__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 570915 ครั้ง)

ออฟไลน์ comics_boy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
จะสิ้นเดือนแล้วนาาาาาา

คิดถึงน้องเทียนไขกับน้องอักษรจังเลยยยยย

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงเทียนไขกับอักษรมากมายอ่า

sarucw

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อจังเลย มันค้างค่าาาาาาา
สนุกดีอ่า แต่ละคนนี่แลดูมีอดีตทั้งน้านนนนนน
มาต่อเร็วๆนะคะ

_Yammery_

  • บุคคลทั่วไป
ขอแปะก่อนนะค่าาา

tamekung

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยเราพลาดไปได้ไงง
ตามอ่านด่วน :กอด1:

ออฟไลน์ sum_sun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
1 เดือนกว่าๆ แล้วกับการรอคอย
คิดถึงเทียนไขกับอักษรจังเลย
 :กอด1:

ออฟไลน์ somuch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้หลังจากไม่ได้เข้ามาตั้งนาน อ่านๆไปแล้วก็ชอบน้องอักษรมาก ดูเป็นเคะที่เจ้าเล่ห์และนิสัยแบบ...ถูกต้องมากอ่ะ!!

แต่อ่านไปสักพัก พอเจอกับคำว่า "ลัษ" เรางี้สะดุดกึก........

ขออภัยสำหรับความเกรียนล่วงหน้า แต่ขอระบายหน่อยเถอะ...............

น้องลาล่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

ขอกรีดร้องอีกสามโลกแบบดีเลย์เล็กน้อย โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น้องลาล่าของเจ๊ อร้างงงงงงงงงง ออกมาแค่ชื่อกับบทพูด 2 ประโยคแต่ความคิดถึงมันทะลักท่วมท้นใจ ฮืออออออออออออออออ ที่รักของเจ๊  :กอด1:

คือคิดตั้งแต่ตอนที่อ่านเรื่องสีครามกานดาแล้วค่ะว่าอยากให้น้องลาล่าคู่กับพี่สายสิญจน์ ผู้ชายจืดๆแบบน้องลาล่าสมควรคู่กับผู้ชายเพอร์เฟคทุกกระเบียดนิ้วแบบพี่สายสิญจน์ แต่เฮียแกดันมีคู่แล้ว T^T อกหักอ่ะ แต่ว่า แค่ได้อ่านบทพี่สายสิญจน์ด่าน้องลาล่าความสุขมันก็ทะลักใจจริงๆ

โดยส่วนตัวคิดว่าลาล่าจะต้องเป้นคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะคนธรรมดาทนอยู่กับกลุ่มเพอร์เฟคแบบที่อยู่ไม่ได้หรอก ยิ่งจืดนี่แลหละยิ่งเด่น!
ส่วนคู่ของน้องลาล่าต้องเป็นผุ้ชายสมบูรณ์พร้อมนะค้าาาา(อ้อนนนน) เพราะว่า คนพร้อมๆ ดีๆ ชีวิตเขาเต็มอยู่แล้ว ไม่ควรเอาคนที่เยอะไปให้ชีวิตมันล้นตาม คือที่พล่ามมาเป็นคุ้งเป้นแควนี่แค่จะบอกว่า คิดถึงน้องลาล่าาาาาาาาา

แหะๆ ขออภัยสำหรับความเวิ่นนะคะ แทบไม่มีอะไรเกี่ยวกับอักษรเทียนไขเลย เจอชื่อน้องลาล่าสมองมันไม่แล่นไปซะเฉยๆ  :z2:

อย่าลืมหาคู่ให้น้องลาล่านะคะ มันจะทำให้อีป้าคนนี้นอนตายตาหลับมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พยายามนึกว่ามีรักร้ายคนไหนสะดุดตาสะดุดใจ แต่นอกจากพี่สายสิญจน์แล้วยังไม่ฟินใครอีกเลย(แต่พี่เขามีคุ่แล้วอ่ะ ฮึกกกกก แงงงงงT^T)

ถ้าไง ให้คู่กับน้องอาร์ก็ได้นะคะ น้องเขาโตมาต้องหล่อเลวแน่ สเปค!!(เวิ่นไปไกล)

ขออภัยถ้าเวิ่นมากเกินไป คิดถึงน้องลาล่ามากจริงๆ ที่เพ้อไปทั้งหมด อย่าใส่ใจค่ะ แค่คุณโอมาเขียนให้อ่านก็ดีใจแล้ว ไม่เรียกร้อง(แค่ขอร้องเบาๆ)

รออ่านตอนหน้านะคะ ^___________^

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
เพิ่งตามมาอ่านทันค่ะ

อักษรไม่สบายรึเปล่าคะ ไม่เรียนคาบพละ มีสิทธิ์ใช้ลิฟต์ และหลายๆครั้งที่ดูเหนื่อยง่าย

อย่า so sad นักนะคะ เทียนเจอกับเรื่องหนักๆมาทั้งชีวิต อย่าให้ต้องเสียของรักซ้ำซ้อนอีกเลย

ออฟไลน์ So_Da_Za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
หลังจากตามอ่านมาโดยไม่มียูส
สุดท้ายเค้ามีแล้วล่ะ ดีใจมากกกกกกกกกกกกกก
ตอนนี้เราตามทวง เทียนไข อักษร ได้แล้ว
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Noipatt

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ปรารถนา รัก
«ตอบ #1059 เมื่อ11-09-2012 17:28:15 »

มาปูเสื่อรอนานแล้วนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ปรารถนา รัก
« ตอบ #1059 เมื่อ: 11-09-2012 17:28:15 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






supery

  • บุคคลทั่วไป
ชักจะเริ่มมีเค้า Drama

ออฟไลน์ GF_pp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มาทักทายคร้าบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog

http://www.youtube.com/v/mY2j9PmGjXs

[อาจมีการสับสนงุนงงเกิดขึ้น นี่เป็นเพลงประกอบตอนค่ะ 5555]
[แอบหลอนเหมือนกันนะเนี่ย...]







9th Day : It's a Long, Long night [2/2]











   เสียงแหลมเล็ก...จนแทบจะกรีดโสตประสาทให้ขาดเป็นชิ้นๆ

   หัวใจเต้นช้าลง..เบาลง..จนผมแทบสัมผัสไม่ได้ถึงลมหายใจของตัวเองยามที่จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นผ่านกระจกเงา  หล่อนมองตรงมาที่ผมเช่นกัน  ผมยาวสยายดูไม่ได้ผ่านการหวีสางมาเป็นเวลานานทำให้ร่างนั้นยิ่งดูแบบบางลงไปอีก..ข้อมือขาวโพลนโผล่พ้นเสื้อสีแดงเข้มราวกับศพ...ผมไม่อยากมอง  ไม่อยากพิจารณาเธอ...แต่ผมไม่อาจเบือนสายตาหลบออกมาได้
   อีกฝ่ายเขย่งเท้าขึ้นมาเกยคางบนไหล่ผม...แล้วกระซิบข้างหู



   “...Fais do do...”



   ผมจำได้...จำทั้งทำนองทั้งท่อนร้องเพลงเช่นนั้นได้...
   และการที่ผมจำได้...มันยิ่งรู้สึกแย่...



   “Colas mon petit frere”



   ..เหมือนมือผอมบางคู่นั้นได้กางกรงเล็บจิกหัวใจของผมเอาไว้...



   “Fais do do, t'auras du lolo”



   เธอจับตัวผมโยกเหมือนเป็นเด็กเล็กๆ  นั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนก้อนอะไรบางอย่างเคลื่อนขึ้นมาที่คอ...อยากขย้อน  อยากเอาออกไป...แต่สิ่งที่ออกมาแทนอาหารกลางวันกลับเป็นความร้อนผ่าวทุกผิวสัมผัสที่ได้แตะต้องกับหล่อน.....
   .....ต้องผลักหล่อนออกไป....
   ..ไม่...

   ...........ผม....ทำสิ่งนั้น....ไม่ได้.......




   “Maman est en haut,”

   “Qui fait des gateaux”




   ผมเริ่มหายใจแรงขึ้นระหว่างที่โก่งตัวไปด้านหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุ  ก้อนอะไรบางอย่างนั้นเหมือนจะอยากออกมามากเหลือเกิน  คลื่นไส้..อยากอ้วก  อยากจะทรุดลงไปเพราะอาการหน้ามืดแบบนี้


   “Papa est en bas,”


   มีใครบางคน...กำลังเดินมา...


   ผมได้ยินเสียงฝีเท้า  และตอนนั้นเองที่ผมได้รู้ตัวว่าตัวเองหลับตาอยู่ถึงได้รู้สึกว่ารอบข้างมันมืดขนาดนี้  พี่ยามทำท่าเหมือนจะเข้ามาช่วยผมด้วยท่าทีลังเลแบบสุดๆ  เพราะมันพ้นเวลาเลิกเรียนมานานแล้วตรงนั้นจึงแทบไม่มีคนผ่าน  และ..เจ้าของรองเท้าหนังสีดำที่เดินเข้ามาหาผม......
   ...ก็จุดไฟไล่ 'เงา' พวกนั้นทิ้งไปได้ในพริบตา...





   พลั่ก!!




   ผมผลักหล่อนออก  มันไม่ยากเลย..อีกฝ่ายผอมซูบขนาดนั้นไม่มีทางสู้แรงผู้ชายของผมไหวอยู่แล้ว  และการกระทำเช่นนั้นทำให้หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง...และครั้งนี้แรงกว่าเดิมเยอะนัก
   “....ว้าย!”
   “มานี่!!”
   ผมคว้าข้อมือเธอฉุดขึ้น  จึงได้รู้ว่าไอ้ความร้อนที่แผ่ไปทั่วร่างกายคือความโกรธ..ไม่ใช่ความกลัว!
   “แก..! แกจะพาฉันไปไหน!!”
   “โทรหาตำรวจให้ทีครับ!”
   ผมร้องบอกพี่ยาม  ไม่สนใจอาการขัดขืนที่รุนแรงเกินคนปกติแบบนั้นเลยสักนิด  เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าหล่อนไม่ปกติ...ดูจากชุดคนป่วยของโรงพยาบาลทางประสาทแบบนี้กับเท้าขาวซีดไม่มีรองเท้า  มันไม่ต้องเสียเวลาเดาสักนิด  ไม่เลย..และผมรู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
   “ปล่อยนะ!  เทียน!  ฉันอุตส่าห์มาหาแกแทนที่แกจะซึ้งน้ำใจนะ!!”
   ข้อมือบางที่ถูกผมกำอยู่น่าจะขึ้นรอยในไม่ช้านานนี้  ผมไม่สนใจคำพูดพวกนั้นที่อีกฝ่ายพ่นออกมาไม่หยุด..ที่จริงส่วนใหญ่จะจับใจความไม่ค่อยได้นักหรอก..ไทยคำ อังกฤษคำ ฝรั่งเศสคำแบบนั้นใครมันจะไปฟังรู้เรื่องกันนะ
   “ปล่อย  ปล่อยฉัน  ปล่อย!!”

   ตรู๊ดดด...ตรู๊ดดดดด...
   ผมเงี่ยหูฟังสัญญาณในโทรศัพท์  ความเจ็บแปลบที่แขนแสดงว่าหล่อนคงข่วนลงมาไม่ยั้ง
   ..ไม่นาน..ก็มีคนมารับโทรศัพท์..

   ((ฮัลโหล  สวัสดีค่ะ))
   “ยายเหรอครับ  เทียนเองนะ"

   เสียงผมสั่น  ใช่..มันสั่นมาก  สั่นจนผมกลัวตัวเอง..กลัวว่าตัวตนที่แท้จริงที่กำลังทำเป็นเข้มแข็งอยู่แบบนี้อาจจะเปลี่ยนไปตรงหน้าวินาทีนี้เลยก็เป็นได้   ทั้งน้ำตา..ทั้งความอ่อนแอในอดีต...มันจะไม่มีทางหวนกลับมาอีกแล้วตราบเท่าที่สติของผมยังคุมมันอยู่..
   ก้อนอะไรบางอย่างขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ  ความคลื่นไส้ไม่ได้หายไปเลยสักนิด...




   “ผมเจอแม่แล้ว"










----------










   ...ดอกบัว...


   พี่ขอโทษ....พี่...ปกป้องน้องไม่ได้...






   .......พี่ขอโทษ....






   กลิ่นเหม็นรสเปรี้ยวในลำคอทำให้ของเคลื่อนผ่านจากกระเพาะออกมาได้ไม่หยุด  ยิ่งอาเจียนยิ่งมีออกมาเรื่อยๆ  ยิ่งนึกถึง..ก็ยิ่งแย่..และจะทวีความน่าสังเวชต่อไปตราบเท่าที่ยังหาทางจัดการกับ 'ความทรงจำ' ในสมองไม่ได้
   เมื่อพบว่าสิ่งที่ออกมาไม่มีอย่างอื่นนอกจากน้ำจึงตัดสินใจพะอืดพะอมแล้วเงยหน้าขึ้น  อาการหน้ามืดเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย..แต่ความปวดมวนในท้องแบบนี้น่ากังวลกว่านัก...

   ผมกำลังจะล้มลงถ้าไม่ได้ใครบางคนจับแขนเอาไว้  พร้อมยื่นขวดน้ำมาตรงหน้า
   ผมมองหน้าเขา  อีกฝ่ายยิ้มให้ผม



   ปั๊ก!



   “อะ..”
   อีกฝ่ายถัดขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวเมื่อเจ้าชวดน้ำที่เปิดฝารอไว้เรียบร้อยแล้วตกลงไปบนพื้น  น้ำดื่มเย็นๆกระฉอกออกมาชุ่มถุงเท้าจนขึ้นสีเข้ม..และผมที่เป็นคนปัดมันตกไปกับมือก็ได้แต่กร่นเสียงต่ำ
   “ไสหัวไป"
   คนตรงหน้าละล่ำละลัก “เทียน...”

   “ผมบอกให้ไสหัวไป!!  ไม่ได้ยินรึไง!!!”

   ขึ้นเสียงจนเกือบจะเรียกได้ว่าตะคอก  ซึ่งถูกแล้ว..มันคือการ 'ตะคอก'

   ช่องว่างระหว่างตึกแถวไม่ได้กว้างมาก  เหมือนเป็นตรอกสำหรับคนจรจัดให้เดินผ่านไปผ่านมาโดยไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนชนชั้นกลางที่เดินเรียงรายเต็มท้องถนน  นั่นเป็นข้อดีที่ทำให้ไม่ว่าใครก็คงไม่ทันสังเกตเรา..แต่ข้อเสียก็คือในชุดนักเรียนโรงเรียนชื่อดังแบบนี้ก็คงไม่ใช่โฮมเลสแน่ๆ...

   ผมขมวดคิ้วพยายามความคุมสติ  สมองมึนตึบจนแทบไม่อยากรับรู้อะไร..ไม่เลย..ไม่เลยสักนิด...


   “เทียนครับ"
   เสียงนุ่มๆเอ่ยเรียกชื่อผมอีกครั้งหนึ่ง  พร้อมขวดน้ำขวดใหม่ยื่นมาให้
   พอผมเงยหน้าขึ้นมอง  อีกฝ่ายก็ยิ้มให้เหมือนเดิม
   “คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้  ผมเลยซื้อมาสองขวด"

   ..เอาล่ะ  ผมแพ้..
   เมื่อคิดได้ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธน้ำล้างปากนั่นรอบที่สอง  ผมรับมันมาเหมือนไม่เต็มใจ..แล้วใช้มันมากลั้วคอล้างรสเปรี้ยวพวกนั้นทิ้งลงไป  มันช่วยได้มากกว่าที่ผมคิด..อาการอยากอาเจียนหายไปหมดแล้ว

   “คุณหิวมั้ย?”
   เขาถามผม  ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
   “ปวดหัวรึเปล่า?”
   ผมยังคงส่ายหน้าแทนคำตอบ
   “เราเดินเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยมั้ยครับ?”
   ผมส่ายหน้าอีกครั้ง  คราวนี้เขาไม่ฟัง
   “ไปเถอะน่า"
   “...หนวกหูจริง"
   “ถ้าคุณเดินมากับผม  ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณหนวกหูอีกแน่นอน"

   ..ผมแพ้รอบสอง..

   และผมโคตรจะยอมรับการพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ได้จริงๆ  ทั้งๆที่ผมทำได้เพียงเดินตามเขาออกมาจากตรอกแคบๆไม่น่าอยู่นั่น  ผ่านผู้คนมากมายทั้งๆเสื้อเชิ้ตหลุดรุ่ย  เนคไทพาดอยู่บนบ่า..ต่างกับอีกคนที่ใส่ชุดเนี๊ยบกริบทุกกระเบียดนิ้วอย่างสิ้นเชิง



   เขาเดินนำผมมาจนถึงสวนสาธารณะตรงเชิงสะพานข้ามแม่น้ำ  มันเรียกไม่ได้ว่าสวนหรอกเพราะแทบไม่มีต้นไม้สักต้น  เป็นเพียงลานโล่งๆปูด้วยอิฐตัวหนอนเป็นลายสวยทั้งๆที่รู้ว่าไอ้ความสวยงามน่ะมันอยู่ได้ไม่นานนักหรอกถ้าคนไทยยังใช้มันอยู่...นั่นแหละ..เอาเป็นว่าหลายคนในละแวกนั้นใช้พื้นที่ส่วนกลางตรงนั้นเป็นลานเต้นแอโรบิกเปิดเพลงดังกระหึ่ม  ไม่มีความเป็นส่วนตัวในด้านสายตาด้วยซ้ำ..

   ..กลับกัน..ถ้าเป็นความส่วนตัวทางด้านโสตประสาทแล้วล่ะก็มันชนะขาด..
   เพราะไม่ว่าเราจะพูดอะไรหรือแหกปากด่ากันแค่ไหนก็คงไม่มีใครได้ยิน...

   ถึงตรงนี้..ผมจึงเป็นฝ่ายเดินนำเขาไปที่ม้านั่งหลังตอม่อสะพานต้นใหญ่  มันเกือบจะเรียกได้ว่ามุมอับ..และสามารถทอดสายตามองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผมด่าทุกวันว่ามันสกปรกสิ้นดี  แต่วันนี้ดูเหมือนอะไรๆก็จะสวยงามไปหมดเมื่อเทียบกับสิ่งเลวร้ายในอดีต..เขาพูดถูก  เปลี่ยนบรรยากาศแบบนี้ไม่เลวเลย
   อักษรมองไปรอบๆ  แล้วบอกผม
   “รออยู่ตรงนี้นะครับ  เดี๋ยวผมมา"
   “อืม"
   ...โดนสั่งให้ 'รอ' รึไงกันนะ?
   ผมเทน้ำเย็นใส่มือแล้วแปะที่หน้า  มันทำให้หัวเย็นขึ้นนิดหน่อย...จนมีเวลาที่จะทบทวนอะไรหลายๆอย่าง




   พอตำรวจมา  ผมก็ปฏิเสธที่จะให้ปากคำหรืออะไรก็ตามที่เขาต้องการ..ทำแม้กระทั่งเดินหนีแบบที่ใครต่อใครเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ฟังด้วยซ้ำ  ทั้งความวุ่นวายทั้งความคลางแคลงใจ...ผมหนีมาจากทุกอย่าง...

   แล้วโยนภาระหน้าที่ทั้งหมดให้ยายจัดการ....ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องเลย....




   ..ยายคงจัดการได้แน่ๆ  เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้น..
   ..แต่ก้านธูป..จะเป็นยังไงบ้างนะ..

   สายลมอ่อนๆพัดมาเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นมองเบื้องหน้า  ครั้งหนึ่งที่อาทิตย์อัสดงค่อยเคลื่อนลับไปทางอีกฝั่งของแม่น้ำ..ฉายแสงอ่อนทอให้ท้องฟ้าสีหม่นสดใสขึ้นเพียงเล็กน้อย  เมื่อครู่เมฆนั้นมืดดำจนแทบไม่เห็นอะไร..หรือบางทีอาจจะเป็นที่ตาของผม..ที่มืดบอดเอง...
   อักษรเดินกลับมาพร้อมถุงที่คาดว่าน่าจะเป็นอาหารในมือ  เขานั่งลงข้างๆ..แล้วยื่นให้ผม
   “ขนมจีบกุ้ง" เขาว่า "อร่อยใช่ได้เลยครับ"

   มันไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ  เพราะต่อให้ผมปัดมันทิ้งเขาก็อาจจะหยิบขึ้นมาอีกถุงแล้วบอกว่า 'มะกี้เค้าหยอกกก' ....แต่เดี๋ยวก่อน  คนอย่างอักษรคงไม่พูดจาแบบคณะตลกพระราม9แน่ๆ  แต่เอาเป็นว่าต่อให้ผมดึงดันเถียงเขายังไงอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมหรอก


   ผมรับมากิน  ความอุ่นร้อนในอุ้งมือทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย  เสียงเพลงเต้นแอโรบิคกระชากใจก็แทบฟังไม่รู้เรื่อง  อันที่จริงถ้าฟังผ่านๆมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ผมคิด  แถมยังทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ไม่วังเวงเกินไปอีกด้วย..
   รสเปรี้ยวๆเค็มๆของน้ำจิ้มขนมจีบและกลิ่นหอมกระเทียมเรียกให้ผมกลับเข้ามาสู่ความจริงของชีวิตได้อีกครั้ง  การได้ทานอะไรอุ่นๆร้อนๆตอนที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามันทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก


   แรกทีเดียวผมคิดจะทำลายความเงียบระหว่างเราด้วยคำถามที่ว่า 'คุณไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือ?' แต่เพราะผมเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าอักษรเป็นคนมีทักษะในการสนทนาสูง  และเขารู้จักกาลเทศะมากเกินกว่าที่จะตอกย้ำหรือพยายามพูดให้ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างไร้ประโยชน์  เขาจึงเลือกที่จะเงียบ...และนั่งอยู่ข้างๆผมมากกว่า



   '..ผมไม่ได้มาเพื่อเข้าใจ..'


   คำพูดสวยหรูที่หวนย้อนกลับคืนมาในสมองว่างเปล่านี้อีกครั้ง


   '......ผมมาเพื่ออยู่เคียงข้างคุณ...'




   ..ไม่มีสักประโยคที่เอ่ยจากปากของ อักษร อัครมณฑา...ที่จะทำให้ผมอดยิ้มยามคิดถึงมันได้..





   ความทรงจำมีทั้งดีทั้งร้าย  และผมเป็นประเภทเซลล์สมองดีไปหน่อย  ไม่ว่าอะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมก็จำได้หมด...น่าเสียดายที่เรื่องดีๆไม่ได้ลบเรื่องแย่ๆได้เหมือนการบวกเลข  หมกหมุ่นอยู่กับอดีตอันเลวร้ายก็เหมือนคนอมทุกข์  แต่ถ้ามีความสุขกับความทรงจำล้ำค่าก็คล้ายกับว่าเพ้อฝัน..
   ...สิ่งดีๆไม่ค่อยได้ผ่านเข้ามาในชีวิตผมเท่าไหร่  ไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่ตักตวงพวกมันเอาไว้...


   “ผมไม่อยากกลับบ้าน"

   ผมพูดในที่สุด  และไม่คิดเสียใจที่ได้พูดมันออกไป
   เขาตอบกลับมา "เรานั่งอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะพอใจก็ได้"
   ความเงียบเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ..จงใจทิ้งจังหวะ..ทิ้งระยะห่าง..เพื่อให้ผมได้สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด


   “คุณ...รู้เรื่องของผมมากแค่ไหน?”


   คำถามเดิมถูกหวนกลับมาถามอีกครั้งหนึ่ง  และครั้งนี้มันไม่ได้มีความหมายแฝงเหมือนครั้งก่อน
   อักษรขยับตัว  อย่างน้อยประโยคนั้นก็ทำให้เขาประหม่าได้เหมือนกัน..
   “...คุณไม่อยากรู้หรอกว่าผมรู้มากแค่ไหน"
   ผมดูโง่ลงไปทันตาเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา  เพราะผมไม่รู้จะถามไปทำไมในเมื่อรู้คำตอบนั้นดี
   ..และนึกสงสัยว่าทำไมถึงไม่เกลียดเขาเลย...ทั้งๆที่เขาเป็นแบบนั้น..


   “..จมูก..คิ้ว...ริมฝีปาก...”

   เสียงที่เปล่งออกไปดูจะเบาผิดปกติ  และไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะได้ยินคำที่ผมพูดออกไปบ้างรึเปล่าถ้าเสียงเพลงจังหวะเร้าใจของการเต้นแอโรบิคยังดังอยู่ขนาดนี้  แต่ผมก็ยังไม่หยุดพูด

   “ทั้งสีผมสีตา..โครงหน้า..สีผิว..สำเนียงการพูด..แม้กระทั่งเรื่องแบบนี้ผมก็ยังเหมือน..เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น..”

   ..ทุกครั้งที่หลับตา..ลมหายใจจะติดขัดจนพูดไม่ชัด..
   สมองเกิดเงาขมุกขมัวที่อ่านไม่ออก  มันทำให้ขอบตาร้อนผ่าว..และสติสัมปัชชัญญะไม่ค่อยมีนัก..ในที่สุดก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ยประโยคอะไรต่อไปได้


   อักษรเขยิบเข้ามาใกล้ผมอีกนิด  แล้วพูดเสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่ากันเลย
   “...คุณแม่...ของคุณ...”
   “แค่คนให้กำเนิด  คุณก็เห็น"
   “...ยังไงก็ยังเป็นคุณแม่นะครับ"
   "ถ้าคุณมีแม่แบบนั้นคุณจะรู้สึกยังไง?”
   ..อีกฝ่ายไม่ตอบ
   ผมไม่โทษการกระทำเช่นนั้น..

   “โสเภณี" คำนั้นคนพูดหรือคนฟังก็เจ็บด้วยกันทั้งนั้น "หรือกะหรี่...แถวบ้านผมเรียกแม่แบบนั้น  รู้มั้ยว่าทำไม...?”

   ..และผมรู้ดีว่าอักษรคงพูดอะไรไม่ออกอีกสักพักใหญ่
   “ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่...แต่พ่อของผมเองก็เป็นคนฝรั่งเศส" ผมพูด..ด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้ราบเรียบมากที่สุด "...ที่บอกว่าเป็นลูกครึ่งน่ะไม่ใช่เลย  ผมเป็นลูกในท้องของแม่..ตั้งแต่ตอนที่แม่หนีพ่อมาคลอดที่ไทยแล้วได้สัญชาติประเทศอิสระแบบนี้มา  ผมไม่รู้ว่าทำไม...แต่ที่จริงก็ไม่อยากรู้นักหรอก  เพราะต่อให้รู้ไปมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น..แม่หันไปพึ่งแอลกอฮอลล์  ทำงานกลางคืน  แล้ว..."

   “...แล้ว....ก็มีพ่ออีกมากมายเข้ามา”


   มันเป็นจังหวะที่..ไม่ได้ยินเสียงอื่นนอกจากเสียงพูดของตัวเองก้องในสมอง
   ผมไม่เข้าใจว่าตัวเองจะพล่ามเรื่องส่วนตัวแบบนี้ทำไม  จะพูดเพื่อให้ได้อะไร..อักษร..คนอย่างอักษร อัครามณฑาหรือเลขานุการคนเก่งคนนี้น่ะคงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาข้อมูลพวกนั้นออกมา  มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับด้วยซ้ำไป


   “...จนในที่สุดก็มีก้านธูป"
   นั่นเป็นรอยยิ้มที่ผมไม่ได้ฝืนเลยสักนิด
   “..ตอนนั้นผมเพิ่ง11ยังไม่12ดี..ในสภาพบ้านช่องไม่เรียบร้อยโดนแม่ขี้เมาทุบตีอาละวาดแบบนั้น  โดนเพื่อนบ้านดูถูกรุมประนามแบบนั้น  นั่นดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้จักคุณค่าของการมีชีวิตอยู่...ตอนนั้นเองที่ยายย้ายมาอยู่ไทย...ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ยายเองก็แวะเวียนมาหาบ่อยๆ...มันทำให้ผมมองสิ่งมีชีวิตเพศแม่ดีขึ้น...”

   ตอนนี้..มุมปากกระตุกด้วยอาการฝืนเสียแล้ว...

   “ปีต่อมา  ผมก็มีน้องอีกคน"
   ผมก้มหน้านิ่ง  มือสองข้างที่ประสานกันบีบแน่นขึ้น
   “เป็นน้องสาว  ที่มีสีผมเหมือนผม...สีทองสวย...มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมรักสีผมของตัวเองขึ้นมาอย่างน่าขัน" ผมหลับตาลง "มือเล็กๆนั่นกุมมือผมไว้ตลอดตอนที่ผมกล่อมน้องนอน  แกจะยิ้มให้ผมกับก้านธูป  หัวเราะตอนที่สนุก  ร้องไห้ตอนที่หิว...แกน่ารักเหมือน...เหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆในเทพนิยาย...”

   “เทียน" อักษรพูดมาคำแรกพร้อมยกมือแตะแขนผม "ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้อง....”



   “...ไม่มีคำเตือนล่วงหน้า  ไม่มีแม้กระทั่งสัญญาณบ่งบอก"


   ผมยังคงพูดต่อไป  แม้จะรู้ว่าเสียงตัวเองสั่นเหลือเกิน

   “วันนั้นแม่อาละวาดหนัก...หนักจนรู้ว่าไม่ใช่แค่เหล้า  ก้านธูปถูกตีจนสลบ  ผมเพิ่งกลับจากโรงเรียนเข้ามาหยุดสถานการณ์ไม่ได้...มันฉุกละฮุกไปหมด  ดอกบัวร้องไห้เสียงดัง  แม่หงุดหงิดมาก...ผมวิ่งเข้าไปไม่ทัน......ผม......”




   ภาพที่ยังติดตา...มันทำให้อยากอาเจียน...

   สภาพห้องเละเทะเหมือนโดนพายุซัด  กรอบรูปตกแตกกระจาย..เด็กชายตัวเล็กหมดสติอยู่ข้างประตูห้องน้ำ  หมอน..โซฟา..ถูกมีดกรีดแทงจนดูไม่ได้  ประตูระเบียงเปิดทิ้งไว้กว้าง  ผู้หญิงผอมบางที่มีผมสีทองยาวสยายยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมๆกับเด็กทารกในมือ...



   ..และตัวผม...ที่ก้าวเข้าไปตรงจุดนั้นได้ไม่ทันการณ์...





   อักษรบีบแขนผมแน่นขึ้น “มันไม่ใช่ความผิดของคุณนะ...”
   “..แล้วมันความผิดของใครกันล่ะ?”
   เขาไม่ได้ตอบ  ผมเลยถือวิสาสะพูดต่อ
   "หมอก็บอกเพราะแม่มีอาการทางประสาท...นั่นมันข้อละเว้นความผิดได้อย่างนั้นหรือ?”
   “เทียน...”
   “ยายก็เหมือนกัน...ยายเองก็โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง"
   อักษรไม่ได้พูดอะไรต่อ  หรือบางทีวินาทีนั้นผมอาจจะได้ยินแค่เสียงกรีดร้องอย่างไม่เชื่อสายตาในครั้งอดีตของตัวเองก็เป็นได้..

   “ทุกครั้งที่ผมส่องกระจกผมก็เห็นแต่ใบหน้านั้น  ใบหน้าพิมพ์เดียวกันออกมาแบบนั้น..ใบหน้าของผู้หญิงที่ทำร้ายคนที่ผมรักทุกคน  ใบหน้าของ...ไอ้ฆาตรกร!!

   ผมตะคอกออกไป  ความร้อนที่ขอบตาปะทุขึ้นมาไม่หยุดยั้ง 

   "แล้วแบบนั้นจะให้ผมทำยังไง...เพราะว่าเหมือนกันขนาดนี้  เพราะว่ามีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ...เป็นตราบาปที่ติดตัวไปไม่มีทางหาย  ต้องชดใช้มากมายขนาดไหน...ต้องทนทุกข์ขนาดนี้ไปเพื่ออะไร  เรื่องเลวร้ายแบบนั้นทำไมต้องเกิดขึ้น  ทุกครั้งที่ผมมองผู้หญิงคนอื่นก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาจะบ้าแบบคนๆนั้นมั้ย  มันเป็นเพราะอะไร!? เพราะผู้หญิงบ้าๆคนนั้นที่ทำให้ทั้งผมทั้งยายทั้งก้านธูปทั้งดอกบัวต้องทรมาน..!!!”





   ..ความอบอุ่นยามที่มือเล็กเท่าฝาหอยนั่นกำนิ้วชี้ผมไว้แน่น..


   ..รอยยิ้มไร้เดียงสาเปื้อนคราบน้ำลายที่ยังไม่ทันจะเรียกผมว่า 'พี่' ได้..








   “....ผู้หญิงบ้าๆแบบนั้นตายไปซะได้ก็ดี..!!!”






   เพี๊ยะ!


   ราวกับลมวูบหนึ่งที่พัดผ่านหน้า  ความเจ็บจี๊ดแล่นริ้วเรียกสติผมให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์..ให้ลืมตาขึ้น..ให้มองเห็นอะไรบางอย่างทั้งๆที่ม่านราตรีกำลังเข้าครอบครองผืนฟ้า..
   ความตกใจทำให้ผมเงียบลงไปในทันที  และดูเหมือนอีกฝ่ายก็จะตกใจไม่แพ้กัน

   “ขอโทษครับ" เขาว่า "...มือมันไปเอง"

   ..เรียกสติได้ชะงัดทีเดียว..
   ผมถอนหายใจ  รู้สึกว่าตัวเองปล่อยให้ความโกรธความเกลียดเข้าครอบงำแบบที่ไม่ควรจะเป็น..มันไม่สมควรเอาซะเลย  แต่ไอ้ความเจ็บจี๊ดๆนี่ก็ไม่น่าให้อภัยเหมือนกัน
   อักษรนั่งตัวเกร็ง  ดูเหมือนเขาเองก็อยากจะพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์การเอามือฟาดหน้าเมื่อครู่
   แต่ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น...วินาทีนี้...

   “...ผมอยากอยู่คนเดียว"

   “ผม...” คู่สนทนาอึกอัก  มันคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาลังเลจะพูด  "ผมปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวไม่ได้"
   “ผมบอกว่าผมอยากอยู่คนเดียวไง"
   “...ผมจะนั่งเงียบๆ...ไม่พูดไม่ทำอะไรแล้ว...”
   ..นั่นมันใช่ปัญหาซะที่ไหนกัน “ไสหัวไปได้แล้วไป"
   “ไม่ไป"
   “นี่" ผมเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ "คนที่คุณรักที่สุดกำลังสั่งคุณอยู่นะ  ไสหัวไป!!”
   เขาสะดุ้งเพียงเล็กน้อย  ก่อนจะจ้องตอบ
   “คนที่ผมรักที่สุดมีสิทธิแค่ขอร้อง  ไม่มีสิทธิสั่ง"
   “อักษร"
   “...แต่กรณีนี้ต่อให้คุณขอร้องผมก็ไม่ไป"
   “คุณ.....”
   ผมเลือกที่จะไม่พูดต่อแล้วเบือนหน้าหนีเขาแทน  อยากจะถอนหายใจออกมาสักล้านสองล้านรอบให้มันรู้กันไปว่าลมในปอดจะมีมากแค่ไหน  ผมเถียงไม่ชนะเขา..ไม่เคยเลยด้วยซ้ำ!



   “...ถ้าคุณต้องการความเงียบล่ะก็ผมให้ได้..."

   เขาอธิบาย

   "แต่ที่ผมยังนั่งอยู่แบบนี้ก็เพราะผมอยากให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว  อย่างน้อย...ก็แค่ในตอนนี้”




   นั่นทำให้ผมหันกลับไปมองหน้าเขาอีกครั้ง  เขาคลี่ยิ้มให้ผม
   “...เจ็บ..มั้ยครับ..?”
   “ตบเขาแล้วถามแบบนี้เนี่ยนะ...”
   “ผม..ขอโทษ  ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ  คือ...มันแค่....”
   “จะบอกว่าคำพูดของผมมันโหดร้ายเกินไป...อย่างนั้นใช่มั้ย?”
   เขาเทน้ำเย็นใส่ผ้าเช็ดหน้า  แล้วยื่นมาให้ผม
   “..ใครจะตาย..มันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละครับ.." รอยยิ้มนั้นดูเหนื่อยอ่อนชอบกล "...ผมคิดอย่างนั้นนะ”
   “ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่คุณเกลียดแสนเกลียดน่ะเหรอ?”
   “คนที่ผมเกลียดแสนเกลียดก็คงจะเป็นคนที่ใครสักคนรักแสนรักน่ะแหละครับ" เขายิ้มตอนที่ผมรับผ้าเช็ดหน้าไปโปะแก้มตัวเอง "...คนเราทุกคนมีคุณค่าในการมีชีวิตอยู่เท่าๆกัน  น้องก้านธูปและน้องดอกบัวโชคดีมากที่มีพี่แบบคุณ"
   “พี่เลวๆน่ะนะ?”
   “โอยขอที..ถ้าคุณเลวขนาดนั้นผมคงรักไม่ลงหรอก  จริงมั้ยล่ะครับ?”

   ..โอเค  ผมจะหยุดเถียงแต่เพียงเท่านี้..
   ความเย็นของผ้าเช็ดหน้าทำให้รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย  และคำพูดของเขาก็ไล่เมฆดำขมุกขมัวในสมองของผมไปเสียสิ้น


   ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้วแต่เราก็ยังไม่ลุกขึ้น  เหล่าบรรดาป้าๆเต้นแอโรบิกกำลังเก็บข้าวของเตรียมกลับในขณะที่ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจองสนามเตะตะกร้อในลานถัดไป   ไฟสาธารณะสว่างพรึ่บขึ้นมาเรียกแมงเม่าแมงหวี่ตอมหึ่ง  แต่จุดที่ผมนั่งอยู่ก็ไม่ได้มียุงสักตัว..หรือมันไม่ได้กัดผมก็ไม่รู้ล่ะ...

   ...สงบใจ...
   การนั่งข้างใครสักคนแบบนี้มันทำให้เราสงบใจได้มากขนาดนี้เลยหรือ?





   “คุณชอบผมตรงไหนเหรอ?”



   เขาหัวเราะ "คุณถามผมมาสองรอบแล้วนะครับ"
   “....เอาเถอะน่า"
   “ผมเองก็ตอบไปแล้วด้วย...”
   “........งั้นช่างมัน"
   “พูดบ่อยๆผมก็เขินเป็นนะครับ  ฮะๆ"
   “บอกว่าช่างมันไง  คิดซะว่าผมไม่ได้ถามล่ะกัน"
   “ผมจะตอบแล้วนะ..!”
   ผมถอนหายใจ “ผมไม่ฟัง"
   “โธ่  ฟังหน่อยเถอะครับ  ที่ผมชอบน่ะก็เพราะ....”
   “ป่ะ" ผมลุกขึ้นยืน "กลับกัน"
   “อะไรน่ะ!?”
   “บ้านคุณอยู่ไหน  ผมจะไปส่ง"
   “เอ๋?  ไม่ต้องหรอกครับ  ผมไปส่งคุณที่บ้านดีกว่านะ"
   “ผมจะไปส่ง"

   ..ครั้งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมชนะ..


   ...ชอบผมตรงไหน...
   เขาคงไม่รู้หรอกว่าทำไมผมถึงต้องถามแบบนั้นออกไปทั้งๆที่กลัวคำตอบด้วยซ้ำ และครั้งนี้เป็นความกลัวที่ก่อเกิดมหาศาลกว่าครั้งก่อนมาก  เขาคงไม่รู้หรอกว่าผมกลัว...แต่อย่างน้อยก็อยากหาสาเหตุที่หนักแน่นมากพอจะมายืนยันได้ว่า...ทำไมคนที่บริสุทธิ์ขนาดนั้นถึงได้ลดตัวลงมาอยู่เคียงข้างผม



   ..บริสุทธิ์ถึงขั้นที่จะเรียกได้ว่างดงาม..





   และให้ตาย...ไม่ว่าเขาจะอ้างเหตุผลอะไรหรืออาจจะเป็นแค่คนหลอกลวงก็เถอะ

   ...ผมก็คง...ตกบ่วงภาพมายานั้นไปเต็มเปา...









TBC





ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog



=======================



ไม่ใช่แค่คำว่า 'รัก' ..แต่สิ่งที่อยากได้ยินมากที่สุดคือ 'ทำไมถึงรัก'
ในฐานะที่ผ่านประสบการณ์ความรักมาไม่น้อย ได้ยินคำถามว่า 'ทำไม' บ่อยมาก
ไม่ว่าใครก็อยากจะฟังคำตอบจากปากคนที่ตนรักที่สุดเหมือนกันทั้งนั้น
น่าแปลกตรงที่...โอไม่เคยถามใครแบบนั้นเลย 555555

เพราะกลัวคำตอบ

จุดนี้เหมือนเทียนล่ะมั้งคะ  เพราะไม่มั่นใจ..เพราะลังเล..เพราะคิดอยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ามันคงไปกันได้ไม่นานนัก
แต่เชื่อเถอะ  ไม่มีใครบนโลกมีความรักเพื่อที่จะอกหักหรอก
...ไม่มีใครอยากจะเจ็บปวด...กับความรู้สึกที่ผ่านมาผ่านไปแบบนั้นหรอก...



รู้สึกเหมือนตัวเองอินกับอิเทียนมากไปหน่อย  พูดตรงๆเลยว่าเขียนมากี่เรื่องไม่เคยอินเท่าเรื่องนี้
อาจจะเพราะเป็นเรื่องที่ชอบที่สุดล่ะมั้ง :))

แล้วก็ฝากไว้หน่อย บางท่านไม่รู้ว่าจะเม้นท์อะไร เรามีข้อเสนอมาให้ค่ะ (กร๊ากกก)
วันนี้เรามาแลกเปลี่ยนมุมมองความรักกันบ้างดีกว่าเนอะ คลายเครียดๆ!




ช่วงนี้มีข่าวน้ำท่วมหนาหู  ขอให้ทุกคนระวังภัยและรับฟังข่าวสารโดยใช้วิจารณญาณนะคะ
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย  รักษาสุขภาพกันถ้วนหน้าจ้า!


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ

ozaka*



 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


ปล. อีกเดือนเดียวปิดเทอมแล้วค่ะ หลายคนคงกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงสอบ...อ่านนิยายเสร็จแล้วก็อ่านหนังสือด้วยนะ!!
ปล2. รักคนอ่านทุกคนค่าาาาา >3<

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
หุหุ อักษรยังคงพูดอะไรที่โดนใจเหมือนเดิม o13

volvo80

  • บุคคลทั่วไป
กลัวประเด็นเดียว ประเด็นเรื่องสุขภาพของอักษร หวังเป้นอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้จะไม่จบแบบโหดร้ายนะค๊าบบ


 :monkeysad:

ออฟไลน์ Noipatt

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ปรารถนา รักเป็นดั่งใจ
«ตอบ #1067 เมื่อ12-09-2012 19:53:37 »

ขอมาม่าพอกรุบกริบ แต่จบแบบแฮปปี้นะคะ (แอบกลัว)

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เบนก็อินค่ะ

พออ่านแล้วก็คิดว่้าเทียนพูดเกินไป

มืออักษรก็ไปอยู่บนหน้าเทียนแล้ว ทันใจเบนดีจริงๆเลย

ชีวิตเทียนดาม่ามากก เป็นเรื่องยากที่ใครจะเข้าใจนะ จริงๆ

พูดกับใครก็ไม่ได้ อยู่แต่กับความคิดตัวเอง วนไปวนมาซ่ำแล้วซ่ำเล่า

ขอให้เทียนหลุดพ้นจากสภาพนี้สักทีนะ อักษรช่วยเติมเต็มทีเนอะ :monkeysad:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
ชีวิตเทียน อดีตของเทียน มันโหดร้ายมากจริงๆ
เมื่อไหร่กันนะ ที่เทียนจะหลุดพ้นจากสิ่งเลวร้ายในอดีต ที่คอยตามหลอกหลอน
แต่เรื่องของเทียน ยังไม่น่ากลัวเท่ากับ บางอย่างที่อักษรปกปิดไว้ อักษรเป็นอะไรใช่ไหม
เรืองที่ปิดบังไว้ มันน่ากลัวกว่าสิ่งทีถูกเปิดเผยออกมาอกีนะ
ขอแค่ไม่ร้ายแรงจนเกินไปจะได้หรือเปล่า ไม่งั้นเค้าทำใจไม่ได้แน่  :z3: :z3: :z3: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ปลาทองสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ง่ะ..มาสั้นๆ แต่ได้ใจคนอ่านไป ฮิ้ววววววววววววววววววววว
เทียน แกไม่มีวันชนะอักษรได้หรอก..^o-
ยอมรับความจริงข้อนี้ซะเถอะ..ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
สนุกแบบหน่วงๆ ชอบเรื่องนี้จังเลย

MoD

  • บุคคลทั่วไป
มันฉุกละฮุกไปหมด  ดอกบัวร้องไห้เสียงดัง  ------------- ฉุกละหุก
ใบหน้าของผู้หญิงที่ทำร้ายคนที่ผมรักทุกคน  ใบหน้าของ...ไอ้ฆาตรกร!!”  ---------- ฆาตกร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2012 20:35:47 โดย MoD »

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
อดีตของเทียนทำไมโหดร้ายแบบนี้  o22

Aeterna

  • บุคคลทั่วไป
อยากมีแบบน้องอักษรเข้ามาในชีวิตบ้างนี่ต้องทำยังไงดีเนี่ย (หัวเราะตายไปแล้ว)
อิจฉาเทียนอะ น้องอักษรเป็นบุคคลที่พูดรู้เรื่องที่สุดในสามสิบแปดโลก แล้วก็รักษาคำสัญญาได้น่ารักมาก
ความหลังของเทียน แอบคิดไว้ล่วงหน้านิดหน่อย แล้วก็คิดถูกจริงๆด้วยที่คุณแม่ต้องทำอะไรดอกบัวสักอย่าง
เทียนเลยกลายมาเป็นแบบนี้เลยเนอะ แต่ไม่เป็นไรหรอก คนเรามีความหลังกันหมดแหละ
ขึ้นอยู่ว่าจะทำใจยอมรับและผ่านมันไปให้ได้มากแค่ไหน คิดว่าบางทีให้ลืมก็คงทำไม่ได้
แต่เลือนๆ ไปก็ดีเหมือนกันนะเทียนเอ้ยยย ไม่ต้องจำให้ติดตาหรอก ยิ่งทำให้เราก้าวขาไม่ออกนะ
ไอ้ที่ควรจะก้าวต่อมันกลายเป็นยืนอยู่ที่เดิมไปเสีย มันน่าเสียดายนะเออ อะไรดีๆอยู่ข้างหน้าเยอะ

เช่นน้องอักษรเป็นต้น ฮี้วววว น่ารักจังเลย ชอบน้องอักษรมากเลยค่ะ
ชอบคาแร๊กเตอร์นี้มาก ๆ ชอบเทียนที่ขัดน้องไม่ได้ด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ
คว้าน้องอักษรไว้เหอะเทียน แล้วนายจะไม่เสียใจ เชื่อเถอะ (แต่ยังมีปริศนาน้องอักษรอีกใช่ไหมเนี่ย?)

ส่วนมุมมองความรักของคนอ่าน ...
ช่วงนี้เจอแต่คนกลัวที่จะก้าวขาไปพร้อมๆกันค่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขากลัวอะไรอยู่
พยายามทำความเข้าใจและมองในมุมของเขาบ้างก็เริ่มจะพอถูไถไปบ้าง ฮ่าๆ
ยังไงๆคนเราก็มักจะชอบคิดถึงอนาคตเสมอเนอะว่า "ต่อไปจะเป็นยังไง" "แล้วมันจะดีเหรอในวันข้างหน้า"
ในขณะที่ตัวเรามองในวันที่เกิดขึ้น ในขณะที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายไม่ได้มองที่ที่ยืนอยู่ แต่มองไปแต่ข้างหน้า
บางทีคนที่ยืนอยู่กับปัจจุบันก็อดจะน้อยใจลึกๆไม่ได้เหมือนกันเนอะ
แฮ่ๆ พร่ำไปเรื่อย

เอาเป็นว่าคิดถึงเทียนกับอักษรมากๆมานานมากๆเลยค่ะ อยากอ่านต่ออีกเยอะๆ อิอิ
มาต่อไวๆนะคะ ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านกันค่ะ :)

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
น้ำตาคลอ...
รู้สึกอัดอัดแทนเทียน
และรู้สึกกลัวแทนอักษร
(แม้ว่ารายนั้นจะไม่กลัวเลยก็ตาม)

เป็นครั้งแรกเลยนะที่เห็นเทียน "หยาบคาย" ใส่อักษรแบบนี้
นี่ถ้าไม่ใช่อักษรคงหนีไปแล้วล่ะ
ดีจังที่เป็นอักษร...

เมนท์พี่แม่งไม่ค่อยอวยอักษรเลยว่ะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อดีตของเทียนช่งไม่น่าจดจำ แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไปนะเทียน :กอด1:
แล้วถ้าชีวิตมีอักษรอยู่ข้างๆตลอดไปก็คงดี :impress2:
แต่...สุขภาพของอักษรจะเป็นอะไรมากไหมนะ รู้สึกเป็นห่วงจัง ยิ่งคำพูดของอักษรมันทำให้คิดมากอยู่ :monkeysad:

bowstory2

  • บุคคลทั่วไป
มาสั้นๆ แต่อิ่มมมมมมมมมมม >w<
ชอบคำพูดนี้ของอักษรมาก "ผมไม่ได้มาเพื่อเข้าใจ ผมมาเพื่ออยู่เคียงข้างคุณ"
อ่านแล้วอินเนอะ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเทียนเลย อยากรู้..แต่ก็กลัวคำตอบ :-)



ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
แม่ของเทียนนี่มาหลอนหลอนเสร็จก็หายไป ฮ่าาาาาาาาาา
ได้ฟังเรื่องของน้องดอกบัวแล้วอึ้งมาก เทียนเห็นกับตาแบบนั้นไม่ฝังใจคงผิดมนุษย์แล้วแหล่ะ

ป.ล. มุมมองความรักของเรา อืมมม ค่อนข้างมืดมนแบบเทียนนั่นแหล่ะ อ่านไปนี่ก็สะดุ้งหลายทีอยู่
       แต่ก็เชื่อนะว่าความรักที่สวยงามมันมีอยู่จริง เพียงแต่เราไม่เคยเจอมัน

 :กอด1:

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ตอนนี้จะเป็นตอนที่ดาร์กมากๆ....!! ถ้าไม่มีอักษรเข้ามา...อ่านฉากที่อักษรพูดทีไรเป็นต้องอมยิ้มทุกที (:
หลายตอนแล้วนะที่ความดาร์กจากอิเทียนถูกลบด้วยความน่ารักของอักษรอ่ะ ! ><

ยิ่งอ่านยิ่งรักอักษรขึ้นทุกตอนๆ <3
ชอบทุกคำพูด ทุกความคิด ทุกการกระทำของอักษรเลยยย!
และยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าเทียนโชคดีที่ได้เจออักษร(เข้ามาจีบ555)
อักษรเหมาะกับเทียนมากก ><

เราว่าเทียนพูดแรงไปนิด! ที่คุณแม่ทำไปเพราะมีอาการทางจิตหรอก!
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ... ปัญญาเรื่องแม่เรื่องในครอบครัวเราก็เจอมาหนักเหมือนกัน!
มันทำให้เราเป็นคนที่คิดว่าแม่ไม่ได้รักลูกกันทุกคนหรอก << ซึ่งก็ไม่ชอบความคิดแบบนี้ของตัวเองมากๆ - -;
(เริ่มดราม่ากะตัวเองละ 5555555555555555)
ถ้าไม่ได้อักษรเข้ามาตบหน้าเรียกสติ เทียนมันอาจจะเป็นบ้า สติหลุดไปแล้วก็ได้... - -
เทียนโชคดีจริงๆนะที่มีอักษรอยู่(รู้สึกอิจฉาอย่างมากก ชิชิ!)

ไม่ชอบที่เทียนด่าตัวเองว่า 'เลว' ยัดเยียดความเลวให้ตัวเอง ทั้งที่จริงๆแล้วเทียนไม่เลวเลย...(ยกเว้นเรื่องที่ทำกับผู้หญิง - -)

'คุณชอบผมตรงไหน' << รู้สึกเหมือนเทียนจะยังไม่เชื่ออักษรซะทีเดียวนะ? ไว้ใจคนยาก... หรือคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรดีให้อักษรชอบได้เลย.... แต่ถ้าเราเป็นเทียนก็แอบกลัวคำตอบเหมือนกัน!! UU
และมันคงจะได้คำตอบนั่นแหละถ้าอักษรไม่แซวอิเทียนมันซะก่อน! 5555555555555

เทียนจะไปส่งอักษรที่บ้านหรือออ!! เดี๋ยวนี้เริ่มสุภาพบุรุษแล้วนะ!! ><

+ปล. ตอนี้รู้สึกเหมือนจะเม้นไม่ออกนะ..
แต่พอพิมไปพิมมาไหงมันยาวขึ้นเรื่อยๆล่ะเนี่ย 555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด