“ออย อาทิตย์หน้าว่างไหม”อยู่ๆมันก็ถามออกมา ระหว่างที่นั่งกินข้าวตรงร้านข้างทาง ที่อร่อยและสะอาดไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไร ผมมองหน้ามันทำหน้าคิดไปด้วย
“ยังไม่รู้เลย วันไหนล่ะ”ผมตอบอย่างไม่แน่ใจก่อนจะถามกลับ
“วันเสาร์ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ว่าง”มันบอกและมองหน้าอย่างมีความหวัง
“ทำไมเหรอ”ผมถามมัน
“จะชวนไปทำบุญ”มันบอกด้วยรอยยิ้มดูมีความสุขผิดปกติ
“วัดแถวไหน”ผมถามมัน
“ไม่ใช่ที่วัดหรอก”มันพูดและตักแกงเทโพใส่จานให้ผม
“แล้วที่ไหนวะ”ผมถามอีก ไม่ทำที่วัดและจะทำที่ไหน สมองตันนึกอะไรไม่ออกเลยตอนนี้ เมื่อวานไอ้ตฤณโทรมาหาผมพยายามพูดอยู่นั่นแหละเหมือนจะขอโทษวกไปวนมา ผมเลยสรุปให้ว่า ไม่ต้องมาคุยกูมีพี่น้องกับเพื่อนเยอะแล้ว
“ออยว่างก่อน แล้วจะบอก แต่ถ้าไม่ว่างเราจะเลื่อนไป ชวนฝิ่นกับแฝด ต้าร์ หรือเพื่อนคนอื่นๆของออยด้วยก็ได้”มันบอกและมีข้อเสนอให้ด้วย
“เฮ้ย ถ้าต้องเลื่อนเพราะรอกูอย่าเลย มึงทำไปก่อนเถอะ ทำบุญกับกูไว้วันอื่นก็ได้”ผมพูดกับมันอย่างเกรงใจ ไม่คิดว่ามันจะให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้
“ไม่ได้ เป๊บอยากให้ออยกับเพื่อนๆไปด้วย ไม่รู้ล่ะเป๊บจะเอาออยไปด้วย”มันส่ายหน้าทำตัวเป็นเด็กดื้อขึ้นมาทันที
“ทำบุญอะไรของมึงวะ มีการบังคับอีก ไม่ได้บุญนะมึง กูจะบอกให้”ผมส่ายหน้าพูดใส่มันที่นั่งอมยิ้มไม่รู้สึกกับการแช่งมัน
“เถอะน่า อย่าลืมชวนเพื่อนๆด้วยนะ”มันยังยืนยันคำเดิม
“เออๆ จะลองชวนพวกมันดูแล้วกัน แต่หมายถึงถ้ากูว่างนะ”ผมตอบรับแต่แอบแทงกั๊กนิดหน่อย เผื่อเจ๊แอมให้ไปช่วยงานมันและเป็นงานได้เงินด้วย งานบุญผมก็ไม่ได้เกี่ยงที่จะทำ ยิ่งทอดผ้าป่าทอดกฐินที่บ้านผมทำบ่อย พวกเพื่อนๆผมก็ไปด้วยตลอดถ้าไปได้
“ขอบใจนะ ลิ้งค์”มันพูดและยิ้มหวาน
“ลิ้งค์อะไรของมึง”ผมถามมันงงๆ หน้ากูขึ้นเว็บไซด์หรือไงวะ
“ก็ลิ้งค์ของเป๊บไง มาจากดาร์ลิ้งค์อ่ะ ชอบป่ะ”มันพูดหน้ายิ้มๆตาระยิบระยับต่างจากทุกที มุกเก่าน้ำเน่ามันยังขุดเอามาใช้
“เชี่ยะเป๊บ กูไม่อยากจะแหวะออกมาตอนนี้”ผมด่ามันแก้เขินก่อนจะก้มหน้ายัดข้าวเข้าปาก มันก็หัวเราะน้อยๆ
/
/
/
“อีฝิ่น เสาร์นี้มึงว่างป่ะ”ผมถามมันคนแรกเลย ทั้งที่ความน่าจะเป็นมันน้อยมาก ขลุกอยู่แต่กับผัว
“เสาร์นี้เหรอ ไม่แน่ใจว่ะ เดี๋ยวกูถามไอ้ไผ่ก่อน”มันทำท่านึกก่อนจะตบท้ายขออนุญาตผู้ปกครองมัน มึงไม่น่าคิดนานเลยนะ
“แรดดดดด ติดจังนะผัวมึงเนี่ยะ ห่างกันสักพักมีเวลาให้กูบ้างได้ไหม ห๊ะ”ผมเอานิ้วจิ้มๆๆๆหัวมันที่หัวเราะคิกคัก
“ฮ่าๆๆๆๆ ดอกกก พอแล้ว”มันเอามือปัดไปมาพูดขำๆ “กูพูดไปงั้นแหละ ทำอย่างกับทุกวันนี้กูไม่ไปไหนด้วย”
“กูว่าจะชวน เฮ้ย ไอ้สามผัวเมีย มาเร็วๆ กูมีเรื่อง”ผมกำลังจะบอกอีฝิ่น พอดีไอ้แฝดกับไอ้ต้าร์เดินมาพอดี
“ออยตะโกนอะไรไม่รู้ อายนะโว้ย”ไอ้ต้าร์เดินมาถึง บิดแขนผมเข้าให้
“อายเชี่ยะไร มึงน่าจะชินได้แล้วนะ คบเพื่อนกูต้องหน้าหนาเข้าไว้”ผมเลยจิกหัวมันไปอีกคน
“ใช่”ไอ้สองตัวเห็นด้วยกับผมเลยโดนทุบไปซะสองอึก
“ว่าแต่มีเรื่อง ใครทำออดี้ บอกมา”ไอ้โอมถามหน้าจริงจังมาก
“เออ คณะไหนวะทำเพื่อนกู”ไอ้อาร์มสเอาบ้าง
“คณะเราเนี่ยะแหละ”ผมบอกพวกมัน
“ไอ้ตฤณยังไม่เลิกอีกเหรอ”อีฝิ่นถามผมหน้าเอาเรื่องมาก ผมเล่าให้มันฟังในวันที่ปรึกษามันเรื่องไอ้เป๊บขอคบ มันโมโหมากพอกับไอ้แฝด แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าไม่ต้องไปจัดการหรอก มีคนจัดให้มันไปแล้ว พวกมันถึงได้เลิกและบอกว่าให้ลองคบมันไปเถอะ ดูๆกันไป
“เลิกแล้ว แต่เป็นไอ้เป๊บ”ผมรีบบอกมันแต่ยังไม่หมดดี
“อะไรวะ คบกันไม่เท่าไรมันซ้อมมึงเหรอ”อีฝิ่นจับไหล่ผมเขย่าไปมา ถามเสียงดัง
“แม่ง กูนึกว่าจะดี เหี้ยะ”ไอ้แฝด
“ใจเย็นเราว่า เป๊บไม่ใช่”ไอ้ต้ารรีบปรามอ้าปากบอก
“อย่ามาเข้าข้างนะ ถึงเป็นเพื่อนแฟนถ้าทำเพื่อนเราเจ็บ ก็เจ็บได้”ไอ้โอมหันไปพูดกับไอ้ต้าร์ที่อ้าปากหวอ
“ยกเว้นแฟนที่จะไม่เจ็บ”ไอ้อาร์มสพูดต่อไปอีก ไอ้ต้าร์ส่ายหน้าเอือม หันมามองผม
“เอ้อ พวกมึงฟังกูก่อน ไอ้เป๊บมันไม่ได้ทำอะไรกูหรอก ขอโทษที่กูพูดไม่จบ พวกมึงฟังนะ มันให้กูชวนพวกมึงไปทำบุญแต่ไม่รู้ว่าที่ไหนเนื่องในโอกาสอะไร กูก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่ามันอยากให้กูว่างและชวนพวกมึงๆๆๆๆ ไปด้วย นี่กูก็เพิ่งโทรชวนอีโมนิค อีหยี อีจ๋า มาแล้ว แต่พวกมันจะให้คำตอบใกล้ๆ โอนะ เอิ๊กกกก กูจะเป็นลม ขอน้ำผู้ชายหล่อๆให้กูหน่อย”ผมพูดอธิบายให้พวกมันฟังเหยียดยาวหายใจทางผิวหนังเลยก็ว่าได้ ก่อนจะยกขวดน้ำดื่ม
“สตอออออ นะมึง ยังมาเล่นมุก เดี๋ยวตบหัวทิ่มให้พวกกูเข้าใจผิดมัน”อีฝิ่นมันไม่ได้พูดอย่างตบหัวผมเข้ามาได้จนน้ำกระเด็นออกมาจากปาก
“แค่กๆๆๆๆ สัด กูสำลักหมด”ผมหันไปด่ามันที่ทำหน้าชอบใจ อีซาดิส
“ทำบุญอะไรวะ มึงเป็นแฟนประสาอะไรไม่ถามให้ละเอียด”มันถามย้ำความซึนผมอีก
“กูถามแล้วมันไปบอก สงสัยมันจะเซยิดตัวเองมั้ง”ผมเลยบอกกลับ มันก็ทำเป็นเอามือลูบน้ำลายจากหน้ามัน
“เป๊บอาจจะอยากเซอร์ไพรส์ออยละมั้ง”ไอ้ต้าร์ออกความเห็นที่น่าจะเป็นไปได้
“เออ อาจจะใช่ แต่ทำไมต้องชวนเพื่อนด้วยวะ”ไอ้โอมเห็นด้วยกับแฟนมัน
“วันเกิดมันเปล่าวะ”ไอ้อาร์มสพูดมั่ง ทุกคนเลยมองหน้ากัน
“ไม่แน่นะ”อีฝิ่นพูดมั่ง
“พวกมึงว่าไงล่ะ”ผมถามพวกมัน
“พวกกูไม่ทำไมหรอก สำคัญที่ตัวมึงว่างหรือเปล่า เพราะคนที่มันอยากให้ไปด้วยคือมึงนะออย”อีฝิ่นพูดและตบไหล่ผม
“แต่มันก็ชวนพวกมึงด้วยนะ มึงชวนผัวมึงกับเพื่อนๆแกด้วยก็ได้”ผมก็ยังอยากให้พวกมันไปด้วยอยู่ดี ไม่ใช่อายหรืออะไรหรอก คิดว่าเป๊บมันคงอยากรู้จักสนิทให้มากกว่านี้มั้ง พวกผมมองหน้ากันและก็คิดสักพัก
“เอางี้แล้วกัน วันศุกร์สรุปอีกทีว่ายังไง”ผมบอกออกไปไม่งั้นก็ไม่ได้ข้อสรุปสักที พวกมันก็พยักหน้าและก็คุยกันสัพเพเหระ
****วันเสาร์****
สรุปตอนนี้พวกผมมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยครับ
“โฮ่งงงงงงงง โฮ่งงงงงงงงงงง”คำทักทายแต่ไม่ใช่พวกเดียวกัน
“บรู๊ววววววววววววว”พวกกูไม่ใช่ผี
“เมี๊ยวววววววววววว”ไม่ได้มายั่วสวาท
“ผัววววววววววว”กูไม่ได้เอาผัวมึงไป
“เงียบกันก่อนนะครับ วันนี้พี่เป๊บพาเพื่อนมาด้วย มาๆๆ ไม่ต้องกลัวครับ เด็กๆที่นี่ฉีดยาหมดแล้วทุกตัว”เสียงพี่ผู้ชายที่น่าจะเป็นเจ้าของสถานที่ และมีอีกสามคน เป็นผู้ชายหนึ่ง ผู้หญิงสอง ยืนยิ้มให้พวกเรา
“สวัสดีครับ”พวกผมยกมือไหว้พี่แก ก่อนจะมองไปรอบๆ ก็เห็นกรงใส่สัตว์ที่ได้ยินในตอนแรกเยอะมากครับ กรงสุนัขประมาณ 40 กรง อยู่กรงละตัวไม่แออัด กรงแมวอีก 30 กว่าได้มั้ง ผมเดาๆ ชะนีอีกสี่ตัว นกก็มี เนื้อที่กว้างมาก สถานที่ก็อยู่ห่างจากชุมชนพอสมควรรอบข้างปลูกต้นไม้เต็มไปหมด
“ออย เพื่อนๆ พี่ๆครับ ที่เป๊บบอกว่าจะพามาทำบุญก็คือที่นี่แหละ เป๊บรู้จักและมาที่นี่ได้สามปีแล้ว ที่นี่เป็นที่พักพิงสัตว์ที่กำพร้าพ่อแม่ ถูกทิ้ง ถูกทารุณ และอีกหลายๆสาเหตุ เท่าที่พวกพี่ๆที่นี่จะดูแลได้ พี่อรรถเป็นสัตว์แพทย์ พี่หญิง พี่อิง พี่ชาติ เป็นอาสาสมัครครับ”เป๊บพูดกับผมและคนอื่นๆ ฝิ่นมันชวนพี่ไผ่มาด้วย และเพื่อนแกก็เลยมาด้วยกัน โมนิค หนูจ๋า ยาหยี ยืนดูกรงแมว ผมเห็นแล้วอึ้งไปเหมือนกัน สัตว์แต่ละตัวสะอาดแต่สภาพร่างกายได้รับบาดเจ็บ จนถึงพิการเลยก็มี หมาเรียกง่ายๆดีกว่ามีทั้งพันธ์ทางและพันธ์ดีก็มี รวมไปถึงแมวด้วย
“อุ้ย หน้าเหมือนมึงเลยอ่ะ”อีโมนิคครับ ชี้หน้าชะนีและชี้หน้าผม
“โน่น พวกเดียวกับอีจ๋า อีหยี โน่น”ผมเลยโยนไปให้นังสองคนที่เพลินอยู่ อีสองคนเบะปากแต่แอบยกตีนให้
“ไม่มีเพื่อนไอ้เจย์วะ”พี่หวายพูดออกมา พี่เจย์หันไปมองว่าไอ้นี่จะว่าอะไรกูอีกล่ะ
“นั่นดิ”พี่บลูเหมือนจะรู้อยู่แล้วพูดยิ้มๆ อยู่ข้างพี่พายที่อุ้มแมวขาเป๋อยู่ มันน่ารักมาก ไอ้แฝดกับไอ้ต้าร์สนใจหมาที่กำลังตะกายกรงเหมือนจะเรียกให้เปิดให้ แต่พี่ๆบอกยังไม่ถึงเวลาเดินเล่น ต้องแบ่งเวลาปล่อยพวกมัน ไม่งั้นดูแลไม่ทั่วถึง
“มันไม่มาหรอก เพราะสิงอยู่ในตัวพวกมึงนั่นแหละ ไอ้เหี้ยะ”พี่เจย์ตอบเอง แต่พูดเบาๆเน้นๆในตอนท้าย ทำเอาขำกัน ก่อนจะไปช่วยยกถุงอาหารสัตว์และของใช้ต่างๆลงมา ตอนแรกมันแวะไปเอาของ ผมก็เอะใจกันนะ จนถามมันตรงเลยๆมันก็บอกจะเอาไปเลี้ยงสัตว์ พวกเราก็เลยสมทบทุนช่วยด้วย ผมบอกน่าจะบอกแต่ทีแรก มันบอกว่ากลัวผมจะไม่มา และอย่างที่คิดวันนี้เป็นวันเกิดมัน เพื่อนมันอีกสองคนที่มาด้วยก็แซวว่ามันกลัวแฟนรับไม่ได้ เลยโดนวี๊ดวิ๊วซะ ผมเขินเป็นเหมือนกันนะถึงจะหน้าหนาในบางทีก็เถอะ
“พี่ เอาไปเลี้ยงได้ไหม”ไอ้ฝิ่นหันไปถามพี่ไผ่ที่กำลังตักอาหารใส่ชามและยื่นใส่กรง มันเข็นรถตามด้วย รู้สึกจะสับตำแหน่งกันนะผมว่า
“มึงรับผิดชอบตัวเองให้ดีก่อน เอาไปก็เป็นภาระคนที่บ้าน”พี่ไผ่บอกมันเรียบๆไม่ใช่แกใจดำ มันทำหน้านิดหนึ่งก่อนจะเข็นต่อ ผมเห็นด้วยนะ พี่หญิงบอกว่าบางคนพอรู้ว่าที่นี่รับเลี้ยงเอามาทิ้งไว้ให้เลย บอกไม่มีเวลา เข้ากับสัตว์ตัวเดิมไม่ได้ ต้องย้ายไปโน่นไปนี่ สารพัดจะอ้าง ตอนแรกไม่คิดให้ได้อย่างนี้ก่อนจะได้ไม่เกิดปัญหา บางเดือนค่าใช้จ่ายก็สูง แต่ยังดีที่ตอนนี้มีมูลนิธิและองค์กรที่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทำยื่นมือมาช่วย บางทีก็มีคนใจบุญมาขอไปเลี้ยง พวกแกก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าไปแล้วพวกมันจะได้ไปอยู่ที่กับคนที่ดีจริงๆ เท่าที่ให้ไปก็ยังไม่เคยมีปัญหานะ พวกพี่ๆจะขอที่อยู่ไว้ด้วย และมีการไปเยี่ยม อาจจะยังไม่เป็นทางการมากนักแต่ถือว่าพวกแกทำได้ดีเลยครับ อย่างน้อยก็เป็นการช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ที่ไม่สามารถไปเรียกร้องกับใครได้ ว่าพวกมันเจ็บปวดแค่ไหนเวลาถูกทิ้งไม่มีคนใส่ใจ นึกถึงเวลาที่ตัวเองโดนทิ้งยังเสียใจเลย แต่โชคดีที่เรามีเพื่อนที่ดีคอยปลอบใจ มีครอบครัวเป็นกำลังใจให้
“ออยดูนี่สิ ขนุนจะคลอดแล้ว”เสียงเป๊บเรียกผมให้ไปดูหมาท้องแก่ที่แอบซุกตัวอยู่มุมหนึ่ง พวกเราก็เลยไปซุ่มดูเกิดมาไม่เคยเห็นครับ พี่ชาติตั้งกล้องแอบถ่ายมันเอาไว้ด้วย ก่อนจะถอยกันออกมาเป็นกำลังใจให้ หลังจากนั้นพวกเราก็ช่วยกันทำความสะอาดกรง มีคนมีอีกเกือบสิบคนเป็นนักศึกษาเหมือนพวกเรานี่แหละครับ ถ้าว่างก็จะมากัน ก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้น พวกเราสนุกและรู้สึกดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการมาครั้งนี้
“เป๊บ ถ้าคราวหน้ามาอีกก็บอกนะ”ผมบอกมันที่ตอนนี้กำลังอาบน้ำให้หมาตัวโตอยู่ ส่วนผมก็อาบเจ้าตัวเล็กๆ มันก็ยิ้มให้ยังไม่ทันจะตอบกลับ ก็คลื่นแทรก
“กูเห็นแล้วก็อยากเอาไปเลี้ยงนะ ดูน่าอุปถัมภ์มากกว่าไอ้ผู้ชายเลวๆอีกว่ะ”อีโมนิคที่นั่งข้าง มือก็รับไปเช็ดพูดเปรียบขึ้นมาเป็นที่ถูกอกถูกใจมาก
“น่าสงสารว่ะ ตัวก็แค่นี้คนเราใจมันทำด้วยอะไรวะ ถึงทำได้”นังหยีพูดน้ำตาคลอๆ มันเป็นคนรักสัตว์มาก ที่บ้านเกิดมันเลี้ยงหมาไว้เกือบสิบตัว ส่วนนังจ๋าเขาชอบเลี้ยงปลา
“นั่นสิ ไอ้ตัวเล็กๆ ดีแล้วที่แกได้อยู่ที่นี่นะ”นังจ๋าอุ้มมันส่ายไปมา เรียบร้อยพวกเราก็ไปนั่งพักกัน มองดูไปเรื่อยๆ ก่อนจะได้ดูกล้องที่ถ่ายแม่ขนุนไว้ มันตกลูกสี่ตัว แต่ยังไม่รู้เพศ เพราะอยากให้มันอยู่กับแม่มันมากกว่า พี่อิงบอกว่าปกติจะป้องกันการคุมกำเนิดทุกครั้ง แต่มันเยอะอาจจะพลาดไปบ้าง ก็เลยได้สมาชิกเพิ่มมา ก็เลี้ยงกันไป พวกเราอยู่กันเกือบเย็นก็ลาพวกพี่ๆและเจ้าพวกน่ารักๆในกรงที่ขานรับอย่างกับรู้ว่าจะไปกันแล้ว
“ขอบใจนะเป๊บ และน้องๆคนอื่นด้วย ถ้าว่างก็มากันอีกนะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาก็ได้ แค่มาพวกพี่ก็ดีใจแล้ว”พี่อรรถพูดขอบคุณพวกเรา
“ไม่เป็นไรพี่ ยังไงเป๊บจะช่วยให้มากที่สุด”ไอ้เป๊บบอกพี่อรรถอย่างสนิทสนม ผมต้องมองมันให้มากขึ้นซะแล้ว
“พวกเราด้วย”พูดเกือบพร้อมกัน ก่อนจะลาพวกพี่ ๆ
*
*
*
“ขอบใจนะออย ที่ไปเป็นเพื่อนวันนี้”ไอ้เป๊บมาส่งผม หลังจากพวกเราไปกินข้าวและเลี้ยงวันเกิดให้มันไปด้วย ก่อนแยกจากร้านอาหาร มันก็ขอบอกขอบใจพวกเพื่อนผมและพี่ๆกันใหญ่
“กูสิต้องขอบใจมึงมากกว่าที่พาไปทำบุญที่ดีๆ”ผมหันไปพูดกับมัน “อืม สุขสันต์วันเกิดนะ ขอให้เป๊บเป็นคนดีแบบนี้ต่อไป สุขภาพแข็งแรง จะได้มีกำลังช่วยเหลือเจ้าพวกนั้นนะ”ผมไม่รู้จะอวยพรอะไรให้มัน ตอนเช้ามันใส่บาตรที่บ้านพร้อมพ่อกับแม่มันไปแล้ว และทานข้าวก่อนจะออกมารับผม เท่าที่คุยกันพ่อกับแม่มันทำงานตลอดไม่ค่อยมีเวลาให้มันกับน้องเท่าไร น้องชายมันอยู่โรงเรียนประจำไม่ค่อยได้กลับ แต่ก็คุยกันตลอด มันรักน้องมาก
“ขอบคุณครับ แต่เป๊บคนเดียวคงไม่ไหว ยังไง ออยก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ”มันพูดด้วยรอยยิ้มทำเอาผมเขิน”ว่าไงล่ะ ตอนนี้จะเรียกเป๊บว่าแฟนได้หรือยัง”มันจับมือและถามต่อ แต่หน้ามันฟุบตรงพวงมาลัยรถ
“กล้าพูด กล้าขอ แต่ไม่กล้ามอง ก็”ผมพูดยิ้มๆ มันเงยหน้าทันที
“โอเคๆ มองแล้ว”มันรีบพูดและจ้องอยู่อย่างนั้น
“เป๊บ กูไม่ได้ดีอะไรมากนัก”ผมมองหน้ามันและพูดออกไป
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ดีเอง”มันบอก
“กูเป็นอย่างที่มึงเห็น”
“รู้แล้ว”
“กูชอบมึง”
“อืม ห๊ะ”
“กูเริ่มชอบมึงแล้วและยอมรับมึงเป็นแฟน มึงล่ะ”
“Yes, I do”
“กูไม่ได้ขอมึงแต่งงานนะโว้ย”ผมโวยใส่มันที่ยิ้มกว้าง
“เอาน่าเหมือนกันแหละ โอเค เราเป็นแฟนกันแล้ว ช่วยสอนด้วยนะ”มันสรุปและพูดตอนท้ายเสียงหวิวๆ อย่างสื่อความหมาย
“สอนอะไร”ผมแกล้งถามมัน
“ก็เรื่องนั้นแหละ”มันพูดอ้อมหน่อยๆ
“อะไร เพิ่งเป็นแฟนมึงจะฟันกูเลยเหรอ”ผมแกล้งย้อนใส่มันบ้าง
“ไม่ใช่ตอนนี้ หมายถึงถ้าถึงเวลาต่างหากล่ะ นะ นะ”มันปฏิเสธแต่ตอดอีก
“ไม่รู้โว้ย”
“น่า ออย”
“ศึกษาเอง”
“โธ่ อะ” ผมดึงมันมาจูบปากก่อนจะที่มันจะครวญต่อ เอาเบื้องต้นก่อน แต่เดี๋ยว ทำไมผมหายใจไม่ออกเมื่อเจอสอดลิ้นเข้าไปรุกไล่ จะหนีก็โดนตรึงท้ายทอยเอาไว้
“อื้ม อื้ม”ผมร้องออกมาเอามือทุบมันจนผละออก ไอ้บ้าเป๊บยิ้มกริ่ม
“แฮ่ก แฮ่ก กูว่าไม่ต้องสอนแล้วมั้ง เชี่ยะนิ”ผมหอบด้วยด่าด้วย มันก็หัวเราะก่อนจะดึงผมเข้าไปจูบอีก แต่คราวนี้ค่อยเป็นค่อยไป เรียกร้อง จนไม่อยากจะผละออกเลย อืม ขออีกหน่อยแล้วกันเป็นการให้ของขวัญมันที่ไม่ได้เตรียมให้
*****************************************************************************************
ปล. ตอนนี้ยกให้คู่นี้มีบทบาทบ้างเน๊าะจะได้รู้ว่าเขารู้จักและคบกันได้ยังไง เป็นน้ำจิ้มเล็กๆ ที่เขียนเรื่องสัตว์ขึ้นมาคือไปทำงานข้างนอกมาและเห็นหมาถูกเจ้าของหรือเปล่าไม่แน่ใจตีจนมันร้องน่าสงสารมาก แต่ตัวเองไม่ได้เลี้ยงหมาหรอกคะเลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง น่าจะเป็นเกย์ด้วยมั้ง ช่วงนี้มันไปติดแมวเปอร์เซียตัวผู้คนข้างบ้านอยู่ทั้งที่มันก็เป็นตัวผู้ พอเห็นขึ้นคร่อมเลยคะ เคยอ่านเจอในกระทู้หนึ่งก็ขำนะว่ามีด้วยเหรอ พอเจอกับแมวตัวเอง ฮามากเลย สงสัยมันจะติดวายเหมือนคนเขียน หึหึ