__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 570375 ครั้ง)

ออฟไลน์ nimfadora

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
บันซายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อักษร สุดยอดมากกกกกกกกกกกกก >////////<
คือลุคภายนอกอาจเหมือนเด็กเรียนธรรมดา  แต่จริงๆแล้วแซ่บอ่ะ!!  อร๊ายยยยยย
เก่ง ฉลาด น่ารัก เข้าใจคิด เข้าใจทำ เข้าใจพูด เน้!!  เทียนไขจะหลุดมือไปไหนเสีย >.<
โอ๊ย หนูปลื้มอักษร >w< 
รอตอนต่อไปอย่างสงบ

yashi

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ น่ารักอ่ะ  ติดตามต่อไปจ้า o13

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page

สวัสดีค่ะ ^^ เรา rainyday (เรนนี่คนที่ตามมาจากทวิตเตอร์น่ะเองค่ะ) ในที่สุดก็เสียท่าสมัีครบอร์ดนี้จนได้ เพราะไม่อยากเป็นผีแอบอ่านนิยายคุณโอแล้วค่ะ 5555 อันนี้เป็นคอมเม้นต์แรกของที่บอร์ดนี้เลย เขินจัง =////= (ขนาดรูปอวาตาร์ยังไม่มีเลย ขอคอมเม้นต์ก่อน XD)


ชอบเรื่องนี้ค่ะ! ที่จริงคืออยากจะบอกว่าชอบเรื่องอื่น ๆ ในซีรีส์รักร้ายของคุณโอด้วย เพิ่งเริ่มอ่านได้แค่ไม่นาน รู้ตัวอีกทีก็จบคู่ สีครามxกานดา  เอ็กซ์ไวน์ ม.ต้น ปีใหม่กลอน และกำลังติดตามเอ็กซ์ไวน์ ม.ปลาย  แถมยังมาเริ่มอ่านเรื่องนี้อีกแน่ะ 

ก็เลยรู้สึกผิดบาปขึ้นมาทันทีที่อ่านจบเป็นเรื่อง ๆ ยังไม่ค่อยแสดงตัวเท่าไหร่เลย หากจะยังทำตัวเป็นผีอย่างนี้ต่อไปคงจะเสียมารยาทน่าดู //รู้ตัวช้าไปนะเอ็ง!!   

   
สุดท้ายเลยโผล่มาที่บอร์ดนี่เอง ทั้งที่เราไม่ได้เล่นบอร์ดอะไรเลยมาหลายปีแล้วล่ะค่ะ พ่ายแพ้ให้กับหนุ่ม ๆ ของคุณโอซะแล้ว ฟืดดดดดด

ชอบอักษรในเรื่องนี้มากเลย น้องช่างฉลาด มั่น ตรงไปตรงมา ขณะเดียวกันก็ใสซื่อด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้มันไม่น่ามารวมอยู่ในคนเดียวกันได้เลยนะคะ แต่ให้ตาย..มันลงตัวชะมัด!! >w<  ความใส ๆ และตรงไปตรงมาของอักษร เรารู้สึกอย่างกับว่ามันจะเป็นความใสซื่อที่ฆ่าคนได้เลย ขำที่ทำให้เทียนไขเหวอไปได้หลายหน..สะใจจัง  //โดนเตะปลิว (เราชอบเวลาเมะโดนรังแกค่ะ ฮาาา) 

ชอบวิธีพูดของอักษรด้วยล่ะ ทั้งที่พูดมากน่าจะน่ารำคาญแต่ดันรู้สึกว่าแหม..เด็กนี่ช่างเจรจาน่ารักน่าชังจริง ๆ (ความลำเอียงมีจริงในโลก 5555)



เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้คอมเม้นต์(คอมเม้นต์ในความหมายของเราคงจะเป็น "ตามสครีมฟิก" ค่ะ)เรื่องที่อ่านไปแล้วตอนยังไม่มีไอดีบอร์ดนี้อย่างสีครามกานดา เอ็กซ์ไวน์ ปีใหม่กลอน  จะไปขุดมากรี๊ดกร๊าดตอนนี้ก็ใช่ที่ เอาเป็นว่านับจากนี้จะเป็นนักอ่านที่แสดงตัวแล้วค่ะ!! =w=

รอติดตามตอนหน้านะคะ ^o^

 o13












ออฟไลน์ runma

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
จากตอนแรกที่คิดว่าอักษรหนุ่มเนิร์ดจะเอาหนุ่มเพลย์บอยอย่างเทียนไขไหวเหรอ
ถึงจะฉลาดขนาดนั้นก็ตามที แต่เทียนไขเนี่ย ดูไปแล้วไม่น่ามีความจริงใจอะไรให้
ใครเลย สาวใน list ก็มากมายขนาดนั้น เทียนคงชอบหลอกกินเล่นไปวันๆ มากกว่า

แต่พอเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น รู้ได้เลยว่าอักษรไม่ธรรมดาจริงๆ คงต้องคนแบบนี้ละมั้งครับ
ถึงจะรับมือกับเทียนไขได้ อยากเห็นเรื่องราวตอนต่อไปว่าเทียนจะทำยังไงกับคนที่เข้า
มาในชีวิตแบบไม่เหมือนใครคนนี้ ท่าทางที่เทียนไขทำแบบไม่ได้ใส่ใจอักษรมากมาย
พอถึงวันที่ต้องตามติดอีกฝ่ายบ้างคงสนุกดีครับ กลิ่นดรามาลอยมาเบาๆ

รักน้องๆ รักร้ายนะครับ   :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
เอ่อ...  o22 ช่างเป็นคนดีอะไรขนาดนี้~  :sad2:
รอนะฮะ  ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2012 17:53:11 โดย kimY »

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog







2nd Day : Little Cold War











   '....แค่เพียงให้ผมได้อยู่เคียงข้างคุณ...'




   ..งี่เง่าชะมัด...

   .....คิดว่าตัวเองอยุ่ในละครน้ำเน่ารึไงน่ะ....






   “เอาของไปครบรึเปล่า?”
   “ครบฮะ!”
   “การบ้าน...หยิบไปเรียบร้อยแล้วนะ?”
   “แน่นอน~”
   “งั้นก็ไปได้แล้ว  ปะ"

   “คุณยาย!!”
   เจ้าตัวเล็กโบกมือหยอยๆอยู่หน้าประตูบ้านหลังจากใส่รองเท้าเรียบร้อย  ตรงมุมกล้องไปยังห้องครัวที่ยายกำลังเก็บจานชามอยู่พอดี  ท่านฉีกยิ้มเพียงนิดเดียวแล้วพยักหน้าให้
   “ไปก่อนนะค้าบบ  สวัสดีครับ!”

   “ไปแล้วนะครับยาย"
   “จะกินข้าวเย็นรึเปล่าเทียน?”
   “อ่า...ไม่ดีกว่าครับ"

   ยายไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมเพียงแค่ยิ้มอ่อนโยนให้เท่านั้น  ผมยิ้มตอบ..โดยไม่รู้ตัวหรอกว่ารอยยิ้มตัวเองออกไปเป็นแบบไหน  แต่อย่างน้อยรอยยิ้มของยายก็ทำให้ผมสบายใจเสมอไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม


   ก้านธูปกระโดดโลดเต้นออกมาตั้งแต่เช้า..พระอาทิตย์จากจุดที่ผมมองอยู่ยังขึ้นไม่ทันจะเต็มดวงด้วยซ้ำตอนที่น้องวิ่งลงบันได  ผมอยากจะตะโกนดุไปแต่ก็ขี้เกียจพูด...ก้านธูปน้องชายผมอายุ5ขวบแล้ว อยู่ชั้นอนุบาล2..และถึงแม้ว่าเขาจะคึกคักจากซูชิที่เมื่อวานเอากลับมาให้ก็ตามแต่อาการตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปโรงเรียนไม่ได้เกิดกับเด็กทุกคนหรอก  เชื่อผมสิ..

   ..เขาค่อนข้างalertกว่าเด็กทั่วไป..ผมสรุปได้แค่นั้นแหละครับ..




   รถตู้รับส่งนักเรียนเพิ่งมาเทียบท่าจอดพอดีจังหวะกับที่พวกเราเดินมาถึงหน้ารั้ว  ก้านธูปร้องทักทายคุณครูตั้งแต่หล่อนยังไม่ทันจะเปิดประตูลงมา  ครูอ้อยยิ้มหวานให้ก้านธูปแล้วรับไหว้จากเราทั้งสองคน  ผมไม่ได้ยิ้มตอบกลับออกไป...มันคงจะเป็นการดีกว่าถ้าจะไม่ 'ยุ่ง' กับครูของธูป...ถึงเจ้าหล่อนจะพยายามส่งสายตามามองผมมากขนาดไหนก็เถอะ..

   “ขอบคุณมากครับครู  ฝากธูปด้วยนะครับ"
   “ไม่เป็นไรจ้ะ"
   “ว้าวววว  พี่ชายธูปหล่อจังเลย~”
   “แนนเพิ่งเห็นพี่เทียนหรอ? พี่เทียนหล่อแบบนี้มานานแล้วนะ!”
   “คุณครู! หนูอยากแต่งงานกับพี่เทียน!”
   “ไม่ได้นะ! พี่เทียนเป็นของธูปหรอก!”

   ..เอ้า..เอาเข้าไป..

   ..ผมไม่อยากจะด่าหรอกครับว่าแรดตั้งแต่อนุบาลเชียวหรือ  ที่จริงมันเป็นเรื่องปกติของเด็กในวัยนี้ที่จะคิดอะไรอย่างใสๆและตรงไปตรงมาล่ะมั้ง..
   ก้านธูปทำหน้าบูดเป็นตูดลิงตอนที่ผมโบกมือบ้ายบาย  แล้วประตูรถตู้ก็ปิดลง



   ทำไมผมถึงออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียนงั้นหรือครับ?

   ..ใช่..ที่จริงผมไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นเด็กเรียนสักเท่าไหร่  แต่ที่ไปโรงเรียนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะคิดว่ามันดีกว่าการทำให้ยายผิดหวัง  เพราะทุกวันนี้ผมก็ทำตัวระยำแย่มากพออยู่แล้ว..โชคดีแค่ไหนที่มีคนเห็นพรสวรรค์ริบหรี่ของผมแล้วจับเข้าโรงเรียนเกษรวิทยา..ซ้ำร้ายด้วยเลือดตะวันตกที่ไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่งในกระแสเลือดมันยังทำให้ผมติดไอ้กลุ่มก้อนทางอำนาจบ้าๆที่เรียกว่า 'รักร้าย' ซะด้วย....

   แนะนำตัวตอนนี้อาจจะช้าไป..
   ..ผมชื่อ 'ทีปพิพัฒน์  คลาไรน์' อายุ17ปี..แม่เป็นคนฝรั่งเศส พ่อเป็นใครไม่รู้..ชื่อเล่นคือ 'เทียนไข' ซึ่งหลายๆคนเรียกผมสั้นๆง่ายๆว่า 'เทียน' ...ฟังดูเป็นลำแท่งสีเหลืองที่หักได้ง่ายยังไงชอบกล
   ....ซึ่งใครจะเรียกผมว่ายังไงก็ช่างมันเถอะ...ผมไม่แคร์...

   ความที่ผมตัวสูง..สูงกว่าคนทั่วไป  และมีโครงหน้าที่ออกไปทางยุโรปอย่างชัดเจนแบบนี้แหละทำให้ตกเป็นเป้าสายตา  ยังไม่นับผมสีทองบลอนด์ธรรมชาตินี้ด้วยนะครับ..หากผมเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนล่ะก็ผมมักจะโดนใครต่อใครมองด้วยสายตาแปลกประหลาดเสมอ...และผม...ก็ไม่เคยชินกับมันสักที...
   ดังนั้นผมจึงไปโรงเรียนแต่เช้า  และเลือกที่จะเถลไถลกลับบ้านตอนดึกๆเหมือนเมื่อวาน  เพราะโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ผมอยู่นี่ก็คนน้อยซะเมื่อไหร่  แถมเชื่อมั้ยว่าแต่ละบ้านไม่ได้รักกันอย่างที่สร้างภาพขึ้นมาหรอกครับ
   พวกเค้าเรียกบ้านผมว่า 'ฝรั่งขี้นก' โดยที่ไม่รู้พื้นเพหรืออะไรเลยด้วยซ้ำไป...
   ..ยายผมเฝ้าบอกว่าให้ 'ทนๆไปก่อน' ก็เท่านั้น..แต่สำหรับผมก็คือ 'หลีกเลี่ยงได้เป็นหลีกเลี่ยง' ซะมากกว่า



   ผมยืนรอรถเมล์ก่อนจะถึงเวลาที่ถนนจะแน่นขนัด  ไม่นานสายที่ต้องการก็ตรงดิ่งมาจอดด้านหน้า..ผมแทรกตัวขึ้นไปจับจองที่นั่งเดี่ยวริมหน้าต่าง..คนไม่เยอะนักเพราะฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไร..

   ระหว่างทางมีเด็กโรงเรียนเดียวกันขึ้นมาบ้างประปรายครับ  ส่วนใหญ่เป็นพวกชมรมกีฬาที่มีซ้อมเช้า..พวกมันเห็นแต่ก็ไม่ได้ทักผม  มีข่าวลือไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับผมที่ผมโคตรขี้เกียจแก้ข่าว..ความเฉยชาที่ผู้ชายทั่วไปพึงปฏิบัติเลยเป็นผลสะท้อนกลับมาอย่างเสียมิได้  เพราะนอกจากเพื่อนที่มีความจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันหรือพวกผู้หญิงแล้ว...ไม่ค่อยมีใครอยากยุ่งวุ่นวายกับ 'คนอย่างผม' สักเท่าไหร่หรอกครับ..

   ..อะ..แต่ 'อักษร' นั่นก็เป็นคนนึงล่ะ..
   ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี..จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เคยคิดว่าจะเข้าใจ..

   ......ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ......

   ..ความคิดของพวกคนรวยเข้าใจยากอยู่แล้ว  ยิ่งเป็นคนรวยที่หัวดี  ฉลาด  เรียนเก่ง  มีความรับผิดชอบ  และเกือบจะเพอร์เฟ็คแบบนั้นด้วยแล้วน่ะนะ...




   ไม่นานรถเมลล์ก็มาจอดที่ป้ายหน้าโรงเรียน  โรงเรียนเกษรวิทยาเป็นโรงเรียนที่ครองพื้นที่เกือบหนึ่งสี่แยกเต็มๆ..โดยส่วนใหญ่อุทิศให้กับสนามฝึกซ้อมกลางแจ้งของพวกชมรมกีฬาที่กั้นไว้เฉพาะ  อีกส่วนหนึ่งให้กับกิจกรรมสันทนาการและพื้นที่จัดนิทรรศการอิสระที่ใครต่อใครจะมาหยิบยืมก็ได้  ที่เหลือถึงเป็นตึกเรียนกับสวนสวยๆที่ไม่รู้จะมีไปทำไม..
   ..แต่สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้ผมต้องยอมรับ..ว่าโรงเรียนเกษรวิทยาเป็นโรงเรียนที่มีบรรยากาศดีจริงๆ..
   ..ถ้าก้านธูปโตขึ้น..ผมก็อยากให้แกลองมาสอบที่นี่ดู..


   ตุบ!

   “เฮ้ย  มาเช้านี่หว่าไอ้เทียน!”

   เสียงเรียกดังขึ้นพอดีจังหวะกับที่ผมโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะ  ผมหันไปมองเจ้าของใบหน้าขาวสุดทะเล้นแล้วพยักหน้ากลับ  ปกติแล้วมีไม่กี่คนหรอกครับที่พร้อมจะทักทายผมได้แบบนี้
   “กูก็มาปกติของกูแบบนี้เหอะ..”
   “อ้าวจริงดิ"
   “มึงต่างหาก..ทำไมวันนี้มาเช้าจังวะ?”
   “กูต้องไปวิ่งกับพวกชมรมกรีฑาตั้งแต่วันนี้ว่ะ...” มันอธิบายแล้ววางกระเป๋าลงที่โต๊ะด้านหน้าผมบ้าง "ต้องฟิตซ้อมสักหน่อยจะเอาจริงกับหน้าที่การงานแล้ว  มึงล่ะ? งานไปถึงไหนบ้าง?”
   “ก็...” ผมเลิกคิ้ว ที่จริงเพิ่งนึกขึ้นได้ "...เรื่อยๆ...”
   “เรื่อยๆไรวะ  เห็น'จารย์บอกว่ารูปมึงได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงภาพที่...อะไรสักอย่าง...ใช่มั้ยล่ะ?”
   “ก็เรื่อยๆไง  แบบ...งานดีก็ผ่าน  งานไม่ดีก็ไปเรื่อยๆ.....”
   “...มึงจะชิวไปหน่อยมั้ยวะเนี่ย!?”
   “เมื่อก่อนมึงก็ชิวแบบกูเหอะไอ้กลอน"
   ..ไม่อยากจะพูดเลยว่ามันเพิ่งมาเอาจริงเอาจังก็ตอนนี้เนี่ยแหละ..-_- จะให้ผมตามทันได้ยังไง..

   มันทำปากยื่นไม่พอใจแบบทีเล่นทีจริง  ก่อนจะโบกมือลาและทิ้งให้ผมอยู่ในห้องคนเดียว..


   ผมเปิดหน้าต่าง  มันยังเร็วไปที่จะเปิดแอร์..และอากาศยามเช้าในต้นเดือนธันวาแบบนี้ก็ไม่ได้ร้อนอะไรมาก  ติดจะสบายๆน่าหลับด้วยซ้ำ..
   หลังจากพิจารณาว่าจะไปที่ไหนเพื่อฆ่าเวลาก่อนเข้าแถวดี..ก็ตระหยักได้ว่านอนอยู่ที่ห้องสักหน่อยดีกว่า  เมื่อคืนอะไรหลายๆอย่างกวนใจจนนอนหลับไม่ค่อยสนิท  หวังว่ามันคงจะหายในไม่ช้านี้แหละ...


   ..อักษร  อัครมณฑา..

   ....ทำไมชื่อนั้นมันถึงติดอยู่ในสมองได้ขนาดนี้กันนะ..?




   ตึกเรียนของภาคปกติกับพวกเด็กเส้นตั้งอยู่เหลื่อมกันกึ่งขนาน  ผมเหลือบมองไปยังตึกที่อยู่ข้างๆกัน..ชุดนักเรียนแบบเดียวกันแต่กางเกงสีฟ้าดูคุณหนู๊คุณหนู  นี่เป็นหนึ่งในระบบการแบ่งแยกชนชั้นที่ไม่แบ่งแยกเท่าไหร่..เพราะความที่เด่นกันไปคนละด้านกระมังทำให้ไม่ค่อยมีใครอิจฉาใครนัก..

   ...เดี๋ยวก่อน....

   ผมชะโงกหน้าเกาะขอบหน้าต่าง  แล้วเพ่งมองออกไปที่ฝั่งตรงข้าม..มันไม่ได้ใกล้ขนาดที่จะเห็นได้ชัดเจนหรืออะไรหรอกครับ...แต่หลังจากพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้วว่าใครที่อยู่ในห้องเหล่านั้นก็พบบทสรุปได้ไม่ยาก..


   .......ห้องของเด็กเส้นสายวิทย์ปีเดียวกัน...


   นี่ผมโง่ที่เพิ่งรู้เรื่องดังกล่าวสินะ..?

   ผมมองเหล่าลูกคนรวยที่ยึดโปรเจคเตอร์ของอาจารย์มาต่อกับโน้ตบุ๊คตัวเองแล้วเล่นเกมแข่งกันด้วยความฉงนใจ  แต่ก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไรอยู่นานเพราะประตูห้องๆนั้นก็เปิดออก  ตามมาด้วยร่างผอมขาวที่โบกมือทักทายเพื่อนๆทุกคนในห้องก่อนจะเดินมาวางกระเป๋าที่โต๊ะริมหน้าต่าง
   เขาเห็นว่าผมมองอยู่ในไม่กี่วินาทีถัดมา..
   จากระยะ..ผมไม่เห็นหรอกครับว่าเขาทำสีหน้าแบบไหนอยู่  แต่จากอาการสะดุ้งหันซ้ายหันขวาแบบนั้นมันทำให้ผมจับได้
   ก่อนเจ้าตัวจะยกมือขึ้นนิดๆ  เพื่อโบกมือให้ผมบ้าง...



   ..ให้ตาย..

   .....แล้วผมจะยิ้มรับทำไมเนี่ย...




   เหนือสิ่งอื่นใดคือความประหลาดใจที่เกิดขึ้นในอก..มันอดสงสัยไม่ได้จริงๆว่า...





   ..นี่นายอักษรอะไรนั่น...นั่งอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วหรือ?










----------










   “อะไร?”
   “แซนวิชม้วนครับ"

   อีกฝ่ายยิ้มซื่อ  เปิดฝากล่องอาหารกล่องใหญ่โชว์บรรดาขนมปังไส้ต่างๆหน้าตาแฟนซี  อบอวลไปด้วยกลิ่นแฮมหรือไม่ก็เบค่อนหอมๆลอยขึ้นมาจนผมเผลอรับส้อมจิ้มมาถือไว้ในมือโดยไม่รู้ตัว

   ผมยังไม่ทันจะถามต่อ  เขาก็อธิบายเหมือนเคย
   “การทานอาหารไม่ครบทั้ง3มื้้อจะทำให้สุขภาพเสื่อมถอยโดยไม่รู้ตัวนะครับ  เรียนไม่รู้เรื่อง  หัวก็ไม่แล่นด้วย..คุณแทบไม่เคยลงไปที่โรงอาหารตอนพักเที่ยงเลยใช่มั้ยล่ะ?  วันนี้ผมเลยเอามาให้ครับ"
   “....ทำเองหรือ?”
   “เปล่าหรอก  แม่บ้านทำไว้ให้น่ะครับ  ผมทำของแบบนี้เองไม่เป็นหรอก"
   ..โถ..นึกว่าจะโรแมนติกให้สุด..
   ....แต่ดูเหมือนเรื่องพวกนั้นจะไม่ใช่ประเด็นหลักสักเท่าไหร่...


   ผมมองไปรอบๆห้อง..ที่มีแค่ไม่กี่คนที่มองกลับมาหรอกครับแต่ก็รู้สึกได้เลยว่ากลายเป็นเป้าสายตา  แต่คนตรงหน้าผมกลับตั้งหน้าตั้งตาบีบมายองเนสลงในถ้วยแยกราวกับไม่ใส่ใจอะไรเลย..ความตื่นตะลึงที่ว่าอยู่ดีๆก็มีห้องเด็กเส้นเดินเข้ามาเพื่อหยิบข้าวกล่องให้ผมยังไม่มากพอกับที่พวกเรา..เป็นผู้ชายด้วยกันกระมัง..?


   “เอาล่ะ!”

   เขาเก็บขยะใส่ถุงพลาสติก  หยิบทิชชู่ออกมาวางไว้พร้อม

   “ทีนี้คุณก็โทรหาสาวๆสักคนชวนมาทานได้เลยนะครับ! อาหารพร้อมเสิร์ฟแล้ว!!”



   ..ห๊ะ..?
   ผมคว้าข้อมือเขาไว้ได้ตอนที่อีกฝ่ายลุกขึ้น..พยายามกลบเกลื่อนความไม่เข้าใจในสายตาด้วยพลังมหาศาลพอดู..
   “จะไปไหนน่ะ?”
   “พักเที่ยง...ก็ต้องไปโรงอาหารสิครับ!”


   ..เอาล่ะ..ผมเข้าใจแล้ว..
   สิ่งที่เค้าบอกเมื่อวานคือการ 'ไม่คาดหวัง' อะไรจากผม..และผมไม่นึกว่าการไม่คาดหวังดังกล่าวจะออกมาในรูปแบบนี้สักเท่าไหร่..อนึ่งคือตอนนี้เขาพยายามทำตัวดูแลผมโดยไม่ก้าวก่ายแบบฝืนๆ...คือเอาตรงๆเลยว่า.....

   .......มีใครแม่งบ้าเอาข้าวมาให้แดกแล้วไม่อยู่กินด้วยกันวะ!?



   ผมยกมืออีกข้างเกาแก้ม  แล้วถอนหายใจ
   “เอาล่ะ  นั่งลง"
   “เอ๋?”
   “....ทานด้วยกัน"
   “ว...ว่าไงนะครับ?”
   ..บางเรื่องก็ด่วนสรุปได้เองแท้ๆ  แต่เรื่องง่ายๆกลับต้องให้พูดย้ำอยู่นั่นแหละ..

   พอเห็นผมเงียบไม่ได้ตอบ  เขาก็ยอมพยักหน้าแล้วทิ้งตัวนั่งที่เดิมแต่โดยดี...เขาแกะส้อมจิ้มออกมาจากซองขณะที่ผมซัดแซนวิชม้วนชิ้นแรกเข้าไป..ลิ้มรสพวกมันท่ามกลางความเงียบ  ผมไม่ใช่พวกลิ้นแดจังกึมเพราะงั้นไม่รู้หรอกว่าเนื้อหรือขนมปังที่ใช้มันดีแค่ไหน  รู้แค่ว่ามันอร่อยดีใช้ได้...
   กว่าเขาจะตัดสินใจพูดก่อน

   “คุณรู้มั้ย...ความเงียบมันจะไม่น่าอึดอัดเลยถ้าใครสักคนไม่ได้อยากพูด..”

   ผมคิดตาม "อืม  งั้นหรือ"
   “งั้นผมขอพูดไปเรื่อยๆนะครับ  จะได้ไม่อึดอัด"
   “ตามใจสิ"
   เขายิ้ม "ผมดีใจนะครับ  ที่คุณชวนให้ทานด้วยกัน"
   “อ่าฮะ"
   “ตอนแรกผมคิดว่าแค่จะเอาอาหารมาให้แล้วก็กลับด้วยซ้ำ  เพราะคิดว่าการนั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้มันตกเป็นเป้าสายตา..และบางทีคุณเองก็คงไม่ชอบด้วย"
   “...ก็..ไม่ได้เรียกว่าไม่ชอบหรอก"
   “คุณรู้มั้ย?” เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นท้าวคาง  ก่อนจะยอมจิ้มเจ้าแซนวิชม้วนขึ้นมาชิ้นแรก "..ว่าตัวคุณเองเป็นพวกแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่าที่ตัวคุณคิด"

   ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้นเพราะคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นที่ต้องโต้เถียงหรือแย้งอะไร  อักษรเป็นคนประเภทที่ว่าชอบคิดไปเอง..และกับคนประเภทนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่ต้องปฏิเสธข้อกล่าวหาอะไรทั้งนั้น  เขายิ้มซื่อให้ผมอีกครั้ง..รอยยิ้มที่เหมือนฉากบังหน้าว่าแท้จริงแล้วภายในชาญฉลาดมากแค่ไหนแบบนั้นนั่นแหละ..

   “แล้วคุณก็ชอบแสดงสีหน้าไร้อารมณ์แบบนั้นด้วย..”
   ผมไหวไหล่  ไม่ได้ตอบอะไร
   “เท่าที่ผมรู้มาคุณไม่ได้แพ้อาหารอะไร  แล้วก็ไม่มีอาหารอะไรที่ไม่ชอบด้วยใช่มั้ยครับ?”
   “....คงอย่างนั้น...” ...ยังมีอะไรต้องปฏิเสธอีกล่ะ...
   ในที่สุดอักษรก็หุบยิ้มลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เราเริ่มบทสนทนากัน  นั่นมันทำให้ผมรู้สึกอยากยิ้มออกไปเต็มแก่แต่ก็ทำได้แค่ตีหน้าเฉยๆ

   “มันจะดีกว่ามั้ยถ้าคุณเลือกที่จะ..เอ่อ..พรรณนาถึงบรรดาสิ่งที่คุณคิดในหัวทั้งหลายนั่นมากกว่าการเมินเฉยน่ะ....”




   “พี่เทียน!!”



   เสียงหวีดแหลมก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาดื้อๆ  ผมรีบดึงส้อมจิ้มออกจากปากเพราะมันเป็นกิริยาที่ไม่สมควรนักเวลาพบใครสักคนที่...เราไม่สนิทใจ..
   “ไง  ข้าวฟ่าง"
   ..ผมไม่ปฏิเสธว่ารอยยิ้มที่มอบให้อีกฝ่ายโคตรจะปั้นแต่ง..
   เด็กสาวยิ้มเริงร่าเหมือนตัวการ์ตูนปัญญาอ่อนตัวไหนสักอย่างเพื่อกระโดดโลดเต้นเข้ามาในห้องของเด็กชั้นปีโตกว่าอย่างถือวิสาสะ  แถมโผเข้าโอบรอบคอผมต่อหน้าต่อตาแขกอีกคนที่จ้องตาแป๋ว
   “คิดถึงจังเลยยย  เมื่อวานฟ่างโทรไปพี่เทียนก็ไม่รับสาย"
   “...อ้อ  พี่ปิดเสียงน่ะ...” ...ไม่เคยมีใครบอกรึไงว่ากลางคืนเป็นเวลาส่วนตัวน่ะ...
   “งั้นคืนนี้ห้ามปิดนะคะ  ทั้งเสียงทั้งเครื่องเลย..ฟ่างไม่ได้ยินเสียงพี่เทียนก่อนนอนแล้วนอนไม่หลับเลยอ่ะ"
   ..ที่จริงผมไม่ได้รังเกียจน้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นหรอกนะครับ  เพียงแต่ในตอนนี้มันค่อนข้าง...รกหูเลยล่ะ...
   ผมเหลือบมองอักษรเพียงวูบเดียว “อืม...ได้สิ"
   “แล้วทานอะไรกันอยู่หรอคะ? ฟ่างทานด้วยได้มั้ย?”

   หล่อนเสนอตัวเองขึ้นมาดื้อๆ  ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอักษรที่ยิ้มทักทายให้ข้าวฟ่างเหมือนทองไม่รู้ร้อน  ผมชักไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนประเภทที่สามารถสะกดความรู้สึกไร้สาระพวกนั้นไว้ได้อย่างแนบเนียน  หรือที่จริง...เขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้เลยกันแน่..
   ก่อนอื่นก็ต้อง...

   ผมกระแอมกระไอขัดจังหวะ  ก่อนจะผายมือไปฝั่งตรงข้าม
   “ฟ่าง..นี่คือ.....”
   “พี่ษรใช่มั้ยคะ?  คนดังของคณะกรรมการนักเรียน...ฟ่างรู้จักอยู่แล้วล่ะค่ะพี่เทียน!"
   หล่อนดึงเก้าอี้โต๊ะข้างๆเข้ามานั่งซะชิดมาทางฝั่งผม 
   อักษรดันกล่องอาหารเล็กน้อยเป็นเชิงอนุญาตให้ผู้มาใหม่สามารถชิมอาหารได้  ซึ่งแม่คุณหนูตัวดีก็จัดการมันแทบจะในทันที

   “อื้มมม  มะเขือเทศสดมากเลยค่ะ"
   ข้าวฟ่างทำหน้าเหมือนเพิ่งกินผักปลอดสารที่ปลูกบนผิวดวงจันทร์ก็ไม่ปาน
   "พี่เทียนทานข้าวกล่องอะไรแบบนี้บ่อยหรือคะ? วันหลังฟ่างทำมาให้ทานบ้างดีมั้ย? ฟ่างทำอาหารอร่อยมากนะขอบอก~ อ๊ะ ว่าแต่...พี่เทียนกับพี่ษรสนิทกันหรือคะ? ฟ่างไม่เห็นรุ้เรื่องเลย"

   พวกผมมองหน้ากัน  แล้วอักษรก็ก้มหน้าลงจัดการกับกับแซนวิชม้วนโดยไม่พูดอะไร..
   ..ปล่อยให้หน้าที่ในการตอบคำถามนั้นตกเป็นของผมอย่างเสียมิได้..

   .....หากนี่เป็นการ 'แก้แค้น' อะไรสักอย่าง...ยอมรับได้เลยว่าเขาโต้กลับมันได้ดีชิบหายล่ะ...


   ผมพยักหน้าสามครั้งไม่ขาดไม่เกิน  ก่อนจะหันไปตอบ "ก็...รู้จักกันน่ะ  โรงเรียนนี้เล็กจะตาย  จะเดินสวนกับใครต่อใครที่ไหนมันไม่ใช่เรื่องยากใช่มั้ยล่ะ? ต่อให้เป็น...เลขานุการคนเก่งก็ตาม"

   ..เอาล่ะ..ทำไมผมถึงรู้สึกสะใจที่ได้เหน็บแนมเขากันนะ?
   เขาเงยหน้าขึ้นมากระพริบตารัวใส่ผม  ผมเลือกที่จะไม่ใส่ใจแล้วคุยกับฟ่างต่อ

   “เมื่อวานพี่ขอโทษนะครับที่นัดแล้วเลื่อนกระทันหัน  พอดีมีธุระด่วนจริงๆ...”
   “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  ไม่เป็นไรเลย!” ใครก็ได้เอาคนตรงหน้าไปผ่าตัดกล่องเสียงสักหน่อยเห็นจะดี..ผมแสบแก้วหูเหลือเกิน.. “แต่อย่าลืมนะคะว่าถ้าพี่เทียนมีอารมณ์หรือว่างเมื่อไหร่ต้องโทรหาข้าวฟ่างคนแรกนะ! ฟ่างพร้อมรบเสมอล่ะ!”

   ..การกระพริบตาข้างเดียวใส่เหมือนหยอดแบบนั้นทำให้ผมเลิกคิ้วกับอาการยั่วสวาทไม่ขึ้นนั่นเล็กน้อย  ในขณะที่ไอ้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหลุดยิ้มออกมา  พอผมหันไปมองเขาก็กระแอมกระไอแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเสียอย่างนั้น..



   พวกเรากินอาหารกลางวันกันต่อไปท่ามกลางความเงียบ  เอ่อ..ที่จริงมันก็ไม่เงียบเท่าไหร่ตราบใดที่ข้าวฟ่างยังคงพูดน้ำไหลไฟแล่บนั่นอยู่  บอกตามตรงว่าไม่ค่อยได้สนใจฟังนักหรอกเพราะมันไม่มีเนื้อหาอะไรให้ต้องตอบนอกเหนือไปกว่า 'อ่าฮะ' 'อือหึ' 'อย่างนั้นหรือ?' หรืออะไรที่มีความหมายใกล้เคียงกัน..
   ..แต่ความแตกต่างของข้าวฟ่างกับอักษรที่ผมเห็นได้ชัด..
   คือข้าวฟ่างเป็นราชินีนักพูดอยู่แล้วถ้าคุณรู้จักหล่อน  แต่อักษรคือคนที่พูด..เพื่อเหตุผลอะไรบางอย่างมากกว่า..

   ....และผมคิดว่าคนหลังนี่ทำได้ดีกว่าเยอะ...



   “เย้  ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ...ว่าแต่...พี่เทียนเป็นคนทำหรอ?  ดูท่าทางพี่ไม่ใช่คนที่ทำอะไรแบบนี้เลยนะคะ?”
   “อ้อ  เปล่า...คือ...” ผมพยักเพยิดไปทางอีกคนทันที "อักษรเอามาน่ะ"
   เขาทำเพียงแค่ยิ้ม  ไม่ได้ตอบอะไร
   “ว้าววว อร่อยมากเลยค่ะพี่ษร  ฟ่างขอบคุณมากนะคะ~”
   ..รอยยิ้มที่ไม่มีการเสแสร้งแบบนั้นมันทำให้ผมคิดถึงพวก..ปัญญาไม่แข็งนักที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่..

   หล่อนเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มตอนที่หันมามองหน้าผม  ก่อนจะก้มมองนาฬิกาแล้วลุกขึ้นยืน "อะ..เดี๋ยวฟ่างต้องรีบไปก่อนแล้วล่ะชั่วโมงต่อไปเป็นวิชาพละ”
   “โอเค  บายครับข้าวฟ่าง"
   “คืนนี้อย่าลืมรับสายฟ่างนะคะพี่เทียน!”
   ผมโบกมือ
   “ครับๆ  ไม่ลืมๆ"



   ..ยัง..ยังไม่พอ..

   เจ้าหล่อนโน้มริมฝีปากลงมาใกล้จนเกือบจะถึงแก้มผม  แล้วทำเสียง 'จุ๊บ' เหมือนสั่งลาในขณะที่ผมหันไปสบตากับอักษรพอดิบพอดี  นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้ฉายแววอะไรเป็นพิเศษนอกจากความฉงน..ในขณะที่ผมกลับรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น


   “บายค่ะ~”


   แล้วร่างอรชรก็เดินจากไป  เรียกได้ว่าถ้าผมเป็นผู้ชายขี้อายล่ะก็คงหน้าแดงไปทั้งตัวกับการกระทำอุกอาจที่เรียกให้คนทั้งห้องหันมามองแล้วล่ะครับ  นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุนับพันประการที่เพื่อนชายพวกนั้นเกลียดผมกันนักแล..และหวังว่าความรู้สึกดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นกับอักษรนะ..

   ..เดี๋ยวสิ...
   ......ผมจะพูดถึงหมอนั่นทำไมกัน...


   ผมหันกลับมาทันทีที่ตั้งสติได้  เขากำลังจัดการกัดแซนวิชคำเล็กๆเหมือนกำลังละเลียดชิมเพราะมันเป็นชิ้นสุดท้ายอยู่พอดี..เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มแป้น  แล้วถาม

   “อร่อยมั้ย?”
   “โอ้" ผมพยักหน้า..ถึงกว่าครึ่งจะลงไปอยู่ในกระเพาะข้าวฟ่างก็เถอะ "ก็ดี..”
   “...จะว่าอะไรมั้ยถ้าผมจะถามว่า..มื้อกลางวันวันพรุ่งนี้คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?”
   แรกทีเดียวผมคิดว่าจะตอบแบบขอไปที  แต่ก็ความอยากบางอย่างก็พุ่งขึ้นมา "....มะกะโรนีอบชีส..ก็ไม่เลวนะ"
   “คุณชอบอาหารฝรั่งเหรอ?”
   “เปล่า...ก็แค่จู่ๆอยากกินขึ้นมา" ผมยกมือสองข้างนวดขมับระหว่างที่เขารินน้ำที่พกมาใส่แก้วให้..เอ่อ..บริการเยี่ยมเลยแหะ.. “แต่ถ้าคุณไม่ชอบก็ช่างมันเถอะ  แล้วแต่...มันอาจจะยากไปนิดนึงเพราะกว่าเราจะได้กินกันก็คง..เย็นหมดแล้ว...”
   “เดี๋ยวนะ" อักษรขัดขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงๆ "เมื่อกี้คุณพูดว่าไงนะ?”
   “อ้อ ผมแค่บอกว่ามันคงจะเย็น...”
   “ไม่ใช่ครับ  ก่อนหน้านั้น..”
   ผมหรี่ตา พยายามนึก "คุณหมายความยังไง?”


   “คือ...เมื่อกี้...คุณพูดว่า 'เรา' ....”


   ...แล้วคุณจะยิ้มหน้าแดงขนาดนั้นทำไมกันน่ะ...?

   “ก็...เอ่อ...” ผมพยายามแก้สิ่งที่ทำผิดพลาดไปแล้ว..แต่ท่าทางมันจะไม่เป็นผลนัก "เราไง  คุณกับผม..เราทานอาหารกลางวันด้วยกัน..”
   “คุณรู้มั้ย..ว่าตอนนี้คุณทำให้ผมมีความสุขจนแทบบ้าเลยล่ะ!”
   นั่นไง..มาแล้ว..บทพล่ามของนายอักษร อัครมณฑา..
   “ผมไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่ากะอีแค่คุณบอกว่าเราจะได้ทานอาหารกลางวันด้วยกันบ่อยๆมันจะทำให้ผมมีความสุขได้มากขนาดนี้...อ๊ะ  พอดีว่าห้องสภานักเรียนมีไมโครเวฟอยู่น่ะครับ  คิดว่าคงใช้ได้  ดังนั้นพรุ่งนี้เวลาเดียวกันคงมีมักกะโรนีอบชีสที่คุณโปรดปรานมาเสิร์ฟถึงที่แน่ๆ!”
   “อา...ก็ดีนะ...”

   น่าแปลกแหะที่ผมนั่งฟังคำพูดของเขาได้แทบทุกประโยค  นี่แหละคือความสามารถพิเศษของคนที่ได้รับสิทธิเป็นโฆษกแทนสภานักเรียน..ที่สามารถจูงใจคนฟังด้วยคำพูดเหมือนน้ำท่วมทุ่งแบบนี้..

   จะว่าไปแล้ว...


   “ทำไม...เมื่อกี้คุณถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”

   พอผมถาม  อีกฝ่ายกลับขยับยิ้มบางคล้ายกับว่านึกขัน





   “คุณรู้มั้ย?”

   ดวงตาใต้แว่นกรอบบางนั้นพราวระยับขณะสบตาผม  ก่อนจะก้มหลบเพื่อเก็บกล่องอาหารและอะไรต่อมิอะไรลงถุงผ้าที่บรรจุพวกมันมาตั้งแต่ต้นได้หน้าตาเฉย



   “...ว่าเสือสองตัว...อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้น่ะ..”










ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog

----------










   ผมเปิดประตู..ถอดรองเท้าขึ้นชั้นวางตอนที่ได้ยินเสียงกุกกักมาจากห้องนอน  ยายเดินออกมาจากห้องมืดๆเพื่อทักทายผมด้วยรอยยิ้มอ่อน  ผมถอนหายใจ..รู้สึกอยากจะถลาเข้าไปกอดเหมือนเด็กเล็กๆแต่ก็ทำได้แค่ยกมือไหว้
   “กลับมาแล้วครับยาย"
   “ทานอะไรมารึยังลูก?”
   ..เป็นคำถามที่ผมไม่เคยเบื่อจะตอบเลยจริงๆ.. “เรียบร้อยแล้วฮะ  น้องนอนแล้วเหรอครับ?”
   “เพิ่งหลับไปได้เมื่อกี้เองจ้ะ" โชคดีของผมที่หล่อนเป็นฝ่ายเดินเข้ามากอดก่อน "เอาล่ะ  ไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนนะเราน่ะ"

   ผมมีเวลาสูดดมกลิ่นยาหอมนั่นได้เพียงไม่นานก็ต้องละออก  ยายเดินกลับไปที่หน้าโทรทัศน์จอเล็ก  เพื่อดูสารพันรายการละครโทรทัศน์หลังข่าวที่แม่บ้านชอบดูกัน  ผมวางกระเป๋ากล้องไว้บนโต๊ะ  ปลดเนคไทออกมาแขวนไว้ที่ราวเหมือนที่ทำเป็นปกติของทุกวัน..



   วันนี้ผมกลับบ้านเร็วกว่าปกติไป1ชม. เพราะไม่ได้ใช้เวลาไปเตล็ดเตร่กับสาวๆหรือนัดเดทที่ไหน..ที่จริง..ผมก็แค่หยิบกล้องถ่ายรูปเดินทางไปงานแสดงนิทรรศการภาพถ่ายที่บังเอิญมีภาพของผมติดเข้ารอบประกวดที่พารากอน  โดยมีรางวัลชนะเลิศเป็นทัวร์ท่องเที่ยวเนปาลหนึ่งสัปดาห์....ที่ผมไม่ค่อยสนใจมันนักหรอก..
   ...แต่ถ้าชนะบางทีผมอาจจะได้เงินค่าขนมจากทางโรงเรียนมาเพิ่มก็เป็นได้..

   จริงอย่างที่ไอ้กลอนว่า..ตราบใดที่เรายังไม่มีงานเข้ามาสถานะในโรงเรียนก็ค่อนข้างย่ำแย่  จริงอยู่ที่เกษรวิทยาเปิดโอกาสให้เด็กๆได้ไล่ล่าตามความฝัน  แต่ตราบใดที่ผมยังเฉื่อยชากับมันผมก็คงเป็นแค่...เศษส่วนเล็กๆของระบบพวกนั้นเท่านั้นแหละ..

   เอาล่ะ  คนที่อยู่ในระบบแล้วทำให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นก็อย่าง...พี่สายสิญจน์กระมัง?
   แล้วก็พวกห้องทุนที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมากมาย..
   แต่พวกเพื่อนผมเองก็สร้างผลงานให้กับหลายๆแห่ง..ทั้งรัฐบาล บริษัทเอกชน..หรือวงการบันเทิง..

   ...อา...จริงสินะ....
   .....อักษรก็เป็นหนึ่งในระบบพวกนั้นด้วยนี่นา...

   แถมยังเป็นหนึ่งส่วนที่มีค่ามากซะด้วย..

   ..ผมไม่ค่อยพูดเรื่อง 'งาน' ให้ใครฟังเท่าไหร่นักหรอกเพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น  อย่างครั้งนั้นที่ภาพถ่ายของผมทำให้ผมติดโรงเรียนนั่นยายก็แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว  ดังนั้นอย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า..




   “เทียน  โทรศัพท์ลูก"



   “อ้อครับ"
   ผมเช็ดผมอยู่ตอนที่หยิบมารับ  ที่จริงไม่ได้เปิดเสียงเอาไว้หรอกครับแต่แสงมันคงวิบๆ  ยายเห็นก็เลยหยิบมาให้..มันเป็นเบอร์แปลกที่ผมไม่ได้เมมไว้..
   “ยายนอนก่อนนะ  รีบเข้านอนล่ะ"
   “กู๊ดไนท์ครับ"
   ยายเดินมาทำเสียงจุ๊บที่ข้างแก้มผมแบบที่ข้าวฟ่างทำแต่ผมก็รู้ดีว่ามันคนละความหมาย  ผมยิ้มให้ท่านก่อนจะพาดผ้าขนหนูไว้บนบ่า  เดินกลับไปในห้องของตัวเอง..ที่จริงมันไม่สมควรเรียกว่าห้องนอนหรอกครับ..มันเป็นห้องมืดที่ผมทำไว้เพื่อล้างฟิล์มอย่างง่ายๆ...แล้วก็มีโซฟาเก่าๆหนึ่งตัวเท่านั้น

   แสงไฟจากมือถือสว่างขึ้นมาอีกครั้ง  ผมถอนหายใจกับเบอร์ไม่คุ้นนั่น..ก่อนจะตัดสินใจเสียบบลูธูธเข้าที่หู  แล้วกดรับ



   ปิ๊บ..

   “ครับ  เทียนไขพูด"

   ((อ...ส...สวัสดีครับ!))
   ..ให้ตาย..ที่ผมหงุดหงิดไม่ใช่เพราะคุ้นกับเสียงแบบนั้นหรอกนะ..เพียงแค่รุ้สึกว่าทำไมตัวเองต้องยิ้มด้วยวะ..
   ผมกระแอมกระไอเล็กน้อยเพื่อควบคุมสติไม่ให้หลุดขำตัวเองออกมา  แล้วว่า

   “ไง  ทนคิดถึงผมไม่ได้เลยหรือคุณน่ะ?”

   ((...ได้โปรดอย่าแซวผม  ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที))
   “นี่เบอร์คุณหรือ?”
   ((ใช่ครับ...แต่เอ่อ..ถ้าคุณไม่อยากเมมผมก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ  แล้วผมก็ต้องขอโทษด้วยที่บังเอิญว่าผมมีสมุดบัญชีรายชื่อนักเรียนทั้งหมดอยู่ในมือ  พอพลิกๆมันดูรู้สึกตัวอีกทีก็โทรหาคุณแล้ว...))
   “อ่าฮะ" ผมยิ้ม "รู้สึกตัวอีกทีก็ตั้งสองรอบแล้วเนอะ...”
   ((อย่า...แกล้งผมเลยครับผมขอร้อง...))
   “คุณ...ดูแปลกๆนะ..?”

   ((อ่า...คุณรู้มั้ย...ว่าการจะโทรหาคนที่ตัวเองชอบได้มันต้องรวบรวมความกล้ามากแค่ไหน)) ปลายสายถอนหายใจ ((ทุกวันนี้ผมยังแปลกใจอยู่เลยว่าทำไมบรรดาสาวๆของคุณถึงกล้าโทรหาคุณวันละ3เวลาได้...อะ  ว่าแต่คุณไม่ได้คุยโทรศัพท์กับใครค้างไว้ใช่มั้ยครับ? ผมโทรมาขัดจังหวะรึเปล่า?))

   “ไม่หรอกผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ...”
   ((ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าคุณกำลังอารมณ์ดี?))
   “หืม?” ผมหุบยิ้มทันที  ก่อนจะกางพิจารณาฟิล์มม้วนล่าสุดลงบนโต๊ะไฟ "เปล่านี่..”
   ((ปกติแล้วคุณจะแค่ อืม อา งั้นเหรอ โอเค หรืออะไรเทือกนั้นนี่นา...)) สาบานได้ว่าผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะ ((อย่างน้อยการโทรมาครั้งนี้ของผมก็ไม่ได้ทำให้คุณรำคาญ...))
   “อ่าฮะ"
   ((นั่นไง...คุณกลับมาเก๊กเหมือนเดิมอีกแล้ว....))
   “ว่าไงนะ?”
   ((อา...ผมไม่ชอบคุยโทรศัพท์เท่าไหร่เลย  เพราะไม่รู้ว่าคุณทำสีหน้าแบบไหนอยู่ตอนที่พูด...มันทำให้ผมรับมือลำบาก..))
   “เอาล่ะๆ" ผมยอมแพ้แล้ว เขาเปลี่ยนเรื่องได้เก่งชะมัด.. “คุณมีธุระอะไรรึเปล่า?”
   ((....ที่จริงก็คือ...ไม่มีครับ))
   “โอเค....”
   ((คุณอย่าเพิ่งโกรธผมนะ...))
   “หืม? อะไรทำให้คุณคิดอย่างนั้นล่ะ?”
   ((อ่า...คือ...ผมบอกคุณแล้วนี่ว่าผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ถ้าไม่เห็นหน้า  แล้วน้ำเสียงคุณก็..แทบไม่บ่งบอกอะไรเลย...))
   ผมเลิกคิ้ว “หมายความว่าไงน่ะ?”
   ((ผมไม่ได้จะบอกว่าคุณเย็นชาหรอกนะไม่ต้องห่วง!!))
   ..แต่ที่คุณพูดมาทั้งหมดนั่นโคตรจะชัดเจนเลยนะครับ...


   ((อะ!! หวา...ขอโทษนะครับแต่ผมต้องไปแล้ว...ยังมีงานสภานักเรียนรออยู่แล้วพี่ๆเพิ่งจะคอลมา...ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ  ยังไงก็ตามคุณรีบเข้านอนนะครับคืนนี้  คุณคงเหนื่อยมาทั้งวันแล้วและสุดท้าย.....ฝันดีครับ))

   ..เขาคงรีบมากจริงๆกระมังถึงได้พูดรัวขนาดนั้น..
   ผมขยับยิ้มแม้จะได้ยินเสียงวางสายไปแล้วก็ตาม  เขาโทรพรวดพราดโดยพูดอยู่คนเดียวเกือบทั้งหมดของการสนทนา  แถมยังตัดจบประโยคโดยไม่รีรอให้ผมขยับปากร่ำลาด้วยซ้ำ  อย่างว่าแหละ..เลขานุการคนเก่งของสภานักเรียนมีงานยุ่งแม้กระทั่งเวลาก่อนสี่ทุ่มไม่นาน...นี่มันควรจะหมดเวลาทำการของเครื่องจักรแล้วไม่ใช่รึไง..


   ..เอาล่ะ..ผมควรพูดประโยคสุดท้ายเพื่อจบพิธีการโทรศัพท์สักที..





   “...โอเค  กู๊ดไนท์"







TBC


=============================





แอบชอบเขียนคู่นี้ค่ะ >///< แบบ...กวนตีนกันเงียบๆดี....คนอื่นอาจไม่ขำแต่โอขำ กร๊ากกก ชอบแบบนี้
เหมือนจะฉีกแนวจากเรื่องที่เคยเขียนปกติไปนิดหน่อย....;;__;; ไม่เป็นไร เราจะพยายามต่อไปค่ะ

จริงอยู่ที่อ่านไปอาจจะมีอาการ..งุนงงบ้าง..เรื่องปกตินะ!  :o8:
แต่ท้ายที่สุดแล้วโอมั่นใจว่าทุกคนต้องเข้าใจทั้งเทียนไขทั้งอักษรแน่ๆ 55555555555


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ




ozaka*




 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
 :z13:

...............................................................................

จิ้มทิ้งไว้ตั้งนานกว่าจัอ่านจบ เพราะน้องมาตามไปทำกับข้าว ขัดเวลาจริงๆ  (แล้วบ่นเพื่อ?)

อักษรน่ารักอีกแล้ว ผมไม่มองว่ามันเป็นการกวนนะ อักษรฉลาดที่จะเจรจาจริงๆ

และเขียนไขเองก็ไม่ได้โง่ แม้จะยังไม่เข้าใจอะไรๆมากมายนัก

แต่ใครช่วยเอาข้าวฟ่างไปเก็บที ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เลย อ่านแล้วอยากดีด

กล้าพูด "ถ้าพี่เทียนมีอารมณ์..." หล่อนช่างกล้านะ !!!!!!!!!!!!!!!!


รอตอนต่อไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2012 20:10:30 โดย NewYearzz »

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
ขอตามอ่านเรื่องนี้ด้วยคนค่่ะ

number_m

  • บุคคลทั่วไป
ได้โปรดอย่าแซวผม ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที   

ชอบประโยคนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :S

อักษรดูเผินๆเหมือนจะแสนดี แสนดีมากมาก  แต่จริงๆแล้วเจ้าเล่ห์พอตัวเลย

ชอบอักษรมากมากมากมาก  แต่ ...

เรื่องนี้ทำไมเมะซึนกว่าเคะ - / -

ปล.  เทียนของจริงหักง่าย แต่ของจริงกว่าก็แค่เคล็ดขัดยอก    นะจ๊ะเทียน   :o8:




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






sEpIA

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้ยิ่งอ่านยิ่งชอบอะ   :m1:

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
ป๊าดดด อักษร ไมนู๋ทำให้เจ๊ ปลื๊มปลื่มละ  :o8:
>>> อ่านตอนนี้ แอบคิดถึงอดีตที่ได้โทรหาผู้ชายครั้งแรก  :laugh:
        เจ๊ก็ใจเต้นแบบนี้แหละ ><"

P.S. มีนู๋กลอนโผล่มาด้วย คิดถึงอ่ะ  :กอด1:

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
เห้ยยยยยย อักษรน่ารักอ้าาาา   :-[  (อีกแล้ว !!?)
เริ่มรู้สึก (?) แล้วใช่มั้ยล่า
โห่ มีย้งยิ้ม ชอบที่เขาโทรมาก็บอกดิ ฮี้ววววววววว
แล้วจะแซวิเทียนทำเพรื่ออออออออ ไอเก๊กกกกกก 
 :laugh:

อันนี้ๆ >> 'เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้หรอก '
แอบโง่นิดนึง ไม่รู้ว่าน้องษรจะสื่ออะไรอ่ะ  o22
ตายละ เป็นอิเอ็กซ์2ละ OTL ประมาณว่าอยู่กับข้าวฟ่างไม่ได้หรอก หรือยังไง วรั้ยยยยยยย   :z3:
ปล. ขำตอนเทียนแนะนำตัว   :laugh:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เราชอบเทียนไขอ่ะ
เหมือนชืดชากับทุกสิ่งในโลกใบนี้
จะก้อนหินหรือมนุษย์ก็เหมือนๆกัน

แล้วก็มีคนคนหนึ่งมาอยู่ในสายตาที่ทำให้ต้องมองตาม
อ๊ายยยย ชอบ

kisz

  • บุคคลทั่วไป
อักษรน่ารักแบบเจ้าเล่ห์อ่ะ

ออฟไลน์ thunchanok1

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ชอบนิสัยอักษรอ่ะ แบบนิสัยแปลกๆ แต่น่ารักมากกกกอ่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
น้องอักษรเป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกมาก
พูดออกมาตรงๆแบบนี้ อีกไม่นานเทียนคงอดหวั่นไหวไม่ได้ คิๆ :-[

PueN

  • บุคคลทั่วไป
" ...ได้โปรดอย่าแซวผม  ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที "
อุ ..กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบประโยคนี้มาก! มหาศาลเลยละ XD
น่ารักชะมัดเลยอะศร ... ยังจิ้นเทียนไขไม่ค่อยออกแต่คาแรคเตอร์มาละ
หล่อนะเราอะ ไม่สิต้องบอกว่าโคตรหล่อสินะ...

ติดตามค่ะพี่โอ กรี้ดคู่นี้จัง โอ้ยชอบ

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อักษรเป็นหมาป่าในคาบลูกแกะสินะ.. 555
.....น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ><
โอ้ยยยยยยยยยยย อักษรน่ารักไม่ไหวแล้วววววววววววววววววววววววว !

เทียนซึนน !! อยากยิ้มก็ยิ้มไปเซ่ะ ! 55555555555555555

แอบมีน้องกลอนโผล่มาแวบๆ
คิดถึงน้องกลอนจังเลยยยยยยยยยยยยยยยย >3<

สนุกอ่ะพี่โอ๊วววววววววววววววว !
ชอบน้องอักษรม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !  :-[

ออฟไลน์ mueypoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เราชอบคู่นี้นะ มันมีอะไรให้น่าค้นหาดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ทั้งเทียนไข และอักษร ดูเป็นเคะได้ทั้งคู่เลยอ่ะ

Windiizz

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกก คู่นี้จะน่ารักไปแล้ววววววววว
เทียนไข เราว่านายตกหลุมอักษรเต็มเปาแล้วล่ะ 555555
อักษรบอกเคล็ดลับในการหมัดใจหนุ่มให้เราที นายเทพมากกกกกกกกกก

หมั่นไส้น้องข้าวฟ่างมาก แต่ก็ฮาในเวลาเดียวกัน
เหมือนเธอคนนี้ไม่ได้มาเพื่อขัดขวางไงไม่รู้ เหมือนมาทำให้สองคนนี้ยิ่งพัฒนามากกว่า

ถ้าอักษรได้ยินคำว่า กู๊ดไนท์ หน้าอาจจะแดงจนระเบิดได้ ><////
เขินค่ะะะะะะ รอเขินตอนต่อไปด้วย 5555

Minako

  • บุคคลทั่วไป
วิ้วๆๆๆๆๆ ชอบอ่ะ ฮาดี 55555
อยากรู้ว่าอักษรต้องการจะสื่ออะไรกับเสือสองตัว?????
หมายถึงอักษรกับข้าวฟ่างหรือเปล่าหว่า =O=
แต่ชอบอักษรตอนนี้อ่ะ น่าร้ากกกกกก  :-[

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
งงๆนิดหน่อยนะ

แต่อักษรน่ารักดีนะ  ตรงไปตรงมาต่อความรู้สึกตัวเองมากกกกกกกกกกกกก :m20: :m20:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
เทียนไข นายกวนและซื่อ(บื้อ)มาก ไม่รู้ทำไมคิดแบบนี้เหมือนกัน :m20: มันทำให้เทียนไขดูน่ารักมาก หุหุ
เอ่อ...ชมผิดคนหรือเปล่าหว่า o22

pathk

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย จะบ้าตายกับการสนทนาของคู่นี้
ต้องลุ้นอยู่ตลอดว่าจะพูดอะไรกัน

 ((...ได้โปรดอย่าแซวผม  ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที))
ประโยคนี้ชอบมากกกกกกกก จะตายเพราะประโยคนี้จริงๆ  o13


ออฟไลน์ bamee_wspb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยให้ตาย เรื่องนี้มันทำเอาคนอ่านหัวใจจะวายจริงๆนะพี่โอ ;A;

แบบ เหมือนสองคนเล่นสงครามประสาทตลอดเวลา  o18
บทนี้ทำให้เราเข้าใจนิสัยเทียนไขมากขึ้น...
ซึ่งมันทำให้ตัวละครดูมีเสน่ห์มาก  :m25:

ตอนแรกเรามองเทียนไขแบบเพลบอยพูดมากจริงๆนะ  :sad4:
แต่ตอนนี้แบบ มองว่าเท่ #ได้ไงวะ?!?!?!

แล้วตอนนี้อักษรดูแบบ...
ควบคุม? ใช้คำนี้ได้ม้อยยยยยยย >0<
ดูใสๆแต่เข้าใจเทียนไขดี
เหมือนศึกษาประวัติคู่ต่อสู้ก่อนบุกมาแล้ว #ห้ะ

มีบางคำดูโบราณไปนิดนะพี่โอ

อ่านไปสะดุด ตรง “นี่เบอร์คุณหรือ?”

ห่ะ... หรือ...?

แต่ชอบดีนะแบบนี้ 55555

รอตอนต่อไปจ้าา า

ออฟไลน์ Thezetiv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาแล้ววววววววววววววว เย้ๆๆๆ /ระำบำรอบกระทู้/ ดีใจมากรอนานเหมือนเป็นปี อิอิ
ตอนนี้ได้รู้จักนายทีปพิพัฒน์มากขึ้นแล้ว ตอนแรกเราคิดว่าพ่อเทียนเป็นฝรั่งซะอีกแล้วแม่เป็นคนไทย
แต่นี่แม่เป็นฝรั่ง แล้วยายล่ะ ??? หรือยายเป็นคนไทยส่วนตาเป็นฝรั่ง แต่้ถ้าเป็นแบบนั้นแม่ก็น่าจะเป็นลูกครึ่งป่ะ
ถ้าลูกครึ่งทำไมเชื้อแรงจัง เพราะปกติส่วนมากพวกลูกครึ่งนี้จะได้เชื้อจากพ่อมากกว่าแม่ป่ะ ?? (บ่นอะไรวะ)
หรือว่าคุณยายกับคุณตาก็เป็นฝรั่งทั้งคู่เลย ถ้างั้นทำไมถึงมาอยู่เมืองไทย แล้วเทียนใช้นามสกุลใคร ?? 555555555
ทั้งหมดที่เราถามไปนายไม่ต้องตอบก็ได้นะเดี๋ยวเราจะค่อยๆตามหามันในเรื่องละกัน แต่ถ้าตอบได้ ตอบเราหน่อยก็ดี อิอิ

น้องก้่านธูปน่ารักกกกกกกกกก เราว่าน้องต้องอารมณ์แบบมีพี่ชายเป็นฮีโร่ไรงี้ สังเกตุจากประโยคที่พูดกับเพื่อน
พี่เทียนเป็นของธูป จริงๆแอบคิดว่ามัน incest เบาๆมั้ย 55555555 #เลวไม่เว้นแม้กับเด็กน้อย บ้าา เราล้อเล่น
แต่เทียนแม่งต้องหล่อมากแน่ๆ เซ็กส์แอพเพียวสูงมากด้วย (เดาล้วนๆ) ผู้ชายบุคลิกนิ่งๆเย็นชานี่มันโคตรจะมีเสน่ห์
ถึงขนาดคุณครูของน้องธูปส่งสายตาให้นี่ก็ไม่ใช่เล่นๆแล้วป่ะ หรือว่าเจ๊แกไม่มีจรรยาบรรณในการเป็นครูฟะ
ส่วนอิหนูแนนเราเข้าใจเด็กนะ ตอนเด็กๆเราก็เคยเป็นเว้ยเห็นใครหล่อๆเราก็อยากแต่งงานกับเค้าเหมือนกัน
แต่พอโตขึ้น เห็นใครหล่อๆเรากลับอยากให้มันแต่งงานกันเอง orz เราเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ /สะพรึงตัวเอง/

อ่านตอนนี้แล้วก็อยากจะนั่งยัน ยืนยัน นอนยัน กระโดดยัน ตีลังกายันว่าเราหาเมนเจอแล้ว ;;A;;
มันใช่มากๆ ทีปพิพัฒน์ คลาไรน์ แม่งคือที่สุดดดดดดดด เราแพ้ผู้ชายแบบนี้ แพ้แบบหมดท่า
เราว่าเทียนมันไม่ใช่คนโง่เลย (ยกเว้นเวลาอยู่กับอักษรจะดูโง่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว) 55555555555
จริงๆไม่ค่อยเข้าใจที่เทียนนิยามตัวเองเท่าไหร่นะ ไม่อยากทำให้ยายผิดหวังเรื่องเรียน เพราะทุกวันนี้ก็ระยำมากพออยู่แล้ว
หรือเพราะเราเพิ่งอ่านได้แค่ไม่กี่ตอนละมั้งเลยยังไม่ค่อยเห็นความระยำของเทียนซักเท่าไหร่
แต่ถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงเราว่ามันก็เป็นปกติของพวกผู้ชายหล่อๆรึเปล่าฟะ (โคตรเข้าข้างเลยนะมึง) อิอิ
คือเราว่าเทียนมันก็ยังมีสำนึกดีอยู่นิดนึง เหมือนที่อักษรเคยพูดว่าเทียนมันจะไม่มีอะไรกับใครถ้ายังไม่เป็นนางสาว
เรื่องเป็นแมงดานี่ก็ต่างจิตต่างใจต่างความคิดอ่ะ เราว่ามันก็ออกจะแย่อยู่นิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับระยำมั้ง
ไม่รู้แฮะ เมนเรายังไงเราก็อวย กร๊ากกกกกกกก  #เผยสันดานดิบออกมาละอีไวท์  =_____=;;;;

รู้สึกว่าตอนนี้เทียนคิดถึงอักษรบ่อยมาก(ไปแล้ว)นะ แกมันอิคนใจง่าย อิใช้ร่างกายเปลือง #ผิดละมึง
ถ้าเจอคนแบบอักษรใครไม่ใจอ่อนเราให้มากระทืบหน้าเราเลย แม่งน่ารักไม่ทน น่ารักมากเราไม่ไหวอย่างแรง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมกันมาเป็น อักษร อัครมณฑา นี่แบบ..... ;;_____;;  ฆ่าฉัน ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า
บางทีอ่านไปก็รู้สึกอึ้งเหมือนเราเป็นเทียนไขซะเองเลย กร๊ากกกกกกก อย่างเรื่องตำแหน่งห้องเรียนที่ตรงกัน
หรือแม้กระทั่งที่นั่งของอักษร โฮฮฮฮฮ ทำไมอักษรเป็นเด็กน่ารักขนาดนี้วะ แม่งอยากปล้ามมมมม #ผิด
พอมาอ่านตอนนี้เราไม่แปลกใจเลยที่อักษรจะจำได้แม้กระทั่งตำแหน่งนั่งในห้องเรียนของเทียน
ไม่รู้ว่าตอนนั่งเรียนน้องได้เรียนมั่งรึเปล่า หรือมัวแต่มองออกนอกหน้าต่างหาอิฝรั่งขี้นกแถวนี้กันแน่ 5555555
อักษรราชินีมากกกกกกก ใช้ความเงียบกับรอยยิ้มน่ารักๆสยบความเคลื่อนไหวทุกสิ่ง.. โอ๊ยย น้องเริ่ด /ชาบู/
น้องข้าวฟ่างนี่เราไม่อะไรกับนางนะ เรารู้สึกว่าพอนางเข้ามาตอนนี้ทำให้ความรู้สึกบางอย่างของเทียนมันชัดขึ้น
เหมือนเทียนมันก็ไม่รู้ตัวเองหรอก (แต่เรารู้โว้ย) คือเริ่มรำคาญอิโทนเสียงแหลมๆแบบนั้น แต่เสียงทุ้มๆของอีกคนชอบฟังอ่ะดิ
ชอบอ่ะ อยากให้มีผู้หญิงมาบ่อยๆเวลาเทียนไขอยู่กับอักษร เราอยากเห็นปฏิกิริยาเีทียนที่มากกว่านี้ อริอริ

ตอนคุยโทรศัพท์กันเราไม่ไหวแล้ว ช่วยเราด้วยยยยยยย  /ลากศพเราไปเก็บที/ นอนตายหน้าคอม
เขินมากกกกก เราเขินแทนจริงๆนะ เราเขินที่เทียนมันบอกว่ามันหงุดหงิดเพราะตัวเองกำลังยิ้ม 5555555555
ดูเป็นผู้หญิงที่มีความสุขเวลาเห็นเมนตัวเองดูโง่ แต่เราชอบจัง ชอบบรรยากาศแบบนี้มาก ;;____;;
เหมือนผู้ชายคนนึงที่คนอื่นอาจจะมองว่าดูเป็นเพลย์บอย ดูเชี่ยวกับเรื่องอะไรแบบนี้ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย
เราว่าเทียนดูอนุบาลกับเรื่องความรักมากๆอ่ะ เราไม่รู้ว่าอักษรเคยชอบใครหรือเคยมีแฟน มีความรักมาก่อนมั้ย
แต่เมื่อมาเทียบกับเทียนอักษรดูเชี่ยวชาญกับเรื่องความรักมากกว่า (เยอะเลยด้วย) อิเทียนนี่กิ๊กก๊อกไปเลยจ้าาาา

“ไง  ทนคิดถึงผมไม่ได้เลยหรือคุณน่ะ?”
((...ได้โปรดอย่าแซวผม  ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที))

สองบรรทัดนี้แม่งปลิดชีพเราเถอะ ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว โคตรฟิน ฟินจนหาคำบรรยายไม่ได้ ฮืออออ
เราอ่านบทสนทนาที่เค้าคุยโทรศัพท์กันซ้ำไปซ้ำมา รู้สึกเหมือนน้ำลายจะฟูมปากเลย ชอบจัง -/////-
แอบยิ้มเหมือนที่เทียนยิ้ม แล้วก็คิดเหมือนที่เทียนคิด ว่าน้องโทรมาแล้วก็พูดๆๆๆๆๆละอยู่ๆก็วางไป
แต่ทำไมไม่เห็นรู้สึกว่าน่าเบื่อเลย อักษรเป็นคนที่มีเสน่ห์ในการพูดจริงๆด้วย พูดแล้วคนหลงพูดแล้วคนรัก #รวมถึงเรา
เราว่าคืนนี้ทีปพิพัฒน์คงนอนหลับสนิทและฝันดีที่สุดตั้งแต่เคยนอนหลับมาเลยละมั้ง อิอิอิอิ

สุดท้ายละ เราชอบนิยามที่เทียนไขมีให้กับรักร้ายมากเลย 5555555555
กลุ่มก้อนทางอำนาจบ้าๆที่เรียกว่า 'รักร้าย'

ตอนเราพิมพ์จนเสร็จแล้วเราก็แอบตกใจเบาๆ
เราเวิ่นไปเยอะมากๆ เราพยายามลบให้มันเหลือน้อยแล้ว
แต่มันเอาตรงไหนออกไ่ม่ได้เลย ขอโทษค่ะ  ;;A;;

ด้วยรักและหัวใจเต้นแรงมาก
XD

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ู^

^^


^^^


ข้างบน ยาวมาก นะคุณน้อง อะคึอะคึ :m9: :m9:


-------------------------------------------------------------------------------

ขอบอกสั้นๆ ว่า เทียนไขแพ้ทางแล้วหล่ะ ทุกอย่าง

ตัวเองเอาใจไปผูกกับเค้า แล้วรู้ตัวไหม


แต่อักษร เจ้าเล่ห์ที่สุด หึหึ โทรมาทำไมนะ เบอร์ก็ไม่ได้เพิ่งมีวันนี้สักหน่อย ทำเป็นถามว่าเค้าคุยกับใครอยู่รึเปล่า  ร้ายกาจมาก  :m11: :m11:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2012 20:39:58 โดย NOoTuNE »

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อักษรแม่งโคตรเสี่ยวอะ อ่านแล้วฮากับมุขเสี่ยวๆแบบเนียนๆของอักษรมาก

เทียนไขก็นิ่งสุดพลัง ถ้าคุณโอไม่แย้มมาว่า ถ่ายรูปเก่ง เด็กศิลป์ นึกไม่ออกจริงๆว่าเทียนจะทำอะไรได้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด