__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 571211 ครั้ง)

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อักษรเป็นอะไรจะ เขินจนลืมเหนื่อยเลยหรอ

เหนื่อยก็บอกเทียนเค้าสิ เค้าไม่ว่าไรหรอกก

โธ่ หายไวๆนะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
น้องอักษรแย่แล้ว  :serius2:

ออฟไลน์ spsygk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ TiwAmp_90

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อักษร....อย่าเป็นอะไรไปนะ!!!
 :serius2:
เรื่องนี้ไม่ขอดราม่าได้มั้ย? แง้ๆๆๆ...เค้าต้องไห้แน่ๆเลย

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ่านเคลิ้มๆ กำลังหวานได้ที่เชียว ตื่นเต้นๆ อยากอ่านตอนต่อไป :impress2:

ออฟไลน์ ordinary_girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ในที่สุดก็มาแล้วววววววววววว
ลืมตอนที่แล้วไปแล้วนะ
แต่ยังจำความรักของอักษรได้เหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
อักษรน่ารักมากเลยค่าาาาาา
ยิ่งอ่านยิ่งรัก
อย่าให้ษรเปนอะไรร้ายแรงเลยน๊าาาา
มาต่อไวๆนะค้าพี่โอ รออยู่น๊าาาา

ออฟไลน์ ปลาทองสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
โอม จงมา โอม จงมา โอมมมมมมมมมมมมม เพี้ยง
มาต่อทีเถิ้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ^^

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
อักษรเป็นโรคอะไรกันแน่
ร้ายแรงมากไหม
ไม่เอา่น่ะ ถ้ามันจะเศร้าไปกว่านี้
น้องโอ หายไปไหนค่ะ

ออฟไลน์ Gutjang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
กลับมาอ่านอีกรอบก็เขินแทนอักษร เทียนทำให้เขินจริงๆ มาต่อเร็วๆนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jj_girl

  • รูปโปรไฟล์ขำๆ นะคะ / Cr.สาววายในตำนาน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
 :a5:

คุณโอคะ ถ้ามีเวลาว่างอย่าลืมมาอัพ นู๋อักษร ต่อนะคะ

คนอ่านใจจาขาดแบ้วววววววววววววววววววววว    :z3:

ออฟไลน์ spsygk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ต่ออย่างด่วนนนน  ห่วงอักษรมากก :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ GF_pp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ rainystreet22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ได้โปรดมาต่อเถอะนะ ใจจะขาดแล้วววววว  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หายไปนานจังเลยโอซากะ อยากรู้นะเนี้ยว่าอักษรป่วยเป็นโรคอะไร

kinsaki

  • บุคคลทั่วไป
วี๊ด!! บึ้ม!! ตู้มต้าม!! (เอาเข้าไป = ='')  :mc4:
ในที่สุดก็ตามทันแล้วว ว >3< ความรู้สึกตอนนี้มันฟินนาเล่(?)ครับ
คู่เทียนไขอักษรเป็นคู่ที่น่าสนใจมากครับ ที่ำพี่โอบอกว่าเป็นเรื่องที่ชอบที่สุด ผมเองก็คิดว่ายังงั้นนะ
ผมหลงรักอักษรตั้งแต่อ่านตอนแรก น่ารักชะมัด  :-[ ส่วนเรื่องของเทียนไข... เฮ้อ ช่างเถอะนะ ไงๆ เมะก็คือเมะ (ฮา)
อ้างถึง
  “...แค่เพียงให้ผมได้อยู่เคียงข้างคุณ...”
“........นั่นเป็น... 'ความรัก' ที่ผมปรารถนาล่ะ...”
โอยย... อะไรจะขนาดนั้นครับ แค่นี้ผมก็หลงรักจะตายอยู่แล้ว... อย่าแสดงท่าทางน่ารักๆ แบบนั้นนะ ~
นี่ถ้าผมไปปรากฏตัวในเรื่องได้จริง อาจจะมีการชกต่อยระหว่างผมกับเทียนไขเพื่อแย่งอักษรแล้วก็ได้... (!?)
อ้างถึง
“ผมมาเพื่ออยู่เคียงข้างคุณ"
“เพราะผมไม่ได้มาเพื่อเข้าใจ..”
เออ... กรรม ถ้าผมเป็นเทียนไข ผมคงรักอักษรตาย..TTWTT
อ้างถึง
"...ดูแล้วรู้สึกเจ็บในอก...แต่ก็นะ..บังเอิญเหลือเกินที่ผมชอบความเจ็บปวด"
ว๊ากก !! //ร้องเสียงดัง อ่านเจอประโยคนี้ผมแถบกระอักเลือดเบยครับ และแล้วผมก็แน่ใจว่าอักษรเป็นเคะสาย M !! (รึเปล่าว่ะ?)
okๆ พอดีผมเป็นพวก S (หะ?) ถูกชะตากับเคะประมาณนี้ม๊ากก และแล้วผมก็หลงรักอักษรมากขึ้นกว่าเดิมอีก.. !!
เอ่อ..ไอ “...โฮ่ง!” เนี่ย มันช่าง... น่ารัก //นอนตายเพราะโดนดาเมจ  :jul1:

แอบลุ้นให้เทียนไขแสดงอารมณ์ความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองมากกว่านี้เหมือนกันนะ รู้สึกว่าช่วงแรกๆ มันยังน้อยไป
รู้สึกเหมือนจะซึนนะ เมะซึนงั้นหรือ ?? แต่หลังๆ เทียนไขก็ทำได้ดีล่ะ เล่นซะอักษรของผม(?) เขินไปหลายรอบอยู่เรื่อย
ส่วนเรื่องอดีตของคุณทีปพิพัฒน์อยากบอกว่าจริงๆ สะเทือนใจมาก ถ้าผมเป็นเทียนไขผมก็คงคิดแบบเขาเหมือนกัน..
และก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่อักษรจะเป็นฝ่ายตบเทียนไข นิสัยของเจ้าตัวก็คงเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

อยากรู้นะอักษรเป็นโรคประจำตัวอะไร เรื่องแบบนี้ทำไมถึงได้ปากเเข็ง ทำไมถึงไม่ยอมบอก ไม่อยากให้รู้งั้นหรือ?
เพราะอะไรล่ะ ขี้โกงจัง คุณรู้เรื่องของเทียนไขแทบจะทุกอย่าง แล้วทำไมเทียนไขถึงไม่่ค่อยรู้เรื่องของคุณเลยล่ะ ??

(อา.. กรรม เริ่มเพ้อแล้วตู)

แต่พอผมรู้เรื่องโรคประจำตัวของอักษรแล้วรักอักษรมากกว่าเดิมอีก รักมากๆ เลยล่ะ เป็นคนที่ตรงกับที่ผมชอบทุกอย่างเลยจริงๆ
เวลาเห็นอักษรเจ็บ... มันทำให้รู้สึกดีเอามาก ๆ (ไอห่านนี่บ้าแล้วเฮ้ย//คนรอบข้าง) เวลาที่โดนแกล้ง เวลาที่ลำบากใจ ชอบมากเลยล่ะ
ผมชอบเห็นเคะทรมานแล้วก็ชอบเห็นเคะเจ็บปวด และร้องไห้ด้วย (ฮา)

เอาเถอะตอนนี้ลุ้นมากๆ เลยครับ เรื่องโรคประจำตัวของอักษรอยากรู้มากๆ ขอให้ไม่เป็นอะไรล่ะกัน
รอครับ อ๊ะ จริงสิ เมื่อไหร่เทียนไขจะได้เฟิสคิสของอักษรล่ะ รออยู่นะ 555+
อ้างถึง
    ..ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกพริตตี้สาวพราวสเน่ห์ที่มีเสี่ยหน้าเด็กคอยป้อเลี้ยงยังไงชอบกล..
ฮ่าๆ เทียนไข นายคิดเหมือนเราเลยง่ะ กร๊ากก ~

ปล. ชอบฉากอักษรโดนเทียนไขต่อยอ่ะ (อ้าว !) แล้วตอนนั้นก็สงสารธูปมากๆ ด้วย.. ยังเด็กอยู่แท้ๆ เฮ้อ มันไส้ไอพวกเด็ห่านนั่นจัง
ปล2. รักพี่โอครับ  :กอด1: :กอด1:  :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2013 18:06:51 โดย kinsaki »

ออฟไลน์ ทานตะวัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ชอบเรื่องนี้มาก
แอบเข้ามาทุกครั้งว่ามาต่อรึยัง
คนเขียนจบตอนเอาไว้ให้เรารอลุ้น รอตามอยู่เสมอ
แต่ตอนสุดท้ายที่จบเอาไว้เราก็รออยู่ แต่หายไปนานมาก
ตอนที่ทิ้งเอาไว้ไม่น่าหายไปนานขนาดนี
ทำให้ความรู้สึกของการลุ้นทุกครั้งว่าเข้ามาแล้วจะเจอมั้
จะเป็นยังไงต่อไป
กลายเป็นความรู้สึกผิดหวังมาก ToT

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อ่านได้สี่ตอน เหมือนจะหน่วงๆ ขอบใจจร้าาา

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog








12th Night : Love Story












   แอร์เย็น..บรรยากาศเงียบสงบ..

   ..สงบจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน..ผมจะรู้สึกตื่นตระหนกได้มากขนาดนั้น..




   มือเขาช่างบางเล็ก..และยิ่งจะดูเล็กลงไปอีกเมื่ออยู่ในอุ้งมือทั้งสองข้างของผม  และถึงแม้ว่าจะไม่มีแรงบีบมือที่ตอบกลับมาก็ตาม...แต่สัมผัสอบอุ่นของผิวหนังเหล่านั้นทำให้ผมใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย...อย่างน้อยก็รู้สึกยินดีมากกว่าก่อนหน้านี้...ที่ถึงจะพูดว่า 'ยินดี' ได้ไม่เต็มปากนักก็เถอะ
   จริงๆแล้วในตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออกเลยมากกว่า..

   อักษรไม่ได้อยู่ในสภาวะอันตรายเหมือนอย่างที่ผมตกใจ  มันก็เป็นแค่อาการเป็นลมพื้นๆ  และผมก็ทำได้เต็มที่อย่างมากก็แค่ดูแลเขา...ซึ่ง...เอาเข้าจริงๆผมก็ได้แต่นั่งอยู่ข้างเตียงเท่านั้น...ไม่ต้องบริจาคเลือด  ไม่ต้องบริจาคอวัยวะ  ไม่ต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เขาได้เข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินหรือย้ายไปห้องผู้ป่วนพิเศษVIP    ไม่ได้เป็นกำลังสำคัญอย่างที่พระเอกในนิยายต้องทำ..


   น่าขำจริง..

   ..ผมเป็น 'พระเอกในนิยาย' ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?




   บุรุษพยาบาลคงหาว่าผมบ้าถ้าหัวเราะอยู่คนเดียว  ผมเลยเลือกที่จะก้มมองหน้าเจ้าของร่างสลบไสลแล้วยิ้มน้อยๆแทน  อย่างน้อยมันก็คงจะดูดีกว่าการกระทำข้างต้นกระมัง

   ผิวของเขาขาว..ขาวจนเกือบจะเรียกได้ว่าซีด..
   จนหัวใจแทบจะหลุดลงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อรับรู้ว่าตัวเขายังซีดได้มากกว่านี้อีก

   แต่อย่างน้อยร่างผอมบางตรงหน้าก็ดูจะแข็งแรงมากขึ้นแล้ว  มันไม่ใช่เพียงการคาดเดาของผมหรอกนะ  คุณหมอที่รับเคสเค้าพูดมาแบบนั้น...และด้วยเหตุอะไรหลายๆอย่างเขาก็บอกว่าให้ย้ายอักษรกลับไปที่โรงพยาบาลเจ้าของไข้จะดีกว่า  อืม..ผมเชื่อคำหมอ  ผมไม่ได้จบเฉพาะทางด้านรักษาโรคห่าเหวอะไรพวกนี้  เพราะงั้นตอนนี้เราทั้งคู่ถึงอยู่ในรถพยาบาล..ด้วยใจที่สงบนิ่งพอสมควร
   ...สงบนิ่ง?
   ...ใช่แล้ว สงบนิ่ง...

   ตลอดเวลาหลายชั่วโมงที่นั่งมองสายน้ำเกลือ  ผมได้แต่หวังว่าจะมีสักวินาทีที่เขาจะตื่น  ลืมตาขึ้นมา..แล้วยิ้มให้ผมแล้วบอกว่า 'ไม่เป็นอะไร' เหมือนที่ปกติเขาทำ...และ...มันน่าเสียดายตรงที่ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น




   รถพยาบาลจอดไม่ได้นุ่มนวลเลยครับ...ผมเองก็เคยเห็นมันบ่อยๆตามท้องถนนหรือในจอโทรทัศน์  แต่เพราะเป็นแบบนั้นเราถึงใช้เวลาไม่นานที่จะเดินทางถึงจุดหมาย




   “อักษร!”

   “พี่/คุณษร!?!”





   ผมได้ยินเสียงเรียกดังมาจากที่ไกลๆ  ตอนนั้นผมกำลังปีนลงจากรถเลยไม่ทันสังเกต  แต่พอหันมา...มันเป็นภาพที่น่าประทับใจพอสมควรที่เห็นบรรดาครอบครัวสุดรักวิ่งมาเกาะขอบเตียง  ข้างแก้มมีรอบคราบน้ำตาจางๆ  และพร่ำเพ้อเรียกชื่ออีกฝ่ายทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร...

   ผมคิดว่าควรจะยกมือไหว้สวัสดี  แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจให้ทำเช่นนั้น
   บุรุษพยาบาลเข็นเตียงของอักษรเข้าไปในตัวอาคาร  ท่าทางไม่ได้เร่งร้อนแต่ประการใด...ซึ่งถ้าผมเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคงตัดเงินเดือนทิ้งให้ขาด

   ชายวัยกลางร่างท้วมหันมาหาผมเพื่อพยักหน้าทักทาย  ผมจะชักมือขึ้นมาไหว้แต่ก็ไม่ทัน...ท่านหันกลับไปทั้งอย่างนั้นเพื่อเดินตามลูกชายต่อ  ฝ่ายมารดาก็เหมือนกัน...แต่เธอยิ้มให้ด้วย  นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ถ้าผมจะยิ้มกลับ  ส่วนนั่น..ลุงโชค  แกเป็นคนเดียวที่เดินมาตบหลังผมอย่างเป็นกันเอง...และกำลังจะเอ่ยทักทายตามประสาคนรู้จัก...


   “..........เพราะพี่เทียนนั่นแหละ!”


   ไม่ต้องถามเลยว่าใคร...ผมรู้ดีมาแต่แรกแล้วว่ามันควรจะเกิดอะไรขึ้น

   ผมหันไปมองหน้าอีกฝ่าย  และใช้เวลานานเกินไปเพื่อคิดว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด  มันทำให้ 'องศา อัครมณฑา' ดูเหมือนจะหงุดหงิดหนักมากขึ้นไปอีก  รุ่นน้องของผมยังอยู่ในชุดซ้อมบอล...จริงๆไม่ต้องสันนิษฐานผมก็รู้จากข้อมูลในหัวเองนั่นแหละว่าเขาอยู่ชมรมฟุตบอลของโรงเรียน  นั่นหมายความว่าทันทีที่เขาได้รับข่าวร้ายคงจะรีบบึ่งมาให้ทันท่วงทีเป็นแน่  และยิ่งเขายังเป็นคนเดียวที่น้ำตาไหลไม่หยุดแล้วด้วย...


   “พี่ษร..พี่ษรเป็นแบบนี้ก็เพราะพี่เทียน!!”

   “คุณศา...”

   “ผมเกลียดคุณ!!  ไปให้พ้นๆหน้าเดี๋ยวนี้เลยนะ...!!”

   ..ความคิดของผมดูเหมือนจะช้าไป..และเขาก็กางแขนออกทั้งสองข้างเพื่อจุดประสงค์อย่างที่รู้ๆกัน..
   จะพูดอะไรออกไปตอนนี้ก็เห็นจะไม่มีอะไรดีขึ้น  ได้แต่ยืนตรงแทบไม่สบตากับอีกฝ่าย  และ2-3วินาทีต่อมาผมก็เลือกที่จะเบี่ยงตัวหลบแล้วเดินผ่านเขามาทั้งอย่างนั้น
   แน่นอนว่าองศาเองก็ไม่มีทางปล่อยผมไปง่ายๆ

   “...คุณจะไปไหน!?”
   ผมถอนหายใจ..ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
   “...นี่คุณไม่เข้าใจรึไงว่าที่พี่ษรเป็นแบบนี้ก็เพราะออกไปกับคุณนะ  คุณมันไม่รู้อะไรเลย..ไม่รู้อะไรเลยไม่ใช่รึไง!?!”
   เสียงเหล่านั้นดังอยู่ในหัว  สะท้อนไปสะท้อนมา...แต่….ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
   “คุณศา...พอเถอะครับ...”
   “ลุงโชคทำไมต้องเข้าข้างพี่เทียนด้วยล่ะ!?  พ่อกับแม่ก็เหมือนกัน...ก็รู้ๆกันอยู่ไม่ใช่รึไงว่าทำไมพี่ษรถึงยังไปโรงเรียน  ทำไมพี่ษรถึงเป็นแบบนี้...ทำไมวันนี้ถึงได้.....โธ่เว้ย!!  นี่มันเป็นบ้าอะไรกันหมด  ก็เห็นอยู่ว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน!?”

   ...ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

   ผมไม่ทันหันไปมองหน้าองศาด้วยซ้ำ   ดูเหมือนเตียงคนไข้จะเคลื่อนห่างออกไปทุกวินาทีที่ผมเสียเวลาอยู่  แต่จะให้ผมสะบัดมืออีกฝ่ายแล้วจากไปมันคงจะไม่ใช่ที  ผมต้องทำอะไรสักอย่าง...แต่เอาตามตรง...วินาทีนั้นผมไม่อยากทำอะไรเลยสักอย่างนอกจากการเดินตามเตียงคนไข้นั้นไปทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ

   “พี่ษรบอกชอบพี่เทียนไปแล้วนี่"
   ...ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
   “ผมก็เคยได้ยินชื่อเสียคุณมาหลายครั้งแล้ว  แต่ครั้งนี้...ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ?”
   ...ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
   “ความรักบ้าอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย  มันจะบ้ากันไปหมดแล้ว..!!  แล้วนี่ยังจะ...”



   “องศา"

   นั่น...เป็นวินาทีเดียวกับที่รถคนไข้ถูกเข็นเข้าลิฟท์ไป

   “ไว้คุยเรื่องนี้กันวันหลัง"




   ผมยกมือแตะมืออีกฝ่ายที่จับแขนผมไว้แผ่วเบา...มันทำให้ผมรู้ตัวว่ามือข้างนั้นสั่นมากขนาดไหน  ทำให้ผมรู้ตัวว่าที่ผมบอกว่าควบคุมอารมณ์ได้ทั้งหมดนั้นมันก็แค่การหลอกตัวเอง  หลอกว่าอีกฝ่ายไม่เป็นไร  หลอกว่าอีกฝ่ายยังแข็งแรงดี  ยังไหว  ยัง......ทั้งๆที่อยากจะต่อยหน้าไอ้หมอเวรตะไลที่โรงพยาบาลที่แล้วข้อหาไม่ยอมตรวจอักษรให้ละเอียดตั้งแต่เมื่อกี้นี้...!!
   'อารมณ์' ดังกล่าวทำให้ผมเคลื่อนตัวไปด้านหน้า  สาวเท้าต่อไปเหมือนไม่ได้ฟังเสียงกร่นด่าเมื่อครู่  และอาจจะเพราะองศาเองก็รับรู้ถึงความหวั่นไหวทางกายภาพแล้วถึงได้ปล่อยผมออกมาง่ายๆ...




   “เดี๋ยว!!”



   ...จริงๆก็ไม่ง่ายเท่าไหร่...
   ผมหันกลับมาหาคนเรียก  ไม่รู้ตัวว่าแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป...แต่อีกฝ่ายดูท่าทางจะตะลึงไม่มากก็น้อย...



   “หรือว่าพี่เทียน...พี่เทียนจะ...................ชอ-......?”




   ผมไม่ได้รู้สึกหน้าร้อนผ่าว  ไม่ใจเต้นแรง  ไม่ได้เกิดอาการเขินอายแต่อย่างใดตอนที่พูดกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ..





   “...ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”






   ให้ตายสิ...
   ผมนี่หลอกตัวเองเก่งจริงๆ...











----------











   ..กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง..
   ...ครั้งนี้..ผมยอมรับว่าบรรยากาศมันค่อนข้างน่าอึดอัดพอสมควร 



   ทำไมน่ะหรือ? 


   เพราะผมกำลังยืนอยู่หน้าห้องเดี่ยวพิเศษระดับVIPสุดหรูตามฐานะของคนไข้นั่นแหละ...ความที่ว่าตระกูลอัครมณฑาร่ำรวยมากดูจะไม่ใช่เรื่องโกหก  และผมเองก็เพิ่งเคยได้ขึ้นมาเหยียบที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก  ในห้องพักผู้ป่วยยังแยกออกเป็นห้องอีกนิดหน่อยคล้ายคอนโดหนึ่งห้องนอนก็มิปาน  แต่ผมก็ไม่ได้มีเวลาชื่นชมความอลังการงานสร้างของสถาปัตยกรรมภายในเท่าไหร่เมื่อคุณหมอเจ้าของไข้มา  แล้วจึงตัดสินใจเตะตัวเองออกจากห้องโดยไม่ต้องให้ใครมานั่งอธิบาย

   เวลาตอนนั้นไม่ค่อยมีพยาบาลหรือหมอเดินไปเดินมาเท่าไหร่  อืม...อย่าว่าแต่หมอหรือพยาบาลเลย  ไม่มีคนเลยด้วยซ้ำกระมัง  เพราะอย่างนั้นแหละมันถึงได้น่าอึดอัด...อีกทั้งหลังบานประตูยังมีเสียงพูดคุยดังตลอดเวลา  และผมก็ไม่รู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร...ความหงุดหงิดมันอยู่ที่ว่าผมอยากรู้เนี่ยแหละ


   ให้ตายเถอะ...

   ...บ้าชะมัด....



   ผมล้วงกระเป๋ากางเกง  พบมือถือหนึ่งเครื่องกับความว่างเปล่า  พอเปิดกระเป๋ากล้องดู...จึงได้รู้ว่าตัวเองยังเก็บของรักของหวงชิ้นนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่  ก็เลยยืนจัดอยู่แบบนั้น...แล้วก็โทษตัวเองในใจว่าทำไมถึงไม่หยิบบุหรี่มา

   อืม...โรงพยาบาลเค้าคงไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่

   ..ผมลืมข้อนั้นไปสนิทใจ..



   ครืดดดดดด............



   เสียงเปิดประตูดังขึ้นจากเบื้องหลัง  ผมหันไปมองด้วยปฏิกิริยาอัตโนมัติ...คุณหมอหน้ากลมเจ้าของไข้พยักหน้าให้ผมเป็นเชิงทักทาย  ผมยกมือไหว้ตอบพอเป็นพิธี  คุณพยาบาลก็เหมือนกัน...แต่รายนี้ยิ้มให้ด้วย  ผมไม่สงสัยในการกระทำนั้นเท่าไหร่นักเพราะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรก

   อย่างไรก็ดี  ผมใช้เวลาเตรียมใจอยู่นานมากกว่าจะสอดสายตาเข้าไปในห้อง
   จากจุดนี้ผมไม่เห็นเตียงคนไข้ด้วยซ้ำ  ไฟสีส้มอ่อนในห้องรับรองก่อนจะเข้าไปถึงห้องผู้ป่วยทำให้บรรยากาศดูนิ่งงันนัก...ผมคิดว่าผมควรจะสาวเท้าไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อมองเข้าไปให้ถนัด  แต่ยังไม่ทันจะกระทำการดังกล่าวลุงโชคก็โผล่ออกมาจากประตูอีกฟาก

   ผมอ้าปากจะถามเขา  แต่ก็หุบปากฉับทันทีเมื่อเห็นว่า 'ครอบครัว' ของอีกฝ่ายทยอยเดินตามออกมาเช่นกัน

   ลุงโชคแกยิ้มให้  ไม่ได้พูดอะไร...แล้วเดินผ่านผมไป
   องศาสบตาผมเพียงเล็กน้อย...ทำเสียง 'จิ๊' ในลำคอ...แล้วเดินผ่านผมไป
   ผมภาวนาในใจสักสามล้านรอบเห็นจะได้ว่าขอให้ผู้ปกครองทั้งสองนั้นเดินผ่านผมไปโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน...ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงอยากให้เป็นแบบนั้นทั้งที่มันเสียมารยาทสิ้นดี...
   ….ถูกขององศา...
   ….....ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง...ผมเองเนี่ยแหละที่เป็นคน 'ทำร้าย' เขา...






   “เทียนใช่มั้ยจ้ะ?”


   เสียงนิ่มนวลเอ่ยขึ้น  ผมเงยหน้าขึ้นมองทันที...ถึงได้รู้วินาทีนั้นว่าตัวเองก้มหน้าอยู่
   รอยยิ้มของอักษรเหมือนคุณแม่มาก  มันไม่ทำให้ผมตกตะลึงเท่าไหร่...ผมคิดว่ามันเป็นธรรมดาของคนเป็นแม่ลูก  ผมก็เป็น...แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน...รอยยิ้มของเธอทำให้ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาก  คุณพ่อของอักษรเองก็ยิ้มให้ผม...ท่านสูงพอๆกับอักษร...มันทำให้ผมเองเนี่ยแหละที่เป็นคนยักษ์ไปในบัดดล

   สิ่งแรกที่ผมทำในเวลาต่อมาคือการยกมือไหว้พวกเขาทั้งคู่
   แต่เพราะก้อนอะไรบางอย่างมันมาจุกอยู่ที่คอ  ทำให้ผมรู้สึกกระอั่กกระอ่วนนักหากจะพูดอะไรออกไป

   และดูเหมือนคุณแม่ท่านจะไม่ได้ติดใจนัก
   "เข้าไปเถอะจ้ะ  อักษรถามหาแน่ะ"

   “เอ๊ะ?”
   คำนั้นหลุดปากออกไปอย่างเสียมิได้

   ผมมองหน้าท่านทั้งคู่สลับกันไปมาเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง  อักษรถามหาผม?  นั่นหมายความว่า..........?

   การกระทำผมไปเร็วกว่าสมองแล้วในตอนนั้น  ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าการกระทำเช่นนี้มันโคตรจะเสียมารยาท...แต่คิดอีกที..ผมคงไม่จำเป็นต้องสร้างภาพเป็นผู้ดีต่อหน้าใคร  ดังนั้นผมจึงสาวเท้าฉับๆเข้ามาในห้องโดยไม่เอื้อนเอ่ยคำลา


   เสียงปิดประตูดังแผ่วเบาจากด้านหลัง  ผมพุ่งตัวเข้าประตูอีกฟากเหมือนกับว่าเมื่อครู่เป็นคำอนุญาต



   และ...







   ...เขา...นั่งอยู่ตรงนั้น...





   ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆที่ผมคุ้นเคย...รอยยิ้มที่ทำให้ผมยืนนิ่งอยู่ที่ปลายเตียงแบบนั้นไม่ไหวติง
   ก่อนจะเผยอริมฝีปากเพื่อพูดคำนั้นออกมา



   “ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะครับ  เทียน"






   พระเจ้า....

   ..พระเจ้า.....

   ….พระเจ้า......





   เข็มวินาทีเหมือนจะวิ่งช้าลงกว่าเดิมมาก  รับรู้ได้จากจังหวะการหายใจที่เริ่มช้าลงของผม...ที่ค่อยๆสาวเท้าเข้าไปทีละข้างด้วยกลัวว่าตัวเองจะเผลอล้มทั้งอย่างนั้น  ขอบตาผมร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ  มือที่ยื่นออกไปแตะที่ข้างแก้มเขาก็ยังสั่นสะท้านกว่าเมื่อครู่ด้วยซ้ำ


   “พระเจ้า...”

   แม้แต่เสียง...ก็ยังแหบพร่า....
   ก่อนจะหลับตาลงแล้วแนบหน้าผากสัมผัสกัน  ชั่ววินาทีนั้นเหมือนผมแทบจะหยุดหายใจ...ผิวของเขาอุ่น...ช่างอุ่นเหลือเกิน...อุ่นจนผมอยากจะสัมผัสเขาให้เนิ่นนานกว่านี้...



   “.....ขอบคุณ...พระเจ้า....”





   ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนตอนที่สัมผัสเขาอยู่แบบนั้น...เพราะมัวแต่ใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการห้ามไม่ให้ตัวเองหลั่งน้ำตาออกมา  ผมไม่กล้าลืมตามองเขาด้วยซ้ำ...หากเพียงได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นอีกสักครั้งหนึ่ง...ทำนบความรู้สึกคงจะทะลักออกมาอย่างห้ามไม่ได้

   ...แต่ผมรู้ว่าเขายิ้ม...จากสัมผัสของกล้ามเนื้อที่ข้างแก้ม...

   ผมเองก็ยิ้มเหมือนกัน...



   เราอยู่แบบนั้นนาน  นานมากพอที่ผมจะกลืนความรู้สึกเมื่อครู่ให้หายไปได้  แล้วลืมตาขึ้นมามองเขา
   ในระยะประชิด...ที่จมูกแทบจะชนจมูก...
   เขามองผมอยู่เหมือนกัน  มอง...แล้วก็ยิ้มกว้างมาก
   “ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ  เทียน"
   เขาพูดเหมือนย้ำ...ย้ำให้ผมรู้
   และผมก็เป็นคนผละออกมาจากการกระทำจาบจ้วงแบบนั้นกับเขา  แล้วกระแอมกระไอเปลี่ยนท่านั่งข้างเตียงคนไข้ให้เป็นท่าที่อยู่ในระดับพอดีๆ
   “ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้  ผมมีความสุขมากจริงๆ"
   ...ให้ตายเถอะ...ผมไม่นึกว่าเขาจะพูดแบบนั้นออกมา...
   ผมขมวดคิ้ว  หันกลับไปมองเขา "ถ้าไม่ไหวทำไมไม่บอกกันก่อน"
   “โธ่  เวลาที่มีความสุข..ใครเขาอยากจะหยุดมันกันล่ะครับ"
   ...น่าจับตีก้นซะให้เข็ด!?
   ผมกำลังคาดโทษเขาอยู่ในใจ  ตอนที่ดุกลับไป
   “คุณไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกยังไงตอนเห็นคุณล้มไปแบบนั้น"

   เขากระพริบตาปริบๆ  ก่อนจะหลุบตาลงทันควัน  แก้มขึ้นสีระเรื่อแบบที่ผมเดาไม่ออกว่าเขาเขินหรือเพราะมันอยู่ในแสงสีส้มกันแน่...แต่เขาไม่ปล่อยให้ผมมองหน้าเขานานนักหรอก...ด้วยการยกมือขึ้นมาเหน็บผมทัดหูแก้เก้อ

   “ถ้าผมเป็นโรคหัวใจ  ผมคงตายตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วละครับ  ฮะๆ"
   ผมแม่งไม่ขำ “.....อย่าพูดว่าตายนะ"



   คำนั้นทำให้เขาหยุดหัวเราะ  แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม...มือทั้งสองข้างของเขาเลื่อนมากุมกัน...และผมแอบเห็นว่ามันสั่นนิดๆ...ผมไม่แปลกใจ...แต่ที่น่าประหลาดกว่านั้นคือการที่หัวใจผมเองก็สั่นไหวไม่น้อยเหมือนกัน...




   “เทียนครับ"

   เขาว่า  ด้วยน้ำเสียงที่แทบไม่ต่างจากเดิมเลยด้วยซ้ำ




   “...มีบางอย่างที่คุณต้องรู้"





   ...ผมรู้...

   รู้ว่า 'วันนี้' ต้องมาถึงเข้าสักวัน....




   อักษรคงใช้ความพยายามมากในการควบคุมสติอารมณ์  เขาเป็นคนที่ทำแบบนี้ได้ดีแต่...ไม่ใช่ในเวลาแบบนี้แน่ๆ
   “ครับ"
   ผมตอบรับสั้นๆ  อย่างน้อยก็ให้เขารู้ว่าผมพร้อมที่จะฟังอยู่
   ดวงตาใสแจ๋วเหมือนเด็กทารกนั้นทอประกายประหลาด...อาจเพราะเขาไม่ได้ใส่แว่นเหมือนที่ผมเห็นเป็นปกติจนชินตา...หรืออาจจะเพราะดวงตาคู่นั้นเจือไปด้วยน้ำใสๆก็ไม่ทราบ  เขาเผยอริมฝีปากแห้งผากนั้นขึ้น...แล้วปิดลง...มันกำลังสั่นระริก  และผมรู้ดีว่าเขากำลังพยายามในแบบของเขา


   หลังจากการเฝ้าคิดมาสองวินาที...ผมก็เอื้อมมือไปจับมือเขาที่อยู่บนตัก

   ….แต่อีกฝ่ายกลับชักออก  แล้วพูดทันที









   “..ผมกำลังจะตาย"






   ...น้ำเย็นวูบหนึ่งสาดเข้ามาที่หน้า...
   เสียงของเขาไม่มีลังเลเลยแม้เพียงนิด  มันเหมือนกับกลั้นใจพูดมันออกมาได้ในที่สุด  เขาหอบ..อ้าปากตักตวงอากาศหายใจ  ผมรู้ในตอนนั้นว่าเขากำลังจะทนไม่ได้  อะไรบางอย่างบอกให้ผมเขยิบตัวเข้าไปใกล้  แต่เขากลับยิ่งเขยิบห่างออกไปเหมือนไม่ต้องการ

   ผมรู้สึกขอบตาร้อนผ่าวอีกครั้งหนึ่ง  และทำใจให้พอใจกับระยะห่างนั้น



   “...ก้อนเนื้อ...ที่...ไม่ค่อย...ดี...เท่าไหร่...”
   เขาพูดไปด้วยหายใจไปด้วย  พร้อมยกมือแตะที่หน้าอก...ผมไม่รู้ว่าเขาหมายถึงตำแหน่งไหน  เพราะที่ผมสนใจมากกว่าคือการที่เขากำลังพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้น้ำใสๆไหลออกมาจากตา
   “...มันอยู่มานาน...และ...และ....เอาออกไปไม่ได้  ดังนั้น....”
   “อักษร..."
   “..ผมแปลกใจ...ที่จริงก็...เอะใจมานานแล้ว...ว่าทำไมร่างกายตัวเอง...ถึง...ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน...”
   “...อักษร  พอเถอะ...”
   “...มันเริ่มจาก...เหนื่อย..หายใจไม่..”

   “ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ"

   คำกล่าวนั้นเสียงดังพอสมควร  จนเกือบจะเรียกได้ว่าการตะคอก...เกิดจากความลืมตัว
   และมันได้ผล  เขาหยุดพูด...แต่ก็ยังไม่หันมามองหน้าผม



   …ผมควรจะช็อค...ผมควรจะสิ้นสติ...

   แต่ในตอนนั้นผมเห็นเพียงแค่การพยายามจะอธิบายของคนๆหนึ่ง  การพยายามที่ยากลำบากแสนสาหัส...และผมรู้ดีว่าเขากำลังพูดแบบนั้นออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน



   “....ผมต้องพูดให้จบ"
   เขาตอบกลับมาแบบนั้นด้วยเสียงแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ
   ผมปฏิเสธ "ไม่”
   “ให้..ผมได้พูดเถอะ...”
   “ไม่"
   การที่ผมยังยืนกรานแบบนั้นทำให้เขาก้มหน้าลงและเงียบ  ผมเอื้อมมือไปแตะมือเขา...แรกเขาจะชักหนีเหมือนที่เมื่อครู่ทำ  แต่เพราะผมคว้ามือเขาไว้แน่นพอที่จะให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าผมจะไม่มีทางปล่อยแน่

   ผมขยับตัวเข้าไปใกล้เขาอีกนิด  แสดงตำแหน่งของตัวเองให้รู้แน่ชัด
   อยากจะบังคับให้เขาจ้องมองตรงมา..แต่ก็ไม่กล้า


   “ไม่ต้องพูดอะไร...แล้วฟังผมบ้างนะ...”

   ผมบอกเขา  อีกฝ่ายหลับตาลง...ดูท่าจะสุดทนกับการกลั้นน้ำตา


   “ผมไม่อยาก..ฟัง...”
   หนึ่งหยดที่ไหลอาบแก้ม...ทั้งเขาและผม...
   “...ทำไมล่ะ...?”
   “ได้โปรดเถอะครับเทียน...” สองหยดบนแก้มทั้งสองข้าง "...ได้โปรดอย่าพูดเลย...”
   “....ทำไมล่ะ...?”



   “ขอร้องละครับ...”

   มือผอมบางอีกข้างพยายามยกขึ้นมาเช็ดใบหน้าของตัวเองแรงๆ  ผมคิดว่ามันแรงไปหน่อย..แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร


   “...ผม..ไม่อยาก....เสียดาย...เวลาที่เหลืออยู่....”





   ระหว่างเรามีเพียงเสียงสะอื้น...





   ผมบีบมือเขาแน่นกว่าเดิม...ด้วยหลากหลายสาเหตุที่ตีพันกัน...
   เขากำลังร้องไห้...ร้องไห้ชนิดที่ว่าผมไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน  ร้องจนร่างกายเล็กๆนั่นโยนขึ้นมา  ร้องจนไหล่เปราะบางนั่นสั่นสะท้าน...และทุกหยดน้ำตาที่ไหลลงมามันทำให้กลางอกผมปวดแปลบ...คล้ายกับว่าจะหยุดหายใจไปพร้อมกับเขา...

   “มันเป็นเรื่องปกตินะ....”
   คำเอ่ยนั้นไม่ได้ดัง  แต่ผมรู้ว่าเขาต้องกำลังเงี่ยหูฟังเป็นแน่..
   “...ที่ว่า 'ไม่อยากตาย' น่ะ...ไม่ว่าใครก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันหมด...”



   นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาบีบมือผมตอบ  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาทั้งคราบน้ำตา  ผมไม่รู้ว่ายิ้มแบบนั้นออกไปได้ยังไง...ส่วนลึกของหัวใจคงพยายามจะให้กำลังใจทั้งตัวเขา..แล้วก็ตัวผมเอง


   มืออีกข้างหนึ่งของผมยกขึ้นปาดน้ำตาให้คนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว  และความรู้สึกเอ็นดูก็พุ่งเข้ามาในใจทันทีที่ดวงตาใสแจ๋วเหมือนทารกนั้นมองมา...ซึ่งบางทีมันอาจจะมากกว่านั้น...และมากกว่านั้นมานานแล้ว...







   “...มีชีวิตอยู่...ต่อไปเถอะนะ...”


   อีกครั้งที่มือผอมบางคู่นั้นอยู่ในอุ้งมือทั้งสองข้างของผม  ผมก้มหน้าลงมองมัน...ขณะค่อยๆประคองขึ้นมาราวกับถ้าลงมือแรงกว่านี้สักหน่อยมันจะแตกหักเหมือนประติมากรรมแก้ว...



   “เพื่อผม...”








   สัมผัสที่ริมฝีปากกดลงไปบนหลังมือข้างนั้นร้อนผ่าว..หรือมือของเขาเนี่ยแหละที่เย็นเกินไป
   มีรสเค็มๆของน้ำตาของผมเอง...ที่ไหลจากแก้มลงมาแตะที่มือของเขาอย่างเสียมิได้...


   อักษรไม่ได้ชักมือออกเหมือนที่พยายามฝืนเมื่อครู่  เขาปล่อยให้ผมฝังจมูกลงไปเนิ่นนานราวกับกาลเวลาได้หยุดอยู่ตรงนั้น  และผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินรึเปล่า...กับเสียงกระซิบที่เหมือนพูดกับเจ้ามือน้อยๆข้างนี้.......








   “....ผมรักคุณ....”









TBC




=======================


เฮ่ย มีลุ้นเว้ยเฮ่ย





ขอคำแนะนำว่าไปย้อนอ่านกันสักรอบสองรอบก่อนนะคะ เรื่องนี้ดองนานมากจริงๆ 5555
ยุ่งเหยิงมากค่ะชีวิตช่วงนี้ ส่งไฟนอลเสร็จ ก็สอบ สอบเสร็จ ก็ฝึกงานต่อเลย โหย โหด =_=''
ยังไม่จบค่ะ ฝึกงานเสร็จ โต้ชีวิตกับทีสิสในปีหน้า 5555555555 #ชิบหายแล้ว
แต่ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันปายยยยยยยยยยยยยยยยย  :z6:


ตอนนี้กลายเป็นรุ่นพี่สุดๆในมหา'ลัยแล้วล่ะค่ะ เร็วเหมือนกันนะ...รู้สึกเหมือนเฟรชชี่เพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้  :o8:
((หลอกตัวเองอีกแล้วฉัน..............))
แต่อาจจะเพราะหน้าตา(!?)และการแต่งตัว(!?)กระมัง
ทำให้รุ่นน้องต่างคณะหลายๆคนยังเรียกโอว่าน้องๆอยู่  :laugh: <<<<<นี่เป็นเคล็ดลับ!?
ไม่อยากเป็นผู้ใหญ่เลยยยย ยังอยากเป็นเด็กม.ปลายอยู่ ;;__;; จะย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้ซะละ
เขียนนิยายเด็กวัยรุ่นก็เริ่มบิวท์ยาก...สงสัยเพราะแก่ตัวลง............ "orz

ทอล์คครั้งนี้ไม่พูดถึงเนื้อเรื่องเลยเนอะ กร๊ากกกกกกกกกก

ครั้งนี้มาใหม่ เม้นท์เยอะ อัพเร็ว พุ่งไวปานจรวดค่ะพี่น้องคะ จุ๊บๆๆๆๆ




ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ



ozaka*


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


jjasu

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ด...มาแล้ว :impress2:

-------------------------------

อักษรต้องไม่เป็นอะไรนะ :o12:

อยู่เพื่อเทียนไข อั๊ย บอกรักกันแล้ว :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2013 14:47:19 โดย jjasu »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Raccoooon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-2
กระอักเลือด
TT____________________________TT

The_Ning

  • บุคคลทั่วไป
พี่โอค่ะะ   มันนานมากอ่ะ  แต่หนูยังรักอักษรเหมือนเดิมม

ปล.รักพี่โอด้วย

ออฟไลน์ minipuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เยส!! เทียนหายซึนแล้ว :impress2: :impress2:


ออฟไลน์ Thezetiv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ม่ายยยยยยยยยยยย  ;---; น้ำตาร่วงเลอ
เรายอมตายแทน อักษรช่วยมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อเทียนด้วยเถอะ
โฮรวววววววว ดราม่าสุด (แต่ชอบ)

ตอนอิเทียนสารภาพรักนี่แบบ omg
ไวท์จะไม่ทนอีกต่อไป /สิงกายหยาบอักษรรัวๆ
มันเป็นการสารภาพรักที่เศร้าสุดๆไปเลอนายยย
แงงงงงงง ตัดจบตอนได้ร้าวรานสุด /บีบคอวัวรัวๆๆ

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ Tnapat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับอักษรใช่ไหม

ออฟไลน์ P.PAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มาม่าไม่รุ้ตัว
น้องษรต้องไม่เป็นไรเซ่ โฮฮฮฮฮฮ
แอบน้ำตาซึมตามทั้งสองคน
เทียนสู้ๆนะเป็นกำลังใจให้อักษรด้วย

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
อักษรอย่าตายได้มั้ย  :z3: :z3:
กราบอ้อนวอนน้องโองามๆ  :monkeysad:

ออฟไลน์ Dwammy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
* Dwammy ปาดน้ำตา :m15:
เห็นอัพแทบจะกระโจนเข้ามา55555
โผล่มาก็ทำร้ายกันเลยทีเดียว ลุ้นตั้งนานว่าอักษรเป็นอะไร :z3: :z3:
อักษรตายจริงหรอเศร้า ซึ้งได้อีกคู่นี้(อินจัด) :o12:

kinsaki

  • บุคคลทั่วไป
เอิ่มม.. รู้ครับว่ามันโหดร้าย รู้ครับ ผมรู้.. ผมเตรียมใจมาตั้งแต่พี่บอกว่าเรื่องนี้มันดราม่า
เตรียมใจมากแล้วว่ามันต้องเกิดเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่ง แต่ผมตกหลุมรักอักษรมากเกินไป
ไอที่เคยเตรียมใจมามันก็ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่.. เหมือนโดนตีแสกหน้าเลย
อ้างถึง

   “..ผมกำลังจะตาย"

ถ้าผมเป็นเทียน ผมอาจจะ... เฮ้อ โครตเจ็บเลยอ่ะ ที่เตรียมใจเผื่อไว้ก็ไม่ได้คิดจริงๆ จังๆ ว่าพี่โอจะใจร้ายกับอักษรขนาดนี้

ถึงยังไง ตอนนี้ก็ไม่ค้างคาใจเเล้วล่ะ ว่าอักษรเป็นอะไร
ตอนนี้อยากจะถามมากมายว่าอยู่ได้นานแค่ไหน ??
ว่าแต่สีครามเองก็.. อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้.. สีครามกับคนอื่นๆ รู้กันหมดเลยหรออ~ ?
โอยย.. พึ่งรู้สึกอยากกระโดดถีบเจ้าชายก็วันนี้ นิ่งได้อีกนะเจ้าชาย = =++

อย่างนั้นล่ะ เทียนควรรู้จากปากอักษรมากกว่า แต่ถ้ารีบบอกเทียนมันคงจะ..
ฮึก.. ถ้าตอนยาวกว่านี้อีกสักนิด ผมได้ร้องไห้จริงๆ แน่
ยังไงก็รักอักษรนะ  :กอด1: ไอก้อนเนื้อที่ไม่ดีเท่าไหร่นี่เอาออกไม่ได้จริงๆ ใช่ไหม ?? (ก็คงไม่ได้จริงๆ ล่ะมั้ง)

เทียนนายต้อง.. ดูแลอักษรดีๆ นะ ตอนนี้เราปลื้มนายมากที่นายบอกรักอักษรสักที แต่ไงๆ บอกอักษรอีกหลายๆ รอบนะว่า "รัก"
(เพราะนายพูดเบาๆ กับมืออักษรเราเกรงว่าอักษรจะได้ยินไม่ค่อยถนัด เรารู้ว่าอักษรได้ยินที่นายบอกแน่ๆ แต่นายต้องบอกย้ำๆ ชัดๆ อีกครั้งให้ได้นะ!!)

ปล.ขอบคุณพี่โอมากๆ นะครับที่มาอัพให้อ่าน  :L1:
ปล2. โครตเสียใจที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องสั้นที่สุด แต่ผมดันชอบที่สุดซะได้...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2013 14:27:03 โดย kinsaki »

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
เทียนไข บทจะหวานก็หวานสะนะะะะะ
สงสารอะ
แต่อยากจบแบบดราม่า ได้อารมณ์ไปอีกแบบ คึคึ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด