▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟  (อ่าน 118574 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจัง

อือหืออ่ะ

  • บุคคลทั่วไป
เห็นว่าน่าสนใจเลยคลิกเข้ามาอ่านค่ะ ไม่ผิดหวังเลย

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 04 ☯ พี่ชายใจดี





ผมว่าความรักของผมครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความใกล้ชิด เพราะการทำงานเป็น PA นั้น ต้องมีการถึงเนื้อถึงตัว สัมผัสกัน ใกล้ชิดกันอยู่แทบตลอดเวลา ทุกครั้งที่ผมอุ้มหรือช่วยยกพี่แตซอง แน่นอนว่ามันต้องสัมผัสกัน กอดกัน ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจทุกครั้ง ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยที่ได้ช่วย ช่วงต่อไปนี้ผมจะขอเล่าเหตุการณ์ที่ประทับใจนะครับ เพราะไม่สามารถจำรายละเอียดทั้งหมดได้ทุกวัน


วันต่อมาที่ผมไม่ได้ไปเป็น PA นั้น ผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเป็นห่วงพี่แตซองมากจนอยากจะไปหาเสียเดี๋ยวนั้นเลย ไม่รู้ว่า PA อีกคนที่มาทำงานจะช่วยพี่แตซองได้ดีไหม แล้วตอนเย็นพี่แตซองจะอาบน้ำหรือจะขึ้นเตียงนอนยังไง ผมรู้สึกกระวนกระวายใจจนในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องโทรไปหาพี่แตซองครับ พี่แตซองกำลังกินข้าวเย็นอยู่พอดี


"พี่แตซอง เป็นไงบ้างครับวันนี้"


"อ้อ เก้าเหรอ ก็โอเคครับ" เสียงตามสายตอบมา แค่ได้ยินเสียงพี่แตซองผมก็ดีใจแล้วครับ


"พี่อาบน้ำหรือยัง ต้องการคนช่วยไหมครับ" ผมถามหยั่งเชิง


"อ๋อ กำลังกินบะหมี่อยู่ครับ แต่วันนี้พี่ว่าจะไม่อาบน้ำ"


"ให้ผมไปช่วยไหมพี่ พี่จะได้อาบน้ำไง จะได้นอนสบายๆ"


"อย่าเลยเก้า เก้าอยู่กับครอบครัวไปเถอะ อย่าทำให้พี่เคยตัวสิ ยังไงๆ เก้าก็ต้องมาอยู่แล้ว พี่ไม่อยากรบกวนเก้ามากจนเกินไป"


"ไม่รบกวนหรอกครับ ผมอยากไปช่วยพี่จริงๆ ผมไม่เอาค่าจ้างหรอกครับ พอดีผมเองก็อยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน" ผมต่อรอง


พี่แตซองเงียบไปเหมือนคิดอะไรบางอย่าง


"นะพี่ เดี๋ยวผมก็กลับประเทศไทยแล้ว ผมอยากเรียนรู้งานนี้ให้เก่งๆ ครับ เผื่อจะได้เอาไปใช้ที่ประเทศไทยบ้าง"


"เก้า พี่ว่าอย่าดีกว่านะ พี่เกรงใจ เดี๋ยวเกาจะเหนื่อยเกินไป" พี่แตซองยังคงยืนกรานปฏิเสธ


"ให้ผมไปเถอะครับพี่แตซอง ผมเป็นห่วงพี่ครับ ผมไม่เหนื่อยหรอก งานไม่ได้หนักอะไรเลย"


พอเจอคำว่าเป็นห่วงเข้าไปพี่แตซองก็คงอึ้งไปเหมือนกัน


"ผมไม่ได้ไปในฐานะ PA นะครับ ให้ผมไปหาพี่แตซองในฐานะน้องชายได้หรือเปล่าครับ"


พี่แตซองเงียบไปอีก คงคิดหนักเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง


"แล้วแต่เก้าละกัน"


ผมร้องเย้ดีใจจนแม่กับน้าสาวที่นั่งคุยกันอยู่ต้องหันมามองด้วยความสงสัย ผมก็เลยได้แต่หัวเราะแหะๆ อ้อ คนที่ผมจะต้องเจรจาต่อก็คือแม่ผมเองนี่แหละครับ ตอนนี้เย็นแล้วไม่รู้ว่าแม่จะยอมให้ผมไปหรือเปล่า


"แม่ครับ...พอดีพี่แตซองไม่มีใครช่วยอาบน้ำให้เลย ผมว่าจะไปช่วยพี่เขาหน่อย ไปแป๊บเดียวครับแม่ ไม่เกินสามทุ่มก็จะกลับครับ"


แม่ผมทำหน้าครุ่นคิด แต่ผมรู้ว่าแม่ผมน่ะเป็นคนใจดี แม่ไม่ขัดข้องหรอกถ้าผมจะไปช่วยพี่แตซอง


"แล้วเก้าไม่เหนื่อยเหรอลูก พรุ่งนี้ก็ต้องไปอีกนะลูก"


"ไม่หรอกครับแม่ เก้ายังวัยรุ่นอยู่นะครับ แรงผมเยอะจะตาย ผมขี้เกียจอยู่เฉยๆ น่ะครับ อีกอย่าง...ผมก็ทำแค่สองเดือนเองครับแม่ กลับไปก็ไม่ได้ทำแล้ว"


"อือๆ อย่ากลับดึกละกัน"


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ผมใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงห้องพี่แตซอง พอเจอหน้ากันเราต่างก็ยิ้มดีใจให้กัน ผมว่าพี่แตซองคงจะเหงาบ้างแหละ พอมีคนมาหาก็เลยดูมีความสุขมากขึ้น ผมเองก็เริ่มมีความรู้สึกผูกพันกับพี่แตซองเสียแล้ว อยากมาช่วย อยากสัมผัสไออุ่นเวลาที่ได้กอด อยากเห็นแววตาที่แสนอบอุ่นคู่นั้นที่ผมมองไม่เคยเบื่อ


"กินข้าวหรือยังครับ" พี่แตซองถาม


"ยังเลยครับ พอดีรีบมา" ผมบอกกึ่งขำ


"กินบะหมี่ไหม พี่ซื้อเตรียมไว้เยอะเลย มีหลายรส"


พี่แตซองชวนแล้วก็เข็นนำผมไปที่ห้องทำอาหาร ผมเดินตามไปพร้อมช่วยเข็นด้วย


"ให้ผมช่วยเข็นนะครับ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย" พี่แตซองหันมายิ้มแล้วก็พยักหน้า


พี่แตซองซื้อบะหมี่หรืออาหารสำเร็จรูปไว้หลายอย่างเลยครับ มีทั้งบะหมี่ ซุปสาหร่าย กิมจิที่เป็นของโปรดของผมเลยล่ะ แล้วก็อีกหลายอย่าง ผมเลือกบะหมี่รสกิมจิ พร้อมกับกิมจิแบบซองครับ


"ให้ผมช่วยนะครับ" ผมรีบร้องบอกเมื่อเห็นพี่แตซองจะกดน้ำร้อนใส่ชามบะหมี่ให้ผม


"ไม่เป็นไร เก้าเป็นแขกของพี่นะคืนนี้ เดี๋ยวพี่บริการเอง"


ผมก็เลยต้องยอมให้พี่แตซองบริการครับ ก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็จะได้เรียนรู้ด้วยว่าเวลาอยู่กับคนพิการไม่จำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาช่วยเสมอไป ให้เขาช่วยทำบางอย่างให้เราบ้างก็ได้


"ขอบคุณครับพี่ อ้อ...ตอนที่ผมโทรมาพี่กินบะหมี่อยู่หรือเปล่าครับ"


ผมถามอย่างนั้นเพราะสงสัยว่าทำไมน้ำร้อนจึงพร้อมสำหรับใช้งานเลย แสดงว่าพี่แตซองน่าจะเพิ่งเสียบปลั๊กต้มน้ำไปเมื่อไม่นานนี้นี่เอง


พี่แตซองหัวเราะเบาๆ "ครับ อะ...เดี๋ยวเก้าเอาจานมาปิดถ้วยไว้หน่อยนะ อีกสามนาทีค่อยกิน"


"ครับพี่" ผมบอกแล้วก็เดินไปหยิบจานมาปิดถ้วยบะหมี่ไว้


"พี่อิ่มหรือยังครับ กินเป็นเพื่อนกันดีไหมพี่" ไม่ใช่อะไรหรอก ผมไม่อยากกินคนเดียว มันเขินๆ ยังไงไม่รู้


"อ้อ...ก็ดีเหมือนกันครับ เมื่อกี้ยังไม่อิ่มเลย" พี่แตซองตอบตกลงพลางขำ


"คราวนี้ให้ผมบริการพี่นะครับ" ผมรีบดักไว้ก่อน พี่แตซองหัวเราะอย่างเอ็นดูแล้วก็พยักหน้า


ผมก็เลยหยิบชาม จานและตะเกียบมาให้พี่แตซองชุดหนึ่ง


"พี่จะกินรสอะไรครับ"


"เหมือนเก้านั่นแหละ"


นั่นแน่ะ ชอบกินรสเดียวกับผมเสียด้วย พอใส่น้ำร้อนและรอจนได้ที่แล้ว พี่แตซองกับผมก็นั่งกินบะหมี่ด้วยกัน ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก ผมชอบฟังเสียงพี่แตซอง ชอบฟังที่พี่แตซองเล่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตให้ฟัง ช่วงแรกๆ พี่แตซองไม่ได้เล่าเรื่องที่ลึกมากนัก ส่วนมากก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไปอย่างเช่น เกิดที่ไหน เรียนที่ไหน ทำงานที่ไหน เคยทำอะไรมาบ้าง ฟังแล้วก็เพลินดีแถมได้ข้อคิดเยอะด้วย


"พอพี่เป็นคนพิการแล้ว พี่แตซองคิดว่ามันลำบากไหมครับ" ผมถามด้วยความอยากรู้ คิดว่าหลายๆ คนก็คงอยากรู้ด้วยเช่นกัน


"อืม...พูดตรงๆ มันก็ลำบากนะ เพราะพี่เคยเดินได้สะดวกมาก่อน เมื่อก่อนอยากทำอะไรมันก็ง่ายกว่านี้ อยากจะไปไหนก็ไม่ต้องวางแผนมาก แต่เดี๋ยวนี้พี่ก็ต้องวางแผนเยอะขึ้น ต้องคิดมากขึ้น หลายๆ อย่างที่พี่เคยทำได้ง่ายๆ พี่ก็ต้องพยายามมากขึ้น ทำวิธีเดิมไม่ได้ก็หาวิธีใหม่ บางอย่างที่เคยทำได้แต่ตอนนี้ทำไม่ได้เลยก็มีเหมือนกัน แต่สุดท้ายพี่ก็คิดว่า...พี่ก็อยู่ได้นะ ถึงมันจะไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนก็ช่างเถอะ พี่ก็จะสู้ต่อไป ระบบที่รัฐบาลมีอยู่ตอนนี้ก็พอช่วยให้พี่อยู่ได้อิสระมากขึ้นนะ อย่างบริการ PA ก็ช่วยพี่ได้เยอะเลย"


พี่แตซองยิ้มอย่างมีความหวัง คนเราขาดน้ำขาดอาหารอาจจะอยู่ได้เจ็ดวัน แต่ถ้าขาดความหวังแล้วก็อาจจะตายได้ในเจ็ดวินาทีด้วยซ้ำ


"แล้วเก้าล่ะ เก้าคิดยังไงกับคนพิการ"


"ผมเหรอ..." ผมทำท่านึก "เมื่อก่อนก็คิดว่าคนพิการน่าสงสารครับ แต่ก็ได้แค่สงสาร ไม่รู้จะช่วยยังไง คนพิการที่ประเทศไทยน่าสงสารมากเลยนะครับพี่ เขาไม่มีบริการ PA เหมือนที่เกาหลีหรอกครับ หลายคนก็ต้องอยู่กับบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน อย่างรถไฟหรือรถเมล์ คนพิการก็ยังขึ้นไม่ได้ครับ ทางลาดตามฟุตบาททางเท้าก็ยังน้อย บางที่ไม่มีเลย ออกไปไหนก็ยากครับ แต่ว่า...พอผมได้มารู้จักกันพี่แตซอง ผมก็มองคนพิการต่างไปจากเดิมเยอะเลยครับ ไม่รู้สึกว่าน่าสงสารเหมือนเมื่อก่อน ผมคิดว่าถ้ามีระบบสนับสนุน มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ คนพิการก็น่าจะอยู่ได้ด้วยตัวเองมากขึ้นนะครับ"


พี่แตซองยิ้มอย่างพอใจ


"อ้อ...ผมมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้เกี่ยวกับคนพิการครับ" ผมยิ้มอย่างมีเลศนัย


"อะไรเหรอ"


"เพิ่งรู้ว่ามีคนพิการที่หล่อๆ อย่างพี่แตซองนี่แหละครับ"


ผมกับพี่แตซองหัวเราะพร้อมกัน ดูเหมือนพี่แตซองจะมีความสุขมากทีเดียว


กินบะหมี่เสร็จแล้ว ผมจึงได้ช่วยพี่แตซองอาบน้ำ แล้วพาพี่แตซองขึ้นเตียงนอน ทำให้ผมได้กอดพี่แตซองตัวหอมๆ อุ่นๆ เหมือนเคย นี่ผมคิดอกุศลกับพี่เขาได้ถึงขนาดนี้เลยหรือนี่ เฮ้อ...แต่ก็คิดไปแล้ว


"ผมกลับก่อนนะครับพี่แตซอง แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ"


"ขอบคุณมากนะครับเก้า"


ผมย่อตัวลงนั่งข้างๆ เตียง มองหน้าพี่แตซองให้ซึ้งที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้


"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมยินดีที่ได้รู้จักกับพี่ชายใจดีอย่างพี่แตซองนะครับ"


พี่แตซองเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ


"พี่ก็ดีใจนะที่มีน้องที่น่ารักอย่างเก้า"


ผมยิ้มดีใจจนแก้มแทบปริเลยล่ะครับที่ได้ยินพี่แตซองบอกอย่างนี้


"พี่อย่ามัวแต่ดูทีวีจนนอนดึกนะครับ"


พี่แตซองหัวเราะใหญ่เลยครับ


"ครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ"


"นอกจากเป็น PA แล้วก็น้องชาย ผมก็เป็นอย่างอื่นอีกได้นะครับ"


พี่แตซองทำหน้าฉงน แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้พี่แตซองคิดไปเองก่อนละกัน


"ผมกลับแล้วนะครับ ราตรีสวัสด์ครับ" ผมบอกแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้น


"ครับเก้า เดินทางกลับบ้านดีๆ นะครับ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"


เสียงพี่แตซองบอกตามมาก่อนที่ผมจะไปถึงประตู ผมหันมายิ้มให้พี่แตซองแล้วก็เปิดประตูเดินออกไป หัวใจเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นตัวหอมๆ นั้นยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผม คืนนี้ผมคงนอนหลับฝันดีอีกคืน


"เจอกันพรุ่งนี้นะครับพี่ชาย"


TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2015 08:39:53 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เฮ้อ...ไม่อยากคิดเมื่อครบเวลาสองเดือน

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
น่ารักจังเลย
ตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวเวลาไว้เยอะๆแล้วกัน
เดี๋ยวพอหมดโอกาส แล้วเสียดายนู่นี่อีกนะ
สู้ๆค่า~ รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เป็นอะไรครับ อย่างอื่นน่ะ

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกอบอุ่นใจมาก :กอด1:

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไว จริงๆสินะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
นอกจากจะเป็นPA
แล้วอยากเป็น SH (Sweet Heart) อ่ะจิ
หรือเป็นอย่างอื่น

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น พี่แตซองแกจะเข้าใจหรือเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






fullmoon217

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้ว "อบอุ่นหัวใจ"

MokGaLaKom

  • บุคคลทั่วไป
หุบยิ้มไม่ลงเลย น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 05 ☯ เก้าโดนพี่แตซองดุ





เคยสงสัยกันไหมครับว่าคนพิการเขามีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงบ้าง เมื่อก่อนผมไม่เคยสงสัยเพราะไม่เคยนึกถึงคนพิการเลยครับ แต่พอได้มาเจอพี่แตซองผมก็เกิดคำถามนี้ในใจ พอได้ใช้ชีวิตอยู่กับพี่แตซองสักพัก ผมก็เริ่มเห็นว่ามันไม่ต่างกันกับชีวิตของพวกเรามากเท่าไหร่ เขาก็มีธุระปะปังของเขา มีเพื่อน มีสังคม มีครอบครัว เที่ยวเตร่เฮฮา และทำงานเหมือนกับคนทั่วไป


บางวันพี่แตซองก็ไปหาพ่อกับแม่ ไปหาเพื่อน ไปกินข้าว ดูหนัง ไปฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์การดำรงชีวิตอิสระหรือแม้กระทั่งไปต่างประเทศ ผมก็บังเอิญได้ไปด้วย เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังทีหลังครับ เรื่องที่ต่างก็คือคนพิการมีอุปสรรคที่เยอะกว่าเรา เช่น บางสถานที่รถเข็นก็เข้าไปไม่ได้ ไม่ใช่เพราะมีใครห้ามนะครับ แต่มันอาจจะมีบันไดหรืออุปสรรคอื่นๆ บางทีไปไหนก็ชอบมีคนมองแปลกๆ ผมเคยเจอบ่อยๆ เหมือนกันเวลาไปกับพี่แตซอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



วันต่อมา ผมจำวันนี้ได้ดีเลยครับเพราะว่าผมนอนอีท่าไหนไม่รู้ ตื่นสายเลย แล้วเจ้านาฬิกามันก็ไม่ปลุกผมเสียด้วย ดูไปดูมา อ้าว...ผมลืมตั้งเองแหละ พอตื่นขึ้นมาก็แปดโมงกว่าเข้าไปแล้ว แม่กับน้าสาวก็ไม่ได้มาปลุกเพราะนึกว่าผมคงไม่ได้ไปวันนี้ ผมจึงต้องรีบอาบน้ำและออกเดินทางให้เร็วที่สุด ในระหว่างที่วิ่งไปขึ้นรถไฟนั้น ผมก็โทรหาพี่แตซองเพื่อที่จะแจ้งว่าจะไปสาย พี่แตซองบอกว่าไม่เป็นไร ให้รีบมาละกันเพราะตอนนี้กำลังรออยู่ ผมก็เลยได้แต่โมโหตัวเองที่ขี้ลืม


ผมมาถึงประมาณเก้าโมงหน่อยๆ พี่แตซองนั่งรออยู่บนเตียงแล้วครับ หน้าบึ้งๆ ด้วย ผมเข้าไปหาพี่แตซองแล้วย่อตัวลงข้างๆ พร้อมกับขอโทษ


"พี่แตซอง ผมขอโทษจริงๆ ครับ ผมผิดเอง ต่อไปผมจะไม่ให้มีอย่างนี้อีกครับ ผมสัญญา"


ได้ผลครับ สีหน้าของพี่แตซองดูดีขึ้น ก็ผมสำนึกผิดจริงๆ นี่ครับ จะไม่ให้อภัยน้องชายน่ารักๆ คนนี้ก็เกินไปแล้ว


"เหงื่อแตกโซกเลย วิ่งมาจากบ้านหรือเปล่า" พี่แตซองสัพยอก ทำให้ผมยิ้มออก


"ประมาณนั้นครับ"


"วันนี้ผมจะไปอบรมคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์ แล้วตอนเย็นๆ จะไปงานวันเกิดเพื่อน เก้ากลับได้นะครับ ไม่ต้องไปส่งพี่ เพราะเดี๋ยวเพื่อนพี่มารับ แล้วเพื่อนก็จะมาส่งพี่ที่คอนโดเอง" พี่แตซองบอก


ผมก็แอบคิดในใจครับว่าจะขอไปด้วย แต่ยังไม่พูดตอนนี้ ก็อยากรู้นี่นาว่าเวลาคนพิการไปหาเพื่อน เพื่อนๆ จะปฏิบัติตัวยังไงบ้าง


"ครับ"


ผมรับคำแล้วก็พาพี่แตซองไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วก็ออกเดินทางไปที่ศูนย์ฯ ตอนนี้กำลังจัดหลักสูตรอบรมการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้กับคนพิการที่เป็นคนใช้บริการ PA อยู่ มีคนจากมหาวิทยาลัยอะไรสักอย่างมาสอนครับ สอนทุกวันอังคารกับพฤหัสฯ เป็นเวลา 3 เดือน


ตอนที่ไปถึงก็สายแล้วล่ะครับเพราะเริ่มเรียนตอนเก้าโมงครึ่ง ผมพาพี่แตซองไปถึงที่นั่นสิบโมงกว่าๆ มีคนมาเรียนสี่ห้าคนได้ครับ ใช้คอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สำหรับเรียน คนที่มาเรียนทั้งหมดเป็นคนพิการทั้งชายและหญิง ทุกคนมาพร้อมกับ PA ของแต่ละคน ผมก็ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนการทำงานกับ PA คนอื่นๆ ด้วยในระหว่างที่นั่งรอพี่แตซองเรียน ผมไม่ได้เข้าไปช่วยตอนนี้นะครับเนื่องจากพี่แตซองสามารถใช้คอมพิวเตอร์เองได้


ผมจำได้ว่าผมแอบหึงคนพิการครับเพราะพี่แตซองนั่งใกล้กับผู้หญิงพิการคนหนึ่ง แล้วดูเหมือนจะคุยกันถูกคอ ผู้หญิงคนนั้นก็สวยอยู่นะครับ ก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งนั่นแหละ แค่นั่งบนรถเข็นเท่านั้นเอง แต่ถึงยังไงๆ ก็ไม่ควรจะคุยกับพี่แตซองผมนานเกินไปนะครับ ตั้งใจเรียนหน่อยสิเธอ เดี๋ยวเถอะ


ตอนบ่ายมีการอบรมต่ออีกสองชั่วโมงจนถึงบ่ายสามก็เลิกครับ พี่แตซองมีนัดกับเพื่อนตอนสองทุ่ม นัดเพื่อนมารับที่ศูนย์ตอนหกโมงกว่าๆ


"พี่แตซองจะรอที่ศูนย์เลยเหรอ นานนะครับ ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนดีหรือเปล่าครับ"


"ไม่เป็นไร อีกสองชั่วโมงกว่าๆ เอง ไม่นานหรอก"


"คือ...พี่แตซองครับ ถ้าผม...จะขอไปด้วย พี่จะว่าอะไรไหมครับ"


พี่แตซองมองอย่างสงสัย "ไปงานวันเกิดเพื่อนพี่เหรอ"


ผมพยักหน้ายอมรับ ยิ้มแหยๆ เพราะกลัวพี่แตซองหาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง


"เผื่อว่าเพื่อนพี่แตซองเมา ขับรถไม่ไหว ผมจะได้มาส่งพี่ไงครับ"


"ไม่เป็นไร" พี่แตซองขำ "เพื่อนพี่มาส่งได้"


"แต่ว่า...ผมอยากไปช่วยพี่จริงๆ นะครับ"


ต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่ PA ไม่ควรทำนะครับ เพราะมันหมายถึงว่าเราไม่เคารพการตัดสินใจของคนพิการ ผมก็เลยโดนดีนิดหน่อยครับ


"เก้า ตกลงเราจะเป็นอะไรกันแน่ พี่ไม่อยากให้เราทำหน้าที่เกิน PA นะครับ ตัวเก้าเองก็จะเหนื่อยด้วย" พี่แตซองบอกด้วยเสียงดุนิดๆ


ผมก็เลยงอนครับ


"ผมขอโทษครับพี่"


แล้วผมก็ลาพี่แตซองกลับบ้านไปครับ ผมจำได้ว่าวันต่อมาผมก็ไม่ได้ไปหาพี่แตซองที่บ้านตอนเย็นอย่างที่ตั้งใจไว้ ก็คนมันงอนอยู่นี่นา ทำไมต้องดุผมด้วยล่ะ เรื่องแค่นี้เอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



อีกวันผมก็มาทำงานตามปกติครับ มาตรงเวลาเป๊ะเลย แต่ก็ยังงอนๆ พี่แตซองอยู่ ก็เลยไม่ค่อยพูด พี่แตซองบอกให้ทำอะไรก็ทำ ถามคำก็ตอบคำ เหมือนหุ่นยนต์ ผมว่าพี่แตซองก็คงสงสัยอยู่  ก็มันงอนนี่ครับ ไม่อยากให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวก็ไม่ยุ่งก็ได้ เชอะ


วันนี้พี่แตซองไปอบรมคอมพิวเตอร์เหมือนเดิมครับ ผมก็พาพี่แตซองไปที่ศูนย์ฯ จนกระทังถึงบ่ายสามก็พาพี่แตซองเดินทางกลับมาบ้าน ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ พูดน้อยลง ระวังท่าทีและทำเท่าที่พี่แตซองบอกเท่านั้น จนพี่แตซองคงทนไม่ไหว


"เก้า มีอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเงียบๆ ไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่สบายก็บอกได้นะครับ หยุดพักได้ พี่จะได้ให้ศูนย์เขาหา PA มาแทนชั่วคราว"


พอเห็นพี่แตซองทำสีหน้าท่าทางและใช้น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงผมก็รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เรียกร้องความสนใจเฉยๆ


"เปล่าครับ ผมสบายดี ไม่ได้เป็นอะไร" ผมตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำเหมือนพูดในลำคอ ไว้ท่าทีนิดนึง


"โกรธพี่หรือเปล่า" พี่แตซองถามพลางจ้องหน้า


ผมหลบตาเล็กน้อย ไม่รู้จะตอบอย่างไร จะตอบว่าใช่ก็กระไรอยู่ จะตอบว่าไม่ใช่ก็ดูจะโกหกมากเกินไป เพราะผมว่าพี่แตซองคงดูออกบ้างแหละ


"ไม่ตอบ...แสดงว่าใช่ เรื่องที่ผมพูดเมื่อวานก่อนหรือเปล่า" พี่แตซองถามต่อ


ผมพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงยอมรับเพราะไม่รู้จะปิดบังไปทำไม พี่แตซองเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องดูผมออกอยู่แล้วล่ะ ผมแอบชำเลืองมองพี่แตซอง พี่แตซองหันหน้าไปทางอื่น เงียบไปสักพักแล้วก็หันกลับมามองหน้าผม


"พี่ขอโทษนะ"


คำขอโทษของพี่แตซองทำให้ผมต้องมองอย่างแปลกใจ คาดไม่ถึงจริงๆ ครับว่าพี่แตซองจะเป็นคนขอโทษก่อนเพราะคนที่ผิดก็คือผมนั่นแหละที่ไปล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของพี่แตซอง พี่แตซองเอื้อมมือมาแตะไหล่ผมแล้วพูดต่อ


"ที่พี่พูดอย่างนั้นเพราะว่าพี่ไม่อยากให้เก้าเหนื่อยเกินไป พี่เกรงใจเก้ามากนะ มันเลยเวลาทำงานแล้ว อีกอย่าง พี่เองก็ไม่มีค่าจ้างให้ พี่ไม่อยากเอาเปรียบเก้า ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากให้ไปด้วยหรอกนะเก้า เก้าเข้าใจพี่นะครับ"


ผมคงฟังเพลินก็เลยนั่งเงียบ


"เก้าเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ" พี่แตซองถามย้ำเพราะเห็นว่าผมยังไม่ตอบคำถาม


"เข้าใจครับ ผมขอโทษพี่แตซองด้วยครับที่ล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของพี่" ในที่สุดผมก็พูดออกมาจนได้ แล้วก็พูดสืบไป


"แล้วก็...ขอโทษที่ผมไม่เคารพการตัดสินใจของพี่"


พี่แตซองมองหน้าผม เราสบตากันเหมือนคิดอะไรบางอย่าง


"แต่ผมก็อยากช่วยพี่จริงๆ นะครับ ไม่มีค่าจ้างก็ไม่เป็นไร มันเป็นความตั้งใจของผม พี่ไม่ต้องกลัวว่าจะเอาเปรียบผมหรอกครับ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น พี่สบายใจได้ ผมอยู่ที่นี่อีกแค่ไม่กี่วัน ผมไม่เคยใช้ชีวิตกับคนพิการมาก่อน ก็เลยอยากมีโอกาสได้เรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กลับไปแล้วผมก็คงไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้อีก เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไปหรอกนะครับ มิตรภาพต่างหากที่สำคัญและหาไม่ได้ง่ายๆ"


ผมพูดเสียยืดยาว เสียงดังฟังชัดเพื่อแสดงให้เห็นความตั้งใจจริงของผม พี่แตซองนั่งฟังด้วยความสนใจจนแทบไม่กะพริบตา


"โอเค พี่เข้าใจเก้าแล้วนะ" แล้วพี่แตซองก็ทำหน้ายิ้มๆ อย่างมีเลศนัย


"อืม...แล้ววันนี้...เก้าจะว่างอยู่ช่วยพี่หรือเปล่าล่ะ"


นั่นแน่ ที่แท้ก็อยากให้ผมอยู่เป็นเพื่อนใช่ไหมล่ะ ชอบล่ะสิเวลามีน้องน่ารักๆ มาอยู่ด้วยใกล้ๆ


"ว่างครับพี่"


ผมตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ ถ้าไม่เกรงใจจะกระโดดกอดเลยครับ


"ขอบคุณนะครับ คนไทยนี่จิตใจดีจริงๆ ผมเคยแต่ได้ยินคนเขาพูดกัน วันนี้โชคดีที่ได้เจอกับตัวเอง"


พี่แตซองชมผมพร้อมกับเผื่อแผ่ไปให้คนไทยคนอื่นๆ ด้วย


"พี่แตซอง นอกจากเป็น PA กับเป็นน้องชายแล้ว ผมเป็นอย่างอื่นอีกก็ได้นะครับ"


ผมพูดประโยคนี้เป็นครั้งที่สอง ดูเหมือนพี่แตซองก็จำได้


"พูดเป็นครั้งที่สองแล้ว... แล้วเก้าอยากเป็นอะไรอีกล่ะ"


"เอ่อ...ก็...เป็นเพื่อนหรือเป็นน้องชายก็ได้ แล้วแต่พี่ครับ"


สุดท้ายผมก็ไม่กล้าพูดอยู่ดี แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ค่อยๆ รุกเข้าไปทีละน้อยดีกว่า ต้องดูลู่ทางให้ดีๆ ก่อน ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ เมื่อไหร่ผมไม่พลาดแน่ครับ


"โอเค งั้นให้เป็นน้องชายละกัน แต่เวลาทำงาน ต้องเป็น PA เท่านั้นนะ"


พี่แตซองกำชับทิ้งท้ายพลางใช้มือขยี้หัวผมเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู ผมล่ะชอบจังครับเวลาพี่แตซองทำอย่างนี้


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2015 08:40:41 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เฮ้อ~ ไม่อยากให้ถึงตอนจบเลย  ผมไม่อยากเศร้า TT

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่า เเอบเนียนจีบ

เเล้วครบสองเดือนกับเเยกย้ายกันไปหน่ะเหรอ

คงจะเป็นยังนี้เเน่ๆเลย เพราะเก้าเองก็อยู่เมืองไทยนี่น่า

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
น้องเก้าหึงพี่เค้าซะแล้ว
คราวหน้าก็อย่าแสดงอะไรออกนอกหน้านะจ้ะ
เดี๋ยวพี่เค้ารู้ตัวนะ
 :bye2:

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399



 :3123: :3123:

ชอบมากกๆเ :3123:ยค่ะ สนุกมากกกกกกก  อิอิ

ไม่เอามาม่านะ ขอให้เก้าสมหวังก :3123:ับคุณแตซองนร๊าา

 :man1: :man1: :impress2:

Peppermint

  • บุคคลทั่วไป
จะ bad end  หรือ good end ล่ะเนี่ยงานนี้ ==
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ jaymaza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รอ

จะได้เลื่อนขั้นมากกว่าน้องชายไหมเนี่ย  :laugh:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อยากให้ทั้งสองรักกันจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ชอบจังค่ะ  เนื้อเรื่องแบบนี้ o13

แต่ :เฮ้อ:กลัวเศร้าจริงๆนะ

มาอยู่แค่ระยะเวลาสั้นๆสองเดือนเอง

ไม่กล้าคาดเดาตอนจบเลย

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ให้เก้าเป็นมากกว่าน้องชายได้ไหมพี่แตซอง
คิดแล้วเศร้าถ้าถึงวันที่เก้ากับไทย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ไม่อยากจะคิดถึงตอนจบเลย T^T

tame_tin

  • บุคคลทั่วไป
ครบสองเดือนจะเป็นอย่างไงเนี่ยรอติดตามอยู่นะค่ะ

t-unseen

  • บุคคลทั่วไป
บรรยากาศอบอุ่นๆดีจังเลย... :กอด1:

LUCKY STAR

  • บุคคลทั่วไป

ใจจริงคงไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนหรือน้องชายอย่างที่พูดสินะ

ถึงกับจะขอไปงานวันเกิดเพื่อนเค้าด้วย---อุ๊ยตายยยยยย
ไม่ทราบว่าจะไปในฐานะอะไรเหรอคะ
มีใครชวนหรือก็เปล่า

ช่างกล้าเนาะ


แค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นน่ะค่ะ
ต้องขอโทษคนโพสด้วยนะคะถ้าทำให้ไม่พอใจ

+ เป็ดค่ะ

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
น่ารักดีค่ะ ตอนแรกกะว่าแวบเข้ามานิดหน่อย แต่อ่านไปเรื่อยๆก็เพลินจนอ่านหมด 5 ตอนเนี่ยล่ะ   :o8:
บรรยายเรื่อยๆแต่ไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ ชอบมากเลย อย่าลืมมาต่อบ่อยๆนะ ^^

 :pig4: :กอด1: (หวังว่าตอนจบจะไม่เศร้าน้า ><)

ออฟไลน์ tra_daday

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pig4: :L2: :กอด1:เรื่องน่ารักมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ชอบมากน่ารักม๊ากกกกกก อร๊ายยยยจิกหมอน

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ทั้งหึง ทั้งงอน ถ้าแสดงออกไปมากก็ขอเป็นมากกว่าน้องชายเลยดีกว่า
เฮ้อ ไม่อยากให้เก้ากลับไทยเลย
เพราะต้องจากพี่แตซอง T^T

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 06 ◉☥ แฟนของพี่แตซอง




วันนี้พี่แตซองไม่ได้ไปข้างนอกครับ ตอนเช้าคุณพ่อกับคุณแม่มาหาพี่แตซองที่ห้อง มีของมาฝากเยอะแยะเลยครับ ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเรื่องของครอบครัวพี่เขาหรอน ก็ปล่อยให้เขาคุยกันไป ตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากที่พ่อกับแม่พี่แตซองกลับไปแล้ว เราก็มานั่งดูซีรี่ส์เกาหลีกัน ผมเป็นคนอยากดูเองแหละ พี่แตซองก็จัดให้


ระหว่างที่ดูอยู่ผมก็แอบถามเรื่องที่ผมอยากรู้จากพี่แตซองไปด้วย


"พี่แตซองมีแฟนหรือยังครับ ผมว่าพี่ก็หน้าตาดีนะครับ น่าจะมีแฟนเยอะ"


พี่แตซองหันมามองผม ทำหน้าครุ่นคิดเหมือนกับไม่แน่ใจว่าจะตอบดีหรือเปล่า


"พี่ก็อายุขนาดนี้ ก็ต้องเคยมีแฟนอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีหรอกครับ"


"อืม ทำไมล่ะครับ ผมว่าอย่างพี่น่าจะหาแฟนได้ไม่ยาก"


"เก้า...ใครเขาอยากจะมาเป็นแฟนกับคนพิการล่ะ เก้าอยากมีแฟนเป็นคนพิการหรือเปล่าล่ะ"


พี่แตซองย้อนถาม สีหน้าพี่แตซองดูจริงจังขึ้นมากเลยล่ะ


"ก็... ถ้าเขาเป็นคนดี ผมก็ว่าน่าสนใจนะครับ" ผมตอบจากใจจริง พี่แตซองทำหน้าฉงนเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่


"ทำไมล่ะครับ คนเราควรจะรักกันเพราะว่าเราดีต่อกันไม่ใช่หรือครับ หรือว่ามีเหตุผลอื่นอีก" ผมถามอย่างสงสัย


"ก็คงจะมีเหตุผลอย่างอื่นด้วยมั้ง ไม่อย่างนั้น..."


พี่แตซองเหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วก็หยุดพูดไปสักพักใหญ่ ต่างคนก็ต่างสนใจกับจอทีวีไป แต่ผมนี่สิครับโคตรอยากรู้เลยว่าพี่แตซองจะพูดอะไรต่อ จะถามก็กลัวจะกลายเป็นเซ้าซี้ ยิ่งตอนนี้ทำหน้าที่ PA อยู่ด้วย


"พี่ไม่ใช่แค่เคยมีแฟนเท่านั้นนะเก้า แต่พี่เคยแต่งงานมาแล้ว แต่เราก็อยู่ด้วยกันได้ไม่ถึงปี แล้วแฟนพี่ก็ค่อยๆ หายไปจากชีวิตพี่ พอเขารู้ว่าพี่พิการ ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ตอนที่พี่อยู่โรงพยาบาล แรกๆ เขาก็มาดูแลพี่ดีนะ แต่หลังจากที่เขาเห็นว่าพี่คงพิการถาวร ก็เลยเริ่มห่างๆ ไป แล้วก็ไม่มาอีกเลย"


ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ ทุกคำพูดของพี่แตซองชัดเจน และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บช้ำ ชาชินและประชดประชัน อดสงสารพี่แตซองไม่ได้จริงๆ ครับ ตอนนั้นพี่แตซองคงเจ็บปวดมากทีเดียว


"ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็รักกันมาก แต่ก็คงเป็นอย่างที่เก้าว่า เขาคงมีเหตุผลอื่นที่สำคัญมากกว่าความรัก"


แววตาของพี่แตซองดูเหม่อเศร้า ผมอยากจะเอื้อมมือไปบีบมือให้กำลังใจพี่แตซองมากแต่ก็ไม่กล้า

 
"แล้วพี่ได้เจอเขาอีกหรือเปล่าครับ"


"เจอสิ เพื่อหย่ากันไง พี่ก็ยินยอมด้วยดี ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ก็เขาไม่ได้รักเราแล้ว"


ประโยคนี้เล่นเอาผมเจ็บแทนเลยครับ เท่าที่ผมสังเกต ผมว่าพี่แตซองเป็นคนเข้มแข็งและใจเด็ดเดี่ยวมากทีเดียว แต่ก็ดูเหมือนเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในใจ ถึงตอนนี้แล้วผมก็รู้สึกสงสารมากจนกล้าพอที่จะเอื้อมมือไปบีบมือพี่แตซองเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ความจริงที่เกาหลีนั้นผู้ชายจับมือถือแขนกันไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ แต่ผมก็ติดความเคยชินมาจากบ้านเราว่าถ้าผู้ชายจับมือกันก็อาจจะถูกมองเป็นอย่างอื่นได้


"แต่พี่ก็ผ่านมาได้ใช่ไหมครับ" ผมถามพลางมองหน้า


พี่แตซองพยักหน้า "ก็ผ่านมาได้ แต่ก็...เจ็บไม่น้อยเลย" บอกพลางขำแต่ก็ยังดูเศร้าอยู่ดี


"ผมทำให้พี่ไม่สบายใจหรือเปล่าครับ"


"ไม่หรอก เรื่องมันจบไปนานแล้ว พี่ลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ"


แม้ว่าพี่แตซองจะบอกอย่างนั้น แต่ผมว่าพี่แตซองคงเก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจอยู่ครับ ผมก็ไม่อยากจะไปเซ้าซี้ก็เลยเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย จนผมรู้สึกว่าสีหน้าและอารมณ์ของพี่แตซองแจ่มใสขึ้น


ไม่รู้สิ...ผมรู้สึกว่าพี่แตซองไว้ใจและรู้สึกดีกับผมในระดับหนึ่งเลยล่ะครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



ตอนเย็นๆ ผมกับพี่แตซองก็ออกไปกินข้าวที่ร้านแถวๆ คอนโด ผมอยากกินเนื้อย่างเกาหลี พี่แตซองก็ยอมตามใจทั้งๆ ที่อยากกินอย่างอื่นมากกว่า ผมขอเป็นเจ้ามือเองเลยล่ะ อิๆ ก็อยากกินนี่ครับก็เลยต้องยอมทุกอย่าง


เวลากินพุลโกกิหรือหมูย่างเกาหลีต้องนั่งกินกับพื้นครับ ผมกับเด็กในร้านต้องช่วยกันพยุงพี่แตซองลงมานั่งกับพื้น ใช้เวลาพอสมควรแต่ก็เรียบร้อยด้วยดี ดูพี่แตซองสนุกมากทีเดียวที่ได้ทำอะไรโลดโผนบ้าง


ผมคุ้นกับภาษาเกาหลี คนเกาหลีและอาหารเกาหลีก็จริง แต่พี่แตซองก็ยังบอกว่าผมจับตะเกียบไม่ถูกวิธี ก็เลยสอนผมจับตะเกียบใหม่ แถมยังช่วยบริการผมตอนกินอีกด้วย ผมก็สบายไปเลย เรื่องอย่างนี้ต้องให้เจ้าบ้านเป็นคนจัดการครับ


ในระหว่างที่นั่งกินอยู่พี่แตซองก็ถามขึ้นมาว่า


"เก้า มาอยู่กับคนพิการทั้งวันไม่เบื่อบ้างเหรอ"


ผมหยุดมอง เอียงคอสงสัย


"ก็ไม่นี่ครับ สนุกดีครับ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตั้งหลายอย่างเลยครับ"


พี่แตซองยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามีอะไรหลายๆ อย่างแอบซ่อนอยู่


"ขอบคุณเก้ามากนะ ตั้งแต่มีเก้าเป็นเพื่อน พี่ก็หายเหงาไปเยอะเลย ถ้าเก้ากลับไปแล้ว พี่คงเหงาแย่เลย" พี่แตซองพูดปนขำ


"พี่ก็มีเพื่อนเยอะแยะนะครับ" ผมแย้ง


"ใช่ แต่พอพิการแล้วพี่ก็คิดอะไรได้หลายอย่าง ชีวิตอย่างเมื่อก่อนมันไม่ค่อยเหมาะกับพี่เท่าไหร่แล้วล่ะ เมื่อก่อนพี่ก็ชอบเที่ยวเตร่ กินเหล้า สูบบุหรี่ ผู้หญิงหรืออะไรที่ผู้ชายเพลย์บอยทำพี่ก็ทำมาหมด เพิ่งมาหยุดตอนที่พิการนี่เอง เพื่อนก็เริ่มหายไป เพราะพี่ไปทำอย่างนั้นด้วยไม่ได้แล้ว"


พี่แตซองทำท่าครุ่นคิด "อืม...ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้หรอก แต่สงสัยพี่อาจจะเบื่อมั้ง ก็เลยไม่อยากพยายามที่จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเก่า"


"ผมถามจริงๆ นะครับ พี่ชอบชีวิตแบบไหนมากกว่ากัน"


"อืม...ก็ตอบยากนะ ตอนที่ไม่พิการก็สะดวกดี ไปไหนมาไหนง่าย รวดเร็วทันใจ แต่พอพิการก็รู้สึกว่าชีวิตต้องคิดมากขึ้น ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในอีกแบบหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย ตอนแรกๆ ก็ทำใจลำบากนะ แต่พอสักพักก็ปรับตัวได้ ถึงตอนนี้พี่ก็คิดว่ายังไงก็ได้มั้ง" ตอบพลางขำ


"แล้วคนพิการเขาอยากหายจากความพิการไหมครับ" ผมถามเพราะเชื่อว่าหลายคนก็คงอยากรู้เรื่องนี้


"อืม...มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ คงแล้วแต่คนมั้งครับ เก้ารู้ไหมว่าชีวิตของเรามีบางอย่างที่เลือกไม่ได้ อย่างเช่น เลือกเกิดไม่ได้ เลือกอุบัติเหตุไม่ได้ อย่างเรื่องที่เก้าถามพี่ มันเป็นเรื่องที่เลือกไม่ได้ พี่ว่ามันเสียเวลาที่จะไปคิดว่าอยากพิการหรือไม่อยากพิการ เก้าต้องเปลี่ยนคำถามใหม่แล้วล่ะ"


"อะไรครับ"


"ก็...ถ้าเลือกได้ เราอยากจะมีชีวิตที่ดีหรือไม่ดี พี่ได้เรียนรู้ว่าบางเรื่องเราไม่มีสิทธิ์ต่อรองหรือร้องขอ เรามีหน้าที่แค่ทำชีวิตของเราที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในร่างกายแบบไหน อย่างพี่...พี่จะเอาแต่ท้อใจ ฆ่าตัวตาย หรือเป็นคนเลวไปเลยก็ได้นะ แต่พี่โชคดีที่พี่ไม่ได้เลือกทำอย่างนั้น พี่ก็ยังเห็นว่ามีอย่างอื่นที่พี่ยังพอเลือกได้อยู่"


ผมพยักหน้าเห็นด้วย ชีวิตคนจะดีได้หรือไม่ดีคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นอยากจะทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่เป็นแบบไหน


"ก็จริงนะครับ" แล้วผมก็เปลี่ยนคำถามกลับมาที่เรื่องแฟนอีกครับ


"แล้วพี่คิดอยากจะมีแฟนอีกหรือเปล่าครับ" คำถามนี้ก็ทำให้พี่แตซองนิ่งไปเล็กน้อย


"อืม...ก็แล้วแต่ ถ้ามีคนที่รักเราจริง ยอมรับเราได้ อยู่กับเราได้ พี่ก็อาจจะมี แต่ถ้าไม่มีคนอย่างนั้น พี่ก็คงอยู่แบบนี้แหละ ว่าแต่เก้าเถอะ เห็นถามพี่บ่อยๆ เรื่องแฟน เก้ามีแฟนกับเขาหรือยังล่ะ หล่อๆ แบบนี้คงจะมีเยอะแล้วมั้ง" พี่แตซองย้อนถามพลางขำ


"ยังเลยพี่ หาอยู่ เหมือนจะเจอแล้วล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือเปล่า" ผมบอกพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย


"ปรึกษากับพี่ได้นะเรื่องนี้ เมื่อก่อนพี่ยิ่งกว่าคาสโนว่าเสียอีก" พี่แตซองสัพยอก


ผมได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูด


"พี่เคยไปตึก 63 ไหมครับ"


"เคยสิ ตึกนี้เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในเอเชียด้วยนะ เมื่อก่อนไปตอนสมัยเรียน ไปกับเพื่อนบ้าง สาวๆ บ้าง เก้าเคยไปหรือยังล่ะ" พี่แตซองถามกลับ


"ยังครับ วันหลังเราไปกันไหมครับ"


"อืม...ก็ดีนะ พี่ก็ไม่ได้ไปนานแล้ว"


ตลอดเวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่กับพี่แตซอง ผมรู้เดาได้ว่าพี่แตซองคงไม่ได้เป็นอย่างผมแน่ๆ ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่อยากจะทำให้ดีที่สุด ใช้เวลาอยู่กับคนที่ผมรักให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม


แต่ถ้ามีโอกาสบอกความในใจเมื่อไหร่ ผมจะไม่พลาดอยู่แล้วครับ!


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2015 09:24:48 โดย sarawatta »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด