__________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: __________, ปรารถนา "รัก" . . เป็นดั่งใจ ,__________ [ จบแล้วจ้า ]  (อ่าน 571295 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังจะหน่วงกันต่อไป
อยากให้อักษรตื่นขึ้นมาเร็วๆ คิดถึงงอักษรจะแย่

แต่ตอนนี้ชอบมากตรงที่ เดอะแก๊งแห่งเกษรวิทยา กลับมาวิ่งวุ่นอีกครั้ง
และทุกครั้งที่เกิดเรื่อง(ในนิยายทุกเรื่องด้วยเอ้อ) จะต้องโทรหา พี่สายสิญจน์ ฮ่าๆ เป็นประธานนักเรียนหรือสารพัดรับจ้างกันแน่คะ
กลอนเท่มาก พูดได้เลยคำเดียว และ เทียนไขคงจะรู้สีกตัวบ้างแล้วว่า กูเองก็สมควรจะมีเพื่อนบ้างไรบ้าง ฮ่าๆ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ MunashiiSora

  • ♥ ฮุนฮาน ft.520
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
ในที่สุดก็ตามอ่านทันแล้ววว  :hao5:

สงสารอักษรอ่ะ อย่าตายนะ :sad4:
ขอจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งนะคะ ไม่เอา bad end นะ T^T

รอต่อไป ..  :L2:

ออฟไลน์ MunashiiSora

  • ♥ ฮุนฮาน ft.520
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
มาต่อเถอะค่ะ !
เดี๋ยวจะลืมว่าเรื่องถึงไหนแล้ว ; w ;

ออฟไลน์ tata-sarocha

  • slurr Ped
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • facebook
อ่านถึงตอนเทียนเจออักษรแล้วคลิ้ก เปลี่ยนหน้าเลยค่ะ กลับไปทำใจก่อนกลับมาอ่านต่อ TT
เอาอักษรคนเดิมกลับมาฝห้ได้นะ TTOTT

ออฟไลน์ leknoey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
จะมารึยังหว่า :hao4: :katai5:

ออฟไลน์ ปลายด้ามเงิน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :o12: อักษร อดทนไว้นะ

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog








17th Day : Don't leave me alone












   “..ดอกไม้......”
   ยังพูดไม่ทันจบ  เธอก็หัวเราะ  และบอกผมว่า "จัดไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ"

   ผมยิ้ม  และจ่ายเงินรับมันมา


   ..เริ่มต้นวันได้ดี..


   ผมมองนาฬิกา  เก้าโมงแล้ว...นั่นหมายถึงคุณหมอมาตรวจในตอนเช้าเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว  และก็มีความพร้อมมากพอจะเดินเข้าห้องไปเพื่อนั่งอยู่เงียบๆอีกครั้ง  เมื่อคืนตอนผมกลับไปอักษรยังไม่ได้สติ...และเมื่อเช้าที่ผมโทรมาถาม..อักษรก็ยังไม่ได้สติเหมือนเดิม  แต่เท่าที่รู้มา..ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

   ผมเดินเข้าห้อง  องศานั่งอยู่

   เราสบตากัน  แต่ไม่ได้ทักทายกัน...อีกฝ่ายทำเพียงแค่หลบตาผมและมองไปทางอื่น  และผมเข้าใจเหตุผลนั้นถึงไม่ได้พูดอะไร
   คุณพ่อคุณแม่อักษรกำลังเก็บของ  ผมยกมือสวัสดี..ท่านยิ้มและรับไหว้
   “เดี๋ยวพวกอากลับก่อนนะคะ...ฝากษรด้วยนะลูก"
   ผมพยักหน้ารับคำ "ครับ"
   “องศา" คุณพ่อหันกลับไปหาลูกชาย "อย่าหาเรื่องพี่เค้าล่ะ"
   เจ้าของนามเบ๊ะปาก ไม่พูดอะไร...เง้างอนจนคนมองต้องส่ายหน้า  หันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง  และใช้เวลาร่ำลาอยู่ไม่นานพวกท่านก็ออกจากห้องไป...แถมยังไม่ลืมเตือนเรื่องหาอาหารกลางวันให้เรียบร้อยด้วยตัวเองก่อนที่พวกท่านจะกลับมา
   ผมหันไปมององศาที่เริ่มเปลี่ยนมานั่งชันเข่าทำปากยื่นแบบเด็กเล็กเอาแต่ใจ(ทั้งๆที่อายุต่างกับผมแค่ปีเดียว)  และก็ภาวนาว่าอย่าให้ก้านธูปโตขึ้นมาเป็นแบบนี้เลยได้โปรด  ถึงผมจะไม่ใช่พี่ชายที่ดีเหมือนอักษรก็เหอะ


   ผมตั้งใจจะหยิบแจกันมาจัดดอกไม้จึงเดินไปที่ข้างเตียงผู้ป่วย...อักษรยังคงนอนอยู่...แต่ถอดเครื่องให้ออกซิเจนแล้ว  และดวงหน้าขาวนั้นก็เริ่มมีสีเลือดขึินมาจางๆ  ผมยิ้มกับภาพๆนั้น...แอบชำเลืองมองน้องชายของเขาสักหน่อย  เอาล่ะ  องศาไม่ได้มองอยู่..จึงถือโอกาสก้มหน้าลงไปใกล้แล้วจูบหน้าผากอีกฝ่ายหนักๆหนึ่งครั้ง




   ...และเรื่องที่ชวนตกใจก็เกิดขึ้น



   เมื่อคนที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นมาทันทีที่ผมละริมฝีปากออกมา





   ความตกใจทำให้ผมข้างอยู่แบบนั้นแบบชะงักกึก  อีกฝ่ายมองผม..เงาหน้าผมสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น  นาน..ก่อนที่เขาจะหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมขึ้นมาใหม่...แล้วขมวดคิ้วกระพริบตาเพื่อปรับแสงภาพตรงหน้าตามเซ้นส์ของคนเพิ่งตื่นนอน
   เขาเผยอริมฝีปาก  ราวกับอยากจะพูดอะไรสักอย่าง  แต่ก็หุบลงมาเสียก่อน

   แผ่นอกที่กระเพื่อมเป็นจังหวะเมื่อครู่เริ่มแรงขึ้นเล็กน้อย  ท่าทางเช่นนั้นทำให้ผมได้สติ



   “ศา"


   ผมเรียก..รับรู้ได้เลยว่าเสียงตัวเองสั่นมากแค่ไหน  โดยยังไม่ละสายตาจากคนที่นอนอยู่



   “ศา..ศา!! องศา..!”




   “อะไร? อะ..” เจ้าของนามตวัดเสียงห้วนเหมือนรำคาญ  ก่อนจะชะงักแล้วกระโดดลงจากเก้าอี้ "พ-พี่ษร!  พี่ษร!! พี่ษรฟื้นแล้วเหรอ!?”
   “ต้องตามหมอรึเปล่า?" ผมผละออกมาถามทันที "นี่ษรเพิ่งได้สติครั้งแรกใช่มั้ย?”
   “ผ-ผมจะโทรบอกแม่" องศาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  วิ่งสลับกับการกระโดดกลับไปหยิบมือถือ "ต้องโทรบอกแม่รึเปล่า?  ต้องโทรใช่มั้ย?  ต้องโทรแน่สิ”
   ..ผมว่าการที่เราเอาแต่ถามกันไปกันมาแบบนี้ไม่ได้เรื่องอะไรเอาซะเลย..


   นั่นแหละ  เอาเป็นว่าผมก็ตัดสินใจไปตามหมออย่างที่ผมคิดไว้แต่แรก  และไม่นานหมอก็มา..พ่อแม่ของอักษรวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง  พวกท่านดูดีใจมาก..ดีใจจนแทบจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ  ผมเองก็เช่นกัน


   ทุกคนมีความสุข..

   ..ผมก็ด้วย


   ในที่สุดหลังจากพบว่าไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากอาการหายใจแรงเล็กน้อย  แต่ไม่จำเป็นต้องให้ยาหรือเครื่องช่วยหายใจ  ทุกอย่างก็กลับเข้ามาสู่ความสงบ...หมอบอกให้เวลาอักษรได้พักเสียหน่อย  คุณพ่อคุณแม่ก็พยักหน้า  ผลัดกันจูบหน้าผากอักษรคนละที  ก่อนจะบอกลาแล้วเดินออกไปอีกครั้ง

   ครั้งนี้องศานั่งชิดจนแทบจะกอดเตียง  แล้วร้องไห้

   อักษรมองน้องตัวเองด้วยรอยยิ้ม  ค่อยๆยื่นมือมาลูบศีรษะช้าๆ  เขาดูมีเรี่ยวแรงมากกว่าที่ผมคาดการณ์  ตอนที่ผมคลายไหล่ลง..ถึงได้รู้ว่าเผลอเกร็งมันขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ  และมันก็เลิกปวดไป



   และในที่สุดอักษรก็หันมามองผม

   ...เขาเหมือนจะยิ้ม...ไม่สิ...มุมปากนั้นแค่ขยับลงจากตอนที่ยิ้มให้องศานิดหน่อยเท่านั้น...




   ในหัวผมมีคำพูดและการกระทำหลายอย่างตีกันจนมั่ว  ผมอ้าปาก...แต่ก็กระอักกระอ่วนไม่รู้จะเอ่ยคำอะไรก่อนดี  ในมือก็มีช่อดอกกุหลาบอยู่  ผมจึงตัดสินใจจัดมันให้เสร็จก่อนค่อยว่ากัน  และนั่นดูจะเป็นทางที่ถูก  มีองศาอยู่ด้วยหลายๆอย่างคงจะยากขึ้น  ดังนั้นค่อยเป็นค่อยไปน่าจะสมเหตุสมผลที่สุด

   ผมจัดเสร็จ  ถือแจกันเดินกลับมาที่โต๊ะข้างเตียงผู้ป่วย
   แล้วหันกลับมา  พบว่าอักษรมองอยู่...ก็แทบจะยืนหลังตรงแบบหาตำแหน่งให้ตัวเองไม่ได้



   องศามองผมสลับกับพี่ชายตัวเอง
   แล้วถาม
   “...นี่ศาต้องออกไปรึเปล่า?”

   ..ทำเรื่องที่ถูกที่ควรเถอะน้องเอ๋ย..
   ถึงจะเป็นอย่างนั้น  แต่ผมก็หันไปมองหน้าองศา...อยากจะพูดว่า 'ไม่เป็นไร' ทั้งที่ในใจคือขอร้องให้องศาอยู่ต่อ...เพราะผมไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างเรายังไงดี...ที่สำคัญ...อักษรดูแปลกไป
   ...แปลกแบบที่ผมไม่รู้จะอธิบายมันยังไง...
   แต่อักษรก็หันไปยิ้มให้น้องตัวเอง  ไม่ได้พูดอะไรสักคำ...แต่ก็ทำให้องศาลุกขึ้นยืน  หันมาเขม่นผมหนึ่งครั้ง  แล้วเดินออกไป


   ผมรอจนได้ยินเสียงปิดประตู

   ถึงหันกลับมามองอักษรอีกครั้งหนึ่ง



   “เทียนครับ"


   เสียงที่พูดออกมาดูแหบแห้งชอบกล
   “ครับ..?” ผมก็เช่นกัน..
   แต่เขาก็ทิ้งช่วงไว้แบบนั้นตอนที่ผมเดินไปรินน้ำใส่แก้ว  แล้วมายื่นให้พร้อมหลอด  ก่อนจะก้มกดให้เตียงชันขึ้นเขาจึงดื่มน้ำได้สะดวก...ดูเหมือนผมจะรู้งาน...แต่ที่ทำไปทั้งหมดเพราะเขาเสียงแห้งอย่างเหลือเชื่อจริงๆ

   พอเขาดื่มเสร็จ  ผมก็รับแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะ
   แล้วทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆนั้น  ประสานมือไว้ที่หว่างขา..รอฟังเขา



   อักษรมองผมนาน...ดวงตาคู่นั้นดูเคร่งเครียดกว่าเดิม  และผมรู้ว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนไป  “...คุณทำให้ผมพูดไม่ออก"
   “เรื่องอะไร?”

   “....เรื่องที่อยากให้คุณไปจากชีวิตผม"

   ผมชะงักกับความไม่ลังเลในน้ำเสียงนั้น "...อักษร...”
   เขาก้มหน้า “....แต่ผมพูดไม่ออก"
   “คุณก็พูดแล้วนี่..?”
   “มันแค่คำอธิบายครับ" เขาหลบตา "...คุณมันแย่"
   “ครับ" ผมพยักหน้า "ผมแย่"
   “แย่มาก"
   “ครับ" ผมพยักหน้าอีกครั้ง "ผมแย่มาก"
   “แย่..ที่สุด"
   “ครับใช่...ผมแย่ที่สุด"
   เขาเม้มปาก “คนใจร้าย"
   ผมยิ้มรับ "...ครับ...ผม...มันคนใจร้าย"
   เขาเงียบลงไปเพียงชั่วอึดใจ  ก่อนจะว่า "ผมอยากหาคำด่าได้มากกว่านี้จัง.."
   “ค่อยๆคิดก็ได้ครับ..” ผมบอก "ผมรอฟังได้"
   “...ฟังผมด่าน่ะเหรอครับ?”
   “ได้ทุกเรื่องน่ะแหละ"
   มือที่ประสานกันไว้เผลอบีบแน่นโดยไม่รู้ตัว  ผมคิดว่าจะต้องพูด...จะต้องพูดออกไป  ถ้อยคำสวยหรูที่เรียบเรียงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน  หรือทุกการกระทำที่ผมอยากบอกให้เขารู้ความรู้สึกแท้จริงข้างใน
   เพียงแต่ไม่มีโอกาสพูด...เพราะผมพูดไม่ทันเขา..

   …ไม่ทันทุกสิ่งทุกอย่างที่ทลายลงมาแบบนั้น



   “...ผมไม่ได้อยากให้คุณโกรธ...ไม่ได้อยากให้คุณเกลียด...ไม่อยากให้คุณผิดหวังในตัวผม"

   มือเล็กๆทั้งสองข้างกำผ้าห่มที่ตักไว้แน่น

   “ผมอยากบอกคุณว่าผมเสียใจที่ไม่ได้บอกก่อน...แต่คุณไม่ให้โอกาสผมพูด  ผมโทรหาคุณ...คุณรู้มั้ยว่ากว่าที่เราจะรวบรวมความกล้าเพื่อโทรหาคนที่เรา...” เขาชะงัก  กลืนมันลงไป "...มันยาก...แค่ไหน...และคุณก็ไม่ได้รับ"


   ผมอยากจะหาอะไรมาอ้างคำนั้น  แต่คิดไม่ออก
   ร่างกายตรงหน้าไม่ได้สั่นไหว  ผมรู้ว่าสิ่งที่เขาพล่ามออกมาคงไม่ได้มาจากความจริงทั้งหมด  แค่เพราะเขาพูดไปตามอารมณ์..อารมณ์ที่ผมต้องก้มหน้ารับความผิดนั้นไว้ด้วยความเต็มใจ

   "อาจเพียงเพราะคุณรู้ว่าผมรักคุณมาก  มากแค่ไหน...และ...สิ่งที่เหนี่ยวรั้งคุณให้ยืนอยู่ตรงนี้คงเป็นเพราะความสงสารบ้าๆที่ทำให้ผมนึกสมเพชตัวเองไปตลอดทั้งคืน...และเฝ้าคิดว่าตัวเองคงจะไม่ตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับความจริงที่ว่า 'ความสุข'ที่มีคุณอยู่...มันเป็นแค่ความฝัน...และคุณก็แค่เดินจากผมไป..."

   “อักษร...”


   “....คุณก็แค่เดินจากผมไป...” เขาย้ำคำนั้นอีกครั้ง  น้ำเสียงเรียบง่าย...เกินไป "...คุณคงนึกไม่ออกใช่มั้ยวันที่เราทิ้งทุกอย่างเพื่อใครคนนึง...แต่เขากลับ..." เสียงสูดลมหายใจนั้นดูทรมานนัก "...ผม..ผมรู้ว่าที่คุณทำมันมีเหตุผล...แต่...คุณมันใจร้าย...”



   “ผมเกลียดตัวเอง...”

   เขาพูด...เสียงเบาเหมือนเสียงกระซิบ


   "...ทำไม...ผมถึงเกลียดคนใจร้ายอย่างคุณไม่ได้นะ...”



   ผมคิดว่าเขาจะร้องไห้  แต่ไม่เลย...เขาเพียงแค่หลับตาลงเท่านั้น
   ...มันทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าเสียอีก...



   “...ผม...”



   ก่อนที่เขาจะพูดอะไรมากกว่านั้น  ผมคิดว่านี่แหละที่จังหวะที่ผมควรจะบอกอะไรกับเขาบ้าง
   ก่อนที่เขาจะรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้..
   ก่อนที่ตัวตนของผมตรงนี้จะทำให้เขาทรมาน...ไปมากกว่านี้...


   “...ผมเคยคิดว่า...ตัวผม  ตัวคุณ  ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่ต่างอะไรจาก 'ความว่างเปล่า' ...”


   ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อน  ผมไม่รู้ว่าผมจะหยุดพูดดีรึไม่...หรือเขาจะฟังมันอยู่รึเปล่า
   แต่ผมก็พูด

   “ไม่มีทางที่คนเราจะทำดีให้กันโดยไม่หวังอะไร  ไม่มีทางที่โลกใบนี้จะสว่างสดใส...ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายและเรื่องจอมปลอม...ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้กัน  ทุกคำพูด...มันเกิดจากการที่ใครสักคนต้องการสร้างเรื่องให้สิ่งเหล่านั้นเป็นความจริง  ภายในตัวเรามัน 'ว่างเปล่า' ...มนุษย์เราก็แค่ภาชนะกลวงๆใบนึงที่จะแตกสลายเมื่อไหร่ก็ได้...”




   ..เพราะมัวแต่หลับตา...ถึงได้มองไม่เห็นอะไรเลย...


   ...พอลืมตาขึ้น  แสงสว่างเหล่านี้จึงไม่ต่างจากความฝัน...








   “....แต่คุณ...ทำให้ผมรู้ว่า...โลกใบนี้มีอะไรมากกว่านั้น....”







   พวกเราสบตากัน  นาน...จนดวงตาคู่นี้มีน้ำใสๆคลออยู่  และภาพตรงหน้าก็พร่าเลือนจนผมรู้ว่าผมเองก็เช่นกัน  ทั้งเรื่องหัวใจที่เต้นแรงนี่  ทั้งเรื่องลมหายใจที่ขาดห้วงแบบนี้

   ...น่าแปลกนะ...
   ...คนที่เสียน้ำตาก่อน...กลับเป็นตัวผมเอง...



   “ผม...ขอโทษ"

   ครั้งนี้ไม่ต้องยกมือแตะพิสูจน์  ผมก็รู้ว่ามีอะไรบางอย่างไหลลงมา
   ...ราวกับทำนบความรู้สึกที่ทะลักทลาย...




   “...ทั้งๆที่คุณเป็นมากกว่าทุกอย่างของผม  แต่ผมกลับตอบแทนคุณด้วยความใจร้ายทั้งหมดที่ผมมี...”



   อักษรไม่ได้พูดอะไร  และผมไม่ปรารถนาให้เขาพูด
   ตลอดเวลาที่ผ่านมา..ทุกถ้อยคำของเขามีแต่จะทำให้ผมรู้สึกดี..ทุกการกระทำของเขามีแต่จะทำให้อวัยวะที่เฉยชาอยู่ในอกนี้ได้มีโอกาสหายใจ  เขาทำดีกับผมมากมายแค่ไหน...แล้วผมล่ะ...

   ...สิ่งที่ผมทำ...มันเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป...รังแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ...




   “...ถึงผมจะแย่แค่ไหน...แต่ผมขอร้องล่ะ"

   ถึงตอนนี้..น้ำเสียงยิ่งตะกุกตะกักเข้าไปใหญ่  และผมรู้สาเหตุมันดี

   "….อย่าบอกให้ผมไปจากคุณเลย"

   ผมก้มหน้าลงมา  ไม่กล้าแม้แต่จะยกมือปาดน้ำตาให้ตัวเอง
   “....ขอผมอยู่เคียงข้างคุณแบบนี้อีกสักพัก...แค่พักเดียวก็ได้..ขอร้องล่ะ....”

   เสียงที่เปล่งออกไปราวกับจะแหลกสลาย..ปฏิกิริยาแบบนั้นมากกว่าที่ผมเคยคำนวณไว้
   และทุกครั้งที่ผมไม่สามารถควบคุมสิ่งเหล่านั้นได้...ก็จะมีความจริงที่กลับมาหทำให้ผมต้องทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า...ว่าตัวตนของเขาที่มีผลกับผม...มันมากมายแค่ไหน...




   ..อักษร อัครมณฑา..



   ..คนตัวเล็กๆเพียงคนเดียว...ที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ได้...







   “.....ผมขอร้อง...”





   ภายใต้ความเงียบนั้น  ผมได้ยินเสียงเขาขยับตัว

   ก่อนจะสัมผัสได้ถึงสัมผัสบอบบางที่แตะลงบนข้างแก้ม  แล้วค่อยๆไล้ปลายนิ้วปาดน้ำใสๆนั้นออกไป...กระแสอุ่นวาบบางอย่างเคลื่อนเข้ามาเคลือบภายในอกตอนที่ผมเงยหน้ามอง  ดวงตาคู่นั้นยังคงบริสุทธิ์และสดใส...จ้องมองตรงมาที่ผมราวตั้งใจจะใช้สิ่งนั้นปลอบประโลม  ก่อนจะประทับริมฝีปากลงมาที่เปลือกตา...เป็นครั้งแรก...

   …..ครั้งแรก.....



   ใบหน้าของอีกฝ่ายห่างออกไปเพียงแค่คืบ
   เขาเคลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้น...ผมรู้ว่ามันใกล้เกินไป  และริมฝีปากนั้นกำลังจูบซับน้ำตาให้ผม...มันเบาหวิวและไร้เดียงสา  บริสุทธิ์  อ่อนโยน...และอบอุ่น...จนในอกที่เคยปวดร้าวเมื่อครู่พองโตขึ้นมา

   แต่ก่อนที่อะไรบางอย่างที่น่าอึดอัดจะแผ่เข้ามาช้าๆจนผมต้องกลืนน้ำลาย

   “อักษร...”
   “ครับ?”

   เขายิ้ม
   โลกทั้งใบสว่างไสวขึ้นมาทันตา

   และเพราะมือทั้งสองข้างนั้นเอื้อมโอบมาประสานไว้ที่หลังคอของผม  เหนี่ยวรั้งศีรษะผมให้ซบลงที่ไหล่เปราะบางนั่น..ผมรู้ว่าเขาแค่ปลอบ  แต่เสียงหัวใจของเขาที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคงเช่นนั้นทำให้ผมรู้สึกประหลาดขึ้นอีก...และผมก็ตอบรับการกระทำนั้นด้วยการยื่นมือเข้าไปหาเขา...แตะลงบนเอวบอบบางนั่นแผ่วเบา
   เขาตัวเล็กนิดเดียว..
   ..เป็นคนป่วยอยู่ในสภาวะอ่อนแอ...แต่ก็เข้มแข็งจนน่าหลงใหล..
   ผมรู้ว่าสิ่งที่เติบโตอยู่ในอกมันเป็นเรื่องง่ายที่จะยอมรับ  แต่ก็ยากเกินกว่าจะพูดมันออกไป
   ...ใกล้ในระยะที่ผมได้กลิ่นของเขา  ได้สัมผัสถึงตัวเขา...
   “เอ่อ...”
   มันช่างน่าอึดอัด...แต่เขากลับตอบมาได้อย่างดี
   “อะไรเหรอครับเทียน?”
   ..ที่จริงก็ไม่ดีเท่าไหร่..




   “...ถ้าคุณไม่ปล่อยผมตอนนี้...” ผมกระซิบขู่..ลำคอแห้งผาก "...ผมจะ 'กอด' คุณนะ"





   ...เขาหัวเราะออกมาในที่สุด

   ….นั่น..แทนคำตอบทั้งหมด












----------------






ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog






   อิมเมจของความใสซื่อบริสุทธิ์...
   ...และความสุขที่อัดแน่นอยู่เต็มอก



   “...สีขาว....”



   “ครับ?”
   “เปล่าหรอก" ผมจูบหน้าผากเขาอีกครั้ง "...กุหลาบสีขาวน่ะ...ชอบมั้ย?”
   เขาพยักหน้า  หันไปมองช่อดอกกุหลาบในแจกัน "ผมสงสัยมานานแล้ว...ทำไม...ถึงเป็นกุหลาบสีขาวล่ะครับ?”
   ผมอ้าปาก  อยากจะตอบไปตามตรง  แต่ก็เบี่ยงประเด็น "มัน...เหลือแค่นี้"
   “โกหก"
   “โกหกอะไร?”
   “คุณจงใจเลือกชัดๆ"
   “...ถ้าคุณรู้อยู่แล้วคุณจะถามทำไมล่ะ?”
   ผมยิ้ม  ส่วนเขาเขิน "..คนบ้า"
   “อะไรนะ?”

   เขาไม่ตอบ  ขยับตัวเข้ามากอดผมแน่นแล้วบ่นอุบราวกับรู้คำตอบอยู่แล้ว "...ผมไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นสักหน่อย"

   ...ก็นั่นสินะ...
   ผมยิ้ม  กอดเขาไว้อย่างนั้นอีกสักพัก...ในใจน่ะอยากกอดแบบนี้ต่อไปอีกสักหน่อย...แต่มันดูจะไม่สมควรเท่าไหร่  จึงจูบหน้าผากเขาอีกครั้ง  และลุกขึ้นมาเพื่อเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อย  ห่อ 'ของกลาง' ไว้ในทิชชู่อย่างดีแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกง  ถ้าทิ้งในถังขยะคงเป็นเรื่องแน่ๆ  ไว้ต้องออกไปหาที่ทิ้งที่อื่น(...แต่ต่อให้ไม่โดนจับได้ก็เป็นเรื่องใหญ่พอตัวอยู่ดีล่ะวะ...)

   เขาปล่อยตัวตามสบายให้ผมใส่เสื้อผ้าให้  ชุดผู้ป่วยใส่ง่ายถอดสะดวก  ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพวกหนังAVในโรงพยาบาลขึ้นมานิดหน่อย...แต่ก็นะ  ในหนังไม่เห็นว่าเขาจะเขินอะไรกันขนาดนี้เลย

   เรามองหน้ากันตอนที่ผมผูกปมเส้นสุดท้าย  เขาหลบตาฉับ
   ..ถึงได้รู้ว่าหัวใจคนเราสามารถเต้นได้แรงขนาดไหน..


   ผมยิ้มกับปฏิกิริยาตอบสนองนั้น  แตะมือลงบนกลางอกเขา "ปวดมั้ย?”
   เขาส่ายหน้า "ไม่ครับ"
   “แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ?”
   เขาหน้าแดง "ไม่..ครับ"
   “แน่ใจนะ?"
   “ค-ครับ"
   “....เจ็บ...รึเปล่า?”
   อักษรส่ายหน้าแรงๆจนปอยผมด้านหน้าไหว  และช้อนตามองผม "คุณไม่ได้ทำถึงขั้นเจ็บสักหน่อย..”
   ผมจิ๊ปาก ...มันน่ามั้ยล่ะ...

   “อักษร"
   “ครับ?”
   ไม่ต้องรอให้เขารู้ตัว  ผมเขยิบเข้าไปจนปลายจมูกแทบจะชนกัน




   “.......หลับตา...หน่อยสิครับ"




   เขาหน้าแดงจนถึงหู  แล้วหลับตาลงอย่างที่ผมขอ

   ...จากนั้นเราถึงค่อยจูบกัน...




   มันเป็นจูบเบาๆที่เนิ่นนาน  ริมฝีปากนั้นก็นุ่มนิ่มจนผมไม่อยากละออกมา  อารมณ์เหมือนเครื่องดื่มเบาๆหลังแช่น้ำร้อนกระมัง  และมันให้ความรู้สึกดีจนผมอยากจะดันเขาลงไปอีกรอบด้วยซ้ำ

   ..ถ้าไม่ติดว่าเสียงหัวใจของเราทั้งคู่จะดังขนาดนี้จนเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกฝ่ายล่ะก็นะ...




   โชคดีที่ผมเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้วองศาถึงเข้ามา  แถมยังมีหน้าค้อนมองผมแปลกๆอีก (โชคไม่ช่วยครับ...ก็ใครใช้ให้อักษรหน้าแดงขนาดนั้นกันล่ะ...)  ผมแอบนึกสงสัยนิดหน่อยว่าทำไมองศาหายไปนานจัง  บางที..อาจจะเผลอเขามาแล้วรอบหนึ่ง แต่ดันเจอพวกเรากำลัง...ซะก่อนเลยออกไป  แต่จากสายตาที่มองมาอย่างจับผิดเช่นนั้น...ข้อสันนิษฐานดังกล่าวตกไปสิ้น  แม้องศาจะพูดมากกว่า  แต่ผมพนันร้อยทั้งร้อยว่าไร้เดียงสาพอๆกัน

   ไม่นานอักษรก็หลับไปตามคาด  ผมคิดว่าเขาเหนื่อย...บางทีการทำแบบนั้นลงไปคงเป็นภาระกับร่างกายเขาไม่น้อย..ผมนึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้ทำจนสุด...แต่ก็นะ  ถึงจะค้างไปหน่อยแต่ก็ดีแล้วล่ะ




   ผมหยิบหนังสือมานั่งอ่านเล่นต่อที่มุมห้องแถมยังผิวปากอารมณ์ดี...จนองศาน้องรักของเขานั่นแหละที่เขม่นแล้วเขม่นอีก

   “....พี่เทียนทำไรพี่ษร?”
   แน่ะ..ปากมันมากครับ
   ผมเงยหน้าขึ้นกระพริบตา "ทำอะไรล่ะ?”
   “....ก็พี่ษรดูอารมณ์ดี"
   “แล้ว...ไม่ดีรึไง?”
   “ก็ดี!  แต่ผมว่ามันแปลกๆ...พี่เทียนก็ด้วย  ยิ้มกรุ้มกริ่มอะไรอยู่นั่นล่ะ!"
   ผมหุบยิ้มฉับ  พลิกหน้าหนังสือ "...แล้วเพื่อนเราคนนั้นน่ะใคร?”
   “เพื่อนคนไหน?”
   “คนที่รับโทรศัพท์พี่" ผมบรรยาย...แต่จะให้ระบุชัดขนาดไหนคงเป็นไปไม่ได้..เพราะผมทุกอย่างมันยุ่งจนลืมสังเกต "ที่ตัวสูงๆผอมๆน่ะ...ที่มาเมื่อวานด้วย"
   อีกฝ่ายมุ่ยหน้า “...ไม่ใช่เรื่องของพี่"
   ผมไหวไหล่ "งั้น...นี่ก็ไม่ใช่เรื่องของศา"
   “พี่เทียน!!”
   “ชี่  เบาๆสิ...อักษรนอนอยู่นะ"

   ...ผมเพิ่งรู้ความสนุกของการได้ยียวนคนอื่นครับ  มิน่าล่ะเขาถึงทำกันทั้งประเทศ

   แต่ก็แลกมาด้วยอาการกระฟัดกระเฟียดของหมอนั่นก็แล้วกันครับ  ซึ่งมันทำให้ผมนึกขำอยู่ไม่น้อย  และการปั้นหน้าแสดงว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ 'แกล้ง' มันก็เหนื่อยพอดูล่ะ...ผมพอจะเข้าใจเหตุผลที่องศาเพื่อนเยอะซะแล้ว  ถึงจะดื้อแต่ก็น่าเอ็นดู...แล้วถ้าให้มองอีกที...หน้าตาก็ละม้ายคล้ายอักษรตอนถอดแว่นอยู่นิดหน่อย  ถือว่าน่ารัก...ถึงนิสัยจะไม่เหมือนกันก็ตาม


   “นี่ นี่"

   ผมว่าคนที่ทนความเงียบไม่ได้ที่สุดก็คือองศาน่ะแหละ  ทั้งที่เวลายังผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีถึงได้พยายามเรียกร้องความสนใจตลอดแบบนี้..ปากก็บอกว่าเกลียดผมแท้ๆ  คงได้แค่นั้นล่ะมั้ง
   "หืม..ครับ?”
   “พี่เทียนไม่ไปฉลองปีใหม่กับใครบ้างเหรอ?”
   ผมเลิกคิ้ว  ชี้ไปที่อักษร
   องศาหรี่ตา "...หมายถึงกับพวกผู้หญิง"
   “อ้อ" ผมไหวไหล่ "พี่ไม่เคยฉลองวันสำคัญกับผู้หญิงคนไหน"
   “โกหก!”
   ..เหมือนกันเด่ะเลย..ให้ตายสิ..
   ผมหุบยิ้มไม่ลงจริงๆ “..ถ้าคิดว่าพี่โกหกแล้วจะถามทำไมล่ะครับ?”
   คำนั้นทำให้อีกฝ่ายเถียงไม่ออก  ผมยกมือปิดปาก...คิดในใจว่าจะต้องพูดจาดีๆกับน้องชายของอักษรรึเปล่านะ?  แต่ก็นั่นแหละ..ดูเหมือนจะแก้อะไรไม่ทันแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ

   “...มีหลายครั้งที่พี่เทียนทำให้พี่ษรเสียใจ  จนบางทีผมอยากจะฆ่าพี่เทียนด้วยซ้ำ"
   องศานั่งกอดเข่า  พูดเสียงดังให้ผมได้ยิน
   “แต่ถ้าทำไปพี่ษรคงเสียใจเรื่องที่มีน้องเป็นฆาตรกร"

   ผมเลิกคิ้ว "...เสียใจที่พี่ตายมากกว่าล่ะมั้ง"
   “ไม่ต้องมาพูดดีเลย  ทำให้พี่ษรเสียใจแล้วยังไม่สำนึกอีก"
   “ครับ  ครับ  ขอโทษ" ผมยิ้ม  องศาเป็นเด็กพูดมากก็จริงตามที่เขาลือมา..แต่ปากเสียเฉพาะกับผมรึเปล่านะ? “...ไว้หลังจากนี้ศาค่อยฆ่าพี่ตามไปก็แล้วกันนะ"




   องศาไม่ได้พูดอะไรอีก

   ผมก็เหมือนกัน





   กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ความรู้สึกในใจได้อักษรช่วยไว้...ไม่ว่าจะรู้สึกแย่แค่ไหน  ทั้งอารมณ์โกรธที่เคยเป็น  อารมณ์เกลียดที่เคยรู้สึก  หรือแม้กระทั่งความรู้สึกสำนึกเสียใจ  ทุกครั้ง...เพียงแค่ได้ยินเขาบอกว่า 'ไม่เป็นไร'...ทุกอย่างก็ดูสวยงามไปเสียหมด
   แค่เพียงเขายิ้มอยู่แบบนั้น...
   ...แค่เพียงเขามีความสุข...ก็แค่นั้น...




   พ่อกับแม่ของอักษรมาถึงตอนบ่ายแก่ๆ


   พวกท่านหอบของขวัญที่ห่อแล้วมาชุดใหญ่ๆ  บอกว่าข้างล่างมีงานเลี้ยงสิ้นปีกัน...ผู้ป่วยและญาติที่ต้องการร่วมงานก็แค่ไปลงชื่อ  แถมยังซื้อของขวัญจับฉลากมาให้ทั้งผมทั้งพี่น้องสองคน  อักษรดูดีใจมากที่หมออนุญาตให้เขาลงจากเตียง  ส่วนองศาก็เอาแต่ถามอย่างกระตือรือร้นว่าของข้างในเป็นอะไร ของข้างในเป็นอะไร...เหมือนเด็ก...ซึ่งมันทำให้อักษรหัวเราะ  และเมื่ออักษรหัวเราะ  โลกก็สดใสตามไปด้วย...
   อ้าว? คุณไม่คิดแบบนั้นเหรอครับ?

   …อย่างน้อยก็ผมคนนึงล่ะ...




   ผมรับหน้าที่พยุงอักษรลงจากเตียงและเข็นรถเข็นให้..เดินไปตามทางเดินเคียงข้างกันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างไงอย่างงั้น...ซึ่งยอมรับว่าลึกๆแล้วผมเองชอบใจไม่น้อยที่ได้อยู่แบบนี้...ลึกๆน่ะนะ

   ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุมากแล้ว  แต่ก็มีเด็กตัวเล็กตัวน้อยก็วิ่งร่าไปทั่วงาน  ก็คงเป็นบรรดาลูกหลานที่มาฉลองให้กันครั้งสุดท้ายก่อนที่จะ..เอ่อ..ผมรู้ว่าที่กำลังพยายามอธิบายอยู่มันดูแย่  และมันดูแย่  ผมไม่เถียง...ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือพวกผมก็เช่นกัน...


   บุรุษพยาบาลคนหนึ่งรับหน้าที่เป็นพิธีกรอารมณ์ดีตลอดงาน  เล่นมุขเก่าๆให้คุณตาคุณยายทั้งหลายฟัง...ส่วนพวกผมที่ยืนยิ้มอยู่ก็เพราะภาพตรงหน้ามันอบอุ่นเนี่ยแหละ

   ผมขออนุญาตถ่ายรูปด้วยกล้องคอมแพคที่บังเอิญพกมาด้วย  ประเดิมรูปแรกด้วยครอบครัวอัครมณฑาที่ดูแจ่มใสมากกว่าเมื่อเช้าหรือเมื่อวานมาก...มันทำให้ผมยิ้ม...ข้อดีของกล้องดิจิตอลคือสามารถดูรูปที่ถ่ายไปแล้วซ้ำได้อีกหนโดยไม่ต้องรอลุ้นในฟิล์ม  ผมคิดว่ามันสะดวกในเวลาแบบนี้...เวลาที่เวลา...เหลือน้อยลงไปแบบนี้...
   ความคิดนั้นทำให้ก้อนขมๆติดอยู่ที่คอ

   ...แม้จะยาก  แต่ผมก็กลืนมันลงไปได้ในที่สุด



   ผมเลิกคิดเรื่องนั้น  ถือจานอาหารมานั่งยองๆข้างๆเข้า “ษรครับ"
   “ครับ? อ...”
   “ทานสิ" ผมหัวเราะเมื่อเขาทำหน้าเหวอตอนผมใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกชิ้นพอดีคำมาจ่อปาก  จนเผลอแตะลงบนอวัยวะนุ่มๆนั่นไปหน่อยนึง "..หรือจะต้องให้ผมเคี้ยวให้ก่อน"
   เขาหน้าแดงแปร๊ด  แล้วบ่นอุบ "ลามก"
   “อะไรนะ?”
   อีกฝ่ายไม่ตอบ  เบี่ยงประเด็นด้วยการอ้าปากงับไส้กรอกชิ้นนั้นฉับแล้วเคี้ยวแก้มตุ่ย...
   พอเขาหันมาสบตากัน  ก็หลบตาฉับอย่างจงใจ  จนอดไม่ได้ที่จะสงสัย
   “อะไรน่ะ?”
   “ก็มองทำไมล่ะครับ..”
   “มองไม่ได้เหรอ?”
   “ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้...แต่...เอ่อ...” คนตัวเล็กยกหลังมือปาดแก้มตัวเองอย่างเก้อเขิน "..คุณเอาใจแบบนี้ผมเขินนะ...”
   “แล้วไม่ชอบเหรอ?”
   “ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบ...”
   ผมยิ้ม "คุณอยากทานอะไรอีกมั้ยครับ?”
   อักษรหันมามอง  ทำตาเป็นประกาย "พาผมไปที่โต๊ะอาหารหน่อยได้มั้ยครับ?”

   ..แน่นอน..
   ผมไม่ได้พูดคำนั้นออกไป  เพียงแค่ลุกขึ้นเดินอ้อมมาด้านหลังเก้าอี้รถเข็นของเขา  หันไปพยักหน้าเป็นเชิงขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่อีกครั้ง  พวกท่านยิ้มให้..ท่าทางเหมือนจะบอกว่าเรื่องแค่นี้ไม่ต้องขอก็ได้  ผมเลยเข็นไป

   เพราะต้องการบรรยากาศสบายๆเลยจัดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ตักสะดวก  โต๊ะตั้งอยู่ในระดับที่คนนั่งวีลแชร์จะสามารถหยิบกินได้ถนัดทำให้อักษรสนุกกับการตักอาหารมาก...เขาตักเยอะ..และผมรู้หรอกว่าแค่ตัวเขาเองกินไม่หมดหรอก  เพราะฉะนั้นเลยเลือกที่จะไม่ตักเอง  และไม่ทักเรื่องนั้นด้วย


   พอผมพาเขากลับมา  องศาก็หายไป...พ่อกับแม่ของอักษรบอกว่าน้องไปหาเพื่อน  ซึ่งผมไม่แปลกใจเท่าไหร่...วันนี้วันสุดท้ายของปี  วัยรุ่นก็ต้องมีเรื่องแบบนี้กันบ้าง...แต่พวกท่านไม่ถามผมเรื่องนั้น  และผมยินดีที่จะไม่ตอบ




   ทุกๆปีในวันสำคัญ..ผมเกลียดงานฉลองหรืออะไรไร้สาระทั้งหมด

   ผมไม่ได้โกหกองศา  ผมไม่เคยฉลองวันแบบนั้นกับใคร...เพราะผมเคยคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ถ้าในปีถัดไปเราต้องมานั่งพะวงเรื่องเดิมๆ  เพราะงั้นสำหรับผม...มันไม่ใช่วันสำคัญ...


   ถ้าลืมเรื่องที่วันนี้เป็นวันส่งท้ายปี
   ถ้าลืมเรื่องที่ต้องฉลองกันข้ามคืน

   ..ผมกลับคิดว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับอักษรในตอนนี้...สำคัญกว่าตอนนั้นมาก...




   “แค่ก! แค่ก!”
   สิ่งแรกที่ผมทำคือรับจานอาหารที่เกือบจะร่วงลงมาก่อน  ถึงค่อยหันไปวางมันไว้บนโต๊ะ  แล้วก้มลงนั่งยองๆหน้าอักษรพร้อมน้ำหนึ่งแก้ว
   แต่ก็แค่นั้น  เพราะเขาเงยหน้าขึ้นมายิ้ม "แหะๆ  ผมคงทานเร็วไปหน่อย...”
   ผมยิ้ม ยกมือเช็ดปากให้เขา "ไม่เห็นต้องรีบเลย"
   “ก็แหม....”
   “ดื่มน้ำก่อนสิครับ" ผมบอก "ไม่ต้องรีบนะ...ถ้ารีบอีก  เดี๋ยวผมจะป้อนซะเลย"
   เขายิ้มหวาน "งั้นผมจะรีบดื่มเลยล่ะ"
   ..แหน่ะ..หยอดอีก..

   ผมยีศีรษะเขาอย่างหมั่นไส้  เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาสำลัก..แน่นอนว่าผมตกใจ  แต่เพราะอะไรไม่รู้ทำให้ผมใจเย็นกว่าที่เคย  ซึ่งผมคิดว่าดีแล้ว  หากผมแสดงอาการตกใจจนลนลานเกินไปเรื่องราวจะยิ่งแย่ลงกว่านี้..
   ..ถ้าอยากดูแลเขา..ตัวผมเองเนี่ยแหละที่ต้อง ‘มั่นคง’ มากกว่านี้…


   “เทียนยืนเถอะครับ  เดี๋ยวเมื่อยนะ"
   อักษรบอกผมตอนที่รับจานอาหารใหม่อีกครั้งหนึ่งพร้อมรอยยิ้ม

   แน่นอนว่าผมส่ายหน้า "รู้อะไรมั้ย…ที่ผมนั่งแบบเนี้ย  เพราะรอให้คุณป้อนอยู่"
   เขาหน้าแดงขึ้นทันตา "ไม่เอา  เดี๋ยวติด"
   “เนื้องอกมันติดกันได้ด้วยเหรอ?” ผมหัวเราะกับข้ออ้างไร้สาระนั่น "งั้นมันคงติดตั้งแต่ตอนที่ผมจูบคุณแล้วล่ะ"
   “เทียน!”
   ..ทำไมอักษรถึงเขินได้ขนาดนี้กันนะ...ทั้งๆที่ปกติเป็นฝ่ายหยอดผมมาตลอดแท้ๆ..

   ผมยิ่งหัวเราะกับความคิดนั้นเข้าไปใหญ่  อักษรหันควับกลับไปมองพ่อแม่ของตัวเองแล้วหันกลับมาแยกเขี้ยวใส่ผม  แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ...ในงานเสียงดังกันจะตาย...พูดเบาแค่นี้ไม่ได้ยินไปถึงหูผู้ปกครองหรอก  แน่นอนล่ะ..เรื่องนั้นผ่านการคำนวณมาแล้ว
   จากนั้นผมก็เท้าแขนกับที่วางแขนทั้งสองข้างของเก้าอี้  อ้าปากรอ
   อีกฝ่ายใช้ส้อมจิ้มแตงกวาขึ้นมา  มองผมอีกรอบ
   ผมยักคิ้ว
   และแตงกวานั้นก็เข้ามาเป็นอาหารในปากผมในเวลาต่อมา..ซึ่งบอกเลยว่าอร่อยกว่าทานเองเป็นไหนๆ
   แต่คนตรงหน้ากลับหน้ามุ่ย  แล้วบ่นอุบ
   “ทำแบบนี้...เดี๋ยวคุณก็โดนคนมองแปลกๆหรอก"
   “หืม?  แปลกยังไง?”
   เขากรอกตา “....ก็...ผม...คุณ...เราสองคน....”
   “หืม?  ทีเมื่อก่อนคุณไม่เห็นแคร์เรื่องแบบนี้เลย?”
   “...ตอนนี้...มันต่างออกไปนิดหน่อย...นะครับ...”

   พอดวงตาคู่นั้นมีประกายจริงจังขึ้นมา  ผมก็เงียบลง...ไม่ได้โต้ตอบยียวนเหมือนเมื่อครู่  มันยากที่จะฝืนยิ้มต่อไปอยู่ทั้งที่ในใจเราไม่ใช่  เขาจ้องมองผม..ไม่มีท่าทีจะอธิบายต่อ  แต่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วในสถานการณ์แบบนี้  สภาวะแบบนี้  และ...ระหว่างเรา...



   ผมไม่อยากคิดเรื่องที่ว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีกนานแค่ไหน...

   ….ไม่อยากคิด....เรื่องแบบนั้น....


   แต่ความจริงมันกลับตอกย้ำลงมาให้เจ็บทุกครั้ง  จนสุดท้ายจะลืมเลือนไปก็ไม่ได้
   ผมหลุบตาลง  ประคองมือของเขาเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง...ผมทำแบบนี้บ่อยครั้งที่เขาหมดสติ  ทุกครั้งก็จะอดคิดไม่ได้ว่าทำไมมันช่างบอบบางได้ขนาดนี้...ทั้งอ้อมแขนที่โอบกอดผมเมื่อกลางวัน  หรือรอยยิ้มของเขาที่มอบให้ผมตลอดเวลาที่ผ่านมา 
   ....ทำไม...ทุกสิ่งทุกอย่างถึงได้พร้อมจะแตกสลายลงทุกเมื่อแบบนี้



   "ผมจะอยู่กับคุณ..."


   ย้ำเจตจำนงที่มีให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง  ยกมือเล็กๆคู่นั้นขึ้นมาจรดริมฝีปาก


   "...ผมจะอยู่กับคุณ  อักษร...ผมจะไม่ไปไหน..."





   อีกฝ่ายบีบมือผมแน่นขึ้นเป็นคำตอบ...คำตอบที่ผมไม่รู้ความหมาย  และไม่อยากรับรู้ด้วย









   ..วันสำคัญวันนี้ในปีถัดไป...ไม่มีค่าอะไรเลย..




   .....ไม่มีเลย...จริงๆ....






TBC




================



เพราะอะไรหลายๆอย่าง จึงขอเกริ่นก่อนว่าตอนหน้าตอนจบแล้วจ้า >///<



สำหรับตอนนี้คิดนานมาก นานมากๆว่าจะให้ออกมาในรูปแบบไหน
ออกมามุ้งมิ้งเกินคาด เลิฟซีนที่คิดว่าจะไม่เขียนก็ได้เขียน
แล้วก็อะไรอีกมากมายจริงๆ 55555 เอาเป็นว่าตอนนี้มันเหนือความคาดหมายสุดๆ

คงเป็นตอนเรียกน้ำตาตอนสุดท้ายแล้ว(นี่เรียกได้จริงมั้ยคะ กรี๊ดดดดดด บิวท์อารมณ์ไหวป่ะะะ :hao5:)
ตั้งใจจะให้จบแบบสวยงาม ;v; อยากให้ทุกคนจำสองพระนายคู่นี้ได้นานๆ
อย่างน้อยก็จำอักษร เด็กหนุ่มสุดน่ารักคนนี้ให้ได้นานๆล่ะเนอะ!


มาแอบประกาศนิดนึงนะคะ

ก็เหมือนเคย คือถ้าเรื่องนี้จบแล้วก็คงมีรวมเล่มแน่ๆ
จึงมาถามความสนใจจากทุกฝ่ายไว้ก่อน
แต่ครั้งนี้โอไม่ได้รวมเล่มกับไร้กรอบนะคะ :o8: พิมพ์ด้วยตัวโอเองเนี่ยแหละ! 55555
เพราะชอบเรื่องนี้มากๆๆ เลยอยากให้เป็นเล่มลิมิตเต็ด
(หาซื้อไม่ได้ตามร้านหนังสือนะบอกเลย.........แฮ่!)
ซึ่งกว่าจะทำไอ้โน่นไอ้นี่ไอ้นั่นเสร็จ เปิดให้จองก็คงราวๆสิ้นปีนะคะ ; ;////  :กอด1:

ใครอยากได้ก็เอาน้ำลายป้ายไว้ก่อน... #ม่ายช่ายยยยยยย

ยังไงจะมาอัพรายละเอียดให้อีกทีนะคะ ก็ตามได้ในเพจรักร้าย เดอะ ซีรี่ย์ ล่ะกันเนาะ! :D
ไม่ค่อยแนะนำให้ตามในทวีตเตอร์เพราะโอฟลัดเข้าขั้นสึนามิเลยทีเดียว....  :z10:




ขอบคุณที่ยังติดตาม
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์

เจอกันตอนหน้าตอนจบน้าา



ozaka*




 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:



ปล. จบงานนี้เผชิญศึก XY2 ปะทะเด็กโรงเรียนเกษรวิทยาต่อ กร๊ากกกก ทำเป็นนิยายต่อสู้ดีมั้ยยย
ปล2. แฟนคลับสายสิญจน์น้ำมนต์ รอก่อนน้อ!!



ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
จิ้มๆ
 :hao5: :เฮ้อ: หน่วงมากเลย รู้สึกเศร้า รอตอนต่อไปค่า
เราติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น เม้นบ้างไม่เม้นบ้าง 55 เม้นไม่ออกสงสารอ่า :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2013 22:21:45 โดย BBnuna »

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เก็บเงินรอรวมเล่ม  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ P.PAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ศึก XY2 อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก *โดนคุณโอถีบ
นี่ไม่ได้สนใจจะเม้นนิยายเล๊ยยย 555

ตอนนี้ก็หวานมดไต่ หลังจากอึมครึมมาตั้งนาน
ตอนนี้เป็นตอนที่เทียนพูดเยอะสุดหรือเปล่าเนี่ย
เอาจิงเทียนเป็นคาแรกเตอร์พระเอกแบบบที่ชอบเลยนะ
แต่น่าเสียดายที่มอบหัวใจดวงน้อยๆให้นายดำเอกราชไปหมดแล้ว *อิเอ็กซ์เตะหัวใจกลับมาอัดหน้า

ตอนหน้าตอนจบแล้ววว ใจหายเบาๆ อยากเห็นเทียนพูดมากๆแบบนี้อีกเยอะๆ งือออออออออ T T

ออฟไลน์ care_me

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เรามาเม้นรอสายสิญจน์ กะน้องน้ำมนต์ไปป่ะเนี๊ยะ 555

ตอนหน้าจบแล้ว โหยยย จิงๆแอบชอบเรื่องนี้มากเลยนะ มันเหมือซีนนอารมณ์อ่ะ
ถ้าเป็นละครนี้ต้องรับส่งกันน่าดู

ปล.แล้วตอนหน้าจะมาเมื่อไหร่คะ?
ปล2.เอ็กซ์ไวน์ ม.ปลายของฉันหล่ะ?

ออฟไลน์ leknoey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
จะจบแล้ว  :sad4:
ตอนนี้มันน่ารักมุ้งมิ้งกันจัง :impress2:
หวังว่าจะจบแบบแฮปปี้นะ :L1:

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
สาบานนะว่านี่คือตอนสุดท้ายที่เรียกน้ำตา??
ถ้าตอนหน้าพี่ร้อง พี่จะเอาขี้มูกไปป้ายยยยยย กรี๊ดดดดดดด TwT
แต่ชอบตอนนี่้เว่อร์! ร้องไห้ไปด้วยยิ้มไปด้วย หนักอ่ะ!
แล้วอัลไลลลลล อักษรไม่สบายอิเทียนไปฮึ๊ดจั๊มบึ๊ดน้องตะไมมมมมมมม
แม้จะแบบซอฟต์ก็เถอะนะ หึหึ
ระวังเถอะ ระวั๊งงงงงงงงง

ตอนหน้าขอวันพรุ่งนี้เลย!

ออฟไลน์ fuwa79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านจบแล้วเขินอายเป็นอย่างมาก
ไม่ได้ทำให้เจ็บถึงขั้นนั้น
ขั้นนั้นมันขั้นไหนนนน สครีมมมมมมม

ตอนนี้หวานสุดๆ
แต่สะุดุดตรงประโยคท้าย

ว่าแต่เหมือนจะยังไม่ได้ยินเทียนบอกรักเลย

ปาดน้ำลายจองค่า รักร้ายทุกเล่มเก็บแน่นอน
รอ gamer อยู่ด้วยละ อยากอ่านตอนพิเศษแล้ว
รอ xy ด้วยฮับ

ขอบคุณมากค่าสำหรับตอนต่อ
ฟินไปตามระเบียบ
ชอบตอนใส่ง่ายถอดง่ายมาก
มุ้งมิ้งกันตอนใส่เสื้ออีก
อายอะไรกันนน เขาอ่าน เค้าก็อายยย ว้ายๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Thezetiv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลูกแม่  ~~ จะจบแล้วเหรอ
มั่ยนะะะะะะะะ
แต่ตอนนี้หวานมากนาย ฉันกำลังจัตาย
ฮรืออออออออออ

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อ่านตอนนี้แล้วสงสารเทียน :o12: :o12: :o12:
อักษรอย่าเป็นอะไรไปนะ สงสารคนที่ต้องอยู่ต่อไป แล้วคนอย่างเทียนเปิดใจรับใครยากด้วย
ถ้าไม่มีอักษรแล้ว ต่อไปชีวิตเทียนคงกลับไปมืดมนเหมือนเดิมแน่เลยอ่ะ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:


ปล. มีเลิฟซีนด้วยเหรอคะ ทำไมเรามองไม่เห็นคะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด  กลับไปหาใหม่อีกครั้ง :o8: :o8:

aphro_dite

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกติดใจองศานิดหน่อย องศากับเพื่อนคนที่สูงๆผอมๆ ที่มาเมื่อวานแล้วก็วันนี้ด้วย ต้องมีเคลียร์กันหน่อยนะคะ //ทำหน้าตาขี้เสือก 5555

ตอนนี้รู้สึกอ่านไปแล้วอมยิ้ม ทั้งที่บรรยากาศมันก็อึมครึมๆ คงเป็นเพราะวันปีใหม่ล่ะมั้ง?
ขอบคุณที่เทียนไขเปิดปากสักที โอยยย สิบกว่าตอนแล้ว กว่าจะพูดได้นะ!
เทียนเวอร์ชั่นนี้น่ารักมากๆ รู้แล้วว่าทำไมอักษรถึงหลงรัก
อักษรที่เขินง่าย หน้าแดงบ่อยๆก็น่ารักที่สุด อยากฟัดกลางโรง'บาลแบบเทียนมั่งเลย  :katai3:

รออ่านตอนสุดท้ายของเรื่องนี้นะคะ เป็นเรื่องที่ต้องอดทนรอจริงๆ 5555

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
สัญญามานะน้องโอ ว่าตอนนี้เสียน้ำตาตอนสุดท้าย


ถ้าตอนหน้าเสียน้ำตา ขอให้ตัวเองสิวขึ้น 10 เม็ด


แต่ตอนนี้คืออะไร แอรํยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หวานมุ้งมิ้งมากกก เทียนจ๋าหนูเก็บคำพูดเพื่อมาพูดตอนนี้โดยเฉพาะใช่ไหม

kinsaki

  • บุคคลทั่วไป
โหยยย ย กรรมแล้วไง ตอนหน้าตอนจบบ บ  :ling1: :z3:

แต่ตอนนี้หว๊านหวานน  มุ้งมิ้งมั่กๆ ๆ ><
หยอดไปหยอดมา (แถมยังมีฉากอัศจรรย์ บร๊ะเจ้า!!)
 :hao6:  :hao6:
บอกได้คำเดียวว่าตอนนี้น่าร๊ากกกก  :-[ :o8:
แต่ตอนหน้านี่สิ... o22  :a5: ฮึกกกกกก ฮรือออออออ TT___TT
มัน Bad End จริงๆ ด้วยยยย ย พี่โอทำร้ายยอักษร #ผิดด
แง้ ยังไงก็รักอักษรนะ TTwTT รักที่สุดเลยยย รออ่านตอนจบครับ
ปล.เรื่องที่ว่าพี่จะรวมเล่มเอง ผมจองแน่นอนนน พลาดไม่ได้  :laugh: :laugh:
ขอบคุณพี่โอมากครับ :กอด1: :กอด1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kapi_t

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอเอาน้ำลายป้ายจองไว้ก่อนเลยค่ะ มีทุกเล่มจะขาดเล่มนี้ไปก็กะไรอยู่ ชอบมากกกกกก เทียน กะษรเนี่ย ลุ้นตอนจบนะคะแม้ว่าเรื่องนี้จะสั้นไปหน่อยก็เถอะ อิอิ

ออฟไลน์ 7th SensE

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
งื้อ มันหน่วงๆในอกชอบกล สงสารทั้งอักษรทั้งเทียนเลย
แต่ฉากสวีทนี่น่ารักมากเลยค่าาา อ่านไปยิ้มไป อ้ากกกก เขิน :o8:

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
ตอนหน้าจะไม่มีน้ำตาจริงๆใช่มั้ย ห้ามผิดสัญญานะคุณโอ
แค่นี้ก็ปวดใจจะแย่แล้ว เจอแต่เรื่องแย่ๆมาทั้งคู่
อย่าให้ตอนจบต้องเจอเรื่องแย่ๆอีกเลยนะ  :z10:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
happy ending ใช่ม้ายยยย

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
แงงงงงงงงง เขินนนนน  -////////-
ไม่ได้เตรียมใจมาเจอเลิฟซีนเลยย!!!!! ถึงจะโดนตัดฉากก็เถอะ!! แต่ก็เขินมาก!! เขินจนหน้าร้อนตัวร้อนไปหมดทั้งที่เปิดแอร์ 23 องศา =//= เขินจนไม่กล้าอ่านต่อต้องหยุดทำใจ(ให้สงบ)แปปนึง อ่านๆหยุดๆ -///- แงงงงงงง เขินจริงๆนะ! โอ๊ยยย เขินนนนนน เขินนนนจะตายแล้วววว! แอ่กก.. -/////- (ขอระบายความเขินนิดนึง(?) 555555555)
นี่ถ้าพี่โอแต่งมาเต็มหน้าเราคงระเบิดแน่ๆค่ะ ฮือออ.. (แต่ก็แอบอยากอ่านนะ แฮ่ .///.)

ชอบตอนอักษรด่าเทียนมากกก!!!
ฮืออ น่ารักไปมั้ย >//< ! น่ารักน่าเอ็นดูที่สุดอ่ะ♥
'คุณมันแย่' 'แย่มาก' 'แย่ที่สุด' 'คนใจร้าย'
โอ๊ยยยย #ตาย ทำไมถึงด่าคนได้น่ารักมุ้งมิ้งขนาดนี้เนี่ย!! #จับฟัด >3< #โดนเทียนฆ่า

ตอนนี้ไม่ดราม่า ไม่น้ำตาตกนะคะสำหรับเรา..
แค่ทั้งสองคนเข้าใจกันได้รักกันด้วยดีลงตัวก็พอแล้ว♥
ที่สำคัญคือมันหวานจนลืมความเศร้า(ที่'อาจ'กำลังจะเกิด)ไปหมดสิ้น.. 5555
ถึงคำพูดทิ้งท้ายของเทียนจะทำให้รู้สึกจิ๊กๆ!ที่ใจก็เถอะ..
แต่ยังเขินอยู่ไงง สมองเบลอไม่รับรู้ดราม่าอะไรทั้งสิ้นน .///. 555555555555

ตอนหน้าจบแล้วใจหายเลยค่ะ.. ;___;
จะคิดถึงอักษรไปอีกนาน(มากกกมากกกก!!)เลยค่ะ.. ติ่งจัด! 555555555 (ทุกวันนี้ยังคิดถึงน้องกลอนไม่เลิกเลยนะ.. UU วนเวียนเข้าไปอ่านอยู่บ่อยๆ จนจะจำบทได้อยู่แล้ว55 แอบเก็บไปฝันด้วย #รู้สึกตัวเองเริ่มน่ากลัวละ 55555 (ไม่ได้ตั้งใจ(?)ฝันนะมันอ่านก่อนนอนเลยฝันเอง ฮืออออ UU)

ปล. หนังสือเก็บแน่นอนค่ะ!! #ป้ายน้ำลาย

ออฟไลน์ Wins_Sha

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 949
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดด

ตอนหน้าจะจบแล้วเหรออออ สัญญาแล้วนะคุณโอว่าจะไม่จบดราม่าอ่ะ


พร้อมทั้งรอสายสิจน์-น้ำมนต์และเตรียมหยอดกระปุกด้วย

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ตอนจบช่วยเฉลยทีว่าจริงๆแล้วอักษรมาจากดาวอื่นซึ่งเป็นอมตะT^T

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เจ็บปวดกับจริงที่จะต้องเจอในตอนสุดท้าย ทั้งๆที่เพิ่งจะมีควมสุขกันได้นิดเดียวเอง

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ตอนนี้เกิดคำถาม สงสัยมากมาย แต่ก็นะ...เทียนคง...เบาๆ  :-[

ตอนนี้อ่านแล้วมีความสุขยิ้มแย้ม พอได้ยินคำว่าตอนจบในช่วงสนทนา

รู้สึกว่าตอนหน้าที่ร้องแน่ๆ คือว่า .... ( ไม่เอาไม่เดาดีกว่า ) 

แล้วก็ตอนนี้องศาฉายรังสีน่ารักออกมาชนิดที่ว่าสะกิดต่อมความอยากรู้อยากเห็นมากมาย

ใครกันผู้ชายคนนั้น  :hao3:






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่านเมื่อไหร่ก้อน้ำตาสินะ แอบสะดุดตรงมี....กันด้วยงะ

คนไข้นะนั้น>< ไม่อยากให้จบเลย รอรอนะฮะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด