(เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )  (อ่าน 94801 ครั้ง)

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2012 19:06:15 โดย tonkhaw »

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่๑

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของคนเขียนเลยครับ อ่านเเล้วขอกำลังใจด้วยนะครับ ผิดดพลาดตรงไหนก็ติกันได้คนเขียนจะพยายามเเก้ไขให้ ขอบคุณครับ




         กลุ่มคณะสำรวจกลุ่มเล็กๆเดินเข้าเข้าสู่ป่าดิบชื้นที่อยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศ เพื่อทำการสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ รวมถึงความหลากหลายของสัตว์ที่อาศัยในผืนป่าแห่งนี้ พรานอ่ำ เป็นพรานที่คณะเดินทางได้จ้างจากในหมู่บ้าน
เพื่อนำทางพวกเขาด้วยราคาที่ไม่สูงเท่าไรนัก เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะคุยโม้ โอ้อวดไปเสียหน่อยแต่ด้านการเดินป่านี้ก็คงต้องยอมรับจริงๆว่าเขาชำนาญมาก นี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่พวกเขาได้เข้ามายังป่าดิบชื้นนี้ ครั้งแรกนั้นพวกเขาโชคดีที่ได้พบสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนถึง 3 ชนิด แต่ครั้งนี้เขาจะวางแผนไว้ว่าจะเข้าไปสำรวจในป่าที่ลึกเข้าไปกว่าครั้งก่อนมาก ชาวบ้านในหมู่บ้านที่คณะสำรวจได้จ้างพรานอ่ำมานั้นได้เล่าถึงเรื่องราวลี้ลับต่างๆที่อยู่ภายในผืนป่าให้พวกเขาได้ฟังมากมาย
ทั้งเผ่ากินคน สัตว์ดุร้าย รวมถึง นาคา ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความสนใจมากที่สุด ชาวบ้านเล่าว่าในป่านี้มีนาคาตนหนึ่งอาศัยอยู่มีลักษณะเป็นคนครึ่งงู ช่วงบนเป็นคนช่วงล่างเป็นงู เผ่ากินคนนับถือนาคาตนนี้เป็นเทพเจ้า พรานรุ่นก่อนเคยเล่าไว้ว่าพวกเผ่ากินคนได้สร้างแท่นหินที่ใหญ่โตมากลึกเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของป่า เป็นสถานที่ๆเป็นที่อยู่ของนาคาและใช้เป็นที่มอบเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคาเองด้วย แต่ไม่เคยมีใครพบเห็นตัวเป็นๆจะมีก็เพียงแต่รูปวาดที่เก่ามากแล้วเท่านั้น

           กฤตนัย ชายหนุ่มรูปร่างก่ำย่ำ ที่หลงใหลธรรมชาติได้เดินทางมาพร้อมกับคณะสำรวจเป็นครั้งที่สอง หากแต่จุดประสงค์ของเขาในครั้งนี้แตกต่างไปจากผู้อื่น เขาอยากจะพิสูจน์เรื่องราวของนาคาที่ตนได้รับรู้มาจากชาวบ้าน เขาพยายามเก็บข้อมูลจากหลายคนๆที่เป็นคนเฒ่าคนแก่ของหมู่บ้านที่พอจะรู้เรื่องราวของนาคาแต่ก็ได้มาไม่มากนัก เพราะเป็นเรื่องที่เล่ากันมานานมากแล้วทำให้เนื้อเรื่องไม่ปะติดปะต่อกันสักเท่าไร

   “คุณนัยมาคราวนี้จะเก็บเนื้อเยื่ออะไรกลับไปตรวจสอบอีกหรือเปล่าครับ” สัณหวัชชายหนุ่มร่างบางที่ติดตามคณะมาด้วย ถามขึ้นหลังจากที่เข้ามาในป่าได้ไม่นาน

   “แล้วแต่ดวงล่ะครับ ถ้าครั้งนี้เจออะไรน่าสนใจก็คงเก็บกลับไป”

   “ครั้งนี้เห็นว่าคุณพัชรพลจะเข้าไปลึกกว่าครั้งก่อนมาก ผมหวังว่าเราจะได้เจออะไรแปลกเหมือนคราวที่แล้ว”

   “ผมก็คิดเช่นกันครับ”นัยเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันพรานอ่ำที่นำต้นทาง เขาอยากรู้ว่าครั้งนี้เขาจะเข้าไปได้ลึกมาแค่ไหน

   “พรานอ่ำ เราจะเดินไปได้ลึกแค่ไหนของป่านี้ครับ” ในใจของนัยเขาหวังว่าจะได้เข้าไปยังใจกลางป่า เพื่อพิสูจน์เรื่องของนาคาตนนั้น

   “บริเวณขอบของใจกลางของป่า แต่ไม่ถึงหรอกเพราะที่ตรงนั้นมีเผ่ากินคนเป็นอันตรายอย่างมาก ข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะเอาชีวิตไม่รอดกัน”พรานอ่ำพูดพร้อมทั้งใช้มีดฟันต้นไม้และเถาวัลย์ที่ขวางทางไปพลาง

   ‘บริเวณขอบของใจกลางป่าอย่างนั้นหรอ อย่างนี้เขาอาจจะใช้เวลาที่คณะเผลอแล้วแอบเข้าไปในส่วนกลางป่าได้นี่’นัยคิดแผนการในใจ จากคำบอกของพรานอ่ำเขาต้องเดินสามถึงสี่วันถึงจะถึงบริเวณที่ได้วางแผนเอาไว้ ยังมีเวลาอีกมากในการเตรียมเสบียงและอาวุธต่างๆเขาคิดว่าหากระวังสักหน่อยก็คงไม่เจอกับเผ่ากินคนหรือไม่แน่อาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

   ในตอนเที่ยงของวันแสงของพระอาทิตย์ทำให้ป่าดิบชื้นแห่งนี้ดูอบอ้าวมากกว่าปกติ กลุ่มคณะสำรวจได้หาพื้นที่สำรวจหยุดพักหลังจากที่เดินมาตั้งแต่เช้ามืด

   “ผมออกไปหาฟืนเองครับ”ธนุสอาสาไปเก็บฟืนเพื่อใช้ในการก่อไฟ

          การเดินทางในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 คน พัชรพล สัณหวัช พรานอ่ำ ธนุส และกฤตนัยเอง แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของธนุสทำให้กฤตนัยไม่ชอบใจเท่าไร เขายอมรับเลยว่าเขาระแวงผู้ชายคนนี้ตลอดเวลา หลังจากที่จัดการกับอาหารเที่ยงที่หุงหาเอาง่ายๆ กลุ่มคณะสำรวจก็เดินทางต่อ จนมาถึงบริเวณอยู่ใกล้กับบริเวณที่พวกเขามาเมื่อครั้งก่อน แม้จะไม่ลึกมากเท่าไรแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าหลากหลายพันธ์เลยทีเดียว กฤตนัยคีบเอามูลของสัตว์ขึ้นมาใส่หลอดก่อนจะปิดฝา เขาจะนำไปตรวจสอบว่าสัตว์กินอะไรเข้าไปบ้างเพื่อดูถึงปริมาณของแหล่งอาหาร คนอื่นก็ทำเช่นเดียวกันกับเขาในสิ่งที่ตนเองสนใจ

“ไหวไหมวัช หน้าตาดูไม่ดีเลย ผมว่าคุณน่าจะพักก่อนนะ”กฤตนัยมองไปยังสัณหวัชที่มีท่าทางอิดโรยกว่าทุกคนในกลุ่มเพราะเขาไปคนที่ตัวเล็กและอ่อนแอที่สุด

“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหวอยู่”สัณหวัชตอบพลางยิ้มให้กฤตนัย สัณหวัชกลัวว่าตนจะเป็นตัวถ่วงเวลาและทำให้การเดินทางในครั้งนี้ล่าช้าลง

“เอางั้นหรอครับ ถ้าไม่ไหวบอกผมนะ”

“ขอบคุณครับ”

          เดินมาจนบ่ายคล้อยก็เข้ามาถึงบริเวณสำรวจเมื่อครั้งที่แล้ว คณะสำรวจหยุดเพื่อจะดูว่าสภาพแวดล้อมต่างๆได้เปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด สัณหวัชรู้สึกโล่งใจที่ได้พักสักที พัชรพลและธนุสต่างเดินแยกไปคนละทางเพื่อสำรวจป่า ทางด้านพรานอ่ำเองก็เดินเพื่อจะหาแหล่งน้ำสำรองเอาไว้หลังจากเมื่อเที่ยงและตอนเดินทางได้ดื่มจนใกล้หมดแล้ว

   “ดื่มน้ำหน่อยนะ วัช ท่าทางคุณไม่ดีเลย”

   “ขอบคุณครับ”สัณหวัชรับน้ำมาดื่มอย่างกระหาย ใจเต้นแรงกว่าที่เคย เขารู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับกิจกรรมที่โลดโผนแบบนี้เลยแต่เพราะคนตรงหน้าเขาถึงมา

   “ดีขึ้นไหมครับ”

   “ครับดีขึ้นมาก”

   “ทำไมคุณถึงมาสำรวจในครั้งนี้ละครับ ปกติผมเห็นคุณอยู่แต่ในห้องแลป”ทั้งสัณหวัชและกฤตนัยต่างก็ทำงานอยู่ในหน่วยงานเดียวกันเป็นหน่วยงานของรัฐที่อนุรักษ์และฟื้นฟูป่ารวมถึงพัชรพลและธนุสด้วยเพียงแต่อยู่คนละแผนกเท่านั้นเอง

   “ผม............อยากจะมาเห็นด้วยตัวเองน่ะครับ ตรวจจากตัวอย่างเพียงอย่างเดียวถึงจะรู้ถึงลักษณะของป่าแต่มาเห็นด้วยเองมันย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ใช่ไหมละครับ”สัณหวัชตอบอย่างรวดเร็วเรื่องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นเรื่องที่ถนัดที่สุดอยู่แล้ว เขาเป็นคนเรียนเก่งมากเมื่อเรียนจบก็ถูกจองตัวให้มาทำงานทันทีและเขาเองก็ยอมรับเพราะต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน

   “คุณนัยคิดยังไงกับเรื่องนาคาอะไรนั้นครับ”สัณหวัชรีบเปลี่ยนเรื่อง

   “ไม่รู้สิครับ ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากพิสูจน์”

   “แต่ที่รู้มาที่ตรงนั้นมันอยู่ลึกมากเลยนี่ครับ  แถมยังมีเผ่ากินคนอีกผมเกรงว่าถ้าเราทำอย่างนั้นจะอันตรายมาก”สัณหวัชพูดขัดความคิดของกฤตนัย เขารู้นิสัยของกฤตนัยดี เป็นคนที่คิดจะทำอะไรแล้วต้องสำเร็จ ถ้าไม่ก็ไม่หยุด เขากลัวว่ากฤตนัยจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

   “แล้วคุณไม่อยากรู้หรอครับ”

   “ก็อยากครับแต่ผมห่วงความปลอดภัยของตัวผมเองมากกกว่า”

   “แย่จังเลยนะครับ ยังนี้ผมก็ต้องไปคนเดียวน่ะสิ” พูดจบกฤตนัยก็เดินไปสำรวจพื้นที่ป่าแบบคนอื่นบ้าง เหลือเพียงแต่สัณหวัชที่ยังคิดไม่ตกกับคำพูดของกฤตนัย


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2012 10:26:45 โดย tonkhaw »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
พลอตน่าสนใจ บวกๆ ให้จ้า

wiwanana

  • บุคคลทั่วไป

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
พลอตเรื่องน่าสนใจดีค่ะ จะรออ่านนะคะ :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
รอตอนต่อไปจ้า

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
รับเรื่องใหม่ :mc4:
+1

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
เปิดเรื่องได้น่าสนใจมากค่ะ ติดตามนะคะ :mc4:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
น่าสน
จะเจอเผ่ากินคนมั้ยนะ
แล้วนาคาจะมาในรุปแบบไหน

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รอตอนต่อจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
มีคนอ่านนิยายด้วย

ขอบคุณคุณนักอ่านเงาแลละไม่เงานะครับ

เห็นโพสกับวิวขยับก็มีกำลังใจแล้ว

วันอาทิตย์จะมาต่อให้นะครับ

ออฟไลน์ Artemis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +600/-14
เนื้อเรื่องน่าสนใจ อ่านแล้ว อยากให้รู้ว่านายเอกจะเป็นใคร ระหว่างคนกับนาคา

ขอบพระคุณค่ะ

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เนื้อเรื่องแปลกน่าสนใจค่ะ  รอตอนต่อไปนะจ๊ะ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ ๒





   แสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงและค่อยๆเคลื่อนตัวลงต่ำจนลับหายไป ต้นไม่หนาใหญ่ที่ขึ้นคลุมเอาไว้ทำให้ดูมืดกว่าปกติ ทั้งกฤตนัย พัชรพล และธนุสใช้เวลาค่อนข้างนานในการสำรวจป่าแถบนี้ พรานอ่ำจึงแนะนำให้พักที่นี้สักคืนเพราะกลัวว่าหากเดินทางฝ่าความมืดไปจะเป็นอันตรายถึงแม้จะชินกับเส้นทางก็ตาม สัณหวัชและธนุสตอนนี้ทั้งคู่กำลังนั่งล้อมกองไฟ เพราะอุณหภูมิที่ลดต่ำลงให้ความรู้สึกเย็นๆแต่ไม่ถึงกับหนาว พรานอ่ำลงมือย่างปลาที่จับมาจากแหล่งน้ำที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก พัชรพลและกฤตนัยได้กลิ่นจึงเร่งเตรียมเต็นท์ 2 หลังสำหรับคืนนี้ โดยจะมีพรานอ่ำเฝ้ายามเป็นคนแรกและผลัดเวรกันไปเมื่อครบสองชั่วโมง

   ทุกคนทานอาหารกันอย่างเงียบๆคงเพราะเหนื่อยจากการเดินทางและการสำรวจ จนเมื่อจัดการกับอาหารตรงหน้าจนหมดแล้ว พัชรพลขอตัวเข้าไปเขียนรายงายการสำรวจในเต็นท์ พร้อมทั้งสัณหวัชและธนุสที่ขอตัวไปนอนเช่นเดียวกัน ด้านพรานอ่ำเองก็แยกตัวไปเฝ้ายามโดยทิ้งระยะห่างเต็นท์ไม่ไกลเท่าไร เมื่อได้มานั่งอยู่คนเดียวกับบรรยากาศเดิมๆแบบนี้ทำให้เขานึกถึงสมัยยังหนุ่ม ครั้งแรกๆที่เข้าป่าใหม่ เรื่องราวลี้ลับต่างๆ เขาฉุดคิดถึงเรื่องประหลาดที่แม้แต่คนที่อยู่กับป่ามาตั้งแต่เด็กอย่างพรานอ่ำเองก็แทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เรื่องของ “เสือสมิง”

“กาแฟสักแก้วไหมครับพราน”กฤตนัยยืนแก้วกาแฟให้พรานอ่ะใกล้จนกลิ่นหอมลอยเข้าจมูก

“ขอบใจ”กฤตนัยยิ้มรับและนั่งลงข้างๆ

“เท้าเองเบาเหมือนกันนี่”พรานอ่ำเอยทักขึ้นเมื่อสังเกตว่ากฤตนัยเดินมาหาเขาโดยไม่มีเสียงฝีเท้าเลย

“ใช่ว่าคนตัวใหญ่เท้าต้องหนักทุกคนนี่ครับ ดูอย่างพรานสิ” พรานอ่ำมองกฤตนัยด้วยความชื่นชม เขารู้สึกว่ากฤตนัยเป็นคนฉลาดและมีความสามรถพอตัวเลยทีเดียว

   บทสนทนาจบลงทั้งคู่นิ่งเงียบฟังเสียงหรีด หริ่ง เรไร ที่ร้องระงมทั่วป่า จนกระทั่งพรานอ่ำโพล่งเรื่องหนึ่งขึ้นมา

“เองเคยได้ยินเรื่องเสือสมิงไหมว่ะ”กฤตนัยเลิกคิ้วเป็นเชิงตอบ แสงจากตะเกียงทำให้มองเห็นได้ชัดเจน

“สมัยข้ายังหนุ่มๆเคยเจอเสือสมิงครั้งหนึ่ง เกือบเป็นผัวเสือสมิงสะแล้ว อยากฟังไหมข้าจะเล่าให้ฟัง”กฤตนัยตอบตกลงทันที   เขาเป็นคนชอบเรื่องลึกลับแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งได้มาฟังจากปากของคนที่มีประสบการณ์โดยตรงเอง ทำให้เขาตื่นเต้น

“เสือสมิงเป็นตำนานเล่าขานกันมานานมากแล้ว เล่ากันว่าเสือสมิงเป็นเสือที่ดุร้ายมักจับคนเป็นอาหาร เมื่อกินคนมากเข้าวิญญาณคนที่เสือกินเข้าไปนั้นก็จะสิงสู่ในกายเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีอาถรรพ์สามารถแปลงกายได้ แต่ก็มีคนต้องการเป็นเสือสมิงเช่นเดียวกัน คือเรียกเอาวิญญาณเสือสมิงนั้นเข้าสิงสู่ในกายตน ผนวกกับอาคมด้านเดรัจฉานวิชาทำให้คนนั้นกลายเป็นเสือสมิง   และเมื่อกินคนเข้าไปก็จะกลายเป็นเสือสมิงโดยสมบูรณ์” พรานอ่ำเว้นช่วงในการพูดเพื่อให้กฤตนัยได้คิดตาม

“เมื่อข้ายังหนุ่มได้เข้าป่ามากับพรานเส็ง พรานมีชื่อในหมู่บ้านสมัยนั้น พร้อมกับไอ้ก้อนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอีก 1 คน วันนั้นข้าตั้งใจจะเข้าล่ากวางอ่อนเห็นเขาบอกว่าเขามันขายได้เป็นหมื่น ข้าก็อยากจะจับเงินหมื่นกับเขาบ้าง เดินทางกันจนดึกดื่นค่ำมืดก็หยุดพักทำห้างกันเสร็จเรียบร้อย ข้าก็เฝ้ายามแบบเดียวกับคราวนี้ละ ข้าเฝ้าอยู่จนดึก ฟ้ามืดสนิทและเงียบมาก เสียวจิ้งหรีดสักตัวไม่มีให้ได้ยินสักเอะ สักพักก็มีผู้หญิงสวยเดินมาหาข้า ขอบอกว่าสวยนะโว้ย มันบอกว่ามันเหงาให้ข้าลงไปหา”

“แล้วพรานทำยังไงละครับ”กฤตนัยถามเมื่อเรื่องชักจะตื่นเต้นขึ้นทุกที

“ข้าก็ลงไปสิว่ะ สาวๆสวยๆใช่จะมีให้เห็นกันง่ายๆ”

“รนหาที่น่ะสิพราน”

“อ้าวไอ้นี่ เป็นเองจะไปไหมล่ะ สาวนะโว้ย สวยเสียด้วย อกนี้ยังกับลูกแตงโม”

“เอาละพอเถอะพราน แล้วเรื่องมันเป็นยังไงต่อ”

“พอข้าลงไปหามัน มันก็ลากไปพุ่มไม้ใหญ่ใกล้ๆ กอด จูบกับมันได้สักพักข้าก็ได้กลิ่นคาวเลือด ตอนนั้นข้าชักใจไม่ดี สติกลับมา ผู้หญิงที่ไหนมันจะมาอยู่ในป่าลึกไม่มีคนอย่างนี้ ข้าก็ทำเนียนใจดีสู้เสือไปก่อน”

“อ่อ มีที่มาอย่างนี้เอง”

“อะไรของเอง”

“ก็ ใจดีสู้เสือไง พรานสำนวนสุภาษิตน่ะ”

“ทะลึ่งล่ะ ไอ้นี่”

“ล้อเล่นครับ แล้วพรานรอดออกมาได้ไง”

“ข้าก็เผ่นสิวะ รอจังหวะที่มันเผลอวิ่งกลับห้างเห็นพรานเส็งกับไอ้ก้อนไต่ห้างลงมาแล้ว แต่ยังไม่ทันจะถึงเสือมันก็กระโจนมาหาข้าเสียก่อน โชคยังดีที่พรานเส็งมีลูกปืนอาคม มันกระโจนมาก็ยิงขวางเอาไว้ สุดท้ายมันเจ็บหนัก ถอยไปเอง”

“อ้าวแล้วพรานไม่ได้ช่วยพรานเส็งเลยหรอ ไหนว่าเก่งนักเก่งหนา”

“ข้าจะช่วยได้ไงล่ะวะ ข้ายังหนุ่มวิชาก็มีไม่มากแต่ตอนนี้สิใครหน้าไหนก็สู้ข้าไม่ได้”กฤตนัยเอือมกับพรานอ่ำที่อวยเข้าตัวเองตลอด พลันนึกถึงเรื่องของนาคา ดูพรานอ่ำเองท่าทางจะเข้าป่าบ่อยน่าจะรู้อะไรดีๆเยอะเลยทีเดียว

“พรานรู้อะไรเกี่ยวกับนาคาบ้างไหมครับ”

“นาคาหรอ ก็ไม่มากไปกว่าคนอื่นหรอกไม่มีใครเคยเจอนาคาตัวเป็นๆสักคนหรือไม่ก็ตายก่อนจะได้เจอ”

“ทำไมล่ะพราน”

“ก็ทางเข้าป่าลึกมันผ่านหมู่บ้านกินคนน่ะสิวะ ขึ้นเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามีหวังตายโหงกันพอดี”

“และทำยังไงถึงจะเข้าไปได้ล่ะพราน”

“ก็เข้าไปตอนมันหลับ แต่ใช่ว่ามันจะง่ายๆน่ะโว้ย ไอ้พวกนี่มันหูไวยังกับหมา ไม่เก่งจริงตายตั้งแต่ก้าวแรกนู้น เองจะรู้ไปทำไมวะหรืออยากเจอนาคา”

“แล้วลุงไม่อยากเจอหรอ”

“จะเจอไปทำไม เจอแล้วทำอะไรได้ แต่ถ้าเกิดเองได้เจอขึ้นมาจริงๆวันนั้นอาจจะเป็นวันตายของเองก็ได้ใครจะไปรู้ ข้าเตือนเองไว้น่ะโว้ยอย่าไปยุ่งกับเรื่องอย่างนี้ เกิดตายขึ้นมาจริงๆแล้วจะหาว่าข้าไม่เตือนเอง”

   กฤตนัยคุยกับพรานอ่ำจนถึงเวลาเปลี่ยนเวรเฝ้ายาม เขาเลยอาสารับหน้าที่เฝ้ายามต่อ คำพูดของพรานอ่ำทำให้เขากลับมาคิดถึงจุดประสงค์ของตนเองว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ เขาเพียงแค่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นกับตาหลังจากนั้นก็ออกจากป่าแล้วกลับบ้าน หรือเมื่อได้เจอนาคาแล้วเขาจะจับกลับมาแต่มันจะง่ายดายขนาดนั้นเลยหรอ ไหนจะเผ่ากินคน ไหนจะสัตว์ป่ายิ่งลึกเข้าไปก็ยิ่งน่ากลัว เขารู้ว่านาคาเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติมันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เขาตัดสินใจลงไปแล้วยังไงสะเขาก็จะไป ไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจอย่างแน่นอน


________________________________________________________


   พรานอ่ำตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดพร้อมกับพัชรพลซึ่งทำหน้าที่เป็นคนเฝ้ายามคนสุดท้ายเข้าไปปลุกเพื่อนทั้ง 3 คนที่ยังหลับอยู่ภายในเต็นท์ เขาคิดว่าหากเดินทางตั้งแต่เช้าจะทำให้ถึงที่หมายเร็วขึ้น บริเวณป่าที่ลึกเข้าไปมีต้นไม่ใหญ่ขึ้นเบียดเสียดกันเต็มไปหมดอีกทั้งพื้นยังแฉะชื้นไปด้วยน้ำ พวกเขาต้องแต่งตัวกันอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันแมลงหรือถากที่จะเกาะกินเลือดหรือเข้าไปในร่างกายได้

“พรานอ่ำผมอยากรู้ว่าต้องเดินทางอีกกี่วันจะถึงป่าแถนนั้นครับ”พัชรพลถามเวลาเพื่อจะได้วางแผนการเดินทางได้อย่างถูกต้อง

“ถ้าไม่หยุดพักระหว่างทางเลยทั้งวันข้าว่าสองคืนก็น่าจะถึงแต่ถ้าพักก็คงจะมากกว่านั้น”

“แล้วไม่มีทางที่ไวกว่านี้แล้วหรอครับ”หากมีทางที่เร็วกว่านี้ก็คงจะดี พัชรพลเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูงเขามักจะตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดถึงถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าในการเดินทางครั้งนี้

“ไม่มีหรอก นี่ก็ไวสุดแล้วหรือเองจะเดินทางทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้ข้าไม่ว่าอะไรแต่เพื่อนเองจะไหวหรือเปล่าไอ้หนุ่มหน้ามนนั้น เมื่อวานลมก็จะจับมันเข้าให้แล้ว”นั่นสิ สัณหวัชคงจะไม่ไหวแน่ๆ อันที่จริงพัชรพลเอก็พอเหตุผลที่สัณหวัชมาในสำรวจในคราวนี้เขาอยากจะห้ามแต่ก็ไม่อยากก้าวก่ายจนเกินไป งั้นก็ไม่มีทางเลือกคงต้องเดินทางเฉพาะกลางวัน ถ้าหากพักเฉพาะเวลาทานอาหารคงจะช่วยเร่งเวลาได้มาก

   อาหารเช้าวันนี้ยังคงเป็นปลาฝีมือพรานอ่ำเช่นเคยเพียงแต่เพิ่มอาหารกระป๋องที่เพิ่มด้วยเท่านั้น ตามด้วยกาแฟอีกคนละถ้วยทั้งคณะก็พร้อมเดินทางต่อ

“เอาล่ะทุกคน วันนี้เราจะเดินทางกันทั้งวันโดยไม่หยุดพักจะพักก็ต่อเมื่อถึงเวลาทานอาหารแล้วเท่านั้น ผมคิดว่าถ้าเราทำอย่างนี้จะช่วยเร่งเวลาและทำให้งานสำรวจของเราในครั้งนี้เสร็จไวขึ้น มีใครจะแย้งอะไรไหม”พัชรพลแจงแผนการกับลูกทีมหลังจากที่เก็บของและจัดการกับสถานที่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

   สัณหวัชรู้สึกไม่พอใจนิดๆ รู้ทั้งรู้ว่าเขาคงไม่ไหวแน่ๆทำไมถึงต้องเดินทางขนาดนั้นด้วย อีกอย่างงานครั้งนี้ก็ให้เวลาตั้งครึ่งเดือนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรีบขนาดนี้ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อไม่มีใครแย้งเขาเองก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของใคร

“ถ้าไม่มีก็ตกลงตามนี้ นัยผมฝากวัชไว้ด้วยนะ”พัชรพลรู้ดีว่าสัณหวัชไม่ไหวแน่นอน หากฝากไว้กับกฤตนัยคงจะทำให้คลายความกังวลไปได้บ้าง ที่จริงแล้วเข้าไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนี้ก็ได้แต่งานเสร็จเร็วเท่าไรก็ยิ่งเป็นการดีเท่านั้น นี้เป็นนิสัยของเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

พรานอ่ำเป็นคนหน้าทางเช่นเดิมโดยมีพัชรพลเดินรั้งท้าย เมื่อเดินทางมาเกือบครึ่งค่อนวันป่าแถบนี้เป็นอย่างที่พัชรพลคิดไว้ไม่มีผิดมันสมบูรณ์มาก เถาวัลย์ กิ่งไม้ขึ้นหนามากกว่าปกติเป็นอุปสรรคในการเดินทางของพวกเขา แต่พรานอ่ำเองยังคงทำงานได้เป็นอย่างดี ตลอดการเดินทางมีเสียงสัตว์ใหญ่ให้ได้ยินบ้างเป็นบ้างครั้งแต่ก็ไม่เห็นตัว

“วัชคุณเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดๆ”กฤตนัยถามขึ้นเมื่อสังเกตอาการของสัณหวัชมาสักครู่หนึ่งแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่รู้สึกเจ็บข้อเท้านิดหน่อย”

“ไหนขอผมดูหน่อย”เขาดันหลังให้คนเจ็บนั่งลงบนขอนไม้ทำให้ทั้งกลุ่มต้องหยุดและสิ่งที่พบก็คือปลิงที่ดูดเลือดจากข้อเท้าสัณหวัชจนตัวเขื่องโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลย พอเห็นตัวการสัณหวัชหน้าซีดลงยิ่งกว่าเก่าเขาไม่ได้กลัวปลิงแต่มันมาเกาะอยู่กับตัวอย่างมันก็ต้องมีบ้างที่จะรู้สึกกลัวปนขยะแขยง กฤตนัยคงจับสังเกตได้จึงพูดปลอบใจให้หายกลัว

“ธนุสขอไฟแฉกให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไปแฉกมาก่อนที่จะลนไปที่ตัวของปลิงโดยระวังไม่ได้โดนข้อเท้าเข้า ใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าปลิงจะหลุดออกมาได้

   เมื่อปลิงตัวดำหลุดออกมา สัณหวัชหน้าซีดลงยิ่งกว่าเดิมเลือดยังคงไหลจากแผลถึงแม้จะประคบสมุนไพรห้ามเลือดที่พรานอ่ำหามาให้แล้วก็ตาม กฤตนัยจึงให้สัณหวัชขี่หลังเขาอีกไม่นานก็เที่ยงแล้วเขาคิดว่าน่าจะไหว กระเป๋าจากหลังของเขาถูกถ่ายไปให้คนเจ็บที่เกาะอยู่บนหลัง

   สัณหวัชรู้สึกเกรงใจและสงสารกฤตนัยที่ต้องมาแบกตนไว้อย่างนี้ เหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าเป็นตัวบอกอาการของคนตัวโตได้เป็นอย่างดีแต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็รู้สึกดีนี่เป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ เขาแอบเอนซบศีรษะลงบนไหล่กว้างอย่างลืมตัว ทางด้านกฤตนัยเองก็เกิดความรู้สึกอยากปกป้อง   ดูแลสัณหวัชตั้งแต่เมื่อไรเขาเองก็ยังไม่รู้ เพียงแต่ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกอิ่มเอมใจเช่นเดียวกับสัณหวัช



-เนื่องจากนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องเเรก เนื้อเรื่องอาจจะดูไม่สมเหตุสมผล ถ้ามีตรงไหนที่รู้สึกว่ามันไม่ดี ติชมได้เลยนะครับ คนเขียนจะได้เอาไปปรับปรุง
-ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อ่าน โพส และ+ นิยายให้นะครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2012 21:42:38 โดย tonkhaw »

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
พล็อตเรื่องน่าสนใจนะค่ะ การผจญภัยในป่าลึก มีทั้งนาคา เผ่ากินคน เสือสมิง
การบรรยายก็ทำได้ดีทีเดียว เป็นกำลังใจและติดตามตอนต่อไปนะค่ะ... :กอด1:

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
ชอบแนวนี้อะ...จะรอตอนต่อไปนร้า :oni2:


ปล.....
“ธนุสขอไปแฉกให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไปแฉกมาก่อนที่จะหล่อนไปที่ตัวของปลิง
อ่านแล้วงงๆ...คือหมายถึงอย่างนี้หรือป่าว :m28:
“ธนุสขอไฟแช็กให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไฟแช็กมาก่อนที่จะลนไปที่ตัวของปลิง

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
สนุก รอตอนต่อไป
+1

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เรื่องแรกจริงหรอ?เก่งมากกเลย ^^
ตกลงนาคาจะเกี่ยวข้องอะไรกับคนกลุ่มนี้นะ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ชอบแนวนี้อะ...จะรอตอนต่อไปนร้า :oni2:


ปล.....
“ธนุสขอไปแฉกให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไปแฉกมาก่อนที่จะหล่อนไปที่ตัวของปลิง
อ่านแล้วงงๆ...คือหมายถึงอย่างนี้หรือป่าว :m28:
“ธนุสขอไฟแช็กให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไฟแช็กมาก่อนที่จะลนไปที่ตัวของปลิง


ครับหมายความตามนั้นแหละครับ
ขอบคุณที่เตือนนะครับ ^^

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
รอๆๆๆ ว่าเมื่อไรจะได้เจอนาคา  :m1: :m1: :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






shinigami C.K.

  • บุคคลทั่วไป
พลอตน่าสนใจมากครับ เหอะๆ  o13 o13

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อีกเดี๋ยวคงได้เจอนาคาแน่ๆเลย

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ  o13
อย่าบอกนะว่าสัณหวัชเป็นนายเอกอ่ะ
+1 จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2012 18:05:52 โดย silent_loner »

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
เข้ามาจิ้ม แต่ยังไม่ได้อ่านเดี๋ยวตามมาอ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
น่าสนใจอะ แต่ตอนนี้ยังดูไม่ออกว่าใครจะเป็นพระเอก นายเอกอะนะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
มาให้กำลังใจสำหรับเรื่องใหม่ค่ะ +1 :mc4:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะครับ

อ่านคอมเม้นแล้วก็อมยิ้มคนเดียว

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอ่านเรื่องเเนวยังนี้ ตอนแรกเขียนคาดว่าจะไม่มีคนอ่านสะเเล้ว

แต่เรื่องแรกมีคนสนใจ แค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ

เอาละพล่ามมามาก ขอบคุณสำหรับเม้น และบวก

พรุ่งนี้จะลงตอนที่ 3 ให้นะครับ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่๓




   สองคนเริ่มสนิทกันมากยิ่งขึ้นอาจเป็นเพราะความใกล้หรือเพราะหน้าที่ของกฤตนัยที่ต้องดูแล สัณหวัชก็ตามแต่
 เขามักจะแกล้งยอกให้สัณหวัชโกรธอยู่เสมอ มันน่ามองเขารู้แค่นั้น

“คุณแกล้งผมอีกแล้วนะ นัย”สัณหวัชโวยเพราะตั้งแต่ที่พัชรพลฝากให้กฤตนัยดูแลเขา เขาก็มักจะโดนแกล้งอยู่เสมอ

“ผมไปแกล้งอะไรคุณ”

“ก็คุณเอากระเป๋าผมไปแล้วไม่บอกผมสักคำ”

“ผมแค่จะช่วยคุณถือต่างหาก”

“แต่นั้นก็ทำให้ผมหามันไม่เจอ คุณก็เห็นแต่ไม่ยอมบอกผม”

“ก็คุณไม่ได้ถาม”

“แต่คุณก็น่าจะบอก คุณเอาไป”

“สรุปผมผิด”

“ใช่”

“หึหึ...โอเคผมขอโทษ”กฤตนัยหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดขอโทษออกมาใกล้หูของสัณหวัชที่ยืนตัวเกร็ง

“ก็แค่.....”ก็แค่อะไรกัน สัณหวัชคิด

“ก็แค่....แค่แกล้งคุณแล้วมันตลกเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ”กฤตนัยหัวเราะรวนแล้วปล่อยให้สัณหวัชยืนฟืดฟัด ต่อยลมอยู่คนเดียว




___________________________________________________________________




   หลายวันที่ผ่านมากฤตนัยเร่งเตรียมของใช้และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางของเขาโดยใช้เวลาตอนที่ทุกคนเผลอแต่
ของส่วนใหญ่เขาก็เตรียมตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้วเพียงแต่เช็คดูว่ายังขาดเหลืออะไรอีกหรือไม่ อย่างตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน
ทั้ง4คนกำลังเตรียมห้างสำหรับนอนในคืนนี้ พรานอ่ำบอกว่าป่าแถบนี้อยู่ค่อนข้างลึก ดังนั้นสัตว์ป่าก็เลยชุมเป็นพิเศษ
เพื่อไม่เป็นการประมาทจนเกินไปจึงทำห้างและพักอยู่บนนั้น กฤตนัยพยายามเตรียมของโดยไม่ให้ทุกคนสงสัยหรือเกิดพิรุจ
 แต่นั้นก็ไม่อาจรอดจากสายตาของสัณหวัชได้ เขาสังเกตพฤติกรรมของกฤตนัยตั้งแต่วันที่เขาพูดเกี่ยวกับนาคา
สัณหวัชกลัวว่าเขาจะไปจริงๆ นี่ก็คืนที่สามแล้วที่เขาอยู่ในป่า ใกล้จะถึงป่าจุดที่วางแผนไว้เต็มที
 หวังว่ากฤตนัยจะไม่ทำอย่างที่เขาคิดเอาไว้

“นัยคุณทำอะไรอยู่”กฤตนัยทำท่าเหมือนกำลังจัดอะไรบ้างอย่างลงในกระเป๋าใบโตนั้น

“ปะ..เปล่านี่ครับ ผมแค่.....จะหยิบไฟแฉกเอาไปจุดไฟน่ะ”เขาหยิบไฟแฉกชูขึ้นให้สัณหวัชเห็น ก่อนจะเดินออกไป
พักนี้เขามีท่าทางแปลกๆ

“คุณพลผมว่าพักนี้ นัยมีท่าทางแปลกๆคุณคิดเหมือนผมไหม”สัณหวัชถามความเห็นของพัชรพลถ้ามีคนสังเกตเห็น
เหมือนกับเขานั้นก็หมายความว่า กฤตนัยกำลังพยายามทำอะไรอยู่อย่างแน่นอน

“ไม่นี่ ผมว่าเขาก็ปกติดี”

“งั้นหรอครับ ผมว่านัยกำลังจะทำอะไรบ้างอย่าง ผมเห็นเขาจัดกระเป๋าไว้ด้วย”

“คุณคิดมากไปหรือเปล่า กระเป๋านั้นก็คงสำหรับเดินทาง”

“แต่นัยพูดอะไรบ้างอย่างกับผมเกี่ยวกับนาคา ผมกลัวว่าเขาจะตามหามัน”

“นัยเขาเป็นคนฉลาด เขาคงไม่ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองลำบากอย่างนั้นหรอกครับ”

“แต่...”

“เอาล่ะ ถ้าคุณสงสัยขนาดนั้นผมจะถามเขาให้ ตกลงไหมครับ”

“เออ..ครับ ก็ได้ครับ”

   พัชรพลต้องไม่เชื่อเขาแน่ๆ เขาคงต้องสังเกตกฤตนัยให้มากกว่านี้ เขาจะเข้าไปในนั้นได้อย่างไรคนเดียว ในนั้นอันตราย
จะตายแล้วถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร แต่ดูเหมือนว่ากฤตนัยเองจะระวังตัวมากกว่าที่คิดหลังจากที่รู้ว่า
เขาสังเกตอยู่ เขาแทบไม่เห็นอาการแปลกๆของกฤตนัยเลยมันยังเป็นปกติ แต่พักนี้ดูเหมือนว่ากฤตนัยจะคุยกับพรานอ่ำ
ถี่ขึ้นแต่ละครั้งใช้เวลานาน ไม่แน่เขาอาจจะหาทางเขาไปที่นั้น ในป่านั้นและคนที่รู้ทางดีที่สุดก็คือ พรานอ่ำ

 กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จตะวันก็คล้อยจนเย็น ทุกคนต่างรีบทำหน้าที่ของตัวเองให้ทันก่อนฟ้ามืด กฤตนัย พัชรพล ธนุส
และสัณหวัชต่างก็ออกไปสำรวจป่ากันคนละทาง ส่วนพรานอ่ำเองก็ออกไปหาของป่ามาไว้เหมือนกัน กฤตนัยวางแผน
เอาไว้ว่าคืนนี้เขาจะออกเดินทางโดยไม่ให้ใครรู้ ตอนนี้ขณะที่เขากำลังสำรวจอยู่เขาหยิบกระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ออกมาด้วย
กฤตนัยซ่อนกระเป๋าไว้ตรงโคนต้นไม้ไหญ่ไม่ลืมที่จะใช้เศษไม้ กิ่งไม้บังไว้ ช่วงนี้เป็นคืนเดือนหงายอีกไม่นาน
พระจันทร์ก็จะเต็มดวงแล้ว ดังนั้นการเดินทางในครั้งนี้คงไม่ลำบากสักเท่าไรประกอบกับไฟฉายที่มีอยู่ด้วยแล้วเขา
ว่างานนี้คงไปได้สวยที่เหลือก็คงรอเวลาและหาทางออกมาจากที่นั้น

“พรุ่งนี้เราจะถึงที่หมายเมื่อไรครับพรานอ่ำ”พัชรพลถามขึ้นขณะที่ทั้งคณะเริ่มต้นทานอาหารอยู่รอบกองไฟ

“สักราวๆบ่าย2ไม่เกินนั้น”

“แล้วเองจะอยู่กันอีกสักกี่คืนว่ะ”

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงอีกสองสามคืนน่ะพราน เราต้องสำรวจผืนป่าบริเวณนั้นอย่างละเอียด”

“เออก็ดี แต่ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีน่ะโว้ย แถวนั้นอันตราย เสือ สิงห์ มันชุม”

“พรานพูดยังนี้ ผมก็แย่นะสิครับ”ธนุสที่นั่งเงียบพูดขึ้นมา ถ้าเกิดเจอขึ้นมาจริงๆเขาก็แย่นะสิ

“ก็ใครใช้ให้พวกเองเข้ามาลึกขนาดนี้ละว่ะ จะมาโทษข้าก็ไม่ได้”

“ก็มันงานน่ะพราน ขืนผมไม่ทำก็โดนไล่ออกทีนี้ซวยกว่าเก่า”

“เออๆข้าก็เตือนให้พวกเองระวังไว้ ไม่ได้บอกว่าจะเจอนี่โว้ย”

“ครับ”ธนุสลากเสียงยาว ก่อนลุกปืนขึ้นห้างไป

   บทสนทนายังคงเดินต่อไปเพียงแต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่4คนเท่านั้น ทุกคนดูเหมือนจะคุยจนเพลินยกเว้นสัณหวัช
เขากำลังจับพิรุจของกฤตนัยอยู่ แต่กฤตนัยเองก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมา ทำให้เขารู้สึกโมโหเล็กๆ หรือว่ากฤตนัย
ไม่ได้คิดทำอะไรอย่างที่เขาคิดไว้แต่มันน่าสงสัย เขาก็แค่อยากรู้ จนดึกมากแล้วพรานอ่ำบอกให้พวกเขาขี้นห้าง
ครั้งนี้เป็นพัชรพลที่เฝ้าห้างเป็นคนแรก กลางคืนในป่ามันมืดจริงๆมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสอดผ่านใบไม้เท่านั้นที่พอ
จะช่วยให้มองเห็นได้

   กฤตนัยเมื่อขึ้นห้างมาแล้วก็แกล้งหลับเขารับหน้าที่เฝ้ายามที่สองตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสองนั้นเป็นเวลาเหมาะที่
จะออกเดินทางหากยิ่งใกล้เช้าเขาก็กลัวว่าจะมีคนตื่นมาเจอเข้า วันทั้งวัน ไม่ใช่สิ!!!หลายวันแล้วที่สัณหวัชมักจะแอบมอง
เขารู้ว่าสัณหวัชสงสัยว่าเขากำลังตามหานาคาเขาพลาดเองที่พูดเรื่องนี่สัณหวัช แต่ตอนนี้ก็เป็นไปตามแผน
เขากำลังเฝ้ายามอยู่ ทุกคนหลับสนิทเหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น กฤตนัยค่อยๆไต่ลงห้างอย่างช้าๆไม่ให้เกิดเสียง
แล้วเดินไปยังจุดที่เก็บกระเป๋าอย่างเงียบกริบ โดยอาศัยแสงจากดวงจันทร์นำทาง เขาต้องแน่ใจว่าห่างจากห้างพอ
ไม่มีใครเห็นแสงไฟฉายจึงจะหยิบมาใช้

   สัณหวัชลืมตาขึ้นเมื่อกฤตนัยไต่ลงห้าง เขาแกล้งหลับมาตลอด แต่กฤตนัยอาจจะลงไปทำธุระส่วนตัวข้างล่าง
สัณหวัชไม่ได้ติดใจอะไรถ้าไม่เห็นว่าบ้างสิ่งหายไป กระเป๋า...กระเป๋าใบนั้น ใบที่กฤตนัยถือติดตัวตลอดมันหายไป
เขาหาอย่างไร ก็หาไม่เจอ เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ สัณหวัชคว้าเป้ที่คิดว่าต้องได้ใช้แน่นอนแล้วรีบไต่ลงห้าง
เดินไปตามทางที่เห็นแผ่นหลังของกฤตนัยลางๆ ไม่ให้รู้ กฤตนัยหายไปหลังต้นไม้ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับเป้ใบนั้น
เขาควรรีบตามกฤตนัยไปรอถึงเช้าแล้วค่อยออกไปหาถึงตอนนั้นกฤตนัยคงไม่ใจร้ายไล่เขากลับอย่างแน่นอน
เดินออกมานานมากแล้ว กฤตนัยหยิบกระบอกไฟฉายมาก่อนเปิดมันนั้นทำให้สัณหวัชตามได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นป่าแถบนี้รกมาก เขาเดินไม่ถนัดต้องคอยปัดกิ่งไม้ที่บังทางเดินสลับกับมองคนข้างหน้าที่เดิน
อย่างคล่องแคลว แล้วเขาก็มองไม่เห็นกฤตนัย แม้แต่แสงไฟฉาย เขามองไม่เห็น กฤตนัยหายไปไหน
สัณหวัชคลาดกับกฤตนัยสะแล้ว แต่ที่แย่ไปกว่านั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ที่ไหน

“นัย คุณอยู่ไหน”สัณหวัชตะโกนเรียกกฤตนัยในความมืด ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับมีแต่เสียงสะท้อนของเขาดังไปก้องป่า

“นัย”

“นัย”

“กฤตนัยคุณอยู่ไหน..อือ..ผมกลัว”ประโยคสุดท้ายเรียบและเบา น้ำตาคลอเบ้า เขาจะทำอย่างไรดี



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


-เรื่องนี้จะแต่งแค่ไม่กี่ตอนนะครับ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 10 ตอน(เรื่องสั้นมาก)เพราะวางพลอตไว้แค่สั้นๆ
ไม่อยากใส่อะไรลงไปมากกลัวว่ามันยืดเยื้อเเละน่าเบื่อ พยายามเดินเรื่องเร็วๆ(หรือยัง)ครับ
-ตอนหน้าน่าจะเจอกับนาคาแล้ว คิดว่านาคาจะเป็นเเบบไหนลองทายมาได้นะครับ
-ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและ+ นะครับ ^^


ออฟไลน์ White

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เนื้อเรื่องน่าสนใจ
แต่จะผิดมั้ยเนี่ย ที่อ่านแล้ว รู้สึกไม่ชอบ วัช ซะอย่างนั้น

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ใครจะมาช่วยเอ่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด