~Love mania~ รักจัดหนัก THE END [13.05.2555] [P.22]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

อยากให้น้องปั๊บคู่กับใคร (เรื่องต่อไปค่ะ)

พระเอกคนใหม่
28 (38.4%)
กลับไป 3P
20 (27.4%)
คุณน้านามบัตร
22 (30.1%)
นิมา
3 (4.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 59

ผู้เขียน หัวข้อ: ~Love mania~ รักจัดหนัก THE END [13.05.2555] [P.22]  (อ่าน 156352 ครั้ง)

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
*************************************************************************************






“ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนแก”... เจ้าของร่างสูงเอ่ยขึ้นมาห้วนๆ น้ำเสียงกังวานแม้จะไม่ได้ดังมากนัก ในรัศมีห้าเมตรได้ยินกันแบบทั่วถึง แน่นอนว่าร่างบางที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ยินคงถูกประณามหยามเหยียดว่าหูหนวกเป็นแน่

แต่ที่แน่เสียยิ่งกว่าแน่ก็คือ... ไอ้ประโยคที่ได้ยินกันอยู่เนี่ย มันหมายความทางบวกหรือลบ?

จะยังไงก็ไม่รู้...รู้อีกอย่างสำคัญมากๆ เลยก็คือ ไอ้คนพูดกำลังอยู่ในอาการเหงื่อเริ่มซึมตามขมับ ใบหน้าขาวๆ เริ่มแดงขึ้นช้าๆ เพะอากาศร้อนๆ หรือ...เพราะอะไร

ส่วนคนที่ยืนอึ้งอยู่อีกคน แน่นอนว่าคนคนนี้คือคนที่ต้องรองรับประโยคก่อนหน้าไว้เต็มๆ ใบหน้าอ่อนใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนริมฝีปากบางจะเม้มเข้าหากันแน่น แล้วคลายออกมาในที่สุด

“แกพูดว่าอะไรนะ” คนร่างบางถามย้ำด้วยน้ำเสียงกดต่ำ เน้นย้ำให้รู้ว่าไม่ต้องการให้ประโยคงี่เง่านั่นทำให้ต้องสับสน ต้องการความชัดเจนเดี๋ยวนั้นเลย...

“ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนแก...อีก...”

ชัดเจน!

มาก...

ชัดแบบว่า ไอ้ที่คลุมเครือมาตลอดมันกระจ่างในจิตเลยล่ะ...

ไม่อยากเป็นเพื่อนกัน...ไม่เป็นเพื่อนกันแล้ว....




 :a5: o22

เอ่อ... เพิ่งหัดเขียน หัดลง หัดทุกอย่างเลย เดี๋ยวจะมาต่ออีกนะ กำลัง...งง อยู่ แหะๆ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2012 14:01:53 โดย Nima4 »

ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #1 เมื่อ20-02-2012 13:16:58 »

อย่าลืมแปะกฎนะจ๊ะ

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #2 เมื่อ20-02-2012 13:24:27 »

อย่าลืมแปะกฎนะจ๊ะ


ขอบคุณค้าาาา...

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #3 เมื่อ20-02-2012 14:01:03 »



มันเริ่มจากตรงไหนกันนะคำว่า “เพื่อน”

“เห้ยๆ ๆ ดูนั่นดิ น่ารักว่ะ” ปลายนิ้วสวยชี้กระดิกๆ ตรงไปยังร่างบางของใครคนหนึ่งที่อยู่ห่างไปราวๆ สิบเมตร สายตาคมมองจ้องก่อนจะพยักหน้า

“ใช่คนที่ชื่อผิงปะวะ เมเจอร์พลังงานอะ”

“ใช่ๆ จำได้ตอนรับน้องโดนพวกพี่ผู้ชายแกล้งหยอกจนฟิวส์ขาดโดดตั้นหน้าพวกปี่สี่” คนตาดุสะอึกหัวเราะ ก่อนจะผิวปากเบาๆ อย่างติดเป็นนิสัยแล้วยิ้ม เมื่อเห็นร่างบางคนเดินตรงมาทางพวกเขาพร้อมกับชายร่างโปร่งที่เขารู้จักดี ก็เพราะมันคือเพื่อนแก๊งส์เดียวกันกับเขาน่ะสิ

“ไอ้มู่มันไปสนิทกับเขาได้ไงวะ ไม่เห็นรู้เลย” หนุ่มตาหวานเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองที่ชื่อ มู่ลี่ตรงมา

“ประเด็นคือเขาน่ารักว่ะ”

“ถ้ายัยหวานตาอะไรนั่นโผล่มากูจะบอกว่ามึงนอกใจ”

“นิสัยเสียแล้วไอ้นุช นั่นผู้ชาย” ชายหนุ่มตาสวยไหวไหล่ ทำเป็นสนใจขวดน้ำเปล่าที่ถืออยู่ แต่แอบยิ้มร้ายกาจ “ช่วยไม่ได้ เสือกโง่ไปคว้าตุ๊กแกทำเมีย”

ไม่ทันที่จะได้ด่าอะไร ร่างสูงโปร่งของมู่ลี่ก็เดินเข้ามาถึงตัวพวกเขาแล้วพร้อมกับชีทงานล้านแปดกระแทกลงกับโต๊ะ

“เอาไปเลยไอ้พวกสันดานทั้งหลาย ใช้กูดีนักไปแยกกันเอาเอง”

“เล่นไพ่แพ้เองแท้ๆ” ชนุตต์เอ่ยเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าไปดูกองชีทที่เพิ่งถ่ายมา มันปนกันวุ่นวายไปหมดจนไม่อยากจะแยกชุดเอง...

“ทำไมไม่เรียงมาดีๆ วะมู่ มันปนกัน”

“กูแยกมาดีแล้ว แต่ไอ้เห้ซอแม่งมารื้อจนเป็นแบบนี้” หนุ่มร่างสูงแต่ชื่อน่ารัก มู่ลี่ เอ่ยพร้อมกับนั่งลง “ผิงนั่งดิ ไม่ต้องห่วงหรอก เจมันไม่กัดหรอก แต่ไอ้นุชไม่แน่” ไม่พูดเปล่าหนุ่มตัวสูงก็หันไปกัดพ่อตาหวานที่นั่งเขี่ยแผ่นชีทงานอยู่

“อ่าว...หน้าตาไม่น่ารักปากยังร้ายอีกนะ” คู่กรณีเอ่ยสวนกลับ แต่เหมือนเป็นการขยับปากขมุบขมิบมากกว่า ก่อนจะต้องเอี้ยวตัวหลบปากกาที่มู่ลี่ปาเข้าใส่

“อะไรของแกสองคนวะ” เจเป็นคนห้ามทัพ เมื่อเห็นว่ามู่ลี่ตั้งท่าจะหาอะไรซัดใส่พ่อหนุ่มตาหวานแต่ชื่อเล่นสาวน่ารักได้ไม่ต่างกับคนที่กำลังโกรธอยู่

“ก็ไอ้สันดานนี่มัน...”

“มันทำอะไรมึงอีกล่ะ นุชมึงทำอะไรไอ่มู่อีกวะ อย่างแกล้งมันให้มากนักซีวะ มึงสองตัวก็เป็นพวกผู้ชายชื่อสวยเหมือนกันแท้ๆ”

“ใครจะเหมือนมึงล่ะ ไอ้หล่อตั้งแต่ชื่อ” ประชดเข้าให้ เหวี่ยงสายตาจิกกัดเข้ามาให้อีก

“หน้าตาก็หวานน่ารักนะนุช เหมือนชื่อเล่นมึงอะ แต่ปากมึงหมายิ่งกว่าหน้าไอ้มู่อีก”

“มึงพูดงี้หันมาด่ากับกูตรงๆ เลยดีกว่าไอ้เจ” คนโดนพาดพิงหันไปเอาเรื่องบ้าง จากนั้นก็สารพัดคำจิกกัดก็ระเบิดขึ้น และดูเหมือนทุกคนจะลืมอีกหนึ่งชีวิตที่นั่งมองทั้งสามทะเลาะกันพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่ที่เริ่มคลี่กว้างขึ้นเรื่อยๆ

“ทั้งหมดมันเป็นเพราะไอ้เห้นุช”

“อย่าโยนใส่หน้ากันว่ะมู่ ไม่ด่าไอ้เจวะ”

“เฮ้ย! อย่าลากเข้าไปยุ่งด้วยได้ปะ แกสองคนนั้นแหละทำอย่างกับทะเลาะกัน กูแค่ยุแยง”

“สันดาน!” คราวนี้สองหนุ่มพูดพร้อมกัน แถมยังมองร่างสูงเป็นตาเดียวอีกต่างหาก แต่เจ้าตัวก็ใช่จะสนใจ...

“กูพูดจริง ไอ้นุชมันทำอะไรมึงล่ะมู่ มึงถึงค้อนมันตาจะหลุดแล้วหลุดอีก ผู้หญิงเขายังค้อนได้ไม่เท่ามึงเลย”

“มู่มันไม่ใช้ผู้ชายไม่งั้นตอนเกิดแม่มันจะตั้งชื่อว่ามู่ลี่เหรอวะ สงสัยนั่งพับเพียบมาเกิด”

“หุบปากไปเลยไอ้ชะมดมาเกิด!”

“แรง!” เจสว่า พร้อมกับหัวเราะชอบใจ ตบไม้ตบมือ เหมือนกันกับคนที่ไม่มีปากไม่มีเสียงนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมทักทาย...

“ก็จริงมั้ยล่ะ ผู้ชายอะไรชื่อมู่ลี่ ตอนได้ยินครั้งแรก นึกว่าแม่งต้องน่ารักมากแน่ๆ ที่ไหนได้...เฮ่อ...กูไม่น่าคาดหวัง”

“ไอ้ปากสันดานนี่...ชื่อมึงผู้ชายมากเลยนะ น้องนุช เห้...”

“แต่ชื่อจริงกูแมนเต็มร้อยว่ะ นายชนุตต์ ต้องให้สะกดชื่อของมึงมะ ว่ามันหวานแหววเข้ากับความเป็นมึงแค่ไหน...นายชุติการ....” ท้ายประโยคนั้นพ่อตาหวานจงใจลากเสียงเรียกชื่อเสียหวานจ๋อย ทำเอาเจ้าของชื่อหน้าแดงก่ำ

“เฮ้ย! นุช...มึงแกล้งไอ้มู่มากไปละ เดี๋ยวมันร้องไห้หรอก เห็นมะๆ ๆ ตาแดงแล้ว” เจว่าแต่กลับปล่อยก้ากออกมาดังกว่าเพื่อน ซึ่งก็ใช่ล่ะ...สงสารเพื่อนอยู่หรอกที่โดนว่าแต่มันขำ แกล้งใครไม่สนุกเท่าผู้ชายชื่อสาวคนนี้จริงๆ

“ไอ้พวกควาย ก็พี่ชายกูมันชื่อชุติกร แม่กูก็ตั้งชื่อตามพี่กู ผิดหรือไงวะ ไอ้เห้นุช ไอ้สันดาน ไอ้ปากแย่งหมาเกิด”

“โอ๋ๆ ไม่เอาน่า...มู่ลี่จ๋า ไม่ร้องๆ”

“ใครร้องวะ ไอ้ปลวก!” มู่ปัดมือเพื่อนตาหวานออกแรงๆ เม้มปากเม้มคอดึงเอาปากกาอีกเล่มที่เหน็บกระเป๋าเสื้อออกมาปาใส่อีกฝ่ายอุตลุด

“ฮา....ไม่ไหวแล้วอะ เพื่อนแกแต่ละคนทำฉันขำจนปวดท้องว่ะ” ประโยคแรกที่ออกจากปาก เรียกร้องความสนใจได้แค่สายตาของเจเท่านั้นเพราะดูเหมือนอีกสองคนยังคงซัดกันนัวอยู่...

“อ่า...เราชื่อเจนะ”

“อือ...เรารู้จักพวกนาย ดังออกใครๆ ก็รู้จัก” คนหน้าใสว่า ก่อนจะขำอีกเมื่อ...

“โอ้ย...เจ็บนะมู่! โรคหมาบ้ากำเริบเหรอวะ ที่เมื่อวานล่ะน่ารักเชียวนะ”

“อ้ากกกก...ไอ้ชะมด”

“ชนุตต์โว้ย!”

“เมื่อวานอะไรวะนุช กูตกข่าวอะ” เจรีบว่า ก่อนจะหัวเราะเมื่อมู่รีบชะโงกตัวข้ามโต๊ะจะปิดปากของพ่อตาหวาน แต่...

“ก็ฉันน่ะ...”

“อ้ากกก ไอ้นุช! หุบปาก!”

“ก็เมื่อวานมู่เล่าให้ฟังว่า...” ชนุตต์ตาโตเบิ่งตาหวานๆ มองใบหน้าเหยเกของเพื่อนหนุ่มก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มหวาน แต่ขอโทษเถอะมันโคตรเจ้าเล่ห์ ให้ตายเถอะ!

“แกเล่าให้เพื่อนฟังด้วย? จริงอะ”

“มึงสองตัวไปทำอะไรกันมา! เล่าให้ฟังด้วย” เจโวยวาย หันมามองผิงที่เริ่มจะหัวเราะแบบนันสต๊อปแล้ว ชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่มู่ราวกับคนใกล้หมดแรง ปากพะงาบๆ

“มันทำอะไรกัน”

“เมื่อวานกู...”

“อ้ากกกก” มู่โวยลั่น รีบพุ่งไปอ้อมโต๊ะเล็กๆ นั่นไปนั่งข้างกายของนุชแล้วปิดปากอีกฝ่าย

“ไม่มีอะไรทั้งนั้น มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“กู ไม่ เชื่อ”  และเจก็หันมาทางผิงที่หัวเราะอยู่ ไอ้นี่ก็เส้นตื้นไปมั้ย “ตกลงมันทำอะไรกัน” ผิงขำจนแทบหมดแรงแต่ก็ยอมเอี่ยวตัวไปหาคนหน้าหล่อที่อยากรู้เรื่องแบบจัดเต็ม

“มู่เล่าว่า...นุชอะ นุช จะ...”

“กูจูบไอ้มู่” คนพูดรั้งมือออกได้ก็รีบพูดก่อนจะโดนปิดจนหน้าหงายไปอีก แถมพร้อมด้วย

“ว้ากกกก พวกแกไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ได้ยินมั้ย! ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น!” เจเลิกคิ้ว ก่อนจะหัวเราะ ทิ้งตัวเองกับพนักเก้าอี้ที่ไปขโมยมานั่ง

“สาบานว่ากูไม่ได้ยินอะไรเลยว่ะมู่ ไม่ได้ยินเห้อะไรเลย”

“ไอ้พวกเห้!” มู่ลี่โวยวาย ตบตีคนที่ดิ้นขลุกๆ อยู่ ก่อนที่จะแหกปากลั่นเพราะโดนนุชกัดฝ่ามือเข้าให้ “หมา! มึงมันหมาบ้าปากเน่า”

“ปากเน่าๆ นี่ไงจูบมึงเมื่อวานอะ กูไม่อายนะเว้ยถ้าจะให้แถลงอะ บอกไว้ก่อน!”

“กูอาย ไอ้บ้า!”

“เฮ้ย! คบกันเหรอวะ”

“ไม่ใช่!” คราวนี้เป็นทั้งสองคนนั่นแหละที่พูดออกมาพร้อมกัน ผิงเองก็ขำจนพูดไม่ออก ส่วนเจก็ไม่รู้จะขำหรืออะไรดี... แต่ที่แน่ๆ ผู้ชายสองคนจูบกันเว้ย!

“บอกกูหน่อยดิ กูอยากรู้”

“มึงจะมาอยากรู้เหี้ยอะไร ไปปั้มป้ำกับยัยหวานตาโน่นไป๊” มู่หันมาต่อว่า สายตาเขียวปั๊ด ส่วนนุชก็ขยับนั่งให้ดีกว่าเดิม ก่อนจะอมยิ้มเหล่มองคนที่นั่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง

“กูเล่านะ”

“ไอ้นี่ก็สันดานไม่เลิก มันไม่ใช่เรื่อง”

“มึงสองคนเป็นเกย์เหรอวะ”

“เปล่า!” มู่ร้องออกมาก่อน ส่วนนุชก็พยักหน้าหงึกหงักไปตามเรื่องตามราวแต่ยังคงยิ้มหวานกวนประสาทคนมองได้เรื่องๆ

“เฮ้ย! กูไม่ได้รังเกียจนะ ไม่ต้องซีเรียสอะไรขนาดนั้น กูเข้าใจด้วย”

“กูไม่ได้เป็นไง ไอ้นี่” มู่ยังคงยืนยันเสียงแข็ง และนุชก็เหมือนเดิมพยักหน้าสนับสนุนแต่กลับยิ้มสื่อนัยล้อเลียนเต็มที่ “มึงนี่อะไร เหี้ย! ผิงบอกมันดิว่ากูไม่ได้เป็น”

“อ่า...” ผิงอืออ่า ก่อนจะยิ้มหันไปสบตากับเจที่หันมามองเช่นเดียวกัน “มู่มันว่างั้นอะนะ เชื่อมันเหอะ”

“มันเล่าให้นายฟังใช่ปะว่าเกิดอะไรขึ้น เล่าให้ฟังบ้างดิ”

“ไอ้เห้เจ!”

“คืองี้นะ”

“เชี่ยผิง”

“กูเล่าด้วยคน กูคือต้นฉบับ”

“หุบปากมึงไปเลยไอ้สันดานชะมด”

“โวยวายกูจับจูบตรงนี้อีกรอบนะมึง พูดมาก ทีเมื่อคืนทำเคลิ้ม!”

“ไอ้....สัส!”
...............................................................
[/size]







คือ...ควรจะลดคำหยาบสินะ....พันมาลเยอะมาก แต่ตอนหน้าไม่ค่อยมีแล้ว จริงๆ นะ :call:

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #4 เมื่อ21-02-2012 14:48:55 »


มาต่อแย้วววว



“อ่าว! เฮ้ย! ผิงไปไหนมา” เจ้าของชื่อมองคนทัก ก่อนจะทำหน้าเนือยๆ ดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูง

“เพิ่งกลับจากSEC นายละ จะไปไหน อยู่หอแถวนี้เหรอ?” เจพยักหน้า

“กำลังจะไปส่งแฟนกลับหอ นายอยู่หอแถวนี้?” ผิงส่ายหน้า ก่อนจะยิ้มทักทายสาวร่างเล็กหน้าตาน่ารักแนวๆ สาวแอ๊บแบ้วทั่วๆ ไป เธอแต่งหน้าค่อนข้างจัดจนไม่รู้ว่าหน้าตาจริงๆ น่ารักแค่ไหน

“ฉันแวะมาเอาชีทที่มาถ่ายไว้เมื่อเช้าน่ะ บ้านฉันอยู่แถวบ้านมู่มันนั่นแหละ” เจพยักหน้า ทำท่านึกขึ้นได้

“พรุ่งนี้วันหยุดพวกฉันคงไปสุมหัวกันที่บ้านไอ้มู่ นายมาด้วยดิ” ผิงพยักหน้าแต่ดูแล้วก็พยักแค่ส่งๆ ไปเท่านั้น
เอาจริงๆ เลยนะ อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เขาแทบไม่ได้นอนเพราะโหมอ่านตำราเรียนอีกสองอาทิตย์จะสอบไฟนอลแล้วแต่เขายังอ่านหนังสือได้ไม่เท่าไหร่ไหนจะ งานกองอีกท่วมหัวสาบานว่านี่เขาเรียนแค่ปีหนึ่ง

“ฉันไปก่อนล่ะ ไปส่งแฟนดีๆ ล่ะ” เจพยักหน้ายกมือขึ้นตบไหล่บางๆ ของผิงแล้วเดินแยกไปพร้อมแฟนสาวที่หน้าตาไม่ได้ยิ้มแย้มแถมดูจะหงุดหงิดด้วยซ้ำ แล้วถามว่า ณ จุดนี้ผิงสนใจเหรอ? ไม่นะ... แค่ลำพังยืนเขายังสามารถหลับได้เลย...
เชื่อเหอะพรุ่งนี้เขาอาจจะไม่ตื่นเลยก็ได้จนกว่าจะมื้อเย็น!

“ไม่เคยเห็นหน้า ใครน่ะ” สาวร่างเล็กสะกิดท่อนแขนที่ยาวโผล่พ้นแขนเสื้อยืดออกมา ร่างสูงไม่ได้หันมามองแฟนสาวเขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา

“เพื่อนน่ะ ชื่อผิง”

“ไม่เห็นรู้จัก” เธอว่า แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้อะไรมากนอกจากตอบไปว่า

“ก็เพื่อนที่คณะ คนละเอก”

“แล้วไปรู้จักได้ยังไง” บางครั้งนะ บางครั้ง เจก็เคยคิดว่า ผู้หญิงน่ารัก ถ้านิสัยจะน่ารักได้สักครึ่งหนึ่งของหน้าตาคงทำให้เขารู้สึกรักได้ไม่ยากก็เป็นได้ แต่ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องยากเสียเหลือเกินโดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ชื่อหวานตา...
คำตอบเพื่อนที่คณะ แต่คนละเอก แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วนะ เธอต้องการอะไรกับเขาอีกล่ะ

“ก็เพื่อนอะ” เจตอบอย่างไม่รู้จะตอบยังไง เขาพาร่างแน่งน้อยมาหยุดยืนที่ริมถนน มองหารถเมล์หรือรถแท็กซี่อะไรก็ได้สักคันเพื่อจะจับแฟนสาวขึ้นไป

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบเธอหรอกนะ ยังไงก็แฟนไม่ชอบก็ไม่คบ แต่บางทีคำว่ารำคาญมันก็ไม่เข้าใครออกใคร

“ก็เจบอกแล้ว ก็เห็นว่าอยู่คนละเอก ก็ถามไง? เจรำคาญหวาน?” นั่นไง...มาละ เดี๋ยวคำว่าผิดมันจะต้องโดนแปะที่หน้าของเขาตามด้วยอาการที่สาวๆ ชอบทำกันนักนั่นก็คือ งอน...

“พูดไปนั่น แค่ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เพื่อนก็คือเพื่อน รถมาแล้ว นั่งแท็กซี่กลับเหอะนะจะได้ไม่ต้องเบียดคนบนรถเมล์” เพราะตอนนี้กูขี้เกียจจะยืน อาจจะเกือบชั่วโมงกว่ารถเมล์จะมา ที่สำคัญ ขี้เกียจจะอยู่รองรับอารมณ์งี่เง่าของแฟนสาว

“อะไรกันล่ะ”

“รถมาละ กลับดีๆ นะ” เจโบกรถ เปิดประตูดันหลังร่างเล็กนั้นให้ขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วปิดประตู ยืนรอจนรถที่เธอนั่งเคลื่อนตัวออกไปถึงหมุนตัวเดินกลับ แต่ก็เดินกลับมาไม่กี่ก้าวร่างบางๆ ของใครคนหนึ่งก็ทำเอาเขาอยากหัวเราะจนตัวงอ

“เฮ้ย! จะเดินไปหลับไปเหรอวะผิง”

“อ่าว...ว่าจะฝันเอาเลขเด็ดด้วยซ้ำ” คำตอบอยากกดไลค์แต่ตอนนี้ทำได้เพียงขำเท่านั้น

“กลับไงวะ”

“รถเมล์” ว่าแล้วก็หาวพร้อมชี้ไปที่รถเมล์คันที่กลังจะแล่นเข้ามาจอด

“เฮ้ย...กูว่ามึงไม่ไหวว่ะ กูไปส่งมั้ย?”

“ไหวๆ ไปนะ” ว่าแล้วก็หาวเดินไปที่ประตูรถเมล์ทั้งที่ตาแทบลืมไม่ขึ้น ร่างสูงมองตามแล้วส่าย จากนั้นก็หมุนตัวเดินขึ้นรถเมล์ไปอีกคน

เจคิดว่าเขาคิดถูกนะที่ขึ้นรถเมล์ตามเพื่อนใหม่คนนี้มาด้วย ถึงจะบอกว่าเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงเดือน แต่มันก็เจอหน้ากันทุกวัน ทักกันทุกครั้ง มีโอกาสก็นั่งน้ำลายแตกฟอง(แม้ส่วนมาจะนั่งหัวเราะกับการทะเลาะของสองหนุ่มชื่อสาวก็ตามเหอะ) เอาเป็นว่าเขากับผิงถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้วกัน... มาส่งเพื่อนที่มีสภาพวิญญาณพร้อมออกจากร่างทุกวินาทีทำให้เขาหล่อขึ้นอีกสองมิล
สภาพยืนอัดกันเป็นปลากระป๋องบนรถเมล์มันคงน่าสังเวชจริงๆ ถ้าผิงต้องขึ้นมายืนโงนเงนแค่คนเดียว ร่างบางเดินแทรกเข้าไปตรงช่วงกลางของตัวรถ เอื้อมสุดแขนจับราวโหน ลวงเอาแบงค์ใบละยี่สิบส่งให้กระเป๋ารถเมล์

“อ่าว”

“เออ” เจเอ่ยสั้นๆ ส่งเงินแบบเดียวกันให้กับกระเป๋า “ป้ายเดียวกับหมอนี่” เขาจำไม่ได้นี่หว่าว่าแถวบ้านมู่ลี่ต้องลงป้ายไหน

“ไปหามู่เหรอ?”

“เปล่า...ไปส่งแก” จบ!

ที่ต้องจบเพราะเจไม่พูดอะไรอีก เขาไม่ใช่พวกพูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อย แต่จะร่ายเป็นชุดถ้าอยู่ครบแก๊งส์ อีกอย่าง เพื่อนก็เพื่อนเหอะ แต่ก็รู้จักไม่นานจะให้คนอย่างเขาไปจุ๊กจิ๊กมากๆ ก็ไม่ใช่เรื่อง

“ขอบใจ ช่วยได้เยอะ” เจไม่เข้าใจหรอกว่าไอ้ช่วยได้เยอะของผิงน่ะคืออะไรจนกระทั้งอีกฝ่ายส่งถุงพลาสติกให้เขา ถุงใส่ชีทแหงแซะ

“อือ” เขาแค่รับของมาถือไว้ก่อนจะยืนต่อไปอย่างไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านั้นรถเมล์เริ่มมีคนขึ้นมาเพิ่มอีก ไอ้ที่อึดอัดอยู่แล้วก็ชักเหมือนปลากระป๋องบุบๆ บี้ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เจขยับถอยก็ไปชนคนข้างหลังที่ดูจะสำนึกได้เช่นเดียวกับเขาว่ามันโคตรอึดอัด ส่วนร่างบางของผิงก็ตามกระแสเบียดมาติดๆ

“โทษที” ผิงเอียงใบหน้ามาพูดกับเขาก่อนจะถอนหายใจพรืดใหญ่ “ถ้ารวยนะจะสร้างมหาลัยไว้ในบ้านจะได้ไม่ต้องตะลอนอย่างนี้”

“แกแค่ย้ายมาอยู่หอคงประหยัดมากกว่า” เจว่ารับรู้ได้ว่าร่างบางที่แผ่นหลังแทบจะเบียดอกเขากำลังกลั้นขำ “จริงนะ...ว่ามะ”

“ก็จริง” แล้วก็เงียบไปอีก ต่างคนต่างยืนทนกับสภาพแย่ๆ มีซาด์วประกอบคือเสียงของกระเป๋ารถเมล์พูดเสียงดังซ้ำๆ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ต่างกับการจราจรช่วงเย็นแบบนี้แม้จะผ่านไปเกือบชั่วโมงแต่รถเมล์คันนั้นยังแค่ผ่านมหา’ลัยมาไม่กี่ป้ายรถเมล์มาถึงตรงนี้เจสำนึกแล้วล่ะว่า...กูโคตรคิดผิดเลยครับที่เสนอหน้ามาส่งเพื่อนใหม่

“วันศุกร์สิ้นเดือนสินะ” เขาเอ่ยเบาๆ แต่ไม่มีเสียงลูกคู่จากเพื่อนตัวบาง เขาจึงก้มไปดู...
มันเป็นความสามารถพิเศษของคนเหนื่อยจัดจริงๆ นะ สามารถหลับได้ทุกสถานที่! แม้แต่ยืนเบียดชาวบ้านอยู่บนรถเมล์

“เห้อ...สามารถว่ะ” เจว่าพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะยืดตัวยืนให้สบายกว่าเดิมและเมื่อรถเบรกแขนของเขาก็รวบเอวบางของผิงไว้เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะหลับแบบไร้ซึ่งสติจริงๆ

ร่างบางเอนหลังชิดอกของเขา แขนเรียวเล็กนั้นเอื้อมสุดแขนจับราวไว้มั่นแม้ว่าตอนนี้ตัวบางๆ นั้นเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน เจถอนหายใจ โชคดีละมั้งที่คนเยอะเบียดกันได้ขนาดนี้ผิงเลยไม่ล้ม

ขอบคุณก็แล้วกัน...แต่คาดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเจคงเหมือนไปทั้งแขนไหล่ และขา


........................................

“ขนมหมดแล้วเหรอ?”

“ลองไปหาที่ชั้นในห้องครัวดิ” เสียงจากหนุ่มตาสวยเอ่ย สายตายังมองนิตยสารที่รวมบรรดาสาวเซ็กซี่มาเป็นนางแบบ เดาไม่ยากใช่มั้ยว่ามันคือนิตยสารของเจ้าไหน

“...” คนถามก่อนหน้าไม่ได้พูดอะไรวางมือจากเกมส์เพสยอดนิยมแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตู

“มู่...เอาน้ำมาเผื่อด้วย”

“...” ไม่มีคำตอบเช่นเดิม จากนั้นก็มีแค่เสียงปิดประตูส่งท้ายเท่านั้น

ร่างผอมบางของมู่ลี่เดินลงมาที่ชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเดินดิ่งๆ ไปที่ห้องครัว เปิดนู่น ดูนี่ คว้าขนมกินเล่นมาได้สองถุง พร้อมกับน้ำอัดลมในตู้เย็นอีกสองกระป๋อง จากนั้นก็เดินกลับไปชั้นสองอีก

พอเขาเดินเข้ามาในห้องนอนก็เห็นไอ้เพื่อนชื่อสาวนอนขวางเตียงนอนสองมือสนุกกับการกดจอยสติ๊ก สายตาจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ แน่นอนว่าพอมันรู้ตัวว่าเขากลับมาแล้ว...

“ขนม น้ำด้วย”

“เฟี่ยยย!”

“หยาบคายว่ะ” ขนมสองถุงถูกโยนลงกับพื้นก่อนร่างบางจะนั่งลงแล้วเอาหลังพิงเตียงเปิดกระป๋องน้ำอัดลมยกดื่ม สายตาจ้องที่หน้าจอเกมส์

“ทำอย่างกับบ้านตัวเอง” มู่ลี่ว่า แย่งจอยในมือของนุชมาเล่นเสียเอง ซึ่งผู้เป็นแขกที่ทำตัวประหนึ่งเจ้าของบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร นอนวางคางจ้องหน้าจอทีวีเฉยๆ

“มึง..”

“อะไร...”

“จูบอีกได้ปะ”

“ควาย!” มู่ลี่กระแทกเสียงด่า ไม่สนใจไอ้คนถามอย่างสิ้นเชิง เขาไม่อยากจะอะไรกับไอ้นี่ให้มากนักแล้ว มันกวนประสาท มันกวนตีน ไอ้เรื่องจูบนั่นอีก

เออ...ยอมรับว่า เขาเป็นคนเริ่ม แต่เขาแค่อยากรู้ว่าจูบกับผู้ชายมันดียังไง ต่างกับผู้หญิงตรงไหน ก็แค่นั้น แล้วจะให้เขาไปขอจูบกับผู้ชายหน้าไหนก็ไม่รู้อย่างนั้นน่ะเหรอ ได้โดนเขากระโดดถีบยอดหน้ากลับมาสิ ไม่ก็โดนเกย์แท้ๆ นั่นแหละจับกด
สยองน่า...

ไอ้ชะมดข้างตัวนี่แหละเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด...

ทำไมไม่ไปขอจูบกับเพื่อนซอหน้าสวยน่ะเหรอ? เขาก็ยังมีตัวเลือกอีก แต่ ณ ตอนนั้นเพื่อนของเขาอีกคนไม่อยู่นี่และเขาก็อย่างรู้แบบทันทีทันใด ไอ้ชะมดเลยรับไป...

ใครจะไปคิดว่าไอ้เวรนี่จะเยอะปานนี้

ขอให้มันจูบ มันก็จูบง่ายๆ แต่ที่ยากคือ มันไม่ยอมหยุดจูบ ทำเอา...เกือบเคลิ้ม ดีกว่าเพื่อนมาเคาะห้องเสียก่อน ไม่งั้นนะ...
มู่ไหวไหล่หนีนิ้วที่มาจิ้มๆ เรียกร้องความสนใจ เขามองอีกฝ่ายด้วยหางตา เหอะ! ไอ้เวร!

พอผ่านไปสักพักมู่ลี่ก็ถอนลมหายใจออกอย่างเบื่อหน่ายพลัสเกมส์ไว้วางจอยในมือลงกับพื้น หันไปสบตาหวานของชนุตต์อย่างเอือมๆ

“มึงนี่”

“นิดเดียวน่า...” เออ...ได้นิดเดียวเอง...

มู่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนตาหวานก่อนจะแตะริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากหนาของเพื่อนแค่เสี้ยววินาทีก็ผละออกมาแล้วหันไปสนใจเกมส์ต่อ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเป็นสนอกสนใจกับเกมส์ ไม่สนอีกคนที่ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะลงจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตูก่อนจะปิดมัน ล็อคลูกบิดเสร็จสรรพแล้วเดินกลับมานั่งมองหน้าของมู่ ซึ่งรายนี้ก็มองตามการกระทำของนุชทุกอย่างเช่นกัน

ใบหน้าหล่อของเพื่อนสนิทยิ้มกริ่ม มองมู่ด้วยสายตาวิบวับ ก่อนจะยักคิ้วแผล่บๆ มันน่าหมั่นไส้แต่มู่ไม่เถียงหรอกนะว่าชนุตต์มันเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่ยิ้มสวยด้วยอีกต่างหาก

สุดท้ายเจ้าของห้องตัวจริงก็ถอนหายใจอีกครั้งกดหยุดเล่นเกมส์ที่แพ้ไปแล้วจากนั้นก็หันมามองเพื่อนอีกครั้ง พยักหน้าประมาณว่าเอาไงก็เอากัน...

“มึงอย่าเอาลิ้นเข้ามาแล้วกัน กูกัดขาดแน่” มีแค่เสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ในความคิดของเขา ตอนนี้แม้จะมีเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่ก็ยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วตามมาวนเวียนอยู่ในสมองให้วุ่นวายไปหมด

“มึงเป็นเกย์หรือไงวะนุช”

“เปล่า...”

“แล้วมึงจูบกูซ้ำๆ ซากๆ ทำไมครั้งเดียวก็พอกูแค่อยากรู้อยากเห็น”

“กูก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าจูบกันต่อเหอะ”


จูบแล้วจูบเล่าที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้เกือบเดือน แม้หลังจากนั้นจะไม่มีอะไรแบบนั้นอีกก็ตาม แต่เขาก็นึกถึงมันบ่อยๆ จนมาวันนี้แหละ...

ริมฝีปากบดเบียดกันอย่างเชื่องช้า ความแนบชิดที่ทำให้หัวใจสั่นแปลกๆ แม้จะพยายามอยู่บ้างแต่การหายใจมันก็ยังติดขัดจนต้องเบือนหน้าหนีเป็นครั้งคราว แต่ก็ยังหันกลับมาเพื่อเริ่มกันใหม่อีกครั้ง

“มึงเปิดปากอีกนิดก็ได้จะได้หายใจทัน” นุชว่างั้นนะ แต่มู่แทบจะส่ายหน้าจนคอเคล็ด

“ไม่เอา แค่นี้แหละ”

“ทำไมละวะ” คนถามเสียงอู้อี้ฟังแทบไม่รู้เรื่อง ก็เพราะไม่อยากถอนริมฝีปากออกมาห่างมากกว่านี้ยังไงล่ะ มันไม่อยากห่าง ไม่รู้จะคำไหนบอก...มันแปลกๆ

แปลกที่ไอ้หัวใจที่เต้นอยู่นี่แหละ

“เดี๋ยวมึงเอาลิ้นใส่เข้ามา”

“มึงรังเกียจ?” คนตาหวานถอยหน้าออกมาถามจ้องหน้าด้วยสายตาไม่ชอบใจนิดๆ ก็บอกไม่ถูกอีกนั่นแหละว่าทำไมต้องไม่พอใจ

“ก็...”

“...”

“มัน...”

“...”

“แบบ...”

“...”

“....” จะรู้เรื่องมั้ย?

จะให้ทำยังไงล่ะ ก็มู่ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน แค่เป็นผู้ชายทั้งคู่แล้วจูบกัน มันก็นะ...เกินจะเอ่ยแล้ว ต้องมาลึกซึ้งแบบ Deep Kiss เลยเนี่ย...เกินจะไหวนะ ถึงแม้ว่ารสสัมผัสแบบนั้นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนมันจะลืมยากก็เถอะ

“มันพูดยากนะมึง”

“...” มู่เม้มปากนิดๆ มองหน้าอีกฝ่ายที่ดูจะไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เพื่อนสนิทของตัวเองจะหันหน้าหนีแล้วพลิกไปนั่งพิงเตียงอย่างกระแทกกระทั้น

“ตามใจมึง” คนตาสวยว่าอย่างนั้น ถึงจะบอกว่าตามใจมึง แต่น้ำเสียงดูหงุดหงิดขนาดนั้นก็ทำเอาคนฟังนิ่งไปเหมือนกัน
เบื่อนะ เบื่อนิสัยเสียๆ ของนุช เวลาไม่ได้ดังใจ มันจะหงุดหงิดใส่เขา แล้วก็พาลไม่พูดไม่จาแล้วก็...แม่ง เขานี่แหละที่ประสาทเสียเอง...

“มึงก็ไม่ได้จะเป็นเกย์จะมาอยากจูบกับกูแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่อง”

“...” ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นตอบกลับมาเป็นความเงียบ

“กูแค่อยากรู้ ถ้าไม่ใช่มึงกูก็ไม่ขอให้ช่วยหรอก”

“...” ถ้ามึงจะขยับตัวหรือถอนหายใจสักนิดก็ไม่ว่านะ...แต่ไม่เลย...

“มันก็แค่จูบกันเล่นๆ”

“...”

“มึงเคืองอะไรกูเนี่ย!” มู่ขึ้นเสียงหันไปมองคนที่นั่งนิ่งๆ อยู่ข้างๆ อีกฝ่ายก็เหลือบแลมองทางหางตาแล้วก็กลับไปมองหน้าจอเกมส์

“ไอ้นุช อย่ามาแรดแถวนี้” ไม่ด่าอย่างเดียว มู่ยกเท้าขึ้นยันขาเพื่อนแม้จะไม่เต็มแรงแต่ก็มากพอที่จะทำให้ร่างนั้นขยับห่างไปเยอะทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นนุชก็แค่มองมู่นิ่งๆ

“จูบ”

“พ่อมึงสิ”

“จูบ”

“ไอ้ชะมด!”

“จะจูบอีก”

“ควาย!” ว่าแล้วมู่ก็ยกเท้าทำท่าจะถีบอีก แต่นุชไม่หนีไปไหน เขารู้น่า รู้จักมู่ลี่มาตั้งแต่ประถม ไอ้บ้านี้ไม่ทำอะไรเขามากไปกว่านี้หรอก

แต่เขาน่ะสามารถนะ...

“มึงไสหัวออกไปเลยถ้าไม่เลิกเล่นงี่เง่าพรรค์นี้...แม่ง!”

“กูเห็นมึงชอบ”

“ตรงไหน! ไม่ทราบ!”

“มึงเคลิ้มอะ”

“เมื่อไหร่!”

“เมื่อกี้”

“อย่ามาเย๊อะ!”

“ยอมรับเหอะ”

“...” เกิดอาการหมดคำพูด

“มึงชอบที่กูจูบ”

“...” อ้าปากค้าง o22

“มึงอะเล่นตัว”

“...” พะงาบๆ  :jul3:

“มึงนั่นแหละเกย์ กูรู้”

.... ณ จุดนี้...

“กูเกลียดมึง ไอ้ชะมด!”
  :m31: :m31:

 :m15:



 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:



ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #5 เมื่อ21-02-2012 19:22:17 »

สงสารมูลี่จัง :m15:รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #6 เมื่อ21-02-2012 19:41:22 »

มี 2 คู่ แน่เลย

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #7 เมื่อ21-02-2012 23:20:23 »


แบบว่า ตัวละครเยอะจนแอบงงอ่ะค่ะ....

เนื่องจากตอนแรกน่ะเรายังไม่รู้ลักษณะของตัวละคนชัดเจน คนเขียนบอกลักษณะแทนชื่อ ทำให้เราสับสนมากว่าใครเป็นใคร

ต้องตั้งใจอ่านมากๆๆ สรุปตามความเข้าใจของเราตอนนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า คือ เจ บอกว่าจะขอเลิกเป็นเพื่อนกับผิง (เดาว่าน่าจะสารภาพรัก) แล้วเริ่มย้อนอดีตไปว่าเป็นเพื่อนกับผิงได้ยังไงใช่ไหม? (แอบกลัวผิง...เข้าใจผิดเป็นอื่นจังเลย ฮาๆ)

ถ้าเป็นอย่างที่เราคิด คู่เอกน่าจะเป็นเจ กับผิง แล้วคู่รองเป็น นุชกับมู่ลี่

แต่ตอนนี้เราชอบคู่นุชกับกับมู่อ่ะ เพราะมันเถียงกันสนุกดี แถมจูบกันไปแล้วด้วย นุชคงชอบมู่แล้วล่ะ แล้วออกแนวซึนด้วยเพราะแกล้งมู่แล้วสนุก แถมยังอยากจูบอีกบ่อยๆอีกต่างหาก

สู้ๆนะคะ


Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #8 เมื่อ21-02-2012 23:24:41 »

แบบว่า ตัวละครเยอะจนแอบงงอ่ะค่ะ....

เนื่องจากตอนแรกน่ะเรายังไม่รู้ลักษณะของตัวละคนชัดเจน คนเขียนบอกลักษณะแทนชื่อ ทำให้เราสับสนมากว่าใครเป็นใคร

ต้องตั้งใจอ่านมากๆๆ สรุปตามความเข้าใจของเราตอนนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า คือ เจ บอกว่าจะขอเลิกเป็นเพื่อนกับผิง (เดาว่าน่าจะสารภาพรัก) แล้วเริ่มย้อนอดีตไปว่าเป็นเพื่อนกับผิงได้ยังไงใช่ไหม? (แอบกลัวผิง...เข้าใจผิดเป็นอื่นจังเลย ฮาๆ)

ถ้าเป็นอย่างที่เราคิด คู่เอกน่าจะเป็นเจ กับผิง แล้วคู่รองเป็น นุชกับมู่ลี่

แต่ตอนนี้เราชอบคู่นุชกับกับมู่อ่ะ เพราะมันเถียงกันสนุกดี แถมจูบกันไปแล้วด้วย นุชคงชอบมู่แล้วล่ะ แล้วออกแนวซึนด้วยเพราะแกล้งมู่แล้วสนุก แถมยังอยากจูบอีกบ่อยๆอีกต่างหาก

สู้ๆนะคะ



ถูกต้องค้าาาาา

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
«ตอบ #9 เมื่อ21-02-2012 23:45:30 »

ถ้าคนเขียนมาอัพตอนต่อไป รบกวนเปลี่ยนชื่อหัวข้อที่รีแรกของกระทู้ด้วยนะคะ (บอกวันที่ที่อัพอ่ะค่ะ)


เอาเป็ดไปหนึ่งตัว

(เมมนี้บวกคะแนนชื่นชมไม่ได้ เดี๋ยวไปเอาเมมอื่นมาตีไข่ให้นะ อิอิ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-02-2012 23:45:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Love mania~ รักจัดหนัก [22/02/2555] อัพตอน4
«ตอบ #10 เมื่อ22-02-2012 03:09:58 »



ตอนที่ 4

“มึงนั่นแหละเกย์ กูรู้”

เกลียดคนพูดประโยคนี้จนไม่สามารถบรรยายออกมาได้เป็นคำพูด แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมาถึงอีกวันหนึ่งแล้วก็ตาม และแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีโอกาสกะซวกไส้ไอ้คนพูดอย่างสบายมือไม่เปลืองแรงก็ตาม แต่เขาก็ทำได้แต่ยืนจ้องหน้าไอ้ตาหวานนิสัยแย่นิ่งๆ ก่อนจะเบ้ปากแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

ขอบคุณท่านแม่ผู้แสนดีที่ยอมต่อเติมห้องน้ำส่วนตัวให้เขา ไม่ใช่อะไรเขาอาบน้ำนานจนบางทีทั้งแม่ พี่ชายพี่สาว น้องสาวของเขาบ่นอุบ

มู่ส่องกระจกมองหน้าตัวเองพองลมในปากจนแก้มยุ้ยๆ ของเขาพองกลม เขาเป็นคนมีแก้มนะ แต่เวลาผอมมากๆ แก้มมันก็ตอบจนมองแทบไม่เห็น ซึ่งเขาชอบแบบนั้นดังนั้นเขาจะพยายามไม่อ้วน แต่ประเด็นคือเขาไม่ชอบออกกำลังกายเอาเสียเลย กลายเป็นว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ชายตัวสูงผอมบาง แต่ถึงอย่างนั้นทำไมพักนี้แก้มของเขามันเหมือนจะไม่ลดตามน้ำหนักล่ะ ตรงกันข้าม มันกลับเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น...

ผิวของเขาขาว ควรค่าแก่การนั่งเรียนเอกคอมฯ แล้วล่ะ วันๆ ก็ซุกตัวอยู่แต่ในห้องเรียนคอม ออกแดดก็ตอนไปเรียนวิชาสามัญ แต่ถึงยังนั้นเขาก็ว่าเขายังหน้าตาไม่น่ารักพอ ปากนิดจมูกหน่อยก็จริง แต่แบบอยากให้ตาหวานๆ ยิ้มสวยๆ วิ้งๆ แบบไอ้คนที่ยังนอนไม่ตื่นนั่นแหละ...

แต่เอาเถอะแค่ไหนก็แค่นั้น มีแค่นี้ก็มีสาวๆ อยากควงล่ะน่า...

มู่ลี่เริ่มปฏิบัติการชำระกาย โดยเริ่มจากการแปลงฟันเป็นอย่างแรก เขาใช้เวลาราวๆ ห้านาที ก่อนจะต่อด้วยการล้างหน้า โทนเนอร์ โฟม อีกสารพัดที่เขาสามารถสรรหามาได้ ก็หน้าคนนะครับ จะลวกๆ ได้ไง หน้าพังขึ้นมาชีวิตวัยรุ่นก็พินาศล่ะ

กว่าจะจบเรื่องหน้าได้ก็ปาไปอีกเกือบยี่สิบนาที จากนั้นเขาก็เดินลอยชายไปที่ฝักบัว เปิดน้ำ สบายเฮ...ไม่ลืมพยายามไม่ให้สายน้ำโดนหน้าจังๆ ดูรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิงมาเขาบอกว่าน้ำฝักบัวโดนหน้าจังๆ แล้วหน้าเป็นริ้วรอย..
ถึงหน้าตาจะหวานสู้ไอ้คนนอนขี้เซาไม่ได้ก็ขอให้เด้งไว้ก่อนล่ะ

แน่นอนว่ามู่ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำ เกือบสี่สิบนาที ก่อนจะเดินออกมาในสภาพที่ไม่ได้จะเรียบร้อยเท่าไหร่ แต่จะแคร์ทำไมก็เขาอยู่กับเพื่อนผู้ชาย การที่เขามีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกันกายมันก็เรื่องปรกติ แค่ไม่มีไอ้ที่เขาเรียกว่าซิกแพ็คอวดสายตาชาวบ้านเท่านั้นแหละ

แต่ผิวของเขาเนียนนะ...

มู่สวมกางเกงได้แค่ขาข้างเดียวคนที่เอาแต่นอนก็ขยับตัว แล้วนอนคว่ำหน้านิ่งๆ เขาก็ไม่ได้คิดจะเรียกหรอก ไม่คิดจะชวนไอ้บ้านั่นคุยด้วย ข้อกล่าวหาของมันทำร้ายจิตใจแมนๆ ของเขาว่ะ

“มึง”

“อะไร” มู่ตอบไปด้วยเสียงห้วนๆ ไม่ได้หันไปดูคนพูด เขาสารวนอยู่กับการเลือกเสื้อสวมสักตัวในวันนี้... เสื้อผ้าเขาเยอะเกินไปเขารู้ ก็เขามันชอบแต่งตัว แล้วไงล่ะ? ไม่แปลกนี่ เขามันแฟชั่นนิสต้า

“มึงขาวอะ”

“เออ” อันนี้มันแน่อยู่แล้วครีมประปุกเป็นพันมันก็ต้องได้ผลแจ่มอย่างนี้แหละ

“มึงเนียนด้วยอะ”

“อาฮะ” นี่ขนาดมันมองนะ ไม่อยากจะอวดลองมาลูบดู มึงจะรู้ว่ากูเนียน...ไป...ทั้ง...

“มึงเนียนทั้งตัวแน่ๆ” ถูกต้องงงง แต่ชักรู้สึกแปลกๆ นะ

“เรื่องของกู” มู่ตอบไปอย่างระแวงๆ รีบหาเสื้อตัวที่ต้องการ เขาจำได้ว่าแขวนยัดกันไว้ในนี้นี่ ทำไมหาไม่เจอสักที

“สะโพกมึงอะ”

“ทำไม” ไม่ได้อะไรนะ มันแค่พูด แต่ทำไมเสียววาบไปทั้งไขสันหลัง?

“สวย”

“ก็เรื่องของกู” มู่เจอเสื้อจนได้เขารีบสวมทันที แล้วหันมามองหน้าเพื่อน

“กูชอบ”

“ตื่นมาก็เอาหมาออกจากปากเลยนะมึงไอ้ชะมด ไม่ต้องมาชอบก้นกู”

“เรื่องของกูดิ” ดูมันย้อน...

จากนั้นคนที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นนั่งแล้วลงจากเตียง เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวของตัวเอง ไม่แปลกนะถ้าชะมด เอ้ย! ชนุตต์จะมีของใช้ส่วนตัวอยู่ที่บ้านของมู่ ก็รายนี้มาค้างบ้านของคนตัวผอมบ่อยเสียยิ่งกว่าอยู่หอพักของตัวเองอีกมั้ง สารพัดสิ่งอย่างมันก็เลยกองๆ สุมอยู่ที่นี่

“มึง”

“อะไรอีกวะไอ้ชะมด มึงรีบไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไอ้เจกับไอ้ซอก็โผล่หัวมาแล้ว”

“มึงขี้บ่นอะ”

“ก็มึงทำตัว...แม่ง ปัญญา...”

“โห...มึง”

“อะไร”

“...” มันไม่ตอบ แต่มองเขาด้วยสายตาวิบวับยิ้มกรุ่มกริ่ม สาบานว่ามันเพิ่งตื่นนอน แต่ทำไมแม่งวิ้งกระจายสามบ้านแปดบ้านงี้วะ

“มึงมองกูอย่างนี้มึงคิดอะไร”

“??”  ชนุตต์เลิกคิ้ว ไม่ได้พูดอะไรออกมา ถอยเข้าห้องน้ำไป แต่เสียงพูดเบาๆ มันลอยมากระทบหูของมู่อย่างจัง “ไม่ให้จูบดีนัก จะจับก้นให้ช้ำเลย”

“ไอ้ชะมด!”

ตึง!

ไม่ใช่เสียงปิดประตูหรอก เสียงมู่ยกเท้าถีบประตูห้องน้ำ แต่ซาว์ดที่ได้รับกลับมาก็คือ เสียงหัวเราะดังๆ ของชะมดหน้าหล่อตาหวานยิ้มสวย...

เกลียดไอ้เพื่อนเวรนี่จริงๆ










.............................................................................

“กูว่านะ...ไอ้นุชมันหล่อ”

“แต่กูว่ามันสวย” เจเถียงเพื่อนทันที เมื่อสายตาจ้องมองภาพให้กล้องดิจิตอลของเพื่อน

“มึงอย่าเถียงดิ ดูรูปนี้...มันหล่อ” เพื่อนคนเดิมเถียง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเจถอนหายใจแล้วส่ายหน้า

“ก็โอเค แต่มึงดูรูปนี้ หวานขนาดนี้ ฉ่ำขนาดนี้ เชื่อมขนาดนี้” หนุ่มหล่อแทบจะเอากล้องกระแทกหน้าสวยๆ ของคนพูด

“สวยเหมือนมึง”

“เชี่ย! อย่ามาใช้คำนี้กับกูนะ กูเท่ห์มากต่างหาก”

“เกรียนด้วย” เจต่อให้ แล้วหัวเราะ

“พวกมึงมานานยัง” เสียงของมู่ดังมาก่อนตัวจะถึงเสียอีก พอมองเห็นเพื่อนในห้องรับแขกพร้อมของว่างพร่องไปกว่าครึ่งก็ส่ายหน้า “แม่งพอกัน ไอ้เห้นุชก็มาพลาญสมบัติกู ทั้งกินทั้งอยู่”

“จดทะเบียนกับมันเลยสิมึง เลี้ยงซะ ผัวหรือเมียมึงก็เลือกให้มันสักอย่าง”

“กูก็ว่างั้น ไอ้ซอพูดถูก”

“นานชาติกว่ามึงจะโผล่มาบ้านกู ปากมึงเนี่ยหมาขุดหลุมตายในนั้นกี่คอกแล้วไอ้ซอ พูดห่าอะไรให้มันสวยเหมือนหน้ามึงบ้างเหอะ กูเพลีย!” มู่ด่ากลับกระแทกตัวลงนั่งโซฟาหวายตรงข้ามกับเพื่อนทั้งสองคน ทำหน้ายุ่ง

“โธ่เอ้ย น้องมู่ทู่ หน้าก็ไม่สวยอย่าปากเสียดิ ยับเยินทั้งกายใจนะแบบนี้” หนุ่มหน้าสวยราวกับผู้หญิงแซว ก่อนจะหัวเราะก้าก

“สงสัยไอ้ชะมดน้อยทำค้างปะวะ หน้าเป็นตูด”

ดูปาก...

