(เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )  (อ่าน 94721 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
คุณกฤตนัย ออกจะเห็นแก่ตัวนิด ๆ นะ เพราะ ต้องคำนึงว่า มาทำงานกันเป็นทีมแต่หลบไปคนเดียวแบบนี้
คนข้างหลังเดือดร้อนนะ เอาเถอะ ดูท่าพี่แกจะเอาตัวรอดได้อยู่ 
ที่น่าเป็นห่วง คือ คุณสัณหวัช เข้าใจว่าเป็นห่วงคุณกฤตนัยแต่รีบร้อนตามออกมาโดยไม่ประเมินความสามารถของตัวเอง
เลยหลงป่าดงดิบแบบสติแตกอยู่นี่ไง...   :m23:

ป.ล.เพชรพระอุมา เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมมาก ตามห้องสมุดโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีให้ยืมอยู่แล้ว
ลองไปหาที่ห้องสมุดของสถาบันการศีกษาที่เรียนอยู่ก่อนก็ดีค่ะ...  :teach:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
เอาใจช่วยเคะน้อยน่ารัก(ใช่นายเอกรึป่าววา  ไม่แน่ใจ  ฮี่ๆๆ)

น่าเป็นห่วงเหลือเกินนน

พอคนเขียนเอ่ยถึงเผ่ากินคนนะ  เราจะกลัวขึ้นมาทันทีอ่ะ 
เพราะไปนึกถึงมนุษย์เดินดินกินเนื้อคน
  เคยดูตอนเด็ก  จนกลัวกลัวขึ้นสมองเลย  ฮือๆๆๆ

+1 ให้จ้าาา

wichaiP

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องสนุกมาก มีการวางพล๊อตได้เยี่ยมครับ รออ่อน อย่างใจจดใจจ่อ

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
กฤตจะตามหาอะไรก็ตามใจเถอะ
แต่จะมีตามหาวัชเจอมั้ย

โธ่ๆ วัชอุตสาเป็นห่วง ดันซวยหลงป่า T^T

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เมื่อไหร่จะเจอนาคา

 :serius2: :serius2:  ลุ้นอยู่น้ะเนี้ย 555

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่เจอนาคาเลยอ่า
ใครจะเจอนาคากันละเนี่ย
ลุ้นต่อไปจ้า  :z2:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
เหตุผลเนื่องมาจาก อาทิตย์นี้มีสอบอนาโตมี่ครั้งที่สองซึ่งครั้งเเรกทำคะแนนได้ห่วยแตก

เลยขอพักการอัพเรื่องนี้เอาไว้อาทิตย์หนึ่ง กะจะอ่านหนังสือให้คะแนนพุ่งปรี๊ดกับเขาบ้าง

หลังจากสอบเสร็จเเล้ว น่าจะกลับมาอัพอีกทีวันจันทร์ของอาทิตย์หน้า

ตอนหน้าจะเอายาวๆมาให้นะครับ ^^

เห็นมีคนบ่นอยากให้เจอนาคาเร็ว ตอนหน้านี้น่าจะได้เจอเเล้วครับ

ขอบคุณที่อ่านเเละขอบคุณสำหรับ + ที่กดให้นะครับ

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
จ้าาาาาา
ขอให้สอบได้คะแนนที่หวังนะจ๊ะ
รอ นาคา อยู่น้าา

ออฟไลน์ pu4755

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่านแล้วน่าจะเป็นเผ่ากินคนจับตัวนัยไปสังเวยให้กับนาคา แล้วก็จะเกิดเป็นเรื่องราวระหว่างนาคากะนัย แน่ ๆ รุย ^^

ออฟไลน์ Artemis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +600/-14
ตั้งใจอ่านหนังสือนะค่ะ

ขอให้ได้คะแนนตามที่ต้องการ

ปล.รออ่านอยู่นะค่ะ ขอบคุณค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ ๕







สัณหวัชลืมตาตื่นขึ้นในช่วงสายของวัน บรรยากาศรอบข้างดูชื้นแต่อากาศกลับรู้สึกร้อนอบอ้าว ตอนนี้ทั้งตัวของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อไคลที่ไหลอาบไปทั่วตัว เพราะความชื้นสัมพัทธ์ที่ค่อนข้างสูงทำให้เหงื่อที่ออกมาไม่สามารถระเหยออกไปได้ เสื้อแขนยาวที่ใส่เองก็ลู่ไปตามเนื้อกายของเขา สัณหวัชกลั้นใจเดินตามป่าทึบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อหาแอ่งน้ำหรือธารน้ำสักที่เพื่อดับความร้อนของเขาในเวลานี้ แต่หนทางในป่าที่รกและเต็มไปด้วยต้นไม้อย่างนี้ทำให้เขาใช้พลังงานในการเดินไปมากพอสมควร สัณหวัชรู้สึกหน้ามืดน้อยๆ เพราะยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า นี้ก็เข้าวันที่สองแล้วที่เขาเดินทางตามกฤตนัย อาหารในกระเป๋าเป้ตอนนี้ก็ไม่มีเหลือแล้ว การใช้ชีวิตในป่าลำพังคนเดียวแบบนี้ยากกว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะ ถ้าตอนนี้มีพรานอ่ำอยู่เขาคงได้กินปลาสดๆจากลำธารแล้ว แต่เขาไม่มีความสามารถพอที่จะทำอย่างพรานอ่ำได้ เลยได้แต่กินน้ำลูบท้องไปพลางๆ ผลหมากรากไม้ที่เห็นได้อย่างง่ายดายในทีวี แต่ที่นี้ไม่มีให้เห็นแม้แต่ผลเดียว เขาหิวจนแทบจะเดินไม่ไหว พลันหูก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดังแว่วมาจากด้านหน้า สองเท้ารีบสาวไปจนสุดความเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจน้ำใสก็ถูกเขาวักมาอยู่ในอุ้งมือก่อนจะสาดใส่หน้าอย่างเร็ว พร้อมทั้งดื่มน้ำนั้นเข้าอีกใหญ่ๆ กระเพาะกลวงของเขาพอจะหนักขึ้นมาจากมวลของน้ำอยู่บ้างแต่มันก็ยังหิวอยู่ดี สัณหวัชทิ้งตัวลงข้างต้นไม้ใหญ่ข้างริมน้ำนั้น เหม่อมองท้องฟ้าสีครามด้านบน ตรงนี้เป็นอีกที่ที่ต้นไม้ขึ้นไม่มากเท่าบริเวณอื่นๆคงเพราะเป็นพื้นที่ที่น้ำไหล ต้นไม้เลยขึ้นไม่ได้



สัณหวัชดำดิ่งลงสู่ความคิดของตัวเอง หลายวันที่อยู่คนเดียวในป่านี้เขาไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำเดียว นอกจากเสียงถอนหายใจหรือเสียงหอบจากอาการเหนื่อยเท่านั้น หลังๆมานี้เขาเองก็รู้สึกชินกับการที่ไม่พูดอะไรเลย แต่บางครั้งก็นึกสนุกลองเปล่งเสียงออกมาบ้าง อย่างเช่น ‘สวัสดี’ ‘มีใครอยู่ไหม’ หรือฮัมเพลงเบาๆคลอไปด้วยระหว่างทาง เพื่อฟังเสียงของตัวเอง มันก็แปลกดีที่ได้ยินหลังจากที่ไม่ได้ยินมานาน ขาอ่อนแรงพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นหลังจากที่นั่งอ้อยอิ่งมาซะนาน เขาต้องเดินต่อ



‘นี้ก็เข้าวันที่สองแล้วมันน่าจะถึงแล้วนี่’ เขาคิดในใจพลางสอดส่องสายตามองฝ่าป่าไปด้านหน้าเพื่อมองหาบางสิ่งที่อาจจะเป็นตัวชี้ให้เห็นว่าเขามาถึงที่แล้วจริงๆ แต่ก็ไม่มีอะไรมีแค่ต้นไม้ เถาวัลย์ และรากไม้ อย่างที่เห็นมาตลอดทั้งวัน เข็มทิศที่ห้อยคออยู่ถูกใช้งานขึ้นอีกครั้ง สัณหวัชมองหน้าปัดเข็มทิศเพื่อหาจุดยืนที่เขายืนอยู่และทิศทางที่จะเดินต่อไป


“เฮ้ออออ....” นี่เป็นเสียงถอนหายใจครั้งที่เท่าไรของเขาแล้วก็ไม่รู้หลังจากที่รู้ว่าตัวเองไม่ถึงที่หมายสักที สองขาของเขาก้าวตามพื้นชื้นๆต่อไป ความเหนื่อยและล้าเกาะกินร่างกายของเขาในแทบทุกส่วนในตอนนี้ แต่มีเพียงส่วนเดียวที่ยังคงเหลืออยู่คือ ใจ เขาหวังว่าจะได้เจอกฤตนัยและเขาจะรอด ไม่ต้องตายอยู่ในป่าแบบนี้


ไกลและนานพอสมควรที่สัณหวัชเดินเท้าผ่านเข้ามา เขาตัดสินใจทิ้งกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เหลือไว้แค่เพียงเข็มทิศที่ห้อยคอและของจำเป็นเล็กๆน้อยๆในกระเป๋าใบที่เล็กกว่าเท่านั้น มันคงจะช่วยให้เขาเดินได้เร็วขึ้น ตั้งแต่ที่หลบออกมาจากห้างในครั้งนั้นเขาเองก็เห็นแค่เพียงป่าที่ขึ้นหนาเท่ากันทั่วทั้งป่า แต่ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่า เพราะป่าแถบนี้ดูเหมือนจะบางกว่าบริเวณอื่น สังเกตได้จากแสงที่สามารถส่องลงมาได้มากกว่าที่เคยเห็น และทางเดินเองก็ไม่รกเท่าป่าในส่วนที่เพิ่งจะผ่านมา  ถึงจะสงสัยแต่ก็ดีมันคงทำให้เขาไม่เหนื่อยเท่าไร บางทีเขาอาจจะหาที่พักที่ดูจะปลอดภัยได้ในป่าบริเวณนี้ก็ได้ เขายังจำได้ถึงเสียงคำรามของเสือหรืออะไรสักอย่างที่ออกมาหากินตอนกลางคืน มันน่ากลัวว่ามันจะเจอเขา และถ้าเป็นอย่างนั้นศพของเขาคงดูไม่จืดแน่ๆ แต่โชคยังดีที่มันไม่ได้กลิ่นของเขาหรือกลิ่นตัวของเขาอาจจะคล้ายกับศพก็อาจจะใช่


พลบค่ำแล้วสัณหวัชพยายามมองหาที่จะขดตัวนอนพร้อมกับความหิวในวันนี้ แต่ขาของเขาก็เกิดไปสะดุดกับบางอย่างเข้า นั้นทำให้เขาล้มถลาไปด้านหน้าอย่างแรงเข่าที่ลงกระแทกพื้นอย่างหนักทำให้เขาเจ็บจนกุมหัวเข่าไว้อย่างแน่นเพื่อคลายความเจ็บ แต่ไม่ทันที่จะได้ร้องโอด โอย สายตาก็พบกับตัวการที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้


“ หัวกะโหลก ” ถึงแล้วหรือนี่เผ่ากินคน ร่างกายถดไปด้านหลังอย่างรวดเร็วมันตอบสนองตามสัญชาตญาณของความกลัวได้เร็วอย่างใจคิด ตอนนี้หัวใจของสัหวัชเต้นไม่เป็นระส่ำ สองมือเปียกชื้นและเต็มด้วยเหงื่อ นัตย์ตาเหลือบมองไปทั่วบริเวณ เขาต้องรีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด สัณหวัชลุกขึ้นสุดตัวด้วยความเร็ว เมื่อคิดได้ดังนั้นเขารีบวิ่งตรงไปข้างหน้า แต่ยังคงหันมามองด้านหลังเป็นระยะๆ เพราะไม่มีความรู้เรื่องอะไรของชนเผ่านี้เลยเขาจึงไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้นจะถึงก็ถึงเอาซะดื้อๆ


สัณหวัชเหนื่อยหอบจนตัวโยนอยู่ข้างต้นไม้สูง เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อพบว่าตัวเองไม่เป็นอะไรและไม่เจออะไรหลังจากที่วิ่งมาได้ไกลมากแล้ว แสงอาทิตย์จากท้องฟ้าตอนนี้หมดลงไปแล้วเหลือไว้เพียงแต่ความมืดที่เข้ามาปกคลุม ไฟฉายกระบอกเดิมถูกยกขึ้นมาส่องทางอีกครั้ง สัณหวัชเดินไปเรื่อยเมื่อพบว่าบริเวณนี้ไม่มีซอกหินหรือ หลืบรากไม้พอที่จะให้เขาเข้าไปซ่อนตัวได้เลยในคืนนี้


“ ซวบ ” เสียงอะไร!! สองขาหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างอยู่ด้านหลัง


“ ซวบ ”


“ ซวบ ”


“ ซวบ ”



เสียงนั้นถี่ขึ้นและดังขึ้นจนรู้สึกได้ว่าสิ่งนั้นอยู่ห่างจากเขาไม่เท่าไร มือมอมนั้นกำกระป๋องไฟฉายไว้แน่นจนรู้สึกปวด ก่อนจะหัน
หลังไปมองเหตุของเสียงที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของเสือโคร่งตัวโตห่างออกไปราว 50 เมตร สติของเขาหลุดลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นเสือตัวนั้นและสัตว์ร้ายตรงหน้าก็เห็นเขาเช่นกัน ตาสบตาสักครู่ความเงียบเข้าปกคลุม สัณหวัชยืนตัวแข็งทื่อแต่ตายังจับจ้องไปยังลูกตากลมโตของเสือโคร่งที่เดินวนซ้ายทีขวาทีราวกับจะหาจังหวะที่จะตะครุบเขาเป็นเหยื่อ ระยะทางแค่นี้เขาไม่มีทางรอดได้แน่ๆแม้จะออกวิ่งก่อนมันก็ตาม อีกเป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำอะไรโดยไม่คิดแบบนี้ เขานึกถึงพระเจ้าตอนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่เขานึกถึง ถ้าหากว่าชะตาของเขาไม่โหดร้ายจนเกินไปคงจะรอดจากกรงเล็บ และอุ้งเท้าโตๆนั้น เสือโคร่งตัวโตเดินวนหน้าเขานานมากแล้วแต่ไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาขย้ำเขา อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเองก็จ้องตาของเสืออยู่ทุกฝีก้าวที่มันเดิน



สัณหวัชคิดอยู่อย่างเดียวในตอนนี้คือวิ่งออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ของข้างขวาเริ่มก้าวไปด้านหลัง พร้อมกับเท้าซ้ายที่ก้าวตามอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้เสือรู้สึกตัว



เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาเป็นระยะตามหลังทุกๆก้าวที่เขาก้าวออกมา และเมื่อกะจังหวะดีแล้ว สัณหวัชหันกายเร็วราวกับสายลมเขาออกวิ่งเต็มกำลังขารู้สึกว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่วิ่งได้เร็วที่สุด อาจจะเพราะกลัวเสียงคำรามและเสียงฝ่าเท้าหนักๆที่ไล่หลังมาติดๆ หรืออาจจะเป็นร่างกายของเขาเองสั่งการให้หนีจากอันตราย เสียงหัวใจในอกดังถี่ราวกับรัวกลอง เขายังคงได้ยินเสียงของฝ่าเท้าที่ตามอยู่ ฉะนั้นเขาจะหยุดไม่ได้ การวิ่งซิกแซกไปตามต้นไม้ อาจจะช่วยยืดเวลาชีวิตของเขาได้ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อครู่หนึ่งด้านหลังที่เขาเห็น เสือโคร่งตัวนั้นกลับตัวได้ว่องไวกว่าเขาเสียอีก สัณหวัชยังคงวิ่งแต่สายตากลับหันไปจับจ้องเสือตัวนั้นราวกับนับเวลาถอยหลังชีวิตของตัวเอง


และเมื่อมันใกล้เข้ามา


ใกล้เข้ามา


ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ



ไม่มีประโยชน์ที่จะวิ่งต่อขาสองเริ่มผ่อนความเร็วลง จนสุดท้ายเสียงคำรามดังลั่นป่าพร้อมทั้งกรงเล็บที่พุ่งทะยานเข้ามาหาเขา ห่างแค่ปลายจมูกและหายไปพร้อมกับเสียงร้องของสัณหวัชเอง

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.


ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่สัณหวัชสลบไป และทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นความเจ็บปวดก็แล่นเข้าไปยังขั้วหัวใจ ที่น่องของเขามีไม้ปลายแหลมขนาดใหญ่ทิ่มอยู่ เมื่อสังเกตดีๆนี้มันเหมือนหลุมดักสัตว์ยังไงชอบกล โชคดีที่เข้าตกลงมาตรงขอบหลุมหากว่าตกลงไปที่กลางหลุมเข้าคงตายไปแล้ว ลิ่มขนาดใหญ่ถูกฝังไปทั่วทั้งหลุม แต่ใครกันที่เป็นคนทำ มีคนอยู่ในป่านี้ด้วยหรือยังไงกัน อาจจะเป็นเผ่ากินคนแต่ไม่น่าจะใช่ เผ่ากินคนชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคงจะเป็นเผ่าที่ไม่น่าจะมีความรู้ขนาดนี้ หรือจะมีพวกอื่นอยู่อีก เขาพยายามยกขาขึ้นจากลิ่มนั้น แต่มันเจ็บเกินไป หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้งเขาก็กลั้นใจ ประคองต้นขาของตนเองออกมาจนได้ เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลจนชุ่มไปทั่วทั้งกางเกง สัณหวัชคิดว่าเขาไม่ตายเพราะเสือแต่คงจะตายเพราะเสียเลือดนี้แหละ ตลกดีเหมือนกันวินาทีที่เสือกระโจนเข้าใส่เข้านั้นมันชัดเจนในทุกนาที เขาคิดว่าตัวเองคงจะตายอย่างแน่แล้วหากไม่มีหลุมนี้ช่วยเอา และเมื่อคิดถึงเสือสัณหวัชเงยหน้ามองปากหลุมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเสืออยู่ตรงนั้น และมันก็ไม่มีจริงๆแต่ที่ปากหลุมนั้นกลับปรากฏสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาต้องผวาด และหวาดกลัวมากกว่าเสือเป็นสิบเท่าเลยทีเดียว





“ เผ่ากินคน !!!!! ”






___________________________________________________







จนแล้วจนรอดพรานอ่ำก็ถูกพัชรพลและธนุสตื้อไปตามหาเพื่อนๆของพวกเขาจนได้ หลังจากที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาเป็นเหตุผล ความปลอดภัยของพวกเขาตอนอยู่ในป่าเมื่อพรานอ่ำไม่อยู่มั้งล่ะ เรื่องชีวิตของเพื่อนพวกเขามั้งล่ะ ไหนจะเรื่องกฎหมายบ้าบออะไรไม่รู้ที่พรานอ่ำเองก็ไม่เข้าใจ ในใจก็แอบกลัวอยู่นิดๆหลังจากที่ได้ฟัง อันที่จริงเขาจะกลับบ้านตอนนั้นเลยก็ได้แต่คำว่าพรานนำทางและพรานล่าสัตว์ที่มีอยู่ค้ำหัวทำให้พรานอ่ำตัดสินใจทิ้งไม่ลง ถึงแม้จะอยู่ในชนพื้นบ้านแต่ก็มีจรรยาบรรณพอที่จะไม่ละทิ้งอาชีพของตัวเองให้ใครเดือดร้อน


ผ่านมาอีกหนึ่งคืนแล้วที่เดินในป่าทึบแห่งนี้ เห็นร่อยรอยของกองไฟบ้าง แต่ก็ไม่สามารถจะชี้ได้เลยว่าสองคนนั้นหายไปด้วยกันหรือเปล่า พรานอ่ำยังคงนำทางไปยังที่อยู่ของนาคาด้วยความชำนาญเช่นเดิม คงเพราะพอจะรู้จักเส้นทางตามคำบอกเล่ามาและความเคยชินกับการเดินป่ามาบ้าง การเดินทางครั้งนี้เลยดูเร็วและไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไรนัก แต่ยิ่งลึกเข้าไปมากเท่าไรก็ยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น ด้วยน้ำหนักของกระเป๋าเป้และเครื่องมือต่างๆที่กลุ่มสำรวจได้ขนกันมา ยิ่งเป็นภาระหนักสำหรับพัชรพลและธนุสเป็นอย่างมากแต่จะทิ้งเอาไว้ก็กลัวจะย้อนกลับมาหาไม่เจออีก


ยามค่ำคืนในในป่าดิบชื้นแห่งนี้เป็นเหมือนทุกๆคืนที่ผ่านมา คือมืดสนิทและเต็มไปด้วยเสียงหรีด เรไรที่ร้องกันระงม จะต่างก็ตรงที่พวกเขาไม่ได้นอนบนห้างกันอีกแล้ว เพราะเวลาในการสร้างห้างแต่ละห้างใช้เวลาค่อนข้างนาน พัชรพลเห็นว่าอาจจะไม่ทันการณ์เลยเสนอกับพรานอ่ำให้นอนด้านล่างแล้วเอาเวลาที่สร้างห้างเดินทางต่อ พรานอ่ำเองก็พอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเขาจึงตอบตกลงเพราะคิดว่าหากหาทำเลดีๆที่สามารถกำบังสายตาได้บ้างและก่อกองไฟกองใหญ่สักหน่อยสัตว์ร้ายคงไม่กล้าเข้ามาใกล้มากนัก


“ พราน....อีกนานเท่าไรเราจะถึงเผ่ากินคนนั้น ” ธนุสมีสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อพูดถึงเรื่องของเผ่ากินคน อาจเป็นเพราะความทรงจำเกี่ยวกับภาพยนตร์ในวัยเด็กของเขา

“ ไม่เกินคืนนี้พวกเองได้เจอกันแน่ เตรียมหัวของพวกเองเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน ” พรานอ่ำพูดใส่อารมณ์นิดหน่อย ถึงจะทำเพราะอาชีพแต่ก็อดอารมณ์เสียกับเรื่องนี้ไม้ได้ มีอย่างที่ไหนไม่มีความรู้เรื่องป่าเลยแต่กลับเดินเข้าไปคนเดียวแบบนั้น ลำบากเขาอีกที่ต้องตามหา หากว่าเป็นเพียงป่าธรรมดาไม่มีเผ่ากินคนที่เขาล่ำลือกันนั้นก็พอทำใจได้ แต่ถ้าหากเจอขึ้นมาจริงๆถึงตอนนั้นก็คงทางใครทางมันแล้วล่ะ

“ พรานแล้วจะเอายังไง เราจะไม่โดนกินก่อนหรอ ” หน้าตาธนุสเหยเกรู้สึกเสียวที่คอเมื่อคิดถึงมีดที่ฟันลงมา กับหม้อต้มขนาดใหญ่

“ ทำตามที่ข้าบอกแล้วเอ็งก็จะรอดเอง ” ไม่แน่ใจ ทั้งๆที่พูดไปแบบนั้นแต่ลึกๆแล้วพรานอ่ำเองก็หวั่นเหมือนกัน ใช่ว่าเขาจะเคยเจอที่รู้ก็เพราะฟังกันมาว่าการเดินทางผ่านเผ่ากินคนในตอนกลางคืนน่าจะปลอดภัยกว่า และป่าแถบนี้เขาเองก็เพิ่งจะเคยมาครั้งแรก

“ แล้วเดินเลี่ยงทางนั้นไม่ได้หรอ พราน ” พัชรพลแอบสงสัยในหัวข้อนี้เลยถามพรานอ่ำ เพราะหากว่าเราสามรถทำได้ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร

“ ไอ้พวกนั้นน่ะ มันไม่ได้อยู่กันเป็นหมู่บ้านเหมือนพวกเอ็งในเมืองนะสิวะ จริงอยู่ที่เรียกว่าเผ่ากินคนก็น่าจะอยู่รวมกลุ่มกัน แต่ยิ่งคนเยอะอาหารก็น้อยลง พวกมันก็ได้อดตายกันพอดี ” อันที่จริงอาณาเขตของพวกเผ่ากินคนนั้นไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด มันอาจจะกว้างมาก ก็อย่างที่บอกว่าพวกนี้ไม้ได้อยู่รวมกันเพียงกระจุกเดียว แต่แยกกระจายกันอยู่ ซึ่งในแต่ละจุดก็อาจจะมีกลุ่มคนเพียงสามถึงสี่กลุ่มพียงเท่านั้น

“ พรานเล่าเรื่องเผ่านั้นให้พวกผมฟังหน่อยได้ไหม ” พัชรพลคิดจะเก็บข้อมูลต่างๆเอาไว้บ้างดีกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเผ่ากินคนเลย เรื่องบ้างเรื่องอาจจะเป็นประโยชน์ในเหตุการณ์ข้างหน้าก็ได้

“ ข้าก็รู้มาเท่าที่เขาเล่าต่อกันมาละนะ ข้าเองก็ไม่เคยเห็น อีกอย่างป่าแถบนี้ไม่มีคนภายนอกเข้าออกนานแล้ว แต่เมื่อก่อนก็ยังพอมีอยู่บ้าง ”

“ พรานสมัยก่อนเขาเล่ากันมาว่ามันจะกินเนื้อคนดิบๆหรือสุกข้าไม่แน่ใจ แต่พวกมันมีพิธีกรรมของพวกมันเองด้วย อันนี้ก็นึกเอาเองข้าว่าคงจะเหมือนในหนังอย่างนั้นมัง แต่มีพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่พวกเองรู้กันมาบ้างแล้วนั้นก็คือ การมอบเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคา ที่พวกมันนับถือเป็นเทพนั้นแหละ พวกนั้นจะใช่คนเป็นๆเป็นเครื่องเซ่นสังเวยในวันจันทร์เต็มดวง แต่ไม่ได้เล่าถึงวิธีการหรืออย่างไร ”

“ ถ้าเกิดว่าเพื่อนผมเจอนาคาเข้าจริงๆจะไม่เป็นอะไรหรือพราน อีกไม่กี่วันก็ถึงวันจันทร์เต็มดวงแล้ว ” พัชรพลรู้สึกกังวลใจพิกล เขากลัวจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

“ ข้าไม่รู้ เพื่อนเอ็งรนหานที่เองข้าช่วยไม่ได้ ”

“ แล้วนาคาละพราน พรานรู้อะไรบ้าง ”

“ เรื่องนี้ข้าจนปัญญา มันไม่มีคำบอกเล่าเรื่องนี้เลยจริงๆ มีเพียงเท่าที่พวกเอ็งรู้กันมาก็เท่านั้น”



พัชรพลไม่แน่ใจกับการเดินทางในครั้งไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะหลงแต่ที่กลัวคือความปลอดภัย เรื่องนี้มันดูจะประหลาดไปสักนิดในสายตาของเขา เรื่องนาคานั้นมันเกินจิตนาการไปสักหน่อยที่รู้กันอยู่ก็คงจะเป็นเมดูซ่าตามเทพนิยากรีกที่พูดถึงผู้หญิงกึ่งคนกึ่งงูกับนัตย์ตาที่สาปคนให้เป็นหินได้ แต่นั้นก็เป็นเพียงเทพนิยายพิสูจน์ไม่ได้ แต่นี้เขากำลังจะเดินทางไปหาสิ่งนั้น มันจะน่ากลัวหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆอีกไม่นานเข้าก็จะต้องเดินทางผ่านเผ่ากินคนแล้ว มันดูท้าทายดีถ้าว่าเป็นภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ แต่นี้เป็นความจริงเขากำลังจะเข้าไปเจอกับของจริงๆที่ไม่มีการเตรียมฉากหรืออะไรทั้งสิ้น ชีวิตและความปลอดภัยของพวกเขาในครั้งนี้คงจะอยู่บนเส้นด้าย และเมื่อไรที่ด้ายเส้นนั้นขาดผึ่งนั้นหมายถึงชีวิตของพวกเขาเองก็จบด้วยเช่นกัน

.

.

.

.

.

.


รุ่งเช้าพรานอ่ำ พัชรพลและธนุสเดินทางต่อ และวางแผนไว้ว่าจะหยุดพักในช่วงเย็นของวันเพื่อรอเวลาให้ฟ้ามืดหลังจากนั้นค่อยเดินลอดเลาะผ่านเขตของเผ่ากินคนไป ฟังดูเหมือนง่าย แต่ถ้าพลาดเพียงนิดเดียวอาจถึงตาย พรานอ่ำบอกว่าเผ่าพวกนี้อยู่กับป่าหากินกับสัตว์และพืช ดังนั้นน่าจะมีทักษะในการรับรู้ที่ดีถึงอยู่รอดในป่าได้ การทำให้เกิดเสียงหรืออะไรที่ผิดแผกไปจากเดิมอาจจะทำให้มันรู้ถึงการมาของเขาได้

แผนที่มีอยู่มีเพียงเดินช้าๆ พรางตัว และเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยสัมภาระที่มีอยู่คงจะลำบากไม่น้อย ตอนนี้พัชรพลคง
ต้องเลือกระหว่างชีวิตกับงานแล้วล่ะว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากัน

“ ธนุสทิ้งเครื่องมือซะ ” พัชรพลสั่งให้ธนุสทิ้งกระเป๋าเครื่องมือลงเมื่อถึงเวลาที่ไปกันจริงๆเสียที

“ แต่นี้มันเครื่องของเรานะ ราคาไม่ใช่ถูก เกิดหายขึ้นมาไม่ใช่หนี้หัวโตเลยหรือไงกัน ” ธนุสแย้งเขาไม่เข้าใจทำไมถึงต้องทิ้งใน
เมื่อเขาเองก็แบกไว้ถึงจะลำบากไปหน่อยก็เถอะ

“ เลือกเอาระหว่างชีวิตกับเครื่องมือพวกนี้ ” เสียงแน่วแน่บอกทางเลือกแก่ธนุส ที่เลิ่กลั่กมองพัชรพลที่ตอนนี้วางกระเป๋าเครื่องมือบนบ่าลงกับพื้นแล้วเหลือเพียงกระเป๋าที่ใส่ของสำคัญในการเดินทางเท่านั้น


ธนุสจำใจวางของลงเมื่อเห็นว่ามีไว้ก็เป็นภาระเปล่า ตอนนี้พรานอ่ำกำลังซุ่มมองดูลาดลาว เป็นอย่างที่พรานอ่ำพูดไว้ที่นี้มีบ้านเพียงไม่กี่หลัง จะว่าบ้านก็คงไม่เชิงคิดภาพศาลพระภูมิคงจะคล้ายกัน เพราะเสาบานที่นั้นสูงมากจนเขาไม่คิดว่าจะมีใครปีนขึ้นไปอยู่ได้ และนั้นก็ยิ่งดีเผื่อว่าพวกมันเกิดรู้ตัวขึ้นมาและกว่าจะลงมาถึงพื้นพวกเขาก็คงวิ่งหนีกันไกล ไฟฉายที่มีอยู่ถูกยัดใส่กระเป๋าเพราะกลัวพวกมันจะเห็นแสงจากไฟฉายซะก่อนที่เขาจะพ้นป่าแถบนี้


ทั้งสามเริ่มเดิมออกจาพุ่มไม้ที่ซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณนี้ไม่รกเท่าไรนัก คงเพราะมีคนเดินเหยียบย่ำบ่อย พวกเขาเลยเดินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องคอยหลบมองเป็นดูสถานการณ์เป็นระยะ ขืนเดินดุ่มๆเข้าไปมีหวังได้ตายลูกเดียว ผ่านมาสักระยะเดินผ่านกลุ่มบ้านมาสี่ห้ากลุ่มได้แล้ว พรานอ่ำคิดว่าคงจะใช้เวลาอีกสักหน่อยในการเดินทางเพราะเราต้องคอยหลบเพื่อมองดูอยู่ตลอด บ้านเสาสูงค้ำหัวแบบนี้ให้ความสึกตื่นเต้นปนหวาดกลัวดีพิลึก


เมื่อมาถึงกลุ่มบ้านอีกที่ตรงนี้ดูจะแปลกกว่าที่อื่นเพราะตรงนี้มีบ้านที่ตั้งอยู่ติดพื้น มันไม่ได้ตีไม้ไผ่ล้อมรอบตัวบ้านเหมือนหลังอื่นมี
เพียงเสาและหลังคาที่มุงด้วยเปลือกไม้ใบไม้ไว้จนทั่ว และเมื่อสังเกตดูดีๆมีบางอย่างอยู่ในนั้น กำลังเคลื่อนไหวอยู่ พรานอ่ำสั่งให้พัชรพลและธนุสหมอบลงพร้อมทั้งคลานมาจากที่ตรงนั้น แต่ไม่ทันการมีคนลงมาจากบ้านที่อยู่ติดกับกระท่อมที่อยู่บนพื้น เมื่อพัชรพลเห็นวิธีการแล้วก็ต้องอึ้ง คนพวกนี้ใช้วิธีการรูดลงมาเหมือนนักดับเพลิง เพียงแต่จะมีที่ไม้ที่ยืนออกมาเหมือนขั้นบันไดไว้บ้างจุดก็เท่านั้นเอง


ทั้งสามเงียบแม้กระทั่งลมหายใจพยายามหมอบตัวลงต่ำกับพื้นให้มากที่สุดไม่นานนักก็มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมาจากกระท่อมหลังนั้น มันดูน่ากลัวจะธนุสเผลอหลุดเสียงออกมาก่อนที่จะใช้ฝ่ามือตบเข้าปากตัวเองจนเกินเสียงดัง จากที่นิ่งอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งนิ่งเข้าไปใหญ่ รอบข้างเงียบไปหมดจนได้ยินเสียงฝ่าเท้าที่เดินใกล้เข้ามา พวกเขาไม่แน่ใจว่าโดนเจอตัวแล้วหรือยัง จนกระทั่งความอึดอัดพรูเข้ามาในอกของแต่ละคนจนถึงขีดสุด และ



“ วิ่งงงงงงงงงงงงงงง ”



เป็นเสียงคำรามของพรานอ่ำที่สั่งให้ทุกคนออกตัววิ่ง และนั้นเองทำให้เขาเห็นว่าอาวุธที่กำอยู่ในมือของอีกฝ่ายอยู่ห่างไม่ใกล้จากเข้านัก ทันที่ออกวิ่งสียงคำรามของมันก็ดังลั่น พวกมันค่อยรูดตัวเองลงมาจากเสาไม้ยาวพร้อมทั้งอาวุธที่แนบอยู่ข้างลำตัวกันทุกคน ทั้งด้านหลัง ด้านข้าง เต็มไปด้วยเผ่ากินคน พัชรพลรู้สึกกลัวจับใจเหงื่อออกโทรมกาย ทั้งสามคนวิ่งอย่างไม่ลดละเขาพยายามไม่ละสายตาจากพรานอ่ำ เสียงกึกก้อง อืออึ้งไปทั่วทั้งแนวป่าเป็นเสียงที่ชวนให้ขนลุกเสียจริง เสียงหายใจของแต่ละคนดังจนต่างฝ่ายต่างได้ยิน อาวุธถูกโยนตรงมายังพวกเขาอันแล้วอันเล่าแต่เพราะมีต้นไม้ทำให้พลาดเป้าเป็นโชคดีของพวกเขา เสียงฝีดังเข้ามาเป็นสิบจากด้านหลังแต่ไม่มีเวลาแม้แต่หันไม่มอง ทั้งสามคงยังคงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต


เป็นธนุสที่พลาดท่าโดนอาวุธเข้าที่ขา เขาล้มลงอย่างหมดท่าลงกับพื้น อาวุธในมือนับสิบเตรียมจะเข้ามาฟาดฟันเขา


“ พรานนนนน ” พัชรพลตะโกนเรียกพรานอ่ำเมื่อเห็นว่าชีวิตของเพื่อนตัวเองกำลังริบรี่อยู่เต็มที

“ ปัง ”


กระสุนปืนถูกเล็งไปยังหัวของพวกมันคนหนึ่งอย่างแม่นยำ ร่างของมันทรุดหวบลงกับพื้นทันที พวกที่เหลือเมื่อเห็นดังนั้นก็ถอยกรูออกไปพัชรพลรีบกระชากแขนของธนุสให้วิ่งต่อ แต่ด้วยอาการเจ็บทำให้เขาวิ่งช้ากว่าเดิม เป็นหน้าที่ของพรานอ่ำที่ต้องใช้อาวุธที่มีอยู่ในมือเพียงอันเดียวยิ่งสกัดทางพวกมันเอาไว้ และชะตาชั่งเล่นตลกทางข้างหน้าเป็นเป็นหุบเหวที่เป็นแยกป่าฝั่งของเขาออกจากอีกฝั่งหนึ่ง พัชรพลปรี่ไปประคองธนุสเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล ตอนนี้พวกมันเริ่มล้อมกันเข้ามาแล้วแต่ก็ยังห่างพอควรเพราะกลัวฤทธิ์ลูกกระสุนของพรานอ่ำ ในสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้สมองของพวกเขาตื้อไปหมด ได้ยินเพียงเสียงกระสุนที่ดังอยู่ต่อเนื่อง หันซ้ายแลขวาและเป็นพัชรพลเองที่เหลือบไปเห็นสะพานแขวนที่พาดผ่านหุบเหวแห่งนี้

พัชรพลประคองธนุสและเดินเลี่ยงไปยังสะพานแขวนนั้นโดยที่พรานอ่ำ ยังคงยิงไม่หยุด

“ พรานทางนี้ ” พัชรพลตะเบ็งสุดเสียงเรียกพรานอ่ำ ไม่รู้ว่ากระสุนหมดหรือยัง แต่ตอนนี้เข้าไม่ได้ยินเสียงปืนแล้ว ตอนนี้ทั้งพัชรพลและธนุสก็มาอยู่หน้าสะพาน ธนุสเดินนำไปก่อน พัชรพลที่ยังคงจ้องมองพรานอ่ำที่กำลังวิ่งมาทางนี้สุดกำลังขา เมื่อเห็นว่าธนุสไปจนเกือบถึงปลายสะพานแล้วเขาจึงก้าวออกไป ข้างล่างหุบเหวนั้นมืด ซ้ำสภาพของสะพานนี้ก็ดูโทรมจนเขากลัวว่าจะพังลงมาเสียก่อน


ตึก


ตึก


ตึก


เสียงฝีเท้าของพรานอ่ำที่ก้าวลงบนสะพานทำให้เขากลัวว่าสะพานจะขาดลงซะก่อนจะถึงอีกฝั่ง

“ ไปเร็ว ” พรานอ่ำตะโกนเมื่อเห็นว่าเขาลังเลที่เดินต่อ

น่าแปลกมันไม่ตามมา ทำไมมันถึงไม่ตามพวกเขามาทั้งๆที่อยู่ห่างกันเพียงแค่สะพานกั้น พวกเขามองพวกมันที่ค่อยหันหลังกลับกันทีละคน แต่บางคนก็ขว้างอาวุธมาใส่พวกเขาแม้จะไม่ถึงก็ตามที
 
พัชรพลทิ้งความสงสัยไว้เบื้องหลังเมื่อหันมามองธนุสที่ตอนนี้เห็นท่าจะไม่ไหว เลือดออกมามากจนเกินไป พรานอ่ำหยิบผ้ามาพันขาห้ามเลือดเอาไว้ ก่อนที่จะไปหาสมุนไพรพอที่จะใช้ห้ามเลือดได้



แต่ทำไมกัน ทำไม พวกมันถึงไม่ตามพวกเขามา ??????





____________________________________________________

สอบเสร็จเเล้ว
มาต่อตอนที่ ๕ ให้เเล้วครับ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและสำหรับ+ที่กดให้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2012 08:18:26 โดย tonkhaw »

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
พวกนายพรานข้ามสะพานไปแล้ว...แล้วใครจะช่วยวัช :a3:

DasHimmel

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ลุ้นระทึกมากกกกกก >< ลุ้นมากว่าแต่ละคนจะรอดมั้ย
แล้วสัณหวัชจะเป็นไงมั่งเนี่ยยย จะโดนจับไปเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคารึป่าว
กฤตนัยล่ะ หรือว่าไปถึงที่ที่นาคาอยู่เเล้ว แล้วทำไมพวกเผ่ากินคนถึงไม่ตามมาอ่า หรือว่าพอข้ามสะพานไปแล้วจะเป็นที่ของนาคา
อ๊าาาาาาาาาาาาา :z3: มีแต่คำถามชวนลุ้นเต็มไปหมด ลุ้นมากมากค่า รอติดตามตอนต่อไป ~

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
อินเดียน่าโจนส์.. เมื่อไหร่จะเจอกัน?? :เฮ้อ: สงสารนายวัช
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2012 13:00:48 โดย Horizon »

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
วัชได้เป็นเครื่องสังเวยให้นาคาแน่ๆ
ตอนนี้ลุ้นระทึกมากๆ
กฤตนัยหายไปไหน แล้วทำไมเผ่ากินคนจึงไม่ตามพวกพรานมาหละ
+1 จ้ารอเจอนาคาอยู่น้าาาาา  :z2:

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
จะรอดกันม้ายยยยย

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
โอ๊ย ทางนั้นน่ะ เป็นทางไปหานาคาเปล่าาาาา
น่ากลัวมากกกกกกก สมจริงเกินนน แอบลุ้นอยู่ข้างๆหน้าจอ

ออฟไลน์ you13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ตื่นเต้นๆๆๆ

จะรอดกันไหมเนี้ย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
ลุ้นมากมาก แถมอยากอ่านต่อไวไวแล้วค่ะ o13

Peppermint

  • บุคคลทั่วไป
ฮ๊าย มาให้ลุ้นอีกแล้วว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ มันจะดีมากถ้าพรุ้งนี้จะมาอีกสักตอน ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
วัชจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ

แต่ว่า อืม เผ่ากินคนทำไมถึงหยุดตามกลุ่มนายพรานซะล่ะ
หรือว่าข้างหน้าจะต้องเจอกับนาคา!

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
จากที่มาทำงาน กลายเป็นการผจญภัย survival ชนิดที่ว่าใครเอาชีวิตรอดกลับบ้านได้ก็บุญแล้ว
คุณสัณหวัชโดนจับไป จะปลอดภัยไหมนะ? หนีเสือ ปะ เผ่ามนุษย์กินคนชัด ๆ
ว่าแต่แล้วคนต้นเรื่องอย่างคุณกฤตนัยล่ะ ? หายไปทั้งตอนเลย  :undecided:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2012 21:33:40 โดย Cherry Red »

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อุ๊ ชอบคะ แวะมาปูเสื่อรอ

Mio

  • บุคคลทั่วไป
ให้สามคำ>>>ชอบ อ่ะ ค่ะ  o13
ให้อารมณ์เพชรพระอุมา จริงๆ

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อื้อหือ ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น!
ว่าแต่....ทากเนี่ย ต้องใช้ธูปจี้ รมควัน หยดแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เหรอ?
เพิ่งเคยเห็น ใช้ไฟลน นี่แหละนะ  :a5:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
แอร๊ยยยย พึ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ ขอชมก่อนเลย

เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ ตื่นเต้น ลุ้นตาม ทั้งสามกลุ่ม

บรรยายได้ดีมาก อยากจะบรรยายได้เเบบนี้บ้าง

เป็นเรื่องเเรกที่เเต่ เเต่เเต่งได้ดีเลยทีเดียว

เเต่ละตอนยาวได้ใจมากเลย อันนี้ชอบมาก อิอิ

สุดท้ายนี้ หนูอยากเป็นเผ่ากินคนจังเลยค่ะ จะจับผู้ชายมากินให้อิ่มเลย แอร๊ยยย

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ตอนนี้หวาดเสียวอ่ะ ทั้งเสือ ทั้งเผ่ากินคน  :sad5:

ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆเลย  :m4:
รอตอนต่อไปนะครับ  :m5:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อ่านแล้วลุ้น วิ่งหนีเสือ เผ่ากินคน อ๊ากกกกกกกกก
แล้วใครจะช่วยวัชละนี่

pentagon

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ้านแล้วนะค้าาา วู้ ตอนล่าสุดนี่หวาดเสียวเจงๆ o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด