***จุดชนวน***หนึ่งปีผ่านไป พวกเราเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ ม.5 กันแล้ว....
ความเป็นเพื่อนของพวกเรายังคงไม่แปรเปลี่ยน ไม่มีลดน้อยลงไป มีแต่จะมากขึ้นและมั่งคงในมิตรภาพ รักกันมากขึ้นด้วยซ้ำ...
รักกันมาก....
จนมัน...............มากเกินไป.....
และแล้วผมก็เริ่มมีความรัก ผมเริ่มเพิ่มความรู้สึกพิเศษที่ต่างออกไปจากความเป็นเพื่อนธรรมดาให้กับต่อ ขณะเดียวกันนั้นเองผมก็ยังคงต้องเก็บกดมันเอาไว้ภายในลึกสุดใจ ผมไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้อย่างแจ่มแจ้ง และตลอดเวลานั้นผมก็พยายามที่จะห้ามใจแล้ว
แต่ทำไม?
ทำไมนะ?
ทำไมผมทำไม่ได้สักที
และจะให้ผมทำได้อย่างไรในเมื่อ.....ต่อ...มาเติมเต็มความรู้สึกนั้นให้กับผมมากขึ้นทุกวัน
ความรู้สึกของผมจึงทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนสองคนอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิดแทบทุกวัน ใจหนึ่งบอกว่าใช่ เอาเลย!!! อีกใจหนึ่งก็ เฮ้อ!...อย่าดีกว่าเรา ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาบางครั้งมันเขย่งก้าวกระโดดข้ามขั้นอย่างน่ากลัว แต่ก็เอาน่าผมเบรคความรู้สึกไว้ได้เสมอ แต่ผมจะเก็บกดความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกนานแค่ไหนกันน่ะเหรอ? เหอๆ คอยดูกันต่อไปละกันครับ
@โรงเรียน...
ท้องฟ้ายามนี้แจ่มใสแม้อาทิตย์เริ่มจะลับฟ้าแล้วก็ตาม ฝูงนกพากันบินเข้ารังของพวกมัน ท่าทางพวกมันคงจะเหนื่อยกับการออกหาอาหารกันมาทั้งวัน ได้เวลาพักสักทีนะ...
"เต้!..." เอ๊ะ! เสียงนั้น ต่อนั่นเองครับ
"นายรีบกลับบ้านรึเปล่า? ถ้าไม่รีบ รอกลับพร้อมกันกับเรานะ เดี๋ยวเราไปเล่นบอลกับเพื่อนก่อนแป๊บนึง" เต้ยเอ่ยถามพร้อมกับพูดอ้อนวอนผมให้รอ...
"เออ...ไม่นะ เอาสิ เดี๋ยวเรานั่งทำการบ้านรอนายไปพลางๆก็ได้ นายไปเล่นเหอะ" ผมตอบยิ้มแก้มปริ อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องกลับบ้านทางเดียวกับเขาก็ได้ เพราะผมสามารถขึ้นรถที่วิ่งผ่านบริเวณหน้าโรงเรียนได้เลย แต่รถมันมักจะเต็มมาตั้งแต่ต้นสายที่ตลาด ผมจึงเลือกที่จะไปขึ้นที่ตลาดดีกว่า เพราจะได้มีที่นั่งไม่ต้องมายืนห้อยโหนโจนทะยานให้เมื่อยตุ้ม ส่วน ต่อ นั้นเขาต้องไปขึ้นรถที่ตลาดอยู่แล้ว เพราะท่ารถเขาอยู่ที่นั่น อีกอย่างที่สำคัญก็คือนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเขาได้มากขึ้น
ระหว่างที่ผมนั่งรอเขาเล่นฟุตบอลอยู่อย่างเพลิดเพลิน ผมก็พลางหยิบหนังสือเรียนมาอ่านเพื่อฆ่าเวลาและแก้เขินไปด้วย แต่ไอ้สายตาเจ้ากรรมของผมมันมักจะละออกจากหนังสืออยู่เรื่อยๆเป็นระยะๆ โน่นสายตาของผมมันกำลังจดจ้องไปยังที่เขาอยู่อย่างไม่ลดละ ทุกอิริยาบถของเขาโดนผมเต็มๆเลยครับ ผมนึกในใจ..."มันจะอะไรขนาดนั้นวะนั่น" คิดกันเอาเองนะครับว่ามันคืออะไร ผมนั่งมองเขาอยู่อย่างนั้น แล้วก็เคลิ้ม....เหะๆ
"ไงเต้ รอเรานานมั้ย? เบื่อรึเปล่าเนี่ย??.....เฮ้อเหนื่อยจัง แต่ก็สนุกดีวันหลังลองมาเล่นด้วนยกันสิ" ต่อกล่าวชักชวน
"โอ้ย...ไม่หรอก เราไม่ถนัดเล่นกีฬาพวกนี้ วิ่งไปวิ่งมา กะอีแค่ลูกกลมๆกลิ้งไปกลิ้งมา วิ่งไล่เตะกันอยู่ได้ เล่นอย่างอื่นมันส์กว่ามั้ง?" ผมพูดแบบเซ็งๆ พร้อมกับแอบเหน็บเล็กๆ
"เล่นอย่างอื่น?...นายหมายถึงเล่นอะไรเหรอ...แล้วมันจะมันส์กว่ากันยังไง?" เขาถามทำตีหน้าซื่อแบบตาใสๆ ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ทิ้งรอยยิ้มไว้เป็นปริศนา
"ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร..หึๆ เอาน่ะ ลองดูก่อนสิ ถ้าเล่นไม่เป็นเดี๋ยวเราสอนให้ก็ได้นะ" เขายังยื้อ
"เอาเถอะ เราแค่นั่งดูนายเล่นแบบนี้เราก็เพลินแล้วล่ะน่ะ"
"แล้วไม่เบื่อเหรอ?"..."ไม่หรอก ก็โอเคนะ"...
"ดีจัง...แบบนี้ค่อยดีหน่อย เฮ้อ...หิวข้าวจัง เต้...นายไปกินข้าวกับเรานะ ที่ตลาดมีร้านข้าวร้านนึงเขาทำอร่อยดี ไปด้วยกันนะ" เขาเอ่ยปากชวนผมพลางโอบไหล่ผม กลิ่นตัวปนกลิ่นเหงื่อของเขาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆมันเหมือนกับกลิ่นที่เชิญชวนผมให้คิดทำอะไรสักอย่าง อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาหิวข้าวจริงมั้ย? เพราะเขาอาจจะกินเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอรถเท่านั้น เพราะรถที่จะบ้านเขานั้น แต่ละคันกว่าจะมาถึงท่ารถใช้เวลาทิ่งช่วงเป็นชั่วโมง ผมคิดในใจ "...กะจะให้กูอยู่รอเป็นเพื่อนล่ะสิ..."
"ไปสิไป เราก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหนกัน" ผมตอบไปงั้นๆแหละ ไม่ได้อยากไปกินหรอก ข้าวที่บ้านก็มีให้กิน ไม่ต้องเสียเงินด้วย แต่เป็นเพราะว่าผมอยากหาเวลาอยู่ใกล้ชิดกับเขาก็เท่านั้นเอง
....ในระหว่างที่เดินไปขึ้นรถไปยังตลาดนั้น ผมรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผมรู้สึกได้ เราเดินคู่กัน คำสนทนามันสั้นลงเรื่อยๆ ผมยิ่งอึดอัดมากขึ้น หายใจหายคอไม่สะดวก
"ทำไมเงียบไปล่ะ?" ต่อเริ่มบทสนทนาขึ้น
"เอ่อ...ก็เปล่านี่ จะคุยอะไรกันดีล่ะ" ผมตอบด้วยท่าทีเริ่กรั่ก
"ไม่รู้" เขาตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น ทำเอาผมเขวไปต่อไม่ถูก กระทั่งเรานั่งรถมาจนถึงตลาด เรามุ่งหน้าไปยังร้านข้าวที่เขาแนะนำ เราเดินไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ ผมแอบมองเขาทุกอิริยาบถ พยายามอยู่ใกล้เขาให้มากที่สุด มันช่างมีความสุขเหลือเกิน รักเงียบๆข้างเดียวแบบนี้...
ตอนนี้มีต่ออีกนะคร้าบบบบบบ
...
ละลายพันธุ์ : เดี๋ยวถ้าคืนนี้ว่างๆ จะมาอัพใหม่นะครับ ตอนนี้จะเลิกงานแล้ว ต้องรีบกลับบ้านก่อน ขอไปงีบสักพักเพราะเมื่อคืนไปเที่ยวมา กลับมาตี 4 จะตายเสียให้ได้

ปล. หวัดดีเคอะ เจ้ ขอสาระแน่ เข้ามาจัดหน้าให้ใหม่นะ พร้อมกับแก้คำผิดไปเลยในตัว อ่านไปก็งงๆ กับสำนวนของน้องหนู แต่ไม่เป็นไร จะพยายามตามอ่านอยู่เรื่อยๆ
แต่ว่า คุณน้องสับสนอะไรบ้างอย่างหรือเปล่าเคอะ ระหว่าง ต่อ กับ เต้ย ตกลงใครกันแน่เคอะที่ชวนให้คุณน้องอยู่ต่อ รอกลับบ้านพร้อมกัน เจ้งง หรือว่า เจ้โง่เคอะ
***ละลายพันธุ์ ตอบ ข้อสงสัยเจ้นะครับ คือว่าผมยังใหม่อยู่สำหรับที่นี่ครับ ผมยังไม่คุ้นกับการใช้งานเท่าไหร่ ขอโทษเจ้ร่วย ส่วนเรื่องชื่อนั้น ระหว่างต่อกับเต้ย ผมสับสนครับ แต่เหตุที่สับสนเป็นเพราะว่า ผมไม่เคยลืมเต้ยไงครับ งงมั้ย? เพราะจริงๆคนที่ผมเอ่ยน่ะตัวจริงๆเค้าคือเต้ย แต่ผมมาเปลี่ยนเป็น **ต่อ แค่นั้น ทีนี้เวลาเขียนเลยงงเองไงครับ ขอโทษเจ้ด้วยครับ
ขอบคุณที่เจ้ติดตามผลงานผมคร้าบบบ