“เดี๋ยวแวะซื้อไหมพรมก่อน หมดพอดีเลย”มันหันมาบอกมือก็จัดของในรถ
“แวะร้านหนังสือกูด้วยนะ”ผมได้โอกาสแวะมั่ง
“มึงเปิดเองเมื่อไหร่”มันเลิกคิ้วใส่
“กิ๊กใหม่กูเปิดให้”พูดยังไม่ขาดคำ มันหันมาฮุกคำพูดใส่ทันที
“อ๋อ ที่ผัวใหม่กูหุ้นด้วยน่ะเหรอ โอ้ยย”แสยะยิ้มพูดใส่ก่อนจะร้องเมื่อเจออำนาจมืดจากมือผมตบก้นไปดังป๊าบ โทษฐานพูดคำต้องห้าม แถมกูตามไปฆ่าก็ไม่ได้เพราะไม่มีตัวตน
“ไอ้เชี่ย แม่ง”มันสบถเอาหมัดฮุกใส่ท้องผมมั่ง แต่เจอจับไว้ก่อน มันมองไปมาอย่างกลัวคนเห็น มันก็ปกติอยู่แล้วที่คนจะมอง ห้างเขาเปิดให้คนเข้า จะให้สรรพสัตว์ที่ไหนมาจ้องล่ะครับ มันก็อายไม่เข้าเรื่อง ก่อนจะเดินกันต่อ
“ตั้งแต่ไปสอนซื้อบ่อยจังนะ ถามจริงอ่านเองหรือซื้อไปฝากใคร”หรี่ตาเชิดหน้าพูดใส่ มันพาล
“กูจะฝากใครวะ นอกจากตัวเอง มึงเป็นไรมากไหมเนี่ย”ผมจิ้มหน้ามันที่ใส่แอฟเฟ็คกระเด้งนิดๆ ก่อนจะยิ้มอย่างผิดคาด นึกว่าจะด่ากลับ
“ไม่มากหรอกป๋า ซื้อหนังสือแพทเทิรน์ให้หนูด้วยนะ”กอดเอวพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน ที่แท้จะเอามั่ง
“เงินอยู่ที่มึงอยากได้ก็จ่ายเอาดิ ดัดจริตทำมาขอ”ผมว่าและแกล้งทึ้งผมมัน
“แหม หนูก็ต้องถามคนเติมก่อนสิ”ทำตาปริบๆจีบปากจีบคอดัดจริตต่อ ว่าไม่ได้ ต้องทำท่าประกอบให้กูดูด้วยตลอด
“ก่อนหน้าหนูแรด ซื้อเกือบจะหมดห้างไม่เห็นขอป๋าเลย”ผมดึงหัวมันขึ้นลงไปมาแต่ไม่แรง เดี๋ยวมีเคือง เคืองแล้วลำบากใคร ลำบากผมที่ต้องง้อจนเสียหยาดเหงื่อและพลังงาน แต่ก็นับว่าคุ้มอยู่
“เหรอ หนูขอโทษน ะ ป๋าควาย ที่ไม่ขอก่อน ครึครึ”ลอยหน้าลอยตาใส่ เรียกไปเหอะยังไงมึงก็โดนขวิดแถมให้ขี่อยู่ดี ผมดึงหัวมันอีกทีอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะแวะร้านตามที่ตกลงกัน ฝีมือการถักมันขั้นเทพแล้วครับ เรียกว่าทำขายได้เลย แต่มันทำให้เฉพาะคนกันเองทั้งนั้น เฉพาะหมวกกับผ้าพันคอเราก็เกือบครึ่งตู้แล้ว บางทีวัสดุเหลือใช้มันก็เอามาทำของใช้ ไม่เสียแรงที่ซึมซับพฤติกรรมดีไปจากผมที่ถ่ายทอดให้ทางเอนไซม์ หึหึ
“แบบใหม่ๆทั้งนั้นเลย พี่ได้หรือยัง ช้าอยู่ได้ หิวแล้ว”ได้ของตัวเองเร่งของคนอื่น กินเก่งไม่เปลี่ยน ยิ่งทำกับข้าวเป็นยิ่งแล้วใหญ่ น้ำหนักขึ้นก็โวยวายโทษผมที่ไม่ห้ามแถมใช้ให้มันทำพร้อมส่งกำลังใจทางสีหน้าว่าอร่อย ตลอดกูผิดตลอด พอว่ามันก็บอกว่าผมถูกเรื่องเดียว คือเรื่องได้มันเป็นเมีย หมดข้อโต้แย้งที่ถูกต้อง
“ดูหนังสือกับข้าวแก้หิวไปก่อน”ผมพูดไม่ได้มองหน้ามันกำลังเพลิน
“ก็ด๊ายยย”เสียงยอมรับที่ยังไง๊ยังไงก็ไม่จบแค่นี้แน่ ผมหันไปให้ความสนใจ
“ต่อไปมึงก็ดูหนังเอ็กซ์แก้อยากไปก่อนแล้วกัน”กัดฟันพูดใส่ ก่อนจะสะบัดหัวไปเคาน์เตอร์ นี่มึงเอาเรื่องหิวมาต่อรองกูเรื่องนี้อีกแล้วเหรอ จะเกินไปแล้วอีเห็ด
“จ่ายด้วย”เสียงผมเองที่เดินตามมาติดๆ ไม่ได้กลัวเรื่องนั้น แต่เงินอยู่กับมันต่างหาก เห็นมันยิ้มกริ่ม ก่อนจะมองเลยไปด้านหลัง ทำเอาผมหันตาม มีผู้หญิงกับผู้ชายยืนอยู่ จำได้ว่ายืนอยู่ข้างๆ และตอนแรกเข้ามาคุยกับผมอยู่ถามหนังสืออะไรก็ไม่รู้ ผมไม่ได้จำ จำได้ตอบไปว่า ให้ร้านช่วยดีกว่าครับ ดีกว่าให้เมียผมมาช่วยตอบให้
“สาเหตุที่มึงเร่งกู แค่นี้”ผมเลิกคิ้วใส่มันยักไหล่ใส่ ก่อนจะรับของและจูงมือผมออกจากร้าน
“ไม่แค่นี้หรอก ถ้ากดถ่ายรูปมึง ดีนะว่ากูสังเกตตั้งแต่โซนนั้นแล้ว ไม่ได้จะหึงพร่ำเพื่อ แต่เกินไป”พูดบอก มือเอาของใส่รถเข็น ผมขมวดคิ้ว
“ถ่ายทำไมวะ”ผมพึมพำมากกว่าจะสนใจเอาคำตอบ
“ไม่แน่ใจ ได้ยินเขาพูดว่า มึงรูปร่างดี ที่คงจะหมายถึงหุ่นไม่ใช่หน้าก็ได้”ทำคิ้วขมวดบ้างแต่ไม่วายจะเหน็บ
“แค่ใหญ่บางส่วนกูก็พอใจแล้ว”ผมยักคิ้วใส่
“ก(ร)ามที่หน้ามึงน่ะเหรอ ลดซะมั่งเริ่มบ้าแล้ว”ยื่นหน้าไม่พอสำหรับเมียต้องเรียกเสนอหน้ามาพูดใส่ หลบน้ำลายแทบไม่ทัน ด่าตรงตัวเลยก็ได้ว่ากู บ้ากาม
“กูลดไม่ได้หรอกถ้าอยู่กับมึง”หันไปทำเสียงทำหน้าเจ้าชู้ใส่ มันก็ทำหน้าเป็นจานดาวเทียมบานกลับมา แล้วว่าแต่กู
“ดีมากกกก พี่หม้อออออออออจ๋า หูน้องรอฟังตลอดเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ ห่านิ ยัง”หัวเราะชอบใจก่อนดัดจริตปัดป้องไม่จริงจัง เมื่อเจอบีบก้น ผมทำได้แค่นี้แหละในที่สาธารณะ กลับไปห้องก่อนเถอะจะแถมทัพพียักษ์คนให้ด้วย
.
.
.
.
“ครับ เรียบร้อยครับคุณสหรัฐ โอ้ย ค่าจ้างขอหุ้นอีกสักห้าสิบเปอร์เซ็นก็พอแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ”เสียงคุยเสียงหัวเราะคิกคักออกนอกหน้า จะเป็นใครไม่ได้นอกจากปู่สุดที่รักของมันและเผื่อให้ผมด้วย
“อยู่ครับ พี่ไผ่นั่งหูลู่หางตกอยู่ หุหุ”เอามือปิดปากไม่ให้รู้ว่านินทา แต่เสียงไม่ได้เบาสักนิด ผมก็ทำเป็นไม่ได้ยินช่วยส่งเสริมการคุยของมันให้ได้อารมณ์
“น้องรักปู่ที่สุด ที่สุดๆๆ จุ๊บุ๊ๆๆ”ปิดการสนทนา แต่รอยยิ้มยังกริ่มอยู่ คุยกับคนที่เรารักและห่วงมันก็มีความสุขอย่างนี้แหละครับ ถ้าหลวงพ่อไม่ได้เป็นพระผมคงคุยกับท่านได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านพี่ ท่านไม่ใช้โทรศัพท์ อันที่มีอยู่ไอ้หลิวให้น้าปลิวพกไว้เวลาติดต่อถามไถ่หรือท่านจำเป็นอะไร ส่วนใหญ่เป็นพวกผมมากกว่าที่ติดต่อไป พวกพี่ผมไปกราบท่านทุกอาทิตย์ มีช่วงหนึ่งท่านอาพาธ ผมกลับบ้านทันทีไปดูแลท่านด้วยตัวเอง ไอ้ฝิ่นเหรอครับไม่มีพลาด มันรักปู่รักแม่ยังไง มันก็รักคนในครอบครัวผมไม่ต่างกัน เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน
“ปู่หายเจ็บเข่าแล้วเหรอ”ผมถามไอ้ฝิ่นหลังวางสาย
“หายแล้ว หมอบอกเส้นตึงนิดหน่อยไม่เป็นไร น้องให้ลุงชิตส่งของไปให้หลวงพ่อ พี่ๆ และก็หลานๆแล้วนะ”มันตอบและบอกผมด้วยรอยยิ้มก่อนกินข้าวต่อ ผมพยักหน้า คิดไม่ทันไรเหมือนที่ผมคิดบอกไหมครับ แล้วอย่างนี้ผมจะมองคนอื่นได้ยังไง ไอ้เรื่องงี่เง่าเอาแต่ใจ หงุดหงิดใส่กันมีบ้างตามประสาปากกับปากที่ต้องกระทบกันบ้างของชีวิตคู่ แต่เมื่อเราเอาเรื่องที่ดีต่อกันมากลบมันก็จบแล้ว ผมกับมันจะไม่พูดคำว่า ‘เลิก’ เวลาทะเลาะกัน มันเป็นคำมักง่าย พูดบ่อยก็จะเคยปาก ทำให้มองไม่เห็นค่าเวลาที่อยู่ร่วมกัน ผมกับมันจะถอยคนล่ะคืบพอเย็นใจก็กระดื๊บหากันใหม่
“มองอย่างนี้ หลงรักกูมากขึ้นล่ะซิ ครึครึ”เสียงขัดความคิด ทำเอากระพริบตามองคนทักที่น่าฮักขนาด ก่อนมันจะพูดต่อไปอีก“บอกแล้วหลงคนอื่นเสียเวลา หลงคนชื่อ มันตา มีอนาคต”ยักคิ้วสลับไปมา ผมแกล้งทำหน้าเอือม
“กูอยากจะน้ำลายหกดัง ถุย”ผมพูดใส่หน้าคุณมันตาที่ยื่นมาใกล้เอามือกอดแขนทำตาวิ๊งๆใส่ เอาปากงับแขน ร้านนี้บรรยากาศดีถึงจะตั้งในห้าง แต่ราคาก็ไม่แพงมากนัก ไอ้ฝิ่นกับเพื่อนมันมาบ่อยมีบัตรสมาชิกก็ประหยัดไปได้อีก เรื่องกินไม่ใช่ปัญหา ปัญหาแค่มีอะไรให้กูกิน ก่อนจะนั่งพิงผมมือกดโทรศัพท์เล่น ผมก็หยิบมาเช็คเรื่องงานว่ามีอะไรค้างหรือใครติดต่อมา มีสองสามรายก่อนจะจัดตารางนัด และแจ้งกลับ ถ้าตามนี้ก็ดีแต่ถ้าไม่ผมก็จะดูความสะดวกลูกค้าอีกที ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป ช่วงนี้ผมต้องสอนด้วยไงกว่าจะจบเทอมก็เกือบสองเดือนเข้าไปแล้ว
“มองอะไรเขา”ผมถามไอ้ฝิ่นที่มองครอบครัวหนึ่งตรงโต๊ะถัดไป แต่มันไม่ได้จ้องจนเขารู้ตัว
“ตอนเด็กหรือช่วงโต พี่เรียนพิเศษไหม”มันไม่ตอบแต่ถาม
“ ไม่นะ ตอนเด็กพี่อ้อจับกูกับไอ้หลิวไปบวชเณรแก้ความมึน โตมาก็ช่วงก่อนเข้ามหาลัยไปติวกับรุ่นพี่ที่รู้จักกัน มึงล่ะ”ผมตอบและถามมันกลับบ้าง
“ถ้าเรียนตามหลักสูตรไม่มี ปู่กับแม่ไม่บังคับ เขาจะให้เรียนรู้การใช้ชีวิตมากกว่า ช่วงเข้ามหาลัยโชคดี พี่ๆกูติวให้ ประกอบกูเก่งและฉลาดเลยไม่มีปัญหา หุหุ”ตอนแรกเป็นทางการ ตอนหลังแหกโค้งเข้าหาตัวเองตามเคย
“คนเก่งเขาไม่คุยหรอกโว้ย ตัวอย่างดีๆอย่างกูไม่ดู”ผมผลักหัวมันด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะอวยตัวเองบ้าง
“กูอยากจะส่งเสียงชื่นชมดัง ขากกกก”มันพูดพร้อมทำท่าได้น่าเกลียดน่าชังมาก ขอแนะนำไม่น่ารักอย่าทำนะครับ
“สถุลและมึง”ผมบิดนอที่เชิดของมัน ก่อนจะนึกได้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน“และมึงถามทำไมวะ”
“อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอก แค่กูคิดว่าทำไมพ่อแม่สมัยนี้ต้องส่งลูกไปเรียนพิเศษด้วยวะ ทั้งที่โรงเรียนก็สอนอยู่แล้ว ไม่คิดจะให้เด็กพักสมองบ้างหรือไง เขาอาจจะอยากเล่นกับเพื่อนหรือทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก็ได้ ที่พูดเพราะกูก็ผ่านวัยเด็กมาก่อน”มันส่ายหน้าแต่ก็พูดถึงสิ่งที่มันคิดและสงสัย ผมก็เห็นด้วยกับมันนะ สถาบันกวดวิชารวมถึงสถาบันพัฒนาด้านอื่นๆ ผุดยิ่งกว่าดอกเห็ด พ่อแม่ที่มีกำลังทรัพย์ก็ส่งลูกส่งหลานไปเรียนเสริมทักษะกัน
“กูนึกว่าผ่านวัยดึก”ผมแหย่มันคลายเครียด
“ตีนเห๊อะ นั่นมึงแล้ว อย่างกูเขาเรียกวัยคึก คิกคิก”ยื่นหน้าใส่หัวเราะคิกคัก ดีแล้วจะไปเครียดทำไม ผมเลยพูดต่อ เพราะดูแล้วต่อมความเสือกมันคงไม่หายไปง่ายๆ
“พ่อแม่เขาก็คงหวังดีล่ะมั้ง อยากให้ลูกได้ความรู้ เรียนจบจะได้ดี”ผมก็ตอบอย่างเป็นกลางตามที่เคยได้ยินมา ตัวเองก็ไม่ได้เป็นพ่อคน แต่เห็นไอ้หลิวก็ไม่ได้บังคับ ต้นกล้า ให้ไปเรียนพิเศษนะ เล่น ดูหนัง เป็นเวลา จะให้ไปบวชเณรก็คงให้โต ช่วยเหลือตัวเองให้มากกว่านี้อีกหน่อย
“ก็คงงั้น แต่อะไรที่มากไปก็คงไม่ดีหรอก กูว่าเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีความเป็นเด็กตามธรรมชาติเท่าไหร่ ยอมรับนะว่าเก่ง กล้าแสดงออกมากขึ้น คำพูดคำจาบางทีเกินไปหน่อย พูดง่ายๆ แก่แดด”มันส่ายหัวพูดขำๆ เพราะมันเคยเจอมาแล้ว นอกจากไม่มีใครว่ายังชอบใจที่ตอกหน้าคนโตได้ มันไม่ได้โทษเด็กคนนั้นหรอก มันไม่ชอบผู้ใหญ่มากกว่า กลับมามันเล่าให้ฟังอย่างหงุดหงิดมาก ผมต้องปลอบเกือบทั้งคืนจนมันมาหงุดหงิดผมแทนเรื่องนั้น หึหึ
“เด็กก็คือเด็ก เขายังแยกไม่ออกหรอกว่าอะไรถูกอะไรผิด มันขึ้นอยู่กับคนจะชี้แนะเขาด้วย แล้วที่คุยกันมันเกี่ยวกับโต๊ะที่มึงมองเขาไหม”ผมเลิกคิ้วใส่มันหลังสรุปปัญหาเด็กแห่งชาติอย่างไม่เป็นทางการนัก
“ก็ไม่ได้จะเสือกอะไรกับเขาหรอก แต่เมื่อกี้ก่อนจะเข้ามาในร้าน เหมือนน้องจะโดนบังคับว่าติวเลขเสร็จ ต้องไปเรียนเปียโนต่อ แล้วน้องทำหน้าแบบเบื่อ พูดกับแม่ว่าไม่อยากเรียนแล้ว ไม่ชอบเปียโน อยากวาดภาพมากกว่า ดูน่าสงสาร แม่เขาก็เสียงแข็งใส่ กูคงไม่ต้องพูดต่อหรอกนะว่าเป็นไงต่อ”มันก้มหน้าพูดเสียงหงอยอย่างคงนึกสงสารน้องจริงๆ
“อืม ต้องให้เขาไปแก้เอาเอง”ผมพยักหน้าใส่มัน เราจะทำอะไรได้ล่ะครับ ไม่ใช่คนในครอบครัว
“กูรู้ แต่กูกลัวจะสายเกินไปแบบที่เคยอ่านในหนังสือ”มันพูดถึงหนังสือที่มันชอบอ่านประจำ ราคาไม่แพงแต่สาระเกินราคา ประมาณว่าพ่อแม่เห็นลูกชอบอยู่กับโลกส่วนตัวไม่สมาคมกับใครแม้แต่คนในครอบครัวก็สายไป เพราะชีวิตของเขาถูกจัดตารางว่าต้องทำอะไรในแต่ละวัน สุดท้ายพ่อแม่ต้องพาไปพบจิตแพทย์
“คนเราไม่โชคร้ายเหมือนกันหมดหรอก เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะ”ผมขยี้หัวมันก่อนจะเปลี่ยนประเด็นดีกว่า สักพักโต๊ะนั้นก็ลุกไป ไอ้ฝิ่นมองตามก่อนจะหันกลับมาสนใจขนมตรงหน้าต่อ ทำหน้าคิดก่อนจะพูดออกมา
“ที่จริงกูก็สนใจที่เอ็มมันชวนนะ ว่างพอดี แต่พอนึกต้องเอาหน้าสวยๆไปโชว์ก็รู้สึกเกรงว่าจะไปดับรัศมีดาราดังเข้า พอดังก็จะไม่มีเวลาให้มึงด้วย จริงไหม”มันช้อนตาพูดกับผมถึงเพื่อนมัน ยิ้มปากบานชมตัวเองอย่างไม่กระดาก
“งั้นมึงก็อย่าเสนอหน้าแรดๆไปดับเขาเลย อยู่ถ่ายหนังประหยัดเสื้อผ้ากับกูก็พอแล้ว”ผมแสยะยิ้มพูดใส่มันที่ย่นจมูกใส่
“แต่หนังมึงไม่ประหยัดแรงเลย แถมกูถ่ายผ่านก็เทคแล้วเทคอีก ค่าตัวก็น้อย”จิกด้วยปากเสร็จก็กัดหมับเข้าต้นแขน ผมหัวเราะในลำคอกดหน้ามันแนบโน้มไปหา
“แต่กูทยอยจ่ายตลอดชีวิตเลยนะ ไม่ดีเหรอ”ผมกระซิบใส่มันที่เบ้ปาก แต่ตาพราวระยิบระยับไปหมด
“ก็ดี แต่บางทีทยอยซอยกูบ้างก็ได้นะ”มันกระซิบใส่เสียงยั่วยวน
“พูดให้ตรงการแสดงออกมึงหน่อย”ผมกระแทกแขนใส่อกที่ไม่มีซิลิโคนแต่ขยันเบียดเหลือเกิน
“ก็กูเสียว”พูดหน้าตาเฉย มือหยิกแก้มผมไปมา
“ทะลึ่งนะเราน่ะ”ดึงนอมันซะเลย
“ติดพี่นั่นแหละ ครึครึ”มันว่าก่อนจะหัวเราะเมื่อโดนจี้เอว ทะลึ่งวันล่ะลิตร จิตแจ่มใสครับ ฮ่าๆๆๆๆ
“เอ้อ ขอโทษค่ะ”ใครมาขัดความเสียว เอ้ย ความหวานวะ หันไปมอง เป็นผู้หญิงที่เห็นในร้าน แต่พอดูใกล้ๆไม่ใช่หญิงแท้ มากับผู้ชายไม่แท้ สรุปแปลงหนึ่งไม่แปลงหนึ่ง
“มีอะไรครับ”ไอ้ฝิ่นเป็นคนถาม หน้านิ่งดูหยิ่งทันที สองคนมองหน้ากันยิ้มเจื่อน แต่พยายามหวานให้มากที่สุด
“คือ ก่อนอื่นพี่ขอโทษนะฮ้า ที่ร้านหนังสือ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร ขอนั่งนะฮ้า”ผู้ชาย เอ้อ ก็ผู้ชายนั่นแหละพูดพร้อมนั่ง ฉุดมือเจ๊อีกคนนั่งด้วย
“แล้วมีธุระอะไรกับเรา”ไอ้ฝิ่นถามอีก มือก็กดบางอย่าง สงสัยบันทึกไว้เป็นหลักฐานเผื่อมีเจตนาไม่ดี เดี๋ยวนี้ต้องมือไวตาไวเอาไว้ คนมีหลายรูปแบบรู้หน้าไม่รู้เจตนาว่าเข้ามาหาเราทำไม ต้องขอบคุณที่มันรับเอาส่วนดีของผมไปใช้อีกข้อ หึหึ
“คือพี่มาจากแม็กกาซีน xxxx สนใจคุณน้องทั้งสองคนมากเลยค่ะ”พูดพร้อมยื่นนามบัตรให้ ไอ้ฝิ่นรับมาดูตามมารยาท เป็นแม็กกาซีนชื่อดังที่จับเอาคนมีชื่อเสียงในหลายๆวงการขึ้นปก
“สนใจทำไม”ไอ้ฝิ่นถามอย่างไม่ยินดียินร้าย ทำเอาทั้งคู่อ้าปากก่อนจะมองหน้ากัน กับท่าทางเราที่ไม่ได้ตื่นเต้นเมื่อมีแมวมองมาทาบทาม ผมกับเมียไม่ได้ชินหรือเจอบ่อยแต่รู้สึกเฉยๆออกจะไม่ค่อยชอบด้วยซ้ำ ไอ้ฝิ่นแต่ก่อนเคยเจอบ้างเวลาไปงานสังคมกับปู่ เขามาขอถ่ายรูปมันจะยกยิ้มนิดๆหรือไม่ก็ทำหน้าเฉยๆ ต่างจากตอนอยู่กับครอบครัวเราและเพื่อนๆ มีทุกหน้าทุกท่า ถึงไม่ขอก็จัดให้
“ตอนนี้เรามีคอนเซ็ปคู่รักแบบไม่จำกัดเพศ เห็นน้องสองคนที่ดูแล้วคงเป็นคู่รักกันแน่นอน เลยสนใจอยากทาบทามให้ร่วมด้วยน่ะค่ะ มีหลายคู่นะคะอยากให้ลองไปเทสต์กันดูก่อน บลา บลาๆๆๆๆๆ”เขาพูดจนฟังแทบไม่ทันตามประสาแมวมองที่ต้องโน้มน้าวให้สนใจ
“ถ้าน้องสนใจ อาจจะไม่ได้มีแค่ถ่ายแบบ รวมไปถึงถ่ายโฆษณา เล่นหนัง ด้วยนะคะ หน้าตาอย่างนี้ผ่านสบายเลยค่ะ พี่คอนเฟริ์ม บลาบลาๆๆๆๆ นะคะ”คุยน้ำไหลไฟดับออกทั้งหน้าทั้งมือ ก่อนจะยกน้ำขึ้นจิบ กระพรือขนตาปลอมขึ้นลง
“โอเค”ไอ้ฝิ่นพูดออกมา ทำเอาผมมองหน้ามัน ที่ตกลงง่ายจัง สองคนยิ้มกว้างขึ้นมาทันที ก่อนจะหุบแทบไม่ทัน เมื่อได้ฟังต่อ ทำหน้างงใส่กัน
“เราไม่ตกลง”สรุปมึงโอเคแต่ไม่ตกลง ยังไง ช่วยอธิบายก่อนเขาจะเริ่มตาแตกตามมา
“เอ้อ น้องโอเค แต่ไม่ตกลง ยังไงค่ะ พี่งง”เจ๊ที่แปลงแล้วเอียงคอถาม พอกับอีกคนที่ทำท่าไม่ต่างกัน
“คือสรุปว่า ตกลง ไม่สนใจ”เมียแปลไทยเป็นไทยอีกที ซึ่งน่าจะเข้าใจมากกว่าเดิม
“โธ่ น้องค่ะ คิดดูอีกทีหรือเอากลับไปคิดก่อนก็ได้ค่ะ พี่ไม่เร่งรัด พี่สนใจจริงๆนะคะ นะ”คนผู้ชายแต่ออกสาวพยักหน้าทำปากใส่แบบเชิงขอร้อง
“ใช่ค่ะ โอกาสแบบนี้ไม่ใช่มีง่ายๆนะคะ ไม่ใช่ว่าจะยัดเหยียดหรือดูถูกอะไรนะคะ เราดูแล้วน้องตรงใจเรามาก มันดูไม่เฟค ไม่แอ๊บ ไม่จิ้น เหมือนที่เห็นทั่วไป”เจ๊แปลงแล้วเกลี้ยกล่อมอีก แต่ดูชมจากใจจริง
“เราก็ต้องบอกตามตรงว่า ไม่สนใจ คิดดีแล้ว พี่หาคนอื่นเถอะ เราไม่อยากเอาชีวิตและความรักของเราไปออกสื่อ เราอยากใช้ชีวิตแบบนี้มากกว่า ต้องขอโทษด้วย เข้าใจนะครับ”ไอ้ฝิ่นบอกเหตุผลที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ก้มหัวให้เล็กน้อย
“ฮ้า เข้าใจ เสียดายอ่ะ”พี่ผู้ชายทำหน้าเสียงทำหน้าเสียดายตามสไตล์แก มีเม้มปาก
“ใช่ กว่าจะหาได้ เฮ้อ”เจ๊แปลงแล้วเสียดาย ก่อนจะยกยิ้มและพูดต่อ
”ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงพี่ก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของน้องก่อน แต่ ถ้าเปลี่ยนใจกริ๊งกร๊างหานะคะ”มีย้ำตอนท้าย ทำเอาเมียยกยิ้ม
“ขอบคุณครับที่สนใจเรา”ไอ้ฝิ่นพูดด้วยรอยิ้ม ผมแค่ก้มหัวนิดหน่อย ปล่อยให้เมียเคลียร์ เพราะเอาอยู่
“โอ้ย อย่ายิ้มค่ะ เดี๋ยวต่อมอยากได้พี่กำเริบ ล้มลงไปกอดขา น้องจะลำบาก”เจ๊ทำมือห้ามแต่มีจับแขนมัน ที่อมยิ้มนิดๆ ก่อนจะขอตัวไปจริงๆสักที
“ผีใบ้เข้าสิงหรือไง ไม่ช่วยกูพูดเลยนะ”หันมาแขวะใส่หนึ่งดอก
“กูรู้ แค่มึงคนเดียวก็เอาอยู่ จะพูดให้เหนื่อยทำไม”ผมปรายตามองมันพูดเสียงเนือยๆ
“พูดเหนื่อย ทีทำไปพูดไป กูไม่เห็นมึงเหนื่อยเลย”นั่น โยงไปเรื่องกิจกรรมที่กูชอบอีก
“กูเลือกสถานการณ์ที่เหมาะสม”ผมเลิกคิ้วพูดใส่มันที่จิกแขน
“เหรออออออออออออ”มันทำเสียงลอยหน้าใส่ เบะปากนิดๆ ก่อนทำท่าคิดและพูดต่อ“แต่จะว่าไป ตั้งแต่มีคนเริ่มออกมาเปิดตัว กระแสคู่รักแบบนี้เลยมาแรงเน๊าะ พี่ว่าไหม”
“ไม่ว่า สิทธิของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา”ผมตอบมัน ที่เหยียบเท้าบี้ไปมา
“น้องก็ไม่ได้ว่า แต่แค่อยากถามความเห็นมึงบ้าง”แล้วจะใช้คำแทนตัวเพื่ออะไรวะ
“ยังไงล่ะ มึงถามครอบคลุมเกินไป”ผมเลิกคิ้วใส่มันให้กระชับพื้นที่หน่อย
“ก็กระแสตอบรับ ดัง มีแฟนคลับติดตาม พี่ว่ามันดีไหม”มันพูดยกตัวอย่างหัวข้อ
“มันขึ้นอยู่กับตัวเขาเองว่าชอบหรือเปล่าที่มีคนชอบ มีคนติดตาม ถ้าไม่รำคาญแล้วรู้สึกดีเสมอต้นเสมอปลาย ก็แล้วไป”ผมตอบตามความเข้าใจของตัวเอง ก็เหมือนดารานักร้องที่บางครั้งรักนะ แต่ก็อยากส่วนตัวบ้าง ถ้าพูดอะไรออกไปกระทบจิตใจแฟนคลับที่นิยมชมชอบก็ ดราม่ากันอีก อย่างที่เห็นตามข่าว แต่ที่ดีก็มีเยอะ
“แล้วถ้าเป็นมึงล่ะ จะรู้สึกยังไง”กูว่าแล้ว มันต้องย้อนมาเข้ามาตัว
“มึงจะเอาคำตอบแบบดารา หรือ ความจริง”ผมพยักหน้าถามมัน
“เอาตามหนังหน้ามึงอ่ะ”มันพยักหน้ากลับ
“กูไม่ชอบ จบไหม”ผมยักคิ้วให้
“ควาย ไม่หล่อ ยังหยิ่ง”มันเหยียดปากใส่
“มันเป็นสไตล์กู แล้วมึงอ่ะ”ผมเขกหัว ย้อนถามมันบ้าง
“เรื่องของกู ฮ่าๆๆๆๆ”ลอยหน้าหัวเราะใส่ จนต้องหันหนีมลพิษทางเสียง อดใจไม่ไหวจะปิดด้วยปากเข้าให้
“ไป กลับบ้าน นั่งนาน กูอายเขา มีเมียประสาทแดกไม่หายสักที”ผมแกล้งว่าและฉุดมันลุกขึ้น
“บ่น แต่ก็แดกกูอยู่ได้ จิ๊”ไม่มีสลด กัดปากใส่
“ไม่บอกล่ะให้กูไปแดกคนอื่นบ้าง อุบ ซี๊ดดด ไอ้หนอน”ผมกระตุกยิ้ม ก่อนจะสูดปากเมื่อเจอกรงเล็บจิกท้องเข้าให้ แสดงว่าเริ่มลงพุงมันหยิกติด ปกติลื่นพรืดๆ ไม่ได้ต้องเพิ่มการออกกำลังบนเตียงให้มากขึ้น เสร็จกู
“มึงลองสิ กูจะแดกทั้งคู่เลย”มันข่มขู่มือหยิกพัลวัน ผมต้องจับให้หยุดก่อน คนเริ่มมองแล้ว ไม่ได้อายแต่ถ้ามันหยิกต่อผมจะหยิกก้นมันบ้างเป็นการเอาคืน ทีนี้มันนั่นแหละจะอายแทน ถึงหน้าผมจะด้านไหนก็หล่อแต่บ้องไผ่อย่างผมเหมาะกับเมียยี่ห้อฝิ่นคนเดียว พอกับที่ผมก็เสพมันได้คนเดียวเหมือนกัน หึหึ
*****************************************************************************************************************
ปล. เอาคุณพี่คุณน้องมาฝาก หลังจากเงียบหายไปนาน ยังคิดถึงกันอยู่ไหม เป็นวันสบายๆๆของทั้งคู่ที่ยังรักกันดีสี่กันมันส์เหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนเรื่องหนังสือและการเปิดจองปีหน้าค่ะ ตอนนี้กำลังจัดแต่งให้เข้าที่อยู่ อย่าเพิ่งเปลี่ยนใจกันนะคะ คุณพี่คุณน้องและผองเพื่อนยังรอทุกคนอยู่จ้า