♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต ✦ [DRAMA] [Rewrite] ▚▚▚
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต ✦ [DRAMA] [Rewrite] ▚▚▚  (อ่าน 175831 ครั้ง)

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนอะไรๆ ก็ดูจะมีความหวังใช่ไหมครับ อิๆ ไม่อยากจะบอกเลยว่า อาจจะมีอะไรให้ช็อคเล่นๆ ครับ รออีดนิดดดดด  :z1:
อ้าว ! อ้าว ! ไหงงั้นล่ะจ๊ะ ไหงว่าอาจจะมีอะไรให้ช็อก
ถ้าช็อกขอช็อกแบบบวกนะจ๊ะ ไม่เอาแบบลบเด้อ

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
อยากบอกว่าซึ้ง :o12:มากอ่านแล้วร้องให้ตามเลยชอบความคิดของพี่บีมมาก :กอด1:

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย

เหนื่อยจากการเรียน T _ T


จะกลับมาอ่านต่อไวไวนะค่ะ ไปถึงไหนแล้วเนี่ยย กรี๊ดดดด + 1 ให้คร่าา

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต (Re-written Version)
CHAPTER 32 ✦ นัดอันตราย


วันนี้บูมมาช่วยพ่อทำงานที่บริษัทเหมือนเช่นเคย สีหน้ายังคงเครียดๆ อยู่ตั้งแต่ทะเลาะกับแม่มาเมื่อสองสามวันก่อน แม้ว่าทิวจะคอยช่วยปลอบใจแต่ก็ดูเหมือนว่าบูมก็ยังคงสลัดความกังวลไปไม่พ้นอยู่ดี

บูมไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ดูเหมือนพ่อจะคอยสังเกตดูอยู่บ่อยๆ เวลาที่บูมเข้าไปทำงานกับพ่อในห้องสองคน ท่าทางของพ่อเหมือนอยากจะคุยด้วยแต่ก็ยังสงวนท่าทีไว้อยู่ ปกติเวลามาทำงานแบบนี้บูมกับพ่อมักไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่ ส่วนมากก็คุยแต่เรื่องงาน พ่อจะคอยสอนงานให้บูมหลายอย่าง บางวันก็ตามพ่อออกไปนำเสนองานหรือประชุมบ้าง บางวันก็ไปดูโครงการที่จะเริ่มทำหรือไม่ก็อยู่ระหว่างดำเนินการ หรือไม่ก็โครงการที่เสร็จไปแล้ว บูมเป็นคนฉลาดและหัวไวจึงทำงานได้ไม่ค่อยมีปัญหา พอจะเห็นแววความหวังที่พ่อจะให้สานต่อกิจการได้มากทีเดียว

ก่อนจะออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน คุณลิขิตก็เหมือนจะอดรนทนไม่ไหวหลังจากที่จดๆ จ้องๆ อยู่นาน

"เอ่อ...บูม..."

บูมค่อยๆ ละมือจากคอมพิวเตอร์แล้วก็หันไปหาพ่อด้วยสีหน้าสงสัย

"ครับพ่อ"
 
ดูเหมือนพ่อจะอึกๆ อักๆ ราวกับไม่แน่ใจว่าจะพูดดีหรือเปล่า

"วันหลัง...พาทิวมารู้จักกับพ่อบ้างสิ"

คุณลิขิตตัดสินใจพูดออกไปหลังจากที่คิดทบทวนมาแล้วหลายวัน เมื่อเข้าใจลูกชายคนโตได้ก็ควรจะต้องเข้าใจลูกชายคนเล็กด้วย

"ทิวไหนครับพ่อ"

ดูเหมือนบูมจะงงๆ ไม่คิดด้วยซ้ำว่า "ทิว" ที่พ่อพูดถึงก็คือคนที่บูมรักนั่นแหละ ไพล่คิดไปว่าพ่ออาจจะหมายถึงทิวคนอื่นหรือใครสักคน

"ก็ทิว...แฟนของลูกไง"

"พ่อ!"

บูมอ้าปากตาค้างเมื่อได้ยินพ่อเรียกทิวว่าเป็นแฟนของบูม พ่อยอมรับเรื่องนี้ได้แล้วหรือ นี่บูมกำลังฝันไปอยู่หรือเปล่า

คุณลิขิตเดินมาหาลูกชายที่นั่งตะลึงงันอยู่อย่างช้าๆ แตะไหล่ลูกชายคนเล็กเบาๆ แล้วยิ้ม

"บูม พ่อมาคิดๆ ดูแล้ว พ่อคิดว่า...พ่อควรจะรักบูมอย่างที่บูมเป็น พ่อไม่ควรจะบังคับบูมให้เป็นสิ่งที่บูมเป็นไม่ได้ พ่อก็เลยอยากจะรู้จักทิว บางที...พ่ออาจจะเข้าใจอะไรบางอย่างมากขึ้น พ่ออยากเข้าใจบูมมากขึ้น เข้าใจสิ่งที่บูมเป็นอยู่น่ะลูก"

"พ่อ"

บูมลุกขึ้นยืนแล้วก็กอดพ่อไว้ ยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ "ขอบคุณครับพ่อ บูมรักพ่อที่สุดในโลกเลยครับ"

ในที่สุดคุณลิขิตก็ได้ยินประโยคนี้อีกครั้ง บูมชอบพูดประโยคนี้เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก แล้วก็ไม่เคยพูดอีกเลยหลังจากที่โตขึ้น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วลูกๆ ทั้งสองคนเป็นเด็กขี้อ้อน พ่อแม่รักนักรักหนา แต่เพราะความหวังดีที่มากจนเกินไปนั่นเอง ครอบครัวที่เคยมีความสุขและเสียงหัวเราะก็กลับมีแต่ความตึงเครียดและเสียงทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน

"พ่อก็รักบูมนะ บูมก็รักแม่ด้วยใช่ไหมลูก"

"ครับ"

บูมตอบสั้นๆ รักแม่นั้นก็รักอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้บูมกับแม่ก็บาดหมางใจกันจนเข้าหน้ากันไม่ติดแล้ว ถ้าแม่ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่บูมเป็น ก็ไม่รู้ว่าจะได้บอกรักแม่เหมือนที่บอกพ่อตอนนี้หรือเปล่า

"พ่อต้องขอโทษบูมด้วยนะลูก ขอโทษที่พ่อเคยบังคับจิตใจลูก ไม่เคยฟังลูกเลยว่าอยากมีชีวิตแบบไหน"

"พ่ออย่าพูดอย่างนั้นสิครับ แค่พ่อยอมรับสิ่งที่บูมเป็นได้ผมก็ดีใจแล้วครับพ่อ"

สองพ่อลูกมองหน้ากันอีกครั้งแล้วก็ยิ้ม

"ให้เวลาแม่เขาหน่อยละกันนะบูม แม่เขาเป็นคนใจแข็ง...ขี้โมโห แต่เขาก็รักบูมมากนะลูก สักวันแม่จะเข้าใจ"

บูมพยักหน้า ก็รู้อยู่ว่าแม่รักและเป็นห่วง ไม่มีแม่คนไหนหรอกที่ไม่รักลูกของตัวเอง แต่บูมก็อยากให้แม่เข้าใจสิ่งที่บูมเป็นบ้าง

"แล้วพี่บีมล่ะครับพ่อ"

คุณลิขิตอดขำไม่ได้เพราะรู้ว่าบูมคงกลัวบีมจะน้อยใจ หลายปีมานี้ความทุ่มเทของพ่อกับแม่ดูเหมือนจะมีให้กับบูมมากกว่าพี่ชาย บูมกลัวพี่บีมจะน้อยใจเหมือนกัน ก็ไม่เคยถามหรอกว่าพี่บีมน้อยใจหรือเปล่า แต่ก็เดาเอาว่าพี่บีมคงรู้สึกบ้างไม่มากก็น้อย

"พ่อแม่ก็รักลูกทุกคนนั่นแหละบูม บูมไม่ต้องกังวลหรอก จริงๆ บีมเขามาคุยกับพ่อเรื่องของบูมแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะบีม พ่อก็อาจจะไม่รู้ตัวว่าทำอะไรกับบูมบ้าง พี่บีมเป็นคนมีความคิดดีๆ เยอะเลยนะลูก เมื่อก่อนพ่อไม่เคยภูมิใจที่พี่ชายของบูมไปเรียนศิลปะเลย แต่ศิลปะก็สอนให้บีมเป็นคนละเอียดอ่อน รู้จักคิด รู้จักสังเกต บีมช่วยทำให้พ่อเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่พ่อไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้...พ่อภูมิใจในตัวบีมเหมือนกับที่พ่อก็ภูมิใจในตัวบูม"

"จริงเหรอครับพ่อ"

บูมอดที่จะกอดผู้เป็นพ่ออีกครั้งไม่ได้ ขอบคุณพี่บีมจริงๆ ที่ดีกับน้องชายดื้อๆ มาตลอด ถ้าพี่บีมไม่ช่วยแล้วบูมก็คงแย่เหมือนกัน

"จริงสิลูก อ้อ บูมอย่าลืมพาทิวมาหาพ่อละกันนะลูก ไปกินข้าวกันเถอะ"

"ครับพ่อ"

บูมตอบรับอย่างดีใจ หมดปัญหาไปอีกหนึ่งเปลาะแล้ว ขอบคุณพี่บีมจริงๆ ช่วงนี้บูมไม่ค่อยได้เจอพี่ชายเลย ต่างคนก็ต่างทำงาน แถมบูมยังไม่ค่อยได้อยู่บ้านเพราะทะเลาะกับแม่อีก กลับบ้านเย็นนี้บูมจะต้องไปขอบคุณพี่ชายให้ได้

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

นานเท่าไรแล้วที่ครอบครัวเทพย์สถิตพิทักษาไม่ได้กินข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตาสี่คนพ่อแม่ลูก แต่บีมก็ช่วยทำให้มันเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะขลุกขลักนิดหน่อย แม้ว่าแม่กับบูมจะยังดูไม่ค่อยสนิใจกัน แต่หลายๆ คนก็ดูยิ้มแย้มแจ่มใสดี ยกเว้นคุณทิพย์นภาที่ยังคงบึ้งตึงและเงียบขรึมอยู่

"พ่อครับ ปลาทอดสามรส อร่อยนะครับพ่อ พ่อลองกินดูสิครับ" บีมพูดพลางใช้ส้อมแซะเอาเนื้อปลาใส่จานให้พ่อ

"โห..พี่บีมน่ะ ผมกำลังจะตักปลาตัวนี้ให้พ่ออยู่พอดีเลย ทำไมมาแย่งผมล่ะ" บูมหันไปว่าพี่ชายแต่ก็ไม่จริงจังนัก

"อ้าว...พี่จะรู้ได้ไงล่ะ ก็บูมไม่ได้บอกพี่นี่นา" บีมหันมาแก้ตัว

"งั้นพ่อกินยำถั่วพลูด้วยดีกว่า บูมจำได้ว่าพ่อชอบกิน" บูมพูดแล้วก็ตักยำถั่วพลูให้พ่อบ้าง คุณลิขิตหัวเราะชอบใจที่เห็นลูกๆ แย่งกันเอาใจ

คุณทิพย์นภามองลูกชายสองคนที่แย่งกันเอาใจพ่อด้วยความงุนงง เธอไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ทำให้เธอนึกถึงสมัยที่ลูกๆ สองคนของเธอยังเป็นเด็กได้มากทีเดียว บรรยากาศแบบนี้หายไปนานจนเธอลืมไปแล้วว่าครอบครัวเคยมีความสุขและเสียงหัวเราะอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน

"เอาใจพ่อกันใหญ่เลย ตักให้แม่เขาด้วยสิลูก เดี่ยวแม่เขาน้อยใจ" คุณลิขิตบอกแล้วก็หันไปมองภรรยาที่ยังคงมีสีหน้าเครียดๆ อยู่

บูมกับบีมมองหน้ากันเลิ่กลั่กเหมือนกับจะตกลงกันว่าใครควรจะตักให้แม่ก่อน สุดท้ายบีมก็เป็นคนตักปลาให้แม่เพราะถ้ามัวแต่เกี่ยงกันแม่คงจะน้อยใจแย่

"อร่อยนะครับแม่ ลองกินดูครับ" บีมตักให้พลางยิ้ม

คุณทิพย์นภามองหน้าลูกคนโตที่พยายามเอาใจด้วยความรู้สึกมึนงงเพราะยังปรับตัวไม่ถูก ด้วยความมีทิฐิมานะบวกกับความน้อยอกน้อยใจ เธอก็เลยไม่กินเสียอย่างนั้น

"แม่ไม่กิน แม่ไม่หิว"

"คุณก็...ลูกอุตส่าห์ตักให้" คุณลิขิตหันไปตำหนิภรรยา

เห็นสามีกับลูกๆ กลับมาเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยโดยไม่ทราบสาเหตุ คุณทิพย์นภาก็ยิ่งน้อยใจไปกันใหญ่ ความจริงเธอก็เป็นเพียงแม่ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่อยากให้ลูกๆ เอาใจบ้างเท่านั้นเอง

"ทิพย์ไม่หิวค่ะ ขอตัวนะคะ"

คุณทิพย์นภาพูดจบแล้วก็วางช้อนส้อมลงพร้อมกับเดินหนีไปทันที พ่อลูกสามคนได้แต่มองหน้ากันอย่างงงๆ แล้วพ่อก็หันมาพยักพเยิดให้บูมตามแม่ไป

"ไปสิบูม" บีมสะกิดน้องชายที่ยังนั่งงงอยู่

บูมจึงค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็วิ่งตามแม่ไปตามที่พ่อและพี่ชายแนะนำ บูมทำใจดีสู้เสือแล้วก็เรียกแม่

"แม่...กินข้าวด้วยกันก่อนสิครับ นานๆ เราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตานะครับแม่"

คุณทิพย์นภาหยุดหันมามองลูกชายคนเล็ก ถึงจะรู้สึกดีใจที่ลูกตามมาเอาใจแต่เธอก็ยังมีฟอร์มอยู่ดี

"ฉันไม่กิน"

คุณทิพย์นภากระแทกเสียงแล้วก็เดินขึ้นบันไดไป ก่อนจะหยุดแล้วหันมามองลูกชายคนเล็กที่ยืนหน้าเสียเพราะถูกตวาดอีกครั้ง

"อ้อ...บูมควรจะหาที่เรียนต่อได้แล้วนะ จบโครงการเมื่อไรแม่จะให้บูมไปเรียนเมืองนอก จะได้..."

อยู่ๆ คุณทิพย์นภาก็หยุดพูดเหมือนนึกได้ว่ายังไม่ควรพูดสิ่งนั้นในตอนนี้

"ครับ" บูมรับคำ

พอแม่เดินขึ้นห้องไปแล้วบูมก็เดินหน้าม่อยกลับมานั่งที่เดิม บรรยากาศดูกร่อยไปพอสมควรเพราะตั้งใจว่าจะได้กินข้าวพร้อมกัน เผื่อจะทำให้บรรยากาศในครอบครัวคลายความตึงเครียดลงไปบ้าง แต่แม่ก็เป็นคนมีทิฐิเสียเหลือเกิน

"ให้เวลาแม่เขาอีกหน่อยละกันนะบูม"

พ่อพยายามปลอบใจ รู้สึกสงสารทั้งลูกชายที่โดนแม่ตวาดและสงสารภรรยาที่มัวแต่ยึดมั่นถือมั่นจนทำให้ตัวเองเป็นทุกข์

"ครับพ่อ"

บูมตอบไปโดยที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ยังต้องการเวลาอีกนานแค่ไหน อีกด้านหนึ่ง บูมก็เริ่มรู้สึกผิดที่ทำให้แม่มีสภาพไม่ต่างจากคนที่กำลังตรอมใจ ยังไงแม่ก็ยังเป็นแม่ เป็นไปไม่ได้เลยที่บูมจะมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของแม่ตัวเอง

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

ทิวย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของตัวเองหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว ดูเหมือนบูมก็ยังคงหวาดระแวงอยู่ว่าแม่จะส่งคนมาทำร้ายทิวอีก ทำให้อยู่ไม่เป็นสุขทีเดียว ต้องคอยโทรถามอยู่บ่อยๆ

วันที่กลับมานั้นนอกจากบูมแล้วเอิร์ธกับวิทก็ขอมาส่งทิวที่บ้านด้วย พอเก็บของเสร็จก็พากันออกไปซื้อของที่หน้าปากซอยมากินที่บ้าน อิ่มแล้วเอิร์ธก็เลยขอให้ทิวกับบูมร้องเพลงให้ฟังเสียเลย

"น่า...ร้องให้พวกผมฟังหน่อย ได้ยินว่าเสียงดีแล้วก็เคยเป็นคู่หูดูโอ้กันสมัยเรียนไม่ใช่เหรอ" เอิร์ธคะยั้นคะยอเมื่อเห็นทั้งคู่ยังอิดออด

วิทเดินไปหยิบกีตาร์โปร่งของทิวที่วางไว้ใกล้ๆ กับมุมคีย์บอร์ดมายื่นให้ทิว ก็เท่ากับเป็นการบังคับให้สองหนุ่มร้องเพลงด้วยกันกลายๆ นั่นเอง ทิวรับมาแล้วก็ยิ้มเขินๆ ตอนนี้แขนหายดีแล้วจึงไม่น่าจะมีปัญหาในการเล่น

"ร้องเพลงนั้นเลย ที่เมื่อก่อนร้องด้วยกันบ่อยๆ เพลงอะไรนะ...จำชื่อไม่ได้" เอิร์ธหันไปถามวิทที่นั่งข้างๆ

"ดีใจๆ อะไรสักอย่างนี่แหละ" วิทเดา

"จำได้ใช่ไหมครับ ร้องเลยๆ อยากฟังๆ" วิทช่วยคะยั้นคะยออีกแรง

ทิวกับบูมหันมายิ้มให้กันแล้วก็เริ่มต้นร้องเพลงโดยมีทิวเป็นคนเล่นกีตาร์ บูมเป็นคนร้องและทิวคอยประสานเหมือนเช่นเคย เอิร์ธกับวิทนั่งยิ้มและตั้งใจฟัง เห็นทิวกับบูมร้องเพลงด้วยกัน ยิ้มให้กันหรือสบตากันแล้วบางครั้งสองหนุ่มก็รู้สึกเขินแทน พอจบเพลงแล้วเอิร์ธกับวิทก็ตบมือและชมกันใหญ่

"สุดยอดเลย เดี๋ยวจะเอาขึ้นยูทูบ ไม่ลองทำอัลบั้มคู่กันดูล่ะ ผมว่าดังแน่ๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กเรียนอย่างบูมจะร้องเพลงเก่งขนาดนี้"

เอิร์ธชมพร้อมกับยุไปด้วย ทิวกับบูมยิ้มแก้มแทบปริ แต่ก่อนที่จะพูดอะไรนั้น ทุกคนก็สังเกตเห็นทิวทำสีหน้าอึ้งๆ เหมือนกับเจออะไรบางอย่าง พอหันไปมองตามก็เห็นชายคนหนึ่งยืนฟังอยู่เงียบๆ ข้างหลัง ดูเหมือนว่าจะยืนอยู่ตรงนั้นมาสักพักใหญ่แล้ว

"อ้าวต้อง มาตั้งแต่เมื่อไรวะ" บูมร้องทัก

ต้องมายืนฟังได้สักพักแล้วล่ะ พอดีทิวเปิดบ้านทิ้งไว้ก็เลยเดินเข้ามาเงียบๆ ทุกคนมัวแต่สนใจการร้องเพลงของทิวกับบูมอยู่ก็เลยไม่มีใครเห็น ต้องมองไปที่ทิวแต่ทิวก็หันหน้าหนี บูมสังเกตดูอาการของทั้งสองคนแล้วก็แปลกใจเพราะปกติทิวไม่เคยทำอาการอย่างนี้กับต้องเลย

"ก็...เมื่อกี้นี้แหละ แต่ว่า...ทิวมีแขกใช่ไหม เดี๋ยว...กลับก่อนก็ได้" ต้องบอกด้วยน้ำเสียงประหม่าแล้วก็ทำท่าจะหันหลังกลับ

บูมลุกเดินไปหาแล้วก็เรียกไว้ "เดี๋ยวก่อนสิ ไม่อยู่คุยกันก่อนล่ะ"

"ไม่เป็นไร กูจะกลับแล้ว"

สีหน้าของต้องดูเศร้าเหมือนคนน้อยใจมากทีเดียว บูมและคนอื่นได้แต่มองตามอย่างงงๆ และสงสัย วันนี้ ต้องตั้งใจจะมาขอโทษทิวหลังจากที่หายไปหลายวัน แต่ทิวดูจะโกรธต้องมากเพราะไม่ยอมมองหน้าเพื่อนเลย ยิ่งได้มาเห็นทิวกับบูมร้องเพลงให้เพื่อนอีกสองคนฟังอย่างมีความสุขด้วยแล้ว ต้องก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรอยู่ตรงนี้ หรือจะว่าไปแล้วต้องก็ไม่ควรมาหาทิวอีกเลย

"เป็นไรของมันวะ"

บูมพูดกับตัวเองอย่างงงๆ แล้วก็เดินกลับมานั่งที่โซฟาเช่นเดิม ทิวเองก็ดูแปลกไปเมื่อเจอต้อง เพื่อนมาหาแล้วทิวก็ไม่น่าปล่อยให้เพื่อนกลับไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ คงต้องมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

หลังจากเพลิดเพลินกับการฟังทิวกับบูมร้องเพลงแล้ว เอิร์ธกับทิวก็ยังอยู่ต่อเพราะว่าจะได้ช่วยอัปเดตการทำงานให้ทิวฟัง พร้อมกับถือโอกาสประชุมหารือการทำงานไปด้วยเพราะช่วงนี้เริ่มประชาสัมพันธ์การประกวดการออกแบบทางเท้าและเริ่มมีคนส่งผลงานเข้ามาบ้างแล้ว

จนกระทั่งเกือบสามทุ่ม สองหนุ่มจึงได้กลับไป ทิวกับบูมจึงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังสองคน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วจึงกึ่งนั่งกึ่งนอนคุยกันอยู่บนเตียง

"ทิว...จบโครงการแล้ว เราจะไปเรียนต่อโทที่เมืองนอกนะ"

ทิวได้ยินแล้วก็ใจหาย เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ การจากกันอีกครั้งกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วหรือ

"ทิว...รอเราได้ใช่ไหม ไม่นานหรอก อย่างมากก็ไม่น่าจะเกินสามปี เราจะตั้งใจเรียน เรียนให้จบแล้วก็จะรีบกลับมาเลย"

แม้บูมจะบอกอย่างนั้น แต่ทิวก็รู้สึกไม่มั่นใจเลยเพราะมีลางสังหรณ์บางอย่าง ทิวกลัวเหลือเกินว่าบูมจะจากไปแล้วอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย

เห็นทิวทำหน้าซึมๆ แล้วบูมก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วง

"เราไม่ได้คิดจะทิ้งนายนะทิว เราตอ้งเรียนต่อ ต้องดูแลกิจการของพ่อ ยังไงเราก็ต้องทำให้พ่อกับแม่ นายเข้าใจเราใช่ไหมทิว"

ทิวเข้าใจสิ่งที่บูมอธิบายอยู่แล้วล่ะ ปัญหาคงไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก แต่ทิวก็กลัวใจแม่ของบูมเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นจะกลับมาซ้ำรอยอีกหรือเปล่า

"เราเชื่อใจนายเสมอนะบูม แต่เรากลัว กลัวว่าแม่ของนายจะ..."

บูมรีบเขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆ กับทิวแล้วโอบไหล่ไว้ แม้ว่าจะใจหายสักแค่ไหนที่ต้องจากคนที่รักไปอีกครั้ง ชีวิตของบูมก็คงไม่มีทางเลือกที่ดีได้มากกว่านี้ พ่อกับแม่ให้บูมกลับมาก่อนเพราะอยากให้บูมสร้างโพรไฟล์ให้ตัวเองจากโครงการนี้ พร้อมกับศึกษากิจการที่พ่อทำอยู่ไปพลางๆ ด้วย เมื่อจบโครงการแล้วบูมก็ต้องกลับไปเรียนต่อโทเหมือนเดิม แต่ก็ดีแล้วล่ะที่บูมได้กลับมาทำโครงการ ที่สำคัญ บูมได้กลับมาเจอทิวอีกครั้งเพื่อฟื้นคืนความรักที่เคยหล่นหายไปให้กลับคืนมา

"ทิว...นายรู้ไหมว่าระยะเวลาสี่ปีกว่าๆ มันนานแค่ไหน นายรู้ไหมว่ามันนานพอที่จะทำให้เราลืมใครบางคนได้เลยนะ นานพอที่จะทำให้หัวใจที่บาดเจ็บหายได้ นานพอที่จะทำให้เรารู้สึกห่างเหินกับใครบางคนที่เราเคยรู้จักจนกลายเป็นคนแปลกหน้าได้ เราก็เป็นอย่างนั้นกับคนอื่นๆ นะทิว แต่...ไม่ใช่กับนาย สี่ปีกว่ามันยาวนานก็จริง แต่ก็มันยังไม่นานพอที่จะทำให้เราลืมนายได้ นายรู้ไหมว่าทำไม เพราะเรารักนายมากไงทิว นายคือรักแรกของเรา คือคนที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา คือคนที่พิสูจน์ให้เห็นว่านายรักและดีกับเรามากแค่ไหน เราไม่เคยลืมสิ่งดีๆ ที่นายเคยทำให้เราเลยนะทิว มันอยู่ในใจเราตลอด อยู่ในทุกความคิดถึง อยู่ในทุกลมหายใจ เราอยากให้นายมั่นใจว่า...เราจะกลับมาหานายอย่างแน่นอนถ้าเราไม่เป็นอะไรไปเสียก่อน เราอยากกลับมาใช้ชีวิตที่มีความสุขกับนาย นายเป็นความสุขของเรานะทิว ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน...เราก็ยินดีที่จะฝ่าฟันและกลับมาหาคนที่เรารักให้ได้ ยังไงๆ ก่อนจะจากไปเราก็จะพยายามทำให้พ่อกับแม่เราเข้าใจนายเราสองคนให้ได้"

ทิวกอดบูมตอบด้วยความรู้สึกอุ่นใจที่ได้ยินเช่นนั้น อย่างน้อยก็มั่นใจมากขึ้นว่าพลังดึงดูดของความรักมกจะนำคนสองคนมาเจอกันได้เสมอ เหมือนที่ทิวกับบูมได้กลับมาเจอกันในครั้งนี้ แต่ถ้ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น มันก็คือความจริงที่เราต้องยอมรับ อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด เพราะยังไงแล้วบูมก็ต้องไปเรียนต่อ ทิวไม่สิทธิ์ที่จะกักขังหน่วงเหนี่ยวบูมไว้ไม่ว่าจะรักและหวงแหนมากแค่ไหนก็ตาม

"ทิว...เราถามอะไรหน่อยสิ"

ทิวเงยหน้าขึ้นมองแต่ก็ยังคงกอดบูมไว้อยู่ "อะไรเหรอ"

"นายกับต้อง...มีปัญหาอะไรกันหรือปล่า ไม่รู้สิ เราว่า...วันนี้นายกับต้องดูแปลกไป ไม่รู้เราคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่ว่า...ทำไมวันนี้ต้องมันมาแล้วก็กลับไปเลย ไม่ยอมคุยกับนาย นายก็ไม่คุยกับต้องซักคำ นายสองคนมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าทิว"

ทิวค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งตัวตรง รู้สึกหนักใจเพราะไม่รู้ว่าจะบอกบูมยังไง เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจนแทบจะเป็นเหมือนคนๆ เดียวกันก็ทยิ่งทำให้ทิวรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังบางสิ่งบางอย่าง ในขณะเดียวกันทิวก็ไม่อยากให้บูมรู้และไม่สบายใจ เผลอๆ เรื่องมันอาจจะบานปลายไปกันใหญ่ ถึงจะรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ต้องทำมากแค่ไหน แต่ทิวก็รู้ว่าต้องไม่ได้ตั้งใจ ต้องแค่เมาจนขาดสติเท่านั้นเอง ขอเวลาให้ทิวอีกหน่อยนะต้อง

"นายไว้ใจเราใช่ไหมทิว นายมีอะไรก็บอกเราได้นะ เรายินดีรับฟังทุกอย่าง ถ้านายพร้อมที่จะบอก เราก็อยากฟัง เราสองคนก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคู่รักกันแล้วนะ มีอะไรเราก็ควรจะพูดคุยกันรู้ไหม"

ทิวพยักหน้าตอบรับแต่ก็ยังคงมีสีหน้ากังวลใจอยู่

"เรา...ทะเลาะกันน่ะบูม แต่ว่า...เรายังไม่พร้อมที่จะเล่าให้นายฟังตอนนี้ นายคงไม่ว่าเราใช่ไหม"

บูมยิ้มแล้วก็ดึงทิวมาซบไหล่ตัวเองอีกครั้ง

"แล้วแต่นายละกัน เราไม่บังคับนายหรอก ถ้าพร้อมเมื่อไรนายค่อยบอกเราก็ได้" บูมปล่อยทิวเป็นอิสระแล้วก็พูดต่อ

"จริงๆ แล้ว...ต้องมันชอบนายนะ นายรู้แล้วใช่ไหมทิว"

ทิวหันมาสบตากับบูมอีกครั้ง ยิ้มเศร้าๆ และพยักหน้า

"แต่เรา...ไม่เคยคิดอย่างงั้นกับต้องเลยนะ ต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเรานะบูม แต่ยังไงเราก็รักต้องอย่างงั้นไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันที่จะช่วยให้ต้องเข้าใจ"

แล้วทิวก็ถอนหายใจด้วยความหนักใจ สิ่งที่ทิวบอกนั้นก็พอจะทำให้บูมพอรู้ได้ว่าทิวกับต้องน่าจะมีปัญหากันเพราะเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย

"เรารู้..." บุมหยุดเว้นจังหวะ "นายคงต้องให้เวลาต้องมันหน่อยนะทิว อีกไม่นานต้องก็จะเข้าใจ การตัดใจจากคนที่รักไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอก"

ทิวรู้สึกดีใจที่บูมไม่ได้พูดถึงต้องในทางไม่ดีเมื่อรู้ว่าต้องคิดอะไรกับทิว อย่างน้อยก็ทำให้ทิวรู้ว่าบูมเป็นผู้ชายที่มีสปิริตมาก

"นายหึงหรือเปล่า"

บูมรวบตัวทิวมากอดไว้แล้วก็รีบบอก

"หึงสิ...ทำไมจะไม่หึงล่ะ ก็แฟนเรา...น่ารักขนาดนี้จะไม่หึงได้ยังไงล่ะ จริงไหม" แล้วก็หัวเราะชอบใจเมื่อเห็นทิวยิ้มอายๆ

"ทิว...เรามีข่าวดีจะบอกนาย นายจะต้องแปลกใจอย่างแน่นอน"

"อะไร นายถูกหวยเหรอ"

"บ้าสิ...เราไม่เคยซื้อซะหน่อย" แล้วบูมก็ขำก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น

"พ่อของเราอยากเจอนาย เราก็เลยคิดว่า...วันจันทร์นี้ เราจะพานายไปกินข้าวกลางวันกับพ่อซะหน่อย"

"หมายความว่า...พ่อของนายก็จะ..." ทิวทำหน้าหวาดกลัว นี่พ่อของบูมจะต่อว่าอะไรทิวอีกหรือเปล่าถึงได้อยากเจอ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วทิวคงไม่กล้าไปหรอก แค่แม่ของบูมคนเดียวก็เล่นเอาทิวแทบแย่แล้ว

"ไม่ใช่อย่างงั้น พ่อของเราอยากจะเจอ..." บูมเว้นจังหวะให้ทิวตื่นเต้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเลศนัย "แฟนของลูกชายไง"

"จริงเหรอบูม พ่อนาย...ยอมรับเรื่องนี้ได้แล้วเหรอ" ทิวถามอย่างตื่นเต้น

"อื้อ...ตอนนี้พ่อของเราแล้วก็พี่บีมโอเคกับเรื่องของเราแล้วนะ พี่บีมช่วยไปคุยกับพ่อให้ไง"

"โห...จริงเหรอ พี่ชายของนายคงจะรักนายมากเลยนะบูม พยายามช่วยนายมาตลอดเลย เรายังจำได้...พี่บีมเคยพาพวกเราไปซื้อเสื้อผ้าที่จะขึ้นเวทีร้องเพลง พาไปโยนโบวล์ พาไปเล่นยิงปืน พาไปทำอะไรตั้งหลายอย่างแน่ะ พี่บีมเป็นคนแรกในครอบครัวที่เข้าใจนาย บูมต้องรักพี่บีมให้มากๆ นะ ว่าแต่...พี่บีมชอบกินอะไรล่ะ เดี๋ยวเราพาไปเลี้ยงข้าว เรายอมทุบกระปุกเลยนะบูม"

บูมได้ฟังแล้วก็ขำ "เดี๋ยวเราจะบอกพี่บีมให้ นายหมดตัวแน่งานนี้"

สองหนุ่มยิ้มและหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข บูมเพิ่งรู้จากบีมมาว่าตอนนี้แพรวก็เริ่มจะปล่อยวางและให้อภัยบูมแล้ว บูมเป็นหนี้บุญคุณของพี่ชายมากจริงๆ ส่วนแพรว ถ้าเธอพอทำใจได้แล้วบูมก็จะไปขอโทษและคุยกับเธออีกสักครั้ง อย่างน้อยๆ ก็น่าจะยังพอรักษาความความเป็นเพื่อนกันเอาไว้ได้ ดีกว่าต้องจบกันไปแล้วต่างคนก็ต่างมองหน้ากันไม่ติด

แต่ในบรรดาคนทั้งหมดที่บูมจะต้องเจรจานั้น คงไม่มีใครที่จะยากเกินไปกว่าคุณทิพย์นภา แม่ของบูมเองนั่นแหละ แม่เป็นคนยึดมั่นถือมั่นมาแต่ไหนแต่ไร ยากที่จะยอมง่ายๆ

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

"ทิวใช่ไหม ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับเธอหน่อย วันนี้ตอนกลางวันเธอว่างหรือเปล่า"

เมื่อทิวรับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ สายหนึ่ง เจ้าของเสียงนั้นก็ถามด้วยประโยคนี้ทั้งๆ ที่ทิวยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครโทรมาและคนนั้นมีธุระอะไรที่จะคุยด้วย

"เอ่อ...จากไหนครับ"

"ฉันเป็นแม่ของบูม"

เสียงที่ตอบมาทำให้ทิวเสียวสันหลังวาบ นึกว่าแม่ของบูมจะลดราวาศอกไปบ้างแล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างที่เข้าใจเสียแล้วสิ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทิวกับบูมก็ยังคบกันเป็นปกติ ที่บ้านของบูมก็ดูเหมือนจะรับรู้กันดี แม่ของบูมเองก็เลิกบ่นเลิกว่าลูกชายไปจนใครๆ ต่างก็แปลกใจ นึกว่าคุณทิพย์นภาคงจะทำใจได้แล้วเสียอีก ที่ไหนได้ เธอแค่รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

"คุณแม่จะคุยอะไรกับผมเหรอครับ" ทิวถามเสียงสั่น สีหน้าดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด ถ้าบูมอยู่สำนักงานวันนี้ ทิวคงทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

"ฉันไม่ใช่แม่ของเธอ ไม่ต้องมาเรียกฉันแบบนี้ ตอบฉันมาว่าเธอจะมาคุยกับฉันวันนี้ได้ไหม เรื่องอะไรเดี๋ยวเธอก็รู้เอง อย่าถามมาก"

น้ำเสียงที่ดุดันนั้นทำให้ทิวยิ่งประหม่าเข้าไปใหญ่ "ได้ครับ ที่ไหนครับ"

"ตอนเที่ยงนี้ฉันจะไปรอที่ร้านอาหารฝรั่งเศสละกัน ใกล้ๆ กับที่ทำงานของเธอนั่นแหละ มีอยู่ร้านเดียว ถามคนในออฟฟิศเธอก็ได้ คงจะมีคนรู้จักอยู่หรอก อ้อ...มาคนเดียวล่ะ ห้ามเธอพาใครมาด้วยอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญ...ไม่ต้องไปบอกลูกชายฉันล่ะ"

"ครับ"

ทิวรับคำอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อวางสายแล้วก็ยืนนิ่งด้วยความหวั่นใจและวิตกกังวล คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคุณทิพย์นภาคงไม่ถึงขั้นขอคุยด้วยหรอก สิ่งที่ทิวเคยหวาดกลัวเริ่มส่อเค้าลางที่จะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว แต่จะหนักหนาแค่ไหนนั้น ตอนกลางวันนี้ก็คงจะได้รู้กัน

TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์ชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2015 07:42:22 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

บูมจะจากทิวไปเรียนต่ออีกแระ   ทิวคงต้องเป็นฝ่ายรออีกตามเคย :เฮ้อ:


คุณแม่จะทำอะไรอีกคะ  สงสารทิวบ้างเหอะ :monkeysad:


vi2212

  • บุคคลทั่วไป
พ่อสามีOKแล้ว :m4:....เเต่แม่สามีนี่ซิ :m29:

ออฟไลน์ Cynthia_Moonlight

  • เมื่อไหร่จะพ้นขีดอันตราย =_=+
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
เอาคุณนายทิพย์นภาไปเก็บได้มั้ย... คุณแม่ออกตัวทีไรดราม่ากระจายทุกทีเลยอ่ะ เหอๆ

คิดจะขู่อะไรทิวอีกเนี่ย เดี๋ยวทิวได้เขว่จนได้อ่ะ สงสารเด็กมันบ้างจะได้มั้ย อีโก้สูงไม่มีใครเกิน เฮ้อ...

เตรียมซดมาม่า โฮกกกกกก

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


คุณหญิงแม่จะแกล้งอะไรทิวอ่ะ  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
บีบหัวใจจัง

230

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคับ   o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เหตุการณ์และบรรยากาศในตอนล่าสุดนี้
ขอชมที่ผู้เขียนดึงอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ปมขัดแย้งในใจของตัวละครออกมาได้สมจริงมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ บรรยากาศ และคนในครอบครัวของบูม

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
คลายปมไปเยอะแล้ว  :z2: :z2: เย้ๆ คุณพ่อบูมยังอยากเจอแฟนของลูกชายคนเล็กเลย เหลือก็แต่คุณแม่บูมนี่ละ  :serius2: :เฮ้อ:
แอบเศร้านิดนึง บูมจะไปเรียนต่อโทที่เมืองนอกอีกแล้ววว.... :sad4: :o12: สงสารทิวอ่าาา การรอคอยมันทรมานนะ  :กอด1: ทิว สู้ๆ

คุณแม่บูมนัดทิวออกไปทำอะไรคะ อย่ารังแกทิวอีกเลย ที่ผ่านมาชีวิตของทิวก็เลวร้ายมากแล้ว
 :L2: :L2: :L2: ขอบคุณค่ะ  รอติดตามนะคะ อ่านไปก็ลุ้นตลอดเลย...ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เดาไม่ได้เลยจริงๆ (เดาผิดตลอด 55+)
+1+เป็ด เป็นกำลังใจให้คนแต่งเสมอ  :กอด1:

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
ตามทันแล้วนะคะ

สนุกมากก!
ครบทุกรสชาติ

ถึงมันจะหนักไปทางดราม่าก็ตาม

ติดตามๆต่อค่ะะ เป็นกำลังใจให้นะ :'D

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แม่มดใจร้าย มาอีกแล้ว

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ อ่านถึงตอนเก้าแล้ว
คนเเต่งเเต่งได้ดีมาก อ่านเข้าใจง่าย ไม่ติดขัดเลย
เรามีน้ำตายไหลด้วยนะ เรื่องพ่อแม่บูม
จะตามอ่านเรื่องอื่นๆด้วยค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต (Re-written Version)
CHAPTER 33 ✦ คุณแม่จอมทิฐิ


ช่วงนี้เป็นช่วงปลายของโครงการแล้ว งานของทิวค่อนข้างยุ่งมากเพราะต้องคอยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่ประเคนบรรดาสิ่งกีดขวางต่างๆ หรือที่เรียกว่า street furniture ไม่ว่าจะเป็นตู้โทรศัพท์ ไฟฟ้า ประปา และอื่นๆ อีกมากมายมาไว้บนทางเท้า ทำให้กีดขวางทางสัญจรของผู้ใช้ทางเท้ามากทีเดียว ดีที่ว่างานนี้สำนักงานเขตในพื้นที่ลงมาเล่นและช่วยสั่งการด้วย ทำให้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานเหล่านี้ค่อนข้างดี ปกติการปรับย้ายสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยากมาก ดีที่ได้อาศัยเส้นของพ่อกับแม่ของบูมช่วยดึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตเข้ามาช่วย ทำให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นเป็นกอง

ช่วงหลังๆ มีสื่อมาขอสัมภาษณ์บูมบ่อยๆ แต่บูมก็มักจะให้ทิวหรือเพื่อนๆ ร่วมให้สัมภาษณ์ด้วยเกือบทุกครั้ง ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาภาพของบูมและเพื่อนๆ จึงปรากฏในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี นิตยสาร อินเตอร์เน็ต รายการวิทยุ หนังสือพิมพ์และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะใครๆ ต่างก็ชื่นชมความคิดดีๆ ของเยาวชนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ที่ลุกขึ้นมาทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม การทำงานของพวกเขาจึงได้รับความสนใจมากจนเกินคาด

แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ทิวก็มีความสุขมากที่ได้ทำโครงการนี้ แต่ก็รู้ดีว่าเมื่อโครงการจบ คนที่ทิวรักมากที่สุด เป็นที่พึ่งพิงทั้งทายกายและใจเพียงคนเดียวตลอด หนึ่งปีเศษๆ ที่ผ่านมาจะต้องจากไปเรียนหนังสือต่อแล้ว แต่ทิวก็คิดว่ากยังพออยู่ได้ มีเงินเหลือเก็บจากการทำงานโครงการราวๆ สองแสนบาท ก็น่าจะช่วยทำให้ทิวเรียนจนจบและมีงานทำในช่วงที่บูมไม่อยู่ได้ ทิวไม่มีปัญหาที่จะรอหรอก แต่คุณทิพย์นภากำลังคิดจะทำอะไรหนอ ทิวรู้สึกกลัวเหลือเกิน

ทิวเดินเข้ามาในร้านอาหารตามที่นัดหมายแล้วก็มองหาคนที่นัดไว้ ไม่นานก็เห็นคุณทิพย์นภานั่งรออยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ก็ดูถมึงทึงอยู่ตรงมุมห้องด้านในสุดเพราะเธอต้องการคุยในที่เงียบๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดภาคเรียน เธอก็เลยมีเวลาอยู่บ้านมากหน่อย แต่ก็ยังคงมีประชุมและงานอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่มหาวิทยาลัย

"นั่งสิ"

คุณทิพย์นภาพูดโดยไม่หันมามอง เมื่อทิวนั่งลงตรงหน้าจึงได้สังเกตดูหน้าตาผิวพรรณของทิว ทิวไม่ใช่คนที่ขาวมากนัก แต่ก็ไม่คล้ำ หน้าตาก็ถือว่าหล่อเหลาทีเดียว แต่ก็แปลกใจที่ทิวไม่มีท่าทางอรชรอ้อนแอ้นอย่างที่เธอเข้าใจ ก็ดูเหมือนผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคนที่รูปร่างหน้าตาแบบนี้ถึงได้เป็นเกย์กันไป ได้ แล้วจะให้มั่นใจได้ยังไงว่าผู้ชายที่เห็นในสมัยนี้จะไม่เป็นแบบนี้กันบ้าง คิดแล้วก็น่ากลัว

"กินอะไรมาหรือยัง อยากกินอะไรก็สั่ง"

ทิวหยิบเมนูอาหารมาดูด้วยท่าทางประหม่าแล้วก็สั่งกาแฟเพียงถ้วยเดียวไป ใครจะไปกินลงล่ะ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพูดอะไรแต่ละทีก็ทำให้ทิวแทบจะลืมหายใจ ท่าทางก็ไม่เป็นมิตรจนทิวแทบไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าด้วยซ้ำ บรรยากาศมันดูอึดอัดเสียจนทิวอยากจะลุกหนีไปเลยถ้าทำได้

"เอาล่ะ...มาเข้าเรื่องกันดีกว่า" คุณทิพย์นภาพูดพลางจ้องหน้าทิวเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

"เธอรู้ใช่ไหมว่าบูมเขาเกิดมาในครอบครัวแบบไหน อยู่ในสังคมแบบไหน แต่ดูท่าทางเธอก็คงจะฉลาดอยู่...ก็คงจะรู้"

แค่เริ่มเรื่องทิวก็พอจะรู้แล้วว่าคุณทิพย์นภาต้องการอะไร ไม่ได้ผิดจากที่คิดไว้เท่าไหร่

"บูมเขาเป็นความหวังและอนาคตของครอบครัว เขาจะต้องมาดูแลกิจการแทนพ่อ ช่วยทำให้บริษัทของเราเจริญเติบโตต่อไป เขาจะเป็นที่เคารพยำเกรง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในสังคม และที่สำคัญ ฉันก็อยากให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ ซักคนและมีลูกหลานสืบสกุลต่อไป แต่เธอรู้ไหมว่า...สิ่งที่ฉันพูดมาทั้งหมดมันจะพังลงทันที...เพราะเธอ"

คุณทิพย์นภาเน้นเสียงสองคำสุดท้ายหนักแน่นพร้อมกับจ้องหน้าทิวเขม็ง ทิวแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะยกกาแฟขึ้นมาจิบ

"ในฐานะที่ฉันเป็นแม่ เธอรู้ไหมว่าฉัน...เจ็บปวดใจแค่ไหนที่ต้องรับรู้ว่าลูกชายของฉัน...มีแฟนเป็นผู้ชาย ตลอดระยะเวลาที่บูมเขากลับมาหาเธอ ฉันเป็นทุกข์มากแค่ไหนเธอรู้ไหม เธอคงไม่รู้หรอก...เพราะเธอไม่เคยเป็นแม่ แต่ฉันจะบอกเธอว่า...ฉันเจ็บปวดใจทุกครั้งเวลาที่บูมมาหาเธอ เวลาที่พ่อแม่คนอื่นๆ ถามถึงบูมว่ามีแฟนหรือยัง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบคนอื่นว่ายังไง เธอรู้ไหมว่าฉันรู้สึกยังไงเวลาที่เห็นลูกชายคนอื่นๆ แต่งงานมีครอบครัว มีลูกสืบสกุล เป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆ เธอลองคิดดู...ถ้าวันหนึ่งเขาเป็นประธานบริษัทแล้วคนอื่นๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ ใครจะเคารพเขา นี่ยังไม่นับญาติพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงและคนที่เรารู้จัก ฉันคงรับไม่ได้หรอกถ้าหากลูกชายของฉันต้องโดนล้อหรือถูกซุบซิบนินทาว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วถ้าเขาแก่ตัวลง เขาก็จะไม่มีลูกหลานมาคอยดูแลเหมือนคนอื่นๆ ฉันคงปล่อยให้ลูกฉันมีชีวิตแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ"

คุณทิพย์นภาเว้นจังหวะเพื่อหยุดดูปฏิกิริยาของทิว เมื่อเห็นทิวก้มหน้าไม่พูดไม่จาเธอก็พอจะเดาได้ว่าทิวกำลังถูกต้อนเข้าไปในมุมที่เธอต้องการแล้ว

"ฉันมั่นใจนะว่าเธอ...รักลูกชายของฉันจริง ถ้าเธอเป็นผู้หญิงฉันก็อาจจะไม่ขัดข้อง ถึงแม้เธอจะไม่ได้มาจากครอบครัวผู้ดีอะไรนักก็เถอะ แต่เมื่อเธอเป็นแบบนี้ ฉันพูดตรงๆ ว่า...ฉันรับไม่ได้หรอก ฉันคิดว่าเธอคงจะเข้าใจนะว่าทำไม"

น้ำตาของทิวค่อยๆ ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่มีคำพูดใดๆ ที่จะโต้แย้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไรอยู่ แม้จะเคยผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมาย แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าจะมีครั้งไหนที่จะทำให้ทิวรู้สึกถึงความต่ำต้อยด้อยค่าได้เท่ากับครั้งนี้เลย

"เธอควรจะรู้ไว้ซะบ้างว่าเธอ...ไม่มีอะไรคู่ควรกับเขา ไม่มีแม้แต่นิดเดียว ถ้าบูมอยู่กับเธอเขาก็จะไม่มีอนาคต จะไม่มีใครยอมรับและเคารพเขา เธอรู้ไหมว่าความรักของเธอกำลังทำลายอนาคตเขาอยู่"

หากไม่ติดว่าอยู่ในร้านอาหาร คุณทิพย์นภาคงพูดเสียงดังมากกว่านี้ แต่ถึงกระนั้น คำพูด ท่าทางและน้ำเสียงของเธอก็เล่นเอาคนฟังใจเสียจนไม่เหลือแล้ว

กรามที่นูนเด่นออกมาทั้งสองข้างทำให้ทิวรู้ว่าคุณทิพย์นภารู้สึกโกรธเกลียดคนที่อยู่ตรงหน้ามากแค่ไหน น้ำตาของทิวไหลพรากอาบแก้มทั้งสองและสะอื้นอย่างน่าสงสาร แต่คุณทิพย์นภาก็ไม่ลดละเพราะเธอรู้ว่าทิวกำลังเพลี่ยงพล้ำจึงต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์

"ถ้าเธอรักเขาจริง เธอก็ไม่ควรทำลายอนาคตของเขา เธอมีลูกให้เขาไม่ได้ เป็นภรรยาที่เชิดหน้าชูตาให้เขาหรือครอบครัวของเราไม่ได้ นี่คือความจริงที่เธอต้องเข้าใจ เธอไม่ควรจะเห็นแก่ตัว ได้ยินไหม เธอไม่ควรจะเห็นแก่ตัว ถ้าเธอรักเขาเธอก็ต้องปล่อยให้เขาไปมีอนาคต อนาคตที่เกย์จนๆ อย่างเธอไม่มีทางให้เขาได้ เธอกำลังเห็นแก่ตัวอยู่รู้ไหม เธออย่าใช้ความรักของเธอทำลายคนอื่น ถ้าเธอรักลูกชายของฉัน เธอก็ต้องปล่อยให้เขาไปมีอนาคตที่ดีกว่าจะอยู่กับเธอ เข้าใจไหม เธอต้องปล่อยเขาไป"

คุณทิพย์นภาหวดกระหน่ำไม่ยั้งอย่างไม่ปราณีปราศรัยเพื่อที่จะตอกย้ำให้ทิวรู้สึกผิดว่าความรักของทิวกำลังทำลายอนาคตของลูกชายเธออยู่ ก็ได้ผลดีทีเดียว

ทิวใช้มือสองข้างปิดหน้าแล้วก็ปล่อยโฮ แม้คุณทิพย์นภาจะรู้สึกสงสารอยู่บ้างแต่เธอก็ไม่คิดที่จะหยุดเล่นงานทิว ยังไงลูกชายของเธอก็สำคัญกว่า ต่อให้ทิวขาดใจตายตรงหน้าเธอก็หยุดไม่ได้ อย่าหาว่าเธอใจร้ายเลยละกัน เพื่ออนาคตของลูกเธอทำได้ทั้งนั้นแหละ

"ที่ฉันเรียกเธอมาคุยด้วยวันนี้ เพราะฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องเธอ แต่ก่อนที่ฉันจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ ฉันก็อยากให้เธอเข้าใจฉันว่า...ฉันก็เป็นแค่แม่คนหนึ่งที่รักลูกของฉัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ที่ฉันทำทั้งหมด...ก็เพื่ออนาคตของลูก มันอาจจะเป็นสิ่งที่เธอไม่มีวันเข้าใจจนกว่าเธอจะมีลูกเสียเอง"

ทิวเงยหน้าขึ้นมองแม่ของบูมด้วยคราบน้ำตาเต็มหน้า พยายามสะกดกลั้นที่จะไม่ร้องไห้เพื่อที่จะฟังสิ่งที่คุณทิพย์นภากำลังจะบอก

"เช็ดซะ" คุณทิพย์นภาพูดพลางหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้ทิว ทิวรับมาแล้วก็ซับคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าแต่ก็ดูเหมือนจะช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่

เมื่อเห็นทิวพร้อมที่จะฟังคุณทิพย์นภาก็บอกสิ่งที่เธอต้องการทันที

"ฉันอยากจะขอร้องให้เธอ...เลิกติดต่อกับลูกชายของฉัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ถ้าเขาไปเรียนต่อแล้ว เธอจะต้องไม่ติดต่อเขาอีก ฉันให้เวลาเธอได้อยู่กับลูกชายของฉันถึงแค่วันที่เขาจะเดินทางเท่านั้น ตอนนี้เธอสองคนอยากจะทำอะไรก็ทำไป แต่หลังจากนี้ อย่าให้ฉันรู้นะว่าเธอติดต่อลูกชายฉันอีก หวังว่าเธอจะเข้าใจและเห็นใจครอบครัวของเราละกัน ปล่อยบูมไปซะเพื่ออนาคตของคนที่เธอรัก เธอทำได้ไหม เธอสัญญากับฉันได้ไหม"

เหมือนหัวใจของทิวถูกฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ คำขอร้องที่ไม่ต่างจากคำขู่นั้นได้ฆ่าทิวให้ตายทั้งเป็นเสียแล้วตอนนี้ แล้วทิวจะทำอะไรได้ บูมป็นลูกชายของผู้หญิงคนนี้ ทิวเป็นเพียงคนอื่นที่เข้ามาภายหลัง ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำลายอนาคตของคนที่เรียกได้ว่าเป็นแก้วตาดวงใจของครอบครัวนี้หรอก

ทิวเดินออกมาจากร้านนั้นราวกับชีวิตได้หลุดลอยไปจากตัวแล้ว โลกทั้งโลกเงียบงันและว่างเปล่าแม้จะมีคนเดินผ่านไปมาอยู่รอบตัว ฝนฟ้าข้างนอกเริ่มตกและกระหน่ำเทลงมาราวกับฟ้าถล่ม ฝนฟ้าคงอยากจะช่วยปลอบใจทิวบ้างจึงได้ร้องไห้เป็นเพื่อน ทิวเดินตากฝนไปโดยไม่รู้สึกถึงความเหน็บหนาว ไม่สนใจที่จะหยุดพักหรือหลบฝน ไม่มีจุดหมาย ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปอีกนานแค่ไหน แต่ก็เดินไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็มาถึงที่ทำงานแล้ว

"ทิว...ไปไหนมา ทำไมตัวเปียกแบบนี้ล่ะ" เอิร์ธถามด้วยความแปลกใจพลางลุกจากโต๊ะแล้วเดินมาหาทิว

"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม เปียกหมดเลย เดี๋ยวผมไปเอาเสื้อในรถมาให้นะ"

ก่อนที่เอิร์ธจะวิ่งออกไปทิวก็ทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงแล้วก็ร้องไห้อย่างสุดกลั้น แม้ไม่อยากใช้เวลางานกับเรื่องส่วนตัวแต่ทิวก็ไม่ไหวแล้ว จากนั้นก็ไม่สามารถที่จะพูดคำใดออกมาได้นอกจากร้องไห้ ร้องแล้วก็ร้องอีก

"ทิว...นายเป็นอะไร" เอิร์ธนั่งลงข้างๆ พลางถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง อยู่ดีๆ ทิวก็กลับมาด้วยสภาพแบบนี้แล้วก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ไม่พูดไม่จา

"จะให้เราโทรหาบูมไหม เดี๋ยวเราจะบอกให้บูมมาเดี๋ยวนี้เลย" เอิร์ธเสนอ แต่ทิวก็รีบยกมือห้ามไว้พร้อมกับส่ายหน้า

เห็นแล้วเอิร์ธก็ได้แต่สงสาร ทำได้เพียงเอามือแตะไหล่และพูดให้กำลังใจเพราะคิดว่าคงไม่สามารถทำอะไรมากกว่านี้ได้ ทิวไม่อยู่ในสภาพที่จะรับฟังเรื่องใดๆ เลย

"ใจเย็นๆ นะทิว ทำใจให้สบายนะ นายจะกลับบ้านก่อนไหม ไปพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวเย็นๆ เราไปรับมาอีกที"

ไม่มีเสียงตอบใดๆ จากทิว เย็นนี้บูมว่าจะเข้ามาที่สำนักงานเพราะจะต้องเริ่มทำรายงานส่งแหล่งทุน มีเวลาเหลือเพียงเดือนเดียวเท่านั้นที่จะทำรายงานให้เสร็จก่อนจะไปเรียนต่อที่เมืองนอก ทีมงานจึงวางแผนกันว่าจะอยู่ดึกหน่อยเพื่อช่วยบูมทำรายงานให้เสร็จ

เมื่อเห็นทิวไม่ตอบเอิร์ธจึงคิดว่าไม่ควรจะรบกวน ปล่อยให้ทิวสงบสติอารมณ์ด้วยตัวเองคงจะดีกว่า

"เดี๋ยวเราลงไปเอาเสื้อผ้าในรถเรามาให้เปลี่ยนนะ ทิวรออยู่นี่แหละ" บอกแล้วเอิร์ธก็เดินออกไปแต่ก็ไม่วายหันมามองอย่างเป็นห่วง

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

"เฮ้ยบูม...ทิวเป็นไรไม่รู้ เห็นหายไปเมื่อตอนเที่ยงๆ กลับมาอีกทีก็ตัวเปียกไปหมด แล้วก็เอาแต่ร้องให้ ผมถามอะไรเขาก็ไม่พูด"

เอิร์ธตัดสินใจโทรไปบอกบูมขณะที่เดินลงมาเอาเสื้อผ้าที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ตอนนี้คงมีคงมีแต่บูมเท่านั้นที่จะช่วยทิวได้

"จริงเหรอเอิร์ธ รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทิวร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรทิว"

บูมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ตอนนี้บูมออกมานำเสนองานกับลูกค้าสำคัญข้างนอกพร้อมกับพ่ออยู่ ปกติพ่อจะไม่ค่อยมานำเสนองานเองเท่าไร แต่คราวนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่น่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นมากพ่อจึงต้องมาด้วย

"ผมไม่รู้จริงๆ เห็นหายไปเกือบชั่วโมง พอกลับมาก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้ยังนั่งร้องไห้ในออฟฟิศอยู่เลย บูมมาดูหน่อยละกัน ทิวไม่ยอมพูดอะไรเลย เราไม่รู้จะปลอบใจยังไงแล้ว สงสัยว่าจะเสียใจมาก...แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร อ้อ...บูมอย่าบอกนะว่าผมโทรมาบอกบูมเรื่องนี้ ผมถามทิวว่าจะให้ผมโทรมาบอกบูมไหม เขาก็ยกมือห้าม เหมือนเขาไม่อยากให้บูมรู้"

บูมรับคำแล้วก็วางโทรศัพท์ลงด้วยความรู้สึกมึนงง นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้ทิวเสียใจถึงขนาดนั้น ที่ผ่านมาก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแล้วนี่นา แม่ก็ดูเงียบๆ ไป ไม่ค่อยมากดดันมากเหมือนก่อน พ่อก็ยอมรับทิวได้แล้ว เมื่อหลายเดือนก่อนที่บูมพาทิวมากินข้าวกับพ่อ ก็เห็นพ่อพูดคุยกับทิวได้โดยไม่มีปัญหา แถมพ่อยังบอกให้พาทิวมาหาบ่อยๆ ด้วย เพียงแต่ไม่เคยพาทิวไปที่บ้านเท่านั้นเอง

หรือว่าจะเป็นต้อง เห็นทิวบอกว่าต้องหายไปหลายเดือนแล้ว ถ้างั้นก็ไม่น่าจะใช่ต้องแล้วล่ะ หรือว่าจะเป็นแพรว แต่แพรวก็จากไปด้วยดีแล้วพร้อมกับยกเลิกการฟ้องร้องไปด้วย ก็ไม่น่าจะมาทำอะไรกับทิวอีก แล้วทิวกำลังเสียใจเรื่องอะไรกันจนต้องร้องไห้ในที่ทำงาน แม่หรือเปล่า...

แม่ไปทำอะไรทิวหรือเปล่า...

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

กว่าบูมจะมาถึงออฟฟิศก็เกือบสี่โมงเย็น ถึงจะเป็นห่วงทิวมากแค่ไหนแต่ก็ต้องรับผิดชอบงานสำคัญไว้ก่อน บูมก็พยายามเร่งอย่างเต็มที่แล้ว พอนำเสนองานกับลูกค้าและซักถามกันเรียบร้อยแล้ว บูมก็รีบขออนุญาตพ่อมาหาทิวทันที โชคดีที่พ่อเข้าใจจึงไม่มีปัญหาอะไร

พอมาถึงก็เห็นทิวนั่งทำงานเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยิ้มให้บูมอีกตอนที่เดินเข้ามาในออฟฟิศ

"อ้าวบูม...ทำไมมาไวจังล่ะ ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยไม่ใช่เหรอ"

บูมยังคงหน้าตาตื่น เห็นทิวแล้วก็ปรี่เข้าไปหาที่โต๊ะทำงานทันที

"นายเป็นอะไรหรือเปล่าทิว ใครทำอะไรนาย" บูมถามแล้วก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ

ทิวทำหน้าสงสัยพลางมองไปที่เอิร์ธ บูมรู้ได้ยังไงว่าทิว "เป็นอะไร" เพราะทิวเป็นคนบอกเอิร์ธเองว่าไม่ต้องโทรหาบูม เหมือนบูมจะรู้ว่าพลาดไปแล้วจึงรีบพูดกลบเกลื่อน

"อ๋อ...พอดีเราเลิกงานเสร็จเร็วน่ะ ก็เลยรีบมา ไม่มีอะไรหรอก พอดีเห็นนายนั่งหน้าเครียดก็เลยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า"

เอิร์ธจึงรอดตัวไป แต่ถึงทิวจะรู้ว่าเอิร์ธบอก ทิวก็คงไม่ว่าอะไรเอิร์ธหรอกเพราะทิวไม่ชอบมีเรื่องกับใคร

ทิวได้แต่ยิ้ม แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่แฝงความเศร้าไว้จนพอรู้สึกได้ ทำให้บูมพอจะเดาได้ว่าทิวคงมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ยังไม่อยากบอกตอนนี้

"กินอะไรมาหรือยัง เอาโกโก้เย็นสักแก้วไหม เดี๋ยวเราทำให้ เอิร์ธด้วย เอาไหม"

อารมณ์ของทิวที่เปลี่ยนไปราวกับว่าไม่ได้เป็นอะไรเลยทำให้บูมกับเอิร์ธออกจะงงๆ มากทีเดียว บูมไม่ได้คิดว่าเอิร์ธโกหกหรอก บูมอยู่กับทิวมานานจึงพอรู้ว่าทิวยังไม่พร้อมที่จะบอกเท่านั้นเอง

"ก็ดีเหมือนกัน เอาเหมือนเดิมเลยนะ" บูมบอกแล้วก็หันไปมองเอิร์ธเพราะต่างก็ไม่เข้าใจทิวด้วยกันทั้งคู่

"เหมือนบูมก็ได้"

เอิร์ธบอกด้วยสีหน้างงๆ ไม่แพ้กัน เมื่อกี้ทิวยังร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่เลย พอเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาก็กลับมานั่งทำงานเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ทำไมทิวจะไม่เสียใจล่ะ แต่ทิวคิดว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ ทิวอยากจะอยู่ดูแลบูมและทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำอีกแล้ว การที่คนอย่างทิวได้มาเจอผู้ชายดีๆ คนนี้ ได้รักกัน ได้อยู่ในอ้อมแขนที่แสนอบอุ่นในยามหลับไหล ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันและทำอะไรร่วมกันอีกมากมายก็นับว่าโชคดีมากแล้ว คนอีกหลายคนยังต้องวิ่งวนไขว่คว้ากว่าจะได้เจอรักแท้สักครั้งในชีวิต บางคนไม่เจอเลยด้วยซ้ำ ทิวรู้ว่าความรักที่ได้มาจากบูมครั้งนี้คือรักแท้ แค่นี้ก็น่าจะมากเกินพอที่คนอย่างทิวจะได้มาแล้ว แล้วจะเรียกร้องอะไรอีกในเมื่อทิวก็ไม่คู่ควรกับบูมเลยสักนิดเดียว ไม่ควรจะได้สิ่งนี้มาตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้น...ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ให้คุ้มค่าเถอะ อย่ามัวแต่คร่ำครวญ เสียใจและเรียกร้อง เท่ากับเป็นการปล่อยเวลาให้เสียไปโดยไร้ประโยชน์ นายไปมีอนาคตที่ดีเถอะนะบูม โลกของเราสองคนมันต่างกันเหลือเกิน เราคงทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ แต่มันก็เป็น "แค่นี้" ที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของเราแล้วล่ะ

ตกเย็น วิท ลีน่าและแอนเดอร์สันก็มาสมทบด้วย บูมนั่งพิมพ์งานอย่างเอาเป็นเอาตาย คนอื่นๆ ก็คอยหาข้อมูลที่บูมต้องการให้ เอิร์ธกับแอนเดอร์สันช่วยรวบรวมภาพกิจกรรมแล้วก็เอามาตกแต่งให้สวยงาม วิทช่วยรวบรวมข้อมูลและข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งหมด ลีน่าช่วยสรุปข้อมูลด้านการเงิน ส่วนทิวกับบูมก็ช่วยกันเขียนสรุปข้อมูลการทำงานและผลจากการทำงานทั้งหมดลงในรายงาน เนื่องจากผลงานมีค่อนข้างมาก คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ในการรวบรวมเป็นรายงานให้เสร็จสมบูรณ์

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

กลับมาถึงบ้านก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว พอหัวถึงหมอนบูมก็ร้องครางเพราะนั่งนานจนรู้สึกปวดหลัง

"เรานวดไหล่ให้นะ นายลุกขึ้นก่อน"

ทิวบอกพลางลุกขึ้นนั่ง บูมก็ลุกขึ้นนั่งตามและหันหลังให้ทิวอย่างว่าง่าย ทิวค่อยๆ นวดเบาๆ ก่อนแล้วจึงค่อยเพิ่มแรงทีหลัง เห็นบูมนั่งสบายๆ และผ่อนคลายแล้วก็แอบยิ้มเศร้าๆ กับตัวเอง อีกไม่นานนี้ทิวคงไม่มีโอกาสทำอย่างนี้ให้คนที่รักอีกแล้ว

"พอแล้ว เราหายเมื่อยแล้ว นายเมื่อยหรือเปล่าทิว เดี๋ยวเราช่วยนวดให้"

"ไม่เป็นไร ยังไม่ค่อยเมื่อยหรอก วันนี้นายคงเหนื่อยน่าดูเลย"

"อืม...ช่วงนี้คงต้องเหนื่อยหน่อย เราต้องทำรายงานเสร็จให้ทันก่อนไปเรียนต่อ ไม่งั้นจะโดนแบล็คลิสต์"

ทิวสวมกอดบูมไว้จากข้างหลังแล้วก็ซบลงบนไหล่ คิดถึงเรื่องเมื่อกลางวันนี้แล้วทิวก็รู้สึกใจหาย

"บูม...เราขอบคุณนายมากนะที่กลับมาหาเรา นายรู้ไหมว่า...ตลอดเวลาที่นายอยู่ด้วยเรามีความสุขมากแค่ไหน เราไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้...วันที่นายกลับมาหาเราอีกครั้ง วันที่เราได้รักกัน...ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนคนรัก เราโชคดีที่สุดเลยที่คนอย่างเรา...มีโอกาสได้รักนาย"

น้ำเสียงของทิวดูเศร้าๆ ชอบกล บูมกลับคิดไปว่าทิวคงเศร้าเพราะอีกไม่นานบูมก็จะไปเรียนต่อเมืองนอกแล้ว นั่นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่บูมไม่รู้หรอกว่าทิวเศร้ายิ่งกว่านั้นอีก เพราะทิวคงจะไม่ได้เจอบูมอีกแล้ว คราวนี้...คงต้องจากกันจริงๆ แล้วล่ะ จากกันไปจนกว่าจะตายจากกัน

"เราก็ดีใจมากรู้ไหมทิวที่เราได้กลับมาหานาย ขอบคุณนายมากนะที่รอเราอยู่ นายเป็นรักแรกของเรา เป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเรา เรารักนายนะทิว"

"เราก็รักนาย"

ทิวบอกแล้วก็กอดบูมแน่นขึ้น พยายามอย่างมาทีเดียวที่จะสะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้ บูมกุมมือทิวไว้ตรงหน้าท้องของตัวเอง ต่างคนต่างเงียบไปสักพัก ปล่อยให้สัมผัสทางกายได้ทำหน้าที่แทนคำพูดบ้าง บางทีมันก็ทำหน้าที่ได้ดีกว่าคำพูดด้วยซ้ำไป

"นอนเหอะทิว ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า" บูมบอกเสียงเบา

ทิวจึงรู้สึกตัว ปล่อยมือจากบูมแล้วต่างคนต่างก็ค่อยๆ ล้มตัวลงนอน

"ให้เรากอดนายบ้างนะ" ทิวบอกแล้วก็กอดบูมไว้โดยไม่รอให้บูมตอบรับเสียก่อน

บูมยิ้มแล้วก็ขำ

"วันนี้ทิวดูแปลกๆ นะ"

ปกติบูมจะชอบนอนกอดทิวแล้วก็หลับไป วันนี้ทิวคงอยากเปลี่ยนบทบาทบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พอถูกกอดบ้างบูมก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน จนกระทั่งบูมนอนหลับเพราะความเหนื่อยไปแล้ว ทิวกลับยังนอนไม่หลับแถมยังร้องไห้คนเดียวเงียบๆ นานทีเดียวกว่าความเหนื่อยอ่อนจะทำให้ทิวนอนหลับไปอีกคน

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

"บูม...แม่เป็นไรไม่รู้ ไม่ยอมลงมากินข้าวกินปลาเลย เหมือนจะไม่สบายด้วย พี่จะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป เอาข้าวขึ้นไปให้แม่ก็ไม่ยอมกิน บูมทะเลาะกับแม่หรือเปล่า"

บูมออกจะแปลกใจมากทีเดียวกับเรื่องที่พี่ชายโทรมาบอก ทิวเพิ่งมีอาการแปลกๆ ไปเมื่อไม่กี่วันนี้ ตอนนี้แม่ก็ทำตัวแปลกๆ ไปอีกคนโดยไม่มีสาเหตุ

"ไม่นี่ครับพี่บีม หลังๆ นี้ผมไม่ได้ทะเลาะกับแม่เลยครับ" บูมตอบแล้วก็เดินออกจากโต๊ะทำงานไปคุยตรงที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่่าน

"เหรอ...เอ...แล้วแม่เขาเป็นอะไร หรือว่าทะเลาะกับพ่อ"

"ไม่นี่ครับ ก็เห็นพ่อกับแม่คุยกันปกตินะครับพี่ เอ...ว่าแต่ว่า แม่เขาไม่ยอมกินข้าวแล้วก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาลท่าเดียวเลยเหรอครับ"

"ใช่ พี่ว่ามันแปลกๆ นะบูม พี่เห็นแม่ซึมๆ ยังไงไม่รู้ พี่ถามอะไรแม่ก็ไม่ค่อยพูด บอกแค่ว่าไม่หิว ไม่กิน ไม่ไปไหนทั้งนั้น อยากอยู่คนเดียว"

"เหรอครับ แปลกจังเลย แล้วพี่บอกพ่อหรือยังครับ" บูมถามถึงพ่อเพราะวันนี้บูมอยู่ที่ทำงานเดียวกับทิว

"ยังเลย เดี๋ยวพี่ลองถามพ่อดูก่อนละกัน เผื่อพ่อจะรู้ว่าแม่เป็นอะไร เดี๋ยวพี่อยู่ดูแลแม่เองนะบูม บูมทำงานไปก่อน วันนี้พี่ไม่มีงานที่ไหน ถ้ามีอะไรแล้วพี่จะโทรหาบูมนะ"

"ครับพี่บีม ฝากดูแลแม่ด้วยนะครับ เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะกลับบ้าน"

พอวางสายแล้วบูมก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทำไมอยู่ดีๆ แม่ถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ แม่ไม่ได้ทะเลาะกับใครเลย ไม่ว่าจะเป็นบูมเอง พี่บีมหรือพ่อ

ผ่านไปสามวันแล้วคุณทิพย์นภาก็ไม่ยอมลุกขึ้นมากินข้าว ไม่ยอมไปหาหมอ ไม่ยอมออกจากห้อง ไม่ว่าใครจะพูดหรือโน้มน้าวยังไงก็ไม่ไป ไม่ว่าจะเป็นพ่อ บีมหรือบูม ทุกคนต่างโดนไล่ตะเพิดออกมาจากห้องของแม่ทั้งนั้น คนรับใช้ก็โดนฤทธิ์เดชไปด้วย ทำให้ทุกคนในบ้านกลุ้มใจเป็นอย่างมาก คุณทิพย์นภาเริ่มผ่ายผอมลงอย่างเห็นได้ชัด หากปล่อยไว้อย่างนี้คงได้เกิดโศกนาฎกรรมขึ้นในบ้านอย่างแน่นอน

บีมเห็นท่าจะไม่ดีจึงใช้วิธีอุ้มแม่ลงมาจากบ้านแล้วพาไปส่งโรงพยาบาลท่ามกลางเสียงร้องโวยวายของคุณทิพย์นภา

"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน รักพ่อของแกมากก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ปล่อยให้ฉันตายไปเลย ฉันไม่ไป ปล่อยแม่ลงเดี๋ยวนี้นะบีม ปล่อยแม่เดี๋ยวนี้"

บีมไม่ได้ทำตามอย่างที่แม่โวยวาย บูมเปิดประตูรถรอไว้อยู่แล้ว พ่อนั่งตรงที่นั่งคนขับรออยู่ พอบีมพาแม่เข้าไปในรถได้ บีมก็เข้าไปนั่งด้านหลังกับแม่ บูมนั่งหน้าแล้วพ่อก็ขับรถออกไปทันที นั่นแหละจึงทำให้คุณทิพย์นภาหมดฤทธิ์และยอมไปหาหมอจนได้ แต่ก็เล่นก็เอาเหนื่อยและเครียดไปตามๆ กัน

TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์ชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2015 07:44:14 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
อ๋อย~จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเนี่ย แค่นี้ก็สงสารทิวมากแล้วนะ :monkeysad:

ตอนนี้พี่บีมเป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ o13

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีใครช่วยอาจารย์ทิพย์นภาเธอได้หรอกนะ เพราะเธอมีทิฐิเปี่ยมล้นในใจ เธอไม่ยอมปล่อยว่งอะไรสักอย่าง
เธอป่วยใจ และกำลังเรียกร้องความสนใจ เธอทำตัวเป้นเด็กขี้อิจฉาด้วยนะนี่ สงสรลูกๆและสามีเธอจัง
แต่ที่สงสารที่สุดก็ทิวนี่แหละ ไม่รู้เมื่อไรท้องฟ้าของทิวจะเป็นสีทองผ่องอำไพเสียที
นี่คนเขียนก็ให้เตรียมใจไว้ช็อกอีกในตอนหน้าOMG

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เขียนตอนต่อไปเสร็จแล้ว อีกวันสองวันจะเอามาให้อ่านนะครับ เป็นตอนที่เขียนแล้วเสียน้ำตาไปหลายปี๊บเลย
อยากให้คนอ่านได้อ่านครับ มันเหนือความคาดหมายจริงๆ อิๆ (หรือจริงๆ ก็อาจไม่แปลกมากก็ได้)

พอดี...มีคนถามหาเรื่อง "ต้นสน" อยากจะบอกว่าผมเผลอลบมันไปครับ พอดีเพิ่งเคยใช้โทรศัพท์ระบบสัมผัส
แล้ววันนั้นลองใช้เข้ามาอ่านเว็บนี้ดู แล้วด้วยความที่ยังใช้ไม่ค่อยถนัดก็เผลอไปกดถูกปุ่มอะไรบางอย่าง
แล้วเราก็ดันไปกดตกลง จากนั้น "ต้นสน" ก็หายไปจากบอร์ดเลยครับ ไม่น่าเลย :m15:
แต่มีเก็บต้นฉบับไว้อยู่ ถ้าผมจะเอามาลงให้อ่านใหม่จะน่าเกลียดไหมครับ  :sad11:

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
รักลูกแบบผิดทิศผิดทาง...
ชีวิตคนอื่นถึงแม้เป็นลูก เป็นส่วนหนึ่งของเรา แต่เราไม่สามารถหายใจแทนเขาได้
ไม่สามารถโตแทนเขาได้ มีชีวิตแทนเขาได้...

เลี้ยงลูก โดยเอาแต่ใจตนเป็นที่ตั้ง สุดท้าย สิ่งที่ได้คือความว่างเปล่า ไม่มีใครทำอะไรได้ ดั่งใจเรา...
ชีวิตของคนเราหากอายุมากขึ้น แค่นึกจะลุกขึ้นเดินยังลำบาก...
นับประสาอะไรกับการบังคับใจคนอื่น ใครเขาจะทำตามใจเราได้ตลอดชีวิต

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GEMSTONEz

  • สุขได้ ทุกข์มี เหงาเป็น...ไม่ต่างจากมึง!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ความรู้สึกตอนแรกคืออยากร้องไห้ อ๊ากกก พิมพ์มาตั้งนานทำไมเน็ตต้อมาหลุดว่ะ  :serius2:

ที่พิมพ์เม้นไว้หายหมดเลยอ่า  :sad4: ให้พิมพ์ใหม่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิมอยู่แล้วอ่ะ  :m16:

สรุปเอาสั้นๆเลยละกัน
ตอนแรกที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้เพราะชื่อตัวละครตัวหนึ่ง ขอไม่บอกนะ 555 รู้ว่าถ้านิยายเรื่องไหนมีชื่อนี้จะสนุกเลยเข้ามาอ่าน
แล้วก็ตามมาจากอีกเรื่องหนึ่ง (คนพิการอ่ะ) เราไม่จำชื่อเรื่อง จำได้แต่เนื้อหาเด่นๆ แหวกๆอ่ะ

พอเข้ามาอ่านแล้วก็ตกใจ แล้วก็แปลกใจมาก ทั้งๆที่นิยายเรื่องนี้มีถึง สามสิบกว่าตอน แต่ทำไมจำนวนหน้ามันน้อยจัง
แต่ก็แอบดีใจนิด ๆ(กูไม่ต้องนั่งเปิดไล่หาหน้าอ่านแล้วว  :sad4:) ทำไมคนเม้นน้อยอ่ะ เรื่องนี้สนุกออก ดีมากด้วย  :angry2:

แต่ก็นะ เอาเหอะ  :เฮ้อ: เราไม่ได้มีเจตนาอะไรนะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนละกัน
เอาเรื่องดีๆอย่างนี้มาให้อ่านอีกนะค่ะ


ปล.ขอบ่นหน่อย
นี่เป็นความเห็นส่วยตัวนะ คือ..แบบว่า...เราอยากได้ดราม่าอ่ะ (จะโดนคนอื่นว่าไหมเนี่ยย?)  :z6:
แบบทิวน้อยใจ แล้วก็คิดว่าตัวไม่เหมาะสม แล้วก็พยายามหนี ไม่สิๆ ตีตัวออกห่างจากบูมอะไรเงี่ย
แล้วก็ให้บูมมาง้อ พร้อมกับแม่ แบบแม่ยอมรับแล้วนะ ให้บูมพูดกับแม่ตรงๆไปเลย ให้แม่ยอมเข้าใจ
ให้แม่มาง้อทิวด้วยอีกคน (555 แอบซะใจเล็กๆ ) เอางอนง้อหนักๆนะ ทิวรอบูมมาตั้งหลายปีนะ
บูมไม่เห็นทำอะไรให้ทิวบ้างเลยอ่ะ  :m16:

ปล.สอง
 ยังไงก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะคะ แต่ช่วยรับไปพิจารณาด้วยละกัน  :laugh:
ได้ไม่ได้ไม่เป็นไร ความสามารถในการจิ้นของเราไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว ยกเว้นฉากในห้องนอนนะ  :jul3:

สุดท้าย เป็นกำลังใจให้นะคะ นิยายเรื่องนี้สนุกมาก อ่านแล้วไม่เบื่อเลย o13 :bye2:

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

icyblue

  • บุคคลทั่วไป

พอดี...มีคนถามหาเรื่อง "ต้นสน" อยากจะบอกว่าผมเผลอลบมันไปครับ พอดีเพิ่งเคยใช้โทรศัพท์ระบบสัมผัส
แล้ววันนั้นลองใช้เข้ามาอ่านเว็บนี้ดู แล้วด้วยความที่ยังใช้ไม่ค่อยถนัดก็เผลอไปกดถูกปุ่มอะไรบางอย่าง
แล้วเราก็ดันไปกดตกลง จากนั้น "ต้นสน" ก็หายไปจากบอร์ดเลยครับ ไม่น่าเลย :m15:
แต่มีเก็บต้นฉบับไว้อยู่ ถ้าผมจะเอามาลงให้อ่านใหม่จะน่าเกลียดไหมครับ  :sad11:

ลงใหม่ก็ดีค่ะ   เผื่อบางคนเค้ายังไม่ได้อ่านค่ะ  เรื่องนี้มาม่าดี  ชอบๆ หนุกดี  o13





ตอนล่าสุด คุณแม่ใจร้ายมากกกกกกกกก   ทำกับทิวได้งัย (เค้าออกเป็นคนดี น่ารัก :m15:)

แล้วคุณแม่มีแผนอะไรอีกเนี่ย  เรียกร้องความสนใจคนทั้งบ้านด้วย  :z3:

ออฟไลน์ Cynthia_Moonlight

  • เมื่อไหร่จะพ้นขีดอันตราย =_=+
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1
คือแบบว่า...คนประเภทที่เราเกลียดที่สุดก็คือคนอย่างคุณนายทิพย์นภานี่แหละ เน้น! เกลียดมาก

ทำตัวอย่างกับเด็กอนุบาล อีโก้เยอะ ดูถูกชาวบ้าน ชอบกะเกณฑ์ชีวิตชาวบ้าน เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ถึงมันจะมาจากความรักของแม่ที่มีต่อลูกมากจนเกินไปมหาศาลก็เถอะนะ โอ้ย! อารมณ์เสียกับคุณนายคนนี้ที่สุดแล้ว



สงสารก็แต่ทิว ไม่กรรมของชาติที่แล้วเยอะก็บุญยังไม่มากพอ สุขได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องได้ทุกข์หนักตลอด แล้วดูคราวนี้ ต้องทุกข์ไปอีกนานแค่ไหน ถึงจะมีความสุขอีก

เป็นเราหนีไปพึ่งทางธรรมแล้ว ถ้าทางโลกมันจะทุกข์ขนาดนี้ เฮ้อ...


สรุป...อ่านแล้วอินค่ะ จบ!! 55555+

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
เจิมเรื่องนี้เรื่องแรกเลยครับ (: เพิ่งอ่านถึงตอนที่ 27

เป็นกำลังใจใ้ห้คนเขียนนะครับ ชอบเรื่องนี้มาก  o13

รักทิิวบูม < 3

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
 อ่านะเลือดกะน้ำ อะไรจะข้นกว่ากัน

mamihirika

  • บุคคลทั่วไป
พอดีมาอ่านเรื่องย่อแล้วกำลังเปิดเพลง
http://www.youtube.com/watch?v=hedTqhf5sLs&feature=related
ฟังอยู่...รู้สึกบีบคั้นหัวใจชอบกลแหะ = = :z3:

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
=w=
บีบคั้นเหลือเกินนนนนนนน


แง่มมมมม!!!

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้ววววว ><
อย่าเศร้ามากนะครับ จะเอา บีมทิว บีมทิว บีมทิว บีมทิว
บีมทิว บีมทิวบีมทิว บีมทิวบีมทิว บีมทิวบีมทิว บีมทิว TT ตลอดไป

ปล.วันนี้ไปดูหนัง Home มา คู่วายชื่อ เนบีม ดูแล้วคิดถึง บีมทิวเลย 5555
 :กอด1:

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มีเรื่องอะไรมาช็อค อีกอ่ะ สงสารทิว จะมีความสุข ก็โดนขัดขวางอีกแล้ว (คุณแม่เจ้าเดิม) :เฮ้อ:

ขอบคุณ คุณ sarawatta ค่ะ เรื่อง ต้น-สน มิตรภาพฯ  ไว้จะรอลุ้นนะค่ะว่าจะได้กลับมาลงอีกป่าว :pig4:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เป็นแม่ที่รักลูกแบบมีเงื่อนไข เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด