- 2 - ณ ดาดฟ้าสูงริบลิ่วบนตึกแห่งหนึ่งใจกลางกรุง ขณะนี้เวลาปาเข้าไปเที่ยงคืนเศษ แต่ถนนด้านล่างยังคงเต็มไป
ด้วยแสงไฟจากรถราไม่ได้เบาบางลงสักเท่าไหร่สำหรับเมืองฟ้าอมรแห่งนี้ บุรุษชุดดำรูปร่างกำยำสูงใหญ่ดูน่าเกรงขามปกปิด
ใบหน้าไว้ด้วยผ้าโพกสีเดียวกัน เผยให้เห็นเพียงนัยน์ตาคมกริบที่กำลังมองลงไปยังท้องถนนยามราตรี ปล่อยให้สายลมแรงปะทะ
ร่างจนผ้าโพกซึ่งมีชายยาวปลิวไสวไปกับแรงลม ทำให้บรรยากาศรอบกายดูลึกลับซับซ้อนทรงพลังเข้าไปอีกเท่าตัว
“หวัดดีเทพพระกาฬจ้าวแห่งสายลม” เสียงทุ้มห้าวกล่าวทักขึ้นจากปากบุรุษชุดดำลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึง
กันไม่ผิดเพี้ยน ยืนห่างออกไปสิบกว่าก้าว หากสังเกตให้ดีจะเห็นความแตกต่างของผู้มาทีหลังรูปร่างเตี้ยกว่าพอสมควรเลย
ทีเดียว เมื่อเทียบกับคนที่ยื่นตระหง่านง้ำหันหลังให้อยู่ขณะนี้
“คุณผู้หญิงสบายดีไหม?” เสียงทุ้มเข้มเปล่งจากร่างกำยำแผ่นหลังกว้าง โดยคนถามยังคงหันหลังให้เช่นเดิมไม่คิด
ชายตามามองด้วยซ้ำ เหมือนทั้งสองจะคุ้นเคยกันดีอยู่ก่อนแล้ว
“เธอสบายดีฝากมาบอกคุณด้วย ว่าไม่ต้องห่วงองค์กรดูแลเธอดีมากตราบที่พวกเขายังไม่ได้กุญแจไขกล่องดำไป
ชีวิตเธอย่อมมีค่ากว่าสิ่งใดเสียอีก” เสียงทุ้มห้าวยังคงตอบกลับมาด้วยโทนเสียงเดิม
“อืมผมเข้าใจ มีข่าวคืบหน้าอะไรหรือเปล่า?” ร่างสูงตระหง่านยังคงมองไปยังถนนเบื้องล่างด้วยสายตาว่างเปล่า
ยากจะอ่านความคิดของผู้พูดว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากจะคาดเดาเอาจากคำถามที่เอ่ยมาเท่านั้น
“ทางองค์กรหัวหน้าเรียกประชุมลับ งานนี้พสุธาเป็นผู้นำทีมมาด้วยตนเอง ศึกหนักเชียวล่ะมีพวกแถวหน้ามือต้นๆ
ตามมาอีกสี่ เกรงว่าลำพังคงคาจะรับมือลำบาก” คำตอบที่ได้กลับมา ทำให้แววตาคมกริบวาวโรจน์ขึ้นนิดนึง ก่อนจะกลับมา
ว่างเปล่าดั่งเดิม
“คงคากับพยัคฆ์ร่วมมือกันน่าจะพอไหว เทียบกันแล้วถึงคงคาจะยังห่างชั้นพสุธาไม่น้อยแต่ถ้ามีพยัคฆ์เสริม
คงพอฟัดพอเหวี่ยงขึ้นอยู่กับจังหวะใครดีกว่ากัน ส่วนพวกที่เหลือการ์ดของเขาคงเอาไม่อยู่คุณหาทางช่วยเขาหน่อย
ก็แล้วกัน คุณทำได้นี่” ฟังเหมือนเป็นการขอร้องแต่หนักไปทางคำสั่งเสียมากกว่า คนฟังมีแต่จะรับคำเพียงอย่างเดียวไม่มีทาง
ปฏิเสธได้ เพราะหากเข้าใจในประโยคแล้วมันคือคำสั่งดีๆนี่เอง
“ผมจะหาวิธีผ่อนหนักให้เป็นเบา” และก็เป็นอย่างที่คิด บุคคลลึกลับผู้มาทีหลังจำต้องรับปาก ยังดีที่เขาพอมี
ไหวพริบเหลือทางเลือกให้ตัวเองไว้ด้วย โดยฐานะแล้วคนรับคำสั่งก็ไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้เช่นกัน หากองค์กรรู้มีทางเลือก
ให้เดินเพียงทางเดียวคือหนทางสู้ความตาย แต่นั่นคงไม่น่ากลัวเท่าเพราะมันยังมาไม่ถึงเมื่อเทียบกับพญามัจจุราชตัวจริงที่ยืน
ตระหง่านอยู่ตรงหน้าตอนนี้แล้วละก็ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับบุญคุณในอดีตที่ได้รับการละเว้นชีวิตแถมยังยื่นมือช่วยเหลือในสิ่ง
ที่ตัวเขาเองไม่สามารถทำได้ ดีไม่ดีอาจไปอยู่ยมโลกแล้วด้วยซ้ำถ้าบุรุษชุดดำผู้นี้ไม่ยื่นมือช่วยเขาเอาไว้ เพราะฉะนั้นการ
ตอบแทนด้วยการหันมารับใช้ผู้ที่แผ่รังสีพิฆาตที่ยืนหันหลังให้ตรงหน้าถือเป็นทางเลือกที่ไม่ผิด อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นคนที่ได้
ใกล้ชิดบุรุษในตำนานมากกว่าใครๆ จ้าวแห่งสายลม
“ขอบใจมาก ผมต้องไปแล้วฝากดูแลนายหญิงด้วย” พูดจบไม่รอคนด้านหลังรับปาก เพราะมันคือประโยคเดิมๆที่มัก
ได้ยินก่อนเขาจากไป บุรุษอหังการผู้นี้จะย้ำแบบนี้เป็นการสั่งเขาอยู่เสมอ แล้วร่างสูงใหญ่ก็ปล่อยตัวดิ่งลงจากยอดตึกระฟ้า
สูงกว่าร้อยชั้น หากเป็นภาพมุมกล้องที่มองจากด้านหลังคงต้องกรี๊ดเสียงดังลั่นไปแล้ว กับภาพการทิ้งตัวลอยละลิ่วดิ่งลงจาก
ดาดฟ้าตึกที่ประเมินความสูงไม่ได้เช่นนี้
แต่กับบุคคลลึกลับที่ยังคงเป็นปริศนาเขากลับไม่มีอาการเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ดีว่าไม่มีวันที่จ้าวแห่ง
สายลมจะตกตึกตาย และก็จริงดังที่เขาคิด ปีกค้างคาวสีดำขนาดใหญ่คล้ายเครื่องร่อนแผ่กว้างลอยคว้างตัดกับแสงจันทร์
ยามราตรีที่เห็นอยู่ริบๆ เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาคนเดียว ‘รามูน’ นักฆ่าเทพพระกาฬ มืออันดับหนึ่งแห่งองค์กรมหาหิงค์
ที่คนในวงการต่างรู้ดีว่าหนึ่งในสี่ของจตุรเทพ ดิน น้ำ ลม ไฟ เขาคือผู้ที่ไม่มีใครเทียบชั้นด้านฝีมือได้เลย ‘สายลม’ ที่สัมผัสได้
เพียงวูบผ่าน สายลมลี้ลับกระจายอยู่รอบตัวเรายากแก่การจับต้อง กระทั่งขอแค่เข้าถึงตัวตนที่แท้จริงยังทำไม่ได้ ไม่ว่าเวลา
จะผ่านไปแค่ไหนสายลมยังคงเป็นความลึกลับซับซ้อนอยู่ตลอดมา จนถึงบัดนี้ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของสายลมที่ว่า
แม้แต่คนเดียว ‘รามูน’ ผู้มีตำนานเล่าขานในหมู่นักฆ่าบุรุษที่ได้ชื่อว่าหล่อเหลาจนหนุ่มๆยังต้องอิจฉา ชายผู้สง่างามผู้ที่สามารถ
กุมหัวใจหญิงสาวเพียงแค่ชายตามอง จ้าวแห่งสายลมผู้มีฝีมือลึกล้ำเกินคาดและอีกมากมายของตำนานนักฆ่าเทพพระกาฬ
ที่หายไปจากองค์กรกว่ายี่สิบปีด้วยข้อหามหันต์กับตราบาปที่ถูกขีดเส้นแดงเอาไว้ว่า ‘คนทรยศ’
“ก๊อกๆๆ!” เสียงเคาะประตูแบบนี้ ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองมีอยู่คนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องรอให้เดินไปเปิดประตูก็ผลัก
เปิดเข้ามาและก็จริงอย่างที่คาดเอาไว้
“ไม่ง้อผมเลยนะ ใจร้ายชะมัดคนเรา” ใบหน้าหล่อคมเข้มกำลังยืนหน้าง้ำทำแก้มพองลมหลังพูดจบประโยค จนมังกร
อยากถีบให้สักเปรี้ยงแต่ก็ได้แค่คิดถึงจะหมั่นไส้ไม่น้อย กับท่าทางที่เจ้าหลานร่างยักษ์กำลังออกอาการอยู่ตอนนี้ แต่ข้อหายังไม่
ร้ายแรงถึงขั้นต้องรับโทษด้วยลูกถีบ พอคิดดังนั้นร่างสมาร์ทจึงทำไม่สนใจไม่แม้กระทั่งจะต่อปากต่อคำกลับ เจ้าตัวยังคงสนใจ
ผูกเน็กไทค์ตรงหน้ากระจกต่อด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทำเอาคนที่ยืนเป็นเด็กถูกขัดใจออกอาการปั้นปึงแต่เช้าต้องเป็นฝ่ายก้าว
เข้ามายืนซ้อนหลังประชิดเข้าใกล้เสียเอง
สายตาคมเข้มที่สบตาคมสวยของอาในกระจก ส่งประกายวิบวับขึ้นมาทันทีเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากร่างหล่อ
สมาร์ทตรงหน้า คนที่ต้องหงุดหงิดกลับเป็นมังกรเสียเอง ที่ดันใจเต้นตึกตักอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อร่างสูงใหญ่กำยำยืนซ้อนหลัง
จนเห็นความแตกต่างชัดเจนว่าไอ้เด็กเปรตนี่โคตรยักษ์ชะมัด มังกรอาศัยเนียนทำนิ่งไม่พูดไม่จาเพื่อควบคุมความรู้สึกของ
ตนเองที่กำลังเกิดภาวะความดันไม่ปกติแทน
“อาไม่คิดจะขอโทษผมจริงหรือ?” ลูกแก้วเอ่ยปากบอกขณะที่ถือวิสาสะยื่นมือเข้าไปแย่งผูกไทค์ให้เสียเอง ดูผิวเผิน
เหมือนเจ้าตัวหวังดีบริการผูกเน็กไทค์ให้คุณอาสุดหล่อ แต่ใครเขาสอนให้ยืนซ้อนหลังแล้วยื่นมือมาผูกให้แบบนี้กันเล่า
กลายเป็นว่าคนรับบริการต้องตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่อ้อมเข้ามากอดไว้ทั้งสองข้างเรียบร้อยไปแล้ว โคตรเนียนจริงๆ
“ขอโทษเรื่องอะไร? แล้วนี่ตกลงจะช่วยหรือจะทำให้มันช้าเข้าไปอีกหืม?” มาทีเดียวสองคำถามพร้อมกันเลย คำถาม
แรกมังกรไม่เข้าใจว่าตนต้องขอโทษเจ้าตัวเรื่องอะไร ส่วนคำถามที่สองไม่ต้องบอกเพราะเจ้าเด็กแสบมันดันอ้อยอิ่งพลิก
เน็กไทค์ไปมาเหมือนเล็งองศาไม่เสร็จสักที ในขณะที่ใบหน้าก็ก้มต่ำมองปมเน็กไทค์จนจมูกโด่งเป็นสันปัดผ่านแก้มสากของ
คนถามในอ้อมกอดไปแล้วเรียบร้อยสองสามครั้ง มังกรใช่จะไม่รู้มุกหลอกแต๊ะอั่งของหลานชายจอมแสบ ที่ยังคงเฉยอยู่นี่ก็แค่
จะดูว่าเจ้าตัวแสบจะทำอะไรได้มากกว่านี้หรือเปล่าก็แค่นั้น
“อ้าว!ก็ขอโทษที่เมื่อคืนอาไปนาน จนผมรอไม่ไหวต้องขึ้นมาก่อนยังไงเล่า แทนที่จะตามมาง้อสักหน่อย
อะไรนี่ไม่มีเลยให้เรารอจนง่วงใจร้ายชะมัดรู้หรือเปล่าครับ?” ลูกแก้วเลือกกระซิบข้างหูมังกรแทนการพูดปกติ เล่นเอาคนฟัง
ยืนอึ้งไปเลยเมื่อเจอไม้นี้ ที่สำคัญหน้าหล่อสมาร์ทกำลังเห่อร้อนขึ้นมาทันตา พลาดเองที่ปล่อยเจ้าตัวแสบประชิดถึงตัวขนาดนี้
มังกรนึกโมโหตัวเองที่ดันอยากรู้ว่าคนไม่เอาอ้าวในการต่อสู้จะมามุกไหน เชื่อเขาเลยจริงๆมุกเนียนเอากำไรสามารถขั้นเทพ
เชียวล่ะ พอคิดถึงตรงนี้ใบหน้ากลับเห่อแดงก่ำขึ้นทันที เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองจะเขินไปทำไมไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย หนักเข้าไปใหญ่
เรื่องขาดทุนกำไรอะไร ดันคิดโน้นนี่เป็นเชิงพาณิชย์ซะงั้น กร่นด่าตัวเองไปมาหลายรอบที่อยากจะพิสูจน์บ้าบอจนได้เรื่อง
ตกอยู่ในสภาพนี้เข้าจนได้
“พอเถอะอาจัดการเองดีกว่า” มังกรแย่งเน็กไทค์พยายามใช้ไหล่ดันตัวลูกแก้วออกห่าง ขอเป็นคนผูกเสียเองเมื่อเห็น
ว่าผู้หวังดีกำลังฉวยโอกาสไม่ยอมหยุด
“ชู่วว!นิ่งๆสิครับ เดี๋ยวก็ยิ่งช้าเข้าไปใหญ่” กลับถูกเจ้าตัวแสบเอ็ดเฉยเลย สายตาที่สบในกระจกออกแนวท้าทาย
หยั่งเชิงกันอีก สุดท้ายเป็นมังกรที่ยอมปล่อยมือให้ไอ้หลานร่างยักษ์ดำเนินการผูกเน็กไทค์ต่อจนเสร็จ คราวนี้เจ้าตัวไม่ลีลา
ท่ามากเหมือนทีแรก คงเห็นแล้วว่าขืนยืดเยื้ออยู่ละก็ มีหวังได้รางวัลเป็นศอกของอาสุดหล่อแทนคำขอบคุณเป็นแน่
เรียบร้อยแล้วเจ้าตัวถึงปล่อยมังกรออกจากอ้อมแขน มีอมยิ้มแก้มตุ่ยจนคนมองรู้สึกหมั่นไส้ปากไวเท่าความคิด
หลุดถามออกไปทันที
“ยิ้มอะไร?” เข้าทางคนขุดหลุมล่อ รีบตะครุบกลับให้ไว
“ยิ้มดีใจที่ผูกไทค์ให้อาจนหล่อซะขนาดนี้ ขอรางวัลให้ด้วยสิครับ” พูดจบส่งสายตาวิ้งค์ๆอีกต่างหาก
“รางวัลไม่มี อาไม่ได้ขอให้ช่วยนี่” มังกรเลี่ยงเดินหนีหน้าตาย แต่ข้อศอกกับถูกมือใหญ่จับรั้งเอาไว้ จำต้องหยุดอยู่
กับที่หันมามองนิ่งๆ
“ใจร้ายชะมัดเมื่อคืนก็ปล่อยผมรอไม่มีมาง้อ ตอนเช้าอุตส่าห์เป็นฝ่ายมาหาอาก่อนแถมยังช่วยผูกไทค์ให้อีกกลับบอก
ไม่มีรางวัล ไม่มีแม้คำขอโทษนี่มันอะไรกันครับ?” สายตาตัดพ้อส่งมาพร้อมกับใบหน้าสลดของคนถาม ไม่ได้ลดความน่ามอง
หล่ออย่างร้ายกาจของเจ้าตัวลงแม้แต่น้อย มังกรถึงกับหน้าร้อนเมื่อรู้สึกว่าตนจ้องตอบไอ้หลานบ้านี่สู้สายตาไม่ได้เข้าไปทุกที
ขืนจ้องนานไปใจมันพานหวิวแปลกๆ จนต้องเฉเบือนหลบแล้วตัดบทพูดขึ้นเสียก่อน เพื่อจะได้ออกไปจากห้องให้ไว
“อยากได้อะไร?” พลาดอย่างมหันต์ในเช้าวันนี้ พอจบคำถามข้อศอกที่ถูกจับรั้งเอาไว้ด้วยมือหนาก็ออกแรงดึงร่าง
สมาร์ทเข้าปะทะอกแกร่งพร้อมกับริมฝีปากได้รูปประกบปิดปากของอาสุดหล่ออย่างรวดเร็วในจังหวะที่ไม่ยอมให้ทันตั้งตัว
“อ่ะ..อึก..อืมม” เสร็จโจรดันเผลออ้าปากหมายประท้วง ลิ้นชื้นที่รอโอกาสอยู่ก่อนแล้วก็สอดเข้าไปดูดชิมความหวาน
ในปากอุ่นทันที พิษสงของความชำนาญจูบเพชฆาตอย่างผู้เชี่ยวชาญขั้นเทพของลูกแก้วก็สำแดงเดชทันที ทำเอาร่างสุดสมาร์ท
ในอ้อมแขนถึงกับอึ้งลืมการต่อต้านไปเลยทีเดียว ปล่อยให้คนอุกอาจมอบจูบดูดดื่มตักตวงความหวานจนแทบหมดลมหายใจ
กันไปแล้วนั่นแหละ ลูกแก้วจอมแสบถึงยอมคืนอิสระภาพให้กับปากสวยได้รูปของอาสุดหล่อซึ่งบวมเจ่อแดงก่ำ
ทั้งหน้าตาหูคอไปหมดแล้ว
“อ่า..นี่เราชักจะ..?” ไม่รอให้ต้องเจ็บตัว ขาที่ยกค้างยังไม่ทันยันโดนวัตถุใดเลย เมื่อเป้าหมายเผ่นผลุงอย่างรู้ล่วงหน้า
ยังหันมายิ้มปากฉีกก่อนวิ่งออกจากห้องไป แถมท้ายด้วยประโยคตามหลังอีกว่า
“ขอบคุณมากครับอา รางวัลของผมทำให้ไม่ต้องทานอะไรแล้วครับอิ่มจังหวานโคตรๆ” หนีไปเฉยๆยังพอทำเนา
ดันเสือกพูดแบบนี้มาอีก มังกรทำได้ดีที่สุดคือรีบเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอาศัยน้ำจากอ่างตรงหน้ากระจกลูบหน้าตาที่เห่อ
สีแดงจัดอย่างกับคนเป็นลมพิษ แถมหัวใจเสือกรัวกระหน่ำเต้นไม่หยุดนี่อีก หงุดหงิดตัวเองที่สุดเสียท่าไอ้เด็กแสบทุกทีสิน่า
แย่เข้าไปใหญ่ทำไมถึงไม่ต่อต้านก็ไม่รู้ ทั้งที่สติก็มีแต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตามนี่สิ ปล่อยเจ้าหลานตัวแสบมันจูบเอาจูบเอา
ไม่อยากยอมรับดันรู้สึกดีได้ยังไง? ปัญหาใหญ่ของมังกรเสียแล้วที่บังคับร่างกายตัวเองไม่ได้ มันดันไม่ยอมฟังคำสั่งจากสมอง
ที่สั่งให้ต่อต้านนี่สิ ตอนนี้ร่างกายรับคำสั่งจากอะไรถึงยอมลูกแก้ว ถ้าร่างกายมันตอบมังกรได้มันคงบอกเจ้าตัวไปว่า ‘รับคำสั่ง
จากความรู้สึกล้วนๆไม่ใช่สมอง’ เอาเข้าแล้วสิเพราะเจ้าความรู้สึกที่ว่ามันต้องเกิดจาก ‘ใจ’ งานนี้ประธานใหญ่วิริยะทรัพย์กำลัง
ตกที่นั่งลำบากเมื่อใจมันเริ่มทรยศ...?
มาต่อตอนใหม่ให้แล้วนะคะ แหมๆ คุณ Vesi เล่นจะเผากระทู้เลยอ่า
กล้าฆ่าเค้าจริงเหรอ รู้ว่าล้อเล่นไม่รักกันจริงคงไม่ขู่เผากระทู้กันหรอกใช่ป่ะ? 555+

ความจริงคือเรื่องนี้มันต้องใช้เวลาไม่น้อยในการขัดเกลา เพราะหากไม่โดนก็ไม่กล้าโพส
ต้องเอากันแบบว่ากว่าจะคลอดออกมาได้ ต้องโดนใจคนเขียน
ขอบคุณมากนะคะ ที่คนอ่านแฟนนิยายของลักษ์ตามอ่านกันไม่มีทิ้งหาย
สัญญาจะพยายามอัพให้ถี่ขึ้น แต่เชื่อเถอะยี่ห้อนี้ไม่มีค้าง จบทุกเรื่องค่ะ
กลัวโดนแช่ง เดี๋ยวไปทำอย่างอื่นอารมณ์มันจะไม่สุด พานจะค้างเอาได้ กลัวอ่ะ อิอิ!
ไปแหละ อ่านเรื่องพี่กลเขียนพาเข้าป่า ออกทะเล เลยติดเอามาเฉยเลย
แวะไปทักทายกระทู้พี่ชายหนูหน่อยนะคะ ช่วยเร่งให้มาต่อไวๆ บ้างสิ
รออ่านเหมือนกัน อยากรู้โคตรๆ ยิ่งตอนสำคัญพี่กลจะยอมเขียนไหม?
ไปช่วยกันดัน กดดัน ให้เขียนเลย อยากรู้ๆๆๆๆๆๆ ม๊ากกกก!!! สังเกตหางเสียง

Luk.
