"รัก(เกิน)เพื่อน"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "รัก(เกิน)เพื่อน"  (อ่าน 49728 ครั้ง)

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
"รัก(เกิน)เพื่อน"
« เมื่อ21-12-2007 18:05:41 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ










ผมเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เรื่องราวความรักระหว่างเพื่อน เคยมีความรู้สึกที่ทั้งทุกข์และสุข มันอาจเกิดขึ้นมานานแสนนานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ผมเองยังเรียนอยู่มัธยมปลายโน่น ก้อเกือบสิบปีแล้วล่ะครับ แต่ก้อไม่เคยลืมมันได้เลยสักที หลายๆคนอาจประสบความสำเร็จที่ได้ความรักนั้นมาครอบครอง บางคนนั้นก้ออาจผิดหวัง ส่วนรักในแบบของผมนั้น ผมบอกไม่ถูกครับ รู้แต่ว่ามันสุขใจเหลือเกินครับ รัก(เกิน)เพื่อน เป็นความรู้สึกที่ตื้นเต้นและมันมีอะไรมาให้ลุ้นตลอดเวลาจริงๆ แต่ถึงกระนั้นความรักของผมมันทำให้ผมร้องไห้ มันทำให้ผมแทบขาดใจตายเมื่อตอนสุดท้ายไม่รู้ทำไมมันเป็นแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวจะน่าติดตามหรือไม่ แต่ขอฝากไว้อีกเรื่องที่ผมอยากร่วมแบ่งปันความรู้สึกร่วมกันกับทุกๆคน

เริ่ม..........

ขอใช้นามปากกาว่า ละลายพันธุ์




*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 20:18:20 โดย THIP »

abcd

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาเจาะไข่เด่ะใหม่  :mc3:

อ้างถึง
ขอใช้นามปากกาว่า ละลายพันธุ์

โอ้วววว ช่างคิด บรรเจิดดีแท้  :mc2:

ออฟไลน์ LonelyBoiZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ว้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มาแอบติดตาม ต่อแบบติดๆ เคียงข้างพี่แน๋วๆๆๆๆ

อิอิ   :mc2: :mc2: :mc2:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
มีน้องโตโต้ตามติดมานั่งข้างๆงี๊ ชื่นจายยยยยยจาง อิอิ  :pig3:



 :oni2:

detective Q

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18

ออฟไลน์ fulres

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
***ที่มาของความรู้สึก***

"เสียงดังกึกก้องอยู่ในความนึกคิดลั่นว่า ไม่!
แต่ภายในจิตใจนั้นมันช่างขัดแย้งกับความนึกคิดโดยสิ้นเชิง
แอบรักเขาหมดใจ...บอกเขาไม่ได้ ติดอยู่เพียงเพราะคำว่า เพื่อน
คำที่คอยกั้นความรู้สึกที่แท้จริงไม่ให้เปิดเผยออกไป
แต่สุดท้ายมันก็..."

ความรักนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เกิดกับใครก็ได้ มันไม่เลือกอยู่แล้วว่าคนๆนั้นจะเป็นใครมันขึ้นอยู่กับหัวใจ มันมีจังหวะของมันเอง มันอยากจะหยุดที่ไหนก็ได้ในที่ที่มันคิดว่าควรหยุด  เว้นซะแต่กับคนๆนี้ คนที่ผมเรียกเขาว่า เพื่อน มันเป็นเรื่องยากที่จะรักษาความสัมพันธ์ทั้งสองแบบไว้ในคนๆเดียวกัน นัยหนึ่งเขาคือเพื่อนอีกนัยหนึ่งเขาคือคนที่อยู่เบื้องลึกภายในจิตใจของผมลึกมาก...จนเขาไม่อาจเข้าถึง ผมรักเขา ทุกครั้งที่ใกล้ชิดกับเขาผมทั้งอบอุ่นและก็อึดอัดใจเหลือเกินทุกอย่างเกินห้ามใจอยากขีดเส้นแบ่งกั้นไว้ ทว่าเรื่องราวทั้งหลายถูกเก็บไว้อย่างมิดชิด ความรู้สึกต่างๆที่มีแสดงออกมาได้เพียงน้อยนิดจะให้ไปแสดงทีท่าอะไรมากมายไม่ได้เด็ดขาด ทุกอย่างที่ผมทำเพื่อเขาผมจะต้องแคร์สายตาคนอื่นด้วย โดยเฉพาะกับตัวของเขา ผมต้องให้เกียรติเขามากที่สุด ที่สำคัญการแสดงออกความรู้สึกมากเกินไปอาจทำให้ผมต้องสูญเสียตัวเขาและคำว่า เพื่อน จากเขาไปในที่สุด ความรักครั้งแรกของผมมันช่างหดหู่เสียเหลือเกิน มันลำบากยากเย็นเหลือเกินที่จะเปิดเผยให้เขาได้รับรู้ว่าผมนั้นรักเขาเกินกว่าคำว่า เพื่อน ไปแล้ว จะด้วยเหตุผลอันใดนั้นเหรอ? มันก็ไม่มากมายอะไรนักหรอก แค่เพียงทั้งผมและเขานั้นคือ ผู้ชาย!!!

ปล. ผมเพิ่งเข้ามาเว็บนี้เป็นครั้งแรก โดยมีคนแนะนำให้ผมมาลงผลงานที่นี่ การใช้ตัวอักษร รวมทั้งลูกเล่นต่างๆผมไม่คุ้นนัก อันที่จริงเรื่องราวที่ผมเขียนอยู่นี้ ผมได้เขียนมันเสร็จมานานแล้ว และผมก็เก็บไว้ในโปรแกรมเวิร์ด แต่กรรมของผม ที่ผมทำไม่เป็น พยายามก็อปปี้มาลงไว้เพื่อความรวดร็วแต่ไม่เข้าใจ ทำไมทำไม่ได้ ใครทราบช่วยแนะนำหน่อยนะคร้าบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ :m1:

จะคอยติดตามเรื่องของพี่ต่อไปนะค่ะ  เป็นดำลังใจให้ +1 แล้วกันน๊า


ป๋อลอ...ทำไมก๊อปปี้ไม่ได้อ่ะ  ปกติก้อก๊อปปี้แล้วมาวางเลยได้ไม่ใช่เหรอค่ะ

  เหอๆ  สงสัยต้องรอถามผู้รู้คนอื่นแล้วอ่ะ :m23:

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






iceageno7

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
มาเป็นกำลังใจให้ครับ  :m1: :m1:

คงจำน้องคนนี้ได้นะครับ  :oni2: :oni2:

Mr.Wallence  :m23:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
อืมมม ใช้คำอุปมาเยอะเกินไปหรือป่าว บางประโยคก็ใช้คำซ้ำกันจนเฟ้อ ลดพวกคำอุปมาลงมานิดนึงท่าทางจะดีนะ สำนวนจะได้ไหลลื่นมากกว่านี้ เพราะรู้สึกว่าอ่านแล้วมานไม่ได้อารมณ์เลยง่ะ ลองลดคำอุปมาลงแล้วใส่คำบรรยายแบบธรรมดาๆดูจิ ลองปรับๆดูนะ อย่างละนิดอย่างละหน่อยค่อยๆฝึกฝีมือกันไป เอาใจช่วยจ้า

 :pig3:



แล้วที่บอกว่าก๊อปปี้มาไม่ได้ยังไงเหรอ ลากเมาส์แล้วกดก๊อปปี้มาpasteไม่ติดหรือว่ายังไง?   :m28:

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
อืมมม ใช้คำอุปมาเยอะเกินไปหรือป่าว บางประโยคก็ใช้คำซ้ำกันจนเฟ้อ ลดพวกคำอุปมาลงมานิดนึงท่าทางจะดีนะ สำนวนจะได้ไหลลื่นมากกว่านี้ เพราะรู้สึกว่าอ่านแล้วมานไม่ได้อารมณ์เลยง่ะ ลองลดคำอุปมาลงแล้วใส่คำบรรยายแบบธรรมดาๆดูจิ ลองปรับๆดูนะ อย่างละนิดอย่างละหน่อยค่อยๆฝึกฝีมือกันไป เอาใจช่วยจ้า

 :pig3:



แล้วที่บอกว่าก๊อปปี้มาไม่ได้ยังไงเหรอ ลากเมาส์แล้วกดก๊อปปี้มาpasteไม่ติดหรือว่ายังไง?   :m28:
.ใช่แล้วครับพอก็อปมาวางมันก้อขึ้นโค้ดอะไรก้อไม่รู้ครับ งง??

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
ละลายพันธุ์[/b

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจที่มีให้กันนะครับ และกับคำแนะนำเรื่องการเขียนนั้น ก้อขอน้อมรับเก็บไว้เพื่อนำไปปรับปรุงฝีมือต่อไป เนื่องจากผมก้อไม่ได้จัดว่าเป็นนักเขียนมือฉกาจ แค่เพียงมือสมัครเล่นเท่านั้นครับ ถ้ายังไงก้อขอฝากไว้ด้วยละกันนะครับ]......เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องอีกนะครับ

My name M

  • บุคคลทั่วไป

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
 o7
***ย้อนกลับไป***
เรื่องราวทั้งหลายเหล่านั้นยังคงถูกเก็บไว้ในความทรงจำที่ดีของผมเสมอมา ผมไม่เคยมีแม้แต่ความคิดวูบเดียวที่จะลืมเลือนมันเลยสักครั้ง ถึงแม้มันจะเป็นความรักที่ทำให้ผมผิดหวัง และแม้มันจะทำให้ผมร้องไห้ แต่ทุกครั้งที่ผมนึกถึงมัน มันทำให้ผมยิ้มได้...แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่แปะเปื้อนด้วยรอยน้ำตาก็ตาม และผมก็สุขใจทุกครั้งที่ได้แอบนึกภาพเรื่องราวของผมกับเขาในอดีต เรื่องราวทั้งหมดที่ผมกำลังจะเล่าให้คุณผู้อ่านฟังผ่านตัวหนังสือของผมต่อไปนี้ มันได้เกิดขึ้นจริงกับตัวของผมเอง เมื่อสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มันนับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้...

ผมเป็นคนที่มีเพื่อนสนิทที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องไม่มากนักหรอกครับ ที่สนิทกันจริงๆก็มีอยู่สี่ถึงห้าคน แต่พอเรียนจบชั้นมัธยมต้นทุกคนก็แยกทางกันไป บางคนไปเรียนต่อในโรงเรียนเตรียมอุดมฯที่กรุงเทพฯ อย่างเช่นเพื่อนของผมอีกสองคน หนึ่งและต้อง พวกเราจะสนิทกันมากเมื่อตอนสมัยเรียนอยู่ ม.ต้นด้วยกัน พอแยกย้ายกันไปเราก็ได้แต่คุยกันทางจดหมาย สมัยนั้น อินเตอร์เน็ต ยังไม่มีให้ใช้แพร่หลายเหมือนสมัยนี้ บางครั้งที่ผมมีปัญหา ผมอยากปรึกษากับหนึ่งและต้อง แต่กว่าผมจะเขียนจดหมายเสร็จเรื่อง กว่าจดหมายจะเดินทางไปถึงมือของหนึ่งและต้อง เรื่องราวทุกอย่างก็คลี่คลายไปแล้ว แย่จังเนอะ! เพื่อนบางคนก็ไปเป็นนักเรียนเตรียมทหารฯ บางคนที่แม้จะเรียนต่อที่โรงเรียนเดิมก็ไม่อาจเรียนอยู่ห้องเดียวกันได้ ผมและเพื่อนๆถูกจับแยกคละห้องเรียนกันไป ทุกคนต้องเจอกับเพื่อนใหม่ๆ ความสนิทคุ้นเคยจึงค่อยๆจางหายไป มีเพียงผมและแจ๊กเท่านั้นที่ยังคงคบหากันแม้จะเรียนอยู่คนละห้องกันก็ตาม ผมและแจ๊กเรารู้จักและเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นอนุบาลโน่นแน่ะ ดังนั้นเราจึงไม่ทิ้งกัน นี่แหละครับเพื่อนแท้ แจ๊กจัดได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีของผมคนหนึ่งเลยล่ะครับ แต่ถ้าจะไปคุยหรือขอคำปรึกษาอะไรจากมันนั้น ผมขอผ่านดีกว่าครับ แจ๊กเป็นคนร่าเริงแต่นิ่งๆ งงมั้ยครับ? การขอคำปรึกษาในเรื่องของหัวใจกับมันนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้ในยามที่ผมเครียด เพราะอย่างที่บอกไปว่ามันก็เป็นคนที่มีความร่าเริงแบบขำๆอยู่บ้าง อืม...แต่เพื่อนๆอย่าหลงคิดเข้าใจผิดไปนะครับ! เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ระหว่างผมกับแจ๊กแน่นอน ผมกับมันน่ะเห็นไส้เห็นพุงกันมาหมดแล้ว จะให้รัก(เกิน)เพื่อนยังไงไหว เรื่องราวทั้งหมดมันได้เกิดขึ้นกับเพื่อนใหม่ของผมคนนี้ต่างหากล่ะ...

"เฮ้ย! แจ๊กกูได้เพื่อนใหม่มาคนนึงแล้วว่ะ นิสัยดีด้วยนะมึงเออ..." ผมบอกแจ๊กอย่างตื่นเต้นในไม่กี่วันของการเปิดภาคเรียน
"เหรอ? มึงนี่มันพวกจิ้งจกจริงๆเลยเนอะ ปรับตัวเข้ากับอะไรใหม่ๆได้ดีเชียว อย่างว่าละวะ มึงมันแหลเก่งอยู่แล้วนี่หว่า แล้วคนไหนวะ กูเคยเห็นมั้ย หน้าตามันเป็นยังไงกันวะ แล้วชื่ออะไร?"  แจ๊กยิงคำถามกลับด้วยความที่กระสันต์อยากรู้ เอ้อ...ลืมบอกไปว่าไอ้แจ๊กมันก็เป็นผู้ชายอย่างว่าเหมือนผมแหละครับ เพียงแต่เราทั้งคู่ต่างก็พากัน แอ๊บส์! เอาไว้ไม่ให้มันแจ๋นออกมา ด้วยเหตุนี้เองเราเลยยังคงคบกันอยู่ได้แบบนี้
"ก็ดีนะ เงียบๆว่ะ เซื่องๆ ตัวขาวๆ....โคตรขาวเลยนะมึง หูกางๆ เฮ้อ...น่ารักดีด้วยว่ะ เสียอย่างเดียวแมร่ง!เตี้ยไปหน่อย (ผมปลื้มคนสูงอ่ะ) ว่าแต่มึงจะมาถามกูไปทำไมวะ? เพื่อนกูนะเว้ย กูไม่ได้คิดอะไรมากหรอก" ผมแอบทำเคลิ้มระหว่างที่บรรยายรูปพรรณสันฐานของต่อให้เเจ๊กฟัง ทันใดนั้นเอง
"อ้าว!...เฮ้ย!...เต้! ไปกินข้าวมารึยัง เรากำลังเดินหานายอยู่พอดีเลย ถ้ายังไม่ได้กิน เราไปกินด้วยคนนะ" เขาคนนั้น ต่อนั่นเอง คนที่ผมกล่าวถึงอยู่ให้แจ๊กมันฟังเมื่อสักครู่ ต่อเดินมาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน นั่นก็คือ โจ้และหนุ่ม ที่สุดท้ายเราก็ได้มาเป็นเพื่อนร่วมแก๊งกัน

ระหว่างทางเดินไปโรงอาหารพวกเราต่างแนะนำตัวทำความรู้จักซึ่งกันและกัน และความเป็นเพื่อนก็เริ่งขึ้น พวกเราต่างคุยกันถูกคอ คุยกันได้แทบทุกเรื่อง ผมกับโจ้มักจะชอบคุยชอบดม้กันเรื่องรถ เพราะเราทั้งคู่ต่างก็บ้ารถพอๆกัน ส่วนต่อนั้นจะบ้าฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เวลาต่อมาชวนผมคุยเรื่องบอลผมมักจะทำเป็นรู้หรือไม่ก็โบ้ยไปให้โจ้คุยแทน เพราะโจ้ก็บ้าบอลเหมือนกัน หนุ่มนั้นจะเป็นพวกอารมณ์ศิลปิน จะชอบฟังเพลง เขามักจะมาชวนผมคุยเรื่องเพลงอยู่เสมอ รวมถึงเรื่องการเรียนด้วยหนุ่มมักจะมาปรึกษาผมเสมอ (ประมาณว่ากูดูเหมือนจะเก่งว่างั้น?) เขามักคิดว่าผมน่ะเรียนเก่ง และก็ชอบมาลองภูมิกับผมเสมอ พวกเราพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ เวลาพักกลางวันก็หมดลง เสียงออดส่งสัญญาณเตือนเป็นระยะ พวกเราพากันวิ่งไปรวมใต้อาคารเรียน เพื่อฟังการอบรมจากอาจารย์ก่อนขึ้นชั้นเรียนในภาคบ่าย

ผมมีความสุขครับกับการที่ได้เจอเพื่อนใหม่ ผมอยากให้ทุกๆวันเป็นแบบนี้ล่ะ อยากมีเพื่อนดีๆแบบนี้ตลอดไป อย่างไรก็ตามผมกับแจ๊กต่างปิดบังเรื่องพฤติกรรมที่แอบแฝงของกันและกันเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครคบนั่นเอง

ปล.จะมาอัพเรื่อยๆนะครับ ฝากเพื่อนๆเป็นกำลังใจด้วยคร้าบบบบ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2008 22:37:45 โดย b|ueBoYhUb »

My name M

  • บุคคลทั่วไป
 :a11: :a11: :a11:

มันต้องเก็บไว้จริง ๆ ล่ะครับ

เป็นกำลังใจให้เน่อ

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
Re: ฝากนิยายที่เขū
«ตอบ #19 เมื่อ22-12-2007 17:11:51 »

 :mc4:
***จุดชนวน***
หนึ่งปีผ่านไป พวกเราเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ ม.5 กันแล้ว....

ความเป็นเพื่อนของพวกเรายังคงไม่แปรเปลี่ยน ไม่มีลดน้อยลงไป มีแต่จะมากขึ้นและมั่งคงในมิตรภาพ รักกันมากขึ้นด้วยซ้ำ...

รักกันมาก....

จนมัน...............มากเกินไป.....


และแล้วผมก็เริ่มมีความรัก ผมเริ่มเพิ่มความรู้สึกพิเศษที่ต่างออกไปจากความเป็นเพื่อนธรรมดาให้กับต่อ ขณะเดียวกันนั้นเองผมก็ยังคงต้องเก็บกดมันเอาไว้ภายในลึกสุดใจ ผมไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้อย่างแจ่มแจ้ง  และตลอดเวลานั้นผมก็พยายามที่จะห้ามใจแล้ว

แต่ทำไม?

ทำไมนะ?

ทำไมผมทำไม่ได้สักที 

และจะให้ผมทำได้อย่างไรในเมื่อ.....ต่อ...มาเติมเต็มความรู้สึกนั้นให้กับผมมากขึ้นทุกวัน

ความรู้สึกของผมจึงทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนสองคนอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิดแทบทุกวัน ใจหนึ่งบอกว่าใช่ เอาเลย!!!  อีกใจหนึ่งก็ เฮ้อ!...อย่าดีกว่าเรา ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาบางครั้งมันเขย่งก้าวกระโดดข้ามขั้นอย่างน่ากลัว แต่ก็เอาน่าผมเบรคความรู้สึกไว้ได้เสมอ แต่ผมจะเก็บกดความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกนานแค่ไหนกันน่ะเหรอ? เหอๆ คอยดูกันต่อไปละกันครับ

@โรงเรียน...

ท้องฟ้ายามนี้แจ่มใสแม้อาทิตย์เริ่มจะลับฟ้าแล้วก็ตาม ฝูงนกพากันบินเข้ารังของพวกมัน ท่าทางพวกมันคงจะเหนื่อยกับการออกหาอาหารกันมาทั้งวัน ได้เวลาพักสักทีนะ...

"เต้!..." เอ๊ะ! เสียงนั้น ต่อนั่นเองครับ

"นายรีบกลับบ้านรึเปล่า? ถ้าไม่รีบ รอกลับพร้อมกันกับเรานะ เดี๋ยวเราไปเล่นบอลกับเพื่อนก่อนแป๊บนึง" เต้ยเอ่ยถามพร้อมกับพูดอ้อนวอนผมให้รอ...

"เออ...ไม่นะ เอาสิ เดี๋ยวเรานั่งทำการบ้านรอนายไปพลางๆก็ได้ นายไปเล่นเหอะ" ผมตอบยิ้มแก้มปริ อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องกลับบ้านทางเดียวกับเขาก็ได้ เพราะผมสามารถขึ้นรถที่วิ่งผ่านบริเวณหน้าโรงเรียนได้เลย แต่รถมันมักจะเต็มมาตั้งแต่ต้นสายที่ตลาด ผมจึงเลือกที่จะไปขึ้นที่ตลาดดีกว่า เพราจะได้มีที่นั่งไม่ต้องมายืนห้อยโหนโจนทะยานให้เมื่อยตุ้ม ส่วน ต่อ นั้นเขาต้องไปขึ้นรถที่ตลาดอยู่แล้ว เพราะท่ารถเขาอยู่ที่นั่น อีกอย่างที่สำคัญก็คือนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเขาได้มากขึ้น

ระหว่างที่ผมนั่งรอเขาเล่นฟุตบอลอยู่อย่างเพลิดเพลิน ผมก็พลางหยิบหนังสือเรียนมาอ่านเพื่อฆ่าเวลาและแก้เขินไปด้วย แต่ไอ้สายตาเจ้ากรรมของผมมันมักจะละออกจากหนังสืออยู่เรื่อยๆเป็นระยะๆ โน่นสายตาของผมมันกำลังจดจ้องไปยังที่เขาอยู่อย่างไม่ลดละ ทุกอิริยาบถของเขาโดนผมเต็มๆเลยครับ ผมนึกในใจ..."มันจะอะไรขนาดนั้นวะนั่น" คิดกันเอาเองนะครับว่ามันคืออะไร ผมนั่งมองเขาอยู่อย่างนั้น  แล้วก็เคลิ้ม....เหะๆ



"ไงเต้ รอเรานานมั้ย? เบื่อรึเปล่าเนี่ย??.....เฮ้อเหนื่อยจัง แต่ก็สนุกดีวันหลังลองมาเล่นด้วนยกันสิ" ต่อกล่าวชักชวน

"โอ้ย...ไม่หรอก เราไม่ถนัดเล่นกีฬาพวกนี้ วิ่งไปวิ่งมา กะอีแค่ลูกกลมๆกลิ้งไปกลิ้งมา วิ่งไล่เตะกันอยู่ได้ เล่นอย่างอื่นมันส์กว่ามั้ง?" ผมพูดแบบเซ็งๆ พร้อมกับแอบเหน็บเล็กๆ

"เล่นอย่างอื่น?...นายหมายถึงเล่นอะไรเหรอ...แล้วมันจะมันส์กว่ากันยังไง?" เขาถามทำตีหน้าซื่อแบบตาใสๆ ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ทิ้งรอยยิ้มไว้เป็นปริศนา

"ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร..หึๆ เอาน่ะ ลองดูก่อนสิ ถ้าเล่นไม่เป็นเดี๋ยวเราสอนให้ก็ได้นะ" เขายังยื้อ

"เอาเถอะ เราแค่นั่งดูนายเล่นแบบนี้เราก็เพลินแล้วล่ะน่ะ"

"แล้วไม่เบื่อเหรอ?"..."ไม่หรอก ก็โอเคนะ"...

"ดีจัง...แบบนี้ค่อยดีหน่อย เฮ้อ...หิวข้าวจัง เต้...นายไปกินข้าวกับเรานะ ที่ตลาดมีร้านข้าวร้านนึงเขาทำอร่อยดี ไปด้วยกันนะ" เขาเอ่ยปากชวนผมพลางโอบไหล่ผม กลิ่นตัวปนกลิ่นเหงื่อของเขาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆมันเหมือนกับกลิ่นที่เชิญชวนผมให้คิดทำอะไรสักอย่าง  อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาหิวข้าวจริงมั้ย? เพราะเขาอาจจะกินเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอรถเท่านั้น เพราะรถที่จะบ้านเขานั้น แต่ละคันกว่าจะมาถึงท่ารถใช้เวลาทิ่งช่วงเป็นชั่วโมง ผมคิดในใจ "...กะจะให้กูอยู่รอเป็นเพื่อนล่ะสิ..."

"ไปสิไป เราก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหนกัน" ผมตอบไปงั้นๆแหละ ไม่ได้อยากไปกินหรอก ข้าวที่บ้านก็มีให้กิน ไม่ต้องเสียเงินด้วย แต่เป็นเพราะว่าผมอยากหาเวลาอยู่ใกล้ชิดกับเขาก็เท่านั้นเอง




....ในระหว่างที่เดินไปขึ้นรถไปยังตลาดนั้น ผมรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผมรู้สึกได้ เราเดินคู่กัน คำสนทนามันสั้นลงเรื่อยๆ ผมยิ่งอึดอัดมากขึ้น หายใจหายคอไม่สะดวก

"ทำไมเงียบไปล่ะ?" ต่อเริ่มบทสนทนาขึ้น

"เอ่อ...ก็เปล่านี่ จะคุยอะไรกันดีล่ะ" ผมตอบด้วยท่าทีเริ่กรั่ก

"ไม่รู้" เขาตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น ทำเอาผมเขวไปต่อไม่ถูก กระทั่งเรานั่งรถมาจนถึงตลาด เรามุ่งหน้าไปยังร้านข้าวที่เขาแนะนำ เราเดินไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ ผมแอบมองเขาทุกอิริยาบถ พยายามอยู่ใกล้เขาให้มากที่สุด มันช่างมีความสุขเหลือเกิน รักเงียบๆข้างเดียวแบบนี้...




ตอนนี้มีต่ออีกนะคร้าบบบบบบ

...
ละลายพันธุ์ : เดี๋ยวถ้าคืนนี้ว่างๆ จะมาอัพใหม่นะครับ ตอนนี้จะเลิกงานแล้ว ต้องรีบกลับบ้านก่อน ขอไปงีบสักพักเพราะเมื่อคืนไปเที่ยวมา กลับมาตี 4 จะตายเสียให้ได้    :m29:











ปล.   หวัดดีเคอะ เจ้ ขอสาระแน่ เข้ามาจัดหน้าให้ใหม่นะ พร้อมกับแก้คำผิดไปเลยในตัว  อ่านไปก็งงๆ กับสำนวนของน้องหนู  แต่ไม่เป็นไร จะพยายามตามอ่านอยู่เรื่อยๆ

แต่ว่า  คุณน้องสับสนอะไรบ้างอย่างหรือเปล่าเคอะ  ระหว่าง  ต่อ กับ เต้ย  ตกลงใครกันแน่เคอะที่ชวนให้คุณน้องอยู่ต่อ  รอกลับบ้านพร้อมกัน  เจ้งง  หรือว่า เจ้โง่เคอะ

***ละลายพันธุ์ ตอบ ข้อสงสัยเจ้นะครับ  คือว่าผมยังใหม่อยู่สำหรับที่นี่ครับ ผมยังไม่คุ้นกับการใช้งานเท่าไหร่ ขอโทษเจ้ร่วย ส่วนเรื่องชื่อนั้น ระหว่างต่อกับเต้ย ผมสับสนครับ แต่เหตุที่สับสนเป็นเพราะว่า ผมไม่เคยลืมเต้ยไงครับ งงมั้ย? เพราะจริงๆคนที่ผมเอ่ยน่ะตัวจริงๆเค้าคือเต้ย แต่ผมมาเปลี่ยนเป็น **ต่อ แค่นั้น ทีนี้เวลาเขียนเลยงงเองไงครับ ขอโทษเจ้ด้วยครับ
ขอบคุณที่เจ้ติดตามผลงานผมคร้าบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2007 22:02:00 โดย pipozac »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ฝากนิยายที่เขū
« ตอบ #19 เมื่อ: 22-12-2007 17:11:51 »





ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เอามาลงต่อด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
 :a4:
จุดชนวน ต่อ...

@ที่ร้านค้า

"รับอะไรดีคะ?" พนักงานถามเสียงเจื้อยแจ้ว
"กะเพราไก่ไข่ดาว!" น่าน...เมนูสิ้นคิดบรรเจิดออกมา เราทั้งสองตอบประสานเสียง จะว่าบังเอิญหรืออะไรก็ช่าง แต่ว่าผมแอบคิดเข้าข้างตัวเองในใจ "ว้าว...ใจตรงกันเลย" แค่คิดในใจ แต่ท่าทางผมมันออกนอกหน้า
"เป็นไร?" ต่อถามผมหน้างงๆ
"อ๋อ...เปล่านี่ แต่สั่งเหมือนกันเลยเนอะ" ผมตอบแก้เขิน
"ชอบเหมือนกันก็ไม่บอก...ฮิฮิ" ต่อเอ่ยเสียงแปลกๆแบบมีเลศนัย
"รู้เหรอว่าเราชอบแบบไหน...แล้วรู้ได้ไงว่าเราชอบเหมือนนาย?" ผมตอบกลับ เล่นเขาหน้าหงายไปเลยครับ
"เปล่านิ...เห็นสั่งก็เห็นว่าสั่งเหมือนกันไงก็เลยคิดว่าคงชอบอะไรเหมือนๆกัน"
"ราก็สั่งของเราไปเรื่อย ไม่รู้จะกินอะไรดีน่ะ" ผมเสริมต่อ
ข้าวมื้อนี้ทำเอาผมอิ่มแปร้ไปเลยครับ เพราะหลังจากจบด้วยข้าวไปแล้ว ผมยังต่อด้วยน้ำแข็งใส่อีกหนึ่งถ้วยเบอเริ่ม ไม่ใช่ว่าหิวหรอกนะ แต่หาเรื่องอยู่กับต่อนานๆต่างหาก เย็นวันนั้นผมเลยไม่ได้กินข้าวที่บ้าน ปล่อยให้มันบุดคาตู้กับข้าวซะงั้นแหละ
ฮ้า....คืนนี้มีความสุขจังเลยครับ เรื่องเมื่อเย็นทำให้ผมคิดอะไรไปมากมาย รู้ก็รู้ว่าถ้าคิดมากไปอาจจะเจ็บตัวและเจ็บใจได้ แต่มันก็สุขใจนะที่ได้แอบคิดเข้าข้างตัวเองแบบนี้ มันดูลุ้นดีน่ะครับ เหมือนกับว่ากำลังรอผลการสอบปลายภาคเรียนยังไงยังงั้นเลย แต่ผมว่าคนเราทุกคนก็คงจะเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันกับผมบ้างล่ะครับ
วันนี้ผมตื่นแต่เช้าตรู่เลยล่ะ ขนาดเมื่อคืนผมนอนดึกนะเนี่ย มัวแต่นอนวาดฝันถึงเขาอยู่นั่นแหละ ผมมักมีโลกส่วนตัวเสมอ แน่นอนในโลกของผมจะต้องมีเขาและผมเคียงข้างกัน ผมอยากให้โลกแห่งความจริงของผมเป็นดั่งที่ผมนึกคิดสักวัน สักครั้ง...ที่มันจะกลายเป็นจริงขึ้นมา ขอเพียงแค่วันเดียวที่ผมจะได้อยู่กับสิ่งที่ผมปรารถนา ขอแค่วันนั้นขอให้มันได้มีเข้ามาผมก็คงสุขใจ

ยามเช้า@โรงเรียน
ผมมักจะเป็นคนแรกๆของการมาถึงที่ห้องเรียนเสมอ เมื่อผมมาถึงห้องเรียน ผมชอบที่จะเดินมาสำรวจที่บริเวณโต๊ะเรียนของต่อทุกครั้ง ต่อจะนั่งอยู่ตรงประตูด้สนหลังของห้องเลย ต่อเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกน่ะ เขามักจะกลัวอาจารย์เรียกให้ตอบคำถามอะไรประมาณนั้น ส่วนผมเหรอ โน่น...ผมนั่งอยู่ตรงโซนด้านหน้าเลยครับ เหตุผลหนึ่งที่ผมชอบมาวนเวียนที่โต๊ะของเขาน่ะเหรอ...ก็เผื่อว่าเขาจะแอบเขียนโน๊ตอะไรถึงผมบ้างล่ะสิ ไม่มี๊...ไม่มีหรอกครับ ผมหวังลมๆแล้งๆก็แค่ประมาณว่า เอาน่า....มันต้องอะไรบ้างล่ะนะ
นี่ก็ใกล้เวลารวมแถวตอนเช้าแล้ว ต่อยังไม่มาเลย เขามาสายเสมอ เพราะบ้านเขาอยู่ไกลจากโรงเรียน แล้วก็หารถมายากด้วย
"ต่อยังไม่มาอีกเหรอโจ้?" ผมเอ่ยถามโจ้ พร้อมกับชำเลืองตามองหาดูรอบๆ
"ยังไม่เห็นมันเลยเนี่ย" โจ้ตอบ พร้อมกันนั้นเสียงเพลงมาร์ชก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้นักเรียนทุกคนเดินไปรวมแถวกันที่หน้าเสาธง
"โน่นไง! วิ่งมาโน่นแล้ว" ผมร้องตะโกนท่าทีแสดงออกนอกหน้า สะเหร่อซะไม่มีอ่ะ
"ไงมาสายอีกแล้ว นอนดึกอีกล่ะสิ" ผมถาม
"ก็เออสิ เมื่อคืนดูบอลรอบดึกเลยตื่นสาย" เห็นมั้ยล่ะผมบอกแล้วว่าต่อน่ะบ้าบอลเป็นชีวิตจิตใจเลย ยิ่งถ้าเป็น ลิเวอร์พูล แล้วล่ะก็ ต่อไม่มีพลาดเด็ดขาด นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำให้ผมต้องเก็บกดความรู้สึกเบื้องลึกที่ผมมีต่อเขาเอาไว้ มันตอกย้ำเสมอว่า "เฮ้ย...เขาเป็นผู้ชายนะเว้ย! เหยียบไว้ เหยียบไว้"

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5


มาขอตามติดด้วยคน :m1:

อ่านตอนแรกก้องงนะ จากต่อแล้วเป็นเต้ยเลยงงๆ

แต่ตอนหลังได้อ่านที่คุณละลายพันธุ์คุยกะเจ๊ก้อเข้าใจแระ :m13:  อิอิ

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :pig3:  มารอด้วยโคนนนนน ให้กำลังจายมือใหม่โด้ยยยยย  :mc2: เด๋วก็ลื่นขึ้นเอง ไม่ต้องซีเรียส









ปล. แปะให้ดูหน่อยได้ป่าวว่ามานขึ้นเปงโค๊ดยังไง

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
Re: ฝากนิยายที่เขū
«ตอบ #25 เมื่อ23-12-2007 00:55:43 »

 :serius2:นอนไม่หลับ เลยแวบลงมาต่อเพิ่มอีกตอนเน้อ....ต้องขอโทษเรื่องชื่อตัวแสดงด้วยจริงๆครับ เนื่องจากผมยังติดอยู่กับเรื่องวันวาน ผมยังคิดถึงเขาเสมอ ผมเปลี่ยนชื่อตัวแสดงแต่เวลาพิมพ์ผมยังคงนึกถึงแต่เขามันก็เลยเผลอเอ่ยชื่อจริงออกไป...เลยทำใหเพื่อนๆงงกันไปตามระเบียบ....คืนนี้ทำไมมันเหงาจังเล้ย เพื่อนๆพากันออกต่างจังหวัดกันหมดเลย มะมีใครอยู่เป็นเพื่อนเลย เหอๆ :m15: เศร้าเลยเรา เอาล่ะ มาต่อเรื่องราวระหว่างต่อและเต้อีกสักหน่อยละกัน  - **ละลายพันธุ์

***ค่อยๆประทุ***

ต่อและผมมักจะมีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสองเสมอ เรามักไปไหนมาไหนด้วยกัน เรากลับบ้านพร้อมกันแทบทุกวัน ถ้าไม่มีเหตุการณ์ใดมาขัดซะก่อน แจ๊กกับโจ้นั้นจะมีคนที่บ้านมารับ จะมีก็แต่ผม ต่อ และหนุ่มที่ต้องกลับบ้านกันเอง ก็อาจจะมีบ้างที่นานๆทีพ่อของต่อจะขับรถมารับ ผมจะรู้สึกรำคาญทุกครั้งที่มีหนุ่มคอยติดตามมาด้วย ผมจะรู้สึกเหมือนว่ามีอุปสรรคมาขวางกั้นระหว่างผมและต่อเสมอ ถึงแม้ว่าบ้านของหนุ่มจะถึงก่อนตลาดก็ตาม แต่การไม่มีหนุ่มเลยจะเป็นการดีมากสำหรับผม ดังนั้นผมจึงมักหาเหตุทำให้หนุ่มแคล้วคลาดกับพวกผมเสมอ (นางมารร้ายประมาณนั้น) และก็ดูเหมือนว่าต่อจะเห็นด้วยกับผมซะด้วยสิ เพราะนิสัยของหนุ่มนั้นเพื่อนๆทุกคนจะทราบดีว่าเขานั้นชอบคุย คุยแบบน่ารำคาญ ถามโน่นนี่นั่น เรื่องที่ไม่น่าถามก็หยิบขึ้นมาเป็นประเด็นอยู่ได้ ผมล่ะเบื่อ..ด้วยเหตุนี้ผมและต่อจึงช่วยกันเขี่ยหนุ่มออกไปจากสาระบบ และมันก็สำเร็จแทบทุกครั้งไป
"ต่อ...ต่อ มาทางนี้ดีกว่า หนุ่มมันเดินหาเรากันอยู่โน่น"
"เออ...งั้นเราไปทางโน้นกัน" ต่อออกความเห็นสอดรับกับผม ทันใดนั้นเองเขาก็ยื่นมืออันนุ่มนวลราวกับมือผู้หญิงมาจับกับมือของผม ผมตกใจมาก ใขฃจผมมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ใจหนึ่งก็นึกอยากสลัดมือของเขาออกไปด้วยความที่เขินอาย...อ๊าย...อาย ประหนึ่งสาวรุ่นกำลังจะถูกเปิดซิงยังไงยังงั้นแหละ (ดูมียางอายมั้ยเนี่ย?) แต่อีกใจหนึ่งก็อยากที่จะจับมันไว้อย่างนั้นให้นานเท่านาน ผมรู้สึกดีเหลือเกินครับ ผมอยากหยุดเวลานี้ไว้ แต่ผมคงได้เพียงแค่นั้น...เท่านั้นเองจริงๆครับ
"ต่อ..." ผมเรียกเขาเบาๆ
"อะไร...มีอะไร?" เขาถามตีหน้าซื่อ
"ปละ...เปล่า ไม่มีอะไร รถ...รถมันเยอะจังเนอะวันนี้น่ะ" ผมพูดไม่เป็นคำ
"ก็นี่ไงก็เดินมาใกล้ๆเราสิ" เขาพูดพลางจับมือผมแน่น ตอนนี้มือผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"มือนายนิ่มเนอะ อยู่บ้านไม่ค่อยได้ทำอะไรแน่เลย กินแล้วก็นอนแหงๆ" ผมพูดแก้เขิน แล้วก็สลัดมือเขาทิ้ง
"อืม...น้อยไปสิ ล้างจานน่ะงานหลักเราเลย แต่ใส่ถุงมือนะ" เขาพูดพลางหัวเราะไปด้วย เขาดูน่ารักดีจัง

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อใหม่น้าคร้าบบบบบบบบบบบบ....ง่วงแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2008 22:42:46 โดย b|ueBoYhUb »

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1:ตามมาต่อกันกับตอนเดิม (ค่อยๆประทุ) นะคร้าบบบ...เมื่อคืนว่าจะต่อให้เสร็จ แต่ง่วงมากเลยไม่ไหว...

ตอนนี้ความรู้สึกของผมที่มีกับต่อมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมพยายามควบคุมมันอยู่ แต่มันก็...
"ไปเดินเล่นกันก่อนนะ เราอยากไปร้านหนังสือ" ต่อชวนผมหลังจากที่เรามาถึงตลาดกันแล้ว
"ไปสิ...ยังไงก็ได้ เราก็อยากได้หนังสือรถเล่มใหม่อยู่พอดี" ผมเอ่ยตอบ

@ร้านหนังสือ...

มาถึงที่ร้านหนังสือ ผมได้สัมผัสความรู้สึกแปลกๆบางอย่างจากเขามากขึ้น ผมแอบเห็นว่าสายตาของเขามองมาทางผมในขณะที่เขาก็ถือนิตสายฟุตบอลไว้ในมือ ผมสบตาเขา เราต่างสบตากันไปมาอยู่อย่างนั้นเกือบหนึ่งนาทีเห็นจะได้ มันทำให้ผมรู้สึกว้าวุ่น "มันคืออะไร?"  ผมถามตัวเอง ครั้นเมื่อเขารู้สึกตัวเขาก็ละสายตาคู่นั้นทิ้งไป พร้อมกับเดินดิ่งตรงมายังผม หัวใจผมเต้นตึกตัก เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าของผมมาก ผมแอบสูดลมหายใจเล็กๆบางๆ เพื่อว่าจะได้กลิ่นไอจากแก้มอันขาวนวลของเขาบ้างสักครั้ง
"นายนี่คงจะชอบรถเนอะ ไหนขอเราดูซิ โอเหดู เบ๊นซ์ ซะด้วย อืม...สวยดีเนอะ เราคงไม่มีปัญญาซื้อหรอก ดูท่าทางมันจะแพง" ต่อพร่ำไปเรื่อย
"อ้าว! แพงแล้วไงล่ะ อีกอย่างนายจะซื้อได้หรือเปล่าก็เรื่องของนายดิ จะมาบอกเราทำไม?" ผมย้อนกลับ
"ก็เผื่อเรามีปัญญาเราจะได้ซื้อให้นายนั่งไง เห็นชอบนักไม่ใช่เหรอรถเบ๊นซ์น่ะ?" ต่อพูดยอกย้อน ดูหยอกเอินผมนิดๆ สายตาเขามองดูแปลกๆ
"โอ๊ย...กว่าจะถึงวันนั้น เราว่านายคงเอาไปให้แฟนนายนั่งแล้วล่ะ เราจะยังมีโอกาสอยู่อีกเร้อ...ถ้าถึงวันนั้นน่ะ" ผมกล่าวเสียงอ่อยๆ
"อย่ามารู้ดีหน่อยเลยน่า โธ่เอ๊ย! วันนั้นมันยังมาไม่ถึงสักหน่อย จะได้มีแฟนกับเขารึเปล่าก็ไม่รู้" ต่อพูดพร้อมกับจ้องตาผม ผมสบตาเขาบ้างเป็นระยะๆ ไม่กล้ามองตาเขามากนัก ผมกลัวเก็บความรู้สึกไม่อยู่น่ะครับ
"นายได้หนังสือของนายแล้วหรือยังล่ะ เราได้แล้วน่ะ" ผมพูดตัดบท พลางชูหนังสือให้เขาดู
"อืม...นี่ไง" เขาพูดพลางยื่นนิตยสารฟุตบอลเล่มนั้นให้ผมดูเช่นกัน
"งั้นก็ไปกันเถอะ เย็นมากแล้ว เดี๋ยวเราเดินไปส่งนายนะ" น่าน...เป็นไงล่ะ ไม่ได้ขอร้องเลยนะเนี่ย หนูเปล่าน้า...เขามาเอง หนูเปล่าชวนน้า...เขามาเอง อิอิ
"เหรอ?...เอาสิ ไปกันเลยแล้วกัน" ผมพูดเสียงหลงด้วยความตื่นเต้นอยู่ภายใน
"ได้กลับบ้านกับนายแบบนี้ทุกวันก็คงดีเนอะ" ผมพูดพลางหลบสายตา
"ฮะ...อะไรนะได้ยินไม่ถนัด" เขาทำทีท่าเป็นหมาสงสัย....
"เปล่า...หมายถึงว่าเรากลับบ้านด้วยกันแบบเนี้ยะดีเนอะ" ผมกล่าวซ้ำ
"ดียังไงล่ะ?" เขาถามกลับ
"ก็..."
"ก็...อะไร?" เขาสวนกลับทันที
"ก็รู้สึกดีไง ไม่เหงา กลับบ้านไปก็น่าเบื่อ มีเพื่อนเดินเล่นอย่างนี้ดีจะตายไป" ผมรีบหาเหตุผลประกอบทันทีเช่นกัน
"อ๋อ...อือ...เข้าใจแล้ว ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ" เขาพูดทิ้งท้าย ส่วนผมนั้นได้แต่ยิ้มและจบบทสนทนาไปแค่นั้น เพราะกลัวว่าอะไรๆมันจะเลยเถิด
"ถึงคิวรถนายแล้วเนอะ เอ่อ..." เขาพูดเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ
"เอ่อ...อะไรเหรอ?" ผมถามเหมือนอยากรู้
"เอ่อ...เปล่าหรอก กลับบ้านดีๆล่ะแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ" เขาตัดบทพลางหัวเราะแบบเขินๆ ทำหน้าจ๋อยๆ โบกมือลาพร้อมกับเดินจากผมไป ผมยังไม่ทันได้เอ่ยคำลาเขาสักครั้ง ได้แค่เพียงคิดในใจ

@ที่บ้าน...

ผมมาถึงบ้านแล้ว แต่ผมยังอยากคุยกับเขาต่อ ผมเป็นแบบนี้เสมอ ผมมักจะไปขลุกตัวอยู่ที่บ้านของเพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งเราก็สนิทกันมาก มันเป็นชะนีน่ะครับ ชื่อว่ายัยหน่อย เรารู้จักเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม รู้จักกันมาไล่กับแจ๊กนั่นแหละ หน่อยเป็นเพื่อนชะนีที่น่ารักคนหนึ่ง มันออกจะห้าวๆสักหน่อย เป็นคนขวานผ่าซาก ไม่ค่อยยอมใคร ถ้าใครมาร้ายใส่มันล่ะก็เป็นต้องโดนแม่นี่แหกอกแน่ๆ หน่อยรู้จักผมดีครับ สันดานของผมเป็นยังไงมันก็รู้ดีเช่นกัน เพียงแต่มันยังไม่รู้หรอกว่าผมเป็นเกย์ แต่ว่าไปมันก็คงสงสัยผมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน มันมักพูดจาเหน็บแนมผมเสมอ ไม่ก็มาล้อผมว่าผมป็นตุ๊ด ผมไม่ได้ถือสาอะไรมันหรอก แต่ก็ฝันไปเถอะว่าผมจะยอมรับ
ที่บ้านหน่อยจะมีโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อได้ภายในหน่วยและนอกหน่วยทหาร คุยได้ทีละนานๆและไม่ต้องเสียตังค์ ที่นี่แหละเป็นที่ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับต่อได้ในยามที่ไม่ได้เจอกัน และเย็นวันนั้นผมก็ได้คุยกับต่อนานนับชั่วโมงเลย อันที่จริงผมก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรคุยกับเขามากนักหรอก แค่ได้ยินเสียงเขาผมก็ดีใจแล้ว ในบทสนทนามักจะมีแต่คำว่า อือ...ฮึ...อือ...ฮึ หาสาระอะไรไม่ค่อยได้ แต่ก็มีบ้างในบางครั้งที่....
"อืม...เต้เดี๋ยวไม่ได้เจอกันตั้งสองวันแน่ะ นายจะเหงามั้ยไม่ได้เจอเราเนี่ย?" เขาพูดมาแบบนี้มันหมายความว่าอะไรเหรอครับ?
"อืม...ต่อ เราก็คงเหงาน่าดูแหละ นายก็รู้ว่าเราขี้เหงาไม่ใช่เหรอ? นายก็มาหาเราบ้างสิ เราจะพานายมานั่งเล่นที่ทะเล แล้วก็นั่งคุยกันไง" ผมก็ดพร่งออกไปโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้คิดว่าเขาจะรู้สึกอะไรกับสิ่งที่ผมพูดไปรึเปล่า?
"เอาน่า...เรายังเจอกันอีกนาน ต้องมีสักวันล่ะน่า" เขาพูดเหมือนให้ความหวัง
"อือ...จะรอนะ งั้นเท่านี้ก่อนเราจะไปแล้ว ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ" ผมพูดจบก็รีบวางสายไปทันที ยังไม่ทันได้ฟังเขาพูดลาสักคำ  นี่แหละมันมักจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น แล้วผมจะคิดยังไงดีล่ะ...

พูดถึงยัยหน่อยต่อดีกว่า ผมจะไปหาหน่อยทุกวันในตอนเย็นหลังเลิกเรียน รึไม่ก็บางทีหน่อยจะมารับผมที่บ้าน เรามักจะไปวิ่งออกกำลังกายกันรอบหน่วยทหาร วิ่งไปกินขนมไป เล่นกันไป ไม่รู้ว่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ว่าไปวิวมันก็สวยดีนะ มีทหารเป็นกองร้อยกองพันเลย พูดแล้วก็อดคิดถึงวันเวลาเก่าๆไม่ได้ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก หน่อยกับผมมักจะไปเดินเล่นกันที่ริมทะเล บ้านของผมอยู่ใกล้กับทะเลเลยล่ะ ผมอยากมีวันเวลาเหล่านั้นอีกสักครั้งจังครับ บรรยากาศมันอาจจะดูเหงาๆในยามค่ำคืน แต่มันทำให้ผมมีสติ ได้มีเวลาคิดไตร่ตรองถึงเรื่องราวต่างๆได้ดีเลยทีเดียว
"เฮ้อ!  เหนื่อยจังเลยว่ะ อีดำ!" ผมเอ่ยกวนๆใส่มัน
กูก็เหนื่อยเมื่อยหอยเหมือนกันแหละวะ อีเป็ด!" หน่อยตอกกลับ มันมักจะเรียกผมว่า อีเป็ด ทุกครั้งเวลาที่ผมไปจี้ปมด้อยของมันก่อน ส่วนชื่อ อีเป็ด ของผมนี้ ผมได้รับสมญานามมาจากครูผู้สอนภาษาอังกฤษสมัยที่ผมเรียนอยู่ชั้นประถมโน่น แกว่าผมเดินเหมือนเป็ดน่ะ ครับ แหม!...ก็ใครล่ะที่จะไปเดินโยกย้ายส่ายสะโพกได้สวยงามเท่าแก เอ้อ...แกเป็นกระเทยด้วยล่ะ  หน้าไม่ให้แต่ใจแกรักครับ เธอมุ่งมั่นที่จะสวยให้สมใจเธอให้จงได้ ครั้งหนึ่งผมก็เคยมีเรื่องขำๆกับแกด้วยสิ ตอนนั้นผมก็เรียนอยู่ ม.ปลายแล้วด้วย แต่ไม่ขอเล่านะครับ มันไม่ดีครับ
"เฮ้ย...หน่อย! หน่อย! นี่รถใครวะ? กูคุ้นๆว่ะ" ผมตะโกนถามันซะลั่น
"รถใครก็ช่างมันเหอะ ไม่ใช่รถพ่อมึงหรอก" มันตอบกวนประสาทผม
"อ้าวอีมืดนี่! กูถามมึงดีๆ ไหงมากวนทีนกูซะงั้น"   
"โธ่! ลูกเป็ดของแม่ งอนไปได้ รถตาหมี พ่อเพื่อนมึงไงไอ้ต่อน่ะ"
"จริงเหรอ? แล้วเขารู้จักกับพ่อมึงได้ไงวะ" ผมเริ่มให้ความสนใจออกนอกหน้า
"แล้วกูจะรู้มั้ยวะ ว่าเขามารู้จักกับพ่อกูตอนไหน? เพื่อนพ่อกูเยอะแยะ วันๆไม่ไปไหน ตกเย็นก็พากันมานั่งแ**กเหล้าฟรีกันที่บ้านกู" ดูมันว่าสิครับ แต่ก็จริงของมันนะ เพราะมันเองก็ชอบมารับผมตอนเย็นให้ไปเดินเล่นที่ตลาดกับมัน เพื่อที่จะไปซื้อกับแกล้มมาให้พ่อมัน
"แล้วพ่อต่อมาบ้านมึงบ่อยมั้ยวะ?" ผมถามต่อไป
"พักนี้มาโคตรบ่อยเลย กูไม่รู้แล้วว่าที่นี่มันบ้านใครกันแน่" ว่าไปน่าน...
"มึงสนใจพ่อเพื่อนล่ะสิ เอามั้ยล่ะ เดี๋ยวกูติดต่อให้" มันหยอกผม
"มึงจะบ้าเหรอ! อีควายเอ๊ย..." ผมด่ามัน ในใจก็พลางคิดว่าลูกต่างหากล่ะที่กูอยากได้
"โถ...กูล้อเล่นน่า เพื่อนกูออกจะแมนขนาดนี้" มันว่าแดกผมอีกแล้วครับ
นั่นล่ะครับ นังหน่อยเพื่อนชะนีสาวชาวแก๊งของผม มันเป็นเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันแบบสุดๆของผมเลยล่ะ เห็นมันพูดจากวนๆแบบนี้ แต่จริงๆแล้วมันนิสัยดีเอาการอยู่นะครับ
คืนนั้นทั้งคืน ผมอบอุ่นใจอีกครั้ง นี่ขนาดผมเห็นแค่พ่อของเขานะ ผมยังทำราวกับว่าผมได้เจอตัวเขาเองซะอย่างนั้น

...

ละลายพันธุ์ : เดี๋ยวว่างๆแล้วจะมาต่อใหม่นะครับ วันนี้ว่าจะตามไปหาเพื่อนๆ ที่บางแสนสักหน่อยน่ะ อยู่ กทม. คนเดียวไม่ไหวแล้ว เหงาเหลือเกิน ไปดูของสวยๆงามๆดีกว่า วันหยุดทั้งที นอนหมกตัวเองอยู่แต่ในห้องมันยังไงๆอยู่ แล้วจะมาอัพต่อนะครับ ฝากเพื่อนๆเป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ เรื่องราวกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2008 22:46:02 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ กลั่นกรอง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
มาต่ออีกนะคับ

เริ่มนึกเข้าตัวเองบ้างแร้ววว :m4:

pipozac

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:
ละลายพันธุ์ : เพิ่งกลับมาจากบ้านเพื่อนที่บางแสน ออกจะเหนื่อยและเพลียไปสักหน่อย แต่ก็ขอลงตอนต่อไปไว้สักหน่อยละกัน...

**จุดพลิกผัน***

เช้าวันนี้เหงาจัง...วันนี้เป็นวันเสาร์ ผมจึงไม่ต้องไปโรงเรียน และแน่นอนผมไม่ได้เจอกับเต้ย ผมทรมานใจจังอยากเจอต่อแทบขาดใจ
แต่ถึงกระนั้นผมก็มีโอกาสได้คุยกับเขาทางโรศัพท์ที่บ้านยัยหน่อยบ้าง วันนี้แม่ผมออกไปทำงานแต่เช้า แม่ผมเป็นลูกมือทำกับข้าวร้านอาหารตามสั่งที่บ้านของคนรู้จักกัน แม่ผมเป็นคนขยันอดทน สู้ทุกอย่างเพื่อความเป็นอยู่ของเราสองแม่ลูก แม่กับพ่อเลิกกันและแยกกันอยู่ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ชั้น ม.2 เราลำบากกันมาก อ้อ...ผมลืมบอกไปว่าผมเนี่ยลูกทหารเรือนะครับ และบ้านที่ผมอยู่เนี่ยก็เป็นบ้านพักที่อยู่ในค่ายทหารด้วย บ้านหลังนี้คือสิ่งเดียวที่พ่อทิ้งไว้ให้เราสองคนแม่ลูกได้มีที่ซุกหัวนอน มันเหมือนกับว่าเป็นสินสมรสที่แม่พึงได้รับจากพ่อเมื่อหย่าขาดกันแล้ว ทว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นสมบัติของพ่อผมเลย มันเป็นของทางราชการต่างหาก ผมและแม่อาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านหลังนี้ได้ไม่นานนัก ทางการก็ได้ทำการยึดบ้านคืน เนื่องจากพ่อได้ลาออกจากราชการแล้วอย่างเต็มตัว เหตุการณ์นั้นผมจดจำได้เป็นอย่างดี... ผมกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ม.5 ชีวิตของผมและแม่ที่น่ารันทดอยู่แล้ว มันจึงยิ่งตอกย้ำให้ภาวะความเป็นอยู่ของเราสองแม่ลูกแย่ลงไปอีก มันแย่มากๆ ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกเลย ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันจะมีเหตุการณ์อะไรที่แย่ไปกว่านี้เกิดขึ้นกับเราสองคนแม่ลูกอีกหรือเปล่า และเราจะทนกับสภาวะเช่นนี้ได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน? นึกไม่ออกเลยจริงๆครับ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือ ผมจะได้เรียนหนังสือต่อไปถึงระดับไหน? จะมีใครส่งเสียให้ผมเรียนหรือเปล่า? ผมกลัว...แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะตั้งคำถามนั้นออกไปให้กับแม่ เพราะผมไม่ได้ต้องการสร้างแรงกดดันให้กับแม่ ผมสงสารแม่ครับ เหตุการณ์วันนั้น...
"นราฤทธิ์! คุณแม่มาพบลูก" เสียงอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกหาผม
"ครับ...ไหนครับ?"
"โน่นแน่ะ...คุณแม่รออยู่ข้างล่าง นั่นไง...ตรงม้านั่งหินอ่อน คุณแม่ร้องไห้ด้วยนะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก?" อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยผม
"ไม่ทราบครับ" ผมมองไปยังแม่ของผม ในภาพนั้น...ภาพที่ผมได้เห็น ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังนั่งร้องไห้อย่างหมดหวัง หัวใจของผมมันรู้สึกหวิวๆขึ้นมาทันที ผมรีบวิ่งลงไปทันใดนั้น
"มีอะไรรึเปล่าแม่?" ผมถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ
"เต้...บ้านเราน่ะ เขาจะมาเอาคืนแล้วนะลูก" แม่พูดพร้อมกับร้องไห้
"อ้าว ทำไมล่ะ?" ผมถาม
"พ่อเขาลาออกจากทหารแล้วลูก เขาจะไปอยู่ที่อื่นกับเมียน้อยเขาแล้ว"
"แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะแม่" ผมกังวลใจยิ่งนัก
"เต้...เต้ไม่ต้องกลัว แม่จะรีบหาที่อยู่ใหม่ให้ได้" แม่กล่าวพร้อมให้ความหวัง ผมไม่พูดอะไรต่อไปอีก ต้องยอมรับว่าตอนนั้นผมโกรธพ่อมาก ผมรู้สึกผิดหวังในตัวพ่อมากที่สุด พ่อไม่ใช่ฮีโร่ของผม ไม่เคยเป็นและจะไม่มีวันได้เป็นเลยด้วยซ้ำ ผมเสียใจ น้ำตาผมไหลเอ่อ แต่ผมก็ต้องกลั้นมันเอาไว้ ผมต้องเข้มแข็งและจะไมม่มีทางอ่อนแอ
ผละจากแม้ออกไปไม่กี่ก้าว น้ำตาที่กลั้นไว้สุดท้าย...ไม่สามรถกลั้นเอาไว้ได้ต่อไป มันไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง ผมเดินหลบไปสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะกลับขึ้นไปเรียนใหม่บริเวณหลังอาคารเรียน ซึ่งอยู่ข้างหลังห้องพักครูพอดี
"อย่าร้องไห้เลยลูก...อย่าร้องเลยนะเต้" เสียงนั้นที่เร็ดรอดออกมาข้ามผ่านศีรษะผม อาจารย์ที่ปรึกษาของผมเองครับ แกเดินลงมาแอบดูผมอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เสียงนั้นฟังดูอบอุ่นแต่มันยิ่งกระตุ้นผมให้ร้องไห้หนักขึ้น ผมปล่อยโฮเลยทีเดียว
"ผมขอยืนอยู่ตรงนี้สักพักนะครับ ผมยังไม่พร้อมขึ้นไปเรียนตอนนี้ครับอาจารย์" ผมกล่าวขออนุญาต
"ขึ้นมาคุยกับครูก่อนดีมั้ยลูก? มีอะไรก็ปรึกษาครูได้นะเต้"
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ ผมขอยืนอีกสักพักแล้วผมก็จะขึ้นไปห้องเรียนเองครับ"
"ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็มาคุยกับครูได้นะลูก อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว หากครูแนะนำอะไรได้ครูก็อยากจะทำนะลูก แต่ตอนนี้ถ้าไม่พร้อม...อยากร้องไห้...ก็ร้องไป...ร้องออกมาให้พอ แต่อย่าลืมว่าเมื่อร้องพอแล้ว ก็ให้มันจบไปแค่นั้น ครูเป็นห่วงเต้นะลูก" อาจารย์กล่าวปลอบซ้ำ
"ได้ครับ...ขอบคุณครับอาจารย์"


ละลายพันธุ์ : เรื่องราวของผมและแม่จะเป็นไปอย่างไรต่อ คอยติดตามนะครับ วันนี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อน เพลียมากมายครับ กู้ดไนท์คร้าบบบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2008 22:51:25 โดย b|ueBoYhUb »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด