นวนิยายแนวแฟนตาซี My Love Angel ร่วมภารกิจปกป้องโลกกับอัครเทวดาสุดหล่อ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นวนิยายแนวแฟนตาซี My Love Angel ร่วมภารกิจปกป้องโลกกับอัครเทวดาสุดหล่อ  (อ่าน 93211 ครั้ง)

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
รีบๆมาต่อนะคับ
ผมชอบมากเลยแนวนี้น่ะ
 :m1: :m1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ พรุ่งนี้เหตุการณ์จะเป็นยังไงน้า  :oni2:

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 7

รถตู้สีเงินคันใหญ่ขับมาจอดที่หน้าบ้านของยู หนุ่มน้อยตื่นขึ้นเพราะเสียงของเครื่องยนต์ดังสนั่นไปทั่วซอย เขาลุกขึ้นมองรถตู้จากหน้าต่างห้อง ใครกันนะมาจอดรถขวางหน้าบ้าน
สักพักเขาก็เห็นชายหนุ่มลงมาจากรถ ราฟาแอลนั่นเอง ทำไมถึงมาหาเขาแต่เช้าตรู่ หรือจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า
ยูรีบลุกจะไปเปิดประตู แต่เขาดันไปสะดุดกับขาของไมเคิลที่นอนอยู่กลางห้อง
“เฮ้ยยย!” หนุ่มน้อยอุทานพร้อมล้มตัวลงบนพื้น
เทวดาหนุ่มได้ยินเสียงดังโครม เลยตื่นขึ้นมาเห็นหนุ่มน้อยล้มลุกคุกคลานอยู่ที่ปลายเท้าของเขา
“คุณทำอะไรครับ” เทวดาหนุ่มถามด้วยความสงสัย
“ผมสะดุดขาคุณนั่นแหล่ะ นอนเกะกะจริงๆ” ยูอารมณ์เสียใส่เทวดาหนุ่ม
“แล้วคุณเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็เจ็บนะซิ ถามได้ โอ๊ยๆๆ” ยูร้องเสียงดังด้วยความเจ็บ
“ให้ผมดูหน่อยซิ” เทวดาหนุ่มกระเถิบเข้ามานั่งใกล้ๆดูที่ข้อเท้าของหนุ่มน้อย เขาก้มลงดูที่ข้อเท้าของยุ หนุ่มน้อยรู้สึกถึงมืออุ่นๆของเทวดาหนุ่ม
“เดินไหวไหม”ไมเคิลถามยู เขาเขยิบหน้าไปใกล้หนุ่มน้อย ยูพยายามจะหลบสายตา แต่เขาทำไม่ได้ คงเป็นเพราะนัยน์ตาสีฟ้าที่สวยงามของไมเคิล
“วะ วะ ไหว” เขาตอบ
ไมเคิลค่อยๆพยุงหนุ่มน้อยลุกขึ้น แต่เท้าข้างที่ข้อเท้าเจ็บดันไปโดนเท้าของไมเคิล ทำให้หนุ่มน้อยล้มตัวลง แต่ดีที่ไมเคิลประคองรับไว้ทัน
“มา ให้ผมอุ้มลงไปดีกว่า” ไมเคิลคว้าตัวหนุ่มน้อยอุ้มเหมือนกับอุ้มเด็กตัวเล็กๆ
“ไม่ ไม่ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเว้ยยย!” ยูร้องโวยวาย พร้อมดิ้นไปดิ้นมา
ราฟาแอลเปิดประตูเข้ามา เขาเห็นไมเคิลกำลังอุ้มยู
“โอ้ว! เจ้าบ่าวพาเจ้าสาวมาต้อนรับเหรอครับ” เขาแซว
ยูเริ่มร้องโวยวายดังขึ้นอีก เขาทั้งอายทั้งเขิน
ไมเคิลเห็นหนุ่มน้อยไม่พอใจเลยปล่อยเขายืนกับพื้น ยูพอผละตัวจากเทวดาหนุ่มได้เขาก็เริ่มต่อว่าไมเคิล
“ทีหลังอย่ามาเตะต้องตัวผม ถ้าผมไม่อนุญาติ แล้วถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่น ก็ห้ามมาเตะตัวผม เข้าใจไหม”
ไมเคิลทำหน้าสำนึกผิด เขาไม่คิดว่าความหวังดีของเขาจะทำให้หนุ่มน้อยรู้สึกไม่พอใจ
“โธ่! คุณ เพื่อนผมเขาหวังดี เขาไม่ได้มีเจตนาร้าย อย่าว่าเขาเลยนะครับ” ราฟาแอลแก้ตัวให้ไมเคิล
“ผมแค่อยากจะสอนให้เขารู้จักวางตัวต่อหน้าคนอื่น” ยูเองก็แก้ตัวเช่นกัน
“ครับๆ เราหยุดเรื่องนี้กันดีกว่า คือผมมาหาคุณกับไมเคิล เพราะวันนี้เป็นวันที่กุญแจจะสัมฤทธิ์ผล เราทั้งหมดต้องช่วยกัน เราไม่มีเวลามาก เดี๋ยวผมจะอธิบายคุณฟังบนรถแล้วกัน”

ณ ลานสนามกีฬาแห่งหนึ่ง ได้ถูกจัดเป็นเวทีคอนเสิร์ตชั่วคราว เพื่อเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ10ปีของค่ายๆเพลง ค่ายหนึ่ง
และในคอนเสิร์ตนี้จะเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มโกอินเตอร์ของ ปอมด้วย
บรรดาทีมงานกำลังวุ่นวายกับการเตรียมคอนเสิร์ต กาเบรียล์ผู้ดูแลเรื่องคอนเสิร์ตทั้งหมด เขาได้ใช้เครื่องมือตรวจสอบคลื่นพลังของปีศาจ โดยมันจะคล้ายกับการตรวจสอบความปลอดภัยของรปภ.
ด้าน ราฟาแอล ไมเคิล ยู ก็เป็นบรรดาทีมงานของคอนเสิร์ต
ราฟาแอลเป็นแบ๊คเสต็จ ดูแลความเรียบร้อยของเวที
ยู ดูแลความเรียบร้อยของบรรดานักร้องในห้องแต่งตัว
ไมเคิลของเป็นการ์ด อยู่ด้านหน้าของเวที
เวลาผ่านไปจนกระทั่งเปิดคอนเสิร์ตในเวลา 13.00 น.
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี กาเบรยล์ไม่พบคลื่นพลังของปีศาจ แต่เขาไม่คิดว่าปีศาจจะพลาดโอกาสนี้ไปได้
เขาคอยอยู่ใกล้ๆกับ ปอมตลอดเวลา มีเพียงเวลาที่นักร้องหนุ่มขึ้นคอนเสิร์ตเท่านั้นที่กาเบีรยล์จะไม่สามารถอยู่ใกล้ๆเขาได้
กาเบีรยล์เลยจัดคิวให้ปอมขึ้นร้องเพลงบนเวที เวลาประมาณ14.45น.-13.15น. เพราะเขาไม่คิดว่าปีศาจจะบุกมาตอนที่ปอมกำลังร้องเพลงเพราะมันโจ่งแจ้งเกินไป
เมื่อจะใกล้ถึงคิวของปอม เขามารออยู่ที่ด้านข้างของเวที โดยมีกาเบีรยล์คอยอยู่ใกล้ๆเขา
“คุณให้กำลังใจผมตลอดเวลาเลยน่ะ ขอบคุณมากนะครับ” เขารู้สึกปลื้มใจที่คนที่เขาชอบคอยดูแลอยู่ใกล้ๆเขาตลอดเวลา
“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องดูแลคุณอยู่แล้วนี้”กาเบีรยล์หันไปพูดกับน้กร้องหนุ่ม เขาเองตอบตามความจริง เพราะการเป็นผู้จัดการดูแลปอมมันเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว หากคำพูดนี้ทำให้ปอมเริ่มคิดว่ากาเบีรยล์เองก็คงชอบตัวเขา
“อืมม ว่าไง” กาเบีรยล์กดเฮดโฟนพูดกับทีมงานโดยติดต่อกันด้วยวิทยุสื่อสาร
“มาแล้วใช่ไหม รีบจัดการเลยนะ เพราะจะถึงคิวแล้ว” กาเบีรยล์พูดถึงนักร้องคู่แข่งของปอม ที่ย้ายค่ายมาอยู่ค่ายเดียวกับปอม นี้ก็เป็นคอนเสิร์ตก่อนจะโกอินเตอร์ของนักร้องคนนี้เช่นกัน
“ดูซิ ยังไม่ทันจะโกอินเตอร์เลยมาสายซะแล้ว แล้วอย่างนี้จะไปต่อไหวไหมเนี้ย ขนาดผมออกอัลบั้มแล้วยังไม่เคยทำอะไรที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างนี้เลย” ปอมเริ่มพูดต่อว่านักร้องคู่แข่ง
“คุณ สัญญากับผมแล้วใช่ไหม ปอม” กาเบีรยล์เตือนนักร้องหนุ่ม
ปอมไม่ตอบอะไรเขาเพียงแต่หันหน้าไปทางอื่น
กาเบีรยล์เลยคว้ามือเขา และให้เขาหันหน้ามามองเทวดาหนุ่ม
“ผมมั่นใจในตัวคุณว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง ผมไม่อยากให้คุณต้องเป็นคนดูถูกคนอื่น คุณทำให้ผมได้ไหม”
ช่วงเวลานั้น ปอมไม่ค่อยตั้งใจฟัง เขามัวแต่เขินที่กาเบีรยล์จับมือเขา และยังจ้องตาของเขาอีก
“เอาล่ะ ถึงเวลาของคุณแล้ว” กาเบีรยล์ค่อยๆปล่อยมือนักร้องหนุ่ม ปอมก้าวขึ้นเวทีพร้อมด้วยเสียงโห่ร้องของบรรดาแฟนเพลง
กาเบีรยล์กดเฮดโฟนติดต่อกับไมเคิล ราฟาแอล และ ยู
“อีก15นาที ทุกคนตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งนะ”

-----จบตอน-----

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
โอ้ยๆ พวกปีศาจจะมาไม้ไหนกันนี่

คงประกาศศึกกันกลางงานเลยอะดิเนี่ย

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
...ความชั่วเกิดจากใจ ฉนั้น นักร้องคู่แข่ง คงจะคอยแหย่ ให้สติของปอมเสียแน่ ๆ
เพื่อให้ปอมเกิดกิเลส ทำให้กุญแจสัมฤทธิ์ผล สู้ ๆ นะเทวดาทั้งหลาย ...

nartch

  • บุคคลทั่วไป
ตื่นเต้นหนุกหนานนนนน  :m1:
แค่ลูกกุญแจดอกแรกก็มันส์ขนาดนี้แล้ววววววววว
ที่เหลือจะขนาดไหนน๊าาาาาา  :m4:
รอลุ้นกันต่อไปปปป ภาวนาขอพรต่อพระเจ้า
ให้คนเขียนแต่งให้จบด้วยเทอญญญญญญญ
 :oni3:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 8

ยูกำลังวุ่นวายกับการคอยดูแลบรรดาเหล่านักร้อง ตอนแรกเขาดีใจที่จะได้เจอศิลปินชื่อดัง แต่เขากลับไม่สนุกด้วยเลยกับการที่จะต้องเป็นคนรับใช้นักร้องพวกนั้น
เขาต้องยกน้ำ ยกอาหาร เข็นเสื้อผ้า และทำอย่างอื่นอีกมากมาย หนุ่มน้อยเริ่มเบื่อและเหนื่อยกับงานครั้งนี้เป็นอย่างมาก
“อะไรว่ะ ทำแล้วไม่ได้ตังค์ มาทำทำไหมว่ะเนี้ย” หนุ่มน้อยแอบบ่นอยู่ในใจ
“เฮ้ย! ไอ้น้องเอาน้ำมาให้คุณเจฟฟรี่หน่อยสิ เร็วๆน่ะ เดี๋ยวจะถึงคิวอยู่แล้ว”
ยังไม่บ่นไม่ขาดคำ หนุ่มน้อยก็ถูกเรียกใช้อีกแล้ว
ยูเดินไปหยิบน้ำพั๊นซ์มาให้นักร้องหนุ่ม เขามองไปที่กระจก
เจฟฟรี่เป็นนักร้องคู่แข่งของปอม ที่ตอนนี้ก็กำลังจะโกอินเตอร์ค่ายเดียวกับปอมด้วย
นักร้องหนุ่มแต่งหน้าแต่งตัว พร้อมที่จะขึ้นไปบนเวที
ทีมงานที่ดูแลเรื่องคิวการแสดงบนเวที ก็มาตามเจฟฟรี่ นักร้องหนุ่มจึงเดินตามทีมงานคนนั้นออกไป
ในห้องแต่งตัวจึงเหลือเพียงแค่ยู กับ ทีมงานคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าในการคอยดูแลความเรียบร้อยของนักร้อง
โทรศัพท์ของทีมงานคนนั้นก็ดังขึ้น เขารับโทรศัพท์ ยูที่กำลังเก็บแก้วน้ำก็พอๆจะได้ยินเรื่องที่ทีมงานคนนั้นพูด
“ครับ ว่าไงนะ! เจฟฟรี่ไม่สบาย มาไม่ได้ คุณพูดอะไรของคุณ ก็เมื่อกี้เจฟฟรี่เพิ่งมาแต่งตัว ตอนนี้กำลังจะขึ้นไปร้องเพลง”
ยูได้ยินดังนั้นเขาจึ้งเริ่มรู้สึกแปลกๆกับเหตุการณ์นี้
หนุ่มน้อยจ้องมองดูนาฬิกาตัวเอง เวลาตอนนี้15.00น.
เขาจึงรีบกดเฮดโฟนไปหาไมเคิล
“ไมเคิลแย่แล้ว! ผมว่าปีศาจมันปรากฏตัวแล้ว”

ด้านหลังเวที กาเบีรยล์คอยยืนดูปอม ร้องเพลง เขาเองก็เริ่มรู้สึกชอบและพอใจในตัวของปอม แต่เขาทำอย่างนั้นไม่ได้
ที่เขามีความรู้สึกอย่างนั้น คงเป็นเพราะเขาอยู่ในร่างของมนุษย์ เขาจะต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ เพราะถ้าเขาขืนปล่อยความรู้สึกตามอำเภอใจ เขาอาจจะได้รับการลงโทษจากสวรรค์ อย่างกับที่เคยมีมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน
“ขอโทษครับ คุณกาเบีรยล์ใช่ไหมครับ” เสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน ของเจฟฟรี่ ทำให้เทวดาหนุ่มหันมามอง
“ครับ คุณเจฟฟรี่นี้ เดี๋ยวจะถึงคิวคุณแล้วครับ” เทวดาหนุ่มพูดด้วยอย่างสุภาพ
“ครับ คือ ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมครับ ว่าเน๊คไทด์ผมตรงหรือยัง” นักร้องหนุ่มขอความช่วยเหลือจากาเบีรยล์
เทวดาหนุ่มจึงเอื้อมมือไปปรับเนคไทด์ของเจฟฟรี่ให้ตรง
กาเบีรยล์โน้มตัวลงไปดูเนคไทด์ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปรับเนคไทด์ให้ตรงแล้ว เจฟฟรี่จึงใช้โอกาสนี้เงยหน้าขึ้นจูบที่ปากของกาเบีรยล์
ปอมที่กำลังลงจากเวที เขาเห็นภาพของผู้จัดการหนุ่มกำลังจูบปากกับนักร้องคู่แข่ง เขาจึงนึกว่าที่กาเบีรยล์คอยบอกคอยเตือนไม่ให้เขาพูดจาดูถูกคนอื่น โดยเฉพาะ เจฟฟรี่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขามานาน เพราะกาเบีรยล์คงชอบกับเจฟฟรี่
“อะไรกัน! คุณทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง” นักร้องหนุ่มตะคอกด้วยความโมโห
กาเบีรยล์รีบผลักเจฟฟรี่ “ไม่ใช่น่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ คุณต้องเชื่อผมน่ะ”
“คุณจูบกับเขายังบอกว่าเป็นอุบัติเหตุอีกเหรอ”
ปอมเริ่มหันมาทางเจฟฟรี่ เขามองนักร้องคุ่แข่งด้วยสายตาที่ชิงชัง และเคียดแค้น
“แกมันไอ้ตัวร้าย แกไม่มีวันเทียบฉันได้หรอก คนอย่างแกไม่ควรมาอยู่เวทีเดียวกับฉัน.........”
นักร้องหนุ่มด่าว่าคู่แข่งของเขา ด้วยความโมโห
กาเบีรยล์เริ่มสัมผัสถึงพลังอันรุนแรงจากตัวของปอม เขามองดูนาฬิกา ตอนนี้เวลาเลยบ่ายสามโมงมาแล้ว เขาต้องรีบหยุดไม่ให้ปอมตกในบาปมกกว่านี้ เพราะกุญแจเริ่มที่จะสัมฤทธิ์ผลแล้ว
“ปอม คุณต้องหยุดด่าเดี๋ยวนี้น่ะ” กาเบีรยล์รีบกระโดดไปคว้าตัวของนักร้องหนุ่ม
แต่ปอมโดนลากไปอีกด้านหนึ่งของกาเบีรยล์
เทวดาหนุ่มพลาดท่า ล้มตัวลงไปนอนกับพื้น เขารีบลุกขึ้นมองหาปอม
เขาเห็นนักร้องหนุ่มนอนสลบอยู่กับพื้น โดยมีเจฟฟรี่ยืนอยู่ข้างๆ
“เสียใจด้วยน่ะ ลูกกุญแจดอกแรกอยู่ที่ข้า พวกมนุษย์ช่างงี่เง่าจริงๆ แต่ข้าว่า เทวดาอย่างเจ้างี่เง่ามากกว่าซะอีก ฮา ฮา ฮา”
เปกาเฟอร์ในร่างของเจฟฟรี่ จึงยื่นมือไปทางปอม
แสงสีดำก็ผุดขึ้นมาเหนือฝ่ามือของปีศาจร้าย ลูกกุญแจก็ลอยขึ้นมา
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย” กาเบีรยล์ตะโกนร้อง เขาทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเปกาเฟอร์ปล่อยพลังชั่วร้ายปกคลุมบริเวณรอบๆนักร้องหนุ่ม
ไมเคิล ราฟาแอล ยู ก็วิ่งมาถึงที่หลังเวที พวกเขาเห็นลูกกุญแจอยู่ในมือของเจฟฟรี่
ไมเคิลคว้าเหล็กแหลมที่อยู่ใกล้เวทีเขวี้ยงไปที่เจ้าปีศาจ
แต่เหล็กแหลมกลับพุ่งออกมาเหมือนรอบๆเปกาเฟอร์มำแพงกั้นไว้อยู่
“พวกเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ไว้เจอกันครั้งหน้าแล้วกัน”
ทันใดนั้นปีศาจร้ายก้หายวับไปในพริบตา
เหลือเพียงร่างอันไร้สติของปอมที่นอนฟุบอยู่
กาเบีรยล์รีบไปประคองนักร้องหนุ่ม
ยูถามไมเคิล “แล้วเขาจะเป็นอะไรไหม”
เทวดาหนุ่มหันมาตอบ “ ไมเป็นไรหรอก ปีศาจมันแค่ใช้ความชั่วของมนุษย์ทำให้กุญแจสัมฤทธิ์ผลเท่านั้น”
ยูยังถามไมเคิลอีก “แล้วเราจะทำยังไงต่อไป”
ไมเคิลไม่ตอบ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
“ผมจะลบความทรงจำของเขาทั้งหมดที่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้” กาเบีรยล์พูดพร้อมค่อยๆใช้มือลูบไปที่ใบหน้าของปอม
“แต่เขาจะจำคุณไม่ได้อีกน่ะ” ยูเองพอจะรู้ว่ากาเบีรยล์เองก็คงชอบปอมอยู่เหมือนกัน
กาเบีรยล์ไม่ตอบอะไร “ผมไม่ได้มีหน้าที่ มารักใคร”
ยูเองได้ยินดังนั้น เขาก็ไม่ถามอะไรอีก

เสียงโห่ร้อง และเสียงกรี๊ดของบรรดาสาวๆ ทำให้เสียงเพลงของดนตรีบนเวทีดูเบาไปทันที
ชายหนุ่มถือไมค์พร้อมพูดกับบรรดาแฟนๆของเขาว่า “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ” แล้วเขาก็เดินลงจากเวที
เสียงโห่ร้อง และเสียงกรี๊ดยังคงดังกระหึ่มต่อไป
ปอมกำลังเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว เขาเห็นขนนกปลิวมาที่บ่าของเขา
นักร้องหนุ่มหยิบขนนกนั้นขึ้นมาดู เขารู้สึกเหมือนว่าขนนกนั้นกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับเขา
สักพักเขาก็ปล่อยขนนกนั้นลอยปลิวไปกับสายลมของฤดูหนาว
เขาแหงนหน้ามองฟ้า สักวันเขาจะต้องพบกับใครสักคน คนที่กำลังมองเขาจากฟากฟ้า

-----จบตอน-----

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

nartch

  • บุคคลทั่วไป
ว้า....แย่จังชอร์ทแรกก็พ่ายปิศาจซะละ... o12
แต่ไงก็ตามเอาใจช่วยนักรบเทวดาทั้งหลายยยย
สู้ สู้  :a2:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 9

หนุ่มน้อยเดินซูดอากาศยามเช้า หมู่บ้านของยูไม่ค่อยมีคนมาอาศัยอยู่เท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยมีความวุ่นวาย คงเป็นเพราะมันอยู่ชานเมือง ค่อนข้างห่างจากตัวเมืองมากพอสมควร
ในวันอาทิตย์อย่างนี้ คนก็ไม่ค่อยออกจากบ้านเท่าไหร่ มีแต่ออกมาซื้อกับข้าวที่หน้าหมู่บ้านในตอนเช้าเท่านั้น
หนุ่มน้อยเดินมาที่หน้าหมู่บ้าน เขาเองก็อยากซื้อกับข้าวไปกินเหมือนกัน
“หวัดดีคับ” หนุ่มน้อยทักทายพ่อค้า
“คับ เอาอะไรดีคับ คุณยู” พ่อค้าเป็นชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับยู แต่รูปร่างหน้าตา บุคลิก ฐานะ ทุกๆอย่างต่างจากยูโดยสิ้นเชิง
“เอาโจ๊ก หนึ่งถุงคับ เออ! เปลี่ยนเป็นสองถุงดีกว่าคับ” หนุ่มน้อยลืมไปว่าเขาไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว
“คับ ทำไมวันนี้ถึงซื้อสองถุงล่ะคับ” พ่อค้าถามด้วยความสงสัย
“คือออ....” ยูไม่รู้จะตอบว่าไง
“ผมเห็นมีฝรั่งเข้าๆออกๆบ้านคุณ ใครเหรอครับ” พ่อค้าหนุ่มถามอย่างละลาบละลวง คงเป็นเพราะอายุเท่ากัน และรู้จักกันมานานแล้ว
“คือ.... อ๋อ คนนั้นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากอิตาลีครับ ที่โรงเรียนให้เขามาพักอยู่กับผมที่บ้านครับ” ยูถอนหายใจโล่งอกที่แก้ตัวออกไปได้
“อ๋อครับ ดีจังครับ จะได้ฝึกภาษาไปด้วย ว่างๆคุณยูช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ผมหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวผมจะสอนซ่อมเครื่องยนต์คืนนะครับ” พ้อค้าหนุ่มพูดคุยกับยูอย่างสนิทสนม ที่จริงเค้าเองก็อยากเรียนสายสามัญเหมือนหนุ่มน้อย แต่ด้วยความยากจนทำให้เขาต้องตัดสินใจเรียนสายอาชีพ เพื่อจะได้ทำงานช่วยเหลือครอบครัวในขณะที่เรียนไปด้วย
“แล้วป้าแจ๋วไปไหนเหรอครับ ทำไมวันนี้เห็นแจ๊คมาขายโจ๊กคนเดียวล่ะ” หนุ่มน้อยถามถึงแม่ของพ่อค้าหนุ่ม เพราะปกติจะเห็นสองแม่ลูกขายโจ๊กทุกเช้า
“แม่ไม่ค่อยสบายครับ ต้องเข้าโรงพยาบาล” แจ๊คพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้า
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” หนุ่มน้อยถามด้วยความเป็นห่วง
“คงไม่เป็นไรมากครับ เห็นแม่บ่นๆว่าปวดหัวผมเลยพาไปโรงพยาบาล เดี๋ยวตอนบ่ายๆว่าจะไปเยี่ยมครับ”
“งั้นฝากความคิดถึงป้าแจ๋วด้วยแล้วกัน บอกว่าหายไวๆน่ะครับ” ยูแสดงน้ำใจเขาคงทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้
“นี้ครับโจ๊กสองถุง”แจ๊คยื่นโจ๊กให้หนุ่มน้อย
ยูรับโจ๊กพร้อมยื่นเงินให้พ้อค้าหนุ่ม “ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ก็บอกผมแล้วกัน”
พ่อค้าหนุ่มยิ้ม เขาชื่นชมในความน่ารักของหนุ่มน้อยคนนี้ ถ้าเขารักผู้ชายได้ เขาคงรักหนุ่มน้อยคนนี้เป็นคนแรก

ด้านหลังโรงพยาบาล เป็นที่จอดรถเก่า ไม่มีคนใช้แล้ว มันจึงถูกปิดตาย
เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วโรงจอดรถนั้น ชายหนุ่มใช้ผ้าคลุมปกปิดร่างกาย
เขาเดินมาหยุดที่เสาตรงกลางโรงจอดรถ ชายหนุ่มยื่นมือมาออกจากผ้าคลุม
ลูกกุญแจดอกแรกบนมือของเขาเริ่มสั้น ตัวอักษรบนลูกกุญแจเริ่มเรืองแสง
ชายหนุ่มเห็นแสงพุ่งไปทางทิศเหนือ เขายิ้มที่มุมปาก
ไม่น่าเชื่อว่า ลูกกุญแจดอกที่สองจะอยู่ใกล้ขนาดนี้

หนุ่มน้อยเทถุงโจ๊กลงบนชาม แล้วเอามาตั้งไว้ที่โต๊ะกินข้าว
เทวดาหนุ่มเดินง้วเงียลงมาจากด้านบน เขาตาโตเมื่อได้กลิ่นโจ๊กร้อนๆโชยมาแต่ไกล
“วันนี้มีอะไรกินหรือครับ” เทวดาหนุ่มถาม
“โจ๊ก” ยูตอบพร้อมใช้ช้อนตักโจ๊กมาให้ดู
“โจ๊ก?” เขาทำหน้าสงสัย
“มันคือข้าวแล้วเอาไปต้มให้มันเละ จะได้กินง่ายๆโดยไม่ต้องเคี้ยว” ยูอธิบาย
“แล้วมันกินเหมือนข้าวไหมคับ” เทวดาหนุ่มยังสงสัย
“ก็กินเหมือนกันนั้นแหล่ะ ใช้ช้อนตักแล้วเอาเข้าปาก”
“แต่ช้อนอันนี้มันไม่เหมือนช้อนที่กินข้าวนี้ครับ”เขาชี้ไปที่ช้อนสั้น ที่ไว้สำหรับกินโจ๊ก
หนุ่มน้อยเลยตักโจ๊กและทำท่าทางกินให้ไมเคิลดู
เทวดาหนุ่มยังทำหน้างง เขาตักโจ๊กแล้วเอาเข้าปาก โจ๊กก็หกเละเทอะเหมือนเด็กกำลังฝึกกินข้าว ที่จริงเขาเข้าใจแล้วว่ามันต้องทำยังไง แต่เขาแกล้งกินโจ๊กไม่เป็น เพื่อหนุ่มน้อยจะได้ป้อนโจ๊กให้เขา
“อ๊ะ ป้อนให้ก็ได้” หนุ่มน้อยจำใจต้องป้อนโจ๊กให้เทวดาหนุ่ม
ยูตักโจ๊กป้อนให้ไมเคิล เทวดาหนุ่มอ้าปากรับ เขายิ้มไปเคี้ยวไป เขารู้สึกอบอุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้หนุ่มน้อยคนนี้
ยูตักโจ๊กอีกครั้ง เทวดาหนุ่มเตรียมอ้าไป เขาจ้องมองหนุ่มน้อย
“มองอะไร ผมจะตักกินเอง ไม่ได้ให้คุณสักหน่อย”หนุ่มน้อยก็ตักโจ๊กเข้าปากตัวเอง
“อ้าว ไม่ได้ป้อนให้ผมเหรอ” เทวดาหนุ่มทำเสียงเว้าวอน
“ราฟาแอลบอกว่าพวกคุณเรียนรู้ได้เร็วไง กินโจ๊กแค่นี้ทำไม่เป็นหรือไง” หนุ่มน้อยหันไปดุไมเคิล
“คร้าบๆๆๆ” เทวดาหนุ่มเลยต้องกินโจ๊กเอง
ไมเคิลกำลังตักโจ๊กเข้าปาก เขาเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่าง พลังนั้นรุนแรงมากทีเดียว
“ยู ผมรู้สึกถึงพลังของลูกกุญแจ ช่วยติดต่อราฟาแอล กับ กาเบีรยล์ให้ผมหน่อย” เทวดาหนุ่มหันไปพูดกับหนุ่มน้อย
ยูรีบไปหยิบโทรศัพท์เพื่อจะได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนของเทวดาหนุ่ม
แต่เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้น หนุ่มน้อยเห็นเบอร์ของราฟาแอล เขาจึงรีบรับ
“ไม่ต้องโทรบอกผมหรอก ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมจะไปรับที่บ้านคุณน่ะ”

แจ๊คเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เขากุมหน้า และร้องไห้ออกมา
หมอเพิ่งจะบอกเขาว่า แม่ของเขาเป็นโรคมะเร็งในสมอง ต้องได้รับการผ่าตัด
เขาจะต้องหาเงินมารักษาแม่ แต่เขาจะหาเงินได้จากที่ไหน เพราะเขาแทบจะไม่มีเงินเลย
ชายหนุ่มหยิบของสิ่งหนึ่ง ที่แม่ให้เขาเมื่อกี้
“เอาไปขายที่ร้านขายของเก่าน่ะลูก มันเป็นสิ่งที่แม่ได้จากตากับยาย แต่แม่ไม่เห็นว่ามันจะทำอะไรได้อีก ถ้าไปขายมันคงจะสามารถช่วยเหลือพวกเราได้” หญิงชรายื่นลูกกุญแจให้ลูกชายของเธอ
แจ๊คมองลูกกุญแจ มันเป็นกุญแจโบราณที่มีลักษณะคล้ายกางเขน มีตัวอักษรสลักเป็นภาษาละติน ที่แทบจะอ่านไม่ค่อยออก
เขาเอามันเก็บเข้าในกระเป๋ากางเกง และเดินออกจากโรงพยาบาล
ภานในกระเป๋ากางเกงของชายหนุ่ม ตัวอักษรภาษาละตินบนกุญแจเรืองแสงเป็นคำที่แปลว่า

“โลภ”

-----จบตอน-----

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
โลภ เพราะความจำเป็นเหรอ  :m13:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: เฮ้อ โลภ เพราะอยากได้เงินมาช่วยแม่ ก็เป็นบาปใช่ไหมครับ แง ๆ ๆ เศร้าอีกแล้ว

สงสารปอมเหมือนกันนะครับ สุดท้ายผมว่าปอมเป็นอารมณ์หึงหวงมากกว่าหยิ่งทรนงน่ะนั่น

ความรักทำให้มนุษย์ทำบาปอีกแล้วสินะ

มารอต่อนะคร้าบบบ สนุกดีครับ

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 10

รถตู้สีเงินขับมาถึงที่โรงพยาบาล เหล่าเทวดาหนุ่มและยูลงมาจากรถ พวกเขากวาดตาไปทั่วโรงพยาบาล
“พวกนายรู้สึกถึงพลังของลูกกุญแจไหม?” ยูเริ่มซักไซ้
“แปลกจริง! เมื้อกี้พลังมันยังรุนแรงอยู่เลย” ราฟาแอลขมวดคิ้ว
“ผมว่าผมตรวจสอบแล้วน่ะ ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด” กาเบีรยล์หันมาพูดกับยู
“งั้นเราลองแยกย้ายกันไปดีกว่า” หนุ่มน้อยแสดงความคิดเห็น
ราฟาแอลจึงแยกไปตึกทางขวา กาเบีรยล์เดินไปตึกทางซ้าย ส่วนไมเคิลและยูไปตรวจสอบที่ตึกด้านหน้า
“แล้วทำไมผมถึงไปกับคุณด้วย” หนุ่มน้อยหันมาถามเทวดาหนุ่ม เขาคิดว่าน่าจะแยกกันไป เพราะจะได้ตรวจสอบได้ทั่วถึง
“ก็คุณไม่มีพลังเหมือนพวกผมนี้ คุณจะรู้สึกถึงพลังของลูกกุญแจได้อย่างไร” เทวดาหนุ่มอธิบาย หนุ่มน้อยเลยต้องไปกับไมเคิล
ทั้งสองคนเดินไปดูไปตามห้อง เทวดาหนุ่มนอกจากตรวจสอบหากุญแจแล้ว เขายังมองบรรดาคนไข้ที่อยู่ในโรงพยาบาล
“คุณมองอะไร ทำไมไม่รีบหาล่ะ”หนุ่มน้อยดูไมเคิล
“ผมเห็นพวกคนเหล่านี้ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่พระเยซูทรงรักษาเหล่าคนยากคนจน และคนด้อยโอกาส ผมอยากจะมีพลังแห่งการรักษาเหมือนราฟาแอล ผมจะได้ช่วยพวกเขาได้” ไมเคิลพูดกับหนุ่มน้อย ด้วยสายตาเป็นประการ เผยให้เห็นความมุ่งมั่นของเขา
หนุ่มน้อยเข้าใจถึงความรู้สึกของไมเคิล โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลที่ไม่ค่อยมีชื่อเท่าไร ทำให้คนไข้ที่มารักษาในโรงพยาบาลนี้มักเป็น คนยากคนจน หรือคนด้อยโอกาสเป็นส่วนใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอก พวกคุณหมอเข้าต้องช่วยพวกคนเหล่านี้อยู่แล้ว” ยูพูดกับไมเคิล
“เขาจะช่วยได้ทุกคนเหรอไง?” ไมเคิลพูดกับหนุ่มน้อยด้วยการตั้งคำถาม
หนุ่มน้อยเองก็พอเข้าใจว่า ในความเป็นจริง คุณหมอคงไม่สามารถช่วยคนบางคนได้
“คุณไม่ได้มีหน้าที่มาช่วยรักษาคนพวกนี้สักหน่อย คุณจะกังวลใจไปทำไมเล่า” ยูถามเทวดาหนุ่ม
“ถึงคุณมีพลังเหมือนราฟาแอล คุณก็คงไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ทุกคนเหมือนกัน เพราะคุณอยู่ในร่างของมนุษย์”
หนุ่มน้อยพยายามเตือนเทวดาหนุ่มเสมอว่าเขาอยู่ในร่างของมนุษย์ มันไม่ผิดหรอกที่จิตสำนึกของเขาเป็นเทวดา แต่การใช้ชีวิตในร่างมนุษย์ ก็ควรจะต้องใช้จิตสำนึกของมนุษย์
“ไปทำหน้าที่ทีคุณได้รับมอบหมายกันเถอะ” ยูยื่นมือไปหาไมเคิล
เขาเงยหน้ามองยู รอยยิ้มของเทวดาหนุ่มแสดงความดีใจที่หนุ่มน้อยเข้าใจเขา และอยากจะช่วยเขา
ไมเคิลยื่นมือไปจับมือของหนุ่มน้อย ทั้งสองคนจึงเดินตรวจสอบหาพลังของลูกกุญแจต่อไป

ยูและไมเคิลเดินหาพลังของลูกกุญแจ ต่อไปเรื่อยๆ
จนมาถึงห้องๆหนึ่ง หนุ่มน้อยหยุดเดินเขามองเข้าไปที่ข้างในห้อง
“นั้น! ป้าแจ๋วนี้” หนุ่มน้อยอุทาน เมื่อเจอคนรู้จัก
“เดี๋ยวผมขอเวลาแป๊บนึงน่ะ” หนุ่มน้อยผลักประตูห้องผู้ป่วย เดินเข้าไปในห้อง
หญิงชราที่นอนบนเตียงคนไข้ เหลือบไปเห็นหนุ่มน้อยกำลังเดินเข้ามาใกล้ เธอก็รีบยกมือขึ้นไหว้
“คุณยู สวัสดีค่ะ มาได้ยังไงค่ะ” แม้เธอจะอาวุโสกว่า แต่เธอให้ความเคารพแก่หนุ่มน้อยคนนี้ เพราะยูคอยช่วยเหลือครอบครัวของเขาเสมอมา
หญิงชราพยายาพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง แต่หนุ่มน้อยเขามาห้ามไว้ก่อน “ไม่ต้องหรอกครับ อย่าลำบากเลย”
หนุ่มน้อยยิ้มให้หญิงชราด้วยความเป็นกันเอง เขาถามถึงอาการของป้าแจ๋ว
แต่ป้าแจ๋วเองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะหมอไม่ยอมบอก บอกเพียงแต่ว่าให้ผักผ่อนเยอะๆเดี๋ยวก็หาย
“ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ป้าออกจะแข็งแรง เดี่ยวก็ออกมาทำโจ๊กให้ผมกิน” เขายิ้ม
“แล้วพ่อฝรั่งที่อยู่นอกห้องมากับคุณยูเหรอค่ะ” ป้าแจ๋วชี้ไปที่ไมเคิล
“เพื่อนผมเองครับ ยังไงก็ขอให้หายไวไวน่ะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปทำธุระก่อนน่ะครับ” ยูรีบตัดบท เพราะเขาไม่อยากอธิบายเรื่องของไมเคิล
หนุ่มน้อยออกมาจากห้อง เขาเห็นไมเคิลยังจ้องไปที่ป้าแจ๋ว
“มีอะไรเหรอ” เขาถามเทวดาหนุ่ม
“ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ กำลังจะเจอเรื่องร้าย” เขาตอบ
“คุณมีพลังพิเศษอีกเหรอไง ถึงรู้เรื่องอนาคตได้ด้วยเหรอ” หนุ่มน้อยพูดประชด
“ไม่รู้ซิ ว่าทำไมผมถึงรับรู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิงคนนี้ คงเป็นเพราะเธอเป็นคนดี” เขาอธิบายตายังคงจ้องมองหญิงชรา
“ใช่ๆ ป้าแจ๋วเป็นคนดีมากๆ แจ๊ค ลูกชายของเขาก็เป็นคนดี” ยูพูดเสริม
“เขามีลูกชายด้วยเหรอ”
“อืมม ก็เป็นคนที่ทำโจ๊กให้คุณกินวันนี้ไง”
เสียงโทรศัพท์ของยูก็ดังขึ้น ทำให้การสนทนาของทั้งสองต้องหยุดลง
หนุ่มน้อยรับโทรศัพท์ “ราฟาแอล ว่าไง เจอไหม”
“ทั้งผม และกาเบีรยล์ ไมรู้สึกถึงพลังเลย แล้วคุณล่ะ” ราฟาแอลถาม
“ไมเคิลก็ไม่รู้สึกถึงพลังของลูกกุญแจเหมือนกัน” หนุ่มน้อยตอบ
“งั้น! เดี๋ยวผมจะกลับไปตรวจสอบใหม่อีกทีแล้วกัน เรากลับกันเถอะ”
“โอเค” ยูตอบพร้อมวางโทรศัพท์ เขาหันไปมองไมเคิลพร้อมพยักหน้าเป็นนัยๆว่ากลับกันได้แล้ว
เทวดาหนุ่มยิ้มตอบ ก่อนที่เขาจะเดินตามยูออกไป ไมเคิลหันไปจ้องที่ป้าแจ๋ว พร้อมพูดว่า
“ขอพระเจ้าอวยพร”
แจ๊คเดินออกจากร้านขายของเก่า สีหน้าเขาดูเศร้า และผิดหวัง เพราะไม่มีร้านขายของเก่าร้านไหนรับซื้อลูกกุญแจโบราณที่แม่ของเขาให้มาขาย เขาเริ่มหมดหนทางที่จะหาเงินมาเป็นค่าผ่าตัดให้กับแม่ของเขา
นี้ก็วันพฤหัสมาแล้ว ถ้าเขาไม่สามารถหาเงินมาให้ทันภายในวันศุกร์ แม่ของเขาอาจจะไม่รอด
ใครน่ะที่เป็นคนลิขิตชะตาชีวิตของเขา และ แม่ของเขา ทำไมถึงต้องให้พวกเขาเจอแต่ความโชคร้าย
ถ้าพระเจ้ามีจริงอย่างทีใครว่า ทำไมไม่ช่วยเหลือพวกเขา พากเขาไม่เคยทำร้ายใคร หรือ ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แต่ทำไมต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย
หนุ่มน้อยยังคงนึกบ่นกับโชคชะตาของตัวเอง ในขณะที่เดินจะกลับบ้าน
สักพักเสียงโครมคราม เหมือนเสียงสิ่งของชนกันอย่างแรงก็ดังสนั่นไปทั่วซอย
เขาตกใจกับเสียงดังนั้น ชายหนุ่มจึงวิ่งไปที่ต้นเสียง
สิ่งที่เขาเห็นคือ รถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง แต่สภาพของรถยนต์คันนั้นพังยับเยิน คาดว่าอาจเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟฟ้า
ชายหนุ่มวิ่งไปดูที่ประตูรถด้านคนขับ เพื่อนดูว่ามีใครได้รับอันตรายบ้างไหม
แจ๊คเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งติดอยู่ในตัวรถ แต่สภาพร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล และรอยเลือด
“คุณๆ เป็นอะไรไหม” เขาพยายามเอือมมือไปเขย่าตัวผู้ชายคนนั้น
ตัวของผู้ชายคนนั้นสั้นไหวไปตามแรงเขย่า แต่ไม่มีปฏิกิริยาสนองตอบกลับมา
แจ๊คเลยใช้นิ้วไปแตะที่ปลายจมูก ปรากฏว่าชายคนนั้นไม่มีลมหายใจ
ชายหนุ่มถอนหายใจ เขาเสียใจที่ไม่สามารถช่วยผู้ชายคนนี้ได้
แจ๊คเลยมองหาโทรศัพท์สาธารณะใกล้ๆเพื่อจะได้โทรไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สายตาเขาไปหยุดอยู่กับสิ่งหนึ่งบนรถ มันเป็นกระเป๋าสีดำใบหนึ่ง
แจ๊คมองซ้ายมองขวา เพื่อดูว่าไม่มีใครอยู่แถวๆบริเวณนั้น เขาค่อยเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใบนั้น แล้วค่อยๆรูดซิบเพื่อดูว่ามีสิ่งใดอยู่ในกระเป๋า
เขาต้องตกใจเมื่อเห็นสิ่งของในกระเป๋า
มันเป็นแบงค์พันที่ถูกมัดกันอย่างเป็นระเบียบ อัดแน่นไปเต็มทั้งกระเป๋าใบนั้น

-----จบตอน-----

nartch

  • บุคคลทั่วไป
สถานการณ์อย่างแจ็คถ้าจะเอาเงินไปจะบาปไหม  :m28:
ไม่ว่าจะเป็นการลองใจของพระเจ้าหรือปิศาจ แต่ก็คงส่งผลเหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับแจ็คแล้วสิงานนี้จะเลือกทางไหน...ตามลุ้นกันต่อไปปปป
 :m4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
 o12 โอ้ ความโลภ ในใจ กำลังจะเกิดขึ้นแล้วสินะ เป็นปีศาจมาลองใจหรือป่าวเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 11

นาฬิกาปลุกส่งเสียงตามที่เจ้าของได้ตั้งเวลาไว้ หนุ่มน้อยลุกขึ้นงัวเงียตื่นขึ้น เอามือไปคว้าที่เจ้านาฬิกาเพื่อให้มันหยุดส่งเสียง
ยูขยี้ตาแล้วค่อยๆลงจากเตียง เขาหันไปมองที่พื้น แต่พื้นนั้นว่างเปล่า เขาลืมไปว่า เมื่อคืนเทวดาหนุ่มไปค้างที่คอนโดของราฟาแอล และกาเบีรยล์ เพื่อไปช่วยกันหาที่ซ่อนของลูกกุญแจ
ทุกเช้าเขาต้องตื่นขึ้นมาปลุกไมเคิล ต้องทำกับข้าวให้ หาเสื้อผ้าให้เขาใส่ และอื่นๆอีกหลายอย่าง จนเป็นความเคยชิน แต่เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่าย หรือไม่อยากทำ คงเป็นเพราะไมเคิลไม่เคยทำอะไรให้หนุ่มน้อยลำบากใจ และความที่เขาเป็นคนอ่อนโยน อบอุ่น
หนุ่มน้อยแต่งตัวไปโรงเรียน เขาตั้งใจว่าจะออกไปซื้อโจ๊กกินซะหน่อย จะได้ไปถามอาการของป้าแจ๋วด้วย
ที่หน้าปากซอย แจ๊คยังคงตั้งร้านขายโจ๊กเหมือนทุกวัน
หนุ่มน้อยยิ้มทักทายให้กับพ้อค้าหนุ่มเหมือนทุกครั้ง พ้อค้าหนุ่มก็ยิ้มตอบกลับไป แต่สีหน้าของเขากลับดูวิตกกังวล
“เป็นอะไรเหรอแจ๊ค ทำไมวันนี้ดูไม่สดใสเลย” ยูถามด้วยความเป็นห่วง
“ปะ ป่าวคับ เมื่อคืนผมนอนดึกไปหน่อยครับ” เขาตอบยู
“เหรอ แล้วป้าแจ๋วเป็นไงบ้าง” ยูถามถึงอาการของแม่ของพ่อค้าหนุ่ม
“คือ แม่เป็นมะเร็งในสมองครับ ต้องผ่าตัดวันนี้” สีหน้าของเขาดูเครียดมากกว่าเดิม
“จริงเหรอ! แล้วกี่โมงหล่ะ ผมจะได้ไปที่โรงพยาบาล” หนุ่มน้อยตกใจเมื่อได้ยิน
“บ่ายสามโมงครับ แต่คุณยูไม่ต้องลำบากหรอกครับ” แจ๊คตอบไปตามมารยาท
“ป้าแจ๋วเป็นคนที่ผมเคารพคนหนึ่ง ยังไงผมก็จะไป ถ้างั้น พอผมเลิกเรียน ผมจะไปหาที่โรงพยาบาลน่ะครับ”
“ขอบคุณคุณยูมากๆเลยน่ะครับ แล้วจะซื้อโจ๊กสองถุงใช่ไหมครับ” แจ๊คถาม
“เอ่อ คือ” หนุ่มน้อยกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อกี่ถุง เขาอดห่วงไม่ได้ว่าถ้าไมเคิลกลับมาตอนบ่ายๆ อาจจะไม่มีอะไรกิน
“ครับ สองถุงครับ”

เทวดาหนุ่มกลับมาถึงที่บ้านของยูในตอนบ่าย พวกเขาใช้เวลาทั้งคืนเพื่อหาที่ซ่อนของลูกกุญแจ แต่พวกเขาไม่พบร่องรอยอะไรเลย ทางเดียวที่จะทำได้คือ รอให้ถึงเวลาบ่ายสามโมงในวันนี้ รอให้พลังของแม่กุญแจแสดงออกมา
กาเบีรยล์ และ ราฟาแอล จะไปตรวจหาพลังอีกทีที่โรงพยาบาล เพราะที่นั้นเป็นที่แรกที่พบพลังของลูกกุญแจ
เทวดาหนุ่มเดินเข้ามาที่ข้างในบ้าน เขาเห็นว่ามีถุงโจ๊กว่างไว้ที่บนโต๊ะ พร้อมมีเศษกระดานที่เขียนข้อความไว้ว่า
“นี้โจ๊กร้านป้าแจ๋วน่ะ เอาไว้กินตอนหิว ก่อนกินเอาไปอุ่นที่ไมโครเวฟน่ะ ผมเคยสอนไว้แล้วนี้
คุณทายถูกเรื่องป้าแจ๋ว เพราะป้าแจ๋วต้องผ่าตัดวันนี้ ผมจะกลับดึกหน่อยน่ะ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนแจ๊ค
ถ้าหิวก็ลองทำไข่เจียวที่ผมเคยสอนน่ะ มีอะไรก็โทรมาที่เบอร์ของผมน่ะ”
ไมเคิลอ่านข้อความของเทวดาหนุ่มแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เขาดีใจที่ยูเป็นห่วงเขา แม้เวลาอยู่ด้วยกัน หนุ่มน้อยมักจะพูดจาดุด่าว่าเขาตลอด
ไมเคิลเทโจ๊กลงชาม แล้วเขาค่อยๆตักโจ๊กกิน เขากินไปได้เพียงหนึ่งคำ เขาก็รู้สึกถึงพลังของลูกกุญแจ
ไมเคิลวางช้อน เขารีบโทรศัพท์ไปหากาเบีรยล์ทันที
“กาเบีรยล์ ผมรู้แล้วว่าลูกกุญแจอยู่ไหน”

แจ๊คเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เขากำลังไปหาคุณหมอ เพื่อจะได้นำเงินรักษาพยาบาลไปให้
เป็นช่วงเวลาเดียวที่ยูเดินมาหาเขาพอดี “อ้าวแจ๊ค จะไปไหนล่ะ”
“เออ คือ ผมกำลังจะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไป
“แล้วเท่าไรหล่ะ ให้ผมจ่ายแทนดีไหม” ยูพยายามแสดงน้ำใจ เพราะเขาคิดว่าค่ารักษาคงเป็นเงินจำนวนมาก แจ๊คและป้าแจ๋วคงไม่มีเงินพอที่จะมาจ่ายค่ารักษาได้
“มะ มะ ไม่เป็นไรหรอกครับ คือ ผมหาเงินมาได้แล้วครับ”เขาพูดโดยไม่ได้สบตาของหนุ่มน้อย
“เหรอ งั้นผมจะไปรอที่หน้าห้องผ่าตัดน่ะ” หนุ่มน้อยจึงเดินแยกตัวออกมาจากแจ๊ค
เสียงโทรศัพท์ของหนุ่มน้อยก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอไมเคิล”
“ยู คุณอยู่ที่โรงพยาบาลใช่ไหม คุณรออยู่ที่นั้นน่ะ ผมกำลังจะไปหาคุณ”
“มีอะไรเหรอ” เขาสงสัยว่าทำไมไมเคิลต้องตื้นเต้นขนาดนั้น
“ผมพบกุญแจลูกนั้นแล้ว มันอยู่ที่แจ๊คลูกชายของป้าแจ๋ว”

แจ๊คหิ้วกระเป๋ามายืนรอที่หน้าลิฟท์ เขาหันไปมองกระเป๋าสีดำใบใหญ่ใบนั้น กระเป๋าที่เต็มไปด้วยความเป็นความตายของแม่เขา
เขาเองก็รู้สึกผิดที่ต้องทำแบบนี้ แต่เพื่อแม่ของพร้อมจะยอมทำ
เมื่อเช้าทั้งหมู่บ้านต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์สยอง รถยนต์คันหนึ่งพุ่งชนเสาไฟฟ้า จนคนขับถึงแก่ความตาย
ตอนแรกตำรวจสันนิษฐานไว้ว่า เป็นอุบัติเหตุ แต่มีรายงานว่าผู้ตายได้เบิกเงินสดจำนวนหลายแสนบาทมาจากธนาคาร
แต่ตำรวจไม่พบเงินจำนวนนั้นในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงคาดคะเนไว้ว่า อาจเป็นการฆาตกรรมเพื่อขโมยเงิน
เขายังจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ดี แต่เขาแปลกใจว่า รถชนเสียงดังขนาดนั้น ทำไมไม่มีใครได้ยิน หรือมามุงดู เหมือนทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว รู้เพียงว่าเงินจำนวนนี้สามารถช่วยชีวิตแม่ของเขาได้
ประตูลิฟท์เปิดออก เขาเดินเข้าไปในลิฟท์ ชายหนุ่มยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อให้ประตูลิฟท์ปิด
“เดี๋ยวก่อนแจ๊ค” ยูวิ่งมาขวางประตูลิฟท์
“มีอะไรเหรอครับคุณยู” เขาถามหนุ่มน้อย
“ผมรู้น่ะว่าในกระเป๋าใบนั้นคืออะไร และผมก็รู้ด้วยว่าคุณได้มันมาจากไหน” ยูจ้องหน้าแจ๊ค
ชายหนุ่มตัวสั่น เขาไม่นึกว่าจะมีคนรู้เรื่องนี้
“การที่คุณได้เงินนั้นมาโดยไม่ถูกต้อง มันผิดรู้มั้ย คุณนำเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเถอะ ผมจะหาเงินมาช่วยแม่ของคุณเอง” ยูพยายามอธิบายเพื่อไม่ให้แจ๊คต้องทำในสิ่งที่เป็นบาป
“แป๊บนึงน่ะ ผมจะโทรไปให้พ่อกับแม่โอนเงินมาให้” หนุ่มน้อยรีบโทรศัพท์ไปหาพ่อแม่ของตน แต่โทรศัพท์กลับไม่มีสัญญาณ ทั้งๆที่บนหน้าจอโทรศัพท์แสดงว่ามีสัญญาณ
แจ๊คเหลือบไปมองเห็นนาฬิกา อีกสองนาทีจะสามโมง เขาไม่มีเวลาอีกแล้ว เขาต้องรีบนำเงินไปให้หมอเดี๋ยวนี้
“โทษน่ะครับคุณยู แต่ผมคงทำตามที่คุณบอกไม่ได้” ชายหนุ่มพูดกับยูพร้อมกดปุ่มเพื่อให้ลิฟท์ปิด
“ไม่ ไม่ ไม่ น่ะแจ๊ค” หนุ่มน้อยกระโจนไปที่ประตูลิฟท์ แต่ประตูลิฟท์ปิดเสียก่อน
หนุ่มน้อยจึงวิ่งไปขึ้นที่บันไดด้านข้าง หนุ่มน้อยวิ่งพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่เขาก็วิ่งไม่ทันลิฟท์อยู่ดี เขาวิ่งไปเรื่อยๆ ลิฟท์ก็ไม่มีทีท่าที่จะหยุด
จนลิฟท์ขึ้นเลยชั้นที่เขากำลังวิ่งอยู่
เมือลิฟท์มาหยุดอยู่ที่ชั้นสูงสุด หนุ่มน้อยจึงวิ่งมาที่หน้าลิฟท์
แต่เขาเห็นเหล่าเทวดาหนุ่มยืนรอบล้อมร่างที่ไร้สติของแจ๊ค
หนุ่มน้อยเดินเข้าไปหาไมเคิล “ทันไหม เราได้กุญแจไหม”
ไมเคิลไม่ตอบอะไร เขาส่ายหน้า
“มันคงใช้เวลาช่วงที่อยู่ในลิฟท์เอาลูกกุญแจไป” ราฟาแอลตอบแทนเพื่อน
หนุ่มน้อยเริ่มร้องไห้ “ผมพยายามแล้ว ผมอยากจะช่วยพวกคุณ ฮือ ฮือ” หนุ่มน้อยร้องไห้เพราะไม่สามารถเอาลูกกุญแจมาได้ เขาอยากที่จะช่วยไมเคิล
ไมเคิลเอื้อมมือไปกอดยูไว้ เขาเอามือไปลูบหัวหนุ่มน้อย “ขอบใจน่ะที่คุณพยายามช่วยพวกเรา ไม่เป็นไรหรอกยังเหลือกุญแจอีกหลายดอก”
แต่หนุ่มน้อยก็ยังไม่หยุดร้อง
จนไมเคิลมากระซิบข้างหู “ถ้าไม่หยุดร้องเดี๋ยวผมจะอุ้มคุณต่อหน้าคนอื่นๆน่ะ”
ยูจึงหยุดร้องพร้อมพูดกับไมเคิลว่า “บ้า”

-----จบตอน-----

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป

aum

  • บุคคลทั่วไป
ดีจังครับ ผมว่าผมเคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว ชอบมากๆ ได้มาเจอตัวคนเขียน แล้วก็ได้รู้ลายละเอียดเพิ่มขี้น อิอิ ชอบครับ มาต่อนะ :a11: ขอบคุณครับ

nartch

  • บุคคลทั่วไป
แหมมมม อย่างนี้เรียกว่าโลภเหรอ... มันออกแนวจำเป็นนา... o12
สงสารแจ็คอ่ะ...นี่ละมั้งที่เป็นความชั่วร้ายโดยแท้...
ทำร้ายกันโดยใช้ความรู้สึกดี ๆ ของคนอื่น  :m16:

ZecroS

  • บุคคลทั่วไป
แหมมมม อย่างนี้เรียกว่าโลภเหรอ... มันออกแนวจำเป็นนา... o12
สงสารแจ็คอ่ะ...นี่ละมั้งที่เป็นความชั่วร้ายโดยแท้...
ทำร้ายกันโดยใช้ความรู้สึกดี ๆ ของคนอื่น  :m16:

ความจริงAvaritia แปลว่า มักได้ทรัพย์ของเขา ครับ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ถึงแม้จะจำเป็นแต่ยังไง

การเอาของคนอื่นมา

ก็ทำให้คนอื่นเดือดร้อนนี่นา

เฮ้อ.....ทำไงได้

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 12

เวลาในยามเที่ยงคืนช่างเงียบสงบ บนท้องถนนว่างเปล่าช่างแตกต่างจากเวลากลางวัน สองข้างทางไร้ผู้คน มีเพียงต้นไม้ที่ยืนสงบนิ่งไปตลอดทาง แสงไฟสลัวๆจากเสาไฟฟ้าพอที่จะให้แสงสว่างแก่บริเวณนั้น
เด็กหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวดี หน้าตาดี จับกลุ่มเดินคุยกัน พลางหยอกล้อกันด้วยความคุ้นเคย
รถยนต์สีดำคันหรู ขับผ่านชายสามคนนั้นไป สักพักมันก็ย้อนกลับมาหาชายกลุ่มนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มสังเกตเห็นรถคันนั้น เขาจึงเดินออกจากกลุ่ม มาที่รถยนต์คันนั้น
เจ้าของรถคันงามเลื่อนกระจกรถลงเผยให้เห็นใบหน้าของเขา
เด็กหนุ่มยิ้มให้เจ้าของรถซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน หน้าตาค่อนข้างดี ไว้หนวด ผมสีดำเข้ม ใส่ชุดสูทสีดำ ท่าทางเป็นคนฐานะดี
“เที่ยวไหมพี่” เด็กหนุ่มถามเขา ซึ่งความหมายที่แท้จริงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด
ชายหนุ่มไม่ตอบแต่เขาพยักหน้าให้
“ทั้งคืน 10 บาทน่ะครับ” เด็กหนุ่มบอกกับชายหนุ่ม
เขาหันไปมองเด็กหนุ่ม แล้วค่อยมองไปที่เด็กหนุ่มอีกสองคน
“จะให้เพื่อนผมไปด้วยเหรอ ได้ครับ งั้นลดให้ คนละ8บาท” เด็กหนุ่มยิ้มไปพูดไป
เขาเปิดประตูรถ เด็กหนุ่มหันไปเรียกเพื่อนอีกสองคนก่อนที่พวกเขาจะขึ้นรถ
รถยนต์สีดำคันหรูขับออกไป ท้องถนนยังคงว่างเปล่า
ที่ๆเด็กหนุ่มทั้งสามคนยืนอยู่นั้น มีเงาสีดำลึกลับซ่อนตัวอยู่ที่หลังต้นไม้
เจ้าของเงาเผยร่างของเขาออกมา ชายในผ้าคลุมจ้องมองที่รถยนต์คันหรู จนรถยนต์คันนั้นวิ่งออกไปจนลับตา

เสียงสายน้ำจากฝักบัว กระทบลงพื้น ชายหนุ่มลูบคล้ำร่างกายของตัวเอง  แม้อายุของเขาจะร่วงเลยไปมากจนถึงขั้นเป็นพ่อของเด็กๆพวกนี้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่สนใจอะไร เขาสนใจเพียงว่าเขาจะสามารถหาเด็กหนุ่มที่ไหน ที่จะมาสนองความสุขให้กับเขา
ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดตัวเอามาคาดเอว แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
เขาเห็นเด็กชายสามคน กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง พวกเขาน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของเขา
เขาเดินไปลูบหัวของเด็กชายคนหนึ่งด้วยความเอ็นดู จนทำให้เด็กคนนั้นตื่น
“กี่โมงแล้วครับ” เด็กชายถาม
“เกือบจะตีห้าแล้วครับ” เขาตอบ มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายของเด็กหนุ่ม
“ยังพอมีเวลา เดี๋ยวผมแถมให้” เด็กหนุ่มโผเข้าจูบเขา ทั้งสองขยับร่างกายล้มไปบนเตียง จนทำให้เด็กชายอีกสองคนตื่นขึ้น
พวกเขาก็โผเข้าหาชายหนุ่ม คนหนึ่งกระโจนมาที่หน้าอกเขา อีกคนซุกหน้าไปที่ท้องน้อยของเขา
ชายหนุ่มเริ่มครางเสียงดังเป็นเสียงแห่งความสุขที่เขาไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน
ทว่าที่ข้างกายชายหนุ่ม เริ่มสิ่งหนึ่งประกายแสงออกมา
แสงนั้นเล็ดลอดมาจากลิ้นชักของโต๊ะข้างเตียง
ภายในลิ้นชัก ลูกกุญแจเปล่งแสงภาษาละติน ซึ่งแปลเป็นคำว่า

“ตัณหา”

ไมเคิลสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขารู้สึกถึงพลังของลูกกุญแจ แต่เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าลูกกุญแจอยู่ที่ไหน
แต่กาเบีรยล์ กับ ราฟาแอล สามารถรู้ตำแหน่งของลูกกุญแจ เพราะพวกเขาใช้คอมพิวเตอร์ที่มีเรดาร์ สแกนหาตำแหน่งของลูกกุแจได้
เพื่อนของเขาคงจะรู้สึกถึงพลังได้ อีกไม่กี่นาทีราฟาแอลคงโทรมาหาเขาเอง
เทวดาหนุ่มลุกขึ้นยืน เขาจะไปรอโทรศัพท์ของราฟาแอลที่ข้างล่าง
ไมเคิลเดินมาที่ห้องนั่งเล่น เขาเหลือบไปเห็นอัลบั้มรูปภาพของยู
เทวดาหนุ่มเอื้อมมือหยิบมาดู เขาค่อยๆเปิดอัลบั้มนั้น
รูปส่วนมากเป็นรูปของหนุ่มน้อยสมัยในวัยเด็ก หนุ่มน้อยน่ารักไม่เคยเปลี่ยน
ไมเคิลดูภาพไปยิ้มไป เพราะความน่ารักในวัยเด็กของยู เขาค่อยๆเปิดไปเรื่อยๆ
จากถาพของเด็กน้อย ก็กลายเป็นภาพของชายหนุ่มที่โตขึ้นเรื่อยๆ
ความน่ารักก็เพิ่มขึ้นด้วย จนเขาเห็นภาพๆหนึ่ง เป็นภาพที่ยูถ่ายคู่กับหนุ่มน้อยคนหนึ่ง
หนุ่มน้อยคนนั้นเอามือมาคล้องคอของยู  จนหน้าของทั้งสองแทบจะชิดกัน
ไมเคิลปิดหนังสือทันที เขากระแทกหนังสือว่างลงบนโต๊ะ
เขาไม่ชอบรูปนั้นเลย เขารู้สึกว่าทำไมรูปนั้นหนุ่มน้อยคนนั้นไม่เป็นเขาแทน
เขาแปลกใจในความรู้สึกของตัวเอง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขารับโทรศัพท์
“ทำไมโทรมาช้าจัง เดี๋ยวพลังนั้นก็หายไปเหมือนเมื่อครั้งก่อนหรอก” เขาตะหวาดใส่ราฟาแอล
“เฮ้ย เป็นอะไร แค่โทรมาช้า ต้องโกรธด้วยเหรอว่ะ” ราฟาแอลแปลกใจเพื่อนของตน
“ป่าวๆ ช่างมันเถอะ แล้วว่าไงหล่ะจะมารับใช่ไหม”
“เออๆ เดี๋ยวไปรับ แค่นี้น่ะ” ราฟาแอลว่างโทรศัพท์
ไมเคิลนั่งพักสงบสติอารมณ์ เขายังไม่เข้าใจว่าความรู้สึกของมนุษย์ว่ามันหมายความว่าอย่างไร
หนุ่มน้อยเดินลงมาจากด้านบน เขาตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์
“ราฟาแอลโทรมาเหรอ” เขาถามไมเคิล
ไมเคิลไม่ตอบ
“ได้ยินหรือเปล่า ใครโทรมา” หนุ่มน้อยถามอีกครั้งหนึ่ง
“ราฟาแอลโทรมา”เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และไม่หันไปมองหนุ่มน้อย
“หากุญแจดอกที่สามได้แล้วเหรอ ดีจัง” หนุ่มน้อยไปที่ตู้เย็น หยิบน้ำส้มสองแก้วที่แช่ไว้ในนั้นเอามาให้ไมเคิล
“อ่ะกินก่อน เดี๋ยวหิวน่ะ” เขายื่นแก้วน้ำส้มให้เทวดาหนุ่ม
รถตู้ก็มาจอดหน้าบ้าน พร้อมเสียงเรียกของราฟาแอล
ไมเคิลลุกขึ้นเดินออกไปที่รถตู้ โดยไม่หันไปพูดกับหนุ่มน้อยเลยสักคำ
หนุ่มน้อยได้แต่จ้องมองเทวดาหนุ่มออกจากบ้านไป
“เป็นอะไรของเขาว่ะ” หนุ่มน้อยสงสัย
เขานั่งลงที่โซฟา ทำให้เห็นว่ามีอัลบั้มรูปภาพวางอยู่ที่โต๊ะ

-----จบตอน------

nartch

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งจะรู้ว่าเทวดาก็ "หึง" เป็นเหมือนกันแฮ๊ะ...  :m20:
ดอกนี้ก็คงพลาดอีกตามเคย...เทวดาทำงานช้าเสมอละ
 :m23:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด