__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 570913 ครั้ง)

runynam

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:อักษรน่ารักมากกกเลยยยย
ตอนนี้เรื่อยๆ แต่น่ารักดี
กำลังใจให้โอค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
ซึ้งที่อักษาพูดอ่ะ น้ำตาไหลเลย
เป็นคนไม่ชอบหมา เพราะกลัวหมา
แต่เลี้ยงแมว สัตว์มันไม่ต้องการอะไรมากมายอย่างที่อักษรพูดจริงๆ
ฮือออออออ
บวกค่ะ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ว้าวววววน้องหมา

จงช่วยทำให้โลกสีเทาของ เทียน มีแสงสว่างสดใส ด้วยเทอน :call:


ปล. ตอนต่อๆไปข้าง อย่าให้น้องหมาตายเลยนะ  (แค่พูดดักไว้ อิอิ)

รักน้องหมาที่สุด  :z2:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
อ่านตอนนี้น้ำตาซึมเลยค่ะ
ด้วยความที่อินเรื่องน้องหมาด้วย อินเกี่ยวกับคำพูดของทั้ง 2 คนด้วย

ออฟไลน์ Pikky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
รออักษรกะเทียนอยู่นะก๊าาาา ><

zeaza

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันซะที ไม่ต้องไปตามอ่านอย่างเรื่องเก่า :)

อักษรน่ารักจังเลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2012 10:34:12 โดย zeaza »

cinna

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยย

ฉันหลงรักเทียนไข กะอักษร ไม่ไหวแล้ว

เหมาะสมกันม๊ากมาก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
  o13 o13

โอ ยังเยี่ยมเหมือนเดิม

อักษรนายน่ารักมว๊ากกกก ขอกลับบ้าน (อั้กก >>เทียนถีบ)

ช่วยเติมสีลงบนชีวิตของเทียนทีนะ มีแต่สีเทา ๆ หดหู่นิด ๆ

เป็นกำลังจให้นะจ๊ะ.... รอค่ะ

ออฟไลน์ mashi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กรีดร้องสมัครเปนเอฟซีอักษร  :-[

ออฟไลน์ Dwammy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เหมือนจะหายจากการเม้นท์ไปสองสามตอน :z10:
อักษร พี่สิญจน์ สีคราม พวกนายมันไม่ใช่คน พูดได้ไง 4 ภาษา
อักษรน่ารักเว่อ มีคนแบบนี้อยู่ข้างๆ ดีใจตายเลย  :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
มารอ

ขอให้เป็นดั่งปราถนา  เมื่อไหร่จะมาน๊อ

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog







6th Day : Photo










   “ขออนุญาตครับ"

   ผมถอดรองเท้าหนังเก็บขึ้นชั้นตอนที่เปิดประตูเข้าไปพอดี  อาจารย์ประจำห้องยกมือทักทายผมเพียงเล็กน้อยเพราะแกกำลังคุยโทรศัพท์สายในหน้าดำคร่ำเครียดอยู่  ผมปิดประตูลง..สอดส่ายสายตาหาคอมพิวเตอร์เครื่องประจำแล้วลากเก้าอี้ไปนั่ง
   หลังจากเสียบSD cardได้ไม่นาน..ในที่สุด'จารย์เปียก็วางหูโทรศัพท์ลง
   “งานใหม่เหรอเทียน?”
   “ครับ" ผมตอบโดยไม่ต้องหันไปมอง "เรื่อง 'สัตว์เลี้ยง'...ของนิตยสารในห้องสมุด"
   “แล้วไปถ่ายมาแล้ว?”
   “เรียบร้อยแล้วครับ"
   “เจ๋งนี่"
   ที่จริงผมไม่ชอบที่ต้องมานั่งปรับแสงสีตัดแต่งรูปภาพนักหรอกครับ  เพราะฉะนั้นที่จะทำก็แค่ปรับระดับความเข้มแสงซะมากกว่า  มันอาจจะฟังดูแปลกที่ผมเลือกถ่ายภาพทั้งหมดเป็นโมโนโทนล้วนๆทั้งๆที่เป็นหัวข้อเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง  แต่ก็นะ..ตราบใดที่มันยังคงคอนเซ็ปท์ความเป็น 'ตัวผม' อยู่ก็คงไม่เสียหายอะไร..

   ผมชนะเลิศการประกวดดังๆอยู่แค่ครั้งเดียวในชีวิต  และส่วนใหญ่จะได้รางวัลพิเศษหรือรางวัลชมเชยซะมากกว่า...'จารย์เปีย(ที่ปรึกษา)มักจะปลอบใจผมด้วยคำพูดที่ว่า  รูปภาพของผมคือรางวัลที่ใช้ไม่ได้จริง..แต่ประทับใจ  และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมักจะได้รับคำติชมแบบแปลกๆเสมอกระมัง...
   ...อย่างตอนที่คุยกับอักษรนั่น...ก็คงจะเรียกว่าคำชมแปลกๆอีกเช่นกัน...

   ผมเอนหลังพิงพนักพิงไปจนสุดความสามารถของมันขณะเลื่อนเคอร์เซอร์กดไล่ดูรูปถ่ายของตัวเองไปทีละรูป..ผมใช้ได้เพียงแค่12รูปจากทั้งหมด487..เป็นจำนวนที่มีการแข่งขันสูงเอาเรื่องแหะ..

   ..สุนัข..
   ..สัตว์หน้าขนที่ผมเกลียดแสนเกลียด..

   เกลียดความรัก เกลียดความภักดี และเกลียดความซื่อสัตย์ที่พวกมันดันโง่เอาไปมอบให้กับสิ่งมีชิวิตที่ไม่ได้สูงค่าไปกว่ามันเลยอย่างเช่น..มนุษย์..



   'โฮ่ง'



   ให้ตายสิ..
   ...อักษร  อัครมณฑาเป็นมนุษย์ที่เลียนแบบเสียงของสัตว์ได้ไม่เหมือนเลยสักนิด..


   ทำไมผมถึงคิดถึงประโยคตอบรับเมื่อวานของเขาน่ะหรือ..
   หนึ่ง..ด้วยมีจำนวนรูปภาพไม่น้อยทีเดียวที่ถ่ายติดเจ้าของร่างผอมเล็กนั่น  และผิวขาวจนซีดแบบนั้นก็โดดเด่นออกมาซะเหลือเกินในรูปแบบขาวดำอย่างที่เห็นอยู่นี่...หรือข้อสอง..อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงนั่นของเขาติดอยู่ในหูผมก็เป็นได้..
   ...สุนัขที่ซื่อสัตย์และภักดีน่ะ  ต้องการแค่เจ้านายที่จะอยู่กับมันไปชั่วชีวิตเท่านั้น...

   ......ชั่วชีวิต...

   สุนัขตัวหนึ่งเกิดมา..จะมีชีวิตอยู่ได้สักกี่ปี  แล้วก่อนหน้าที่จะเจอเจ้าของที่แท้จริงน่ะใช้เวลาไปกี่ปี  แล้วจะเหลือเวลาอีกสักกี่ปีที่จะเก็บเกี่ยวความสุขกันล่ะ?  หรือบางที..เจ้าสุนัขพวกนั้นอาจจะหวังแค่ให้ 'ช่วงชีวิต' เพียงช่วงเดียวที่แม้จะแสนสั้นนักเพื่อมีความสุขจนล้นปรี่ก็เป็นได้..

   ..ผมไม่เข้าใจสุนัขหรอก  ผมเป็นมนุษย์..
   ....มนุษย์ผู้ต่ำต้อยมากพอที่จะหลอกใช้สิ่งมีชีวิตอย่างพวกมัน...




   ผมค้างหน้าจอไว้ที่ภาพๆหนึ่ง..

   เด็กหนุ่มผิวขาวซีดกับรอยยิ้มที่บริสุทธิ์และตรงไปตรงมาที่นั่งยองๆลูบศีรษะของเจ้าหมาน้อยที่เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเปล่งประกาย  หรืออาจจะเป็นเพราะผมปรับโทนภาพให้มีคอนทราสชัดเจนเกินไปจนแววตาของทั้งคู่ดูราวกับไม่ใช่เพียงภาพถ่าย  และโดดเด่นมากพอจะทำให้ผมใจเต้นตูมตาม..


   ..เสียแต่..นั่นไม่ใช่อารมณ์ของภาพที่ผมต้องการ...




   “ภาพนี้ดีนี่"


   เสียงอาจารย์เปียดังขึ้นจากด้านหลัง  พร้อมเท้าแขนลงกับพนักพิงของผม..ผมไม่ได้หันไปมอง  อาการทักอย่างฉุกละฮุกเช่นนั้นไม่ได้ทำให้ผมตกใจหรือหลุดออกจากมาดเท่าไหร่
   “...เอาภาพนี้ด้วยมั้ย?”
   ผมสั่นศีรษะแบบไม่ต้องคิด "คงไม่ครับ  เค้าเอาภาพสัตว์เลี้ยง"
   อาจารย์ท่านไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของผม "ไปถ่ายกับอักษรมาเหรอ?”
   “ครับ"
   “แปลกนะ  ไม่ค่อยเห็นเธอถือกล้องเดินไปไหนมาไหนกับใครสักเท่าไหร่...สนิทกันหรือ?”
   ผมพยักหน้าช้าๆ "ก็..ทำนองนั้น..”
   ..ไม่แปลกใจที่อาจารย์จะรู้จัก  ก็เป็นถึงเลขานุกการคนเก่งของสภานักเรียนนี่นา..

   ภาพที่เห็นเมื่อครู่จัดว่าเป็นภาพที่ดี  ผมครอปบรรดาภาพที่ผ่านการคัดเลือกขั้นที่หนึ่งเก็บไว้ในโฟลเดอร์แรก..ซึ่งกว่ามันจะเสร็จเรียบร้อยก็ทำเอาปวดตาน่าดู..หลายๆครั้งที่ผมเสียเวลาคัดภาพเป็นวันๆและหมดเวลาไปกับการนั่งจ้องพวกมันนิ่งๆเป็นชั่วโมง..และครั้งนี้ก็เช่นกัน..และภาพดังกล่าวนั้นก็ถูกรวมไว้เป็น 'ภาพที่ถูกคัดเลือกมาแล้ว' ทั้งๆที่ผมรู้ดีว่ามันจะไม่ถูกรวมในโฟลเดอร์12รูปสุดท้าย...แน่นอน..


   อาจารย์เปียเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองอีกครั้งหนึ่งระหว่างที่ผมนั่งทำงานต่อไป  ท่านเป็นอาจารย์ผู้หญิงวัยกลางคนร่างเล็กที่ค่อนข้างกระฉับกระเฉงพอตัว  สอนศิลปะ..และแนะแนวให้เด็กๆที่เดินทางมาด้านนี้ซะเยอะ  ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละ
   เด็กนักเรียนห้องความสามารถพิเศษไม่มีความจำเป็นที่ต้องเข้าเรียนในคาบตราบเท่าที่มีงานนอกทะลักทลายเข้ามา  ดังนั้นผมจึงใช้เวลาในช่วงเช้าทั้งหมดจัดการกับเจ้ารูปพวกนี้ได้โดยไม่มีใครมาว่า  และห้องพักครูโสตฯของ'จารย์เปียก็ไม่ได้มีเด็กนักเรียนคนอื่นมาใช้มากนัก..เรียกได้ว่าค่อนข้างส่วนตัวเลยล่ะ..



   จวบจนกระทั่งเสียงออดหมดเวลาพักกลางวันดังขึ้นนั่นแหละผมถึงจะยอมปล่อยมือออกจากเม้าส์เพื่อยืดแขนบิดขี้เกียจ  อาจารย์ลุกหายไปไหนไม่รู้..รู้แต่ว่าไอ้รูปที่ควรจะคัดเนี่ยเหลืออีกเพียง...27รูป..

   ..และรูปอักษรเมื่อครู่ก็ยังไม่หลุดไปสักที..

   ผมเปิดมันดูขึ้นมาอีกครั้ง  และเนื่องจากครั้งนี้ไม่มีใครมานั่งจับผิดอยู่กระมังผมเลยใช้เวลาเท้าคางมองมันได้นาน..เนิ่นนานมากพอที่จะถูกดึงเข้าไปอยู่ในภาพ..ที่ราวกับมีชีวิตแบบนั้น..ดวงตาของเขา  วิธีการเอื้อมมือไปจับ  ปลายนิ้วที่แตะสัมผัสลงบนศีรษะของสุนัขตัวนั้น  ดูอ่อนช้อยนุ่มนวล  ทั้งท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติโดยไม่เกร็งเลยสักนิด..

   ...ความอ่อนโยนและบริสุทธิ์...จนจับใจ...

   .......ทั้งๆที่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการแท้ๆ...





   “ขออนุญาตครับ"



   เสียงเปิดประตูดังขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา  ผมรีบกดปิดด้วยอารามตกใจในอก  แต่ก็ไม่ได้ตกใจมากพอที่จะทำให้ผมลนลาน..ก่อนจะหันไปสบตากับดวงตาที่ผมเพิ่งจ้องมันอยู่นานในหน้าจอมอนิเตอร์เมื่อครู่
   เขายิ้มกว้าง
   “อยู่ที่นี่จริงๆด้วย  เมื่อครู่ผมไปหาที่ห้องถึงไม่เจอ"
   ผมพยักหน้า  รู้สึกไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อไปชอบกล..อาจจะเป็นเพราะครั้งแรกที่ผมจ้องรูปของคนจริงๆที่ตั้งใจถ่ายออกมาขนาดนั้น... และคนที่ผมเพิ่งดูรูปไปเมื่อครู่ก็มาปรากฏตรงหน้าเอาดื้อๆ
   นี่คือสิ่งที่เรียกว่า..ทำตัวไม่ถูก..

   เขาไม่ได้ทักเรื่องนั้น  แต่รีบยกกล่องข้าวในมือให้ดู



   “มะกะโรนีอบชีส!"



   ไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากคำพูดนั้นผมก็เดินตามเขาต่อกๆตามบันไดลงมาเพียงสองชั้น  แล้วเลี้ยวเข้าหัวมุมห้องที่อยู่ข้างๆห้องประชุมกรรมการนักเรียน  ที่ทำลงไปอาจจะเพราะอาการบิดตัวของกระเพาะที่เรียกร้องให้ผมหาอะไรกินมาตั้งแต่เช้า  หรือบางทีมะกะโรนีอบชีสอาจจะเป็นอาหารโปรดโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำก็เป็นได้..

   ห้องเล็กๆที่เหมือนห้องเก็บของถ้ามองจากภายนอกถูกเปิดออก  ด้านในไม่ได้เป็นฟังชั่นอย่างที่ผมคิด..ทั้งโต๊ะที่วางอยู่ริมหน้าต่างกับเก้าอี้สามตัว  ทั้งตู้เย็นที่อยู่ติดกับตู้เก็บเอกสาร  ทั้งไมโครเวฟที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆกัน..แสดงให้เห็นถึงการจัดวางที่เกือบจะเรียกได้ว่า 'อยู่อาศัย' ไปซะแล้ว..


   อักษรวางกล่องอาหารลงบนโต๊ะ  เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทและพัดลมเรียบร้อย
   “เดี๋ยวผมอุ่นก่อนนะครับ"
   เขาว่าเช่นนั้น  ผมจะทำอะไรได้นอกจากพยักหน้า
   “...คุณอยู่ที่นี่หรือ?”
   “เอ๋?”
   “เปล่า..คือ..” ผมไหวไหล่ "ถ้ามีเตียงนอนเนี่ยใช่เลย"
   อีกฝ่ายหัวเราะ  ดันถาดกระเบื้องเคลือบเข้าไปในไมโครเวฟตอนที่ตอบ
   “ก็ใกล้จะได้กลายเป็นห้องส่วนตัวแล้วล่ะครับ  เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในนี้ผมเอามาจากบ้าน  ไว้อำนวยความสะดวกเวลาที่พวกกรรมการนักเรียนประชุมกันถึงมืดค่ำ  จะได้ไม่ต้องออกไปไหน...”
   ..ช่างเป็น..คนที่เตรียมพร้อมรับมือได้ทุกสถานการณ์จริงๆ..

   ผมพยักหน้าโดยไม่ได้หันไปมอง  เพราะกำลังพิจารณากับบอร์ดปักหมุดที่จดรายละเอียดสำคัญๆไว้ตามที่ต่างๆ..เวลาประชุมครั้งถัดไป..นัดแนะคุยกับต่างโรงเรียน  งานกิจกรรมเล็กๆน้อยๆยิบย่อยจนบางงานผมไม่อยากจำด้วยซ้ำ  รายชื่อนักเรียนที่ประพฤติตนจนควรถูกตักเตือนบ้าง..ในนั้นไม่มีผม  รอดไป..

   ..ตารางสอนห้องเด็กทุนม.5..นี่เป็นจุดที่ทำให้ผมรู้ว่าเจ้าของห้องนี้เป็นใคร..


   .....และ...สิ่งที่เหนือความคาดหมายของผมก็คือ...

   ............ตารางสอนห้องเด็กความสามารถพิเศษในระดับชั้นเดียวกัน..


   ผมรู้ว่าผมนิ่งอยู่กับจุดนั้นนานมาพอที่อักษรจะเดินมาดึงแขนเสื้อผมให้ลงไปนั่ง  ผมสงสัยจนอยากถามจึงได้เผยอริมฝีปากขึ้น  แต่พอหันไปสบกับแก้มที่ขึ้นสีเล็กน้อยนั่นผมก็หุบปากลงทันที





   ........อักษร 'ชอบ' ผมมากแค่ไหน..


   ..............บางที............การที่ผมไม่รู้คำตอบอาจจะสบายใจมากกว่า..





   “เปปซี่มั้ยครับ?”
   ผมกระพริบตาปริบๆ  พยักหน้าเออๆออๆไปตามเขา "ได้ๆ"
   เขาไม่ได้เดินไปดึงตารางสอนห้องเรียนออกอย่างที่ผมคิด  เพียงแค่เดินไปที่ตู้เย็น  หยิบแก้วน้ำตักน้ำแข็งใส่แล้วรินเปปซี่เรียบร้อย  แล้วยกมือเสิร์ฟให้ผมถึงที่
   เขาทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม  แล้วประสานมือยิ้มหวาน

   “ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ?”

   ..ทำไมผมรู้สึกแปลกๆกับคำถามฟะ.. “ก็..ไม่เท่าไหร่...มันไม่ใช่งานเร่งน่ะเลยทำได้เรื่อยๆ”
   “ผมอยากได้จัง  ขอผมเอาไปอัดได้มั้ยครับ?”
   “ได้สิ" ผมพยักหน้า ยกเปปซี่ขึ้นจิบ "เฉพาะรูปที่ไม่ถูกเลือกนะ..เผื่อเค้าซื้อลิขสิทธิ์"
   “งั้นรูปที่เหลือทั้งหมดก็ได้ใช่มั้ยครับ?”
   “...จะเอาทั้งหมดเลยเหรอ?”
   “อื้อ!”
   “สี่ร้อยกว่ารูปน่ะนะ?”
   “อื้อ!”
   “คุณจะไม่เลือกหน่อยเหรอ?”
   “ไม่หรอกครับ  ผมเหมาหมดเลย...คุณจะขายให้ผมเลยก็ได้นะ!”

   ผมมองหน้าเขา..ที่มีท่าทางจริงจังสุดฤทธิ์สุดเดช..แล้วจึงรู้สึกว่าไอ้ที่เถียงๆไปทั้งหมดแม่งเปล่าประโยชน์ชะมัด..

   ว่าแล้วก็ต้องยกมือปัดปฏิเสธ "ช่างเถอะ  เอาไปเลย"
   “เย้!”

   ..ทำไมต้องทำท่าดีใจขนาดนั้นด้วยฟะ..


   โชคดีที่เสียงร้องเรียกเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ของไมโครเวฟดังขึ้นช่วยชีวิตผมไว้ได้ก่อน  อักษรลุกขึ้นจากการทำให้ผมรู้สึกแปลกๆในอกเพื่อเดินตรงไปเปิดประตูไมโครเวฟออก  ซึ่งผมแอบขำเล็กน้อยหลังจากเห็นเขาโก๊ะขนาดที่ว่าเผลอแตะชามกระเบื้องนั่นด้วยมือเปล่า  ก่อนจะอุทาน 'อุ' ออกมาแผ่วเบาแล้วสะบัดมือพัลวัน

   ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ  แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาระหว่างลุกขึ้นเดินไปหา
   “ผมทำเอง"

   “อ..ครับ"

   เขาดูตกใจตอนที่ไหล่ของเราชนกัน  อย่าว่าแต่เขาเลย..ผมเองก็ตกใจไม่น้อยเชียวล่ะ  แต่ก็ทำได้เพียงผละออกมาแล้วหยิบถาดกระเบื้องออกจากไมโครเวฟด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแบบนิ่งๆไม่กระโตกกระตาก

   ...การแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาอย่างที่เขาทำน่ะ....ผมทำไม่ได้หรอก...


   กลิ่นหอมของชีสทำให้ผมสูดจมูกฟุดฟิด  แล้วลอบยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่
   “แม่ครัวบ้านคุณ..ท่าทางจะทำอาหารเก่งนะ?”
   “แน่นอนครับ!” อักษรยืดอกอย่างภาคภูมิใจ "ทำอาหารได้ทุกประเภทเชียวล่ะ! ผมเองก็ชอบมากๆ!”
   “อือหึ..”
   “ถ้าคุณชอบ...จะไปทานที่บ้านผมด้วยก็ได้นะครับ"
   “ไม่ล่ะ  ขอบคุณนะ"
   ผมปฏิเสธออกไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด  ชั่วชีวิตนี้ผมไปทานอาหารที่บ้านผู้หญิงที่เป็นคุณหนูอะไรต่อมิอะไรมาเยอะแล้ว..และพบว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องหอบความเพลย์บอยตั้งแต่หัวจรดเท้านี้ออกไปให้พ่อแม่ผู้ปกครองอีกฝ่ายเห็นมากนัก  อาจจะถูกยิงดับโดยไม่รู้ตัว..
   ..ถึงแม้ผมจะมั่นใจว่าคนตรงหน้าไม่ปล่อยให้ผมตายอนาถขนาดนั้นหรอก..
   .....ทำไมผมถึงมั่นใจ? ตอบให้ก็ได้ว่าไม่รู้เหมือนกัน..




   และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่อักษรนั่งเท้าคางมองผมหยิบช้อนส้อมอย่างสบายอารมณ์  ให้ตายสิ..เขาไม่รู้มารยาทบนโต๊ะอาหารสักหน่อยหรอกหรือ...แล้วทำไมต้องทำอาหารมาชุดเดียวทุกครั้งทั้งๆที่รู้ว่าเวลาแบบนี้มัน...

   ผมแกว่งส้อมไปมานิดหน่อย  แล้วตัดสินใจถาม
   “ไม่ทานด้วยกันเหรอ?”
   เขาสั่นศีรษะด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรครับ ตามสบายเลย!"
   “....จะให้ผมทานลงได้ยังไง  คุณจ้องเอาๆอยู่อย่างนี้"
   “ช่วยไม่ได้นี่ครับ อยากเกิดมาน่ามองเองทำไม...”
   “ห๊ะ?”
   “เมื่อกี้เสียงลมพัดนะครับ"

   ..เขาไปฝึกวิชากวนประสาทมาจากไหน? ไม่สิ  แต่ไหนแต่ไรเขาก็ใช้คำพูดง่ายๆพวกนั้นกวนประสาทผมอยุ่แล้วนี่..

   ผมถอนหายใจ  รู้สึกเหมือนตัวเองต้องกลับไปใช้มุขเดิม "ทานด้วยกันสิ"
   เขาฉีกยิ้มหวาน  แล้วค้อมศีรษะลงเล็กน้อยให้ผม

   “ผมทานอาหารประเภทนี้ไม่ค่อยได้น่ะครับ"

   ..ทำไมล่ะ?..
   ผมเกือบจะถามคำถามงี่เง่านั่นออกไปแล้ว  ถ้าเพียงแต่ผมยังสบตากับดวงตาใสแจ๋วเหมือนเด็กทารกนั่นต่อไปนานๆล่ะก็ผมคงจะหลุดมาดแน่ๆ  ต่อให้เขาเป็นภูมิแพ้หรือกำลังไดเอทนั่นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม..คิดว่าคงไม่ใช่ประเด็นหลัง..เพราะแค่นี้เขาก็ผอมจนเหมือนโดนลมพัดจะปลิวแล้วล่ะ..
   ภูมิแพ้อาหารประเภท..ชีส..นมไขมันสูง..?
   ..ถึงจะไม่ได้พบบ่อยนัก  แต่ผมก็ไม่แปลกใจซะทีเดียว..โลกเรามีอีกหลายเรื่องเยอะจะตายไปที่เราไม่คุ้นชิน  และการตื่นตระหนกจนเกินไปนอกจากจะดูโอเว่อร์แล้วยังดูเป็นคนโง่กลายๆอีก..
   เอาเป็นว่าที่ผมพล่ามไปทั้งหมดเพราะไม่อยากจะถามเขาไปตรงๆล่ะกันว่าเขาเป็นอะไรกันแน่..
   ..แต่อักษรไม่ใช่คนโง่  และดูเหมือนว่าการมองหน้าผมปราดเดียวจะรู้ได้ว่าผมคิดอะไร  ทั้งๆที่ผมไม่ได้แสดงสีหน้าออกไปด้วยซ้ำ..

   “ผมไม่ชอบน่ะครับ พวกชีส"

   ..เคลียร์ยิ่งกว่าเคลียร์..
   ..เจตนารมณ์ที่ชัดเจนจนเกินไป..ฟังดูตัดบทเหลือเกินจะกล่าว..


   ยังไม่ทันที่จะต่อบทสนทนาด้วยคำพูดรับรู้หรืออะไร  อีกฝ่ายก็รีบฉวยจังหวะหยอดทันที
   “แต่ถ้าคุณป้อนผมจะยอมทานให้ก็ได้นะครับ”

   ผมเอาส้อมเคาะหัวเขาทันที “มากไป  มากไป"

   “โอ๊ะ!”

   ..ลืมตัวแหะ..
   คนที่ตื่นตะลึงไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวหรอกครับ  ผมเองก็ด้วย..ถึงแม้จะใช้พลังมหาศาลในการควบคุมให้ตัวเองไม่แสดงสีหน้าอะไรออกไปก็เถอะ


   การถูกอ้อนด้วยอะไรแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก..แต่ไหนแต่ไรตัวผมก็ทำหน้าที่ที่ต้องบริการอยู่แล้ว  น่าประหลาดใจตรงที่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมปฏิเสธด้วยอากัปกิริยาเสียมารยาทอย่างถึงที่สุดแบบนี้  และผมไม่มีความคิดที่จะขอโทษอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ..แปลกตรงที่อกกลับพองโตขึ้นมาดื้อๆ..ทั้งๆที่รู้ตัวว่าไม่ควรซะอย่างนั้น..

   ผมรู้สึกว่าความเงียบเป็นอะไรที่น่าอึดอัด..เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมคิดเช่นนั้น..
   ..และอักษรก็ดูจะมีความคิดที่ไม่ต่างกันมากนัก..



   เขาอมยิ้มหน้าแดง..รอยยิ้มที่ผมอยากยิ้มตาม...เพียงแต่ไม่กล้า..

   ก่อนจะเอื้อมมือมาดันถาดกระเบื้องนั้นให้เข้ามาใกล้ผมขึ้นอีกนิดหน่อย




   “รีบทานเถอะครับ  เดี๋ยวจะเย็นหมดนะ"











----------







ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog



   ..ลังเลใจ..

   ....นี่เป็นความรู้สึกที่ห้ามไม่ได้จริงๆ..



   อาจารย์เปียเปิดประตูเข้ามาในห้องวินาทีเดียวกับที่ผมคลิกเมาส์ลงเพื่อสั่งกดปริ้นท์  เสียงเครื่องพิมพ์เลเซอร์คุณภาพดีร้องแอดๆเพียงหนึ่งครั้งก่อนจะเริ่มทำงานของมัน  ผมไม่ได้ทันหันไปมองอาจารย์..ตอนที่แกเดินฉับๆเข้ามาเท้าแขนลงกับไหล่ของผมเพื่อถามคำถามเดิมๆว่า..
   “เลือกได้รึยัง?”

   ผมสั่นศีรษะ "คัดเต็มที่แล้วได้18รูปครับ  ว่าจะอัดออกมาก่อนค่อยให้อาจารย์ช่วยเลือก"
   “หืมม?” ท่านทำตาโต "รู้สึกเป็นเกียรตินะเนี่ยที่คนอย่าง 'ทีปพิพัฒน์' จะให้ครูช่วยดูผลงาน  ร้อยวันพันปีแทบไม่ให้ครูได้แตะต้องด้วยซ้ำ..."
   “ครั้งนี้มัน....”
   “ครูเข้าใจ  ครูเข้าใจ"
   ผมถอนหายใจ  น้อมรับไป “ครับ"
   "พิมพ์มาสองชุดเลยนะ  เสร็จแล้วเอาไปวางบนโต๊ะที..เดี๋ยวครูต้องไปประชุมต่อเดี๋ยวจะกลับมาดู"
   “ครับ'จารย์"
   “ฝากล็อคห้องด้วยนะก่อนกลับ"
   “ครับ"

   ..ที่จริง'จารย์แกคงเป็นห่วงไม่ใช่น้อยทีเดียวถึงได้ปลีกตัวแว่บมาดูผมเนืองๆ..แต่เพียงไม่นานก็ทิ้งห้องให้ผมนั่งเฝ้าอีกครั้ง..

   ผมชอบเสียงการทำงานของเครื่องพิมพ์เอกสารห้องนี้..มันไม่ได้กระโชกโฮกฮากเหมือนเครื่องพิมพ์ราคาถูกทั่วไป  มันลื่นไหล..จนถ้าเพียงแต่หลับตาก็แทบจะจินตนาการถึงคลื่นลมทะเลได้ด้วยซ้ำ..
   ..ภาพถ่ายที่ดี..เพียงแค่เห็นประกอบกับการอ่านชื่อภาพ..ก็ต้องเข้าใจอารมณ์ได้โดยไม่มีคำอธิบาย..
   ผมควงปากกาในมือระหว่างคิดและเขียนชื่อภาพลงในสมุดโน้ต  รหัสภาพทุกภาพถูกเขียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยลายมือของผมเอง  อาจจะดูเหมือนผมเสียสละเวลามานั่งทำอะไรที่มันเกินความจำเป็นอย่างการคัดลายมือแบบนี้..แต่ช่วยไม่ได้  นี่เป็นนิสัยที่ผมแก้ไม่หายจริงๆ..
   พูดไป..คงไม่ใช่นิสัยที่จำเป็นต้องแก้เท่าไหร่หรอกมั้ง..
   หลังจากเสียเวลาไตร่ตรองมาครึ่งค่อนวัน  บทสรุปเป็นเพียงคำสั้นๆที่ไม่ต้องการทำอธิบาย..



   'LEFT'


   ..คือชื่อเซ็ตของภาพนี้..




   เมื่อเห็นว่าเครื่องปริ้นท์ทำงานของมันเสร็จสมบูรณ์แล้วผมก็กดสั่งพิมพ์เพิ่มอีกชุดหนึ่ง  แล้วหยิบเซ็ทที่เสร็จแล้วมาบรรจุใส่ซอง  ตัดกระดาษแปะกำกับไว้อย่างดีว่าอะไรเป็นอะไร..ก่อนจะเดินนำไปวางไว้บนโต๊ะอาจารย์..

   ข้อดีของการเป็นนักเรียนโรงเรียนเกษรวิทยาคือมีอุปกรณ์เทคโนโลยีรองรับโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท..แต่ดูเหมือนผมจะเป็นคนเดียวที่มาใช้แรงงานเจ้าเครื่องปริ้นท์เลเซอร์นี่ซะเยอะ..อย่างว่า..ผม..เป็นคนเดียวของโครงการความสามารถพิเศษที่ถูกคัดเลือกมาด้วยภาพถ่าย..ทั้งๆที่ชมรมถ่ายภาพของโรงเรียนก็มีสมาชิกไม่ใช่น้อยทีเดียว..




   “ขออนุญาตค่ะ"


   เสียงเปิดประตูดังขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา  ผมหันไปมองด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่างทั้งที่ควรจะรู้อยู่แล้วว่าเสียงหวานๆหางเสียงเพราะๆแบบนั้นไม่ใช่เสียงของผู้ชายเป็นแน่..แต่ก็อดจะหันไปมองไม่ได้...

   ..ด้วยหวัง..อะไรสักอย่าง..


   โยเกิร์ตเป็นสาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นที่มีรูปร่างดีจนผู้ชายครึ่งโรงเรียนจับตามอง  ด้วยผิวขาวจั๊วะของเจ้าหล่อนทำให้ป็อบไม่น้อยทีเดียวในบรรดาคนที่เรียนชั้นปีเดียวกัน..แต่ก็อย่างว่า..หล่อนดูเหมือนจะชอบผู้ชายที่อายุมากกว่าตัวเองปีนึงอย่างผมนิดหน่อย..แม้ช่วงหลายวันมานี้เราจะไม่ค่อยได้เจอกันมากก็เถอะ..
   ..เพราะโยเกิร์ตไม่ได้เสีย 'ครั้งแรก' ให้กับผม..นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เธอยังแวะเวียนมาบ้างบางโอกาส..
   ......แต่ครั้งอื่นๆน่ะผมไม่รู้หรอกนะ  ไม่ทันนับ..


   ดวงตากลมโตจนเกินพอดีคู่นั้นมองมาทางผมพร้อมรอยยิ้ม
   “อยู่ที่นี่จริงๆด้วย"
   ผมไหวไหล่ "ครับ..ทำงานน่ะ"
   “งานอะไรเหรอคะ?”
   “งานประกวดภาพถ่ายของนิตยสารสัตว์เลี้ยงน่ะครับ  ดูมั้ย?"
   ผมถามเป็นมารยาทไปอย่างนั้นละครับ  รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ใช่คนที่สนใจในอะไรแบบนี้..ซึ่งจริงอย่างที่ผมคาดการณ์  อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยิ้มระรื่นแล้วโคลงหัวปฏิเสธเท่านั้น

   “โยเกิร์ตมาหาเทียนต่างหาก"

   หล่อนไม่เรียกผมว่าพี่..ผมไม่ได้ติดใจอะไรนักหรอกเรื่องนั้นน่ะ..


   ที่ผมอยากจะถอนหายใจออกมาเป็นเพราะการกระทำของหล่อน  ที่เดินเข้ามาถือวิสาสะนั่งตักผมราวกับว่าหล่อนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ  แต่อย่างว่าคือ..นี่เป็นอุปนิสัยที่ไม่ได้น่าเกลียด  เพราะห้องนี้มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น..และไม่ใช่สิ่งที่จะกระทำลงไปโดยไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนซะด้วย..
   ...เสียงเครื่องปริ้นท์ยังทำงานไม่เสร็จ...นั่นเป็นการดี...
   ...มันอาจจะช่วยลดความกระดากอายของพวกเราลงไปได้นิดหน่อยตอนที่จูบกัน..........
   ผมไม่รู้หรอกว่าริมฝีปากหรือปลายลิ้นของเราแตะต้องกันเมื่อไหร่..แต่ผมเองก็ไม่ใช่คนที่จะปฏิเสธอะไรพวกนี้อยู่แล้ว  และโยเกิร์ตกับผมก็เป็นคนคุ้นเคยกันมาก่อน...

   ไม่นานอีกฝ่ายก็เป็นคนผละออก  แล้วยกมือคล้องรอบคอผมพร้อมยิ้มหวาน


   “เย็นนี้ว่างมั้ยคะ?”


   ...ผมรู้ว่าบทสรุปของคืนนี้เป็นยังไง..
   ...แต่น่าประหลาดใจที่ผมไม่ยักกะมีความรู้สึกอยากตอบสนองอารมณ์ใคร่ดังกล่าวสักนิด..

   “อา...”
   ผมปรือตา  มันไม่อยากเลยที่จะหาถ้อยคำมาปฏิเสธ..เรื่องแบบนี้มันยากตรงที่เราจะพูดคำพูดพวกนั้นออกมายังไงเสียมากกว่า  และมันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสียงเครื่องพิมพ์หยุดลงพอดี..
   “ขอโทษนะ  ผมมีธุระน่ะ"

   “ว้า~” หล่อนดูไม่ค่อยยใส่ใจคำพูดปฏิเสธของผมสักเท่าไหร่ "วันนี้นึกว่าจะได้อยู่กันเทียนซะอีก..."

   การขยับขาไปมาแบบนั้นบนหน้าตักผม..คงจะเป็นการยั่วยวนทางหนึ่งที่ผมเคยชินไปแล้วล่ะ  ดังนั้นสิ่งที่ผมทำไม่ใช่การคล้อยตามเจ้าหล่อน...ผมไม่ใช่ผู้ชายขี้อายที่ยังซิงหรือพวกวัยรุ่นอยากรู้อยากลองอะไรเพราะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้สักพักแล้ว  แต่โยเกิร์ตก็ยังคิดอยู่ว่าการกระทำแบบนั้นจะทำให้ผมเปลี่ยนใจได้
   คู่สนทนาขยับยิ้มอีกครั้งที่ไม่เห็นว่าผมพูดอะไร  แล้วชะโงกหน้าเอาริมฝีปากมาคลอเคลียผมเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆแบบที่เธอจินตนาการไปเองว่ามันน่ารัก...ซึ่งว่ากันตามตรงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก  เพียงแต่ตอนนี้...ผมหมดอารมณ์อย่างสิ้นเชิง..

   “...ผมต้องไปแล้ว"

   ผมกระซิบชิดริมฝีปากหล่อน  โดยที่ไม่ได้ขยับอะไรตอบสนองเหมือนเคย

   อีกฝ่ายผละออกทันที  แล้วทำหน้าบูด
   “อะไรกัน! ไม่เจอกันพักเดียวเทียนเย็นชาขึ้นนะ..”

   ..ผมเบื่อการแสดงตัวเป็นคาสโนว่าเจ้าสเน่ห์เต็มทนแล้วล่ะ..
   การไม่ได้พูดปฏิเสธอะไรออกไปดูจะเป็นการดีที่สุดในกรณีแบบนี้  ผมขยับตัวเล็กน้อยเป็นการบอกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นออกไปโดยที่ไม่ต้องพูดจา  โยเกิร์ตทำหน้าบึ้งตึงใส่ผม..แต่แน่นอนว่าผมไม่สนใจนักหรอก


   ผมชัทดาวน์เครื่องคอมพิวเตอร์ในทันที  แล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายพาดบ่า  ก่อนจะเดินไปหยิบภาพที่เพิ่งอัดเสร็จจากเครื่องปริ้นท์โดยไม่เหลียวแลเด็กสาวคนนั้นสักแอะ

   แน่นอนว่าคนๆนั้นทนเหตุการณ์นี้ได้ไม่นานนักหรอก
   “โยเกิร์ตเห็นว่าเทียนเพิ่งยัยข้าวฟ่างนั่นแล้ว  คิดว่าจะเหงาซะอีก"
   “เหงา?” ผมเลิกคิ้วทวนคำ "ผมดูเป็นคนขี้เหงาขนาดนั้นเลยหรือ?”
   “.............โยเกิร์ตหวังดีนะ!”
   “ครับ  ขอบคุณ"
   “เทียน!”

   ..รำคาญ..
   ...รำคาญจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว..

   ทำไมผมต้องมาทนต่อล้อต่อเถียงกับพวกผู้หญิงที่ฟังความอะไรไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้ด้วยนะ  ไม่เข้าใจว่าต้องให้ผมย้ำคำสักเท่าไหร่มันถึงจะพอ..ผมชักงงตัวเองว่าเมื่อก่อนผมพูดจาดีๆอดทนทำตัวหล่อๆมีมาดอยู่ไปทำไม..

   ...หรือเป็นผมเอง..ที่เปลี่ยนไป?

   ผมไม่อยากเสียเวลาคิดเรื่องแบบนั้นให้รกสมอง  จะมาชักช้าอยู่ทำไม...เพราะมีสิ่งที่หวานล้ำกว่านั้นรอผมอยู่...



   “ไปทอดกายให้กับคนอื่นเถอะโยเกิร์ต  คนอย่างผมไม่เหมาะกับคุณหรอก"



   แรงไปรึเปล่านะ?  ไม่หรอก...เพราะคนฟังได้แต่ยืนอึ้งไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ...

   ต่อให้พรุ่งนี้ข่าวลือไม่ดีจะกระจายไปทั่วโรงเรียนผมก็คงไม่แคร์มันอีกต่อไปแล้วล่ะ..หมดมาด..หลุดเก๊ก..ไม่ใช่  ที่ผมทำตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่มาดหรือเก๊ก  ใช่..อยู่ดีๆผมก็รู้สึกเบื่อผู้หญิงพวกนี้ขึ้นมาดื้อๆ  หรือควรจะเบื่อมาตั้งนานแล้วแต่ผมไร้ความรู้สึกเกินไป?  เย็นชา?  ใจร้าย?...มันน่าจะเลวร้ายกว่านั้นเยอะนะ..

   ผมเดินลงมาจากชั้นบนเชื่อมไปที่อาคารเด็กเส้น  แล้วเดินลงบันไดไปอีกสองชั้นกว่าจะถึงชั้นที่ผมต้องการ



   ....เปลี่ยนไป....

   ....การกระทำแบบนี้ไม่ได้เหมาะกับผมเลย....




   นอกจากอาจารย์เปียแล้วมีอีกคนหนึ่งที่ผมอยากให้เขาช่วย..ช่วยพิจารณาและวิจารณ์รูปถ่ายของผมอย่างซื่อตรง  อยากให้เขาเห็นผมงานของผมที่ผมแสร้งทำเป็นว่าไม่ตั้งใจทำมันมาโดยตลอดทั้งๆที่มันไม่ใช่เลย..
   ...พวกผู้หญิงพวกนั้นไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผมชอบถ่ายรูป..ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผมชอบกินอะไรหรือบ้านอยู่แถวไหน...

   นั่นคือความต่าง....ที่ทำให้ผมติดใจในตัวอักษร  อัครมณฑา...


   ผมไม่ต้องเสียเวลาเคาะประตูห้องเรียนของเด็กเส้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่5เลยสักนิด  เพราะความมืดสนิทจากด้านในบ่งบอกอยู่แล้วว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลยแม้แต่คนเดียว  นาฬิกาเพิ่งบอกเวลาสี่โมงกว่า..นั่นหมายถึงคลาสเพิ่งจะเลิกได้ไม่นานนัก...และการที่อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในห้องก็มีเพียงไม่กี่ที่หรอกที่เขาจะไป...
   ..หวังว่าผมคงไม่เสียเวลาเดินตามหาเขาทั้งโรงเรียนหรอกนะ..

   ผมเดินข้ามกลับไปที่ตึกเดิมอีกครั้งเพื่อตรงไปยังห้องประชุมกรรมการนักเรียน  ภายในก็โล่งชนิดที่ไม่มีใครอยู่เหมือนกัน

   “..ไปไหนกันนะ..?”

   ทำไมผมถึงเป็นฝ่ายเดินตามหาเขาล่ะ?  เขาสิ..ควรจะเป็นฝ่ายเดินตามหาผมไม่ใช่หรือ?
   ...เหมือนที่เขาทำอยู่ทุกวัน...
   เกลียดตัวเองที่กระวนกระวายด้วยเรื่องไร้สาระนี่ชะมัด...

   ผมถอนหายใจ  รู้สึกเหมือนตัวเองได้กระทำสิ่งซึ่งบ้าลงไปเอามากๆ..


   “เฮ้ยเทียน!”


   บอกแล้วใช่มั้ยครับว่าผมถูกฝึกฝนมาให้ไม่มีท่าทีสะดุ้งตกใจกับการทักทายฉุกละฮุกที่เกิดขึ้นบ่อยแบบนั้นอีกแล้ว  ผมหันไปหาเจ้าของเสียงคุ้นเคยที่ยกมือทักทายผมด้วยรอยยิ้มสดใสสมฉายาเจ้าชายแห่งโรงเรียนเกษรวิทยานั้น..แล้วทักตอบ
   “ไง สีคราม"
   เขายังไม่ยอมหุบยิ้ม “ได้ข่าวว่าช่วงนี้ยุ่งๆเหรอ?  เหนื่อยแย่เลยล่ะสิ?”
   “นายต้องเหนื่อยกว่าฉันสิ...เตรียมงานใหญ่เลยไม่ใช่เหรอ?  เรื่องจะไปเรียนต่ออเมริกา?”
   “โอ้" อีกฝ่ายพยักหน้า "ขอบคุณนะ  แต่ไม่ยากเกินความพยายามหรอก"
   ..พวกเด็กเส้นนี่ถูกเลี้ยงดูมาให้มองโลกในแง่ดีเสมอเลยรึไงกันนะ?
   สีคราม  โกสินทร์วิตรม..เป็นเพื่อนในรักร้ายอีกคนที่ผมรู้สึกว่าการได้แกล้งแหย่เขาเล่นมันสนุกไม่เบา...แต่การกระทำหยอกล้อแบบนั้นดูไม่เหมาะกับผมเท่าไหร่นักผมเลยเลือกที่จะไม่ทำซะส่วนใหญ่ทั้งๆที่มีโอกาสมากกว่าใคร  เขายกมือกำลังจะขอตัวเดินขึ้นชั้นบนต่อ  แต่จู่ๆผมก็คิดอะไรขึ้นได้..


   “สีคราม"

   “หืม?”

   “...เห็นอักษรมั้ย?”


   เพื่อนผมคนนี้เป็นคนแยกแยะเรื่องราวต่างๆได้เก่งกาจ..และฉลาดมากพอที่จะไม่เปิดเผยความลับให้คนอื่นได้รู้...


   เขากระพริบตาปริบๆ  ทำเพียงแค่ตอบคำถามของผม

   “กลับไปตั้งแต่บ่ายแล้วล่ะ  เห็นว่า.........”


   '..and the angle came by, and took me to heven...'

   พลันเสียงริงโทนของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นก่อนโดยที่ยังไม่ทันจบประโยค  สีครามรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วยกมือขอโทษขอโพยผม

   “'โทษทีนะต้องรีบไปก่อน! โทรหาอักษรดูนะ..มีเบอร์ใช่มั้ย?”
   ..แล้วผมจะปฏิเสธอะไรได้วะ.. “โอเค  มี  นายไปเถอะ"
   “ขอโทษนะเทียน"
   “ไปเถอะน่า  รีบไม่ใช่เหรอ"

   พ่อเจ้าชายยกมือขอโทษผมตลอดทางที่เขาวิ่งลงบันได  จนรับสายตาไปนั่นแหละผมถึงได้ถอนหายใจ

   ...กลับไปแล้วงั้นหรือ?

   ก็รู้หรอกนะว่าธุระปะปังเขาเยอะจริงๆอย่างที่เคยเห็นๆอยู่ทุกวัน  แล้วก็ไม่ได้นึกน้อยใจอะไรด้วยที่เขาหายหน้าหายตาไปโดยไม่บอกผม  มันเป็นเรื่องของเขา..แต่ให้ตาย  ในอกนี่มันโหวงๆชอบกล..

   ผมเดินไปเปิดประตูห้องส่วนตัวของอักษร(ที่ผมสถาปนามันขึ้นมาเอง)  เคราะห์ดีที่มันไม่ได้ล็อคห้องอย่างที่ผมคิดเอาไว้  ทุกอย่างในนั้นเหมือนเดิมเมื่อตอนกลางวัน..เพียงแค่หน้าต่างที่ปิดและภายในมืดกว่าเดิมเล็กน้อยก็เท่านั้น  อักษรคงไม่ได้แวะมาที่นี่เหมือนที่ผมคิดเอาไว้  แต่ช่างเถอะ...
   รูปถ่ายที่ไม่ได้เก็บเข้าซองชื้นอยู่ในมือ  มันไม่ดีนักที่จะถือพวกมันเดินไปเดินมาด้วยมือเปล่า  ผมวางพวกมันลงบนโต๊ะและยกมือปาดให้แต่ละรูปโชว์ความงามของมันที่โดดเด้งขึ้นมา..



   เอาเถอะ..


   ผมหยิบรูปถ่ายใบนั้น..ใบที่ไม่ควรอยู่ใน12รูปที่ผ่านการคัดเลือกนั้นออกมาจากกอง  แล้วเดินตรงไปที่หน้าบอร์ดที่ผนังห้อง

   ...ก่อนจะติดมันที่มุมหนึ่ง..ข้างๆที่เป็นตารางสอนของห้องเรียนของผมเอง...




   ผมไม่ได้ทำอะไรอีก 


   ....นอกจากเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อยืนยิ้มกับมัน..อย่างภาคภูมิใจ














TBC




=================




ไม่มีอะไรจะพูด อยากจะบอกว่าวันนี้ง่วงมาก 555555




ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ


ozaka*




 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2012 13:39:26 โดย ozaka »

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
ว๊าววว เ้ทียน มาแล้ว บอลพักครึ่งพอดีเลย

รีบไปอ่านก่อน
........................................

เทียนยังเสน่ห์แรงเหมือนเคย สาวตามได้ไม่เว้นแต่ละวัน
ชอบที่เทียนเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองเปลีั้่่ยนไปแล้ว
จริงๆเปลี่ยนมาได้ซักพักแล้วล่ะนะ ตั้งแต่อักษรเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตนายนั่นแหละ นายเทียนเอ้ย (รู้ตัวช้าจัง  :pigha2:)

และสุดท้าย....
 :z3: :z3: :z3: อ๊ากกกก.......
บนบอร์ดนั่นรูปอะไรค๊าาาา.....ถึงกับทำให้นายทีปพิพัฒน์ยืนยิ้มกับรูปนั้นได้เป็นครึ่งชั่วโมง
ใช่รูปอักษรรึเปล่า??? อิอิ  :kikkik: :kikkik:

+1 ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2012 03:08:50 โดย Mc_ma »

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ว่าแล้วก็จิ้มมมม o13

ออฟไลน์ fuwa79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z1:เทียนเอ๋ย นายเสร็จอักษรแน่แล้ว
กับคนที่ผ่านสังเวียนมาขนาดนี้
แ่ค่เตะไหล่ยังเคลิ้มอะ
ทำอะไรก็หน้าแดงใจเต้น
แถมยังเบื่อมารยาผู้หญิงอีก

นี่ชอบมารยาผู้ชาย แอร้ย ไม่ใช่ ชอบความรักอันบริสุทธิ์ของอักษรเข้าแล้วใช่ไหม
แต่เรื่องนี้เคะหยอดตลอดเลยน้า
จีบก่อนก็แล้ว
ไอ้ประโยค ก็อยากน่ามองทำไมมม นี่ทำเอาอ่านเขินตามเลย

แล้วทำไมไม่ป้อนละ แบบปากต่อปากอ้าาาา
ไม่ดีไม่ดี ห้ามหื่นแถวนี้
อักษรน่ารักเกินอะ เกินจะห้ามใจคนอ่านจริงๆ อิๆ
มีอายตอนเห็นตารางสอนน นี่มันรักสมัยสดใสร่าเริงของหนุ่มๆ มอปลายเป็นแน่แล้ว
 แต่ที่หายไป ไม่ใช่ว่ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับบ้านเทียนอีกใช่ไหม

แบล็คกรานด์ดาร์คสุดๆ เลยมีลุคมืดมนซะ เมะเรื่องนี้
ยังดีมีความสดใสอย่างอักษรเข้ามาในชีวิตบ้างอะนะ
จะว่าไป น่าจะชื่อสลับกันนะคะ
ก็ดูเหมือนคนให้ความสว่างสดใสแก่ชีวิตจะเ็ป็นอีกฝ่ายมากกว่า
แต่เทียนที่มีวันดับยังน้อยไปสำหรับรอยยิ้มและการทำให้โลกของอีกฝ่ายสว่างขึ้น
แทนที่จะชื่อเทียน น่าจะชื่อ อาทิตย์ หรือไม่ ก็ซัน อะไรงี้ดีกว่า

ว่าแต่ไอ้ที่ยืนปลื้มอยู่ ครึ่ง ชม นี่นายเป็นเอามากวะเทียน
บอกตามตรง นายไม่รอดหรอก เชื่อเหอะะะะะ หุๆ  :m20:


bowstory2

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้อ่านแล้วยิ้มแก้มแตกเลย ^___________^
ชอบที่เทียนไขอ่อนโยนขึ้นมากเวลาอยู่กับอักษรจัง ><

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
เทียนเริ่มอ่อนให้อักษรแล้ววว><

maii

  • บุคคลทั่วไป
สมกับที่รอมานาน  o13

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ความรักมันทำให้เค่อยๆเปลี่ยนไปแหละเทียน สำหรับเทียนถือว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะเนี่ย :-[
แต่อักษรกลับบ้านก่อนแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่านะ เป็นห่วงจัง :กอด1:

sirary2

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็มาแล้ว..เย้
ดูตอนนี้เทียนเริ่มหวั่นไหวกับอักษรเเล้ว
เราก็หวั่นไหวตามไปด้วย
ว่า แต่เมื่อไรเทียนจะเปิดเผยบ้าง 55+

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
แปะก่อน
+++++++++++++++++++++++++
กรี๊ดกร๊าดดดดดด หนูน้อยอักษรน่ารักชิมัดเลยค่า!!!!
ส่วนเทียนก็เริ่มอ่อนลงเรื่อยๆแล้วน้า เมื่อไรจะได้สวีทกันเต็มตัวเสียที~
(แอบเห็นแกบอกว่าอักษรหวานล้ำด้วยใช่ป่าว กิ๊บกิ๊วๆๆๆๆๆ)
อ่านเรื่องนี้แล้วไม่รู้ทำไม....ว้อทน์ดราม่าอ่ะ 5555555555
รอตอนต่อไปค่าาาาาาาา

ปล.อร๊ายยยยยยยย ชะนีโผล่ อี๋ๆๆๆๆ -3-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2012 11:44:45 โดย pp4 »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอตอนต่อไปจ้า พี่โอซากะ :call:

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เราชอบเรื่องนี้นะ
เพราะบรรยากาศที่อุ่นๆ หวานๆ ที่แผ่ออกมาตลอดนั่นเอง
ต่างจากเรื่องก่อนๆ ของรักร้าย คนเขียนเก่งจังค่ะ

อยากรู้จังว่า เทียนไขจะหลงอักษรแล้วแสดงออกแบบไหนนะ
คิดถึงสีครามกานดา

preawtefa

  • บุคคลทั่วไป
นายชอบอักษรแล้วล่ะซี่~~~~ 55555
ฉันรู้ทันนะเทียน!!

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เทียนไขเริ่มละลายแล้ว  :laugh:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
รับเขาเข้ามาทั้งใจแล้วหนุ่มเอ้ยยย


หึหึ เทียนไขกลายเป็นคนไม่มีเปลือก ตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ เอาแต่นึกถึงใครบางคนตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ รอเวลาที่หนุ่มน้อยจะเข้าใจตัวเอง และเรียนรู้ว่ารักที่แท้จริงที่จะอยู่เคียงข้างกันมันมีอยู่จริง

พี่เชื่อว่าต่อไป เทียนไขของพี่จะไม่มีทางโดนทอดทิ้งจาก ผู้ชายที่ชื่อ อักษร แน่นอน  :กอด1:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
เทียนกำลังเปรียบเทียบอักษรกับผู้หญิงเหล่านั้นอยู่โดยไม่รู้ตัว
เริ่มรู้สึกว่ารำคาญ เริ่มรู้ตัวว่าเปลี่ยนไป เริ่มรู้สึกกระวนกระวาย
เริ่มยอมรับและแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมามากขึ้น
การยิ้มกับรูปถ่ายน่ะ มันทำให้เรายิ้มตามและเขินเล็กน้อย :o8:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้อักษร*เทียนไขสินะ  :o8:
หยอดเข้าไป เขิล 55555555555555
เทียนไข นายเบื่อผู้หญิง.. ชัดเจน!!!!  :-[
ตอนบ่ายอักษรไปไหน ว๊ากกกกก อยากรู้เรื่องน้อง /ห้ะ น้องมาจากไหน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด