__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 570369 ครั้ง)

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
อักษรมปลกกว่าคนอื่นพี่เทียนรับมือยม่ถฺกเลย :z3:

ParkArin

  • บุคคลทั่วไป
น้องอักษรจะน่ารักไปแล้วนะ  :-[ :-[ :-[


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
น่ารักดีเนอะ

ชีวิตเทียนไขคล้ายเบนเลย

ลูกครึ่ง ไปไหนมีแต่คนมองง

มองทำไมวะ ฝรั่งขึ้นรถเมล์ไม่ได้หรอ ฮะ o12

หอยยนิ

ฮ่าๆๆๆ

เราเป็นเพื่อนกันเนอะ ฮ่าๆๆๆ

อักษรน่ารักกกก

ออฟไลน์ evz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เหมือนเทียนไขจะแพ้ทางอักษรนะ เจอไม่กี่ครั้งเองแต่มีแอบยิ้มแอบนึกถึงด้วยอ่ะ
มีพัฒนาการนะเทียน ปกติเอาแ่ต่เก๊กแบบที่ัอักษรว่าแท้ๆ  5555

อยากเห็นเทียนไขตกหลุมรักอักษรแล้ว  :-[

เป็นกำลังใจให้พี่โอแต่งเทียนไขอักษรรวดเดียวค่ะ 55555  :กอด1:

seiolp

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยย~
น่ารักมากอ่ะคู่นี้
อ่านแล้วหัวใจเต้นตึกตักเหมือนสาวแรกรุ่น
อ่านแล้วยิ้ม จนคนข้างทักว่าบ้า 55

ตอนนี้บอกได้คำเดียว ตกหลุมรักอักษร ไปแล้ว :]]

บทสนทนาคู่นี้ดูเหมือนคุยกันเรื่อยๆ แต่คนอ่านลุ้นกันตัวโก่งว่าจะตอบว่ายังไงกัน อ๊ากก~

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
ไม่รอดซะแล้วละเทียนไข
บังคับหน้าตัวเองไม่ให้ยิ้มได้อย่างนี้
เตรียมตัวมอบใจให้อักษรซะดีๆ

ออฟไลน์ comics_boy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มีน้องกลอนโผล่มาด้วย คิดถึงจัง

ว่าแต่จริงๆแล้ว เทียนไขเป็นคนยังไงกันแน่นาาาาา

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ชอบอักษร ที่พูดตรงๆ ที่ศึกษาคนที่ชอบเป็นอย่างดี ที่บอกว่าไม่คาดหวัง (แม้ลึกๆก็คงหวังแหละ)
สงสัยว่ามาชอบเทียนไขได้ยังไง หรือว่าชอบรูปของเทียนไขเหรอ
ส่วนเทียนไข รู้สึกว่าเป็นคนเก็บกดนะ ไม่ชอบการกระทำของข้าวฟ่าง ก็นึกว่าในใจเอา ไม่พูดออกมา

ออฟไลน์ Raccoooon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-2
เราชอบคู่นี้ที่เหมือนมีอะไรให้น่าค้นหาดี *__*
แบบว่าน่าติดตามแบบแปลกๆอ่ะ
ไม่มีอะไรหวือหวา แต่น่าค้นหาติดตาม
(พูดวกไปวนมา 5555)
ยังไงก็ติดตามตอนต่อไปนะคะ แฮ่ :3123: :3123:

UxMishi

  • บุคคลทั่วไป
มาเม้นท์แล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว *วิ่งถลา*

ไม่รู้ว่าเคยบอกไปแล้วรึยัง  แต่เมทชอบคาแรกเตอร์ของเทียนไขมาก เป็นเหมือนคนที่แตกต่างกับคนอื่นๆในรักร้ายอย่างชัดเจนเลยนะคะ เรื่องความหล่อนี่มีอยู่ในระดับต้นๆก็จริง แต่เรื่องอำนาจเงินทองหรือชื่อเสียงของที่บ้านนี่ดูเหมือนว่าเทียนจะไม่มีเลย  ชอบที่เป็นลูกครึ่งแท้ๆแต่กลับจนนี่แหละค่ะ  มันรู้สึกว่ามีเสน่ห์จังเลยผู้ชายคนนี้  อักษรตาแหลมนะ :)

โดนใจกับ "วรรคทอง" เดียวกันกับทุกๆคน


"ได้โปรดอย่าแซวผม ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที"


โอ๊ยยยยยยยยยยย อักษรรรรรรรรร เธ๊อออออออออออ

คนนี้นี่ยังไงเนี่ย  เหมือนจะมีแผนแต่ก็ดูไม่มีแผน  ดูเหมือนเป็นคนเชี่ยวชาญแต่ก็ดูไร้เดียงสา  อะไรกันๆ ตัวจริงของอักษรเป็นแบบไหน เป็นยังไงกันแน่คะเนี่ย!!!! ชักอยากจะรู้แล้วนะ >< ถ้าเมทเป็นเทียนนี่คงแบบ กุจะรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดีวะ มันจะมาไม้ไหนของมันวะ ๕๕๕๕๕ แต่ก็คงจะสนใจอยู่ล่ะค่ะ  คนแบบนี้นี่น่าสนใจจะตายไป  อยู่ด้วยแล้วสนุก  อยากจะรู้ว่าเค้าจะมาไม้ไหนต่อไป  เวลาอยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อ  เวลาแยกจากกันก็รู้สึกอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ที่จะได้เจอกันเร็วๆ :)

เมทชอบคนแบบนี้นะ แล้วก็คิดว่าเทียนเองก็คงจะแพ้ทางด้วยเหมือนกัน ๕๕๕๕๕๕ ก็อักษรน่ะน่ารักจะตายไป ใช่มั้ยล่ะคะ ><

แอบสงสัยเล็กน้อยว่าพ่อเทียนจะได้มีบทบาทรึเปล่านะ? 0.0 แล้วคู่นี้จะไปเกี่ยวข้องอะไรกับคุณนครด้วยรึเปล่า  หรือว่าเทียนไขอักษรจะเป็นรูทที่แยกจากรูทหลักอย่างเป็นทางการ  เกี่ยวข้องแค่อยู่โรงเรียนเดียวกัน แล้วเทียนไขเป็นเพื่อนสนิทกลอนเฉยๆกันแน่  แอร๊ย อยากรู้  รักร้ายนี่ทำให้ตื่นเต้นได้ตลอดเลยนะคะเนี่ย ><

เอ้า รอตอนต่อปายยยยย
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






runynam

  • บุคคลทั่วไป
สุดยอดดดดด
ชอบอักษรมากกกกอ่ะ
เจ๋งสุดๆๆๆๆๆๆ
เสือสองตัว อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้น่ะ
โอ้ววว o13 o13 o13 o13 เอาไปเลย สามนิ้ว
อิอิ อักษรน่ารักม้ากกกมากกกก ช้อบชอบบ
ส่วนเทียนไข แนวคล้ายๆๆพี่ปีใหม่นิสๆๆเลยอ่ะ
แต่ก็เชียร์ให้ชอบอักษรไวไวนะจ้า
 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ onemile

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :man1: กร๊าดดดดดดดดด
ชอบอ่ะ

MookHo

  • บุคคลทั่วไป
เยี่ยมไปเลยอักษร
มีข้อมูลอยู่ในมือแบบนี้ เสร็จษรแน่ไอ้เทียน
 :กอด1: :L2:

Superstar

  • บุคคลทั่วไป
ชอบ อักษร มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อยากอ่านตอนต่อไปจะแย่แล้วค่ะ โอ้ยคุณโอ สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
ให้กำลังใจกันตอนต่อไป

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
รู้สึกว่าอักษรจะเล่ห์เหลี่ยมเยอะมากกกกกกกกกกกกกก
เทียนไขตามทันบ้างไหมนั้น ฮ่าๆๆๆ
ชอบคู่นี้อ่ะ น่ารักจริงๆ ที่อักษรโทรมา เพราะต้องการขัดจังหวะไม่ให้เทียนไขคุยกับฟ่างใช่ป่ะ
คิคิ ร้ายนักนะ ชอบจัง
บวกค่ะ

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 747
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
คุยกันน่ารักจังเลยอ่า

ชอบ คู่นี้นะเนี่ย


อักษร   รุกเก่งมากเลยนะนั้นอ่า

มีทำ   ข้าวกล่องมากินด้วยกันด้วย  น่ารักเชียว รักกันไวๆนะ

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
คู่นี้เขาน่ารักแบบอึนๆ ดีนะ
แต่ก็สนุกดี :z2:

 :กอด1:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
น้องอักษรพูดตรงดี

ออฟไลน์ Wins_Sha

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 949
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
โฮะๆๆๆๆ

เริ่มชอบอักษรแล้วล่ะสิเทียนไข
ถึงได้รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างข้าวฟ่างกับอักษร
แถมยังคิดถึงอักษรบ่อยๆๆด้วย

อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เทียนไขกับอักษรน่ารักมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ให้ตายเถอะพี่โอ !! แอบชอบคู่นี้ขึ้นมาซะแล้วสินะ... :z3: จบเร็วๆนะจ๊ะ จะรอซื้อน๊าาาา

bemind

  • บุคคลทั่วไป
ชอบอักษรจัง ช่างพูดช่างคุยจริงๆ

 ((...ได้โปรดอย่าแซวผม  ถ้าคุณไม่รู้ว่าหัวใจมันเต้นด้วยความเร็วเท่าไหร่ต่อนาที))

 ((อย่า...แกล้งผมเลยครับผมขอร้อง...))  :-[

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog


3rd Day : PLAN






   “ทำไมเมื่อคืนพี่เทียนไม่รับโทรศัพท์ฟ่างล่ะคะ..!!!”

   ..อานั่นสินะ..ก็ว่าลืมอะไรไป..
   ผมรำพันกับตัวเองพลางเคาะปากกาลงบนริมฝีปาก  จะว่าไปเมื่อคืนหลังจากที่วางสายกับอักษรผมก็แกะฟิล์มอยู่อีกแค่ไม่กี่นาที..ก็รู้สึกว่าอยากนอนขึ้นมาจริงๆซะงั้น  สุดท้ายนั่นก็เป็นคืนที่ผมนอนเร็วที่สุดเท่าที่จำความได้เลยล่ะครับ

   “พี่เทียนสัญญากับฟ่างแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะรับน่ะ!”
   เสียงแหลมที่วี๊ดๆอยู่ข้างหูทำให้ผมอยากจะยกมือดันเจ้าหล่อนออกไป  แต่ก็ทำได้เพียงเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วควงปากกาที่อยู่ในมือไปมาไม่ใส่ใจ  เท่านั้นแหละอีกฝ่ายกลับยิ่งหวีดร้องออกมาหนักกว่าเดิม
   “พี่เทียน!!!”

   ..อยากจะปล่อยๆให้เจ้าหล่อนยืนกรี๊ดอยู่ตรงนั้นชะมัด..อยากรู้ว่าคนกรี๊ดจนหมดเสียงจะมีอาการเป็นยังไงน่ะนะ...

   .....ถ้าไม่ติดว่าคนทั้งห้องกำลังให้ความสนใจอยู่ละก็...

   ผมเงยหน้าสบตา แล้วพูดไปชัดเจน
   “พี่ไม่ชอบคุยโทรศัพท์ครับ"
   “ทำไมล่ะคะ?”
   ..บางทีอะไรบางอย่างมันก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลสักหน่อย..
   “พี่...ไม่ชอบคุยกับใครโดยไม่เห็นหน้าน่ะ"
   ..ยืมคำพูดเมื่อคืนของอักษรมาหน่อยล่ะกัน..

   “โกหก!!”

   ..จะเอาเหี้ยอะไรกับกูอีกวะ..



   “...ที่ไม่รับโทรศัพท์ฟ่างก็เพราะพี่เทียนคุยกับคนอื่นใช่มั้ยล่ะ!?”



   ป๊อก..

   ไส้ดินสอที่เขียนๆอยู่ถูกอารมณ์บางอย่างกดให้มันหักลงง่ายๆ  คลื่นความเงียบงันแล่นเข้าเกาะกุมบรรยากาศภายในห้องเรียนเด็กโควต้าพิเศษแห่งนี้แทบจะในทันที  ผมวางปากกาลงเบาๆ..อะไรบางอย่างทำให้ทุกอย่างเหมือนจะหยุดนิ่งไปเลยระหว่างที่ผมเหยียดกายลุกขึ้น..และใช้ส่วนสูงข่มคนตัวเล็กโดยไม่ได้ตั้งใจ..
   ...หรือบางที...อาจจะตั้งใจก็ได้...ช่างมันเถอะ...
   “ข้าวฟ่างพูดว่าอะไรนะครับ?”
   “พ..” เจ้าหล่อนถอยหลังไปหนึ่งก้าว  แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตา "ฟ่างถามว่าพี่เทียนคุยกับคนอื่นใช่มั้ย...คะ?”
   ...เหมือนเมื่อครู่จะไม่ได้สุภาพเท่านี้นี่นา?
   “ถ้าพี่คุยกับคนอื่น...แล้วจะทำไมเหรอครับ?”
   “ก็พี่เทียน...ถ้าพี่เทียน...คุยกับ...คนอื่น....”

   “ข้าวฟ่างครับ  พี่ว่าฟ่างเข้าใจผิดอะไรบางอย่างแล้วล่ะ..."

   ผมยกมือเสยผมพร้อมรอยยิ้มอ่อน  ที่พยายามเจียระไนมันออกมาให้หวานล้ำที่สุดแล้วเท่าที่จะทำได้



   “...ฟ่างคิดว่า...ฟ่างมีสิทธิอะไรในตัวพี่เหรอครับ?”



   กึก..
   ผมรู้..เพียงแค่ใช้สายตาปกติของผมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้น..หล่อนก็คงพร้อมที่จะหลั่งน้ำตาเรียกร้องความสนใจออกมาง่ายๆเชียวล่ะ..
   ผมไม่ได้พูดอะไร  ในขณะที่ทั้งห้องเลิกให้ความสนใจกับพวกเราสองคนในเวลาต่อมา
   ..เพื่อนผมทุกคนชินกับบรรยากาศกดดันแบบนี้แล้วล่ะ  เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้หญิงเดินเข้ามาเพื่อวี๊ดว้ายใส่บ้องหูผม  และไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำตัวแบบนี้เพื่อบังคับให้พวกหล่อนเงียบ

   แรก..ผมคิดว่าจะคั่วเธอเก็บไว้กินทีหลังก่อน..แต่ตอนนี้อารมณ์รำคาญมันมากกว่า..
   ..หล่อนคงไม่หาว่าผมใจร้ายหรอกครับ  เพราะผมใจร้ายจริงๆ..

   “ฟ่าง...ฟ่างเป็น....”
   “รุ่นน้องที่โรงเรียนครับ"
   “..แต่...ฟ่างชอบพี่เทียนนะคะ...แล้วที่เราทำกันมาทั้งหมด...?”
   “พี่ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับฟ่างเลยครับ...”
   “.....แต่..”
   “ไม่เลย" ผมย้ำ "..แม้แต่สักนิดเดียว"

   คนตรงหน้าก้มหน้าก้มตา  แล้วถามเสียงเบา..ไม่ยอมละความพยายาม

   “ต้องทำยังไง....ฟ่างถึงจะได้....ถึงจะได้คบกับพี่เทียนคะ....?”

   ..นี่หมายความว่าที่ผมพูดไปทั้งหมดเธอไม่เข้าใจเลยรึไงกันนะ?..
   เอ้อ..ผมลืมไปว่าระดับสติปัญญาของคุณหนูห้องเด็กเส้นคงไม่ได้เลิศเลออะไรมากมายเท่าไหร่  ผู้หญิงที่วันๆเอาแต่กดโทรศัพท์มือถือกับใช้ชีวิตสาวน้อยไปวันๆแบบนี้...แต่จะเหมารวมทั้งห้องเด็กเส้นก็คงเป็นไปไม่ได้  อย่างนายอักษรอะไรนั่นยังฉลาดพอที่จะเจียมเนื้อเจียมตัวเลย...
   ...ต่างกันลิบลับ...
   ผมคลายไหล่ลง  แล้วตัดสินใจยิงลูกตรงพร้อมรอยยิ้มกว้าง


   “ต่อให้บำเรอพี่ทั้งชีวิต  คำปรารถนานั้นยังเป็นไปไม่ได้เลยข้าวฟ่าง"





   ผมเคยบอกรึยังว่าผมเกลียดตัวเอง..

   ...เกลียดที่ยอมให้เพศตรงข้ามให้เข้ามาหาง่ายๆด้วยรูปร่างหน้าตา...ที่เพอร์เฟ็คไปก็เท่านั้นแบบนั้น..


   ผู้หญิงที่เข้าหาก็หวังเพียงแค่อยากจะเดินควงผมสักอาทิตย์เอาไปอวดเพื่อนๆหล่อนให้อิจฉาตาลุกเป็นไฟ  พอนานวันเข้าก็จะเริ่มทำตัวงี่เง่าไร้สาระ  แล้วสุดท้ายก็เลิกราไปเอง...
   นั่นเป็นบทสรุปที่ผมคำนวณได้ไม่ยากเพราะมันเคยเกิดขึ้นแล้ว..

   แรกทีเดียวผมก็เคยคบกับพวกผู้หญิงนะ  จนกระทั่งพวกหล่อนทำตัวแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ว่ากี่คนต่อกี่คน  พอมีอะไรกันหนึ่งครั้งก็นึกไปเองว่าไอ้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของได้ครอบครองผม..ผมที่รู้ตัวอยู่แล้วว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่จีรังอยู่แล้วก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรพวกหล่อน  และผันตัวมาใช้ชีวิตโดยเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้าแทบทุกวัน..
   ..แรงดึงดูดที่เหมือนแมลงวันตอมขี้แบบนี้...ไม่เคยมีสักวินาทีที่ผมคิดจะภูมิใจ...

   แต่ไม่รู้สิ..มันเหมือนเป็นสาเหตุเพียงประการเดียวที่ทำให้ผมยืนอยู่ตรงนี้ได้..ทรงอำนาจขนาดนี้ได้...อำนาจบ้าๆที่ถูกเรียกว่า 'รักร้าย' นั่นแหละ...
   นอกจากเป็นการรวมกลุ่มกันของคนที่มีความหน้าตาดีและความสามารถระดับเทพแล้ว..รักร้ายยังมีอะไรดีกว่านั้นเยอะ..สามารถทำผิดกฏของโรงเรียนได้หลายๆอย่างตามที่ได้บัญญัติไว้  มีอภิสิทธิ์แบบที่อาจารย์ไม่ค่อยกล้าหือ..แถมยังเป็นหน้าเป็นตาให้กับโรงเรียนเหมือนสินค้าในตู้โชว์...หรืออะไรประมาณนั้นแหละ...



   ..และผมก็ใช้ 'อำนาจ' พวกนั้นจนเบื่อแล้วด้วย..





   “อ...พี่...เทียน...อา..อะ..!!”


   เสียงครางกระเซ่าดังระงมสลับกับเสียงหอบถี่กระชั้น  สองมือกดลงที่หัวไหล่เล็กจับให้อีกฝ่ายนอนราบไปกับพื้นโดยไม่มีอาการขัดขืนปรากฏให้เห็นอย่างที่ควรจะเป็น  เม็ดเหงื่อผุดพรายทำให้ผมรู้สึกไม่สบายตัวนัก..ให้ตายสิ..ก็รู้อยู่แก่ใจว่าห้องเก็บเอกสารย่อมไม่ติดเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วแท้ๆแต่ก็ยัง...
   ไม่หรอก...สิ่งที่ผมหงุดหงิดน่ะ..

   .....คือเสียงแหลมปรี๊ดที่ไม่เคยรู้จักระงับอารมณ์นี่ต่างหาก...

   “...พ..อ้า...อ๊า!!”
   “....เงียบ....”
   “พี่เทียน...”
   “.....บอกให้เงียบ...”
   ผมกดเสียงโทนต่ำขณะขยับร่างกายโยกไปตามหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์อย่างสิ้นเชิง  นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมเกลียดตัวเองชะมัด..รู้ทั้งรู้ว่ามันผิดมันไม่ดี..แต่ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยกันนะ...

   ......นอกจากคำตอบที่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนยั่วก่อน...ผมก็ไม่มีข้ออ้างดีๆอันไหนอีกแล้วล่ะครับ...



   นิโคตินที่ถูกอัดเข้ามาทันทีหลังกิจกรรมอย่างว่าทำให้สมองผมโล่งขึ้นมานิดหน่อย  ผมเปิดหน้าต่างให้อากาศระบายก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่ง  แล้วพ่นควันขโมงออกไปด้านนอก..อย่างน้อยผมก็ยังใจดีพอที่จะให้คนที่นอนกึ่งเปลือยด้านในได้รับอากาศบริสุทธิ์บ้างล่ะน่า..


   เวลาผ่านไปนาน..นานมากพอที่เด็กสาวจะตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา  มากพอที่บุหรี่ในมือผมจะหมดมวน

   หล่อนช้อนตาพร่ามัวมองผม
   ...แล้วร้องไห้...

   ผมไม่ได้สนใจกับเสียงสะอึกสะอื้นนั้นเท่าที่ควร  สาเหตุประการแรกคือเจ้าหล่อนเป็นฝ่ายเชิญชวนผมก่อนและตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะปฏิเสธ  ความหงุดหงิดที่ก่อเกิดในใจมันมากพอที่จะทำลายอีกฝ่ายให้แหลกคามือ..
   ข้าวฟ่างไม่ได้โทษผม  แต่ผมก็เข้าใจดีว่าหล่อนไม่มีสิทธินั้น..ที่หล่อนเสียน้ำตาไม่ใช่เพราะผมเป็นผู้ชายที่ไม่ดีพอ  แต่มันไม่ได้ออกมาในรูปแบบหวานล้ำแบบบทกวีหรือที่นิยายพร่ำพรรณนา..
   ...ครั้งแรกเหมือนจะหอมหวาน...เปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากลอง...
   ......แต่ผมว่าร้อยทั้งร้อยของผู้หญิงแบบนี้...จะมาคิดได้ก็ตอนสูญเสียมันไปแล้วเท่านั้นแหละครับ...


   ...สิ่งมีชีวิตที่...น่าสมเพช...

   ผมหวังว่าที่ผมเพิ่งคิดออกไป..ผมคงไม่ได้ด่าหล่อนหรอกนะ...?



   ข้าวฟ่างหยุดร้องไห้เพื่อใส่เสื้อผ้าแต่งกายให้เรียบร้อย  เจ้าหล่อนคงเข้าใจความหมายที่ผมบอกออกไปตั้งแต่เมื่อเช้าขึ้นมาได้ในทันที  เธอหันมามองหน้าผม..ผมมองกลับโดยไม่ได้พูดอะไร..
   “...ฟ่าง...กลับห้องก่อนนะคะ...”

   เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้เหนี่ยวรั้งตัวเอาไว้..เธอก็ก้มหน้าก้มตาแล้วเดินกระเผลกออกนอกห้องเก็บเอกสาร..


   ..แล้วประตูห้องก็ปิดลง..


   ผมไม่คิดว่าการหยิบบุหรี่อีกมวนออกมามันดีอะไรนัก  เลยกระโดดลงมาจากขอบหน้าต่าง..หยิบทิชชู่มาห่อถุงยางอนามัยใช้แล้วยัดไว้ในกระเป๋ากางเกง  อนึ่งจะทิ้งไว้ในโรงเรียนมันเป็นอะไรที่ไม่ปลอดภัยนัก  ผมเรียนรู้มาหลังจากทำแบบนี้มาเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิต...

   ผมหยิบมือถือขึ้นมามองนาฬิกาข้อมือ  แล้วพบว่าตัวเองเพลิดเพลินกับพรหมจรรย์คนอื่นมาถึงครึ่งวัน..
   คิดแล้วก็ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย  พาดเนคไทสีเทาที่มีแถบคาดสีดำสนิทต่างจากนักเรียนทั่วไปไว้บนบ่า..มันคือสัญลักษณ์ของรักร้ายที่ผมเห็นมันมาตั้งแต่ขึ้นม.1...จนตอนนี้ชินชาไปเรียบร้อยแล้วล่ะ..

   อีก5นาทีคาบบ่ายจะเริ่ม...

   ..หิวนิดๆแหะ..
   ....คงเพราะ...ออกกำลังเยอะไปหน่อยละมั้ง...


   ...เดี๋ยวนะ..ไม่สิ...

   ผมชะงักเท้าที่กำลังก้าวยาวๆไปตามระเบียงทางเดิน  ยกมือลูบท้องตัวเองเหมือนเพิ่งระลึกอะไรที่สำคัญมากๆได้..



   ...........'มักกะโรนีอบชีส' ล่ะ...?










----------










   ..พระเจ้า..

   ..อักษร  อัครมณฑา...โดดเรียนคาบบ่าย..?




   ผมเพ่งมองออกไปนอกหน้าต่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ไม่ได้สนใจอาจารย์ประจำวิชาภาษาไทยที่กำลังพล่ามอิเหนาให้ฟังอยู่เลยแม้แต่น้อย  นั่งพิจจารณาห้องเด็กเส้นเรียงตัวเลยกระมังตราบเท่าที่สายตามองเห็น  นึกอยากจะยกมือถามใครก็ได้ที่มีกล้องส่องทางไกลชะมัด..แย่จริง..ไอ้การที่ไม่เห็นเขานั่งอยู่ที่เดิมมันทำให้แทบบ้า..

   ...ประสาทแดก...

   ...อักษรจะเข้าเรียนหรือไม่เข้าเรียนมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเราเลยนี่หว่า...


   ถอนหายใจเสร็จสรรพแต่ก็ยังอดนั่งมองต่อไปไม่ได้  ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดผมแท้ๆแต่ก็กังวลใจต่อไปทำบ้าอะไรไม่รู้  ผมยกมือเสยผม..ตัดสินใจว่านี่จะเป็นการเหลือบมองครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ
   ช่างมันเถอะน่า  ก็แค่มักกะโรนีอบชีส..

   ...ช่างมันเถอะ!!



   “มึงเป็นไรป่าววะ? ดูลุกลี้ลุกลน....”
   “เปล่า" ผมตอบทันที  แล้วตีสีหน้าให้เหมือนปกติโดยเร็วที่สุด "ไม่มีอะไรนี่  อากาศร้อนมั้ง"
   “เออจริงสินะ  นั่งอยู่ใต้แอร์นี่"
   “อือ"
   รีบโบกพัดให้ตัวเองประกอบฉากเหมือนดาราตุ๊กตาทอง  เพื่อนที่นั่งข้างๆขมวดคิ้วเหมือนจะเอะใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา..ผมหมุนตัวเองหลังพิงกับหน้าต่างเพื่อดึงดูดความสนใจ  อย่างน้อยมันก็ช่วยได้มากเพราะผมต้องหมุนคอ180องศาเพื่อหันไปมอง....ต่อต้านไปแบบนั้นทั้งๆที่รู้สึกว้าวุ่นในอกอย่างบอกไม่ถูก..

   เพื่อนบางคนแอบเหลือบมามองผม  เพราะพวกเขาคาดเดาเหตุการณ์ได้เลยว่าอะไรที่เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อเช้า  แล้วผมก็ส่งสายตากลับไปแบบที่ไม่ได้บอกอะไร  อย่างที่ผมเคยพูด..นี่ไม่ใช่ครั้งแรก  ไม่ใช่สถานการณ์ที่ยากเกินจะรับมือ..
   ..ไอ้ที่ยากน่ะ..ผลพวงจากเหตุการณ์นั้นต่างหาก...

   การที่ผมลืมกลับมาทานข้าวด้วยกันนั่นก็อีกเรื่อง  แต่สิ่งที่ทำให้ร้อนรนกว่าเดิมคือการที่ไม่เจอเขาอยู่ตรงนั้นมากกว่า!
   .....จะเป็นอะไรมั้ยนะ?
   ..ไม่หรอก  อักษรดูเป็นคนเข้มแข็งจะตาย  เรื่องแค่นั้นไม่น่าที่จะ....

   แล้วผม...จะกังวลเรื่องนั้นทำไมกันนะ?

   หมดคาบวิชาภาษาไทยไวเหมือนโกหก  ผมรู้สึกไม่มีอะไรเข้าหัวเลยสักนิด...จริงอยู่ที่ถึงแม้ผมจะไม่ใช่เด็กเรียนอะไรก็เถอะแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมไม่มีสมาธิได้ขนาดนี้  ผมถอนหายใจ..ชักเซ็งกับการที่ตัวเองว้าวุ่นแบบนี้โดยมีสาเหตุที่รู้ชัดแจ้งอยู่แล้ว  ผมไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรด้วยซ้ำตราบใดที่..

   ..อ๊ะ..

   ...หมอนั่น..เข้ามานั่งแล้ว...


   ร่างโปร่งผอมและก็ขาวเหมือนกระดูกเดินได้แบบนั้นนั่งอยู่ที่เดิมที่ผมพยายามเพ่งมองตั้งแต่ต้นคาบ  ดูเหมือนเขาเพิ่งจะมานั่งได้ไม่นาน..และผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาไปไหนมา..นั่นแทบจะกลายเป็นปัญหาโลกแตกเลยล่ะ...
   เขาเห็นผมทันที
   ..แล้วยิ้มโบกมือทักทายคล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

   เอาล่ะ..การกระทำโคตรจะปกติแบบนั้นมันกระตุ้นต่อมความโกรธผมได้อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ  ผมสะบัดหน้ากลับมาไม่ได้ทักทายตอบอะไรเลยแม้แต่น้อย..เมื่อกี้หมอนั่นไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นแน่ๆผมสาบานได้  แล้วจู่ๆก็กลับมา..โดยแทนที่ผมจะคลายความหนักใจ..ทั้งหมดทั้งมวลยิ่งหนักหนาเข้าไปใหญ่...




   ..บัดซบจริง..


   .....ผมจะหงุดหงิดทำไมนะ...?










ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog


----------










   ..Pet..สัตว์เลี้ยง..


   หัวข้อง่ายๆติดอยู่เกือบกลางหน้ากระดาษแถมมีไฮไลท์ไว้ชัดเจนขนาดที่ต้องยกมือกุมขมับ  อยากจะอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกให้กลายเป็นคำอื่นก็เสือกมีเขียนแปลไว้พร้อมทั้งไทย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน..บลาๆ..โคตรพ่อโคตรแม่อาภัพ...
   ...สวรรค์...กลั่นแกล้งชัดๆ...


   “อะไรเหรอ?”

   โชคดีที่ผมฝึกกลวิธีรับมือกับเสียงน่าตกใจพวกนั้นมาแล้วเรียบร้อยมันเลยไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก  ผมหันไปมองคนตัวเล็กกว่าที่พยายามชะโงกข้ามมาดูใบปลิวที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์  อีกฝ่ายดูเหมือนจะเข้าใจโดยที่ผมไม่ต้องพูดอะไร..แต่เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท..ผมเลยอธิบายสักหน่อย..
   “งานน่ะ"
   ..เข้าใจกันมากขึ้นนะ?..
   “ประกวดภาพถ่ายเหรอ?”
   “อ่าฮะ"
   “ของนิตยสารQ...ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัตว์โลกน่ารักใช่มั้ยครับ?”
   “คิดว่าใช่..แต่เห็นทำร่วมกันหลายบริษัท"
   “หลายประเทศเลยนี่?”
   “...ก็ดีกว่าไม่มีงานทำน่ะนะ"
   ผมเสไปเรื่อย  แล้วยื่นหน้ากระดาษใบสมัครให้ครูบรรณารักษ์ซีร็อกซ์ให้หน่อย  เอกสารพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้ยืมออกนอกหอสมุดครับ..พวกเด็กความสามารถพิเศษมักจะเข้ามาสิงที่นี่เพื่อหางานอะไรสักอย่างทำ...งานที่เป็นหลักฐานให้พวกเราเรียนโรงเรียนนี้ต่อได้ไม่ใช่นั่งตั้งใจเรียนไปวันๆเหมือนห้องอื่น
   ใช่ครับ  คุณเดาไม่ผิดหรอก..


   ...ภาพถ่าย...คืองานของผม


   และผมคงไม่ต้องพูดอะไรเรื่องนั้นให้อักษรฟัง  เพราะเขาคงรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว..ก็เป็นเลขานุการคนเก่งของสภานี่นา...
   เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อยืมหนังสืออะไรต่อมิอะไรที่เด็กคนอื่นควรทำ  และจากการที่เขาเดินตามผมต้อยๆแบบนี้แสดงออกชัดเลยว่าเขาเดินตามผมมา  ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก...
   ....เขาหายไปไหนตอนคาบบ่ายคาบแรก...
   ..ทั้งๆที่อยากรู้ใจจะขาด..แต่ก็ไม่กล้าถามออกไป..



   ผมเดินไปหยิบนิตยสารสารคดีสัตว์โลกมาเป็นปึ๊ง  แล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะโดยมีอีกฝ่ายเดินตามมาติดๆ  เขาทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามผม..ชั่วแวบที่เขาก้มหน้าทำให้ผมนึกถึงวันแรกที่เราได้มีโอกาสคุยกัน..
   ...วัน...ที่เขาบอกว่าชอบผม...



   “คุณจะถ่ายภาพแนวไหนเหรอครับ?”

   เขาถามขัดห้วงความคิด  ผมก้มหน้าลงมาทันที
   "ไม่รู้สิ..ยัง...ไม่ได้คิด”

   อีกฝ่ายเงียบไปเพราะอะไรไม่รู้..ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง  มีเสียงกุกๆกักๆดังขึ้นระหว่างที่ผมพลิกหน้ากระดาษ  แล้วถึงจะเริ่มสังเกตว่าอักษรเองก็หยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คออกมากางเหมือนกัน  คิดว่าเขาคงต้องทำงานของเขาล่ะ..วันนี้เป็นเย็นวันศุกร์ก็จริงๆแต่ไม่ได้หมายความว่าสภานักเรียนที่เป็นดั่งยอดมนุษย์พวกนี้จะได้พักผ่อน..
   ....เรื่องทั้งหมดเป็นแค่การสันนิษฐาน...เพราะผมคงนึกภาพไม่ออกถ้าเขาหยิบมันขึ้นมาเพื่อเล่นเฟสบุ๊ค...
   ผมรู้สึกว่าตัวเองเสียสมาธิ..แทบไม่ได้มองหนังสือนิตยสารในมืออีกเลยตั้งแต่ที่ไฟจากจอมอนิเตอร์กระทบแว่นกรอบบาง  ฉาบให้ดวงตากลมโตเหมือนเด็กทารกคู่นั้นพราวระยับขึ้นมาจากเดิมนั่น...

   และผมคงจ้องภาพนั้นนานเกินไปหน่อย  รู้สึกตัวอีกทีก็ต้องพูดอะไรสักอย่างแล้วเพราะเขาเลื่อนดวงตามาสบ  ซ้ำยังส่งรอยยิ้มบางให้เหมือนตั้งใจจะถามผมว่า 'อะไรหรือ?' โดยไม่เอื้อนเอ่ยวาจา..

   “ถ้าคุณมีธุระ...คุณจะกลับไปก่อนก็ได้นะ"

   ผมพูดออกไป..ตามมารยาทน่ะนะ..
   เขาเอียงคอรับ
   “คุณรำคาญรึเปล่าครับ?” 
   ผมมีคำตอบให้เขาคือการไม่ปฏิเสธหรือตอบรับอะไร  อักษรประสานมือไว้บนโต๊ะแล้วยิ้มกว้าง
   "คือผมคิดว่า..เวลาที่พวกติสต์ๆเค้าใช้ความคิดกันน่าจะต้องเวิ่นเว้ออะไรสักอย่างออกมาคนเดียว...มันคงจะดีกว่าถ้ามีใครสักคนนั่งด้วยก่อนจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด...”

   ...น่าเสียดายที่การคาดเดานี้ผิดไปกว่าครึ่ง..เพราะผมเป็นพวกคิดเยอะมากกว่าสาธยายพวกนั้นออกมาเป็นคำพูด..
   อีกครึ่งที่ถูกคือ 'พวกเรา' มักถูกมองแปลกๆเวลากำลังสร้างภาพในหัวด้วยการวาดมือหรือแสดงสีหน้าประหลาดๆออกไป
   ..............มันต้องมีคนนั่งอยู่ด้วยจริงๆนั่นแหละ..

   “เพราะงั้น...ถ้าคุณอยากพูดอะไรออกมาก็ไม่ต้องเกรงใจครับ  กันลืม..ผมพร้อมจดเสมอนะ!”

   เขาชูปากกากับสมุดจดให้ผมดูเป็นหลักฐาน..นั่นเป็นงานของเลขานุการในที่ประชุมด้วย..และผมมั่นใจว่าเขาค่อนข้างถนัดทีเดียว...
   ..ให้ตาย..
   .....ผมจะยิ้มทำไมเนี่ย..


   “ที่จริง...” ผมกระแอมกระไอ  เปลี่ยนนิตยสารมาเปิดดูอีกเล่ม "ผมก็คิดไว้บ้างแล้วล่ะ..เพียงแต่ยังไม่เคลียร์นัก..”

   “คุณ...อยากจะพูดอะไรกับผมสักหน่อยมั้ย?”

   น้ำคำง่ายๆ  ประโยคเรียบๆ..แต่อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงและท่าทางที่เหมือนจะคอยให้ความสนใจแบบนั้นมันเริ่มทำให้ผมรู้สึก...ตื้นตันนิดๆ  ไม่ว่าใครก็คงรู้สึกดีที่ตัวเองกำลังเป็นที่จับตามองของคนทั่วไป  ยิ่งเวลาที่พูดเรื่องที่ตัวเองสนใจออกไปก็ปรารถนาอยากให้คู่สนทนาตั้งใจฟัง....และผมก็ไม่ปฏิเสธว่าตัวผมเองเป็นหนึ่งในนั้น
   ..ต่อหน้าอักษร..ผู้เป็นคนมีมารยาทในการพูดและการฟังที่ดีเยี่ยมแบบนี้แล้วด้วย...
   .......มันคงเป็นการยากที่จะหักห้ามใจ
   ผมไม่กล้าสบกับดวงตาใสแจ๋วเหมือนเด็กทารกนั่นด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง  เพราะผมเองกำลังสนทนาในสิ่งที่ไม่เป็นตัวเองสุดฤทธิ์กระมังถ้าให้เดา
   “มันไม่ได้เจ๋งขนาดไหนหรอก..ผม...แค่รู้สึก...ไม่อยากทิ้งความเป็นตัวเอง"
   “แต่เพราะคุณเป็นตัวของตัวเอง...คุณเลยติดโรงเรียนเกษรวิทยาไม่ใช่เหรอครับ?  ผมว่ามันวิเศษมากเลยนะ"
   ..สาบานได้..ว่าที่ผมยิ้มเนี่ยไม่ใช่เพราะดีใจที่มีคนยอหรอกนะ..

   “เอ่อ...”
   ..แย่แล้ว..การที่สบตากับเขามันเริ่มทำให้ผมสูญเสียการควบคุมตัวเอง..
   “คุณ...เคยเห็นรูปที่ผมถ่ายบ้างรึเปล่า?”

   “เคยสิ" เขาหัวเราะ "ผมเป็นเลขานุการคนเก่งของสภานักเรียนเชียวนะ"

   ..นี่เขาย้อนผมเหรอ..?
   อักษรกระแอมกระไอนิดหน่อย  แล้วพยายามอธิบาย "คุณรู้ถึงความแตกต่างระหว่างภาพถ่ายกับภาพวาดมั้ยครับ? ภาพวาดน่ะ..จะแสดงอารมณ์ที่ศิลปินผู้นั้นรู้สึกออกมาในผืนผ้าใบ  แต่ภาพถ่าย...จะแสดงมุมมองของช่างภาพออกมาแม้จะสะท้อนในสิ่งเล็กๆก็ตาม...ในกรณีของคุณมันค่อนข้างชัดเจนเชียวล่ะ"

   เลขานุการคนเก่งของสภานักเรียนกำลังแลคเชอร์เรื่องบทที่หนึ่งของการถ่ายภาพหรืออย่างไรมิทราบ..แต่นั่นแหละ..ทั้งๆที่ผมรู้เรื่องความแตกต่างเหล่านั้นชัดเจนอยู่แล้วแต่ก็ยังตั้งใจฟังเขาพูด

   “อ๊ะ  แต่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรมากมายหรอกนะครับ  แค่พูดไปตามที่คิด...ผมเองก็ได้มีโอกาสไปดูงานภาพถ่ายดังๆรวมถึงของคุณด้วยค่อนข้างบ่อยเลยครับ  ผมเลยเข้าใจว่า...ความสามารถพิเศษที่คัดคุณเข้ามาเรียนที่นี่ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าแผนกอื่นๆของโรงเรียนเลย..."



   “....ภาพถ่ายของคุณ....มันว่างเปล่า....ว่างเปล่าจนมีสเน่ห์....”



   ดวงตาคู่นั้นสะท้อนแต่ภาพของผม  นั่นทำให้ผมรู้สึกว่างเปล่า..ว่างเปล่าในอกจริงๆเหมือนที่เขาเพิ่งพูด 
   ก่อนอีกฝ่ายจะบรรยายต่อ

   "แต่ไม่ถึงกับไร้ชีวิตชีวานะครับ  เหมือนคุณกำลังถ่ายทอดความมืดมน...หรือไม่ก็ความเกลียดชังลงรูปภาพ  มุมมองของโลกที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงสว่างหรือความหวังความสดใส  ดูแล้วรู้สึกเจ็บในอก...แต่ก็นะ..บังเอิญเหลือเกินที่ผมชอบความเจ็บปวด"


   เขายิ้มจนตาหยีให้กับประโยคสุดท้าย  เพียงแต่ผมไม่ค่อยได้ใส่ใจมันเท่าที่ควร..
   อักษรอ่านภาพถ่ายของผมเหมือนเพียงแค่สรุปหนังสือเล่มบางๆสักเล่ม...แต่ไอ้ที่ผมเจ็บใจน่ะ..เพราะ 'การอ่าน' ของเขามันทะลุประโปร่งจนผมไม่มีอะไรจะพูดต่อ

   ..แต่ใต้ความหงุดหงิดนั้น..ผมกลับยิ้มออกมา



   “พรุ่งนี้คุณว่างมั้ย?”


   คำถามง่ายๆที่ผมรู้สึกประหลาดในอกหลังจากถามมันออกไป
   “เอ๊ะ?  พรุ่งนี้เหรอ?” เขากระพริบตาปริบๆ  แล้วถามต่อตามประสาคนฉลาด "มีอะไรรึเปล่าครับ?”

   “...แค่คิดว่า...ตอนที่ทำงานอยู่มีคนคอยรับฟังบ้างมันก็คงไม่เลว"


   อีกฝ่ายหน้าแดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด  เขาไม่ต้องเสียเวลาสรุปความการ 'นัดเดทในวันหยุดสุดสัปดาห์' ที่ผมเป็นฝ่ายเริ่มชวนครั้งแรก...เขาคงรู้เรื่องของผมมากพอที่จะเดาได้ว่าผมไม่ค่อยได้ให้เวลากับใครตอนที่จำเป็นต้องใช้สมาธิถ่ายรูป(ซึ่งเป็นงานที่ใช้ความเงียบมากทีเดียว  และผมมั่นใจว่าเขาจะไม่ทำลายมัน)


   อักษรก้มหน้าลงโค้งให้ผมเร็วๆ  ก่อนจะรีบว่า

   “ขอโทษครับ! ผม...ผมมีธุระต้องไปทำทุกวันเสาร์  ดังนั้น....ผม...”

   ...ให้ตายสิ..ผมเพิ่งจะหน้าแตกขนาดนี้เป็นครั้งแรก...
   “ผมขอโทษครับ  เทียน...ผม...ขอโทษจริงๆ"
   ...แต่หน้ากลับถูกประกอบใหม่ด้วยความเร็วแสงเมื่อเห็นการขอโทษขอโพยจริงจังขนาดนั้น...
   “เอาล่ะ" ผมถอนหายใจ "ช่างมันเถอะ  ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"
   “ผมดีใจมากนะครับที่คุณชวน...”
   “ช่างมันเถอะ"
   “โธ่  ผมขอโทษจริงๆ  อย่าโกรธผมแบบนั้นสิครับ...”
   “เปล่านี่  ใครว่าผมโกรธ?”
   ผมปิดนิตยสารฉับแล้วดันพวกมันทั้งหมดลงตะกร้าเก็บหนังสือเพิ่งอ่าน  เสียงพวกมันตกทับถมกันดังปุๆๆดังสนั่นห้องสมุดโดยที่ผมไม่สนใจ..หงุดหงิดนิดหน่อย..เขาไม่รุ้รึไงนะว่าการชวนใครสักคนไปไหนด้วยกันมันต้องใช้ความกล้าเท่าไหร่..
   ..เอ๊ะเดี๋ยวก่อน..
   .....ความคิดเมื่อกี้ผมว่ามันคุ้นๆนะ...?


   เมื่อไม่เห็นว่าผมพูดอะไรต่อ  อักษรก็ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกในอีกสิบวินาทีข้างหน้า

   “เทียนครับ"
   “หืม?”
   “คือ...ผมดีใจมากจริงๆที่คุณชวนผมแบบนี้  ดีใจมากๆและ..และคิดว่าผมคงเป็นคนโง่มากถ้ากล้าปฏิเสธ"
   ผมยกมือกอดอก  ขณะที่เขาค้อมศีรษะลงอีกครั้ง
   “ไปครับ  พรุ่งนี้ผมไปแน่ๆ"
   “ไม่ต้องหรอก"
   “...ผม...”
   ดวงตาคู่นั้นหลุบลงทันที  เขาพูดคาไว้แค่นั้นแล้วกดไรฟันขาวลงบนกลีบปากสีส้มของตัวเองเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ  นั่นทำให้ผมต้องยกมือขึ้นยอมแพ้
   ..ให้ตายสิ..หมอนี่กำลังทำให้ผมใจอ่อน..

   “วันอาทิตย์ล่ะ? ว่าง.......”

   “ว่างครับ!!”


   ..ทันที..เหมือนซ้อมมาก่อน..
   ..ยิ่งไปกว่านั้น...ใบหน้ายิ้มแฉ่งแป้นแล้นนั่นมันอะไร..?

   แน่นอนว่าคนอย่างอักษรคงไม่ปล่อยให้ผมสงสัยได้นานนัก  ทว่าเขาก็เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง
   “แล้ว..คุณจะไปถ่ายที่ไหนหรือครับ?”
   “..เดี๋ยวค่อยบอกวันนั้นล่ะกัน"
   “เอ๋?  แล้วจะนัดเจอกันที่ไหนล่ะครับ?”

   ถ้าเป็นปกติสาวๆทั่วไปคือผมจะไปรับพวกหล่อนที่บ้านครับ  แต่ครั้งนี้ผมไม่มั่นใจว่าจะพูดคำๆนั้นออกไปดีมั้ย..แต่ก็นั่นแหละ  ทันทีที่คนตรงหน้าสบตา..เขาก็เลือกที่จะตัดสินใจเองเออเองทันควัน

   “ไม่จำเป็นต้องมารับผมถึงหน้าบ้านหรอกครับ!  ผมไม่ใช่พวกผู้หญิงสักหน่อยไม่เห็นต้องเจนท์ขนาดนั้นเลย...เอางี้ดีมั้ยครับ...แปดโมงเช้าเจอกันหน้าบ้านคุณเป็นยังไง?”

   เขาบอกให้ผมไม่ต้องเจนท์..แต่นี่เล่นบริการถึงที่..
   ผมเกาแก้ม  ไม่รู้จะเถียงอะไรดี “8โมงเช้าเลยเรอะ?”
   “....อ่า....ผมแค่นัดเช้าๆจะได้อยู่กับคุณนานๆน่ะครับ  แค่ลองเสนอ...คุณว่ายังไงว่าตามนั้นเลย!”
   “สัก...เก้าโมงครึ่งล่ะกัน  ว่าแต่..คุณรู้จักบ้านผมเหรอ?”
   “รู้สิครับ"

   ..ไม่น่าถามเลย..ก็เลขานุการคนเก่งนี่นา..
   บางทีไอ้เรื่องที่ต้องจำข้อมูลทุกอย่างของนักเรียนทั้งโรงเรียนมันก็จะสะดวกสบายเกินไปแล้วนะ..ถ้าผมเป็นนักวิทยาศาสตร์โรคจิตคงอยากจะจับเขาขึ้นเตียงผ่าตัด..แล้วใช้มีดคมกริบชำแหละสมองปราดเปรื่องนั่นออกมาดูสักกะหน่อย  หวังว่าคงไม่มีเอเลี่ยนบ้าที่ไหนฝังชิพประหลาดลงไปหรอกนะ..

   เดี๋ยวก่อน..

   ...ถ้าเขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผมจริงถ้างั้น...


   แว่บนึงที่ผมมองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวาดระแวง  ก่อนจะสงบจิตลงได้เมื่ออีกฝ่ายจ้องกลับมาด้วยดวงตาบริสุทธิ์ไม่มีเลศนัยอะไรทั้งสิ้น
   ...ถ้าผมจะโดนนัยน์ตาซื่อๆนั่นหลอกอีกครั้ง...ผมคงโง่มาก...



   พอเห็นว่าผมลุกขึ้นยืนเขาก็รีบเก็บของทันที..และด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบทำให้ผมยืนรอเขาอยู่แบบนั้นจนกระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
   ผมเดินนำเขาออกจากหอสมุด..ที่จริงมันคือห้องสมุดแหละครับแต่ผมเรียกจนชินปากว่า 'หอสมุด' เพราะมันเป็นตึกที่แยกออกมาจากตึกเรียนเลยด้วยซ้ำ  หอสมุดประกอบด้วยชั้น3ชั้นหลัก..ชั้นล่างคือชั้นที่พวกผมอยู่..คือบรรจุเอกสารเสริม  นิตยสาร  หนังสือเล่มหนาๆมีสีสันและราคาแพงที่ไม่อนุญาตให้ยืมออกไปไว้ครบถ้วน  ส่วนชั้น2-3คือตัวห้องสมุดที่ประกอบไปด้วยสื่อการเรียนรู้จำนวนมากและห้องค้นคว้าที่เอาไว้ประชุมกลุ่มที่พวกห้องทุนชอบมาใช้กัน

   อักษรเดินตามมาโดยไม่ได้พูดอะไร  เขาอาจจะมีญาณวิเศษรู้ว่าผมไม่ค่อยอยากฟังอะไรตอนนี้ก็ได้กระมัง...


   เราควรแยกกันที่หน้าประตูโรงเรียน 


   ผมหยุดเดิน..เขาก็หยุดตาม  อักษรกำลังเพียงยิ้มและโบกมือให้ผมเหมือนที่เขาชอบทำ...มันเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนเลยว่าถ้าผมไม่พูดอะไรออกไปสักอย่าง...ผมคงจะกลายเป็นไอ้บ้าทันทีเลยล่ะ
   “...เจอกันวันอาทิตย์นะ"



   เขายิ้มกว้างให้คำพูดนั้นของผม





   “ครับ  เจอกันวันอาทิตย์"










TBC




==========================


จบไปอีกหนึ่งตอนนนนนนน
เริ่มหวั่นไหวแล้วใช่มั้ยหนุ่มเทียนของอิป้าา




เรื่องนี้ไม่ดราม่านะคะ แล้วก็ไม่ได้มีแนวโน้มจะออกไปทางกุ๊กกิ๊กน่ารัก
คือดราม่าในที่นี้ของโอหมายถึงเรื่องที่อ่านแล้วเครียด เส้นสมองจะแตกใช่มั้ยล่ะ?
แต่คือ...มันซึ้ง มันอุ่นในอก มัน...มันอ่านแล้วต้องยิ้มตาม
นั่นแหละเป็นคอนเซ็ปท์ของเรื่องนี้..คอนเซ็ปท์ที่ยากพอสมควรเลยล่ะ 5555
เพราะงั้นสไตล์การดำเนินเรื่องมันจึงค่อนข้างแบบ..น่าเบื่อ..คือเรื่อยๆไม่มีอะไรมาลุ้นระทึกมากนัก(มั้ง)ค่ะ :D

แน่นอนว่าโอไม่คาดหวังจะให้ทุกคนชอบเทียนไข แต่อยากให้ทุกคนรักอักษรค่ะ กร๊ากกกกก
((โคตรพ่อโคตรแม่ลำเอียง.......))



ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ :D



ozaka*



 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
 :z13:


จิ้มมมมมมมมมมม

...................................................

เทียนไขแรงไปจริงๆนะ คือแอบสงสารพวกผู้หญิงหน่ะ ถึงเธอจะร้ายยังไงแต่ก็....

เสพความน่ารักของอักษรอย่างที่คุณโอต้องการดีกว่า แต่ ก็แอบสงสารอักษร แน่นอนว่าอักษรต้องรู้ว่าเทียนไขหายไปไหนมา

แล้วที่อักษรโดดไปก็คงต้อง...อ่านะ คนนะไม่ใช่พระอิฐพระปูน นั่นผู้ชายที่ตัวเองชอบนี่นา


แอร๊ยยยยย ไอ้บ้านี่คาดเดาไปต่างๆนาๆยังไม่ทันรู้เลยว่าเรื่องเป็นยังไง

ว่าแต่ "   “....อ่า....ผมแค่นัดเช้าๆจะได้อยู่กับคุณนานๆน่ะครับ  แค่ลองเสนอ...คุณว่ายังไงว่าตามนั้นเลย!”"

หนูอักษร "ลองเสนอ" เร๊อะ? ไม่กลัวเค้าสนองมาหนักๆหรอครับหนุ่มน้อย อ่านตรงนี้แล้วมันสะดุดกลัวบรรทัดต่อไปทันที

แต่ผมคงคิดมากไปคนเดียว กร๊ากกกกกกกกกกกก

รักอักษร

รอต่อต่อไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2012 19:14:58 โดย NewYearzz »

kdragon

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มไม่ทัน orz  :z3:

----------------------------------------------------

ตอนนี้บอกไม่ถูกว่าจะด่าเทียนหรือจะชมเทียนดี 55555555
เทียนทั้งเลวทั้งน่ารักไปในคราวเดียวกันเลยอ่ะ

ที่เทียนทำมันเเรงไปนะ แต่ก็ทำให้รู้ความคิดในหัวเทียนดี อืม รวมๆแล้วมันก็ดูเรียลดีสำหรับคนๆนึง
ส่วนเรื่องที่ว่าน่ารักนี้ เทียนดูซื่อมากเวลาอยู่ต่อหน้าษร ทำหยังกะหนุ่มเเรกรุ่นเพิ่งหัดจีบสาวไปได้ 5555 น่ารักจริงๆ

ไม่มีอะไรจะเม้นเเล้ว เพราะสครีมไปเเล้วอ่ะนะ เจอกันวันอาทิตย์ละกัน :)

รักเทียน รักษร รักพี่โอ  :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2012 20:05:21 โดย kdragon »

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
เทียนนนนนนนนนนน !!!!!! :z3:
หลากหลายความรู้สึก ที่เทียนด่าผู้หญิงมันก็แอบเคืองนิดๆ ผู้หญิงดีๆก็มีนะว่อยยยยยยย
มาส่วนอักษร น่ารักอ่ะะะะ  :-[
หายไปไหนคาบแรก ? มักกะโรนีรึเปล่า
เริ่มแล้วใช่ป้ะ แน่ะๆ เริ่มแล้วดิ  o8

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เทียนกำลังเจอคนที่ถูกใจ ตรงใจ และเข้าใจในตัวเทียนเอง


เทียนรับอักษรเข้ามาภายในใจง่ายๆทั้งที่ กับคนอื่น เทียนมีกำแพงป้องกันที่แน่นหนา


แต่เชื่อได้ว่า การที่เทียนไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้่กับใคร และ มีปม ที่ไม่เชื่อในความรัก จะทำให้เทียน รับใจตัวเองยากนะ


แต่ชอบความน่ารักของทั้งเทียน ทั้งอักษร มาก


อักษร ไอเลิฟยู ชั้นรักเธอ  :กอด1:

ออฟไลน์ ปลาทองสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
เทียนไข รู้สึกว่าจะสับสนใจตัวเองนะเนี๊ย...ฮ่าๆๆๆ
ถ้าอยากจะรู้ว่าอักษรหายไปไหน ทำไมไม่ถามไปเลยหล่ะจะมานั่งหงุดหงิดทำม๊ายยยย--!
ปล.น้องอักษร น่ารักหว่ะ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด