นวนิยายแนวแฟนตาซี My Love Angel ร่วมภารกิจปกป้องโลกกับอัครเทวดาสุดหล่อ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นวนิยายแนวแฟนตาซี My Love Angel ร่วมภารกิจปกป้องโลกกับอัครเทวดาสุดหล่อ  (อ่าน 93153 ครั้ง)

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ








ตอนที่ 1

ทุ่งนาแถบชานเมืองอันเวิ้งวาง ในยามค่ำคืนของปลายฤดูฝน ช่างไม่ต่างอะไรกับ ความมืดมนอันน่ากลัวของป่าดงดิบ แต่มีสิ่งที่แตกต่างคือ ค่ำคืนนี้ที่ท่ามกลางทุ่งนาผืนนั้น จะเป็นแหล่งปะทะกันระหว่างความดีกับความชั่ว
หยาดฝนเริ่มลงเม็ด ทำให้ร่างสองร่างที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันและกัน เริ่มเปียกปอน แต่ไม่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสองสะทกสะท้าน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ปิดผ้าคลุมไม่ไห้ร่างกายโดยน้ำฝนเขาค่อยๆเปิดหมวกทรงคาวบอยขึ้น เพื่อจะได้เห็นหน้าคู่ต่อสู้ ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เช่นกัน แต่ทว่าเขาไม่มีผ้าคลุม ไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ตอนนี้ใครจะไปสนใจอะไรได้อีกเล่า
ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่าเอ่ยถามคู่ต่อสู้ว่า “หมดเวลาของท่านแล้ว กลับไปที่ๆของท่านเถอะ”
นี้คือคำขู่เหรอ ชายหนุ่มตวัดผ้าคลุม พร้อมเงยหน้าขึ้น “ข้าเองมีภารกิจที่จะต้องทำ ข้าจะกลับ ก็ต่อเมื่อ ข้าทำภารกิจนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
เขารู้อยู่แล้วว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะต้องตอบเช่นนี้ “ท่านก็น่าจะรู้ว่า ภารกิจของเราคือเพื่อมายับยั้งภารกิจของท่าน”
ชายหนุ่มในผ้าคลุมรีบพูดสวนกลับไป “แต่ท่านเองก็คงไม่รู้นะว่า ภารกิจของข้านอกจากที่ท่านรู้แล้ว นายของข้ายังสั่งว่า ต้องกำจัดพวกท่านให้สิ้นซาก” ชายหนุ่มสลัดผ้าคลุม เผยให้เห็นร่างที่เปลือยเปล่า เขาชูมือขึ้น แสงสีดำผุดขึ้นเหนือฝ่ามือของเขา เขาเหวี่ยงมือไปที่ศัตรู ทันใดนั้นแสงสีดำก็พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอีกคน
และแล้ว เสียงระเบิดก็ดังขึ้น พร้อมด้วยแสงคล้ายฟ้าผ่าก็ครอบคลุมไปทั่วผืนนา ไม่ถึงวินาที ทุกอย่างก็เงียบสงบ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่สายฝนยังคงตกลงมาต่อไป


รถตู้ประจำทาง หยุดจอดที่หน้าปากซอย ซึ่งเป็นทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หนุ่มน้อยเปิดประตูและรถจากรถตู้
ยู หันไปมองรถตู้ที่เพิ่งวิ่งออกไป เขาเบื่อกับการที่ต้องนั่งรถตู้อย่างนี้ทุกวัน ทำไมน่า พ่อกับแม่ถึงไม่หาคอนโดกลางใจเมืองที่ใกล้ๆมหาลัยให้เขาอยู่ กลับมาเลือกบ้านเดี่ยวแถบชานเมืองอย่างนี้ พ่อกับแม่จะรู้ไหมว่า การต้องนั่งรถตู้ไปเรียนอย่างนี้มันทรมานแค่ไหน ที่จริงเขาไม่ได้เบื่อรถตู้หรอก แต่เขาเบื่อกับจราจรที่ติดขัดของเมืองกรุงเทพฯมากกว่า แต่ให้ทำไงได้ เขาไม่มีทางเลือก เพราะพ่อกับแม่ได้เลือกทุกอย่างให้เขาแล้ว ยูเดินไปตามทางเรื่อยๆ จนเดินมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง
เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี้ตั้งแต่รู้ว่าต้องมาเรียนที่กรุงเทพฯ พ่อแม่เลยซื้อบ้านหลังนี้จากญาติๆให้เขาอยู่ แม้จะเป็นบ้านเดี่ยว แต่บ้านหลังนี้ก็ไม่ได้ใหญ่มากมายเท่าไร แต่ก็ยังใหญ่เกินไปสำหรับการอยู่คนเดียว
ยูไขกุญแจบ้าน และเปิดประตูเดินเข้าไป เขากดสวิตซ์ไฟ ทำให้เห็นห้องที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ ถึงแม้เขาจะต้องอยู่บ้านนี้คนเดียว แต่ด้วยความที่เป็นคนมีระเบียบ ยูก็เก็บกวาดบ้านให้สะอาดเรียบร้อยอยู่ตลอดเวลา
เขาเดินไปที่ห้องนอนข้างบน พอเขาเปิดประตู เขารู้สึกถึงบางอย่าง แต่เขาไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร เขากำลังจะกดสวิตซ์ไฟ แต่ตาของเขาไปสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เตียงของเขา ยูไม่แน่ใจว่าคืออะไร
ยูเลยเดินเขาไปใกล้สิ่งนั้น เขาคว้าไม้เบสบอลที่อยู่ข้างๆประตูไปด้วย เขาเองเคยระแวงว่าอาจจะมีบางวันที่จะมีขโมยมาขึ้นบ้านของเขา แต่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่เคยมีประวัติการขโมยเลยแม้แต่น้อย ยังไงก็ตามตอนนี้เขาต้องจัดการเจ้าหัวขโมยนี้ซะก่อน
ยูค่อยๆก้าวเขาไปที่เตียงของเขา แสงไฟจากนอกห้อง พอจะทำให้เห็นว่า สิ่งที่อยู่บนเตียงนั้น เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
ยูมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นต้องเป็นขโมยแน่ๆ เขาเลยค่อยๆง้างมือที่ถือไม้เบสบอลขึ้น ยูหายใจเข้าก่อนที่จะลงแรงเควี่ยงไม้เบสบอลไปที่หัวขโมยผู้นั้น
โชคร้ายของยูที่ชายหนุ่มคนนั้นรู้สึกตัวซะก่อน เขาลุกขึ้นจับมือของยูและผลักยูลงกับผืน หนุ่มน้อยล้มลงไปตามแรงผลัก ยังไม่ทันจะตั้งตัวเขาก็เจอชายหนุ่มหัวขโมยค่อมร่างของเขา ยูไม่สามารถต่อสู้กับชายผู้นั้นได้ เพราะเขาตัวใหญ่และแรงก็เยอะกว่ายูด้วย
“ท่านทำร้ายเราทำไม” ชายหนุ่มร่างใหญ่ถามยู
“คุณนั้นแหล่ะ เข้ามาในบ้านของผมทำไม” ยูตอบกลับไป
“บ้านของท่านเหรอ” ชายหนุ่มทวนคำพูดของยู
“เออดิ นี้มันบ้านของผม คุณเข้ามาได้ยังไง ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ” ยูยังดิ้นต่อไป
ชายผู้นั้นเห็นอยู่ร้องโวยวาย ก็ปล่อยหนุ่มน้อยให้เป็นอิสระ
ยูรีบกระเด้งลุกขึ้นมาคว้าไม้เบสบอล “บอกมาเดี๋ยวนี้นะ คุณเป็นใคร เข้ามาในบ้านผมทำไม”
ชายหนุ่มยังไม่ตอบอะไร ยูเลยเปิดไฟ เขาตกใจเมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มผู้นั้น
ชายหนุ่มอยู่ในร่างที่เปลือยเปล่า พร้อมมีรอยบาดแผลเต็มตัวไปหมด แต่โชคดีที่ใบหน้าของเขาไม่ได้รับบาดแผลอะไรมากมาย ยูจึงเห็นใบหน้าของชายผู้นี้ได้อย่างชัดเจน
ชายหนุ่มผู้ที่ยูนึกว่าเป็นหัวขโมย คือ ชายหนุ่มรูปงามชาวยุโรปที่มีหน้าตาหล่อเหลา นัยน์ตาสีฟ้า ผมสีบลอด์นหยิกยาว รูปร่างของเขาสูงใหญ่ กล้ามเนื้อที่บึกบึนสมส่วนราวกับรูปปั้นเดวิดของ ลีโอนาโด ดาวินชี่
ยูนึกในใจว่า ชายหนุ่มผู้นี้น่าจะเป็นชาวต่างชาติที่โดนพวกมิจฉาชีพทำร้ายร่างกาย แต่เขาสงสัยว่า ฝรั่งคนนี้ทำไมพูดภาษาของเขาได้อย่างชัดเจน อีกทั้งร่างกายของเขามีแผลเต็มตัวขนาดนี้ แต่ทำไมเขาไม่แสดงอาการเจ็บปวดอะไรออกมาเลย
“ตกลงบอกได้หรือยังว่าคุณเป็นใคร และเข้ามาในบ้านของผมได้ยังไง” ยูยังคงถามชายหนุ่มผู้นั้น
ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่าหันหน้ามาหายู พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“เราคือ อัครเทวดา มีคาแอล หรือพวกท่านเรียกเราว่า เซนต์ ไมเคิล”


-----จบตอนที่1-----
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2008 02:09:25 โดย º★*.๑۩۞۩๑..*ღ• »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ นิยายแนวแฟนตาซี     :m12: :m12:    เทวดาหล่อซะขนาดนี้ ไม่รักไม่ได้แล้ว    :oni2: :oni2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

nartch

  • บุคคลทั่วไป
โอ้วววววว มิคาเอลมาเองเลยยยย ชอบชื่อนี้จัง.... :m4:
ได้ยินชื่อนี้แล้วคิดถึง "ลำนำต่างพิภพ" อยากอ่านต่อให้จบ
เทพนักรบกับมนุษย์....น่าสนใจดีแฮ๊ะ.... แต่งต่อให้จบน๊า
จะรอติดตามครับบบบบบบบ  :oni1:
 :mc4:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ดีครับมีอีกเรื่องแล้วแนวนี้

แต่อย่าปล่อยให้หายไปนาไม่งั้นโกรธ

อิอิ มิคาเอล กับ ลูซิเฟอร์ รึเปล่าครับ

เราชอบมากๆเลย ชื่อนี้

alulugun

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ชอบๆคับ เป็นกำลังใจให้นะคับ

อยากอ่านนิยายแนวแฟนตาซีแบบนี้นานแล้ว

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่2

หนุ่มน้อยหันไปมองชายหนุ่มที่อ้างตัวเองว่าเขาเป็น เทวดา
“นี่คุณ ท่าทางคุณก็ไม่น่าจะเป็นคนบ้าเลยนะ มาบอกว่าเป็นเทวดาใครเขาจะเชื่อ” ยูตะคอกใส่หน้าหนุ่มคนนั้น
เทวดาหนุ่มยิ้มให้ยู เขาค่อยๆหลับตา ยูเห็นเขาพึมพัมอะไรสักอย่าง
สักพักยูเริ่มสังเกตเห็นว่า ที่หลังของชายหนุ่ม เหมือนมีอะไรโผล่ขึ้นมา
ยูแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า สิ่งที่เขาเห็นนั้น มันคล้ายๆปีกของนกนก มันคือขนนกจริงๆ
เทวดาหนุ่มสั่งให้ปีกของเขาขยับ มันเคลื่อนไหวได้เหมือนปีกของนกจริงๆ
ยูเดินรอบๆตัวของเขา พิจารนาปีกนกอันนั้น
หนุ่มน้อยใช้มือสัมผัสปีกของชายหนุ่ม เขารู้สึกว่ามันนุ่มกว่าปีกนกของจริงๆซะอีก
“อะไรกันนี่ คุณเป็นเทวดาจริงๆเหรอเนี่ย”
เทวดาหนุ่มไม่ตอบอะไร สักพักเขาก็พนมมือ ปีกนกของเขาก็หายไป
“ท่านเชื่อแล้วใช่ไหม มนุษย์นี้แปลก จะเชื่อก็ต่อเมื่อได้เห็นกับตา” เทวดาหนุ่มพูดกับยู
“คร้าบบบบ ผมเชื่อแล้วแต่ว่า คุณไปทำอะไรมาล่ะ แผลถึงเต็มตัวอย่างนี้” หนุ่มน้อยถามด้วยความสงสัย
“เราโดนทำร้าย”
“ใครทำร้ายคุณ”
“ปีศาจ”
หนุ่มน้อยทำตาโต มีเทวดาอยู่บนโลกไม่พอ แต่ดันมีปีศาจมาอีกเนี่ย โลกกำลังจะแตกหรือไงกันเนี่ย
“แล้วพวกคุณมาทำอะไรกันบนโลก” ยูถามไมเคิลพร้อมเกาหัวไปด้วย
“เราได้รับพระบัญชาจากพระเจ้า มายับยั้งภารกิจอันชั่วร้ายของเหล่าปีศาจ” เทวดาหนุ่มอธิบาย
ยูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเลยถามไมเคิลอีกว่า “แล้วไอ้ภารกิจของปีศาจคืออะไรกันเล่า”
เทวดาหนุ่มเงียบสักครู่หนึ่ง เขาเดินไปที่รูปปั้นของพระแม่มารี ที่วางไว้บนหิ้งพระเหนือโต๊ะอ่านหนังสือของยู
เขายอตัวก้มศรีษะ ถวายความเคารพ
“ท่านนับถือพระเจ้าด้วยเหรอ” เทวดาหนุ่มหันมาถามยู
“ใช่ ผมเป็นคาทอลิก แล้วเมื่อไหร่คุณจะตอบผมสักทีว่าปีศาจมันมาทำอะไรกันบนโลก”
เทวดาหนุ่มถอนหายใจก่อนจะตอบออกไปว่า
“พวกมันมาบนโลก เพื่อจะเปิดประตูนรกที่พระเจ้าได้ทรงผนึกไว้ และที่นี้ก็เป็นที่มีแม่กุญแจของประตูนรกนั้นซ่อนไว้”

เปกาเฟอร์เดินลัดเลาะตึกแถวเก่าๆ มายังที่นัดหมาย เขายังคงเอาผ้าคลุมปิดร่างกาย
เพราะตอนนี้เขาอยู่ในร่างของมนุษย์ เขาจึงจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้า แต่เขาไม่ชอบใจเท่าไร เพราะมันทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้ากว่าปกติ
เปกาเฟอร์เดินมาหยุดที่มุมหลังตึกที่อยู่ในสุด เขามองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่มีใครอยู่แถวนั้น
“ว่าไง ภารกิจของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” ชานหนุ่มลึกลับเดินออกมาจากมุมมืด
เปกาเฟอร์รีบก้มตัวถวายความเคารพผู้เป็นเจ้านายของเขา
“ข้าพบแหล่งที่ซ่อนของกุญแจแล้วครับท่าน”
ชายหนุ่มลึกลับยิ้มแสดงความพอใจ
“แต่ข้าก็พบ มีคาแอล ด้วย”
“ว่าไงน่ะ” ชายหนุ่มลึกลับตะคอกด้วยความตกใจ “ถึงขั้นส่งหัวหน้าเหล่าเทวดามาเลยเหรอ แสดงว่า งานนี้คงต้องรีบกันแล้วล่ะ”
ชายหนุ่มลึกลับหันมาพูดกับลูกน้องของตัวเองอีกครั้ง
“แล้วตอนนี้มันไปไหนแล้ว”
“พอข้าพบกับมัน ข้าก็ได้ต่อสู้กับมัน แต่มันหนีไปได้ครับ ข้าคิดว่ามันคงไปหลบอยู่บริเวณแถวๆที่ซ่อนกุญแจ”
เปกาเฟอร์รายงานให้เจ้านายของตน
“ถ้ามีคาแอลลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว แสดงว่า อีก 2 ตัวที่ลงมาก่อนมันคงรู้ข้อมูลอะไรบางอย่างแล้ว เจ้าจงรีบหาที่ซ่อนแม่กุญแจและที่ซ่อนของลูกกุญแจให้พบก่อนพวกนั้น”
เปกาเฟอร์รีบน้อมรับคำสั่ง ก่อนที่ชายหนุ่มลึกลับจะหายไปในความมืด

-----จบตอน------

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
หล่อๆทั้งนั้นหารูปปลากอบด้วยจิ จาได้จิ้นมันส์  :m13: :m13: รออ่านต่อนะเป็นกำลังใจให้

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

detective Q

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีนะ
แต่เทวดาพนมมือนี้มันแหม่งๆยังไงอยู่น่ะ
โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่3

ชายหนุ่มสีบลอนด์ผมยาว ขยับแว่น เขามองบรรดาตัวอักษรที่ขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
เขาอ่านข้อมูลที่เห็นด้วยความกระตือรือร้น สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล ว่าไง” เขาทักทายกับผู้ที่โทรมา
“ได้ข้อมูลหรือยัง” เสียงของอีกฝ่ายถามชายหนุ่ม
“มีข้อมูลพอสมควรแล้ว ตอนนี้พบแหล่งที่ซ่อนของลูกกุญแจดอกแรกแล้ว”เขาตอบ
“เราจะไปที่นั้นกันเลยดีไหม”
“อย่าเพิ่ง เราควรจะไปหา เขา กันดีกว่า”ชายหนุ่มตอบเสียงตามสายนั้น
“มาแล้วเหรอ ดี เราจะได้ทำงานร่วมกัน แล้ว เขาอยู่ที่ไหนล่ะ” เสียงตามสายถามชายหนุ่ม
ชายหนุ่มใช้นิ้วพิมพ์คอมพิวเตอร์ ก่อนจะตอบว่า
“ในข้อมูลระบุว่าเขาอยู่ในที่ซ่อนของแม่กุญแจ”
“เขาไปทำอะไรที่นั้น เราควรจะหาลูกกุญแจให้ครบซะก่อน”
“เราไปหา เขา กันเถอะ” ชายหนุ่มเสนอความคิดเห็น
“ได้ ไปเจอกันที่นั้น” เสียงโทรศัพท์ก็ดับไป

ยูนั่งลงบนเก้าอี้ เขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า
ทำไมจู่ๆก็มีเทวดาโผล่ออกมา อีกทั้งยังไปต่อสู้กับปีศาจอีก
แล้วเรื่องประตูนรกอะไรกันอีก ทำไมเขาจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
เขาหันไปมองเทวดาหนุ่ม เขาลืมนึกไปว่า ไมเคิลมีบาดแผล เขาน่าจะปฐมพยาบาลให้ซะก่อน
“คุณเป็นเทวดาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีแผล มีเลือดเหมือนคนเลย”ยูถามด้วยความสงสัย
“เราได้รับกายมนุษย์ เพราะจะได้ปฏิบัติภารกิจบนโลกได้สะดวก อีกอย่าง พระเจ้าไม่ปรารถนาให้มนุษย์รับรู้ถึงแผนการนี้”
เทวดาหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร
“อ้าว ผมดันมารู้เรื่องนี้ ผมจะเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย” หนุ่มน้อยหันมาถามเทวดาหนุ่ม
“ไม่หรอก เราอยากให้ท่านช่วย ท่านคงพอจะช่วยเราได้” เทวดาหนุ่มเดินมาหายู
“พระเจ้าสร้างโลกขึ้นเพื่อเป็นที่กั้นกลางระหว่าง โลก กับ สวรรค์ พระองค์ได้ผนึกประตูนรกเอาไว้ โดยได้มอบลูกกุญแจเจ็ดดอกที่เป็นตัวไขแม่กุญแจของประตูนรกไว้กับ เทวดาเจ็ดองค์ ที่ได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อทำหน้าที่รักษาลูกกุญแจไว้”
ยูนั่งฟังเทวดาหนุ่มเล่าเรื่อง เขาพอจะรู้เรื่องราวกำเนิดนรก ว่า เป็นที่ที่เนรเทศบรรดาเทวดาที่คิดก่อกบฏต่อพระเจ้า
“พอมาถึงยุคของท่าน ประตูนรกที่พระเจ้าได้ทรงผนึกไว้เป็นล้านๆปีก็เริ่มชัดเจนขึ้น เพราะมนุษย์ทำบาปกันมากขึ้น ผลจากบาปของมนุษย์ทำให้แม่กุญแจเริ่มคลาย พวกปีศาจจึงใช้เวลานี้มาหาลูกกุญแจเพื่อไขประตูนรก”
“คุณจะให้ผมช่วยหาลูกกุญแจเจ็ดดอกใช่ไหม แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่ากุญแจเจ็ดดอกนั้นอยู่ที่ไหน” หนุ่มน้อยถามเทวดาหนุ่ม
“เทวดาผู้ถือกุญแจเจ็ดดอก ตอนนี้คงเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น กุญแจทั้งเจ็ดดอกจะแสดงตัวก่อต่อเมื่อ ผู้ถือกุญแจได้ตกในบาปพื้นฐานทั้งเจ็ดประการ”
“บาปที่เป็นบ่อเกิดของบาปต่างๆใช่ไหม” ยูถามไมเคิล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชาวคอทอลิกเข้าใจกันเป็นอย่างดี บาปทั้งเจ็ดประการประกอบด้วย หยิ่งจองหอง ความโลภ ตัณหา ความโกรธ ความตะกละ ความอิจฉาริษยา และ ความเกียจคร้าน
ยูเองเพิ่งนึกได้ว่า ไมเคิลเปลือยอยู่ เขาเลยรีบหาผ้าขนหนูมาให้ไมเคิล
ไมเคิลรับผ้าขนหนู เขามองหน้าหนุ่มน้อยด้วยความสงสัย
“ท่านเอามาให้เราทำไม”
“นี้คุณ เมื่อคุณเป็นมนุษย์ คุณก็ควรจะใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยซะก่อน ไม่ใช่มายืนแก้ผ้า พูดปาวๆอย่างเนี้ย”
ยูเริ่มเอะอะโวยวาย
“เราขออภัย เราเพิ่งลงมาบนโลกมนุษย์ ยังไม่ค่อยรู้จักธรรมเนียมของมนุษย์สักเท่าไร”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมว่าคุณไปอาบน้ำก่อนเถอะนะ เดี๋ยวผมจะได้ทำแผลให้คุณ”
“อาบน้ำ?” เทวดาหนุ่มทำหน้าสงสัย
“อย่าบอกนะว่า คุณไม่รู้จักการอาบน้ำ” ยูย้อนถามเทวดาหนุ่ม
“เราเพิ่งลงมาบนโลก ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหมล่ะ” เทวดาหนุ่มร้องขอความช่วยเหลือจากหนุ่มน้อย
ยูเริ่มหน้าแดงด้วยความเขินอาย เขานึกในใจว่าจะอายไปทำไม เมื่อกี้ก็ยืนคุยกับเขา ทั้งที่เขาก็ยังแก้ผ้าอยู่อย่างนั้น
ยูไม่ตอบอะไร เขาเดินไปจูงมือเทวดาหนุ่ม พาไปที่ห้องอาบน้ำ
เขาหันไปหาเทวดาหนุ่ม ยูรู้สึกว่าตัวเขาสูงแค่หน้าอกของไมเคิลเท่านั้น ยูค่อยๆลากฝักบัวไปที่ชายหนุ่ม หนุ่มน้อยเปิดน้ำ ทันใดนั้น น้ำก็พุ่งออกมาจากฝักบัว
เมื่อน้ำไปกระทบกับตัวของไมเคิล เขาสะดุ้งกับความเย็นของสายน้ำ ยูค่อยใช้มือของตัวเองลูบไปตามร่างกายของเทวดาหนุ่ม ยูเองรู้สึกแปลกๆ  แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์เขินอายเอาไว้
ยูคว้าไปหยิบสบู่มาถูตามลำตัวให้เทวดาหนุ่ม เขามองหน้าหนุ่มน้อยที่กำลังช่วยเขา ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลก กับ หนุ่มน้อยคนนี้นะ
เขายังไม่เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์เท่าไร ต้องใช้เวลาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
“เออ คือ คุณพอจะอาบน้ำเป็นแล้วใช่ไหม ผมออกไปรอข้างนอกนะ”ยูก็รีบออกจากห้องน้ำไป
หนุ่มน้อยออกมายืนที่หน้าห้องน้ำ เขาจับที่หน้าอก รู้สึกหัวใจของตัวเองเต้นแรงจนแทบจะได้ยิน คงเป็นเพราะการได้เห็นผู้ชายหน้าตาดี เปลือยร่างอยู่ตรงหน้า เป็นใครก็ต้องรู้สึกคล้ายๆกับเขา
ยูยืนทำใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อหาเสื้อผ้าให้เทวดาหนุ่ม
เขาสังเกตว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังเขา
ยูรีบหันไปมอง เขาเห็นผู้ชายชาวต่างชาติสองคนยืนกอดอก
“สวัสดีครับ พวกเรามาหาเพื่อน ผมชื่อ กาเบรียล์ และคนนี้ชื่อ ราฟาแอล ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

-----จบตอน------

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
มีพรรคพวกมาเพิ่มแล้ววุ้ย   :oni2: :oni2: :oni2:

alulugun

  • บุคคลทั่วไป



ชอบๆๆๆ
เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป รีบมาต่อนะคับ

รออ่านอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
แนวแฟนตาซี  แนวโปรด  ชอบๆ  :m4:
ลงให้จบน้า  อย่าปล่อยให้อ่านเก้อละ 

ผูกเรื่องน่าสนใจดี  รออ่านต่อค้าบบ   :oni2:

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่4

ไมเคิลปิดก๊อกน้ำ เขาเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนู เทวดาหนุ่มพอจะรู้ว่าผ้าขนหนูนี้ที่หนุ่มน้อยให้เขาใช่เพื่อปกปิดอะไร ไมเคิลไม่เข้าใจว่า ทำไมมนุษย์ถึงต้องปกปิดร่างกาย ทั้งที่ร่างกายนี้เป็นผลงานของพระเจ้า สิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมานั้นย่อมเป็นสิ่งที่สวยงาม
ในสมัยที่พระเจ้าทรงสร้างโลก อาดัม กับ เอวา บรรพบุรุษคู่แรกของมนุษย์โลกนั้นก็มิได้ส่วมเสื้อผ้า แต่เพราะบาป ทำให้มนุษย์เกิดความละอาย เสื้อผ้า หรือสิ่งที่ปกปิดร่างกายจึงเกิดขึ้น
ไมเคิลจึงไม่ค่อยพอใจกับการที่จะต้องใส่เสื้อผ้าในโลกมนุษย์ แต่เขาต้องพยายามทำตัวให้เป็นเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป เทวดาหนุ่มจึงผูกผ้าขนหนูนั้น
ไมเคิลกำลังจะเอื้อมไปเปิดประตู แต่เขามีความรู้สึกถึงพลังยิ่งใหญ่บางอย่าง มันเป็นพลังที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เมื่อไมเคิลเปิดประตูห้องน้ำ เทวดาหนุ่มเห็นยูยืนคุยกับ ผู้ชายสองคน คนแรกเป็นชายหนุ่มผมสีบอลนด์ยาวประมาณบ่า รูปร่างสูงใหญ่ ใส่ชุดทำงานคือเสื้อเชิ้ต กางเกงเสลค และร้องเท้าหนัง อีกคน เป็นชายหนุ่มผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน นัยตาสีนำตาลอ่อน รูปร่างตัวเล็กกว่าแต่ก็ยังดูตัวใหญ่อยู่ดี ใส่เสื้อยืดคอปก กับกางเกงยีนส์ กับรองเท้าหนัง
“มาแล้วเหรอเรารอพบนายมานานแล้ว” ชายหนุ่มผมบลอนด์เอ่ยทักทายไมเคิล ดูเป็นคนสุภาพน่านับถือ
“ขอต้อนรับสู้โลกมนุษย์อันแสนวุ่นวาย” หนุ่มผมสั้นก็เอ่ยทักทายไมเคิลเช่นกัน จากลักษณะการพูดดูเป็นเด็กหนุ่มกว่าอีกคน
ไมเคิลยิ้มตอบรับ เขาไม่เคยเห็นผู้ชายสองคนนี้หรอก แต่เขารู้จักผู้ที่อยู่ในร่างนี้ เขารู้ว่าสองคนนี้เป็นใคร เขาสังเกตได้จากการแต่งกาย และ คำพูด
“พวกท่านดูคล้ายกับมนุษย์เหลือเกิน ท่าทางจะคุ้นเคยกับโลกมนุษย์แล้วหล่ะซิ” ไมเคิลพูดกับชายทั้งสอง
“แหม พวกเรามาอยู่ก่อนนายตั้ง5ปีแล้วนี้ แล้วข้างบนเป็นไงบ้างหล่ะ”หนุ่มน้อยผมสีน้ำตาลถามไมเคิล
“ก็ยังวุ่นวายกับเหตุการณ์นี้ แต่เรารู้ว่าพวกท่านคงจัดการเรื่องนี้ได้”ไมเคิลหันไปพูดกับหนุ่มผมสีบลอนด์
“ไม่ใช่แค่เราสองคน แต่รวมถึงนายด้วย” ชายผู้นั้นตอบ
ไมเคิลมองเพื่อนรักทั้งสองของเขา แม้พวกเขาจะพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนมนุษย์ ทั้งการแต่งตัว การพูดการจา แต่คาวมสมบูรณ์ของร่างกาย และ หน้าตา ที่พระเจ้าให้พวกเขามา ช่างแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ไมเคิลมองร่างกายของตัวเอง เขาเองก็ได้รับพระพรจากพระเจ้า สิ่งที่มนุษย์เรียกว่าความสมบูรณ์แบบ มีอยู่ในตัวเขาทั้งหมด และเพื่อนทั้งสองของเขาด้วย
“ไมเคิล นายได้รับบาดเจ็บเหรอ อย่าบอกนะว่า นายไปเจอพวกนั้นด้วย”หนุ่มน้อยผมสีน้ำตาลถามไมเคิล
“ใช่ เราพบเปกาเฟอร์ เขาก็จะมาที่นี้ด้วย แต่ข้าใช้พลังปกป้องรอบๆบริเวณนี้อยู่ เขาเลยมาที่แห่งนี้ไม่ได้” เทวดาหนุ่มพูด
“ท่าทางพวกเขา คงรู้พอๆกับเรา เราเองก็ต้องรีบเหมือนกัน ราฟาแอล นายจัดการแผลไมเคิลให้ทีซิ” หนุ่มผมสีบลอนด์สั่งให้หนุ่มน้อยผมสีน้ำตาล
ราฟาแอล เดินไปหาไมเคิล เขาแบบมือปกหัวของไมเคิลไว้ หนุ่มน้อยพึมพำอยู่สักครู่ แสงเรืองๆสีขาวก็ปรากฏ
ทันใดนั้น แผลต่างที่อยู่บนตัวของไมเคิลก็จางหายไป
“เรียบร้อยแล้ว ดีน่ะเนี่ยที่ยังพอมีพลังหลงเหลืออยู่บ้าง นึกว่าเป็นมนุษย์แล้ว จะโดนยึดพลังไปหมด” ราฟาแอลพูดพร้อมกอดอก
ยูมองเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เขาไม่รู้จะแทรกการสนทนาของบรรดาเหล่าเทวดาหนุ่มหล่อพวกนี้ได้ยังไง
แต่เขาพอจะเข้าใจว่า ทั้งสามคน ลงมาโลกมนุษย์เพื่อปราบพวกปีศาจไม่ให้หากุญแจประตูนรกให้เจอ
กาเบรียล์หันมามองที่ยู “ผมไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อปราบปีศาจ แต่มาเพื่อยับยั้งภารกิจของพวกเขาต่างหาก”
ยูแปลกใจที่เทวดาหนุ่มรู้ถึงความคิดของเขา
“คุณคงแปลกใจที่ผมรู้ถึงความคิดของคุณ นี้เป็นพระพรของพระเจ้า แม้พวกเราเป็นเทวดา แต่เราลงมาอยู่ในโลก ในร่างของมนุษย์ ดังนั้น พลังต่างๆของพวกเราที่เคยมีบนสวรรค์ ก็ต้องคืนให้กับพระเจ้า เพราะพลังของพวกเราอาจมีผลกระทบต่อโลกของพวกคุณได้ แต่เราก็มีพลังพิเศษบางอย่างที่สามารถใช้บนโลกได้” กาเบียร์อธิบายให้หนุ่มน้อยเข้าใจ
“อ๋อ ครับผมพอเข้าใจแล้ว เออ พวกคุณก็เจอกันแล้ว ผมว่าคุณก็รีบไปปราบปีศาจเถอะ ผมยังมีการบ้านต้องทำ อย่าหาว่าผมไล่เลยน่ะครับ” ยูพูดกับกาเบียร์ แม้เรื่องพวกนี้จะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเขาเองคงช่วยอะไรไม่ได้
“เราบอกท่านแล้วไง ว่าที่นี้เป็นที่ซ่อนของแม่กุญแจ เราต้องอยู่ที่นี้ เพื่อปกป้องประตูนี้ และต้องปกป้องท่านด้วย” ไมเคิลพูดกับยู พร้อมมองตาของยู ยูรู้สึกถึงพลังบางอย่างแผ่ซ่านในตัวเขา เขารีบหลบสายตาของเทวดาหนุ่ม
“ใช่ๆ ไมเคิลเขาเป็นนักรบน่ะ คงดูแลนายได้อยู่แล้ว”ราฟาแอลพูดพร้อมตบบ่าของไมเคิลเบาๆ
“ผมรบกวนฝากดูแลเพื่อนผมด้วยน่ะครับ ผมขอตัวไปทำธุระก่อนน่ะครับ”กาเบรียล์ร่ำลาหนุ่มน้อย และเดินออกจากบ้านไป พร้อมลากตัวราฟาแอลไปด้วย

*******************************************************************************************************************

ยูมองไมเคิลที่ใส่เสื้อผ้าของเขา แม้เสื้อจะตัวใหญ่แต่ก็ดูเล็กกว่าตัวไมเคิลมากๆ กางเกงเลย์ของยูที่ใส่ทีไรก็ยาวลากพื้นทุกที แต่พอไมเคิลใส่มันยาวไม่ถึงตาตุ่ม
เทวดาหนุ่มยืนเก้ๆกังๆที่กลางห้อง เขาไม่รู้จะทำอะไรต่อไป แต่เขารู้สึกเพลียๆ จึงหาวออกมา
ยูเห็นไมเคิลหาว เลยถามไปว่า “คุณง่วงนอนเหรอ”
ไมเคิลทำหน้าสงสัย “ ง่วงนอน?”
ยูเกาหัว เขาสงสัยจังว่าที่ไมเคิลจะดูแลเขาได้ยังไง ในเมื่อเขายังไม่เข้าใจโลกมนุษย์
“มนุษย์เราทำงานกันตอนกลางวัน แล้วผักผ่อน หรือนอน ในตอนกลางคืน ตอนอยู่บนสวรรค์คุณไม่ได้ผักผ่อนเหรอ”
ไมเคิลยิ้มตอบหนุ่มน้อย “เทวดาอย่างเราไม่เหมือนมนุษย์หรอก ผมคงไม่สามารถอธิบายให้ท่านเข้าใจเรื่องราวบนสวรรค์ได้หรอก เพราะมนุษย์อย่างท่านมีความคิดและความเข้าใจอย่างมีขอบเขต แต่พระเจ้า และ สวรรค์ไม่มีขอบเขตจำกัด ยากที่จะมนุษย์อย่างท่านเข้าใจ”
“ถามนิดเดียว ตอบซะยาวเชียวเอาเป็นว่าคุณนอนที่ห้องกับผมแล้วกัน คุณคงไม่ว่าน่ะถ้าผมจะให้คุณนอนพื้น” ยูถามไมเคิล
เทวดาหนุ่มยิ้มไม่ตอบอะไร หนุ่มน้อยคิดว่าเขาคงตกลง
ยูเลยไปหยิบผ้าปูที่นอนในตู้เสื้อผ้ามาปูให้ไมเคิล
“อ๊ะ คุณนอนได้น่ะ ถ้าไม่นอนไม่สบาย บอกผมแล้วกัน เดี๋ยวผมเอามาปูเพิ่ม” ยูบอกไมเคิลพร้อมเอามือตบที่นอนเบาๆ
ไมเคิลล้มตัวลงนอน เขายืดตัวตรง แล้วค่อยๆหลับตาลง
หนุ่มน้อยกระโดดขึ้นเตียงนอนของตัวเอง เขากำลังจะปิดโคมไฟที่หัวเตียง พอยูเอื้อมมือไปที่สวิตซ์ไฟตรงหัวเตียง เขาเห็นเทวดาหนุ่มที่กำลังหลับ ทำไมเขาจะต้องเจอเรื่องราวเหลือเชื่อพวกนี้ด้วยน่ะ แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาเองก็ไม่อาจรู้ แต่เทวดาหนุ่มคนนี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้ อาจจะจริงอย่างที่เขาบอกว่า มนุษย์อย่างยูคงไม่เข้าใจเทวดาอย่างพวกเขาหรอก หนุ่มน้อยนึกในใจว่ามันคงต้องมีเรื่องอะไรที่แปลกกว่านี้ตามมาแน่ๆ แต่เขามั่นใจว่าไมเคิลคงจะคอยดูแลเขา มันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เขาคิดหรอก

*******************************************************************************************************************

เสียงโห่ร้อง และเสียงกรี๊ดของบรรดาสาวๆ ทำให้เสียงเพลงของดนตรีบนเวทีดูเบาไปทันที
ชายหนุ่มถือไมค์พร้อมพูดกับบรรดาแฟนๆของเขาว่า “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ” แล้วเขาก็เดินลงจากเวที
เสียงโห่ร้อง และเสียงกรี๊ดยังคงดังกระหึ่มต่อไป
ปอมนั่งพักที่ห้องแต่งตัว เขารู้สึกเหนื่อยกับการต้องโชว์ตัวตามงานๆต่าง ยิ่งช่วงนี้เขาเพิ่งออกอัลบั้มใหม่ บรรดาโปรดิวเซอร์ของเขาก็ยิ่งหางานให้เขามากขึ้นไปอีก
ชายหนุ่มมองตัวเองในกระจก เขารู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีที่เกิดมารูปร่างหน้าตาดี อีกทั้งเขายังมีเสียงที่ร้องเพลงได้ไพเราะ
เขาหยิบเครื่องรางที่แม่ของเขาให้มาตั้งแต่เด็ก มันเป็นกุญแจโบราณที่มีลักษณะคล้ายกางเขน มีตัวอักษรสลักเป็นภาษาละติน ที่แทบจะอ่านไม่ค่อยออกเพราะอายุของเครื่องรางชิ้นนี้มากกว่าทวดของเขาซะอีก
อาจเป็นเพราะเครื่องรางนี้ที่ทำให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ เครื่องรางที่ทำให้ตระกูลของเขามีแต่โชคลาภ จากคำบอกเล่าที่พูดต่อกันมาของบรรดาญาติๆ และเขาก็เชื่ออย่างนั้น
“กุญแจนั้นสวยจริงนะ”เสียงทุ่มของผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา ปอมสะดุ้ง เขาตกใจมากเพราะไม่รู้ว่ามีคนอยู่ในห้องนี้ด้วย
เขารีบเก็บเครื่องรางไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น
ชายหนุ่มสวมหมวก ใส่แว่นตากันแดดสีดำ มีผ้าคลุมปกปิดร่างของเขาอยู่
“คุณเขามาได้ยังไง ผมบอกแล้วไงว่าห้ามใครรบกวนเวลาผักผ่อนของผม” ปอมพูดด้วยความโมโห เขากำชับกับผู้จัดการของเขาแล้วว่าห้ามใครมารบกวนเวลาผักผ่อนของเขา แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเขามาในห้องนี้ได้
“ผมแค่อยากมาหาของเฉยๆ” ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ของอะไร แล้วมาหาในห้องนี้ทำไม ไปหาที่อื่นซิ” เขาเริ่มโมโห
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงคนเคาะประตูก็มาขัดจังหวะการสนทนาของปอมกับชายหนุ่มแปลกหน้า
ปอมเดินไปเปิดประตู เขาเพิ่งสังเกตว่าประตูถูกล็อคอยู่โดยเขาเองเป็นคนล็อคหลังจากเขามาในห้อง แล้วผู้ชายคนนี้เขามาได้ยังไง
ชายหนุ่มหันไปหาผู้ชายคนนั้น เพื่อถามว่าเขามาในห้องนี้ได้ยังไงในเมื่อมันถูกล็อคจากด้านใน
แต่ปรากฏว่าในห้องว่างเปล่า
ปอมมองไปทั่วห้องก็ไม่พบใคร และไม่เห็นว่าในห้องนั้นจะมีประตูหรือทางเข้าออกทางใดอีก
เสียงเคาะประตูยังคงดังทำให้เขาเปลี่ยนความสนใจมาเปิดประตู
“นี้ๆ ได้เวลาไปที่อื่นต่อแล้ว”ผู้จัดการส่วนตัวพูดกับเขา
“พี่ๆ เมื่อกี้มีใครเข้ามาในห้อง” ปอมถามกับผู้จัดการ
“ไม่มีนี้ ก็ปอมสั่งเองไม่ใช่เหรอห้ามใครเข้า” ผู้จัดการย้อนถาม
ปอมเงียบไปสักครู่ เขาไม่เชื่อว่าคนที่เขาพูดไปด้วยเมื่อกี้จะเป็นวิญญาณหรือว่าผี เพราะผู้ชายคนนั้นดูมีตัวตน
“ไปเถอะเดี๋ยวขึ้นคอนเสิร์ตไม่ทัน”ผู้จัดการเร่งปอม
“เออ ๆ รู้แล้ว” ปอมรีบไปหยิบกระเป๋า เขาล้วงเอากุญแจเครื่องรางมาใส่ในกระเป๋าสะพายของเขา
หากเขาสังเกตกุญแจของเขา เขาจะพบว่าตัวอักษรภาษาละตินบนกุญแจเรืองแสงเป็นคำที่แปลว่า

“หยิ่งจองหอง”

-----จบตอน------

alulugun

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จังเลยคับ ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง

โอ๊ย  .... จิ้นไม่ถูกหละ อิอิ

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
พนมมือประสานมือ ทางคริสต์ก็ใช้กันครับ เพียงแต่เขาใช้ในตอนที่รวมจิตอธิษฐาน ของเราจะใช้กันจนเป็นเรื่องธรรมดาเลยคิดว่าฝรั่งไม่ใช้กัน

อาจจะมีบ้างที่บางคนกุมมือบนหน้าอก แต่เป็นลักษณะคล้ายๆ กันครับ



ปล. เซนต์มิคาเอล... จะมาวายกับมนุษย์โลก... โอ้.... นิยายเรื่องนี้เหอๆ เราอ่านได้นะ แต่คนอื่นล่ะ เง้อ....

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อืม เรื่องนี้ท่าทางสนุกแฮะ   กุญแจทั้งเจ็ด  บุคลิกเจ็ดแบบ
การตามหา   แค่คิดก็สนุกแล้ว    :a2: :a2: :a2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
อิอิ...

เหมือนเคยได้อ่านจากที่ไหนซ๊ากที่

แต่อ่านไม่จบ ต้องขอบคุงพี่โจโจ้ที่เอามาโพสใหม่นะคับ

เป็นกำลังใจให้คับป๋ม  :pig3:  :pig3:

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
ไมเคิลไม่เข้าใจว่า ทำไมมนุษย์ถึงต้องปกปิดร่างกาย ทั้งที่ร่างกายนี้เป็นผลงานของพระเจ้า สิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมานั้นย่อมเป็นสิ่งที่สวยงาม
ในสมัยที่พระเจ้าทรงสร้างโลก อาดัม กับ เอวา บรรพบุรุษคู่แรกของมนุษย์โลกนั้นก็มิได้ส่วมเสื้อผ้า แต่เพราะบาป ทำให้มนุษย์เกิดความละอาย เสื้อผ้า หรือสิ่งที่ปกปิดร่างกายจึงเกิดขึ้น


ง่ะ ในประโยคคำถาม มีคำตอบสอดมาพร้อมแล้ว.... แล้วจะตอบไงล่ะ ฮุๆ....

--------------------------------

เทวดาที่อยู่มานานและใกล้ชิดพระเจ้าน่าจะเข้าใจมนุษย์แล้วนะครับ แบบนี้เห็นแต่เทวดาเกิดใหม่น้า....




แล้วฉากอย่างว่าอ่า... ฮุๆ อย่าบอกนะว่าให้กายมนุษย์มาแล้ว ให้ ไอ้นั่นมาด้วย แถมด้วยอารมณ์ทางเพศอีก ฮุๆ แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เทวดาเจ้าขา....




ปล. ที่คุ้นๆ เพราะมาจากบอร์ดวายหรือเปล่าเพราะตัวละครชื่ ยู เป็นนักร้องนี่... เอ่อ... จำชื่อวงไม่ได้แฮะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2008 20:49:56 โดย ก ร ะ ต๊ อ บ ™ »

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
กุญแจดอกแรกออกมาแล้ว

แบบนี้คงบู้แหลกล่ะดิ

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่5

บรรยากาศอันสดใสในยามเช้า เสียงนกร้องทำให้เทวดาหนุ่มงัวเงียตื่นขึ้นมา เขาบิดขี้เกียจจนมีเสียงดังก็อก
เมื่อคืนเขาหลับไปเต็มอิ่ม ไม่นึกว่าการนอนจะทำให้เขาสบายได้มากขนาดนี้
เทวดาหนุ่มลุกขึ้นยืน เขามองไปรอบๆห้องของหนุ่มน้อย ที่เตียงนอนของยูว่างเปล่า หนุ่มน้อยหายไปไหนน่ะ เขารู้สึกว้าวุ่นใจ เพราะไม่อยากให้ยูหายไปจากสายตาของเขา เขาต้องคอยปกป้องเด็กคนนี้เพราะปีศาจจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ไมเคิลได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นมาจากข้างล่าง เขาจึงเดินไปตามเสียงนั้น
ที่ในครัว ยูกำลังขมักขะเม่นกับการทำกับข้าว ไมเคิลเดินไปที่ด้านหลังของหนุ่มน้อย
หนุ่มน้อยกำลังจะหันหลังไปหยิบจานบนโต๊ะ เขาไม่รู้ว่าไมเคิลมายืนอยู่ด้านหลัง จึงทำให้ยูชนเข้ากับไมเคิลอย่างจัง
หนุ่มน้อยตัวเล็กกว่าจึงทำให้ตัวเองล้มลงไปตามแรงกระแทก แต่ไมเคิลรีบไปพยุงตัวไว้ก่อน
“อ่ะ ขอบคุณน่ะ” ยูจับแขนของไมเคิลแน่น หนุ่มน้อยรีบทรงตัวแล้วเดินไปหยิบจาน
“คุณหิวข้าวหรือยัง” หนุ่มน้อยถามไมเคิล ไมเคิลทำหน้าสงสัย ยูเกาหัวเขาไม่เข้าใจว่าเขาจะต้องอธิบายทุกๆอย่างในโลกทั้งหมดให้ไมเคิลไปตลอดเหรอ
“มนุษย์เราต้องกินข้าว เพราะจะได้มีแรงไปทำอย่างอื่นได้ แล้วคุณก็ต้องกิน จะได้มีพลังไปต่อสู้กับปีศาจ เข้าใจไหม”
ยูยืนเท้าสะเอวอธิบายให้ไมเคิลฟัง
“พลังที่เรามี เราได้มาจากพระพรของพระจิต” ไมเคิลพูดกับหนุ่มน้อย
ไพระพรของพระจิต คำนี้คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน” ยูเริมขมวดคิ้ว เขาเคยเรียนวิชาคริสตศาสนา แล้วบาทหลวงเคยสอนว่า พระจิตจะให้พลังแก่เราชาวคริสต์ เพื่อให้เรามีพละกำลังในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งพระพรนั้นมีอยู่ด้วยกัน 7 ประการ คือพระดำริ สติปัญญา ความคิดอ่าน พละกำลัง ความรู้ ความศรัทธา ความยำเกรง
“แล้วคุณจะกินไหม” ยูถามไมเคิล ไมเคิลนิ่งเงียบไม่ตอบ
จ๊อกๆๆๆ เสียงท้องร้องของไมเคิลก็ดังขึ้น
“เอาเป็นว่าคุณต้องกิน อย่าลืมสิ คุณอยู่ในร่างของมนุษย์”
ไมเคิลไม่ตอบอะไร เขาได้แต่ยิ้มให้หนุ่มน้อย
ยูตักกับข้าวมาให้ไมเคิล หนุ่มน้อยเรียงจานข้าว วางช้อนส้อมให้เรียบร้อย
“ผมทำข้าวไข่เจียว กับแกงจืดวุ้นเส้น กินเยอะๆน่ะ” หนุ่มน้อยพูดพร้อมตักกับข้าวเข้าปากตัวเอง
ไมเคิลจ้องมองจานข้าวของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
หนุ่มน้อยสังเกตเห็นอาการของเทวดาหนุ่ม เขาถอนหายใจ อีกแล้วเหรอ สอนเด็กอนุบาลยังง่ายกว่าอีกน่ะเนี้ย
หนุ่มน้อยชูมือขึ้นพร้อมอธิบายว่าการจับช้อนเขาจับกันยังไง “จับช้อนอย่างนี้ แล้วตักข้าว เอาเข้าปากแบบนี้”
เทวดาหนุ่มทำตาม เขาพยายามจับช้อน แต่ทำไมได้เขาเลยกำช้อน พอตักข้าวเอาเข้าปาก เข้าก็หกเลอะเทอะเต็มไปหมด
ยูเห็นแล้วทนไม่ได้ เลยจัดการป้อนข้าวให้ “มาเดี๋ยวทำให้ดู”
ยูเขยิบไปนั่งใกล้ๆ แล้วค่อยๆป้อนข้าวให้เทวดาหนุ่ม
เวลาที่เขาป้อนข้าว ไมเคิลมักจะมองมาที่เขา ยูสบตาเข้ากับเทวดาหนุ่มอย่างจัง ยูพยายามป้อนข้าวต่อไป หนุ่มน้อยไม่เคยได้ใกล้ใครมากเท่านี้มาก่อน เมื่อวานก็อาบน้ำให้ วันนี้ยังต้องมาป้อนข้าวให้อีก แต่เขาไม่รู้สึกรำคาญหรือรังเกียจในตัวเทวดาหนุ่มคนนี้
ส่วนไมเคิลเขารับรู้ถึงความดีของหนุ่มน้อย เขามองหนุ่มน้อยตลอดเวลาที่ป้อนข้าวให้เขา ความรู้สึกแปลกๆเริ่มก่อขึ้นในใจของเขา เขาเองไม่เข้าใจถึงความรู้สึกนี้ รู้แต่ว่าอยากมองหนุ่มน้อยคนนี้นานๆเท่านั้น
“อิ่มยังเนี้ย ผมจะได้กินข้าวซะที” ยูวางช้อนลงพร้อมบ่นให้กับไมเคิล
เทวดาหนุ่มยิ้ม ไม่ตอบอะไร ยูเลยกลับไปกินข้าวของตนต่อไป
หนุ่มน้อยนั่งกินข้าวพร้อมดูทีวีรายการโปรดของตัวเอง เป็นรายการเพลงรายการหนึ่ง
เพลงที่กำลังฉายในทีวี เป็นเพลงของนักร้องหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังได้รับความนิยมมาก เพราะความสามารถทั้งการร้องเพลง และน่าตา ทำให้เขาดังไปทั่วเอเชีย ยูเองก็ชอบนักร้องคนนี้มาก
“ดีเนอะ เป็นคนมีพรสวรรค์ ไม่ต้องทำอะไรมากมาย ก็สบายแล้ว” หนุ่มน้อยพูดไปจ้องโทรทัศน์ไป
เทวดาหนุ่มมองโทรทัศน์ เขารู้สึกเมื่อมีพลังบางอย่างออกมาจากตัวนักร้องคนนั้น
เขารู้สึกมั่นใจในสิ่งที่เขาคิด กาเบีรยล์กับราฟาแอลจะรู้สึกเหมือนกับเขาไหม เพราะพลังมันรุนแรงมาก
เขาก็คิดว่าศัตรูของเขาก็อาจจะรู้เช่นกัน เทวดาหนุ่มหันมาพูดกับหนุ่มน้อยว่า
“ผมต้องไปหาผู้ชายคนนี้ คุณช่วยผมได้ไหม”

ห้องประชุมเต็มไปด้วยบรรดานักข่าว ที่กำลังรอสัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวการออกอัลบั้มกับค่ายเพลงต่างชาติของ ปอม
นักข่าวไม่แปลกใจเลยที่ ปอม จะได้โกอินเตอร์ เพราะความสามารถในการร้องเพลงเทียบเท่ากับนักร้องเอเชียคนอื่นๆได้
เมื่อถึงเวลางาน ทั้งผู้บริการค่ายเพลง ผู้จัดการส่วนตัว และ ปอม ก็ออกมานั่งที่โต๊ะแถลงข่าว บรรดานักข่าวต่างกดชัตเตอร์กันยกใหญ่
ห้องประชุมที่เตรียมไว้แถลงข่าว เป็นห้องขนาดเล็ก ทำให้มีบรรดานักข่าวมากมาย และแฟนเพลงของปอม เต็มห้องไปหมด คนที่อยู่ในห้องต้องเบียดกัน
ยูและไมเคิล มาถึงห้องแถลงข่าว เขาเห็นคนเต็มแน่นไปหมด ไม่เห็นทางที่จะเข้าไปข้างในห้องได้
“คนแน่นขนาดนี้ เราคงเข้าไปไม่ได้หรอก” ยูพูดพร้อมชะเง้อมองบรรยากาศในห้องที่แน่นขนัด
“ผมต้องรีบเอากุญแจจากผู้ชายคนนั้นให้ได้ก่อนพวกนั้น” เทวดาหนุ่มพูด
ยูหันมาหาไมเคิล เขาเงยมองหน้าเทวดาหนุ่ม
“โธ่ คุณเขาเป็นนักร้อง เราไม่สามารถไปหาเขาได้ง่ายๆหรอก”
“ทำไมหล่ะ” ไมเคิลทำหน้าสงสัย
“พวกนักร้องเขาจะมีบอดีการด์คอยคุมเสมอและ ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน เราก็ไปหาเขาไม่ได้ ตอนนี้เขากำลังโกอินเตอร์ โอกาสที่เราจะเจอเขายิ่งแทบไม่มี” หนุ่มน้อยอธิบาย
“ไม่เห็นยากเลย เรื่องแค่นี้” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ยูและไมเคิลหันไปมองเสียงนั้น
ราฟาแอลยืดกอดอกยิ้มแฉ่งอยู่ “หวัดดีครับ พวกนายนี้มาช้าจริง”
“ราฟาแอล เราคิดว่าท่านต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ท่านจะทำเช่นใด” ไมเคิลถามเพื่อนชายของเขา
“เรื่องนี้ต้องให้กาเบีรยล์จัดการ” ราฟาแอลพูด
“แล้วกาเบีรบล์ไปไหน” ไมเคิลถาม
ราฟาแอลไม่ตอบ เขาชี้ไปทางเวทีที่แถลงข่าว
ตอนนี้ผู้บริหารกำลังพูดถึงบริษัทที่รับผิดชอบการออกอัลบั้มและการเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายต่างประเทศ
“ผมอยากจะให้ทุกคนรู้จัก กับผู้จัดการคนใหม่ ที่จะมาดูแลปอมในการออกอัลบั้มสากล”
ผู้บริหาร ผายมือให้กับชายหนุ่มชาวต่างชาติผมสีบลอนด์หยิกยาว
“คุณ กาเบีรยล์  เชิรช”

ปอมมองผู้จัดการคนใหม่ของเขา ผู้ชายคนนี้ดูยังหนุ่มนักที่จะมาเป็นผู้จัดการ แต่ท่าทางสุขุม และดูสง่า ทำให้เขารู้สึกไว้ใจกับผู้ชายคนนี้
ตอไปเป็นช่วงที่ให้บรรดานักข่าวถาม นักข่าวแต่ละคนถามปอมถึงเรื่องต่างๆทั้งเรื่องการร้องเพลง เรื่องความรัก
“คุณคิดว่าทำไมตัวคุณถึงสามารถได้ออกอัลบั้มสากล และได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายเพลงระดับโลกค่ะ”
“ผมคิดว่าคงเป็นความสามารถอันโดดเด่นของผม ที่เข้าตาค่ายเพลงที่โน้น ผมมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีแน่นอนครับ แค่อัลบั้มที่ออกในประเทศ ยังขายได้ทั่วเอเชียอยู่เลย” นีแหล่ะเป็นสิ่งที่ใครๆต่างไม่ค่อบชอบในตัวของปอม การพูดจาที่มั่นใจในตัวเองเกินไป
“แล้วที่นักร้องค่ายคู่แข่ง จะมาออกอัลบั้มสากลกับค่ายเพลงเดียวกับคุณล่ะ คุณมีความคิดว่าไง”
“อ๋อ ผมมั่นใจว่างานของผมได้เปรียบกว่า เพราะผมได้ทำงานกับทีมงานของนักร้องชื่อดัง ให้ผู้ฟังเป็นคนตัดสินดีกว่า”
ไมเคิล และ ราฟาแอล หันมามองหน้ากัน พวกเขารู้สึกถึงพลังที่รุนแรงมาก
“พลังรุนแรงขนาดนี้ เปกาเฟอร์คงคิดหาแผนการไว้แล้ว เราต้องให้กาเบีรยล์รีบจัดการแล้วหล่ะ”ราฟาแอลพูดกับไมเคิล

ณ อีกฟากหนึ่งของมุมห้อง ชายหนุ่มลึกลับกับผ้าคลุมที่ปกปิดร่างกายของเขา กำลังมองมาทางไมเคิล ราฟาแอล และยู
“ข้าเองก็ต้องรีบจัดการเหมือนกัน”

-----จบตอน-----

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

nara

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมากๆเลยคับ


เดี่ยวมาอ่านต่อติมตามเรื่อยเลยคับ

ชอบมากเลย แนวนี้ ถ้ามีรูปประกอบจะเท่มากลเย

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
 :oni2:ทักทายจากผู้เขียน :oni2:

สวัสดีอย่างเป็นทางการกับผู้อ่านนิยายของผมในเรื่องนี้นะครับ

อย่างแรกที่จะกล่าวก็คือ น้อยนักที่นิยายแฟนตาซีจะเป็นแนวBoy Love และคนเขียนเอง คำว่าแฟนตาซี ก็แทบจะไม่อยู่ในหัวสมอง แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นว่า แต่งนิยายเรื่องนี้มาเป็นเรื่องที่สอง และแต่งจนจบอีกต่างหากท่ามกลางความหวาดกลัวว่า จะสามารถจินตนาการเรื่องราวได้จนจบหรือไม่ คงต้องยกให้กับผลประโยชน์ให้กับแฟนนิยายของผม ที่เป็นส่วนกระตุ้นให้แต่งเรื่องนี้จนจบ

ที่ผมเอาเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวเพราะตัวเองก็เป็นคาทอลิก และยังอยู่ในแวดวงนักบวช(แต่ไม่ได้เป็นนะครับ)ทำให้รู้ซึ้งถึงข้อมูลทางศาสนาพอสมควร
ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ ผมจะแทรกข้อมูลทางศาสนาเข้าไปด้วยเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น(มิได้แทรกแซงเพื่อการประกาศศาสนาแต่อย่างใด)

ส่วนเรื่องที่เอา อัครเทวดามาเป็นตัวละคร ก็มิได้นำมาเพื่อลบลู่หรือนำมาใช้ในทางเสียหายแต่อย่างใด เพราะผมเองก็เคารพพวกท่านเหมือนกับศาสนิกชนทั่วไป
ผมไม่ได้เสนอประเด็นทวดารักกับมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่ผมจะเน้นสาเหตุของตัวบาปทั้งเจ็ดด้วย
แต่ถ้าไม่พูดเรื่องของความรักแล้ว เรื่องราวก็คงไม่มีรสชาติ ผมจึงพยายามนำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละคร ให้ออกมาไม่ดูหวานซึ้งโรแมนติกจนเกินไป (เพราะตัวเองก็ไม่ถนัดโรแมนติก จะชอบแบบกุ๊กกิ๊ก น่ารักมากกว่า)

ฝากติดตามนิยายและภารกิจของอัครเทวดาสุดหล่อด้วยนะครับ


myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่6

งานแถลงข่าวจบลง บรรดานักข่าวและแฟนเพลงก็ต่างแยกย้ายกันออกจากห้อง เหลือเพื่อแต่ ไมเคิล ราฟาแอล และ ยู
“เราต้องให้กาเบรียล์จัดการเรื่องนี้น่ะ” ไมเคิลพูดกับราฟาแอล
“กาเบรียล์เองก็กำลังวางแผนเรื่องนี้ นายไม่ต้องห่วงหรอก” ราฟาแอลตบไหล่ที่ไมเคิลเบา ราฟาแอลและ กาเบรียล์เองยังอยากให้ไมเคิลคุ้นเคยกับโลกมากกว่านี้ซะก่อน เพราะพลังเค้ายังมีไม่มากพอ อีกอย่างการที่ดึงเอามนุษย์มาเกี่ยวข้อง อาจมีผลร้ายต่อไมเคิลเอง
“นายไปผักผ่อนก่อนดีกว่า เรื่องนี้ให้กาเบรียล์จัดการดีกว่า” ราฟาแอลบอกเพื่อนของตน
“ช่วยดูแลเพื่อนผมหน่อยน่ะครับ เออ ถ้ามีธุระอะไร ก็ติดต่อที่เบอร์ผม กับ กาเบีรยล์น่ะ” ราฟาแอลยื่นนามบัตรให้ ยูรับไว้ เขาแอบนึกในใจขำขำว่า เทวดาใช้มือถือเป็นด้วยเหรอ ท่าทางพวกเขาคงเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว ไมเคิลน่าจะเรียนรู้ได้เร็วเหมือนเพื่อนของเขาน่ะ
“แล้วพวกคุณจะเอากุญแจมายังไง” ยูถาม เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของกุญแจเท่าไร
“พวกเราไม่ได้มาเอากุญแจ ผมบอกแล้วไงว่าพวกเรามายับยั้งภารกิจของปีศาจ เราเองไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อกำจัดปีศาจ ดังนั้นเราจึงมาเพื่อไม่ให้กุญแจไปตกอยู่ในมือของพวกนั้น” ราฟาแอลอธิบายให้หนุ่มน้อยฟัง
“คุณทำยังไงหล่ะเพื่อไม่ให้กุญแจ ไปตกอยู่ที่พวกปีศาจ” ยูยังไม่เข้าใจที่เทวดาหนุ่มพูด
“ลูกกุญแจจะสัมฤทธิ์ผลเมื่อเวลาบ่ายสามโมง ของวันศุกร์ ช่วงเวลานั้นถ้าเราสามารถไม่ให้ผู้ถือกุญแจตกในบาปได้ กุญแจก็จะเสื่อม”
“อ๋อ ปีศาจก็ใช้ช่วงเวลานี้ในการให้กุญแจสัมฤทธิ์ผล และก็เอาไปใช่ไหมครับ” ยูหายสงสัยในเรื่องของลูกกุญแจ
ราฟาแอลยิ้มตอบรับ
“แล้วผมพอช่วยอะไรได้บ้างครับ” หนุ่มน้อยถามเทวดาหนุ่ม
“ดูแลเพื่อนผมให้ดีดีแล้วกัน สอนให้เขารู้จักโลกของคุณก็พอแล้ว ช่วงแรกๆเขาอาจจะไม่เข้าใจอะไรเลย แต่นานๆไปเขาจะรู้เอง ตอนลงมาบนโลกใหม่ๆผมก็เป็นอย่างเดียวกับไมเคิล แต่ตอนนี้ดูสิ ผมรู้เกือบหมดทุกอย่าง”
หนุ่มน้อยได้ยินอย่างนั้นเขาก็พอจะโล่งอก เขาคงสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับไมเคิลไปตลอดคงไม่ไหว
“ผมขอตัวไปทำธุระหน่อย แล้วมีอะไรก็โทรหาผมน่ะ” ราฟาแอล ลาไมเคิลกับยู
“เอาหล่ะเรากลับบ้านกันเถอะ”ยูพูดกับเทวดาหนุ่ม
“ครับ” ไมเคิลเริ่มตอบในแบบมนุษย์
“แล้วคุณช่วยอาบน้ำให้ผมด้วยน่ะ” เทวดาหนุ่มเริ่มเรียนรู้การใช้สรรพนามเหมือนมนุษย์ อีกยังเพิ่มความทะเล้นในตัวอีก
“บ้า!” ยูพูดเสียงดังใส่เทวดาหนุ่ม เป็นอย่างที่ราฟาแอลพูดเขาเริ่มเรียนรู้มากขึ้นแล้ว
เทวดาหนุ่มทำหน้างง กับคำพูดของยู เขาคิดเอาเองว่ามันคงเป็นการตอบรับของมนุษย์
“จะกลับบ้านไหม ผมจะได้ไปทำการบ้าน”ยูเปลี่ยนเรื่องเก็บอาการเขินอายไว้
ไมเคิลยิ้ม พร้อมพูดกับยูว่า “บ้า!”

เสียงดนตรีดังขึ้น พร้อมกับเสียงร้องที่ไพเราะของนักร้องหนุ่ม บรรยากาศในห้องอัด ดูสดใสขึ้นทันตา
ปอมใส่อารมณ์ในการร้อง ใครๆที่ได้ยินเสียงของเขาก็ต้องประทับใจในการร้องของนักร้องหนุ่ม
กาเบีรยล์ในชุดสูทสีเทา มองดูนักน้องหนุ่มร้องเพลง เขาคิดในใจว่า ปอมไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรมากนัก แต่ชื่อเสียง และเงินทองทำให้เขาการเป็นคนชอบดูถูกคนอื่น และพูดจาโออวดเกินจริง
ปอมเห็นไมเคิลมองมาที่ตน ก็รู้สึกเขินอาย เขาเองก็แอบชอบกาเบีรยล์ ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะการงาน ดูเหมาะสมกับเขามากๆ
เขายิ้มให้กาเบีรยล์หลังจากร้องเพลงจบ
“หวัดดีคับ วันนี้มีอะไรเหรอคับ มาหาผมถึงห้องอัด” ปอมมั่นใจว่ากาเบีรยล์อาจจะชอบเขาเลยมาหาเขาถึงที่
“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ พอจะว่างไหมครับ” กาเบีรยล์พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ปอมยิ้ม เขานึกแล้วว่ากาเบีรยล์ก็คงแอบมีใจให้เขา
“ได้ซิครับ ผู้บริหารสั่งขนาดนี้แล้ว ก็ต้องรับคำสั่งซิครับ”
กาเบีรยล์จึงพาปอม มานั่งทานข้าวที่ร้าอาหารแห่งหนึ่ง
ปอมและกาเบรียล์พูดคุยกันอย่างสนิทสนมจนกระทั่งทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย
“ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณ” กาเบีรยล์เปลี่ยนสีหน้าที่ดูจิงจัง
“อะไรเหรอครับ” ปอมยิ้มรับ
“เรื่องนิสัยของคุณ”
ปอมวางแก้วไวน์ลงฟังสิ่งที่กาเบีรยล์พูด
“การที่คุณพูดจามั่นใจในตัวเองเกินไป มันอาจจะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของคุณ”
“ผมพูดในสิ่งที่เป็นจริง ทำไมผมจะต้องกลัวอะไรด้วย”
กาเบีรยล์นึกไว้แล้วว่ามนุษย์เนี้ยมักไม่ยอมรับความเป็นจริง
“ผมเข้าใจน่ะว่าคุณถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น แต่การที่คุณพูดจาอวดตัวเองเกินไป หรือดูถูกคนอื่น มันจะทำให้คนอื่นๆไม่ชอบคุณ โดยเฉพาะบรรดาแฟน พวกนักข่าว และคนรอบข้างของคุณ”
ปอมเริ่มทำหน้าไม่พอใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาสั่งสอนเขา
“คุณอาจไม่พอใจ งั้นผมให้คุณดูนี้อะไร” กาเบีรยล์หยิบซีดี แผ่นหนึ่งมาให้ปอมดู
นักร้องหนุ่มรับซีดีนั้นมาดู มันเป็นอัลบั้มของนักเปียโนที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ นอกจากเขาจะเล่นเปียโนได้ไพเราะแล้ว เขายังร้องเพลงได้เพราะอีกด้วย แต่เขาเป็นคนตาบอด
“คนๆนี้เขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับคุณ” กาเบีรยล์พูดกับนักร้องหนุ่ม
“ไม่เห็นเหมือนเลย เขาเป็นคนพิการนี้”
“ใช่ แต่เขามีพรสวรรค์ที่เหมือนกับคุณ” กาเบีรยล์พยายามพูดให้ปอมคิดตาม
“นอกจากคุณมีพรสวรรค์ที่ใครๆต่างกันอิจฉา และคุณก็มีโอกาสด้วย โอกาสที่ใครบางคนไม่มี”
นักร้องหนุ่มเงียบสักครู่หนึ่ง เขานึกตามที่กาเบีรยล์พูด
“ถ้าคุณไม่มีพรสวรรค์ และไม่มีโอกาส คุณก็จะเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมคุณไม่ใช่สิ่งที่คุณมีใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและผู้อื่นหล่ะ ถ้าคุณเองเจอคนที่เขาพูดจาอวดตัวเองหรือดูถูกคุณ คุณก็คงไม่ชอบใช่ไหมหล่ะ”
ปอมเงียบ เขาพูดไม่ออก เพราะมันเป็นเรื่องจริง เขาไม่เคยคิดเลยว่าถ้าเขาไม่มีโอกาสหรือ พรสวรรค์เขาจะเป็นอย่างไร
“มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่ากัน ไม่มีใครได้มามากน้อยไปกว่ากัน แต่อยู่ที่เราต่างหากจะใช้สิ่งที่เรามีไปได้ดีแค่ไหน หรือ ทำให้เกิดประโยชน์ได้มากเท่าไร”
ปอมฟังทุกคำพูดของกาเบีรยล์ ทำไมเขาถึงตั้งใจฟังในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดน่ะ
“ผมเป็นห่วงคุณน่ะ ผมอยากให้คุณประสบความสำเร็จ”
นักร้องหนุ่มมองตาผู้บริหารหนุ่ม
“ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณอีกเรื่อง พรุ่งนี้ในงานคอนเสิรตที่คุณจะต้องขึ้นเวทีพร้อมกับ นักร้องที่เป็นคู่แข่งของคุณ ผมหวังว่าคุณคงไม่ทำอะไรให้ผมผิดหวังน่ะ”
นักร้องหนุ่มยิ้ม “ได้ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”
ปอมเริ่มมีความรู้สึกที่ดีดีให้กับกาเบีรยล์
กาเบรียล์ขอตัวนักร้องหนุ่มไปทำธุระข้างนอก
เขาเดินออกมานอกร้านอาหาร และหยิบโทรศัพท์
“ทางนี้เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เราต้องช่วยกัน เราไม่รู้ว่าพวกนั้นจะมาในรูปแบบไหน ฝากบอกไมเคิลกับยูด้วยน่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้หล่ะ”
กาเบีรยล์วางโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปในร้าน

แผ่นใบปลิวงานคอนเสริตล่วงหล่นไปตามพื้น ชายหนุ่มลึกลับหยิบใบปลิวนั้นขึ้นมาดู สักพัก เขาก็ขย่ำใบปลิวนั้นทั้งไป ไม่นานใบปลิวนั้นก็โดนผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาเหยี่บซ้ำ จนมันกลายเป็นเพียงขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น

-----จยตอน-----

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด