__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 570440 ครั้ง)

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog







5th Day : Happy Weekend











   การที่ไม่ได้พูด  ไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึกรู้สา

   ......บางทีอาจจะไม่รู้ว่าสมควรเจ็บมากกว่าก็ได้





   “ไปแล้วนะครับ"
   “ระวังตัวด้วยนะลูก"
   “ครับยาย"
   ยกมือไหว้กับคิสกู๊ดบายสองข้ามแก้มแบบที่ทำเป็นปกติ..วัฒธรรมที่ไม่ลืมเลือนหรือจางหายไป..โดยมีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศอะไรสักประเทศที่ไม่ใช่ฝรั่งเศสแน่ๆ  แต่ยายก็ติดการกระทำนั้นมาซะแล้ว..และมันก็ไม่ได้แย่อะไรนักในสายตาของผม

   ผมมองเวลาก่อนจะเดินออกจากบ้าน  ที่จริงยังไม่ถึงเวลานัดแต่คิดว่าออกมารอก่อนก็คงไม่ได้เสียหาย..เหตุการณ์เมื่อวานทำให้ผมเลิกล้มความคิดที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในชุมชนที่เปี่ยมไปด้วยความโหดร้ายแบบนี้แล้วล่ะครับ  พวกเขาจะมองผมยังไงก็ช่างผมไม่แคร์แล้ว...ในเมื่อสิ่งที่ครอบครัวผมพยายามทำอยู่มันไม่ส่งผลอะไรเลย..
   ทันทีที่ผมเห็นเด็กชายหน้าตาคุ้นเคยเมื่อวานยืนอยู่ตรงนั้น  เขาก็เห็นผม..แล้วรีบวิ่งหายไป
   การที่ยายไม่ได้พูดอะไรนั่นหมายถึงเจ้าเด็กแสบพวกนั้นไม่ได้วิ่งแจ้นไปฟ้องแม่อย่างที่พวกมันขู่  ไม่งั้นแม่มันคงมาหาเรื่องยายผมแล้วล่ะครับ..
   ผมไม่ได้บอกยายเรื่องนั้นเพราะไม่อยากให้ยายเป็นห่วง  แล้วก็เตี๊ยมกะก้านธูปไว้เรียบร้อยแล้วไม่น่ามีปัญหา  น้องเชื่อฟังทุกอย่างที่ผมพูดอยู่แล้ว..ก้านธูปเป็นเด็กดีในทุนเดิม..เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ยายกับผมเป็นห่วง  และเรื่องโดนรังแกผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกแต่น้องไม่พูด  อย่างน้อยก็ไม่เคยกลับบ้านมาในสภาพเหม็นกลิ่นฉี่พวกนั้นเลยสักครั้ง...น้องอาจจะยังไม่รู้อะไรเพียงแต่ถ้าเขาโตขึ้น...จะรู้ได้ว่าเมื่อก่อนตัวเองโดนเหยียดหยามมากแค่ไหน..

   ...นั่นเป็น...สิ่งที่ผมคิดได้เมื่อเคยเกิดกับตัวเองในครั้งอดีต....




   ผมเดินมาจนถึงเกือบหน้ารั้วของแมนชั่นบ้านเอื้ออาทร  มันถูกเรียกว่าเวลาออกทำมาหากินในช่วงเช้า..ผู้คนเดินเล่น หรือทำมาค้าขายกันอยู่ด้านหน้าของพื้นที่ส่วนกลาง  เด็กๆวิ่งไล่กันหยุดดูผมเหมือนเห็นของแปลก..ก็จริงครับ  ผมเป็นของแปลกของคนละแวกนี้อย่างที่พวกเขามองนั่นแหละ

   ..แต่ยังไม่ทันจะได้คิดตัดพ้ออะไรตัวเองมากกว่านั้น  ร่างโปร่งบางที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมฟุตบาทก็ทำให้ผมชะงัก
   ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้

   “เฮ้!!”
   “หวา!!”


   พลั่กๆๆ!!
   การที่เขารีบกุลีกุจอลุกขึ้นจนหนังสือและข้าวของต่างๆหล่นกระจายแบบนั้นทำให้ผมต้องใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการกลั้นขำ  แล้วช่วยก้มเก็บหนังสือแย่งเขามาได้ง่ายๆ..แล้วพลิกดูรูปเล่มขณะที่เขากระพริบตาปริบๆใส่
   ..หนังสืออ่านนอกเวลาภาษาอังกฤษ..อ่านจากชื่อเรื่องประกอบกับคำแนะนำท้ายเล่มพอจับใจความได้ว่าเป็นรวมเรื่องสั้นมุขตลกของชาวอังกฤษที่ค่อนข้างจะเข้าใจยาก...แต่ให้ตายสิ..
   "...อ่านอะไรได้สมกับเป็นคุณดีนะ"
   “ครับ  เอ่อ..มันสนุกกว่าที่คุณคิดนะฮะ"
   “ก็เคยอ่านบ้างล่ะ  แต่ไม่ได้ติด" ผมคืนหนังสือให้เขา "รอนานรึยัง?”
   "อ้ออ..! ไม่นานหรอกครับ"
   “สักชั่วโมงถึงมั้ย?”
   “ประมาณนั้นครับ  ผมไม่ทันจับเวลา"
   ..กูว่าละ.. “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”
   เขายิ้มกว้าง "คุณเคยออกเดทกับคนที่คุณชอบครั้งแรกมั้ยล่ะครับ?  ตื่นเต้นประมาณนั้นเลยล่ะ"

   ผมกระแอมกระไอ  กำลังคิดว่าเลิกพูดเรื่องแบบนี้ดีกว่าก่อนเขาจะหาจังหวะหยอดอะไรขึ้นมาอีก  อีกอย่างผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นด้วย..ดังนั้นคาดคะเนไม่ได้หรอกว่าเขารู้สึกปิติยินดีขนาดไหน


   เราออกเดินทางกันด้วยรถเมล์โดยที่มีผมเป็นผู้นำ  และเขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ตามได้ดีซะเหลือเกิน..ผมหันไปดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าลูกคุณหนูอย่างเขาเคยขึ้นรถเมล์เหมือนชาวบ้านเขามั้ย  ปรากฏว่าเขากระทำมันได้ดูเป็นธรรมชาติและปกติมาก..ดูแทบไม่ออกเลยว่าขึ้นรถเมล์ครั้งแรกๆ
   เนื่องจากตรงนี้เป็นต้นสาย  ที่ว่างในรถมีค่อนข้างมาก..ผมให้เขาเข้าไปนั่งริมหน้าต่างส่วนตัวเองนั่งอยู่ฝั่งทางเดิน
   “เราจะไปที่ไหนกันเหรอครับ?”
   “..เดี๋ยวคุณก็รู้"
   “คุณไม่คิดจะบอกใบ้อะไรสักหน่อยเลยเหรอ?”
   “ก็...” ผมกลอกตา พูดลอยๆ "ก็เรื่องสัตว์เลี้ยงไง  ไม่มีอะไรเกินกว่านั้น"
   “นั่นไม่ได้ช่วยให้เป้าหมายกระจ่างขึ้นเลยนะครับ...”
   “คุณกลัวพวก..สุนัขมั้ย?”
   “ไม่ครับ  ไม่มีทางเลย" เขาหัวเราะ "ผมมีลาบาดอร์อยู่ที่บ้าน8ตัว! เชื่อมั้ยว่าพวกมันน่ารักเอามากๆ..เวลาผมกลับบ้านก็จะวิ่งมาวนรอบๆด้วยล่ะ!...ตัวพ่อชื่อถั่วต้ม ตัวแม่ชื่อกุ้ยช่าย  แต่ตัวที่สนิทกับผมมากที่สุดชื่อเจ้าไหม้ครับ  8เดือนแล้ว...สีดำสนิททั้งตัวสวยมากเลยล่ะ!!”
   อักษรเริ่มพล่ามอีกแล้ว ผมมองแล้วพยักหน้ารับ "งั้นเหรอ..”
   “แล้วคุณล่ะครับ?”
   “ผมค่อนข้างเกลียดหมาเป็นพิเศษ"
   “อา...” อีกฝ่ายพยักหน้ารับ "จริงสินะ...คุณไม่ชอบสัตว์หน้าขน...”
   “ที่จริงสัตว์อะไรผมก็ไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไหร่...”
   “แต่คุณชอบนกไม่ใช่เหรอครับ?”
   ผมเลือกที่จะไม่ถามเรื่องที่ว่าเขารู้เหี้ยอะไรเกี่ยวกับตัวผมเยอะแยะกันนะ และแน่นอน..เขาก็เม้าท์ต่อ..
   “ผมดูคอลเลคชั่นนกพิราบของคุณกี่ครั้งผมร้องไห้ทุกครั้งเลย  เหมือนจะถ่ายไปตามเส้นของแม่น้ำเจ้าพระยาใช่มั้ยครับ? ท่าเรือปกติอะไรพวกนั้นเยอะไปหมด...ไม่ว่าใครก็คงสังเกต  แต่มีแค่คุณคนเดียวที่สื่อถึงพันธนาการที่เป็นเหมือน..เอิ่ม..กักขังไว้ไม่ให้นกเป็นอิสระทั้งๆที่มีปีกและไม่ได้ขังอยู่ในกรง....”
   “....คุณซื้อไว้เหรอ?”
   “แน่นอนครับ  ผมซื้อทุกเล่มที่มีเรื่องของคุณด้วยซ้ำ.....อุ๊บ  ขอโทษฮะ  แต่ผมไม่ใช่สโตรคเกอร์นะ.."
   "ไม่เป็นไร" ผมพยักหน้า  รู้สึกกระสับกระส่ายนิดหน่อยในอก "ผมไม่ถือ"
   เขาชะโงกหน้ามามองผมนาน  ก่อนจะยิ้ม
   “นั่น..คุณกำลังดีใจอยู่ใช่มั้ยครับ?”
   “....ใครว่ากันล่ะ"

   ผมลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยปฏิกิริยาอัตโนมัติ  เขามองด้วยแววตาเป็นประกายระริกระรี้เมื่อผู้หญิงที่เพิ่งขึ้นมาใหม่โค้งให้ผมแล้วนั่งลงตามมารยาท  ก่อนร่างโปร่งเล็กจะยื่นมือมาหาผม
   “ถือของให้นะครับ"
   “อื้อ"

   ..หลังจากส่งของให้  พวกเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกตลอดทางด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง..


   แต่ผมเริ่มสงสัยแล้วล่ะว่าบางที..เขาอาจจะมีตาหลังก็ได้  ทุกครั้งที่ผมหันไปมองเขา เขาต้องหันมาเพื่อยิ้มกว้างๆให้ผมเหมือนกับเขารู้ตัวว่าถูกผมมอง  แล้วก็ผมจะทำอะไรได้นอกจากเบือนสายตาหนีออกมา



   พอเราลงจากรถในจุดที่ผมวางแผนเอาไว้  เขาก็รู้ได้แทบจะในทันทีว่าเรากำลังจะไปที่ไหนด้วยการทำปากว่า 'อ้อออ' โดยไม่เปล่งเสียงออกมา  และทันใดนั้นเองเขาก็เป็นฝ่ายถามออกมาก่อน
   “อะไรครับ?”
   “ครับ?”
   “คุณ..หัวเราะอะไร?”
   “ก็...อืม...” นี่ตะกี้ผมหัวเราะออกไปงั้นเหรอ? “คุณดูฉลาด"
   “ใช่ครับ" เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ผมฉลาด"
   “โอเค  ผมไม่เถียง...ทุกวันนี้ผมยังประหลาดใจอยู่ว่าทำไมคนที่สอบได้ที่1อย่างคุณถึงยังอยู่ห้องเด็กเส้นอยู่ทั้งๆที่มีโอกาสไปอยู่ห้องทุน...ซึ่ง...คุณภาพทางสายวิทย์ดีกว่า...”
   เขาส่ายหน้า “คุณเข้าใจผิดแล้ว  ผมไม่ได้ชอบวิทยาศาสตร์"
   “อ้าว? แล้วคุณชอบ...การบริหารเหรอ?”
   “ที่จริง..ผมไม่ได้ชอบทั้งวิทยาศาสตร์  ทั้งบริหาร..หรือเลขหรอก  ผมชอบภาษา"
   “ภาษาอังกฤษ...?”
   อักษรยิ้มกว้าง "จีน"
   “จีนด้วยเหรอ?”
   “ฝรั่งเศส"
   “...ฝรั่งเศสด้วยน่ะนะ?  นี่คุณถนัด4ภาษาเลยเรอะ?”
   “แล้วก็สเปนกับเกาหลีได้นิดหน่อย"
   “คุณเอาเวลาที่ไหนไปเรียนน่ะ?”
   “ก็เวลาว่างทั่วๆไปแหละครับ  ฟังเอา..เขียนเอา...อินเตอร์เน็ตมีเยอะแยะ"
   ผมไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี "...จะมีเด็กนักเรียนม.ปลายกี่คนที่พูดได้ขนาดนั้นน่ะ....”
   “และในโรงเรียนเกษรวิทยาเท่าที่ผมรู้มีถึงสาม...”
   “...สาม?”
   “ผม"
   “อ่าฮะ?”
   “พี่สายสิญจน์"
   “..คนนั้นผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่"
   “สีคราม"
   “โอ้" ผมพยักหน้า "มันด้วยเหรอ?”
   เขาขมวดคิ้ว "ผมแอบแปลกใจนิดหน่อยที่คุณเรียกทายาทเศรษฐีพันล้านว่า 'มัน'...”
   “อา...ผมรู้จักเขาเป็นการส่วนตัวนิดหน่อย" ผมแก้ตัว "แต่คง..ไม่เท่าคุณหรอกใช่มั้ย?”

   คนฟังยิ้ม  ไม่ได้ตอบอะไรนอกไปเสียจากปรบมือหนึ่งที..ขณะที่เราสองคนเดินเข้าซอยมาจนถึงหน้าของรั้วกรงเหล็กที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวเมื่อเทียบกับบรรดาบ้านหลังเล็กๆรอบๆ  ฝั่งตรงข้าม 'คอก' เหล่านี้คือพื้นที่ว่างที่ถูกทิ้งร้างจนมีรถเข้าไปจอดระเกะระกะเต็มไปหมด


   ..ศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัด..

   ที่จริงผมไม่ค่อยชอบวิธีการจับสุนัขหลายๆตัวมารวมกันเท่าไหร่  ก็อย่างว่าแหละมันเป็นสัตว์หน้าขน..แต่ก็คงดีกว่าปล่อยให้พวกมันเรี่ยราดหรือโดนจับไปทำเป็นลูกชิ้นกระมัง..

   “คุณได้บอกรึเปล่าว่าคุณจะมาถ่ายรูป?”
   คำถามที่ทำให้ผมสั่นศีรษะ  ก่อนจะเปิดประตูเหล็กเข้าไปพร้อมพูดว่า
   “เปล่าเลย"
   “อ้าว? แล้วเราจะเข้าไปไปดื้อๆอย่างนี้น่ะเหรอครับ?”


   ผมยิ้มให้เขา



   "....เพราะอย่างนั้นผมเลยพาคุณมาด้วยไง"











----------










   ..คับแคบไปนิด..

   อับชื้น..มีกลิ่นไม่ค่อยพึงประสงค์เท่าไหร่นัก..


   นึกไม่ออกจริงๆว่าถ้าจับคนเป็นๆเข้ามาอาศัยรวมกันแบบนี้จะเป็นยังไง..จะรู้สึกท้อแท้หดหู่ห่อเหี่ยวใจเหมือนที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้มั้ย...อา..แต่กลิ่นแบบนี้ถ้าพวกที่คลั่งไคล้สัตว์มากๆก็คงชอบกระมัง...


   “คุณเข้าไปทำอะไรในนั้นน่ะ?”


   เสียงของอักษรที่เพิ่งเจรจาธุระเสร็จดูจะมีแววขำมากกว่าคำว่าฉงน  ผมถอนหายใจ
   “ทำงานไง"
   “แล้ว...เข้าไปนั่งเฉยๆแบบนั้นน่ะนะ?”
   “กำลังซึมซับอยู่...พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก"
   ผมวางกระเป๋ากล้องไว้ด้านข้าง  นั่งเอนหลังพิงกับรั้วเหล็กดัดที่ถูกทำมาอย่างรวกๆก็จริงแต่ก็แข็งแรงมากพอที่ผมจะโถมน้ำหนักลงไปได้  บรรดาสุนัขเรียบร้อยที่ได้รับการยืนยันว่าไม่มีพิษมีภัยรุมกันเข้ามารอบด้าน  ผมยกมือกันไว้ด้วยความเคยชิน..ซึ่งข้อดีของการที่มันเป็นหมาคือมันเข้าใจ  และทำตัวเหมือนผมเป็นพวกเดียวกับมันในทันที
   “น่ารักจัง..”
   “อะไร?”
   “คุณดูเหมือน...ไม่ใช่คน"
   ผมเลิกคิ้ว "บอกผมหน่อยสิว่านั่นมันคำชมยังไง"
   “เปล่านะ  คือ...ยังไงดีล่ะ...ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน..”
   “แล้วคุณบอกพวกเค้าไปว่าไง?”
   “อ้ออ..ไม่มีอะไรมากเลยครับบอกไปแค่ว่าคุณอยากจะรับอุปการะน้องหมาที่นี่สักตัว  แล้วคุณพูดภาษาไทยไม่ได้...ขอเดินดูสักหน่อยแล้วก็...เม้าท์เรื่องหมาไปเยอะเค้าเลยไว้ใจให้มาเองได้น่ะครับ"

   ..คิดถูกจริงๆที่พาอีกฝ่ายมา..

   มือทั้งสองข้างของผมประคองกล้องเอาไว้ในมือ  ขณะที่ทอดสายตามองพิจารณาไปยังหมาแต่ละตัวที่กระทำภารกิจประจำวันของมันไป  ตัวไหนตัวเล็กหน่อยก็หมั่นเขี้ยวงับกันบ้าง..แต่ส่วนใหญ่เอาแต่นอนและใช้สายตาน่าสงสารชวนวิงวอนพวกนั้นมองไปที่อักษรที่ทำท่าราวกับอยากจะรับเลี้ยงมันเอาไว้ทั้งหมด


   “เทียนครับ"
   “ครับ?”
   “..ผมคุยได้ใช่มั้ย?  เห็นคุณกำลังทำสมาธิ...”
   “ไม่เชิงทำสมาธิหรอก...”
   “คุณดูตั้งใจ...”
   “ก็สมควรนี่นา"
   “.....มันเท่มากเลย~”
   ..เอาละ  ผมควรเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเดี๋ยวนี้เลย.. “คุณคิดว่าไง?”
   “อะไรยังไงครับ?”
   “เกี่ยวกับที่นี่...”
   เขาพยักหน้า  เท้าแขนลงกับขอบกรงที่อยู่ห่างจากศีรษะผมไปไม่มากนักเพื่อพิจารณาแต่ละจุดเพียงหยาบๆ  ก่อนจะถาม
   “ผมไม่แปลกใจที่คุณเลือกที่นี่  เพียงแต่...ประหลาดใจว่าคุณคิดได้ยังไง”
   “ทำไมล่ะ?”
   “มันสมเป็นคุณอย่างถึงที่สุดเลยล่ะ!”
   “แต่คงไม่ชนะหรอก..”
   “อ้าว?”
   “ธีมของงานเค้าต้องการความสดใส" ผมเปรยเสียงเรียบ "คงไม่ผ่านแม้แต่รอบคัดเลือกด้วยซ้ำ"
   “แล้วคุณ....”

   “...ถ้าจะต้องถ่ายรูป 'สัตว์เลี้ยง' ในแบบของ 'ผม' ...ก็ต้องเป็นแบบนี้"

   ผมพูดชัดถ้อยชัดคำ  ระหว่างที่พยักเพยิดไปทางบรรดาเจ้าสุนัขมากมายที่รายล้อมอยู่รอบตัว  เสียงครางหงิงๆของพวกมันเหล่านั้นทำให้ผมซึ่งไม่ค่อยรักสัตว์เท่าไหร่ยังรู้สึกว่ามันน่าสงสารขึ้นมา..และนั่นเป็นสาเหตุที่ผมมาตรงจุดนี้...เพราะผมไม่คิดจะเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่เพียงเพราะแค่รางวัลจิ๊บจ้อย..


   "เจ้าพวกนี้.. 'เคย' เป็นสัตว์เลี้ยงมาแล้วแทบทั้งนั้น...”


   เสียงที่ผมพูดออกไปไม่ได้เศร้าอะไรเลย
   ..แต่กลับทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบงันขึ้นมาทันตา

   ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยเงียบเอาไว้  อีกฝ่ายก็เงียบเหมือนกันด้วยเหตุผลอะไรที่ผมไม่รู้  เราสองคนเงียบ..และทำตัวสงัดจนเหมือนแทบไม่มีตัวตนอยู่ในกรงสุนัขจรจัดที่เลี้ยงรวมไว้แบบนี้  ถัดจากคอกไปไม่มากนักเป็นกรงขังเดี่ยวสำหรับสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ  แต่ละตัวส่งเสียงทักทายพวกผมด้วยไม่ค่อยจะมีใครมาเยี่ยมพวกมันมากนักกระมัง..


   “...เลี้ยงเค้าแล้วก็ควรจะรับผิดชอบ...”


   ..พวกมัน..เคยอยู่ในสถานที่ที่ดีกว่านี้..


   “ถ้าคิดจะเลี้ยงตั้งแต่แรกก็ไม่ควรปล่อยพวกมันไว้อย่างนี้ใช่มั้ย..?”


   แว่บหนึ่งที่ความรู้สึกบางอย่างไหลเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจ  ทำให้น้ำเสียงที่ปกติผมจะควบคุมมันได้ตลอดเวลานั้นสั่นขึ้นมาเพียงนิด..แต่ก็เป็นนิดเดียวที่อีกฝ่ายคงจะพอจับสัมผัสนั้นได้

   ความเงียบทำให้อักษรลังเล  แต่เขาก็เรียกขึ้นมาในที่สุด..
   “เทียน...”

   “ช่างเถอะ"
   ผมบอกปัดคล้ายกับว่ารอให้เขาเรียกอยู่..เพื่อยันยันว่าสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ไม่ได้นำออกมาจากส่วนลึกของหัวใจตัวเอง
   “ทำงานดีกว่า"



   ...ภาพถ่าย...จะแสดงมุมมองของช่างภาพออกมาแม้จะสะท้อนในสิ่งเล็กๆก็ตาม...

   นั่นเป็น..ความวิจารณ์ในความเป็นจริงของอักษร อัครมณฑา..


   ไม่นานเสียงกดชัตเตอร์ก็ดังขึ้นนัดแรกเรียกให้อีกฝ่ายเลิกที่จะชักชวนผมคุยต่อ  ที่จริงผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอกครับ..นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีคนอยู่ด้วยตอนต้องทำงานอะไรแบบนี้...และเขาก็ไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญเท่าที่ผมคิด

   ..สุนัขที่ถูกทอดทิ้ง..
   ........ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่...


   แชะ..
   ชัตเตอร์อีกครั้งถูกกดขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของเราทั้งคู่  ไม่มีเสียงรถราผ่านไปผ่านมาเลยสักคัน  ไม่มีเสียงผู้คนหรือเด็กน้อยโวยวาย  ไม่มีแม้กระทั่งสายลมที่พัดผ่านมา..ไม่มีอะไรทำให้บรรยากาศความมืดมนของภาพสั่นคลอนไปได้..ไม่มีเลย..แม้กระทั่งหัวใจในอกที่เต้นรัวขนาดนี้ก็ไม่ได้ทำให้ภาพที่ได้สดใสขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย..

   บางตัวติดเรื้อนบางตัวได้รับแผลจากการถูกรถชน  มีส่วนน้อยที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง..และทุกๆวันก็จะมีคนมารับพวกนั้นไปเลี้ยง..ในขณะที่ 'พวกไม่สมประกอบ' กลับไม่มีใครเหลียวแล..ไม่มีใครอยากจะรับพวกมันไปเป็นภาระ  ในบรรดาสุนัขเหล่านั้นมีไม่น้อยทีเดียวที่ดูสูงอายุ..แล้วพวกมันจะทำอะไรได้นอกจากอาศัยจิตใจทำต้องทำเป็นดีของพวกสังคมสงเคราะห์..และดิ้นรนจนกว่าจะถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตกันล่ะ..


   ..ผมเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย...เป็นความจริงที่ผมไม่ปฏิเสธ..


   แต่ต้องยอมรับจริงๆว่าประชากรมากกว่าครึ่งของประเทศยังไม่สามารถดูแลจัดการสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่ตัวเอง 'ต้อง' รับผิดชอบได้...สิ่งมีชีวิตน้อยๆพวกนั้นไม่จำกัดแค่เพียงสุนัข  แมว  สัตว์เลี้ยง..หรืออะไร..
   ........เด็กทารก...ก็เช่นกัน..........

   ปึง!!

   “...เทียน?”
   “เปล่า"
   ผมปฏิเสธ  ชักเท้าออกมาจากการเตะลูกกรงทดสอบความแข็งแรงของมันอย่างรวดเร็ว
   "ไม่มีอะไร"
   ..คำตอบที่ถ้าอักษร 'รู้' อยู่แล้ว..ผมคงกลายเป็นแค่ไอ้งี่เง่าที่ระบายอารมณ์กับข้าวของ(ที่ไม่ใช่ของๆตัวเอง)แบบนี้แน่ๆ..แต่เพราะผมรู้ดีอยู่แล้วว่าต่อให้โวยวายไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา..ทำให้ยังสงบนิ่งอยู่ทีเดิม..


   ผมถ่ายรูปต่อไประหว่างที่เดินไปรอบๆคอกกั้น  ด้วยส่วนสูงและมุมมองจากเบื้องบนยิ่งทำให้เจ้าหมาพวกนี้ดูต้อยต่ำและด้อยค่าลงไปอีกที่มองผ่านเลนส์  เสียงกดชัดเตอร์ดังเป็นระยะๆแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดไปสู่โลกที่สามหรือมิติที่6  กล้องที่ถืออยู่ในมือมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ผมกดดัน..แต่สิ่งที่ผมมองผ่านเข้าไปก็ยังทำให้ผมเพลิดเพลินได้อยู่

   นั่นเป็นความฉงนของการถ่ายรูป  ที่ผมยังคงหาคำตอบให้มันไม่ได้ตั้งแต่ที่ได้รับกล้องตัวแรกมา..


   แกรก..

   ผมได้ยินเสียงประตูคอกเปิดออก  ก่อนเพื่อนร่วมทางจะเดินเข้ามาร่วมกันด้วย
   เขายิ้มให้ผม  เพื่อบอกว่า "พวกนี้น่ารักดีนะครับ"
   “งั้นหรือ..”
   “ดูตัวนี้สิ" เขาชี้ให้ผมดู ทันทีที่เขายื่นมือออกไปมันก็หงายท้องหยอกล้อ "น่าหมั่นเขี้ยวจริงๆนะ  นี่แน่ะๆ!!”

   ผมถอนหายใจกับการที่อักษรลงไปปลุกปล้ำกับหมาพวกนั้น  จริง..ต่อให้ผมถ่ายภาพพวกมันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะรักใคร่ชอบพอพวกมันมากขึ้นนะครับ  ผมก็ยังมีสติเป็นปกติของตัวเองอยู่

   “คุณชอบหมา?”
   “ผมก็บอกไปแล้วไงว่าผมรักพวกมันสุดๆไปเลยล่ะ  ถ้าที่บ้านไม่มีมีเยอะอยู่แล้วก็คงอยากจะรับไปเลี้ยงสักตัวจริงๆ..”
   “...ผม...ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงเลย" ผมบอกเขา มองทุกอย่างผ่านเลนส์กล้องอีกครั้ง "ผมไม่ชอบ  แต่ก้านธูปอยากมาก"
   “แล้วคุณไม่คิดจะตามใจน้องหน่อยเหรอครับ?”
   “เด็กๆตามใจมากแล้วจะเสียคน"
   “ไม่ใช่ทุกคนสักหน่อย"
   “หมายความว่ายังไง?”
   “ตลอดชีวิตของผม..พ่อกับแม่ไม่เคยขัดใจอะไรเลยสักอย่าง"
   ผมพ่นลมหายใจออกมาสั้นๆ "ผมไม่แปลกใจนัก  คนอย่างคุณน่าจะไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังด้วยซ้ำ..”
   “นั่นก็ส่วนนึงครับ"
   “คุณแค่จะบอกว่าตัวเองเพอร์เฟ็คเท่านั้นเรอะ?”
   “ไม่ใช่สักหน่อย!  ผมไม่ได้เพอร์เฟ็คเลยครับ  คนที่เป็นอย่างนั้นจริงๆคุณเองก็รู้จักดีอยู่แล้ว"
   “คุณคือเลขานุการคนเก่งของสภานักเรียน" ผมย้ำกับเขา  ไม่ได้แฝงน้ำเสียงประชดประชันหรืออะไรออกไป "แค่นั้นก็เป็นเหตุผลมากเพียงพออยู่แล้ว"

   "ที่จริง...ผมน่ะไม่ได้ขยันเลย  แล้วก็ไม่ได้หัวดีเรียนเก่งหรือเนิร์ดอะไรด้วย”
   เขายิ้มอ่อน  พยายามอธิบายคำนั้นกับผม..
   “...แต่ถ้าการเรียนดีมันทำให้คนที่ผมแคร์มีความสุขผมก็ทำ  ถ้าพวกท่านต้องการให้ผมเป็นยังไงผมก็คงยอมทำตามที่พวกท่านเลือก  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือกิจกรรมของโรงเรียนก็ตาม..ตราบเท่าที่พวกท่านมีความสุขน่ะนะ  นั่นเป็นเหตุผลที่เวลาผมอยากได้อะไรสักอย่าง...ท่านจะไม่ขัดผมเลยเพราะผมทำเพื่อพวกท่านมาทั้งชีวิตแล้ว"

   ..ไม่รู้จะเรียกว่าฉลาดที่จะกระทำตัว..หรือจริงใจจนซื่อบริสุทธิ์ดี..

   “อ๊ะ  แต่ผมรักคุณคนเดียวนะ..”

   ..เอาเข้าไปสิ..
   ผมลดกล้องลงแกล้งทำเป็นดูรูปที่ถ่ายไปได้โดยไม่ใส่ใจคำพูดของเขาเมื่อครู่  น้ำลดทุกวันหินมันยังกร่อน..จะประสาอะไรกับก้อนเนื้อหัวใจที่โคตรจะอ่อนแอของมนุษย์  ยอมรับเลยว่าการที่เขาเอาแต่ปากหวานคอยพูดจาป้อล้อผมแบบนั้นมันต้องมีสักวันที่ผมหวั่นไหวแน่ๆ..
   “เค้าว่ากันว่าสัตว์เลี้ยงจะทำให้เด็กเล็กๆมีนิสัยอ่อนโยนขึ้นนะครับ"
   เขาดูพยายามจะเกลี้ยกล่อมเต็มที่  แต่ไม่เป็นผลหรอก
   “แค่นี้ก้านธูปก็อ่อนโยนพอแล้วล่ะ"
   “มันฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบด้วยนะครับ!”
   “สัตว์เลี้ยงน่ะดูแลยากจะตาย  ข้าวปลาอาหาร..น้ำดื่มดีๆ..อาบน้ำทุกอาทิตย์แปรงขนแทบทุกวัน  พาไปเดินเล่นตอนเช้าแล้วไหนจะค่ารักษาพยาบาลอีก..” ผมสาธยาย "บ้านผมไม่พร้อมรับอะไรแบบนั้น...”

   การที่อีกฝ่ายเงียบเสียงลงทำให้ผมต้องหันไปมองอีกครั้ง  หวังว่าผมคงไม่ได้เผลอพูดจาสะเทือนใจอะไรออกไปหรอกนะ

   “พวกมัน...ไม่ได้ต้องการอะไรจากเจ้าของเลยครับ"
   เขาพูดเสียงเบาจนผมแทบไม่ได้ยิน  จนต้องเพ่งสมาธิเพื่อฟังเขาพูดต่อไป
   “...ไม่ใช่ข้าว  ไม่ใช่น้ำ  ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยดีๆบ้านพักอุ่นๆหรืออะไร...”

   มือเรียวผอมและขาวซีดจนแทบไม่มีสีเลือดนั้นลูบเบาๆที่หน้าท้องสุนัขสีขาวตัวนั้น  พวกมันครางหงิงออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชังเหมือนเด็กตัวเล็กๆ



   “เพียงแค่เจ้าของ...ที่จะอยู่ด้วยกันไปจนกว่าใครจะหมดลมหายใจไปก่อนกัน..เท่านั้นเอง"



   ..ผมไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายพูดคำพูดนั้นออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน..

   ..แต่จากน้ำเสียงนั่นมันทำให้ผมสะเทือนใจชอบกล..



   “ความภักดีของมันมากกว่าที่คุณคิดเยอะนะครับ  ผมร้องไห้ทุกครั้งเลยที่ดูหนังเกี่ยวกับสุนัข..ส่วนใหญ่ที่สร้างจากเรื่องจริงมันมักทำให้เรารู้สึกอินได้มาก  อาจเพราะผมเป็นคนเซนสิทีฟด้วยก็ได้มั้ง....."
   “ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสดูพวกนั้นเท่าไหร่...”
   “...คุณไม่ชอบหมา  ผมไม่บังคับให้ดูหรอกน่า!”
   ..ผมไม่ได้คิดอยากจะดู..

   ..เพียงแค่รู้สึกว่าถ้าการดูหนังซึ้งๆอะไรแบบนั้นทำให้ผมเข้าถึงโลกสว่างๆของเขาบ้าง..ก็เท่านั้นเอง..




   “เฮ้"

   ผมร้อง  กวักมือเรียกเขา

   “มานี่สิ"



   เขาขยับยิ้ม  แล้วตอบรับด้วยสิ่งที่ผมพอจะคาดการณ์ได้อยู่แล้ว..ด้วยเสียงทุ้มหวานระริกระรี้







   “...โฮ่ง!”













TBC



=====================


เทคนิคการอ่านเรื่องนี้ อ่านช้าๆ ค่อยๆคิดตามไปทีละบรรทัดค่ะ 555555555555
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ


ozaka*


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


Minako

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:
-------------------------
โอยยยย อักษรจะน่ารักไปไหน
ไม่ไหวแล้วกับผู้ชายคนนี้  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2012 20:45:26 โดย Minako »

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ตกลงจะเป็นแฟนหรือเป็นสัตว์เลี้ยงกันละเนี่ย ตามลุ้นจ๊ะ

ออฟไลน์ lasnorches

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชะ...........เหมือนอ่านหนังสือปรัชญา *ละเมอ*
อ่านแล้วเหมือนเปิดโลกใหม่ 555 อักษรน่ารักจริงๆเลยให้ตายสิ

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
"คุณดูเหมือน.. ไม่ใช่คน"


 :a5:

/สะพรึงกับประโยคนี้ของอักษร/


รู้สึกโลกนี้มืดมากตอนบรรยายเรื่องหมาโดนทิ้ง ไม่รู้สึกสงสารหมา แต่รู้สึกคนน่ากลัว (หรือเป็นพวกไม่รักสัตว์ก็ไม่รู้ -_-")

ตอนนี้มันหวานๆอร่ะ มีแอบมงแอบมอง โหยยยย
 :o8:
ได้ข้อสรุป เรื่องนี้คือ อักษรเทียนไข ..*ทำหน้าฟืน*

ออฟไลน์ bamee_wspb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หวานปนเศร้า เร้าอารมณ์ 55555

เรื่องนี้ต้องอ่านช้าจริงๆด้วย  :-[
อ่านไปแล้วซึมซับอารมณ์
เหมือนทุกคำพูดมันมีความหมายยยย  o13

หลงรักอักษรอย่างจริงจัง ><

จะมีใครใสได้ขนาดนี้อีกม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ?

โฮ่ง.....

preawtefa

  • บุคคลทั่วไป
อักษรรรรรร~ น่ารักมากอ่ะ
หลงรักไปแล้วแบบหัวปักหัวปำ >...<

maii

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่าน...ยิ่งรักอักษร

                         :m3:


ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
อ่าววววววววววววววววว
ขานรับเค้าซะงั้นล่ะอักษรเอ้ยยย
รักมากไปปะคะ  แหมะๆๆๆ  เผื่อที่ไว้สักนิดก็ดีน๊า

Superstar

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ด คุณโอมาแล้ววววววว

เหมือนเทียนจะแสดงความรู้สึกมากขึ้นนะ
ดีแล้วที่อักษรคอยอยู่ข้างๆ  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kisz

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้ถ้าขาดสักบรรทัดคงงงไปเลยนะเนี่ยะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ theSMILE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่ะฮ้าาาาาาาาาาาาาา เริ่มหวั่นไหวไปพร้อมๆกับหัวใจที่อ่อนลง
ฮริ้วววววววว ดาร์คเบาๆสมกับเป็นพี่เทียนไขฮะ 55+ อดีตยังเป็นเบื้องหลังที่ทำให้ความสงบที่มั่นคง มันสั่นคลอนขึ้นมาได้จริงๆ = =
ส่วนอักษรยังเถรตรงได้อย่างน่ารักและไม่รำคาญเหมือนเดิม *เขิน*
เรื่องนี้ต้องอ่านแบบว่าช้าๆ คิดตรามทีละบรรทัดจริงๆฮะ มันได้อารมณ์และบรรยากาศมากเลย TwT


ปล .. โฮ่ง สุดท้าย =w= อยากได้กลับบ้านนนน 555+

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึก.. เทียนมันดูหดหู่ๆ หม่นๆ ยังไงชอบกล TT''

“...โฮ่ง!”
ตอนจบนี่คือ... อักษรตอบเทียนใช่มั้ยยยยยยยย ><
น่ารักอ่าาาาาาาาา ! อร้ายยยยยยยย  :-[ :-[

“คุณดูเหมือน...ไม่ใช่คน"
.....นั่นคือ.. คุณดูเหมือนหมา! สินะ กร๊ากกกกกกก 55555555555

Windiizz

  • บุคคลทั่วไป
เป็นนิยายที่แนนอ่านได้ช้าและอ่านทวนซ้ำก่อนจะเริ่มอ่านบรรทัดต่อไปมากๆ 5555555555
ชอบความคิดของเทียนไขในหัวข้อสัตว์เลี้ยงจัง มันใช่มาก ><''
เป็นคนเล่นกล้องเหมือนกันพอเห็นเทียนไขเป็นงี้แล้วรุ้สึกอยากคว้ากล้องไปถ่ายเล่นบ้างจัง
อักษรโชว์น่ารักอีกแล้ววววว รักตลอดอ่ะะะ เทียนหวั่นไหวหนักแล้วนะนาย หึหึหึ

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
น้องอักษรอยากให้เทียนพากลับบ้านด้วยอะดิ หึหึ
ชอบจังที่น้องอักษรพูดความรู้สึกกับเทียนไขตรงๆ เชื่อเถอะ สักวันเทียนมันใจอ่อนแน่ๆ 55555

ปล.เรื่องนี้ต้องค่อยๆอ่านจริงๆ แต่ชอบตรงช่วงสุดท้ายที่น้องอักษรพูดถึงหมาแล้วตอบรับว่าโฮ่งกับเทียนไขอะ
เทียนมันรู้ใช่ปะว่าอักษรเหมือนจะแทนตัวเองเป็นหมาที่จงรักภักดีกับเจ้าของอย่างเทียน  :กอด1:

yukokei

  • บุคคลทั่วไป
โนววววว อักษรทำเราละลายน่ารักมาากกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ P.PAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อิตาเทียน!!! แกรดาร์คมากกกก
ต้องให้คนสดใสอย่างอักษรมาจัดการซะหน่อย

"คุณดูเหมือน.. ไม่ใช่คน" ถ้าเป้นคนอื่นพูดคงได้รับฯทานทีนอาเฮียเทียนเป็นแน่แท้!

โฮ่งสุดท้ายนั้นหมายความว่าอะรายยยยยย ย 55555

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
มัน........ก็ไม่ได้ปวดตับนะ แต่เจ๊น้ำตาไหลซะงั้น  :sad4:
ชอบมุมแบบ ดาร์ก ดาร์ก แบบนี้จัง   >> มันสะท้อนอะไรหลายอย่าง ณ วันนี้<<

P.S. อักษร....ออกตัวแรงตลอดนะตัวเทอ.....งัยเทียนก็รับผิดชอบด้วยหล่ะ....  :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อักษรช่างน่ารัก โดยเฉพาะตอนที่ร้อง"โฮ่ง"

ออฟไลน์ Thezetiv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้จะเข้าใจยากไปไหน สองคนนี้เป็นคนที่คุยกันได้...เกินจะอธิบาย 55555555555
ต้องใช้เทคนิคแบบที่นายบอกจริงๆด้วย อ่านช้าๆค่อยๆทำความเข้าใจไปทีละบรรทัด
คำพูดเทียนนี่เข้าใจยากมาก =___=;;; แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ  #ห๊ะ??
ส่วนคำพูดอักษร /บายนะ/ คนฉลาดพูดอะไรคะ เราทำความเข้าใจนานมาก
ไม่รู้จะเม้นท์อะไรต่อ 555555555 รู้แค่ว่าีชีวิตเทียนไขถ้าไม่มีอักษรนี่มืดมนมากๆ
ความคิดหรืออะไรทุกอย่างแง่ลบตลอดเลย โชคดีนะที่โลกนี้มี อักษร อัครมณฑา -/////-
อักษรหยอดเก่งอ่ะ แต่น้องหยอดด้วยคำพูดตรงๆที่ไม่ต้องตีความ แค่ฟังก็อิ่มเอิบหัวใจ
น้ำหยดทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับหัวใจอ่อนๆของเทียน  #อิอิกำ
ขนาดเราไม่ใช่เทียนยังหลงรักอักษรแบบหมดใจเลย นายไม่รอดแน่ทีปพิพัฒน์

เราชอบตอนจบอีกแล้ววววว นายตัดจบได้เด็ดทุกตอนเลยอ่ะ
เอาตอนต่อไปมาเร็วๆนะคะะะะะะะ อิอิ

ด้วยรักและหลงอักษร
XD

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ comics_boy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โอ้ยยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้วววววววว รักน้องอักษรมากมายยยยยยยย

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
ถ้าอ่านดีดีแล้วรู้สึกจะเห็นถึงการพัฒนาการ
ด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ของทั้งสองนะ
เหมือนจะเรียบๆ ไม่มีอะไร แต่มีอะไรซ่อนอยู่

 :กอด1:

iDistort

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักเว่อออว์  :o8:

ออฟไลน์ full

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อักษรน่ารักอ่ะ :o8:


 :-[

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
โลกของเทียนไขอึมครึมเกินไปนะ เหมาะแล้วที่จะมีอักษรอยู่ข้างๆ :กอด1:

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
เทียนคงได้หมาไปให้ก้านธูปแน่ๆ เลย

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนนี้  sensitive จริงๆ
เรื่องของคนก็เศร้า หมาก็น่าสงสาร
แต่อักษร หยอดได้ตลอดดดดดด อิอิ
 :กอด1: :กอด1:

cotone

  • บุคคลทั่วไป
เปลี่ยนพระเอกๆ เอาเทียนออกไป อักษรน่ารักเกิ๊นนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เอิ่มมมเทียนจ๋า พี่คิดว่า  :m17: :m17: นู๋หวั่นไหวไปนานแล้วนะลูก โถ่พ่อคุณ


ส่วนษรจ๋า แผลของเทียนมันเหมือนแผลกดทับ ที่ตอนนี้มันช้ำและโดนกดโดนทับมาไม่รู้เท่าไหร่ ช่วยรักษาแผลของเทียนให้มันหาย บรรเทา ลงไปที

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ mplusmaxsquars

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :o8: :o8: :o8: เขินอักษร 55555

เป็นกำลังใจให้พี่โอค่ะะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด