ริมทราย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ริมทราย  (อ่าน 55293 ครั้ง)

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #60 เมื่อ13-01-2008 22:21:53 »

เริ่มสาภาพว่ารู้สึกดีกับอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: ริมทราย
«ตอบ #61 เมื่อ14-01-2008 00:23:10 »

หนุกดีครับ ชอบๆๆๆ :m1:

ask

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #62 เมื่อ16-01-2008 17:05:05 »


ติ๊ง..ต่อง..

เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ไผ่วางหนังสือพิมพ์ในมือลง ใจนึกสงสัยว่าใครที่มาหาเขาถึงบ้าน แล้วก็เป็นดังคาด ผู้มาเยือนคนนั้นคือแพรวา

แต่แพรวาไม่ได้มาลำพัง เธอควงชายหนุ่มคนหนึ่งมาด้วย...

แพรวาเป็นผู้หญิงร่างเล็ก น่าเอ็นดู เธอยิ่งดูตัวเล็กและบอบบางมากยิ่งขึ้นเมื่อยืนเทียบกับชายหนุ่มตรงหน้าไผ่ซึ่งเป็นคนไหล่กว้าง ตัวสูง ท่าทางมีภูมิฐาน หน้าตาหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาไร้ที่ติ

"สวัสดีครับ..." ไผ่ทัก มองชายหนุ่มร่างสูงอย่างสงสัย เขาคงเป็นคนรักของแพร

"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวยิ้มทักทายอย่างน่ารัก "ไผ่คะ นี่รุจ...คู่หมั้นแพรเองค่ะ รุจ นี่ไผ่ที่แพรเล่าให้ฟังไงคะ"

รุจมองดูไผ่ ซึ่งรู้สึกว่าสายตาที่รุจส่งมาให้นั้นซ่อนแววตาไม่เป็นมิตรเอาไว้ แต่เขาก็จ้องตอบอย่างไม่กลัวเกรง

ไผ่เชิญแขกทั้งคู่เข้ามาในบ้านซึ่งบัดนี้ก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากก่อนที่ไผ่จะเข้าโรงพยาบาลสักเท่าไหร่

"ขอโทษที่บ้านออกจะรกไปหน่อยนะครับ" ไผ่ขอโทษขอโพย แพรวายิ้มอย่างไม่ถือสา แต่รุจไม่ได้แสดงสีหน้าอันใด เขาคอยจับตามองไผ่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งไผ่ไม่ชอบเลย

แพรเล่าให้ฟังว่าที่เธอหายหน้าหายตาไปนั้น เพราะคู่หมั้นของเธอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศหลังจากทราบข่าวว่าแพรวาถูกรุมทำร้ายที่ชายหาด แพรวาจึงเดินทางไปกรุงเทพเพื่อรับคู่หมั้นจากสนามบิน

"ต้องขอบคุณไผ่จริง ๆ ที่ช่วยแพรเอาไว้" แพรวาบอกน้ำเสียงสดใส "ใช่ไหมคะรุจ"

"ใช่ ขอบคุณ" รุจตอบสั้น ๆ เป็นการเอ่ยปากครั้งแรกนับตั้งแต่ย่างเข้าบ้าน เขามองไผ่อย่างไม่ไว้ใจ ทำให้คนถูกมองรู้สึกตะหงิด ๆ ว่าบางทีรุจอาจจะกลัวไผ่พยายามแย่งคู่หมั้นของเขาก็ได้

...........................................................*

สาย ๆ ของวันต่อมา

เชนมองไผ่อย่างไม่สบายใจหลังจากเขาเล่าเรื่องรุจให้ฟังในร้านกาแฟที่ชายหนุ่มทั้งสองนัดเจอกัน

"ฉันไม่ชอบใจเลย" เชนพูดตรง ๆ เขาสั่งกาแฟคาปูชิโน่เย็นมาแก้วหนึ่ง ส่วนไผ่มีกาแฟดำอยู่ในมือ "ขออย่าให้นายรุจอะไรนั่นเข้าใจอะไรผิดเลยนะ"

"มันมีอะไรให้เข้าใจผิดกันเล่า" ไผ่จิบกาแฟดำ

"ไม่รู้สิ...เกิดเขาคิดว่านายจะเป็นชู้กับแพรแล้วส่งมือปืนมาเก็บนาย...ไม่อยากจะคิดเลย" เชนว่า แต่ไผ่กลับทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน มิหนำซ้ำยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี

"แพรยังไม่แต่งงานสักหน่อย หมั้นได้ก็ถอนได้" ไผ่ตอบ "นายเป็นห่วงฉันเหรอ"

"อืม" เชนดื่มกาแฟ "ใช่.. ถ้านายเป็นอะไรไปฉันคงเสียใจนะ นายเป็นเพื่อนคนแรกตั้งแต่ฉันเรียนจบ"

"แค่นั้นฉันก็ดีใจแล้วล่ะ" ไผ่ยิ้ม ๆ

"แล้วนายชอบคุณแพรเขาจริง ๆ รึเปล่าล่ะ" เชนใช้หลอดคนกาแฟในมือ หลบสายตาของไผ่

"เปล่าซักหน่อย" ไผ่ตอบ ใช้สายตามองเชนอย่างมีความหมาย

เชนมองไปทางอื่น ทำท่ากระเอม แล้วลุกไปที่อื่นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ได้ยินเสียงไผ่หัวเราะหึ..หึอยู่ข้างหลัง

ไผ่นั่งจิบกาแฟรอ นั่งมองน้ำแข็งในแก้วของเชนละลายปนกับคาปูชิโน่ ตอนที่เชนกลับมาพร้อมกับผู้หญิงหน้าตาร่าเริงคนหนึ่ง เธอมัดผมรวบไว้ข้างหลัง แต่งหน้า แต่งตัวมีรสนิยมไม่น้อย

"เอ่อ สวัสดีครับ" ไผ่ว่าอย่างงง ๆ เมื่อไผ่ให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งลงที่โต๊ะเดียวกัน ไผ่รู้สึกคุ้นตาผู้หญิงคนนี้อย่างประหลาด

"เชน นี่พี่แจน พี่สาวฉันเอง" เชนแนะนำ

"สวัสดีจ้ะ" แจนยิ้มทักทาย "นี่เหรอแฟนแก เจ้าเชน"

เชนหน้าแดง ส่วนไผ่กำลังสงสัยว่าเขาควรทำสีหน้าอย่างไร

"เพื่อนต่างหากพี่แจน" คนถูกทักแก้ตัว

"แหม แกก็...ทำเว่อร์ไปได้ พี่แค่ล้อเล่นหรอกน่า" แจนหัวเราะคิกเหมือนเจอเรื่องถูกใจ "แล้วไม่คิดจะเลี้ยงอะไรพี่ในไส้แกหน่อยรึ ไม่เจอซะน้านนาน"

เชนแกล้งมองพี่สาวอย่างไม่พอใจ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะไม่สนใจสายตาของน้องชายเลย เพราะเธอแกล้งทำเป็นสนใจมองดูเล็บที่ถูกไว้ยาวและทาสีสันสดใสเอาไว้อยู่ เชนถอนหายใจแล้วเรียกเด็กเสิร์ฟในร้านมา

"เราอ่ะชื่ออะไร ไผ่หรือเปล่า" แจนหันมาสนใจไผ่แทน เมื่อเห็นว่าเชนสั่งกาแฟและเค้กที่เธอชอบให้ ไผ่พยักหน้าตอบ

บทสนทนาดำเนินไปอย่างสนุกสนานเมื่อมีแจนเข้ามาร่วมวง เธอเป็นคนร่าเริงสดใส ร่าเริงยิ่งกว่าน้องชายของเธอเสียอีก นอกเหนือจากนั้นยังชอบแกล้งแหย่เชนอีกด้วย ไผ่ได้รู้ว่าแจนเป็นลูกสาวคนโตของบ้านเชน แต่งงานย้ายออกไปอยู่กับสามีที่กรุงเทพเมื่อสองปีก่อน บุคลิกของเธอไม่เหมือนหญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วเอาเสียเลย กลับเหมือนเด็กวัยรุ่นกำลังแสบซ่าเสียมากกว่า

"พี่พึ่งกลับมาเมื่อกี้นี้เอง กลับไปถึงบ้านพ่อแม่ก็บอกว่าแกออกมาแล้ว เจ้าเชน ฉันก็เลยตามออกมาดูหน้าแฟนแกนี่ไง" แจนเรียกเชนเป็นแฟนกับไผ่เป็นครั้งที่ร้อย

"เลิกเรียกแบบนั้นสักทีเถอะพี่" เชนปฏิเสธเป็นครั้งที่ร้อยเช่นกัน

"ชั้นจะเรียกแล้วแกมีปัญหาอะไรยะ" แจนกัดน้อง แล้วหันมาทำเสียงหวานกับไผ่ "ไปเล่นบ้านพี่มั๊ยไผ่จ๋า พี่จะให้เจ้าเชนมันเล่นเปียโนให้ฟัง"

"เฮ้ย.." เชนท้วง แต่ถูกเชนส่งสายตาข่ม ๆ ไปให้ จึงเงียบเสีย

ไผ่รู้สึกสนใจ เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าเชนเล่นเปียโนด้วย จึงตอบรับอย่างเต็มใจ

..................................................................................................*


ไม่มีกำหนดหรอกค่ะว่าจะบอกรักกันเมื่อไหร่ คนเขียนลีลาค่ะ อิอิ

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #63 เมื่อ16-01-2008 17:41:42 »

เป็นกำลังใจให้อีกเรื่องหนึ่งคับ


 :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
Re: ริมทราย
«ตอบ #64 เมื่อ16-01-2008 18:09:04 »

พี่แจนเค้ายังดูออกเลยนะ  :m20:
ทำไมนายเชนไม่รับไปเลยหละ เป็นแฟนกับไผ่ อิอิ  :m4:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #65 เมื่อ16-01-2008 19:33:41 »

พี่แจน น่ารักจัง อิอิ

เมื่อเชน แน่ใจในตัวไผ่ เชนคงบอกรักไผ่เองแหละครับ

แต่ดูเหมือนไผ่ จะให้ใจกับเชนไปเยอะแล้วนะเนี่ย  :m1: :m4:

ออฟไลน์ Ex'ecuzě

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1016
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-1
Re: ริมทราย
«ตอบ #66 เมื่อ16-01-2008 20:13:55 »

หลังจากที่หายปายนาน
วันนี้ก้อได้ฤกษ์มาดันน้องฟ้าแร้ว
สู้ๆค้าบผม ชอบๆๆ :m4:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: ริมทราย
«ตอบ #67 เมื่อ17-01-2008 22:00:53 »

เชนช่างเป็นผู้ชายโรแมนติคเสียนี่กระไร
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
ขอแค่มีกันและกัน อยู่ที่ไหนก็มีความสุขได้
 :m1: :m1: :m1: :m1:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ริมทราย
«ตอบ #68 เมื่อ18-01-2008 07:53:39 »

ตามอ่านทันแล้ว  ว่าจะอ่านเรื่องนี้นานละ  เพราะว่าชื่อเรื่องเพราะดี...ริมทราย.. :m1:

พอมีพี่แจนมารู้สึกว่ามีสีสันขึ้นนะ 
ลีลาไปเรื่อยๆ  อย่าเพิ่งบอกรักกันง่ายๆ เอิ๊กๆ

เป็นกำลังใจให้จ้า  น้องฟ้า  :a2:

ask

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #69 เมื่อ19-01-2008 20:37:18 »

..................................................................................................*

บ้านของเชนร่มรื่นแม้ตอนกลางวัน ในสวนหย่อมหน้าบ้านนั้นเห็นพ่อของเชนกำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงลงมาเกลื่อนพื้นอยู่อย่างขมักเขม้น

"พ่อชอบดูแลสวน" เชนบอก "ไม่งั้นบ้านฉันไม่มีต้นไม้ถึงวันนี้หรอก บ้านฉันเหลือแต่พ่อนี่แหล่ะที่คอยดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ในสวนอยู่ ถ้าไม่นับผักสวนครัวของแม่นะ"

"อ้าว แจน เชน พาเพื่อนมาด้วยเหรอ" ชายชราถามด้วยท่าทางอารมณ์ดี เมื่อสังเกตเห็นชายหญิงทั้งสามเข้ามาไหว้ทักทาย

"ให้ผมช่วยมั๊ยพ่อ" เชนอาสา

"ไม่ต้องหรอกเชน  ถ้าพ่อไม่ได้ทำจะรู้สึกเหงา ๆ น่ะ" พ่อตอบ ทำให้ลูกชายท่าทางหงอยลง

"ไอ้เชนมันไม่อยากเล่นเปียโน" แจนกระซิบบอกไผ่ "หาข้ออ้างไปอย่างนั้นล่ะ มันรู้อยู่แล้วว่าพ่อไม่ชอบให้ใครช่วย"

ทั้งสามเข้าบ้าน ทักทายแม่ แล้วตรงไปที่ห้องซึ่งไผ่ยังไม่เคยเข้าไป

ห้องนั้นเป็นห้องกว้าง ทั้งห้องดูสว่างอบอุ่นด้วยสีไข่ ตรงกลางห้องมีแกรนด์เปียโนสีขาววางเอาไว้ ฝาเปียโนถูกปิดเอาไว้ อย่างเรียบร้อย ที่มุมหนึ่งของห้องมีชั้นวางกระดาษและแฟ้มต่าง ๆ อยู่ แจนกับเชนเดินเข้าไปถกเถียงกันอยู่ที่มุมนั้น ไผ่เดาเอาว่าคงจะเป็นมุมวางโน้ตเพลง

ไผ่ชอบเสียงเปียโน แต่เขาไม่มีโอกาสได้ฟังบ่อยนัก จึงไม่แปลกที่เขายินดีที่ได้รู้จักเพื่อนที่เล่นเปียโนเป็น

"เพลงนี้ดีกว่านะ" แจนบอกน้องชาย ในมือมีโน๊ตเพลงอยู่เพลงหนึ่ง "พี่คิดถึง"

"เชนไม่อยากเล่นเพลงนี้อ่ะ" เชนบ่น

"เชน.." แจนทำเสียงต่ำและส่งสายตาคล้ายตำหนิมาให้ ไผ่ไม่คิดว่าจะได้เห็นผู้หญิงอย่างแจนทำหน้าเครียดแบบนั้นเลย และเชนก็คงรู้เช่นกันว่าพี่สาวเขาเอาจริงแล้ว จึงทำตามโดยดี

"รอบเดียวนะ" เชนนั่งลง ส่งสายตาค้อนพี่สาว ไผ่มองอย่างขำ ๆ แล้วเชนก็เริ่มเล่นเพลงทำนองสดใสอบอุ่น

"เชน!" แจนดุ เห็นได้ชัดว่าเชนไม่ได้เล่นเพลงตามโน๊ตที่วางอยู่ตรงหน้า เชนส่งสายตาให้แจนอย่างหาเรื่องและเล่นต่อไป เมื่อเห็นว่าน้องชายไม่มีทางทำตามที่เธอสั่งแล้ว แจนจึงหันมาสนใจไผ่แทน

"ไผ่เล่นเปียโนเป็นรึเปล่า" เธอถาม

"ผมสนใจมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะฮะ แต่พ่อแม่ไม่ให้เรียน"

"เอ๋ แย่จัง" แจนมองไผ่อย่างแปลกใจ ทำทีเหมือนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เริ่มพูดต่อ "ฉันกับเชนเคยมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง...เธอชอบเล่นเปียโนมากเลยนะ ดวงตาของเธอจะเป็นประกายทุกครั้งที่ได้ฟังเสียงเปียโน หรือเล่นเปียโน เหมือนตาของไผ่ตอนนี้เลย"

"เคยมีเหรอครับ" ไผ่ไม่แน่ใจว่าเขาฟังถูกหรือเปล่า

"ใช่จ้ะ" แจนยิ้มเศร้า ๆ "ชื่อแบมน่ะ ความจริงแล้ว..นี่ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่แบมจากไปที่เชนแตะต้องเปียโนนะ ไม่รู้เป็นเพราะไผ่รึเปล่า"

มีอะไรบางอย่างบอกไผ่ว่าเขาไม่ควรพูดอะไรเกี่ยวกับเด็กที่ชื่อแบมอีก

"แล้วพี่แจนล่ะฮะ เล่นเปียโนได้หรือเปล่า" ไผ่รีบเปลี่ยนเรื่อง

รอยยิ้มสดใสกลับมาบนใบหน้าของหญิงสาวอีกครั้ง "พี่เล่นเป็นแต่กีต้าร์จ้า"

...........................................................*

เสียงริงโทนมือถือของแพรวาดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาจะรับสาย แต่มีมือแข็งแรงคู่หนึ่งจับข้อมือของเธอไว้

"ใคร" รุจถามสั้น ๆ เขากำลังขับรถอยู่

แพรวาทำหน้างง แล้วยื่นมือถือให้ดู เป็นชื่อของเชน

"ใคร" รุจถามซ้ำ

"เพื่อนค่ะ" แพรตอบ เสียงมือถือยังดังอยู่ไม่หยุด "แพรขอคุยได้หรือยังคะ"

ดูเหมือนคู่หมั้นของแพรจะพึ่งรู้สึกตัว เขารีบปล่อยข้อมือของเธอด้วยกิริยาคล้ายชักกระตุก

"สวัสดีค่ะ" แพรรับ รุจเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ "ค่ะ อ๋อ ว่างสิคะ ....ค่ะ ค่ะ ไปได้ค่ะ"

ชายหนุ่มข้างตัวเธอปล่อยลมหายใจแรง ๆ คล้ายสะกดกลั้นอารมณ์ แพรวาเหลือบมองแล้วซ่อนรอยยิ้มซุกซนบนใบหน้า

"ที่ไหนล่ะคะ" เธอถามต่อ "ค่ะ"

แพรวาวางสาย หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส รุจหน้าเบ้แต่ไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวจึงมองไปข้างหน้า แล้วแกล้งพูดขึ้นมาลอย ๆ

"ดีใจจัง"

"อะไร" ชายหนุ่มถามห้วน ๆ คล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง

แพรวาถอนหายใจ แล้วยิ้มกว้าง "ผู้ชายขี้หึงนี่น่ารักนะคะ"

รุจเกือบขับรถตกถนนเพราะประโยคที่แพรบอกเขา

........................................................................*

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์เจ้าค่ะ  o1
ไม่อยากจะบอกเลยว่าเรื่องนี้นั้นเราแต่งจากเรื่องที่ตั้งใจจะให้มีแค่สองสามตอนจบ แต่ไหงยืดมาขนาดนี้ก็ไม่รู้ เหอ ๆ ๆ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะให้ใครรุกใครรับ - -"
ช่วงนี้กำลังรีบแต่งนะคะ เพราะสอบเรียนต่อก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว(สอบไม่ได้เดี๋ยวไม่มีที่เรียน) กะจะแต่งให้จบก่อนเดือนกุมภา แล้วรีบอ่านหนังสือเตรียมสอบ จะพยายามไม่แต่งให้ห้วนเกินไปค่ะ (ข่วงนี้ภาษาก็ไม่ได้ตรวจแก้ก่อนลง พิมพ์ผิดตรงไหนก็ขอโทษด้วยค่า)
คิดว่าอีกไม่นานคงจบแล้ว แต่ถ้าเกินเดือนกุมภาแล้วยังไม่จบ คาดว่าเรื่องนี้จะค้างอยู่เช่นนั้นตลอดไป เพราะฟ้าเคยแต่งนิยายแล้วดองมาหลายเรื่องแล้ว พอจะกลับไปแต่งเรื่องที่ใส่ไหไว้มันก็ไม่มีมุข กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นกับเรื่องนี้
ถ้าจบจริง ๆ เรื่องนี้จะเป็นBoys Love เรื่องแรกเลยที่ฟ้าแต่งจบ  :o8:

ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ริมทราย
« ตอบ #69 เมื่อ: 19-01-2008 20:37:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: ริมทราย
«ตอบ #70 เมื่อ19-01-2008 21:44:52 »

หวังว่าคงจะได้อ่านจนจบค่ะ 
เป็นกำลังใจให้จ้า   :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: ริมทราย
«ตอบ #71 เมื่อ19-01-2008 21:55:08 »

ตามทันแล้ว  :m4: :m4: รออ่านต่อจ้า  :oni2: :oni2:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #72 เมื่อ19-01-2008 22:09:01 »

หวังว่าคงได้อ่านจนจบจบนะครับ  :m1: :m4:

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: ริมทราย
«ตอบ #73 เมื่อ20-01-2008 00:51:58 »

รออ่านอยู่เรื่อยๆน๊าาาาา :m4:

ask

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #74 เมื่อ20-01-2008 14:20:25 »

........................................................................*

ร้านไอศกรีมหัวมุมถนนร้านนี้เปิดมานานหลายปีแล้ว สไตล์การแต่งร้านที่เรียบง่ายดูมีระดับและราคาของที่ไม่สูงเกินไปทำให้ร้านนี้มีลูกค้าเข้าอยู่เสมอ

เชนกับแจนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะกลมโต๊ะหนึ่งในร้านเมื่อแพรวาเข้าไปถึง แพรชะงักเมื่อสังเกตเห็นแจน

"อ้าว สวัสดีครับแพร" เชนที่สังเกตเห็นแพรทัก แจนหันไปตาม

"แพร..." หญิงสาวอ้าปากค้าง

"แจน...เธอมาทำอะไรที่นี่" แพรก็ดูเหมือนจะประหลาดใจไม่ต่างกัน

"เอ๋ สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนเหรอ" เชนที่นั่งมองอยู่ถาม แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นหญิงสาวทั้งสองคนสวมกอดกัน

"ฉันคิดถึงเธอมากเลยนะยัยแพร" แจนเริ่มคุยเมื่อแพรนั่งลง แล้วหันมาหาน้องชายที่ทำหน้างง "นี่เหรอเพื่อนของแก ทำไมแกไม่บอกฉันสักคำว่าเพื่อนของแกชื่อแพรวา แง่นครยะ"

"อ้าว ใครจะไปรู้ล่ะ" เชนบ่นอุบอิบ

หลังจากที่สั่งไอศกรีมแล้ว ชายหนุ่มก็นั่งฟังสองสาวคุยกันอย่างออกรส เขาจับใจความได้ว่า แพรวากับแจนเป็นเพื่อนที่เรียนมหาลัยคณะเดียวกันมาและสนิทกันมากชนิดตัวติดกัน แต่แพรวาออกไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จึงขาดการติดต่อกันไป

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...

"แพร...อายุมากกว่าผมเหรอครับ"

แพรยิ้มให้อย่างเป็นมิตร "ใบหน้ามันบอกอายุไม่ได้หรอกนะคะ แพรอายุ 27 เท่าแจนค่ะ"

"เจ้าเชน แกต้องเรียกแพรเป็นพี่นะยะ" แจนสั่งแกมบังคับน้อง

"คร้าบ พี่แจน"

"ว่าแต่...วันนี้เชนเรียกแพรมาทำไมเหรอคะ" แพรวาถาม

"ความจริงก็มีสองจุดประสงค์น่ะครับ" เชนตอบ "ทีแรกก็ตั้งใจจะแนะนำให้พี่ ๆ รู้จักกัน แต่ถ้ารู้จักกันแล้วก็ดีครับ"

"แล้วอีกเหตุผลนึงล่ะ" แจนสงสัย น้องชายไม่ได้บอกอะไรเธอเลยนอกจากบอกว่าจะพามาแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนใหม่

เชนท่าทางไม่สบายใจ เขาลดเสียงลงแล้วกล่าว "ผมอยากสืบเรื่องครอบครัวของไผ่"

"ฉันว่าแล้ว.." แจนเริ่ม แต่ถูกเชนส่งสายตาปรามให้เงียบ ส่วนหญิงสาวอีกคนนั้นนิ่งเงียบ ดูเหมือนไม่ต้องการจะพูดเรื่องนี้สักเท่าไหร่

"แพร..เอ่อ พี่แพรช่วยผมได้ไหมครับ" เชนถามเมื่อเห็นสีหน้าของแพร "คือ..ผมทราบมาว่าคุณรู้จักนักสืบอยู่บ้าง"

แพรวาอึกอัก "ไม่ใช่ว่าแพรไม่อยากช่วยนะคะ..แต่แพรเคยสืบมาแล้วล่ะค่ะ"

คำตอบของแพรไม่ได้ผิดจากที่เชนคาดเอาไว้นัก

"ไผ่อยู่บ้านคนเดียวค่ะ พ่อของเขาป่วยเป็นไตวายแล้วเสียตอนที่ไผ่อายุ 17" แพรพูดเบา ๆ ให้ได้ยินกันสามคน "ส่วนแม่...ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับสามีใหม่ พวกเขาหย่ากันตอนที่ไผ่อายุ 15"

 แจนและเชนรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เชนลืมเรื่องที่ต้องการจะรู้ไปหมด

"นี่แหล่ะค่ะที่แพรไม่ค่อยสบายใจมานานแล้ว แพรสงสารไผ่ค่ะ" เธอบอก เขี่ยไอศกรีมในถ้วยไปมา แจนทำท่าคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แล้วดีดนิ้วดังเป๊าะ

"งั้น...เอาอย่างนี้ดีไหมแพร" แจนยิ้ม(อย่างที่เชนไม่ใคร่จะไว้ใจ) แล้วเริ่มบอกแผนการ

...*

แจนเอ๋ย แกล้งน้องเก่งจังนะ (เหมือนคนเขียนเลย)

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ริมทราย
«ตอบ #75 เมื่อ20-01-2008 17:56:43 »

ตกลงวางแผนกันเพื่อช่วยไผ่ใช่มะ  :m23:

เอาใจช่วยเชนกับไผ่  แล้วก็น้องฟ้าน้า  แต่งให้จบนะ  รออ่านอยู่ สู้ๆ  :a2:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
Re: ริมทราย
«ตอบ #76 เมื่อ20-01-2008 18:47:54 »

ท่าทางแผนที่พี่แจนวางจะน่าสนุกนะเนี่ย  :m4:
มารอลุ้นเชนกับไผ่ครับ  :m13:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: ริมทราย
«ตอบ #77 เมื่อ20-01-2008 19:50:20 »

หุหุ งานนี้พี่สาวเป็นสื่อรักอ่ะเปล่า   :m1: :m1: :m1:

ก้อนเฆมสีคราม

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #78 เมื่อ20-01-2008 20:31:06 »

สนุกดีคับ แต่ไม่รู้คิดไปเองป่าว ว่ะ มีบรรยากาศเหงาๆ อยู่ในเนื้อเรื่องตลอด

ask

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #79 เมื่อ21-01-2008 00:06:41 »

...*

เชนกับไผ่นั่งพักหลังจากทำงานอดิเรกประจำเสร็จ ลมทะเลพัดมาไม่ขาดสาย ท้องฟ้ายามนี้เป็นสีส้มแดง พระอาทิตย์กำลังเคลื่อนตัวลงใกล้ผิวน้ำ

"อือ...ไผ่" เชนสะกิดอีกฝ่าย

"หืมม" ไผ่ถามในลำคอ

"ฉันพร้อมจะบอกนายเรื่องนั้นแล้วล่ะ" เชนหายใจเข้าลึก ๆ "ฉันจะพานายไปดูที่ ๆ หนึ่ง...แล้วฉันจะเล่าทุกอย่างที่นั่น"

ไผ่ตามเชนไปอย่างว่าง่าย เชนเดินเลียบชายฝั่งไปเรื่อย ๆ จนถึงที่ ๆ มีโขดหินระเกะระกะไปหมด หาดแถวนี้ไม่มีทัศนียภาพอะไรแม้แต่ทรายก็หยาบไม่ละเอียดเหมือนทรายบริเวณอื่น จึงทำให้ไม่มีคนอยากผ่านเข้ามานัก

เชนชี้ให้ไผ่ดูช่องทาง เขาเห็นช่องเล็ก ๆ พอที่คนตัวผอม ๆ คนหนึ่งจะลอดเข้าไปได้อยู่หลังหินก้อนใหญ่ที่บังเสียแทบมิด ถ้าหากมองผ่าน ๆ คงไม่มีทางสังเกตเห็น แล้วพยักหน้าให้ไผ่ลอดเข้าไป ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่เขารู้ว่าเชนเป็นคนที่ไว้ใจได้ จึงก้มตัวแล้วเดินเข้าไปในนั้น

ช่องนั้นเป็นทางเข้าของอุโมงค์ที่มืดสนิท ชายหนุ่มเห็นแสงอยู่ข้างหน้าลิบ ๆ จึงเดินตามแสงไปในความมืด ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะสะดุดหินก้อนเล็กหรือโดนสัตว์ไม่พึงประสงค์ในนี้กัดเอา แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าที่ ๆ เชนอยากให้เขาดูนั้นเป็นอย่างไร ไผ่ออกจากอุโมงค์หินเล็ก ๆ นั้น แล้วพบตัวเองอยู่บนชายหาดเล็ก ๆ ขนาดที่ก้าวออกไปอีกสองสามก้าวก็จะถึงทะเล และถูกโขดหินปิดล้อมไว้ทุกทิศ มีสองทางที่จะมาที่นี่ได้ หนึ่งคือว่ายน้ำมา และสองคือลอดอุโมงค์

เชนโผล่มาจากอุโมงค์

"ฉันไม่ได้มาที่นี่นานแล้วล่ะ" เชนเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นไผ่ยืนมองรอบ ๆ อย่างอัศจรรย์ใจ "นายชอบไหม"

ไผ่หันมายิ้มกว้างให้เชน "ชอบสิ ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนเงียบสงบและเป็นส่วนตัวอย่างนี้มาก่อนเลย เสียอย่างเดียว จากตรงนี้เรามองไม่เห็นพระอาทิตย์ตก"

"แน่ล่ะ ทิศนี้เป็นทิศตะวันออกพอดี" เชนชี้ไปตรงขอบฟ้าเบื้องหน้า "ถึงไม่เห็นพระอาทิตย์ตก แต่ก็เป็นที่ ๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างดีเยี่ยมเชียวล่ะ"

ไผ่กับเชนนั่งลงดูสีท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแห่งรัตติกาลมากขึ้นทุกที

"เอาล่ะ...มาเข้าเรื่องกันดีกว่า" เชนบอก เขากลืนน้ำลาย "นี่เป็น..สถานที่ ๆ มีความหมายต่อฉันและคนที่ฉันรักอีกคนมาก ๆ...น้องสาวของฉันเอง" เชนรีบบอกเมื่อเห็นแววตาไผ่

อ้อ...เด็กที่ชื่อแบมที่พี่แจนเคยพูดถึงสินะ...ไผ่คิด

"น้องสาวของฉันชื่อแบม" เชนเล่าต่อ "แบมเป็นคนหาที่นี่เจอ เธอชอบมานั่งซึมอยู่แถวนี้เวลาไม่สบายใจ เพราะที่นี่เป็นที่ ๆ เงียบสงบ แบมเคยบอกฉันว่า เธอคิดว่าที่นี่เป็นหาดทรายของเธอเพียงคนเดียว เพราะเธอเป็นคนค้นพบมัน แล้วถึงจะมีคนเคยค้นพบมาก่อนแล้ว ก็คงไม่มีใครสนใจอะไร เพราะเป็นหาดปิด ถูกล้อมรอบไว้ด้วยโขดหินและตีนเขา มันคงไม่ใช่ที่ ๆ เหมาะจะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนักหรอก"

เชนอึกอัก ราวกับหาถ้อยคำมาบรรยายต่อแต่หาคำที่เหมาะสมไม่ได้ ไผ่เห็นน้ำตาที่รื้นอยู่

"ถ้ามันอึดอัดที่จะเล่า..." ไผ่เริ่ม

"ไม่หรอก" เชนตัดบท "วันนี้ฉันตั้งใจจะเล่าให้นายฟังแล้วนะ ฟังดี ๆ...

"ฉันเป็นคนเดียวที่แบมบอกเรื่องที่นี่ให้รู้ ดังนั้น เวลาที่บ้านหาเธอไม่เจอฉันก็จะหาเจอตลอด...มันเป็นหน้าที่ของฉันไปเลยล่ะ ที่จะมาตามน้องกลับบ้านไปทานข้าวเย็น แต่แล้ววันหนึ่ง..." น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากตา ไผ่ตกใจ "ฉันก็เถลไถล ฉันก็ไม่มาดูแลน้อง ทั้ง ๆ ที่ฉันควรจะทำแบบนั้น...แบมก็เลยต้องตาย เพราะฉันคนเดียว"

ไผ่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้เชนอย่างแผ่วเบา เชนหันไปมอง

"และที่ฉันต้องมาทำความสะอาดหาดนี้อยู่ทุกวัน ก็เพราะแบมเคยทำหน้าที่นั้นมาก่อน และฉันอยากจะให้ที่สุดท้ายที่น้องสาวของฉันมีชีวิตอยู่เป็นที่ ๆ สวยงาม..."

ทั้งสองประสานสายตากัน และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไผ่เห็นว่าดวงหน้านั้นสวยน่าหลงไหลเหลือเกิน...เขาเลื่อนหน้าลงไปราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง เชนตกใจจนไม่ได้ขัดขืน ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน มือของไผ่เลื่อนมาอยู่ท้ายทอยของอีกฝ่าย

"อึก...อ..อือ.."

ไผ่ดุนลิ้นผ่านริมฝีปากคู่นั้น เขาค่อย ๆ เพิ่มแรงกดที่ท้ายทอยของเชน เชนตัวอ่อนไปหมด รสสัมผัสนั้นทำให้เขาหมดแรง

กว่าไผ่จะรู้สึกตัวก็ใช้เวลานานทีเดียว เขาค่อย ๆ ผละออกจากเชนอย่างอาย ๆ

ดวงอาทิตย์ตกดินไปเสียแล้ว คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงส่องสว่าง ไผ่เห็นเชนใช้มือข้างหนึ่งกุมริมฝีปากเอาไว้

"ข..ขอโทษนะ" ไผ่บอก มองเข่าตัวเอง เขารู้สึกว่าหน้าร้อนวาบไปหมด ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากเชนเลย

"อือ...ไม่เป็นไร" เชนเสมองไปทางอื่นแก้เก้อ "ก..กลับกันเถอะนะ"

ไผ่กับเชนออกมาจากหาดนั้น มืดมากแล้ว ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกัน ไผ่ไม่ได้ปฏิเสธเหมือนเคยด้วยซ้ำเมื่อเชนอาสาจะไปส่งที่บ้าน

...................................................*

สนุกดีคับ แต่ไม่รู้คิดไปเองป่าว ว่ะ มีบรรยากาศเหงาๆ อยู่ในเนื้อเรื่องตลอด

 :m29: อาจจะเป็นเพราะฟ้าอิจฉาตัวละครก็ได้นะคะ

ฉากจูบไม่สวยเท่าไหร่เลย - -" ไม่เคยเลยบรรยายออกมาไม่ถูก เรื่องอย่างนี้มันต้องอาศัยประสบการณ์มั๊ยคะ? ช่างมันเถอะ ง่วงแล้ว ไปนอนก่อน T T

ปล. ที่แต่งไว้หมดสต๊อกแล้วค่ะ อาจจะมาโพสต์อีกทีวันพฤหัสโน่น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ริมทราย
« ตอบ #79 เมื่อ: 21-01-2008 00:06:41 »





น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #80 เมื่อ21-01-2008 08:57:39 »

ทำไมสั้นๆ อย่างนี้ล่ะ
กว่าจะมาอีกทีตั้งวันพฤหัสแน่ะ 
ฮือ ฮือ คนอ่านขาดใจตายกันพอดี :m20: :m20:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: ริมทราย
«ตอบ #81 เมื่อ21-01-2008 11:01:54 »

วันพฤหัสก้อจะรอ  :a6:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ริมทราย
«ตอบ #82 เมื่อ21-01-2008 12:27:24 »

อ่านตอนนี้เกือบจะซึ้งได้อารมณ์เต็มที่แล้วอะ  มันขาดอะไรไปนิดหน่อย   :m23:

รออ่านต่อจ้า  น้องฟ้า สู้ๆ  o13

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #83 เมื่อ21-01-2008 21:13:53 »

จูบกันซะที แต่จริง ๆ แล้วน่าจะดูดดื่มได้กว่านี้นะเนี่ย  :m4:

ask

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #84 เมื่อ24-01-2008 00:25:46 »

...................................................*

เชนขับรถมาจอดที่หน้าบ้านไผ่ เขาอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ไผ่จะปิดประตูรถ เชนก็ตัดสินใจได้

"ฉ..ฉันเข้าบ้านไปด้วยได้ไหม" ชายหนุ่มโพล่งออกไป

"อ.เอ่อ ได้สิ ได้ ไม่มีปัญหา" ไผ่ตอบอย่างตื่น ๆ แล้วปิดประตูรถ

ไผ่เปิดประตูบ้าน แล้วเข้าไปข้างในพร้อมกับเชน ใจนึกสงสัยว่าทำไมเชนขอเข้าบ้านมาด้วยดึกดื่นปานนี้...

แต่แล้วข้อสงสัยก็ถูกลบไปหมด เมื่อไฟทั้งบ้านเปิดขึ้นพร้อมกัน

"สุขสันต์วันปีใหม่จ้าาา" แพรกับแจนประสานเสียง ทั้งสองช่วยกันแต่งห้องครัวไผ่จนไม่เหลือเค้าเดิม จัดเป็นสถานที่เลี้ยงปีใหม่ที่เรียบง่ายสวยงาม พ่อกับแม่ของเชนก็มาร่วมงานด้วย รุจนั่งหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แพร เขามองดูชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ทั้งสองอย่างไม่วางตา

ไผ่ตัวแข็ง อ้าปากค้างอย่างประหลาดใจ

"อ..อะไรกันครับนี่.."

"เซอร์ไพร้ซ์ไงจ๊ะ" แจนยิ้มอย่างไมตรีจิต เธอพาไผ่กับเชนไปนั่งที่โต๊ะทานข้าว "ขอโทษที่งานเล็กไปหน่อยนะ แต่เจ้าเชนบอกว่าไผ่ไม่ชอบงานใหญ่วุ่นวาย พี่ก็เลยชวนมาแต่คนที่เป็นกันเอง ทุกคนก็รู้จักไผ่นี่"

งานเลี้ยงที่น่าจะเรียกว่าเป็นการรับประทานข้าวเย็นโต๊ะใหญ่มากกว่าถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านของไผ่ แจนกับแพรคุยกันอย่างออกรส พ่อกับแม่ของเชนกับแจนก็คุยกันเบา ๆ ดูคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลังสมัยยังเป็นหนุ่มสาว รุจคอยชำเลืองมองแพรและตักอาหารใส่จานเธออยู่เรื่อย ๆ แต่ไผ่กับเชนที่นั่งข้างกันกลับไม่ได้พูดคุยหรือมองหน้ากันเลย

แจนเอะใจ เธอรู้ว่าไผ่เป็นคนเงียบก็จริง แต่เชนไม่เคยนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะในงานเลี้ยง น้องชายเธอไม่ได้ยินด้วยซ้ำเมื่อเธอแหย่เขาเรื่องเปิ่น ๆ สมัยประถม อย่างน้อยเชนน่าจะชวนไผ่คุยบ้าง ถ้าแจนไม่ได้ตาฝาดไปเอง เธอก็เห็นเขาหน้าแดงกว่าปกติ

ในฐานะพี่สาว หญิงสาวเริ่มเป็นห่วงน้องชาย จึงขอตัวผละจากแพรที่กำลังคุยเรื่องการงานกันอยู่ ไปลากตัวน้องชายออกมาคุยกันตามลำพังนอกห้อง ไผ่มองอย่างสงสัย

"เชน แกเป็นอะไรไปเนี่ยวันนี้" แจนถามน้องชาย

"ผมเป็นอะไรอ่ะ ผมก็ปกตินี่" เชนก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองหน้าพี่สาว

"เป็นไข้รึเปล่า ทำไมซึมจัง" เธอใช้มืออังหน้าผากน้องชาย "เอ๋ ก็ตัวไม่ร้อนนี่ ทำไมหน้าแด๊งแดง"

"ป..เปล่า" เชนตอบ

"มีอะไรปิดพี่ล่ะสิ คายออกมาเดี๋ยวนี้นะ" แจนบังคับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนลง สายตาดุ ๆ นั้นไม่เคยทำให้เชนกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่เขายอมโอนอ่อนตามพี่สาวเสมอ

ยกเว้นเรื่องนี้ไว้เรื่อง...

"ผมบอกไม่ได้ฮะ" เชนเสมองไปทางโต๊ะอาหาร ไผ่กำลังมองมาทางนี้ แต่พอเห็นเชนมองมาเขาก็รีบหันไปทางอื่น

แจนมองตามสายตาน้อง "เรื่องไผ่ล่ะสิ"

เชนไม่ตอบ แจนมองใบหน้าที่เป็นกังวลสงสัยของน้องแล้วอดใจอ่อนไม่ได้

"เอาเถอะ ถ้ายังไม่พร้อมจะบอกก็ไม่เป็นไร" แจนตบไหล่น้องชายปลอบ ๆ แล้วขยิบตาให้เชน "นี่นะ...แต่ถ้าตัดสินใจอะไรไม่ได้บอกพี่นะ พี่พร้อมจะเชียร์ให้แกกับไผ่เป็นแฟนกันจริง ๆ เสมอแหล่ะ"

ชายหนุ่มตรงหน้าแจนหน้าแดงขึ้นมาทันควัน "พี่แจนบ้าอ้ะ"

แจนไม่สนใจที่เชนด่าเธอ "ว่าแต่แผนนั้นเป็นไงบ้างล่ะ ไผ่ได้แง้มอะไรออกมารึเปล่า"

เชนทำหน้าเหมือนพึ่งนึกได้

"ลืมสนิทเลย ผมอุตส่าห์บอกไผ่เรื่องแบมไปหมดเลย"

แจนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตำหนิ "ให้ตายสิ ฉันอุตส่าห์ส่งนายไปทำให้ไผ่สบายใจ นายกลับเอาเรื่องน้องแบมไปทำให้ไผ่หนักใจมากขึ้นอีกเหรอเนี่ย โอ้ย รู้งี้พี่ไปทำเองก็ดีหรอก"

"อย่าดุผมสิ ลองมาเจอเหมือนผมดูไหมล่ะ" เชนหลุดปาก

"เจอ? เจออะไร" เธอถาม แต่คนโดนถามกลับเดินก้มหน้าก้มตากลับไปที่โต๊ะเสียแล้ว

เชนนั่งฟุ้งซ่านมาตั้งแต่เริ่มงานแล้ว เขาคิดถึงรสสัมผัสที่ริมฝีปาก แม้มันจะเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่นาที แต่เชนกลับรู้สึกว่านาทีเหล่านั้นมันตราตรึงในใจเขาเสียเหลือเกิน

"เอ่อ..เชน" เชนสะดุ้งเมื่อได้ยินไผ่เรียก เขาหันมาเห็นสีหน้าเป็นกังวลของไผ่ "พี่แจนเธอคุยเรื่องอะไรเหรอ"

เชนเลิกคิ้ว "ก็ถามว่าฉันเป็นอะไร ทำไมวันนี้ดูซึม ๆ"

"คุยเรื่องนั้นหรือเปล่า" ไผ่แกล้งทำเป็นแตะริมฝีปากไม่ให้คนอื่นในโต๊ะสงสัยอะไร แต่เชนเข้าใจ เขารีบส่ายหน้าอย่างเขิน ๆ

"นายโกรธฉันหรือเปล่า" ไผ่กระซิบถาม

เชนคิดว่าตนเองหน้าแดงจนไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็น เขาจึงตอบเพียงก้มหน้าสั่นหัวเบา ๆ

"นายไม่โกรธ แต่นายไม่พูดกับฉันมาสักพักแล้วนะ" ไผ่ถอนหายใจ "ถ้าทำแบบนั้นแล้วนายไม่พูดกับฉันแบบนี้ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว"

ทั้งสองเงียบกันอีกสักพัก ไผ่คิดว่าบทสนทนาคงจบลงแค่นั้นเมื่อได้ยินเชนเอ่ยขึ้นมาอีก

"มันเป็นครั้งแรกของฉันนะ รู้ไหม"

ไผ่อ้าปากค้าง "นายอายุมากกว่าฉันอีกนะ"

"เออดิ อายุมากก็ใช่ว่าต้องมีประสบการณ์มากด้วยนี่หว่า" เชนว่า หน้าแดง ไผ่หัวเราะ เขาเอื้อมมือมากุมมือเชนใต้โต๊ะ เชนสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันมาหาไผ่อย่างงง ๆ

"นี่...ฉันยังไม่ได้บอกนายเลยว่า..ฉันรู้สึกเสียใจเรื่องน้องนายนะ" แววตาของเขาฉายแววเห็นใจ แต่แล้วก็หันไปทางอื่นราวกับจะซ่อนอารมณ์บางอย่าง "ฉันเข้าใจ เพราะที่จริง..ฉันก็เคยมีน้องสาวเหมือนกัน"

เชนสงสัยกับถ้อยคำนั้น "เคยมี หมายความว่าไง"

เชนรู้สึกได้ว่าไผ่ปล่อยมือที่กุมไว้ แล้วส่งยิ้มแปลก ๆ ให้เขา

"ที่จริงฉันก็อยากเห็นหน้าน้องนายนะ คราวหลังเอารูปมาให้ฉันดูด้วยได้ไหม"

"นายจงใจเปลี่ยนเรื่องนี่" เชนตำหนิ "ทำไมล่ะ ฉันยังเล่าเรื่องน้องฉันให้ฟังเลย นายก็น่าจะเล่าให้ฉันฟังได้นี่.. มันอาจจะทำให้นายสบายใจขึ้นก็ได้นะ"

ไผ่ยิ้มฝืน ๆ "มันไม่เหมือนกันหรอก" เขามองแววตามุ่งมั่นของเชนแล้วถอนใจ "แต่บางที ถ้าฉันได้เห็นหน้าน้องนายแล้วฉันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ"

"จริง ๆ เหรอ" เชนทำท่าดีใจเหมือนเด็ก ๆ "งั้นพรุ่งนี้ไปบ้านฉันนะ ฉันจะพานายไปดูห้องแบม"

"ก็แค่อาจจะเล่าน่ะ" ไผ่พึมพำ ไม่เคยคิดจะเล่าจริง ๆ ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็อยากจะเก็บเรื่องนั้นไว้เป็นความลับตลอดไป

"ว่าแต่นายเป็นโรคอะไรเหรอไผ่" ดูเหมือนเชนจะไม่ได้ยินที่ไผ่พึมพำเมื่อครู่

"โรคติดทะเลมั้ง" คนตอบทำหน้ากวน ๆ จนเชนอดตบหัวเขาไปป้าบหนึ่งไม่ได้ แจนกับแพรหัวเราะคิกคัก ดีใจที่ทั้งสองกลับมาพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจอีกครั้ง

................................................................................................*

วันต่อมา แจนกับเชนพาไผ่ไปดูห้องของน้องสาวที่ตายไปนับสิบปีแล้ว แต่ทุกคนในบ้านยังคงดูแลรักษาห้องนอนของเธอเอาไว้ราวกับรอคอยให้เธอกลับมาใช้ห้องนั้นอีกครั้ง

ประตูห้องเปิดออก ห้องนอนของน้องสาวเชนไม่ใช่ห้องสีชมพูหวานแหววอย่างที่ไผ่นึกภาพไว้ ไม่มีตุ๊กตาแม้แต่ตัวเดียว ทุกอย่างถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยเอาไว้ โต๊ะเขียนหนังสือตั้งอยู่ข้างหน้าต่าง มีชั้นวางหนังสืออยู่ที่มุมห้องวางสมุดบันทึกเอาไว้หลายเล่ม เตียงนอนเล็ก ๆ สีขาวสะอาด ห้องทั้งห้องไม่เหมือนห้องเด็กเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักอย่างที่ไผ่นึกภาพเอาไว้เลย

แจนเดินเข้าไปหยิบกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนชั้นวางหนังสือ สร้อยคอเส้นหนึ่งหล่นลงพื้น หัวใจของไผ่กระตุกวูบเมื่อเห็นสร้อยเส้นนั้น...มันคล้ายสร้อยที่เชนซื้อวันปีใหม่จนแทบจะแยกไม่ออก แต่เขาก็เห็นสร้อยนั้นเพียงแวบเดียวก่อนที่แจนจะหยิบขึ้นวางไว้บนชั้นวางหนังสือที่เดิม เธอให้ไผ่ดูรูปในกรอบ เป็นรูปของเด็กผู้หญิงน่าตาสดใสเปล่งปลั่งในชุดกระโปรงสีฟ้า เธอกำลังยิ้มแย้มอย่างน่ารัก ในมือมีสร้อยเปลือกหอยที่คาดว่าเธอร้อยเองอยู่ สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

ไผ่กลั้นหายใจ...ใบหน้านั้น เขาไม่มีวันลืม

"นี่ไงล่ะน้องแบม" แจนบอกไผ่ ตามองรูปของน้องสาวที่ล่วงลับ "เป็นไงจ๊ะ..น่าร.."น้ำเสียงของเธอแปรเปลี่ยนเป็นตกใจ "ไผ่ เป็นอะไร"

"เฮ้ย ไผ่ ร้องไห้ทำไม" เชนตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของชายที่ไม่เคยแสดงความอ่อนแอมาก่อน

ไผ่ก้มหน้า น้ำตาของเขาไหลลงไปตามใบหน้า ร่วงลงไปบนพื้นห้องเป็นหยด เขากำลังสะอื้นเงียบ ๆ "ต..ตายแล้ว ฮึก..มิน่าล่ะ"

เชนรู้สึกเหมือนเห็นไผ่ในวันแรก ๆ ที่เจออีกครั้ง ชายหนุ่มที่นั่งเหม่อมองไปสุดขอบทะเล ราวกับกำลังรอคอยใครบางคน ใบหน้าราวกับเก็บกักความทุกข์เอาไว้เป็นนานปี

"เรื่องอะไรกันนี่" แจนพึมพำอย่างตกใจ เชนคว้ารูปแบมจากแจนแล้วส่งให้ไผ่อย่างอ่อนโยน ไผ่ดูเหมือนจะตื่นจากผวังค์

"ข..ขอบคุณนะ.." เขาเอ่ย "ฉันขออยู่กับแบมสักพักเถอะ"

เชนพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วจูงมือพี่สาวออกจากห้อง

................................................................................*

อื้ม หนูก็คิดเหมือนกันว่าน่าจะแต่งได้ดูดดื่มมากกว่านี้ พอดีฉากจูบนี้แต่งรอบเดียวไม่ได้แก้ค่ะ + ยังไม่เคยมีประสบการณ์ดังนั้นอาจจะบรรยายออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร (ที่พูดนี่ไม่ได้หมายถึงว่าอยากมีนะคะ แหะ ๆ ) ยังไงก็ถ้าส่วนไหนเปราะบางไปก็ขอโทษจากใจจริงเถอะค่า เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะรีไรท์ทั้งเรื่อง ทั้งการดำเนินเรื่อง ภาษา อาจจะรวมถึงพล็อดเรื่องหรือนิสัยตัวละครบางตัวด้วย ดูเหมือนไม่สมจริงยังไงไม่รู้ - -" (ด้อยประสบการณ์ค่ะ แต่ก็ภูมิใจที่ได้แต่ง)

ปล. วันพฤหัสแล้วนะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: ริมทราย
«ตอบ #85 เมื่อ24-01-2008 00:50:47 »

กำลังลุ้นเลย รออ่านต่อนะ  :m4:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #86 เมื่อ24-01-2008 00:54:33 »

...อ่า อยากบอกว่า สนุกมาก ๆ ครับ มาคลี่คลายปมปริศนา ต่อด้วยนะครับ หนุก ๆ ...

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ริมทราย
«ตอบ #87 เมื่อ24-01-2008 06:10:25 »

ไผ่กับแบม   o7

สนุกๆ รออ่านต่ออยู่นะ  o13

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #88 เมื่อ24-01-2008 13:41:04 »

ปมปริศนา เริ่มมาเรื่อย ๆๆ  :m4:

ask

  • บุคคลทั่วไป
Re: ริมทราย
«ตอบ #89 เมื่อ25-01-2008 21:04:23 »



"นี่มันเรื่องอะไรกัน" แจนถามย้ำอีกครั้งเมื่อออกมาจากห้องแล้ว "ไผ่รู้จักกับแบมเหรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่เคยเห็นหน้าไผ่มาก่อนเลยตอนที่แบมยังอยู่"

"ผมก็ไม่เคย" เชนบอก ครุ่นคิด อะไรทำให้ไผ่ร้องไห้ขนาดนั้น

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างสองพี่น้อง

"จะว่าไป...ไผ่กับแบมก็ดูคล้าย ๆ กันอยู่นะ" แจนพึมพำขึ้นมา

"ผมรู้" เชนถอนหายใจแรง ๆ เขาใช้กำปั้นทุบกำแพงแรง ๆ ครั้งหนึ่งเพื่อระบายอารมณ์ "ทำไม..ทำไมผมไม่สังเกตมาก่อนเลย ดวงตาของไผ่มันเหมือนกับแบมมากจนผมสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว นิสัยที่ชอบดูทะเลนั่นก็เหมือนกัน แล้วยังเป็นพวกชอบทำเพื่อคนอื่นอีก มัน..เหมือนกันจนไม่น่ามองข้าม"

"เชน อย่าพูดอย่างนั้นสิ" แจนตกใจ "ไม่แปลกหรอกที่ไม่เอะใจ แบมจากเราไปเป็นทศวรรศแล้วนะ ถ้าแกนึกได้ตั้งแต่แรกเห็นสิฉันจะแปลกใจมาก ๆ"

"พี่ไม่ได้สนิทกับแบมเท่าผมนี่นา" เชนบอกซึม ๆ "แล้วถ้าผมอยู่บ้านวันนั้น แบมก็คงไม่ต้องจบชีวิตลงอย่างนี้"

"หยุดนะ ห้ามแกโทษตัวเอง" แจนบอกเสียงแข็ง "ลืมสัญญาที่ให้กับน้องแล้วหรือไง แบมไม่อยากให้ใครร้องไห้เพราะการตายของเธออีก"

เชนหันหลังเดินจากพี่สาว แจนรู้ว่าน้องชายของเธอกำลังซ่อนน้ำตา

..............................................................*

ไผ่เปิดประตูออกมาหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว...เด็กคนนี้ตายแล้ว..ไม่มีพันธะสัญญาอะไรอีกต่อไป

แจนนั่งรออยู่หน้าห้อง เธอเงยหน้าขึ้นมามองไผ่ที่เดินออกมาจากห้อง ใบหน้าของเขาดูเหมือนไม่มีทางจะส่งยิ้มได้อีกแล้ว ไผ่เห็นคราบน้ำตาบนใบหน้าของแจน เธอลุกขึ้น

"ลงไปหาเชนกับพ่อแม่เถอะ พี่รู้ว่าควรทำยังไง" แจนบอก เธอกลับเข้าไปในห้องเก่าของน้องสาว แล้วนำสร้อยคอเส้นนั้นออกมาด้วย

ที่โต๊ะอาหาร ทุกคนต่างนั่งมองไผ่เป็นตาเดียว ทว่าผู้ที่ถูกจ้องกลับได้แต่ก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมสบตาใคร... ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรสักคำ จนกระทั่งแม่ของเชนเอื้อมมืออันสั่นเทามากุมมือไผ่ไว้อย่างอ่อนโยน มองหน้าเขาอย่างพินิจ

"ทุกคนในบ้านรักเด็กคนนี้มาก" หญิงชราบอก ลูบมือไผ่อย่างปลอบโยน อย่างที่เธอเคยทำกับเชนเมื่อสิบปีก่อน "ถึงเธอจะไม่ใช่เด็กฉลาด แต่เธอก็พยายามจะเอาใจใส่ทุกคน ทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนในบ้านมีความสุข นานวันเข้าเธอก็ไม่ได้ทำแค่นั้น เธอพยายามจะทำเพื่อคนอื่นอีกหลาย ๆ คน ทำเพื่อสังคมน่ะ...แบมเป็นเด็กตัวเล็กนิดเดียว แต่มือของเธอ...มือเล็ก ๆ คู่นั้น ปลูกต้นไม้มากมายในเมืองนี้ มือเล็ก ๆ คู่เดียวกันนั้นก็ยอมแปดเปื้อนเพื่อให้หาดทรายสะอาด มันเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้เด็กคนนั้นดูยิ่งใหญ่เหลือเกิน อายุของเธอสั้น...แต่เธอก็ให้อะไรมากมายแก่ครอบครัวเล็ก ๆ ของเรา"

ไผ่เงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่ของเชน นิ่ง..นาน..  แล้วเขาก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่น ๆ

"สร้อยเส้นนี้..." หญิงชราหยิบสร้อยหินสีดำของแบมขึ้นมา "คือสิ่งเดียวที่ติดตัวเด็กคนนั้นมาตอนที่ฉันพบเธอที่ริมหาดทราย และเธอก็สวมมันไว้ตลอดเวลา ตั้งแต่ฉันบอกเธอไปว่า มันคือหลักฐานที่แสดงว่าเธอมีครอบครัวผู้ให้กำเนิดอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่งในโลกนี้"

ไผ่ไม่ได้พูดอะไร เขาก้มหน้ามองหินนั้น เขาจำมันได้ตั้งแต่แรกเห็น

"ปีนั้นแจนอายุเจ็ดขวบ เธอจำได้วันที่แม่กลับมาบ้านพร้อมกับเด็กทารกในห่อผ้า" แม่ของเชนเล่า "แม่บอกลูกสาวไปว่า ต่อจากวันนี้ บ้านหลังนี้จะมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง...แบมเป็นเด็กดีนะ ขนาดตอนเป็นเด็กทารกยังไม่งอแงสักแอะ... เธอรู้จักกับแบมหรือจ๊ะ"

"เธอเป็นน้องสาวของผม" ไผ่ถอนหายใจ "ตอนที่เธอเกิดมา...พ่อติดพนัน ติดเหล้า สูบบุหรี่ พ่อโกรธมากตอนที่รู้ว่าแม่ท้องน้อง พ่อพยายามจะให้แม่ไปทำแท้งเสีย" แจนอุทานอย่างขวัญเสีย "เขาบอกว่า..บ้านของเราไม่มีเงินพอจะให้เด็กอีกคนเกิดมา แม่พยายามหลบหลีกการทำร้ายของพ่อ ถึงขนาดแยกกันอยู่ แล้วแม่ก็คลอดน้อง พ่อตามมาถึงโรงพยาบาล พยายามจะพาน้องออกไป แต่ผมไปเห็นก่อน ผมห้ามพ่อเอาไว้จนโดนพ่อทำร้าย...ผมเห็นพ่อจะฆ่าน้องต่อหน้าต่อตา แต่ก็มีคนมาช่วยไว้... แม่ไม่รู้เรื่องนั้น ผมไม่เล่า พ่อไม่เล่า แต่ว่า...ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ตั้งใจจะพาน้องหนีออกจากพ่อให้ได้ หนีไปให้ไกลจากผู้ชายคนั้น ก่อนที่พ่อจะฆ่าน้องจริง ๆ

"ผมตื่นตั้งแต่ตีสาม อุ้มน้องออกจากบ้าน เอาสร้อยหินเส้นนั้นสวมให้น้องด้วย หวังว่าสักวันถ้าผมเห็นมัน ผมจะจำน้องได้... ผมพาน้องเดินออกจากบ้าน ไกลออกไปเรื่อย ๆ คิดหาที่ ๆ น้องจะอยู่ได้โดยที่มีความสุข ที่ ๆ จะห่างไกลจากพ่อ ผมเดินไปจนถึงหาดทราย ไม่รู้ผมคิดอะไรถึงได้นั่งลงตรงนั้น นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นกับน้องสาวเป็นครั้งแรก...และครั้งสุดท้าย ผมวางน้องไว้ตรงนั้น ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ รอใครสักคนที่ดูไว้ใจได้มาพาน้องไป ผมไม่รู้หรอกว่ามันเสี่ยงขนาดไหนที่จะปล่อยให้ใครไม่รู้มาเลี้ยงน้อง ผมพึ่งอายุสี่ขวบ...แล้วคุณก็เดินเข้ามา..." ไผ่มองแม่ของเชน ความชราทำให้หญิงสาวที่สวยงามคนนั้นดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม แจนดูเหมือนแม่ของเธอมากเสียจนไผ่รู้สึกคุ้นตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น "ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมปล่อยน้องไปกับคุณ แต่คุณไม่มีแววตามุ่งร้ายเหมือนพ่อ ผมคิดว่าคุณอ่อนโยน.. แล้วคุณก็เลี้ยงน้องสาวของผมให้โตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีความสุขได้จริง ๆ" ไผ่หลับตาลง นึกถึงภาพเด็กหญิงหน้าตาเปล่งปลั่งคนนั้น...

หญิงชรากอดไผ่เอาไว้เหมือนกับกอดเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่กำลังหวาดกลัว แม้ไผ่จะไม่ได้ตัวเล็กเลยก็ตาม เขาซบหน้าลง แล้วร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ

"แบมเป็นเด็กดีจ้ะ" แม่ของเชนเอ่ย ลูบหัวไผ่เบา ๆ "ตลอดชีวิตของเธอ เธอทำตัวเองให้มีค่าเสมอ"

..............................................................*

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด