่บอก”

ผมตาโตมองพี่แกแบบไม่เชื่อสายตา ยิ้มกว้างดีใจที่ตัวเองได้รับสิทธิ์พิเศษอันนั้น คนข้าง ๆ ผมกระแอมไอหนึ่งที ผมหันไปมอง
 
จริงสิ ลืมพี่เอกไปเสียสนิทเลย

“นาย…”
พี่เชนทำท่าคิด

 

“อ๋อ ดั่งดวงอาทิตย์ นายคือคนในภาพของกายนั่นนเอง”

พี่เชนจ้องหน้าพี่เอกอยู่พัก

 

“นายนี่เป็นคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพระอาทิตย์จริง ๆ เลยแฮะ”

“ขอบคุณครับ”
พี่เอกตอบรับเรียบ ๆ

“จัดถึงเมื่อไหร่ฮะ”
ผมถามแทรกด้วยความอยากรู้

“วันพรุ่งนี้”

“ว้า เร็วจัง ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีภาพมาลงที่นี่ด้วย ไม่เห็นมีแจ้งในบอร์ดเลย”

“ตามบอร์ดพี่ด้วยเหรอ”
พี่เชนถามยิ้ม ๆ

“ฮะ”

“งานนี้ไม่ได้ประกาศ พอดีพี่เอางานมาแทนเพื่อนน่ะ ฉุกละหุกไปหน่อย”

“แต่ผมรู้แล้ว”
ผมว่ายิ้ม ๆ

“ได้เวลาหนังฉายแล้ว”
พี่เอกชวนตัดบทสนทนาที่กำลังออกรสออกชาติของผมกับพี่เชนลง

“เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ”
ผมรีบท้วงอย่างเสียดาย

“ไปก่อนเวลานั่นแหละ พี่อยากดูหนังตัวอย่าง ขอตัวก่อนนะครับ คุณชรินทร์”
พี่มันบอกลาพี่เชนนิดหน่อย แล้วรีบลากผมออกไป ผมหันไปโบกมือให้พี่เชน
 

สุดท้าย ก็ต้องมายืนแง่วรอพี่แกเลือกขนมอยู่หน้าโรงหนัง เลือกอยู่นั่นแหละ ผมยืนหน้าบูด อุตส่าห์ได้คุยกับพี่เชนทั้งที

“เอ้า”
พี่มันยกป๊อบคอร์นกับโค๊กให้ผมแก้วใหญ่ ผมถือไว้แบบหน้าบึ้ง ๆ

“หนังจบพี่จะพาไปเดินดูอีกที”

ผมหน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม

“หนังจบห้างก็ปิดแล้ว ใครจะมาเปิดให้พี่กัน”

“พรุ่งนี้ก็มี”

“พรุ่งนี้ผมติดทำพรีเซนต์กลุ่ม ไม่รู้จะเสร็จกี่โมง”

เห็นพี่มันกระตุกยิ้มนิดหนึ่ง

“เลิกกี่โมง”

“ไม่รู้ สองหรือสามหรืออาจสี่ทุ่ม แล้วแต่เนื้อหาความยากง่ายของงาน”
ผมหน้างอตอบส่ง ๆ

“เสร็จแล้วโทรบอกพี่ละกัน บอกเบอร์นายมาด้วย”

ผมก็บอกเบอร์ไปแบบนอยด์ ๆ สักพักพี่มันก็ยิงเบอร์เข้ามา

“เอามือถือนายมาด้วย”
พี่มันรับไปกดอะไรนิดหน่อยแล้วยื่นคืน

“ป่ะ ไปกัน”
แล้วก็ลากผมเข้าโรงหนังไป
 

 

 

หนังสนุกครับ ลืมเรื่องพี่เชนไปเลย หนังที่ดูเป็นหนังตลก ขำกันทั้งเรื่อง ไอ้หน้าขรึมข้างผมยังนั่งขำกระจัดกระจาย ออกมาจากโรงหนังกรามแทบค้าง

 

“ไอ้เต้ยน่าจะชอบนะเรื่องนี้”
พูดแล้วก็ต้องหุบยิ้ม พ่นลมหายใจเบา ๆ

พี่เป้พยายามหลบไอ้เต้ยสุดฤทธิ์ ไอ้เต้ยก็มุ่งมั่นที่จะตามท่าเดียว ผมนี่ปวดหัวไปกับมัน

“ไปเลือกเนกไทช่วยพี่หน่อยสิ”

ผมหันไปมองคนพูด ห้างมันจะปิดแล้ว ร้านไหนมันจะเปิดกัน

พี่มันพยักหน้าไปยังเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่ยังมีลูกค้าแน่นขนัด

พวกคนรวยนี่ก็แปลก ของก็ใช่จะถูก ๆ แต่หาซื้อกันอย่างกับของมันราคาสี่ส้าห้าบาท ผมเดินตามพี่มันเข้าไปในร้าน เห็นราคาแล้วแทบจะลากพี่มันออกจากร้านทันที

เนกไทเส้นหนึ่ง ซื้อจักรยานได้ตั้งคัน

“ผมขอเนกไทพี่ไปแลกจักรยานได้ไหมเนี่ย”
ผมพูดลอย ๆ พี่มันหันมามอง

“อยากได้เหรอ”

ผมส่ายหน้า

“เปล่า แค่เห็นราคามันแล้วคิดว่าซื้อจักรยานได้ทั้งคัน”

พี่มันหัวเราะ

“เพื่อออกงานน่ะ บางครั้งเราก็ต้องทุ่มไปกับของไร้สาระเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ”

ผมเบ้หน้า

“ชอบแบบไหน”
พี่มันถาม ผมหันซ้ายหันขวา

“แล้วชุดพี่เป็นแบบไหนล่ะ”

มันต้องดูชุดก่อนครับ จะได้รู้ว่าเข้ากันหรือเปล่า พี่แกเดินไปเปิดสมุดภาพอะไรสักอย่างให้ดู แล้วชี้ไปที่สูทสุดเลิศในนั้น

บอกได้ทำเดียว เท่ครับ

“อยากเห็นของจริงจัง”

พี่มันมองหน้า

“งั้นเลิกงานแล้วจะเอาตัวไปให้ดู”

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้”

“เราจะได้รู้ไง ว่าไทที่เราเลือก เข้ากับสูทพี่หรือเปล่า”

โห พูดกันขนาดนี้ เลือกไม่ดีเสียชื่อหมด ผมก้มมองเนื้อผ้ากับสีสันในภาพก่อนเงยหน้าขึ้นมองพี่เอกอีกที หันซ้ายหันขวา จับพี่เอกหมุน ๆ อยู่สองสามรอบ ปัดผมอีกนิดหน่อย พยายามจินตนาการทาบพี่แกกับชุดในภาพ และตัดสินใจเดินไปหยิบไทมาเส้นหนึ่ง ยื่นให้พี่แก

“อันนี้แหละ เหมาะ”

พี่แกเลิกคิ้ว

“ทำไม”

“พี่เป็นพระอาทิตย์ ผมอยากให้พระอาทิตย์ดูสงบลงบ้างเวลาอยู่บนโลกมนุษย์”

พี่แกนิ่งครับ นิ่งอยู่นาน ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ

 กูพูดอะไรผิดวะ

“โอเค พี่เชื่อ ไปกันเถอะ”

แล้วเราสองคนก็เดินแถก ๆ ไปจ่ายเงิน ราคาแพงสุด ๆ ผมไม่ได้มองราคาตอนหยิบ แค่เห็นว่ามันน่าจะเข้าดี เท่านั้นเอง
..
..
..
..
..
..
..
..

“เวลามาเรียนมายังไง”
พี่มันถามขณะขับรถอยู่บนท้องถนน รถราบางตาไปเยอะเลย

“รถเมล์”

พี่มันหันมามอง ก่อนหันกลับไปมองทางตามเดิม

“เอารถไว้ใช้สักคันไหม”

ผมหันไปมองพี่แกงง ๆ

“หะ?”

งงครับ

“เอ่อ... พอดีมีรถว่างอยู่ มันไม่มีคนขับ จอดไว้เฉย ๆ มันเสียง่าย กำลังหาคนมาช่วยขับอยู่”

ผมรีบส่ายหัวทันที

“ไม่ดีกว่า”

พี่แกทำหน้าขัดใจ ผมรีบเสริมทันที

“เกิดผมทำเสียขึ้นมา คงจะหาเงินเป็นค่าซ่อมไม่ไหว ขึ้นรถเมล์นี่แหละ ถูก ประหยัด ไม่ต้องกลัวเสีย มีคนขับรถส่วนตัวให้อีกต่างหาก”

“พี่ออกค่าซ่อมให้”
พี่มันต่อรอง ผมยังส่ายหัวเหมือนเดิม

 “อย่าเลย ผมไม่อยากมีภาระ”

“ทำไม”

“มีรถเหมือนมีห่วงอันใหญ่ ๆ มาผูกคอ ต้องวิ่งวุ่นหาที่จอดรถ พอจอดได้ ก็ต้องมานั่งห่วงว่ามันจะหายไหม ต้องมานั่งล้าง นั่งดูแล เติมน้ำมันที่นับวันมันจะยิ่งพุ่งพรวด ๆ และอีกสารพัดปัญหา โอ๊ย ไม่เอาดีกว่า และที่สำคัญ…”

พี่เอกหันมาสนใจฟัง

“ผมขี้เกียจขับ”

พี่เอกหลุดขำพรืด

“โอเค เข้าใจล่ะ ถ้าพี่ไม่ติดงานอะไร จะขับไปรับไปส่งละกัน”

ผมหันไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อนั้นงง ๆ แล้วจะมารับมาส่งทำไม หน้าผมคงเป็นคำถามได้ดี พี่แกรีบตอบทันที

“ตอบแทนที่เลือกเนกไทให้”

โห คุ้มกันมากเลย เลือกเนกไทเส้นเดียว ได้นั่งรถฟรี

ผมขำกับข้ออ้างนั้น

เอาเถอะ ถ้าพี่แกว่างอะนะ งานล้นมือขนาดนั้น ผมพยักหน้าส่ง ๆ ไป

“อาทิตย์หนึ่ง รับส่งผมให้ได้สักวันละกัน”

พี่มันขมวดคิ้วสงสัย

“พี่น่ะ งานเยอะจะตาย”

พี่มันพยักหน้าเห็นด้วย

“ก็บอกให้เรามาช่วย ก็ไม่ยอมนี่นา”

“ไม่ละ ขี้เกียจ”

ผมบอกไปตรง ๆ พี่แกส่ายหน้าไปมา คงระอากับคำตอบผม มือก็หมุนพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าปากซอย นำพาผมส่งเข้าเคหสถานแสนคุ้นเคย

บ้านผมเองครับ
..
..
..
..
..
..
..
..
“นี่กาย กูจะไปทำงานพิเศษที่เดียวกับพี่กู”

ผมพ่นน้ำแป๊ปซี่ที่เพิ่งดื่มเข้าไปอึกใหญ่ทันที

“ซกมกอ่ะมึง”
มันว่าพลางยื่นทิชชู่มาให้

“นี่ มึงก็รู้ว่าพี่มึงต้องการความเป็นส่วนตัว แล้วมึงจะไปทำไม”

“กูไม่ได้ยุ่งกับความเป็นส่วนตัวมัน แต่กูกำลังค้นหาคำตอบที่กูอยากรู้ก็เท่านั้น เมื่อมันไม่บอก กูก็จะหาด้วยตัวเอง”

“เต้ย กูว่า…”

“หยุดไปเลยมึง!!”

กำลังจะพูดต่อ มันรีบเบรกคำพูดผมลงกึก

“ครั้งนี้กูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญ มึงต้องไปทำกับกูด้วย”

ผมหน้าเหวอ

“ทำไมกูต้องไปกับมึงด้วยล่ะ!”

“กูไม่อยากทำคนเดียว และอีกอย่าง มึงก็รู้ว่ากูไม่ถนัดงานพวกนี้ มึงไปช่วยกูที”

“กูไม่ไป”

“แต่มึงเป็นเพื่อนกูนะ” มันทำหน้าออดอ้อน

“ไม่”
ผมปฏิเสธเสียงแข็ง

“น่านะ”

“ไม่”

“กาย”
มันเรียกเสียงเบาติดจะเครือน้อย ๆ ผมหันไปมองหน้ามัน

“กูขอเวลาเดือนเดียว ถ้าในหนึ่งเดือนนี้ กูยังไม่ได้คำตอบ กูจะหยุดทุกอย่างลง”

ผมจ้องหน้ามันนิ่ง ๆ

เดือนเดียวงั้นเหรอ

เดือนเดียวที่มันจะหยุด

เดือนเดียวที่พี่เป้จะเป็นอิสระ

เดือนเดียวที่ทุกอย่างจะจบลง

…หรือเปล่านะ

ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“มึงสัญญาแล้วนะ”

“อืม กูสัญญา”

ผมพยักหน้า หวังว่าในหนึ่งเดือนนี้ พี่เป้จะยังอดทนได้นะ

แล้วผมจะสามารถกันมันออกจากพี่เป้ได้ไหมนะ

“ก็ได้ กูจะไปกับมึง”

มันยิ้มร่า กอดคอผมแน่น

“แต๊งค์ มึงเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุดเลย”

“นั่นแหละคือกรรมของกู”

“ไอ้ห่านี่”
มันโบกหัวผมแรง เราสองคนหัวเราะร่วน

แต่ในใจผม กำลังหวาดหวั่น ว่าทุกอย่าง อาจจะไม่ได้จบลงง่าย ๆ อย่างที่ผมคิดก็ได้


TBC...

ช่วงนี้ต่อมง่วงทำงานผิดปกติ ง่วงทั้งวันทั้งคืนเลย = = มีอะไรแก้ง่วงได้บ้าง ที่ไม่ใช่กาแฟน่ะนะ (แพ้กาแฟ) = =
 
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ฝากพี่เอกน้องกายไว้ในหัวใจท่านเช่นเดิม ฮิ ๆ  :impress2:



แจ้งเตือนจ้าาา
ใครที่ต้องการหนังสือ Kiss Love รอบแรกไปส่องรายละเอียดได้ที่เวปเด็กดีเน้อ ปิดโอนวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้แว้ววว ^^ ^^
"รายละเอียดการจอง http://writer.dek-d.com/m-e-mew/story/viewlongc.php?id=784728&chapter=48 ^^<" หรือเพจก็ได้ค่ะ (http://www.facebook.com/Memew28) ^^ ขอบคุณฮับ ^^

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
ท่าจะยุ่งแหะงานนี้ ไปเกาะติดเป้แบบนั้น เป้จะทนได้เหรอ

NaNaAS

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป
ชิชิ"หวงก้างทั้งๆที่ควงสาวอยู่เนี่ยนะ

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด