..................................................................................................*
บ้านของเชนร่มรื่นแม้ตอนกลางวัน ในสวนหย่อมหน้าบ้านนั้นเห็นพ่อของเชนกำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงลงมาเกลื่อนพื้นอยู่อย่างขมักเขม้น
"พ่อชอบดูแลสวน" เชนบอก "ไม่งั้นบ้านฉันไม่มีต้นไม้ถึงวันนี้หรอก บ้านฉันเหลือแต่พ่อนี่แหล่ะที่คอยดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ในสวนอยู่ ถ้าไม่นับผักสวนครัวของแม่นะ"
"อ้าว แจน เชน พาเพื่อนมาด้วยเหรอ" ชายชราถามด้วยท่าทางอารมณ์ดี เมื่อสังเกตเห็นชายหญิงทั้งสามเข้ามาไหว้ทักทาย
"ให้ผมช่วยมั๊ยพ่อ" เชนอาสา
"ไม่ต้องหรอกเชน ถ้าพ่อไม่ได้ทำจะรู้สึกเหงา ๆ น่ะ" พ่อตอบ ทำให้ลูกชายท่าทางหงอยลง
"ไอ้เชนมันไม่อยากเล่นเปียโน" แจนกระซิบบอกไผ่ "หาข้ออ้างไปอย่างนั้นล่ะ มันรู้อยู่แล้วว่าพ่อไม่ชอบให้ใครช่วย"
ทั้งสามเข้าบ้าน ทักทายแม่ แล้วตรงไปที่ห้องซึ่งไผ่ยังไม่เคยเข้าไป
ห้องนั้นเป็นห้องกว้าง ทั้งห้องดูสว่างอบอุ่นด้วยสีไข่ ตรงกลางห้องมีแกรนด์เปียโนสีขาววางเอาไว้ ฝาเปียโนถูกปิดเอาไว้ อย่างเรียบร้อย ที่มุมหนึ่งของห้องมีชั้นวางกระดาษและแฟ้มต่าง ๆ อยู่ แจนกับเชนเดินเข้าไปถกเถียงกันอยู่ที่มุมนั้น ไผ่เดาเอาว่าคงจะเป็นมุมวางโน้ตเพลง
ไผ่ชอบเสียงเปียโน แต่เขาไม่มีโอกาสได้ฟังบ่อยนัก จึงไม่แปลกที่เขายินดีที่ได้รู้จักเพื่อนที่เล่นเปียโนเป็น
"เพลงนี้ดีกว่านะ" แจนบอกน้องชาย ในมือมีโน๊ตเพลงอยู่เพลงหนึ่ง "พี่คิดถึง"
"เชนไม่อยากเล่นเพลงนี้อ่ะ" เชนบ่น
"เชน.." แจนทำเสียงต่ำและส่งสายตาคล้ายตำหนิมาให้ ไผ่ไม่คิดว่าจะได้เห็นผู้หญิงอย่างแจนทำหน้าเครียดแบบนั้นเลย และเชนก็คงรู้เช่นกันว่าพี่สาวเขาเอาจริงแล้ว จึงทำตามโดยดี
"รอบเดียวนะ" เชนนั่งลง ส่งสายตาค้อนพี่สาว ไผ่มองอย่างขำ ๆ แล้วเชนก็เริ่มเล่นเพลงทำนองสดใสอบอุ่น
"เชน!" แจนดุ เห็นได้ชัดว่าเชนไม่ได้เล่นเพลงตามโน๊ตที่วางอยู่ตรงหน้า เชนส่งสายตาให้แจนอย่างหาเรื่องและเล่นต่อไป เมื่อเห็นว่าน้องชายไม่มีทางทำตามที่เธอสั่งแล้ว แจนจึงหันมาสนใจไผ่แทน
"ไผ่เล่นเปียโนเป็นรึเปล่า" เธอถาม
"ผมสนใจมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะฮะ แต่พ่อแม่ไม่ให้เรียน"
"เอ๋ แย่จัง" แจนมองไผ่อย่างแปลกใจ ทำทีเหมือนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เริ่มพูดต่อ "ฉันกับเชนเคยมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง...เธอชอบเล่นเปียโนมากเลยนะ ดวงตาของเธอจะเป็นประกายทุกครั้งที่ได้ฟังเสียงเปียโน หรือเล่นเปียโน เหมือนตาของไผ่ตอนนี้เลย"
"เคยมีเหรอครับ" ไผ่ไม่แน่ใจว่าเขาฟังถูกหรือเปล่า
"ใช่จ้ะ" แจนยิ้มเศร้า ๆ "ชื่อแบมน่ะ ความจริงแล้ว..นี่ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่แบมจากไปที่เชนแตะต้องเปียโนนะ ไม่รู้เป็นเพราะไผ่รึเปล่า"
มีอะไรบางอย่างบอกไผ่ว่าเขาไม่ควรพูดอะไรเกี่ยวกับเด็กที่ชื่อแบมอีก
"แล้วพี่แจนล่ะฮะ เล่นเปียโนได้หรือเปล่า" ไผ่รีบเปลี่ยนเรื่อง
รอยยิ้มสดใสกลับมาบนใบหน้าของหญิงสาวอีกครั้ง "พี่เล่นเป็นแต่กีต้าร์จ้า"
...........................................................*
เสียงริงโทนมือถือของแพรวาดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาจะรับสาย แต่มีมือแข็งแรงคู่หนึ่งจับข้อมือของเธอไว้
"ใคร" รุจถามสั้น ๆ เขากำลังขับรถอยู่
แพรวาทำหน้างง แล้วยื่นมือถือให้ดู เป็นชื่อของเชน
"ใคร" รุจถามซ้ำ
"เพื่อนค่ะ" แพรตอบ เสียงมือถือยังดังอยู่ไม่หยุด "แพรขอคุยได้หรือยังคะ"
ดูเหมือนคู่หมั้นของแพรจะพึ่งรู้สึกตัว เขารีบปล่อยข้อมือของเธอด้วยกิริยาคล้ายชักกระตุก
"สวัสดีค่ะ" แพรรับ รุจเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ "ค่ะ อ๋อ ว่างสิคะ ....ค่ะ ค่ะ ไปได้ค่ะ"
ชายหนุ่มข้างตัวเธอปล่อยลมหายใจแรง ๆ คล้ายสะกดกลั้นอารมณ์ แพรวาเหลือบมองแล้วซ่อนรอยยิ้มซุกซนบนใบหน้า
"ที่ไหนล่ะคะ" เธอถามต่อ "ค่ะ"
แพรวาวางสาย หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส รุจหน้าเบ้แต่ไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวจึงมองไปข้างหน้า แล้วแกล้งพูดขึ้นมาลอย ๆ
"ดีใจจัง"
"อะไร" ชายหนุ่มถามห้วน ๆ คล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง
แพรวาถอนหายใจ แล้วยิ้มกว้าง "ผู้ชายขี้หึงนี่น่ารักนะคะ"
รุจเกือบขับรถตกถนนเพราะประโยคที่แพรบอกเขา
........................................................................*
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์เจ้าค่ะ
ไม่อยากจะบอกเลยว่าเรื่องนี้นั้นเราแต่งจากเรื่องที่ตั้งใจจะให้มีแค่สองสามตอนจบ แต่ไหงยืดมาขนาดนี้ก็ไม่รู้ เหอ ๆ ๆ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะให้ใครรุกใครรับ - -"
ช่วงนี้กำลังรีบแต่งนะคะ เพราะสอบเรียนต่อก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว(สอบไม่ได้เดี๋ยวไม่มีที่เรียน) กะจะแต่งให้จบก่อนเดือนกุมภา แล้วรีบอ่านหนังสือเตรียมสอบ จะพยายามไม่แต่งให้ห้วนเกินไปค่ะ (ข่วงนี้ภาษาก็ไม่ได้ตรวจแก้ก่อนลง พิมพ์ผิดตรงไหนก็ขอโทษด้วยค่า)
คิดว่าอีกไม่นานคงจบแล้ว แต่ถ้าเกินเดือนกุมภาแล้วยังไม่จบ คาดว่าเรื่องนี้จะค้างอยู่เช่นนั้นตลอดไป เพราะฟ้าเคยแต่งนิยายแล้วดองมาหลายเรื่องแล้ว พอจะกลับไปแต่งเรื่องที่ใส่ไหไว้มันก็ไม่มีมุข กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นกับเรื่องนี้
ถ้าจบจริง ๆ เรื่องนี้จะเป็นBoys Love เรื่องแรกเลยที่ฟ้าแต่งจบ
ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านนะคะ