*
*
*
ตอนนี้เราอยู่ที่ วัดวังก์วิเวการาม เป็นวัดจำพรรษาของ”หลวงพ่ออุตตมะ”ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งกระเหรี่ยงและพม่าด้วย ภายในวิหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” ถ้าใครได้ไปก็ไปกราบเพื่อเป็นสิริมงคล ผมสองคนไหว้พระเรียบร้อยก็เดินชมบริเวณวัด ถ่ายรูปกันไปตามเรื่อง และไปนั่งเรือชมเมืองบาดาล ที่ถือว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์ สวยมาก เป็นวัดเดิมของวัดวังก์วิเวการาม ที่ถูกน้ำท่วมเมื่อหลายสิบปีก่อน เวลาน้ำลดทำให้เห็นโบสถ์ของวัด แต่ถ้าน้ำขึ้นจะเห็นเพียงยอดโบสถ์เท่านั้น ไอ้ฝิ่นตื่นเต้นมากมองอย่างกล้าๆกลัวๆ มันนั่งพิงเกาะผมแน่นเลยมันเคยมีประสบการณ์จมน้ำก็เลยค่อนข้างกลัว ถึงใส่เสื้อชูชีพมันก็ยังสั่นจนผมรู้สึกได้เลยกอดมันไว้ ทำให้มันคลายลงและเก็บภาพได้ต่อไป
“โอย ค่อยยังชั่ว”มันขึ้นฝั่งได้ถอนหายใจโล่งเลย
“ต่อไปเวลามึงดื้อพูดไม่รู้เรื่อง กูจะถีบมึงลงน้ำ”ผมบอกมันยิ้มๆ ทำเอามันหันมามอง
“แล้วมึงจะเสียใจ ที่เสียเมียคุณภาพดีอย่างกู เชี่ยะ”มันเดินมาด่าใกล้ๆหยิกผมพัลวันไปหมด ผมก็ปัดมือแกล้งเดินหนีมันทำเป็นไม่ได้มาด้วย มันก็เดินตามทั้งดึงมือดึงเสื้อ ปากก็หงุงหงิงไปเรื่อย จนผมต้องดึงคอมันมากอดและเดินต่อมันถึงเงียบ และที่สุดท้ายของวันนี้คือด่านเจดีย์สามองค์ เราเสียค่าผ่านด่านเข้าไปตลาดพญาตองซูเป็นที่จำหน่ายสินค้าจากประเทศพม่า ผมกับมันรวมทั้งคนไทยที่เข้ามาพร้อมกันก็เดินดูไปเรื่อย ไอ้ฝิ่นซื้อแป้งที่มันเห็นสาวมอญปะมันอยากได้บ้าง รองเท้าแตะเป็นกำมะหยี่ จนมันเดินมาหยุดร้านหนึ่งเหมือนร้านจำหน่ายเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลต่างๆ รวมถึงไม้แกะสลักสวยๆทั้งใหญ่เล็ก มันขมวดคิ้วมองขวดน้ำมันเล็กๆมีตุ๊กตาอยู่ในนั้น
“นี่เรียกอะไรวะ”มันหยิบขึ้นมาถามผม คนขายคงได้ยินหันมาบอกด้วยภาษาไทยชัดมาก
“อ๋อ รักยม ครับ”เขาพูดก็อธิบายสรรพคุณ ไอ้ฝิ่นก็ฟังอย่างสนใจ จนผมต้องเดินไปดึงมันออกจากร้าน แต่เราก็ซื้อของที่ระลึกเขามาด้วยจะได้ไม่ด่าตามหลัง
“มึงรู้จักไหม”มันเงยหน้าถามผม
“ไม่รู้ รู้แต่ว่า”ผมส่ายหน้าก่อนจะพูดแบบให้มันสงสัย
“อะไร”มันมองหน้าและถามอย่างที่คิดเอาไว้
“รักน้องคนเดียว”ผมพูดแล้วก็หันหน้าหนีมัน ๆ ที่อ้าปากหวอ ก่อนจะหัวเราะพรืดออกมา
“ฮ่าๆๆ หันหน้ามา เขินทำไม”มันเขย่งดึงหน้าผมให้หันกลับ เชี่ยะ คนยิ่งอายอยู่
“อะไรของมึง กูเล่นมุก มึงไม่เคยฟังเพลงรักน้องคนเดียวไง”ผมหันมาทำเสียงว่ามันให้รู้ว่าพูดเล่น
“ไม่เคยอ่ะ กูเกิดไม่ทัน หม้อกูก็บอกมาเถอะ ไม่ว่าหรอกกูชอบ เอาอีกๆๆ”มันก็ยังลอยหน้าลอยตาใส่ แบบชอบมากกกกก
“ชอบจังนะมึง เลี่ยนๆเนี่ยะ ทีกูเงี่ยนบ่นจัง”ผมผลักหัวมันไปมา มันหัวเราะคิกคัก
“อุ้ย อารมณ์เสีย กลับไปเดี๋ยวจัดให้น้า”มันทำเป็นแอ๊บพูดใส่
“มึงพูดจริง”ผมเลิกคิ้วใส่มัน
“อะไร กูเล่นมุก”มันก็ทำมั่งและเอาคำผมมาย้อน
“ไปเล่นที่ห้อง กูเอาจริง”ผมหรี่ตาใส่มัน
“ใครไปว่าอะไรล่ะ”มันอมยิ้มอายๆเดินหนี ผมก็เดินไปดึงมันมากอดคอ และเดินดูต่อ จนได้เวลาก็กลับที่พัก แต่ยังไม่ได้ทำอะไรกันหรอกครับ นอนพักผ่อนและก็ลงมากินข้าวที่รีสอทร์ชมบรรยากาศไปด้วย
“สวยมากเลย น้องอยากให้ปู่มาด้วยอ่ะ”เสียงมันคุยกับปู่มันอ้อนสุดๆ ปากก็กินไปด้วย”จริงๆ โธ่ ปู่ อย่าแซวสิ คริคริ”ไม่รู้ปู่พูดอะไรด้วยมันหัวเราะคิกคักถ้าผมไม่รู้นึกว่ามันคุยกับกิ๊กที่ไหนแน่ เคยมีโทรมาหามันสองสามคน เจอผมรับด่าเปิดเปิงไปหมด แต่ผมไม่ได้เหวี่ยงใส่เมียหรอก มันบอกตลอดและเบอร์มันก็ไม่เคยให้แต่พวกมันก็ยังสามารถ
“ครับ คิดถึงนะ จุ๊บุ๊ๆ”มันทำปากจุ๊บๆก่อนจะวางสาย มองหน้าผมยิ้มๆยกไวท์ขึ้นมาจิบ มองตาผมลิ้นเล็กก็เลียปากอารมณ์ไหนของมึงเนี่ยะ เมื่อกี้ยังเป็นเด็กขี้อ้อนปู่อยู่เลย คุยจบแปลงร่างเป็นแมวยั่วสวาทซะงั้น ดี กูชอบหลากอารมณ์ดี
“จะแดกไส้ไงเลียปาก”ผมพูดกวนๆใส่หน้ามัน แต่ที่จริงระงับอารมณ์ตัวเองด้วย มันหัวเราะเอามือลูบหน้าขาผมไปมา
“แดกคนนี้ได้ไหม”มันเท้าคางบนโต๊ะพูดใส่ยิ้มๆ
“เหมาทั้งคืนไหมล่ะ”ผมยักคิ้วถามมันกลับ มันไล่ขึ้นมาจับหน้าอก
“ไหวเหรอ ไวอาก้าไม่มีนะ”มันเลิกคิ้วมั่ง เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ขยับเข้ามาอีก
“ไวอากูก็พอแล้ว”ผมบอกเอามือบีบคางมันไปมา มันหัวเราะก่อนจะปรายตามองสักพักก็นั่งตัวตรง หน้าปกติ
“กรูปรี มองผัวกูตั้งแต่เดินเข้ามา นึกว่าไม่เห็นเหรอ”มันพูดจิกใส่สาวโต๊ะข้างๆที่ทยอยลุกไปแต่ยังหันมามองอึ้งๆ ถึงบางอ้อเลยมึงทำการแสดงตัวตน สามารถมากเห็นคุยกับปู่หัวเราะใสๆ แต่ตาไวเห็นเขามองกูที่ยังไม่รู้เลยว่าโดนมองตั้งแต่เมื่อไรกูเชื่อแล้วว่าสัญญาณเกด้าจับชะนีมึงแน่จริงๆ
“ทำการแสดง”ผมถามมันที่มองกลุ่มนั้นจนลับตา
“เขาเรียกแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ถ้าอยากก็จัดให้ได้”มันหันขวับมาพูดทันที ตรงๆ ผมส่ายหน้าขำมันเลย นี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่มันพูดเรื่องพวกนี้ได้หน้าตาเฉย แต่สายตาเชิญชวนสุดๆ ผมหัวเราะสองหึ มันก็ยักคิ้วใส่ ก่อนจะจิบกันต่อ มีฝรั่งมานั่งคุยด้วย ตอนแรกเหมือนจะถามที่เที่ยวก่อนจะแนะนำตัวกันตอนแรกคุยภาษาอังกฤษพอรู้เป็นคนอิตาเลี่ยน เปลี่ยนทันทีเพราะไอ้ฝิ่นถามมันว่ามาจากประเทศอะไร
“Salve ,sono Leo. ซาลเว โซโน เลโอ) (สวัสดี ฉันเลโอ) Piacere (ปิอาเชเร) ยินดีที่ได้รู้จัก”
“Salve ,sono Fin. ซาลเว โซโน ฝิ่น (สวัสดี ฉันฝิ่น) Piacere (ปิอาเชเร) ยินดีที่ได้รู้จัก” พูดเสร็จมันก็สัมผัสมือกัน ก่อนไอ้ฝิ่นจะแนะนำผม มันก็ยิ้มรับพยักหน้าเฉยๆ หันไปมองเมียกูต่อ
“Sei italiana ? เร ,เซ ย อิตาเลียนา คุณเป็นคนอิตาเลี่ยนรึเปล่า” (ไอ้เลโอ ไอ้ฝรั่งเชี่ยะ)
“No, sono thailandese? โน โซโน ไทลานเดเซ, ไม่ใช่ ฉันเป็นคนไทย” (เมียกูเอง) ไอ้ฝิ่นหันมาแปลให้ฟังคร่าวๆก่อนไอ้นั่นจะถามอีก ไปๆมาๆส่งสายตาจีบเมียกูซะงั้น เดี๋ยวมึงจะโดนดอง เมียก็คิกคักคุยออกรสมาก ภาษาอิตาเลี่ยนคล่องปากเลย ผมเหลือบตามองก่อนจะจับมันหันมาจูบแม่งเลย ไอ้ฝิ่นยังงงอยู่ก่อนจะตั้งสติได้ก็จูบกลับไล่สอดลิ้นให้วุ่นไปหมด ไอ้นั่นยิ่งอึ้งหนัก ผมผละออกพูดใส่หน้ามันเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าไม่เข้าใจกูจะเว้าภาษาบ้านกูเลย
“My baby don’t come to confuse”นี่เมียกู อย่ามายุ่ง ผมบอกอย่างสุภาพแต่แปลแบบสถุล มันทำหน้าอย่างคาดไม่ถึง หันไปมองไอ้ฝิ่นที่ยิ้มหวาน
“Yes it real”เออ มันพูดจริง เมียผมบอกอีก มันยักไหล่ ทำหน้าบ่นพึมพำเสียดาย ก่อนจะขอตัวลุกไป ผมมองหน้ามัน
“จะลองหอเอนปิซ่าไง”ผมเหน็บมัน ที่มองสบตาไม่หลบ เอามือลูบอก ก่อนจะไล่ลงต่ำ
“เอ็นไม่เอนนี้ดีกว่าเยอะ”มันกระซิบบอกและจูบปิดปากอีกที เริ่มกรึ่มทั้งคู่ แต่วันนี้ส่วนใหญ่ต่างชาติเยอะ ตรงที่ผมนั่งก็ลับตาพอสมควร ก่อนจะกินต่อมันก็เอาใจผมตลอดเพราะรู้ว่าผมเริ่มอารมณ์เสียและอาจลุกไปไล่กระทืบไอ้หอเอนนั่นไม่กล้ามาเที่ยวเมืองไทยอีกก็ได้
*
*
*
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเกือบใกล้รุ่งแล้วล่ะ หันไปมองข้าง ๆ เมียหาย ก่อนจะไล่สายตาไปก็เจอกองอยู่ข้างที่นอน หัวไปทางขาไปทางถ่างสุดๆ มองเห็นยันข้างใน ผมส่ายหน้าลุกไปลากมันขึ้นมานอนที่เดิม อย่างที่บอกมันนอนดิ้นมาก เมื่อคืนก็กะจะทำกันนั่นแหละ แดกไวท์เพลินทั้งคู่ ถึงห้องจำได้ว่าจูบกันไปมาล้มใส่ฟูกเลื้อยกันสักพัก ก็เงียบกริบทั้งคู่ สรุป เมา ดีนะผมล็อคประตู สะบัดหัวไปมาก่อนจะมองหน้ามันที่หลับอุตุ แก้มใสๆปากแดงๆ น่าฟัดฉิบหาย แล้วก็หอมซะ ไซ้ไปมามันก็เริ่มฮึดฮัด
“อื๊อ น้องนอนก่อน”เสียงมันอู้อี้”อย่าจับจู๋นะ”มีการสั่งอีก ผมยกยิ้ม จูบปากเบียดไปมาจนมันเปิดปากเริ่มโต้ตอบตามความเคยชิน มือลูบทั่วผิวเนียนนุ่ม เลิกเสื้อยืดตัวใหญ่ ขมเม้มยอดอกสีทับทิมที่รอรับ
“อ๊า อ๊ะ”เสียงครางจากปากที่เผยอ แอ่นเข้าหามือเล็กขยุ้มหัวให้แนบไปอีก ผมดูดดุนส่งลิ้นตวัดรัวช้าเร็วจนเริ่มเป็นไต อีกข้างก็โดนบี้ปลอบใจไปก่อนจะทำเหมือนกัน
“ขี้เซา ตื่นมารับโทษเลยนะ”ผมดูดขบเม้มจนแดงทั้งสองข้างเป็นที่พอใจ จึงผงกหัวขึ้นไปพูดชิดปากที่เผยออยู่ ตาเริ่มขยับเปิดแต่ยังปรือเซ็กซี่อยู่
“น้องทำผิดอะไรอ่ะ”มันถามออกมาหน้าโคตรยั่วเลย มือก็ลูบหน้าผม
“อ่อย”ผมพูดสั้นๆ มันอมยิ้ม
“มั่วแล้ว มาเองเห็นๆ อื๊อ”มันบอกก่อนจะกัดปากเมื่อโดนไซ้และกัดซอกคอเบาๆพอเกิดรอย
“แล้วคุยกับมันทำไม”ผมถามมันอีก มือก็ดึงกางเกงผ้ายืดตัวจิ๋วแค่คืบออกจนพ้นข้อเท้า ขาขาวก็ตวัดรัดรอบเอวทันที
“ก็น้องไม่ได้เป็นใบ้นิ”มันย้อนยิ้มๆ เบียดตัวเข้าหาให้แนบชิดกันมากขึ้น
“เหรอ งั้นก็ครางดังๆนะ”ผมบอกแบบคาดโทษคนปากดีที่นอนยิ้มแฉ่งมากกว่าจะกลัว เอื้อมมือลงไปจับเป้าผมคลึงไปมา
“รอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ลุกช้าจัง”มันพูดยั่วท้าทาย ชะโงกมาจูบปิดปาก มือก็ล่นกางเกงผมออกบ้าง เสียดสีกันไปมา ผมยิ้มก่อนจะจูบมันทั้งตัวอย่างหมั่นเขี้ยว แทนที่มันจะร้องห้ามกลับหัวเราะคิกคัก “จั๊กจี๊อ่ะ” พูดไปก็บิดไป จะยั่วกูไปถึงไหน แม่ง
“เฮ้ย อย่าบิดอย่างเดียว ครางให้ได้ยินด้วย”ผมตบก้นมันอย่างหมั่นไส้
“ก็มันไม่เสียวอ่ะ น้องจะครางได้ไงล่ะ”นั่น มีการยั่วยุกามารมณ์เพิ่มอีก ท้าทายมาก ยักคิ้วส่งให้ ตีนนิ่มก็ไล้ขาผมไปมา ผมเลยเริ่มไล่จูบตั้งแต่ปาก คอ หน้าอก พอถึงที่หมาย ค่อย ๆ ก้มลงไปใช้ลิ้นเลียวนเบา ๆ ก่อนจะครอบปากลงไปดูดรัดละเลงลิ้นรัวเร็ว มันเริ่มบิดตัวส่ายไปมา ผมดูดรัวเร็วและแรงสลับกัน มือทั้งสองบีบเคล้นหน้าอกเบา ๆ ก่อนจะไล้นิ้ววนไปหยอกล้อกับติ่งไตสีชมพูบนยอดอก ปากขยับขึ้นลงตามจังหวะ ลิ้นก็ตวัดไปยังส่วนที่ไวต่อสัมผัส เร็วขึ้นแรงขึ้น ดูดและขบเม้มสลับกัน
" ซี๊ดดด อ๊ะ อ๊าาาส์ " ไอ้เมียตัวดีส่งเสียงครางกระเส่า ทำให้อารมณ์ผมกระเจิดกระเจิง ผมยิ่งเน้นรัวหนักขึ้นไปอีก ดูดแรง ๆ แล้วขบเม้ม ตวัดลิ้นไปที่ปลายหนอนน้อยของมัน
" อ๊า พี่ไผ่ พี่ไผ่ " มันร้องและบิดตัว ขยับสะโพกขึ้นลงส่ายไปมา ผมเร่งความเร็วถี่ ๆ มันก็ยิ่งเด้งสะโพกรับตามจังหวะ
" อ๊ะ อ๊าาา อ๊าาาส์ เสียว พี่ไผ่ อ๊ะ อื้อ "เมียตัวดีครางดังขึ้นมือจิกไหล่ก่อนจะคูดไปตามหลับ พร้อมกับสะโพกที่เด้งขึ้นเด้งลงสวนกับปากของผมที่ดูดและลงลิ้นรัว ๆ เอามือจับหัวผมโยกขึ้นลงเร็ว ๆ ตามความเสียว ผมก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและดูดตอดให้หนักขึ้น มันก็เด้งสวนมาเร็ว ๆ ก่อนจะครางดัง ๆ แล้วกดหน้าผมแนบลงไปกับแก่นกายแล้วกระตุกเฮือกอยู่สองสามทีก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเต็มปากนอนหายใจหอบแลบลิ้นเลียปากส่งสายตามองผมที่เลียไล่เก็บทำความสะอาดให้
“เป็นไงล่ะจั๊กจี๊ดีไหม”ผมถามมันที่หน้าเคลิบเคลิ้ม จนอยากจะเอาลำไผ่เข้าไปสั่งสอนมันสักหน่อย ยั่วดีนัก
“ยังไม่หายคันเลยอ่ะ”มันยังไม่เลิกยั่วลอยหน้าใส่ มันเริ่มจะเป็นเกาหลีครับตระกูลวอนด้วย ผมแสยะยิ้ม มันก็ทำมั่ง ผมเลยเริ่มปลุกและจูบมันใหม่ มือก็ขยับคลึงหนอนมันที่ยังไม่อ่อนตัวซะทีเดียว วอนเหมือนเจ้าของมันไม่มีผิด
" อ๊ะ พี่ไผ่ อ๊าาาส์ "เสียงหวานเรียกผมที่เริ่มซุกไซร้ไปตามซอกคอ มือก็คลึงหน้าอกมันเบา ๆ ปากก็ก้มลงมาประกบจูบแล้วแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ผมลากลิ้นไล่ลงไปตามหน้าท้องก่อนจะหยุดไล้ลิ้นวนตรงจุดกึ่งกลางที่ตอนนี้มันตั้งชูชันขึ้นมาตามอารมณ์ ครอบลงบนแก่นกายก่อนจะดูดและขบเม้มเบา ๆ แล้วรูดปากขึ้นลงเจ้าของมันก็ขยับสะโพกตาม
" อ๊าาาส์ อ๊ะ อ๊ะ "ลิ้นเริ่มละเลงรัว ๆ ก่อนที่อีกมือจะสอดใส่นิ้วไปที่ทางรักเพื่อเปิดทาง ตอนนี้ผมเล่นไอ้เมียปากดีทั้งข้างหน้าและข้างหลังก่อนจะถอนปากออกจากแก่นกายแล้วไปใช้ลิ้นเล่นกับลูกพวงสีชมพู มือมันก็กำแก่นกายผมรูดขึ้นรูดลงเป็นจังหวะ เจ้าตัวดีก็เด้งสะโพกไปตามจังหวะอารมณ์ พอเริ่มได้ที่ผมจับมันหันหลังยกสะโพกจนเห็นช่องทางผมค่อยๆสอดดุ้นไผ่ที่ลำไม่เอนเข้าทางรักที่ตอดรับสอดเข้าสอดออกจนมันเข้าไปมิดแท่ง คนร่างขาวแหงนหน้าร้องออกมาผมโน้มตัวไปจูบปากให้ผ่อนคลายจึงเริ่มซอยเข้าซอยออกถี่ ๆ รัว ๆ เสียงหายใจอย่างคนหอบเหนื่อยดังระงมปนเปไปกับเสียงคราง
" อ๊ะ อ๊าาาส์ อ๊าาาส์ พี่ไผ่ พี่ไผ่ "มันทั้งร้องทั้งเรียกชื่อผมยิ่งกระตุ้นให้โหมจนหัวสั่นหัวคลอน ถ้าเป็นเตียงคงดังลั่นไปแล้วล่ะ แต่ผ้าปูก็ย่นไปตามแรงกระแทกกระทั้นเหมือนกัน
" อา อืม ฝิ่น ฝิ่น" ผมกระซิบครางกระเส่า ก่อนจะจูบที่หลังใบหูแล้วเร่งจังหวะ พอใกล้ผมก็ถอดออกจับมันพลิกหงาย เพื่อที่จะมองหน้ามันให้ถนัด มันปรือตาเอานิ้วใส่ปากดูดไปมา อีกมือก็เอื้อมมาจับของผมให้สอดเข้าไปในตัวมันอีก ปากก็ยิ้มอย่างได้ใจที่มันรัดผมซะหน้าเหย
“อา อา ฝิ่น กรอด”ผมกัดฟันเลยครับ เมื่อโดนมันแกล้งบ้าง แถมขยับตัวเข้าออกช้าๆ จับรูดไปมาราวกับให้ผมร้องขอ
“น้อง ใส่นะครับ”ผมร้องขอมันจนได้ เจ้าตัวยิ้มได้ใจ จับใส่เข้าไปสุดลำ ผมก็ขยับซอยเข้าออก ขาขาวที่ยังมีคราบอยู่แยกออกกว้างเพื่อให้แนบกันสนิท ก่อนมันจะเป็นฝ่ายพลิกตัวผมไปอยู่ข้างล่างและคุมเกมซะเอง มือจับหน้าอก ยกสะโพกขึ้นลง ผมก็สวนรับให้สอดคล้อง เสียงครางระงมแยกไม่ออกแล้วว่าของใคร อย่าได้สนครับ
" อ๊าาาส์ พี่ไผ่ จะไป อ๊าาาส์ " ผมใกล้จะไปถึงฝั่งทุกทีที่ได้ยินเสียงคราง ก่อนเราจะเร่งความเร็วมากขึ้น
" อืม อีกนิด อา อา ฝิ่น ฝิ่น "มันขยับวนส่ายจนกระตุกสองสามทีปล่อยน้ำอุ่น ๆ บนหน้าท้อง ผมพลิกมันลงมาขยับโยกเจ้าตัว ร้องสุดเสียงเล็บจิกไหล่ผมแน่นข้างในก็ตอดรัดสุดท้ายขยับอีกสองสามครั้งผมก็ถึงฝั่งทำเอานอนหอบกอดรัดจูบกันไปมา จนหายเหนื่อยแต่ยังหอบหน่อยๆ ผมผละออกจากปากนุ่มที่เผยอสูดอากาศ
“เพราะไหม”มันถามผมตาเยิ้ม
“อีกได้ป่ะ ไม่ได้ฟัง มัวแต่ลงโทษคนปากดีช่างยั่ว”ผมยิ้มกริ่มจูบหน้าผาก ไรผม มันหรี่ตาใส่
“น้องจะได้ไปเที่ยวไหมเนี่ยะ หืม”มันจูบปากพร้อมกับถามผม ทำท่าเป็นถามเหมือนไม่อยาก แต่ข้างในกลับตอดรัดเรียกร้องซะงั้น ผมบีบก้นมันเอาไว้เป็นเชิงให้มันหยุดก่อน
“พรุ่งนี้ค่อยไป อยากรักน้อง นะ”ผมกระซิบข้างหูเป่าลมใส่ เจ้าตัวก็หัวเราะ ไม่พูดแต่ตอบรับด้วยอย่างอื่นแทนผมชอบที่มันเป็นแบบนี้แสดงความรู้สึกในสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่มีปิดบัง ทั้งยั่วทั้งอ่อยสรรหาวิธีมาเร้าอารมณ์ผมอยู่ตลอด บางทีผมแกล้งว่ามันๆก็ย้อนใส่ว่าผมเป็นผัวมันหรือเปล่าล่ะถ้าไม่ใช่จะได้ไปทำใส่คนอื่น หึ พูดจบมันก็โดนซะ และเวลาเขินอายก็ไม่ได้แอ๊บแต่เป็นไปตามกลไกของหัวใจและสมองมัน ผมยิ้มและเริ่มล้างหน้าเป็ดทั้งเล้าใหม่ เป็นการต้อนรับแสงอรุณที่เริ่มส่องผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาแต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราที่เริ่มกันอีกครั้ง และอีกไม่รู้กี่ครั้ง จำได้ครั้งสุดท้ายก็กอดรัดกันไปมาหลับไปไม่รู้ตัว รู้แต่ว่ามีความสุขมากถึงมากที่สุด
*********************************************************************************************
ปล.ผ่านดราม่า ฮา ก็หื่นต่อแต่ที่จริงสนองความต้องการตัวเองล้วนๆ ฮ่าๆๆๆๆ ใครเบื่อหรือไม่ชอบก็ต้องชอบ หุหุ ขอบคุณทุกอ่านทุกเม้นท์เช่นเคยคะ ช่วงนี้มาช้าไปบ้างอย่าเพิ่งเบื่อหรือหนีนะคะ งานเข้า อ่านแล้วอ่านอีกได้คะ 555
**ถ้าผิดพลาดตรงภาษาต่างประเทศขอโทษด้วยคะ บอกได้นะคะ