“พวกมึงมากวนตีนกูทำไมเนี่ยแล้วมาทำไม”

“มาเฉยๆ ให้หนักแผ่นดินบ้านมึง” ซอว่า...

มู่ส่ายหน้าระอา... ซอเป็นเพื่อนอีกคนที่เขาสนิท โอเคก็สนิทกันทั่วถึงล่ะ แต่เรื่องปากของเจ้าหมอนี่เขาล่ะอยากหนีห่าง หน้าตาของซอสวยเหมือนผู้หญิงมากแค่ไหน ปากก็ร้ายเท่านั้น ไม่สิมากกว่านั้นเสียอีก

“มึงแต่งงานอย่ามีลูกนะไอ้ซอ เกิดมาคงหนักโลก แค่มึงคนเดียวก็หนักแผ่นดิน”

“แรงอะน้องมู่ทู่”

“แรงสู้ความสวยของมึงได้ปะวะ”

“มึงด่ากูสวยอย่างนี้เอามีดมาเสียบพุงไอ้เจเลยปะ”

“เห้!” เจโวย...ทั้งที่เขานั่งมองรูปในกล้องเงียบๆ แล้วนะ แต่ยังไม่วายโดนลากเข้าไปมีเอี่ยวสงครามน้ำลายด้วย วันนี้เขาไม่มีอารมณ์จะเถียงใคร

“พวกมึงนี่ ไม่มีอะไรแล้วมาทำไมวะ”

“เบื่อนี่หว่า ใกล้สอบแล้วด้วย เลยว่าจะมาเล่นเกมส์บ้านมึง” เป็นคำตอบที่หลอนประสาทมาก

เป็นแบบนี้แหละ นี่แหละ หัวโจ๊กของแก๊งส์เลยล่ะ ซอ... ผู้ชายคนนี้หน้าสวย ตาสวยแม้จะไม่หวานเท่าชนุตต์ แต่ก็สวยแวววาว จมูกก็สวย คิ้วสวย ปากสวย หน้าสวย มันสวยทุกอย่าง ยกเว้นนิสัยและสันดาน เพราะมันทั้งกากและเกรียนแปรผกผันกับความสวยที่มีและสำหรับซอแล้ว คำหยาบที่สุดในชีวิตคือคำว่าสวย...

ขุดคำต่ำมาด่า พ่อคุณยังหูทวนลมไม่ตีหน้ามึนใส่ก็หัวเราะเฮฮา...มันไม่สะเทือนผิวหน้า

แต่ด่าสวยเมื่อไหร่ ดินพล่านยิ่งกว่าโดนน้ำร้อน

ปมด้อยว่างั้นเหอะ


“ไอ้เจมายังวะ? มึงก่อเรื่องห่าอะไรไว้เนี่ย แม่มึงโทรจิกกูหูจะหนวกแล้ว” นุชโผล่มาพร้อมเสียงโมโหเต็มที่ ก่อนจะเดินลิ่วๆ ลงมาแล้วโยนกาแลคซี่เอชทูลงบนตักของต้นเหตุไม่กลัวว่ามันจะพังสักนิด

“แม่กู? แม่กูตายตั้งแต่กูห้าขวบ ละเมอเหรอมึง”

“ซ้น! เมียมึง! ไอ้เวร มึงรับเลยนะ มึงรับเลย อย่ามาสันดานโยนซากให้กู” นุชชี้นิ้วไปที่มือถือเครื่องสวย มันกำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง นี่ดีนะที่พ่อคุณไม่ได้ตั้งเสียงไว้ ไม่งั้นพี่ตูนได้โผล่มาครวญเพลงครามให้ได้ยินลั่นบ้าน

“อะไรวะแม่ตาส่อนนั่นโทรจิกไอ้เจทางมึงเหรอวะนุช”

“กูขอรีทวิตประโยคนี้ของมึงไอ้ซอ” ว่าแล้วนุชก็สวมเสื้อยืดที่ถือลงมาด้วยหลังจากที่อวดหุ่นล่ำ ซิกแพ็คสวยจนคนผิวเนียนบางคนแอบกลืนน้ำลาย

อิจฉาหรอกนะ ไม่ได้จะอะไร! เพื่อนกันเห็นมาเยอะ

แค่...หลังๆ ไม่ชินนิดหน่อย

“กูไม่รับได้ปะ”

“งั้นให้เวลาพวกกูปิดเครื่องสามวิ” ว่าแล้วพ่อหนุ่มหน้าสวยก็ควักไอโฟนของตัวเองออกมาไม่เสียเวลาพูดมากปิดเครื่องทันที ส่วนมู่กลับนั่งเบ้ปากเฉยๆ จนมือถือของนุชตัดไป แล้วก็สั่นแล้วสั่นอีกสามสี่รอบ มันก็แน่นนิ่งไปจากนั้น...

เสียงเรียกเข้าทำนองของเพลงสากลดังขึ้น เดาได้ไม่ยากเลยว่าของใคร แน่ล่ะในเมื่อเจไม่พกมือถือมา ซอปิดเครื่องไปแล้วของนุชเองก็ตั้งสั่น...

“ถ้ามึงรับ มึงจงจำไว้ว่ากูไม่สานต่อ” เจบอกเจตนารมณ์ ถามว่ามู่มันสนใจมั้ยละ ณ จุดนี้ สมควรยิ่งที่จะรับสาย มู่กดรับสายไม่รอให้อีกฝ่ายทักอะไรมาเขาชิงพูดก่อนเลยว่า

“หมายเลขที่ชะนีเรียกไม่สามารถติดผัวตัวเองได้ กรุณาอย่าโทรมาเบอร์นี้อีก จบข่าวแม่ตาส่อน” แล้วเรื่องอะไรที่มู่จะนั่งฟังมันกรี๊ดใส่หู เขาตัดสาย ขอยืดอกพูดอย่างมั่นๆ เลยว่า

“ถ้าแม่นี่มันโทรมาเบอร์กูอีก กูด่าเจ็ดโคตรของมันครบแน่”  เจถอนหายใจหน่ายๆ หวานตาก็นะ ก็รู้อยู่ว่าไม่กินเส้นกับมู่ เจ้านี่ก็ใช่จะชอบขี้หน้าเห็นกันก็ไม่ได้ ยังจะโทรมาอีก

“มู่ลี่” มู่หันไปมองหน้าคนเรียกที่ยืนยิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นมือออกมาจับแก้มยุ้ยๆ ของเขาแต่ปลายนิ้วโป้งกลับไล้ที่มุมปากของเขาแทน “ปากอะ...น่ารักน้า”

“จับทำหอกอะไร” ว่าแล้วก็ปัดมือออกแรงๆ แต่คนตาหวานก็ใช่จะเดือนร้อน ที่ต้องร้อนจนหน้าแดงคือคนที่โชว์ฝีปากด่าแฟนเพื่อนไปต่างหาก

“มึงทะเลาะอะไรกับแฟนวะเจ ถึงได้ชิ่งมาอย่างนี้”

“เรื่องไร้สาระว่ะซอ เดิมๆ”

“กูเห็นเดิมๆ ทุกที” เป็นนุชที่แทรกมา เจ้าตัวไม่ได้นั่งที่โซฟาหวายแต่หนีไปนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะทานข้าวแทน ไม่ใช่อะไรจะสูบบุหรี่

“กูไม่มีความเห็น เพราะกูไม่ชอบหน้าแฟนมึงคนนี้ แรดแต่ทำแอ๊บ สตอแต่กระแดะทำเบอร์รี่”

“ถ้ามึงจะด่าเมียไอ้เจขนาดนี้มึงกระโดดถีบหน้ามันเลยเหอะ” ซอว่า ไม่ได้เข้าข้องเพื่อน หรือเมียใคร แต่บางทีปากมู่ลี่เวลาจิกใครทีมันก็น่าสยดสยองจริงจัง

“ช่างเหอะ กูชินละ” เจว่า ขยับกายเอนนอนลงกับโซฟา เอาเท้าก่ายบนขาเพื่อนหน้าสวย

“คราวหน้าก่ายที่หัวกูเลย” พูดจบปุ๊บเพื่อนก็ทำท่าจะทำตามปั๊บ “เจริญ! เล่ามาดิเรื่องไหน กูอยากเผือก(เสือก)”

“เผือกด้วยเล่าเผื่อกูมั่ง” คนที่นั่งไกลสุดเอ่ยพร้อมมวนบุหรี่ในมือ

“ก็ไม่มีอะไร แค่เมื่อวานหวานเขาเจอผิงพร้อมกูไง แล้วก็ถามซอกแซก กูรำคาญเลยจับยัดใส่แท็กซี่กลับบ้าน”

“นับว่าแท็กซี่ตายังตาสูงกว่ามึงอีกที่ไม่หลงเอาแม่นี้ไปทำเมีย”

“มึงเลิกจิกกูเรื่องหวานสักวันก่อนเหอะ มู่เกลียดอะไรกันเยอะแยะวะ”

“กูสามารถอธิบายให้มึงฟังทั้งวันโดยที่เหตุผลไม่ซ้ำข้อ เริ่มเลยมะ”

“พอๆ นอกโลกละ” ซอขัดคอ “แล้วไงต่อไอ้เจ”

“มันก็ไม่มีอะไรมาก พอดีกูเจอผิงมันกำลังจะกลับบ้านแล้วสภาพมันนะมึงถือชีทพะรุงพะรังแถมยังเหมือนจะหลับได้ทุกวินาที กูเลยขึ้นรถมาส่งมันที่บ้าน”

“สุภาพบุรุษค้าบบบบบ” นุชแซวขึ้นมา แล้วก็ยักคิ้วใส่มู่ที่หันมามองเลยได้หน้าเบ้ๆเป็นของแถม

“หวานแม่งก็โทรจิก พอกูกลับถึงหอเลยทะเลาะกัน แค่เรื่องกูมาส่งเพื่อนนั่นแหละ แค่นั้นเลย”

“กูว่าพี่โน้ตควรบัญญัตินิยามตัวแม่ให้ล่ะว่ะ แค่ ART คงไม่พอ”

“ผสมเชลท็อกสิมึง” นุชแทรกมาต่อมุกให้อีก

“ระดับแม่ชะนีนั่นยาฆ่าแมลงสูตรเข้มข้นสิบแกลอนยังไม่สะเทือน” จบลงที่ปากของมู่นี่แหละ แฮปปี้เอนทันที เจทำหน้าเซ็งจัด

“ไม่ใช่ว่าหวานไม่ดีนะ ส่วนดีของเขาก็มี แต่หลังๆ มากูชักหาไม่เจอว่ะ นับวันยิ่งทำตัวให้กูเบื่อ” ว่าแล้วก็ถอนหายใจ

“เมียใหม่ไฉไลกว่า” ซอแนะนำทันที ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมอีกสองเสียงทันที

“มึงก็เลวไป”

“เฮ่ย...มึงก็อย่าเยอะสิวะ ในเมื่อมันเกินทนไหวก็ไม่เห็นต้องทน ไม่ใช่ยุนะเว้ย แต่หน้าตาอย่างมึงอะหาดีกว่าหวานตาเยอะแยะไป ที่ผ่านมาเกือบปีก็ถือว่ามึงทบต้นทบดอกคืนกำไลให้แม่นางเปรมไปเยอะแล้วว้อย”

“เหมือนจะดีนะคำแนะนำ แต่แม่งเลวว่ะ”

“หรือมึงว่าไง” ซอหันมาย้อนมู่ที่แทรกเข้ามาแขวะ

“กูเห็นด้วย”

“ก็แค่นั้น”

เจไม่ได้ตอบโต้อะไร เอาตรงๆ เขายอมรับว่าอยากทำอย่างที่ซอแนะนำใจจะขาด แต่ก็อย่างว่า...มันติดๆ ขัดๆ บอกไม่ถูก
เขาไม่ใช่คนขี้เหร่ หล่อมากเลยก็ว่าได้ ตาคมรูปหน้าหล่อเหลา ติดที่ว่าขาวไปนิดเลยไม่เข้มพอ แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนอีกสามตัว เอ้ย! สามคน...เขาคล้ำสุด!

สรุป เขาหล่อ เข้ม(คิดไปทางนั้นเลย) สูง เท่ห์ บาดใจ...แล้วกัน

“ค่อยคิดไปแล้วกันพ่อหล่อเจ แต่ตอนนี้ฉันว่านะ เราออกไปหาอะไรกินกันเหอะ บ่ายล่ะ ที่สำคัญ ไม่แน่ว่าแม่หวานตาของไอ้เจอาจจะตามมาที่นี่ก็ได้” ทุกคนนิ่งทันทีแล้วเป็นซอที่ลุกขึ้นคนแรก ไม่สนใจว่าขาเพื่อนจะหล่นจะหักหรือเปล่า เขาเดินลิ่วไปที่ประตูบ้านทันที ตามด้วยเจที่ตามไปเร็วไม่ต่างกันและมู่ที่ลุกไปบนชั้นสองแล้วกลับลงมาพร้อมกระเป๋าเงินของตัวเองแล้วก็ของนุช

“ไปไหนดี?” เจถามขึ้นพร้อมกับเอาเสื้อคลุมสีเทาของตัวเองมาสวมกันแดดกันร้อน

“บ้านไอ้ผิง หาอะไรกิน” มู่พูด “แม่! แม่ครับ มู่ไปบ้านผิงนะ” มู่ร้องเสียงดัง ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนกลับมาว่า

“ถ้ากลับไม่ค่ำมากซื้อผัดกระเพราะหมูแดงมาให้แม่กล่องหนึ่งนะมู่ วานวินมอ’ไซค์มาส่งให้ก็ได้”

“ครับๆ” มู่รับคำ ก่อนจะมองบางสิ่งอย่างงงๆ “อีกละมึง”

ชนุตต์ยักไหล่ เดินเลยไปทันทีที่มู่รับเงินในมือของเขาพร้อมกับบัตรประชานและเอทีเอ็มไป “ทำบ่นน่า”



ทุกทีสิวะกระเป๋าตังค์ของตัวเองวางทิ้งไว้ที่บ้าน เอาเงินมาเก็บที่เขาทุกที ถ้าเขาทำกระเป๋าเงินหายนะ จะฮาให้
.......................................................


ชักไม่แน่ใจว่าคู่ไหนป็นคู่เอก ฮาๆ

ฝากด้วยน้า เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกบางที่ขาดๆ เกินๆ แนะนำเค้าด้วยนะ

ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ชอบคู่มู่กะนังชะมดอ่ะ 5555

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เริ่มไม่มั่นใจเหมือนกัน เพราะ ผิงไม่ค่อยได้ออก
แลว่ามู่จะเด่นกว่า 55
ซอก็หน้าสวย.... แต่ไม่รู้ว่าจะมีคู่หรือเปล่า
ตอนนี้ เริ่มไม่มั่นใจว่า คู่มู่นุชใครเป็ฯฝ่ายไหนละ เพราะเจกับซอเถียงกันอยู่ว่า นุชมันหล่อหรือสวย

คือทีแรกเราคิดว่า นุชต้องเมะแน่ๆ แต่ตอนนี้ นุชมันตาหวาน แล้วก็สวย แต่มู่น่ารักแก้มยุ้ย...
เหมือนอ่าน เคะชนเคะเล็กๆ ฮาๆ แต่แบบนี้ก็ดีนะ น่ารักดี

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:L2: 5 คนที่หน้าสวยทั้งกลุ่มเป็นเพื่อนกัน สองคน(นุชกะมู่)ในกลุ่มกำลังทดสอบจูบกัน อีกคน(เจ)กำลังจะเลิกกับหญิง(ตาหวาน) เพื่อมาชอบชาย(ผิง)  ยังเหลือซอกับ??(จำไม่ได้)
 :laugh:ชอบ>>>“กูว่าพี่โน้ตควรบัญญัตินิยามตัวแม่ให้ล่ะว่ะ แค่ ART คงไม่พอ”

“ผสมเชลท็อกสิมึง” นุชแทรกมาต่อมุกให้อีก

“ระดับแม่ชะนีนั่นยาฆ่าแมลงสูตรเข้มข้นสิบแกลอนยังไม่สะเทือน” จบลงที่ปากของมู่นี่แหละ
:m20: :m20:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2012 15:03:59 โดย moredee »

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รออยู่จ้า สู้ๆๆๆ
ชอบทุกคู่เลย
อยากอ่านอีกๆเยอะๆๆๆๆ และก็ อีกเยอะๆๆๆ เลยจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2012 02:12:26 โดย qq_oo »

Nima4

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่ 5



“อ่าว...มู่ไม่เจอนานเลย” เสียงทักจากคนที่กำลังควงตะหลิววาดลวดลายโฉงฉางกับกระทะหน้าเตาทำเอาเจ้าของชื่อยิ้มขำ

“ผมเพิ่งมาเมื่อวานซืนเองครับป้าติ๋ว กระเพราหมูแดงพิเศษกล่องหนึ่งนะครับ”

“ให้แม่เรอะ”

“ครับ”

“แล้วเราล่ะทานอะไร”

“เดี๋ยวดูก่อนครับ ผิงล่ะไม่เห็นลงมาช่วย” ถามแล้วก็เนียนมายืนใกล้ๆ แอบจิ๊กหมูกรอบใส่ปากหนึ่งชิ้น “พาเพื่อนๆ มาด้วย”

“อ่าว...เรอะ มันยังไม่ตื่นมั้ง เห็นวันนี้บอกขอวันหนึ่งไม่ค่อยได้นอน ไปหาที่นั่งกันก่อนนะ ป้าทำสองจานนี้ก่อน”

“เอ่อ...หวัดดีครับป้า” พวกเจเพิ่งมีโอกาสจะไหว้กันตอนนี้แหละ เพราะป้าติ๋วแกแทบไม่เงยหน้ามามองหน้าลูกค้าเลย แถมการรับไหว้ยังเป็นการยกตะหลิวขึ้นหนึ่งทีเสียอีก

แนว...

“หาที่นั่งแล้วจดมาส่งนะว่าจะกินอะไรกัน พ่อ!พ่อ! ว่างอยู่หรือเปล่า เรียกไอ้ผิงมันหน่อยเพื่อนมันยกขบวนมากินข้าว”


“ได้ๆ” คุณลุงที่โดนเรียกพอพยักหน้าพร้อมกับเช็ดโต๊ะว่างๆ สองโต๊ะ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางด้านหลัง ทั้งสี่มานั่งจับจองที่ก่อนจะมองไปรอบๆ

“เมื่อวานกูมาส่งมันถึงที่นี่ก็สามทุ่มแล้วไม่รู้ว่าบ้านมันขายอาหารตามสั่ง” เจว่า ก่อนจะรับแก้วใส่น้ำแข็งที่นุชส่งมาให้

“บ้านป้าติ๋วทำกับข้าวอร่อยกูแดกที่นี่ตั้งแต่เด็กยันโตวันนี้มีโชคนะไม่งั้นยืนรอแหง็กกว่าจะได้โต๊ะนั่ง ร้านแกไม่เคยขายเลยทุ่มครึ่งหรอก หมดทุกอย่าง”

“ยุ่งน่าดู” ซอว่า ก่อนจะคว้าเอาเหยือกน้ำมาเทใส่แก้วของตัวเองแล้วส่งให้เจจัดการเอง “สันดานแม่ง...เทให้แต่ไอ้มู่” ซอบ่นปิดท้ายให้พ่อหนุ่มตาหวานที่ก็แค่เลิกคิ้วเข้าใส่ทำไม่รู้ไม่ชี้ “ผัวหรือเมียมึงล่ะไอ้มู่ทู่เนี่ย”

“ปากอย่างนี้อิ่มตีนกูก่อนแดกข้าวดีมั้ย”

“ร้อยไม่เอาสักบาทไอ้มู่น็อกหมัดแรก”

“ไม่ต้องพนันหรอก แพ้ตั้งแต่เถียงกับไอ้ซอละ” นุชต่อบทให้เจ ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ ยื่นทิชชูสีชมพูให้คนแก้มยุ้ย “เช็ดน้ำลาย เอ้ย! น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้ซะมู่ลี่แก้มป่อง อย่าไปเถียงเอเลี่ยนต่างดาวเลย มันฟังมึงไม่รู้เรื่องหรอก”

“กูว่าหมาในปากมากสุดคือไอ้วรนุช”

“กูเห็นด้วย” เจกับซอซุบซิบกัน แน่นอนว่าอีกสองชีวิตได้ยิน จากนั้นก็เปลี่ยนไปเริ่มข้อสนทนาใหม่ จิกกัดชาวบ้าน นินทาเมียคนอื่นน่าจะดีกว่า แบบนี้เข้าตัวเปล่าๆ

“รอกันหน่อยนะ ผิงมันเพิ่งตื่น เดี๋ยวออกมา” เสียงลุงยอดสามีป้าติ๋วพูด “สั่งอะไรกันหรือยัง”

“นี่ครับลุง” มู่ส่งให้กระดาษจดรายการอาหารให้ลุงยอด ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนในกลุ่ม “กูสั่งเหมือนเดิมนั่นแหละ แดกๆ กันเข้าไปเถอะ แม่ง”

“พวกกูว่าอะไรมึงหรือยังวะ? ปากคอนะมึงไอ้มู่ เมนไม่มาใช่มะเนี่ย” ซอว่า สะอึกหัวเราะ ยิ่งเจมาต่อให้อีกนะ สะใจ

“ท้อง? เห้ละ กูมีหลานแล้วเหรอวะ”

“มู่ กูป้องกันทุกครั้งนะ หลุดได้ไงเนี่ย เฮ่อ...บ้านจนไม่มีสินสอดนะมึง หนีตามกันแล้วกัน” อันนี้ฮาสุด...ละมั้ง

“ขำ...ขำกันนะ พวกมึงไม่ต้องมาแซวกูเลย เดี๋ยวกูมีแฟนสวยๆ ให้ดู”

“พวกกูไม่ได้ท้ามึงเลยนะ สภาพไอ้เจมันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีพอเหรอวะ” ซอขำคำพูดของเพื่อน ส่ายหน้า...

“นี่ขนาดกูได้มึงแล้วนะยังจะนอกใจ”

“ไอ้ชะมด ปากมึงเนี่ย! ล้างตีนสักทีมะห๊ะ”

“ได้กูแล้วก็ไม่ถนอม”

“ไอ้...”

“เห้อ...ระวังนะมึงจะได้แฟนเป็นทอมเพราะเขาคิดว่ามึงเป็นสาว”

“กูไลค์มึงไอ้ชะมดน้อย!” ทั้งเจและซอพูดออกมาพร้อมกัน เลิศมาก เริ่ดๆ ๆ ๆ

ทั้งสี่คนสุมหัวกันด่ากัน อยู่อย่างนั้นจนลุงยอดเอากับข้าวมาเสิร์ฟทีละจานสองจานตามคิว พอดีกับที่ร่างบางของผิงเดินเข้ามาจากทางหลังร้าน และเจกันไปเห็นพอดี

เขาพยักหน้าทักทายเพื่อน ซึ่งผิงก็แค่พยักกลับ ยิ้มนิดๆ ที่มุมปากทำให้ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์อยู่แล้วดูเด็กลงอีกหลายปี  ร่างสูงขยับกายเลื่อนไปนั่งเก้าอี้อีกตัว เป็นเชิงบอกให้ร่างบางมานั่งด้วย แน่นอนว่าผิงก็ไม่ได้จะไปนั่งที่อื่นแน่นอน

“มานานแล้วดิ”

“นิดหน่อย...หนักเหรอวะ เพิ่งตื่นเนี่ย” ใบหน้าอ่อนเยาว์พยักขึ้นลง

“ถ้าลุงไม่ไปเรียกฉันตื่นเย็นแน่ เหนื่อยเป็นบ้า”

“ก็ว่า เมื่อวานยืนบนรถแกก็ยังหลับได้” เจว่า ตักเอาพริกน้ำปลาใส่จานคะน้าหมูกรอบของตัวเอง

“กูเชื่อแล้วว่ะว่ามันเรียนหนักจริงไอ้เอกพลังงานเนี่ย บุญของกูที่เรียนอุตสาหการ” ซอว่า หันไปแย่งหมูในจานของมู่แต่โดนชนุตต์ตีมือ

“สงสารมันมั่งเหลือแต่กระดูกแล้ว” นุชว่าใส่เพื่อนหน้าสวย แต่กลับชิงแย่งหมูไปกินเองอีกต่อหน้าตาเฉย

“เหี้ยทั้งคู่” เจขำกับเพื่อนแต่ละคน มันก็อย่างนี่ตลอด นี่ดีนะเรียนกันคนละเอกเวลาเรียนเลยไม่ต้องมานั่งกัดกันอีก แต่ไอ้วิชาสามัญที่ต้องลงเรียนพร้อมกันนี่สิ

“เออ...ผิงมึงไม่ทานอะไรเหรอวะ?” ชนุตต์ถาม แต่ร่างบางส่ายหน้า

“ยังไม่หิวว่ะ อีกพักแหละ แล้วนี่พวกแกมาทำไม? แค่มาทานข้าว?”

“ตอนแรกมาบ้านกู แต่แม่งเจอเดชเมียชะนีไอ้เจราวีเลยหนีมาตั้งหลัก”

“แต่ผีชะนีแม่งก็โดนหมอผีแก้มเน่าจิกหน้าแหกไม่ใช่เหรอ?” ซอด่าเข้าให้ ก่อนจะขำก้าก “มึงหยุดไอ้ชะมดน้อย อย่าช่วยกูช่วยซ้ำเติมมันนะ เดี๋ยวคืนนี้แม่งเคืองให้มึงนอนนอกห้อง เฉาตายแน่”

“อะไร...แกสองคน...” ผิงว่าแล้วก็ชี้นิ้วไปมาระหว่างชนุตต์กับมู่

“อย่าอ้าปากด่าไอ้มู่ ข้าวจะกระเด็นใส่หน้ากู” เจว่า พร้อมกับยกจานข้าวหนี กันไว้ก่อน กลัวข้าวกระเด็นจริงๆ เกิดไอ้เพื่อนบ้านี่องค์ลงเขาไม่อยากร่วมบริโภคเอนซายน์รวมกับมัน

“พวกมึงมันเหี้ย” มู่ด่าเพื่อนฝูงซึ่งแต่ละคนก็ใช่จะแคร์คำด่านั้นเสียเมื่อไหร่กัน

“ก็เพื่อนแกทั้งนั้นแหละไอ้มู่” ผิงว่าแล้วส่ายหน้า

“แล้วไม่ใช่เพื่อนมึงหรือไง” เจว่าเหล่ตามองหน้าใสๆ ของผิงแม้จะดูเซียวๆ ไปสักหน่อยแต่มันก็ถือว่าน่ารักไม่หยอก...

“เออว่ะ...กะเอาตัวรอดสักหน่อย มึงทักทำไมเนี่ย” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นตีไหล่แข็งแรงของเจสองสามทีแล้วหัวเราะ “ว่าแต่เดี๋ยวไปไหนกันต่อหรือเปล่าเนี่ย?”

“ไม่ล่ะ...อยู่นั่งเล่นบ้านแกได้ปะ?”

“ได้ดิ...” ผิงตอบซอที่กำลังยัดข้าวไข่เจียวใส่ปาก “ป้าครับ วันนี้มีเด็กมาช่วยเสิร์ฟอีกสี่คนนะครับป้า”

“เฮ้ย!”

“ไม่ต้องห่วงค่าเหนื่อยพวกแกน่ะ คืออาหารมื้อนี้นี่แหละ อ่อ...มื้อเย็นด้วย”

“มึงล้อเล่นปะ” แต่ผิงไม่ตอบว่าอะไร ยิ้มน่ารักใส่ตาทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เจที่หันมามองด้วยสายตาไม่เชื่อสักนิด

“เมื่อวานกูมาส่งมึงนะผิง...กูมาส่งมึง ให้มึงพิง ดูแลตอนมึงหลับ” เจว่า...

“แค่เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน เช็ดโต๊ะ อีกอย่าง กูไม่ได้ขอให้มึงช่วยกูเลยสักนิด”

ขอบคุณ!

“ตลอดอะมึง กูมาแดกที่นี่ตั้งแต่เด็กยันโตไม่เคยจ่ายค่าข้าว แต่แม่งใช้กูเยี่ยงลูกจ้างประจำ”

“แล้วทำไมมึงไม่บอกพวกกู! ไอ้มู่!”

“เรื่องอะไรจะบอก พวกมึงควรเจออะไรที่กูมั่ง เท่าเทียมกันไง”

“ชะมดน้อย กูอนุญาตให้มึงผิดผีไอ้มู่เดี๋ยวนี้เลย”

“ไม่เอาสิวะไอ้ซอ ไอ้สองตัวนี่ผิดผีกันมันก็มันส์สิ เห้...กูขอกระทืบแม่งเลยดีกว่า”

“พวกมึงพูดอะไรเนี่ย! ห่างๆ เรื่องของกูกับไอ้ชะมดหน่อยได้มะ” มู่โวยวาย แต่คูกรณีอีกคนกลับนิ่งเงียบหรี่ตามองมู่อย่างไม่น่าไว้วางใจ “มึงมองกูทำไมไอ้ชะมด”

“...”

“กูถามว่ามึงมองทำไม”

“...มึงโดนกูแน่ไอ้มู่”

“เสร็จ!” ซอและเจพูดออกมาพร้อมกันแล้วหัวเราะ

“สรุป มึงสองคนนี้...”

“อย่าตีความนะไอ้ผิง!”

แม้มู่จะโวยวายแค่ไหน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ อนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าการได้แกล้งมู่เป็นเรื่องสนุกของทุกคนก็ได้ โดยเฉพาะกับนุช

“มึงท้องแน่มู่ลี่...”

“ไอ้เชี่ย ผู้ชายที่ไหนท้อง”

“อ่าว...มึงเป็นผู้ชายเหรอ? พวกกูเพิ่งรู้” ซอจบการสนทนานั้นด้วยประโยคนี้และตามด้วยเสียงหัวเราะจากกลุ่มเพื่อน...

โอเค...กูมันตัวตลก!




หลังจากนั้นทุกคนก็รู้ซึ้งแล้วว่าร้านป้าติ๋วนั้นเป็นที่นิยมแค่ไหน ประเด็นคือป้าแกรับสั่งกับข้าวส่งตามบ้านในซอยด้วยน่ะสิ ไม่พอซอยข้างๆ ระแวกนั้นเหมาหมด

ไอ้เหนื่อยกับการช่วยผิงเป็นเด็กเสิร์ฟไม่เท่าไหร่ ตอนเย็นๆต้องตระเวนตามซอยไปส่งบ้านนั้นบ้านนี้...พระเจ้าช่วย!

“นี่มึงต้องทำงี้ทุกวันเลยเหรอวะผิง”

“ไม่อะ ส่วนมากวันหยุด แต่ก็ไม่ทุกวัน ป้าติ๋วไม่ค่อยใช้กูหรอก แกบอกเห็นเรียนเหนื่อยๆ ไม่อยากกวน” ผิงตอบเพื่อน หลังจากส่งกับข้าวบ้านหลังสุดท้ายเสร็จ แล้วนั่งซ้อนท้ายจักรยานของตัวเองที่มีสารภีคือพ่อหน้าหล่อเจ

“ยอดป้าแห่งปี...งั้นทุกทีป้าแกให้ลุงยอดส่งว่างั้น”

“อือ...แต่ไม่ค่อยเยอะนะส่วนมากจะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์เย็น คนอยู่กันเยอะ” ผิงพูดก่อนจะขยับยืนเอามือจับไหล่แข็งแรงของเจที่ปั่นจักรยานในซอยไปเรื่อยๆ

“แกกับไอ้มู่รู้จักกันนานแล้วเหรอ? พวกกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่ะ” เจเอ่ยถามเลี้ยวขวาตรงทางแยก

“ตอนกูย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนนั้นก็ ป.1 เจ็ดขวบอะ สิบกว่าปีได้แล้ว เรียนกับมันตั้งแต่ประถมยันตอนนี้”

“มึงไม่เบื่อมันเหรอ?”

“พวกมึงอะเบื่อมันปะละ” เสียงของผิงมีแววเย้า แน่นอนว่าคำตอบของเจเหมือนกับของผิงแน่

“ใครจะเบื่อมันแกล้งสนุกจะตาย”

“ถูกต้อง พอโดนแกล้งมันก็ดีดดิ้น ยิ่งตอนมันอยู่กับไอ้นุชด้วยนะ น่าให้โดนฟัด” เห็นมะว่าแก๊งส์นี้มันโรคจิตทั้งแก๊งส์

“เออ...ไอ้นุชมันก็เรียน ม.ปลายที่เดียวกับไอ้มู่นี่ พวกมึงก็รู้จักกันตอนนั้นสิ แล้วทำไมไอ้นุชมันถึงไม่รู้จักมึงวะตอนเข้า มหา’ลัย”

“ไอ้นุชกับไอ้มู่มันเรียนกวดวิชาที่เดียวกันต่างหาก ไม่รู้เรื่อง” ว่าแล้วผิงก็ผลักหัวของพ่อหล่อเจหนึ่งทีทำเอารถเซไปเกือบล้ม

“เฮ้ย!! ไอ้บ้า รถจะล้ม”

“ขี้ดีๆ สิวะ” ผิงโวยวายทำท่าจะตีเจอีกทีแต่ก็ยั้งมือกลัวจะล้มจริงๆ

“ดีอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่ตีกูอะ อะไรวะ ตัวเท่าลูกหมา แรงวัวแรงควายจริงๆ กูถามจริง วันๆ มึงกินอะไรบ้างวะผิงตัวเล็กนิดเดียว” เจว่า ก่อนจะบังคับรถหลบหลุมข้างทาง

“กูก็กินเหมือนๆ พวกมึงแหละ แต่พวกมึงมันตัวควายกันเอง” นั่นไง...นั่นไง ตัวแค่นี้พิษสงร้ายกาจว่ะ “ว่าแต่แกเหอะเจ ทะเลาะกะแฟนอีกแล้วเหรอวะ ฉันได้ยินไอ้มู่มันชอบมาบ่นให้ฟัง”

“นินทามากกว่ามั้ง”

“ด่าเลยเหอะ ไอ้มู่ไม่ชอบแฟนมึง”

“มาก...กูไม่รู้ว่าหวานตาไปเหยียบตาปลาที่ตีนมันหรือเพราะมันไม่ถูกชะตากับผู้หญิงทุกคนกูก็ไม่รู้ว่ะ เห็นกันเป็นไม่ได้ กูอึดอัด” ผิงเลิกคิ้วกับประโยคนั้น

“มึงเลี้ยวผิดแยกไอ้เจ ไอ้บ้า เลี้ยวกลับๆ” ผิงโวยวาย ทำให้ร่างสูงต้องบีบเบรกกะทันหันร่างบางที่ปล่อยมือไปข้างเลยเสียหลักถลาปะทะกับแผ่นหลังกว้าง

“โทษทีกูเพลินไปหน่อย” เจรีบพูดหันกลับมามองเพื่อนตัวเล็กปลายจมูกอยู่ห่างจากแก้มเนียนใสๆ นั้นนิดเดียว ถ้าเพียงแค่เขาขยับหน้าไปอีกนิด...อีกนิดเดียว

“มึงนี่นะ” ผิงถอนหายใจ ก่อนจะดันตัวเองกลับมาแล้วนั่งลงที่เบาะหลังดีๆ ไม่ยง ไม่ยืนแล้ว “เลี้ยวกลับเร็ว ที่ร้านซอมันคงสติแตกไปแล้ว”

“อะ...เออๆ” คนตัวโตตั้งสติ ก่อนจะเลี้ยวรถกลับ แอบกลืนน้ำลายเบาๆ

ไม่เป็นไรๆ ไม่ได้โดนสักหน่อย อีกอย่าง ผิงมันเป็นผู้ชาย เขาแค่ตกใจนิดหน่อย เลยใจเต้น...

“มึงยังไม่ได้ตอบกูเลย ว่าทะเลาะอะไรกับแฟน”

“อ๋อ เรื่องไร้สาระน่ะ เป็นงี้แหละ เขาต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกู ซึ่งบางทีเรื่องบางเรื่องกูก็ไม่รู้จะตอบยังไง อย่างรอบนี้ก็ รู้จักมึงได้ไง ทำไมถึงเพิ่งรู้จัก แล้วแบบ...คาดคั้นอะ กูก็ไม่รู้จะว่าไง เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่รู้จะเอาอะไรกับกูหนักหนา”

“แค่มึงทักกูน่ะนะ”

“อือ...ใช่ แค่นั้นแหละ”

“สุดยอด”

“ใช่มั้ยล่ะ” เจส่ายหน้ายิ้มจืดๆ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นนินทาแฟนไปซะมาก อีกอย่างผิงก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่า...

“ผู้หญิงก็งี้แหละว่ะ อย่าคิดมากเลย แต่สมน้ำหน้ามึงมากกว่า”

“ขอบคุณเพื่อน...มึงน่ารักสัสเลย”

“แน่นอนว่ะ กูน่ารัก ไม่เชื่อไปถามคนทั้งคณะเลย”

“เชื่อมึงเลย เออ จริงสิผิง” เจเอ่ยเหมือนเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ “กูยังไม่มีเบอร์มือถือของมึงเลย”


.............................


จะพยายาม อัพวันละตอน เท่าที่มีแรงพิมพ์น้าาาา

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เจมันเนียนขอเบอร์เลยอ่ะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เฮ้ย น่ารักอ่า

ชอบมู่ลี่

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
วรนุช......
กรี๊ดดดด แรงค่า

เพื่อนๆกันอยู่ด้วยกัน ด่ากันมันดี อิอิ
เวลาเป็นเพื่อนผู้ชายอยู่ด้วยกันแล้วเล่นกันเรื่องผัวเมียนี่ ชอบมาก เขินแทน ฮ่าๆ
เพื่นอกันบางคนเทคแคร์กันดีกว่าดูแลแฟนอีกอ่ะ

ชอบนุชอ่า มูก็แกล้งแล้วสนุกดี วู้ๆ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ runningout

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ตอนแรกอ่านไปเนื้อเรื่องดูงง ๆ หน่อย แต่ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจมานิดนึงแล้วว่าใครเป็นใคร 5555
รอตอนต่อไปนะคะ ;)
  :call:  :pig4:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
หลายตัวละคร  แต่บทบรรยายเหมือนๆกันเลยดูจะงงๆไปนิดๆ

แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจบ้างแล้ว 
มี 2 คู่ใช่มั้ยเนี่ย  เจผิง  กับ นุตมู่ 

แล้วนุ้งซอไม่มีคู่เหรอจ๊ะ อิอิ

+1 ให้จ้า

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
มาอัพแล้ว
เย้ๆๆๆๆ สุ้ๆๆๆน้า

Nima4

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่ 6




   ไม่ใช่ว่าเจไม่เชื่อเพื่อนหรอกนะ แต่เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องพิสูจน์ และผลที่ออกมาก็คือ...

เออ..ใช่ ผิงมันน่ารัก และเพิ่งจะรู้ว่าไอ้คณะวิศวะเนี่ยมันแหล่งรวม...ผู้ชายแบบ...ชอบ...ผู้ชาย ไม่สิ...แหล่งรวมผู้ชายชอบผิงต่างหาก

“ไอ้ซอ...กูเพิ่งรู้ แม่งมีแต่คนชอบไอ้ผิง ทั้งผู้หญิงผู้ชายเลยมึง” เจพูดพร้อมกับนั่งลงข้างเพื่อนหน้าสวย วิชานี้ทุกคนลงเรียนเหมือนกัน แต่เหมือนตอนนี้คนที่มาจะมีแค่เจและซอ

“เพิ่งรู้เหรอมึง วันก่อนมีคนมาถามเบอร์ไอ้ผิงกับกูสามสี่คนได้ ผู้ชายทั้งนั้น คณะเราด้วย”

“จริงอะมึง?”

“เออดิ...ไอ้ผิงแม่งฮ๊อตว่ะ แต่กูเข้าใจนะ ตัวเล็กๆ บางๆ หน้าแบ้วๆ อย่างนั้นมองยังไงก็น่ารักกว่าเมียมึง” เจทำหน้าเมื่อยทันที ก่อนจะส่ายหน้าเซ็งๆ

“ทำไมมึงวกเข้ามาเรื่องหวานตาวะ”

“มึงเลิกหลบหน้าแม่นั่นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เลวมากโทรจิกกูอย่างกับว่ากูเป็นผัวอีกคน”

“แรงไปละซอ”

“จริงจัง มึงไม่ชอบอยากเลิกก็บอกไปเลยไป กูเหนื่อยว่ะ ไม่รับก็โทรจิก แบบไม่เกรงใจ มึงก็รู้กูไม่ชอบคุยโทรศัพท์ แล้วแต่ละครั้งแม่นางก็พ่นใส่กูเป็นชั่วโมง” งานนี้เจไม่รู้จะพูดอะไรออกมา นอกจากคำว่าขอโทษที่ทำให้เพื่อนเดือดร้อน...

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงได้ออกมารูปแบบนี้ ครั้งสุดท้ายที่คุยกับหวานตาทางโทรศัพท์ก็คือเมื่อวันก่อน ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ

เธอบ่นเรื่องที่มู่ด่าเธอเมื่อวันก่อน แล้วเขาก็แค่บอกว่าถ้าไม่ชอบก็ไม่ควรโทรไปถามอะไรมัน เพราะเพื่อนของเขาก็ไม่ชอบเธอ ตรงๆ แบบไม่รู้จะอ้อมค้อมทำไม ก็เท่านั้นแหละ

“เจปกป้องเพื่อนอะ”

“เจเข้าข้างเพื่อนมากเกินไป”

“เจเห็นคนอื่นดีกว่าแฟน”

“เจ...บลาๆ ๆ ๆ ๆ”


เขาเลยตัดสายปิดเครื่องยันทุกวันนี้ ความซวยเลยบังเกิดกับเพื่อนในกลุ่ม แต่คงไม่ใช่กับไอ้มู่แน่นอนไม่อย่างนั้นมันเห็นหน้าเขาคงอาราธนาศีลแปดให้เขาไปแล้วล่ะ

“ไอ้เจ!” พูดยังไม่ทันขาดคำ  :m31:

“มึงเตรียมตัวตายได้เลย มึงดูหน้ามัน มู่ทู่สมชื่อ” ซอกระซิบบอก ก่อนจะเท้าคางมองวาระสุดท้ายของเพื่อนหน้าหล่อ...

“เสียงดังทำไม”

“นังชะนีเมียมึงจะเอายังไง นัดมาให้กูซัดปากเลยนะ” มู่ไม่สนใจอีร้าค่าอีรมอะไรทั้งนั้น เจมันรู้ดีว่าเขาไม่ชอบแฟนตัวเอง ดังนั้นมันจงทำใจเวลาที่เขาจิกด่าผู้หญิงคนนั้น  :angry2:

“อะไรวะมู่ ใจเย็นดิ”

“เย็นหอกอะไรอีก กูไม่เย็น...มันเรียนที่ไหน บอกกู กูจะไปซัดปากมันให้แหกเลย”  :fire:

“เฮ้ย...ใจเย็นน่ามู่” เป็นนุชที่เอ่ยห้ามจากด้านหลัง ก่อนจะรั้งให้ร่างบางลงนั่ง โดยที่ตัวเองนั่งขวางเจเอาไว้ ไม่ได้กลัวเจจะโกรธแล้วต่อยมู่ที่ด่าหวานตา แต่กลัวมู่จะกระโดดข่วนหน้าหล่อๆ ของเจต่างหาก

“แม่ง...ผู้ชายที่ไหนจะตบกับผู้หญิงวะ” ซอกัดปากพูดเบาๆ

“มึงบอกเองไม่ใช่เหรอ ไอ้มู่ไม่ใช่ผู้ชาย” เจทำแบบเดียวกับซอ แอบนินทาระยะเผ่ามู่ลี่ แน่นอนว่าซอขำกิ๊ก

“เออว่ะ”  :laugh:

“แล้วมันเรื่องอะไรกันวะนุช” เจปรับอารมณ์น้ำเสียง หันไปถามเพื่อนตาหวานที่นั่งลูบไหล่คนตัวบางอารมณ์ร้าย แต่คนตอบกลับเป็นมู่ลี่

“ก็เมียมึงโทรมาอ่อยไอ้นุช”

“เฮ้ย!” ทั้งเจและซอร้องออกมาพร้อมกัน หันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่แปลกที่เจไม่รู้สึกอะไรไปมากกว่าแปลกใจ คือความจริงเขาต้องไม่พอใจ โกรธ หึง...ใช่มั้ย?

“เกินไปมู่ ไม่ได้ขนาดนั้น ไอ้เจเข้าใจผิดหมด” นุชแก้ด้วยเสียงไม่อนาทรร้อนใจสักนิด

“ไม่เกินหรอก แม่นั่นโทรมาคุยกับไอ้นุชทุกวัน วันละหลายรอบ รอบละนานๆ เสียงนี้นะ นุชคะนุชขา ฮ่วย...อี...”

“เพลาๆหน่อยนั่นแฟนไอ้เจมัน”

“มึงปกป้องมัน?” ถามกลับนุชมาด้วยเสียงสูง (ปรี๊ด?) ทำเอาทุกคนส่ายหน้าพร้อมกัน ณ จุดนี้แอบปวดหัวเบาๆ ยิงเห็นมู่ทำหน้าไม่พอใจใส่นุชก็เพลียแทนอีกที

“นุชมึงเล่ามาดิ” เจเป็นคนเอ่ยขึ้น มองหน้าเพื่อนนิ่งๆ ทำเอานุชต้องรีบปรับอารมณ์ให้จริงจัง

“เขาก็แค่ติดต่อแกไม่ได้ แล้วก็โทรตามหานั่นแหละ พอคุยกับใครได้ก็นะ... กูหมายถึง ไอ้ซอมันเสือกวางโทรศัพท์ให้หวานตาพูดคนเดียว ส่วนมู่ก็ด่ากันตายแน่ถ้าโทรไป ก็เลยเหลือกูคนเดียวที่เขาโทรมาได้”

“หวานว่าไงมั่ง”

“เหมือนเดิม”

“ห่าอะไร...เหมือนเดิมตรงไหน นุชว่างมั้ยหวานอยากไปดูหนัง เจไม่พาไปดูนานแล้ว หวานเหงาไม่อยากไปคนเดียว” มู่ดัดเสียงเลียนเสียงสูงๆ ของหวานตา จิกสายตาใส่นุชเต็มที่ก่อนจะหันไปทำตาขวางใส่เจที่ไม่รู้จะทำหน้ายังไง

“ก็ประมาณนั้น”

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ะมู่ว่าเขาคุยกันอย่างนั้น”

“กูให้ไอ้นุชเปิดโฟนไง”

“มึงสองตัวอยู่ด้วยกันตลอด”

“เออ”

“ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว”

“เออ”

“ที่บ้านมึงเนี่ยนะ”

“เออ มึงจะถามอะไรมากมายเนี่ยไอ้ซอ กูโมโหอยู่นะ” มู่โวยกลับ ก่อนจะค้อนเข้าใส่ หันไปมองที่หน้าคราสเรียน เห็นผิงกำลังเดินเข้ามาก็รีบกวักมือเรียก ส่วนนุชก็แค่หันไปยิ้มมุมปากกับเพื่อนทั้งสองคนพร้อมกับยักคิ้วแผล่บ ทำเอาแทบกลั้นยิ้มกันไม่ได้

ข่าวว่าคุยเรื่องเครียดกันอยู่

“สรุปไม่ใช่ว่าไอ้เจจะโดนสวมเขานะ แต่ประเด็นคือไอ้มู่แม่งหึงชะมดน้อยตาหวานว่ะ” ซอเอ่ย ทำเอาเจต้องรีบก้มหน้ากับโต๊ะพยายามไม่หัวเราะออกมา

“ไม่เสียใจเลยเหรอวะเจ?” พ่อคนหล่อไม่ได้เงยหน้าแต่ส่ายศีรษะไปมาตอบคำถามให้ซอ

“ผู้หญิงอย่างนี้นะโว้ยเลิกไปเลย ไม่ต้องสนใจ” มู่หันมาใส่ไฟโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองนั่นแหละที่เป็นประเด็นสนใจของเพื่อนๆ

“โทรมาได้ อีบ้านั่น...คงไม่รู้ล่ะสิว่าใครๆ เขาก็รู้สันดานน่ะ”

“น่า...มันไม่มีอะไรหรอก ให้เจมันจัดการเหอะ”

“ก็รีบๆ สิ แกก็อะไรนั่งคุยให้มันแทะโลมอยู่ได้ ชอบหรือไงแบบนั้นน่ะ ไม่เห็นจะน่ารัก” มู่ไม่วายหาเรื่องนุช แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าแสดงอาการออกมาจนใครๆ ไม่ต้องเดาอะไรแล้ว

“กูชอบคนมีแก้มยุ้ย”

“น่าเสียดายนะ ถ้ากูจำไม่ผิดยัยผีดิบนั่นหน้าอย่างกับขุดเจอ”

“กูชอบคนผอมบาง”

“แม่นั่นโคตรเตี้ย”

“กูชอบคนที่ขนาดทำหน้าเหวี่ยงยังน่ารัก”

“ยัยนั่นน่ะนะ ขนาดแต่งหน้ายังทุเรศเลย”

“อืม...ไม่รู้ตัวเลยแหะ” นุชว่าพร้อมกับหันมามองเพื่อนอีกสองคนอย่างรู้กัน จังหวะเดียวกันกับที่ผิงเดินมาถึงพอดี

“เจเป็นไรวะ สั่นเชียว” ร่างบางถาม ทรุดนั่งข้างมู่ แต่ชะโงกมามองเพื่อนที่ก้มหน้าก้มตา แต่สั่นไปทั้งตัว

“ไอ้เจมันปวดขี้จนสั่นน่ะ”

ช่างเป็นการตอบคำถามที่ทำร้ายพ่อหน้าหล่อจริงๆเลย...





........................................
“หูชา ไอ้มู่มันรู้ตัวมั้ยเนี่ย”

“ดูแล้วเหมือนรู้เหรอ?” เจตอบคำถามของผิงแบบกวนๆ หลังจากจบคราสเรียน อีกสามคนมีเรียนต่อแม่จะแยกกันไป เหลือแต่ผิงงกับเจที่ว่างแล้วเลยมานั่งรอรถเมล์ที่หน้ามหา’ลัย โดยผิงเริ่มพูดถึงเรื่องที่มู่พูดตลอดคาบเรียน ก็ไม่พ้นเรื่องที่โวยวายกับเจหรอกนะ

“นุชมันมาเงียบๆ แต่แอบแรงนะเนี่ย”

“มันจูบกันแล้วนะ...เงียบตรงไหน”

“ไม่ๆ เรื่องนั้นรู้ ไอ้มู่มันก็บ้าบอไปเอง” ผิงว่า พร้อมกับลุกขึ้นเมื่อเห็นว่ารถเมล์มาแล้ว “กลับล่ะค่อยเล่าทีหลังว่ายังไงเรื่องจูบ มั่นใจว่ากูรู้มากกว่าพวกมึง”

“ได้ไงวะ...จะฟังเดี๋ยวนี้”

“กูจะกลับบ้านแล้ว”

“กูไปด้วย” นั่นไง...

ร่างสูงของเจเดินตามผิงขึ้นรถไปด้วยหน้าตาเฉย ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสาม ไม่ต้องเบียดเสียดคนอย่างวีนก่อนหน้าดังนั้นร่างสูงของเจเลยตามไปนั่งข้างกับผิงที่เลือกนั่งช่วงกลางของรถเมล์ สีหน้าของร่างบางค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นว่าเจตามขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยิ้มรู้ทัน

“มึงไม่ได้อยากรู้เรื่องไอ้มู่กับไอ้นุชหรอก แต่อยากหนีแฟนที่จะมาตามที่หอใช่ปะล่ะ” เจไม่ตอบแค่ยิ้มแล้วจ่ายค่ารถเมล์เผื่อแผ่คนรู้ทันเสียด้วย “ไม่คุยกันให้รู้เรื่องล่ะ”

“ไม่มีทางรู้เรื่องหรอก อีกอย่าง...มันพูดยากว่ะ”

“พูดไม่ยากหรอก แกแคไม่อยากพูด แต่ตัดสินใจไปแล้วต่างหาก”

“ประมาณนั้น” เจตอบก่อนจะหันไปมองหน้าที่กำลังยิ้มละไมตอนที่พูดออกมา “เดาถูกได้ไง”

“ก็ไม่เห็นยากอะไรนี่ อีกอย่างเป็นฉัน ฉันคงไม่ทนถึงขั้นนี้หรอก แกเก่งนะทนมาได้เป็นปี” ผิงพูด เขาตัดสินจากการที่ได้ยินมู่พูดมาตลอด ถึงเขาจะเป็นเพื่อนกับเจได้ไม่นานแต่ว่านิสัยของเจที่แสดงออกมาก็ไม่ได้ต่างจากที่มู่พูดเลยสักนิด

“กูก็ไม่รู้ว่าทนได้ไง แต่ก็ไม่ได้อยากเรียกว่าทนหรอกนะ ผู้หญิงเขาก็แบบนั้นกันอยู่แล้ว อยากให้เอาใจ เอาใจใส่มาก เห็นเขาสำคัญ กูไม่ดีเองมากกว่าที่ละเลยเขา”

“สุภาพบุรุษนะ เดี๋ยวก็ได้ปวดหัวหรอก”

“ไม่เดี๋ยวหรอก ตอนนี้ก็ปวด” เจว่าพร้อมกับรอยยิ้มเนือยๆ ไหล่ตัววางศีรษะกับพนักที่นั่งบนรถอย่างคนหมดแรง ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาครอบคลุมรอบกายทั้งที่มีเสียงของตั๋วรถเมล์ร้องบอกผู้โดยสารเป็นระยะ รู้สึกที่ผิงไม่พูดมากจนน่ารำคาญ อืม...จริงๆ นะ อยู่กับผิงแล้วเขาสบายใจ

“นี่ผิง ทำไมมึงถึงชื่อผิงวะ” เจถามขึ้น หันหน้าไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเพื่อนที่ไม่ได้หันมามองเขา แก้มขาวเนียนอมชมพูนิดๆ คนเพราะอากาศที่ร้อนตอนรอรถเมล์ เขาก็เพิ่งสังเกต ผิวหน้าของผิงเหมือนผิวของเด็กเลยด้วยซ้ำ เนียนใสโดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางกลบ จมูกโด่ง ริมฝีปากบางสีอ่อนระเรื่อดูกระจุ๋มกระจิ๋ม ให้ตายเหอะ คำๆ นี้ต้องมาใช้กับผู้ชายเนี่ยนะ

“ป้าบอกว่าตอนเกิดป้าเขาขายขนมผิงแล้วก็ขายดีอยู่ช่วงหนึ่ง เขาก็เลยตั้งชื่อกูแบบนี้น่ะ”

“ป้า? เขาเลี้ยงมึงมาตลอดเลยเหรอ?” ผิงยิ้มไม่ได้หันมามองเพื่อนแล้วพยักหน้า

“ก็ตั้งแต่กูเกิดนั่นแหละ” เจรูดซิปปากทันที ไม่รู้ล่ะไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ไม่สามารถง้างปากของเขาได้แล้ว ณ จุดนี้  ถ้าพ่อแม่ไม่เสียแต่เด็ก ก็เป็นเรื่องที่ให้เจ้าตัวเอ่ยดีกว่าที่จะไปถามอะไร เขาขยับกายนั่งเอยหลังกับพนักจนเต็มหลัง ยกมือขึ้นยีผมสั้นของตัวเองอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านั้น

เสือกไปพูดเรื่องไม่เข้าเรื่องจนได้

“โทษที” เจพูดออกไปหันไปมองหน้าเพื่อนที่นั่งเงียบ อีกฝ่ายส่ายหน้าช้า

“ขอโทษทำไม? พ่อกูเป็นนักบิน ส่วนแม่กูเป็นอาจารย์หมอที่ มช. ตอนกูเกิดพวกท่านยุ่งกันจะตายป้าเขาเลยเลี้ยงกูมาตลอด ตอนกูประถมเขาเลยขอกูมาอยู่ด้วยเพราะเขาไม่มีลูก พ่อแม่กูมาเยี่ยมกูทุกเดือนแหละ”

ขอบคุณครับที่ขยายความ ทำเอาพูดไม่ออก

เจกระตุกยิ้มหันไปมองทางอื่นก่อนจะกลับมามองผิงด้วยหางตา เห็นอีกฝ่ายยิ้มสะใจ คือ...มันบิ้วเขาแต่แรกใช่มะ ทำเป็นเก๊กนิ่งพูดให้คิด ให้เข้าใจผิด...

“ร้ายนะมึง!” เจกัดฟันพูด ก่อนจะรั้งคอผิงเข้ามาในอ้อมแขนกดแนบกับอกตัวเองแล้วใช้มืออีกข้างยีผมสีน้ำตาลเข้มจนยุ่งเหยิง

“กูเปล่า มึงคิดไปไกลเองนะเว้ย” ผิงเถียง ก่อนจะหัวเราะชอบใจ สองมือจับท่อนแขนแข็งแรงไว้ พยายามขืนตัวขึ้น แต่เจก็ยังคงกอดอยู่อย่างนั้น

“มึงแหละทำกูคิด” เจรัดแขนเข้าให้อีก คนตัวเล็กดิ้นพล่านแล้วทีนี้แต่เสียงหัวเราะยังคงมีอยู่เช่นเดิม ก่อนจะตีแขนแข็งแรงเบาๆ แล้วพยายามเอียงหน้าขึ้นมาส่งสายตาอ้อนเข้าใส่

“หายใจไม่ออกแล้วอ่าเจ...ปล่อยก่อนนะ” ผิงทำปากยู่ กระพริบตาปริบๆ “นะ...ปล่อยก่อนนะ...”

เกมส์โอเวอร์....

ผมแพ้อะไรแบบนี้ครับ!

“ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้วะ” เจยกหลังมือขึ้นปิดปาก เหลือบมองหน้าของผิงที่ยิ้มน่ารักอยู่แล้ว

“น่ารักใช่มะ” มันรู้ตัวนะนั่น...

“จะไปรู้เรอะ ไปส่องกระจกดูเองไป”

“เหอะ...อย่ามาแอบมองกูละกัน” ว่าแล้วก็แลบลิ้นใส่เจแล้วหันไปมองนอกรถเสียอย่างนั้น เจเองก็ไม่อยากเซาซี้เพื่อนหรอก แบบว่า...แอบฟินอะไรในใจเงียบๆ ดีกว่า...

สงสัยต้องโทรคุยอะไรกับไปชะมดน้อยสักหน่อยแล้วล่ะ


................................


เค้ามาต่อเร็วเกินไปหรือเปล่า? แต่ก็ตามสัญญา (กับใคร?) วันละตอน ถ้าว่างพิมพ์ 

ขอบคุณทุกคมเม้นต์ ทุกกำลังใจนะคะ
 

 :call: :call: :call: มีคนอ่านคนเม้นต์เยอะๆ  :call: :call: :call:

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
มาเร็วมาก .... แต่ไม่บอกหรอกว่าเร็ว ฮ่าๆ เพราะจะได้อ่านทุกวัน

ตอนที่นุชมันบอกชอบคนแบบไหน มู่แบบว่าตอบไปคนละเรื่องแลยอ่ะ แล้วท้ายสุดก็ไม่รู้เรื่องอีกว่าพูดถึงตัวเอง ทำเอาฮาเลย

ผิงแอบทำตัวน่ารักให้เจไหวหวั่น ฮาๆ  แถมเสน่ห์แรงอีกต่างหาก คริคริ

ที่จริง... ไม่ได้เข้าข้าง หวานตา ตาหวานหรอกนะ เพราะชีก็ดูจู้จี้จุกจิกเกินไป
แต่เราก็ไม่ชอบเจที่หนีแบบนี้เลย มีอะไรก็พูด ก็บอกกันไปตรงๆ เลยดีกว่า
เพราะนิสัยผู้หญิงเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ชอบเรียกร้องความสนใจ และที่ทำอย่างนั้น เพราะคนเขาแคร์ เพราะคุณคือแฟนของเขา หายไปติดต่อไม่ได้จะไม่ให้เป็นห่วงเหรอ? ไม่ให้โทรตามเหรอ? ....

คือว่าเชียร์ผิงนะคะ แต่แค่มองโลกเป็นกลางและยุติธรรมกับทุกฝ่ายเฉยๆ

ไม่เกลียดเจ ชอบผิง

แต่....รักมู่กับนุช อิอิ


ออฟไลน์ runningout

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
มาเร็ววมาก ;)แต่ขอรออ่านอ่านทุกวัน >,<  :L2: :L2:  :call:

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:กอด1:คนแต่ง
ตอนนี้เข้าเรื่องมากแล้ว อ่านเข้าใจอ้ะ แล้วยิ้มเป็นบ้าอยู่หน้าจอคนเดียว :L2:

kimiizjae

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: น่ารักดีค่ะ
ชอบคู่นุชกับมู่ มู่ก็ไม่รู้ตัวซะที = =
ฮาตอนแกล้งมู่เนี่ยแหละ ตลกดี

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
น่าร๊ากกกกขึ้นทุกวันนะผิงน้อย  อิอิ

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 7

เจทรุดกายลงนั่งที่โต๊ะไม้ในบ้านของผิงอย่างหมดแรง เขารับผ้าและน้ำเย็นที่ผิงส่งให้ ก่อนที่ร่างบางของเพื่อนจะนั่งตรงข้ามแล้วขำเบาๆ

“อยู่ดีไม่ว่าดี” ก็เพราะอยู่ดีเลยอยากทำดีไง ไอ้บ้า เจต่อว่าผิงในใจ เขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วเช็ดหน้าเช็ดตา ดื่มน้ำเย็นนั้นรวดเดียวหมดแก้ว  วันนี้มันวันมหาโหดจริงๆ มีแต่คนสั่งกับข้าวร้านป้าติ๋ว เขาและผิงตระเวนส่งกันแทบตาย ไอ้ที่จะตายน่ะเขาเพราะเป็นคนปั่น ไหนจะกับข้าว ไหนจะน้ำหนักตัวของผิง...

สุโค่ย!

“มึง...ผ่านมาได้ไงว่ะ”

“กูชินแล้วนี่” ผิงตอบ อมยิ้มขำคนตัวใหญ่ที่หมดแรงก๊อกสองเรียบร้อย... “อุตส่าห์เรียนตั้งโยธามีแรงแค่นี้? แบกกล้องยังไงให้ไหวละเนี่ย”

“ฟาย! มันเหมือนกันที่ไหนวะ” เจค้อนเข้าใส่เสียอย่างนั้น เอ่อ...ไม่ผิดหรอกค้อน...

ค้อน? เนี่ยนะ? ใส่ผู้ชายด้วนกันด้วย...

โอ้วววม่ายยยยย

“พักให้หายเหนื่อยก่อนนะ กูไปอาบน้ำก่อน แกจะค้างที่นี่ปะ?” เจเหลือบมองผิงทำหน้าคิด ซึ่งความจริงผิงคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นสักหน่อย เพราะว่าเขาคิดว่าเขาเดาคำตอบของเจได้ “จะค้างก็บอกเหอะน่า ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่ห้องกูแคบเท่านั้นเอง”

“อาฮะ” เจตอบ ก่อนจะอมยิ้ม “ขอบใจ”

“เหอะ หลบไม่ได้ตลอดหรอกว่ะ” ผิงทิ้งท้ายก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนของทาวเฮ้าท์ของป้าติ๋ว ซึ่งมันมีสามชั้นสภาพเกือบสามสิบปีได้แล้ว

ชั้นล่างป้าติ๋มทำเป็นร้านขายอาหารตามสั่งนั่นแหละ ส่วนชั้นสองก็เอาไว้นั่งดูทีวี นั่งเล่นกันภายในครอบครัว ส่วนชั้นสาม แบ่งซอยเป็นสองห้อง คือห้องของป้าติ๋มกับลุงยอด แล้วก็ห้องของผิง มันเลยไม่ได้กว้างขวางอะไรนัก ซึ่งผิงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเขาอยู่ที่นี่มาจนชินแล้ว

เจมองไปทั่วบริเวณที่เขานั่งอยู่ เฟอร์นิเจอน์เป็นไม้สักเคลือบอย่างดีชุดใหญ่ มีเก้าอี้โยกหนึ่งตัว โทรทัศน์จอใหญ่ พร้อมเครื่องเล่น แล้วก็โต๊ะเขียนหนังสือ เดาไม่ยากหรอกว่าผิงต้องจับจองตรงโต๊ะนี่แน่นอนเพราะมีพวกหนังสือของเด็กวิศวะวางไว้เต็มโต๊ะ ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับส่วนนี้ เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมทย์มากดเปิดทีวี ดูอะไรฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะตัดสินใจเปิดมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง แม้ว่าจะปิดเครื่องอยู่ตลอดก็ตาม

โอเคเขาทำใจได้ว่าต้องเจอกับพายุข้อความจากแฟนสาว และตัดสินใจได้ไม่ยากเลยว่าเขาจะไม่อ่านมันแม้แต่ข้อความเดียว...


เจทำหน้าแขยงตอนที่มองและได้ยินเสียงข้อความร้องเตือนมันดังอย่างต่อเนื่องราวกับเสียงเรียกเข้า พักใหญ่กว่าจะแน่นิ่งไป ...คือ...เฮ่อ...พูดไม่ออก

ยังไม่ทันได้ถอนหายใจทิ้งก็เป็นอันต้องสะดุ้งเสียก่อนเมื่ออยู่ๆ มือถือของตัวเองก็กรีดร้องขึ้นเชื่อมั้ยว่าเขาไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าใครโทรมา แล้วก็เชื่อเหอะถ้าเขาไม่รับมันก็จะดังอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เชื่อ ลองดูมั้ย?

เจไม่ยอมรับสายและพอมันตัดไปเขายังไม่ทันได้หายใจเข้าด้วยซ้ำมันก็ดังขึ้นอีก เขาควรซื้อหวยมั้ย เผื่อมันจะถูก ร่างสูงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะกดรับสายแต่ไม่ยอมเอาแนบหู

“เจ! ทำไมหลบหน้าหวาน!” นี่ขนาดไม่ได้เปิดโฟนนะ ชัดเจน...ถ้าจะขนาดนี้เขาก็ควรจะ...กดวางสายดีมั้ย? อย่าเลยดีกว่า

“เบาเสียงได้มั้ย หูไม่ได้หนวก”

“ทำไมเจปิดเครื่องหอไม่กลับ หลบหน้าหวาน มีคนใหม่ใช่มั้ย” อยากจะตอบว่าครับจังแหะแต่ก็ไม่สามารถโกหกได้เพราะมัน...ไม่มี  หมายถึงตอนนี้น่ะนะ

“เปล่า”

“แล้วทำไมไม่โทรหาหวาน ไม่มาหาหวานด้วย หวานไปหาก็ไม่เจอ หนีไปอยู่ไหน!”

“ไม่ได้หนี” พูดเสียงเนือย ไหลตัวเองเอาต้นคอวางบนขอบพนักไม้สักที่นั่งอยู่ราวกับคนหมดแรงจะทรงตัว “หวานมีอะไร” ก็เท่านั้นแหละ ถามไปเท่านั้นแหละ เจอเลย...

“มีอะไร? ต้องมีอะไรถึงจะเจอหน้าเจได้ใช่มั้ย! ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคนเลยหรือไง เบื่อกันแล้วสิถึงได้พูดอย่างนี้ เพื่อนเจก็อีกนะ ปากหรือชักโครก หวานแค่โทรไปถามอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ด่าอย่างกับหวานไปตบไปตีอย่างนั้น...บลาๆ ๆ ๆ ๆ” เจเอามือถือออกจากหู เพราะไม่อยากจะฟังไอ้สารพัดที่หวานตาพูดออกมา มันแสลงหูไม่ได้แสลงใจ

ก็แปลกนะ เมื่อก่อนอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมด แต่เดี๋ยวนี้อะไรก็น่าเบื่อ น่ารำคาญ เขาเห็นแก่ตัวใช่มั้ย? ที่อยากให้แฟนสาวทำตัวน่ารักเหมือนเดิม โดยที่ไม่ยอมปรับตัวเองให้เข้ากับเธอ? แต่ก็นั่นแหละ เขายอมรับว่าเขาเห็นแก่ตัว และหวานตาเริ่มทำให้เขาอยากเลว ทั้งที่ก็เลวอยู่แล้ว

“แล้วหวานโทรไปหานุชมันทำไมล่ะ”

“หวานโทรไปถามเรื่องของเจ” อีกฝ่ายสวนมาอย่างไม่คิดอะไรสักนิดสักแต่โวยวายข่มอีกฝ่ายให้กลัว แต่ไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมา ที่เจตามใจเวลาเธอวีนนั่นเพียงเพราะตัดรำคาญ ไม่ใช่เพราะรัก...เพราะถ้าลองถามตัวเอง ตั้งแต่แรกมาเจก็ไม่แน่ใจว่ารักเธอหรือเปล่า เห็นน่ารักดี ก็เลยคบ ก็แค่นั้น...

“แล้วต้องชวนนุชมันไปดูหนังด้วยเหรอหวาน” เจถามกลับไปลอยๆ ไม่ได้สนใจหรอกว่าคำตอบจะเป็นยังไง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอึกอักน่าสงสัย เขาไม่มีอารมณ์นั้น อารมณ์ที่เรียกว่าหึง...

บอกแล้วไงว่าเขามันก็แค่ผู้ชายเลวๆ ที่เห็นแก่ตัว ไม่ต้องด่าเขาหรอกนะ เพราะเขาคงไม่รู้สึกอะไร...

“เจไปได้ยินใครใส่ไฟหวาน”

“เปล่า”

“ต้องมีสิ หวานไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นสักหน่อย” ถึงไอ้มู่มันจะขี้โวยวาย ปากเสียปากร้าย แต่มันไม่ใช่คนขี้โกหก ข้อนี้เขารู้ดี แต่เขาก็ไม่ได้โทษหวานตาหรอกนะ... ไม่โทษจริงๆ

“ไม่มีใครว่าอะไรทั้งนั้นหรอก”

“ไม่จริง! เจก็เป็นอย่างนี้ตลอด อะไรก็เพื่อนๆ ๆ ๆ เพื่อนตลอด แล้วหวานล่ะ”

“หวานก็อยู่ส่วนของหวานไง จะไปยุ่งอะไรกับเพื่อนของเจเล่า” เจเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด กรอกตาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก่อนถอนใจเฮือกใหญ่

“หวานเป็นแฟนเจนะ! เราเป็นแฟนกัน เรื่องของเจหวานก็ต้องรับรู้สิ ทีหวานล่ะ หวานยังไม่เคยปิดบังอะไรเจเลย ทำไมเจทำกับหวานอย่างนี้”

“ไม่เคยอยากรู้อะไรของหวานมากมายอย่างนั้นนะ หวานเล่าของหวานเอง เจไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนของหวานสักคน หวาน...เราคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ถ้าหวานยังพาลเพื่อนของเจกับเจแบบนี้ เจอยู่บ้านเพื่อน ไม่ได้มีใครด้วย” หนุ่มหล่อเถียงกลับไป หวังให้อีกฝ่ายฟังแล้วเข้าใจ  แต่เขาคงคาดหวังกับอะไรบางอย่างมากเกินไป โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า...ผู้หญิง

“เจ! เจพูดอย่างนี้กับหวานได้ยังไง! เจอยู่ที่ไหน! กับใคร! บอกมาหวานจะไปหาเราจะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง! เจอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ใช่มั้ย!” ถึงขั้นนี้เจอยากจะแหกปากตะโกน พระเจ้า ขอบคุณมากที่สรรสร้างให้เขาต้องเจอเรื่องแบบนี้...

“บอกแล้วไงว่า ไม่...มี” ท้ายประโยคของเจแผ่วหาย หนึ่งเพราะว่าอีกฝ่ายตะโกนกลับมาด้วย แต่อีกอย่างที่สำคัญมากเลยก็คือ

สายตาคมของเจจ้องสบกับสายตาของผิงที่โผล่มายืนพิงพนังมองมายังตัวเอง ผิงอยู่ในสภาพที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หน้าตาสดชื่น กางเกงกีฬาสบายตัว เสื้อกล้ามสีขาวบาง...

คือก็ผู้ชายเหมือนกันน่ะแหละนะ แต่ทำไม...

ตอนนี้เสียงในโทรศัพท์จะดังยังไง เจฟังไม่รู้เรื่องสักอย่าง สายตามองตามร่างบางของผิงที่เดินมาหยุดที่โต๊ะหนังสือ  อีกฝ่ายจัดหนังสือให้เข้าที่คงเพราะทนเห็นมันรกไปมากกว่านี้ไม่ได้ ลำแขนเพรียวสวย ไม่ได้ดูเก้งก้างอย่างที่คิด ผิงก็มีกล้ามเนื้อ แต่ก็มีแค่พอมี ไม่ได้มากมายอะไร สำหรับคนมองอย่างเจ คิดว่ามันกำลังพอดี แล้วก็น่ามองมากด้วย

ผิงผิวขาวอมเหลือง ไม่ได้ขาวผ่องอย่างนุชหรือมู่ ดูนวลเนียนไปทั้งตัว แผ่นหลังไม่ได้กว้างมากมาย ก็พอดีกับร่างเล็กบางนั่นแหละ ความสูงก็แค่หน้าผากเลยปลายจมูกเขามานิดเดียว

โอเค...ตอนนี้เจต้องเพ่งสมาธิแล้วบอกกับตัวเองซ้ำๆ ว่า...

ที่มองจำต้องแอบกลืนน้ำลายเนี่ย...ผู้ชาย!

“เจ” ร่างสูงสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ผิงก็หันมาเรียกชื่อของตัวเอง เขารีบกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าผิงเรียกทำไม ใบหน้าอ่อนใส่มุ่ยปากใส่มือของเขาที่ถือมือถือค้างอยู่ “มันดังซ้ำแล้ว ถ้าไม่อยากรับเพราะคุยไม่รู้เรื่องก็ปิดเครื่องไปก่อนเถอะ” ผิงนำเสนอ ซึ่งเจรีบทำตามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแอบเหลือบมองร่างบางที่ยิ้มขัน

“อะไรล่ะ”

“เปล่านี่...อาบน้ำปะ? หรือจะลงไปทานข้าวเย็นก่อน?” ผิงเสนอตัวเลือกให้เลือกก่อนจะพยักหน้าเมื่อเจตอบกลับว่า
“ทานก่อนได้ปะ หมดแรงแล้ว”

“งั้นไปเลย” คนตัวเล็กกว่าเดินนำลงไปชั้นล่างทันที ไม่รั้งรอร่างสูงที่นั่งทอดถอนลมหายใจอย่างไม่รู้ ไม่เข้าใจตัวเอง...

เขาเป็นอะไรไปเนี่ย จะว่าหัวใจเต้นเร็วก็ไม่ใช่ แต่มันกระตุกเหมือนจะหยุดเต้นเสียมากกว่า ไม่ได้การ...ต้องหาทางคุยกับชะมดน้อยให้ได้...

ภาวนา...ขอให้เขามีชีวิตรอดคืนนี้ไปให้ได้...


..........................

แต่ดูเหมือนคำขอร้องของเจจะไม่เป็นผลเลย...

ชายหนุ่มนอนกลืนน้ำลายช้าๆ ลืมตาในความมืด แต่เขาไม่ได้มองเพดานเอามือก่ายหน้าผากอย่างคนคิดหนักหรอก เขากำลังนอนตะแคงสายตาจ้องหน้าอ่อนใสของผิงที่ปิดเปลือกตาสนิทหายใจสม่ำเสมอตรงหน้า เครื่องปรับอากาศทำงานมีเสียงดังเบาๆ พอให้ได้รำคาญหู แต่มันไม่ได้เท่ากับที่เขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้น

ก็มันไม่ได้เต้นเร็วไรนะ แต่กลับเน้นย้ำหนักๆ เหมือนเสียงเบสที่มีจังหวะสม่ำเสมอ...ซึ่งเขาคิดว่าสาเหตุมาจากการนอนจ้องหน้าใสๆ นี่แหละ พอจะเลี่ยงไม่มอง พลิกนอนหงาย ก็ได้คำตอบว่าเพดานห้องในความมืดสลัวนี้มันไม่ได้น่าพิสมัยสักนิด เขาจึงพลิกกลับมานอนท่าเดิม เพื่อมองอะไรที่น่าพิสมัยมากกว่า

แน่นอนว่าคนที่นอนหลับกรนฟี้ๆ นั่นไม่มีทางรู้ว่ามีมนุษย์โลกเพศชายหน้าตาหล่อมากชื่อว่าเจจ้องหน้ามาเป็นชั่วโมงแล้ว

เจไม่ได้คิดว่าตัวเองจะไปถึงขั้นอย่างที่นุชมันทำกับมู่หรอกนะ ฟังจากที่ผิงเล่าก่อนจะหลับไปก็แค่ไอ้มู่อยากรู้ว่าจูบกับผู้ชายเป็นยังไงเลยไปลองจูบกับไอ้ตาหวานนั่น แล้วก็กลายมาเป็นอย่างที่เห็น แต่ยังไม่ได้คบกันมั้ง ผิงว่านะ แล้วถามว่าเขาสนใจฟังมั้ย ก็ฟังนะ แต่...

สนใจฟังเสียงผิงเล่าเพลินๆ มากกว่า แถมนอนฟังไปจนอีกฝ่ายหลับไปเสียดื้อๆ ...

เขาไม่ได้เป็นเกย์...แน่นอน ของแบบนี้ไม่ใช่ไข้หวัดที่จะได้ติดกันได้ง่ายๆ อันนี้เจรู้  แล้วเกย์ก็ไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ระบุสปีชี่ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องแขยงอะไร

แล้วถ้าจะผิงอยู่อย่างนี้...ก็ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายนะ

ประเด็นก็คือ...เขาไม่รู้ว่าเขาจะหาข้ออ้างอะไรมากมายมาคิดให้ปวดหัวแทบแตก ในเมื่อเขาแค่อยากนอนมองหน้าผิงเท่านั้น

แล้วเจก็ได้สะดุ้งระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ เพราะผิงพลิกกายนอนหงายเหมือนจะร้อน ร่างบางถึงได้เปิดเสื้อกล้ามที่สวมอยู่จะเกือบถึงหน้าอก ไม่สิ ถึงแล้ว เจมองเห็นหน้าอกของผิงเต็มตาเลยล่ะ...

กูจะบ้าตาย

กูจะตาย...กูตายแน่ๆ

โอ้ยยยยยย...ไอ้ชะมด...มาเก็บศพกูด้วยยยยยย

 :serius2: :z3: :m15:





................................

นุชถอนลมหายใจออกมาอย่างหน่ายใจสุดขีด ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนมีความอดทน หรือมนุษยสัมพันธ์ดีสุดบรรยายหรอกนะ แต่เรื่องนี้มันคงไม่มีใครจะรับมือได้แล้วล่ะ...มั้ง

“วางไปแล้วไง?” เสียงถามอย่างหาเรื่องนั้นดังมาจากคนที่นอนอยู่บนเตียง นี่เขานึกว่ามู่หลับไปแล้วนะเนี่ย

“อือ...ร้องไห้ซะ”

“ไอ้เจมันหายหัวไปไหน”

“คงไม่ได้อยู่กับไอ้ซอหรอก ถ้าอยู่ไอ้ซอคงตะเพิดให้มันกลับมาแล้ว” นุชว่าขยับตัวขึ้นไปนอนบนเตียงข้างกับร่างบางของมู่ที่นอนตะแคงหันหน้ามาทางตัวเองอยู่แล้ว

“มึงว่าไอ้เจเอาไง”

“เลิกแน่...เมื่อไหร่เท่านั้น”

“ยัยปลิงนั่นจะยอมเหรอ” นุชหายใจออกแรงๆ แล้วส่ายหน้า เหลือบตามองร่างบางของเพื่อนซี้ ที่ดูจะรู้ตัวว่าเขาไม่ได้อยากจะซี้ด้วยแล้ว

ก็เล่นมาตัวน่ารักนะ...

“ไม่รู้ว่ะ คงอีกยาวไกล ทางนั้นแรงน้อยเมื่อไหร่ ขนาดโดนไอ้เจว่าขนาดนั้น รู้ทั้งรู้ว่าเราต้องเล่าอะไรให้เพื่อนฟัง ยังมาชวนกูไปเที่ยวอีก กูเชื่อผู้หญิงคนนี้เลยว่ะ” พ่อตาหวานว่า ก่อนจะเอามือรองศีรษะกดดูนั่นดูนี่ในมือถือเล่นแล้ววางมันลงที่หัวเตียงนอนของตัวเอง

วันนี้นุชไม่ได้ไปบ้านของมู่ ไม่ได้ค้างที่นั่น แต่หลอกให้มู่มันเล่นเกมส์จนดึกดื่น ที่ถึงต้องมอมด้วยเกมส์เพราะอีกฝ่ายจะกลับบ้านท่าเดียว มันจะอะไรนักหนากะอีแค่ค้างที่หอของเขาเนี่ย

 “มึงไม่ไปล่ะ เหอะ...ทิ้งกูให้อยู่นี่คนเดียวเลย” นั่น...ไม่วายประชด

“มานี่ดิมู่ มึงมาใกล้ๆ กูสิ” นุชว่า ไม่รอให้อีกฝ่ายขยับตัวหรอก เขาหันไปรั้งร่างผอมบางมาเต็มแรงจนมู่ขืนตัวไม่ได้ขยับมาเกยอยู่บนตัวของนุช

“ควาย! อะไร!”

“พูดมาก” นุชว่า แล้วรั้งใบหน้าของมู่ลงมาจนปากแตะกัน แต่มู่ก็ขืนไว้สุดแรงก่อนตัวบางจะโดนพลิกจนนอนหงายลงกับเตียง ตามด้วยร่างของนุชที่ทาบทับลงมาอีก

“ไอ้บ้า! มึงนี่”

“อ้าปากด้วย...”

“ไม่”

“มู่”

“ไม่...”

“มูลี่”

“ไม่!”

“โธ่...”

“ก็ไม่ไง” ร่างบางปากแข็ง และใจแข็งอย่างถึงที่สุด ไม่ได้ตอนนี้จะใจอ่อนไม่ได้ มันจูบเขาแต่ละทีทำเอาวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง

ถึงจะบอกว่าเพื่อนกันก็เถอะ แต่เขาก็ไม่ได้โง่นะว้อย จะไม่ได้ไม่รู้เรื่องอะไร ชอบคนแก้มยุ้ย ตัวบางๆ ขี้เหวี่ยง ไอ้บ้า! ไม่บอกว่าชอบกูมาเลยล่ะ

“มึงถอยไปเลยไอ้ชะมดไม่งั้นกูโกรธ!”

“เอ่อ...ไหนๆ ตอนนี้มึงก็โกรธกูอยู่แล้วนี่ โมโหมากขึ้นอีกนิด กูก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว” นุชว่าหน้าตาเฉย ฉวยโอกาสที่มู่ตกใจกับคำพูดนั้น อ้าปากจะเถียง ฉกจูบไป พร้อมกับส่งปลายลิ้นเข้าไปในหากเล็กนั้นอย่างรวดเร็ว...

มันไม่ใจร้ายกัดลิ้นของเขาหรอก แต่แค่ยอมเสี่ยงโดนมันด่าตอนจบแล้วก็พอ...หนวกหูหน่อยไม่เป็นไร ชอบคนปากมากอย่างมันไปแล้วนี่ ยอมเหอะ

ปลายลิ้นเกาะเกี่ยว หยอกเย้าอีกฝ่ายอย่างเชื่องช้า ไม่นานนุชก็ถอนจูบออกมา มองสบตากับแววตาตกใจของอีกฝ่ายแล้วก็ยิ้มอ่อนหวานให้...

“มึงเป็นเกย์ใช่มั้ยไอ้นุช” คนตาหวานยิ้มจนตาหยีก่อนจะมองร่างบางด้วยสายตาเชื่อมหวาน ยักคิ้วใส่ตามนิสัยที่ชอบทำ

“กับมึงน่ะ...ใช่” ....อยากใส่อิโมให้หน้าตัวเอง แต่มู่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวอะไรมาแทนดี เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไง ไม่รู้เลยสักนิด ต่อให้ต้องไปส่องกระจกตอนนี้ก็บรรยายสีหน้าตัวเองไม่ออก...

“มะ...มึง...มึง”

“กูรู้ว่ามึงเป็นมู่ รู้มานานแล้ว แต่ที่มึงไม่รู้ก็คือ กูชอบมึง ไม่สิ...กูว่ามึงรู้ว่ากูชอบมึง แต่มึงรอให้กูพูด ไม่อย่างนั้นมึงไม่มายั่วกูด้วยการขอให้กูจูบมึงหรอก” ....

“ไอ้...ไอ้เชี่ย! มึงรู้แล้วทำไมไม่พูด! กูเกลียดสันดานอย่างนี้ของมึงที่สุดอะไอ้นุช มึงแกล้งกู! ไอ้โรคจิต”

“กูเป็นกับมึงคนเดียวอะมู่ จริงๆ กูสาบาน...” นุชว่าพร้อมรอยยิ้ม แม้จะโดนกำปั้นของอีกฝ่ายทุบไหล่มาปึกใหญ่ก็ตาม

“สาบานหอกอะไรตอนนี้ ไอ้....ไอ้... โอ้ย กูจะด่ามึงยังไงดีเนี่ย” มู่ดันร่างของนุชออกแล้วผุดขึ้นนั่งจ้องมองอีกฝ่ายตาเขียวปัด “มึงแกล้งกูมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ยันทุกวันนี้ เห้!”

เชื่อเถอะว่าสองคนนี้กำลังสารภาพรักกันอยู่ เชื่อเถอะนะว่ามันคือการบอกรัก แม้ว่ามันจะ...ต่างกับคนอื่นสักเล็กน้อยก็ตาม แต่มันก็เป็นการบอกรักกัน...นั่นแหละ

“กูมึงเสือกน่ารักทำไมว่ะ เหวี่ยงทีกูเห็นแล้วก็ชอบ ชอบอะเวลามึงแว๊ดๆ ค้อนซ้ายค้อนขวา ยิ่งเวลามึงด่ากูนะกูโคตรชอบเลย”

“ไอ้โรคจิต!”

“มากอะ กับมึง กูเยอะตลอดว่ะ” นุชว่าพร้อมกับรอยยิ้ม เอื้อมมือไปรั้งเอวบางให้ขยับมาใกล้ตัวเอง “แกล้งมึงแค่นี้ไม่สาสมกับที่มึงแกล้งมาขอให้กูจูบมึงหรอก มึงไม่รู้นี่ว่ากูต้องอดทนแค่ไหนเวลาอยู่ใกล้มึง ตั้งกี่ปีแล้ว...กูจะเป็นบ้าตาย”

มู่ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่ใช้ว่าไม่อยากฟังสิ่งที่นุชพูด แต่บางเรื่องมันก็มากเกินกว่าจะเงยหน้ารับฟังได้อย่างหน้าตาเฉย ยิ่งมีอ้อมแขนแข็งแรงกอดไว้อย่างนี้ คำบอกเล่าข้างหูลมหายใจเป่ารดข้างแก้ม

“มึงอะ...มึงมัน...”

“กูชอบมึงมาก มึงรู้ใช่มั้ย? มึงดูออกใช่ปะ” นุชกระซิบถาม มู่ก็แค่พยักหน้า ไม่ได้ปัดป้องแก้มนุ่มของตัวเองเมื่ออีกฝ่ายกดปลายจมูกฝังแน่น...


“มึงไม่บอกกูแต่แรก” นุชยิ้มหวาน ใบหน้าของอีกฝ่ายเอียงมาหาจนปลายจมูกชนกัน ระยะประชันชิดที่ทำให้จังหวะหัวใจสั่นระรัว “มึงแกล้งกู”

“...ขอโทษหายโกรธปะ”

“กูไม่ได้โกรธ” นุชยิ้มหวาน เอียงใบหน้ากดริมฝีปากกับเรียวปากบางของมู่หนึ่งครั้ง “มึงรู้มาตลอด มึงแกล้งกู มึงรู้ว่ากูหึงมึง แต่มึงก็เงียบ”

“แต่กูดีใจนะที่มึงเป็นอย่างนี้...เป็นกับกูแบบนี้” นุชจูบลงไปอีกครั้ง แล้วก็ถอนมามองหน้ามู่

“มึงนี่” นุชยิ้ม จูบอีกแล้ว ไม่หนัก ไม่เบาแต่เอาไปทั้งใจแล้ว “โรคจิต” หนึ่งประโยคไม่ว่าใครพูดก็จูบตามทันที อมยิ้มกันไปสิแต่รู้นะว่าแต่ละคนก็รอจังหวะดีๆ ที่กำลังจะมีในเวลาไม่กี่นาทีนี่แล้ว

“ทำไมล่ะ” ถามไปแต่อ้อมแขนกลับรั้งเสียงจนร่างผอมบางต้องขยับมานั่งเกยบนตัก ขาวเพรียวมันเก้งก้างจนต้องเอาเกี่ยวไว้รอบเอวสอบ กลายเป็นการนั่งบนตัวที่แสนแนบชิดไปโดยปริยาย ริมฝีปากก็จูบเย้าแผ่วเบากันอยู่อย่างนั้น...

เมื่อความรู้สึกมันเริ่มจะควบคุมไม่ได้ ดวงตาหวานก็เว้าวอนอีกฝ่ายเสียจนไม่กล้าสบสายตา อยากจะเลี่ยงหลบแต่ก็หลายเป็นว่าไม่อยากจะพลาดจูบหวานๆ

ใบหน้าทั้งคู่เอียงเข้าหากัน จูบหวานบางเบาหยอกล้อกันจนอดอมยิ้มไม่ได้ ผิวเนียนที่แผ่นหลังถูกลูบไล้ด้วยฝ่ามือหนา เสื้อยืดตัวโคร่งถูกรั้งขึ้นช้าๆ สองมือลูบไล้มาข้างลำตัวบาง ก่อนจะถอนใบหน้าออกมามองสบสายตากัน...

“อยากทำธุระอะไรก่อนมั้ย” มู่ลี่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาแต่ก็พยักหน้าเบาๆ ฝ่ามือตีอกแกร่ง ก่อนจะขยับกายลงจากตักของนุช แล้วรีบเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป...

มันก็...

แค่...

แอร้ยยยยยย...
........................................


ไม่กล้าเขียน NC ค่ะ ขอผ่านนะคะ ฝีมือไม่ถึง!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด