__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 571302 ครั้ง)

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ขอบคุณอักษรที่อยู่ เคียงข้างเทียน ขอบคุณ

สำหรับ เราก็ไม่เคยถามแฟนของเราเหมือนกัน ว่า"รักฉันเพราะอะไร" มันกลัวนะ ว่าคำตอบที่ออกมา เป็นคือใคร อะไรที่แฟนเรามอง


แต่าำหรับอักษร เราเชื่อว่า ทั้งหมดที่เป็นเทียนไข คือสิ่งที่อักษรรัก

ออฟไลน์ ordinary_girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
มาแล้วๆ อดีตของเทียนช่างโหดร้ายยยยยย
แต่อักษรก็ยังน่ารักเหมือนเดิม

 “คนที่ผมเกลียดแสนเกลียดก็คงจะเป็นคนที่ใครสักคนรักแสนรักน่ะแหละครับ"

ชอบมากเลยค่ะคำนี้
ทำไมเราไม่เคยคิดยังงี้หว่า
มาต่อตอนหน้าเร็วๆนะคะพี่โอ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
 เศร้า :impress3:
เทียนคงจะทุกข์ทรมานอยู่ในใจมาตลอด

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ง่า สงสารเทียน

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
บีบคั้นใจดีแท้

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
อักษร เป็น ผช ช่างตื้อ ได้แต่หวังว่า ความรัก ที่มีให้เทียน จะเป็นความรัก ไม่ใช่ความหลง
เพราะหากวันใดที่ความรู้สึกลดลง คนที่ชีช้ำเห็นจะเป็น พระเอกสุดหล่อ

มุมมองความรักงั้นเหรอ?
ขึ้นอยู่กับวัย และประสบการณ์
มันจะพัฒนาไปในทางบวก หรือลบ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความถี่ในการมีรัก

รักแบบไม่คาดหวังคงจะดีที่สุด
แต่เมื่อรักแล้ว ก็อดที่จะคาดหวังไม่ได้ล่ะนะ

โอ้ ชีวิตนี้ยากนัก โลกแห่งจิตนาการมีความสุขสุดๆ แล้ว 55555

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตอิเทียนนี่มันมืดมนไปแล้ววววว ไม่สว่างเหมือนชื่อเลย  :z3:

เป็นอีกคนที่ชอบคำว่า เทียนครับ พูดแค่นี้ก็ตายแล้วววววววว น่ารักกก  :o8:
ตอนที่แม่โผล่มาน่ากลัวมากอ่ะ คิดว่าคนอะไรทำไมมันน่ากลัวขนาดนี้ -____-"
เทียนตะคอกอักษรแล้วอักษรไม่ว่าอะไรนี่ ชอบมากๆเลยยย เป็นใครก็ต้องแพ้ เชื่อเถอะ  :กอด1:

maii

  • บุคคลทั่วไป
วันจันทร์สอบ!!!

หลบหนังสือมาหานิยาย

คิดถึงอักษรมากกกกกกกกกกกกกกกก


รอๆตอนต่อไป  o13

ออฟไลน์ Fate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สถานการณ์ตึงเครียดขนาดนั้น แต่อักษรก็ยังแอบเสี่ยวได้นะเนี่ย
น่ารักจริงๆเลย อยากจะเอาถุงคลุมหัวแล้วอุ้มกลับบ้าน   :man1:

ปล.สลดใจเรื่องน้องดอกบัวจังค่ะ คิดภาพแล้วเศร้าแทน

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
อ่านตอนนี้แล้วแอบคิดถึงน้ำตาหนึ่งลิตรเลยค่ะ
ตอนที่พระเอกพูดไม่ดีเกี่ยวกับการดิ้นรนที่จะมีชีวิตต่อ แล้วมันไปสะเทือนใจนางเอกอ่ะ
แต่สุดท้ายพระเอกก็ดิ้นรนเพื่อจะให้นางเอกมีชีวิตต่อนั่นแหละนะ

ขอให้อักษรสุขภาพแข็งแรงนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






cotone

  • บุคคลทั่วไป
อุ...ชอบความลงตัวของคู่นี้มากเลย

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
love อักษร เทียน และน้องธูปมากกกกก อยากให้ทั้ง 3 มีแต่ความสุข รอตอนต่อไปจ้ะ  :L2:

ออฟไลน์ HaruCiel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณแม่ของเทียน มาทำให้หลอนแล้วจากไป 55555
ภาพความทรงจำที่ติดตาของเทียน คิดภาพตามแล้วน่ากลัวมาก น่าสงสารเทียน พยายามจะลืมคงทำได้ไม่ง่ายนัก ส่องกระจกก็เห็นแล้ว ¥___¥
เทียนกับอักษรเป็นอะไรที่ลงตัว เทียนก็เป็นเทียนสมชื่อ เปลวไฟนิ่งๆ แต่พอลุกก็ลุกท่วมละลายตัวเองน่าดู ดีแล้วที่มีอักษร ค่อยทำให้กลับมานิ่งเหมือนเดิม
ชอบเวลาอักษรพูดมาก พูดนิ่งๆแต่ทำให้คิดได้ แต่บ้างครั้ง อ่านคำพูดของอักษรทีไร ใจมันหวิวๆน่าดู
หวังว่าจะไม่จบแบบน้ำตานองเทียนไขละลายหมดแท่ง(?)นะคุณโอ ¥_______¥

ออฟไลน์ runma

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ชีวิตไม่มีอะไรง่ายจริงๆ ปมอดีตของเทียนเรื่องแม่มันดูโหดร้าย แต่ถ้าเทียน
ยังไม่สามารถให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ชีวิตของเทียนก็ต้องอยู่กับความรู้สึก
ผิดไปตลอด อย่างน้อยก็ยังรู้สึกดีแทนเทียนนะครับ ที่วันนี้มีอักษรอยู่ข้างๆ
อักษรคนที่รักเทียนโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน คนที่จะอยู่เคียงข้างกันเสมอ

อดีตของเทียนช่างเจ็บปวด แต่ปัจจุบันของอักษรล่ะครับคงไม่มีอะไรน่ากลัว
อย่างที่ผมหวั่นใช่มั้ยครับ    :m17:

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
มันคงไม่มืดมัว มืดมน อึมครึ้มไปตลอดหรอกใช่ไหม 5555
วันสว่าง สดใส  ต้องมีบ้างแหละเนอะ
อ่านเรื่องนี้แล้วมันสุขปนเศร้าจริงๆ o13

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
อิอิ  สู้ๆนะจ๊ะเทียนไข

มีอัำกษรอยู่เคียงข้างอยู่แล้ว

bemind

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตเทียนมันมืดมนจริงๆน่ะแหละ เทียนก็มัวแต่โทษตัวเอง  :กอด1:
เราก็อยากรู้เหตุผลที่อักษรชอบเทียนเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ มะมะมะหมิว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
รักเทียนนนนนนน  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ fuwa79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2014 19:47:11 โดย fuwa79 »

ออฟไลน์ FFS_Yaoi

  • นู๋ยังว่างมาจีบนู๋บ้างก็ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Windiizz

  • บุคคลทั่วไป
อย่างน้อยที่สุดเทียนก็ยังเหลือยายกับก้านธูป พ่วงอักษรมาด้วยอีกคน ไม่เป็นไรน้าา  :กอด1:
ลองกลับไปนั่งอ่านใหม่อีกรอบ รู้สึกว่าชีวิตอักษรจะเป็นปริศนามากกว่าเทียนอีก!!
ตอนนี้กลายเป็นว่ากำลังรับรู้อดีตความรู้สึกฝั่งของเทียนไข แต่อักษรนั้นยากแท้หยั่งถึงมาก 5555
กำลังสงสัยว่าอักษรจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าหนอ แบบว่ากินพวกมีไขมันไม่ได้ มือชุ่มเหงื่อ เหนื่อยมากไม่ได้ #เพ้อล่ะๆ เหอๆ
เริ่มรู้สึกว่าคู่นี้ดูจะดราม่ามากกว่าคู่อื่นๆ T_T

จะรอต่อไปนะคะพี่โออออ FIGHTO!!

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog








10th Day : ninety-ninth Forever











   แกรก..


   ตอนที่ผมเดินออกมานอกห้องหลังจากแต่งตัวเสร็จถึงได้เห็นยายกำลังนั่งแยกผ้าจะส่งซัก  ท่านคงไม่ทันสังเกตเห็นผมหรอก...ในมือที่หยิบจับผ้าใช้แล้วแทบไม่กระดิกด้วยซ้ำ  ท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างที่ไกลออกไป
   ...และผมพอจะเดาเรื่องนั้นได้
   แผ่นหลังของยายที่ผมมองจากจุดนี้ดูบอบบางราวกับจะแตกหักได้ซะเหลือเกิน...ท่านดูตัวเล็กลงไปเยอะทีเดียวนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้เจอกัน  แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือน้ำเสียงเนิบๆของผู้สูงอายุต่างชาติที่พูดชัดจนคนไทยด้วยกันเองยังอาย..และความอ่อนโยนทุกครั้งที่เอื้อมมือมาสัมผัสผม...

   ยายดีกับพวกเรามาก..ทั้งความรักความอบอุ่นความเอ็นดูซึ่งเราไม่เคยได้รับมาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์พวกนั้นขึ้น  สิ่งที่ยายทำทุกอย่างราวกับต้องการจะชดเชยเวลาเลวร้ายในอดีตให้กับผมและก้านธูป
   เคราะห์ดีที่น้องยังเด็กเกินกว่าจะจดจำได้  และตำรวจดีที่ช่วยพวกเราเอาไว้ในคราวนั้นก็สรรหาบ้านใหม่ให้อย่างง่ายดาย  เราย้ายมาอยู่ที่นี่..แต่อย่างว่า  ข่าวลือหรือคำนินทามันเดินทางได้ไวพอๆกับน้ำที่กระเพื่อมยามมีหินตกใส่  และ 'หิน' ก้อนนี้ท่าทางจะก้อนใหญ่มิใช่น้อย  รู้สึกตัวอีกที...สายตาของเพื่อนบ้านที่มองมาก็แปลกไป..

   ..ผมไม่ได้แคร์เรื่องนั้นนัก..

   และถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผมยินยอมพร้อมใจจะให้ทุกคนรู้เรื่องนี้




   “มอนิ่งครับยาย"


   อีกฝ่ายสะดุ้งเพียงเล็กน้อยแล้วหันมามองผมด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ...เหมือนเคย
   “มอนิ่งจ้ะเทียน"
   ผมอ้าปากอยากจะพูดอะไรสักอย่าง  แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีก็เพราะ..ปกติแล้วผมก็ไม่ได้พูดมากอะไรอยู่แล้ว  จึงได้แต่ทำทีเป็นผูกเนคไทเหมือนไม่สนใจ  แต่ก็เหลือบมองอยู่บ่อยๆ
   ยายถอนหายใจเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้งนั่นน่ะ..
   “ยายครับ"
   “หืม?  มีอะไรเหรอจ้ะ?”
   ผมอึกอัก  ไม่รู้ว่าจะวางสายตาไว้ที่ตรงไหนดี
   ..เอาล่ะ..ใจเย็นๆ..
   “แม่เป็นไงบ้างครับ?”
   ยายเลิกคิ้วเหมือนประหลาดใจเอามากๆ  ก่อนจะยิ้มบาง "เมื่อวานเราก็...เจอแล้วนี่?”

   “ผมไม่ได้หมายถึง...ลักษณะทางกายภาพ....”

   เหมือนคำพูดนั้นจะฟังดูตรงตัวไปหน่อย  แต่มันก็เคลียร์ดี..ยายสบตาผมคล้ายกับว่าพยายามทำความเข้าใจ  และผมหลบตา..ผมโคตรเกลียดที่ตัวเองเอาแต่หนีอยู่แบบนี้...


   “...กลับไป..อยู่ที่โรงพยาบาลแล้วน่ะ" ยายหลุบตาลงแยกเสื้อสีขาวใส่ตะกร้าอีกครั้งหนึ่ง เสียงนั่นไม่ได้สั่นสักนิด "หมอบอกว่าคงจะต้องจับคุมเข้มขึ้น...โชคดีที่ครั้งนี้นอกจากเทียนแล้วไม่มีใครเสียหายอะไร  หรือบางทีอาจจะไม่ได้ไปแจ้งความ...”


   “ยายเคยไปเยี่ยมแม่มั้ยครับ?”
   อีกฝ่ายส่ายหน้า  แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมเหมือนเคย "เค้าไม่อนุญาตให้เยี่ยมจ้ะ  แต่ได้คุยกับหมอของชาร์ล็อตบ้าง"

   “ผม...มีเรื่องสงสัยอยู่อย่างนึง"

   ผมเอ่ยออกไปทั้งๆที่อะไรบางอย่างพยายามห้ามไว้...แต่ความอยากรู้อยากเห็นนี่มันมากกว่านัก  ผมไม่คิดว่าคำถามอย่างนั้นจะมีประโยชน์อะไรกับผมในตอนนี้เลย  ไม่เลยสักนิด...
   คู่สนทนาพยักหน้าให้ผมพูดต่อ  ราวกับย้ำความให้ไม่ต้องลังเล


   “..แม่..รู้ได้ยังไงว่าผมเรียนที่นั่น?"


   ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่ากระไร  แววตาสีฟ้าใสนั่นมีประกายประหลาดขึ้นมาวูบหนึ่งตอนสิ้นประโยค  ผมลดเสียงลงจนเกือบเงียบสนิท..และความเงียบที่เกิดขึ้นนั่นทำให้ผมอึดอัด..
   ..อึดอัด..ทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากจะพูดอะไร..
   ผมไม่คิดจะได้รับคำตอบจากคำถามนั้น  และนั่นเป็นสัญญาณให้ผมจบการสนทนา..แล้วเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน
   “ยายไม่รู้เรื่องนั้นหรอกเทียน"
   อีกฝ่ายพูดขึ้น  ผมไม่ทันหันไปมอง
   “ยายไม่ได้เจอแม่เค้านานแล้ว...ยายเองก็ติดใจเรื่องนั้นอยู่เหมือนกันจ้ะ"
   มันเป็นช่วงเวลานานทีเดียว..กว่าที่ผมจะพยักหน้ารับแล้วก้มลงใส่รองเท้า
   “เทียน"
   “ครับ?”
   “คืนนี้พาน้องไปโบสถ์ได้มั้ยจ้ะ?”
   ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง "ได้ครับ"
   “เทียน..”
   “ครับ?”
   ผมยังไม่ได้หันไปเพราะแกล้งทำเป็นสาละวนกับรองเท้าบ้าๆนี่  เพราะผมไม่รู้จะทำตัวยังไงถ้าได้เห็นหน้ายายตอนนี้...ผมไม่ใช่เด็กดี..พูดให้ถูกคือไม่ใช่คนดีเอาซะเลย
   “.....เทียนจำเรื่องสมัยเด็กได้ทุกเรื่องรึเปล่า?"
   “ครับ..."
   ตอบรับไปส่งๆด้วยไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับประโยคเมื่อครู่นั้น  และผมรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดจะเอาความต่อเช่นกัน


   ผมกล่าวลายายทั้งอย่างนั้นแล้วเดินออกจากบ้าน  ไม่หันหลังไปเลยสักนิด  สาเหตุสารพัดสารเพที่สรรหาขึ้นมาอ้างได้ดีกันไปหมดอยู่ในหัว  ไม่ว่าจะเหตุผลข้างๆคูๆอย่างรองเท้ามันใส่ยาก  เดี๋ยวจะไม่ทันรอบรถเมล์  หรืออย่างเช่นเหตุผลลึกลงไปหน่อยที่ว่าจะได้เปิดปากระบายความรู้สึกอัดอั้นที่มีอยู่ในใจออกมาด้วยน้ำคำที่ไม่สุภาพเท่าไหร่..

   เพื่อปกปิดความจริง...ที่ว่ากลัว...



   ...กลัว...ว่าจะต้องร้องไห้ออกมา...





   ..เหตุผล..เป็นเรื่องง่ายเสมอน่ะแหละ..










----------










   ..วันอีฟ..


   โรงเรียนเกษรวิทยาเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง  รวบรวมเด็กหัวกะทิหรือบ้านรวยหรือมีความสามารถเอาไว้เยอะแยะไปหมด  รวมไปถึงบรรดาลูกครึ่งแท้ลูกครึ่งเทียมเดินกันกลาดเกลื่อน  ด้วยความที่ภายในโรงเรียนมีเด็กหัวแดงอยู่ไม่น้อย..จึงไม่เคร่งเรื่องกฏระเบียบทรงผมมากนัก  และก็นั่นแหละ..คริสเตียนคริสตังเองก็เช่นกัน..


   งานฉลองจัดขึ้นในช่วงบ่าย  เอาเข้าจริงช่วงเช้าก็ไม่มีใครสนใจจะเรียนอะไรกันนักหรอก  มันมีประเพณีประหลาดๆอย่างการทำกล่องของขวัญทำมือขึ้นมากล่องนึง  โดยใส่ของสำคัญของเรากับคนที่เรารักเข้าไปข้างใน..หรือเรื่องของการสารภาพรักใต้มิสเซิลโท...แม่งโคตรเป็นประเพณีที่ฮิตมากจนทางสภานักเรียนต้องเอามิสเซิลโทมาห้อยทั้งหมด99จุดเพื่อรองรับกิจกรรมบ้าๆพวกนั้น...


   ..ตอนที่ผมเดินไปที่โต๊ะ  มีจดหมายสอดอยู่ห้าฉบับ..

   ฉบับแรก..ของน้องใบเฟิร์น  ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะแกเป็นบรรณารักษ์อาสาและผมโคตรจะไปใช้บริการบ่อย  โดนหลอกจับมือไปหลายครั้งแล้วทีเดียว..
   ฉบับที่สอง..ของน้องขวัญ  เอาล่ะรายนี้ผมจำไม่ค่อยได้  จะจำได้ก็แต่น้องเปิ้ลที่อยู่กลุ่มเดียวกันเดินด้วยกันบ่อยๆ  ที่จำเปิ้ลได้เพราะหล่อนเป็นแฟนของเจ้าปิงปอง หนึ่งในรักร้ายม.3...ยิ่งนึกยิ่งจำไม่ได้แหะ..

   ฉบับที่สาม...
   ชื่อที่เขียนไว้ทำให้ผมแปลกใจพอสมควร


   พี่เทียน  ที่ผ่านมาฟ่างคงทำตัวแย่กับพี่เทียนมาก  ฟ่างขอโทษนะคะ
   ฟ่างอยากคุยกับพี่เทียนอีกครั้ง  ไม่อยากให้มันจบค้างคาแบบนี้
   หวังว่าพี่เทียนจะมา..และฟ่างจะรอค่ะ

   มิสเซิลโท21  หลังบันไดตึกศิลป์ บ่ายสองครึ่ง

   ข้าวฟ่าง




   “โหย  ไม่เบานี่หว่าเพื่อน"
   เสียงไอ้กลอนแขวะดังมาแต่ไกลก่อนมันจะทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าผม  ทำเอาไม่อยากเปิดอีก2ฉบับต่อหน้ามันเลยจริงๆให้ตายเหอะ..
   ผมไหวไหล่กลับไป  ไม่ได้ตอบอะไร..ส่วนมันก็หยิบ2-3ฉบับออกมาจากใต้โต๊ะแล้วแกะอ่าน
   “ต้องปฏิเสธอีกแล้วสิเนี่ย...”
   “อืมหึ..” ผมมองหน้ามันแล้วก็คิดอะไรได้ "จริงสิ  มึงมีแฟนแล้วนี่หว่า"
   ที่กำลังกล่าวถึงคือข่าวลือเรื่องแฟน(ฟังดีๆนะครับ  แฟน/คนรัก ไม่ใช่กิ๊ก/คู่ขา/คู่นอน) เท่านั้นแหละอีกฝ่ายร้องลั่น
   “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
   “โอ้ยไอ้สัส  ไม่ต้องตะโกนใส่หูกูก็ได้...”
   “กูเขิน"
   “เขินพ่องดิหน้าตายขนาดนั้น..”
   “เอาเหอะน่า  แล้วมึงล่ะ?  จะเก็บไว้ทั้งหมดเหมือนที่เคยทำป่ะ?”

   ผมพับจดหมายข้าวฟ่างเก็บใส่ซองตอนที่ตอบ "ไม่แล้วล่ะ"


   กลอนไม่ได้พูดอะไร  ผมคิดว่ามันมีเส้นสายและฉลาดมากพอจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างโดยที่ไม่ต้องอธิบาย  มันเป็นความเบื่อหน่าย..และยอมรับเลยว่าแรกทีเดียวการได้รับอะไรแบบนี้มันก็สนุกไม่เบา..

   ...เพียงแต่...ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ...



   '...คุณมีดีอย่างอื่นนอกจากหน้าตาด้วยเหรอครับ?'



   .......ทำไมคำพูดของหมอนั่นมันต้องมาหลอกหลอนในเวลาแบบนี้ด้วยฟะ..
   ทั้งๆที่เป็นเพียงเรื่องล้อเล่นแท้ๆ  แต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้แหะ..



   จริงอยู่ที่เทศกาลแบบนี้ทำให้คู่รักเพิ่มจำนวนขึ้นมาก  แต่ในความจริงแล้วพวกเขาก็คบกันได้ไม่นานนักหรอก..มันก็เป็นแค่เทศกาลของคนอยากควงคู่กับคนที่หน้าตาใช่...ยิ่งเกษรวิทยาขึ้นชื่อเรื่องหน้าตาของผู้เรียนอยู่แล้วด้วย  กับอีกประเภทที่มีคติประจำใจว่าอกหักดีกว่ารักไม่เป็น  จะว่าไป..จดหมายที่กลอนได้รับก็มาจากทั้งผู้ชายและผู้หญิง...เรื่องของเกย์คงไม่ใช่เรื่องผิดปกติไปแล้วล่ะมั้งสำหรับสังคมยุคนี้...

   มีคนนัดไว้ตอนเที่ยง...
   ...ให้ตายสิ...ทำไมต้องนัดเวลายุ่งยากด้วยก็ไม่รู้แหะ...
   ผมถอนหายใจ  หันไปมองหน้าต่างของตึกเรียนฝั่งตรงข้าม  อักษรไม่อยู่..จึงเหลือทางเลือกเพียงไม่กี่ทางระหว่างโทรศัพท์ไปหาโดยตรงกับเมสเซส  และคิดว่าผมจะเลือกอะไรน่ะหรอ..


   ไม่ทานข้าวด้วยนะ  มีธุระ


   ข้อความสั้นๆดูหยาบกระด้างไปสักเล็กน้อยตอนที่ผมอ่านทวน  แล้วก็ต้องมาด่าตัวเองอีกหลายตลบว่าจะอ่านทวนทำไมถ้าไม่คิดจะแก้มัน  หรือพูดให้ถูกก็คือ...ไม่รู้จะแก้เป็นประโยคที่ดูสวยหรูงดงามกว่านี้ยังไงมากกว่า..
   เอาน่า...ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจอะไรขนาดนั้น...


   ...11โมงครึ่ง..

   ผมไม่ค่อยเข้าใจตรรกะที่ว่าต้องนัดตัวเลขแปลกๆเผื่อไม่ให้ซ้ำใครจริงๆ  พวกหล่อนจะเขียนประมาณ 11.28น. หรืออะไรที่ใกล้เคียงนั่นแหละ  แต่ในความคิดผมไม่ว่าจะ28 29 31 หรือ32มันก็สิบเอ็ดโมงครึ่งจริงๆ..ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น


   และตอนนี้เองผมยืนอยู่ใต้ต้นมิสเซิลโทเบอร์17..

   บางทีผมอาจจะมาเร็วไป  เพราะวันคริสมาสต์ที่โรงเรียนกำลังจะเตรียมจัดงานฉลองแบบนี้แม้กระทั่งอาจารย์เองก็ไม่อยากเข้าสอนเท่าไหร่ด้วยซ้ำ  ถ้าเป็นห้องเด็กทุนก็ว่าไปอย่าง...ห้องความสามารถพิเศษอย่างผมเปอร์เซ็นการสอนยิ่งต่ำนัก  โดยเฉพาะวันแบบนี้ที่หลายคนพาลรับจ็อบทั่วไปหมดจนคนมาเรียนนับนิ้วได้น่ะ...
   ในมือผมมีcannonG11ที่ถอยมากเมื่อปีก่อนทั้งๆที่มีข่าวว่าจะออกG12ในไม่ช้านาน...มันเป็นกล้องที่เหมาะกับวันแบบนี้..เล็กๆเบาๆเกาะมืออยู่หมัด  ถือว่าถนัดใช้เวลาทั่วไปไม่ใช่งานหลัก....หรือความจริงก็คือผมชอบมันน่ะแหละ

   แชะ..

   ผมยกกล้องขึ้นกดชัตเตอร์ที่มิสเซิลโทของปลอมที่ดูเหมือนของจริงจนน่าประหลาดใจพวงนี้...เลขอารบิค17สีทองต้องแสงอาทิตย์ที่เล็ดลอดกิ่งไม้สร้างลวดลายงดงามจนอดยิ้มไม่ได้ 
   ...และไม่นานใครคนหนึ่งก็เรียกผม

   “พี่เทียน!”

   ผมไม่ต้องเดาหรอกว่าเป็นใคร  นอกจากคนที่เชิญผมมานั่นแหละ
   “ครับ?”
   และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมเผลอยิ้มเสแสร้งออกไป  รอยยิ้มเสแสร้งที่ทำให้ผู้หญิงหวั่นไหวมานับต่อนับแบบนั้นแหละ..ครั้งหนึ่งผมเคยคิดจะแก้นิสัยแบบนี้แต่ก็ดูเหมือนจะ..ไร้ผล
   หล่อนมีดวงหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู  ผมแสกกลางยาวลงมาถักเปียสองข้างแบบ..ลูกคุณหนูสุดๆ  ผมไม่แปลกใจเพราะโรงเรียนนี้ก็เต็มไปด้วยบรรดาลูกคนรวยมากมายชนิดที่ว่าเดินชนกันอาจจะได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งของเศษตังค์หรืออะไรทำนองนั้นได้  หรือจะให้พิจมองอีกทีหล่อนก็เป็นเพียงอาหมวยน่ารักๆคนหนึ่งเท่านั้น..ผู้หญิงโรงเรียนนี้ถูกฝึกมาให้บริหารความงามเพื่อจะได้ทัดเทียมผู้ชายที่มีชื่อเรื่องหน้าตามาแต่ไหนแต่ไร..

   ..ไม่ปฏิเสธคนที่เข้ามา..และไม่เคยโหยหาคนที่จากไป..

   คติประจำใจของผมทำให้ผมยังยืนอยู่ตรงนี้  มาตามนัดทั้งที่ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรสมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย


   “ขวัญเองค่ะ"

   อีกฝ่ายแนะนำตัวด้วยท่าทางตะกุกตะกัก  เหลือบสายตามองไปด้านหลังถึงได้เจอเพื่อนสาวคนอื่นคอยกรี๊ดเชียร์อยู่ไกลๆ  ผมยิ้มโดยที่ไม่รู้ว่าจะยิ้มไปทำไม..และตอนนี้ผมเกลียดตัวเองที่ต้องทำอย่างนั้นชะมัด..

   ..ทำไมถึงคิดแบบนั้น..

   ....นี่มันคือตัวเราเอง...นี่คือสิ่งที่เราเป็นมาตลอดมิใช่หรือ?



   ความคิดผมกำลังตีกันมั่วโดยพยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า  คำพูดสำคัญๆที่อีกฝ่ายเพียรพยายามพูดมาก็เหมือนจะทะลุผ่านหูไปดื้อๆ  มันไม่ได้ศัพท์  ไม่ได้จับใจ..พูดออกมาจากความรู้สึกล้วนๆโดยไม่มีการกลั่นกรองใดๆทั้งสิ้น  ไม่เหมือนกับใครบางคนที่ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ดูสวยหรูไปหมด...
   อาจเพราะ...เอ่อ...ผมยอมรับโดยสดุดีตรงนี้เลยว่าผมเองก็หน้าตาดีไม่น้อย  เชื้อตะวันตกผมทองตาน้ำข้าวที่ได้รับจากทั้งพ่อทั้งแม่ล้วนๆนั่นทำให้มีผู้หญิงเข้ามาไม่ได้ขาด  และสนุกกับความรู้สึกของคนอื่นอย่างตรงไปตรงมาด้วยการกระทำที่โคตรจะหลอกลวงแบบนี้...
   ถ้าเพียงแต่ได้รับการสอนเรื่อง 'ความรัก' มาอย่างถูกต้อง..
   ถ้าเพียงแต่มีใครสักคนที่ 'รัก' จริงๆจากจุดลึกสุดของหัวใจ..


   ..และที่ตอบจบของเส้นความคิดพวกนั้น...คือข้อความแปลกประหลาดก็ดังก้องอยู่ในสมอง..




   ..ว่านี่.......ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ..





   “ขอโทษนะ"


   ผมพูด...พูดก่อนที่คนตรงหน้าจะทันได้จบประโยคด้วยซ้ำ  เจ้าหล่อนชะงักเบิกตาโพลงมองผมราวไม่เชื่อหูตัวเอง  ทีมเชียร์พวกนั้นก็เช่นกัน  พาลบรรยากาศเงียบกริบลงในทันตา  ความงามของต้นมิสเซิลโทดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร..
   คำพูดเพียงคำเดียวนั้นเองที่จะเคลียร์คำตอบทุกอย่าง

   ผมยืนมองตาอีกฝ่าย..นานจนแน่ใจว่าเธอคงไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นทำอะไรก่อนเป็นแน่  จึงได้ตัดสินใจก้าวเท้าจากไป
   ได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นมาจากเบื้องหลังที่ผม 'หนี' มา  ใครสักคนคงสบถกร่นด่าผมเป็นแน่ว่าถ้าไม่ได้ชอบพอกันแล้วจะมารับหน้าทำไม  ผมไม่ใช่คนอย่างสีคราม เจ้าชายของโรงเรียนที่ออกมาพบทุกคนที่นัดในวันนี้เพื่อรักษาน้ำใจและปฏิเสธอย่างสุภาพ  และไม่ใช่คนเย็นชาเหมือนพี่ดาวเสาร์ที่ไม่ตอบรับกับใครเลย  หรือพี่อิฐที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทศกาลแบบนี้คืออะไร..



        ..ผมคือผม..


   ..คือ ทีปพิพัฒน์  คลาไรน์..





   และถ้าหากสิ่งที่ผมทำกับผู้หญิงทุกคนเพียงเพราะผมเห็นพวกหล่อนเป็นผู้หญิงประเภทเดียวกับแม่  แล้วยังคิดจะใช้หน้าตาที่เหมือนคนๆนั้นล่อลวงพวกหล่อนล่ะก็...ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

   อยู่ไหน

   ผมยังอายเกินกว่าที่จะเป็นคนกดโทรออกไปก่อน  และเมสเซสฉบับนี้ผมไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับด้วยซ้ำ..เพียงแค่วูบหนึ่งที่คิดว่าอยากส่ง...ต่อให้เขาไม่ทันเห็นก็เถอะ..
   '..คุณรู้มั้ย...ว่าการจะโทรหาคนที่ตัวเองชอบได้มันต้องรวบรวมความกล้ามากแค่ไหน..'
   เพิ่งจะได้รู้ว่าไอ้แค่กดปุ่มสีเขียวๆบนโทรศัพท์มันสร้างความตื่นเต้นให้กระเพาะอาหารได้มากขนาดนี้ก็ตอนนี้แหละ  แต่สุดท้ายแล้วผมก็ตัดใจไป  เลยนึกสงสัยอยู่อีกสักครั้งหนึ่งว่าคนที่โทรมาหาผมนั้นเขาหรือเธอ 'กล้า' ที่จะโทรได้ยังไง...
   มันนานจนผมกำลังจะตัดใจแล้วขึ้นห้องเรียน  ตอนที่ได้รับข้อความตอบกลับที่ว่า



   มิสเซิลโทที่99

   รีบมานะครับ ^^





   ..เทศกาลบ้าๆ  กิจกรรมงี่เง่า..

   ...ให้มันเป็นอย่างนี้อีกสักปีก็คงจะไม่เป็นไร...











----------










   ..แฮ่ก..แฮ่ก..

   มันเป็นเวลาบ่ายโมงครึ่งตอนที่ผมวิ่งไปที่โรงอาหาร...เนคไทสีเทาคาดแถบดำสัญลักษณ์ของรักร้ายถูกถอดพาดอยู่บนบ่า  เสื้อเชิ้ตที่สวมใส่หลุดรุ่ยแถมชื้นเหงื่อจนไม่เข้าท่าเอาซะเลย 
   ผมเจอไอ้จิ๊บตรงร้านขายน้ำพอดี..ถือว่าโชคช่วย
   “เมื่อกี้เค้าร้องเพลงกัน  'ไมมึงไม่ไปวะ?”
   มันทักผม  ก่อนจะทำหน้าเหวอตอนที่ผมคว้าน้ำมันไปกระดกแล้ววางตังค์ใส่มือให้
   ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้น "...มิสเซิลโทมีทั้งหมดเท่าไหร่?”
   “...?  อะไรนะ?”
   “มันมี 'ทั้งหมด' เท่าไหร่?”
   จิ๊บขมวดคิ้ว  ทำท่าเหมือนคิดหนักก่อนจะตอบผม "...99...เค้าลือกันว่าอย่างนั้นนะ?”
   “บัดซบ" ผมสบถ "กูเจอ91 95 98”
   “เฮ้?” คู่สนทนาท้วง  "อย่าบอกนะว่าที่มึงเหงื่ออกซ่กขนาดนี้เพราะมึงหาไอ้99นั่นอยู่น่ะ!?”
   ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้น "รู้มั้ยว่ามันอยู่ที่ไหน?”

   “ถามกูแล้วกูจะไปถามใครวะ...อ๊ะ  กูเจอละ  รอแปป...ล่า! ไอ้ลาล่า!”

   เพื่อนสาวคนนี้ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน  และนั่นเป็นข้อดีของมันตรงที่ไม่ว่าเราจะถามอะไรมันก็จะใช้พลังทั้งหมดเพื่อหาคำตอบมาให้...นั่นเป็นความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ...
   แล้วเธอก็ทำท่าเหมือนจะโบกกบาลเจ้าแว่นหน้ากลมเกลี้ยงนั่น  อีกคนยกมือขอโทษด้วยรอยยิ้มแล้วขอตัวไป
   หน้าที่ของผมคือยืนรอมันคาบข่าวมาบอก

   “ไอ้ล่าไม่ยอมบอก  เห็นว่าเป็น 'ความลับทางราชการ' ...ราชการบ้าอะไรฟะเจ้าเทเลทับบี้เอ้ย!”

   ..ผมเดาไว้..ไม่ผิดจริงๆ..
   อักษรกำลังทำตัวเหมือนเด็ก...เด็กเล่นซ่อนแอบ...หรือการละเล่นที่มีชื่อสวยหรูหน่อยว่าไฮด์แอนด์ซีค


   อยู่ไหน?



   นี่คงจะเป็นข้อความฉบับที่8...หรือบางทีอาจจะ9ก็ได้กระมังตั้งแต่ตอนที่ผมตามหา  จนผมคิดว่าผมแทบจะกลายเป็นเซียนพิมพ์ข้อความคำนั้นไปแล้วล่ะ  ธรรมดาแล้วมิสเซิลโทจะปรากฏในจุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายเพื่อให้สะดวกต่อการทำกิจกรรม  แต่เท่าที่ผมเดินหาเนี่ยนับได้ไม่เกิน50ด้วยซ้ำ!

   ...แล้วไอ้มิสเซิลโทเลข99นี่มันอยู่ที่ไหนกันน่ะ!?!

   นานแล้วแต่ก็ไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับ  ไม่ได้รับมา8-9ฉบับแล้ว  ทั้งคำตอบ..ทั้งปริศนา..ทั้งเหี้ยอะไรบ้าบอเริ่มทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆ  จริงๆแล้วผมเองก็แวะไปที่ห้องเด็กเส้นมาเหมือนกันแต่มันว่างเปล่าแค่มีมิสเซิลโทเบอร์28ห้อยอยู่  นักเรียนทั้งโรงเรียนคงเอนจอยอีตติ้งขนมฟรีกันแบบสุดๆทั้งๆที่ผมยังไม่ได้แตะต้องพุดดิ้ง  ไก่งวงหรือเค้กขอนไม้เลยสักคำ..
   ช่างมัน...ของหวานไม่ใช่สิ่งที่ถูกกับผมเท่าไหร่อยู่แล้ว...
   ..และที่นึกมาทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความเสียดายแต่อย่างใด  อักษรมัวไปทำอะไรอยู่ในเทศกาลรื่นเริงแบบนี้  และเหนือสิ่งอื่นใด.....เขา...อยู่ที่ไหนกันแน่?

   ท่าทางผมคงจะดูอารมณ์เสียพอตัวไอ้จิ๊บถึงได้มองด้วยสายตาแปลกๆแบบนั้น  ก่อนมันจะพูด


   “กูไม่ถามล่ะกันว่ามึงหามิสเซิลโทนั่นไปทำไม  แต่...รอสักประเดี๋ยวนะ...”

   มันแสยะยิ้มน่ากลัวขณะหยิบมือถือ  วินาทีนั้นเองผมจึงได้เกิดความรู้สึกสำนึกผิดที่ไหว้วานคนอย่าง 'มัน'
   แต่ไอ้ครั้นจะห้ามไม่ให้หล่อนกดโทรออกก็ดูเหมือนจะช้าไป...

   “ฮัลโหลลล  เออยัยโอ  แกอยู่ห้องประชาสัมพันธ์ป่ะวะ?  หืมมม...เปล่าหรอก  ไม่มีอะไรแก  คือเราได้ยินข่าวลือแปลกมาเลยว่าจะถามแกเฉยๆอ่ะ  เห็นว่าแกน่าจะรู้เรื่องที่สุด..."

   ไอ้ 'สัส' จิ๊บพูดเสียงแบบนึกคึกสนุกเต็มที่  จนผมรู้สึกอยากจะสะบัดตีนขึ้นมาก่ายหน้าผาก



   “อืมม  ก็เรื่อง 'รักนิรันดร์ของมิสเซิลโทที่99' อ่ะแก  ได้ยินข่าวอะไรมาบ้างป่ะ?"



   สมองห้องเด็กทุนที่มีไว้ประดับบ่าของมันสำแดงฤทธิ์อีกครั้งหนึ่งในการเสือกเรื่องชาวบ้าน  และผมไม่อยากจะนั่งนับนิ้วเลยว่า 'เทศกาลบ้าๆ กิจกรรมงี่เง่า' หลายพันอย่างในโรงเรียนนี้มีต้นเหตุมาจากไอ้จอมกุเรื่องคนนี้สักกี่ร้อย!!


   พอจิ๊บวางสายปุ๊บก็มีเสียงประกาศจากห้องประชาสัมพันธ์ทันที...เนื้อความไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าที่เพื่อนของผมบอกกล่าวออกไป




   ....เกมการล่ามิสเซิลโทที่99ก็เริ่มขึ้น..บัดเดี๋ยวนั้น...


ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog








----------










   ..หลายคนคงเห็นว่ามันน่าสนุกดี  แต่ผมสิโคตรไม่ขำ..

   ทั้งโรงเรียนลุกฮือกันครื้นเครงขึ้นมาดื้อๆ  ส่วนใหญ่แค่อยากจะหามันให้เจอมากกว่าที่จะเก็บไว้สารภาพรัก  บ้างก็เอาแผนที่โรงเรียนมากางแล้ววงตำแหน่งไว้  บ้างก็ระดมพรรคพวกตั้งเงินรางวัล  ความโกลาหลเรียกให้คณะกรรมการนักเรียนออกมาคุมห้องประชาสัมพันธ์และกระจายกำลังตรึงไว้หลายจุด 
   ผมไม่ทราบว่าทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นด้วย..แต่ก็อีกนั่นแหละ  มันไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว
   ..ยังไม่มีใครหามันเจอ..อย่างน้อยก็จนถึงตอนนี้...

   มันเป็นเวลาบ่ายสองแล้วตอนที่ผมเดินกลับมาที่ห้องชมรมตัวเองด้วยไม่รู้จะหันไปทางไหน  ห้องชมรมที่แทบจะมีผมใช้งานคนเดียวยังเก็บกวาดไม่เรียบร้อยนักตั้งแต่งานล้างครั้งที่แล้ว

   ผมตัดสินใจพักด้วยการแกะรูปที่แขวนเอาไว้ลงมา  แรกคิดว่าจะเรียงมันให้เป็นระเบียบแต่เอาไว้วันหลังท่าจะดีกว่า  ไอ้มิสเซิลโทที่99มันยังตามหลอกหลอนผมอยู่...ทุกซอกมุมของโรงเรียนที่เข้าไปอยู่...จนเรียกได้ว่าแทบพลิกแผ่นดินด้วยซ้ำ..



   ..อักษรอยู่ไหน?


   คำถามนั้นทำให้ผมชะงัก  แล้ววางเจ้ารูปภาพแห้งสนิทไว้บนโต๊ะ
   ..อักษร...อยู่ที่ไหน?
   ทำไมถึงอยู่คนเดียวบ่อยๆทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเพื่อนน้อยอะไรเลย  และตัวเองที่ดูเหมือนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแบบนั้น...ถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมาในเวลาที่ไม่มีใครอยู่ด้วยจะทำยังไง?  ทำไมหมอนั่นไม่รู้จักคิดบ้าง!?


   ...ภาพเขาหลับตาสนิทอยู่บนเตียงห้องพยาบาลย้อนกลับเข้ามาในหัวโดยไม่รู้ตัว...


   ผมสะบัดศีรษะไล่มันออกไป  เพราะห้องพยาบาลแทบจะเป็นสถานที่แรกๆที่ผมเข้าไปเช็คด้วยซ้ำ
   และการที่คิดแบบนั้นทำให้ในอกสั่นสะท้านแปลกๆ...



   เขาไม่ตอบข้อความ

   หาตัวไม่เจอ




   ...หายไป...อยู่ในที่ที่ไม่มีใครเข้าถึง...




   ผมกดโทรออก 
   โดยให้สาเหตุที่ว่าเวลาฉุกเฉิน..เราแทบไม่ต้องรวบรวมความกล้าเลย

   ตรู๊ดดด......
   ปิ๊บ


   เสียงสัญญาณดังไม่ถึงหนึ่งครั้งเต็มด้วยซ้ำตอนที่ได้ยินเสียงปลายสายรับโทรศัพท์  แรกทีเดียวคำพูดสาธยายมากมายที่ค่อนข้างแสดงออกไปทาง 'เป็นห่วง' นั้นก็พรั่งพรูเข้ามาในสมองได้ไม่ขาดสาย  แต่เขากลับขัดขึ้นก่อนด้วยเสียงหัวเราะร่วน

   ((คุณทำอะไรน่ะครับ! รักนิรันดร์อะไรกัน!? ฮ่าๆๆ  คริสมาสต์โจ๊กงั้นเหรอ?))

   เพียงเพราะประโยคง่ายๆแบบนั้นเองไม่รู้ไอ้ความหงุดหงิดในอกเมื่อครู่มันไปซ่อนที่ไหน..
   ((ฮั่นแน่! ผมนึกออกละ..คุณหาเองไม่เจอแล้วบังเอิญไปเจอจิ๊บใช่มั้ยครับ?  เธอคนนั้นเป็นเจ้าแม่ข่าวลือข่าวลวงที่แท้จริงเชียวล่ะ  คุณคงไม่ทำอะไรเกือบๆปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วยตัวเองหรอก...สร้างเทศกาลขึ้นมาขัดกับเทศกาลเดิมแบบนี้รับรองพี่สายสิญจน์วิ่งวุ่นตายแน่ๆ........))
   “ปลอดภัยดีหรอกหรอ...”
   ((หืม?  ว่าอะไรนะครับ?))
   “เปล่า" ผมตัดบทดื้อๆ "คุณอยู่ไหน?”
   ได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบาๆอีกครั้ง ((คุณหามิสเซิลโทที่99เจอรึยังล่ะครับ?  ที่นั่นน่ะ...มีรักนิรันดร์รออยู่นะ~))
   “เอ่อ...ขอประทานโทษนะ  แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะ...”
   ((ผมรู้แล้วล่ะครับ  พูดเล่นต่างหาก))

   “แล้วคุณจะบอกได้รึยังว่าคุณอยู่ที่ไหน?”


   ((คุณบอกผมก่อนได้มั้ยล่ะครับว่า คุณจะตามหาผมในวันแบบนี้ไปทำไม?))


   แม้มันจะขัดกับบทสนทนาเมื่อครู่เหลือเกิน  แต่ผมกลับนึกขึ้นมาได้ว่ามีอีกที่หนึ่งที่ผมยังไม่ได้ไปหา
   ผมเดินออกมาจากห้องชมรมทั้งใจเต้นตุบๆ  และพยายามจะใช้เซลล์สมองที่เหลือเพื่อคิดหาคำตอบของคำถามเมื่อครู่  และคำตอบนั้นน่ะ...ผมเองก็ตามหามันเหมือนกัน...
   “...ไม่รู้...เหมือนกัน...”
   ไม่รู้ว่าหลุดคำแบบนั้นออกไปได้ยังไง...แค่ตอบไปตามตรง..
   ...อะไรบางอย่างทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเอง...
   ((คุณมีนัดกับผู้หญิงทั้งหมด5คน))
   “ใช่  คุณรู้ได้ยังไง?”

   ((อย่ารู้เลยดีกว่าว่าผมรู้ได้ยังไง  ที่จริง...)) เสียงของเขาแผ่วเบาจนต้องเงี่ยหูฟัง ((...ผมดีใจนะครับ  ที่คุณเอาเวลานัดทั้งหมดทิ้งไปเพื่อตามหาผม...หรือตามหามิสเซิลโทปริศนานั่นน่ะ))

   ไม่ต้องบอก  ไม่ต้องย้ำ
   ......เพราะผมเองก็ดีใจได้ไม่แพ้กัน..


   ผมไม่ได้ตอบอะไร ไม่มีอะไรเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาทนอกจาก เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นกระเบื้องยางดังเป็นจังหวะไปตลอดทางเดิน  ผมหวังว่าเขาคงจะไม่นึกสงสัย...แต่ใครจะไปรู้  อักษรมักหาคำตอบด้วยตัวเองเสมอโดยไม่ต้องให้ผมอธิบายเพิ่มเติมด้วยซ้ำ

   ((เทียน...))
   “ครับ"



   ((....คุณเชื่อ...ใน 'นิรันดร' มั้ยครับ?))



   บางทีอาจจะเป็นเพราะผมกำลังวิ่งเกือบสุดฝีเท้าทำให้จังหวะการสนทนาขาดห้วงไป  เพียงแค่ลัดเลาะไปทางเชื่อมแล้วขึ้นบันไดอีกชั้นหนึ่งเท่านั้นก็จะถึงที่หมาย...
   และประโยคตอบกลับก็ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากมายเลย...
   “ไม่เลยสักนิด"
   เขาเงียบไปครู่หนึ่งราวกับว่ายิ้มอยู่



   ((...ผมจะทำให้คุณดู..))



   ผลัวะ
   ผมเปิดประตูตรงหน้าโดยไม่รอให้คนข้างในขออนุญาตด้วยซ้ำ
   ความเหนื่อยทำให้หายใจแรงมากกว่าปกติ  แต่แปลกตรงที่ทั้งๆที่เหนื่อยขนาดนั้นผมกลับยิ้มออกมา...เมื่อเห็นเจ้าของร่างผอมบางนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ริมหน้าต่างแถมยังทำหน้าเหวอขนาด  โดยมีเจ้ามิสเซิลโทเจ้าปัญหาห้อยอยู่กับหน้าต่างในจุดที่มองเห็นได้ชัดด้วยซ้ำเพียงแต่ไม่มีใครคิดจะเงยหน้าขึ้นมาตรงส่วนนี้ 

   ตัวเลขอารบิค99สีทองสวยต้องแสงยามบ่าย...สวยกว่าตอนที่ผมเห็นเลข17ครั้งแรกนั่นเสียอีก...

   G11อยู่ในมืออีกข้าง  ผมกดถ่ายภาพ 'มิสเซิลโทที่99' เอาไว้ทันที


   “คุณ....”
   คนตรงหน้าตกใจอย่างมหาศาลทั้งๆที่โทรศัพท์มือถือยังแนบอยู่ข้างแก้ม  แล้วผมก็เป็นคนก้าวเข้าไปหยิบมันออกมา...พร้อมท้าวแขนคร่อมพนักผิงกับโต๊ะเอาไว้กันไม่ให้เขาหนีไปไหน




   “I see you”




   ผมอาจจะเข้าไปใกล้เกินไปกระมังทำให้เขาผงะถอยหลังชิดกำแพง...ด้วยหน้าแดงๆแบบนั้น  อักษรก้มหน้าลงพยายามซ่อนดวงหน้านั่นเอาไว้เหมือนวันแรกที่เราเจอกัน  วันแรกที่เขาบอกว่า 'ชอบ' ผม  วันแรกที่เขาทำให้ผมสนใจและเริ่มช่วงเวลาที่สว่างไสวครึ่งหนึ่งในชีวิต...
   ...ภาพตรงหน้าสะกดสายตาผมไว้ได้ชะงัดนัก...
   มันไม่ใช่บ่อยนักหรอกที่เขาจะเขินขนาดนี้  แสดงความรู้สึกใสบริสุทธิ์โดยไม่มีสมองเข้ามาเกี่ยวข้องได้ขนาดนี้



   ให้ตายเหอะ...พระเจ้า..


   นี่มันอะไรกัน...

















   ..........................น่ารัก.....ชะมัด....................












   “อ...เอ่อ....”
   อักษรตะกุกตะกักเหมือนพยายามจะหายตัวลงไปในกำแพงให้รู้แล้วรู้รอด
   “ค...คุณ....เอ่อ....เทียนครับ....”

   “ทำไมล่ะ?” ผมขยับยิ้ม "...เวลาแบบนี้ไม่พูดจาหยอดยียวนผมเหมือนเดิมแล้วหรือ?”
   “ผ..ผมหยอดครับ  แต่ผมไม่ได้ยียวน"

   ...ยังจะเถียงอีกนะ...
   เอาเถอะ  ผมจะยืนกางแขนคร่อมเขาอยู่แบบนี้แหละถ้าอีกฝ่ายยังไม่สามารถไล่ผมออกไปได้
   ผมมองเขานาน..จ้องให้เขารู้ว่าผมมองอยู่  คนถูกกระทำเงยหน้าขึ้นมาบ้างเหลือบตามองบ้างแล้วก็รีบหลบทันที  ท่าทางสติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่...หึ  อยากจะรู้เหมือนกันว่าอดีตเลขานุการคนเก่งของสภานักเรียนจะทำอะไรได้บ้างในเวลาแบบนี้..ต่อให้ผมต้องงัดฟีโรโมนทั้งหมดทั้งมวลออกมาใช้มันก็คุ้มจะลอง...
   “....เทียนครับ...”
   “ครับ?”
   “...อ...ถอยไปหน่อย...ได้มั้ย....”
   ผมเลิกคิ้ว "งั้นคุณบอกผมมาก่อนได้มั้ยล่ะครับว่า ทำไมผมต้องถอย?”
   “โธ่  ย..หยุดแกล้งผมสักทีเถอะ!!”
   “แกล้ง?  แกล้งอะไรกันล่ะ?”
   “เทียนนน"
   “ครับ?”

   “โอ้ย!!  ผมยอมแพ้แล้ว!!!!”

   อีกฝ่ายร้องออกมา  แล้วหลับตาปี๋ยกมือทั้งสองข้างยกธงขาวอย่างงดงาม
   นั่นทำให้ผมหลุดขำก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม....ปรือตามองผิวสีแดงระเรื่อนั่นในระยะใกล้  อักษรขาว..ขาวจนซีด..และผมคงลืมไปแล้วว่าเขามีเลือดไหลเวียนอยู่ในร่างกายถ้าหากว่าหน้าไม่แดงขึ้นมาแบบนี้..........
   จริงอยู่ที่มองผ่านๆอาจจะจืดไปสักหน่อยเพราะสีผิวอ่อนสีผมเข้มจัดนี่  แต่ดูๆไปแล้วก็หน้าตาไม่เลวทีเดียว...ที่จริง...ปฏิกิริยาแบบนี้ก็ชวนให้หวั่นไหวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว.....ไม่ต้องการอะไรมาแต่งแต้มเพิ่มเติม...

   ...ถ้าก้มลงเข้าไปใกล้กว่านี้...ใกล้ในระยะที่จมูกชนแก้มแดงๆนั่น...เขาจะแสดงท่าทีอะไรออกมากันนะ....



   ................ก่อนที่อะไรจะเลยตามเลย  ผมตัดสินใจผละออกมา



   “คุณคิดยังไงเอามิสเซิลโทที่99มาซ่อนไว้ที่นี่?”

   การเปลี่ยนเรื่องโดยฉับพลันดูเหมือนจะเป็นทางเดียวที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ตรงหน้าได้  ผมเห็นเขายกมือกุมหน้าอกแล้วหายใจแรงสักพักใหญ่  กว่าจะหันมาตอบผม
   “ไม่ได้ซ่อนนะครับ  มันก็อยู่ของมันแบบนี้ทุกปี...เพราะว่าทุกปีไม่เคยมีใครคิดจะตามหามันต่างหาก"
   “...แล้วมันมีตั้ง99ต้นเลยหรือ?”
   เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "ไม่ถึงหรอกครับ  แต่ติดเลขห่างๆกันไว้ก็ไม่มีใครสงสัยแล้วล่ะ...ที่เลือกเลข99ให้มันดูเยอะๆกิจกรรมจะได้คึกคักทุกๆปียังไงล่ะ  เรื่องนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้หรอกครับ  แบไต๋หมด...พี่สิญจน์คงหัวฟัดหัวเหวี่ยงน่าดู"
   “แล้ว...มาบอกผม?”
   เขาหัวเราะทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น  แล้วยกมือปัด
   “คุณคิดอยู่ไม่ใช่เหรอครับว่านั่นน่ะมันกิจกรรมงี่เง่า  ผมไม่คิดว่าคุณจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครหรอกนะ!"
   ผมล่ะเกลียดจริงๆตอนที่เขาทำเหมือนรู้จักผมดีทุกเรื่อง...ผมคิดอย่างนั้นทั้งๆที่ผมเองก็ยิ้มอยู่


   ..คริสมาสต์กับมิสเซิลโท  และกิจกรรมโคตรงี่เง่า..


   และผมก็ปล่อยให้มันงี่เง่าอยู่แบบนั้นด้วยการกระแอมกระไอเล็กน้อย แล้วจึงเดินอ้อมมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา...และเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังมองออกไปนอกหน้าต่างท่าทางไม่ได้สนใจอะไร  เล่นเอาผมต้องทำเสียง 'จิ๊' ในลำคอ  แล้วไอค่อกแค่กจนคอหอยแทบจะหลุดติดออกมาต่อไป

   เขาเลิกคิ้ว “คุณไม่สบายรึเปล่าครับ?  ช่วงนี้อากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยนะ"
   ..สาบานได้ว่าเขาตีหน้าเซ่อแน่ๆ.. “อืม  ก็นิดหน่อย"
   “กินยาหน่อยมั้ยครับ?”
   ถอนหายใจครั้งหน้าพรุ่งนี้ผมคงจะได้หมดลมหายใจแน่ๆ "อักษร"
   เขานั่งหลังตรงทันทีที่ผมเรียกชื่อเขาแบบนั้น  และการแสดงออกซึ่งความกระตือรือร้นแบบนั้นของเขาก็ทำให้ผมเขินที่จะเรียกชื่อนั้นไม่น้อยทีเดียว..
   “ผม...หาคุณเจอแล้วนะ"
   “ครับ?”
   “ใต้มิสเซิลโทที่99....”

   เขายิ้มหวาน "อยากได้ยินคำว่า 'รัก' จากผมอีกครั้งงั้นหรือครับ?”

   ฉึก!
   ..เล่นเค้า..แล้วทำไมเราต้องเขินซะเองด้วยฟะ...



   ผมหลีกเลี่ยงคำถามนั้นด้วยการยกมือเสยผม..ซึ่งยอมรับโดยสดุดีว่ามันเป็นวิธีที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย


   ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่าง..ริบบิ้นสีแดงตัดกับสีเขียวของใบไม้ไหวไปตามสาย  บรรยากาศในวินาทีนั้นดีจนอยากจะจดจำมันไว้ด้วยความรู้สึกมากกว่าภาพถ่าย..อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมคิดแบบนั้น  แม้ว่ามือข้างหนึ่งยังถือกล้องอยู่แต่ก็ไม่คิดจะหยิบมันออกมา  และเชื่อมั้ยว่าผมต้องมานึกเสียใจภายหลัง
   ...นิรันดร....ที่เคยเชื่อว่าไม่มีจริง...

   เบื้องหน้าผมคือคนที่ผมเพิ่งคิดว่าเขา 'น่ารัก' ขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ  ใสบริสุทธิ์เหมือนแก้ว..ดูเปราะบางแต่ก็เข้มแข็ง  ฉลาด  มั่นใจในตัวเอง...และที่สำคัญคือการที่เขามักจะใช้สายตาที่มองตรงมาเหมือนทั้งชีวิตของเขามีเพียงแค่ผมนั่นเขย่าหัวใจให้เต้นผิดจังหวะ  กับคำพูดที่คล้ายหินผา..หนักแน่นมากพอจะให้ผมยึดถือ...







   “...ผมรักคุณ...”








   คำบางคำสร้างความรู้สึกที่ไม่อาจเก็บหรือบันทึกเป็นเป็นรูปภาพ

   ...กลับสลักลึกลงไป...ในความทรงจำ...










TBC




===========================

อัพไวเน้อ อัพไว๊ไวเน๊อออ >w<




ตอนนี้สบายๆคลายเครียดค่ะ หวานละมุนอุ่นละไมเหมือนเคย(มั้ง)
เรื่องนี้กำลังจะพัฒนาไปเรื่อยๆ ก่อนจะเข้าไคลแมกซ์! เย้!!
ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากไม่อยากให้เดาเท่าไหร่ 5555555 แต่จะเดากันก็ได้ไม่ว่าอะไร
เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อให้อ่านไปเคลิ้มไปไม่ได้กะให้เศร้าน้ำตาตกอะไรมากอยู่แล้วค่ะ : ))

บางคนอาจจะประสบภัยน้ำท่วมอยู่ ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะคะ
((เพราะทางนี้เองก็.....ใกล้แล้ว....เหอๆๆๆ TT"))



ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ


ozaka*



 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
แอบคิดไปเอง...
ว่าคำพูดนั้น "ผมรักคุณ"
คือเทียนบอกอักษร ฮา~

ชอบอักษรตรงที่ว่า
ขยันหยอด ขยันจีบเทียน
แต่พอโดนกลับไป ตัวเองก็อายม้วนเชียว

น่ารัก!   :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2012 23:04:26 โดย iPongPaeng »

ออฟไลน์ Tnapat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
รู้สึกเรื่องนี้อ่านเเล้วในความรู้สึกเบาๆ เรื่อยๆ ที่สุดในบรรดารักร้าย  แต่ชอบน่ะ
ปล. กลอน เขินตลกอ่ะ

ออฟไลน์ Dwammy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านแล้วเขินจะตายและคู่นี้ :-[ :-[
น่ารักเว่อร์ๆๆๆ เขินนน :-[
คนที่จิ๊บโทรหาน่่ีพี่โอใช่ปะ มีเนียนๆ5555

ออฟไลน์ bamee_wspb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

มิสเซอโทอลังการไปหนายยยยย ><
ชอบมากตอนนี้ให้ตายดิโอ้ย

เทียนทำไมรู้สึกว่านายหล่อมากเลยวะตอนนี้เนี่ย
วิ่งตามหารักหรอจ๊ะพ่อคู๊ณณณณ
อักษรลูกนั่งสวยๆเลยนะ
พ่อหัวทองสุดหล่อวิ่งโล่มาหา

เค้าเรียกว่าสั่งได้ดั่งใจ!

ขำตอนที่เทียนเรียกจิ๊บว่า ไอ"สัส"จิ๊บ
คือโอ้วจิ๊บเธอมันยอดหญิงอย่างจริงจัง 55555
อยากเป็นเหมือนจิ๊บมากก
คาแรกเตอร์ชัดเจนมากค่ะ -/////-

ว่าแต่.... คอมเม้นนี่เวิ่นเว้ออะไร???

รอตอนต่อไปนะคะ !!!  :z1:

Have_a_hope

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: น่ารักเกินไปแล้วววววว

  :-[ อ๊ายย อ่านแล้วเขินแทน

ตอนต่อไปๆ อยากอ่านตอนต่อไป

Namiirin

  • บุคคลทั่วไป
อักษรน่ารัก  :-[

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เขินๆๆๆ อักษรก็นะให้เทียนตามหาซะแย่เลยยย แต่ในที่สุดก็เจอออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด