__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 571032 ครั้ง)

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
น่ารักไปไหนนนนนนนนนน♥♥

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เทียนเริ่มหวั่นไหวแล้ว อย่าดราม่าน้าสงสารเทียน

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
มาอัพต่อเร็ว ๆ ท่านโอที่น่ารัก.....
อีกเรื่อง แฟนผมเป็นโอตาคุ...มาอัพต่อให้อ่านด้วยเหมือนกัน...
และถ้ายังมีกำลังเหลือที่จะแต่ง
เอาลาล่ามาคู่กะดาวเสาร์ให้หน่อย..แบบจิตอ่ะ..ชอบพวกเงียบ...และเหมือนตัวเองร้ายมาก ๆ
จับมาคู่กะคนที่ออกจะซื่อสุด ๆ แบบลาล่านี่ล่ะช๊อบชอบ.... :call: :pig4:

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาซะทีสิค้าบคุณพี่ๆๆ  :z3: :z3:  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

seiolp

  • บุคคลทั่วไป
ขอโทดคร้าบที่หายไปนานนนน
เปิดเทอมแล้วไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาอ่านเลยยย

อยากบอกว่าเทียนไขนายจะใจอ่อนแล้วใช่ม่ะหล่ะ
อักษรนายก็น่ารักมากกกก
แต่... น้องธูปน่ารักที่สุด 55

อยากบอกโอละไมว่า เธอทำให้เรายิ้มตลอดเลย :))

ปล.เรารอตอนต่อไปอยู่น่ะ

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog







8th Day : Reasons for..











   ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีในความมืดมิด..

   ..ได้ยินเสียงบางอย่างจากด้านนอก..มันทำให้ผมรู้สึกไม่สู้ดีเอาซะเลย..




   หลังจากตั้งสติได้ก็ยันกายลุกขึ้นมานั่งดีๆ  ผมใช้เวลาไม่นานในการควานหาปุ่มเปิดโคมไฟที่หัวเตียง..หรี่ตาลงมองนาฬิกาบนผนังห้อง..มันเพิ่งบอกเวลายังไม่ตีสี่ดี..ยังไม่ใช่เวลาที่ยายจะตื่น..และนั่นทำให้ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในบรรดาเสียงแห่งความกระวนกระวายเหล่านั้น..
   ...และรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล..
   ผมกลับเลือกที่จะนั่งอยู่ที่เดิม..เพื่อรอให้ประตูห้องเปิดออกด้วยเหตุอะไรบางอย่าง
   ...แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้น...

   “.......”

   ได้ยินเสียงพูดอะไรบางอย่างที่ผมฟังไม่ออกนัก  แต่เท่าที่รู้คือนั่นเป็นเสียงยาย
   ตามมาด้วยเสียงลากเก้าอี้เพียงแปปเดียว  แต่กระแสความตื่นตระหนกอย่างน่าใจหายก็แทรกซึมผ่านมาทุกรูรั่วของห้อง

   ผมลุกขึ้นยืนในไม่กี่วินาทีถัดมา  เพื่อลากตัวเองที่ยังมีสติไม่เต็มนักเดินไปที่ประตู  ทันทีที่ผลักมันออกก็ต้องยกมือปิดตาด้วยแสงไฟจ้าฉับพลัน..มันทำให้รู้สึกมึนตึงไปวูบหนึ่ง 
   แล้วเสียงยายจะดังขึ้นในเวลาต่อมา..

   “ยายทำให้ตื่นเหรอเทียน?”

   การกระพริบตาปริบๆทำให้แก้วตาปรับแสงได้เร็วขึ้น  ผมเห็นยายนั่งอยู่ตรงนั้น..บนเก้าอี้ข้างโต๊ะกินข้าว..ด้วยใบหน้าอิดโรยกว่าตอนก่อนที่ผมจะเข้านอน  หรือบางทีผมอาจจะคิดไปเอง..ผู้หญิงตอนตื่นนอนทุกคนคงหน้าตาแบบนี้กันทั้งนั้น..เพียงแต่ผมไม่เคยเห็นใบหน้าแบบนี้จากยาย..มันก็เท่านั้นเอง..
   ..มีบางอย่างแปลกไป..
   ไม่ใช่รอยยิ้มที่มอบให้ผมแบบนั้น  เพียงแต่อะไรบางอย่างทำให้ผมต้องถามไปว่า
   “มีอะไรรึเปล่าครับ?”
   “เปล่า..เปล่าหรอกจ้ะ" ยายตอบผมทั้งรอยยิ้ม "ไปนอนต่อเถอะไป  เราเพิ่งได้นอนเองนี่...”
   “ยาย...”
   พอเห็นผมเดินเข้าไปใกล้  ยายก็ก้มหน้าไม่ได้พูดอะไร

   ผมเดินเข้าไปจนถึงโต๊ะกินข้าว  เพื่อคุกเข่านั่งเงยหน้ามองอีกฝ่าย..ท่านตัวเล็กลง..หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะผมตัวโตขึ้นจากในอดีตมาก มือบอบบางที่ผมประคองมันขึ้นมาเลยดูจะแตกหักลงไปได้แบบนี้..

   “ยายครับ..”

   ..สิ้นคำทำนบน้ำตาก็ทะลักออกมาทันที..
   ยายไม่ได้ร้องไห้สะอื้นเสียงดังหรือโวยวายอะไร  ดวงตาพร่ามัวของแกแค่มีน้ำใสๆรินไหลออกมา..ตอนที่เลื่อนมือมาลูบแก้มผมช้าๆด้วยมือสั่นเทาคู่นั้น


   “บางที...ยายก็ลืมไปเหมือนกันว่าเทียนของยายโตขนาดนี้แล้ว...”
   ผมไม่ได้พูดอะไร..คิดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่ต้องพูดอะไรขัดยายออกไปในตอนนี้..
   “ยายยังจำวันที่เทียนเกิดมาวันแรกได้อยู่เลย..เทียนตัวเล็กแค่นี้เอง...” ท่านยกสองมือขึ้นมาประคองอากาศ..คล้ายกับว่ากำลังย้อนภาพไปไกล "น้ำหนักแค่3กิโลกว่าๆ..ผมยังมีแค่กระจุกเดียวด้วยซ้ำ....เวลาผ่านไปแปปเดียวก็ตัวโตขนาดนี้แล้ว..แถมยังกางปีกบินได้เองแล้วด้วย...”

   ..เวลาแบบนี้คนปกติต้องพูดอะไรกัน..
   ผมนึกไม่ออก  ไม่มีแรงแม้แต่จะนึก

   ความจริงมันก็สรุปได้เพียงประเด็นเดียว..เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ยายที่เข้มแข็งของผมดูอ่อนแอขนาดนี้ได้  เรื่องนั้นทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมีจุกออยู่ที่คอ...แต่ก็ต้องพูดออกไป..



   “เรื่อง 'แม่' ใช่มั้ยครับ..?”



   ยายขยับปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง  ก่อนจะพยักหน้า
   “...มีอะไรเกิดขึ้นอีกงั้นเหรอ...”
   แรกทีเดียวผมคิดว่าอีกฝ่ายจะแกล้งเฉไฉไปเรื่อย..แต่ยายกลับเลื่อนมือมาแตะไหล่ผมไว้

   มันทำให้ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่อาการรำพึงรำพันเหมือนทุกที  ที่นานๆครั้งยายจะลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยอาการกระสับกระส่าย  และร้องไห้โดยไม่ให้ผมกับก้านธูปเห็น



   “ฟังแล้วตั้งสติไว้นะเทียน"

   คู่สนทนาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  กลับมาเป็นยายที่เข้มแข็งสุดๆของผมคนเดิม..แต่นั่นหมายถึงเมื่อครู่ยายรับโทรศัพท์สายสำคัญสุดๆ  แหงล่ะ..ถ้าไม่สำคัญจริงใครจะโทรมาในเวลาแบบนี้กันเล่า...





   “..ชาร์ล็อตหนีออกจากโรงพยาบาล...เมื่อครู่นี้เอง..”










----------










   ..กลิ่นอับของชั้นหนังสือไม้เก่าๆ..ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกว่าที่คิด..
   ..อย่างน้อยก็ดีกว่าจมปลักอยู่ในสถานที่ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ได้เมื่อไหร่..


   ผมกำลังพลิกหน้ากระดาษเพื่อไล่สายตาอ่านนิตยสารปักษ์หลังประจำเดือนธันวาคม  มีข่าวที่ค่อนข้างหน้าตื่นตากับการรวมตัวกันของช่างกล้องแนวหน้าVsสาวเซ็กซี่รวม30กว่าชีวิตในอัลบั้มบุกป่า..ซึ่งผมขออนุญาตตีความว่าเป็น 'ปลุกใจเสือป่า' อย่างไรก็ดี..การได้อยู่ท่ามกลางสาวเซ็กซี่พวกนั้นก็เป็นความฝันของผู้ชายเกือบทุกคนอยู่แล้ว..แต่ผมก็ไม่ได้อิจฉาอะไรหรอกนะครับ

   “FHM...?”
   ใครสักคนวางหนังสืออีกเล่มหนึ่งตรงหน้าผม  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตาตื่นใจ
   “นี่คุณอ่านนิตยสารอะไรแบบนี้ด้วยเหรอครับเนี่ย?”

   ผมไม่ต้องเสียเวลาเดาหรอกว่าใครเป็นคนทักขึ้นมา..แล้วก็ไม่ได้เงยหน้าด้วยซ้ำ
   “...มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งน่ะ"
   เขายิ้ม "ผมไม่เถียงเรื่องนั้นหรอก"
   “อือหึ..”
   “วันนี้คุณมาสาย...”
   “เมื่อเช้ามีเรื่องนิดหน่อย"
   ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาเพียงวูบเดียวแล้วหลุบลง  การโพล่งขึ้นไปเหมือนเตรียมคำตอบมาแล้วแบบนั้นช่างดู..ไม่เข้าท่าเอาซะเลย  แถมยังให้ความรู้สึกมีพิรุธชะมัด..และผมไม่ชอบมัน
   “..น้องก้านธูปไม่สบายเหรอครับ?”
   “เปล่า  แข็งแรงดี"

   “งั้นก็..คงเป็น 'เรื่องอื่น' ..."

   เสียงนั้นลดลงคล้ายกับว่าคู่สนทนาพูดไม่ออก  นั่นทำให้ผมต้องหันควับกลับมามองเขาอีกครั้ง


   อักษรยังคงมีรอยยิ้มบางๆทาบอยู่บนหน้า..เพียงแต่ดวงตาใสแจ๋วคล้ายเด็กทารกนั่นกลับก้มลงมองหน้าปกหนังสือในมือโดยที่ไม่สนว่าผมจะมองเขาอยู่หรือเปล่า  เขาไม่ได้พูดอะไร..และไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไรเร็วๆนี้ด้วย...
   ...มันทำให้ผมรู้...
   .......ความรู้สึกอะไรบางอย่าง...เจ็บแปลบอยู่ในอก...



   “คุณคิดไปถึงไหนกันน่ะ?”
   ผมถามเขา..ด้วยน้ำเสียงที่ออกอารมณ์ฉุนเฉียวไปโดยไม่ตั้งใจ
   “ครับ?”
   “ผมถามว่าคุณคิดไปถึงไหน?”
   “เปล่านี่ครับ" เขาเอียงหน้า "ผมจะคิดอะไรได้"
   “อักษร"
   “...ได้โปรด  อย่าเพิ่งเรียกชื่อผมตอนนี้"

   ผมถอนหายใจ..แต่ยังไม่ละสายตาไปจากคนตรงหน้า  ความรู้สึกผิดบ้าๆเกาะกุมอยู่ที่หัวใจ..จากการที่เห็นเขาแสดง 'สีหน้า' ฝืนๆออกมาจนผมจับสังเกตได้  นี่เป็นความผิดของผมเหรอ? ความผิดที่ทำให้อีกฝ่ายคิดมากไปเองแบบนี้?
   ..อักษรไม่ใช่คนโง่..แต่ต่อให้เขาฉลาดขนาดไหนก็คงนึกถึงเรื่องอื่นไปไม่ได้..
   ....และสิ่งที่ผมทำมาตลอดไม่ใช่เครื่องพิสูจน์อะไรเลย...

   "......ผมไม่ได้ไปไหน  ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง"

   ..เขาไม่พูดอะไร..
   “เลิกคิดได้แล้ว"
   “ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนี่" เขาเถียงควับ "ผมบอกคุณแล้วว่าผมห้ามเรื่องนั้นไม่ได้"
   ..อยากจะบ้าตาย.. “ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ไปกับผู้หญิง"
   “คุณจะไปกับใครผมไม่ได้ว่าอะไรนี่...”

   “อักษร"
   ผมปิดนิตยสารที่กางอยู่ตรงหน้าดัง 'ปับ!'

   “มองตาผม"


   เขาลังเล..ก่อนจะค่อยๆช้อนดวงตาคู่นั้นเงยขึ้นมามองตามคำสั่ง  ยอมรับว่าเล่นเอาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะจากสายตาแน่วแน่และท่าทางกึ่งเขินอายกึ่งอาจกล้าแบบนั้น..แต่ผมก็ควบคุมมันได้ไม่เลว...
   เราสองคนสบตากันอยู่นาน..นานโดยที่ผมรู้ว่าผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร  ถ้าหากว่าอักษรเป็นคนที่ 'รู้จัก' ผมดีที่สุด..ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแค่นี้ต้องอธิบายได้แล้ว  ผมเป็นเพลย์บอย..ใช่ ผมเป็น  และถึงผมจะเจ้าชู้แต่ก็ห่างไกลจากคำว่า 'กะล่อน' มามากโข  ผมไม่มานั่งเสียเวลาโกหกใครต่อใครเพื่ออะไรแบบนี้หรอก  เพราะฉะนั้นเขาต้องเข้าใจ...ใช่  ต้องเข้าใจ..

   “เทียนครับ"
   เจ้าของร่างผอมบางนี่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
   “ครับ?”

   “......คุณเคย...ฆ่าคนด้วยสายตามั้ย?”

   ผมกระพริบตา  เลิกคิ้วไม่เข้าใจ..แต่เขากลับหน้าแดง
   “...รับรองได้ว่าผมไม่เขียนไดอิ้งเมสเซสหรอก"

   ผมจนปัญญาจะโต้ตอบเรื่องอะไรแบบนี้จริงๆให้ตายสิ!
   หลังจากโดนหยอดในจังหวะที่โคตรจะ...โคตรจะ...เค้าเรียกว่าอะไรนะ  บ้าจริง..สมองผมรวนแบบนี้เพราะอะไรกันวะเนี่ย..สิ่งแรกที่ผมทำคือการหลบตาเขาแล้วตั้งสติ  ความรู้สึกร้อนผะผ่าวบนใบหน้าแบบนี้มันไม่ใช่ตัวผมเอาซะเลย..แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมาก  ซ้ำยังทำให้เลือดลมสูบฉีดดีใช้ได้...
   ....แต่นั่นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ประเด็น

   ผมกระแอมกระไอขัดจังหวะสายตาหวานเยิ้มแบบนั้น  เขาเลยรีบปรบมือแปะอย่างรู้ตัว

   “โรงเรียนเรามีหนังสือเยอะดีนะครับ  ขนาดอะไรที่แบบ...18+ขนาดนี้ยังมีเลย อ๊ะ! บรรณารักษ์ไม่ได้เช็คบัตรประชาชนใช่มั้ยครับ?  แต่ถ้าเช็คจริงๆเนี่ยไม่รู้จะเอามาวางทำไมเนอะ  ในเมื่อน้อยคนในโรงเรียนจะอ่านได้” เขายิ้มจนตาหยี "แน่ะ! เทียนเองก็เป็นผู้ชายธรรมดาเหมือนกันนี่นา...”
   “...ผมไม่ได้...หยิบมาเพื่อดูสาวๆ"
   “เอ๋?”
   แทนคำตอบ  ผมเลื่อนหน้ากลางของนิตยสารให้เขาดู
   “ประกวดภาพถ่าย? โหยยย!!  ไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าจะมีของแบบนี้อยู่ในหนังสือประเภทนี้ด้วย!  แต่ที่จริงผมก็ไม่ค่อยสนใจหยิบมันขึ้นมาอ่านเท่าไหร่หรอกครับ...นี่เป็นการ 'หางาน' ของคุณเลย  ดูถูกไม่ได้จริงๆ...”

   ผมขยับยิ้ม  บทพล่ามของอักษร อัครมณฑามีอยู่เพียงสาเหตุเดียว..คือการชักแม่น้ำทั้งห้าลงมาเพื่อสรุปความอะไรสักอย่างที่ถึงแม้จะไม่อยากฟัง..แต่ก็อดจะฟังไม่ได้...


   กลีบปากบางสีโอรสนั้นขยับขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกับเสียงที่เปล่งออกมาด้วยความมั่นใจ  น่ามองไปจนถึงดวงตาใสแจ๋วเหมือนเด็กทารกที่จ้องตรงมาข้างหน้าโดยไม่บิดเบือน  อักษรเป็นนักพูดที่ดีพอๆกับนักฟัง  นั่นเป็นความสามารถพิเศษที่ค่อนข้างจะน่าประทับใจและไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้  มันเป็นข้อยืนยันว่ากว่าเขาจะมา 'ยืน' อยู่ตรงจุดนี้นั้นไม่ง่ายเลย..

   ......ยืนอยู่ 'ตรงนี้' ก็เช่นกัน...



   “เทียนครับ?”
   ผมเลิกคิ้ว "ครับ?”

   อักษรหลุบตาลงต่ำพร้อมแก้มแดงระเรื่อขึ้นนิดๆ
   “มองขนาดนั้นผมก็เขินเป็นนะครับ"

   “อ้าว" ผมยิ้ม "เขินด้วยเหรอ?”
   “ใช่สิครับ! คนนะไม่ใช่พระอิฐพระปูน!”
   “เหมือนจะเคยมีคนสอนผมว่าเวลาคู่สนทนาพูดอะไรอยู่ให้มองเหมือนตั้งใจฟังนะ....”
   “..นั่นมันยกเว้นกรณีที่สนทนากับคนที่แอบชอบคุณอยู่ครับ" เขาเถียงทั้งรอยยิ้มอายๆ  ก่อนจะยกมือมาทุบป๊อก "อ๊ะ  แต่กรณีผมไม่เรียกว่า 'แอบ' แล้วล่ะฮะ  ต้องเรียกว่ากำลังพยายาม 'เรียกร้องความสนใจ' อยู่”
   “ได้ไปหมดแล้วล่ะ..”
   “ว่าไงนะครับ?”
   “เปล่า  ไม่มีอะไรนี่"
   อักษรหลิ่วตาเจ้าเล่ห์ "...แต่ผมบังเอิญได้ยินน่ะ”
   ..แล้วถามทำไมฟะ..

   ผมหลบตาด้วยความรู้สึกอยากยิ้มจนต้องกระแอมกระไอออกมาขัดจังหวะ  แล้วดันนิตยสารฉบับเดิมลงไปในตะกร้าหนังสืออ่านแล้วก่อนจะลุกขึ้นยืน  แน่นอนว่าเขาลุกขึ้นตามทันทีโดยไม่รีรอให้ผมสั่งหรืออะไร  นี่เป็นหนึ่งในข้อดีของสุนัข..เอ้ย คนอย่างอดีตเลขานุการคนเก่งที่รู้ดีไปซะทุกเรื่อง..
   ..ซึ่งคนทั่วไปอาจจะหมั่นไส้  แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบตรงจุดนั้นหรอกนะ...



   เราเดินออกมากันหน้าหอสมุด  ไม่ได้กลิ่นของชั้นหนังสือไม้เก่าๆอีกต่อไปแล้ว..แต่ความว้าวุ่นที่สะสมมาตลอดวันก็ไม่ได้กลับเข้ามาเหมือนก่อนหน้านี้..ช่วงเช้ามืดกับเรื่องแย่ๆเดิมๆที่หนีไม่พ้นสักทีมันก็ยังวนเวียนอยู่  เพียงแต่ผมไม่ทันคิดถึง..
   ผมรู้สาเหตุ..แต่คิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องอธิบาย..

   “จะไปไหนน่ะครับ?”
   ในที่สุดเขาก็ถามขึ้นมาจนได้..ผมชนะ
   “ชมรม..ผมล้างรูปทิ้งไว้น่ะ"
   “เอ๋! ล้างรูปเหรอครับ!” เขาทำตาลุกวาว "ผมดูได้รึเปล่า?”
   “ได้สิ  ไม่งั้นจะพาไปทำไม"
   “ตื่นเต้นจัง..”
   “เว่อร์ไป"
   “คุณไม่เข้าใจหรอก”
   “ครับๆ  คนอย่างผมจะไปเข้าใจอะไรล่ะ"
   ผมพูดตัดพ้อด้วยรอยยิ้มที่เบือนออกมาไม่ยอมให้เขาเห็น  ก่อนจะเลี้ยวเข้ามาในตึกตรงหน้าบันได  เวลาพักกลางวันอย่างนี้ไม่ได้มีคนอยู่ตามตึกอาคารเรียนมากนัก  ส่วนใหญ่จะไปสิงสนามฟุตบอล  โรงอาหาร  ร้านสหกรณ์  หรือห้องสมุดกันซะมากกว่า
   แต่เขากลับเรียกไว้ก่อน "เทียน"
   “หืม?”
   อักษรกระตุกแขนเสื้อผม  แล้วดึงจนเกือบลากไปที่หน้าลิฟท์
   แรกทีเดียวผมคิดจะเล่นเกมเหมือนที่เล่นเมื่อครู่  แต่ความฉงนสงสัยจนเก็บไว้ไม่ได้แบบนี้ทำให้ผมต้องยอมแพ้
   “ทำอะไรน่ะ?”
   เขาไหวไหล่ “ขึ้นลิฟท์ไง"
   “แต่แค่3ชั้น....”
   “เอาน่า" อีกฝ่ายยืดอกยิ้มหวาน "ผมมีสิทธิพิเศษ"
   ผมขมวดคิ้วให้เขา  อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่าอะไรยังไง..แต่ก็นั่นแหละ  เขาชนะตรงที่เขาไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม  และประตูลิฟท์ก็เปิดออกก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ

   ตอนที่ประตูลิฟท์ปิดลงหลังจากที่เราสองคนเดินเข้าไปด้วยกัน  มันก็ทำให้ผมรับรู้ถึงความเป็นส่วนตัวที่กล่องเล็กๆแคบๆอย่างนี้กั้นให้..และถ้าจำไม่ผิด..ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้อยู่ด้วยกันสองคนโดยไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมา  ระหว่างที่ผมได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้แผ่นกั้นอลูมิเนียมนี้เปิดออกเจอหน้าอาจารย์ระหว่างทางเลย..
   ผมมองเลขที่อยู่ด้านบนของประตู

   ...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากให้มันหยุดนิ่ง..ไม่เปลี่ยนไปไหน...

   ระยะห่างประมาณไม่เกิน1ศอกทั้งๆที่มีที่ว่างเหลืออยู่ในกล่องนี้ค่อนข้างเยอะมันสร้างความตื่นเต้นให้ไม่น้อยทีเดียว  อากาศเหมือนจะหายไปหมด...จนผมไม่มีแรงเหลือจะพูด  ได้แต่ตระหนักความจริงว่าไอ้ความรู้สึกบ้าๆที่ว่านี่มันสาหัสกว่าที่คิด..
   ....แต่อาการปั่นป่วนเช่นนี้ก็จบลงเร็วพอๆกับการกระพริบตา..

   ประตูลิฟท์เปิดออกอีกครั้งในไม่ถึงอึดใจ  ผมก้าวขาออกไปด้านหน้าแล้วก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายก้าวออกมาพร้อมกัน  เราเงยหน้ามองกัน..แล้วพลันรีบหลบตาโดยอัตโนมัติ  เอาละ  สิ่งแรกที่ผมทำต่อจากนี้คือการถอยกลับไปแล้วพยักเพยิดให้เขาออกไปก่อน  ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งคิดว่าเมื่อครู่เราสองคนรู้สึกแบบเดียวกันหรือ...อะไรก็ช่างมันเถอะ..

   ถ้าผมมองไม่ผิดคือเห็นไหล่เปราะบางคลายลงเล็กน้อยหลังจากที่เราสองคนออกจากลิฟท์  นั่นอาจจะมีนัยอะไรบางอย่าง..แต่ผมไม่อยากด่วนสรุปด้วยการคิดไปเอง..


   อักษรคงรู้ถึงบรรยากาศแปลกๆที่ความเงียบเป็นตัวจุดชนวนมันขึ้นมา..ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น
   “ปกติแล้วคุณล้างรูปที่ชมรมตลอดเลยรึเปล่าครับ?”
   “เปล่า"
   ..บ้าจริง..ผมน่าจะเอ่ยประโยคยาวกว่านี้อีกหน่อย..
   ผมเกลียดที่ตัวเองคิดแบบนั้น  แต่ให้ตายสิ..มันเป็นความจริงที่ว่าผมไม่ได้เป็นนักพูดหรือนักฟังที่ดีเลย
   คู่สนทนายิ้ม  และหยุดเดินเมื่อเราเดินมาจนถึงหน้าประตู
   “ผมศึกษามาพอสมควรครับว่าการล้างรูปเองต้องทำยังไงบ้าง...เห็นว่าต้องใช้ห้องมืดที่ไม่มีแสงด้วยใช่มั้ยครับ? ผมเลยงงมาตลอดเลยว่ามันจะทำอะไรในห้องมืดแบบนั้นได้ก็เลย...”

   “ก็...ไม่เชิงหรอก"
   ..เอาล่ะ  ผมว่าผมต้องฝึกพูดยาวๆในเรื่องที่ผมถนัดบ้างแล้ว..ก็อีกฝ่ายอุตส่าห์ยิงมาให้ขนาดนี้แล้วนี่หว่า..
   “ที่จริงสมัยนี้ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ห้องมืดหรืออะไรแล้วล่ะเพราะ..เอ่อ..เทคโนโลยีมันก้าวไปไกลแล้ว  เพราะมันมีแทงค์รุ่นใหม่ๆเยอะแยะเพียงแต่ผมยังไม่มีปัญญาซื้อรุ่นใหม่มาใช้ที่บ้านน่ะ  อย่างที่เห็น..” ผมเดินนำเข้ามาในห้องชมรม..ซึ่งไม่มีใครคนอื่นใช้หรอกครับนอกจากตัวผมเอง "ห้องนี้ไม่ได้มืดอะไรมากเลย  และโรงเรียนเองก็มีงบประมาณมากพอที่จะอำนวยเรื่องอย่างนั้น  ผมเลยถนัดทำที่นี่มากกว่า...”

   “ครับ  ผมเห็น"
   “อะไรนะ?”
   เขายิ้ม  ไม่ได้ตอบคำถามนั้น
   ผมถอนหายใจ..พอจะเดาได้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย.. "อย่าบอกนะว่าห้องส่วนตัวของคุณอยู่ตรงข้ามหน้าต่างบานนี้ไป...?”
   “เยื้องขึ้นไปหน่อยครับ  เห็นหมดเลย..อีกอย่าง...นั่นไม่ใช่ห้องส่วนตัวของผมสักหน่อย"
   “ทุกฝีก้าวเลยนะ...”
   อีกฝ่ายยืดอก “ไม่มีพลาดแน่นอน!”
   ..นั่นมันเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจขนาดนั้นเลยหรือ?...
   ผมมุดหัวลอดใต้เส้นเชือกที่ขึงไว้ตากแห้ง..ถึงแม้มันไม่ได้ขึงต่ำมากนักแต่ความเก้งก้างของร่างกายก็ทำให้มันดูงุ่มง่ามเล็กน้อย  แต่ผมชินแล้วล่ะ..เพราะถ้าติดสูงกว่านี้อาจารย์เปียที่เป็นคนตัวเล็กมากจะเอื้อมไม่ถึงกันพอดี

   อักษรไม่ได้เดินตามมา  เขากำลังเพลิดเพลินกับการพิจมองหยดน้ำยาเคมีที่อยู่บนแผ่นฟิล์มสีเข้ม  ก่อนจะร้องทัก
   “เฮ้  นี่ผมนี่นา"

   ..อุ๊บส์..ลืมไปว่ามีจากกล้องตัวนั้นด้วย..
   ผมสะดุ้งเล็กน้อย  แต่มันคงสายเกินไปที่จะแก้ตัว..เมื่อสายตาของอีกฝ่ายจ้องฟิล์มม้วนที่ผมกดชัตเตอร์รัวเมื่อวันก่อนเอาไว้  และนึกโทษตัวเองแทบเป็นแทบตายที่ไม่เก็บ 'หลักฐาน' พวกนั้นให้เรียบร้อย  “อ่า..ใช่..."
   “ถ้าคิดจะแบลคเมล์ผมด้วยภาพถ่ายตอนหลับล่ะก็คุณพลาดแล้วล่ะครับ"
   “ไม่ใช่...”
   “ผมล้อเล่นน่ะ" อักษรยิ้มอีกครั้ง "ผม..ดีใจนะ..”

   ผมปรือตามองเขา...
   ..มองตั้งแต่มือคู่นั้นแตะสัมผัสกับภาพถ่ายที่ยังไม่แห้งดี เรื่อยมาจนถึงกลีบปากสีส้มที่ขยับยิ้มเล็กน้อยทุกครั้งที่ดวงตาใสแจ๋วเหมือนเด็กทารกใต้แว่นกรอบบางนั่นเคลื่อนมองไปทีละภาพ..ทีละภาพ..ราวกับอยากจะเพ่งลึกลงไปสัมผัสกับอารมณ์หม่นหมองของภาพที่แสดงไว้จนแจ่มแจ้ง..


   วูบหนึ่งที่ผมรู้สึกเหมือนสมองว่างเปล่า...


   ...สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ...




   "คุณ..."
   "หืม?"
   เขาเงยหน้าขึ้นมามองทั้งรอยยิ้มบางๆ ให้ผมรู้ว่าเขา 'สนใจ' ในตัวผมเต็มที่
   ".......เอ่อ....."
   ผมยกมือเสยผม เสมองไปทางอื่น..รู้สึกกระอักกระอ่วนจนเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมีจุกอยู่ที่คอ..บางทีอาจจะเป็นแค่ผีเสื้อกินเนื้อสักตัวสองตัวที่อุกอาจบินขึ้นมาจากกระเพาะก็เป็นได้..



   "...ชอบผม....ตรงไหนหรอ?"



   ความเงียบปกคลุมอยู่ได้ไม่นาน..ก่อนเขาจะขัดมันด้วยการหัวเราะคิก
   ...บ้าเอ้ย! เขารู้มั้ยเนี่ยว่ากว่าผมจะถามคำถามนั้นออกมาได้เนี่ยมันคิดนานแค่ไหน...!!

   "ถามมาได้..."
   เขาขยับยิ้มกว้างอีกครั้ง แล้วพูดจริงจังชัดเจน


   "คุณมีดีอย่างอื่นนอกจากหน้าตาด้วยหรอ?"


   อืม...
   ...........ชักอยากเตะแม่งให้คว่ำจริงๆ...


   ผมเผลอถอนหายใจอย่างโคตรพ่อโคตรแม่จะระอา  นี่ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่านับวัน 'อักษร อัครมณฑา' ผู้มีดีกรีเป็นถึงเด็กเนิร์ดชั้นแนวหน้าของโรงเรียนจะ 'กวนประสาท' ขึ้นทุกวัน..

   “ผมล้อเล่น!  อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ!”
   “...คุณพลาดแล้วล่ะ...”
   “อะไร?  ผมพลาดตรงไหน?”
   ผมไหวไหล่ "นั่นสิ  พลาดตรงไหนกันนะ"
   “เทียน!”
   “ช่างเหอะ"
   “นี่คุณถามจริงจังรึเปล่าครับ?”
   “คุณคิดว่าไงล่ะ..”
   “ผมขอโทษ...ผมคิดว่าปกติคุณไม่ถามอะไรแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน...ก็เลย..."
   “ก็จริง" ผมหยิบไม้บรรทัดขึ้นมาควงเล่น "...แต่คุณเป็นผู้ชาย"
   “นั่นเป็นข้อแบ่งแยกหรอครับ?”
   “....หนึ่งใน...หลายๆข้อ"
   เขายิ้ม  แต่ไม่ได้คาดคั้นอะไรกับคำตอบเมื่อครู่นี้ของผม..ซึ่งก็ดี..ตอนนี้ผมพยายามหาจุดวางสายตาตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเขาอยู่


   “...ถ้าคุณเป็นผม  คุณจะรู้ว่าการตกหลุมรักคนอย่างคุณ..ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย"


   ..คำตอบของเขาไม่ได้ทำให้ผมกระจ่างขึ้น  ซ้ำยังสร้างความงุนงงให้เพิ่มทวีอีกด้วย..
   ..แต่ถ้าผมยังถามซักไซร้เขามากกว่านี้จะเป็นผมเองเนี่ยแหละที่เสียท่า..

   อักษรชอบผมตรงไหน..ชอบมากแค่ไหน..ชอบเพราะอะไร..ชอบมาตั้งแต่ตอนไหน..ใช่..ยอมรับเลยว่าตอนนี้ในหัวของผมมีแต่คำถามเหล่านั้นวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา  คำถามที่ไม่เคยคิดมาก่อนสำหรับคนที่ดูถูกตัวเองมาตลอด..
   ว่าผมมี 'ดี' อะไรให้เขาชอบ...ขนาดที่ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดมาขลุกอยู่กับผมขนาดนี้..
   กอปรกับความแคลงใจไม่น้อยทีเดียวในเรื่อง 'ความจริงจัง' ของเขา..ถ้าตัดดวงตาดำขลับและใสแจ๋วเหมือนทารกแรกเกิดนั้นทิ้งไป....บางทีสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดอาจจะเพื่อแกล้งผมจากสาเหตุอะไรบางอย่าง..ซึ่งเท่าที่ผมจำได้ผมไม่เคยมีความแค้นอะไรกับอีกฝ่าย  มันทำให้ผมสับสน..และในขณะเดียวกันด้วยบุคลิกและนิสัยของคนตรงหน้าก็ไม่อาจทำให้ผมตีตัวออกห่างได้เลย..

   ..อักษรฉลาดเป็นกรด..และเป็นบุคคลที่ประมาทไม่ได้..

   ดังนั้นต่อให้ผมตั้งคำถามมากมายขนาดไหนผมก็ไม่อาจหาคำตอบเหล่านั้นได้ด้วยตัวของตัวเองเป็นแน่..ตราบใดที่ทุกอย่างที่เขาทำเขาใช้สมองไตร่ตรองมันก่อนแล้วล่ะก็นะ...



   ผมมองเขาระหว่างที่ได้ยินเสียงซ้อมดนตรีจากห้องชมรมดนตรีที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  มันดังเบาๆเหมือนเสียงเพลงคลาสสิคที่มีจังหวะเร็วเกินไปหน่อย..แต่ก็ทำให้ภายในห้องนี้ไม่เงียบจนเกินไป..
   ถ้า 'คำตอบ' สามารถผุดขึ้นมาจากใบหน้าของคนได้ล่ะก็...ผมอาจจะได้มันเร็วๆนี้..
   ....เพียงแต่ไม่ใช่...
   เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมเอียงหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงถาม  ท่าทางคงจะสังเกตมาได้สักพักแล้วว่าผมจ้องเขาอยู่...เรามองตากันสักพักก่อนเขาจะยิ้มออกมา..ยิ้มแบบอักษร อัครามณฑา..ที่ทำให้มุมปากผมกระตุกยิ้มตามอย่างห้ามไม่ได้...




   และสิ่งที่ผมรู้เพียงประการเดียวตอนนี้..ก็คือความจริงที่ว่า...

   ....อีกฝ่ายมี 'ดี'








ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog




----------










   แกรก..

   ผมเปิดประตูบ้าน  ตอนนั้นยังไม่ใช่เวลาปกติที่ผมจะกลับนัก..จึงไม่แปลกใจสักนิดที่จะไม่เจอยายอยู่ในห้อง  ซึ่งถ้าให้ผมเดา...ไม่ไปอยู่ที่ตลาดนัดก็คงออกไปรับก้านธูปเหมือนที่ท่านทำเป็นปกติทุกวัน...ในเวลาบ่ายแก่แบบนี้ล่ะก็นะ...

   หลังจากถอดรองเท้าเก็บเข้าชั้นวางเรียบร้อยแล้วผมก็โยนกระเป๋าไว้บนโต๊ะอาหาร  และใช้สมองส่วนใหญ่ระหว่างอาบน้ำไปกับการคิดด่าไอ้เจ้าพระอาทิตย์สัปรังเที่เสือกฉายรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตและเผื่อแผ่ความร้อนออกมามากเกินพอดี  ซึ่งพอคิดไปคิดมาแล้วบทสรุปมันก็กลับมาตกที่มนุษย์เรานั่นแหละ..ที่ทำให้โลกมันร้อนขึ้นได้ขนาดนี้  จริงอยู่ที่โรงเรียนอยู่แต่ในห้องแอร์ติดจะสบาย..ออกมาเผชิญโลกภายนอกก็แทบจะบ้า  อย่างว่าแหละเด็กเกษรวิทยาเหมือนไข่ในหิน...แทบไม่เจอมลพิษสักนิด  ขนาดผมไม่ใช่คนขี้ร้อนอะไรมากมายยังเหนื่อยแทบบ้า  ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเป็นอักษรไม่ได้นั่งรถส่วนตัวของทางบ้านกลับจะเหงื่อออกมากขนาดไหน..ยิ่งเป็นพวกขี้ร้อนอยู่ด้วย..
   อืม...
   ....ก่อนอื่น......ผมต้องตัดเรื่องของ 'หมอนั่น' ออกไปจากหัวซะก่อนสินะ..


   ความเย็นของกระแสน้ำทำให้ร่างกายผมเย็นขึ้นนิดหน่อย  และก็ช่วยให้ใจที่ว้าวุ่นมาตั้งแต่เช้านี้สงบลงได้เยอะ...แทบไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมกลับบ้านเร็วขนาดนี้หรอกนอกจาก 'ความกังวล' ...ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเลยว่าจะกังวลไปทำซากอะไร..


   ...ผู้หญิงคนนั้นจากไปนานแล้ว...

   .....แทบไม่มี...อะไร...ที่เกี่ยวข้องกันอีก...



   ผมสะบัดศีรษะเหมือนสุนัขที่ผมเกลียด  ลบภาพความทรงจำบางอย่างออกไปจากสมองด้วยท่าทางโง่เขลาที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้ในวินาทีนั้น  เหลือบสายตาไปมองรูปถ่ายที่วางอยู่บนตู้ลิ้นชักถัดไป...ผมเกลียดที่จะมอง...แต่ก็ไม่กล้าบอกให้ยายทิ้งรูปพวกนั้นไป...


   ...ผู้หญิงผมบลอนด์...ในชุดเสื้อชีฟองสีสดใส...
   อาจจะดูอ่อนกว่าปัจจุบันสักปีสองปี..ไม่สิ...อาจจะเป็นสิบปี...แต่เพราะเจ้าหล่อนยังดูสาวอยู่มากในรูปถ่าย  รอยยิ้มเสแสร้งนั่นอาจจะเป็นเพียงอย่างเดียวของรูปหน้าที่ผมไม่เหมือนเธอ...

   .....รอยยิ้มเสแสร้งงั้นหรือ...
   จะว่าไป..ก่อนหน้านี้ผมคงจะยิ้มแบบนี้บ่อยเหมือนกันแหะ
   ผมหลับตาลง  ทนมองรูปนั้นนานๆไม่ได้อย่างที่เคยเป็น...ทุกครั้งผมจะเอื้อมมือไปจับกรอบรูปนั้นให้คว่ำหน้าลง  แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ทำ  นั่นมันนิสัยของเด็กๆ...เด็กที่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับความเป็นจริง...
   อาการปวดหัวแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก  แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมก็ไม่ชินกับมันสักที..


   ผมหยิบกระเป๋าเรียนและกระเป๋ากล้องเดินข้ามมาในห้องตัวเอง  โยนพวกมันไว้บนเตียงแล้วตามไปนอนข้างๆ  ผมหันหน้าเข้าหากำแพง..ห้องๆนี้ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะให้รับแสงแดดจากภายนอกอยู่แล้ว  ดังนั้นกำแพงที่ผมจ้องมันอยู่เลยมืดจนไม่เห็นอะไร  ไม่เห็นอะไรนอกจากจิตใจที่ดำมืดของตัวเอง...
   รถชน..
   โดดตึก..
   ข่มขืนฆ่า..

   ..นี่คือจิตใจดำมืด..ที่ผมได้แต่ภาวนาให้มันเกิดขึ้น...ทั้งๆที่รู้ดีว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นบาปและอาชญากรรมมากแค่ไหน..

   ..เอาล่ะ..
   ผมหลับตา  วินาทีนั้นผมพยายามลบไอ้ที่คิดเมื่อครู่ออกไปจากจิตใจ..และหนทางที่รวดเร็วที่สุดที่จะบรรลุเป้าหมายคือนึกถึงแต่หน้าของ 'อักษร  อัครมณฑา'...บุคคลที่ผมเชื่อว่าบริสุทธิ์และสว่างไสวมากกว่าใครที่ผมเคยรู้จัก  บางทีอาจจะทอแสงจรัสมากกว่าชื่อ 'เทียนไข' หรือ 'ทีปพิพัฒน์' ของผมด้วยซ้ำ..
   ชีวิตของผมกำลังจะดีขึ้น  ใช่...อย่างน้อยผมก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น

   คิ้วที่ขมวดกันขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะแรงกดดันหรือสมองที่ปวดจี๊ดอะไรผมก็ไม่อาจทราบ  ผมพยายามกำหนดลมหายใจให้เป็นจังหวะ  นึกถึงแต่อนาคตสดใสที่ผมควรจะมี..หรืออาจจะมีมาได้สักพักแล้ว...




   ภาวนา...


   .....อย่าให้ 'หล่อน' กลับมาอีกเลย......










TBC




=======================

อาจจะงงไปบ้าง อ่านช้าๆนะคะอ่านช้าๆ XD




เขียนเทียนแล้วเหนื่อยใจค่ะ ทำยังไงถึงจะมืดมนได้แบบมันกันนะ 555555
((อิชั้นเขียนแต่ฉากโจ๊กหื่นบันเทิงใจมาตลอดหลายเรื่องที่ผ่านมา...))
..แต่ก็สนุกดีค่ะ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในชีวิตของโอเลย กร๊ากกกก ได้เขียนหลายๆแนวนี่เหมือนฝันเลยค่ะ

ยุ่งกับหลายๆเรื่องหลายๆอย่าง จนบางทีก็อยากปลีกเวลาออกมาเขียนนิยายเยอะๆ
ตอนที่ได้พิมพ์ได้แต่งได้จินตนาการเนี่ย เหมือนเราหลุดออกมาอยู่อีกโลกหนึ่งเลยล่ะ <<หนีความจริงดีๆนี่เอง...


ช่วงนี้ฝนตกบ่อย รถก็ติด อุบัติเหตุเกิดเยอะ...ระวังตัวกันด้วยนะคะ
ใช้ชีวิตทุกวันให้คุ้มค่าที่สุดนะ!!


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ

ozaka*



 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
โดนสูบวิญญาณไปตั้งแต่ช็อตที่ว่า...

"ได้ไปหมดแล้วล่ะ"




ขอสลบซบอกพี่ปีใหม่ #เกี่ยว

 :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2012 23:18:03 โดย iPongPaeng »

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
แหง่กกกกกกกกกกกกก
ตกใจจจจ

ถ้าตัดความดาร์คของอิเทียนตอนนี้ไปนะ หูยๆๆๆ น่ารักเว่อออออออ
อยากได้แบบอักษรซักคนอ่ะ มาหยอดเค้าบ่อยๆนะเค้าชอบบบ   :-[
ซีนในลิฟท์นี่ ยอมรับว่า คิดไปถึง ฟหกด่สว แล้ว... /มันคืออะไร..   o18

เดี๋ยวนี้ทำอะไรคิดอะไรก็นึกถึงแต่อักษร ฮู้ยยย มีหัวใจเต้นรงเต้นแรง
ฮาคำตอบของอักษรมาก คุณมีดีอะไรนอกจากหน้าตาด้วยเหรอครับ   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

แม่เทียนนี่จะกลับมาทำอะไรหรือเปล่า มันต้องมีปมแน่ๆเลย.. /มีอยู่แล้วสิ   o22

cotone

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้ก็น่ารักเหมือนเดิมน้า

ว่าแต่คุณแม่ของเทียนนี่ยังไงกันแน่เนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Windiizz

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่พี่โอกลับมาต่อแล้วววว รู้สึกเหมือนหายไปนานมาก ขาดนิยายของพี่โอแล้วคิดถึงโคตรๆ >[]<!!
ตอนนี้ฟินมากค่าาาาาาาา!!!
ฟินตั้งแต่ "เรียกร้องความสนใจ" แล้ว "ได้ไปหมดแล้ว" อ่ะะะะ โอ่ยยยยย ปากแตกเลยค่า ฉีกยิ้มมากไป+ปากแห้ง orz
ถ้าเทียนไขจะชอบอักษรมากขนาดนี้ ก็มอบความรุ้สึกผ่านสายตาเอาให้อักษรพรุนไปเลยเส่ะะะ ป๊าดดดด
คนอ่านก็เชียร์ไป เขินไป ฟินไป ตล๊อดดด 5555

ชีวิตเทียนไขดราม่ามากๆ ไม่เป็นไรนะเทียน นายยังมีหนุ่มแว่นโมเอ้ดามใจ เอาใจช่วย!
พี่โอก็ดูแลตัวเองด้วยนะค๊าาา  :กอด1:

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปเขินไป
หลงเสน่ห์กันทั้งคู่นั่นแหล่ะค้าา :-[


ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
ชีวิตเทียนชักจะได้กลิ่นมาม่าแฮะ :z3:

ต้มยำทะเล

  • บุคคลทั่วไป
มันยฟินนาเร่เหนือสิ่งใดจะเอ่ย โฮฮฮฮฮฮฮฮ
รอมานานมากกกกกกกก ในที่สุดก็มาแล้ว
เปิดคอมเกือบทุกวันพอเข้าเฟซบุ๊คก็ต้องเข้าไปเช็คว่าอัพรึยัง TT
เหมือนคนโรคจิตเลยอ่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะคะ สู้ๆน้า

เทียนเอ๊ยเทียน นับวันชักจะแพ้ทางอักษรใหญ่แล้วนะ ฮรึกT///T
"ได้ไปหมดแล้วล่ะ" ประโยคน็อคเอ้าท์ประจำพาร์ท โฮฮฮ
ในลิฟต์แคบๆก็ฟิน ตรงไหนก็ฟิน  ยกเว้นตอนดาร์คๆ TT
พออ่านๆไปแล้วมีความรู้สึกว่า.....เมื่อไหร่เค้าสองคนจะจูบกัน 555
แต่ชีวิตดูจะมาม่ารสเข้มข้นเลยทีเดียว เง้อออ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปคะเนี่ย
ลุ้นตัวโก่ง ลุ้นสุดๆ ลุ้นเหมือนดูยกน้ำหนักเมื่อกี๊เลย ฮืออออ(?)

ขอบคุณมากๆนะคะ

ออฟไลน์ Dwammy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เห็นปรารถนาแล้วแทบกรี๊ด :impress2:
รีบกดเป็ดแรงๆ สองที
ขอตายคาความน่ารักของคู่นี้  หวานเว่อร์ :-[ :-[
แต่เหมือนจะได้กลิ่นดราม่าแว่วๆ :z2:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เริ่มหวานแล้วตาลไหลเยิ้ม ทุกตอน อ่านไปยิ้มไป ปากจะฉีกก 5555

น่ารักเนอะ หยอกกันเหมือนคนรักกันเลย


อักษรแมร่งฮา ตอนเทียนไขถามกำลังตื่นเต้นใจเต้น ตุบๆ ตุบๆ

กลัวโดนตัดพอเลื่อนลงมา อุ้ยยังมีอยู่ พอเจอคำตอบ

ขำก๊ากกเลย 555

คนกำลังอิน เล่นซะ หงายย

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เอาดราม่านะๆๆๆๆ อักษรคือแสงสว่างในใจของเทียน

soullve

  • บุคคลทั่วไป
แอบลืมตอนเก่าไปแล้วนะ  5555

ตอนนี้อักษรยังคงน่ารักอีกเช่นเคย
น่ารักทุกตอนอยู่แล้ว
เทียนก็เริ่มหวั่นไหวแล้วสินะ อิอิ
จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองคนไหม
แม่เทียนจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยรึเปล่า?
ติดตามอ่านต่อไป  o18

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเหมือนโคลสอัพมาก
เหมือนได้สัมผัสใกล้ๆ รายละเอียดเยอะมาก
ชอบๆ  :o8:

SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
เทียนหลุดปากพูดไรออกมา
"ได้ไปหมดแล้ว" อ่า~อึ้งเลยอ่ะ
ดีใจแทนอักษรสุด ๆ ไปเลย
คู่นี้น่ารักจริง ๆ เลยเนอะ

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ตอนนี้เทียนน่ารักมากกกกก !!! แต่ก็ดาร์กมากเช่นกัน  :z3:

ฉากในลิฟต์ทำให้รู้ว่า..... เทียนมันอาการหนักมากจริงๆ !! 555555555
อุ๊! แหม๋! แค่อยู่ในที่แคบๆด้วยกันสองต่อสอง นี่แกถึงกับไม่มีแรงจะพูดเลยเรอะ >////<
เทียนน่ารักขึ้นทุกวันๆ ทุกตอนๆ !

"...แต่ผมบังเอิญได้ยินน่ะ”
อยากบอกว่าเขินมาก เขินแทนเทียน! ><
อักษรอย่าแซวเยอะสิ! เดี๋ยวเทียนมันไม่กล้าหยอดกลับอีก ! 5555555

เรื่องแม่เทียนเป็นมายังไง ? เกิดอะไรขึ้น ? เดาไม่ออกเลย แต่สงสารเทียนล่วงหน้าแล้ว TT"
คำว่า 'ชีวิตของผมกำลังจะดีขึ้น' ทำเราร้องไห้เลย.. ทั้งที่ไม่มีอะไร.....
แต่เผลอไปคิดถึงตอนจบ(ที่มโนไปเอง) อ๊ากกกกกกก !! ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลยนะ! T___T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






IamA

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านจนทันตอนล่าสุด ...เรื่องนี้คนเขียนตั้งใจให้มู้ดโทนสีเทาๆใช่มั๊ยเอ่ย อ่านแล้วภาพในหัวมันเป็นโทนนั้นเลย (หรือเพราะมันอธิบายโดยเทียนไข?) ...ซึ่งมันทำให้ฉากหวานในเรื่องนี้มีค่ามาก ประมาณว่าถ้าอยู่ในเรื่องอื่นอาจจะธรรมดา แต่อยู่ในเรื่องนี้แล้วมันชวนกิ๊วก๊าวสุดๆ ด้วยความที่ดำเนินเรื่องแบบเรียบๆ ค่อยๆแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และให้คนอ่านค่อยๆเรียนรู้'อักษร'ไปพร้อมกับเทียนไข ซึ่งเราชอบการเขียนแนวนี้นะคะ มันเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ดีค่ะ

พูดถึงตัวละครที่ชื่ออักษร ...แม้ว่าคาแรกเตอร์จะเหมือนสุนัขผู้ซื่อสัตย์ ใส บริสุทธิ์ แต่เพราะควาฉลาดเป็นกรดก็ทำให้เราอ่านแล้วเกิดความสงสัยในตัวละครเยอะแยะเลย ...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ว่าจริงใจกับเทียนไขจริงๆรึเปล่า แล้วถ้าอักษรชอบเทียนไขจริงๆ อักษรชอบอะไรในตัวเทียนไข แล้วอะไรทำให้ตัดสินใจเข้ามาสารภาพความรู้สึกกับเทียนไข อักษรรู้เรื่องเทียนไขเยอะแค่ไหน อักษรเองก็มีปมปัญหาใช่มั๊ย ฯลฯ ... ซึ่งเราเองก็อยากให้อักษรมีปมเยอะๆ ไม่อยากให้บทหนูเป็นเพียงสุนัขที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของเท่านั้น แต่คิดว่าจะต้องมีแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะงั้นจะรออ่านน้า

แต่ถ้าจากที่เทียนไขบอกเล่าถึงอักษร ..รู้สึกว่าอักษรอาจมีชีวิตอยู่กับความกดดันบางอย่าง ที่แม้จะไม่ได้ทำให้เครียดแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่เป็นอยู่บ้าง และที่ชอบพ่อหนุ่มเทียนไขก็อาจเพราะชอบที่เห็นการใช้ชีวิตที่อิสระของเทียนไขก็เป็นได้

ตอนล่าสุดเหมือนเทียนไขจะบอกเป็นนัยๆแล้วว่ากำลังดูๆอักษรอยู่คนเดียว ...ทำไมถึงได้รู้สึกว่าอักษรเป็นฝ่ายจีบที่โชคดีอะไรอย่างงี้ก็ไม่รู้สิ 555 ...ประเด็นเรื่องแม่เทียนนี่ยังไงกันน้า ความคิดด้านลบตอนมองกำแพงของเทียนนี่ใช่คิดกับแม่ตัวเองรึเปล่า?? นางทำอะไรเลวร้ายขนาดนั้นเลย??

รออ่านตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ full

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เทียนกับอักษรน่ารักอ่าาา :-[

ออฟไลน์ fuwa79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอโห้เฮะ ดูท่าว่าเทียนจะเจอเรื่องราวมามากไม่ใช่น้อย
แม่ทำอะไรกันแน่น้า
แต่ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมอักษรถึงรักเทียนมากขนาดนี้
ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆเลย
แอบผูกพันกันอยู่ลึกๆนะคู่นี้
ชอบจังเลย ประโยคที่ว่า อีกฝ่ายก็มีดี
แต่คนแต่งต่างหากละ ที่มีดีที่สุดดดด อิๆ  o18
ขอบคุณสำหรับตอนนี้นะค่า ละเลียดละไมมากมาย
แอบหายใจไม่ทั่วท้องตอนอยู่ในลิฟท์ด้วยกันสองคน
ไหนจะห้องมืดที่เต็มไปด้วยรูปน่ารักๆของอักษรอีก
ว่าแต่ใจจริงอักษรคงอยากให้เทียนแบล็คเมล์แหละน้า
รีบแบลค์เมล์กันเร็วๆเลย อิๆ
นี่คนอ่านคาดหวังอะรายยยย :z1:

ออฟไลน์ Thengja

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-64

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
o13 o13 o13
ยังคงรอให้พี่โอมาต่ออีก จนจบ...กร๊ากกก !!
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
มันคงไม่มีจุดไหนที่ไม่ชอบล่ะมั้งเทียน หึหึ
เดี๋ยวนี้ชักใจเต้นแล้วก็มีอาการเพิ่มขึ้นเยอะเลย
เอะอะก็ใสแจ๋ว มันให้ความรู้สึกว่าอักษรเป็นเด็กน้อยผู้น่าเอ็นดูมากๆ

ออฟไลน์ ThE_PaRaN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ถ้าอักษรจะทำตัวให้น่าสงสัยต่อไปเรื่อยๆแบบนี้..

เนื่องจากอ่านในมุมของเทียน ก็ยังไว้ใจอักษรไม่ได้หรอกนะ ฮ่าๆๆ

ปริศนาเรื่องของ "หล่อน" ก็ยังไม่กระจ่างสักเท่าไรเลย




ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
สนุกมากค่ะ ^^ ลุ้น ๆ ต่อ

PS. แอบอยากรู้ว่าซีรีส์รักร้ายเรื่องต่อไปจะเป็นคู่ใคร  เราแอบเชียร์พี่ดาวเสาร์กับน้องน้ำมนต์ให้คู่กัน 555

ออฟไลน์ nooklepper

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่เทียน ><  พูดอะไรออกไป  อิ อิ

ชีวิตพี่เทียน ช่าง!!! - -"

รอต่อไป (ย้อนไปอ่านอีกรอบ)

Have_a_hope

  • บุคคลทั่วไป
ชอบๆ เรื่องนี้สนุกมีเค้าลางจะมาม่าเป็นช่วงๆ

ชอบอักษรที่สุด น่ารักมากมาย

รอตอนต่อไปแทบไม่ไหวแล้ว :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด