ก็คนมันรักทำไงได้ # IMG PAI 2-6-58 #
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก็คนมันรักทำไงได้ # IMG PAI 2-6-58 #  (อ่าน 2559018 ครั้ง)

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
Re: ก็คนมันรักทำไงได้ 3-4-55 ตอนที่ 13
«ตอบ #30 เมื่อ31-03-2012 10:02:43 »

ตอนที่ 10

ตอนนี้ผมนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารกับพี่เจตน์ หลังจากเลิกเรียนแกก็ไปรับผมที่ ม. อีออยก็ไปรับโมนิคไปหาหมอ วันนี้ผมไม่เจอหน้ามันเลย ไม่ว่าจะโรงอาหาร ห้องน้ำ มันจะบ้ามาคณะผมทำไม ประสาท ไม่ได้ ให้พวกมันรู้ไม่ได้ ยิ่งอีออยตัวดีหูตาจมูกไวไปหมดมันนึกว่ามันเป็นมดผสมสัปปะรดหรือไงก็ไม่รู้ แถมเมื่อตอนกลางวันพวกมันยังคุยเหน็บผมเรื่องนี้ด้วย

“วันนี้ ไม่เห็นพี่หล่อของอีโมนิควะ”มันพูดขึ้นแต่เปลี่ยนมือแล้วครับ มันไปเป็นของอีโมทย์ตั้งแต่เมื่อไร

“อ้าวเปลี่ยนแล้วเหรอวะ”ไอ้โอมถามยิ้มๆ เมื่อวานพวกมันสองตัวเผาผมเรียบร้อย แม่งรุมสับผมเละเลย

“เปลี่ยนสิ โดนด่าซะยับขนาดนั้นใครจะอดทน ดีไม่ประเคนตีนให้ด้วยก่อนจาก”มันพูดเสียงได้ใจมาก

“ก็ลองเตะกูสิ”ผมเลยอดด่ามันไม่ได้ว่าจะไม่สนใจแล้วนะ

“ปากเจ่อไม่เข็ด”มันกัดผมอีกดอก ผมเลยเชิดหน้าใส่มัน พวกมันคิกคัก

“แต่เมื่อเช้ากูเจอพี่เขาวะ”ไอ้อาร์มสเอ่ยออกมา ผมไม่สนใจแต่เหมือนหูจะกางออกเองโดยอัตโนมัติ ไอ้หูไม่รักดี พวกมันก็คุยกัน ประมาณว่าเดินอยู่กับคนชื่อเก้คู่อรินังนีเขา

“ต๊าย ไม่ได้การกูต้องไปสกัดก่อนจะโดนชะนีสิงร่าง”อีออยทำเป็นอุทานเสียงดัดจริต

“ให้มาสิงผีขนุนอย่างมึงแทนเหรอ และมึงจะไปยุ่งทำไม”ผมหมั่นไส้มันเลยว่ามันออกไป บอกแล้วว่ามันต้องไปสอยหอย
 
“แรดดดดด มึงนั่นแหละยุ่งอะไร ไหนบอกไม่สนแล้วไง”มันเลยหันมาสวนผมเข้าให้ ร.เรือ แม่งมาเต็มหน้ากูเลย

“กูไม่ได้สนแค่เตือนมึง”ผมก็แถบอกมัน ก่อนจะกดบีบีเล่นต่อไปปกติไม่ค่อยเล่นหรอกล่าสุดเล่นไอ้ตัวเหลืองซิมชิมิแม่งเกรียนมากแรกๆก็สนุกสักพักเซ็งห่านเลยเบื่อมันด่าไม่มีเสียง หุหุ แต่ทำไมเวียนหัวฉิบ

“มึงเตือนตัวเองก่อนไหม บีบีบ้านมึงเขาเล่นกลับหัวเหรอ อีฝืด”มันพูดจบ แม่งมีแต่เสียงหัวเราะใส่ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง
 
“กูไม่ชอบเล่นเหมือนคนอื่น”ผมเถียงมันกลับก่อนจะเก็บ พวกมันหันไปหัวเราะใส่กัน ตอนเย็นมันยังมีหน้าแซวผมอีกไม่ใช่ไปกินข้าวแล้วอย่าเสือกพาลเอาจานมาเป็นช้อนแทนล่ะ เออ กูทำอะไรก็ตลกไปหมด

 “ไม่อร่อยเหรอฝิ่น”เสียงทุ้มดังขึ้นขัดความคิดผมที่เริ่มจะเตลิดออก เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นพี่เจตน์ยิ้มให้พร้อมกับตักกับข้าวให้อีก

“อร่อยสิ พี่เจตน์เลี้ยงทั้งที”ผมบอกก่อนจะตักเข้าปาก ไม่อยากให้เสียน้ำใจ

“ดูฝิ่นใจลอยนะ”แกพูดกับผมยิ้มๆ
 
“คิดเรื่องเรียนนิดหน่อย เออ ว่าแต่คุณลุงคุณป้าสบายดีนะ”ผมเลี่ยงบอกพร้อมกับถามเรื่องอื่น
 
“สบายดี ถามหาฝิ่นด้วยบอกให้ไปกินข้าวที่บ้านบ้าง พี่จ๊อบก็บ่นคิดถึงอยู่”สีหน้าแกดีขึ้น ก่อนจะพูดถึงพี่สาวแกที่เรียกว่าทั้งสวยทั้งเก่งเป็นสาวลุยแหลกเลย นิสัยออกห้าวๆแต่แกไม่ได้เป็นทอมนะครับถึงจะตัดผมสั้นแต่งตัวทะมัดทะแมงแต่เวลาเซ็กซี่ก็ฉุดไม่อยู่เลยล่ะ

“อืม ไม่ได้เจอพี่จ๊อบนานแล้วด้วย เอาไว้ว่างฝิ่นจะเข้าไปแล้วกัน”ผมพยักหน้ารับทำเอาแกยิ้มอย่างดีใจที่จริงพี่เจตน์ผมว่าแกดูน่ารักนะเหมือนพวกเดียวกับผมมากกว่าจะเป็นเกย์คิงหรือไบ ผมเคยเห็นมีผู้ชายตัวสูงกว่าแกมาจีบด้วยนะแต่แกไม่เล่นด้วยแถมยังด่าให้อีก ยิ่งไปฟิตเนสนี่เจอเยอะผมยังขำเลยหรือว่าแกจะไม่รู้ตัว คิดอะไรเพลินๆ ก็เหลือบไปเห็นรถมอไซด์คันคุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกลนักพอดีกับเจ้าของมันเดินกลับมาใส่หมวกกันน็อค ผมจ้องมองอย่างลืมตัวไม่รู้กระทั่งว่าอีกฝ่ายมองผมเหมือนกันก่อนจะหันกลับไปคร่อมรถขี่ออกไป มันตามผมมาเหรอหรือว่าบังเอิญ
 
“มองอะไรฝิ่น”พี่เจตน์เอามือปัดขึ้นลงตรงหน้าผมไปมาจนได้สติ

“อ๋อ เหมือนเพื่อนที่ ม.น่ะพี่ไม่มีไรหรอก กินต่อเถอะ เดี๋ยวฝิ่นต้องกลับไปทำรายงานอีก”ผมรีบพูดก่อนจะตักกินต่อ

“เหรอ พี่ว่าจะชวนให้ไปช่วยเลือกของขวัญให้เพื่อนสักหน่อย”แกพูดอย่างเสียดาย

“ให้เพื่อนหรือว่าแฟนกันแน่”ผมแหย่แกยิ้มๆ

“เฮ้ย เพื่อนจริงๆ พรุ่งนี้วันเกิดมัน ไปกับพี่ไหม”แกรีบปฏิเสธก่อนจะชวน

“ไม่เอาหรอกไม่รู้จัก แต่เดี๋ยวไปช่วยเลือกให้ เอาชุดชั้นในวาบหวามไหมล่ะ”ผมส่ายหน้าก่อนจะแซว

“หุ่นอย่างไอ้กันต์ใส่ชุดวาบหวิวได้เป็นกันดั้มพ์แน่”แกพูดพร้อมกับทำท่าสยอง จนผมอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะพากันไปเลือกของให้เพื่อนแกที่ห้างก็ได้เนกไทยี่ห้อดังราคาก็สมยี่ห้อมันนั่นแหละ ถ้าไอ้หน้ามึนนั่นใส่คงจะดูดีไม่น้อยเพราะหุ่นมันผมว่าใส่สูทผูก
ไทด์นะ พระเอกเกาหลีอายแน่ขนาดอยู่ในชุดนักศึกษามันยังดูดีเลย เฮ้ย ไปคิดถึงมันทำไมเนี่ยะ

“ขอบคุณนะครับที่ไปเป็นเพื่อน”แกพูดล้อผมก่อนจะลงรถ

“ถ้าเบื่อก็ชวนคนอื่นไปบ้างก็ได้นะ”ผมก็ล้อแกกับบ้าง

“ไม่เบื่อหรอกอยากชวนตลอดไปด้วยซ้ำ”แกพูดหวานส่งสายตาให้อีก

“งั้นก็ไปชวนแฟนพี่แล้วกัน”ผมก็ทำเป็นไม่รู้

“แล้วเมื่อไรจะใจอ่อนล่ะ”แกทำเสียงอ้อนต่อ

“ก็ให้เป็นพี่แล้วไง โลภมากระวังจะไม่ได้อะไรเลยนะ”ผมขู่แกกลับแต่ล้อซะมากกว่า

“ฝิ่นไม่ให้โอกาสพี่บ้างเหรอ”แกจริงจังแล้วครับ

“ฝิ่นชอบพี่อย่างพี่ชายมากกว่า”ผมก็ตอบแกตามเดิมแต่หนักแน่น

“พี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ เรื่องข่าวคาวอะไรพี่ไม่แคร์หรอกนะ”แกถามผมก่อนจะพูดถึงเรื่องข่าวที่เกี่ยวกับผม

“ฝิ่นก็ไม่สนใจหรอกไอ้ข่าวพวกนั้น แต่ฝิ่นชอบพี่อย่างที่บอกนั่นแหละ เป็นพี่เป็นน้องความสัมพันธ์ยาวนานกว่าเป็นแฟนกันนะถ้าไปกันไม่ได้เลิกกันก็เป็นคนอื่น ยิ่งคนกันเองยิ่งเข้าหน้าไม่ติด”ผมพูดกับแกยาวเลย ผมเป็นแบบนี้แหละถ้าไม่รักไม่ชอบจะไม่ให้ความหวังใครโดยเฉพาะคนดีๆ อย่างนี้

 “เฮ้อ นอกจากใจร้ายแล้วยังใจแข็งอีก เอาไงดีล่ะ”แกถอนหายใจตัดพ้อกลายๆ

“ฝิ่นว่าที่จริงพี่เจตน์ลองไปคิดดูให้ดีนะว่าชอบฝิ่นจริงหรือเปล่าหรือเพราะสนิทกันพี่ก็เลยคิดแบบนั้น บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้”ผมบอกอีกแกให้กลับไปคิดอีกที
 
“เหรอ พี่ก็คิดหลายครั้งแล้วนะ”แกทำหน้าคิดก่อนจะพูดอีก

“เปิดใจสิพี่ อย่ายึดติดแค่ฝิ่นลองมองคนอื่นบ้าง”ผมบอกแกยิ้มๆ บางครั้งแกก็เหมือนเด็กรุ่นๆ ที่ดูไม่รู้อะไรเลย

“ก็ได้ จะลองดู”แกพยักหน้าอย่างจำยอม ก่อนผมจะลงจากรถโบกมือให้แก ก็เข้าบ้านเจอป้านวล
 
“นึกว่าคุณเจตน์จะเข้ามาซะอีก”แกพูดกับผมยิ้มๆ

“ชวนแล้วแต่พอดีแกติดธุระ วันนี้ทำไรกินบ้าง”ผมบอกแกก่อนจะเดินไปในครัว

“ทานไม่อิ่มจากข้างนอกเหรอคะ คุณน้อง”แกเดินมาจับแขนผม ก่อนจะเปิดฝาครอบให้ดู

“ไม่อ่ะ มันไม่ถูกปากเท่าไหร่ ตักข้าวด้วย”ผมบอกเซ็งๆก่อนจะอ้อนแกอย่างเคยชิน แกยิ้มก่อนจะตักข้าวให้ ผมลงมือกินอย่างอร่อยเลย ผมว่าที่ไม่อิ่มเป็นเพราะไอ้หน้ามึนนั่นแหละที่เข้ามารบกวนการกินของผม พรุ่งนี้จะเจอมันหรือเปล่านะหรือว่ามันจะเสร็จอีคู่เกยนั่นไปแล้วเมื่อกี้โทรไปมันสองตัวบอกจะไปผับบอกว่าเผื่อเจอไอ้นั่น คงเจอมันหรอก ชวนให้ผมไปด้วยแต่ผมไม่มีกระจิตกระใจจะเที่ยวแต่อยู่บ้านก็เบื่อคิดมากอีก ก็เลยบอกให้ไอ้แฝดมารับก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวรอมัน

“เป็นไงมึงไปกินข้าวกลับมาแทนที่หน้าตาจะระรื่น ทำหน้าอย่างกับโดนขืนใจให้ไปแดกหญ้า”อีออยเริ่มก่อนเลยพอผมเดินเข้าไปถึง
 
“ก็ไม่ได้กินกับคนที่อยากกินนี่หว่าจะได้ อุ้ย อีห่าเขวี้ยงมาได้โดนปากกูเลย”อีโมนิคแซวมั่ง นี่ขนาดมึงยังแซดอยู่นะ

“ถ้าพูดอีกกูจะกลับแล้ว”ผมบอกพวกมัน ที่หันไปมองหน้ากันหัวเราะคิกคัก

“คะ คุณนายดอกกกกฝิ่น แอ๊บให้ตลอดนะคะ”อีออยยังไม่วายเหน็บส่งท้าย

“วันนี้ใครขับรถ”ผมถามพวกมัน

“ก็มึงไง ไม่งั้นพวกกูจะตามมาเหรอ”แทบจะพร้อมกัน กลุ่มพวกผมมีข้อตกลงกันว่าเวลาเที่ยวเราจะผลัดกันขับรถ โดยคนที่ขับจะต้องไม่ดื่มมากแค่พอประมาณ แต่อยากเต้นมึงเต้นไปเต็มที่ เรื่องจ่ายไม่มีปัญหาแชร์กันบ้าง หรือใครอยากจะเลี้ยงก็ตามใจ แต่ต้องไม่ให้เดือดร้อนตัวเองและก็ที่บ้าน ไม่ใช่พวกผมเป็นคนดีอะไรนักหรอก บางครั้งก็หลุดบ้างแต่จะพยายามให้น้อยที่สุด

“เออ รู้แล้ว”ผมรับรู้ก่อนจะยกกระดกสองแก้วรวดเป็นอันจบพิธีการดื่ม พวกเราก็เม้าท์มอยกันและก็ยกโขยงกันออกไปเต้นแต่ผมขอเฝ้าโต๊ะดีกว่าไม่ค่อยอยากเท่าไร มีคนแวะมาคุยด้วยประปรายแต่พอเห็นหน้าผมที่ไม่ค่อยจะต้อนรับก็ผละไป โมนิคเดินกลับเข้ามาดูสีหน้ามันก็ดีขึ้น ร่องรอยยังมีอยู่

“ดีขึ้นยัง”ผมถามมันที่เดินกลับเข้ามาแล้วพิงไหล่ผม มันพยักหน้า

“ฝิ่น กู กลัว”มันกอดผม

“กลัวอะไร”ผมลูบหัวมัน

“กูพยายามไม่คิดมากนะเรื่องไปตรวจโรคน่ะ แต่อดไม่ได้”มันบอกอย่างกังวล ผมเข้าใจมันนะถ้าไม่เกิดขึ้นกับใครก็ไม่รู้หรอก
 
“โมนิคกูไม่รู้จะพูดอะไรนะ เพราะตอนนี้มึงกลัวไปหมดทุกอย่างให้ร้อยคำปลอบใจก็ไม่ทำให้มึงหายได้  แต่กูอยากให้มึงเชื่อกูอยู่เรื่องหนึ่ง”ผมพูดกับมัน ที่จ้องหน้าผมอย่างรอคำตอบ

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูและไอ้พวกนั้นไม่มีทางทิ้งมึง จำไว้”ผมพูดกับมัน ที่เบะปากก่อนจะกอดผมอีก

“อีฝิ่น กูเจอไอ้เหี้ยกานต์มันกำลังเดินออกไปข้างนอก”อีออยเดินกึ่งวิ่งเข้ามาบอกผม โมนิคทำหน้าวิตกมาก ผมกำมือแน่นเลยก่อนจะลุกเดินออกไปโดยมีพวกมันเดินออกมา มันหันมาเห็นพวกผมก็ผงะไปเล็กน้อย

“นั่น เมียเก่ากานต์ไม่ใช่เหรอ”ผู้หญิงที่ยืนควงแขนมันพูดเยาะๆใส่ ไอ้กานต์ทำหน้าแบบพูดไม่ออกหันมองทางโน้นทีทางนี้ที

“อีปลวก อีหน้าใช้ผ่านท่อเยี่ยว”อีออยเล่นซะเลยครับ มันแค้นมานาน

“อีตุ๊ด มึงด่าใคร”ขึ้นเสียงปรี๊ดเลย

“ด่ามึงนะสิ อีปอบ อีหยิบ อีฉวย จวยคนอื่น”หนูจ๋ากับยาหยีพูดแทบจะพร้อมกันแถมเตรียมตัวจะเข้าใส่ทันทีถ้าปรี่เข้ามา

“กานต์ จัดการให้มิ้งค์เดี๋ยวนี้”ด่าไม่ทันหันไปบอกไอ้กานต์

“เอาสิ พวกกูรอมานานแล้ว”ผมจ้องหน้ามันเลยครับ ไอ้แฝดนี่หักนิ้วมือเลย ไอ้กานต์กับเพื่อนมันอีกสามคน และชะนีอีกครบคู่

“โมนิค เราเลิกกันแล้วทำไมต้องมีปัญหาด้วย วันนั้นถ้าไม่ตบมิ้งค์ กานต์ไม่มีทางลงมือหรอก”ไอ้กานต์มันอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา

“ใช่เราเลิกกัน และที่กูตบมันก็สมควรแล้วนิอยากเสนอหน้าเข้ามาหามือกูเอง ที่จริงกูอยากจะเอามีดกรีดหน้ามันด้วยซ้ำรวมทั้งมึงด้วย”อีโมนิคพูดแบบเน้นฟันเลย มันคงของขึ้นเหมือนกันเมื่อเจอคนเคยรักพูดแบบนี้หาว่าที่มันเจ็บตัวเพราะไปตบอีนั่นเข้า

“แล้วมึงได้กรีดมั้ยล่ะ โดนตบเข้าซะก่อน”อีเห็บมิ้งค์ลอยหน้าใส่

“ก็วันนี้ไง”อีโมนิคพูดจบรองเท้าส้นสูงก็ลอยไปโดนหน้าพอดี โดยไม่มีใครเห็นเลยว่ามันถอดออกจากตีนตอนไหน

“โอ้ย กรี๊ดดดด อีบ้า อีกระเทย มึง”อีนั่นเอามือกุมปากเลยครับ เพื่อนกูแชมป์ปาเป้าเก่าโว้ย

“นี่ขั้นเบาะๆ กูเอาแค่รองเท้าเท่านั้นนะ”มันเชิดหน้าบอกเลยครับก่อนจะหันไปมองทางไอ้กานต์ “ส่วนมึงก็เอาไปต่อจากนี้แล้วกัน”

“จะทำไม ดูรูปร่างเพื่อนเมียเก่ามึงแต่ละคน อ้อนแอ้น ว่ะ หึหึ”เพื่อนมันปากหมาใส่

“นั่นสิ ไอ้กานต์ พวกกูขอต่อได้มั้ยวะ น่าล่อทั้งนั้นเลย”ไอ้เหี้ยอีกคนพูด ไอ้กานต์ยกยิ้ม

“ได้เลย พวกนี้นะง่ายจะตายแค่ลีลาดีๆก็สยบแล้ว ไงที่รักเอาเพื่อนกูไปแทนมั้ย”พอพวกมันพูดจบพากันหัวเราะชอบใจ อีนั่นขนาดปากเจ็บๆยังแสยะยิ้มเลยพอกับเพื่อนมัน
 
“อยากล่อก็เข้ามา กูจัดให้”ผมบอกพวกมัน ที่เดินเข้ามาทันที โมนิค หนูจ๋า ยาหยี หันไปหาพวกนั้น

“ส่วนพวกมึงมานี่”มันสามตัวเข้าไปขยุ้มหัวทันที ตัวพอฟัดพอเหวี่ยงกันแหละครับ ตอนนี้หน้าร้านคนไม่ค่อยเยอะเท่าไร ไอ้เพื่อนมันเดินแสยะยิ้มปรี่มาหาผมก่อนเลยเอามือจะจับคางแต่โดนตีบถีบเข้าให้จนหงายหลัง ไอ้แฝดหันไปเล่นเพื่อนมันอีกสองคน ที่ตัวพอๆกับมัน

“ยังไม่ได้ล่อกูก็หงายซะแล้ว แสดงว่าไอ้นั่นมึงคงอ่อนด้วย”ผมพูดจบยกตีนกระทืบตรงเป้าทันที มันโอดครวญผมขยี้ซ้ำเข้าไปอีก ไอ้กานต์เข้ามาเตะขาตอนผมเผลอเกือบทรุดเหมือนกัน มันจะซ้ำอีกแต่ผมไวกว่าเบี่ยงตัวหลบก่อนจะซัดเข้าที่กึ่งปากกึ่งจมูกจนมันมึน ผมมองไอ้เหี้ยเพื่อนมันที่ตั้งสติได้ลุกจะมาช่วย แต่ไม่ทัน อีออยเตะเข้ากลางตัวจนมันลงไปกองอีกซ้ำไปอีกทีไม่มีฟื้นแล้วครับ อีออยหันมายิ้มกับผม

“มึงตาย ไอ้กานต์”ผมสองคนรุมกระทืบไอ้กานต์อย่างมันส์ตีนเลย ใครจะว่าหมาหมู่ก็ช่างเถอะ แค้นนี้ต้องชำระ อีกลุ่มนั้นก็น่วมไม่น้อยเจออีโมนิคเข้าไป แถมร่วมด้วยช่วยกันจากหนูจ๋ายาหยีอีก พวกผมลากมันมากองรวมเลยครับ อีโมนิคเดินเข้าไปหาไอ้กานต์ที่สภาพดูแทบไม่ได้ เพื่อนมันไม่ต้องพูดถึงเจอไอ้แฝดกับอีออยเข้าไปก็สลบแล้ว
“สำหรับที่มึงตบหน้ากู”มันตบไอ้กานต์

“สำหรับความเชื่อใจ”อีกที

“และนี่ค่าผ่านทางกู”มันเอาส้นตีนถีบกลางหน้าไอ้กานต์เลยครับ อีออยไม่รู้กระซิบอะไรกับไอ้แฝดพวกมันแสยะยิ้มก่อนจะรุมฉีกเสื้อไอ้พวกนั้น พวกชะนีผมบอกไม่ต้องปล่อยไป มันถ่ายคลิปครับ

“ถ้าพวกมึงไม่จบหรือมาทำร้ายเพื่อนกูอีก กูจะปล่อยภาพพวกนี้ให้หมด”ไอ้แฝดบอกพวกมันที่หน้ามีแต่รอย

“แล้วมึงไม่คิดว่ากูมีภาพเพื่อนมึงกับกูเหรอ”มันยังปากดีต่อรอง เลยโดนตีนอีโมนิคเข้าไปอีกดอก

“มึงจะถ่ายตอนไหน ไอ้เหี้ย เอากันทีไรมึงก็นอนหมดสภาพ แต่กูสิมีภาพมึงเต็มไปหมดเลย กูจะบอกให้นะกระทั่งมึงขี้มึงเยี่ยวกูยังมีเลยในห้องน่ะกูติดกล้องวงจรไว้ตลอดแหละกันทุกอย่าง แต่หน้าโง่ๆอย่างมึงนึกไม่ถึงไง ถ้ามึงมีและมึงไม่อายจะปล่อยก็ตามใจ เอาเว็บที่มันดังๆหน่อยนะ”อีโมนิคด่ามันยาวเลยครับ พวกกูเพิ่งรู้นะเนี่ยะว่ามึงติดกล้องวงจรในห้อง ฉิบหายแล้วพวกกูนี่แทบจะแก้ผ้าเดินเลย มันพูดไม่ออกเลยครับ ที่เห็นอีโมนิคแสยะยิ้มใส่ปกติมันจะเห็นแต่ภาพนางฟ้าไง นี่แหละสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกสุดใจของมัน หึหึ
 
“ที่วันนั้นกูยอมให้มึงซ้อมน่ะ เพราะความรักมันบังตาแต่ตอนนี้ตากูสว่างแล้ว อีกอย่างกูมีเรื่องจะบอกมึงก่อนจากกัน”อีโมนิคพูดใส่มันอีก มันมองหน้าแบบพูดไม่ออก อีโมนิคแสยะยิ้มเอามือจับคางมัน

“กูเป็นเอดส์”มันบอกแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไอ้กานต์อึ้งไปเลยครับ จะจริงไม่จริงแต่ก็ทำมันหน้าถอดสีได้ แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่เป็นหรอกแต่มันอยากให้ไอ้กานต์กะวนกะวายวิตกจริตซึ่งดูแล้วก็ได้ผล คนรักมากก็แค้นมาก

“ไม่จริง กูใช้ถุงทุกครั้ง”มันไม่เชื่อ หน้าตาเลิ่กลั่ก

“กูก็เจาะทุกครั้ง เพราะคิดว่าเผื่อจะมีลูกกับมึงไง”มันก็สวนกลับ เพื่อนไอ้กานต์พร้อมเมียใหม่มันมองเป็นตาเดียวเลย

“กูไปล่ะ”มันพูดเสร็จก็เดินจาก พวกผมก็เดินออกมาพอลับตามันกอดผมร้องไห้ออกมาทันที ไม่มีใครพูดอะไร ไอ้โอมเข้าไปเคลียร์ค่าเหล้า พวกผมก็พากันมาที่รถ มันยังกอดผมไม่ปล่อย สรุปไอ้อาร์มสขับ ถึงจะแออัดแต่อบอุ่นมาก

“ขอบใจพวกมึงมาก กูสบายใจแล้ว”มันเงยหน้าบอก พวกผมก็พยักหน้า
 
“แต่กูขอหัวเราะและปรบมือให้มึงวะ ที่ทำเอามันหน้าซีดยิ่งกว่าเสียเลือดเพราะโดนตีนอีก ฮ่าๆๆๆ”อีออยพูดเสร็จหัวเราะปรบมือชอบใจ เลยพากันหัวเราะตามกันไป วันนี้ก็ฉลองห้องมันอีกแล้ว และจะได้บอกมันด้วยว่ามึงเอากล้องที่ห้องน้ำออกซะ
**********************************************************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2012 11:10:17 โดย goonglovenut »

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ตอนที่ 11
“เฮ้ย ไอ้ไผ่ใครให้มาวะ”เสียงไอ้หวายทักผมที่นั่งมองกล่องขนมบนโต๊ะ เกือบสามวันแล้วที่แขวนตรงรถมอไซด์ วันแรกโดนัท วันที่สองก็โจ๊กใส่ไข่ตั้งสองฟองบำรุงอะไรนักหนาวะ สามสี่ห้าจำไม่ได้ รู้แต่ว่าวันนี้แยมโรล เสร็จพวกมันทุกวัน ผมให้พวกมันเป็นหนูทดลองกินดูก่อนหลังจากนั้นถึงจะกินบ้างอร่อยดีเหมือนกัน หึหึ แต่ปกติส่วนใหญ่จะมาให้ต่อหน้าหรือไม่ก็ฝากเพื่อนในห้องมาให้มากกว่าไอ้แบบแขวนให้ไม่เคยเจอ

“จะถามทำไม กูเห็นมึงแดกทุกวัน”ผมก็บอกมันไปอย่างไม่ใส่ใจ

“มันเพิ่งนึกได้ไง”ไอ้เจย์พูดขำๆ ก่อนจะเอาเข้าปาก

“เออ แม่งใส่ยาอะไรเปล่าวะ”ไอ้หวายถามก่อนจะเอาออกมาจากปาก ทั้งที่มันกินเข้าไปเกือบครึ่ง ทุเรศจริง

“ไอ้ฟาย ถ้าใส่ป่านนี้มึงตายห่าตั้งแต่วันแรกแล้ว”ไอ้เจย์ตบหัวเข้าให้อย่างหมั่นไส้ กูฝากถีบให้ด้วย

“กูพูดเล่น เห็นมันทำหน้าเครียดๆ”ไอ้หวายลอยหน้าลอยตา

“กูก็เห็นหน้ามันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว มึงยังไม่ชินอีกเหรอ”ไอ้เจย์ตอกกลับอีกดอก
 
“แต่พักหลังดูมันหนักวะ คิดเรื่องน้องฝิ่นเหรอวะ”มึงถามเหมือนมานั่งในใจกูเลย ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ไปแหย่มันอีกเดินสวนกันก็ไม่มองเหมือนทุกทีเพราะได้กลิ่นก็รู้แล้วว่ามัน ผมไม่ได้โกรธมันหรอก อดจะขำไม่ได้ที่เห็นมันอายผสมงอนหน่อยๆ ที่ผมพูดว่าไม่ได้จีบมัน ที่ผมผละออกมาทำหน้าเฉยแล้วกลับเลยไม่ใช่อะไรกลัวจะหัวเราะออกมา ตอนผมจับมือมันๆจะด่าก็ได้แต่อย่างที่บอกมันอายกลัวเพื่อนมันรู้ เพื่อนมึงคงไม่รู้หรอกมั้งทั้งยิ้มทั้งหัวเราะแซงมึง ว่าจะงดนึกถึงมันสักพักแต่จะนั่งจะนอนหน้าเชิดๆตัวขาวๆแม่งก็เสนอหน้ามาอยู่นั่นแหละขนาดว่าเวลายุ่งๆยังนึกถึงปากแดงๆที่พ่นคำด่าออกมาแต่ละทีได้ใจสุดๆแต่ก็น่าจูบสั่งสอนในเวลาเดียวกัน มึงจะน่ารักไปไหนวะ

“จริงเหรอวะ แล้วมึงยิ้มแบบโรคจิตทำไมวะ”ไอ้เจย์พูดย้ำดึงผมออกจากความคิดฟุ้งซ่าน ถามด้วยท่าทางแหยงๆ

“เปล่า”ตอบสั้นๆ

“จริงอ่ะ”เสียงไอ้หวายกับแยมโรลคำสุดท้าย

“ไอ้เหี้ย ขอให้ติดคอกลัวกูแย่งยัดเข้าไปหมดเลย”ไอ้เจย์เอามือบีบคอมัน จนมันไอแค่กๆ ผมมองมันสองคนอย่างระอา

“มึงสองคนทำไมไม่เป็นผัวเมียกันเหมือนไอ้คู่นั้นวะ”ผมถามพวกมันๆหันขวับมองหน้าผมก่อนจะหันไปมองกัน

“อ้วก”

“แหวะ”

มันทำท่าแสยะใส่กัน หลังจากที่ตกลงกันวันนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับไอ้พายสักที เพราะไอ้บลูตัวติดมันตลอดผมก็บอกไอ้หวายว่าให้ปล่อยพวกมันเถอะ อย่าไปยุ่งมากนักถ้ามันอยากบอกเดี๋ยวมันก็พูดเองแหละ

“มึงคิดได้ไง ให้กูเอามัน”ไอ้หวายถามเหยียด

“แหม ไอ้สัดทำหน้าอย่างกับกูจะเอามึง”มันก็เหยียดกลับ

“ก็กูเห็นมึงทะเลาะกันไปไหนด้วยกันก็เลยนึกว่าเป็นอย่างไอ้พวกนั้นมัน”ผมก็บอกมันอย่างที่คิด แต่ที่จริงแหย่เล่นมากกว่า

“ให้พวกกูได้สืบพันธ์ลูกหลานบ้างเถอะ ฉิบหาย ตอนนี้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์มึงก็จะตามไอ้พายไปติดๆ”ไอ้หวายหันมาแขวะผม

“กูสงสารน้องๆเขาที่ผู้ชายเดี๋ยวนี้หายาก ได้บุญนะมึงบริจาคร่างกายไว้เรียนรู้”ไอ้เจย์รีบเออออทันที

“ถุย ร่างกายสถุลๆอย่างมึงเอาไว้เรียนรู้กูว่าไปทำปุ๋ยคอกต้นไม้จะโตหรือเปล่าก็ไม่รู้”ไอ้หวายทำท่าถุยใส่หน้ามัน

“ขากกก มันก็พอกับสเปริมส์เสื่อมๆของมึงที่จะไว้สืบนั่นแหละ”ไอ้เจย์ทำเสียงขากใส่หน้ามัน ผมว่าพวกมันทั้งสถุลและก็เสื่อมพอกัน

“นั่นไง พวกมึงเข้ากันได้ดี”ผมก็กวนมันต่อ มันจะได้ไม่มายุ่งเรื่องผม

“กวนตีนแหละ กูกับไอ้เจย์ก็คุยกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”ไอ้หวายมันตบไหล่ผม

“ไอ้บลูกับไอ้พายมันก็คุยกันแบบนี้ กูว่า”ผมแกล้งมันต่อ

“ไอ้สัด”สองคนมันพร้อมกันเลยครับ ผมแสยะยิ้มใส่หน้ามัน สักพักไอ้คู่นั้นก็มา ผมจะลุกหนีแต่ไอ้หวายดึงให้นั่งก่อน

“กูว่าแม่งทะเลาะกัน”ไอ้หวาย

“อยู่แล้ว”ไอ้เจย์ทำเสียงกวนๆแต่มั่นใจไม่แพ้ไอ้หวาย

“พาย มันไม่ใช่ของบลู”เสียงไอ้บลูพูดเร็วๆ เกาะแขนไอ้พาย

“จะมาบอกกูทำไม มันเรื่องของมึง”ไอ้พายก็ตอบกลับ ไม่ใช่เรื่องของมึงแต่หน้ามึงมันบอกว่า มึงตายแน่ไอ้บลูกล้าโกหกกู

“ก็พายงอนอ่ะ”มันก็ง็องแง็ง ก่อนจะนั่งลง พวกผมสามคนขยับเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ

“กูไม่ได้งอน กูรำคาญ”มันกระแทกเสียงตอบ หันมามองหน้าพวกผม

“พวกมึงเป็นไร เห็นกูมายังกับเห็นเชื้อโรคเขยิบหนีซะ ห๊ะ”มันหันมาแหวใส่พวกผม แต่ตามันมองที่ไอ้หวายกับไอ้เจย์มากกว่า

“กูกลัวพวกมึงนั่งไม่พอ เดี๋ยวเบียดกัน”ไอ้หวายทำเป็นเสียงหงอย แต่ดูรู้ว่ากวนตีนมัน

“อืม จริงๆนะ”ไอ้เจย์ก็ทำไม่ต่างกัน

“เสือก แล้วมึงจะใกล้อะไรกูนักหนา”ด่าทางนี้เสร็จหันไปจวกไอ้บลูต่อ

“กลัวตก”มันทำเสียงหงอยเหมือนไอ้สองตัวนั่น

“งั้นมึงก็ลงไปนั่งข้างล่าง หรือจะให้กูถีบลงไปให้”มันพูดพร้อมกับยกตีนขึ้นมา ไอ้บลูรีบจับไว้ก่อนจะโดนจริงๆ

“อะไรกันอีกวะ กูเห็นไปนอนด้วยกันที่ไรทะเลาะกันทุกที คราวหน้ามึงไม่ต้องไปไหนเลยนะไอ้พาย กลับมาอารมณ์เสียใส่พวกกูอีก”ไอ้หวายพูดแบบน้ำเสียงจริงจังมาก ผมมองหน้ามันว่ามึงอารมณ์ไหน มันก็ขยิบตาให้

“เออ กูไม่ได้อยู่ด้วยยังรู้เลย เป็นเชี่ยะอะไรกันนักหนา กูถามจริงๆเถอะต่อหน้าเลย พวกมึงเป็นอะไรกันแน่วะ ห๊ะ”ไอ้เจย์รีบเอามั่ง เข้ากันได้ดีจริงๆคู่มึงยิ่งกว่าไอ้คู่นั้นอีก ส่วนผมก็เงียบนั่งดูละครต่อ นำแสดงโดยพวกมัน แต่จะว่าไปทำเอาไอ้พายอ้าปากแต่พูดไม่ออก

“ไม่มีอะไร แค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย”ไอ้บลูรีบพูดคลี่คลายสถานการณ์

“กูไม่ถามเรื่องวันนี้ แต่กูถามว่าพวกมึงเป็นอะไรกัน เพื่อนหรือว่าผัวเมีย แม่งว่าจะไม่ยุ่งแล้วอดไม่ได้”ไอ้เจย์ทำหน้าขึงขังได้สมบทบาทมาก ระวังจะโดนสหบาทานะมึง

“ไอ้เจย์”ไอ้บลูเรียกเสียงแข็งเลยครับ เออ กูว่ามึงจะอินกันเกินไปไหม

“เรื่องจริง ไอ้บลู ถึงไอ้เจย์ไม่พูดกูว่าจะพูดกับไอ้พายเหมือนกัน ยังไง”ไอ้หวายสมทบฝ่ายชายต่อทันที ทำเอาพระเอกเริ่มเครียด ดีนะผมเป็นก้อนหินเลยสบายหน่อยไม่ต้องทำอะไรนั่งเป็นวิวประกอบเฉยๆ

“กู กู”นายเอก เริ่มปล่อยเสียงออกมาแล้วครับ

“ไอ้พาย พูดมาอย่าอึกอัก มึงจะหันไปตกลงกันก่อนจะตอบพวกกูก็ได้”ไอ้หวายยังรุกต่อ ก่อนจะส่งให้ไอ้เจย์ทำแต้ม

“คิดให้ดีก่อนจะบอก แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันพวกมึงต้องไม่งุ๊งิ๊ๆๆๆใส่กันอีก”เริ่มกดดันจนอีกฝ่ายไปไม่ถูกแล้วครับ

“ไอ้ไผ่”อย่าหันมาหากู ๆ ไม่ยุ่งด้วย กูเป็นก้อนหิน ถ้ามึงยังมองเห็นกูเป็นอากาศธาตุก็ได้

“เพราะมึงนั่นแหละ”หันไปใส่ไอ้บลูแทน แสดงว่าผมแปลงร่างได้ผลมันเลิกสนใจผมแล้ว

“พายนั่นแหละ งอแงไม่เข้าเรื่อง”ไอ้บลูก็โทษไอ้พาย

“มึง”

“พาย”

“ไอ้เหี้ย”

“ไอ้พาย”

“เฮ้ย พูดแหมบๆ ยังจะเอาอีก”ไอ้หวายโวยออกมา พวกมันเลยหยุดหันมามองพวกผมต่อ

“ว่าไง”ไอ้เจย์ตามติดสถานการณ์ ถ้าเป็นหมาก็กัดไม่ปล่อย

“เอาไว้คุยกันที่บ้าน ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อน”ผมตัดบททันที เพราะได้เวลาแล้ว ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินไปทันที

“ไอ้สัด มันนึกว่ามันเป็นนินจาไงวะ ล่องหนไปและ”เสียงไอ้หวายว่าผมก่อนจะวิ่งตามมา

“เย็นนี้พวกมึงตายแน่”ไอ้เจย์เอามือปาดคอ ก่อนจะวิ่งตามมา พอลับหลังพวกมันหัวเราะกันก๊ากเลย

“ฮ่าๆๆๆมึงเห็นหน้าพวกมันไหม แม่งกลืนไม่ลงคายก็ไม่ออก”ไอ้หวายหัวเราะแถมด้วยสุภาษิตวิปลาสของมันอีก

“เออๆๆ แม่งตลกวะ กูว่านะมันสองคนน่ะเกินเพื่อนไปแล้ว ทำเป็นปากแข็งก้นอ่อนไปงั้นแหละ”ไอ้เจย์เข้ากันได้ดีอย่างที่คิดไว้

“เหรอ เหมือนมึงสองคนเลยเน๊าะ เข้ากันดีเป็นอัปรีย์และสถุล”ผมแสยะยิ้มบอกพวกมัน

“ไอ้เหี้ย”พร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย ก่อนจะหยุดเมื่อไอ้สองคนเดินมาอย่างสงบไม่มีงุ๊งิ๊ๆๆอย่างที่พวกมันบอก ก่อนสายตาผมจะสบกับไอ้เด็กตัวขาวนั่น มันหันหน้ากลับไปแต่ไม่ได้สะบัดหรือเชิดใส่อย่างทุกที ยั่วกูดีจริงๆ เดี๋ยวให้กูว่างก่อนจะตามไปสอยมาสั่งสอนซะหน่อยโทษฐานหมางเมินและอายได้น่ารักถูกใจกู เมื่อวานว่าจะเข้าไปแหย่เสือกขึ้นออดี้ไปกับไอ้ตี๋ที่ไหนวะดูสนิทสนมกันดี ตามไปดูนึกว่าพากันไปกินตับตั้งแต่ร้านถึงห้างยันมันกลับบ้าน แม่งยังไม่ลงจากรถ เลยซุ่มดูต่อจนมันเข้าบ้าน ผมก็กลับไปอย่างสบายใจ หึหึ

“อีกแล้วครับท่าน มองจนเขาเหาะไปถึงไหนแล้ว”ไอ้หวายพูดข้างหูผม

“จะหอนตามไหมครับ”ไอ้เจย์พูดอีกข้าง ผมมองมันก่อนจะดึงหัวพวกมันมาชนกัน

“โอ้ย”เสียงพวกมันครับ ไอ้บลูกับไอ้พายขำคิก

“สมน้ำหน้า”มันพูดพร้อมกันเลยครับ

“พวกมึงนั่นแหละเตรียมตัวไว้”ไอ้หวายชี้หน้าทันที

“หึหึ”ไอ้เจย์หัวเราะทำหน้าโรคจิตสุดๆ ไอ้พายมองหน้าไอ้บลูประมาณว่าจะเอาไงดีวะ เย็นนี้ตัดสินชี้ชะตานัดชิง เชิญติดตามต่อไป
**********************************************************************************************ตอนนี้อยู่กันครบที่บ้านแล้วครับ ไอ้พาย ไอ้บลู นั่งตรงข้ามกับพวกผม ดูไปเหมือนไปได้เสียกันแล้วพ่อแม่จับได้เลยพากันมาขอขมา ผมว่าจะไปดูไอ้เด็กนั่นซะหน่อย แต่ไอ้หวายกับไอ้เจย์ลากให้มานั่งเป็นประธานกลางบ้าน งั้นพักไว้ก่อน เอาเรื่องไอ้คู่นี้ให้จบเป็นต่อนๆไป

“เออ”

“อืม”

“อา”

“เฮ้ย กูให้พูดไม่ใช่ให้คราง”ไอ้หวายพูดอย่างนึกรำคาญ

“จะให้กูพูดอะไรล่ะ”ไอ้พายถามเสียงอ่อยๆ ตอนนี้มันโคตรเป็นคนรักสงบมาก

“ก็พวกมึงน่ะยังไง”ไอ้เจย์แม่งสงสัยเรียนภาคสมทบด้วยตามมาติดๆ

“กูไม่รู้จะพูดยังไง มันเป็นเรื่องของพวกกู”ไอ้บลูพูดเสียงหงอยๆแต่ตอนท้ายเหมือนจะด่า

“ไอ้เหี้ยบลู มึงด่าเสือกออกมาเลยก็ได้ สันดานทำพูดดูดี”ไอ้หวายทำงานถอดรหัสข้อความได้ดีมาก

“พวกกูไม่ได้อยากจะเสือกเรื่องพวกมึงหรอก แต่เพื่อนกันฟันกันเองมันชอบกลนะโว้ย”ไอ้เจย์ถอดรหัสอันดับสอง

“กูยังไม่ได้ฟันมันเลย”ไอ้บลูโพร่งออกมา ไอ้พายเอาหมอนตีพร้อมกับเอาตีนถีบไปด้วย หน้าก็แดงไม่รู้โกรธหรืออาย

“อ๋อ ที่มึงรับมันไปนอนด้วยเพื่อหวังฟันมันใช่ไหม”ไอ้หวายปรี๊ดออกมา

“ไม่ใช่ ถ้ากูคิดอย่างนั้นมันไม่รอดมานั่งสบายก้นอย่างนี้หรอก จริงมั้ยพาย”เสียงแข็งในตอนแรกก่อนจะตบท้ายเสียงหวาน

“ไอ้สัด”เน้นๆแต่เต็มคำ

“สรุปมึงชอบไอ้พาย”ไอ้เจย์สานต่อ

“ใช่ กูชอบพาย ชอบมานานแล้ว เคยบอกพายด้วยแต่มันไม่มั่นใจในตัวกูสักอย่าง แม่ง”ไอ้บลูจำเลยที่หนึ่งอดไม่ได้ยอมรับออกมา

“ก็มึงเจ้าชู้ฟันไม่เลือก และอีกอย่างมึงกับกูเป็นเพื่อนกัน”ไอ้พายจำเลยที่สองเริ่มเปิดปาก

“แล้วไง เพื่อนกันจะรักกันและฟันกันไม่ได้”ไอ้บลูไม่สนใจใครแล้ว หันไปหาไอ้พาย

“มึงคิดแค่นี้”ไอ้พายก็หน้าตึง เสียงเหมือนจะร้องไห้

“บอกแล้วไงถ้าคิดแค่นั้น ฟันไปนานแล้ว”ไอ้บลูยืนยันเจตนารมณ์เดิม

“กูกลัว มึงคิดดูเราเป็นเพื่อนกันแต่วันนึงมันเปลี่ยนไปแรกๆก็ดี ต่อไปเริ่มไปกันไม่ได้ สุดท้ายเลิกแล้วจะมองหน้ากันติดไหม กูไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีอย่างมึงไป ฮึก มึงเข้าใจไหม กูต้องอดทนอดกลั้นแค่ไหนที่จะไม่คิดอย่างนั้น แต่ยิ่งนานไปกูเริ่มคุมตัวเองไม่ได้ เวลาเห็นมึงอยู่กับใครทำอะไร ฮือๆๆๆ ไอ้เหี้ย เอากูไปนั่งดูทำไม ไอ้สัด ไอ้ส้นตีน ฮือออๆๆๆๆ”ตอนนี้กลายเป็นพวกผมที่นั่งเงียบ ไอ้พายเหมือนจะอัดอั้นตันใจมานานปล่อยออกมาทั้งคำพูดทั้งน้ำตา ไอ้สองตัวเริ่มไม่สนุกแล้วครับ ชักจะดราม่า

“พาย พายครับ บลูขอโทษ”ไอ้บลูดึงมันมากอด มันดิ้นหนีมองหน้าไอ้บลูที่ไม่ยอมปล่อย

“ฮึก กูเจ็บ มึงรู้ไหม มันด่ากู อีพวกนั้นน่ะ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงกูจะถีบหน้ามัน ฮือออๆๆๆๆ สันดาน”ไอ้พายยังฟูมฟายต่อ

“บลูขอโทษ นี่ไงบลูเลิกหมดแล้วด้วยก็เพราะเขาว่าพายนั่นแหละ เงียบนะคนดี”ไอ้บลูยังปลอบต่อ

“ถ้ามันไม่ด่ากู มึงก็ไม่เลิกใช่ไหม ไอ้หน้าหอย”เหมือนจะดีในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ยังโดน ซวยไปมึงไอ้บลู ตอนนี้สามคนกูอย่างกับแอบดูผัวเมียข้างห้องเขาทะเลาะแล้วก็ง้อกันเลย

“คิดมาก ก็บอกแล้วว่าชอบพายคนเดียว จริงๆ”ไอ้บลูยังเล้าโลมต่อ

“ไม่เชื่อ”ว่าแล้ว

“เชื่อเถอะ มาขนาดนี้แล้ว”ไอ้บลูเริ่มคลุกวงใน
 
“เออ กูว่าพวกมึงเข้าห้องเลยไหมเดี๋ยวพวกกูส่งตัวให้”ไอ้เจย์ขัดขึ้นมา จนมันสองคนนึกได้ว่าไม่ได้อยู่กันสองคน

“ไอ้สัดเจย์”โดนอีกดอก

“เอาล่ะๆๆๆ ก็แค่เนี้ยะ ทำให้เป็นเรื่องไปได้ ชอบกันก็จบ ไอ้บลูมึงจะทำเล่นๆกับไอ้พายไม่ได้นะมึง ถึงเป็นเพื่อน กูก็กล้ากระทืบมึงถ้าทำน้องกูเสียใจมึงจำไว้ แต่ถ้าวันไหนมึงไปกันไม่ได้จากกันด้วยดีก็แล้วไป”ไอ้หวายสรุปรวบยอด หันมามองหน้าผม

“มึงจะไม่กล่าวอวยพรบ่าวสาวเลยเหรอ”ไอ้หวายตอนแรกยังขึงขัง หันมาแซวพวกมันให้ผมอวยต่อ

“ไอ้เชี่ยหวาย กูยังไม่ตกลงเลย”ไอ้พายโวยทันที

“โอ้ย ไอ้พาย ฉิบหาย ประกาศความในใจซะขนาดนั้น ควายที่ไม่สนอะไรนอกจากหญ้ายังรู้เลย ใครไม่รู้กูก็ไม่รู้จะเปรียบกับอะไรแล้ว”ไอ้หวายหันไปโวยใส่มันที่หน้างอไม่เลิก

“ไอ้บลูมึงยอมรับใช่ไหม”ไอ้เจย์ถามไอ้บลูที่นั่งยิ้ม สงสัยไอ้เจย์มันนึกว่าตัวเองเป็นบาทหลวงประกอบพิธีอยู่

“เออสิวะ กูรักของกูมาตั้งนาน คราวนี้กูไม่ปล่อยแล้ว”มันยอมรับหันไปมองไอ้พายที่นั่งหน้าแดงด้วย หน้าหงิกด้วย
 
“แล้วมึงละ ไอ้พาย ผู้ชายเขายอมแล้วนะโว้ย”ไอ้เจย์หันไปเสียบไอ้พายต่อ

“ไอ้สัด กูก็ผู้ชายถึงจะไม่เต็มร้อยก็เถอะ”ด่าแต่ก็ยอมรับว่าเป็นเกย์

“จะรับไอ้บลูเป็นผัวไหมล่ะ”ไอ้เจย์ถามขำๆ

“มันง่ายไป กูขอดูความประพฤติก่อน”ไอ้พายแทงกั๊ก

“โห นานป่ะพาย”ไอ้บลูโวยออกมาแบบอ้อนๆ

“ก็เท่ากับมึงทำร้ายจิตใจกูนั่นแหละ”ไอ้พายเน้นทุกคำพูดแบบแค้นฝังอยู่ในเมโมรี่สติ๊กของมัน

“นานวะ ลดหย่อนหน่อยดิ ความดีบลูก็มีนะ นึกสินึก”ไอ้บลูยังต่อรอง

“กูไม่นึกอะไรทั้งนั้น ไม่รอก็ไปเลย”ไอ้พายไม่ฟังตอนนี้มันเป็นต่อ

“กูกลับล่ะ”ผมเอ่ยออกมา ทำท่าจะลุก


“เฮ้ย อยู่กินเลี้ยงก่อนค่อยกลับ”ไอ้เจย์ยังแซวพวกมันต่อ

“มันอาจจะอยากเข้าหอแล้วก็ได้”ผมเลยต้องเล่นกับมันด้วย

“ไอ้ไผ่ มึงไม่ต้องพูดก็ได้ เงียบอย่างเดิมนะดีแล้ว ปากอย่างนี้ถึงได้จีบไม่ติดสักที”ไอ้พายที่เริ่มดีขึ้น หันมาเล่นผมแทน จี๊ดมากมึง

“กูแค่ห่างกันสักพัก”ยืมเพลงน้องหวายที่น่ารักกว่าไอ้หวายมาบอกมันก่อน

“โห ไอ้สัด คำคม มึงเป็นผัวเขาตั้งแต่เมื่อไรถึงได้ห่างกันสักพัก”ไอ้หวายเบะปาก ไอ้สามคนที่เหลือโห่ใส่ผมเต็มๆ กูพูดอะไรผิด

“เมื่อวานกูเห็นมีหนุ่มขับออดี้มารับไปกินข้าว สงสัยมึงจะได้ห่างยาวแน่”ไอ้เจย์ยักคิ้วใส่ผม

“ก็เรื่องของเขา”ผมบอกมันอย่างไม่สนใจ แต่ที่จริงสนใจว่าใครวะ

“เรื่องของเขาแต่มองอย่างกับจะเข้าไปฟันเขา หื่นนะมึง”ไอ้หวายพูดล้อเลียนเสียงเล็กเสียงน้อย ผมเลยยกตีนถีบไปทีมันกลิ้งไปถึงไอ้พายที่รอซ้ำเติมอยู่แล้ว โชคสองชั้นเลยมึงเจอสองตีน

“มึงเอาจริงเหรอวะ”ไอ้บลูถามผมบ้างหลังจากออเซาะว่าที่เมียมันเสร็จ
   
“ไม่รู้ ต้องให้ได้ก่อนถึงจะเอา”ผมบอกมันก่อนจะเดินออกไป

“ไอ้เงี่ยน ไอ้หื่น”เสียงพวกมันตามมาติดๆ มึงจะด่ากูทำไม กูก็มนุษย์มีกิเลสในตัวเป็นธรรมดา กูเงียบไม่ได้หมายความว่าเอาใครไม่เป็นสักหน่อย หนังเอ็กส์ไม่ว่าประเภทไหนผมก็ดูเหมือนคนทั่วๆไป ไม่ได้ตีลังกาดูให้ปวดหัว ทั้งผู้หญิงผู้ชายแม้แต่มือตัวเองก็ผ่านมาแล้วไม่รู้พวกมันจะตื่นเต้นหรือเห็นผมแปลกประหลาดตรงไหน แค่หน้าตาหล่อเกินไปแค่นั้นเอง หุหุ ไม่ผิดครับอวยตัวเองเป็นเรื่องปกติ
*********************************************************************************************

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
เอาใจช่วยไผ่แล้วกัน

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ไผ่ถอยมาตั้งหลัก แต่แทงกั๊กทำเป็นแอบตาม

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
นึกว่าคู่พายกะบลูมันได้กันแล้ว
ที่แท้น้องพายยังรักนวลสงวนตัวอยู่
เอาใจช่วยไผ่ ให้จีบฝิ่นติดซักที

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ตอนที่ 12
หลังจากวันนั้นมันก็เงียบไปเกือบสองอาทิตย์ มันไม่มองไม่เข้ามาแหย่เดินสวนกันก็ไม่สนใจมันดูปกติเหมือนเมื่อก่อนที่ไม่เคยรู้จักกัน อีโมนิค ก็ทวงเบอร์กับอีออยทุกวัน จนบางครั้งหงุดหงิดอยากถีบตุ๊ดกับเกย์ ยกเว้นเกย์อย่างผม

“อีออย มึงทำเชี่ยไรอยู่ไม่รีบเอาเบอร์พี่เขาให้กูสักที”อีโมนิคทวงทันที ตอนนี้อยู่กันที่ผับ ไอ้แฝดกับนังนีไม่ได้มาด้วย มันบอกปล่อยพวกปกติเหมือนกันให้ไปเที่ยวด้วยกัน ฟังเหมือนจะเข้าใจแต่งงวะ รู้สึกมันอาการดีมากขึ้นแล้วหลังจากได้กระทืบไอ้กานต์ไป

“ใจเย็นสิมึง กูก็อยากขอให้แต่พี่ไผ่แม่งหน้านิ่งเป็นตอหม้อ กูไม่อยากโดนตีนให้หน้าเสียโฉม”อีออยพูดจบก็เอามือจับหน้ามัน

“อีฝิ่น มึงคนเดียวเลยทำกูอดมีผัวใหม่ เสือกไปกวนตีนเขา”มันหันมาแขวะผม

“ไม่เกี่ยวกับกู”ผมบอกพวกมันก่อนจะยกแก้วดื่มรวดเดียวหมด

“เกี่ยวเต็มๆ เออว่าแต่เขามาแหย่มึงอีกไหม”มันกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะถามอย่างนึกขึ้นได้

“อุ้ย หน้ามันเขายังไม่มองเลย มีแต่มันนั่นแหละทำตัวเป็นเกย์ษณีย์ส่งของให้เขา”อีออยตอบแทน ทำเอาผมหน้าเหวอ

“ยังไงวะ เกย์ษณีย์ อีออยกูงง”อีโมนิคทำหน้างง

“อ้าว ตุ๊ดงง ก็อีฝิ่นมันเป็นเกย์ไม่ใช่บุรุษแท้มันก็ไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์คอยเอาของไปให้เขานะสิ”อีออยไขข้อสงสัย

“อีเวร เล่นกูซะงง มุกมึงฝังลึกมากทำเอาตุ๊ดอย่างกูไม่เก็ท อ้าว อีนี่ตีท้ายครัวกูเหรอ”มันด่าอีออยก่อนจะหันมากัดผม

“อะไร ใครไปตีท้ายทอยมึง”ผมย้อนมัน

“ท้ายครัว อีห่า ไม่ใช่ท้ายทอย เดี๋ยวมึงได้เจอท้ายทอยแน่ ยังไง มึงเล่ามาเลย”มันด่าผมก่อนจะเค้นให้เปิดปาก ผมก็เลยเล่าให้พวกมันฟังไม่รู้จะปิดไปทำไม เกือบอาทิตย์แล้วที่มันห่างผม ๆ ก็เอาของไปแขวนที่รถมันแล้วทำเนียนดูว่ามันจะทำยังไง มันดีใจ ยิ้มอย่างยินดีเล่าให้เพื่อนมันฟัง กินอย่างเอร็ดอร่อยและรอคอยทุกวัน ไม่มีตัดออกให้หมดความคิดนี้ แม่งไม่แดกสักวันโยนให้เพื่อนมันที่กินอย่างไม่เอะใจว่าใครจะใส่ยาเบื่อ ยาสั่ง ยาปลุก อะไรหรือเปล่า ทำเอากูหมดความสำนึกเลยไม่เอาไปให้อีก แต่ก็ยังมองโลกในแง่ดีตามประสากุลเกย์ว่าดีแล้วที่เขาไม่ทิ้งใส่ถังขยะไม่งั้นคงได้จุกเสียดไปอีกนาน
 
“ฮ่าๆๆๆๆๆ กูอยากให้พี่เขาเห็นจริงๆว่ามึงต้องตื่นเช้าแค่ไหนถ่อสังขารไปหามาให้”อีโมนิคหัวเราะเอาเป็นเอาตาย

“เสียดายไง พอเขาไม่สนก็อยากเข้าหา”อีออยซ้ำเติมเข้าไปอีก
 
“ก็มึงบอกกูเองอ่ะ ว่าให้รับผิดชอบคำพูดตัวเอง”ผมก็เถียงมันอย่างไม่ยอม

“กูหมายถึงที่มึงรับปากพี่เจตน์ อีห่า ที่อย่างนี้เสือกคิดลึกไปโน่น มึงคิดได้ไงวะ”มันลอยหน้าลอยตาด่าผมแต่มันกลั้นหัวเราะไว้

“ต๊าย มีสามัญสำนึกกับคนก่อนที่มึงด่าเขาไว้ทำแบบนี้ป่ะ”อีโมนิคอุทานแสยะยิ้มหน้าเริ่ดใส่ผม

“ตอบแทนได้เลยคะ ไม่มี กูเพิ่งเคยเห็นมันเต้นกับคนนี้แหละ คริคริ”มันชิงผมเกิดพูดแทนเสร็จสรรพ พากันชอบใจ

“เออ ขำเข้าไป กูทำอะไรก็ผิดหมด”ผมเริ่มน้อยใจพวกมันแล้ว มันเงียบเลยครับ เห็นผมกัดปากรีบลุกมานั่งข้างๆ

“อีฝิ่น อีห่ากูล้อเล่น”อีออยกอดไหล่ผม

“เฮ้ย มึงอย่าบอกนะว่า”อีโมนิคจับหน้าผมไปมอง ใช่ครับผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่ร้องหรอก จิ๊บๆ แกล้งอีพวกนี้มัน

“ใช่ กูแค่อยากขอโทษที่ไปพูดดูถูกมัน กูไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นสักหน่อย”ผมก็เลยทำการแสดงต่อแต่เหมือนจริงมาก แม่ง ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนกันยังทำกูรนได้เลยนะมึง

“มันไม่แดกสักวัน ช่างมันเถอะกูเลิกแล้ว”ผมพูดเบาๆ ยกดื่มอีก

“ก็มึงไม่ให้เขาต่อหน้าแล้วเขาจะรู้ไหมล่ะว่าของใคร”อีออยเสนอความคิดเห็นให้

“นั่นสิ เป็นกูก็ไม่กิน”อีโมนิคช่วยเสริม

“กูอาย กลัวมันด่า”ผมสารภาพอย่างหมดสภาพเลย

“ฮ่าๆๆๆๆ”อีสองตัวประสานเสียงกันก่อนจะมองหน้าผมที่เริ่มนอยด์อีกแล้ว

“เออๆๆ กูว่าจะไม่ขำก็อดไม่ได้ ด่าก็ต้องให้ด่าก็มึงด่าเขาก่อนนี่หว่า”อีออยยังขำนิดหน่อย

“แต่ก่อนไม่เห็นมึงกลัวใครเลย นอกจากปู่มึง”อีโมนิคเอาความจริงมาพูดอีก

“มึงก็พูดไม่คิด ก็อีนี่เขาชอบไงแต่ยังแอ๊บอยู่ ของเขาดีจริงว่ะ”อีออยจีบปากจีบคอพูด ผมมองหน้ามัน

“พอเลยไม่ต้องอ้าปาก ไว้อ้าอย่างอื่นแทน ก็บอกมึงแล้วไง ให้ใช้หัวใจคิดอย่าไปใช้สมองมากหรือไม่ก็ไม่ต้องคิดอะไรคบไปเลยจะได้รู้ว่าเป็นยังไงกลัวอะไรไม่เข้าเรื่องทำยังกับไม่เคยมีความรัก ผิดหวังเป็นภูมิต้านทานนะมึงกูจะบอกให้”มันดักคอผมก่อนจะพูดยืดยาว

“พรุ่งนี้มึงเอาไปให้เขาต่อหน้าเลย ดูสิว่าเขาจะด่ามึงไหม ถ้าเขาอ้าปากมึงจูบปากแม่งเลย ทีนี้เงียบเป็นเป่าสาก เชื่อกู”อีโมนิคแนะวิธี

“อีบ้า กูไม่กล้าหรอกเดี๋ยวมันกัดลิ้นกู”ผมว่ามันอย่างอายๆ มันยิ่งจูบผมแรงด้วย

“อีสตอ กูนึกว่าจะกลัวเขาด่ากลับเสือกกลัวเขากัดลิ้น”อีโมนิคว่าผมอย่างหมั่นไส้
 
“คราวก่อนเขากัดลิ้นมึงไหมล่ะ”อีออยถามผมที่อดขำอีโมนิคไม่ได้

“เปล่า มันสอดซะจนกูหายใจแทบไม่ออก”ผมบอกมันตรงๆ ก่อนจะเสียรู้โดนมันหลอกถาม มันหัวเราะอีกแล้ว

“รุนแรงแต่แฝงไปด้วยความนุ่มลึก อิจฉามึงอ่ะ กูว่านะพรุ่งนี้มึงไปเคลียร์เลย ไม่งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะ เปลี่ยนแนวก็ดีเหมือนกันอาจจะได้รสชาดแปลกใหม่”อีโมนิคทำท่าคิดตามก่อนจะจิกผม
 
“กูช่วย ถ้ามันเล่นตัวอีกคราวนี้ปล่อยมัน”อีออยรีบหนับหนุนซี้มันทันที

“พวกมึงพูดกับอย่างกับมันจะยอมง่ายๆเน๊าะ”ผมบอกอย่างไม่มั่นใจ

“เขาไม่ยอมมึงก็ยอมสิ ถึงง่ายแต่ก็ได้ไม่ยาก ทำเป็นไหม”อีออยเอานิ้วจิ้มหัวผม ยังไงวะคำพูดมึง งง

“อีเวร กูหมายถึงเกิดมันเฉยๆ ไม่สนกูแล้วต่างหากจะทำไง”ผมเลยจิ้มมันกลับไปบ้าง

“มึงหมดน้ำยาว่างั้นเถอะ”มันดูถูกว่าผมไม่มีเสน่ห์พอที่จะทำให้ไอ้นั่นกลับมาสนใจผมได้

“ของอย่างนี้บังคับไม่ได้นะมึง มันอาจจะเซ็งไปแล้วก็ได้”ผมพูดเหมือนจะปลง แต่ใจก็คิดว่าเอาไงดีวะ

“แต่กูว่าไม่ เพราะวันนี้พี่เขามองมึงอยู่ กูเห็น”อีออยพูดอย่างมั่นใจ ผมหันขวับเลย

“ตอนไหนวะ”ผมรีบถามมัน มันแสยะยิ้ม

“ก็ตอนที่มึงนั่งเหม่อลอยปล่อยวิญญาณออกจากร่างไง ไม่รู้ว่าคิดถึงใคร”มันพูดล้อผม

“ทำไมไม่บอกกู”ผมถามมันอย่างพาลๆ

“กูกลัวมึงด่า”มันก็แถใส่ผม

“ทีอย่างนี้กลัว มึงหงุบหงิบใช่มั้ย”ผมหรี่ตาใส่มัน

“หงุบหงิบอะไร ผัวมึงไงกูจะได้หงุบหงิบ”มันก็ย้อนผมทำหน้าแรดๆใส่

“เปล่า”ผมพูดก่อนจะมองไปทางอื่นแก้เก้อ

 “ตอแหล”อีคู่เกย

“=_=”หน้าผมเอง

“ชอบเขาละซี้ซซซ”มันลากเสียงยาวมากกกกก

“เกลียดตัวแต่อยากแดกไข่”อีโมนิคแสยะปากใส่ผมมั่ง

“ไม่”ผมยื่นหน้าใส่มัน

“ไม่อะไร ไส้มึงออกมากองแทบจะส้นตีนกูแล้ว ยังมาจะมาไม่ๆๆๆ”อีออยก็ยื่นใส่มึง ผมแสยะยิ้มใส่มัน

“กูจะแดกทั้งตัว”ผมพูดจบ ทำเอาพวกมันหน้าเหวอเลยครับ คิดไม่ถึงว่าผมจะพูดแบบนี้

“อีแรดแว้นส์”พวกมันว่าผมพร้อมกัน ไม่เจ็บครับผมสะใจที่ตอกหน้าพวกมันได้ อิอิ แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า
**********************************************************************************************
ผมยอมรับว่ารู้สึกแปลกๆที่ไม่ได้เจอหน้ามัน เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างเหมือนไม่มีอะไรมาขัดแข้งขัดขา ขัดหูขัดตา ขัดใจ  หลังจากคุยกับพวกนั้นที่ผับผมตัดสินใจว่าจะให้เคลียร์ไปเลยวันนี้ ถ้ามันยังสนใจผมอยู่ก็จะลองคบดูแต่ถ้าไม่ผมก็จะปล่อยไปไม่ยื้ออีก แต่ทำไมวันนี้มันเสียวสันหลังแปลกๆ วะ

“เฮ้ย”เดินอยู่ดีๆเหมือนมีอะไรมากระชากอย่างแรง หันไปก็เจอหน้ามัน ไอ้คนที่กวนผมอยู่นั่นแหละ

“ใจลอยเชียวมึง คิดถึงกูไง”มันถามผมยิ้มๆ

“ถุย ไม่หล่อยังเสือกหลงตัวเอง”ผมด่ามันกลับกลบเกลื่อนความรู้สึก ใจเต้นทำไมวะ

“เหรอ แล้วใครวะฝากไปบอกผัวเก่ามึงว่า กูหล่อกว่าพวกมันรวมกันอีก”มันพูดล้อผม

“กูก็พูดฝากไปให้มันเจ็บใจเล่นเท่านั้นแหละ ไม่คิดว่ามึงจะโง่เห็นเป็นเรื่องจริง”ผมก็ตอกกลับมันบ้าง ไอ้นี่กูว่าจะพูดดีๆเสือกทำให้กูทำสันดานเสียใส่อีก แต่ก็อดจะแอบดีใจไม่ได้ที่เจอมัน

“ยังไงกูก็หล่อ จุ๊บ”พูดเสร็จมันหอมแก้มผมทีเผลออีกแล้วผมดันหน้ามันออก แม่งหอมกูอยู่นั่นแหละ แล้วทำไมกูต้องยอมมันด้วยวะ ปากก็บอกว่าไม่ได้เป็นแฟนแถมด่ามันด้วย ใจง่ายจริงกู มือก็ลูบไปเรื่อยจนจะถึงก้นอยู่แล้ว

“คิดถึงกูไหม”มันถามผมตาเจ้าชู้ฉิบหาย แต่หน้านิ่งเป็นหลักกิโล

“ไม่”ผมหยิกมือมัน ก้มหน้าไม่ให้มันเห็นว่าอมยิ้มอยู่

“พูดจริง”มันจับหน้าผมเงยขึ้น จ้องตาผม

“เออ มึงจะไปเดินกับใครก็เรื่องของมึง”ผมก็พูดใส่หน้ามัน

“ไปเดินกับใคร”มันพูดหน้างงๆ ทำแอ๊บนะมึง

“ก็น้องเก้มึงไง”ผมบอกมัน ยิ้มทำไมเดี๋ยวกูเอาฟันเฉาะหน้าซะนี่

“ไม่สนใจกู แต่รู้ด้วยโว้ยว่าเดินกับใคร”มันพูดเสียงล้อๆ
 
“มึงนั่นแหละเสือกเดินผ่านกูเอง”ผมก็แถไปอีก

“จำคนผิดหรือเปล่า”มันย้อนถามผมอีก

“ไม่ผิดหรอก กูเห็นสองตาเลยว่ามึงเดินควงหอยต้อยๆๆๆ”ผมพูดจบมันหัวเราะก๊ากเลย กูพูดอะไรผิดก็เห็นจริงๆนี่หว่าตอนที่จะเอาขนมไปแขวนให้มันที่รถ ก่อนจะนึกได้ว่าเสียรู้มันเข้าให้

“แอบตามกูเหรอ”มันย้อนได้กวนตีนมาก

“มึงนั่นแหละตามกูก่อน”ผมไม่ยอมมัน

“กูเลิกตามตั้งแต่มึงด่ากูแล้วนะ”มันย้อนซะจุกเลย หน้ามันก็นิ่งๆ ผมเม้มปาก

“รู้แล้ว ไม่ต้องมาย้ำ วันนี้แค่จะมาขอโทษที่พูดไม่ดี”ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้ใครจะมาทน พูดจบผมก็เดินหนีทันทีแต่ยังไม่พ้นมุมตึกมันก็ฉุดให้ผมหันกลับไปหามันก่อนจะผลักให้ติดกำแพงตึกก้มลงมาจูบขยี้ปากผมอย่างแรงก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปจนผมหายใจแทบไม่ออก ทั้งทุบทั้งหยิกให้มันปล่อย มันผละออก ผมหอบแบบโกยอากาศเลย

 “มาจูบกูทำไม”ผมตะโกนใส่หน้ามัน ทั้งมือทั้งขาเตะมันให้ยุ่งไปหมด

“ยังไม่หยุดอีก”มันดึงเข้าไปกอดเอาแขนรัดผมไว้จนแน่น

“มึงก็ปล่อยสิ”ผมก็พูดใส่หน้ามัน

“อย่ากัดปาก เด็กไม่ดี”มันเอามือบีบปากให้คลายออก ว่าผมด้วย

“เออ กูไม่ดีเป็นอย่างนี้แหละ จะทำไม”ผมก็ย้อนมัน น้อยใจนะโว้ย

“จะอบรมมึงไง”มันพูดใส่มั่ง

“เป็น พะ ผู้ปกครองกูไงจะมาอบรม”ด่าแม่งเลย แต่ละคำที่ดูจะแรงไปได้ทัน เกือบหลุดไม่งั้นอาจโดนมันวิสามัญได้

“เป็นแฟนก็พอแล้ว”มันพูดพร้อมกับยักคิ้วใส่

“ไม่เป็น ปล่อย”ผมเตะหน้าขามัน แต่มันหลบก่อนจะเหยียบเท้าผมไว้
 
“ตามกูทำไม”มันถามผมอีก

“เลิกตามแล้ว”ผมก็บอกและสะบัดหน้าหนีมัน ตามันมองแทบจะทะลุความคิดผมเลย

“ห้ามเลิก”มันกระซิบข้างหู ผมหันขวับแก้มชนจมูกมันเข้าให้ มันสูดดมด้วย ไอ้โรคจิต

“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง บอกแล้วไงว่าไม่ อื๊อ”พูดยังไม่ทันจบ จูบกูอีกแล้ว ทำไมมึงไม่ด่าแล้วให้กูปิดปากมึงก่อนวะ ยิ่งหนีก็ยิ่งตาม ผมเลยโต้มันกลับให้มันรู้บ้างว่ากูไม่ยอมมึงหรอก กลัวโดนเอาเปรียบ ยังไงวะ  เราจูบกันอย่างไม่มีใครยอมใครจากร้อนแรงเหลืออ่อนหวานหยอกล้อกันไปมา ก่อนจะผละออกมันก็จุ๊บปากผมสองสามครั้งก่อนจะเลาะเล็มปากผมอย่างอ้อยอิ่ง

“ขอโทษกูยัง”มันทวงคำขอโทษจากผม

“ขอโทษ”ผมบอกมันจะได้จบๆสักที มันมองหน้าผมที่ตอนนี้ปากเจ่อไปหมดแล้ว แก้มก็แดงเถือก

“ปล่อยได้แล้ว”ผมบอกมันเรียบๆ ขี้เกียจดิ้นแล้ว เหนื่อย

“จับไม่ได้”มันเลิกคิ้ว  ผมจิ๊ปากใส่มัน

“จะถามทำไม มึงไม่เคยขอกูเลย”ผมพูดประชดมัน

“ถ้าขอแล้วจะให้ไหมล่ะ”เปิดช่องให้ไม่ได้
 
“=_=”เงียบไปเลยกู มันเอามือลูบปากผมก่อนจะไล้ไปที่แก้ม

“ไอ้นั่น แฟนมึงหรือเปล่า”จู่ๆมันก็ถามผมขึ้นมา ใครวะ

“ไอ้คนที่ขับออดี้มารับมึงอ่ะ มีหลายคนเลยงงไง”มันบอกอีกเมื่อเห็นผมทำหน้างง มีประชดตบท้ายด้วย

“ยุ่งไรด้วย ไหนบอกเลิกตามกูแล้วไง”ผมเชิดหน้าถามมัน อย่าบอกนะว่าวันนั้นมันตามผมไป ดีใจทำไมวะ

“ถามเฉยๆ ถ้าเป็นแฟนมึงกูก็จะไม่ยุ่งอีก ต่างคนต่างอยู่ เจอที่ไหนก็ไม่ต้องมาทักและไม่ต้องเอาอะไรมาแขวนที่รถอีก”มันพูดยืดยาวเหมือนสาปส่งแต่ตอนท้ายนี่สิรู้ได้ไงวะ

“=_=”เอาไงดีวะ ที่จริงถ้าตอบใช่ก็จบแล้ว แต่ทำไมปากหนักจริงอมหินอยู่ไงวะมองหน้าไปมอง มันก็จ้องซะ

“กูรู้แล้ว”มันพูดเองเสร็จสรรพ ก่อนจะผลักออกจากตัวมัน หันหลังเดินไป

“มึงรู้อะไร”ผมรีบถามมันทันที

“รู้คำตอบไง มึงสบายใจได้เลยกูไม่มายุ่งกับมึงแล้ว”มันหันมาพูดเฉยๆ

“ไอ้เชี่ยะ นึกจะมากอดมาจูบลูบคลำ ไม่ทันไรมึงก็ทิ้งขว้างกูอย่างรองเท้าเก่าๆเลยนะมึง สัด แม่ง สันดาน ทีตอนแรกตามกูได้ตามกูดี เออ คุ้มแล้วนี่มึง ไปเลยมึงอยากจะเอาไปคุยอวดใครว่ามึงทำอะไรกูบ้างก็เรื่องของมึงเถอะ กูไม่ยุ่งกับมึงแล้ว”ผมร้องด่ามันอย่างเหลืออดในขณะที่มันจะเดินไป มันหยุดชะงักก่อนจะหันมามองผมแบบยิ้มๆ ผมไม่ฟังอะไรแล้วเดินหนีมันทันที

“เป็นบ้าอะไร”มันดึงผมมากอดอีก เลิกคิ้วถามแบบอยากเอาตีนทาบหน้าฉิบหาย

“มึงนั่นแหละ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต”ผมด่ามัน ดึงตัวเองออก

“มึงซิบ้า กูถามว่าใช่แฟนมึงหรือเปล่าก็ไม่พูด ใช่ไม่ใช่ก็บอกมา มึงก็ยังโวยวาย”มันย้อนผมหน้านิ่งๆ แต่แววตาหมือนจะขำ
 
“ไม่ใช่ ปล่อย กูไม่ยุ่งกับมึงแล้ว”ผมตะโกนสวนกับมัน ๆ ยกยิ้มมุมปาก

 “หึหึ ได้ผลโว้ย ด่ากูซะยาวเลย”มันพูดอีก ผมงง ก่อนจะเบิกตาเอามือทุบมันที่เสียรู้มันจนได้

“เหี้ยยยยย หลอกกูนะมึง”ผมด่ามันแบบลากหางให้ด้วยทุบมันด้วย
 
“ฮะๆๆ ไม่งั้นมึงก็คิดมากอยู่นั่นแหละ เอาน่า ไหนๆก็ไหนแล้ว”มันบอกก่อนจะหอมแก้มผม อีกล่ะไม่ถึงเดือนกูต้องเสร็จมันแน่สรุปมันเก่งหรือกูเป็นใจให้มันด้วยวะเนี่ยะ

“เรื่องอะไร”

“เป็นแฟนกันไง”

“กูตกลงตอนไหน”

“อย่าเรื่องมาก”

“เอ๊ะ”

“เป็นไม่เป็น”มันถามอีก

“เออ”รับแม่งเลย คอยดูนะกูจะจิกหัวใช้มึงอย่างทาสเลย มันจับหน้าผมให้มองหน้ามัน

“สรุปมึงคบกับกูแล้วนะ”มันบอกผมอีกครั้ง ผมกลอกตาไปมา มันเลยพูดต่ออีก “กูไม่สัญญาอะไรหรอกนะว่าจะทำอะไรให้มึงบ้างเพราะกูไม่ชอบสัญญานอกจากกระทำเลยซึ่งมึงน่าจะรู้ว่ากูทำจริงๆ อย่างเช่นที่กู กอด จูบ ลูบ คลำ มึงนี่ไงกูก็ไม่ได้ขอแต่ทำเลย”มันพูดพร้อมกับทำตาเจ้าเล่ห์ปนเจ้าชู้ใส่ผม ผมดึงหัวมันเข้าให้อย่างหมั่นไส้

“ไอ้หน้าด้าน”ผมว่ามัน มันจับมือผมไปกัดนิ้วไม่แรงนักที่บังอาจไปดึงผมมัน

“แน่นอน กูหล่อทุกด้าน”ผมบอกมัน

“แหวะ”มันทำท่าใส่ด้วย

 “อะไรที่ผ่านมาก็แล้วไป ตอนนี้มึงคบกูควรรู้ว่าต้องทำยังไง” มันบอกเอามือจับหน้าผมเหมือนให้ฟังมันพูด ความหมายงงๆแต่ผมรู้ว่ามันจะสื่อถึงอะไร เพราะผมฉลาด หุหุ

“ตามให้ทันก็แล้วกัน”ผมลอยหน้าใส่มัน
 
“ก็ลองดูสิครับ หึหึ”มันพูดเพราะ แต่หัวเราะดูโรคจิต ผมนิ่งไปก่อนจะยักไหล่ มันก็พูดต่อ “แล้วมึงล่ะ”

 “เลี้ยงกูให้ดีแล้วกัน ไม่งั้นกูจะหาแฟนใหม่”ที่จริงอยากจะพูดเหมือนมันแหละ แต่ไม่เอาหรอกเดี๋ยวหาว่าไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ไอ้เรื่องหึงหวงผมก็มีบ้างจับได้ก็โดน จับไม่ได้ก็โชคดีไป ไปกันไม่ได้ก็แยกทาง

“แค่นี้เอง ยังงี้กูก็สบายสิ”มันยกยิ้มใส่ผม
 
“มึงลองดูสิ กูเอาตายแน่”เรื่องอะไรกูจะยอม พูดเน้นๆเลย มันยกยิ้ม

“กลับเองก่อนนะ”มันบอกผม

“ถ้ามีคนไปส่งล่ะ”ผมถามมันอีก กวนตีนมัน

“มึงก็พิจารณาเองแหละกันว่าสมควรหรือเปล่า ถามอีกมึงโดน”มันบอกเฉยๆ ผมเลยหุบปากเลย ก่อนมันจะหยิบมือถือมันมากดเบอร์ผมที่ต้องบอกมันจนได้ “เซฟไว้ด้วยนั่นเบอร์กู ไม่ต้องเอาไปให้ใครล่ะ”มันก็พูดไม่คิด กูจะไปให้ใครวะ

“กูไม่ให้ใครหรอก นอกจากโรง’บาลบ้า”ผมตอบกลับมัน มันก็ยิ้มๆ

“งั้นมึงก็ได้ผัวบ้านะสิ”มันย้อนผมกลับ
 
“แค่แฟนเหอะ จะผ่านโปรหรือเปล่าก็ไม่รู้”ผมบอกมันระหว่างนั้นก็เซฟเบอร์มันไว้ แต่เซฟเป็นชื่ออื่นไม่ใช่ชื่อมันหรอก อิอิ

“ก็ลองดูว่าโปรไม่โปร กูมีเวลาทดลองงานตั้งสี่เดือนนะมึง หึหึ”มันแสยะยิ้มบอกผมแบบเจ้าเล่ห์มาก มันมองจนผมหน้าร้อนไปหมดไม่รู้ว่าอายหรือว่าโกรธ ผมคิดผิดหรือเปล่าวะ ยังไงก็ไม่ทันแล้วล่ะ มันจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้ พร้อมกับจับปากที่เจ่อเล็กน้อยลูบเบาๆ ไล้ไปที่แก้ม

“คราวหน้าเอามาให้เองนะไม่ต้องไปแขวน เดี๋ยวหมาคาบไปแดก”มันพูดยิ้มๆใส่ผม

“เห็นแต่มึงนั่นแหละคาบไปให้เพื่อนแดก”ผมประชดใส่มันเสียงงอนๆ มันหัวเราะมองหน้าผม อีกแล้วกูปล่อยห่านเลยดีกว่าไก่มันเล็กไป

“วันหลังๆกูก็กินหลังจากรู้ว่าแฟนเอามาให้”มันพูดต่อยิ้มๆ

“ยังไม่ได้เป็นสักหน่อย”ผมพูดหันหน้าไปทางอื่น

“ก็ตอนนี้เป็นแล้ว”มันก็ตามมาพูดใส่หูผมอีก ผมทำเป็นไม่สนใจแต่หน้าร้อนวูบวาบเลย มันหัวเราะหึหึ ก่อนจะจูงมือให้เดินตามออกไป มันส่งผมขึ้นแท็กซี่เสร็จมันก็เดินกลับเข้าไป ผมมองหลังมันจนลับตาก่อนหันกลับมาพร้อมกับคิดว่าจะรับมือกับมันยังไง เอาวะลองดูสักตั้งอุตส่าห์จะโสดนานๆให้หนำใจสักหน่อย กลับถึงบ้านผมก็ขึ้นห้องอาบน้ำระหว่างที่ทาครีมผมก็ได้ยินโทรศัพท์ดังแต่มือยังไม่ว่างไง เห็นหน้าจอที่เซฟไว้ก็ยิ้มแต่ยังไม่รับ สักพักก็ดังอีก ผมก็กดรับยังไม่ทันได้อ้าปาก มันใส่ผมก่อนเลย

 “ทำไรวะ ช่วยตัวเองอยู่ไง”โอ้โหปาก นี่มึงเป็นแฟนกูแน่ใช่ไหม

“เออ เสือกโทรมาขัดจังหวะทำไม”ผมก็เลยรับคำมันซะ

“ให้ไปช่วยไหม”มันถามผมเสียงนี่แบบหื่นมาก

“ไม่ต้องเสือก กูทำเป็น”ผมรับมุกมันแอบยิ้มด้วย มันหัวเราะ หึหึ
 
“ถึงบ้านนานยัง”มันถามผมดูเสียงทุ้มขึ้นมาหน่อย

“อืม”

“แค่นี้แหละ”พูดจบมันก็วางสายทันที ทำเอาผมอึนไปเลย

“แล้วมึงจะโทรมาเพื่ออะไรวะ กลัวตังค์หมดไง ไอ้บ้า”ผมบ่นมันนิดหน่อยก่อนจะทาครีมต่อ เสร็จก็อ่านหนังสือแต่ไม่มีสมาธิ เลยเขียนไดอารี่แทนเดี๋ยวนี้ผมว่าไม่ค่อยมีใครเขียนแล้วนะแต่ผมชอบมันให้ความรู้สึกดีเข้าถึงเรื่องราวในแต่ละวันที่ได้เจอและกระทำ สักพักก็เริ่มง่วงปิดสมุด ขึ้นเตียงสวดมนต์ไหว้พระทันทีกันไอ้หน้ามึนมาเข้าฝันแต่กว่าจะหลับได้หน้ามันนี่โคตรหลอกหลอนผมเลย
**********************************************************************************************

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เค้าเป็นแฟนกันแล้ว

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
กว่าจะเป็นแฟนกัน
ลุ้นเยี่ยวแข็งแล่ว :o8:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เค้าเป็นแฟนกันแล้ว
ช่างเป็นคู่ที่สมกันจริงๆ
ปากร้ายทั้งคู่ จิกกัดกันตลอด
แต่ก็ปนหวานนะ

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ตอนที่ 13
ผมยกยิ้มหลังจากโทรไปแหย่มันสักหน่อยที่จริงก็หาเรื่องคุยกับมันนั่นแหละ ไอ้ฝิ่นถ้าดูภายนอกมันเป็นคนนิ่งนะแต่ยิ่งสัมผัสผมก็ยิ่งได้รู้ว่ามันไม่ได้ทื่อหรือเย็นชาอย่างที่ใครเห็นหรอก สำหรับผมมันกระตุ้นความต้องการจนแทบจะคุมไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นตุ๊ด เกย์ ผู้หญิง ที่ไหน สวยน่ารักกว่ามันผมเคยเห็นและลองมาแล้วแต่บอกได้เลยว่ามันถูกใจและน่ารักที่สุดในสายตาผม ที่ผมพูดกูมึงกับฝิ่นเพราะผมไม่อยากให้มันคิดว่าผมมองมันเหมือนผู้หญิง คิดว่าคุยกันแบบนี้แหละ แล้วผมไม่อยากแค่เป็นแฟนกันเท่านั้นอยากให้คิดว่าเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องที่สามารถคุยหรือบอกอะไรกันได้ ที่จริงตอนแรกผมพยายามไม่สนใจมันนะ แต่ไม่รู้เมื่อไรสายตาผมก็ไล่มองตามแต่มันอยากจะเอามาอยู่ใกล้ตัวยิ่งสังเกตกิริยาท่าทางมันเวลาอยู่กับเพื่อนมันดูเป็นคนที่สนุกสนานเฮฮาแต่ถ้ามันเดินคนเดียวหรือไม่พูดอะไรก็จะดูเหมือนคนหยิ่ง แต่เวลาใครพูดกระแนะกระแหนมันจะมองแบบโคตรเย็นชาส่วนปากนี่ก็ด่ากลับใช่ย่อย
 
“มึงยิ้มอะไรนักหนาวะ”ไอ้หวายถามผมที่ยืนสูบบุหรี่ต้องหน้าบ้าน มันเรียกให้เข้าไปกินข้าว ปกติกินกันสามคนแต่ตอนนี้ไอ้บลูพ่วงมาด้วยหลังจากมันตกลงปลงใจคบกันแล้ว อ้อ ไอ้เจย์อีกนึงตัว ลืมเลยมันแวะเอาผลไม้มาให้แม่มันส่งมาให้สดๆจากสวนเป็นเข่งๆ ทั้งส้ม แอ๊บเปิ้ล สตอเบอรี่ ถูกใจไอ้พาย มันจัดแบ่งใส่ตะกร้าให้ผมเยอะมากอย่างกับจะให้เอาไปขาย แต่นึกได้เอาไปฝากไอ้ตัวขาวดีกว่า

“กูเห็นตั้งแต่กลับมาดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”ไอ้พายพูดขึ้นมาอีกคน ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออก วันนี้มีแกงอ่อมหมู หมกหน่อไม้ ต้มยำปลาช่อน ผัดผัก หุงทั้งข้าวสวยข้าวเหนียวแล้วแต่สะดวก ถ้าพวกผมส่วนใหญ่ก็ข้าวเหนียว ไอ้เจย์ได้หมด แต่ไอ้บลูมันกินไม่ค่อยได้เยอะเท่าไรมันชินกับข้าวสวยมากกว่า ไอ้พายปากก็บ่นแต่ก็ทำให้ แล้วมึงจะบ่นทำไมให้หนวกหู

“นี่หน้ามันอารมณ์ดีสุดเลยเหรอ”ไอ้เจย์ถามได้แบบน่าถีบมาก

“นั่นสิ ตรงไหนวะที่เขียนคำว่าพิเศษเอาไว้”ไอ้บลูสอดกลางมาอีก

“นี่แหละ ดีสุดๆแล้ว พวกมึงไม่รู้หรอก กูเห็นมันมาตั้งแต่จู๋เท่าหนอนแล้ว”ไอ้หวายพูดขัด แต่เดี๋ยวตอนท้ายมึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

“ตอนนี้ของมึงก็ยังหนอนเท่าจู๋ใช่ไหม ไอ้หวาย”ดีมากไอ้เจย์ ที่แยกประเภทออก

“ไอ้สัด ไม่ต้องแดกเลย”ไอ้หวายทำเป็นหยิบจานมันจะคว่ำ มันรีบคว้าหนีทันที

“แล้วมึงอารมณ์ดีเรื่องไรวะ”ไอ้พายถามผมต่อ ก่อนจะตักต้มยำให้ไอ้บลู นี่มึงเอาใจมันมากไปไหม

“อย่าเพิ่งพูด ให้กูถามก่อน”ไอ้หวายดักคอ มองผมอย่างมีเลศนัยหันไปยักคิ้วให้ไอ้เจย์

“อะไร”ผมเลิกคิ้วใส่มัน ก่อนจะส่งข้าวเหนียวเข้าปาก ตามด้วยอ่อมหมู อืม ผีมือมึงดีเหมือนเดิม ไอ้ฝิ่นมันกินเป็นเปล่าวะ

“จริงหรือไม่ที่มึงไปตึกวิศวะบ่อยๆ”ไอ้หวายยิงคำถามแรก มึงทำงานที่เวริคพร้อยท์เหรอ

“อืม”ผมยอมรับ

“ไอ้เหี้ย ยอมรับง่ายจังวะ หมดหนุกเลย”มันทำท่าดีดดิ้นอย่างปัญญาอ่อนมาก ไอ้สามคนมองหน้ากันขำๆ

“แล้วไปทำไมวะ”ไอ้เจย์เสียบต่อ

“ไปหาแฟน”ผมบอกมัน

“อ๋อ ไปหาแฟน”มันพยักหน้ารับ

“ห๊ะ ไปหาแฟน”สี่คนถามพร้อมกันเลย อ้าวมีไม่ได้เหรอ กูไม่ได้ขี้เหร่นะมึง

“ตกใจทำไม”ผมถามพวกมันกลับชิวๆ

“ใครวะ”ไอ้หวายทำหน้าอยากรู้มาก

“คนสิ”ผมบอกมันทันที

“กวนตีน”มันก็ตอบกลับได้ทันควัน

“มึงบอกมาเลย ใครๆๆๆ กูอยากรู้”ไอ้พายระริกระรี้ขึ้นมาทันที พอกับไอ้บลูที่พยักหน้าตามกัน

“พวกมึงก็รู้จักอยู่แล้วนิ”ผมแกล้งพวกมันอีกหน่อย พวกมันทำหน้านึก นึกและก็นึก ก่อนจะเบิ่งตา

“น้องฝิ่น”ฉลาดมาก

“แม่นแล้ว”ภาษาบ้านเกิดออกมาเลยผม

“ตอนไหนวะ กูเห็นมึงไม่ยุ่งแล้วไม่ใช่เหรอ”ไอ้หวายยังสงสัยไม่หาย

“เออวะ สัดทำซุ่มนะมึง”ไอ้เจย์เออออตาม

“นานยังวะ”ไอ้บลูถาม มือก็ตักผัดผักให้ไอ้พายไปด้วย

“วันนี้”ผมบอกตรงๆไม่อ้อมแล้วรำคาญ

“มึงทำไงน้องเขาตกลงวะ”ไอ้พายถามต่ออย่างสงสัย

“ไม่ทำไงกูแค่ถาม มันรำคาญก็เลยตกลง”ตอบแม่งงี้แหละ

“เออ บทจะง่ายก็ง่ายเน๊าะ กูเห็นมึงแหย่ให้เขาด่าอยู่เรื่อย มองก็ไม่มองนี่ถ้ามึงได้กันกูจะรู้มั้ยเนี่ยะ”ไอ้หวายพูดแบบปลง

“มึงดูแค่ที่บ้านก็พอมั้ง ไม่ต้องสาระแนตามติดชีวิตกูหรอก”ผมบอกมันยิ้มๆ ยักคิ้วให้ไอ้สองคน

“ไอ้ไผ่ ไอ้เชี่ยะ”ไอ้พายตีแขนผมทันที

“อายไง”ผมถามมันล้อๆ มันก็ตีไม่หยุด

“มึงได้กันยังวะ”ไอ้เจย์ทะลุมิติมาเลย

“ไอ้สัดเจย์”ไอ้พายเอาส้มเขวี้ยงใส่มัน

“พายไม่ยอมกู”ไอ้บลูโพร่งขึ้นมาอีก เสร็จแน่มึงไอ้พาย กูรอดแล้ว

“ไอ้บลู ไอ้หน้าหม้อให้นอนด้วยก็บุญแล้ว คืนนี้มึงกลับบ้านไปเลยหรือไม่ก็นอนได้เสียกับไอ้หวายโน่น”ไอ้พายด่ามันก่อนจะลาม

“เฮ้ย กูไม่เกี่ยว ยังไงประตูกูเหนียวแน่น สักยันต์ไว้แล้วฟันแทงไม่เข้า นอกจากไปฟันเขาเท่านั้น”ไอ้หวายโวยใส่อย่างไม่ยอม

“ถุย เหนี่ยวแน่นไหนกูลองเอาส้อมเสียบดูสิ”ไอ้พายทำท่าถุยยกส้อมเตรียมจะเสียบมัน มันก็ยกช้อนมันขึ้นมาสู้

“ยังไงบลูก็ไม่กลับและไม่นอนกับไอ้หวายด้วย แค่คิดก็สยองแล้ว ยกให้ไอ้เจย์มันไปเถอะ”ไอ้บลูทำท่าก่อนจะพยักเพยิดไปทางไอ้เจย์

“มึงถามกูก่อนก็ได้ว่าเอามันไหม”ไอ้เจย์ทำหน้าแบบเบื่อๆ

“ก่อนเอามันมึงก็ถามด้วยละ ว่าเอามันไหม”ผมแหย่พวกมันโดยการแปลความหมายไปอีกอย่าง ไอ้พายกับไอ้บลูขำคิกเลย นานๆผมจะปล่อยมุกใส่มัน

“ไอ้ไผ่ ไอ้สัด อุตริแปลนะมึง สันดาน กูขอแช่งให้มึงไม่ได้ฟันน้องฝิ่น สาธุ”ไอ้สองคนแย่งกันพูดพนมมือสาธุแช่งผม

“ไม่เป็นไรกูกรวดน้ำกลับคืนให้พวกมึงไม่ได้ฟันใครนอกจากฟันกันเอง”ผมยักไหล่บอกพวกมันอย่างไม่แคร์ มันเงียบมองหน้ากัน

“ชาติชั่ว”มันขุดคำมาด่าผม ผมก็ยักคิ้ว ก่อนพวกเราจะลงมือกินกันต่อจนเก็บจานชามล้างเรียบร้อยก็มานั่งกันที่สนามหน้าบ้าน เสื่อผืนนึง ผลไม้จานใหญ่ เบียร์คนละกระป๋อง กีตาร์โปร่งหนึ่งตัว พวกผมชอบเล่นดนตรีนะ เล่นได้เกือบหมดทั้งไทย สากล ไอ้หวายเห็นมันขี้เล่นอย่างนี้มันร้องเพลงเพราะมากได้เกือบทุกประเภท ไอ้เจย์ถนัดเพลงสากลและก็แร็ฟโย่ ไอ้บลูกับผมไม่ค่อยชอบร้องเท่าไรชอบเล่นดนตรีมากกว่า ส่วนไอ้พายแม่งไม่เอาไรเลยแต่มันทำกับข้าวเก่ง แสดงว่ามันเป็นคนชอบกลนัก หุหุ

“จัดไปหนึ่งดอกฉลองให้เพื่อนกู”ไอ้หวายน่าจะตกภาษาไทย ใช้คำไม่ถูกต้องแต่ปล่อยมันเถอะครับ ไอ้บลูปรับสายก่อนจะตั้งท่าเล่น

“เพลงไรวะ”ไอ้บลูถามไอ้หวายที่เตรียมจะร้อง

“นึกไม่ออก”มันบอก

“วงอะไรวะ”ไอ้เจย์ถามงงๆ

“มึงหยุดฝังมุกมั่งก็ได้ กูหมายถึงยังนึกไม่ออก”มันโบ้หัวไอ้เจย์ไปหนึ่งที

“กูไม่ได้เล่นมุก กูถามจริงๆ”มันบอกและโบ้กลับสุดท้ายมันเอาเพลงของพี่แช่ม กรุณาฟังให้จบ อืม กูจะพยายามฟังมึงให้จบ ไอ้บลูพยักหน้าขึ้นอินโทรตอนแรกมันร้องได้เรื่อยๆ ดีเลยแหละพอตอนท่อนเร็วแม่งมั่วฉิบหายต้องให้ไอ้เจย์ช่วยทำเอาขำกันแทบตาย คิดดูหนุ่มอีสานแม่งกระแดะร้องใต้
 
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้เหี้ยหวาย ท่อนดีทีเหลว”ไอ้พายปล่อยเต็มสตีมไม่มีเก็บ

“ท่าโว้ย ท่อนบ้านมึงสิ”ไอ้หวายผลักหัวมัน

“มึงก็บ้านเดียวกับกูแหละ”มันก็ผลักบ้าง

“เออ แล้วน้องเก้ล่ะ เห็นซื้อขนมมาฝากมึงเรื่อย”ไอ้หวายพูดถึงน้องเก้ ที่ยังมาคุยกับผมอยู่ ผมก็บอกว่าไม่ต้องซื้อมาหรอกแต่น้องเก้ก็ซื้อมาให้ตลอด จะไม่รับก็ดูไม่ดี ผมชัดเจนกับการแสดงออกว่าไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขา

“แอนนี่อีกที่ยังตามติดๆ มึงนี่เงี่ยนปนเงียบได้ใจจริงๆ”ไอ้เจย์พูดพร้อมกับยกนิ้วให้ กูว่ามึงยกให้ตัวเองเถอะ

“แล้วยังน้องเอม คณะนิติที่ไอ้หวานบอกว่าชอบมึงอีก แต่คนนี้น่ารักนะ เรียนก็เก่ง แถมเป็นดาวคณะด้วย”ไอ้พายพูดถึงไอ้หวานเพื่อนผู้หญิงนิสัยออกห้าวขัดกับหน้าตาสวยๆของมันที่มาบอกไอ้พายว่า น้องเขาชอบผมที่ดูนิ่งไม่ค่อยพูดเท่าไร น้องเอมที่ไอ้พายพูดถึง เป็นคนเรียบร้อยอ่อนหวาน หน้าตาธรรมชาติใสๆ แต่งตัวไม่รัดรูปเหมือนนักศึกษาทั่วไปที่นิยมใส่ฟิตๆเน้นสัดส่วน เคยไปดูผมเล่นบาสตอนกีฬามหาวิทยาลัย แต่น้องเขาคุยเก่ง ร่าเริง ไม่ได้คุยออกแนวจีบเท่าไร

“ก็เอาเขาไว้อย่างเดิม”ผมบอกไปตามนั้น

“มึงจะคบหมดเลยเหรอ ไอ้หื่น”ไอ้หวายตาโต กูว่ามึงมากกว่ามั้งที่หื่น คิดไปได้

“กูหมายถึงคุยกันเหมือนเดิม เจอก็ทัก ไม่มีไร”ผมตอบชิวๆ

“เออ เหมือนเดิม มึงระวังนะ ผู้หญิงบทจะร้ายก็ร้ายได้ล้ำลึกมาก”ไอ้เจย์พูดเตือนผม ทำหน้าแทนที่จะน่ากลัวแต่กลับดูไม่น่าเชื่อถือ

“กูไม่ได้ให้ความหวังใคร”ผมพูดความจริง พวกมันมองหน้าผมที่รู้ว่าเรื่องจริง

“พวกกูรู้ แต่พวกนั้นรู้มั้ยล่ะ”ไอ้หวายบอกอย่างเข้าใจว่านิสัยผมเป็นยังไง

“ปล่อยเขาถ้าจะคิดอย่างนั้น ช่างเถอะ”ผมพูดตัดบท พวกมันเลยหยุด

“ถามอีกหน่อยสิ มึงชอบน้องฝิ่นเพราะอะไร”ไอ้พายยังมีหยอดอีกนิด

“เออวะ กูอยากรู้”ไอ้หวายรีบสมทบ ไอ้สองคนก็พยักหน้า

“ชอบก็ชอบ ไม่มีเหตุผล”ผมไม่รู้จะพูดยังไง ในตอนนี้

“ยังไงวะ”ไอ้เจย์ตบไหล่ผม มึงไม่เอาตีนขึ้นมาถีบกูเลยล่ะ แทบทรุด ผมจิ๊ปาก

“ไม่ยังไง กูบอกไม่ถูก”ผมเอนตัวเหยียดขา สูบบุหรี่

“มันต้องมีสิวะ”ไอ้บลูรุกต่อ ผมถอนหายใจมองหน้าพวกมัน

“ก้นมันงอนดี”พอผมพูดจบ

“ไอ้หื่น”พวกมันประสานเสียงทันที ผมหัวเราะ ก่อนจะนั่งเล่นกันต่อคุยกันอีกนิดหน่อย ก็กลับบ้านใครบ้านมันมีแต่ไอ้บลูแหละที่รีบถลาตามไอ้พายขึ้นห้องไปติดๆ ไอ้หวายเดินมาปิดประตูมองมันสองคนอย่างระอา ผมกับไอ้เจย์ก็แยกกันไป
********************************************************************************************** “เฮ้ย ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อย”ผมบอกไอ้ฝิ่นที่มันนั่งทำหน้าแบบกูไม่เต็มใจตื่น ก่อนจะตักโจ๊กเข้าปากตัวเอง ส่วนมันนั่งแทบจะสับปะงกหน้าจะทิ่มชามอยู่แล้ว ไปทำห่าไรมาวะ

“กูจะสดชื่นกว่านี้ถ้ามึงไม่เสือกปลุกกูแต่เช้า”มันบอกผมแบบงัวเงียมาก ตาแม่งเยิ้มชิบ มึงอัพยาเปล่าวะ

“ทำเชี่ยไรง่วงนอน”ผมถามมันก่อนจะจับมันอ้าปากเอาโจ๊กเข้าปากมัน ๆ ก็ลืมตัวอ้าปากรับซะ น่าให้แดกยาปลุกเซ็กส์แทนจริงมึง

“มันร้อน”ทีนี้ตามันเบิกกว้างเลยครับ เสียงดังใส่ผมมันเกือบจะพ่นออกมาแล้วดีนะผมอุดปากมันทัน

“กูลืม”ผมบอกมันแต่ปากนี่ยกยิ้มเลยครับ สม เสือกง่วงดีนัก ก่อนมันจะดึงช้อนไปตักกินเอง ปากมันแดงเลยครับ สงสัยจะร้อนจริง

“ทีของตัวเองเสือกเป่า มึงแกล้งกูใช่ไหม”มันบ่นก่อนจะถามผม หน้านี่งอเลยครับ

“มึงจะได้ตื่นไง เอ้า น้ำแข็งถูปากหน่อย”ผมยักไหล่บอกมันก่อนจะหยิบน้ำแข็งก้อนเล็กถูปากให้มันแบบไม่ตั้งตัวทำเอามันผงะออก

“แหวะ เค็มฉิบหายมือแม่งไปจับอะไรมามั่งเนี่ยะ”มันเบะปากทำท่ารังเกียจ เอามือถูปากตัวเองเลยยิ่งแดงเข้าไปอีก

“อืม ตอนเช้าเข้าห้องน้ำขี้เสร็จก็ล้างก้น แล้วก็จับน้องกูตอนเยี่ยวแค่นั้นเอง”ผมบอกมันด้วยสีหน้าอมยิ้ม มันยิ่งทำหน้าแหวะหนักเลย

“ไอ้ทุเรศ ไอ้เชี่ย ไอ้ๆๆๆ โว้ย แล้วเสือกมาจับปากกู แม่งต้องไปหาน้ำมนต์มาล้างปากแล้วมั้ง แหวะ”มันด่าจนไม่รู้จะด่าอะไรตบท้ายด้วยการแหวะออกมา สนุกดีว่ะเห็นมันทำสีหน้าอื่นนอกจากหน้าเฉยๆ

“แหมๆ ทำเป็นรังเกียจ ฝึกไว้อีกหน่อย มึงอาจจะ อืม”ผมว่ามันก่อนจะแกล้งพูดทิ้งท้าย มันมองผมตาวาววับเลย

“อะไรของมึง อย่ามาทะลึ่ง ในหัวคิดแต่เรื่องอุบาทว์ๆ สมกับหน้ามึง”มันด่าผมหน้านี่แดงเลย สงสัยจะรู้แหะ

“กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย แสดงว่ามึงก็คิดเหมือนกันน่ะสิ สมแล้วที่เป็นแฟนกูความคิดตรงกันแบบไม่ต้องจูนเลย”ผมบอกมันยิ้มๆ

“กูไม่ได้คิด”มันเถียงผม

“มึงคิด”ผมบอกมัน

“ไม่”ยังยืนยันคำเดิม

“คิด”ผมบอกก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้มัน ปากเกือบจะชนปากมันแล้วแต่มันดันหันหน้าหนีทัน แค่แก้มก็ยังดีวะ

“มึงจะยื่นหน้ามาทำบ้า’ไร เนี่ยะ”มันหยุดเถียงก่อนจะดันหน้าผมออก แต่ผมจับมือมันไว้ทันเลยหอมแม่งเลย เสือกดันหน้ากูดีนัก มันอ้าปากแบบไม่คิดว่าผมจะมามุกนี้ ก่อนจะพูดเสียงไม่ดังนักเพราะคนชักเริ่มเยอะแล้วทั้งคนทำงาน นักศึกษาเกือบทุกระดับชั้น

“มึงนิ ปล่อย คนเยอะแล้ว”มันว่าก่อนดึงมือออก แต่มือผมมันเหนียวอ่ะ โดยเฉพาะกับไอ้คนที่เป็นแฟนผมตอนนี้ยิ่งเหนียวเป็นพิเศษ

“ถ้าคนไม่เยอะก็ได้เหรอ”ผมแกล้งถามมัน แต่ได้ก็ดี หึหึ

“ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ”มันบอกเสียงสะบัดเลย

“แล้วก่อนหน้านี้ทำไมกูยังจับได้เลย”ผมหัวเราะก่อนจะบอกมันแบบหน้าตาย

“ก็มึงมันหน้าหนายิ่งกว่านันยางไง“มันเปรียบหน้าผมเหมือนยี่ห้อรองเท้า เอาวะยังไงก็ไม่ใช่ช้างดาว

“แล้วไง เรื่องส่วนตัว”ผมบอกแบบไม่แคร์  เห็นผมดูนิ่งแบบนี้แต่ผมไม่ค่อยสนใจใครหรอกเวลาที่ผมนึกจะทำอะไรก็ทำถ้ามันไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก อีกอย่างคนเป็นแฟนกันยิ่งไม่แปลกเลยสำหรับผม

“ไปเรียนได้แล้ว”มันไม่รู้จะด่าอะไรผมแล้วมั้งเลยเปลี่ยนเรื่องก่อนจะไล่ผมให้ไปเรียน

“ยังไม่ถึงเวลา เก็บตังค์ด้วย”ผมบอกก่อนจะเรียกเด็กมาคิดเงิน มันจ่ายครับ

“ให้กูมาแต่เช้ามาจ่ายเงินค่าโจ๊กให้มึงเนี่ยะนะ”มันบ่นแต่ก็ควักครับ พี่ที่คิดเงินยืนอมยิ้มเลยครับ ยิ้มได้ครับแต่ไม่ต้องมองเด็กผมแบบตาลอยเพ้อฝันขนาดนั้นเดี๋ยวจะไม่ได้ตังค์ อาจได้อย่างอื่นแทน ผมหยิบกระเป๋าตัวเองก่อนจะดึงแขนให้มันลุกเดินออกจากร้าน เข้าไป ม.

“แลกกับผลไม้”ผมย้อนมัน ๆ จิ๊ปากก่อนจะแจกค้อนให้อีกดอก เดี๋ยวเจอคืนสองดอก

“เอาน่า คราวก่อนกูยังเลี้ยงเลยถึงมึงจะบอกว่าไม่ได้ขอก็เถอะ ดีนะกูได้ไพ่มาไม่งั้นไม่ได้แดกหรอก”ผมบอกมันก่อนจะพูดดักคอเมื่อเห็นมันอ้าปากจะเถียงผม มันหุบปากเลยครับ ฮ่าๆๆ ไม่ได้แดกกูหรอก แต่วันนั้นผมได้เงินเล่นไพ่จริงๆ พอดีพวกพี่แป๊ะแวะมาที่บ้านไอ้หวายไอ้เจย์ดี๊ด๊าชวนเล่น ว่าจะไม่เล่นแม่งชวนอยู่ได้ สมน้ำหน้ามันครับได้มาเกือบสี่หมื่น พี่แป๊ะ พี่เปอร์ด่าพวกมันที่เป็นตัวต้นคิดแต่แค่นั้นขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก นานๆพวกแกจะแจกให้สักที

“อ๋อ นี่มึงเอาเงินอบายมุขมาเลี้ยงแล้วมาลำเลิกบุญคุณกูเนี่ยะนะ คราวหน้าขอให้มึงเสียจนหมดตูด สาธุ”มันว่าผมก่อนจะยกมือท่วมหัวสาปแช่งผมให้เสีย

“มึงนิ เขามีแต่อวยพรให้ผัวมีโชคมีชัย เสือกมาแช่งซะงั้นคราวหน้าอย่าแดกเลย”ผมแกล้งว่าให้มันหน้าแดงซะงั้น

“กูหาแดกเป็น แล้วไม่ต้องเสือกเติมยศให้ตัวเองหรอกยังไม่ใช่”มันลอยหน้าลอยตาบอกผม แม่ง น่าจริงๆ

“เร็วๆนี้ได้เป็นแน่ ไม่ต้องพูดอ่อยกูซะขนาดนี้ก็ได้”ผมตอกมันกลับด้วยหน้ายิ้มๆ ก่อนจะนั่งตรงโต๊ะม้าหินไม่ไกลคณะมันเท่าไร ตอนที่เดินเข้ามามีคนมองผมกับมันเยอะนะ บางคนก็ซุบซิบแต่ไม่มีใครกล้ามาทักหรอกครับ

 “อ่อยเชี่ยไร กูแค่พูดบอกมึงไม่ให้พูดคำนี้ใครได้ยินเข้ามันทุเรศ”มันว่าเสียงดังเลยครับ ก่อนจะเบาในตอนท้าย

“เขินไง”ผมก้มไปพูดกระซิบใกล้หูมัน ๆ ย่นคอหนีเลยครับ

“กูบอกทุเรศ”แต่มันยังเถียงกลับขนาดว่าไม่รู้จะเถียงอะไร

“เขินทำไม กูออกจะหล่อขนาดนี้”ผมแสยะยิ้มใส่มันพร้อมกับหยิกแก้มมัน

“มันเจ็บนะ แล้วใครวะหน้ามืดถึงบอกว่ามึงหล่อกูดูยังไงก็หน้าบานกามออก บอกให้รู้ว่ามึงบ้ากาม”มันร้องก่อนจะถูแรงๆ พร้อมกับว่าผมแบบยาวคล้องจองเป็นหางว่าว ด่าซะผมหมดความมั่นใจเลย แต่ด้านครับ

“กูนี่แหละบอก ส่วนไอ้เรื่องบ้ากามกูก็เป็นกับมึงนี่แหละ เพราะมึงเป็นแฟนกูไง”ผมบอกมันเน้นๆเลยครับ

“ให้มันจริงเถอะต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง”มันพูดงึมงำแก้มแดงแปร๊ดเลย

“แหนะ เริ่มหึงกูล่ะซิ อ๊ะ อย่าพูดนะว่าไม่น่ะ”ผมแหย่มันก่อนจะดักคอมันเมื่อเห็นมันเตรียมอ้าปาก

“หึหึ มึงคอยดูไปแล้วกันว่ากูจะทำอย่างที่พูดไหม เออ นั่งคลำกันตั้งนานเพิ่งเห็น ตัดผมเหรอวะ”ผมบอกมันก่อนจะนึกได้ว่ามันตัดผมใหม่สั้นกว่าเดิม คล้ายทรงเห็ดตัดสไลด์ทั้งหัวเข้ากับหัวทุยๆของมันดี ทำให้หน้ามันดูคมอมเปรี้ยวไปอีกแบบ น่ารักสัดๆ
“ทำไม มึงจะไปเผาร้านเขาไง”มันย้อนถามผมเหวี่ยงๆ

“เผาทำไมอุตส่าห์ตัดให้ซะน่าฟัดขนาดนี้”ผมยิ้มกรุ่มกริ่มบอกมัน

“เป็นหมาไงจะมาฟัดกูเนี่ยะ”มันกัดฟันว่าผมครับ

“ไม่ฟัดอย่างเดียว กูจะผสมพันธ์เลยล่ะ หึหึ”ผมพูดกับมันแบบหื่นๆ เลย

“จังไรจริงมึงนี่ คิดแม่งแต่เรื่องอัป”มันด่ากลับแต่ยังไม่จบดีครับ ก็มีเสียงทักขึ้นมาซะก่อน

“ไผ่ มาแต่เช้าเลย”แอนนี่ครับ เดินเข้ามาทักผมพร้อมกับเพื่อนสองคน ก่อนจะนั่งลงแบบไม่ได้ชวน ขัดจังหวะจริงโว้ย

“อืม”ผมบอกสั้นๆ มือก็เลื้อยไปกอดเอวคนข้างตัว มันนิ่งครับไม่ปัดออก อืม พวกนี้ก็มีประโยชน์แหะ

“หล่ออ่ะ”เพื่อนเธอครับ ทราบที่หลังว่าชื่อ กิ๊บ จะะกระซิบเพื่ออะไรแม่คุณ พูดพร้อมกับยิ้มให้

“นั่นสิ ดูใกล้ๆยิ่งดูดี”คนนี้ชื่อแป้ง สมชื่อครับขาวบั๊วะยังกะโบกปูนพาสเตอร์ ใส่บิ๊กอายด์ เหมือนตุ๊กตาพลาสติกเลย
 
“พวกเธอนี่ พูดซะต่อหน้าเลยเดี๋ยวไผ่เขาจะหาว่าชั้นเอาเขาไปนินทาอ่ะ”แอนนี่ว่าเพื่อนเธอแต่ไม่จริงจังนัก

“อ้าวก็เรื่องจริงนิ ไผ่ไม่ว่าหรอกจริงไหมคะ”กิ๊บพูดพลางเอียงคอถามผมแบบโนเนะ ผมไม่ได้พูดตอบยิ้มน้อยๆให้ มือก็เลื่อนมาจับมือไอ้คนตัวหอมแทนมันจะเอาออกแต่ผมสอดมือประสานมันไว้พร้อมกับบีบเบาๆ มันมองด้วยหางตาก่อนจะปล่อยเลยตามเลย

“นั่นสิ แต่ไผ่ไม่ค่อยพูดเลย เขินเหรอคะ”แป้งเออออ ก่อนจะถามผมยิ้มๆ

“เปล่า”ผมก็บอกสั้นๆ

“พูดยาวๆก็ได้คะ ยังไงก็รู้จักกันแล้ว”คนชื่อกิ๊บบอกผม

“พวกเธออย่าไปแซวไผ่นักสิ เออ แล้วไผ่ทานข้าวหรือยัง”แอนนี่ว่าเพื่อนเธอ ก่อนจะหันมาถามผม

“กินแล้ว”ผมบอก มือก็บีบมือนุ่มนิ่มไปเรื่อย โคตรเพลินเลย

“ว๊า แอนนี่ว่าจะชวนไปทานด้วยกันซะหน่อย ไม่เป็นไรเอาไว้คราวหน้าก็ได้”พูดแบบเสียดาย ก่อนจะมองคนข้างตัวผม

“โทษที ไม่เห็นน้องฝิ่น”แอนนี่พูดแบบยิ้ม ๆ วันก่อนเรียกอี วันนี้เรียกน้อง

“นั่นสิ เลยไม่ได้ทักทายเลย”แป้งพูดแบบเดียวกัน แต่ตานี่จิกน่าดู

“ทักทำไมไม่ได้สนิทกัน”มันตอบแบบสองสาวหน้าเหวอไปเลยครับ ก่อนจะปรับสีหน้าปกติ

“ใช่จ๊ะไม่สนิทกัน แต่พวกพี่ก็รู้จักน้องฝิ่นนะออกจะดัง ใครบ้างจะไม่รู้”กิ๊บยังพูดต่อครับ ที่ผมเงียบนี่ไม่ใช่อะไรหรอกแค่อยากดูปฏิกิริยาของมันว่าจะตอบโต้อะไรบ้าง มันไม่ยอมหรอกครับให้มาพูดจาเสียดแทงมันน่ะ

“โดยเฉพาะเรื่อง อืม อะไรดีล่ะ”แป้งทำท่านึกแบบแอ๊บแบ๊วมาก

“กินเยอะๆโอเมก้ากับบี12 น่ะ ช่วยบำรุงสมองโง่ๆไว้จดจำในการเสือกเรื่องชาวบ้าน เวลาเล่าจะได้ต่อเนื่อง”มันตอบได้จุกมากพร้อมกับยิ้มเย็นๆ สองสาวนี่หน้าแดงเลยครับคงทั้งอายทั้งโกรธที่มันตอกหน้าเข้าให้ จนผมต้องบีบมือมันไว้ให้ใจเย็นไม่ลุกไปตืบเข้าให้ ยังไงก็ผู้หญิงครับ

“นี่ มันจะมากไปแล้ว ชั้นเป็นรุ่นพี่นะไม่ใช่เพื่อนเล่นจะได้มาด่ากันแบบนี้”คงจะสิ้นสุดความอดทนแล้วครับ ภาพพจน์สวยหวานเริ่มปีศาจแล้วครับ แป้งนี่ชี้หน้ามันที่ยิ้มด้วยปากถากด้วยตา จนแอนนี่กับกิ๊บต้องดึงมือให้นั่งลงพร้อมกับปามด้วยสายตา

“แป้ง พอได้แล้ว เอ้อ ไผ่ แอนนี่ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะ น้องฝิ่นด้วย”แอนนี่หันมาขอโทษผมกับฝิ่นที่เพื่อนเธอแสดงกิริยาใส่ แต่ดูชอบกลแฮะ อะไรจะหายเกลียดไอ้คนข้างๆผมได้เร็วขนาดนี้ ทำยังกับไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน

“น่าจะห้ามตั้งนานแล้ว พอเริ่มด่าไม่ออกเลยเปลี่ยนแผนไง”มันจิกตาด่าใส่หน้าแอนนี่เลยครับ ผมได้ยินจะหัวเราะก็ใช่ที่ กวนตีนจริงมึง มันหันไปด่าแขวะแอนนี่เข้าให้ ทำเอาหน้าเสียเลยครับแต่เก็บอาการอยู่ครับทั้งที่จริงคงจะโกรธไม่น้อย

“ไม่ใช่นะ พี่ขอโทษจริงๆ ถ้ามันทำให้น้องฝิ่นไม่ชอบพี่ก็ขอตัวแล้วกัน ไผ่ไปก่อนนะถ้าไปผับจะแวะไปหา ไปแป้ง กิ๊บ”แอนนี่พูดกำกวมให้ชวนคิดอีกครั้งก่อนจะดึงเพื่อนทั้งสองให้ออกเดินตาม  พอลับตามันแกะมือผมทันทีเลย

“มึงรีบไสหัวไปเลย”มันหันมาไล่ผม ตามันนี่ถ้าเป็นมีดคงจะทิ่มแทงผมตายห่าไปนานแล้ว

“อย่ามาพาล”ผมบอกมันก่อนจะรวบเอวมันมาแนบตัว

“ซวยแต่เช้าเลยกู ตื่นมาโดนด่า แม่ง”มันบ่นอุบอิบหน้าแนบอยู่กับอกผม ดิ้นขลุกขลักจะออกแต่ผมก็กดเอาไว้

“ไม่เอาน่า มึงก็ด่าเขาไปไม่ใช่น้อย”ผมบอกมันมือก็ลูบหลังให้มันใจเย็น แทนที่จะดีขึ้นมันแว๊ดใส่ผมเลยครับ

“มึงเข้าข้างเขาก็ไปเลย เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้ อื้อ อื้อ” ผมรีบเอามืออุดปากมันไว้ ใจจริงอยากจะอุดด้วยปากแต่คนแม่งเริ่มมาแล้ว

“เอ๊ะ มึงนี่พูดไม่รู้เรื่องถ้าเข้าข้าง คงห้ามมึงด่าเขาไปแล้วล่ะ แล้วกูชวนเขามานั่งหรือไง”ผมบอกมันดุหน่อยๆพอเป็นพิธี

“อ่อยอู เอี้ย”ขนาดปิดปากยังด่ากูอีก มือมันแงะใหญ่เลยครับ

“จะปล่อยแต่ต้องไม่โวยวาย ไม่งั้นกูจะซัดมึง”ผมบอกพร้อมกับจ้องตามัน

“........”

“ว่าไง”ผมถามย้ำ มันพยักหน้า ผมปล่อยมือออกจากปากมัน มันทุบหน้าอกผมดังผลั่กเลยครับ

“โอ้ย แม่ง”ผมเงื้อมือจะตีมัน แต่มันกลับชี้หน้าแบบเอาเรื่องผม กูกลัวตายล่ะ

“อย่านะ มึงแค่บอกไม่ให้กูโวยวาย”มันลอยหน้าบอกผม ปากนี่เชิดเลย

“เออ เดี๋ยวมึงเจอเอาคืนแน่”ผมพูดพร้อมกับเอามือผลักหัวมัน มันปัดออก

“ไปซะที รำคาญ เบื่อขี้หน้า”มันพูดพร้อมกับหันหลังให้ผมทันที แหมถ้านอนแล้วมึงทำแบบนี้นะเสร็จกูแน่

“อะไร แค่วันแรกก็เบื่อแล้วยังไม่ได้ทำไรเลย”ผมกอดมันข้างหลัง เอาหน้าเกยไหล่มันก็ดิ้นหนีแต่ไม่พ้นหรอกครับ

“กูไม่ทำอะไรทั้งนั้น”มันบอกผมเหวี่ยงๆ

“เดี๋ยวกูจัดเอง มึงแค่ฟิชเจอรริ่งเสียงก็พอ”ผมกระซิบบอกมันข้างหู มันจิกหัวผมทันทีเลยครับ ถ้าจะจิกเก่งนะมึง

“มึงมันทุเรศ คิดกับกูแค่นี้สินะ แม่งเหมือนกันหมด อื้อ อื้อ”มันต่อว่าเหมือนจะน้อยใจ ผมเลยจับมันหันมาปิดปากซะเลย ไม่อายใครแม่งแล้วอยากดูมึงดูกันซะ แต่เท่าที่เห็นไม่มีใครนะ ผมจูบมันแบบสูบวิญญาณเลยครับ ก่อนจะผละออกเมื่อเห็นว่ามันหายใจไม่ทัน ก้มไปจุ๊บปากกับแก้มมันอีกสองสามที มันก้มหน้าเลยทีนี้ไม่พูดอะไรอีก

“ถ้ากูคิดแค่จะเอามึงนะไม่ต้องขอมึงเป็นแฟนหรอก”ผมบอกมันอย่างจริงจังทั้งน้ำเสียงและแววตา มันดูอึ้งไปเลย “อย่าเอากูไปเปรียบกับคนอื่น กูไม่ชอบ”ผมพูดเน้นเสียงกับมัน บอกให้รู้ว่ากูเริ่มโกรธแล้วนะถ้าขืนพูดกันไม่รู้เรื่องได้มีข่มขืนก่อนขึ้นเรียนแน่มึง มันทำท่าเหมือนจะร้องไห้กัดปากแน่น

“อย่ากัดปาก”ผมเอามือบีบปากให้มันคลายออก ก่อนจะกอดมันไว้หลวมๆ เราไม่พูดอะไรกันได้แต่เงียบ จนกระทั่งได้เวลาเรียนของผม

“เลิกเรียนแล้วมารอตรงหน้าคณะกู อย่าให้ต้องโทรตาม”ผมย้ำบอกให้รู้ว่าอย่าดื้อกับผม เอามือเกลี่ยปากแดงๆของมัน “ยังไม่บอกเลยเข้าใจที่กูบอกมึงหรือเปล่า”ผมถามมันอีกเมื่อเห็นมันเงียบ

“เออ”เน้นๆเต็มหน้าเลยครับ

“ดีมาก”ผมชมมันแบบก้มไปกระซิบข้างหูให้มันอายเล่นๆ
 
“ไปได้แล้ว”มันไล่อีก แต่คงจะแก้เขิน

“เขินล่ะสิ”ผมแหย่มัน

“เรื่องของกู”มันก็โต้กลับ ผมหัวเราะสองหึ ก้มไปหามันที่หันข้างให้

“ตัดผมน่ารักมาก”พูดเสร็จก็หอมผมมันก่อนจะเดินไป เห็นมันยังทำหน้าเหวอไม่หาย แต่มันพูดอะไรไม่ทันแล้วครับ
**********************************************************************************************


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ก็คนมันรักทำไงได้ 3-4-55 ตอนที่ 13 P.2
« ตอบ #39 เมื่อ: 03-04-2012 11:53:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
โอย คู่นี้เค้าน่ารักกันแปลกๆ
มันด่ากัน เราก็อมยิ้ม
รอตอนหน้าจร้า

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รักกันไปด่ากันไป 555

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น่ารักดี :L2:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เจย์ ♥ หวาย

ก็น่าเชียร์อยู่นะ ๕๕๕

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
แหม่ รุนแรงกันดี
จังเลยคู่นี้ ผมล่ะช๊อบ ชอบ  :-[

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ถ้าวันไหนคู่นี้เค้าพูดจาภาษาดอกไม้เมื่อไหร่ คงตลกน่าดู

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
 :pig4:

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
น่ารักเว่อร์

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ตอนที่ 14
พอมันเดินลับไปผมไม่รู้ว่าตอนนี้จะยิ้มเขินทำไมกะอีแค่คำชม ทั้งที่เคยมีคนชมผมบ่อยไปมากกว่านี้อีก แต่ก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้มันเป็นคนแรกที่ทำให้ผมใจสั่นรู้สึกเขินอายเมื่อโดนมันจีบ จีบเหรอต้องบอกว่ามันบังคับสิถึงจะถูก เมื่อเช้าผมไม่คิดว่ามันจะโทรมาให้ผมออกไปหา ผมไม่รับสักพักแม่งกระหน่ำโทรอยู่นั่นแหละจนต้องลุกขึ้นมารับพร้อมด่ารับอรุณไปเสร็จสรรพ นอกจากจะไม่สำนึกมันยังบังคับให้ออกไปหามันอีกมันบอกว่าถ้าไม่ออกมามันจะมาลากผมถึงที่นอนเลย นั่นไม่เท่าไรแต่ทำไมผมต้องเชื่อมันด้วย ต้องถ่อสังขารรีบอาบน้ำให้ลุงชิตเอารถมาส่งระหว่างมาก็นั่งคิดว่ามันไม่รู้จักบ้านผมซะหน่อย ถึงรู้ก็ไม่ได้เข้ามาง่ายๆหรอก กว่าจะคิดได้ผมก็นั่งอยู่กับมันเรียบร้อยไปแล้ว

“มีสติหน่อยสิฝิ่น มึงไม่เคยเป็นแบบนี้นะ ให้เขาปั่นหัวได้ไง”ผมพูดกับตัวเองก่อนจะเอามือจิ้มขมับตัวเองไปมา คนเดินมาเห็นบางคนก็ยิ้ม บางคนก็ทำหน้าแปลกใจที่เห็นบุคลิกแบบนี้ของผมนอกจากหน้าที่จะนิ่งตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาจะใส่ใจอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องของผมกับมัน นี่แค่วันแรกก็เจอแล้ว หึ นึกว่าเป็นผู้หญิงแล้วผมจะไม่ด่าเหรอน้อยไปสิ ยิ่งพูดไม่ดีกับผมนี่ยิ่งเจอหนัก เหลือลงไม้ลงมือเท่านั้นแหละที่ผมไม่เคยทำถึงผมจะเป็นแบบนี้แต่ก็ไม่เคยทำร้ายชะนีพวกนี้หรอกครับ

“อีกตั้งสามชั่วโมงกว่าจะเรียน กูจะทำไรดีวะเนี่ยะ โทรหาไอ้ลูกอัณฑะดีกว่า”ว่าแล้วก็กดโทรครับ แม่งเสือกปิดเครื่องอีกทั้งคู่เลยนะมึงสงสัยสวิงกิ้งหนักสิ พูดจะหาว่านินทาพวกมัน สมกับที่มันเป็นคู่แฝดครับถ้ามันชอบอะไรที่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น คน สิ่งของ มันต้องได้เหมือนกันแต่มันไม่ได้บังคับนะครับ ส่วนใหญ่เต็มใจทั้งนั้น ผมยังนึกเลยว่าจะมีใครไหมที่ยอมมีทีเดียวสองคนเพราะยังไงถ้าแฟนมันเป็นผู้หญิงคงไม่ได้หรอกครับที่จะออกหน้าออกตาไม่งั้นโดนตราหน้าแน่ถ้าแค่กิ๊กกันก็ไปอย่าง ผมไม่ได้ว่าอะไรพวกมันหรอกเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็จริงแต่จะไม่ล้ำเส้นกันเป็นอันขาด นอกจากเรื่องไหนที่เตือนกันได้ก็เตือน
 
“อีออย ตื่นหรือยังก็ไม่รู้ถ้าไฟไหม้ก็ตายก่อนแหละมึง”ผมพูดถึงมันขำๆ มือก็กดโทรออก เพลงฮิตมากมึง คันหู จบ ต่อด้วย เพลงใต้ดินจำไม่ได้ที่มันบอกถ่างขาเป็นรูปตัวเอ็ม ไม่มีใครตื่น อีสามคนนั้นก็คงจะเรียนแล้ว เซ็งโว้ย นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยดีกว่า

“เซ็งโว้ย ไอ้บ้าเอากูมาทิ้งนะมึง เชี่ย”ผมบ่นไปเรื่อยสักพักมือถือสั่นก็เลยหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน จากคุณ”กระบือ” ฮ่าๆ ผมตั้งให้ไอ้ไผ่มันครับ

“บ้า ส่งมาหาเตี่ยมึงไงเนี่ยะเสือกรู้อีกว่ากูกำลังหงุดหงิดไม่มีอะไรทำ”ผมบ่นคุณกระบือ มันส่งข้อความมาหาผม

‘ไม่รู้จะทำอะไร ก็นั่งคิดถึงกูซะ’ รู้ดีนักนะมึง ผมเลยส่งกลับไปบ้าง ‘คิดถึงมึง กูไปขี้ซะดีกว่า’

“หึ สบายใจแหละ ไปห้องสมุดดีกว่าเงียบดีจะได้นอนสบายหน่อย”ว่าแล้วก็รีบไปทันที คงนึกว่าผมจะขยันล่ะสิฝันไปเถอะ อิอิ อุ้ย เกือบลืมผลไม้ที่มันหิ้วมาฝากเมื่อเช้า ผมเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้แต่ไม่ให้มันเห็นหรอก ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้รับแต่แบบหิ้วใส่ถุงก๊อบแก๊บยี่ห้อโลตัสมาให้เพิ่งมีมันนี่แหละแต่ข้างในนี่ยิ่งกว่านั้นอีกใส่รวมทุกอย่างจะแยกเป็นกล่องไม่มีหรอก มันบอกขี้เกียจเดี๋ยวกินก็ไปรวมกันแถมออกทางเดียวกันอีก จะทำให้วุ่นวายทำไมและเป็นการลดโลกร้อนประหยัดพลังงาน มันโยงจากเรื่องไม่เป็นเรื่องไปเป็นเรื่องได้ สวดดยอดเลย

“อีฝืดดดดดด”เสียงเรียกดังยาวราวกับกดออดหน้าบ้านแล้วไม่มีใครเปิด ทำเอาผมหันกลับไปไม่ทัน ไม่ต้องนอนแล้ว

“อีออย กูโทรหาทำไมไม่รับ พวกมึงด้วย”จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมันที่ยิ้มด้วยปากจิกด้วยตามองผม ตามด้วยไอ้ไข่สองใบที่เหมือนกัน

“หุหุ หน้าตาสดใสนะคะ ไม่ทราบว่ารับน้ำอะไรเข้าไปเหรอคะ”มันจีบปากจีบคอแซวผม

“ไอ้โอม มึงเห็นอะไรๆเป็นสีชมพูหรือเปล่าวะ”ไอ้แฝดใบแรกพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ หันไปสบตากับไอ้คนหน้าตาเหมือนกัน

“เออว่ะ รอบข้างเหมือนมีแต่สีชมพูเต็มไปหมด ยิ่งไอ้ฝิ่นนะทั้งตัวมันอมชมพูเลยว่ะ”มันเออออตามพี่มัน

“ปกติกูก็ขาวอมชมพูอยู่แล้ว ไม่เห็นแปลก”ผมเบะปากบอกมัน ถ้ากูไม่อาบแดดนะผิวกูก็ตามนั้นอยู่แล้ว

“เหรอ”พร้อมกันเลยครับ

“เออ”ผมกระแทกเสียงใส่พวกมัน

“ยังไงมึงเล่ามาเลย”อีออยเลิกเล่นแล้วครับประกบข้างผมจนแทบจะสิงร่างอยู่แล้ว ในสายตาคนอื่นนะมีแต่คนบอกว่าพวกผมกินกันเองทั้งนั้นแหละ พวกผมก็รับไม่เคยแก้ข่าวสนุกดีให้มันคิดจินตนาการให้กระฉูดไปเลย

“ไม่ยังไง ไม่มีอะไรจะเล่า”ผมบอกมันอีกครั้ง มือก็กดบีบีเล่น ทุกวันไม่เคยจะเล่นหรอกแต่วันนี้เหมือนจะรู้ชะตาเลยหยิบมาแก้เขิน

“แหม ไม่มีอะไรจะเล่า แรดจริงมึงนั่งจนแทบจะได้เสียกันอยู่แล้วยังบอกไม่มีอะไรอีก”อีออยจิกหัวผมพร้อมกับด่าไปด้วย สัด ผมกูเสียทรงหมดยิ่งไม่ได้หวีมาอยู่ ตื่นมาเอามือเสยๆ แล้วมาเลยเพราะมึงคนเดียวไอ้เชี่ยไผ่

“นี่แค่วันแรกนะ พรุ่งนี้มึงไม่ท้องเลยเหรอวะ”ไอ้โอมเอาบ้างครับเอามือพาดไหล่ผม

“โว้ย พวกมึงนี่”ผมโวยใส่มันก่อนจะดันมันสองตัวออกไป เมื่อกี้พวกนังโมนิคและคณะกระหน่ำบีบีเข้ามาถามไม่ขาดสายว่าได้ผัวใหม่แล้วใช่ไหม แม่งทำยังกับกูใช้เปลืองขนาดนั้น ต้องเป็นไอ้สามตัวนี่แหละเห่าไปบอกแล้วมีหน้ามาถามกูหลังจากไปบอกพวกมันแล้วแล้วสรุปมันเป็นแฟนผมใช่มั้ยเนี่ยะ

“กูก็พูดตามที่เห็น”ไอ้โอมยักไหล่ก่อนจะบอก

“เหรอ มึงเห็นกับตาเลยใช่ไหม สัด กูโทรหาตั้งแต่เช้าปิดเครื่องทั้งคู่ยังมีหน้ามาพูด”ผมทำหน้าใส่พวกมันมั่ง มันอมยิ้มชอบใจ

“แล้วมึงมาทำไมแต่เช้าในเมื่อเรียนสาย”ไอ้อาร์มสถามผมได้หน้าตาเจ้าเล่ห์มาก ผมไม่ทันเห็นมัวแต่กดบีบีตอบอยู่

“ก็ไอ้บ้านั่นสิโทรมาปลุกกูแต่เช้าให้ออกไปหา แถมกูยังต้องมาจ่ายค่าโจ๊กอีก แม่ง”ผมโพล่งออกไปแล้วครับกว่าจะรู้ว่าพูดอะไรออกไปก็ไม่ทันแล้ว มันสามตัวปล่อยหัวเราะออกมาสุดเสียงแบบไม่เกรงใจใครเลยครับ

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ฝิ่น”ไอ้โอมหัวเราะมือก็ชี้หน้าผมไปด้วยถ้ามันลงไปกลิ้งได้มันคงลงไปแล้วล่ะ

“ฮ่าๆๆๆ” ไอ้อาร์มสครับไม่ต่างกันเท่าไรถอดแบบกันมาเลย ผมพูดไม่ออกเลย กูจนได้เผยหมดรู้ถึงไหนอายถึงนั่น

“นี่แค่วันแรกยังสั่งมึงได้ ต่อไปมึงได้โดนกดขี่เร็วๆนี้แน่ ฮิๆๆๆ”อีออยหัวเราะได้เสียงดัดจริตมากทำเป็นเอามือป้องปาก

“มึงจะหยุดได้ยัง เชี่ย ขอให้ขากรรไกรค้าง เซ็กส์เสื่อม”ผมด่าพวกมันพร้อมกับแช่งเสร็จสรรพ มันรีบหุบปากเลยครับแต่ยังกลั้นอยู่

“คริ คริ ก็ได้ๆๆ กูหยุดแล้ว”ขนาดหยุดมึงยังมีหลุดให้ได้ยินเลย

“รวบรัดเลยตอนนี้มึงกับพี่เขาเป็นผัวเมียกันแล้ว”ไอ้อาร์มสาระแนพูดสรุปเอาเอง

“ยังโว้ย แค่เป็นแฟนเฉยๆ”ผมทุบไหล่มันไปหนึ่งทีโทษฐานเลื่อนฐานะให้มัน

“คร๊าบ ตอนนี้แฟนอีกสองวันมึงได้เป็นเมียเขาแน่ แค่เขาโทรหายังรีบแจ้นออกมาไม่ทัน”ไอ้โอมพูดล้อผมยิ้มๆ แต่ดูกวนตีนมาก

“เออว่ะ ปกติกูไม่เห็นมึงจะตามใครง่ายๆเลย เซ้าซี้มากได้โดนตีนแน่”ไอ้อาร์มสพูดอย่างเห็นด้วย แถมบอกสันดานผมอีก

“กูบอกแล้วไง ของเขาดีจริงชื่อเป็นลำตั้งเป็นกระบอกซะขนาดนั้น”อีออยรีบสวมทับ ผมตีแขนมัน

“กูรำคาญต่างหาก ไม่ได้ใจง่ายสักหน่อย”ผมแถพวกมันไปเลยครับ ไม่รู้จะบอกอะไรให้ตัวเองอายไปมากกว่านี้แล้ว

“กูเชื่อมาก มึงดูปากกูนี่ ตอแหลลลลล”อีออยมันบอกผมก่อนพูดแบบอ้าปากกว้างเลยครับ เดี๋ยวเอาตีนยัดเลยนิมึง

“ไอ้ฝิ่น มึงยอมรับเถอะว่ามึงก็ชอบพี่เขา”ไอ้โอมพูดพร้อมกับกอดไหล่ผม

“นั่นสิ ไม่งั้นคนอย่างมึงใครจะมาบังคับได้ถ้าไม่ใช่คนที่มึงพอใจจริงๆน่ะ”ไอ้อาร์มสพูดพร้อมกับผลักหัวผม

“มึงไม่ต้องไปให้มันยอมรับหรอก กระแดะไปดักเขานึกว่ากูไม่รู้ทำแอ๊บมีธุระ กูไม่อยากจะเซดเหมือนในละครเลยทั้งงอน ทั้งโกรธ มีเลิฟซีนจูจุ๊บ กูเชื่อแหละว่าทำไมมึงกลัวพี่เขากัดลิ้นเล่นบี้มึงซะขนาดนั้นนี่ถ้าปี้ได้คงปี้มึงไปแล้ว กูนี่อยากจะบันทึกภาพให้พวกมึงดูจริงๆ แต่มีมารยาทพอเลยเก็บไว้ในความทรงจำคนเดียว คริคริ”อีออยร่ายยาวจนผมอ้าปากแทรกแก้อะไรไม่ได้เลย ไอ้แฝดฟังอย่างตั้งใจ


“อีห่า มึงอย่าบอกนะว่ามึงแอบดูกูน่ะ”ผมถามมันเสียงดัง หน้านี่ร้อนไปหมด

“กูพูดซะขนาดนี้มึงยังไถนาไม่รู้เรื่องอีกเหรอว่ากูแอบไหม เต็มสองตาเลย”มันเอาจิ้มหน้าผากผมลอยหน้าลอยตาใส่

“แล้วมีใครเห็นอีกนอกจากมึง”ผมถามมันเร็วๆ ไอ้สองตัวยิ้มกริ่ม

“เดี๋ยวนะกูนึกก่อน ไม่ไกลจากกูก็เด็กศิลป์ ถัดไปนิเทศ อีกโต๊ะบริหาร กำลังเดินอยู่ก็วิดวะ ข้างหน้าถา’ปัตย์ แล้ว ยะ”อีออยทำท่านึกพร้อมกับนับนิ้วประกอบ
 
“พอแล้ว อีบ้า แล้วพวกมันเห็นหรือได้ยินอะไรมั้ย”ผมรีบดักมันก่อนจะพูดจบ

“กูนั่งดูอยู่ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก ไม่งั้นเจอบ๊วบและลากไปชำแหละข้างหลังแน่ๆ”มันพูดทำตาวิบๆแต่ออกหื่นมากกว่าน่ารัก

“เฮ้อ แล้วไปยังไงก็ขอบใจมึงที่ดูต้นทางให้ แต่เดี๋ยวมึงแน่ใจนะ”ผมถอนใจขอบอกขอบใจมันทำไมก็ไม่รู้ ก่อนจะย้ำอีกครั้ง

“เออ กูมีวิสามัญดีพอไม่ให้ใครดูหรอกนอกจากกู หุหุ”มึงใช้คำผิดหรือเปล่า

“พวกมึงคิดไง”ผมถามพวกมัน

“เรื่องส่วนตัวมึง พวกกูเคยยุ่งเหรอ”อีออยถามทำหน้าเชิดๆ

“เคย อีกูปรีไม่งั้นมึงไม่แอบดูกูหรอก”ผมจิกหัวมันกลับบ้าง มันก็หัวเราะชอบใจ

“นอกจากมันไม่ถูกไม่ควรเท่านั้นแหละที่พวกกูจะยุ่งน่ะ” พวกมันสองคนพูดพร้อมกับมองหน้าผมไปด้วย

“แล้ว มึงว่ามันเป็นไงบ้าง”ผมถามความเห็นพวกมัน มันทำท่าคิด

“อึด”อีออย

“ยาว”ไอ้โอม

“ใหญ่”ไอ้อาร์มส

“เชี่ย กูหมายถึงลักษณะท่าทางมัน ไม่ใช่เรื่องนั้น”ผมโวยใส่มันครับรู้เลยว่าหน้าแดงจนพวกมันหัวเราะ

“กูนับถือพี่เขาวะ ทำให้มึงเป็นได้ขนาดนี้”มันสามคนพูดถึงไอ้บ้านั่นอย่างกับเป็นไอดอลของตัวเอง

“กูอยากได้แทนมึงมาก บอกจากใจกูเลย”อีออยยังไม่เลิกเล่น

“เอาเรื่องจริง อีออย”ผมย้ำพวกมันอีกครั้ง หันไปมองพวกมันเรียงตัว

“กูไม่รู้หรอกว่ายังไง แต่พี่เขาดูไม่ใช่คนเหลาะแหละ หรือจะหลอกฟันมึง เพราะหน้าตาอย่างเขานะไม่จำเป็นต้องมาตื้อมึงให้เสียเวลาการทำงานระบบสืบพันธุ์เขาหรอก เอาเป็นว่ามึงศึกษาเองดีกว่า ไม่ต้องมาแรดถามกู ทีเมื่อวานเสนอหน้าไปถวายช่องทางเขาถึงที่เสือกไม่ชวนกูสักคำ อีห่า”มันพูดดูจริงจังในตอนแรกแต่ตบท้ายก็ยังเคืองที่ไม่ชวนมัน

“ก็กูอายนี่หว่า ตามึงไอ้โอม”ผมยอมรับตรงๆก่อนจะหันไปทางไอ้โอม

“ถ้าหน้าตาก็นับว่าหล่อดิบๆ ดี หุ่นแม่งเฟิร์มจนกูยังอิจฉาเลย”ไอ้โอมพูดพร้อมกับทำหน้าแบบอิจฉาแต่ไม่จริงจัง

“อืม กูเห็นด้วย ส่วนนิสัยเท่าที่ฟังจากมึงคงจะกวนตีนไม่ใช่น้อยแถมยังออกแนวบังคับหน่อยๆ แต่อย่างนี้แหละเหมาะกับมึงแล้วขืนตามใจมึงมากแบบพวกกูเสียคนหมด”ไอ้อาร์มสร่ายยาวเลยครับแถมวกกลับมาหาผมอีก

“นี่ขนาดมึงยังไม่ได้คุยกับมันนะ พูดซะกูเห็นภาพเลย”เรื่องจริงครับที่มันพูดผมยอมรับเลยก็ได้

“กูคิดอยู่แล้วล่ะว่าพี่เขาเอามึงแน่ เห็นมองมึงตั้งแต่ที่ผับวันแรกแล้ว สายตามันบอกว่ากูจะเอาๆๆ”กูไม่ใช่ปลาโลมานะโว้ยจะเอาๆๆน่ะ ไอ้โอมพูดย้อนไปถึงวันแรกที่ผมเจอมันที่ผับ แยกความซวยกับพรมลิขิตไม่ออกเลยระหว่างผมกับมัน

“หลังจากนั้นเขาก็ตามแหย่มึง ยั่วให้มึงโมโห ปกติมึงจะระงับอารมณ์นะแต่กับคนนี้มึงวีนแตกแต่ไม่ยักกะลงมือทำอะไร”อีออยพูดต่ออีก พวกมึงนี่ช่างสังเกตจริงๆแต่ไม่เคยบอกหรือแม้แต่จะคิดช่วยกูเลยนะ สนุกกันล่ะสิเห็นกูเป็นแบบนี้น่ะ

“มึงคงคิดว่าทำไมพวกกูไม่ช่วยมึงใช่ไหม”แม่งแทบพูดพร้อมกันอย่างกับทะลวงเข้าไปฟังความคิดผมเลย

“เออ ทุกทีเวลากูไม่พอใจอะไรพวกมึงจะต้องกันตลอด”ผมยอมรับไปเลยครับ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

“ก็กูเห็นมึงชอบ กูก็ไม่ช่วยน่ะสิ จริงไหมวะไอ้อาร์มส ออดี้”ไอ้โอมมันแสยะยิ้มพร้อมกับหันไปพยักหน้ากับน้องมันและอีออย

“วันไหนนะ เขาไม่มามึงก็หงุดหงิดแบบไม่มีสาเหตุ ตาก็มองหา หน้าตาก็ครุ่นคิดประมาณว่า มันไปไหนว่ะ อะไรแบบนี้”ไอ้อาร์ม
รีบพูดต่อความคิดของพี่มันทันทีเลยครับ สมแล้วที่มันเป็นเพื่อนผม ตอนนั้นผมหงุดหงิดจริงๆเวลาไม่เห็นมันมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่ผมมองว่าเมื่อไรมันจะมากวนตีนใส่ผม มันทำให้ผมโรคจิตที่ต้องนึกถึงมันอยู่ได้
 
“=_=”หน้าผมเองครับ พูดไม่ออก

“ยอมรับแล้วสิ ชอบเขาน่ะ”มันอมยิ้มพร้อมกับขยี้หัวผม

“ไม่ ดูไปก่อน”ผมยังวางท่าอยู่ไม่อยากเสียฟอร์ม

“อีสตอ”อีออยด่าผม ก่อนจะแหวกถุงก็อบแก็บที่ผมวางอยู่

“เออ จะคอยดู”ไอ้โอมมันผลักหัวผมครับ

“ขนาดบอกว่าไม่ ปากนี่แม่งยิ้มจนจะฉีกถึงรูหูแล้ว”ไอ้อาร์มสมันแขวะผม

“มึงนิเวอร์ กูแค่อมยิ้มเฉยๆ”อีกแล้วครับ หลุดให้พวกมันขำอีกแล้ว ไอ้ไผ่มึงเตรียมตัวไว้เลยกูจะสูบมึงให้หมดตัวเลย เชี่ย

“คริ คริ แล้วเย็นนี้มึงจะไปหาพวกโมนิคหรือเปล่า”อีออยยังขำไม่เลิกก่อนจะพูดถึงนัดวันนี้

“((= =))”ให้ดูว่าผมส่ายหน้า เม้มปากหน่อยๆ

“ทำไม”มันถามพร้อมกับเลยครับ

“=_=”

“อะไร”มันย้ำอีกครั้ง หรี่ตาใส่

“มันบอกให้กูไปรอมันที่คณะ”พูดจบผมก้มหน้าซุกกระเป๋าเลยครับ มือก็อุดหูทันที

“ก๊าก ๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ”พวกมันประสานเสียงกันไม่หยุดเลยครับ ฮือๆๆ หยุดเถอะ อายฉิบหายเลย

“เขาชวนไปซั่มเหรอ ไวอ่ะ”อีออยแกล้งทำเสียงพูดแบบคำว่า “น่ารักอ่ะ” แต่มันทำแรดกว่านั้น

“อีบ้า ไม่ใช่”ผมก็แย้งมัน

“แล้วไปทำไร”มันกระแทกไหล่ใส่

“ไม่รู้ มันไม่บอก”ผมส่ายหน้า

“โดนล่อแน่มึง แกคงแค้นที่มึงด่าก็เลยหาทางหลอกล่อให้มึงไปด้วย”อีออยทำหน้าขึงขัง ขู่ผม

“เออว่ะ”ไอ้สองคนรีบสมทบกับมัน

“เฮ้ย จริงอ่ะ”ผมก็จี้เส้นตาม พวกมันปล่อยก๊ากกก

“อีฝิ่น กูว่าช่วงนี้มึงไปเช็คประสาทและช่วงล่างพร้อมไปด้วยเลยดีกว่าว่ายังทำงานได้ดีมั้ย รู้สึกจะจิตหลุดนะมึง”อีออยพูดพร้อมกับเอามือจูนหัวผมไปด้วย นี่กูเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ

“อย่าลืมหยอดน้ำมันหล่อลื่นด้วยนะ”ไอ้โอมพูดยิ้ม

“เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและคล่องตัว”ไอ้อาร์มสตามมาติดๆ

“ไอ้พวกเหี้ยยยย แช่งกูอยู่ได้”ผมด่ามันที่หัวเราะ ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ “แล้วไปเช็คที่ไหนดีวะ”พอผมพูดจบพวกมันรุมตีผมใหญ่เลย แต่ไม่แรงหรอกแบบหยอกมากกว่า

“ถุงอะไรวะ กูเห็นมึงกุมซะแน่นเลย”อีออยถามผมอย่างสงสัยหลังจากเลิกหยอกแล้ว เอานิ้วจับแบบกรีดๆ ผมตีมือมัน

“ผลไม้”ผมบอกมันยิ้ม ๆก่อนจะเปิดออกให้พวกมันดู

“มึงไปโลตัสมา”อีออยถามผมก่อนจะหยิบสตอรเบอรี่มาดู และเข้าปากอย่างเร็ว

“ เปล่า อีนี่กินของกูทำไม”ผมบอกพร้อมกับว่ามัน

“ใครให้มา”มันหรี่ตาถามผม ผมไม่บอกลอยหน้าใส่มันบ้างก่อนจะหยิบกินและปิดถุงทันทีวางไว้แต่ส้ม แอ๊บเปิ้ลให้พวกมัน

“ตอแหลลลล ผัวเอามาฝากละสิ แรดนะมึง ทำหวง”อีออยจิกด่ายาวหันไปพยักเพยิดกับไอ้แฝดที่หัวเราะคิก ผมยักคิ้วให้
มันไม่อายแล้ว ยิ่งอายพวกมึงก็ยิ่งล้อกู มันยังไม่เลิกพยายามแย่งถุงของผมอีก เรื่องไรจะยอมอย่าว่าแต่ถุงเลยเจ้าของถุงกูก็ไม่ให้ใครทั้งนั้น อิอิ
**********************************************************************************************

ผมอมยิ้มกับข้อความของไอ้เด็กบ้านั่นที่ตอบกลับมา ป่านนี้มันไปไหนแล้วมั้งเพราะยังไม่ถึงเวลาเรียน ผมเช็คตารางเรียนมันมาหมดแล้วว่ามีเรียนตอนไหนบ้างในสัปดาห์นี้ เย็นนี้กะจะพามันไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดไม่ไกลจาก ม. แล้วก็กินข้าวด้วยกันตามเสต็ปของการเป็นแฟนมั้ง เมื่อเช้าโทรไปปลุกให้มันออกมาหาแต่เช้า กะแกล้งมันนั่นแหละไม่ได้จะให้มันออกมาหรอกเพราะมันมีเรียนสายแต่พอได้ยินเสียงมันแว๊ดมาตามสายก็เลยอยากเห็นหน้าแม่งซะเลย ขู่มันเล่นๆไม่คิดว่ามันจะเชื่อสงสัยมันกำลังเบลอนึกอะไรไม่ออกแน่ๆ นึกแล้วก็ขำเมื่อเห็นตอนมันเดินหน้าตางัวเงียเข้ามาตาก็มองหาผมพอเห็นมันก็เดินมานั่งกระแทกข้างๆ ผมสังเกตตั้งแต่แรกแล้วว่ามันตัดผมใหม่โคตรน่ารักเลยดูเซอร์ๆดี คนนี่มองตามแบบเหลียวหลัง ฝิ่นมันสูงกำลังดี ขาเรียวยาวยิ่งใส่กางเกงเข้ารูปนี่ดูดีมากแล้วถ้าไม่ใส่อะไรเลยล่ะจะสวยขนาดไหน หื่นอีกแหละกู

“แหมหน้าบานมาเชียวมึง”เสียงไอ้หวายเอ่ยตัดความคิดผมพอดี ไอ้ที่เหลือก็อมยิ้มแถมยักคิ้วกวนตีน

“อร่อยมั้ยครับทานโจ๊กแต่เช้า”ไอ้เจย์เอ่ยออกมาบ้างหลังจากยิ้มล้อเลียนสักพัก

“กูนึกว่ากินทองหยอด หวานซะ”ไอ้บลูตามมาติด ไอ้พายหัวเราะคิกคัก

“ตอนเช้าก็ต้องบำรุงสมองเป็นธรรมดา ไม่ใช่แดกขี้เลื่อยแบบพวกมึง”ผมแสยะยิ้มพูดกับไอ้สามตัวนั่น

“ไอ้เลว”พร้อมกันครับ ผมก็ยิ้มรับก่อนจะหันไปแสยะยิ้มใส่

“อ้อ ไอ้หวายที่มึงตื่นเช้าเพราะเมื่อคืนที่บ้านแผ่นดินไหวเปล่าวะ”ผมหันไปพูดยิ้มๆใส่ไอ้พาย มันตาโตเลยครับ

“ไอ้ไผ่ สันดาน”มันด่าพร้อมกับผลักหัวผมอย่างแรงเลยครับ ไอ้พวกนั้นปล่อยก๊ากเลย สม ล้อกูดีนัก

“กูก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะ พายแม่งขัดขืนตลอด”ไอ้บลูพูดยิ้มๆใส่ไอ้พาย

“ไอ้สัด”ไอ้พายด่าก่อนจะปากล่องนมที่ดูดหมดแล้วตรงกบาลมันพอดี

“โอ้ย พายอ่ะล้อเล่น หัวปูดหมดแล้ว”มันทำเป็นแกล้งครวญคราง

“มาเดี๋ยวกูเอาตีนนวดซ้ำให้”ไอ้พายเรียกมันพร้อมกับยกตีนขึ้นเตรียม

“ดุจังวะ เดี๋ยวจะทบให้หมดเลย”ไอ้บลูพูดอุบอิบ

“บ่นไร”มันตวาดใส่

“เปล่า แค่บอกน้ำใจดีจริงๆแฟนกู เอ้ย บลู”มันแถไปเรื่อย

“แหวะ”ไอ้สองตัวทำท่าอ้วกใส่ กับความเลี่ยนของมัน

 “เฮ้ย ตรงนี้ใครนั่งไหม”เสียงไอ้หวานครับถามผม ตอนนี้ถือว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงที่สนิทด้วยที่สุดในคลาสนี้เลย ผมสั่นหัวก่อนจะมองหน้ามันที่ตอนนี้หน้างอฉิบหาย สงสัยจะทะเลาะกับแฟนมัน ชื่อ น้ำ ครับเรียนศิลปกรรมโคตรติสท์เลยเคยเจอกันสองครั้งดูก็นิสัยดีครับ หน้าตาจัดว่าหล่อนะเหมือน เป้ อารักษ์ นะในความคิดผม

“เป็นไรหวาน”ไอ้พายถามไอ้หวานที่นั่งปากยื่นมือก็หยิบของขึ้นมาเตรียมเรียน

“เออ หน้างอเป็นสาก”ไอ้หวายถามมันบ้าง

“สากบ้านมึงสิงอ ไอ้น้ำ แม่งสันดานลาไปญี่ปุ่น ไม่บอกสักคำ กลัวกูจะฝากซื้อของมั้ง”มันด่าไอ้หวายก่อนจะบอกครับ หลังๆ มึงกูกันแล้วครับ ดีผมชอบ ก่อนจะหันมาทางผมที่นั่งฟังเฉยๆ แต่ไม่รู้ไปสะกิดต่อมอะไรมันเข้าถึงได้พูดกับผม

“อะไร มึงทำหน้าประมาณว่าเรื่องแค่เนี้ยะ”กูยังไม่ได้ถามหรือว่าอะไรมึงเลยนะ เออ รู้ดีจริง

“ก็โทรไปสิ”ผมบอกมันสั้น ๆ มันหันขวับมามองหน้าผมเหมือนจะพูด
 
“มันปิดเครื่อง ไม่งั้นกูไม่มานั่งด่ามันอยู่หรอกอยากจะสาปแช่งแต่พ่อแม่มันไปด้วยเลยทำไม่ลง สัด”มันร่ายยาวพูดแบบดูเหมือนจะดีก่อนจะตบท้ายด้วยคำด่าเน้นๆ

“ก็โทรใหม่เผื่อมันเปิดแล้ว”ผมแนะนำมันไปอีก มันมองหน้าผมแบบระอาเลยครับ

“ไอ้ไผ่ มึงไม่พูดกูก็ไม่ว่าหรอกเงียบอย่างที่เป็นอยู่น่ะดีแล้ว กูแปลกใจจริ๊งทำยังไงจีบน้องฝิ่นติดว่ะ อย่าบอกนะว่ามึงสะกดจิตน้องมันน่ะ”มันว่าผมก่อนจะพูดประโยคถัดมาที่ทำเอาผมต้องมองหน้ามันอย่างแปลกใจว่ามันรู้ได้ไง มันแสยะยิ้มรู้ทันครับ ไอ้เพื่อนผมสี่คนอมยิ้มเลย

“เขาพูดกันจนจะทั่ว ม. แล้วว่าเมื่อเช้ามึงกระแซะเบียดเบียนอยู่กับใคร แต่ที่กูชอบนะก็เรื่องที่ด่าอีแอนนี่ชะนีล่าแต้มแม่งแต่ก่อนทำเป็นจะเอาไอ้น้ำดีนะมันติสจัดอีนั่นเลยถอยหนี มันอยู่กับใครไม่ได้หรอกนอกจากกู  น้องฝิ่นแม่งเจ๋ง เห็นเงียบๆแต่ได้ใจวะ ฮ่าๆๆ”มันพูดไขข้อสงสัยผมเล่าให้ฟังว่าเมื่อเช้าเกิดอะไรขึ้น และอวยตัวเองเสร็จสรรพก่อนจะหัวเราะแบบสะใจมากไอ้เพื่อนผมสี่คนยังอึ้งเลย

 “ไม่น่าเชื่อดูเงียบๆ สมแล้วปากจะได้ทันมึง แหมหื่นนะมึงมีกอดด้วย”ไอ้หวายพูด พร้อมกับหาวออกมาแต่ดันหันไปทางไอ้หวาน

“เชี่ย ไม่อ้วกใส่หน้ากูเลยล่ะ”ไอ้หวานด่าก่อนจะสะบัดหน้ากลับ ผมขำมันครับ

“ไม่หล่อปนบ้าทำไม่ได้นะมึง”ไอ้เจย์พูดพร้อมกับคารวะ สรุปมึงชมปนด่ากูใช่ไหม ผมก็พยักหน้ารับ

“กวนตีน”ไอ้พายกับไอ้บลูพูดแทบพร้อมกัน แต่ก็อดขำไม่ได้

“เออ กูลืมไป น้องเอมฝากขนมมาให้”ไอ้หวานเหมือนนึกได้เอากล่องขนมที่ลายน่ารัก ส่งมาให้ผม

“น้องยังไม่รู้แน่เลย ถึงได้เอาขนมมาให้มึงอยู่”ไอ้หวายพูดก่อนตาเป็นประกายเมื่อเห็นของกิน

“เดี๋ยวก็คงรู้ แล้วคราวหน้าถ้าเขาฝากมาอีกมึงจะให้กูบอกไง”ไอ้หวานพูดแทนผม มึงคงกลัวว่าผมจะว่ามัน

“ให้ก็รับมา ไม่ต้องทำไง”ผมก็บอกตามตรง

“อย่างนี้มึงก็ให้ความหวังน้องเขาสิ”ไอ้พายพูดแย้ง

“ให้กูไปบอกตรงๆเลยมั้ย”ผมพูดพร้อมกับมองหน้ามัน

“ไอ้บ้า มึงก็พูดไม่คิด”ไอ้เจย์รีบห้าม ผมส่ายหน้า

“พวกมึงคิดมากไปเปล่า น้องเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ พูดไปเดี๋ยวจะหาว่ากูหลงตัวเอง”ผมบอกพวกมันอีก ก่อนจะพวกมันจะพูดอะไรอีกก็มีเสียงขัดขึ้น

“น้องรหัสมึงฝากมาให้”ไอ้กราฟเพื่อนในห้องเอาถุงมาวางให้ก่อนจะยักคิ้วยิ้มๆเดินไป

“เสน่ห์แรงฉิบเพื่อนกู กล่องนี้ของผู้หญิง คราวนี้น้องรหัสที่เป็นเกย์ ระวังหัวจะหลุดนะครับถ้าแฟนรู้เข้า”ไอ้หวายพูดล้อผม น้องรหัสผมเป็นเกย์ชื่อ แฟนต้า น่ารักขาวจั๊วะ แต่ผมไม่เจี๊ยะทั้งที่ตอนรับน้องเกือบๆเหมือนกัน แต่ตอนนี้เด็กผมน่ารักสุด

“อาจารย์มาแล้วโว้ย”เพื่อนคนหนึ่งเดินกึ่งวิ่งมาบอก ก่อนทุกคนจะเงียบแล้วเริ่มเรียน
**********************************************************************************************


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ก็คนมันรักทำไงได้ 4-4-55 ตอนที่ 14 P.2
« ตอบ #49 เมื่อ: 04-04-2012 11:05:36 »





ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ระวังฝิ่นรู้หัวขาดดดด

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เสน่ห์แรงพอกันทั้งคู่อ่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เสน่ห์แรงจริ๊งงงพ่อคุณ :o10:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

spisyjames

  • บุคคลทั่วไป
ไผ่


น่ารัก



มาก

art_francais

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาติดตามค้าบบบบ ^^

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ไปๆมาๆ ไผ่ก็ใช่ย่อยน๊า
มีคนมาพัวพันด้วย มักเป็นเรื่อง

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ตอนที่ 15

ตอนนี้เกือบห้าโมง ผมไม่รู้ว่าเดินมาถึงคณะไอ้บ้าไผ่มันตั้งแต่เมื่อไหร่ ใจหนึ่งก็อยากต่อต้านไม่มาตามที่มันบอกแต่ไอ้สามคนมันบอกว่าในเมื่อตกลงเป็นแฟนมันแล้วก็อย่าทำตัวเรื่องมากเดี๋ยวเขาก็เบื่อหรอกยังไม่ทันข้ามวันเลย ห่วงกูมากเลยพวกมึง
 
“อีนี่ เล่นตัวไม่เลิกถ้าไม่โดนเล่นตูดซะก่อน เชาชวนก็ควรไปอย่าทำเป็นขมิบอิดออด”อีออยด่าผมเป็นกลอนติดเลย

“พวกมึงไม่ไปเหรอ”ผมถามพวกมัน ที่พร้อมใจกันส่ายหน้า

“กูติดธุระสำคัญมากกกกก”อีออยพูดแบบว่าสำคัญจริงๆแต่ดูแหล

“ติดธุระหรือติดสัด บอกมาเลย”ผมย้อนถามมัน

“ถ้าเป็นมึงจะเลือกติดอะไรล่ะ”มันก็ย้อนผม

“ติดเพื่อน”ผมบอกมัน

“โสรยานะมึง ทำเป็นติดเพื่อน เมื่อเช้าเห็นหวงกูแดกแหมบๆทำอย่างกับขอแบ่งข้าวหลาม”มันพูดใส่หน้าผม

“กูไม่ว่างจริงๆ ป๊าให้ไปรับลุงที่สนามบิน”ไอ้โอมบอกเหตุผล หลังจากที่พวกมันขำผม


“ถ้าเกิดพี่เขาอิ๊อ๊ะมึงก็เล่าให้กูฟังด้วยนะ ว่าท่าท่างเงี่ยะ เอ้ย เงียบเวลานั้นส่งเสียงยังไงวะ”อีออยยังทะลึ่งไม่เลิก

“เรื่องไรกูจะบอก ความมันส์ส่วนตัวโว้ย”ผมเลยพูดใส่หน้ามัน ทำเอาอึ้งไปนึกว่าผมจะอาย

“ต๊ายยยย มึงเห็นมั้ยหน้ามันเริ่มจะดอกกกกหมดยาง ไม่ได้ๆๆๆ กูต้องรีบไป กูไปล่ะ”มันบอกไอ้แฝดพร้อมกับไขรถทันทีเมื่อเดินมาถึงที่จอดรถก่อนจะโบกมือลัลล้าขับออกไป ไอ้สองคนมองหน้าผมพลางกอดไหล่แบบเป็นกำลังใจให้ กูแค่ไปกินข้าวไม่ได้ไปออกศึก เฮ้อ นึกถึงพวกมันและก็ขำไม่หายยิ่งถ้าอยู่ครบผมโดนพวกมันรีดจนหมดเปลือกแน่
 
“คิดมากทำไม ไปกันไม่ได้อย่างมากก็เลิก”ผมพูดพึมพำอย่างไม่ใส่ใจ พาตัวเองไปนั่งตรงม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่ มองเข้าไปในตึกก็ยังไม่เห็นมีใครเดินออกมาก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดเล่นเกมฆ่าเวลา สักพักเหมือนมีคนเดินมานั่งข้างๆ จะไม่เงยหน้าก็ไม่ได้แต่กำลังมันเลยใครวะมาขัดจังหวะเดี๋ยวไม่สบอารมณ์จะด่าให้ พอเงยหน้าไปก็ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้ชายสี่คนนั่งด้วยถ้าเป็นคนกลุ่มอื่นคงไม่อะไรหรอกแต่นี่กลับเป็นกลุ่มเพื่อนไอ้ไผ่มัน ผมจำได้ถึงไม่เคยคุยหรือทักทายกัน แล้วมานั่งมองหน้ากูทำไมวะ ผมก็เลยยกมือไหว้แต่ไม่ได้พูด พวกพี่เขาก็ยิ้มรับ

“น้องฝิ่นใช่ไหม”พี่ที่หน้าตาน่ารัก ตัวเล็กและเป็นเกย์เหมือนผมแน่

 “ครับ”ผมตอบสั้นๆ

“พี่ชื่อพาย นี่ก็ไอ้หวาย ไอ้เจย์ และไอ้หน้าหื่นนี่ชื่อไอ้บลู”พี่พายแนะนำตัวเองก่อนจะแนะนำเพื่อนๆแก ยิ่งดูยิ่งน่ารักครับพี่พาย

“โธ่พายอ่ะ บลูเสียหายนะไปบอกน้องอย่างนั้น”พี่บลูรีบพูดอ้อนแกทันที ผมว่าแกเหมาะกันดีน่าเป็นแฟนกัน พี่บลูหล่อใช่ย่อยสาวติดตรึม
 
“ไอ้พายมันก็พูดถูกแล้ว มึงจะแย้งทำไมแค่น้องเห็นหน้ามึงก็รู้แล้ว”พี่หวายที่หน้าคล้ายพี่พายสงสัยเป็นญาติกันมั้งแต่คมเข้มกว่า แหย่เพื่อนแกก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ดูแกเป็นคนที่มีเสน่ห์ตรงคำพูดและรอยยิ้ม พอกับพี่ที่หน้าออกลูกครึ่งที่ชื่อพี่เจย์

“นั่นดิ ไอ้หน้าหื่น คริคริ”พี่เจย์พูดบ้าง
 
“หยุดเห่าเลยพวกมึง ภาพพจน์กูเสียหมด”พี่บลูรีบชี้หน้าเลยครับ

“น้องฝิ่นมารอนานยัง”พี่พายถามผมยิ้มๆ ก่อนจะหยิบขนมและพยักหน้าชวนผมกิน ผมก็เลยหยิบมาชิ้นนึงเข้าปากเคี้ยวเลย ดีกำลังหิว แกเลิกคิ้วแปลกใจคงคิดว่าผมจะปฏิเสธแน่นอน ขอโทษครับของฟรีไม่มีปฏิเสธ พวกเพื่อนแกก็หยิบกินบ้าง

“สักพัก”ผมตอบแกกลับไป ใจผมอยากจะถามว่ามีอะไรกับผมหรือเปล่าแต่ไม่ดีกว่า ดูพวกเขาก็ไม่ได้ทำท่าทางไม่ดีใส่ผมด้วย ดูเป็นมิตรด้วยซ้ำถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป

“เดี๋ยวมันลงมา นัดกับมันจะไปไหนเหรอ”พี่หวายถามผมยิ้มๆ มือก็หยิบกินไปเรื่อยๆ พี่พายหันไปมองหน้าประมาณว่ามึงจะถามทำไมเสือกไม่เข้าเรื่อง แกส่งสายตาจิกใส่เลย

“ไม่ได้บอก”ผมส่ายหน้าพร้อมกับบอกแกไป ไม่ได้เป็นความลับอะไรหรอกก็มันไม่ได้บอกนี่หว่า ว่าไปไหน พวกแกเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มแบบไม่แปลกใจอะไร แสดงว่าคงเป็นสันดานมันแหละ หุหุ

“นั่นแหละมันทำอะไรก็ทำเลย”พี่หวายพูดพร้อมส่ายหน้าแบบระอา แต่มือแกก็เลื่อนขนมมาวางตรงหน้าให้ผม ก่อน ผมก็หยิบเลยไม่อยากขัดศรัทธาผู้ใหญ่เดี๋ยวจะหาว่าเสียมารยาท หรือกูตะกละวะ

“เรียกฝิ่นก็พอ ไม่ต้องมีน้องหรอกมันยังไงไม่รู้”ผมบอกพวกพี่เขาออกไปหลังจากฟังพวกแกเรียก มันเหมือนผู้หญิงอ่ะ

“ทำไมล่ะ น่ารักดีออก”พี่เจย์ถามผมเสียงสูงเลยแต่เป็นแบบล้อนะ คิ้วขมวดเลยผม พวกแกก็เลยหัวเราะ

“มันดูผู้หญิงล่ะสิ ใช่ไหม”พี่หวายถามผมแบบรู้เลย ผมก็เลยพยักหน้าหงึกๆ มือก็หยิบน้ำในกระเป๋ามาดื่ม ผมเป็นชอบดื่มน้ำมากก็เลยต้องพกติดตัวเกือบตลอดเวลาไม่เย็นไม่เป็นไรขอให้ได้กินเถอะ ไม่งั้นก็พวกชาเขียว ชาขาว

“ฝิ่นเรียนวิศวะเหรอ”พี่หวายถามผมต่ออีกและก็เรียกชื่อไม่มีน้อง ดีมากพี่

“ครับ”ถามสั้นๆผมก็ตอบสั้นๆ

 “พวกมึงจะถามอะไรนักหนาวะ น่ารำคาญ”พี่บลูพูดขึ้นมาบ้างหลังจากเงียบไปนาน ที่โดนรุม

“อ้าว ไอ้นี่กูไม่เห็นน้องมันจะรำคาญเลย”พี่หวายหันไปพูดกับพี่บลูที่นั่งติดพี่พายที่เอามือดันแกออกห่าง ผมว่าชักจะยังไงนะคู่นี้

 “น้องมันบอกมึงเหรอ”พี่บลูย้อนถามได้กวนดีแท้ แหมพี่รู้ใจผมจริงๆ ไม่ขนาดนั้นผมไม่ได้รำคาญหรอกถ้าไม่ถามอะไรที่มันงี่เง่ากับผมน่ะ

“สัด ทำเป็นรู้ดี สนใจ เมียมึงโน่น”พี่หวายด่าพร้อมกับพูดพร้อมกับชี้ไปทางพี่พายที่หน้าเหวอเลยครับ

“ไอ้หวาย สันดาน”พี่พายด่าเข้าให้

“อายอะไรเล่าก็เรื่องจริง ไอ้ไผ่มันยังไม่อายเลย จริงไหมฝิ่น”พี่บลูพูดยิ้มแป้นหันมาถามผมอีก

“เอ้อ”ผมพูดไม่ออก มองพี่พายที่หน้าแดง

“มึงหยุดเลย เห็นมั้ยน้องมันอายแล้ว”พี่พายรีบเอาผมอ้างทันที

“น้องหรือมึงที่อาย”พี่หวายยังแซวต่อ

“มึงมากกว่ามั้งหน้านี่แดงจนไม่เหลือความขาวเลย”พี่เจย์แซวต่อ

“ไอ้เชี่ยะ”พี่พายเน้นเสียงใส่เลย ผมขำพวกแกแต่กลั้นเอาไว้ ก่อนจะมีเสียงดังตุ๊บของกระเป๋าที่วางข้าง พร้อมกับแทรกลงมานั่ง

 “คุยอะไรกันวะ”มันพูดขึ้นมาลอยๆ คงถามเพื่อนมันนั่นแหละ

“ดีแล้วที่มา ไม่งั้นไอ้พวกนี่ได้ซักฟอกอีกนาน”พี่บลูมองหน้าไอ้ไผ่พร้อมกับพูดออกมาว่าพวกเพื่อนแก
 
“ถุย พอไอ้ไผ่มาทำเป็นฟ้อง”พี่หวายทำท่าพร้อมกับเบะปาก พี่เจย์ทำหน้าแบบเห็นด้วยกับพี่หวาย


“เหรอ แล้วมึงบอกอะไรพวกมันมั่ง”มันพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะก้มมาถามผมจนจมูกจะชนแก้มอยู่แล้ว ดีนะผมมือไวเลยผลักหน้ามันออก

“มึงจะก้มมาทำห่าไร”ผมกัดฟันพูดกับมันเบาๆ มันก็ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้ เพื่อนมันก็ยิ้มๆ

“สันดานจริงเพื่อนกู”พี่หวายว่าพลางส่ายหน้ากับพฤติกรรมของมัน

“เออ คืนนี้ไปร้านพี่แป๊ะไหม ชวนฝิ่นไปด้วย”พี่หวายพูดต่อหลังจา
กนึกขึ้นได้

“ใช่ ร้านxxxx ฝิ่นรู้จักไหม”พี่เจย์พยักหน้าเห็นด้วยบอกชื่อร้านก่อนจะถามผม ผมก็พยักหน้าว่ารู้จักเคยไปกินอยู่ครั้งสองครั้งเป็นร้านอาหารไม่ใหญ่นักเน้นความสบายเป็นกันเอง ยิ่งอาหารอีสานยิ่งแซ่บหลายถ้าไอ้พวกนั้นรู้มันต้องชอบแน่


“คงไม่ได้”มันตอบพวกเพื่อนมันสั้น ๆ

“อะไรวะ มึงก็ไปสวีทกับน้องเขาก่อนแล้วค่อยไปก็ได้”พี่หวายว่ามันแบบหน้านิ่วคิ้วขมวดเลย ผมก็นั่งเฉยๆไม่ออกความเห็น และผมไม่ได้อยากไปสวีทกับมันสักหน่อย (แล้วมาคอยเขาทำไม) พี่เอามันไปด้วยเลย ผมจะได้กลับบ้านกินนมนอน อิอิ

 “กูไม่ว่างจริงๆ คืนนี้กูต้องทำงานพิเศษ พวกมึงก็รู้นิ เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน”มันตัดบทพูดก่อนที่พี่หมากจะพูดจบ มันทำงานพิเศษด้วยเหรอ งานอะไรวะอย่าบอกนะว่ามึงรับจ๊อบก่อสร้างตอนกลางคืน

“ก็ลาสิ วันเดียวเองพี่กี้ไม่ว่าหรอกแกก็เพื่อนพี่แป๊ะ”พี่หวายเสนอความคิดเห็นแบบไม่ลดละ จะให้มันไปด้วยให้ได้

“ความรับผิดชอบน่ะมึงสนิทกับมันไหม”มันย้อนพี่หวายแบบกวนตีนมากๆ คิดได้ไงวะ
 
“ด่ากูอีก ไอ้ห่า เออๆๆตามใจ แต่ยังไงคราวหน้ามึงก็อย่าเลี่ยงแล้วกันชวนน้องไปด้วย ฝิ่นไปนะ”พี่หวายเลยยอมครับก่อนจะหันมาชวนผมที่ยังนั่งนิ่งคิดถึงคำพูดมันไม่หาย ผมก็พยักหน้าให้พี่แก

“กูบอกแล้วเหรอจะพาไป”มันหันมาย้อนถามผมแบบหน้านิ่งแต่น่าโดนตีนมาก เพื่อนมันมองหน้าเลยครับประมาณมึงเกรียนมาก

“แล้วกูบอกเหรอจะไปกับมึงน่ะ”ผมก็ย้อนมันกลับไปบ้างครับเรื่องอะไรจะเสียเหลี่ยมต่อหน้าเพื่อนมึง  เพื่อนมันปล่อยก๊ากเลยครับที่เห็นผมย้อนมัน มันมองหน้าผมแบบคาดโทษเอามือผลักหัวผมแต่ไม่แรงมากนัก ผมก็ลอยหน้าลอยตาไม่สนใจมัน

“ฮ่าๆๆ สะใจว่ะ”พี่หวายครับปล่อยเต็มที่

“สมน้ำหน้า กูรอมานานแล้ว”พี่เจย์เอามั่งครับ
 
“ถูกใจวะ อย่างนี้สิทันมึง”พี่พายพูดยิ้มๆ แกน่ารักมากไม่แปลกใจถ้าพี่บลูจะชอบดูใสๆไม่แอ๊บ

“ปากดี เดี๋ยวจะโดน”มันกระซิบข้างหูผม ตานี่โคตรหื่นเลย สักพักโทรศัพท์ผมดังก็กดรับเลยครับไม่ต้องดูเสียงเรียกเข้านี้เป็นของปู่ผมเท่านั้น ผมขอตัวลุกไปคุย ไอ้บ้านั่นก็ดึงผมอยู่นั่นแหละจนผมต้องศอกใส่มันให้ปล่อยแต่ไม่แรงนัก

“เด็กมึงนี่ไม่เบาว่ะ เห็นเงียบๆ หึหึ”ไอ้หวายพูดกับผมแต่ยังไม่เลิกขำ

“ไม่รู้สิกูยังไม่ได้ลองเลยว่าตัวมันเบาเปล่า”ผมบอกหน้าตายแต่คงแฝงไปด้วยความหื่น พวกมันเลยมองหน้าผม

“ไอ้หื่น”ไอ้เจย์พูดใส่หน้าผม ผมยักไหล่ ตาก็มองไอ้เด็กนั่นคุยไปด้วยยิ้มไปด้วย แม่งคุยกับชู้ที่ไหนวะ
 
“ยิ่งดูใกล้ๆ น่ารักนะ ทำไมไม่เป็นผู้หญิงวะ แต่ดูอีกทีก็ไม่เหมือนผู้หญิงซะทีเดียวหรอกออกทอมๆ”ไอ้หวายพูดชมแบบเสียดาย
 
“ตัดผมดูหน้าแปลกๆว่ะแต่ก็น่ารักดี”ไอ้เจย์พูดมั่ง
 
“แต่จะว่าไปน้องมันก็ดูเข้ากับคนง่ายนะ ไม่เห็นจะหยิ่งเลย”ไอ้พายมองตามสายตาผมก่อนจะหันกลับมาพูดต่อ

“นั่นสิ ถ้าไม่นับลักษณะท่าทางที่ดูนิ่งๆ ก็เลยทำให้ดูหยิ่ง พอได้คุยด้วยก็สนุกดี บางครั้งออกจะกวนๆด้วยซ้ำ อย่างที่ย้อนมึงไง ฮ่าๆๆ”ไอ้บลูวิจารณ์ก่อนจะหัวเราะใส่ผม
 
 “ยังไงวันเกิดพี่โดมมึงก็ชวนน้องเขาไปด้วยแล้วกัน เปิดตัวไปเลย”ไอ้พายรู้ดีนะมึง เรื่องตัวเองเอาให้รอดก่อน

“ไม่ต้องน้อยใจนะเดี๋ยวบลูพาไปเปิดตัวเหมือนกัน”ไอ้บลูเสนอหน้าทันที

“เสือก ความประพฤติมึงยังติดลบอยู่เลย”ไอ้พายผลักหัวมัน ๆ ก็เข้ามาถูไถเป็นหมา

“เบื่อพวกมึงจริงๆ ไม่รู้เมื่อไรจะได้กันสักที”ไอ้หวายพูดเซ็ง ไอ้พายหันไปตุ๊บตั๊บเข้าให้ ผมก็ยกยิ้ม ไอ้บลูชอบใจเข้าทางมันเลยครับ


“ฝิ่น พวกพี่ไปก่อน”พี่หวายบอกผม ผมก็พยักหน้ารับ

“ว่างก็ไปบ้านพี่ ทำไรกินกัน”พี่พายยิ้มอย่างน่ารักชวนผมไปบ้าน ก่อนที่พวกเพื่อนๆมันเอ่ยลา

 “ครับ”ผมยิ้มตอบรับจนพวกเพื่อนมันลับตาไป เอาเลยครับมันกระชากผมนั่งตักมันก่อนจะกอดอย่างแน่นเลย
 
“เออดีโว้ยไม่ยักกะด่า”มันทำเสียงแปลกใจที่ผมเฉยไม่ดิ้นหรือทำอะไรมัน

“ขี้เกียจ”ผมบอกมัน ๆ หัวเราะชอบใจ

“ชอบให้กูกอดล่ะสิ”มันทำเสียงเจ้าชู้ใส่ผม

“ถ้าบอกว่าไม่ มึงจะปล่อยไหม”ผมย้อนถามมันกลับ มันไม่ตอบครับแต่รัดแน่นเข้าไปอีก แม่งไม่อายคนอื่นมั่งไงวะ แต่ไม่มีใครนี่หว่า

“มึงโอเคนะ”มันถามผมเสียงทุ้มแนบใบหูจนรู้ถึงลมหายใจ ผมเบี่ยงนิดหน่อยมันหัวเราะ หึหึ

“เรื่องไร”ผมถามมันกลับไป เพลินดีเหมือนกันโว้ย เริ่มจิตเหมือนมันแหละ

“เพื่อนกู”มันตอบผมสั้นๆ

“ไม่มีไรนิ เพื่อนมึงเขาก็คุยดีออก”ผมตอบไปเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่มันก็ไม่มีอะไรจริงๆนิ เห็นมันพยักหน้าเข้าใจ เงียบกันสักพัก

“ดอก อืม”มันพูดพึมพำออกมา ผมหันขวับเลย

“มึงด่ากูเหรอ หนอย”ผมหยิกมือมันให้ปล่อย นิสัยมาว่ากู

“เฮ้ย อะไรวะ”มันทำหน้างงๆว่าผมเป็นอะไรอยู่ๆก็ออกฤทธิ์
 
 “ก็มึงพูดว่า ดอก กูไปทำตัวดอกตอนไหนทั้งที่เพิ่งคบกับมึง ห๊ะ เชี่ยนิ”ผมด่ายาวเลย แทนที่มันจะปฏิเสธเสือกหัวเราะชอบใจ

“สัด กูหมายถึงรูปดอกฝิ่นข้างหูมึงต่างหาก หึหึ”มันเอานิ้วจิ้มๆตรงรอยสักพร้อมกับกลั้นหัวเราะ ผมอ้าปากเหวอเลยครับ หน้าแตกเลยกู

“ควาย ปล่อยกูเลย”ผมโวยใส่มันทั้งทุบทั้งหยิกเลยทีนี้ กูไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว มันหัวเราะไม่เลิก แทนที่จะง้อกู

 “อะไร บ้าเปล่าเนี่ยะ”มันยังไม่หยุดล้อผม ผมทำตาขวางใส่มันไม่พูดอะไรอีก เงียบกันทั้งคู่

“ชอบ”มันพูดข้างหูผมก่อนไล้ปลายลิ้นตรงรอยสักผมเบาๆ ทำเอาสยิวเลยครับ ไอ้ลามก ไอ้โรคจิต เลียมาได้เดี๋ยวได้ของขึ้นหรอกมึง

“สกปรก”ผมด่ามันพร้อมกับเบี่ยงตัวหนี มือก็เช็ดหลังหูป้อยๆ  คำที่มันพูดคงหมายถึงรอยสักไม่ใช่ผมหรอกมั้ง

“ต่อไปไม่แค่นี้หรอกนะ กูโลภมาก กินจุ เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย หึหึ”มันยังตามมากระซิบบอกให้ผมได้อายอีก

“ไอ้บ้า”ผมด่ามันอุบอิบ มึงจะทำกูเขินไปถึงไหนวะ มันหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นกอดคอผมเดินไปจากตรงนั้น
**********************************************************************************************

ตอนนี้ผมกับไอ้ตัวบางมาเดินกันที่ตลาดนัดแล้วครับ ของเยอะมากทั้งของกินของใช้ทำเอาเพลินดี ตลอดทางมันเห็นอะไรน่ากินมันซื้อเลยครับ มันจ่ายบ้างผมจ่ายบ้าง จนเดินมาถึงร้านรองเท้า มันปรี่เข้าไปดูเลย ฝิ่นมันชอบใส่ผ้าใบเท่าที่ผมสังเกตเห็นมันใส่แทบจะไม่ซ้ำเลยทั้งยี้ห้อดังหรือไม่มียี่ห้อมันใส่หมด จนมันได้คู่นึงลายพร้อยอย่างกับตุ๊กแก มันต่อของเก่งมากแค่พูดไม่ถึงกับยิ้มอ้อนคนขายก็ลดให้มันแล้วมึงไม่ฟรีเลยวะ ผมเดินไปกอดเอวมันก่อนจะส่งตังค์ให้คนขายที่ทำหน้าเหวอ เมื่อกี้ยังยิ้มกับเด็กกูอยู่เลยเห็นหน้ากูหุบยิ้มแทบไม่ทัน ก่อนจะรับไปพร้อมกับหยิบของใส่ถุงให้ มันเงยหน้ามองผมแต่ไม่ได้แกะมือออก ผมเลิกคิ้วใส่มันแบบมีอะไร มันเบะปากยักไหล่ ก่อนจะหันไปรับของพร้อมเงินทอน
 
“ขอบคุณครับ คราวหน้ามาใหม่นะครับ”ไอ้คนขายพูดกับมันเสียงหวานเลยครับ ตาแพรวพราวเชียวมึง

“ไม่ได้มาบ่อย ไปได้แล้ว”ผมพูดเสียงแข็งก่อนจะพามันเดินออกมา ไอ้นั่นอึ้งเลยครับ แต่ยังได้ยินเพื่อนมันพูด

“กูบอกแล้วว่าแฟนเขาหวง เดี๋ยงได้โดนตีนหรอกมึง” เพื่อนมันพูดพร้อมกับทำหน้าสยองๆ

“เสียดายมีแฟนซะได้”มันพูดแบบเสียดาย

“ไม่ทันไร อ่อยเชียวมึง”ผมว่า มือก็บิดจมูกมันแบบหยอกเล่น มันจิ๊ปากปัดมือออกแต่มือที่กอดเอวมันไม่เอาออกโว้ย สงสัยจะลืมตัว

“อย่างกูไม่ต้องอ่อยหรอกจะบอกให้”มันบอกผมแบบหลงตัวเองฉิบ ผมเบะปากใส่มัน

“หลงตัวเอง”ผมก้มลงไปว่ามัน นึกว่ามันจะหลบ มันช้อนตามองผมแบบโคตรเจ้าชู้เลยแถมยกยิ้มมุมปาก ทำเอาใจกระตุกเหมือนกันแหะ

“อยู่แล้ว”มันย้อนผมเสียงโคตรกวนเลย ผมเลยบิดจมูกมันไปอีกที ถ้าลับตาคนได้มีฟัดกันมั่งแหละ ก่อนจะพากันเดินไปนั่งกินข้าวที่ร้านข้างทางไม่ใหญ่มากนักแต่คนเยอะมาก ไอ้ฝิ่นมันบอกว่าร้านนี้ถูก สะอาด ที่สำคัญอร่อยมาก เจ้าของร้านเป็นผู้ชายวัยกลางคนรู้จักมันด้วยพอเห็นรีบให้เด็กยกโต๊ะกับเก้าอี้มาให้แบบไม่กลัวลูกค้าคนอื่นน้อยใจเลย เส้นใหญ่จริงมึงมีส่วนตัวด้วย

“นึกว่าลืมร้านเฮียไปแล้วนะ อาฝิ่น”แกทักทายยิ้มแย้มแบบผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก ก่อนจะยิ้มให้ผมด้วย

“ใครจะลืมได้ เฮียทั้งใจดี ทำก็อร่อยแถมให้เยอะแบบร้านอื่นโปรสู้ไม่ได้เลย”มันตอบแบบเอาใจน่าดู เฮียหัวเราะชอบอกชอบใจ ก่อนจะหยิบเมนูให้ มันก็สั่ง ก่อนจะหันมาทางผมยื่นเมนูให้

“เอาอะไรอีกไหม”มันถามผมเสียงนุ่มมาก ผมอึ้งไปนิดหน่อยมองหน้ามันว่าทำเป็นพูดเพราะต่อหน้าเฮียหรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็นความผิดปกติอะไร ผมก็ส่ายหน้ามันก็เลยหันไปบอกเฮียอีกครั้งก่อนจะสนใจกับข้าวของที่ซื้อมา ผมให้มันเลือกเสื้อให้ตอนแรกมันไม่เลือกมันบอกชอบแบบไหนก็ซื้อเอาเอง ผมก็คะยั้นคะยอจนมันยอมแรกๆมันแกล้งเลือกแบบลายโคตรน่าเวียนหัวเลย มันดูสนุกมากที่เห็นผมหงุดหงิดเอาใหญ่เลยทีนี้ สักพักอาหารก็ทยอยมาดูน่ากินมากครับ พอได้ลองก็อร่อยสมราคาคุยมันจริงๆ ผมบอกหรือยังว่ามันกินจุมากตอนนี้มันล่อข้าวไปสามจานแล้วครับ ขณะที่ผมเพิ่งเริ่มจานที่สองเอง มันก็ตักกับข้าวให้ผมนะ

“มึงลอง อร่อยขอบอก”มันตักผัดผักที่ใส่กุ้งตัวโตให้ผมลองชิม

“กูเห็นมึงก็อร่อยทุกอย่างแหละ”ผมบอกมันเรียบๆ แต่ก็ตักผัดที่มันตักให้เข้าปาก อืม อร่อยจริงๆ แต่ไม่บอกมันหรอก มันค้อนผม

“ชอบขัดคอกูจริง”มันพูดแบบจิกตาใส่ ก่อนจะยัดต่อ ช่วยบอกกูหน่อยว่ามึงเอาไปเก็บไว้ที่ไหนวะ

“กินเก่งฉิบ อย่างอื่นเก่งเหมือนกินหรือเปล่าวะ”ผมแกล้งถามมันแบบมีเลศนัย

“มึงนิ ขนาดกินหัวสมองยังคิดแต่เรื่องอย่างว่าอยู่นั่นแหละ เชื่ย”มันด่าพร้อมกับจะทุบผม แต่ผมไวกว่าจับมือมันทัน

“กูหมายถึงเรื่องเรียน กีฬา ต่างหาก”ผมเลิกคิ้วบอกมันยิ้มๆ

“กูไม่เชื่อหรอกหน้าอย่างนี้เหรอคิดเรื่องดีๆ”มันลอยหน้าว่าผม ก่อนจะดึงมือออกไปกินข้าวต่อ เอ็นจอยจริงๆเลยมึงเรื่องกิน

“แสดงว่ามึงก็คิดเหมือนกูล่ะสิ ถึงได้รู้ว่ากูคิดอะไร”ผมเขยิบเข้าไปกอดไหล่มันแล้วพูดข้างหู เห็นมันหน้าแดง

“กูไม่ได้คิด กูดูจากหนังหน้าที่มันบอกสันดานมึงต่างหาก”มันปฏิเสธเสียงแข็ง มือก็จิ้มหน้าผมให้ห่างจากมัน

“เหรอ”ผมแกล้งพูดใส่มัน กระชับไหล่ให้มันเข้ามาใกล้อีก ตัวมันหอมมากนี่ขนาดเดินจนเหงื่อออกแล้วนะ ยังหอมเลย

“เออ”มันก็กระแทกเสียงใส่ผมมั่ง ผมก็เลยยักไหล่ ก่อนจะลงมือกินต่อจนหมดเกลี้ยงแบบไม่เหลือซากเลยครับ นั่งย่อยกันสักพักก็เรียกเฮียมาคิดเงิน แกก็ลดให้อีกก่อนจะบอกให้มากันใหม่ ก่อนจะลากลับแกยิ้มให้ผม

“แฟนอาฝิ่นหล่อนะ เห็นสาวๆมองอีกันใหญ่เลย ระวังน้าจะโดนแย่ง”แกหันไปพูดกับไอ้ตัวบางข้างผม ที่ทำหน้าเหวอแบบไม่คิดว่าเฮียจะพูดแบบนี้ พร้อมกับอ้าปากจะบอก

“จริงเหรอเฮีย”ผมรีบพูดดักคอมันก่อนจะหันไปยิ้มให้เฮีย มือก็กอดกระชับไหล่โชว์เฮียไปด้วย

“จริงสิ ตาคมแบบมีอำนาจมากเลย อย่างนี้อาฝิ่นไม่กลัวแย่เหรอ”เฮียวิจารณ์ผมก่อนจะหันไปถามมันล้อๆ
 
“เรื่องไรจะกลัว ไม่ใช่ผู้ปกครองสักหน่อย”มันกอดอกลอยหน้าลอยตาเถียงผม
 
“แต่เป็น ผะ โอ้ย”ผมพูดยังไม่จบมันกระทุ้งท้องผมซะจุกเลย ห่าเกือบสำรอกออกมาแล้ว เฮียหัวเราะชอบใจเลยครับ

“รีบข่มก่อนเลย แต่ลื้อก็ระวังไว้นะ อาฝิ่นเห็นอีรูปร่างเบบนี้ มือตีนหนักใช่เล่น”เฮียพูดเตือนผมยิ้มๆ เหมือนแกจะรู้นิสัยมัน ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มให้แก เราคุยกันสักพักก็ลากลับ เดินมาเอารถมอไซด์ส่งหมวกกันน๊อคให้มันใส่ มันรับไปถือไว้ก่อนจะบอก

“กูกลับเองก็ได้”มันพูดกับผมที่สวมหมวกเรียบร้อยแล้ว ผมมองหน้ามัน

“ทำไม”ถามมันกลับ

“ไม่ทำไม ก็มึงต้องไปทำงานอีกไม่ใช่เหรอ”มันตอบพร้อมกับถามผมกลับ

“แล้วไง”ผมเลิกคิ้วย้อนถามมัน

“เอ๊ะมึงนิ ชอบเล่นยิ่สิบคำถามหรือไง กูก็แค่ไม่อยากให้มึงไปสายเดี๋ยวเจ้าของเขาจะด่าเข้าให้ก็แค่เนี้ยะ”มันจิ๊ปากใส่ก่อนจะตอบยาวเลย

“กูนึกว่ามึงนัดใครไว้ซะอีก”ผมบอกมันด้วยน้ำเสียงเรียบ ตาก็จ้องมันที่งอนผมหันหน้าไปทางอื่น คิดว่ามันต้องหันมาด่าแน่ๆ

“กูเป็นแฟนมึง จะไปนัดใครได้ล่ะ”ไม่ด่าครับ แถมก้มหน้าพูดงุบงิบ

“พูดอะไรนะ ไม่ได้ยิน”ผมแกล้งยื่นหน้าไปใกล้มัน ที่จริงได้ยินแล้วล่ะแต่อยากแกล้ง มันหันขวับ

“พูดอะไร กูแค่ไม่อยากให้มึงโดนเขาด่า แต่อยากไปส่งก็ตามใจ”มันทำหน้าแบบไม่รู้ไม่ชี้ เสียงดังใส่เลย

“ฮ่าๆๆ ห่วงกูด้วย”ผมหัวเราะแกล้งถามมันอีก

“ไม่ มึงโดนด่าก็เรื่องของมึง”มันถลึงตาใส่ผม น่ารักว่ะ ยิ่งปากนี่แดงจนน่าจับจูบจริงๆ

“หึหึ ไปได้แล้ว”ผมว่าพลางคร่อมรถ ก่อนมันขึ้นคร่อมตามนั่งซะห่างเลย “นี่ มึงเขยิบเข้ามาอีกก็ได้ทำยังกับมีหน้าอกมาสีหลังกูงั้นแหละ เหยิบมา”ผมว่าพลางดึงมันเข้ามาใกล้ เอามือมันกอดเอวไว้ ก่อนจะขี่ออกไปทันทีไม่ให้มันตั้งตัว ผมขี่แบบเร็วพอสมควรมันก็เกาะแต่ไม่ได้เกร็งอะไรแบบสบายๆ มันบอกให้ผมไปทางลัดเพราะรถไม่เยอะ สักพักก็ถึงบ้านมันที่ไม่ใหญ่มากตัวบ้านสองชั้นเรียบง่าย ต้นไม้ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมพาให้สดชื่นดี มันถอดหมวกส่งให้พร้อมกับถุงเสื้อมีถุงเดียวแหละครับนอกนั้นของมันหมด
 
“อยู่กับใคร”ผมจอดรถเดินมาที่ประตูบ้านที่เป็นประตูเล็กมันทำท่านึก ก่อนจะบอก

“อยู่กับลุงป้า” มึงจะนึกทำไมวะทำยังกับอยู่เป็นสิบ

“แล้วใครอีก”ผมถามมันอีกเพราะเห็นมีผู้ชายวัยกลางคนคงจะเป็นลุงที่มันบอกและก็วัยน่าจะรุ่นเดียวกับผมยืนคุยกันไม่ไกลนักแต่คงไม่เห็นพวกผมหรอกไม่งั้นคงเดินมาเปิดประตูให้แล้วล่ะ

“ลูกลุงกับป้ามาเฝ้าบ้านให้ตอนกลางคืน ถามมากจริงไปได้แล้ว”มันว่าพร้อมกับไล่แต่ไม่จริงจังนัก

“ถึงบ้านไล่กูเชียวนะ”ผมว่ามันก่อนจะดึงมันเข้ามากอดและก้มจูบปากมัน จูบเฉยๆไม่สอดลิ้น จูบมากเดี๋ยวช้ำหมด ก่อนจะถอนออกมองคนในอ้อมแขนที่ตอนนี้ซุกหน้าเงียบ

“ปล่อยได้ยัง เดี๋ยวก็สายหรอก”มันพูดเตือน

“ก็ไปสิไม่ได้ห้ามซักหน่อย”ผมแกล้งบอกและปล่อยมือออก มันเงยหน้ามอง ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีเตรียมเข้าบ้าน ผมก็คว้ามือดึงให้เข้ามาชิดอก กอดเอวมันไว้

“เสือกมากอดทำไม  ไปเลย”มันว่าพร้อมกับดิ้นไปด้วยแต่ไม่แรงนัก

“ล้อเล่นไม่ได้เลยไง หืม”ผมพูดข้างหูที่มีรอยสักเจ้าปัญหาที่ทำเจ้าของมันหน้าแตกมาแล้ว

“จะไปได้ยัง”มันไม่ตอบแถไปถามเรื่องอื่น

“ไปก็ได้ เดี๋ยวไม่มีเงินพาแฟนไปเที่ยว”ผมกระซิบข้างหูก่อนจะหอมแก้มแดงๆอีกที และก็ดันให้มันเข้าบ้าน มันยืนมองจนผมขี่รถออกไปแล้วก็ปิดประตูบานเล็ก
**********************************************************************************************

ผมยืนมองมันจนลับตาตรงประตูใหญ่ อดจะอมยิ้มไม่ได้กับตอนท้ายที่มันบอก มองของในมือที่มันซื้อให้ถึงไม่ใช่ของแพงแต่รู้สึกดีใจ ตอนมันจ่ายตังค์ให้ผมเกรงใจนะแต่ไม่อยากขัดกลัวมันจะหาว่าผมดูถูกยิ่งไปว่ามันไว้ด้วย แต่มันไม่ได้ทำตัวป๋าใส่ผมนะ ของบางอย่างมันก็ขัดไม่ให้ซื้อผมก็แว๊ดมันบอกจ่ายเองก็ได้ มันดึงผมออกเลยก่อนจะบอกว่าเวลาซื้อมึงดูด้วยมันมีตำหนิไม่ใช่สักแต่อยากได้หรือซื้ออย่างเดียวไม่ว่าจะของตลาดหรือห้าง ผมเงียบเลยนึกว่ามันแกล้งผมซะอีก มันกินเก่งพอกับผมเลยเวลากินข้าวไม่มีวางท่ามันกินของมันเรื่อยๆ แต่ผมเกือบอารมณ์เสีย แม่ง ทั้งสาว เกย์ เสือกมามองของกูอยู่ได้ ผมทำหน้างอโดยไม่รู้ตัว มันก็ถามเป็นไรทำหน้ายังกับไปโดนตีนใครมา เลยสวนเข้าให้มึงนั่นแหละจะโดนตีนกู พี่เจตน์ก็โทรเข้ามาผมกดรับคุยมันตรงนั้นแหละอยากรู้ว่ามันจะมีปฏิกิริยาอะไรหรือเปล่า มันนิ่งกว่าที่คิดเลิกคุยมันก็ไม่ถาม กินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่แวบนึงสายตาที่มันมองทำเอาเสียวๆ มันยกยิ้มเฉย กูว่าถ้ามึงยิ้มอย่างนี้มึงถามกูเลยดีกว่า เออ ลืมถามมันเลยว่าทำงานพิเศษที่ไหน จะได้ตามไปแอบดู หุหุ

“กลับมาแล้วเหรอคะ คุณน้อง”เสียงป้านวลทักผมที่เข้าบ้าน เอื้อมมือจะรับไปเก็บให้ คนที่บ้านจะเรียกผมว่าน้อง เป็นคำแทนตัว ทางใต้ที่ใช้เรียกคนอ่อนกว่า

“ไม่เป็นไร น้องเก็บเอง”ผมบอกแกยิ้มอย่างอารมณ์ดี จนป้านวลแปลกใจที่ปกติผมจะส่งให้แกถ้าไม่มากหรือหนักจนเกินไป ก่อนที่พี่น้อยญาติป้านวลอีกคนที่เพิ่งมาอยู่ด้วยได้สองเดือนเอาน้ำตะไคร้มาวางไว้ให้ แล้วเดินออกไป

“นั่นแน่ ของสำคัญเหรอคะถึงได้หวงป้า”ป้านวลแซวยิ้มๆ แกไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นอะไร ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ป้านวลไม่เคยปริปาก

“ก็นิดหน่อย”ผมตอบยิ้มๆ รู้สึกเขินไม่มีสาเหตุ ยกน้ำขึ้นดื่มแต่มือยังไม่ปล่อย

“ไม่หายหรอกคะ กอดซะแน่นเลย ไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง”ป้านวลยังแซวต่อ

“ป้าอ่ะ ไปอาบน้ำดีกว่า”ผมบอกเขินๆก่อนจะผิวปากขึ้นบ้านไปอาบน้ำ หันไปป้านวลก็ยังทำหน้าแปลกใจไม่หาย ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว ผมก็หัวเราะเบาเบากับตัวเอง

“ค่อยสบายตัวหน่อย”ผมอาบน้ำเสร็จเดินออกมาพร้อมกับเช็ดหัว ก่อนจะพันเอาไว้ หยิบครีมมาทาหน้า ทาตัว เดินไปนั่งที่เตียงหยิบไอโพนขึ้นมาดู อีออย อีโมนิค กระหน่ำโทรเข้ามาแถมฝากข้อความไว้อีก ผมอมยิ้ม ก่อนจะดูไปเรื่อย อ้าวมันโทรมานี่หว่า ผมกดโทรกลับทันที แต่ไม่มีคนรับสาย กดอีก

“แม่งทำไรวะ”ผมบ่นมือก็กด สักพักก็รับสาย

“โทรมาทำไม”เสียงมันครับ ถามยังกับจะฆ่า นี่กูแฟนมึงนะ

“มึงนั่นแหละโทรมาทำไม”ผมก็เลยย้อนมัน

“กูกดผิด”ให้มันได้อย่างนี้สิ ตอบกูมาได้ “มีไรอีกมั้ย กูยุ่งอยู่”มันพูดต่อเมื่อเห็นผมเงียบ

“ไอ้ควาย”ผมด่าอย่างเหลืออด มันหัวเราะ

“ไอ้แรด”ก่อนจะเน้นเสียงด่า

“ไอ้เชี่ยะ”

“หึหึ”สองหึ กดวาง
 
“ไอ้บ้า มึงกดผิดแน่เหรอ”ผมว่ามันก่อนจะบ่น เหมือนจะน้อยใจมันทำไมไม่รู้ นึกว่ามันจะถามว่านอนหรือยัง ทำอะไรอยู่ ไอ้กาก สักพักมีข้อความเข้า ผมเปิดอ่าน ”พรุ่งนี้ไปรับตื่นช้าโดนถีบ” ผมปล่อยหัวเราะสุดเสียงเลยแทนที่จะโกรธมัน ผมเลยส่งกลับไปบ้าง “มาช้าโดนตีน” อิอิ

**********************************************************************************************

ออฟไลน์ ThiCha

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮ่าๆ น่ารัก พอกันทั้งคู่
ขอบคุณคนเขียนค่ะ :L2:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด