Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Kiss Love ► รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 100 เพิ่งเริ่มเท่านั้น |10/3/18|(ตอนจบ)  (อ่าน 680303 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ทำตัวดีๆนะพี่เอก  :fire: :fire:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
พี่เอกน่ารัก ได้อีก ขยันทำน้องเขินจริงๆ  :L2:



รอตอนต่อไปค่ะ



 :katai3:

ออฟไลน์ KJJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านไม่ได้หลับได้นอนมาสองคืน สนุกจังเลย พี่เอกอบอุ่นแต่มีความดิบๆอยู่ มาต่อไวๆน้า

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ตามมาเก็บตอนที่เหลือ 5555

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
นุ้งกายช้ำหมดแระะะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ Appman

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
60 เคลียร์...
[เอก...☼]




การกลับมาอีกครั้งของผมพาเอาเหล่าเพื่อน ๆ พากันขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมยังฟาดหัวฟาดหาง แต่มาวันนี้ผมกลับยิ้มรื่น ทำงานไปฮัมเพลงไป
 
“ไอ้เอกมันไปแดกยากล่อมประสาทที่ไหนมาวะ”
ไอ้มอมันท้วง

ผมไม่สนใจ อยากพูดอะไรพูดไป
 
อารมณ์กูดีโว้ย โดนเมียเอาใจทั้งคืน
 
เมื่อวาน พอกลับมาถึงที่คอนโด ผมก็บังคับ(อีกแล้ว)ให้ไอ้ตัวเล็กมันเอาใจผมตลอดทั้งคืน มันขัดขืนนิดหน่อย แต่ก็ยอมโดยดี
 
“คืนดีกันแล้วรึไงมึง”
ไอ้กิ๊ฟมันถาม ผมไม่ได้ตอบ นั่งฮัมเพลงทำงานต่อไป
 
 
เสียงมือถือผมดังเบา ๆ ผมหยิบขึ้นมากดรับ ยิ้มทันทีที่ได้ยินปลายสายบอก พรุ่งนี้สร้อยคอที่ผมสั่งทำไปก็จะมาแล้ว
 
ผมนั่งเซ็นเอกสารต่อ ก่อนนึกถึงคำพูดไอ้ตัวเล็กมัน
 
‘พี่อย่าถอดมันออกนะ’
 
มันพูดแบบนั้น เพราะอยากแยกผมออกจากไอ้อาร์ต แถมยังมาแอบทำรอยไว้ที่คออีกต่างหาก นี่มันกลัวจัด ถึงขนาดกล้าทำเรื่องพวกนั้นเลยเหรอ 
 
ประตูห้องทำงานเปิดออก ไอ้เป้เดินทำหน้าเรียบ ๆ เข้ามาภายใน มันวางแผ่นงานไว้ และก่อนที่มันจะก้าวออกไป ผมรีบเบรกมันไว้ทันที
 
“เป้ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”
 
ทุกคนหันมามอง คงลุ้นว่าผมกับมันจะวางมวยกันอีกรึเปล่า
 
“แต่กูไม่มีอะไรจะพูดกับมึง”
มันตอบ
 
“แต่กูมี”
ผมพยักหน้าให้ทุกคนออกไปรอกันข้างนอกก่อน พวกมันพากันทำเสียงขัดใจ แต่ก็ยอมหอบงานออกไปทำกันข้างนอก พวกเราลูกผู้ชาย มีอะไรต้องเปิดอกพูดคุยกันจะดีที่สุด
 
“กูขอโทษที่พูดเรื่องน้องมึงไปวันนั้น”

 
มันมองหน้าค้นหาความจริงจากคำพูดของผม
 
“กูยอมรับ ว่ากูหึงมึงกับกาย ก็กูเห็นมันกอดมึงที่ทางเดินหนีไฟ กูก็เลยเข้าใจผิด”
 
“นั่นเพราะมึงไม่เคยเชื่อใจคนของมึงต่างหาก”
 
“แล้วถ้าเกิดวันหนึ่ง มึงเดินผ่านมา แล้วเห็นกูยืนกอดอยู่กับไอ้เต้ย มึงจะทำยังไง”
 
“กูก็จะเดินเข้าไปต่อยมึงตอนนั้นเลย”
มันพูดด้วยท่าทางโมโห ก่อนคลายลง
 
ผมหัวเราะเบา ๆ
 
“เอ้อ..กูเข้าใจอารมณ์หึงมึงก็ได้”
มันสารภาพเสียงอ่อย
 
แค่ยกตัวอย่าง มันยังเป็นถึงขนาดนี้ นี่ถ้าผมเผลอไปกอดไอ้เต้ยมันเข้าจริง ๆ สงสัยผมคงจะเห็นดาวก่อนได้อธิบายแน่ ๆ
 
“กูอยากให้มึงรู้ไว้นะเอก กูถือว่ากายเป็นน้องของกูอีกคนเหมือนกัน”
 
ผมยิ้มให้มันไปที
 
“และถ้ากูไม่รักไอ้เต้ยมันก่อน กูคงหลงรักกายไปแล้วแน่ ๆ”
 
“งั้นมึงต้องข้ามศพกูไปให้ได้ก่อน”
ผมรีบสวนขึ้นทันที
 
มันยิ้มกว้าง แล้วหัวเราะร่วนตามมา
 
“กูก็คิดไว้อยู่แล้ว เพราะงี้ไง กูถึงต้องทำใจอย่างเดียว”
แล้วมันก็ทอดดวงตาเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง
 
“ทำยังไง กูถึงจะตัดใจจากไอ้เต้ยมันได้วะ”
คำถามมัน คงไม่ต้องการคำตอบ เพราะมันได้ลองมาทุกวิถีทางแล้ว ยกเว้นวิธีหาใครสักคนมาเป็นเครื่องมือ ซึ่งมันก็คงไม่คิดจะทำแน่ ๆ
 
ผมถอนหายใจเบา ๆ
 
“กูไม่รู้ว่าจะช่วยมึงยังไงดีเหมือนกันว่ะเป้ หัวใจของมึง มึงต้องจัดการเอาเอง แต่อย่าเอาเมียกูไปยุ่งด้วยก็พอ”
 
มันหันมาเลิกคิ้วใส่
 
“โหยมึง นี่น้องกูมีสถานะกับเขาแล้วเหรอเนี่ย”
 
ผมยักคิ้วให้มันที
 
“มึงอย่ามายุ่งแม้แต่ปลายนิ้ว”
ผมชี้นิ้วบอก
 
“คร้าบ ไอ้คุณหมาหวงก้าง”
ง่าย ๆ ครับ พวกเราผู้ชายด้วยกัน มีปัญหาอะไรก็พูดคุยกันตรง ๆ ถ้าเคลียร์กันไม่ได้ก็ต่อยกันสักสองสามหมัด จับมือ ตบหัวลูบหลัง พูดขอโทษกันอีกที เป็นอันจบ
 
เพราะถึงยังไงมันก็เป็นเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งเหมือนกัน
 
แต่ยังมีอีกหนึ่ง ที่ผมไม่รู้จะเคลียร์กับมันยังไง เพราะเคสของไอ้เป้ เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด แต่กับของไอ้โอ๊ค มันดันมาชอบกายเข้าจริง ๆ
 
 













 

“พี่เอกคะ”
 
ผมหันไปมองเจ้าของเสียงใส ๆ ของน้องสาวตัวน้อยผม ไอ้แอมนั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม ต่อด้วยไอ้ไอและไอ้อ้อน ตอนนี้ผมอยู่บ้านแล้วครับ พอดีโดนพ่อเรียกตัว สงสัยจะคุยเรื่องงาน พ่อยังไม่กลับ ผมเลยนั่งเล่นกับพวกน้อง ๆ อยู่ในห้องรับแขกรอ
 
“เอ่อ.. ตอนนี้พี่อารมณ์ดีแล้วใช่ไหมคะ ตกลงพี่คบกับพี่กายจริง ๆ แล้วใช่ไหม”
มันถามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
 
ผมปรายตามองจนพวกน้อง ๆ พากันสะดุ้ง
 
“มีอะไร”
ผมถามเสียงเย็น พวกมันคงไม่ได้เข้ามาถามเพราะเรื่องแค่นี้แน่ ๆ
 
“ก็…”
ไอ้อ้อนทำหน้าเป็นแมวหงอย
 
“พี่…”
แล้วก็ต่อด้วยไอ้ไอ
 
“พี่อย่า…”
เพิ่มบทพูดขึ้นมาทีละนิด
 
“มีไรว่ามา”
ผมทำเสียงเย็นยิ่งกว่าเดิม
 
“พี่เอกอย่าไปโกรธพี่อาร์ตเลยน้า ที่พี่อาร์ตทำไปทั้งหมด เพราะพวกเราเป็นคนขอร้องเอง”
ผมจ้องหน้าพวกมันด้วยความแปลกใจ
 
“คะ คือ..”
พวกน้อง ๆ พากันทำท่าหางตกหูลู่
 
“ก็พี่อ่ะหล่อ”
 
“น่ารักด้วย”
 
“แถมฐานะของครอบครัวเราก็ดี”
 
“มีคนเข้ามาจีบพี่ก็เพียบ”
 
“พวกเรา…”
 
“แค่อยากจะช่วยพี่กันพวกผู้หญิงไม่ดีออกไป”
 
“เหลือไว้แค่ผู้หญิงดี ๆ ที่รักพี่จริง ๆ”
 
“แล้วก็จะไม่เปลี่ยนใจไปจากพี่”
 
“ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามากระทบจิตใจก็ตาม”
 
“แต่ส่วนมาก”
 
“ที่ผ่านมา”
 
“ถ้าไม่พากันนอกใจพี่ก่อน”
 
“ก็ทนไม่ไหวที่พี่งานยุ่ง”
 
“แล้วที่พวกผู้หญิงพากันมาชอบพี่อาร์ต”
 
“ก็เพราะพวกเรายุให้พี่อาร์ต พากันทดสอบสาว ๆ พวกนั้นต่างหาก”
 
“ถ้าจริงใจ ก็ไม่ควรจะหวั่นไหวใช่ไหม”
 
“แต่นี่ พากันอ้าขาให้พี่อาร์ตกันหมดเลย”
 
“มีแต่พี่กายนี่แหละ”
 
“ที่สอบผ่าน”
 
พวกมันสลับกันพูด จนผมฟังไม่ทันว่าใครพูดประโยคไหนกันบ้าง ผมก็ได้แต่นั่งอึ้งจากสิ่งที่ได้ยิน
 
“พวกเราไม่อยากให้พี่มีปัญหากัน”
 
“พวกเราไม่เคยเห็นพี่โมโหพี่อาร์ตเพราะเรื่องผู้หญิงมาก่อน”
 
“แต่ก่อน พอพี่รู้เรื่อง ก็แค่ปล่อย แล้วก็ไปหาคนใหม่”
 
“แต่พอเป็นเรื่องพี่กาย”
 
“พี่เล่นต่อยซะหน้าหล่อ ๆ ของพี่อาร์ตเสียทรงหมด”
มันก็พูดซะเวอร์ แค่ปากเขียว ผมเขียวมากกว่ามันอีก
 
“พวกเราจึงลงความเห็นกันว่า”
 
“คนเนี่ย”
 
“พี่รักจริงแท้แน่นอน”
 
“ฟันธง!!!”
 
 
ครับ แล้วพวกมันก็ปิดประเด็นโต้วาทีเอาไว้แค่นั้น
 
บอกตามตรง แยกไม่ออกครับว่าใครพูดประโยคไหน มันโยนประโยคให้กันยังไง ปัจจุบันนี้ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้อยู่ดี
 
“ตอนแรกพี่อาร์ตเขาไม่อยากยุ่งหรอก เพราะเห็นว่าเป็นผู้ชาย”
 
“แต่ว่า..พี่กายดันไปจูบพี่อาร์ตเขาก่อน เอ่อ..พี่อาร์ตก็เลยเล่นด้วยนิด ๆ หน่อย ๆ อะไรทำนองนั้นล่ะมั้ง”
 
ผมถอนหายใจแรง มองหน้าพวกมันคาดโทษ สักพัก เจ้าตัวปัญหาก็เดินหน้าหล่อเข้ามา
 
“อาร์ต”
ผมเรียกเสียงเย็น มันก็ไม่คิดจะหลบ เดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ พวกทโมน มุมปากมีรอยต่อยแบบที่ผมมีเหมือนกัน แต่ผิดกันตรงที่ของผมมีสองข้าง ของมันมีข้างเดียว
 
“จริงรึเปล่า เรื่องที่น้อง ๆ ขอให้นายช่วยเรื่องพวกผู้หญิงของพี่”
ผมถามเสียงเรียบ แต่แววตาเอาเรื่อง
 
“จริงครึ่งไม่จริงครึ่ง”
 
ผมขมวดคิ้วมองมัน
 
“เรื่องจริงก็คือ กายจูบผมก่อน ผมเลยคิดว่าเป็นมุขยั่วผมเหมือนผู้หญิงบางคนของพี่”
 
อ้าว มีด้วยเหรอวะ เพิ่งรู้นะเนี่ย
 
“พี่ไม่รู้อะไร ผู้หญิงบางคนแกล้งมานัวเนียผม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผมไม่ใช่พี่ ผมก็เล่นด้วยบ้าง ไม่เล่นบ้างแล้วแต่อารมณ์ตอนนั้น”
 
ผมนั่งอึ้งไปอีกรอบ
 
ก็นะ ส่วนมาก ผู้หญิงที่กล้าเข้ามาจีบผม ก็คงจะไม่ใช่ประเภทรักนวลสงวนตัวอะไรมากมายอยู่แล้ว
 
 “แต่บางคนก็เข้าใจผิดจริง ๆ แล้วก็ขอโทษขอโพยผมยกใหญ่ คนพวกนี้ผมจะปล่อยผ่านไม่ทดสอบอะไร แต่จะคบกับพี่ได้นานแค่ไหน อันนี้ผมไม่รู้ สุดท้ายก็ทนความเย็นชาของพี่ไม่ได้กันสักคน”
พูดอีกมันก็ถูกอีก
 
ผู้หญิง รักใครชอบใคร อย่างน้อยก็อยากให้คนที่ตัวเองรักตัวเองชอบมาเอาอกเอาใจบ้าง ให้ความสนใจบ้าง ไม่ใช่เฉยชาแบบผม
 
แต่นั่นเป็นเพราะผมไม่ได้รู้สึกรักล่ะมั้ง อาจมีถูกใจบ้าง ชอบบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นรัก ถึงขนาดยอมวางงานแล้วไปหา เหมือนที่ผมเคยทำกับกาย
 
ผมพยักหน้าเข้าใจ
 
“แล้วที่ว่าไม่จริงล่ะ”
ผมถามต่อ เพราะเมื่อกี้มันบอกว่ามีเรื่องจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง
 
“ตอนแรกก็กะว่าจะทดสอบแค่นั่นแหละ แต่ทำไปทำมาชักติดใจ เลยเผลอแกล้งไปจริง ๆ พี่ก็รู้ เวลาผมชอบใคร ผมจะแกล้งคนคนนั้น เผื่อน้องมันไม่ได้คิดอะไรกับพี่ ผมจะได้เสียบ”
 
ผมถลึงตามอง มันหัวเราะหึ ยกมือขึ้นมาทำท่ายอมแพ้
 
“ก็ได้ ๆ ถ้าพี่จริงจัง ผมก็จะไม่ยุ่ง” มันลุกขึ้นยืน “แต่อย่าให้เผลอละกัน ผมเตรียมเสียบเสมอ” แล้วมันก็วิ่งลิ่วหนีขึ้นชั้นบนไป
 
“นี่เดี๋ยว!! กายเป็นคนของพี่นะ ห้ามยุ่ง ห้ามแย่ง ห้ามแตะต้องเด็ดขาด!!”
 
“งั้นพี่ก็คงต้องหากรงมาขัง หรือไม่ก็ต้องดูแลดี ๆ อย่าปล่อยให้มีช่องว่าง ไม่งั้นเสร็จผมแน่ อันนี้ผมพูดจริง ไม่ได้ล้อเล่น”
มันบอกก่อนก้าวเข้าห้องไป
 
“เดี๋ยว!! ไอ้อาร์ต ลงมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน!!”
 
ได้ยินเสียงปิดประตูดังปัง
 
“กรี๊ดดดด!!!”
 
“ศึกชิงพี่กายได้เริ่มขึ้นแล้ว อ้อนเชียร์พี่เอก”
 
“ไอเชียร์พี่อาร์ต เท่ หล่อ แอบเลว แอ๊บอบอุ่น ขี้เล่น มีชั้นเชิง”
 
“แอมเลือกพี่เอก ดุ เดือด เย็นชา เร่าร้อน อบอุ่นอ่อนโยนเป็นบางที ว้ายยยย”
 
“อยากให้พี่อิฐมาแข่งด้วยอีกคนจัง”
แล้วพวกมันก็เห็นเป็นเรื่องสนุกไป ผมถอนหายใจแรง จบจากเรื่องหนึ่ง ก็มีอีกเรื่องมาให้ปวดหัวเข้าไปอีก แล้วนี่ชีวิตผม จะมีความสงบกับเขาบ้างไหมเนี่ย

[ต่อ 70%] :z13:

มีอะไรหลาย ๆ อย่างในตัวกาย ที่ทำให้ผมชอบ อย่างเช่นตอนนี้เป็นต้น

 
“อ๊ะ อืม พี่เอก พอ…”
 
คัท!!!
 
อันนี้ไม่ต้องบรรยายครับ ของตายอยู่แล้ว ผมรู้ว่าผมหื่น ผมรู้ว่าผมเป็นพวกมีความต้องการสูง แต่ผมก็ไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้มาก่อน
 
“อ๊ะ พอ เจ็บ”
 
หูย กำเดากูจะไหล
 
บอกให้คัท คัท!!!
 
“พอ พี่เอกหยุด”

 
“โอเค”
                ผมตัดสินใจ ปิดกล่องยาที่อยู่ตรงหน้าลง แล้วจับมันขึงพรืดกับโซฟาที่มันนั่งอยู่ทันที
 
ไม่ต้องบอกใช่ไหม ว่าผมอยู่ในอารมณ์ไหนแล้ว
 
“กาย”
 
มันมองตาผมปริบ ๆ ก่อนก้มมองบางอย่างด้านล่าง
 
“พี่เอก ทะ ทำไม”
มันคงจะถามว่าทำไม ผมถึงได้…ตื่น แบบนี้
 
“ก็กายมาครางด้วยน้ำเสียงแบบนั้นทำไม”
 
“ผมครางตรงไหน”
มันทำหน้างง
 
“ก็เมื่อกี้”
 
มันยิ่งขมวดคิ้วงุนงงเข้าไปใหญ่
 
คราวนี้ ผมเลื่อนมือไปกดแผลที่ข้อเท้ามันเบา ๆ
 
“อ๊ะ เจ็บพี่เอก”
 
“นั่นแหละ เสียงแบบนี้แหละ มันทำให้พี่นึกถึงตอนที่เรามีอะไรกันรู้ไหม”
                ผมบอกออกไปตรง ๆ หน้ามันแดงเลย
 
“พี่มันบ้า ผมเจ็บก็ร้องเจ็บสิ”
 
“ก็น้ำเสียงมันเหมือน”
 
“พี่นั่นแหละที่คิดไปเอง”
 
“พี่เปล่า”
 
“มันไม่เหมือนกัน”
 
“เหมือน”
 
“ไม่เหมือน”
 
“ดี งั้นพี่จะแสดงให้ดู”
พวกคุณไปเดินเล่นกันก่อนสักสองสามชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาอ่านต่อ ขอเวลาผมสำเร็จโทษมันก่อน
 
หลังจากนั้น มันก็นอนหมดแรงอยู่ที่เตียง ผมก้มจูบแผ่นหลังมันไปที
 
“คราวนี้พี่จะแสดงหลักฐานให้ดู”
แล้วผมก็หยิบเอามือถือที่ผมอัดเก็บภาพและเสียงตอนที่เรามีอะไรกันมาเปิดให้มันฟัง
 
“อ๊ะ อือ พี่เอก อย่า”
มันรีบตะครุบคว้าสิ่งที่อยู่ในมือผม แต่ผมเบี่ยงหลบไปทางอื่น
 
“คราวนี้เข้าใจแล้วรึยังล่ะ ว่าเหมือนกันขนาดไหน”
 
มันอ้าปากพะงาบ ๆ
 
“พี่มันหื่น”
 
“คงงั้น เพราะงั้น ถ้าไม่จำเป็น อย่าทำเสียงแบบนั้นอีกเข้าใจไหม”
 
มันได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก
 
ฮ่า ๆ ๆ
 
ผมก็มีแต่ได้กับได้ละนะ
 
เปรม
 

To Be Con...                 
หายไปนาน มาทีมาแค่เนี่ย!! ฮ่า ๆ :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2016 19:42:21 โดย memew »

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
สารบัญ Kiss Love
«ตอบ #668 เมื่อ07-08-2016 12:22:25 »

ย้ายสารบัญกลับไปหน้าแรกค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2017 19:00:03 โดย memew »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ใครๆก็รักน้องกาย  :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
พี่เอกเจอศันรูตัวจริงเข้าให้แล้ว น่ารักทั้งสองครอบครัวเลย  :กอด1:


. รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ บูมพอส

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รอออออออออออออ ตอนต่อไปป :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
แผนหรออออ เกือบไปแล้วนะค่ะ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
พี่เอก ฝากต่อยหน้าอาร์ตอีกสองหมัด   :m16:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
ตอนที่ 61 : ตัวปลอม...ปลอมตัว [กาย..♥]

 
คุณว่าพี่เอกเป็นคนยังไง ถ้าด้านดีที่เห็น พี่มันก็หล่อ หุ่นดี เสียงเพราะ นุ่มนวลเป็นบางครั้ง อ่อนโยนเป็นบางที ฉลาด มากความสามารถ ทำงานเก่ง มีความเป็นผู้นำสูง
 
แล้วด้านแย่ ๆ ล่ะ
 
ก็มีเยอะครับ ทั้งเย็นชา เจ้าเล่ห์ ขี้โมโห ขี้หึง โหด หื่น ตื่นง่าย (มันมีสองตื่นนะ ไปคิดกันเอาเอง) เทียบแล้ว พี่มันมีด้านมืดมากกว่าด้านสว่างซะอีก แต่ทำไม ผมถึงหลงรักพี่มันได้ก็ไม่รู้
 
เวลาอยู่กับพี่แก ก็ใช่ว่าจะสุขสบาย อยู่ข้างนอกก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนในห้องล่ะก็ เสร็จครับ แทบจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
 
“อือ…พี่เอก ปล่อย”
ผมรีบห้าม เมื่อพี่มันเริ่มมาเกาะแกะแทะเล็มซอกคอ
 
ตอนนี้ผมนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่บนโซฟาครับ พี่มันเพิ่งกลับมาจากบริษัท อาบน้ำเสร็จก็มานั่งคลอเคลียอยู่ข้าง ๆ นี่แหละ
 
“อือ…วันนี้ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ขอกอดให้ชื่นใจหน่อยสิ”
 
“พี่ก็กอดผมทุกวันอยู่แล้วนี่ ผมขออ่านหนังสือก่อน พรุ่งนี้มีสอบนะ”
ผมรีบค้าน
 
คิ้วเข้มขมวดขัดใจทันที ก่อนพ่นลมหายใจออกแรง
 
“ก็ได้ สอบเสร็จแล้วเวลาเป็นของพี่ใช่ไหม”
 
ผมยิ้มแหยง
 
“พรุ่งนี้ผมต้องกลับบ้านไปหาแม่ เพราะอีกวันแม่จะไปเชียงใหม่แล้ว”
 
พี่มันทำตาปรอย แต่ไม่เคยค้านเรื่องเวลาที่ผมจะอยู่กับแม่
 
“แล้ววันมะรืนล่ะ”
 
ผมยิ้มแห้งอีกที
 
“พอดีผมนัดพี่เชนไว้ ว่าจะช่วยแกคัดภาพ แล้วให้แกแนะนำเรื่องการถ่ายภาพอีกนิดหน่อย ก่อนพี่แกจะเดินทางไปต่างประเทศอีกรอบ”
 
พี่มันเข้าโหมดเงียบทันที ผมยังแอบหวั่น ๆ ว่าจะมีระเบิดลูกใหญ่ลงรึเปล่า
 
แต่ไม่มีครับ
 
พี่มันเงียบ ก่อนก้มจูบขมับผมที ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้อง
 
“พี่จะไปไหน!”
ผมตะโกนถาม
 
“อ่านหนังสือไปเถอะ”
แล้วพี่มันก็ก้าวออกจากห้องปิดประตูลง 
 
นี่พี่มันโกรธอยู่หรือเปล่า
 
ผมพยายามดึงสติตัวเองกลับมานั่งอ่านหนังสือต่อ แต่ไม่มีสมาธิครับ ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าหัว ผมเลยตัดสินใจ ดีดตัวลุกขึ้นยืน วิ่งลิ่วออกจากห้องไป ไม่ลืมหยิบคีย์การ์ดติดตัวมาด้วย พี่มันทำให้เผื่ออันหนึ่ง สำหรับผมโดยเฉพาะ
 
ผมยืนหันซ้ายหันขวามองหาอยู่นาน จนเห็นพี่มันนั่งทำหน้าเครียดอยู่บนม้านั่งตัวยาวในสวนของคอนโด ผมเดินช้า ๆ ไปทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
 
พี่เอกหันมามอง
 
“ไหนว่าจะอ่านหนังสือ”
 
“ผมไม่มีสมาธิ”
 
“ทำไม พี่ก็ออกมาเพื่อไม่กวนสมาธิเราแล้วไง”
 
“เพราะพี่ออกมานั่นแหละ ยิ่งทำให้ผมเสียสมาธิ เพราะเป็นห่วงพี่ เพราะกลัวว่าพี่จะโกรธ กลัวว่าพี่จะคิดมากเรื่องพี่เชน กลัวว่าพี่จะน้อยใจที่ผมไม่ยอมมีอะไรด้วย กลัวไปหมดจนอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว”
 
พี่มันหันมามอง ก่อนลากผมขึ้นไปนั่งบนตัก
 
“พี่เอก!! นี่มันข้างนอกนะ”
 
“ดึกแล้ว ไม่มีใครสนใจหรอก”
 
“ไม่มีได้ไง คนมองกันให้พรึ่บ”
ผมรีบบอก แต่พี่มันไม่สนฮะ กอดผมไว้ ซุกหน้ากับหน้าอกผมเบา ๆ
 
“ขอโทษนะที่พี่เป็นคนแบบนี้”
 
ผมยิ้ม
 
“ผมก็ขอโทษที่เป็นคนแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมก็อยากให้พี่เข้าใจ ผมต้องสอบ และมีงานอดิเรกที่ผมรักและอยากทำ กับคนที่ผมรักในฐานะช่างภาพ ในฐานะพี่ชายไม่ใช่คนรัก..เอ่อ แบบพี่เอก”
เสียงสุดท้ายเบาครับ เบาหวิวเลย
 
พี่มันเงยหน้ามอง ส่งยิ้มหล่อเหลามาให้
 
“ผมรู้ว่าพี่เป็นพวกมีความต้องการสูง แต่ให้เวลาและเห็นใจผมบ้าง เราอยู่ด้วยกันเพื่อมีความสุข ถ้าพี่มีความสุขอยู่คนเดียว แล้วผมทุกข์ เราก็จะอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน แต่ถ้าผมมีความสุขแล้วพี่ทุกข์ ผมก็คงจะอยู่อย่างเป็นสุขไม่ได้ ตอนที่ผมอ่านหนังสือ ผมอยากให้พี่ลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำ อย่างอ่านหนังสือ เล่นเกม ดูหนังหรือฟังเพลงก็ได้ จะได้ไม่ต้องมานั่งรอแบบนี้”
 
พี่มันมองหน้าผมไม่วางตา
 
“หรือถ้าตอนที่ผมไม่อยู่ พี่ก็ไปทำอย่างอื่นเพื่อตัวเองบ้าง เวลาที่เราเจอกัน เราจะได้มีอะไรมาแชร์กัน ถ้าอยู่ด้วยกันมาก ๆ มันก็ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเร้าใจ ไม่มีอะไรสนุก ๆ มาเล่าให้กันฟัง ของบางอย่างกระหน่ำกินมากไปก็ทำให้เบื่อเร็ว กินน้อยแต่กินได้นาน ๆ น่าจะดีกว่า”
 
พี่มันคลายอ้อมแขนออก จนกลายเป็นปล่อยมือลง หัวใจผมหล่นวูบ
 
นี่กูพูดมากไปรึเปล่า พี่มันจะโกรธไหม
 
“ขะ ขอโทษครับ”
ผมสารภาพเสียงเบา
 
“กาย..”
พี่มันเรียก ผมเงยหน้ามองอย่างขลาดกลัว
 
“นี่เป็นแผนของกาย ที่จะทำให้พี่หลงรักกายมากขึ้นใช่ไหม”
 
งงครับ
 
งงกับคำพูดพี่แก ผมขมวดคิ้วมากขึ้น
 
“หึ นี่กายกลัวพี่เบื่อถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
แล้วพี่มันก็แนบปากมาที่แก้มผมจนแก้มบี้ไปข้าง
 
มึง เข้าใจไปคนละประเด็นแล้ว
 
ผมกำลังจะท้วง แต่พี่มันจุ๊บปากผมเบา ๆ ที ผมอ้าปากค้าง
 
มึง! นี่มันที่สาธารณะนะ 
 
“พี่เข้าใจในสิ่งที่กายต้องการจะสื่อนะ”
 
ผมนั่งนิ่ง
 
มึงแน่ใจนะว่ามึงเข้าใจจริง ๆ
 
“ที่พี่เป็นแบบนี้ เป็นเพราะพี่รักกายนั่นแหละ”
 
ผมมองหน้าพี่มันนิ่ง ๆ
 
“เวลาที่พี่อยากกอด พี่ก็กอด เวลาที่พี่อยากจูบพี่ก็จูบ เวลาที่พี่อยากฟัดพี่ก็ฟัด”
 
เอ่อ…
 
อันหลังนี่ไม่ต้องพูดก็ได้
 
“แต่ก็อย่างที่กายบอก ของบางอย่างกินมากไปก็ไม่ดี กินน้อย ๆ แต่คุณภาพดี และกินได้นาน ๆ ก็น่าจะดีกว่า”
 
ผมยิ้ม เมื่อพี่มันเข้าใจในสิ่งที่ผมบอก
 
“เพราะงั้น กายน่าจะป้อนพี่สักสิบห้านาที แล้วพี่จะปล่อยให้กายไปอ่านหนังสือต่อ”
 
ผมขมวดคิ้วจ้องหน้าพี่มันเขม็ง
 
“ไม่กินมื้อใหญ่ก็ได้ พี่จะได้ไม่ต้องหนีกายมานั่งสงบอารมณ์อยู่ตรงนี้”
พี่มันบอกแล้วลากผมเดินขึ้นห้อง
 
นี่ตกลง ที่มึงมานั่งทำมิวสิคคนเดียว เพราะมาอดทนเนี่ยนะ!!
 
แต่เดี๋ยวก่อนนะ…
 
แล้วที่พี่มันบอกว่าป้อนพี่มันสักสิบห้านาทีนี่มันหมายความว่ายังไง
 
ไม่ต้องสงสัยนานครับ เพราะพอขึ้นห้องปุ๊บ พี่มันก็จัดการบรรเลงผมแบบติดสปีด สิบห้านาทีจบจริง ๆ
 
โหย คุณท่าน ได้อีกนะ
 
ก็โอเคครับ หารกันคนละครึ่งทาง ยังไงซะ ผมก็เผลอตัวมารักพี่มันไปแล้วนี่ แล้วตอนนี้พี่มันก็ไปนั่งฮัมเพลง อ่านหนังสือเรียนของตัวเองอยู่อีกด้าน ไม่อยากเข้าใกล้ผมมากครับ แกกลัวของพี่แกจะตื่นขึ้นมาขออีกสิบห้านาทีอีกรอบ
 
เออเนอะคนเรา บทจะยากก็ยาก บทจะง่ายก็ง่าย





                 








             
ผมมายืนดูอุปกรณ์กล้องอยู่ในร้านขายกล้องขนาดใหญ่ในห้างครับ วันนี้มีของหลายอย่างหลายยี่ห้อมาลง ผมไม่ใช่มืออาชีพ แต่ก็อยากมีอุปกรณ์บางตัวที่คุณภาพดี ๆ เอาไว้ใช้เหมือนกัน แต่ราคาตัวหนึ่งนี่ เห็นแล้วทำเอาผมเหงื่อแตกพลั่ก ๆ
 
ดูได้แต่ตา มืออย่าต้อง เดี๋ยวของจะเสีย
 
และตอนนี้ ผมก็ทำได้แค่ยืนน้ำลายไหลยืด จ้องมองเลนส์กล้องแบบใหม่ที่ราคาแปะไว้ด้วยตัวเลข 6 หลักตรงหน้า
 
มันจะแพงไปไหน
 
อันนี้สำหรับคนมีเงิน หรือพวกมืออาชีพน่ะ พวกทำเล่น ๆ อย่างผม ทำใจอย่างเดียว
 
“อยากได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
 
ผมสะดุ้ง หันขวับไปมองคนทักที่มายืนอยู่ข้าง ๆ
 
“อ้าว พี่เอก” มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
 
ไม่ใช่สิ…
 
ผมเลื่อนสายตาลงไปที่ลำคอ ไม่มีสร้อยพระอาทิตย์ครับ
 
“เอ่อ…”
ผมรีบถอยกรูด แสดงสีหน้าหวาดผวาออกมาหน่อย ๆ จนคนที่ยืนอยู่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้
 
“พี่อิฐเองครับ”

ผมถึงได้คลายใจคลี่ยิ้มออกมา
 
“ทำไมต้องทำท่าหวาดกลัวขนาดนั้นด้วยฮึ”
 
“ปะ เปล่า”
สงสัยพี่อิฐจะยังไม่รู้เรื่อง
 
“ว่าแต่อยากได้รึไง ทำไมไม่ขอให้พี่เอกซื้อให้ล่ะ”
 
ผมส่ายหน้าจนผมยุ่ง
 
“ของแบบนี้ อยากได้ต้องขวนขวายเอาเอง”

พี่มันยิ้มนิดหนึ่ง ยิ้มอ่อนโยนแบบนี้ พี่อิฐชัวร์ ๆ
 
“คิดว่าพี่เป็นอาร์ตใช่ไหม”

ผมยิ้มเจื่อนที่พี่แกจับไต๋ผมได้ บอกแล้วครอบครัวนี้ไอคิวสูงครับ พอ ๆ กับอีคิวอย่างพวกทโมน และเอสคิวอย่างพี่เอกนั่นแหละ(ใครไม่รู้ความหมาย ไปหากันเอาเอง)
 
“คะ คือ…”
 
“หึ พี่ก็พอจะรู้มาคร่าว ๆ ล่ะนะ ว่าอาร์ตเขาทำอะไรไปบ้าง แต่ทั้งหมดก็เพื่อพี่เอกนั่นแหละ”
 
ผมขมวดคิ้วไปกับสิ่งที่ได้ยิน
 
“อ้าว นี่เราไม่รู้หรอกเหรอ ว่าปกติอาร์ตจะเป็นคนทดสอบผู้หญิงให้พี่เอกเขา ถ้าผู้หญิงคนไหนรักพี่เอกจริง คนนั้นต้องไม่หวั่นไหวมาหาอาร์ตน่ะ”
 
ผมยืนมองด้วยความทึ่ง
 
“งะงั้น เอ่อ ที่พี่อาร์ตทำกับผม”
 
“คงต้องการทดสอบล่ะมั้ง”
 
ผมพยักหน้า พี่มันยิ้มอ่อนโยน
 
“ยังแยกพวกพี่ไม่ได้ใช่ไหม”
 
ผมทำหน้าเจื่อนอีกรอบ
 
“ฮะ ขนาดว่าเอาภาพมานั่งดูตั้งนานสองนาน แต่เวลาเจอตัวจริงก็ยังแยกไม่ออกอยู่ดี” ผมบอกไปตามตรง
 
“แล้วเมื่อกี้ ทำไมรู้ว่าพี่ไม่ใช่พี่เอก”
พี่มันถามต่อ
 
ช่างถามจริงวุ้ย
 
“ก็ถ้าเป็นพี่เอกตัวจริง ต้องมีสร้อยที่ผมซื้อให้น่ะ”
ผมชี้คอตัวเอง พี่มันมองตาม
 
“ไม่ได้สังเกตแฮะ”
 
“ฮะ ช่วงนั้นพี่เขาคงเอาไปสลักตัวหนังสือใหม่น่ะ”
 
“เปล่า พี่ไม่ได้สังเกตว่าเราก็ใส่สร้อยด้วยเหมือนกัน”
 
ผมมองหน้าพี่มันงง ๆ
 
“ผมใส่มานานแล้วล่ะ”
ผมยิ้ม จับสร้อยตัวเองไว้ สร้อยของผมเป็นแบบยาวครับ ในขณะที่ของพี่เอกเป็นแบบสั้นเกือบติดคอ เห็นจี้ได้ชัด ๆ แต่จี้ของผมอยู่แถว ๆ หน้าอก ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นหรอก
 
“เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าพี่เอกยอมใส่ด้วย ปกติเป็นพวกขี้รำคาญจะตาย”
 
ผมขมวดคิ้ว
 
จริงเหรอเนี่ย แล้วผมก็ไปบังคับให้พี่มันใส่ แล้วพี่มันจะไม่รู้สึกแย่เหรอวะ
 
“ผมไม่รู้”
 
พี่อิฐยิ้มอ่อนโยนให้
 
“ถ้าพี่เอกยอมใส่ ก็แปลว่าพี่เอกยอมล่ะนะ อย่าคิดมากเลย”
 
ยิ่งพูด กูยิ่งคิดมาก
 
ผมรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาจริง ๆ
 
“นี่ไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ”
พี่มันชวน
 
ผมเงยหน้ามอง จะไปดีไหมหว่า จริง ๆ วันนี้ผมมากับแม่ฮะ แต่คนที่สำนักพิมพ์โทรมาเรียกตัวกะทันหัน แม่เลยให้ผมเดินเล่นรอไปก่อน ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย ผมยกนาฬิกาขึ้นมอง
 
“จริง ๆ ผมมากับแม่ แต่แม่ติดธุระด่วน เลยทิ้งผมไว้ งั้นผมจะอยู่เป็นเพื่อนพี่จนกว่าแม่จะมาละกัน คงไม่ว่ากันใช่ไหมฮะ”
ผมต่อรอง พี่มันพยักหน้าที
 
แล้วหลังจากนั้น พี่มันก็พาผมมานั่งกินข้าวที่…
 
เอ่อ…
 
ในผับ
 
มึง กูก็คิดว่าหนังหน้าอย่างมึงจะพาไปนั่งในร้านอาหารดี ๆ หรู ๆ หรือไม่ก็ร้านอาหารในโรงแรมในห้างอะไรทำนองนั้นซะอีก พามาที่นี่ทำไม
 
“ผิดหวังซินะ ที่พี่พามาที่นี่”
แน่ะ อ่านใจกูได้อีก หรือว่ากูเป็นพวกอ่านง่ายวะ
 
“เปล่าฮะ ก็แค่แปลกใจ”
 
พี่มันยิ้ม ในมือถือแก้วน้ำสีอำพัน ขยับเบา ๆ ให้หยาดน้ำเหล่านั้นเคลื่อนที่เป็นลูกคลื่น ปรับเปลี่ยนรสชาติให้มันดีขึ้น ที่นี่สามารถสั่งข้าวมากินได้ ผับเปิดห้าโมง ตอนนี้หกโมง คนยังน้อยอยู่
 
ผมต้องหยิบมือถือขึ้นมาเช็คดูบ่อย ๆ เพราะเสียงภายในร้านค่อนข้างดัง กลัวแม่โทรมาแล้วไม่ได้ยิน จนในที่สุด ผมตัดสินใจกดเมสเสจไปบอกแม่ว่าถ้าเสร็จธุระแล้วให้เมสเสจมาบอกผมแทน ไม่ต้องโทรมา เพราะอยู่ในที่ที่เสียงดังมาก ๆ และอยู่กับเพื่อน แล้วผมจะรีบไปหาทันที แต่แม่ไม่ตอบครับ สงสัยจะยังยุ่ง ๆ อยู่
 
“อ่ะ”
พี่มันยื่นเครื่องดื่มให้ผมแก้วหนึ่ง ผมส่ายหน้า
 
“ผมต้องไปค้างกับแม่คืนนี้ เมาไปคงไม่เหมาะ”
 
“ไม่ต้องห่วง พี่มีวิธีกลบกลิ่นดี ๆ กินเป็นเพื่อนพี่สักแก้วก็พอ พี่เพิ่งอกหักมา”
ถ้าน้ำหน้าอย่างมึงอกหัก แล้วอย่างกูจะเหลืออะไรวะเนี่ย ผมถอนหายใจเบา ๆ รับแก้วเหล้ามากระดกเข้าปาก
 
เอาน่า กินเป็นเพื่อนพี่มันหน่อย
 
แก้วเดียวครับ
 
แต่เป็นแก้วเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกมึนสุด ๆ ตอนนี้หน้าพี่อิฐพร่าไปหมดแล้ว ผมพยายามตั้งสติให้ดี พี่แกนั่งไขว่ห้าง ดื่มไปหยิบของว่างกินไปชิว ๆ ผมเองก็หยิบขึ้นมากินบ้างเหมือนกัน สงสัยเมาเร็วเพราะท้องว่าง
 



 
“กาย”
ได้ยินเสียงเรียกมาตามทาง “เมาง่ายจัง แก้วเดียวเองนะ”
 
ผมพยายามปรือตามองคนตรงหน้า
 
“พี่เอก”
ผมครางเรียก พี่มันยิ้ม
 
“กลับกันเถอะ”

ผมพยักหน้าเบา ๆ มึนครับ ถ้าเมาขนาดนี้ จะกลับไปหาแม่ยังไงล่ะเนี่ย
 
ผมไม่รู้ว่าผมออกมาจากผับได้ยังไง รู้แค่ว่าเบลอ สักพักแผ่นหลังผมก็สัมผัสกับเตียงนุ่ม ๆ
 
“กาย”
พี่มันเรียกอีกที ผมปรือตามอง เห็นพี่เอกนั่งอยู่ข้างเตียง
 

“อือ…”
ผมเชิดหน้า ครางไว้ก่อนครับ มันสยิว
 
“เซ็กซี่จัง มิน่าล่ะ พี่เอกถึงได้หวงนัก”

เอ๊ะ? อะไร ทำไมพี่แกพูดแบบนั้น ผมพยายามปรือตามองหน้าพี่เอกอีกที พี่มันกำลังใช้สายตาสำรวจไปทั่วเรือนร่างท่อนบนของผมอยู่
 
นี่เสื้อผมหลุดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่
 
ผมเงยหน้าจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของพี่เอก ไล่ต่ำลงไปที่ปลายคาง ก่อนหยุดไว้ยังลำคอ ผมขมวดคิ้วหน่อย ๆ
 
สร้อยพี่เอกหายไปไหน
 
“พี่เอก สร้อยล่ะ”
ผมท้วงเสียงเบา
 
“ก็อยู่กับพี่เอกน่ะสิ”
พี่มันก้มลงมากัดยอดอกผมเบา ๆ จนผมสะดุ้งเฮือก เผลอแอ่นอกตอบรับ

สติผมเริ่มมาแล้วครับ
ถ้าสร้อยอยู่กับพี่เอก แล้วคนที่กำลังกัดนมผมอยู่คือพี่เอก
 
แต่ไม่มีสร้อย
 
ถ้าเป็นพี่เอกที่ไม่มีสร้อย…
 
ก็ไม่ใช่พี่เอกน่ะสิ!

แล้วใคร?
 
ผมรีบดึงกำลังตัวเองกลับมา ผลักอกคนตรงหน้าออกแรง แต่ไม่ขยับครับ ตัวพี่มันหนักมาก
 
ขนาดหุ่นและพละกำลังของคนตรงหน้าไม่ต่างกับพี่เอกเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วผมเคยเอาชนะพี่เอกได้ซะที่ไหน
 
“พี่…”
ผมกำลังประมวลผลอยู่ว่าคนที่ผมอยู่ด้วยล่าสุดคือใคร
 
ใช่.. พี่อิฐ
 
“พี่อิฐ ปล่อย!!”
ผมออกแรงผลักมากขึ้น พี่มันเงยหน้าจากซอกคอผมไปยิ้มพราว
 
รอยยิ้มแบบนี้ ไม่ใช่รอยยิ้มของพี่อิฐแน่ ๆ
 
“พี่อาร์ต”
 
“ในที่สุดก็จำพี่ได้แล้ว”
 
“อ๊ะ!!”
ผมผวาเฮือก เมื่อพี่มันซุกหน้าลงมาที่ซอกคออีกรอบ แต่รุกเร้ารุนแรงขึ้นกว่าเดิม
 
“ไม่!!”
ผมพยายามดิ้นรนขัดขืน นี่พี่มันกำลังทำอะไรอยู่ ผมเป็นแฟนพี่ชายมันนะ
 
“พี่อาร์ตปล่อย!!”
ผมทั้งผลักทั้งดัน อยากดิ้นรนมากกว่านี้ครับ แต่ดูเหมือนเรี่ยวแรงจะหายไป ผมนึกถึงแก้วเหล้าที่พี่อาร์ตยื่นให้ผมดื่ม
 
“พี่เอาอะไรให้ผมกิน”
 
“ไม่ต้องห่วงหรอก แค่เหล้าธรรมดา แต่ฤทธิ์แรง ทำให้เมาเหมือนโดนน็อกสำหรับคนที่ไม่เคยกินมาก่อน” พี่มันพูดเนิบ ๆ ก้มลงตวัดปลายลิ้นไปทั่วแผงอกลงไปถึงหน้าท้องผม
 
“อย่า...” 
ผมพยายามห้าม

ไม่อยากมอบร่างกายนี้ให้ใคร เพราะร่างนี้เป็นของพี่เอกเพียงคนเดียวเท่านั้น
 
แม้ใจจะสั่งห้าม แต่ร่างกายกลับไหวรับทุกสัมผัสจากลิ้นร้อน อยากร้องห้ามแต่เสียงที่เปล่งออกมากลับเบาหวิวจนกลายเป็นเสียงคราง
 
หัวใจผมหล่นวูบไปอยู่ปลายเท้า เมื่อกางเกงขายาวถูกปลดออกจากตัว เหลือไว้แค่ปราการสุดท้ายตัวน้อยเท่านั้น
 
แล้วพี่มันก็เลื่อนมือลงไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวของผมเบา ๆ ผมสะดุ้งเฮือก เผลอจับหัวพี่มันไว้ ขาก็กางกว้างอัตโนมัติ
 
“อือ น่ารักมากกาย”
พี่มันกระซิบ ดึงปราการสุดท้ายผมทิ้งไป
 
“ไม่!!!!”
ผมตะโกนห้ามสุดเสียง อยากดิ้นรน อยากลุกหนี แต่ไม่มีแรงเหลือแล้ว ผมคิดถึงพี่เอก
 
พี่อยู่ไหน
 
ช่วยผมด้วย!!


To BE Con....
 :angry2: ทำอะไรน้องกายหะ อิพี่อาร์ต!!!!!!! งื้อ ใครก็ได้วิ่งไปตามพี่เอกมาช่วยที :serius2:
         
#แต้งค์ทุกรีไพล์ฮะ สุขใจที่ได้อ่าน

เปิดจองนิยาย Memew ค่ะ ^^ >>http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
พี่อาร์ตชักจะหยอกแรงจนไม่น่าไว้ใจ วอหาพี่เอกทราบแล้วเปลี่ยนค่ะ มาช่วยน้องกายด่วนด้วย จะถูกกินแลัว  :z10:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :
 :katai4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่อาร์ต พูดจริง ทำจริง
บอกพี่เอกว่า อย่าเผลอ รอเสียบ
พี่อาร์ต รู้ทั้งรู้ว่ากาย รักพี่เอกคนเดียว :mew1: :mew1: :mew1:
กาย จะหลุดพ้นสภาพนี้ได้อย่างไร :ling1: :ling1: :ling1:
ใครจะมาช่วยกายได้  :katai1: :katai1: :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2016 09:01:17 โดย Ginny Jinny »

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
62
เกือบสาย
[เอก...☼]







 
วันนี้มันคงเป็นอีกวันที่น่าเบื่อของผม แต่ก่อนผมไม่มีใคร ผมก็อยู่ได้อย่างสงบสุขดี มาเรียน มาทำงาน กลับคอนโด อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง นอน วันไหนของขึ้น ก็หาใครสักคนมากก เช้ามาก็สดชื่น
 
แต่ตอนนี้ แค่ไม่มีไอ้ตัวเล็กอยู่เคียงข้าง แค่รู้ว่ากลับไปก็ต้องเจอแต่เตียงว่างเปล่า ผมก็ไม่อยากจะกลับไปที่คอนโดแล้ว
 
มันบอกให้ผมทำสิ่งที่อยากทำในเวลาที่มันไม่อยู่
 
แต่สิ่งที่ผมอยากทำ คืออยู่เคียงข้างมัน กอดมัน มองหน้ามัน จูบมัน แล้วต่อจากนั้นก็…
 
“พี่เอก หยุดทำหน้าหื่นสักนาทีจะได้ไหมคะ”
 
ครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านแล้ว ไม่อยากกลับคอนโด เลยกลับบ้านแทน กำลังนั่งจิ้นหุ่นไอ้กายอยู่ดี ๆ ค้างกลางอากาศเลย
 
“นั่นน่ะสิ ทำหน้าเคลิ้ม ๆ เหมือนพวกโรคจิต”
 
หือ หน้าหล่อ ๆ กูเสียภาพพจน์หมด
 
“คิดถึงพี่กายล่ะสิ แล้วนี่พี่กายไปไหนล่ะคะ”
 
ผมทำหน้าเบื่อหน่าย
 
“กลับบ้านไปนอนกับแม่”
 
พวกมันทำสายตากรุ้มกริ่ม
 
“มิน่าล่ะ”
 
“ถึงได้หาทางกลับรู เอ้ยกลับบ้านถูก”
 
พูดดี ๆ พี่มึงเป็นคน ไม่ใช่งู ฟู่ ๆ ฟ่อ ๆ โฮ่ง ๆ (อย่างหลังไม่ใช่ละ)
 
“เพราะเมียไม่อยู่นี่เอง”
ดูมันใช้แต่ละคำ
 
“นี่ พูดอะไรให้เกียรติกายเขาหน่อย”
 
“อ้าว หรือพี่กายไม่ได้เป็นเมียพี่”
พวกมันทำตาโต
 
“ไม่นะ!!”
แล้วก็พากันทำหน้าตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
 
“นี่พี่เป็น… เป็น…”
 
“เป็นเคะรึนี่”


“อ้อนรับไม่ได้”
 
“อะไรคือเคะ?”
ผมงงครับ พวกมันพากันโวยวายใหญ่ ผมนั่งมึน แต่คุ้น ๆ ว่าเคยอ่านเจอนะ
 
“ก็ควีนไงคะ พี่เป็นควีนเหรอ”
 
กูจำได้ละ ไอ้เมะคือคิง เคะคือควีนนี่เอง
 
“เปล่า พี่เมะแท้ร้อยเปอร์เซ็น”
ผมรีบยืนยัน
 
พวกมันทำหน้าเหมือนเพิ่งเดินหลุดออกมาจากป่าช้า
 
“ก็เห็นพี่บอกว่าพี่กายไม่ใช่เมีย”
 
“พี่พูดรึยังว่าไม่ใช่”
 
“แล้วมันใช่ไหมล่ะ”
พวกมันถามหน้าเครียด
 
“ใช่ กายเป็นเมียพี่”
 
“กริ้วววววว ในที่สุดพี่เอกก็ยอมพูดแล้ว เย้ ๆ ๆ พี่กายเป็นพี่สะใภ้ของพวกเราเต็มขั้นแล้ว เย้!!!”
สรุปพวกมันหลอกให้ผมพูด
 
ผมนั่งกุมขมับ
 
คิดถูกหรือคิดผิดวะที่กลับบ้าน กลับคอนโด นอนกอดหมอนข้างจะมีความสุขกว่าไหม
 
ผมถอนใจแรง ก่อนเสียงมือถือจะดังขึ้นเบา ๆ ผมล้วงหยิบขึ้นมามองเบอร์ แปลกใจนิดหน่อยกับเบอร์แปลก ๆ ที่โชว์ แต่ก็เลือกที่จะกดรับ
 
“เอกหรือเปล่าลูก!!”
แม่ไอ้ตัวเล็กมันครับ น้ำเสียงฟังดูร้อนรนยังไงพิกล
 
“ครับ”
 
“กายอยู่กับเอกหรือเปล่า”
 
“เปล่าครับ เห็นเขาบอกว่าจะไปกับแม่นี่ ผมไปส่งตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว”
 
แม่เงียบไป
 
“เราเจอกันแล้ว แต่ระหว่างทาง แม่ต้องเข้าสำนักพิมพ์ เลยให้กายไปเดินเล่นรอที่ห้าง แล้วกายก็ส่งเมสเสจมาบอกว่าไม่ต้องโทรหา เพราะอยู่ในที่ที่เสียงดังมาก ๆ กับเพื่อน แต่เขากำลังรอเมสเสจจากแม่อยู่ นี่แม่ส่งไปหาเขานานแล้วนะ เขายังไม่ติดต่อกลับมาเลย โทรไปก็ไม่รับสาย จะว่าไปกับเต้ย เต้ยก็บอกไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม่เลยไม่รู้ว่ากายเขาจะรู้จักใครอีกรึเปล่า”
 
หัวใจผมเริ่มเต้นเปลี่ยนจังหวะ ผมรีบบอกให้แม่วางสายแล้วโทรไล่บี้หาทีละคน ซึ่งคนแรก เป็นไอ้เป้ แต่มันปฏิเสธว่าไม่เห็น ตอนนี้มันทำงานอยู่ที่ร้าน ผมรีบโทรหาไอ้คุณชรินทร์ต่อ แต่มันบอกว่าตอนนี้อยู่ต่างประเทศ
 
ไอ้ห่า เปลืองค่ามือถือกูอีก มึงนัดเจอกายพรุ่งนี้ แต่วันนี้มึงยังอยู่ต่างประเทศเนี่ยนะ
 
ไล่ถามพวกไอ้กิ๊ฟก็ไม่รู้เรื่อง ผมร้อนใจยิ่งกว่าเดิม ผมไม่รู้ว่ามันจะไปกับใครได้ มันไม่ใช่คนที่จะทิ้งขว้างแม่ตัวเองด้วย
 
จริงสิ ไอ้โอ๊ค ผมรีบกดโทรหามันทันที ฟังเสียงรอสายไม่นานมันก็กดรับ
 
“โอ๊ค”
ผมเรียกมันเสียงเย็น
 
“ว่าไง”
 
“กายอยู่กับมึงรึเปล่า” ผมถามทันทีที่มันกดรับ
 
มันเงียบไปนาน ก่อนส่งเสียงกลับมา
 
“ถ้าอยู่ กูคงไม่บอกมึงหรอก”
ไอ้นี่ วอนตีน
 
“ตกลงอยู่กับมึงใช่ไหม ปล่อยเมียกูมา แม่เขาเป็นห่วง”
 
มันนิ่งไป
 
“กายไปไหน”
 
เอ้า ไอ้นี่ มึงบอกอยู่หยก ๆ ว่าอยู่กับมึง แล้วยังมาย้อนถามกูอีก
 
“เมียกูอยู่ไหน”
ผมถามเสียงเครียด
 
“กูไม่รู้”
 
“มึงอย่ามาโกหก!!”
 
“กูไม่ได้โกหกมึงนะเอก กายไม่ได้อยู่กับกู แล้วกายหายไปไหน”
น้ำเสียงมันร้อนรนขึ้นมาทันที
 
“มึงไม่ได้โกหกกูนะ”
 
“กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปี มึงยังไม่รู้นิสัยกูอีก กูผิดที่เผลอไปรักเมียมึง แต่ไม่ได้เลวถึงขนาดจะลากเขามากักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ ถ้ากูจะทำอะไรจริง ๆ กูขอให้ได้หัวใจก่อน ร่างกายมาทีหลัง”
 
ผมนั่งอึ้งฟังมันพูด
 
แล้วผมล่ะ ได้อะไรก่อนกัน

หัวใจหรือร่างกาย
 
แต่เอาไว้ก่อนเถอะ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือตามหาตัวกายให้ได้ก่อน ผมกำลังไล่บี้ไอ้โอ๊คอยู่ ก็เห็นใครบางคนเดินเข้ามา
 
“พี่อิฐ กลับมาแล้วเหรอคะ”
พวกทโมนพากันทัก
 
“มีอะไรกันเหรอ ท่าทางเครียดน่าดู”
 
มันเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ พวกทโมน 
 
ผมขมวดคิ้วกดตัดสาย นั่งนึกต่อว่ามันจะไปกับใครได้อีก
 
“พี่กายหายไปค่ะ หายไปไหนก็ไม่รู้ โทรหาก็ไม่ติด”
 
“ใช่ ๆ พี่เอกกำลังโทรเช็คอยู่เนี่ย”
 
“พี่อิฐช่วยกันหาหน่อยซิคะ”
พวกน้อง ๆ รีบอ้อนหาพรรคพวกเพิ่ม
 
“ได้ แล้วอาร์ตล่ะ กลับมารึยัง เห็นออกมาก่อนตั้งนานแล้วนี่ ให้เขาช่วยดีกว่า เส้นสายเขาเยอะ”
 
“ยังเลยค่ะ ยังไม่เห็นเลย อย่าเพิ่งห่วงพี่อาร์ตเลย หาพี่กายก่อนเถอะ พวกหนูร้อนใจ”
 
“ขอพี่โทรหาอาร์ตก่อนละกัน”
อิฐมันว่า
 
ผมกำลังไล่หาเบอร์พ่อของไอ้ตัวเล็กอยู่
 
“อาร์ต ยังไม่กลับอีกรึไง พอดีกายเขาหายตัวไป ทุกคนกำลังตามหาตัวกันอยู่ พอจะให้สายนายช่วยสืบหน่อยได้ไหม”
มันพูดเหมือนไอ้อาร์ตเป็นมาเฟียเลย แต่น้องผมมันก็เหมือนจริง ๆ นั่นแหละ
 
“…..”
ผมไม่ได้ยินว่าพวกมันคุยอะไร กำลังรอสายพ่ออยู่

ได้ยินเสียงเพล้งดังมาจากมือถือไอ้อิฐเบา ๆ ผมหันไปมอง
 
“เสียงอะไรน่ะ เดี๋ยว!! อาร์ต!! เดี๋ยว!! จะรีบร้อนอะไรนักหนาวะ”
ไอ้อิฐมันบ่น
 
ผมรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง
 
“อิฐ โทรหาอาร์ตอีกทีซิ”
 
ไอ้อิฐกดโทรออก แล้วบอกว่ามันปิดเครื่อง ผมผุดลุกทันที ถ้าลางสังหรณ์ของผมมันไม่เน่าซะก่อน ผมก็พอจะรู้แล้ว ว่าใครที่เอาตัวกายไป


[50%]


ผมรีบวิ่งไปที่รถ กำลังจะเปิดประตู แต่นึกขึ้นได้ว่าช่วงเวลานี้รถติดเอามาก ๆ  ผมเลยวิ่งเข้าไปเอากุญแจรถมอเตอร์ไซด์ คว้าหมวกกันน็อค แล้ววิ่งออกไปอีกรอบ 
 
ผมไม่อยากจะคิดว่าถ้าผมไปช้าเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น
 
กายของผม
 
คนรักของผม จะโดนอะไรบ้าง
 
ถ้าไอ้อาร์ตมันไม่คิดอะไรก็ดีไป แต่ถ้ามันทำอะไรมากไปกว่านั้น ผมคงไม่ไว้หน้ามันแน่ ๆ
 
ผมรีบตะบึงบิดไม่กลัวโดนโบก ก่อนมาถึงคอนโดส่วนตัวของไอ้อาร์ตราวกับเหาะ ผมรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ทันที
 
“ขอโทษครับ พอดีผมทำคีย์การ์ดห้อง 2106 หาย ช่วยเอาอันสำรองให้ทีได้ไหม”
 
“อุ้ย ได้ค่ะคุณอาร์ต”
มีหน้าเหมือนกันก็ดีอย่างนี้แหละครับ
 
พอได้กุญแจ ผมก็รีบวิ่งตรงไปที่ลิฟท์ กดไปยังชั้น 21 พอประตูลิฟท์เปิดออก ผมรีบวิ่งตรงไปยังห้องมันทันที ทั้งที่เส้นทางสั้นแค่ไม่กี่เมตร แต่ตอนนี้มันกลับดูยาวไกลสำหรับผมเอามาก ๆ
 
ผมวิ่งให้เร็วที่สุด พอไปถึงผมรีบสอดคีย์การ์ด ผลักประตูเข้าไป วิ่งตรงไปยังห้องนอน
 
และภาพที่เห็นตรงหน้า พาเอาความร้อนที่มีทั้งหมดในร่างกายไหลไปรวมกันที่ฝ่ามือ ผมยืนกำหมัดแน่น
             
ร่างของคนที่ผมรัก กำลังนอนน้ำตานองหน้าอยู่บนเตียง โดยมีมือของไอ้อาร์ตอุดปากเอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างจับสองข้อมือเล็กตรึงไว้เหนือหัว ซุกหน้ากับซอกคอ ที่นอนยับยู่ยี่ โคมไฟหัวเตียงหล่นไปอยู่ที่พื้น หลอดไฟแตกกระจายเกลื่อนเต็มพื้น
 
ร่องรอยที่เกิดจากการต่อสู้
 
ผมตรงไปกระชากไอ้อาร์ตออกจากไอ้ตัวเล็ก ตามด้วยหมัดซัดใส่หน้ามันเต็ม ๆ และอัดซ้ำลงไปอีกหลาย ๆ รอบ ยำจนหน้าหล่อ ๆ ของมันเต็มไปด้วยเลือด
 
เสื้อผ้าของมันยังอยู่ครบ ยกเว้นกระดุมที่หลุดออกจนหมด ผมหันไปมองไอ้ตัวเล็กบนเตียง ก่อนที่หน้าผมจะโดนสวนกลับเต็มแรง ผมรีบหันกลับไปกระชากจับคอเสื้อมัน ดันจนมันถอยหลังไปอัดติดกำแพง
 
“ทำแบบนี้ทำไม นายก็รู้ว่ากายเป็นเมียพี่!!”
 
“ผมก็ชอบกายเหมือนกัน”
 
“ชอบแล้วบังคับขู่เข็นเขาเนี่ยนะ”
 
“ตอนพี่ได้กาย พี่ก็ข่มขืนเขาเหมือนกันนี่”
 
ผมชะงัก อาร์ตคงรู้มาจากพวกทโมน ก็พวกนั้นคะยั้นคะยอ ผมเลยจำใจต้องพูดความจริง
 
“ก็เลยจะทำแบบเดียวกันบ้าง”
 
“ใช่!”
 
“ใช้สมองส่วนไหนคิด”
 
“ก็สมองที่เหมือนกับพี่นั่นแหละ”
มันย้อน
 
“มันไม่มีทางเหมือนหรอกนะอาร์ต ต่อให้นายพยายามทำตัวให้เหมือนพี่ขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่นายจะเป็นเหมือนพี่ได้”
 
ผมเห็นนัยน์ตามันวูบไหวบางเบา
 
อย่าคิดว่าการที่เราสามคนมีหน้าตาเหมือนกันแล้วจะดีเสมอไป
 
ผมอาจได้คีย์การ์ดมาง่าย ๆ แต่ในทางกลับกัน ผมก็อาจจะเสียคีย์การ์ดไปง่าย ๆ เหมือนกัน
 
“ผมทำได้” มันทำท่าไม่ยอม “ผมเคยทำให้ผู้หญิงของพี่มาเป็นของผมแล้วตั้งหลายคน”
 
“แต่กายไม่เหมือนคนอื่น!!”
ผมตะคอกกลับ
 
“ทำไมจะไม่เหมือน!!”
 
“ไม่เหมือน!! เพราะพี่รักกาย แต่ไม่ได้รักผู้หญิงพวกนั้น”
 
มันอึ้งไป
 
“และที่สำคัญ ถึงครั้งแรกพี่จะขืนใจกาย แต่เขาไม่ได้ต่อสู้รุนแรงแบบนี้ แล้วอีกอย่าง หัวใจเขายินยอมให้พี่ไปแล้วกว่าครึ่ง นายเข้าใจไหม!!”
 
ใช่ ต่าง…
 
ต่างกันมาก ถึงกายจะห้ามผม แต่ไม่เคยต่อสู้ได้ดุเดือด ราวกับจะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดขนาดนี้

ร่างเล็กยังนอนไร้แรง น้ำตายังคงไหลพราก ค่อย ๆ พยุงร่างเปลือยเปล่าขึ้นนั่งมองมาทางพวกเรา
 
ผมอยากเข้าไปปลอบ อยากโอบกอดมันเอาไว้ อยากซับน้ำตาให้ อยากลูบหัวปลอบประโลม
 
แต่ตอนนี้ขอเคลียร์กับคนตรงหน้าก่อน
 
“อาร์ต นายไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนพี่ก็ได้ นายไม่ใช่ตัวก๊อปปี้ของพี่ นายเป็นน้อง ไม่ใช่ฝาแฝด หรือต่อให้เป็นฝาแฝด นายก็เป็นอีกชีวิต มีเลือด มีเนื้อ มีจิตใจ มีความคิดเป็นของตัวเอง”
 
นัยน์ตามันเปลี่ยนแสงเล็กน้อย
 
“และที่สำคัญ พี่ขอบอกนายไว้ตรงนี้เลย”
ผมจ้องตามันเขม็ง
 
“กายเป็นเมียพี่ เป็นคนที่พี่รัก เป็นคนสำคัญสำหรับชีวิตพี่ ถ้าขืนนายยังทำอะไรกายอีก แม้แต่คำว่าน้อง พี่ก็จะไม่มีที่ว่างสำหรับมันให้นาย”
ผมพูดแล้วผลักมันออกแรง หันหลังเดินเข้าไปหาคนที่กำลังมองมาด้วยแววตาตระหนก
 
ผมไม่สนว่ามันจะเดินเข้ามาต่อยผมอีกหรือเปล่า ผมรีบโอบเอาคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมแขนทันที
 
“กายไม่เป็นไรแล้วนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”
ตัวมันสั่น บีบต้นแขนผมแน่นจนเจ็บไปหมด
 
“ขอโทษที่พี่มาช้า ขอโทษที่ดูแลกายไม่ดี”
ผมรีบปลอบมัน
 
“พี่เอก”
มันกอดคอผมแน่น ผมจูบหน้าผากมันเบา ๆ ให้คลายความกลัว หันไปคว้าเอาเสื้อผ้ามาใส่ให้ แม้ห้องจะรก แต่ก็รู้ว่าอาร์ตมันคงอยากทะนุถนอมกายเหมือนกัน เพราะตามเนื้อตัวกาย ไม่มีรอยแผลเลยแม้แต่นิดเดียว
 
มีแค่ผ้าปูที่นอนที่ยับย่น โคมไฟที่แตก และคราบน้ำตาบนพวงแก้มขาวเท่านั้นเอง
 
“กลับบ้านเรากันเถอะ”
ผมชวน มันพยักหน้าเร็ว ผมพยุงมันขึ้น หันไปก็ไม่เจอใครในห้องแล้ว อาร์ตคงออกไปข้างนอก แต่ผมไม่สน
 
ผมต้องการพากายออกไปจากที่นี่ก่อน ออกไปจากจุดนี้ พามันไปให้พ้นจากความหวาดกลัวและความเจ็บปวด
 
ผมทิ้งมอเตอร์ไซด์ไว้ที่คอนโดไอ้อาร์ต แล้วเรียกแท็กซี่กลับคอนโดแทน ไอ้ตัวเล็กยังคงสั่นไหวและหวาดผวา ผมก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วโอบกอดมันไว้
 
เพราะผม มันถึงต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้
 
 
 
 
 
 
 
“พี่เอก”
มันกอดผมแน่น ตอนเราเข้ามาถึงห้อง
 
“ไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
 
มันส่ายหัวกับอกผม
 
“ไม่เอา พี่เอก” มันเงยหน้ามอง “กอดผมที”
 
ผมมองมันอึ้ง ๆ
 
“อาบน้ำก่อนจะได้สบายตัว”
 
“กอดผมที”
มันยังร้องขอคำเดิม
 
“กาย กายกำลังกลัวนะ ถ้าพี่ทำอะไรกายตอนนี้ ด้วยใบหน้าที่เหมือนคนที่ทำร้ายกาย กายจะรู้สึกยังไง”
 
มันทำหน้าอึ้ง ก่อนเบะลง
 
“เพราะงั้นไง ผมถึงต้องให้พี่กอด ให้รู้ว่าใบหน้าแบบนี้ มีแค่คนคนนี้ ที่มีสร้อยเส้นนี้ ที่กำลังกอดผมอยู่ ผมไม่อยากหลับแล้วตื่นผวาในตอนกลางคืน กอดผม ให้ผมจดจำแค่สัมผัสของพี่ ไม่ใช่ของเขา”
 
ผมมองคนตรงหน้าอึ้ง ๆ อีกรอบ
 
พอแล้ว ไม่ต้องให้มันพูดอะไรอีกแล้ว ผมรีบก้มจูบมันทันที จูบอย่างนุ่มนวล จูบเพื่อให้มันรู้ว่าผมอยู่ตรงนี้ อยู่กับมัน เป็นของมัน
 
ผมรีบสลัดเสื้อผ้าของเราสองคนออก แนบชิดผิวเนื้อของผมเข้ากับมัน สัมผัสลูบไล้ไปทั่วผิวเนื้อมัน เพื่อให้ร่างกายมันจดจำผมได้เพียงคนเดียว
 



 
“กาย”
ผมเรียก คนที่กำลังหอบหายใจไร้จังหวะปรือตามอง มันนอนอยู่ด้านล่าง โดยมีผมค้ำสองมือคร่อมอยู่ด้านบน
 
“ต่อให้วันนี้พี่ไปช่วยกายไม่ทัน แต่กายจะเป็นของพี่เพียงคนเดียวเท่านั้น ร่างกายเป็นแค่เปลือกนอก แต่ภายในของกายยังเป็นของพี่ตลอดไป กายไม่เคยเสียอะไรให้ใคร ถ้าตรงนี้ของกายไม่ได้เสียไป”
ผมแตะอกซ้ายมันเบา ๆ
 
มันมองตาผม ก่อนน้ำตาสีใสจะไหลรินออกมาเป็นทาง ผมยิ้ม ก้มลงไปจูบซับน้ำตาให้มันเบา ๆ
 
“พี่รักกายนะ”
 
แล้วคืนนั้น ผมก็เฝ้ากระซิบปลอบมันด้วยน้ำคำหวานหู บรรเลงเพลงรักด้วยจังหวะเชื่องช้า เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น เพื่อปลอบใจ เพื่อให้มันคลายกลัว และเพื่อให้มันรู้ว่าต่อจากนี้ไป ผมจะอยู่เคียงข้างมันเสมอ
 
เป็นดั่งพระอาทิตย์ที่ไม่เคยลาลับไปจากโลก และไม่เคยห่างหายไปจากดวงจันทร์
 
To Be Con...

โรแมนติกอะไรเช่นนี้ (เวลาแต่งเสร็จแล้วย้อนกลับมาอ่าน คิดทุกครั้งว่าตอนนั้นเราแต่งเข้าไปได้ไง เกากำแพงแกรกด้วยความเขิลลลล)


Memew หนังสือ & ebook : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2016 15:36:17 โดย memew »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ค้างงงงงงงงงงงงงง  o9 o9 o9 o9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
รอบนี้อาร์ตไม่ได้ทำเพื่อเอกแระ อาร์ตทำเพื่อตัวเงแระ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อาร์ต เคยบอกเอกแล้วว่าอย่าเผลอ
เผลอเมื่อไหร่ อาร์ตเสียบ
เอกยังไม่คิดว่าอาร์ตพูดเล่นเลย
ถ้าเอกเจออาร์ต อยู่กับ กาย  จะเกิดอะไรขึ้นนะ
น้องคิดวัดรอยเท้าพี่ เอ้อ.......  :fire: :z6: :z6: :z6:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kiszy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ๊ากกกกก ไอ่พี่อาร์ตอีกแล้ววววววว

มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อ่านรวดเดียวจนจบ สนุกมากกกค่าาา

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่รักกายนะ   โอ้ยยยยยยคือดีงาม แต่ขอตบอาร์ตหน่อยได้มะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พี่เอกพูดดี!!! เอาไป10คะแนนเต็ม!!!!!!

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
ตอนที่ 63 เล่าเรื่อง [กาย..♥]


ผมรู้ว่าผมได้รับการปลอบประโลมจากพี่เอกไปเยอะมาก ผมหวาดกลัว ผมดิ้นรน ผมต่อสู้เพื่อรักษาร่างกายอันนี้เอาไว้
 
ตอนมีอะไรกับพี่เอกครั้งแรกผมขัดขืน แต่ไม่จริงจัง แต่วันนี้ แม้ต้องสละชีวิต ผมก็อยากจะรักษาร่างกายนี้เอาไว้ให้พี่มัน
 
จริง ๆ แค่ร่างกายมันไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก แต่เพราะร่างกายนี้เป็นที่รองรับ เป็นตัวห่อหุ้มหัวใจดวงนี้เอาไว้ และหัวใจดวงนี้ของผม ก็มีผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าของ
 
ผมลืมตาตื่นนานแล้ว แม้จะเหนื่อยจนหลับ แม้จะร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา แต่ก็รู้สึกอบอุ่นที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอคนคนนี้อยู่เคียงข้าง ผมทาบฝ่ามือลงบนแผงอกข้างซ้ายของพี่มันเบา ๆ จับจังหวะของลมหายใจที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลง
 
ข้างในนี้ มีหัวใจของผมอยู่
 
“ผมรักพี่นะฮะ”
ผมกระซิบบอก กดจูบอกซ้ายพี่มันไปที
 
“พี่ก็รักกายเหมือนกัน”

 
ผมเงยหน้ามอง คนที่ผมคิดว่าหลับอยู่ ก้มลงมาจูบผมเบา ๆ ก่อนขยับตัวตะแคงข้าง ค้ำศอกไว้ที่พื้นดันตัวขึ้นไปอยู่ในมุมที่สูงกว่าผม 
 
“รู้สึกดีขึ้นไหม”
ผมพยักหน้า จ้องมองดวงตาที่สะท้อนความห่วงใยออกมาจนล้น
 
“ดูซิ ขนาดใช้งานไปตั้งเยอะ เช้านี้มันก็ยังคิดถึงกายอยู่เลย”
พี่มันชี้ให้ดูบางส่วนด้านล่าง ผมตีต้นแขนพี่มันไปเบา ๆ ที
 
“อย่าเอามาอ้าง นี่มันธรรมชาติของผู้ชาย”
 
“อ้าว ของกายไม่เห็นจะขึ้นเลย”
 
“ขึ้นแต่ไม่ทุกวันแบบพี่”
 
พี่มันเลิกคิ้วสูงล้อเลียน ก่อนคลี่ยิ้มจนหวานหยด
 
มึงไม่ต้องมายิ้มหล่อใส่กูเลย แค่นี้กูก็หลงมึงจะแย่อยู่แล้ว
 
พี่มันหันไปหยิบมือถือมายื่นให้
 
“โทรบอกแม่ บอกพ่อ บอกไอ้เต้ย ไอ้กิ๊ฟ ไอ้เป้ ไอ้โอม พี่เชนและทุกคนให้ครบว่าเราปลอดภัยแล้ว ส่วนว่าหายไปไหน ก็แล้วแต่ว่าจะเล่าไม่เล่า บอกพวกเขาว่านายปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”
 
ผมพยักหน้า รับมือถือมากดหาทีละคน
 
แม่นี่แทบจะร้องไห้ ถามใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็บอกไปว่ายังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟัง พร้อมเมื่อไหร่จะเล่าทันที แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่กับพี่เอก แม่ก็เบาใจ ไอ้เต้ยก็ห่วงใหญ่ ส่วนพี่เชนก็ตามสไตล์ฮะ พ่อติดต่อไม่ได้ สงสัยจะเดินทางไปต่างประเทศ แล้วก็สามทโมนด้วย
 
เชื่อกันรึเปล่า แค่โทรรายงานทุกคนว่าผมปลอดภัยแล้ว ยังใช้เวลาเกือบชั่วโมง แต่ละคนก็ใช่ว่าจะกดรับ แล้ววาง แต่ถามถึงสาเหตุที่มาที่ไป และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง

แต่ผมก็รู้ว่าทุกคนกำลังเป็นห่วง
 
ผมเหลือบตามองพี่เอกที่เดินตัวหอมฉุยออกมาจากห้องน้ำ พี่แกคงเห็นว่าอีกนานกว่าผมจะรายงานทุกคนหมด ถึงได้เข้าไปอาบน้ำก่อน แล้วเดินหล่อออกมาแบบนี้ ส่วนผมหยิบเสื้อเชิ้ตตัวเดิมของพี่มันมาใส่กันโป๊ นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ข้างเตียง
 
“พี่ไปทำกับข้าวรอนะ”
พี่มันก้มจูบขมับผมเบา ๆ เดินออกจากห้องนอนไป
 
ตอนนี้ผมคุยอยู่กับพี่โอ๊คครับ
 
“พี่ตกใจหมดเลยรู้ไหม”
 
“ขอโทษฮะ”
พี่โอ๊คจะเป็นคนเดียวที่ไม่เคยถามผมถึงสาเหตุเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ครั้งนี้ เป็นผมเองที่อยากจะเล่าให้พี่แกฟังเอง
 
“ผมถูกพี่อาร์ต เอ่อ… น้องชายของพี่เอก ลากไปปล้ำ” ใช้คำว่า “ข่มขืน” มันฟังดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ คำว่าปล้ำ น่าจะดูซอฟกว่าเยอะ
 
ปลายทางเงียบไปนาน ผมเริ่มใจเสีย

หรือพี่เขาจะรังเกียจ

ไม่ใช่สิ พี่โอ๊คไม่ได้เป็นคนแบบนั้นนี่นา
 
“ขอโทษนะ”
คำพี่มันพาเอาผมขมวดคิ้วเลย
 
“ไม่ใช่ความผิดของพี่ซะหน่อย”
เกี่ยวอะไร ทำไมต้องมาขอโทษด้วย
 
“กายลืมแล้วรึไง ว่าพี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบกายเหมือนกัน”
 
ผมนั่งอึ้ง
 
จริงสินะ เพราะเจอเรื่องยุ่ง ๆ หลายเรื่อง เลยลืมเรื่องที่พี่มันเคยบอกว่าชอบผมไปเลย
 
“พี่ชอบผมอย่างน้องหรือมากกว่านั้น”
 ผมกลั้นใจถามออกไปตรง ๆ เพราะความชอบในวันนั้น อาจจะแค่พี่ชายชอบน้องชาย อยากดูแลและปกป้องแบบที่พี่เป้รู้สึกกับผมก็ได้
 
“กาย…ถ้าพี่ควบคุมตัวเองไม่ได้ บางทีพี่อาจจะทำเหมือนที่อาร์ตทำกับกายก็ได้นะ”
 
ผมนั่งเงียบไปนาน
 
พี่โอ๊คเนี่ยนะ
 
“พี่โอ๊ค ผมเป็นผู้ชายนะ”
 
“กาย..ไอ้เอกมันก็เป็นผู้ชาย ไอ้อาร์ตมันก็ผู้ชาย ตอนนี้เพศมันไม่มีผลกับความรู้สึกแล้วนะ”
 
ผมนั่งฟังอึ้ง ๆ ไปอีกรอบ
 
“แต่ผม..”
 
“รักไอ้เอกมัน” พี่โอ๊คต่อคำพูดที่ขาดหายไปของผม “ตอนนี้พี่ก็เหมือนไอ้เป้มันแล้ว หลงรักคนที่ไม่ควรจะรัก แต่มันก็ห้ามความรู้สึกกันไม่ได้ ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งได้มอง ยิ่งรู้สึกรักเข้าไปใหญ่”
 
ผมนั่งอึ้งฟังสิ่งที่พี่โอ๊คบอก
 
“พี่ไม่รับปากว่าพี่จะตัดใจจากกายได้ไหม พี่ไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเอง พอ ๆ กับไม่มั่นใจว่าไอ้เอกมันจะดูแลกายได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า พี่จะไม่แย่งกายมาจากเอก แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง มันเกิดบกพร่องในหน้าที่ขึ้นมา พี่จะรีบดึงกายมาไว้กับตัวทันที”
 
ผมได้แต่นั่งอึ้ง ฟังสิ่งที่พี่แกพูดต่อ
 
“อย่าคิดมากล่ะ พี่ก็แค่ชอบกาย ความรู้สึกนี้ บางทีสักวันมันคงหายไปเอง”
 
ถ้ามันง่ายขนาดนั้น พี่เป้คงไม่มานั่งทุกข์ใจขนาดนี้หรอก
 
“ผมขอโทษนะฮะ”
ผมไม่รู้ว่าอะไรในตัวผม ที่ทำให้พี่แกชอบ ผมไม่ได้แสดงท่าทีหรือทำอะไรที่ให้ความหวังเลยสักนิด
 
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ”
ผมยิ้มกับมือถือ ก่อนจะได้ยินสายเรียกซ้อน ผมลดมือถือลงมาดูหน้าจอ
พ่อฮะ
 
“พี่โอ๊คแค่นี้ก่อนนะ พ่อโทรมาพอดี”
ผมรีบบอก พี่โอ๊คบอกลาสั้น ๆ ผมรีบกดตัดสายแล้วกดรับสายซ้อนทันที
 
“ป๋า!”
ผมเรียกด้วยความคิดถึง อยากให้พ่อมาอยู่ด้วยตอนนี้จัง
 
“เอกเขาอยู่ห้อง 1906 ใช่ไหมลูก”
 
“ครับ”
 
“งั้นมาเปิดประตูให้พ่อที”
 
ผมหันขวับไปมองทางหน้าประตู ดีดตัววิ่งลิ่ว ๆ ผ่านประตูห้องนอน วิ่งผ่านพี่เอกที่กำลังถือจานไส้กรอกมาวางไว้บนโต๊ะอาหารไปที่หน้าประตูห้อง
 
ผมเปิดประตูออกผัวะ ถลาตัวกอดหมับที่เอวของคนที่ยืนอยู่หน้าห้องทันที ผมร้องไห้ออกมาแบบไม่อายใคร พ่อลูบหัวผมเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่มือถือของพวกเรายังไม่กดตัดสาย
 
“พ่อ”
พี่เอกเดินมารับที่หน้าประตู พ่อค่อย ๆ ดันตัวผมกระดืบ ๆ กลับเข้ามาภายในห้อง ตอนนี้ขออ่อนแอชั่วคราวครับ
 
“พ่อรู้ได้ยังไง ว่าผมอยู่นี่”
ผมถามหลังจากตั้งสติได้
 
“จากแม่นั่นแหละ พ่อบินอยู่เลยปิดเครื่อง พอเปิดถึงได้เห็นเบอร์โทรมากมาย แล้วรีบโทรกลับถึงได้รู้เรื่องแล้วบึ่งรถมาที่นี่ก่อน”
 
ผมเพิ่งสังเกตว่าพ่อลากกระเป๋าเดินทางมาด้วยใบหนึ่ง ผมซบอกพ่อใหญ่ พี่เอกเชิญพ่อให้ไปนั่งบนโซฟาแล้วหาน้ำหาท่ามาให้
 
“พ่อไปไหนมา”
ผมถามอู้อี้
 
“ออสเตรเลีย”
ผมเป็นเด็กไม่ดีเลย ทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง

พ่อดันตัวผมออกห่าง สำรวจไปทั่วทั้งตัว
 
“ปลอดภัยดีนะ”
 
ผมพยักหน้า
 
“พร้อมจะเล่าให้พ่อฟัง หรือเอาไว้วันหลัง”
 
ผมชั่งใจนิดหนึ่ง
 
“นายคุยกับพ่อไปก่อนละกัน พี่จะไปทำกับข้าวต่อ”
พี่มันปลีกตัวเดินเข้าห้องครัวไป พ่อหันไปมอง ก่อนหันกลับมาทำหน้าทึ่ง ๆ
 
“โอ้ สามีลูกทำกับข้าวให้เหรอเนี่ย”
ผมนั่งหน้าร้อนผ่าว บรรยากาศเศร้าสลดเมื่อกี้หายไปเลย
 
“ฮ่ะ ๆ ๆ พ่อแซวเล่น ว่ามา”
พ่อตั้งท่า ขยับทำตัวสบาย ๆ ยกแก้วน้ำมาเตรียมจรดรินเข้าปาก
 
“ผมถูกลากไปปล้ำ”
 
เพล้ง!!!
 
พ่อทำแก้วน้ำตกพื้นทันที
 
“ใครวะ!!!”
พ่อผมมาดหลุด ผุดลุกขึ้นมาทำหน้าขึงขังเหมือนพ่อกำนันเตรียมวิ่งไปคว้าปืนมาเป่าไอ้คนที่มารังแกลูกสาวตัวเอง พี่เอกที่กำลังหั่นผักอยู่หันมามองตื่น ๆ ส่วนผมรีบจับพ่อให้นั่งลงเหมือนเดิม
 
“ใจเย็นป๋า ยังไม่โดน แค่เกือบจะ”
 
พ่อจ้องหน้าผมเขม็ง ทำท่าฟึดฟัด ทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิม
 
“ใคร!”
พ่อถามเสียงเครียด ผมทำท่าอึดอัด
 
“น้องชายพี่เอก พี่อาร์ต”
ผมบอกไปตามตรง พ่อกำหมัดแน่น
 
“พ่อไปนั่งฝั่งนู้นก่อน ผมจะเก็บเศษแก้ว”
ผมรีบไล่พ่อให้ไปนั่งอีกด้าน เศษแก้วแตกกระจาย น้ำกระเซ็นไปทั่ว
 
“ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
พี่เอกเดินถือไม้กวาดกับที่ตักขยะมา 
 
กูชักไม่แน่ใจว่าพี่มันจะเป็นสามีหรือเมียกันแน่ พ่อคงคิดเหมือนผมแน่ ๆ เห็นมองใหญ่ พี่เอกเงยหน้ามาชี้นิ้วใส่หน้าผมทันที
 
“อย่าคิดว่าพี่เป็นผู้หญิงเชียวนะ แค่ทำความสะอาดห้อง ใคร ๆ ก็ทำเป็น”
 
ผมยิ้มแห้งให้แกไปที
 
“แสนรู้”
แอบหันไปพูดเสียงเบาไม่ให้พี่มันได้ยิน แต่พ่อได้ยินชัดแจ๋วจนขำตาม
 
“คือจริง ๆ ความผิดทุกอย่างมันเริ่มที่ผมนี่แหละ”
ผมเล่าต่อ พ่อหันมามองดี ๆ ตอนนี้เรานั่งหันหน้าเข้าหากันแล้ว
 
“พี่เอกเข้าออฟฟิศไปช่วยงานคุณพ่อโดยไม่ได้ปลุกผมก่อนไป พอตื่นขึ้นมา ผมก็เห็นพี่อาร์ตนั่งอยู่บนโซฟา แต่ตอนนั้นผมคิดว่าเป็นพี่เอก”
 
ผมมองตาพ่อนิดหนึ่ง
 
“คือพวกเขาหน้าตาเหมือนกันน่ะฮะ เหมือนกันอย่างกับแกะ ตอนนี้ผมก็ยังแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร เหมือนพวกทโมนนั่นแหละ”
 
พ่อพยักหน้าเข้าใจ ส่วนพี่เอกกลับไปยืนฟังอยู่ในครัว
 
“ผมกับพี่เอกมีเรื่องกันนิดหน่อยก่อนหน้านั้น ผมเห็นพี่เขานั่งนิ่ง ๆ เลยคิดว่ากำลังงอนผมอยู่ ผมเลยกะจะอ้อนให้พี่มันหายโกรธ ผมเลย เอ่อ… จูบพี่มันไป”
 
อายครับ อายมาก เล่าเรื่องอะไรเล่าได้ แต่ให้มาเล่าอะไรพรรค์นี้ ไม่ไหวจริง ๆ แต่ก็ต้องยอมข่มความอายเล่าต่อไป
 
“ตอนแรกพี่อาร์ตก็ขัดขืนอยู่หรอก แต่ผมคิดว่าพี่เขายังโกรธไม่หายเลยบังคับจูบไป แล้วผมก็มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ แต่ผมไม่รู้สาเหตุที่พี่อาร์ตลากผมไปปล้ำเมื่อวาน ผมไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น ที่ผมทำไปเพราะเข้าใจผิด”
ผมเล่าต่อ
 
พี่เอกเดินมาทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม
 
“มีอยู่สองสาเหตุ”
พี่มันเปิดปาก คราวนี้ผมกับพ่อหันไปมอง
 
“อันแรก พวกทโมนมันอยากทดสอบว่าใครรักพี่จริงหรือเปล่า เลยให้อาร์ตทดสอบผู้หญิงที่เข้าหาพี่ทุกคน ก็อย่างที่รู้ ๆ ส่วนมาก โดนอาร์ตเอาใจเข้าหน่อยก็ชิ่ง หรือไม่ก็เบื่อที่พี่ทำแต่งาน ทำตัวเย็นชา วันนั้นอาร์ตคิดว่ากายยั่วอาร์ต เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ นั่นแหละ เลยจะทดสอบด้วย”
 
ผมกับพ่อจ้องพี่มันเขม็ง
 
“แต่อีกสาเหตุก็คือ…”
 
พวกเรานิ่งฟังอย่างตั้งใจ
 
“อาร์ตอาจจะชอบกายเข้าแล้วจริง ๆ”

ผมอ้าปากพะงาบ ๆ มันจะมาชอบผมทำม้ายยยย แล้วอะไรเป็นสาเหตุ
 
“สาเหตุก็มาจากพี่นี่แหละ”
มึงอ่านใจกูได้ใช่ไหม คิดอะไร รู้หมดเลย พี่มันหันมายิ้มพราวราวกับรู้ในสิ่งที่ผมกำลังคิด
 
“อย่างที่กายเห็น พวกเราสามคนหน้าตาราวกับฝาแฝด พอ ๆ กับทโมนนั่นแหละ คนนอกจะแยกไม่ออก ทำให้เกิดการเปรียบเทียบเกิดขึ้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม”
 
ผมนิ่งฟัง ไม่ต่างกับพ่อ
 
“พี่เป็นพี่ใหญ่ ทุกอย่างจึงเริ่มต้นที่พี่ก่อน มีอะไร ทุกคนก็จะเข้าหาพี่ก่อน พ่อกับแม่ก็ให้พี่ทำก่อน แล้วอาร์ตเขาก็เห็นพี่เป็นโมเดล อยากทำตาม อยากเป็นเหมือนอย่างบ้าง พี่ก็ผิดเองที่พูดว่าพวกอาร์ตเป็นเพียงตัวก๊อปปี้ แต่มันไม่ใช่ เพราะต่อให้เป็นแฝด เราก็มีชีวิตที่ต่างกัน”
 
“อาร์ตเดินตามรอยเท้าพี่มาตลอด จนพี่อยากให้น้องมีหนทางของตัวเองบ้าง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุ ที่พี่แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวเหมือนกัน”
 
ผมนั่งฟังไปเงียบ ๆ พ่อผ่อนลมหายใจเบา ๆ
 
“สำหรับเรื่องงาน อาร์ตทำได้ดีและพ่อก็ไว้ใจให้ดูแลรับผิดชอบ แต่ก็ยังให้พี่เป็นคนควบคุมเพราะยังไงก็เป็นพี่ใหญ่ อาร์ตเลยหาทางเป็นผู้นำในทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเรื่องอื่น ๆ อย่างเรื่องเพื่อนหรือผู้หญิง”
 
ผมพยักหน้า
 
“งั้นที่เขาทำแบบนั้นกับผมเพื่อเอาชนะพี่”
ผมคาดเดา
 
พี่มันแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน ถอนหายใจออกมาเบา ๆ
 
“ถ้ามันคิดแค่นั้นจริง ๆ พี่จะดีใจมาก มันจะเคลียร์ง่ายหน่อย แต่ถ้ามันคิดเกินเลยกว่านั้น แล้วชอบกายขึ้นมาจริง ๆ พี่คงแย่”
พี่มันบอกเสียงเครียด
 
“ไม่หรอก เขาคงไม่ชอบผมหรอก เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเอง”
 

“เริ่มรักมันใช้เวลากันที่ไหนกาย”
พี่มันโต้กลับ
 
ผมนั่งมองอึ้ง ๆ
 
“เมื่อวาน ถึงมันจะปล้ำกาย แต่ตามเนื้อตัวกายกลับไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายเลย กายต่อสู้รุนแรงขนาดนั้น คนแรงเยอะอย่างมันอดทนไม่ให้ทำร้ายกายกลับได้นี่ถือว่าสุดยอดแล้วนะ”
 
ผมนั่งอึ้งไปอีกระลอก ผมไม่ได้สังเกต ก็พี่มันเล่นจับกดจับกดนี่หว่า
 
“กาย พี่เตือนอะไรไว้อย่างนะ”
 
ผมจ้องหน้าพี่มันเขม็ง
 
“พวกเราหกคนพี่น้อง มักชอบอะไรที่เหมือน ๆ กัน”
 
ผมนั่งอึ้ง
 
“และโดยมาก ถ้าพี่ชอบอะไร พวกนั้นก็มักจะเอาความชอบของพี่เป็นบรรทัดฐานเสมอ”
 
ผมอึ้งรอบสอง
 
“มิน่าล่ะ พวกทโมนถึงได้ติดกายแจ”
คนออกความเห็นเป็นคนที่มีหนวดขึ้นครึ้มหน่อย ๆ ครับ
 
“แล้วตกลงเขาทำถึงขั้นไหน”
พ่อหันมาถามเสียงเครียด ผมหน้าร้อนขึ้นมาอีก
 
“ยังไม่ทันได้ทำอะไรฮะ พี่เอกไปช่วยไว้ได้ก่อน”
 
พ่อถอนหายใจโล่งอก
 
“ไม่เป็นไรนะลูก”
พ่อลูบหัวเบา ๆ
 
“ร่างกายน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่จิตใจคงผวาไปสักพัก”
อันนี้พี่เอกเป็นคนตอบ
 
“ยังไงก็ฝากน้องหน่อยละกัน”
พ่อหันไปฝากฝังกับพี่เอก พี่มันพยักหน้ารับ
 
“หิวข้าวแล้วล่ะ อาหารบนเครื่องไม่อร่อย”
พ่อผมเปลี่ยนเรื่องได้หน้าตาเฉย เงยหน้าทำท่าคิด พ่อมองไปยังพี่เอก ก่อนหันกลับมาทางผมแล้วยิ้มพราว
 
“ชวนแม่แกมากินด้วยสิ ตอนนี้คงนั่งก้นไม่ติดพื้นอยู่ที่บ้านคนเดียวแล้วมั้ง”
 
ชิ อยากเจอทำไมไม่ชวนเอง
 
“พ่อก็ชวนเองสิฮะ พ่อจีบแม่เองนะไม่ใช่ผม”
 
พ่อทำหน้าบู้บี้ แต่ก็ยอมล้วงหยิบมือถือขึ้นมากด ลุกขึ้นเดินเลี่ยงไปที่ริมระเบียง ผมอมยิ้มหันไปมองคนหล่อที่มองภาพเดียวกับผมอยู่เหมือนกัน
 
พี่มันหันมาลูบหัวผมเบา ๆ ที
 
“ไม่เป็นไรนะ”
 
“อืม”
 
พี่เอกลากผมไปยืนทำกับข้าวต่อด้วยกัน ทำส่วนของพ่อกับแม่เพิ่มด้วย
 
“รับรองได้ แม่แกต้องเหาะมาภายในยี่สิบนาทีนี้แน่ ๆ มา เดี๋ยวพ่อช่วยทำ”
พ่อทำท่าจะเดินเข้ามาช่วย แต่พี่เอกเบรกเอาไว้ก่อน
 
“ผมว่าพ่อกับกายไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า ที่เหลือผมจัดการเอง”
 
ผมมองหน้าพ่อเพื่อขอความเห็น จริง ๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะผมก็ยังไม่ได้อาบน้ำ แถมยังใส่ชุดไม่เรียบร้อยอีกต่างหาก ส่วนพ่อก็เพิ่งเดินทางกลับ อาบน้ำจะได้สบายตัวขึ้น
 
ผมเดินนำพ่อเข้าห้องนอนไป
 
พออาบเสร็จสองพ่อลูกก็เดินตัวหอมฉุยออกมา แล้วเราก็ได้ยินเสียงรัวกดกริ่งหน้าห้อง พ่อรับหน้าที่ไปเปิดประตูให้ทันที
 
“คุณ!! ลูกอยู่ไหน”
เสียงร้อนรนนำมาก่อนเลย
 
“ผมอยู่นี่ ปลอดภัยดีครับแม่”
ผมเดินออกไปรับ แม่สวมกอดผมหมับ ดวงตาสีสวยแดงก่ำจนผมต้องชี้นิ้วใส่หน้า
 
“อย่าเป่าปี่นะ”
 
แม่รีบเบรกหน้าที่กำลังเบะ ๆ ลง
 
“กะ ก็แม่เป็น อึก..ห่วง อึก..กายนี่”
แต่เบรกไม่อยู่ครับ เขื่อนแตกแล้ว = =
 
ผมกับแม่จะต่างกันตรงนี้แหละ เวลาผมร้องไห้ ผมจะร้องไห้เงียบ ๆ แต่สำหรับแม่จะสะอึกสะอื้นจนตัวโยนเลย และตอนนี้ผมก็ต้องยืนปลอบโยนคนที่น้ำหูน้ำตาไหลพรากอยู่หน้าประตู
 
แม่ผมเป็นพวกเซนซิทีฟ ร้องไห้ง่ายครับ ดูหนังดูละครก็ร้องไห้ก่อนพระเอกนางเอกเสียอีก หรือไม่บางที นั่งแต่งนิยายไปร้องไห้ไปก็มี พอผมถาม ก็หันมาเล่า แล้วก็โวยวายใส่พระเอกนางเอก หรือตัวร้ายในเรื่องว่าทำให้เรื่องมันเศร้า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนแต่งเองแท้ ๆ
 
แต่งเอง ร้องเอง ว่างั้น
 
“โอ๋ ๆ มามะ มาให้ผมกอดที”
พ่อตีเนียนเดินเข้าไปโอบหัวแม่ แม่ดิ้นพล่านเหมือนคนถูกน้ำร้อนลวก แต่พ่อก็ยังดึงดันเอามาซบอยู่นั่นแหละ
 
“นี่ ฉันจะคุยกับลูก ปล่อย!!”
 
“ลูกปลอดภัยน่าคุณ ให้สามีเขาปลอบไปเถอะ แต่คุณกำลังเสียใจอยู่ ต้องให้ผมเป็นคนปลอบสิ”
 
มุขพ่อฮะ
 
เริ่มจะโมเมว่าแม่เป็นเมียตัวเองแล้ว
 
“ยุ่ง”
แม่ว่าใส่เบา ๆ น้ำตาเริ่มหดแล้ว
 
พี่เอกหัวเราะใหญ่
 
“จะไปล้างหน้าก่อนไหมครับ”
พี่มันถาม แม่ส่ายหน้า รายนี้ไม่แต่งหน้าอยู่แล้ว
 
หน้าใสธรรมชาติสร้าง
 
“แต่คุณน่ะ หนวดครึ้มเชียว น่าจะโกนซะบ้างนะ”
แม่ท้วง พ่อทำหน้าเหรอหรา
 
“อ้าว คิดว่าคุณจะชอบซะอีก”
 
แม่อ้าปากค้าง แล้วก็หน้าแดงตามมา
 
แต่ก่อนพ่อหน้าเกลี้ยงฮะ เจ้าสำอาง แต่พักหลัง ๆ มานี่ เริ่มไว้เคราบาง ๆ เป็นไรสีอ่อน ๆ รอบริมฝีปาก เห็นแล้วบอกได้คำเดียว
 
หล่อสาด
(ไม่ใช่คำด่านะครับ หล่อสาด คล้ายสาดน้ำน่ะ - -)
 
“คะ ใครว่าฉันชอบ”
 
ฟังธงครับ
 
ท่าทางแบบนี้ แม่ผมชอบแน่ ๆ ผมเองก็เพิ่งรู้สเป็กแม่นะเนี่ย
 
“เอ้า ก็ผมเห็นคุณติดภาพพระเอกในดวงใจคุณไว้ในห้อง เห็นแล้วก็เดาเอาว่าน่าจะใช่”
 
“แล้วคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย”
 
พ่อยิ้มหล่อจนเห็นฟันขาว
 
“เปล่า ผมก็แค่อยากหล่อขึ้นอีกหน่อยให้ใครแถวนี้ใจเต้นเล่นแค่นั้นแหละ”
 
แล้วผมคิดว่าน่าจะได้ผลนะฮะ เพราะแม่ยืนหน้าแดงใหญ่เลย

ผมหันไปมองพี่เอกบ้าง รายนี้ถ้าไว้เคราบ้างจะเป็นยังไงน้า
 
“ไม่ต้องมามอง พี่ไม่ไว้ให้หรอก”
 
“ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”
ผมเสหน้าไปทางอื่น
 
รู้ใจกูจริงวุ้ย
 
“อืม แต่ไว้บ้างก็ดีเนอะป๋า เพราะเคยได้ข่าวมาว่าเวลาไซ้ซอกคอ มันจะทำให้จักจี้หน่อย ๆ”
พี่มันหันไปเกาคางคาดเดา
 
“แน่นอน”
พ่อยืนยัน
 
ผมกับแม่พากันยืนหน้าแดง
 
ใครก็ได้ ช่วยพาผู้ชายสองคนนี้ ออกไปจากห้องที
 
 

 
To be Con....             
มีความมุ้งมิ้ง >////<
ใครอ่านอยู่ รายงานตัวหน่อยค่าาา \\^3^//
 



แจ้งข่าววววค่าา
วันที่ 13-24 ต.คนี้ ไปหาซื้อหนังสือของ Memew กันได้ที่ร้าน B2S กับ Hermit ที่งานสัปดาห์หนังสือ ณ ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์ คนเขียนเอานิยายไปลง 5 เรื่อง , Brother พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี (250.-), Try Love รักครับ ขอจีบได้ไหมครับอาจารย์ (350.-), Hate Love ทาสแค้น (1,300.-), Kiss love รักวุ่นวายนายสุดหล่อ (1,500.-), Boyfriends (300.- )
เสียดายปกนาคินทร์อนุชาเสร็จไม่ทัน เลยอดไปงานนี้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 16 คนเขียนจะชูแวบไปแจกลายเซ็นที่บูธ B2S ไปเจอกันได้นะคะ ^^

เลิฟ ๆ


หนังสือ&e-bookเรื่องนี้ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2016 16:21:33 โดย memew »

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
64 กำลังใจเต็มห้อง...[เอก...☼]



           
ผมนั่งมองไอ้ตัวเล็กที่ถูกพ่อกับแม่เอาใจซ้ายขวา ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเด็กที่ถูกเอาใจมากมายขนาดนี้ แต่กลับไม่มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งต่างกับผม ที่เป็นลูกชายคนโต ถูกพ่อแม่หล่อหลอมให้เป็นพี่ใหญ่ที่เสียสละให้น้อง ๆ แต่ผมกลับกลายเป็นพี่ที่เอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ มีน้องก็เหมือนมีข้าทาสบริวาร เอาไว้ใช้งานและสร้างความสุขให้ตัวเอง จนบางครั้ง ผมยังแอบคิด ว่าสิ่งที่คนเชื่อถือกันมา อาจไม่เป็นจริงเสมอไปก็ได้
 
“กินเยอะ ๆ นะลูก”
แม่ตักผัดผักให้ ไอ้ตัวเล็กก็ตักต้นหอมให้บ้าง แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อตักให้แม่เหมือนกัน ตอนนี้แม่เลยมีต้นหอมอยู่ในจานสองต้น
 
ผมนั่งขำตอนแม่หน้าแดงเรื่อ รวบต้นหอมสองต้นเข้าปากพร้อมกัน
 
“นี่ของพ่อ กินเยอะ ๆ จะได้แข็งแรง”
มันตักน่องไก่ให้พ่อชิ้นหนึ่ง
 
ผมมองยิ้ม ๆ มันยังคงดูแลคนอื่นได้เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม
 
“นี่ของพี่เอก”
 
ผมมองหน้ามัน ก่อนก้มมองไส้กรอกแปลกหน้าในจาน
 
“ขอบใจ”
ผมพูดสั้น ๆ ตักไส้กรอกอันเมื่อกี้กินบ้าง
 
อร่อยครับ อาหารมื้อนี้
 
หลังจากผ่านเรื่องราวที่ทำร้ายจิตใจมันมา ครอบครัวที่โอบล้อมไปด้วยความรักและความอบอุ่นแบบนี้ คงจะช่วยเยียวยาจิตใจมันได้บ้าง
 


 
ตอนนี้พ่อกับแม่นั่งเล่นดูรายการทีวีอยู่กับไอ้ตัวเล็ก ผมโทรสั่งให้แม่บ้านซื้อผลไม้มาให้ แล้วผมก็นำมันไปวางไว้บนโต๊ะให้สามพ่อแม่ลูกทาน แล้วผมก็ทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ไอ้ตัวเล็กมันนั่นแหละ
 
“นี่กาย พ่ออยากให้กายไปช่วยพ่อแต่งออฟฟิศใหม่หน่อยได้ไหมลูก”
พ่อหันมาถาม
 
ไอ้ตัวเล็กพยักหน้ารับ เอื้อมหยิบองุ่นลูกหนึ่งมากิน ก่อนเด็ดอีกลูกมาป้อนผมทั้งที่ตายังมองรายการทีวีตรงหน้าอยู่ ผมก้มมองสิ่งนั้น ก่อนอ้าปากงับเบา ๆ เข้าปาก
 
คุณรู้แล้วใช่ไหม ว่าทำไมผมถึงได้มีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับมัน
 
มันไม่ได้ออดอ้อนออเซาะตลอดเวลา หรือทำตัวหวานเจี๊ยบจนดูโอเวอร์ แต่ทุกอย่างที่มันทำ มันทำอย่างเป็นธรรมชาติ ออดอ้อนเล็ก ๆ แอบหวานเล็ก ๆ
 
มันเด็ดองุ่นมาป้อนผมอีกรอบ ผมงับนิ้วมันไว้ ไล้ปลายลิ้นใส่นิ้วมันเบา ๆ มันหันขวับมามอง ผมยิ้มพราว ไม่ปล่อยให้นิ้วมันเป็นอิสระ มันอ้าปากนิด ๆ หรี่ตาลงหน่อย ๆ
 
แม่เจ้าโว้ย!!
ท่าเจ็บมึงก็ยังเซ็กซี่ได้อีกเนอะ ไม่ติดว่ามีพ่อกับแม่อยู่ มึงโดนกูสวนแน่
 
ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้อง ผมปล่อยนิ้วมันลง ลุกจากโซฟาเดินไปเปิด
 
“พี่เอก!! กายล่ะ”
ไอ้เต้ยครับ ส่วนด้านหลังเป็นไอ้เป้ ผมเปิดประตูออกกว้างให้พวกมันเข้ามา
 
“กาย!!”
ไอ้เต้ยวิ่งไปกอดคอเพื่อนมันทันทีด้วยความเป็นห่วง ส่วนไอ้เป้ก็เดินไปทักทายพ่อแม่
 
“กูเป็นห่วงมึงแทบตาย เกิดอะไรขึ้น บอกกูมาดิ”
 
“เอาไว้เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังทีหลัง”
ไอ้ตัวเล็กมันเลี่ยง
 
ไอ้เป้หันมามองผม ผมเลยเดินพามันไปยืนคุยกันในครัว แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง
 
“ยังดีที่มันไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้ ไม่งั้นมึงกับมันโดนกูต่อยยับแน่”
 
ผมมองหน้ามัน
 
“ต่อยมันก็ถูก แต่กูเกี่ยวไรด้วย”
 
“ข้อหาไม่ดูแลน้องกูให้ดี ๆ”
 
ดู ดู๊ ดูมันทำ ทำไมมันทำกับผมได้
 
“เอ้อ กูผิด ครั้งหน้ากูจะหาซื้อโซ่มาล่ามมันไว้กับตัวเลย คอยดู”
 
“หึ ๆ”
มันหัวเราะเบา ๆ
 
ผมหันไปมองไอ้เต้ยที่กำลังกอดคอไอ้ตัวเล็กอยู่
 
“กูไม่อยากจะคิดลึกนะ แต่ปกติน้องมึงชอบนัวเนียคนแบบนี้ตลอดเลยเหรอวะ”
 
มันพยักหน้า
 
“เพราะชอบมานัวเนียกูแบบนี้แหละ ของกูเลยตั้ง แล้วก็อย่างที่เห็น”
 
“สรุปร่างกายมึงมีปฏิกิริยาก่อน”
 
“ไม่แน่ใจแฮะ” มันทำหน้ากึ่งรับกึ่งสู้
 
ผมยิ้ม
 
“เอาน่าผู้ชายก็งี้แหละ”
ผมกับมันทำหน้าตื่นแทบจะพร้อมกันตอนไอ้เต้ยกระซิบบางอย่างข้างหูไอ้ตัวเล็ก มันใกล้ครับ ใกล้เอามาก ๆ จนดูเหมือนพวกมันกำลังไซ้คอไซ้หูกันอยู่ (มุมกล้องครับ มุมกล้อง)
 
“เอาน่า”
ผมตบไหล่มันแปะ ๆ ยังไม่ทันที่ผมจะหาที่นั่งให้ไอ้เป้ ก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูอีกที ผมรีบเดินไปเปิด
 
“เอ้ย กายเป็นไงบ้างวะ โดนไอ้อาร์ตกับมึงฟัดลุกออกจากเตียงได้รึยัง”
ไอ้มอปากหมามันทักก่อนเป็นคนแรก พอประตูเปิดออกกว้าง ห้องผมแทบแคบไปทันทีด้วยจำนวนคนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
 
ไอ้มอ ไอ้โอม ไอ้กิ๊ฟ ไอ้สาว ไอ้อ้อย อิง ปิง มากันเกือบครบ
 
“มาทำไมกันเยอะแยะวะ”
ผมเริ่มบ่น
 
“ไอ้เชี่ย กูก็เป็นห่วงน้องกูเหมือนกัน”
ไอ้กิ๊ฟมันรีบเดินเข้าไปหาไอ้ตัวเล็กที่เดินออกมารับเหมือนกัน
 
“ไม่เป็นไรนะ”
 
ไอ้ตัวเล็กยิ้มรับ
 
“ผมปลอดภัยแล้วครับ”
 
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
ไอ้กิ๊ฟมันหันมาถาม ผมเลยยกหน้าที่เล่าเรื่องต่อให้ไอ้เป้มัน แล้วตัวเองก็เดินไปสั่งของกินมาเพิ่ม
 
เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นมาอีกรอบ ผมกำลังจะเดินไปเปิด แต่ไอ้ตัวเล็กเบรกเอาไว้ก่อน
 
“ผมเปิดเองก็ได้พี่เอก”
แล้วมันก็วิ่งลิ่วตัดหน้าผมไปเปิด
 
เป็นไอ้โอ๊คครับ
 
เห็นมันยืนนิ่ง จ้องหน้าไอ้ตัวเล็กเขม็ง ก่อนจะก้าวเข้ามาภายในเหมือนคนอื่น ๆ นี่มันมาพร้อมกันแต่ขึ้นมาช้า หรือว่ามันมาคนละรอบกันแน่
 
อันนี้ผมไม่ได้ถาม เพราะปกติ ถ้ามีไอ้ปิงที่ไหนก็ต้องมีไอ้โอ๊คที่นั่น หรือพูดให้ถูก ถ้ามีไอ้โอ๊คที่ไหน ก็ต้องมีไอ้ปิงที่นั่น แต่เมื่อกี้ไอ้โอ๊คเพิ่งมา แล้วไอ้ปิงมาได้ไง
 
สับสนครับ แต่ผมไม่ได้สนใจจะถาม
 
“จะมีใครมาอีกไหมเนี่ย”
ผมพูดกับไอ้ตัวเล็กที่เดินมาช่วยผมถือของไปให้พวกที่มากินกัน
 
“คงไม่แล้วละมั้ง”
สิ้นเสียง ก็ได้ยินเสียงกริ่งอีกครั้งพร้อมประตูหน้าห้องที่ผมไม่ได้ล็อกไว้ก็เปิดออกผัวะ คราวนี้ทุกคนหันพรึบไปมอง
 
“พี่กายยยยยยย”
เดาสิครับ ใครเอ่ย…
 
ไม่รู้ว่าเสียงกับตัวอะไรมาถึงก่อนกัน พวกมันวิ่งมากอดเอวไอ้ตัวเล็กทันที จนมันเซแทบจะล้ม
 
“ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ พวกเราแก้แค้นให้แล้วนะ”
 
“ใช่ ๆ อ้อนให้ขนมตุ๊บตั๊บพี่อาร์ตไปหลายทีเลย”
 
“เจ็บตรงไหนไหมคะ พี่มันทำอะไรสึกหรอแล้วรึยัง”
 
“ถามพี่มัน พี่มันไม่ยอมตอบเลย”
 
“ใช่ นอนหน้าช้ำอย่างเดียว”
 
ไอ้ตัวเล็กทำหน้าปูเลี่ยน
 
“เอ่อ พี่อาร์ตเป็นยังไงบ้าง”
 
ผมคิ้วขมวดเมื่อมันถามถึงไอ้อาร์ตด้วยความเป็นห่วง
 
“ช้ำค่ะ”
 
“ช้ำมาก ๆ”
 
“ด้วยฝีมือพี่เอกนั่นแหละ”
 
“คิดว่างานนี้คงนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวัน”
แล้วพวกมันสามคนก็พากันรายงานน้ำไหลไฟดับ
 
“กูขอต่อยมึงสักทีได้ไหมไอ้เอก”
ไอ้กิ๊ฟมันพูด ยืนหักข้อนิ้วกรอบแกรบตรงหน้า ผมถอยกรูดอัตโนมัติจนเพื่อน ๆ พากันหัวเราะ
 
“จะมาต่อยกูทำไม”
 
“พอดีมึงหน้าตาเหมือนไอ้อาร์ตว่ะ กูจะต่อยมึงแทนไอ้อาร์ตมัน”
มันง้างหมัดทำท่าจะต่อยผมจริง ๆ
 
“พี่กิ๊ฟ!!”
ไอ้ตัวเล็กที่ยืนคุยอยู่กับพวกทโมนรีบวิ่งเข้ามาห้ามไว้ มันไม่พูดอะไรต่อ แต่เอาตัวกันไว้เฉย ๆ

จริง ๆ แล้ว ผมไม่ได้กลัวหมัดของไอ้กิ๊ฟมากนักหรอก ถ้าจะหลบก็หลบได้
 
ผมยืนอึ้งที่มันเอาตัวเข้ามาบังไว้แบบนี้
 
“มึง…”
ไอ้กิ๊ฟชี้หน้าผม
 
“ชิ!”
แล้วมันก็สะบัดตัวเดินหนีไป
 
“ขอโทษนะฮะ”
ไอ้ตัวเล็กหันมามอง

ผมจ้องหน้ามันนิ่ง ๆ แล้วจับมือมันมาจูบที ตอนนี้ไม่มีใครสนใจผมกับมันแล้วครับ เพราะทุกคนหันไปฟังพวกทโมนเล่าถึงวีรกรรมยำไอ้อาร์ตกันหมด
 
“ขอบใจนะ”
ตัวมันเล็กกว่าผม แต่หัวใจมันใหญ่กว่าผมซะอีก
 
ผมดีใจที่มันปกป้องผม
 
มันเพียงแค่ยิ้มให้ผมเท่านั้น แล้วเราก็พากันไปนั่งฟังวีรกรรมสะท้านบ้านกันต่อ


_________________50%_____________________





 
 
ยุ่งวุ่นวายครับ
 
ป่วนกันสุด ๆ
 
พวกมันเล่นเดินร่อนไปทั่ว หยิบนู่นหยิบนี่มาดู นี่ถ้าไม่เกรงใจพ่อแม่มันคงหาเหล้ามากินกันแล้ว
 
“นี่ พ่อกับแม่ไปเที่ยวสวนผลไม้ของไอ้กิ๊ฟกันไหม”
ไอ้โอมมันชวนพ่อกับแม่
 
“อ้าว กูคิดว่าพวกมึงจะยกเลิกกันแล้วซะอีก เห็นเงียบ ๆ ไป”
 
“แล้วแต่รมณ์กู”
ไอ้เจ้าของสวนมันบอก
 
“ที่ไหน”
พ่อถาม
 
“นครสวรรค์ครับ จริง ๆ ไอ้กิ๊ฟมีสวนเยอะ หลายจังหวัด แต่ที่นครสวรรค์จะใหญ่สุด เป็นพัน ๆ ไร่แน่ะ พอดีพ่อกับแม่มันอยากให้กิ๊ฟพาลูกเขยไปแนะนำน่ะ”
มันรีบรายงานต่อ
 
พ่อกับแม่ทำท่าคิด
 
“เอาสิ พ่อไป คุณก็ต้องไปด้วย”
แล้วก็หันไปบังคับแม่ แม่กำลังจะท้วง
 
“เอาโน้ตบุ๊คไปด้วยก็ได้ นิยายแต่งที่ไหนก็ได้ไม่ใช่รึไง ลูกเพิ่งเจอเรื่องแย่ ๆ มานะ ให้เวลากับลูกหน่อยสิ”
ผมว่าพ่อกำลังหาเรื่องออกเดทกับแม่มากกว่า
 
ผมอมยิ้มขำเมื่อแม่เถียงไม่ออก
 
นิสัยแบบนี้ เหมือนใครวะ?
 
“ไปกันวันไหน”
ผมถาม
 
“ศุกร์หน้า”
 
ผมพยักหน้า แล้วทุกคนก็นั่งคุยกันสนุกสนาน เม้าท์แตกกันไป
 
“เออกาย นี่กูจะกลับไปทำงานต่อนะ มึงไปกับกูเปล่า”
ไอ้เต้ยมันหันไปชวนไอ้ตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กัน
 
“พี่กายทำเถอะ อ้อนจะได้ไปทำบ้าง”
ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะตอบ สมุนน้อยของมันรีบอ้อนทันที
 
“เอ่อ...”
มันกำลังจะพูดต่อ พ่อรีบเสริมทันที
 
“จริงด้วย ทำเถอะ พ่อจะได้ไปช่วยบ้าง เวลาเลิกงานมาเครียด ๆ ไปทำแล้วสนุกดี”
 
“ชิ จะได้เจอสาว ๆ มากกว่าล่ะสิ”
แม่เหน็บเบา ๆ
 
พ่อยิ้ม แล้วหันมากระซิบให้พวกเราได้ยิน
 
“อยากเห็นแม่ใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟอีกน่ะ”
 
พวกเราถึงบางอ้อทันที

พ่อแผนสูง
 
สรุป ไอ้ตัวเล็กก็ต้องไปทำ

ผมได้แต่ส่ายหน้า ผมว่า น่าจะเปิดร้านกาแฟสักร้าน ไว้ให้พวกน้อง ๆ ได้วิ่งเล่นกันจริง ๆ จัง ๆ ซะละมั้ง
 
ผมหันไปมองไอ้เป้ ถามมันทางสายตา มันได้แต่ส่ายหัว คงห้ามไม่อยู่ล่ะสิ
 
หลังจากพายุวุ่นวายหมดไป พ่อกับแม่ก็พาไอ้ตัวเล็กกลับบ้าน ทิ้งผมให้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง แต่ผมตัดสินใจที่จะกลับบ้านเหมือนกัน
 
เพื่อไปเยี่ยมใครบางคน
 
“พี่เอกกกกกก คิดว่าจะไม่เข้าบ้านซะอีก”
พวกทโมนวิ่งออกมารับ ซึ่งลุงสนรับกลับมาก่อนหน้าผมไม่นาน
 
“อาร์ตล่ะ”
ผมถามหาไอ้น้องตัวดีทันที
 
“นอนซมค่ะ โดนหมัดพี่ไป ยังไม่ฟื้นเลย”
 
ผมถอนหายใจแรง ถึงยังไงมันก็เป็นน้องเป็นนุ่งล่ะนะ ผมคงไม่ใจร้ายทิ้งมันได้ลงคอหรอก ผมเดินขึ้นห้อง ก็เห็นมันนอนหลับอยู่ สภาพแทบดูไม่ได้ ช้ำไปทั้งหน้า พ่อกับแม่มาเห็นจะคิดยังไงเนี่ย
 
แต่มันเจ็บแค่นี้ คงเทียบไม่ได้ หากสิ่งที่มันทำกับกายนั้นสำเร็จ ผมนั่งลงข้างคนหลับ ลูบหัวมันเบา ๆ อย่างที่ผมเคยทำ
 
“ผมคงไม่มีทางเป็นอย่างพี่ได้แน่ ๆ”
แม้ดวงตาจะปิดสนิท แต่ปากมันขยับพูดเบา ๆ ผมชะงักมือไว้ มันค่อย ๆ ลืมตา ตัวมันร้อนน่าดู
 
“ตามหมอกันรึยัง มีไข้แน่ะ”
ผมหันไปบอกสามทโมน พวกมันรีบวิ่งจู๊ดไปตามหมอทันที
 
“คิดว่าจะมาต่อยผมซ้ำซะอีก”
 
“พี่ทำโทษนายมาเยอะแล้วนะ ที่เหลือ ขึ้นอยู่กับว่านายจะสำนึกหรือไม่สำนึก”
ผมพูดเรียบ ๆ มันหัวเราะหึ
 
“ให้ผมพยายามยังไง ก็ไม่มีทางเอาชนะพี่ได้เลยซินะ”
 
“ทำไมต้องเอาชนะพี่ด้วย”
 
“ก็ผมอยากเก่ง”
 
“นายเก่งอยู่แล้วนะอาร์ต เก่งในรูปแบบของนาย ไม่ต้องพยายามมากมายให้เหน็ดเหนื่อยหรอก ทำเท่าที่ทำได้ เป็นนายเองนั่นแหละดีแล้ว”
ผมบอก
“ไม่งั้นนายจะไม่มีทางมีความสุขเด็ดขาด”
 
มันไม่พูดอะไรโต้ตอบ
 
จริง ๆ ผมกับมันไม่เคยคุยกันแบบเปิดอกแบบนี้หรอก ผมเพียงแต่ไกด์มันด้วยการกระทำ แต่เมื่อสอนอ้อม ๆ ไม่ได้ความก็ต้องพูดกันตรง ๆ แบบนี้แหละ
 
“ในโลกนี้มีคนแย่ ๆ แบบพี่คนเดียวก็พอแล้วอาร์ต เก็บนิสัยดี ๆ ของนายไว้ดีกว่า อย่ามาทำตัวเป็นคนเลวแบบพี่เลย”
 
มันมองตาผม
 
“ผมเลวกว่าพี่อีก”
 
“นั่นเพราะนายพยายามทำตัวให้เหนือกว่าพี่ยังไงล่ะ”
 
มันนอนอึ้งรับฟัง
 
“พี่ดีหนึ่ง นายก็อยากจะทำให้ได้สอง ถ้าพี่เลวหนึ่ง นายก็อยากจะทำให้ได้สาม”
 
มันนอนฟังอึ้ง ๆ ยิ่งกว่าเดิม
 
“พี่อยู่กับนายมาตั้งแต่เกิดพี่รู้นิสัยนายดีนะอาร์ต”
 
มันยังนอนนิ่ง
 
“แล้วกายเป็นยังไงบ้าง”
ก่อนเปรยถามไปเรื่องอื่น
 
“ไม่ต้องห่วงหรอก รายนั้นกำลังใจดี มีแต่คนมาให้กำลังใจล้นบ้าน เพิ่งไล่กลับไปก่อนมานี่แหละ
 
“ขอโทษ”
 
ผมถอนหายใจเบา ๆ
 
 “อาร์ต…”
ผมเรียกสั้น ๆ มันเหลือบตามอง
 
“นายชอบกายเขาจริง ๆ รึเปล่า”
 
มันเงียบไปพักก่อนตอบ
 
“เปล่า”
 
ผมพยายามมองหาความหมายที่แท้จริงจากคำปฏิเสธนั้น
 
“ที่พี่ถาม เพราะพี่อยากให้แน่ใจ ถ้าไม่ชอบก็แล้วไป หยุดทุกการกระทำลงซะ คนอื่นพี่ไม่ว่า แต่คนนี้พี่ขอ เพราะพี่รักกายเขาจริง ๆ”
 
มันมองผมนิ่ง ๆ
 
“แต่ถ้านายเกิดความรู้สึกดี ๆ ละก็ ให้รีบตัดใจ เพราะพี่ไม่อยากให้นายทรมานเหมือนเพื่อนพี่บางคน เพราะพี่คงไม่ยอมยกให้เหมือนคนอื่นที่ผ่านมาแน่ ๆ”
ผมบอกแค่นั้น ลุกเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนป่วย ได้นอนพักผ่อนและคิดทบทวนอะไรคนเดียวต่อไป



 
 
“พี่เอกใจดีจัง”
ไหล่ซ้ายผมโดนจองแล้วครับ
 
“นั่นน่ะสิ ใจดี้ใจดี”
ไหล่ขวาก็เช่นกัน
 
“หล่อก็หล่อ เท่ก็เท่ ใจดีก็ใจดี”
แล้วตักผมก็ถูกจับจองเรียบร้อย
 
“จะเอาอะไรว่ามา”
 
“เปล่าน้า”
 
“แต่พวกเราเป็นห่วงพี่กาย”
 
“แค่นั้นเอง”
 
“กายเขาไม่เป็นไรหรอก ถึงยังไงก็เป็นผู้ชาย และเขาก็เป็นคนเข้มแข็งพอตัว แล้วนี่ พ่อกับแม่รู้เรื่องรึยัง”
 
“รู้แล้วค่ะ แต่ท่านไม่พูดอะไร บอกว่ารอให้พี่เอกมาจัดการเอาเอง”
 
ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะพ่อกับแม่ไว้ใจผมมากอย่างนี้แหละ น้อง ๆ เลยยกให้เป็นไอดอล จนบางที ถ้าไอดอลทำผิด ก็กลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีได้เหมือนกัน


 
 
ผมออกมาเดินเล่นในสวนหน้าบ้าน แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นเพียงดวงจันทร์เว้าแหว่งท่ามกลางท้องฟ้าสีมืด ผมหยิบมือถือขึ้นมากดหาใครบางคน
 
“พี่เอก”
ปลายสายตอบรับ
 
“ทำอะไรอยู่”
 
ปลายสายเงียบไปนาน กว่าผมจะได้รับคำตอบ
 
“คิดถึงพี่เอกอยู่”
 
ผมนิ่งครับ นิ่งไปนานเอามาก ๆ
 
มึงจะทำให้กูรักกูหลงไปถึงไหนวะ
 
“แล้วนอกจากคิดถึงพี่ล่ะ”
ผมถามต่อ
 
“ดูพระจันทร์”
 
ผมหัวเราะ แหงนหน้าขึ้นมองพระจันทร์เหมือนกัน
 
“พี่ฝากมันไปบอกกายแล้ว ว่าพี่คิดถึงกายเหมือนกัน”
ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา คาดว่าน่าจะยังอึ้งอยู่
 
“พี่ทำอะไรอยู่”
 
“มองพระจันทร์อยู่ และถ้าให้เดา มันน่าจะเป็นดวงเดียวกับที่กายมองอยู่ด้วย”
ผมว่าถ้ามันอยู่ตรงนี้ มันคงส่งค้อนมาให้ผมอันใหญ่
 
ผมยืนคุยอยู่กับมันร่วมสามสิบนาที ก่อนที่ผมจะส่งมันเข้านอน ผมแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ใบหน้ายิ้มแย้มฉายชัดผ่านดวงจันทร์สีเหลืองอร่าม
 
ยิ่งรู้จักมันมากเท่าไหร่ หัวใจผมยิ่งเป็นสุขมากขึ้นเท่านั้น


To Be Con....
:กอด1: #อ่านอยู่เม้นท์โหน่ยย
.
.
.
.
.
เจอกันได้ที่งานสัปดาห์หนังสือบูธ B2S กับ Hermit นะคะ ^^
หนังสือ&ebook http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2016 15:20:54 โดย memew »

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อแล้ววววววว ยังไงก็รอนะคะ เข้ามารอทุกวันเลย 555555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด