Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple  (อ่าน 151944 ครั้ง)

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
จ่อตูดพอดีเลย :o8: :o8:

แอบสงสัยใจว่าเห่งต้องมีใจให้โจ้แน่เลย รู้สึกว่าทุกคู่มีมือที่สามมาพร้อมกันหมด จะเป็นยังไงต่อ รอลุ้นครับ

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
อยากติดตามตอนต่อไปเร็ว ๆ จังเลยครับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ส่วนตัวชอบคู่ที่ 1 ดูมีอะไรให้ลุ้นและเดาทางออกได้พอควร
ส่วนคู่ 2 นี่ ไม่ค่อยน่าสนเท่าไหร่ ดูเรียบไปนิด แต่ต้องดูกันต่อไป
ส่วนคู่ 3 ท่าทางจะออกแนว รักคนหลายใจ ช้ำใจวันละหลายหน   :m14:

รออ่านต่อค่ะ  :m1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ตอนแรกชอบ คู่ 1 กับ คู่ 2 เพราะดูแล้ว

คู่แรกท่าทางจะเป็นรักที่ลำบากเพราะความเป็นลูกศิษย์อาจารย์กัน

คู่3 เป็นรักที่แอบรักเค้าข้างเดียว แถมรักคนเจ้าชู้อีก คงต้องเหนื่อยแน่ๆ

แต่พอมาอ่านตอนล่าสุดเริ่มจะน่าสนุกเพราะ มีบุคคลปริศนาเข้ามาอีก 1 คน น่าลุ้นจิงคับ

three

  • บุคคลทั่วไป
ชอบคู่ที่1กับคู่ที่3ครับ  คู่ที่1อ่านแล้วน่ารักดีลุ้นๆอยู่อ่ะครับ(มันยากมากๆนะครับที่จะเป็นจริงได้อ่ะ) :mc4:
 คู่ที่3   แบบรักหลายๆเศร้าอ่ะครับรักคนเจ้าชู้ต้องทำใจอ่ะครับ :o12:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:m15:
ถ้าพูดในแง่ชีวิตรันทดคงต้องบอกว่าสงสารโจ้...กับชีวิตเด็กกำพร้า
แต่ถ้าคิดถึงในด้านความรักคนที่น่าเห็นใจคงเป็นยอดชายนายปอ...
เพราะโจ้กับอาจารย์เบน หรือ เชียร์กับพี่เอก ต่างก็มีใจให้กัน แต่...
นายเก่งดูเหมือนจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านายปอหลงรัก...แถมยังต้องทนดู
นายเก่งไปกับคนอื่น หรือจีบเพื่อนตัวเองอีก.... :sad4:
 :teach:
จริง ๆ อยากจับคู่ใหม่จัง...
ให้โจ้คู่กับพี่เอก ... คนธรรมดาที่สู้ชีวิตดี
เชียร์คู่กับพี่เก่ง...หล่อเลือกได้กับไฮโซหลายใจ
และนายปอคู่กับเหน่ง...คู่รักนักดนตรี
 :m4:
เอาใจช่วยทุกคู่ทุกคนต่อไปปปปปป บทลงเอยจะเป็นไง อยากรู้จังงงง

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Three Couple of love บทที่7 คนที่เรารัก กับ คนที่รักเรา

คู่ที่1

"ทำไมวันนี้ถึงไม่กินข้าวกับเรา" เล้งเอ่ยถาม แสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ
"เราก็เรียกเล้งแล้วนะ แต่เล้งไม่ยอมมานั่งกับเราเอง"
"เราอยากนั่งกินกับโจ้แค่สองคน ไม่ใช่สามคน"ที่เล้งพูดถึงคงหมายถึงอาจารย์เบน
"แล้วนั่งกันสามคนไม่ได้เหรอ" ผมแย้งไป ชักเริ่มมีน้ำโหแล้ว
"งั้นพรุ่งนี้ไปกินข้าวกับเราได้ไหม" เล้งคงไม่อยากทะเลาะกับผม เลยเริ่มพูดีดี
"พรุ่งนี้เรามีนัดแล้ว" ผมบอกตามความจริง
"กับใคร" เล้งเริ่มขึ้นเสียง
"...." ผมไม่ตอบ ถ้าผมบอกว่าอาจารย์ เล้งคงต่อยผมแน่เลย
"อาจารย์ เบน ใช่ไหม"เล้งเดาออก
"เราไม่จำเป็นต้องตอบนาย ทำไมนายต้องคอยถามทุกเรื่องของเราด้วย"ผมขึ้นเสียงบ้าง
"โจ้ ยังไม่รู้เหรอ ว่าเราคิดยังไงกับนาย ก็ได้ โทดทีนะ เราไม่ใช่อาจารย์เบน เรามันแค่เพื่อนที่หวังดีคนหนึ่งเท่านั้น" พูดเสร็จเล้งก็เดินเข้าห้องของตัวเอง ปิดประตูเสียงดัง
ผมก็พอรู้อยู่หรอกว่าเล้งคิดยังไงกับผม แต่ให้ทำยังไงเราคิดกับเล้งแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

เช้าวันต่อมา....
ผมตื่นตามปกติ พอผมจะเข้าไปอาบน้ำ มีคนมาเคาะประตูที่หน้าห้อง ผมเดินออกไปเปิดประตู เล้งนั่นเองถือถุงอะไรไม่รู้มาด้วย
"โจ้ เมื่อวานเราขอโทษนะ ที่เราพูดกับนายแบบนั้น" เล้งทำหน้าสำนึกผิด
"ไม่เป็นไรหรอก เราไม่โกรธเล้งหรอก เราก็ต้องขอโทษด้วยนะที่เราเอง ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของเล้ง"
ผมยิ้มรับ ถ้าผมเป็นเล้งผมก็คงต้องโกรธแน่นอน ที่เห็นคนที่เราชอบไปอยู่กับคนอื่น
"เล้งขอบใจกับความรู้สึกดีดีที่มีให้เรานะ เราเองยังไม่ได้ตัดสินใจกับใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นอาจารย์เบน หรือ แม้แต่เล้งก็ตาม" ผมบอกเล้ง ถึงแม้ผมเองจะรู้สึกชอบอาจารย์ แต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าอาจารย์คิดเหมือนผมหรือเปล่า
"เราซื้อน้ำเต้าหู้ กบ โจ๊กมา กินด้วยกันนะ"เล้งชูถุงที่หิ้วมาด้วย
"ขอบใจนะ"ผม กับเล้งจึงกินข้าวเช้าด้วยกัน
พอแต่งตัวเสร็จ ผมกับเล้งจึงเดินไปมหาลัยพร้อมกัน

คู่ที่2

"ว่าไงเชียร์ พี่กลับมาแล้ว" ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าเรียวงาม หันมาหาผม
ผมตอบกลับไปทันที "มาทำไม ไม่อยู่อมริกาไปจนตายเลยล่ะ"
"นี้เชียร์ พี่เค้าอุส่าห์มาเยี่ยม ทำไมไม่คุยกับพี่เค้าดีดีล่ะลูก" พ่อดุผม
"พี่แจ๊ค คิดถึงคุณลุงกับเชียร์มากๆเลยนะ"ชายคนนั้นเดินมาหาผม แต่ผมรีบเดินขึ้นไปที่ห้อง
"วันนี้เชียร์เหนื่อย ขอขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะ"ผมรีบเดินขึ้นห้องไป

พอผมขึ้นไปที่ห้อง ความทรงจำเก่าๆก็เริ่มหวนคืนมา
ช่วงที่ผมยังอยู่มัธยมต้น ตอนนั้นผมยังเป็นเพียงเด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง ยิ่งสมัยตอนมอต้น ผมใส่แว่นตาหนากรอบดำ อ้วนเป็นหมู สิวเต็มหน้า พูดได้เลยว่าเป็นเด็กที่น่าตาน่าเกลียด ผมชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่กล้าคบกลับใคร เพราะอายในหน้าตาของตัวเอง
ทุกครั้งผมมักจะเอารูปดาราญี่ปุ่นมาปิดหน้าของตัวเอง และหวังไว้สักวันวันหนึ่ง ผมจะต้องน่ารักให้เหมือนพวกดาราญี่ปุ่นให้ได้

พ่อเห้นผมชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว กลัวผมไม่มีเพื่อนเล่น เลยให้ลูกของคุณลุง หรือลูกพี่ลูกน้องของผม ชื่อแจ๊คมาเล่นด้วย พี่แจ๊คแก่กว่าผม 4 ปี และกำลังจะไปเรียนไฮสคูลที่อเมริกา พี่แจ๊คเป้นคนน่าตาดี ผิวดี รูปร่างดี ต่างจากผมมากๆ ผมเลยไม่ค่อยอยากเล่นกับพี่แจ๊ค เพราะไม่อยากให้ใครมาเปรียบเทียบผมกับพี่แจ๊ค
"เชียร์ นายทำไมไม่ยอมเล่นกับพี่"พี่แจ๊คเอาหุ่นยนต์มาหใผม
"ไม่ ไม่ เชียร์ไม่ชอบเล่นกับคนหล่อ" ผมหันหลังให้พี่แจ๊ค
"แล้วไอ้หล่อไม่หล่อ มันเกี่ยวกันตรงไหน"
"ไม่รู้อ่ะ เชียร์มันน่าตาน่าเกลียดอย่ามายุ่งกับเชียร์เลย"
"แล้วเชียร์อยากน่าตาน่ารักบ้างไหมล่ะ"
"พี่แจ๊ค พูดตลกน่า เป็นไปไม่ได้หรอก"
พี่แจ๊คเดินมาด้านหลังผม แล้วจับผมให้หันหน้าไปจ้องตาพี่แจ๊ค
"เชียร์ คนเราต้องลองทำก่อนแล้วค่อยพูดว่าทำได้หรือทำไม่ได้ แต่นี้เชียร์ยังไม่ได้ลองทำอะไรเลย แล้วจะรู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ จำไว้นะ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้" พี่แจ๊คเตือนสติผม
หลังจากวันนั้นผมเริ่มออกกำลังกาย ซื้อยาบำรุงผิว เปลี่ยนแปลงตัวเอง
เพียงไม่กี่เดือน ผมก็กลายเป็นคนใหม่ เป็นเชียร์ที่ทุกคนชื่นชมในทุกวันนี้
ผมกับพี่แจ๊คเลยสนิทกันมากขึ้น จนผมเริ่มรักพี่แจ๊ค

"ไงยังโกรธพี่อยู่เหรอ"พี่แจ๊คเดินมาจากไหนก้ไม่รู้เข้ามากอดผมทางด้านหลัง
"ไม่ให้โกรธได้ไงเล่นไม่ติดต่อกลับมานึกว่าหายไปกับหนุ่มฝรั่ง"
"5555 ข่าวเร็วจังเลย"
ผมแกะมือพี่แจ๊คออก ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ถือสาอะไร แต่ตอนนี้ หัวใจของผมไม่ใช่ของพี่แจ๊คต่อไปแล้ว
พี่แจ๊คยังจับตัวผมเข้าไปใกล้
"คิดถึงเชียร์จัง พี่ไม่ใช่ไม่อยากติดต่อ แค่ไม่ได้ส่งเมลย์มาปีเดียวเอง ช่วงนั้นเชียร์ต้องอ่านหนังสือสอบเอ็นท์ไม่ใช่เหรอ"
"ปีเดียวเอง พูดได้นี้ พี่คงไม่รู้สึกอะไรกับเชียร์แล้วล่ะ ก็ตอนนั้นคบกับหนุ่มอมริกาไปแล้วนี้"
พี่แจ๊คกอดผมแน่นค่อบก้มลงมองผม
"ยังไงเราทั้งสองคนก็เป็นครั้งแรกของกันและกันนะ"
พี่แจ๊คใช้สายตาเหมือนทุกๆครั้งที่เรามีอะไรกัน
ผมเคลิ้มไปกับสายตานั้น คนแรกที่ผมรัก และ คนแรกที่รักผม
เขากลับมาหาผมอีกครั้ง
ผมขยับตัวเข้าไปใกล้พี่แจ๊ค ปากของพี่แจ๊คก็ประกบกับปากของผม
รสชาติจูบของพี่แจ๊คยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ก่อนที่ผมจะเคลิ้มไปกว่านี้ หน้าพี่เอกก็ผุดขึ้นมาทันที ผมจึงผลักพี่แจ๊คออกไป
"ตอนนี้มันไม่เหมือนตอนนั้นแล้วนะ" ผมรีบเดินไปหลบที่หลังห้อง
"ครับ พี่ขอโทษ"พี่แจ๊คยังสุภาพเหมือนเดิม
ผมกับพี่แจ๊คไม่ได้พูดอะไรกันอีก พี่แจ๊คมองผมพยายามใช้สายตาดึงดูดผมให้ต้องยอมพี่แจ๊ค แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว
"พี่แจ๊คกลับไปเถอะ ผมขอพักผ่อน วันนี้ผมเหนื่อยมาก" พี่แจ๊คจึงปล่อยผมให้อยู่ตามลำพัง

คู่ที่3

"คนรักกัน มันไม่จำเป้นเสมอไปหรอก ว่าจะต้องเป้นแฟนกัน"
เหน่งลุกขึ้นนั่งก้มลงมองผม สายตาของเหน่งนั้นไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยมองผม เหมือนมันอยากจะบอกอะไรบางอย่าง
สักพัก เหน่งก็ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม
"กูบอกมึงเท่านี้แหล่ะ"
"ขอบใจนะ" ผมตอบเหน่ง
เหน่งหลับไป แต่ผมยังคงนอนไม่หลับ
เมื่อกี้ที่เหน่งมันพูดหมายความว่าอะไร มันคงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดหรอกนะ ที่จริงผมเองก้รู้สึกแบบนั้นกับเหน่งมานานแล้ว แต่คงเพราะความเป็นเพื่อนจึงทำไม่ให้คิดเกินเลยมากไปกว่านั้น ผมไม่กล้าเสี่ยงเอาคำว่าเพื่อนเปลี่ยนเป็นคำว่ารัก เพราะมันอาจจะเป็นผลเสีย ต่อความสัมพันธ์ของผมกับเหน่ง เป้นเหมือนที่เป็นตอนนี้นั้นแหล่ะดีแล้ว

ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เห็นนาฬิกาบอกเวลาก็ต้องกระเด้งลุกขึ้นจากเตียง
"เฮ้ยๆ ไอ้เหน่ง สายแล้ว มีเรียนเช้าใช่ไหม"ผมรีบปลุกไอ้เหน่ง
"อืมม รู้แล้ว ตื่นแล้ว"ไอ้เหน่งลุกขึ้นมาขยี้ตา ปกติผมจะตื่นเพราะจะตั้งเวลานาฬิกาปลุกไว้ แต่เมื่อคืนคุยกับเหน่งจนดึกเลยลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้
เหน่งรีบถอดเสื้อผ้าเพื่อเข้าอาบน้ำ
"ไปแก้ผ้าในห้องน้ำซิว่ะ"ผมด่าไอ้เหน่ง
"มึงเห้นของกูตั้งแต่เด็กแล้ว ยังจะมาอายอะไรว่ะ"
ผมกับเหน่งอาบน้ำด้วยกันบ่อยๆ
"เข้ามาอาบด้วยกันดิว่ะ จะได้ไม่เสียเวลา" เหน่งเรียกผมเข้าไปอาบน้ำด้วย ผมยังนึกถึงคำพูดของเหน่งเมื่อวาน เลยยังลังเลที่จะทำตัวกับมันแบบเดิม แต่ถ้าผมทำตัวผิกปกติ อาจจะทำให้เหน่งเสียความรู้สึก เลยตกลงเข้าไปอาบน้ำกับเหน่งด้วย

นานแล้วที่ผมไม่ได้อาบน้ำกับเหน่ง ตั้งแต่เข้ามหาลัยเหน่งไม่ค่อยได้มาค้างที่บ้านผม
"ไอ้ปอถูหลังให้กูหน่อยดิ"
"อืมม" ผมทำตามที่เหน่งขอร้อง แล้วเหน่งก็มาถูหลังให้ผมเช่นกัน
แต่แทนที่เหน่งจะถูหลังกลับเข้ามากอดผมแล้วเอาหน้าซบกับหลังของผม ผมตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก
"มึงไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น กูแค่ขอกอดมึงเท่านั้น แล้วกูจะไม่ขออะไรจากมึงอีก กูสัญญา"
ผมรู้สึกถึงหยดน้ำตาของเหน่งที่มากระทบกับไหล่ของผม ผมทำได้แค่เพียงกุมมือของเหน่งไว้

อยากให้คนที่เรารัก รัก เหมือนกับคนที่รักเรา

----- จบบทที่ 7 -----

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ตอนนี้แต่ล่ะคน ทำไมมันเศร้าๆไงพิกล

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
แต่ละคน แต่ละปัญหา น่าหนักใจแทนจริง ๆ

ปล...ผมชอบคู่ของโจ้ อ่ะครับ มันให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ

เหมือนคนเดินดินทั่ว ๆ ไป

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
เห็นด้วยกับรีบนครับ

ว่าแต่ถ่านไฟเก่าจะคุไหม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อืม มีมือที่สามมาแรกทั้งสามคู่เลยวุ้ย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ T@luntulA

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่าติดตามคับบ

มาต่อไวๆเน้ออ  :bye2:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Three Couple of love บทที่8 คืนแหงรัก คืนแห่งเรา

คู่ที่1

หากใจเราตรงกัน โปรดบอกได้ไหมว่าเธอก็คิดเหมือนกัน

หลังจากเลิกเรียน ผมรีบลงไปรออาจารย์หน้าห้องพักอาจารย์ ผมไม่ลืมที่จะไปตรวจความเรียบร้อยของตัวเองก่อนที่จะไปพบอาจารย์ ผมที่เริ่มยาวกับแว่นตาที่ดูเอ๋อๆยังไงก้ไม่รู้ ดูกี่ทีกี่ทีก็ไม่เคยเห็นความน่ารักของตัวเองเลย

ผมยืนรอยู่สักพัก อาจารย์ก็ออกมาจากห้อง
"ไปกันเถอะ อาจารย์หิวแล้ว" อาจารย์กับผมเดินไปขึ้นรถเมล์
พอถึงที่ห้าง ผมกับอาจารย์ก็เข้าไปกินที่ร้านฟูจิ
ตอนที่กินด้วยกันนั้น ผมพยายามไม่สบสายตาอาจารย์ เพราะผมเป็นคนขี้อาย ถ้าเขินอะไรมากๆก็จะทำอะไรไม่ถูก อาจารย์มักจะเป็นคนชวนคุยมากกว่า
"ทำไมไม่เห้นคุยอะไรกับผมเลย"อาจารย์เห็นผมเงียบๆนั่งกินอยู่อย่างเดียวผมไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มให้อาจารย์
"หรือว่า ไม่อยากมากับผม" อาจารย์ถามผมจนผมต้องไปจ้องตาอาจารย์ แต่เพียงไม่นานผมก็ต้องหลบสายตานั้น
"โจ้ไม่อยากมากับผมเหรอ"
"ป่าวคับ"ผมตอบอาจารย์แต่ก็ยังไม่ยอมสบตาอยู่ดี
"ถ้างั้น ป้อนกุ้งเทมปุระให้อาจารย์หน่อยสิ"อาจารย์เอาตะเกียบชี้ไปทางกุ้งเทมปุระที่อยู่ในใจ
ผมไม่รู้ว่าอาจารย์ทำไมถึงอยากให้ผมทำแบบนี้ ผมมองซ้ายมองขวา โชคดีที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ในร้าน พยายามใช้ตะเกียบคีบกุ้งเทมปุระ
อาจารย์มองผมทุกอิริยาบถ พอคีบก้งได้แล้วผมก็ค่อยๆป้อนให้อาจารย์แม้มือจะคีบกุ้ง แต่ตาของผมกลับสบตากับอาจารย์อย่างจัง คราวนี้ผมไม่ได้หลบสายตา กลับมองตาของอาจารย์ที่ส่งสายตามาให้ผม
"อืมม" อาจารย์รอ้าปากรับกุ้ง แต่สายตาของเราทั้งสองยังคงจ้องมองกันอยู่

พอกินอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมกับอาจารย์ก็จะกลับบ้าน พอดีอาจารย์เหลือบไปเห็นร้านขายไอศครีมจึงถามผม
"โจ้กินไอติมไหม" ผมตอบรับอาจารย์
อาจารย์จึงเดินไปซื้อไอติมมา ผมสงสัยว่าทำไมอาจารย์ถึงซื้อไอติมโคนมาแค่อันเดียว
"อาจารย์ไม่กินไอติมเหรอครับ"
"ก็กินกับโจ้ไง ให้อาจารย์กินด้วยได้ไหม"อาจารย์ตอบ ส่งสายตาเหมือนมีความหมายอะไรแฝงอยู่ ผมได้แต่ยิ้มเขินๆอยู่คนเดียว พอผมเริ่มกัดไอติมไปคำหนึ่ง อาจารย์ก็บอกให้ผมยืนไอติมมาให้อาจารย์กินด้วย "เมื่อกี้โจ้กินตรงไหน"
ผมชี้ไปตรงที่ผมกินไปเมื่อกี้ อาจารย์ก็กัดเนื้อไอติมซ้ำตรงนั้นด้วย กลายเป้นว่าตอนนั้นตัวผมแข็งกว่าไอติมซะอีก

พอกลับมาถึงหอ ผมก็จะลาอาจารย์ที่หน้าหอ แตอาจารย์รีบเอ่ยขึ้นมาว่า
"ให้ผมไปส่งที่ห้องนะ" ผมไม่ได้ว่าอะไร เดินนำอาจารย์ขึ้นมาที่ห้อง
ผมพาอาจารย์เข้ามาที่ในห้อง แต่ยังไม่ได้ทำอะไร อาจารย์เอ่ยขึ้นมาว่า
"ขอผมค้างที่นี้น่ะ" ผมสะดุ้งหันไปหาอาจารย์ อาจารย์เดินเข้ามาใกล้ผม สายตาที่อาจารย์มองผมทำให้ผมขยับไปไหนไม่ได้ เพียงไม่กี่อึดใจอาจารย์ก็จูปปากกับผม มือของผมโผเข้าไปกอดอาจารย์ ร่างของเราทั้งสองก็ล้มลงไปบนเตียงนอน ไม่ต้องมีคำพูดใดใด แค่นี้ก็รู้แล้วว่า อาจารย์คิดยังไงกับผม

คู่ที่2

ผมกับ เตเต้และแมคกี้ นัดกันไปฟิตเนสแถวๆมหาลัย โดยจุดประสงค์ของเพื่อนผมทั้งสองคือไปดูผู้ชายออกกำลังกาย แต่จุดประสงค์ของผมคือไปออกกำลังกาย และไปเจอกับพี่เอก

พอไปถึงฟิตเนส เตเต้กับแมคกี้ ก็แยกตัวออกไปพวกนั้นคงจะรีบไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ก็ไปห้องอาบน้ำ เพราะจะได้ดูผู้ชายตามที่พวกมันต้องการ แต่ผมยังคงเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถว หน้าเคาน์เตอร์ เลยเดินไปถามพนักงานที่เคาว์เตอร์ว่าพี่เอกอยู่ไหน
"ตอนนี้กำลังสอนเต้นอยู่ที่ห้องแอโรบิกค่ะ" ผมจึงเดินไปที่ห้องเอโรบิก

ที่ห้องเอโรบิกเห็นคนกำลังเต้นตามพี่เอก แน่นห้องมากๆ ผมมองพี่เอกเต้นอยู่นอกห้อง มองพี่เอกผ่านทางกระจก ทุกลีลา ทุกท่าทาง การขยับขาขยับมือ เป็นไปตามจังหวะ ผมเริ่มหลงใหลพี่เอกขึ้นทุกที เป็นครั้งแรกที่ผมชอบคนที่มาชอบผม ส่วนมากผมจะไม่เคยชอบคนที่มาจีบผมเลยสักคน เป็นผมซะมากกว่าที่ไปชอบคนอื่นเค้า และคนๆนั้นที่เป็นแฟนคนแรกของผม คือพี่แจ๊ค

ผมกับพี่แจ๊คเริ่มคบกันตั้งแต่ผมอยู่ มอสาม ส่วนพี่แจ๊คกำลังขึ้นมอหก แต่จะเรียนไฮสคูลก่อนอีกปีหนึ่งเพื่อนจะสอบเข้ามหาลัยที่อเมริกา ผมกับพี่แจ๊คใช้ความเป็นลูกพี่ลูกน้องปิดบังความสัมพันธ์ของเรา มีแค่โจ้ กับ ปอ ที่รู้ เมื่อพี่แจ๊คไปเมืองนอก ก็ยังติดต่อกับผมเสมอๆ ทั้งโทรศัพท์ ส่งอีเมลย์ ผ่านไปสองปี พี่แจ๊คแทบจะไม่ติดต่อมาหาผมเลย ผมคิดไปเองว่าคงเรียนหนัก แต่ผมได้ข่าวมาว่าพี่แจ๊คมีแฟนเป้นคนอเมริกัน และเคยพามาที่เมืองไทยด้วย ผมได้เห็นกับตา ทำให้ผมไม่อยากที่จะรักกับใครจริงจัง และโกรธพี่แจ๊คมากๆที่ทำร้ายจิตใจผม

พอจบการเต้นแอโรบิก ทุกคนก็แยกย้ายออกจากห้องไป มีแต่พี่เอกเท่านั้นที่อยู่ในห้องกำลังเก็บวิทยุ ผมจึงเดินเข้าไปหา พี่เอกเห็นผม รีบเดินมาหาผมยิ้มจนตาหยี
"น้องเชียร์มาหาพี่ถึงที่นีเลยหรือครับ คิดถึงล่ะสิ"
"ป่าวสักหน่อย พอดีจะมาออกกำลังกายกับเพื่อน เลยแวะมาทัก"
"แค่นี้ก็ดีใจแล้ว" พอพี่เอกพูดจบ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับพี่เอกสงสัยคงเป็นพวกที่เต้นแอโรบิก
"อยากรู้จักคุณน่ะครับ ผมมาเต้นทุกครั้งที่คุณสอนเลยน่ะ" ผู้ชายคนนั้นจีบพี่เอกตรงๆ ผมกลายเป็นหัวหลักหัวต่อไปแล้ว
"นี้นามบัตรผมน่ะครับ ติดต่อมาน่ะครับ"ผู้ชายคนนั้นให้นามบัตรกับพี่เอก และใช้มือจับที่ต้นแขนพี่เอก ส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับพี่เอกอีกด้วย ขนาดผมเป็นแฟนกับพี่เอกยังไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวพี่เอกเลยน่ะ พี่เอกรับไว้เป้นมารยาท แล้วหันหน้ามามองผม คงรู้ครับว่าผมรู้สึกยังไง
"ดีเนอะมีคนมาจีบด้วย โทรไปหาเค้าสิ ท่าทางน่าจะรวยน่ะ" ผมพูดจาประชดประชัน แล้วเดินหันหลังออกไป
พี่เอกเรียกผมแล้วรีบเดินตามผมมาที่ห้องอาบน้ำ

พี่เอกรีบคว้าตัวผมแล้วผลักผมเข้าไปที่ห้องน้ำ
"จะทำอะไร" ผมโดนพี่เอกขึงมือแล้วดันไว้กับผนังห้องน้ำ
"หึงพี่เหรอ ดีใจจังน้องเชียร์หึงพี่ด้วย"พี่เอกมองผม ตอนแรกผมพยายามดิ้น แต่สู้แรงพี่เอกไม่ไหว
"ไม่เอา!!!! อย่าทำอะไรที่นี้ได้มั้ย เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน"
"ก็จะทำ เชียร์จะได้รู้ไงว่าพี่ รัก เชียร์"แค่พี่เอกพูดเท่านี้ผมก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับพี่เอก
พี่เอกค่อยๆไซร้มาที่ข้างๆหูของผม แล้วกระซิบบอกว่า
"อย่าครางเสียงดังน่ะจ๊ะ ที่รัก!!!"

คู่ที่3

ผมเดินทางไปที่ผับ เพื่อไปเล่นดนตรีตามปกติ เมื่อไปถึง เหน่งยังไม่มาทั้งๆที่ใกล้ถึงเวลาร้องเพลงแล้ว ผมเลยถามคนในวงว่าวันนี้เหน่งจะมาร้องเพลงหรือเปล่า ผมกลัวเหน่งไม่อยากจะมาเจอผมเพราะเรื่องวันนั้น วันที่มันมาขอกอดผม ตอนนั้นจิตใจผมสับสนวุ่นวายไปหมด ผมลืมเรื่องพี่เก่ง เพราะผมเองก็แคร์เหน่งเหมือนกัน
"มาดิว่ะ ถ้ามันไม่มา มันต้องโทรมาบอกก่อนอยู่แล้วนี้"
แต่ผมไม่มั่นใจเลยโทรไปหาเหน่ง แต่เหน่งไม่ยอมรับ
ผมเลยให้เพื่อนคนอื่นๆช่วยโทรไปอีก ปรากฏว่ามันรับ มันบอกว่าใกล้ถึงแล้ว แต่ผมยังสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่รับโทรศัพท์ของผม
"ไอ้ปอมึงรู้ป่าวว่ะ ว่าวันที่ไอ้เหน่งไม่มาแล้วให้มึงร้องเพลงแทน มันไปไหน" ผมส่ายหน้า คืนนั้นที่มันมาค้างที่บ้านผม ผมเองก็ลืมถามไปเลยว่ามันไปไหนมา
"มันไปซื้อของขวัญให้มึงไง ไหนว่ะมันให้อะไรมึง"เพื่อนในวงถามผม
"สร้อยอันนี้ใช่ไหม"เพื่อนผมชี้ไปที่สร้อยที่ผมใส่
สร้อยเส้นนั้นแม้จะคล้ายสร้อยเส้นทีเหน่งซื้อให้ แต่มันก็ไม่ใช่สร้อยที่เหน่งซื้อให้แต่กลับเป็นสร้อยที่พี่เก่งซื้อให้

ก่อนถึงเวลาร้องเพลงไม่กี่นาที เหน่งก็มาถึง ผมมองเหน่ง แต่เหมือนเหน่งไม่สนใจผม ผมรู้สึกไม่ดีเลย

หลังจากเล่นดนตรีจบเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
เหน่งเดินมาหาผม ผมดีใจที่ท่าทีของเหน่งยังเหมือนเดิม
"อ๊ะ กูซื้อของขวัญมาให้ใหม่"เหน่งยื่นกล่องของขวัญมาให้ผม
"กูบอกแล้วว่าไม่ต้องก็ได้"ผมรับของขวัญชิ้นนั้นมา มันเป็นนาฬิกาข้อมือที่ตรงกลางหน้าปัดเป็นรูปกีตาร์
"ถึงมึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะ กูก็อดน้อยใจไม่ได้ กูรู้น่ะว่า ยังไงมึงก็ใส่สร้อยของพี่เก่ง กูเลยไปซื้อนาฬิกามา หวังว่ามึงจะใส่ของที่กูซื้อให้บ้าง" ผมรู้สึกผิด ที่ทำเหมือนไม่แคร์ความรู้สึกของเพื่อนผมเลย
"ที่มึงมาช้า คือมึงไปซื้อนาฬิกาให้กูใช่มั้ย"ผมลองถามดู
เหน่งพยักหน้า และยิ้มให้ผม

ผมกลับมาถึงบ้าน เห็นมีรถคันหนึ่งมาจอกรอที่หน้าบ้าน เป็นรถบีเอ็มสีน้ำเงิน ผมจำรถคันนั้นได้ดี
ชายหนุ่มรูปหล่อกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่หน้ารถ ดูสีหน้าเหมือนกังวลอะไรบางอย่าง
พี่เก่งเห็นผม ก็รีบเดินเข้ามาหาผมทันที
"ปอ ว่างมั้ย ไปดื่มกับพี่หน่อยซิ"

ผมนั่งรถไปกับพี่เก่งมาที่ร้านแห่งหนึ่ง
พี่เก่งสั่งเหล้ามาแล้วกินแทบไม่ยั้ง ผมรีบห้ามพี่เก่ง
"พี่เก่งเป็นอะไรครับ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า"พี่เก่งไม่ตอบอะไรยังคงตั้งหน้าตั้งตาดื่มเหล้าต่อไป ผมไม่รู้จะทำอะไรได้แต่ดูพี่เก่งดื่มเหล้าต่อไป พอเห้นพี่เก่งไม่สบายใจผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจไปด้วย

พนักงานในร้านเดินมาที่โต๊ะผม บอกว่าใกล้ถึงเวลาร้านจะปิดแล้ว
ผมมองดูรอบๆร้าน ก็ไม่เห็นมีใครในร้านนั่งอยู่เลย
"พี่เก่งครับ กลับกันเถอะ ร้านเค้าจะปิดแล้ว"ผมเขย่าตัวพี่เก่งที่นั่งก้มหน้าฟุบลงตรงโต๊ะ คงเมาหนักเลยหลับไป
"พี่เก่งๆๆๆ ตื่นเถอะ"พี่เก่งยังไม่มีอาการตอบสนองใดๆ คงเมาหนักจริงๆ
ผมเลยต้องแบกตัวพี่เก่งกลับไปที่รถ
สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนขับรถกลับไปที่บ้านพี่เก่ง เลยโทรไปถามไอ้เชียร์
"ไอ้เชียร์บ้านพี่เก่งอยู่ไหนว่ะ"
"มึงถามกูทำไม จะไปหาเค้าเหรอ"
"พี่เค้าชวนมากินเหล้า แต่เค้าเมาหนักมากกูเลยจะขับรถเค้าไปส่งที่บ้าน"
"กูว่ามึงขับรถไปส่งพี่เค้าที่คอนโดดีกว่าน่ะ พี่เค้าไม่ค่อยกลับบ้านหรอก"
"เออ เออ มึงบอกทางให้หน่อยล่ะกัน"
"อืมม ได้ แล้วมึงไปสนิทกับพี่เค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ"
ผมลืมไปว่ายังไม่ได้เล่าเรื่องผมกับพี่เก่งให้เชียร์ฟังเลย
"เออ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังที่หลังน่ะ"
ผมเลยขับรถพี่เก่งไปที่คอนโดของพี่เค้าโดยมีเชียร์คอยบอกทาง

พอมาถึงที่คอนโด พี่เก่งก็ยังหลับใหลไม่ได้สติอยู่ ผมเลยต้องแบกพี่เก่งขึ้นไปที่ห้อง ดีที่มียามมาช่วยด้วยอีกแรง และคอยบอกด้วยว่าห้องพี่เก่งอยู่ไหน

ห้องของพี่เก่งน่าอยู่มากๆ มีของหรูๆเต็มไปหมด ผมไม่ค่อยได้สนใจกับห้องมากมายเท่าไร ผมแบกพี่เก่งแล้วค่อยๆวางลงบนที่นอน
ผมนั่งลงข้างๆพี่เก่งบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า
ผมมองพี่เก่งที่ยังคงนอนหลับใหลไม่ได้สติ
ใบหน้าของพี่เก่งยังคงหล่อเหลาเมื่อเดิม
ผมมองดูใบหน้าของคนที่ผมอยากอยู่ใกล้มากที่สุด คนที่ผมอยากให้รู้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน
ผมใช้มือลูบที่ใบหน้าของพี่เก่ง คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะทำได้
"ผมรักพี่นะครับ"
ผมค่อยๆก้มลงไปจูบที่ปากของพี่เก่ง แม้จะเป็นการจูบของผมฝ่ายเดียว

ผมลุกขึ้นจากเตียง แต่ก็มีมือมาฉุดผมไว้จนผมล้มลงไปบนเตียง
แล้วพี่เก่งก็ขึ้นมาทับผมไว้
"ขโมยจูบพี่ แล้วคิดจะหนีเหรอ"
พูดเสร็จพี่เก่งก็จูบผม
ไม่มีใครหรอกที่จะปฏิเสธพี่เก่ง และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

----- จบบทที่ 8 -----

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ คืนอะไรกันเนี่ย ไม่รอดทั้งสามคู่เลย  :m4: :m4: :m4:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
โฮ่ ๆๆ เสร็จทั้ง 3 คู่เลย   :m25:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:o8:
ก็ยังคงยืนยันความเห็นเดิม...สองคู่แรกไงก็ถูกตาต้องใจกันมาก่อน
แต่ยอดชายนายปอเนี่ยสิ...พี่เก่งเมา ตื่นมาคงทางใครทางมัน....
แต่ไงซะคืนนี้ก็สมหวังกับคนที่ต้องการทุกคู่เลยยยย  :m4:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
แล้วปอจะทำไงเนี่ย พี่เก่งท่าทางจะไม่รับผิดฃอบด้วย

ออฟไลน์ ronger

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 599
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
นายปอมีแววชีช้ำ  o7 เพราะพี่เก่งแกเมาแล้วก็ท่าทางเป็นเพลย์บอยซะด้วยซิ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โห................คืนไรกันเนี่ย ไม่รอดสักราย

แต่คู่สุดท้าย นี้น่าเป็นห่วงจิงๆ กลัวจะชีช้ำจิงๆ

three

  • บุคคลทั่วไป
สองคู่แรกไม่กังวลเท่าคู่สุดท้าย ถวายตัวให้เสือผู้หญิงไปซะแล้ว(เสื้อผู้ชายนี้หวา :m23:)
อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยมันไป :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






three

  • บุคคลทั่วไป

KevinKung

  • บุคคลทั่วไป
มาติดตามด้วยคนค้าบบบ  :m1:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Three Couple of love บทที่9 ความรัก กับ ความเป็นจริง

คู่ที่1

ผมลืมตาตื่นมา จากค่ำคืนที่ผมมีความสุขมากที่สุด
ผมมองดูแผงหน้าอกอันกว้างและใหญ่ อบอุ่นเมื่อได้ซุกหน้าเข้าไป
ผมเงยหน้ามองดูหน้าอาจารย์ที่กำลังหลับอยู่
ตอนอาจารย์หลับยิ่งน่ารัก(และน่าฟัดกว่าตอนตื่นซะอีก)
ปากของอาจารย์พะเหยอเล็กน้อย
ใบหน้าของผมใกล้กับหน้าของอาจารย์จนได้กลิ่นลมหายใจของอาจารย์

เมื่อคืนอาจารย์เป็นคนที่เริ่มกับผมก่อน
ผมเองชักอยากจะเป็นฝ่ายเริ่ม กับอาจารย์บ้าง
ผมเลยก้มลงไปจูบที่แก้มของอาจารย์
อาจารย์ขยับตัว พลิกตัวหันหลังให้ผม แต่ก็ยังหลับใหลอยู่
คงเหนื่อยหล่ะซิ ผมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ตั่งแต่ผมเริ่มชอบอาจารย์ตอนที่เห็นอาจารย์ครั้งแรกที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว
ขึ้นรถไฟฟ้ากับอาจารย์ด้วยกัน ติดอยู่ในตู้โทรศัพท์ท่านกลางฝนที่ตกหนักกันสองคน ได้อยู่ในห้องนอนอาจารย์ตอนไปพิมงานให้อาจารย์ จนเกือบจะจูบกัน และการได้ไปเดทกับอาจารย์กันสองคน และสุดท้ายด้วยการลงเอยบนเตียงนอนนี้
ผมเชื่อแล้วว่าพรหมลิขิตมีจริง

"ก๊อกๆๆ" มีคนมาเคาะประตู ใครหว่ามาขัดจังหวะ
ผมกระเด้งลุกลงจากเตียง พร้อมคว้าผ้าขนหนูมาใส่(ตอนนั้นเปลือยอ่ะ อายจัง!!!)
ผมเปิดประตู คนที่มาหาผมคือ เล้ง พร้อมซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋มาให้ด้วย
"เอ้า ยังไม่แต่งตัวอีกหรือ มีเรียนเช้านี้"เล้งมองร่างผมที่เปลือยท่อนบนอยู่
"คือ.. เราตื่นสายอ่ะ เดี๋ยวจะรีบอาบน้ำแล้ว"
"รีบอาบหล่ะ เดี๋ยวจะได้มากินโจ๊กด้วยกัน งั้นเราไปรอในห้องน่ะ"
เล้งเดินเข้ามาในห้องของผม ผมรีบมากันตัวเล้งไม่ให้เข้าไป ถ้าเล้งเห็นอาจารย์เบน นอนบนเตียงของผมด้วยร่างที่เปลื่อยเปล่า คงเป้นเรื่องแน่
"เรา ว่า เล้งไปก่อนดีกว่า คือ เรา" ผมไม่รู้จะบอกเหตุผลอะไรดี
"มีอะไรเหรอ โจ้ดูแปลกๆน่ะ" เล้งคงสงสัยผมที่ผมดูมีลับลมคมใน
ผมยังอ่ำอึ่ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี พอดีเห็นเสื้อผ้าของผม กับอาจารย์ อยู่บนพื้นกระจัดกระจายไปหมด(ก็ตอนนั้นรีบถอดเสื้อกัน แล้วขว้างทิ้งเต็มพื้นเกลื่อนห้องไปหมด)
"เอ่อ คือ เราทำห้องรก นายอย่าเข้าห้องเราเลย เราอายอ่ะ" ผมแก้ตัวไป
เล้งหัวเราะ "มิหน่าหละ เสื้อผ้าเกลื่อนเต็มห้องเลย แต่เราว่า นายเก็บกกน.ของนายให้ดีดีหน่อยสิ ดูดิ มีตั้งสองตัว"เล้งชี้ไปที่กกน.บนพื้น มันเป็นของผม กับของอาจารย์ ดีที่เล้งไม่สงสัย
เล้งให้โจ๊กกับผม"เราไปก่อนก้อได้ ว่าจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุด งั้นฝากกินโจ๊กแทนด้วยน่ะ " พอเล้งปิดประตู ผมถอนหายใจเสียงดัง โล่งอกจริงๆ ไม่เคยโกหกใครมาก่อนเลยรู้สึกแปลกๆ

ผมมองโจ๊กสองถุงที่เล้งซื้อมาให้ เล้งคงอยากเอามากินกับผม
สักพักก็มีมือมาโอบผมไว้จากด้านหลัง
อาจารย์ยื่นหน้ามาซบไว้ที่บ่าของผม พร้อมจูบที่แก้มของผมหนึ่งที
"ได้โจ๊กมาจากไหนเนี้ย อย่าบอกน่ะว่าใสผ้าขนหนูผืนเดียวเดินไปซื้อโจ๊กให้ผม"
ผมหัวเราะ "ผมเสกมาให้อาจารย์เองแหล่ะ ไปอาบน้ำเถอะครับจะได้มากินโจ๊กด้วยกันสายแล้วน่ะ"ผมแกะมือของอาจารย์ออก แต่อาจารย์ยังไม่ยอมปล่อยมือ ยังดึงผมเข้าไปจุ๊บปาก
"อาบน้ำด้วยกันซิ" อาจารยืส่งสายตาให้ผม ผมว่าคล้ายตาของหมาจิ้งจอก ดูเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ แต่เซ็ซี่มากๆๆๆๆๆๆ

ในห้องอาบน้ำ อาจารย์ไม่วายที่จะเริ่มกับผมอีกครั้ง
สรุปว่าผมกับอาจารย์ไปสายกันทั้งคู่

ก่อนออกจากห้อง อาจารย์หันมาบอกกับผม
"เรื่องของเราจะเกิดขึ้นที่ห้องนี้เท่านั้น ถ้าอยู่ข้างนอกแล้ว อย่าทำอะไรให้ใครสงสัยน่ะ" อาจารย์ดูซีเรียสกับเรื่องนี้มาก ผมเองไม่ได้คัดค้านอะไร ผมเข้าใจว่า ตำแหน่งและหน้าที่ของอาจารย์บังคับให้ต้องทำแบบนั้น รวมทั้งสถานภาพของผมด้วย "ครับ" ผมยิ้มและตอบรับ
ก่อนอาจารย์ออกจากห้อง อาจารย์จับมือผมขึ้นมาจูบ
และเดินออกไป

ผมปล่อยให้อาจารย์เดินออกไปก่อน 5 นาที แล้วค่อยเดินตามออกไป
ผมก้าวออกมาเดินสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง หลังจากอยู่ในโลกแห่งความฝันมาทั้งคืน

คู่ที่2

"อ๊ะ อ๊ะ"เสียงของผมครางออกมาเป็นจังหวะ
"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ้า!!!!" พี่เอกเองก็ครางออกมาแข่งกับผมจถึงที่สุดพี่เอกก็ครางออกมาเสียงดัง เหมือนเป็นการบอกหมดยกการแข่งขัน
พี่เอกค่อยนอนทับร่างผมที่นอนคว่ำหน้าไว้
"โอ๊ย หนัก อย่าทับได้ไหม" ผมพูดไปหอบไป
"โทดทีคร้าบ" พี่เอกจุ๊บแก้มผมที่นึง แล้วพลิกตัวนอนหงายข้างๆผม
"พอยังอ่ะ นี้รอบที่ 4 แล้วน่ะ"ผมพูดแล้วเบ้หน้าใส่พี่เอก
"ใครบอกเล่า รวมที่ฟิตเนสอีกเป็น 5 รอบแล้วต่างหาก"
หลังจากเสร็จภารกิจที่ฟิตเนส ผมกับพี่เอก ก็กลับมาปฏิบัติภารกิจกันต่อที่ห้องของพี่เอก
"อีกรอบดีไหมน่ะ"พี่เอกเริ่มใช้มือลุกล่ำมาที่ของๆผม
ผมปัดมือออกไป พี่เอกเลยเปลี่ยนเป็นมาคว้ามือผมเข้าไปลุกล่ำของๆพี่เอกแทน ผมกำลังจะปัดมืออีกรอบ ก็มีคนมาเคาะประตู

ก๊อกๆๆๆ พี่เอกรีบลุกไปเปิดประตู ทั้งๆที่ยังไม่ใส่อะไรเลย!!!!!
"อะไรของมึงว่ะ มาเคาะอะไรดึกดื่นๆ"คนที่มาเคาะประตูคือน้องโท น้องชายของพี่เอก พี่เอกคงสนิทกับน้องมากเลยยืนคุยกับน้องตัวเองทั้งๆที่ยังล่อนจ้อนอยู่
"ดึกอะไรเล่าเฮีย นี้มันจะตีห้าแล้ว ผมได้ยินเสียงเฮียตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วน่ะ" น้องโทเริ่มโวยวาย
"นี้แกแอบฟังฉันเหรอ" พี่เอกชี้หน้าน้องโท
"แอบฟังอะไร ก็เฮียเล่นตะโกนออกมาขนาดนั้น ดีน่ะที่ม้า กับ ป๊าคิดว่าเป้นเสียงโทรทัศน์ ผมเลยบอกไปว่าเฮียแกดูหนังโป๊"
"เอ้าแกไปบอกป๊า กับม้า อย่างนั้นทำไม"
"หรือ จะ ให้ผมบอกว่าเฮียพาผู้ชายมาอึ๊บ"น้องโทพูดมีเหตุผล
"เออๆ ฉันขอโทด แกไปช่วยป๊า กับ ม้า เถอะ"พี่เอกไล่น้องโทไป
น้องโทชะเง้อหน้าเข้ามาในห้อง
"ผมว่าแล้วว่าต้องเป้นพี่เชียร์" แล้วน้องโทก็เดินออกไป

พี่เอกลับมานอนข้างผมเหมือนเดิม
"ครอบครัวพี่เอกรู้เหรอว่าพี่เป็นเกย์" ผมถามด้วยความสงสัย หลังจากฟังบทสนทนาเมื่อกี้
"ครับ น้องๆรู้กันหมดแหล่ะ พ่อแม่เองเค้าก้รู้ด้วย แต่เค้าทำเป็นไม่รู้"
"ทำไมหล่ะครับ" ผมถามด้วยความสงสัย
พี่เอกมองเพดาน"ไม่มีพ่อ แม่คนไหนหรอกครับ ที่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ ถึงท่านจะบอกว่ารับได้ และเข้าใจในตัวลูก แต่ลึกๆข้างในจิตใจก็ยังอยากให้ลูกเป้นผู้ชายปกติอยู่ดี" ผมฟังพี่เอกพูดเลยกลับมาคิดถึงพ่อของผม แม้ว่าพ่อของผมจะไม่เคยแสดงปฏิกิริยาโมโห โกรธ หรือ ไม่พอใจกับสิ่งที่ผมเป็น แต่ผมเองก้เคยคิดนะครับว่าพ่อของผมเองก็อาจจะรู้สึกลึกๆในใจว่าทำไมผมถึงไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆทั่วไป
"ไม่เอา อย่าเครียดดิ"พี่เอกเห็นผเครียดตามที่พี่เอกพูดเลยพูดปลอบผม พร้อมเอามือมากอดผมไว้
"อย่างน้อย พี่ก็มีคนที่เข้าใจพี่"พี่เอกมองมาที่ผม ผมยิ้มอย่างเขินๆ
พี่เอกเอามือมาบีบจมูกผม คงหมั่นเขี้ยวผมมั้ง พี่เอกชอบเอามือมาบีบจมูกผม ตอนผมชอบทำท่าเขินๆทุกครั้ง พี่เอกบอกว่าตอนเชียร์เขินเหมือนหมาแถวบ้าน(เอ้า!ชมหรือด่าเนี้ย)

สรุปว่าผมกับพี่เอกก็ปฏิบัติภารกิจไปอีกรอบ(ครั้งนี้เสียงเบาหน่อย รู้สึกเริ่มมีความเกรงใจแล้ว)

ก่อนผมนอน พี่เอกก็มาจูบหน้าผากผมไว้
ส่วนผมหลับคาอกพี่เอกไป
ผมเลยขาดเรียน และพี่เอกก็ต้องลางาน เฮ้อออ!!!ก็เล่นไปหกรอบ ใครจะไปมีแรงไหวเนี้ย 55555

คู่ที่3

ร่างกายของผมนอนเคียงข้างกับร่างกายของคนที่ผมรัก
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนผมไม่รู้ว่าพี่เก่งทำไปเพราะความรัก หรือ ความใคร่
แต่ร่างกายของผมตอบสนองพี่เก่งเพราะความรัก
ทุกท่วงท่า ทุกกิริยา ผมจำได้ดี ผมไม่แปลกใจเลยที่ใครก็ตามที่ได้ลองลิ้มรสกับพี่เก่งแล้วเกิดการติดใจ ผมไม่ปฏิเสธว่าผมก็รู้สึกติดใจลิ้มรสของพี่เก่งเหมือนกัน

ผมกอดร่างของคนที่ผมรักไว้แน่น มันคงจะดี ถ้าพี่เก่งจะกอดผมบ้าง
ฝันของผมกำลังจะไปได้สวย ถ้าไม่มีใครเปิดประตูห้องเข้ามาซะก่อน
เสียงเปิดประตูดังโครม!!!! จนทำให้ผมสะดุ้งตื่น
เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้เตียงของผมกับพี่เก่งที่นอนอยู่
"อะไรกันเนี้ย ทำไมเก่งถึงพาเด็กคนนี้มาที่ห้อง"ชายหนุ่มคนหนึ่งอาละวาดอยู่ตรงปลายเตียงที่นอน ผมมองหน้าหนุ่มคนนั้น ผมจำได้ว่าเค้าคือ โน๊ต คนที่พี่เก่งทะเลาะด้วยในบาร์เกย์ที่พี่เก่งพาผมไปด้วยในวันเกิด
ผมตกใจไม่รู้จะพูดอะไรดี พี่เก่งงัวเงียตื่นขึ้นมา เห็นโน๊ตยืนจ้องหน้าขเม้งก็ตกใจ "โน๊ตนายมาทำอะไรที่นี้"
"ก็มาดูเก่งไงว่า พาใครมามั่วอีก"
"โน๊ต นายไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนี้น่ะ ผมบอกแล้วผมจะทำอะไรก็เรื่องของผม"
"เก่งยังไม่เข็ดเหรอ ที่เราถอนหุ้นออกจากบริษัทิของเก่ง จนเก่งจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หรือจะให้เราขายบริษัทิของเก่งอีก"โน๊ตพูดเหมือนขู่
"นายจะทำอะไรก็เชิญ ต่อให้นายจะฆ่าเรา เราก้ไม่มีวันรักคนอย่างนายหรอก" พี่เก่งตะหวาดเสียงดัง พี่เก่งโกรธมากจนหน้าแดงตัวสั่นไปหมด
ผมพอเดาจากบทสนทนาว่าที่เมื่อคืนพี่เก่งดื่มหนักคงเป็นเพราะที่โน๊ตเล่นงานบริษัทของพี่เก่งเพราะพี่เก่งไม่ยอมรักโน๊ต คนเรานี้อาฆาตแรงกันจริง

"เราก็รู้อยู่หรอก ว่าคนอย่างเก่งคงไม่มีวันรักใครได้หรอก เก่งมันก้เหมือนเกย์คนอื่นๆที่วันเอาแต่คิดเรื่องที่จะมั่วกับใครดี ไม่เคยนึกถึงความรักที่บริสุทธิ์บ้าง" โน๊ตเองก้ใส่อารมณ์กับพี่เก่ง
"ถ้าเราจะรักใคร เราคงไม่มีวันมารังควานคนที่เรารัก อย่างที่นายทำอยู่อย่างนี้หรอก" พี่เก่งเองก็ตอกกลับได้อย่างสาสม
ผมเองฟังดังนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ รู้สึกสมน้ำหน้าโน๊ตยังไงก้ไม่รู้
โน๊ตเห็นผมหัวเราะ ด้วยความโกรธเลยเดินตรงมาที่ผม แล้วลากผมลงมาจากเตียง ผมตัวเล้กกว่าจึงไปตามแรงดึงของโน๊ต
ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว โน๊ตก็ง้างมือมาตบที่หน้าผม เพี้ย!!!!!!!
ผมล้มลงไปกองกับพื้น โน๊ตยังไม่ยอมเลิก ยังคงง้างมือจะตบผมอีก สันชาติญานของผมทำให้ผมต้องสวนหมัดกลับไป
จึงทำให้เกิดการตะลุมบอนกันขึ้นกลางห้องพี่เก่ง

"หยุดเดี๋ยวนี้" พี่เก่งเดินเข้ามาแยกผมกับโน๊ตออกจากกัน
"ฟังน่ะ เราไม่มีวันจะรักใครได้ ถ้าหัวใจของเราไม่บอกให้รัก" พี่เก่งตะหวาดใส่หน้าโน๊ตอีกครั้ง จนโน๊ต ต้องเดินถอยออกไป พร้อมหันหน้ามาทางผมกับพี่เก่ง ด้วยหน้าตาที่เคียดแค้น "จำไว้น่ะ พวกแกไม่มีวันมีความสุข"

พี่เก่งเข้ามาประคองผม "เป้งไงบ้าง เจ็บไหม"
ผมไม่ตอบอะไร
พี่เก่งจ้องหน้าผม ผมก็มองหน้าพี่เก่ง ผมพยายามสื่อให้เก่งรู้ว่าผมคิดกับพี่เก่งยังไง
"เรื่องเมื่อคืน น่ะ พี่เพียงแค่อยากสนุกและพี่ก็เมามากด้วย พี่เลยอยากให้ปอ...." ผมมองหน้าพี่เก่งหัวใจแทบหยุดเต้น
"ลืมเรื่องเมื่อคืนซะ" เพียงแค่นั้น ผมก็ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าและเดินออกจากห้องของพี่เก่งไป
น้ำตาของผมไหลออกมา ที่ไหลไม่ใช่เพราะผมเจ็บที่โน๊ตต่อยผม แต่เจ็บกับคำพูดของคนที่ผมรัก
ผมนึกถึงคำพูดของพี่เก่งที่พูดกับโน๊ต
"เราไม่มีวันจะรักใครได้ ถ้าหัวใจของเราไม่บอกให้รัก"
ผมบอกกับตัวเอง
"แล้วพี่เก่งจะรู้ไหม ว่าผมรักพี่เก่ง เพราะหัวใจผมบอกให้รัก"

ความจริงของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน มีสุข สมหวัง หรือโหดร้าย ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไรอยู่ที่เราจะยอมรับสิ่งเหล่านั้นได้หรือไม่

-----จบบทที่ 9 -----

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
สงสารปออ่า ไม่น่าไปรักคนอย่างเก่งเลย

เล้งอีกคนทำไมน่ะ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ดูแล้วท่าทางจะแย่ โดยเฉพาะคู่ปอ น่าสงสาร  :o12:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
คู่หนึ่ง กับ สาม ดูท่าจะไปไม่รอดด้วยกันทั้งคู่

คู่แรก สถานะต่างกันและดูแล้วคนที่เป็นอาจารย์ก็ไม่ได้จริงจังกับโจ้ คงนึกอยากสนุกและหาที่ระบาย

คู่สอง ก็คงยากที่จะทำให้ พี่เก่ง มารักปอได้


nartch

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องอื่นคนอ่านคงกลุ้มกันทีละเรื่อง...แต่เรื่องนี้ X3
คู่แรกออกแนวปิดบังจนดูอึดอัด
คู่ที่สองกลับเปิดเผยจนดูน่ากลัว
คู่สุดท้ายนายปอ... :เฮ้อ:
ยังไงก็ก็เอาใจช่วยทุกคู่ ฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
คู่ปอ  :m15:  :m15:  :m15:  :m15:
คู่โจ้  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
คู่เชียร์    :m25:  :m25:

^ - ^A s A v I n * o *

  • บุคคลทั่วไป
หนุกๆๆๆครับบบ

มาต่อไวๆๆๆน้า

 :mc3: :mc4:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Three Couple of love บทที่10 ความรักของผม คือ.....
คู่ที่1

ความรักของผม คือ ความลับ

เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ผมอาจารย์(แอบ)คบกัน โดยตอนกลางวัน เราทำตัวเป็นปกติ คือ วางตัวในฐานะ ลูกศิษย์ กับ อาจารย์ ส่วนตอนกลางคืน ที่ห้องของผม เราจะทำตัวเป็นคนรักกัน ผมยังไม่รู้สึกอึดอัดอะไรกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ แต่ผมเองก็กลัวว่าสักวันหนึ่ง ความลับอาจจะถูกเปิดเผยขึ้น และผลของการถูกเปิดเผย อาจจะร้ายแรงกว่าที่ผมคิดไว้ก็ได้

ส่วนเล้ง ผมเองพยายามออกห่างจากเล้ง ไม่ใช่ผมไม่ชอบเล้ง แต่เล้งเป็นคนดูคนง่าย ผมว่าเล้งก็คงรู้อยู่แล้วแหล่ะ ว่าผมกับอาจารย์เบนคบกันอยู่ แต่เล้งยังไม่มีท่าทีอะไร คงเพราะยังไม่เห็นผมกับอาจารย์เบนแบบ "คาหนังคาเขา" เพราะทุกครั้งที่อาจารย์มาหาผมที่หอตอนกลางคืน ก่อนเวลาหอปิด เพียง 3 นาที แน่นอนช่วงนั้น เป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีใครเข้าออกจากหอแล้ว จึงไม่ค่อยมีใครมาสนใจอาจารย์เท่าไร อีกทั้งอาจารย์เองยังแต่งตัว ธรรมดาๆ ใส่เสื้อกล้าม กางเกงบอล แทบจะไม่มีมาดของอาจารย์อยู่เลย และเวลาประมาณ4ทุ่ม ถึง 5ทุ่มเป็นเวลาที่เล้งอ่านหนังสือ อาจารย์จึงมาหาผมได้อย่างปลอดภัย

เวลาเรียนวิชาของอาจารย์เบน เป็นช่วงที่ผมทรมานมากที่สุดเพราะต้องเก็บอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขิน อาย เพราะเล้งนั่งข้างๆผมมักชอบจะจับผิดผมอยู่เสมอ
อาจารย์เองก็ชอบแกล้งผม ชอบให้ผมตอบนู้นตอบนี้เกี่ยวกับเรื่องที่สอนอยู่เรื่อยๆ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง อาจารย์สอนเกี่ยวกับ "ความต้องการของมนุษย์" ตาม ทฤษฎี ของ มาสโลว์(นักจิตวิทยา)
"มาสโลว์ ได้แบ่งความต้องการของมนุษย์ไว้ 5 ขั้น" อาจารย์ยืนสอนอยู่หน้าห้อง
"นั้นก็คือ
1.ความต้องการทางด้านร่างกายเช่นปัจจัย4
2.ความต้องการความปลอดภัย
3.ความต้องการความรัก
4.ความต้องการได้รับการยกย่องนับถือ
5.ความต้องการความสำเร็จในชีวิต"
พอพูดจบอาจารย์ก็เดินเข้ามาใกล้ตรงนิสิต อาจารย์ให้แต่ละคนบอกสิว่าในความคิดของแต่ละคนคิดว่าความต้องการอันไหนสำคัญกับมนุษย์มากที่สุด แต่ละคนก็ตอบไปตามความคิดของแต่ละคน จนมาถึงผม ผมสบตากับอาจารยืก่อนจะลุกขึ้นตอบมาว่า
"ในความคิดของผม ผมเห็นว่า "ความรัก" เป็นสิ่งทีสำคัญกับมนุษย์ เพราะที่มนุษย์ต้องการความปลอดภัย,ต้องการได้รับการยกย่องนับถือ,ต้องการความสำเร็จในชีวิต,และต้องการสิ่งต่างๆทางด้านร่างกาย เพราะมนุษย์ รัก ตัวเอง"
แม้ผมจะพูดจบแต่อาจารย์ก็ยังถามผมอีก
"แล้วเธอมองว่า ความรัก เป็นอย่างไร" อาจารย์ถามเหมือนมีความในแอบแฝง
"แต่ละคนคงให้ความหมาย หรือ นิยาม ความรักต่างกัน บางทีรักอาจเป็นสิ่งที่ดี หรือ บางทีรักอาจทำให้เราเสียใจ อยู่ที่เราจะใช้ รัก อย่างไร เพื่ออะไร และ เพื่อใคร ผมเองมองความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ไม่ผิด ไม่มีถูก"
ผมมองอาจารย์ที่ยืนกอดอกยิ้มให้ผม
"ท่าทางเธอ ดูจะเข้าใจความรักเป็นอย่างดีเลยน่ะ"อาจารย์พูดกับผมก่อนที่จะเข้าเรื่องที่จะสอนต่อไป

นอกจากที่ห้องของผมจะเป็นที่ที่ผมใกล้ชิดกับอาจารย์แล้ว ยังมีอีกที่หนึ่งที่ผมจะได้อยู่กับอาจารย์สองต่อสอง นั้นก็คือ ที่ห้องพักอาจารย์ ผมเป็นนิสิตผู้ช่วยอาจารย์ คือ มีหน้าที่ช่วยเหลืองานของอาจารย์ แล้วแต่อาจารย์จะสั่ง เช่น พิมงาน ถ่ายเอกสาร เรียบเรียงเอกสาร ฯลฯ ผมมักจะมาทำงานที่ห้องพักของอาจารย์ประจำ อาจารย์เองก็ชอบแอบมาค่อย "สอนงาน" ผมเสมอ
"อาจารย์ครับ อันนี้มันต้องพิมยังไงครับ" ผมหยิบเอกสาร ที่มีบรรดาตัวสัญลักษณ์ และ สูตรที่ใช้ในวิชาสถิติ ผมพิมตัวพวกนั้นไม่เป็น เลยจะให้อาจารย์สอนพิมให้เป็น
อาจารย์รีบเดินมาหาผม
"ไหนๆ อ๋อ เดี๋ยวสอนให้น่ะ"
อาจารย์มายืนอยู่ใกล้ด้านหลังผม อาจารย์ค่อยๆยืนมือ มาทีคีย์บอร์ด แต่กลายเป็นอาจารย์เอื้อมมือมากอด พร้อมหอมแก้มผมหนึ่งที
"อยู่ใกล้โจ้ ทีไรอดใจไม่ได้สักที" พูดเสร็จอาจารย์ก็เริ่มไซร์ตามซอกคอของผม ก่อนที่ผมจะเคลิ้มไปกว่านั้น ผมรีบดันอาจารย์ออกไป
อาจารย์คิดว่าผมคงไม่อยากทำ เลยรีบขอโทดผม
"ถ้าโจ้ ไม่อยากก็ไม่เป็นไร อาจารย์ขอโทดแล้วกัน"
ผมหัวเราะ แล้วหอมแก้มอาจารย์"ผมไม่ได้บอกเลยน่ะว่าไม่อยากทำ แต่จะบอกว่าไปล็อคประตูห้องก่อนไงครับ" อาจารย์หัวเราะแล้วรีบไปล็อคประตูห้อง หลังจากนั้นอาจารย์ก็เริ่ม "สอนงาน" ให้ผม

พอตอนกลางคืน อาจารย์ก็มาที่ห้องตามปกติ(มาไม่ทุกวันหรอกครับ แต่ก็มาบ่อยเหมือนกัน) ส่วนมากอาจารย์จะมาอาบน้ำที่ห้องของผม หลังจาไปเตะบอลที่สนามหลังมหาลัย สภาพของอาจารย์หลังเล่นบอล ดูแมนมากๆ คือ ตัวเปียกไปด้วยเหงื่อ ผมยุ่งนิดๆ บางวัน ก็ไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงบอลตัวเดียว แล้วอาจารย์ก็ชอบมากอดผมตอนเหงื่อเยิ้มๆนี้แหล่ะ
"ขอกอดหน่อยน่ะ" อาจารย์เข้ามากอดผม ตอนที่ผมกำลังจะทำมาม่าให้อาจารย์กิน
"อย่าดิครับ ตัวเปียกไม่พอ เหม็นเหงื่ออีก"ผมสะบัดตัว
"รังเกียจผมเหรอ"
"ไม่ได้รังเกียจอาจารย์ แต่ เกลียดคนที่ตัวมีแต่เหงื่อ แล้วมากอดคนที่อาบน้ำแล้วต่างหาก" ผมตอบอาจารย์ไป
"ก็ได้ๆ ไปอาบน้ำก็ได้"
ผมมองร่างอาจารย์ที่กำลังถอดกางเกงแล้วคว้าผ้าขนหนูมาใส่
ผมมีความสุขกับความลับของผม แต่ใครจะรู้ต่อไปผมเองก็อาจจะเสียใจกับความลับของผมเองก็ได้

คู่ที่2

ความรักของผม คือ การให้กำลังใจ

เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ผม กับ พี่เอกคบกัน พี่เอกมักจะแสดงต่อหน้าคนอื่นๆว่าผมเป็นแฟนพี่เอก คงหวงผมมั้ง กลัวมีคนมาจีบแย่งผมไป หรือ กลัวผมไปจีบใครเค้า แต่น่าจะเป็นอันหลังน่ะ(5555)
ผมกับพี่เอกใกล้ชิดกันมากขึ้น ยิ่งช่วงใกล้งานกีฬา Freshy ต้องซ้อมหนักทุกวัน ทำให้ผมได้มีโอกาศไปนอนค้างที่บ้านพี่เอก แต่โจ้ต้องมาคอยโกหกพ่อของผมให้ตลอด(โทดทีน่ะเพื่อน)

พี่เอกมักจะมาเฝ้าผมตอนซ้อมหลีดเสมอๆ บางวันก็ซื้อขนม ซื้อน้ำ มาให้ผมกับเพื่อนอีกด้วย
พี่เอกหอบถุงน้ำ ถุงขนมมาวางไว้ตรงโต๊ะที่ผมกำลังพักจาการซ้อมหลีด
"โฮ้ ซื้ออะไรมาเยอะจัง เดี๋ยวอ้วนตายกันพอดี"ผมบ่นใส่พี่เอก
"ไม่เห็นเป็นไรเลย แกไม่กินฉันกินน่ะ"นังเตเต้ กับ แมคกี้รีบแย่งขนมกันใหญ่
พี่เอกเดินมานวดไหล่ให้ผม
"ช่วงนี้ต้องบำรุงหน่อยซิ ต้องใช้พลังเยอะไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวไปที่บ้านพี่ก็ต้องใช้พลัง
อีก"พี่เอกทำหน้าทะเล้นใส่ ผมรีบศอกกลับไปทันที
"พี่เอกเคยเป็นหลีดไม่ใช่เหรอ สอนท่าให้พวกเราหน่อยสิ" แมคกี้ถามพี่เอกทั้งๆที่ขนมยังเต็มปาก
"อ๋อครับ ได้ๆ" พี่เอกก็ยืนตัวตรง แล้วค่อยอธิบายท่าต่างๆให้แมคกี้และเตเต้ฟัง
ผมนั่งมองพี่เอกเต้น ด้วยรูปร่างที่สมส่วน กับท่าทางที่ดูสง่างาม ผมรู้สึกเคลิ้มกับท่าทางของพี่เอก
ผมนึกในใจ รู้สึกดีใจที่ได้เป็นแฟนกับพี่เอก พี่เอกไม่เคยทำให้ผมเสียใจ ตามใจผมตลอด อีกทั้งยังคอยให้กำลังใจผมเสมอๆ ผมเองกลับยังไม่เคยทำอะไรให้พี่เอกเลยสักครั้ง

เมื่อมาถึงวันจริง ผมวุ่นวายตั้งแต่เช้าทั้งการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ยังต้องมาจำท่าเต้นบางท่าที่เปลี่ยนอย่างกระทันหันอีก ก่อนที่จะเต้น ผมรู้สึกกระวนกระวายยังไงก็ไม่รู้
เตเต้ กับ แมคกี้ คงเห็นผม ทำหน้าเครียดๆเลยมาปลอบ
"มึงไม่ต้องซีเรียสหรอก เอาเท่าที่ได้ก็พอ"เตเต้ ตบไหล่ที่ผมเบาๆ
แต่ผมก็ยังเครียดอยู่ดี ยิ่งมองไปทางอัฒจันทร์ที่มีคนเยอะแยะมากมาย
สมาธิของผมยิ่งกระเจิงเข้าไปใหญ่
ผมมองดูคณะอื่นๆที่กำลังแสดงการเต้นของตัวเอง แต่ละคณะก็มีทีเด็ดออกมาเรียกคะแนนจากกรรมการไม่น้อยน่ากันเลยซักคณะ
เหลืออีกไม่กี่คณะ ผมก็จะแสดงอยู่แล้ว
ผมคอยมองหาพี่เอกว่าจะมาดูผมเต้นไหม แต่มองเท่าไรก็ไม่เห็น ที่จริงผมรู้อยู่แล้วว่าพี่เอกคงมาไม่ได้เพราะยังอยู่ในช่วงทำงาน แต่ในใจก็ยังหวังลึกๆว่าพี่เอกอาจจะมาเชียร์ผมก็ได้

พอคณะที่แสดงก่อนผม แสดงเสร็จ คณะของผมก็เริ่มเตรียมตัวที่จะแสดงต่อไป
บรรดาเชียร์หลีดเดอร์ ก็เข้าแถวเตรียมจะแสดง
แต่ผมยังมองหาพี่เอก เมื่อไม่มีวี่แววว่าจะมา ผมเลยจะไปเข้าแถวกับพื่อนๆ
"เชียร์" มีเสียงๆหนึ่งเรียกผม ผมเริ่มรู้สึกดีใจขึ้นมา
ผมรีบหันไปตามเสียงนั้น แต่กลับต้องผิดหวังเพราะเสียงนั้นเป็นเสียงของพี่แจ็ค
"พี่มาดูเชียร์เต้น สู้ๆน่ะ" ผมไม่พูดอะไร
"ขอบคุณพี่แจ๊ค เชียร์ไปก่อนนะครับ" ผมรีบตัดบทและไปเข้าแถวกับเพื่อนๆ

ปี๊ดดดดดดด........
เสียงนกหวีดเป็นสัญญาน ให้เริ่มการแสดง
ผมกับเพื่อนๆเริ่มเต้นตามจังหวะการเชียร์ ผมเองพยายามควบคุมสมาธิไม่ให้วอกแวก
แต่แล้วผมก็พลาดจนได้ ผมเต้นผิดจังหวะ ทำให้ไปชนกับเพื่อนที่เต้นอยู่แถวหลัง
ผมรีบพยายามเรียกสมาธิกลับมาเต้นใหม่ แต่ก็เต้นผิดท่าอีกจนได้
ผมสังเกตเห็น ว่ามีคนคนหนึ่งอยู่ด้านบนสุดของอัฒจันทร์ กำลังชูมือส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ผมกลับมานึกอีกที สัญญาณที่ผมเห็นอยู่นั้นคือท่าต่อไปที่ผมจะเต้น
ผมรู้แล้วครับว่าคนที่อยู่บนอัฒจันทร์คือใคร
ผมพยายามอีกครั้ง ปรากฏว่า ผมเต้นท่าต่อไปได้และเต้นถูกจังหวะไปจนจบ

ช่วงพัก บรรดาคณะกรรมการก็ให้คะแนนการแสดงของแต่ละคณะ
ผลปรากฏว่า คณะของผมไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย
ผมเองรู้สึกแย่กับสิ่งที่ผมทำไปเพราะ เพื่อนๆบางคนทุ่มเทกับการแสดงครั้งนี้มาก
แต่ทุกๆคนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่ได้มีแค่ผมที่เต้นผิดอยู่คนเดียว แต่ละคนก็มีข้อผิดพลาดไม่เหมือนกัน ผมเข้าไปกอดเตเต้ กับ แมคกี้
"ไม่เป็นไรหรอก พวกเราทำดีสุดแล้ว"แมคกี้บอกผม ทำใหผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

สักพักก็มีคนเข้ามาจับมือผมไว้ พี่เอกนั่นเอง
"เต้นผิดเยอะจัง ดูดิอุตส่าห์ช่วยซ้อมให้ตั้งหลายที"
"ก็เต้นได้แค่นี้ให้ทำไงเล่า แล้วไปทำอะไรอยู่บนอัฒจันทร์" ผมถามพี่เอก
"ก็ไปเป็นอัศวินขี่ม้าขาว มาช่วยใครบางคนไงจ๊ะ" พี่เอกเหล่ตามาที่ผม
"คร้าบ ขอบคุณคร้าบ" ผมจับมือพี่เอกแน่น
"มา เดี๋ยวพาไปฉลอง" พี่เอกรีบดึงตัวผมไป
"ฉลองอะไรไม่ได้ชนะสักหน่อย" ผมถามพี่เอก
"ก็ฉลองคนเต้นผิดไง 5555"พี่เอกแซวผม
ผมกับพี่เอกก็ขึ้นรถแล้วขับออกไปฉลองกัน

ขณะที่กำลังขับรถอยู่นั้น ผมก็สวนกับรถคันหนึ่ง เป็นรถที่ผมคุ้นเคยดี โดยเฉพาะคนที่ขับรถคันนั้น พี่แจ๊คมองผมจากข้างในรถคันนั้น ผมเองก็สบตากับพี่แจ๊คเหมือนกัน
และรถของผมกับพี่แจ๊คก็ไปกันคนละทาง

คู่ที่3

ความรักของผม คือ ความเศร้า

เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ผมไม่ได้ติดต่อกับพี่เก่ง
และเป็นหนึ่งเดือนที่ผมทรมานมากที่สุด
การจะลืมใครสักคนมันไม่ง่ายเลย
ยิ่งลืมพี่เก่งมากเท่าไร ผมก็ยิ่งรักพี่เก่งมากขึ้นเท่านั้น
เวลาที่ผมอยู่คนเดียวผมจะนึกถึงช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับพี่เก่งเสมอ
และเมื่อนึกถึงที่ไร ผมก็จะเจ็บใจขึ้นมาทุกที

ผมยังคงไปเล่นดนตรีตามปกติ แต่เหน่งสังเกตเห็นผมดูแปลกๆไป
เพราะผมเล่นดนตรี ดูไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย
หลังจากเล่นดนตรีเรียบร้อยแล้ว ผมก็กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน
เหน่งเดินมาคุยกับผม
"ไอ้ปอ มึงเป็นไรว่ะ"
ผมไม่ตอบอะไร
"เรื่องพี่เก่ง ใช่ไหม" เหน่งทายถูก
ผมพยายามไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร เหน่งเดินเข้ามากอดไหล่ผม
"กูเข้าใจความรู้สึกของการแอบรักใครข้างเดียว แต่มึงจำไว้ซิ ความรัก ไม่ใช่การครอบครอง เราไปบังคับใจใครให้รักเราไม่ได้ เรามีหน้าที่ยอมรับความจริงให้ได้ สักวันต้องมีคนที่เห็นความดีของมึง"เหน่งพูดกระซิบข้างหูผม
"ยังไงกูก็ยังห่วงมึงเสมอน่ะ"เหน่งตบไหล่ผม แล้วเดินออกจากร้านไป
คำพูดของเหน่งทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

พอผมกำลังจะกลับบ้าน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"ว่าไง" ผมทักเชียร์ที่โทรมา
"กูจะชวนมึงมาปาร์ตี้ที่หอไอ้โจ้"เชียร์ทำเสียงคึกครื้น
ผมกำลังจะปฏิเสธ เพราะตอนนี้ ไม่มีอารมณ์จะไปเฮฮากับใคร
"มึงไม่ต้องปฏิเสธน่ะ เพราะกูขับรถมาถึงที่ผับมึงแล้ว"
เอ้าไอ้นี้มันมัดมือชกผมนี้หว่า
ไม่ถึงนาทีเชียร์ก็ขับรถมาจอดรับผม
ผมแปลกใจที่มีผู้ชายนั่งมากับเชียร์ด้วย
"ขึ้นรถมาสิ เออๆ ระวังของที่เบาะหลังหน่อยน่ะ"
ผมค่อยๆนั่งลงที่เบาะหลังของรถ ของที่เชียร์บอกให้ระวังคือ กับข้าวที่จะเอาไปกินกันที่หอของโจ้
ระหว่างทาง ผมเห็นเชียร์คุยกับผู้ชายที่นั่งมาด้วย รู้ทันทีเลยว่าเป็นแฟนใหม่ของเชียร์
ที่จริงรู้แล้วว่าเชียร์มีแฟนใหม่แต่ยังไม่เคยเห็น

พอมาถึงหอของโจ้ เชียร์กับแฟนของเชียร์ก็ยกกับข้าวขึ้นไปที่ห้องของโจ้
"กูยังไม่ได้บอกมันเลยน่ะว่าจะมา กะจะเซอร์ไพรส์"เชียร์หันมาพูดกับผม
เชียร์จะมีกุญแจห้องของโจ้อยู่แล้ว เพราะมันจะมาค้างที่ห้องของโจ้บ่อย
พอเชียร์ไขกุญแจห้องได้ก็รีบเดินเข้าไป พร้อมพูดว่า
"เซอร์ไพรส์"
โจ้เห็นเชียรกับผม และแฟนของเชียร์ มันก็ตกใจตาโตเหมือนเจอผี
"เฮ้ย! พวกมึงมาได้ไงเนี้ย"
สิ้นเสียงโจ้อุทาน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งนุ่งผ้าขนหนู ออกมาจากห้องอาบน้ำ
ผมกับเชียร์มองผู้ชายคนนั้นด้วยความตกใจ ไม่นึกว่าจะมีผู้ชายมาอยู่ที่ห้องโจ้
(ก็เพื่อนผมมันเป็นคนเรียบร้อย ก็ต้องตกใจเป็นธรรมดาที่จู๋มีผู้ชายมาอาบน้ำที่ห้องของมัน)
"นี้มึงก็เซอร์ไพรส์พวกกรูเหรอว่ะ" เชียร์พูดกับโจ้ แต่ตายังมองผู้ชายคนนั้น
----- จบบทที่10 -----

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด