ตอนนี้เราอยู่บนรถไฟฟ้ามุ่งหน้าไปสยามกัน เจ้าตัวขอซื้อของถ้าเกิดถูกใจ สัญญาว่าจะไม่แพงมากและจะออกตังค์เอง ผมก็ตามใจเพราะไม่ใช่เงินตัวเอง แต่ความแน่นอนของเมียคือความไม่แน่นอน ผมควรเผื่อใจไว้ครึ่งหนึ่ง
“ดูๆไปเหมือนตอนเราไปลอนดอนเลยเน๊าะ”มันพูดแต่หน้าหันออกไปมองนอกกระจก มันบอกไปขึ้นจุดเริ่มต้นเลยดีกว่าจะได้ไกลดี และก็พูดเจื้อยแจ้วเมื่อคราวที่พามันไปอังกฤษด้วย ผมไปหาอาที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่นั่น พอดีแกจะขยายร้านแต่ไม่อยากจ้างช่างที่โน่นออกแบบเพราะแพงมากไอ้เรื่องก่อสร้างไม่เท่าไรเพราะมีคนทำแล้ว ผมก็ออกแบบและวางแผนให้เสร็จสรรพ
“อืม”ผมรับคำเฉยๆ ตามองวัยรุ่นอยู่กลุ่มที่ยืนคุยและมองมาทางพวกผม น่าจะรุ่นเดียวกับไอ้ฝิ่น แต่มันคงไม่รู้ว่าผมมองอยู่เพราะผมใส่แว่นดำ ไอ้ฝิ่นก็ใส่ มันย้อมผมสีทองเหลือบแดงเหมือนเด็กฝรั่งเลยตอนนี้ ใส่กางเกงขาสั้นเลยต้นขาลงมาหน่อยลายพร้อยเข้ากับรองเท้าบั๊ดดี้ลายน่าเวียนหัวไม่ต่างกัน เสื้อยืดคอเอียงเห็นหัวไหล่ขาวๆ โชว์รอยสักรูปดอกฝิ่นตรงหน้าอกวับๆแวมๆ มันสะกิดแขนผมให้หันไปมอง ยิ้มแป้นจนเห็นฟันติดเหล็กดัดกันขโมย
“อะไร”ผมถาม
“มีอะไรจะบอก”มันเอามือป้องปากกระซิบ
“ว่า”ผมเลิกคิ้ว
“กูลืมเอาเป๋าตังค์มา”พูดจบยิ้มแหะๆ
“ลืมหรือวางแผนไว้แล้ว”ผมกอดไหล่ถามมัน ไอ้กลุ่มนั้นก็ยังมองอยู่ มันกอดเอวช้อนตาหวานๆภายใต้แว่นดำมอง
“ลืมจริงๆ ยืมมึงก่อนนะ ๆๆๆ”มันบอกอ้อนๆ
“ดอกแพงนะมึง”ผมก้มไปกระซิบบอกมันบ้าง
“โอ้ยย จะถูกจะแพงกูไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนเลย โดนเต็มๆแม่งทุกดอก”มันทำปากยื่นๆว่าใส่ ผมยกยิ้ม
“มึงก็ได้เปรียบไง ราคาไหนกูจัดเต็มและแถมให้อีก หาได้ที่ไหนโปรแบบนี้”ผมบิดจมูกมันไปมา
“หาได้ที่มึงนี่ไง โปรเสียวๆพี่จัดให้สำหรับน้องคนเดียว แหวะ”มันพูดประชดเสียงเล็กเสียงน้อยใส่มั่ง ผมผลักหัวมันเบาๆ มีคนมองเราด้วยแต่ส่วนใหญ่วัยรุ่นทั้งนั้น ปกติครับคนรักกันก็แหย่กัน ถ้าผมหรือมันไปแหย่คนรักคนอื่นสิ แปลก จนใกล้ถึงสถานีข้างหน้าก็ลุกไปยืนตรงประตูกัน ใกล้ๆไอ้กลุ่มนั้น ไอ้ฝิ่นยืนข้างหน้าผมหลังพิงสบายๆ
“น้องพี่น่ารักจังเลย”หนึ่งในกลุ่มพูดอย่างสุภาพ ผมยกยิ้มเฉยๆ
“พี่หน้าคุ้นๆนะคะเหมือนเคยเห็นที่ไหน”น้องผู้หญิงเอ่ยถามยิ้มๆ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือหาเรื่องคุยด้วย ผมไม่ได้ทำไมหรอก แต่ไอ้ตัวดีจิกขาผมก่อนจะหันมา
“พี่อย่าคุย”มันสั่งเอามือปิดปากผมไม่ให้พูด
“หวงพี่ซะด้วย”ผู้หญิงอีกคนพูดบ้าง มันหันไปมองจะเอ่ยปาก ไอ้หนุ่มอีกสองคนยืนอมยิ้ม มองเมียผมตั้งแต่หัวจดเท้า เดี๋ยวมึงจะได้อมตีนแทนอมยิ้มถ้ายังไม่เลิกจ้อง มันเงยหน้ามาเจอสายตาผมที่ถอดแว่นเหน็บตรงคอเสื้อไว้ เลยยิ้มแหยๆมองไปทางอื่นแทน
“ไม่เอาครับ”ผมบอกมันพลางส่ายหน้า พอดีกับที่ประตูเปิดก็เดินลงมันฉุดมือผมให้เดินทันที ก่อนจะเดินช้าลงเอามือเกาะแขน พอดีกับที่ไอ้พวกนั้นอัฟรูปส่งมาให้ ผมส่งให้มันดู
“เยาะเย้ยเหรอ”พูดอย่างแค้นๆแต่ไม่ได้จริงจังดูตลกมาก ทั้งที่ไอ้พวกนั้นไม่ได้อะไรเลย แต่มันพาล ก่อนมันจะเม้นท์กลับไป
‘ได้กันแล้วละสิ ถึงได้รีบส่งข่าวมาบอก’ส่งให้ไอ้หวายกับไอ้เจย์ ที่เริงร่าท้าแดดที่หาดแห่งหนึ่ง “ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้สองตัวก็ตอบมันมา’อีเด็กขี้อิจฉา สมน้ำหน้าไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านกับผัวไปเถอะมึง 55555555’ มันเลยส่งรูปเก้งได้เสียกันกลับไปให้
‘เตียงที่บ้านไม่มีนอนเหรอ ถึงถ่อสังขารไปซะไกล’ส่งให้ไอ้บลูกับไอ้พายที่ฉีกยิ้มหวานที่ห้องสูทอย่างหรู”คริคริ” ผมส่ายหน้ากับมันที่หัวเราะชอบใจเมื่อได้จิกกัดเขาไปจนเป็นที่พอใจ ก่อนจะเดินต่อ เข้าร้านโน้นออกร้านนี้แต่ไม่ซื้ออะไรสักอย่างทั้งที่ไม่ได้ห้ามนะแต่ต้องอยู่ในลิมิตพอเพียง
“ไม่ซื้ออะไรเหรอ”ผมถามมันที่เกาะแขนตามเดิม ส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ
“หิวข้าวอ่ะ”หันมาพูดเรื่องอื่นแทน
“ยังไม่เที่ยงเลย”ผมถามมัน เอามือกอดไหล่
“ตามใจกูหน่อย ไปไหนก็ไม่ได้ไป ของอยากได้ก็ไม่ได้”คร่ำครวญถึงสิ่งที่ตัวเองทำเอง เขย่าแขนผมไปมา
“อยากได้อะไร”ผมถามมันเมื่อเห็นว่าชักเริ่มจะเยอะแล้ว
“.........”
“คราวหลังถ้าทำไม่ได้ ไม่มีความอดทนก็ไม่ต้องพูดออกมา”ผมบอกแค่นั้นก่อนจะแกะแขนมันและเดินออก ไปหยุดตรงมุมหนึ่งหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ผมไม่หันไปมองอีกเกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้มองไป มันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ลองโทรเข้าก็ไม่ตอบรับ บทมันจะงี่เง่าเอาแต่ใจ เมียผมเขาก็เต็มที่ ก่อนจะรู้สึกถึงแรงดึงเสื้อ
“โกรธทำไม ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย”มันถามก้มหน้าเอาแว่นปิดบังสายตา จมูกแดงแป๊ด สงสัยแอบไปร้องไห้มา
“พูดไม่รู้เรื่อง พามาแล้วก็ยังจะงี่เง่า อยู่กับกูมันน่าเบื่อนักใช่ไหม”ผมว่าจะพูดปลอบแต่พอนึกแล้วก็โมโห มันส่ายหน้า
“เปล่า อย่าดุ”มันบอกก่อนจะยืนชิดๆ ผมเลยดึงมันไปที่ห้องน้ำ โมโหเดี๋ยวปั๊ดเตะคนมองซะนี่
“ขนาดกูดุ มึงยังทำตัวเยอะเลย”ผมว่ามันก่อนจะเอาแว่นเสยหัว เปิดน้ำลูบหน้าให้ เอาชายเสื้อนี่แหละเช็ด”ทำอย่างกับกูไม่เคยพาไปไหน แค่เทอมนี้อยู่บ้านเฉยๆยังจะงอแงไม่เข้าเรื่อง”ผมบ่นมันอีก
“รู้แล้ว บ่นกูจัง นี่เมียนะ”มันพูดอีกเอามือกอดเอว
“กูก็เตะได้สิ”ผมยกขาจะเตะมัน แต่โดนมันเอาตีนเตะกั้นไว้ก่อน
“ไม่ได้ ห้ามทำ ไหนบอกจะไม่ทำให้เจ็บไง”มันทวงสัญญา
“ก็มึงกวนตีน”ผมผลักหัวมัน
“หัวเถิกหมดแล้ว”มันบ่นจะให้ขำ แต่ผมไม่ขำ
“ให้มึงล้านไปเลย และถ้ามึงยังไม่เลิกงี่เง่านะ กูจะจิกผมมึงทีละเส้นเลยทีนี้”ผมแช่งและขู่มันไปอีก
“กูไม่กลัว”มันหายและถลึงตาใส่ อาการดีขึ้นแล้ว
“ไม่กลัวแล้วมึงหนีทำไม”ผมเสยผมให้มันใหม่
“ไปตั้งหลักโว้ย”มันบอกด้วยหน้ากวนๆ
“ตาขาวเอ้ย”ผมว่ามัน ก่อนจะเดินออกมาข้างนอก
“กูตัวขาว ตาก็ต้องขาว ไม่เห็นจะแปลกเลย”มันก็เถียงไปเรื่อยอย่างไม่ยอม ผมเลยเขกหัวไปที
“งี่เง่าอีกทีโดนเตะแน่”ผมคาดโทษมัน
“ถ้าเตะจะไม่ให้แตะ ไม่ให้ล่อ ไม่ให้ทำอะไรทั้งนั้น”มันขู่เสียงแว๊ด หน้าง้ำ
“ก็ได้”ผมบอกมัน
“ไม่ได้”มันไม่ยอม
“โรคจิต ไม่เอาก็จะให้เอา”ผมยกยิ้มใส่มัน
“มึงต้องเอา และกูจะทำเป็นขัดขืน แบบจูบแต่ห้ามตบ โอเคนะ”มันสั่งและแนะแนวทางให้ตัวเองเสร็จสรรพ มองผมยิ้มๆ
“เออ กูจัดให้”มันหัวเราะออกมาได้”และมึงงี่เง่าทำไม”ผมถามมันอีก
“ถ้ารู้แล้วกูจะงี่เง่าเหรอ ถามอะไรโง่ๆอีกและ”มันลอยหน้าพูดใส่ ผมดีดปากมันซะ ก่อนจะเดินไปหาที่กินข้าวกัน
“อุ้ย เจอกันอีกแล้ว”สาวคนที่เจอบนรถไฟฟ้าเอ่ยทักพวกผมที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ใครอยากจะเจอ”มันพูดใส่เขา เล่นเอาเงียบเลยครับ ผมตบหลังมือมันเบาๆ
“น้องพี่ท่าทางอารมณ์ไม่ดีนะครับ”ไอ้คนที่ทักผมคนแรกพูดเหมือนจะแหย่มัน
“ใช่ ยิ่งเจอคนไม่ได้อยากจะรู้จักยิ่งไม่ดีใหญ่เลย เป็นบ้ากันหรือไง เข้ามาทักอยู่ได้”อารมณ์เสียของจริง
“น้อง”ผมเรียกมัน ก่อนจะหันไปมองคนพวกนี้ แต่ก็จริงนะไม่รู้จักก็เข้ามาทักทำไม แค่ยิ้มและผ่านไปก็พอแล้ว
“นึกออกแล้ว พี่เคยเล่นดนตรีห้างxxxเมื่อตอนโน้นน่ะ พวกเราเรียน ม. ที่อาจารย์บีมสอนอยู่น่ะคะ”น้องผู้หญิงพูดโพล่งออกมาอย่างนึกขึ้นได้ว่าเคยเจอผมที่ไหน
“เออ ใช่ๆๆ ยิ่งน้องคนนี้ พี่ยิ่งคุ้นใหญ่ ขายของกับพี่ที่น่ารักๆอีกคน”ไอ้นั่นความจำดีขึ้นมาทันที
“ลูกคนเดียวโว้ย ไม่มีพี่ อื๊อๆๆๆ”มันไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้น พูดใส่อีก ผมเลยเอามืออุดปากไว้ก่อน ยังไงก็คนรู้จักในระดับหนึ่งถึงไม่ใช่ทางตรงแต่เป็นอ้อมๆ
“อย่างนี้เราก็รู้จักกันแล้วนะคะ ไอติมคะ”น้องผู้หญิงยิ้มหวานและแนะนำชื่อ
“หน้าอย่างโอเลี้ยง ชื่อไอติม”เมียผมที่เอามือผมออกพูดใส่ทันที เล่นเอาน้องไอติมชักสีหน้า ตอนแรกผมว่ามันอารมณ์ดีแล้วนะ
“เราไวด์นะ”ไอ้คนที่แหย่ไอ้ฝิ่นแนะนำชื่อแต่มองหน้าไอ้ฝิ่นที่หรี่ตามองมัน
“ไวด์เล่อร์เหรอ”มันพูดใส่ไอ้นั่นที่หุบยิ้มก่อนจะยักไหล่ ผมว่ามันชักเริ่มกวนๆเหมือนกัน
“ทำไมน้องพี่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเลยคะ เราแค่อยากคุยด้วยเฉยๆเอง”น้องด้าถามอย่างสงสัยจริงๆหรือยั่วประสาทมันก็ไม่รู้
”เอาเป็นว่า เราขอส่วนตัวนะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนแล้วกัน”ผมพูดแค่นั้นเป็นการบอกอ้อมๆ กอดไหล่มันที่หน้าบึ้งเข้าไปทุกที
“ใจร้ายจัง”น้องไอติมพูดตัดพ้อแต่ไม่จริงจัง ทำหน้ายิ้มๆ
“ขนาดหน้าบึ้งยังน่ารักเลย ผมจีบน้องพี่ได้ไหม”ไอ้ไวด์หยอดมันหันมาขอกับผม ตอนนี้กูเริ่มอารมณ์ไม่ดีแทนเมียแล้ว
“ไม่ได้”ผมบอกมัน
“โห พี่หวงน้องจังเลย”มันยังพูดเล่นต่อ ผมยื่นหน้าไปหามัน ก่อนจะดึงคอเสื้อจนมันตกใจ เพื่อนพวกมันก็ตกใจ
“นี่เมียกู ถ้ามึงเข้าใจในสิ่งที่กูพูดไม่ต้องแปลอีก ก็ลุกไปซะ”ผมพูดเสร็จก็ปล่อยคอเสื้อมัน น้องไอติมอ้าปากพอกับคนอื่น ทีนี้เดินออกแทบไม่ทัน สักพักอาหารก็มา เมียน่าจะอารมณ์ดีขึ้นเพราะยิ้มออกเมื่อผมจัดการไล่ตัวเกะกะไปหมดแล้ว ผมมองมันที่กินอย่างเอร็ดอร่อย มันเงยหน้ามองเอามือเช็ดมุมปากตัวเองก่อนจะป้ายปากผม ยั่วชัดๆ มือนิ่มๆลูบต้นขาผมไปมา ผมจับมือมันไว้ก่อนจะลามและลุก ได้ยินมันหัวเราะชอบใจ ผมเลยห้ามใจไม่จูบมันมองไปทางอื่นแทน
“อิ่มแล้วเหรอ”เสียงมันเอ่ยขึ้นมาทำลายความคิดหื่นๆของผม
“อะไรนะ”ผมถามมัน
“คิดอะไรอยู่ น้องพูดก็ไม่ฟัง”มันถามงอนๆ แต่พูดเพราะโว้ย
“พี่ฟังอยู่”ผมก็บอกมันไป ตักกับข้าวใส่จานให้ มันมองเหมือนจะจับผิด ก่อนจะกางเล็บ จนผมจับไว้ก่อน
“ห้ามทำร้ายร่างกาย”ผมบอก มันก็ลอยหน้า
“น้องจะเกาต่างหาก”พูดเสร็จมันก็เกาแขนผม ซึ่งผมจำได้ว่าไม่ได้รู้สึกคันสักนิด
“ทำหน้าดีๆสิ”ผมบอกยิ้มๆ จับมือมันไว้
“น้องรู้นะ”มันทำหน้าหรี่ตาใส่
“รู้อะไร”ผมถามกลับ
“มองโต๊ะนั้นล่ะสิ”มันพูดจบก็ทำปากยื่นไปโต๊ะข้างหน้า มีผู้หญิงผู้ชายรวมกันเกือบสิบคน น่าจะเลี้ยงอะไรสักอย่าง ผมขยี้หัวมันก่อนจะกอดเอว
“มองเหมือนกันล่ะสิถึงได้รู้”ผมแหย่มัน
“น้องมองได้ พี่ห้ามมอง”มันบอกผมต่อ ผมเลิกคิ้วใส่ประมาณว่าทำไม มันยิ้ม”น้องเป็นเกย์ มองแล้วไม่เกิดกิเลส เข้าใจมั้ย”เหตุผลฟังขึ้นมาก
“ได้ไงล่ะ ตัวผู้ก็มีนะ”ผมก็ท้วงใส่บ้าง
“แมนแท้ๆทั้งนั้น ถึงไม่ใช่ น้องก็ไม่มองหรอก คนนี้น่ามองกว่าตั้งเยอะ คริคริ”มันพูดก่อนจะยิ้มแป้น ชมใครเหรอ
“แม่นแล้ว”ผมเลยตอบรับซะ เราก็เลยหัวเราะกัน แต่หันไปคนกลุ่มนั้นมองยิ้มๆ แต่เหมือนจะเยาะ ผมกับเมียมองหน้ากันแสยะยิ้ม เพราะรู้ว่าพวกนั้นคงคิดอะไร แต่จะสนใจทำไมล่ะครับ ไม่ได้ไปกินด้วยสักหน่อย แต่ดูแล้วเขาจะสนใจเพราะเดินมาที่โต๊ะพวกผม เป็นผู้ชายกับผู้หญิง ก็หน้าตาดีทั้งคู่ ผมก็กอดมันอยู่อย่างนั้นแหละไม่ได้ปล่อย
“เป็นแฟนกันเหรอคะ”ผู้หญิงถามขึ้นมา ด้วยรอยยิ้มดูมั่นใจมาก พอกับผู้ชายที่ยืนข้างๆ
“ครับ”ผมตอบเอง ผู้ชายเลิกคิ้วใส่เลย
“คู่เกย์”ผู้ชายพูดยิ้มๆ
“แล้วจะทำไม”เมียผมถามเรียบๆ
“นั่งกอดกันไม่รู้สึกอายบ้างเหรอ”ผู้หญิงทำมือแบบชี้ไปชี้มา
“นั่นสิ”ผู้ชายถามบ้าง
“ก็ปกติ”ผมบอกหน้าตาเฉย
“ปกติเหรอ”ผู้หญิงอุทานแบบเวอร์มาก
“ใช่ ปกติของเรา”ไอ้ฝิ่นตอบก่อนจะยิ้มหวานๆ เล่นเอาไอ้ตัวผู้แท้ๆหน้าแดงเลย”แต่พวกคุณคงไม่ปกติ ที่เข้ามายุ่งกับเราโดยไม่ได้รับเชิญ”พูดจบทั้งสองคนอึ้งมาก ผมก็คิดเหมือนมันแหละ บ้าหรือเปล่านั่งดีๆก็มาถาม
“ที่ถามน่ะไม่ใช่ทำไมหรอก แต่นายมองกลุ่มพวกเราทำไม”ผู้หญิงเปิดปากออกมา ด้วยท่าทีถือตัว ผมกับเมียมองหน้ากันว่าตอนไหน คือที่ผมคุยกับมันเป็นการล้อเล่นไม่ได้มองหรอก อย่างที่บอกผมใจลอยคิดเรื่องไอ้ฝิ่นอยู่ก็เลยมองตรงไปข้างหน้าที่เป็นโต๊ะของพวกเขา
“ไม่ได้มอง และโต๊ะพวกคุณอยู่ข้างหน้าเราพอดีก็แค่นั้นเอง”ไอ้ฝิ่นบอกเสียงเรียบๆ ดีนะที่มันอารมณ์ดีบ้างแล้ว ถ้ามาตอนเมื่อกี้ได้โดนดีแน่
“จริงเหรอ”ผู้ชายถามเอามือกอดอก
“นึกว่ามองแฟนชั้นซะอีก”ผู้หญิงเอ่ยออกมาเยาะ พวกผมตกตะลึง ลนลาน รีบปฏิเสธ ตัดไปเลยครับกับอาการแบบนั้น เมียผมหัวเราะชอบใจ ผมก็ยกยิ้มบางๆ มันหยุดหัวเราะมองไอ้คนข้างหน้าหัวจดเท้า ด้วยสายตาแบบดูแคลนมาก มันหน้าตาดีแต่ไม่น่าหลงตัวเองขนาดนี้
“เก็บไว้มองกันสองคนเถอะ ซ่อนไว้เลยก็ได้”ไอ้ฝิ่นพูดยิ้มๆใส่ “อ้อ แล้วช่วยกรุณาเอาสายตาเธอออกจากแฟนชั้นด้วย แฟนเธอดีก็มองไปสิ”ไอ้ฝิ่นพูดต่ออีกแบบเชิดหน้าใส่ ผมก็เงียบว่ามันเล่นมุกไหนอยู่ แต่รู้แล้วมุกเสี้ยมเขานี่เอง ไอ้นั่นหันไปมองทันที ผู้หญิงทำหน้าเหวอ
“ไม่ใช่นะ”ผู้หญิงรีบพูดกับแฟนทันที
“ไอ้มุกหาเรื่องแต่อยากมามองใกล้ๆ ก็เลิกใช้ซะ มันเก่า คุณก็หน้าตาดีนะแต่ไม่ทันแฟนตัวเองเลย เฮ้อ ไม่ไหวๆ”ไอ้ฝิ่นพูดต่อไปอีกทำหน้าทำมือด้วย ทำเอาผู้ชายเริ่มสั่นคลอนแล้ว ก่อนจะดึงแขนผู้หญิงให้กลับโต๊ะ ผมมองหน้ามันที่ตอนนี้ซุกอกมองไปทางนั้นยิ้มๆ แถมหรี่ตาใส่ไอ้นั่นด้วย จนเป็นฝ่ายโดนผู้หญิงบ้าง พวกเพื่อนมันที่สังเกตการณ์เมื่อกี้ต้องห้าม ก่อนจะพูดบางอย่างที่พวกผมไม่ได้ยิน สองคนเลยนั่งใกล้กันเหมือนเดิม แปลกกว่าพวกกูอีก อยู่ดีๆก็เดินมาให้ด่าซะงั้น พอกับไอ้กลุ่มเมื่อกี้เลย วันนี้แทนที่กูกับเมียจะส่วนตัว
“ใจร้ายจัง”ผมว่ามัน แต่ฟังดูก็รู้ว่าแกล้งว่า
“ช่วยไม่ได้อยากหาเรื่องใส่ตัว อุตส่าห์ไม่ปรี๊ด น้องน่ารักไหม”มันยักไหล่ตอบก่อนจะเกาะแขนช้อนตาถามผมตรงประโยคท้าย ผมบิดจมูกมัน
“น่ารักมากกก”เป็นคำตอบสุดท้าย ก่อนจะมันจะยิ้มอย่างถูกใจ และกินกันต่ออย่างมีความสุขบนความสนุกของคนอื่นนิดหน่อย หึหึ
“กลับยัง”ผมถามมันเมื่อเห็นว่าจะสองทุ่มแล้ว ตัวว่างเปล่าทั้งคู่เดินดู เดินเที่ยว และกินอย่างเดียว
“อืม ก็ได้ จูบก่อนดิ”มันบอกและยื่นปากให้
“ตรงนี้เนื่ยะนะ”ผมถามมัน ตอนนี้เรายืนรอรถแท็กซี่อยู่
“อืม ตรงปากเนื่ยะแหละ”มันตอบกลับหน้าซื่อมาก
“กวนตีนและ”ผมว่ามันก่อนจะฉุดมันขึ้นรถเมื่อโบกได้
*
*
*
“โอย เหนื่อย เมื่อย”มันบ่นทันทีเมื่อถึงห้อง แต่ยังไม่ลงจากหลังผม ที่แบกมันขึ้นมา
“กูไม่เมื่อยเลยเน๊าะ”ผมพูดใส่มัน
“ม๊วฟฟฟฟ”มันหอมแก้มอย่างแรงเหมือนเป็นรางวัล ผมถอดรองเท้าตัวเอง และถอดของมันไปด้วย”โอ้ย”มันร้อง
“เป็นอะไร”ผมถามก่อนจะเอาไปวางตรงโซฟา
“น้องเจ็บตีน นั่นไง แดงเลย พี่ดูดิ”มันยกตีนขึ้นมาดู และยื่นมาจ่อตรงหน้าผมพอดีเมื่อเจอสาเหตุ
“มึงไม่เอาเข้าปากกูเลยล่ะ”ผมประชดแต่ต้องรีบหยิบมาดูก่อนจะได้กินจริงๆ ตรงตาตุ่มกับหลังข้อเท้าแดงเลย”รองเท้ากัด ก่อนใส่มึงไม่กัดมันก่อนวะ”ผมบอกก่อนจะหยิบทิชชู่เช็ดเบาๆ ตรงน้ำใสๆ และมันทนเดินเกือบทั้งวันได้ยังไงวะ
“กัดแล้ว แต่มันไม่เชื่อง เจ็บบบบบบ”มันบอกและร้องออกมา”ไม่อาบน้ำนะ เดี๋ยวแผลเน่า”
“มึงอย่าเว่อร์ แผลแค่นิดเดียว”ผมว่าและดึงให้มันลุก
“นิดเดียว ลองขึ้นที่ปากมึงไหมล่ะ”มันทำหน้าใส่และพูดอย่างพาลๆ
“เดี๋ยวจะขึ้นที่ปากมึงนี่แหละ ไม่อาบก็ไปเช็ดตัว”ผมตบก้นมันยื่นข้อเสนอให้ใหม่ยุติความรำคาญ
“ปฏิบัติ”มันพูดทันทีแถมยกมือทำความเคารพแบบทหาร และชูแขนให้อุ้ม”พี่ทำนะ น้องเหนื่อย เมื่อย เพลีย งะ”
“พอแล้ว สรุปที่ปฏิบัตินี่กูใช่ไหม”ผมยันมันเบาๆให้ลงไปนอนตามเดิม มันก็กระเด้งลุกมายิ้มใส่
“น่า เดี๋ยวน้องนวดแบบบีคอสให้”มันยื่นข้อเสนอบ้าง
“บีคอสอะไรของมึง กูเห็นนวดที ขยำๆ แล้วก็บ่นเมื่อยมือ มึงอย่าๆ”ผมไม่เชื่อมันหรอก มันกอดคอและจุ๊บปาก
“บีคอส ไอ เลิฟ ยู ไง”มันพูดยิ้มๆ
“ถุย”ผมทำใส่หน้ามันก่อนจะกระเตงเข้าห้องไปปฏิบัติการชำระล้าง
หลังจากนั้น ผมก็เกาแบบบีคอสให้มัน
“พี่เกา”
“ตรงนี้”
“ตีนด้วย”
“พี่”
“อีกคำมึงไม่ต้องนอน”ผมกระซิบเน้นๆข้างหูมันที่ยกแขนกอดหมับ
“คร่อกกกกก”เสียงกรนทันที อย่างรู้ว่าถ้าไม่หลับผมจะทำอะไรแบบไม่ต้องหลับต้องนอนกัน หึหึ
**********************************************************************************************
ปล. หมดไปหนึ่งวันสั้นๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ระบุ วัน เดือน ปี ไม่เกี่ยวข้องกับตอนไหนๆๆๆๆทั้งนั้น ให้อ่านคลายคิดถึงสองคนนี้กัน(ทั้งที่มันสองคนก็ไม่ได้ไปไหนนะ) ตอนหน้าเราจะพาไปกินแซนด์วิช ฮี่ๆๆ เหลืออีกไม่กี่ตอนก็น่าจะจบแล้วคะ เหรออออ ขอบคุณทุกอ่านทุกเม้นท์กันเหมือนเคยที่เป็นกำลังใจให้คนเขียนมาตลอด มีอะไรแนะนำติได้คะ