[เวลา] จบในตัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เวลา] จบในตัว  (อ่าน 64428 ครั้ง)

aoommy

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:อาทิตย์หน้าเลยเหรอ แง่ๆๆ จะรอนะ แต่งได้สนุกมากนะ
พฤกษ์ก่อนเลิกกับธี น่ารักนะ หลังเลิกดูเปลี่ยนไป เหมือนเก็บๆอะไรมากขึ้น แสดงว่าเจ็บเหมือนกัน

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ให้ตายเถอะทำไม
น้องพฤกษ์แสนดีขนาดนี้ :กอด1:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคเจ็ด
«ตอบ #62 เมื่อ04-04-2012 09:46:43 »

วรรคเจ็ด




ธีเลือกหอ จองหอ ยกเลิกการเช่า และย้ายไปอยู่หอใหม่ในเวลาเดือนเศษ

วันที่ย้ายของพฤกษไม่ได้อยู่ด้วยเพราะกลับไปเอาของจากที่บ้าน.... ธีเข้าไปอยู่ล่วงหน้าก่อนอาทิตย์หนึ่ง พ่อกับแม่ถึงเอาของของพฤกษและตัวพฤกษมาให้ที่ห้องใหม่ในวันก่อนไปทำงานวันแรกแค่คืนเดียว

ห้องคราวนี้กว้างกว่าเดิม ค่าเช่าห้องหารคนละครึ่ง ส่วนค่าน้ำและไฟธีขอร้องว่าจะออกเอง หากไม่....ธีจะออกค่าห้องคนเดียวแทน.... ซึ่งพฤกษก็เลือกแบบแรกอย่างเสียมิได้

ทำงานวันแรก เดินทางชั่วโมงนึงถึงที่ทำงานไม่ต่างจากพี่ธีเกริ่นให้ฟัง------ “เหนื่อยชะมัด...” พฤกษบ่นอุบหลังจากที่เข้ามาถึงบริษัทและกำลังนั่งรอรายงานตัว ทว่า ขากลับเหนื่อยกว่าเดิมเพราะเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน รถจึงแห่โขยงและแน่นิ่งอยู่กับที่มากกว่าที่เรียกมันว่า “รถติด” พฤกษต้องยืนขาแข็งมาจนถึงหอ

ตอนเข้าห้องถึงพยายามเก็บสีหน้าก็แล้ว พี่ธียังจับได้ เถียงเค้าไม่ออก เลยปล่อยให้เขาถากถางจนเตียน... 'รมณ์เสีย'

“นอนก่อนนะพี่ธี!”

ไม่นานนักไฟที่ห้องก็ดับ คนที่ปิดไฟมุดเข้ามาในผ้าห่ม เอาแขนมาคล้องตัวพฤกษเข้าไปกอดไว้โดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง

“เฮ้ยยยยย!” พฤกษร้องเสียงหลง

“ทดสอบความหนาของผนังห้องกันมั้ยครับ” ถามเพื่อ?.......

“มีชกนะ!” ว่าไว้ก่อน....ยันต์กันเหนียว

“อือ.....นอนนะ....” เสียงงึมงัมดังอยู่บนหัวของพฤกษ 

เสียงเงียบไป การเคลื่อนไหวไม่ได้มากไปกว่าเดิม พฤกษฉงนอยู่ในใจคนเดียวเงียบๆ .... อย่าให้เขารู้ว่าผิดหวัง เอ้ย! โล่งใจ

......

.....

....

...

..

.






ช่วงดึกพฤกษรู้สึกเหมือนถูกผีอำ มันหนักบนตัว ขยับไม่ได้ เหมือนมีลมหวิวมากรีดผิวเป็นพักๆ ตรงนั้นทีตรงนี้ที

พฤกษจำได้ว่าพี่ธีดับไฟแล้วและนอนอยู่ข้างๆ แต่จะให้ลืมตาไปดูก็กลัว...

เมื่อวานตอนพ่อมาส่ง พ่อก็พาพฤกษไหว้เจ้าที่ฝากเนื้อฝากตัวแล้ว คืนแรกยังเฉยๆ ทำไมมาเป็นคืนสองล่ะ------ ‘โอย----จะบอกพี่ธียังไงเนี่ย กลัวจนไม่กล้าลืมตาเลยอ่ะ’

พฤกษรู้สึกว่าตัวมันเย็นๆ วาบๆ ไงพิกล---- ‘สงสัยเป็นไอเย็นของผี’

ถึงกลัวแต่พฤกษก็ทำใจดีสู้เสือ ‘พ่อบอกว่าคนดีผีคุ้ม! เอาวะ!’------ตัดสินใจลืมตา

เงาดำตะคุ่มขนาดใหญ่พอดีๆ กับตัวพฤกษลอยอยู่เหนือตัวเขา!!! ----- พฤกษตกใจขนลุกเกรียว เขาขยับมือของตัวเองข้างที่อยู่ใกล้พี่ธีปัดป่ายหาตัวพี่ธีหวังว่าจะปลุกให้ตื่นมาช่วยน้อง....

ดูหนังผีมาก็เยอะ ไม่น่าเชื่อว่า เวลาโดนผีหลอก เราคว้าหาใครสักคนเท่าไหร่มันก็ยังวืด เหมือนที่ตรงนั้นมีแค่เราคนเดียว พฤกษอึ้งจนตัวสั่น เขาลองค่อยๆ หันหน้าไปทางที่พี่ธีนอน....!!!!!!

“พี่ธี------” เสียงสั่นเครือด้วยความกลัว ‘พี่ธีหายไปไหน ผีพลางตาผม ผมมองไม่เห็นพี่-----’

“ครับ” เสียงนุ่มเบาดังลอยขึ้น

พฤกษใจชื้น แต่แล้วเมื่อสมองเริ่มประมวลผล..... พฤกษหันหน้าขวับไปหาผี!!!

......

.....

....

...

..

.

“พี่ธี!!!” เรียกเสียงหนัก

“อยู่กันแค่นี้ จะเสียงดังทำไมครับ” คนถูกเรียกย้อนถาม

พลั๊ก---- ชกหน้าหนึ่งหมัดด้วยความโมโห “ตกใจแทบตาย! นึกว่าโดนผีหลอก ทำบ้าอะไรน่ะพี่ หัวใจจะหยุดเต้น!”

โมโหจริงๆ นะ ตกใจมากด้วย.... ‘ไอ้พี่ธีบ้า! บ้า! บ้า! บ้า! บ้า!’

พฤกษเห็นเป็นเงาลางๆ ว่าธียกฝ่ามือขึ้นกุมแก้มที่โดนหมัด “เจ็บ.....”

“ก็เล่นบ้าอะไรล่ะ! จะแกล้งกันก็ให้มันมีขอบเขตบ้างสิพี่!” ว่ากราวด้วยความเดือดดาล ผุดลุกพรวดพราดไปจากเตียง กะว่าจะลุกไปเอาโค้กมาดื่มดับอารมณ์ ที่ไหนได้....พฤกษลุกจากเตียงมาเดินได้ไม่กี่ก้าว ถึงรู้สึกตัว....!!!

“เฮ้ย! ไรเนี่ย!” พฤกษก้มมองร่างเปลือยของตัวเองซึ่งมีแค่แสงรางๆ จากนอกระเบียงส่องผ่านมาให้เห็น .... กระทั่งกางเกงในก็ไม่ได้ใส่ ทั้งๆ ที่ก่อนนอนใส่ชุดนอนเต็มยศกับมือตัวเองแท้ๆ!!!

ระหว่างที่ยืนอึ้งก้มมองตัวเอง เท้าคู่หนึ่งก็เข้ามาอยู่ในสายตา พอค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้นจากเท้าคู่นั้น พฤกษก็เห็นสภาพของคนอีกคนซึ่งไม่ต่างกัน...เปลือยทั้งตัว ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้น

เวลานี้พฤกษบรรยายไม่ถูก ทั้งโมโห ทั้งตกใจ ทั้งอึ้ง.... และขำ

เมื่อดวงตาพฤกษเลื่อนขึ้นมาสบกับดวงตาของอีกฝ่าย ใจมันก็สั่นระทึกในอีกแบบ....เขิน

“โกรธพี่เหรอครับ?” ผีผ้าห่มถาม

“เออสิ เห็นเงาดำๆ นึก....ว่า....ผี....หลอก....”  พฤกษพูดไม่ประติดประต่อเนื่องด้วย สะดุ้งเป็นช่วงๆ จากการที่อีกฝ่ายไล้นิ้วสัมผัสบนตัวของตัวเอง “ทะลึ่ง!” เสียงเบาลง-----ได้ยินแค่คนสองคน

“โกรธพี่จริงๆ น่ะ” ถามซ้ำ แต่มือลูบเลื่อนลงมาที่สีข้างแบบเต็มฝ่ามือ ไม่ใช่แค่นิ้วเดียวเหมือนที่ไล้จากช่วงบนลงมา

“เล่น....บ้า.... ผม....นอน.....แล้ว.........ตก...ใจ....” เมื่ออีกฝ่ายซุกหน้าลงที่ลาดไหล่ พฤกษยิ่งพูดไม่เป็นประโยค

“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจให้ตกใจ... ขออีกนิดนะ อีกนิดพอ” เขาพูดไปพลางพรมจูบไล่ไล้ลำคอของอีกฝ่ายไปพร้อมกัน

จูบพรมเลื่อนมาที่แก้ม และค่อยๆ เลื่อนมาที่ปลายจมูกไปหาแก้มอีกข้าง จูบแผ่วเบาซุกไปที่ใบหูของด้านนั้น แล้วค่อยๆ เลื่อนไล้มาที่ลำคอ.... เมื่อสองมือของเขายกขึ้นมาประคองใบหน้าของอีกฝ่าย เขาก้มลงไปพรมไล้ริมฝีปากของอีกฝ่ายเพียงเบาๆ .... รั้งรออ้อยอิ่งอย่างอยู่เช่นนั้นสักครู่ จึงถอยริมฝีปาก มือ และตัว ออกห่างจากอีกฝ่าย

หมุนตัวเดินไปที่เตียง และซุกตัวไปในผ้าห่ม... “มานอนเถอะครับ พี่ไม่ทำอะไรเราแล้วล่ะ”

รู้ว่าฆ่าคนมันผิดกฏหมาย.... แต่พฤกษอยากฆ่าคนกวนโอ้ยที่อยู่ตรงหน้าตัวเองแทบขาดใจ..... มาทำคนเขาเป็นขนาดนี้แล้วยังมีหน้าไปนอนอีกเรอะ!!!

พฤกษหันขวับเดินไปที่ตู้เย็น หยิบกระป๋องเบียร์ที่ซื้อติดมือขึ้นมาเมื่อเย็นมาดื่มอักอักจนหมดกระป๋อง บีบบี้กระป๋องเสียงดังสนั่นห้อง ขว้างมันลงไปที่ถังขยะเสียงดังกราว---- เกรงใจทำไม ห้องนี้มันเก็บเสียงได้นิ ค่าห้องตั้งเท่าไหร่!

พฤกษเดินกลับไปที่เตียง ก้าวข้ามตัวคนกวนโอ้ยไปแบบตั้งใจให้เสียมารยาท ผ้าห่มไม่จำเป็น นอนทับมันไปเลย----- พฤกษนอนคว่ำแล้วหันหน้าไปหาคนกวนโอ้ย ปล่อยให้แสงรำไรจากระเบียง อาบไล้แผ่นหลังเปล่าเปลือยของตัวเอง ซึ่ง....... ไม่ใช่แค่หลังเฉยๆ ในเมื่อไม่ใส่เสื้อผ้ามันต้องเห็นหมดสิครับ



พนันกันว่าใครจะเสียม้า.....

.........

........

.......

......

เมื่อทุกอย่างในห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง สักพักใหญ่ธีจึงพลิกตัวตะแคงหันไปทางคนรัก!

ตาสบตา.... เขาผิดเองที่เลื่อนสายตาไปจากดวงตาคู่นั้น เลื่อนมันลงไปดูจนถึงปลายเท้าของเขา...

ธีข่มใจตัวเองอย่างหนัก แต่จะหลับตาก็ไม่ได้ จะเลื่อนสายตาขึ้นมาจาก “จุดสนใจหนึ่ง” นั้นก็ไม่ได้ เขาจำได้ถึงสัมผัสนุ่มเลื่อนของผิวที่เมื่อครู่ตนได้ลูบไล้และพรมจูบลงไป.....

“พี่ธี จำไว้นะ ถึงผมจะโกรธพี่ยังไง ผมก็รักพี่”

เขาเงยหน้าขึ้นมามองตาคนที่พูดว่ารักเขาในฉับพลันทันใดที่ประโยคนี้ลื่นเข้าไปในหูของเขา นิ้วของคนที่พูดจิ้มเล่นที่หน้าผากเขาพลางพร่ำพูดว่า “ลามก ทะลึ่ง เจ้าเล่ห์ ขี้เกรงใจ ปากหนัก เห็นแก่ตัว คิดเยอะ.....” ธีคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของอีกฝ่าย แล้วจูบที่กลางฝ่ามือนั้น

“พี่ธี......” เสียงครางฮึมเรียกขานชื่อเขา

“ครับ” รับคำแต่ไม่หยุดมือ

“หน้าไม่ให้แต่มือไวนะครับ” ว่าจากใจจริงเลย 'มือน่ะพี่ธี โอย....ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว'

“ฮึฮึฮึ... เห็นน้องแล้วมันเป็นไปเองนี่ครับ” โบ้ยความผิด

“เป็นด้วยตัวเองเหอะ! อย่ามาโบ้ยให้คนอื่น!” ไม่ลดให้ โบ้ยคืน

“ฮึฮึฮึ” เสียงหัวเราะของหมาป่าเจ้าเล่ห์ดังขึ้นได้ไม่นาน... เจ้าหมาป่าก็เริ่มขั้นตอนการทดสอบความหนาของกำแพงห้องกับลูกแกะน้อย

......

.....

....

...

..

.


ชีวิตรักที่อบอุ่นแบบหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ใครมองใครเห็นก็อิจฉา.... รักที่ไม่หวือหวา ค่อยเป็นค่อยไป เข้าใจกัน จับมือกันแน่น มันดูมีแต่ 'อนาคต'

.....

....

ความหวาน เมื่อเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง มันจะยังคงอยู่ตลอดไป เพราะความหวานเป็นโมเลกุลเล็กๆ ที่ง่ายต่อการติดตรึงอยู่ในหัวใจ----ทุกดวง

...

..

.
ความหวาน ไม่เคยมีใครอยากลืมมัน........ คิดถึงเมื่อไหร่ก็รู้สึกชุ่มชื่นในหัวใจ---- ต่างกับความขม.... ที่ใครก็ต่างอยากจะลืมมัน

ความขมเป็นโมเลกุลที่เล็กพอๆ กับความหวาน แต่ความขมมันหนัก ยิ่งเกาะหัวใจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหนัก... ยิ่งเกาะหัวใจดวงนั้นนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเจ็บ---หัวใจ

การลืม เป็นยาชนิดเดียวที่แก้อาการที่ว่านี้ได้....

หากลืมได้ ก็จะไม่เจ็บอีก...



************************









สำหรับท่านผู้มีอุปการะคุณที่หัวใจไม่แข็งแรง
ผู้เขียนขอแนะนำว่า โปรดรอจนขึ้นหัวข้อว่า [เวลา] จบในตัว เสียก่อนจึงกลับมาอ่าน
จะเป็นการทรมานหัวใจน้อยที่สุด

ด้วยความห่วงใยจากใจ

ผู้เขียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 10:13:05 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2



‘กูไปช้าหน่อยนะ’

ชายหนุ่มอ่านข้อความที่เพื่อนส่งมาหา เขาปิดหน้าจอแล้วเงยหน้ามองจุดหมายเดิมของสายตา... โต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เขานั่ง คนสามคนกำลังนั่งทานอาหารกันอย่างสนุก... ต่างจากเขา

โต๊ะหนึ่งในมุมมืด บดบังจากสายตาของใครหลายคนในร้านอาหารแห่งนี้ เขาคนเดียวที่กำลังนั่งอยู่ที่ตรงนั้น.... แต่จุดนี้สามารถมองเห็นคนคนหนึ่งได้ถนัดตา

เมื่อยิ่งมองนานเท่าไหร่เขาก็ยังอยากที่จะเชื่อ... ‘พี่ธี จำไว้นะ ถึงผมจะโกรธพี่ยังไง ผมก็รักพี่’

แต่หากวันนี้ไม่รักแล้วล่ะ...

หากเขาลืมไปแล้วล่ะ...

หากเขาเปลี่ยนไปแล้วล่ะ...

ความเป็นไปได้มีสูงมาก แต่ทำไมธีถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ ความห่างเหินและกำแพงสูงตะหง่านเมื่อครู่ยังตอกย้ำเขาไม่พอ... เพราะไม่เคยตัดใจได้ เขาจึงต้องมาหาบางอย่าง

ธีนิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง... ภาพที่เคลื่อนไหวได้ตรงหน้า ดูดีกว่าในความฝันมากมาย

ยิ่งมองก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งคิดถึงคืนวันเก่าก่อนก็ยิ่งปวด---- หัวใจ ....... ทว่า อีกฝ่ายคงเจ็บไม่น้อยกว่าไปเขาหรอก ดังนั้นแค่นี้ธีจึงทนได้

ครื๊อ ครื๊อ ครื๊อ.... เสียงสั่นกระพือของวัตถุที่อยู่บนโต๊ะ เพื่อนของเขามาแล้ว.... ธีรับสายและบอกทางเดินมาที่โต๊ะให้กับเพื่อน เขาสั่งอาหารเบาๆ มาก่อน ต่างก็ยังอยากคุยกันสักหน่อยก่อนเริ่มมื้อเย็น

“จิบกันหน่อยมั้ยวะ ท่านผู้ช่วย” เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาถามเขา

“ตามสบายคุณเถอะครับ ผมนิดเดียวพอ” เพื่อนประชด

เพื่อนสั่งเบียร์ 2 ขวดสำหรับวันนี้ เพราะเขาต้องขับรถกลับเองจึงไม่อยากดื่มเยอะ แค่จิบๆ ระหว่างคุยกันก็พอ

นานแล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาที่เมืองหลวงของประเทศ และเพื่อนคนนี้ก็ยุ่งมากจนเจอกันได้ยาก ถึงได้คุยกันบ่อยก็ตาม แต่ยังไงก็ไม่เหมือนนั่งคุยแบบเห็นหน้ากันแบบนี้

“มึงขับมาเอง?” ธีถามเพื่อน

“เออสิ กูมีสารถีกับเค้าเรอะ” ตอบเพื่อน

“อ้าว ไปนอนห้องเค้าก็ใช้เค้ามารับมาส่งสิ” แซวเพื่อน

“สัด คนเรานะเว้ย ต้องอยู่ด้วยตัวเองให้เป็น” โอ่กับเพื่อน

“กูพูดกับน้องพฤกษแล้ว เมื่อสักพักนี้เอง” ธีเปิดประเด็น

เพื่อนคนนี้ เข้าใจเขา เพราะมีบางอย่างที่เหมือนกัน นิสัยก็เข้ากันได้ดีเพราะความคิดคล้ายกันในบางเรื่อง ทศจึงเป็นที่ปรึกษากลายๆ ให้เขามาตลอด.... จะบอกว่าที่ปรึกษาก็ยากนะ เพราะทศไม่เคยให้ทางอะไรกับธีเลย ทศมักแค่รับฟังและพูดคุยด้วยเฉยๆ... แต่ก็นั่นแหละที่ธีชอบ ธีชอบคิดหาคำตอบด้วยตัวเอง แต่บางครั้งที่ธีตันเขาอยากลองฟังทางอื่นจากคนอื่นบ้าง

“แล้ว?” หน้าลุ้น

“หึ ก็อย่างที่กูบอกมึงไว้.....เฮ้อ------” ธีบอก

 ทำหน้าเซ็ง “แล้วจะจบมั้ย?” โบกมือพนักงานว่าไม่ต้องเทเบียร์ให้ แล้วทศก็รับขวดและแก้วมารินเบียร์เอง

“ไม่รู้วะ ไม่แน่ใจ” เสียงอ่อยลง ธีรับแก้วเบียร์ไปจิบ “มึงทรมานใจมากมั้ย? อย่าปิดกู เอาความจริง”

“ไม่ละ... ชิวๆ ว่ะ มึงไม่ต้องเสือกมาห่วงกู! ห่วงตัวมึงเองเหอะ ถึงกูจะอยู่แบบเจ็บๆ แต่กูมันเจ็บจนเป็นเรื่องปกติแล้วว่ะ แม่งก็เหมือนๆ หายใจเข้าออกนั่นแหละวะ” รินเบียร์ใส่แก้วของตัวเอง

“........” ธีเริ่มเข้าสู่ภวังค์

ไม่มีคำพูดคุยกันของเพื่อนทั้งสอง จวบจนอาหารว่างเริ่มมาวางบนโต๊ะ พออาหารตกลงท้อง... ทศจึงสรุปประสบการณ์ตัวเองให้เพื่อนรัก

“คนนะมึง แม่งต้องฝึกเดินกันทั้งนั้นละ... พอเดินได้หน่อยแม่งก็ต้องก้าวพลาด อนาคตกูแม่งจะดีหรือเลวกูก็ไม่รู้ แต่กูจะก้าวต่อไปว่ะ”

“........” ธียังอยู่ในภวังค์ แต่เขาก็ได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูด เขาเอากล่องใบหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะและไถมันไปทางเพื่อน

ทศรับมามาเปิดดูด้วยความงง ทว่าพอเขาเปิดกล่องมาแล้วเห็นของที่อยู่ด้านในนั้น ทศก็ยิ้มกริ่ม “นี่มึงจะขอกูแต่งงานเหรอ....”

“กูคงไม่ใช่คนที่มึงอยากให้พูดประโยคนั้นมั๊ง...ว่าแต่ชาตินี้มึงจะมีวันนั้นมั้ย กูจะได้เตรียมซองหนาๆ ไว้ให้!” ตอกกลับเพื่อนให้หน้าหงาย

“สัด! ทำเป็นสู่รู้! ปากนะปาก! ขอให้มึงเจอแต่ทางวิบาก สาธุ!” พนมมือไหว้...สาปแช่งด้วยความหมั่นเขี้ยว

“เอาแบบนี้ล่ะ! กูตัดสินใจแล้ว” ธีบอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“มึงเอาจริงน่ะ เล่นของใหญ่เลยนะมึง” พฤกษปิดกล่องแล้วไถมันส่งคืนเจ้าของ พลางขนลุกกับตัวเลขในหัว

“ตั้งใจให้น้องมาแต่แรกอยู่แล้วว่ะ จะให้กูไปใช้คนเดียวใจกูมันไม่กล้าพอ ให้น้องเขาไปยังดีกว่า” ธีรับกล่องนั้นไปเก็บ.... เขาเพิ่งได้มันมาเมื่อบ่ายนี้

สิ่งที่เขาต้องฟันฝ่าและบากบั่นมากถึงได้มันมาไว้ในมือ.... ครั้นวันที่มันมาอยู่ในมือจริง กลับไม่มีคนที่จะไปใช้ประโยชน์จากมัน----- แล้วเขาจะมีมันไว้เพื่ออะไร?

........

.......

......

.....

....

...

..

.

ความขม มันเป็นตะกอนเกาะกินหัวใจ----ทุกดวง

ความขมใครต่างก็อยากลืมมัน

....

...

..

.

หากแต่เราจะก้าวต่อไป เราต้องขุดความขมนั้นขึ้นมา.......อีกครั้ง


******************************
[/size]


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 15:44:13 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อยากกรี๊ดดดดดังดัง :L1:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


เมื่อพฤกษทำงานได้เกือบครบสามเดือน ธีได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ.... ทั้งที่อายุยังน้อยสำหรับตำแหน่งที่ว่า ทั้งที่ยังด้อยประสบการณ์ ทว่าเมื่อมีโอกาสธีต้องรีบคว้ามันไว้----- ตำแหน่งหน้าที่ที่ดี มีผลต่ออนาคตที่เขากำลังสร้าง ถึงตำแหน่งใหม่ของธีจะต้องมีภาระและหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น งานหนักขึ้นเป็นสองเท่าตัว แต่ด้วยตำแหน่งใหม่นี้ ธีจะสามารถยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านได้

“บ้าน” ที่ธีเคยคิดว่ามันใหญ่ไป กว้างไป ..... ตอนนี้ไม่แล้ว

ถึงบ้านไม่ใช่คำตอบของคำว่า “ครอบครัว” สำหรับใครหลายคน แต่บ้านก็เป็นพื้นที่ส่วนตัว บ้านเป็นหลักประกันให้กับพ่อแม่ได้ว่า คนเลวคนนี้ถึงทำให้พ่อแม่เสียใจ แต่คนคนนี้สามารถดูแลให้ความคุ้มครองและที่พักพิงแก่ลูกชายของพ่อแม่ได้------ ธีคิดเช่นนั้น

ธีตั้งใจเก็บอุบเรื่องบ้านเอาไว้คนเดียว ไม่ให้ใครรู้ ไม่ว่าน้าสาว เพื่อนสนิท พ่อแม่ของพฤกษ และแม้กระมั่งตัวพฤกษเอง.... ธีกะเก็บไว้เป็นความลับให้คนรักตกใจเล่น..... ก็ผู้ชายอ่ะนะ อยากดูแล อยากแทคแคร์ มีพลังเหลือเฟือหากได้ทำเพื่อคนที่รัก และธีก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเช่นกัน

พฤกษรู้ล่วงหน้าว่าธีได้เลื่อนตำแหน่ง แรกๆ ก็ดีใจด้วย แต่พอสองเดือนผ่านไปพฤกษเริ่มไม่ชอบ... ธีทำงานหนักมากเกินไปในสายตาพฤกษ เขาพยายามทำความเข้าใจธี

เห็นธีผอมลงพฤกษพยายามดูแล เห็นธีเงียบขรึมพฤกษพยายามทำให้ธีผ่อนคลาย แต่ธีไม่หือไม่อือกับเขาเลย.... แต่จะน้อยใจงานธีไม่ได้ นั่นงานเค้า งานของใครใครก็อยากทำให้มันดีที่สุด... พฤกษซึ้งในจุดนี้ จึงไม่เอ่ยปากว่าอะไรกับธี------และเก็บมันไว้ในใจ

เมื่อเก็บมันไว้มากๆ พฤกษก็เริ่ม “น้อยใจ” แต่พฤกษก็ดับมันด้วยคำว่า---- ไม่เป็นไร

.

..

...

....

.....

ธีตั้งใจทำงาน บางครั้งก็ลืมที่จะดูแลน้อง แต่พอนึกได้ทีถามน้องที น้องตอบเขาว่าไม่เป็นไร ธีจึงทำงานต่อไปด้วยความสบายใจ.... ธีคิดว่า มีคนที่รักอยู่ด้วยกันในห้องของเรา ได้นอนกอดคนที่รักทุกคืน ธีมีความสุขและมีแรงใจไปสู้กับงานที่หนักหน่วง

หกเดือนแล้วที่เขากรำงานหนักอยู่ที่ออฟฟิชจนต้องค้างที่นั่นในบางช่วง บ้างครั้งก็เอางานกลับมาที่ทำที่ห้องบ้าง... สงสารเหมือนกันที่เห็นน้องนั่งดูทีวีคนเดียว สิ่งที่เคยทำด้วยกันธีก็ไม่ได้ทำมันเลย เขามัวแต่ทุ่มเทกับงานนี้ เพราะหากมันสำเร็จ----- โบนัส

หกเดือนผ่านพ้น โบนัสของธีกลายสภาพไปเป็นเงินดาวน์บ้าน

ด้วยความดีใจ.... เขารับงานใหม่ที่ผู้จัดการเสนอมาให้ทำต่อในทันที----- เหนื่อยเท่าไหร่เขาทนได้ เพื่อน้อง เพื่ออนาคตของเรา

ตะกอนชั้นที่หนึ่งเริ่มค่อยๆ  ก่อตัวบนทางรักของพฤกษและธีโดยที่ทั้งสองต่าง---- ไม่ทันใส่ใจ

ความน้อยใจ นำมาสู่.....ความไม่เข้าใจ

ความไม่เข้าใจ นำมาสู่.....ความเบื่อ

ความเบื่อเซ็ง นำมาสู่......ความเหงา

ความเหงา นำมาสู่......ความฟุ้งซ่าน

สองอันดับท๊อปไฟว์ของสาเหตุที่คู่รักต้องเลิกกันมากที่สุดคือ “มือที่สาม” และ “รักระยะไกล”

แต่นั่นคือปัจจัยภายนอก หากปัจจัยภายนอกไม่เกี่ยวมือที่จับกันแน่นให้แยกจากกันได้ ปัจจัยภายในนั่นแหละที่อาจทำให้มือที่จับกันแน่นนั้นคลายกัน

.......

......

.....

....

...

..

.


ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

.....

....

...

..

.

“ธี คุณหวังเรียกพบจ๊ะ” พี่หญิงหัวหน้าฝ่ายเลขาเดินมาบอกเขา ธีสงสัยเล็กน้อยกับหน้าที่กระอักกระอ่วนของเธอ

ก่อนที่ธีจะเดินไปจากโต๊ะ เธอมาจับแขนของธีไว้ และกระซิบแบบให้ได้ยินกันแค่สองคนว่า “ธี... พี่เชื่อใจธีนะ ไปซะ อย่าช้า” แล้วเธอก็เดินไปจากตรงนั้น เลี้ยวหายเข้าไปในฝ่ายบัญชี

บริษัทที่ธีทำงานอยู่ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่พยุงตัวเองรอดในกระแสเศรษฐกิจที่ผันเปลี่ยนฉับไวในทุกวันนี้ ถึงตำแหน่งที่ธีได้มาอาจดูน่าปรามาสสำหรับคนที่ทำงานในบริษัทใหญ่โต ทว่า กับบริษัทขนาดเท่านี้ อายุและประสบการณ์ของธีสามารถนำบุคลากรคนหนึ่งมาถึงจุดนี้ได้ ไม่แปลก.....

ธีรับมันมาพร้อมความตั้งใจที่ดี เขาทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้กับบริษัท เขาพยายามไม่รู้กี่เท่าตัว เพื่อเรียนรู้งานและลงมือกระทำมันด้วยความละเอียดรอบคอบ จะได้รับคำชมหรือไม่ธีไม่คาดหวัง เขาเพียงแค่ทำให้ดีที่สุดเพื่อทดแทนโอกาสที่ลอยเข้ามาสู่มือของเขา...เท่านั้น

ธีเดินมาถึงห้องผู้บริหารของบริษัทตัวเอง เคาะประตูสามทีตามมารยาท แล้วจึงเปิดประตูเข้าไป

“เชิญครับคุณธี นั่งก่อนครับ” คุณหวังบอก

“ขอบคุณครับ” ธีนั่งลง แล้วมองผู้บริหารนิ่ง

“คุณเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการได้......” คุณหวังก้มหน้าดูแฟ้มที่กางไว้ตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “6 เดือนสินะครับ”

“ครับ ย่างเดือนที่เจ็ดแล้วครับ” ธีเริ่มใจสั่น ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี บรรยากาศแบบนี้ถือว่าไม่ปกติ

“คุณทำงานกับเรามาได้ 2 ปีแล้ว นานนะครับ หากเป็นคนหนุ่มมีความสามารถจะมาถึงขั้นนี้...มันก็ไม่ยาก” คุณหวังบอกเขา

คำในประโยคนั้นฟังดูแปลกพิกล จะว่าเป็นคำชมมันก็ไม่ได้ ธีไม่รู้ว่าผู้บริหารหมายถึงอะไร และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาที่นี่ ธีเลือกที่จะเงียบและนั่งฟังต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่เอ่ยถามอะไรจากเขา

“ผู้จัดการของคุณถูกไล่ออกไปเป็นการภายในเมื่อวานนี้ โดยผม.... ส่วนเอกสารผมเพิ่งส่งให้เลขาดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้” น้ำเสียงเรียบลื่นคล้ายการบอกเล่าให้กันฟัง

ธีใจหายวาบ นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ขึ้นมาได้ ‘พี่เชื่อใจธีนะ’

“คุณอยากถามมั้ยครับว่าผมไล่เขาออกเพราะอะไร?” คุณหวังเปิดประเด็นให้ธี

“ครับ ผมอยากทราบ” ธีตอบ

“ยักยอกเงินบริษัทในโครงการที่คุณดูแลเมื่อหกเดือนก่อน ซึ่งคุณจะตอบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ก็ตาม ผมรับฟัง แต่กระบวนการตรวจสอบ ผมก็ยังต้องให้เขาดำเนินการต่อ หวังว่าคุณคงเข้าใจ”

ราวกับฟ้าฝ่ากลางห้อง ความเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศ ไม่อาจห้ามธีไม่ให้มีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากได้

สายตาของคุณหวังไม่ได้ตัดสินเขา แต่สายตานิ่งๆ แบบนั้นก็มีความหมายว่า---- ไม่ไว้ใจ

“ผมไม่ทราบครับ ผมทำงานของผม ตามหน้าที่ ด้วยความสัตย์จริง และไม่พบสิ่งผิดปกติ”

“คุณต้องไม่พบครับ ถึงคุณทำงานมาหลายปี แต่ประสบการณ์เท่านั้น คุณไม่ทันเล่ห์แบบเขาหรอกครับ แม้ผมก็ตาม.... เจอก็เมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้ว” คุณหวังบอก

“ผมต้องถูกปลดใช่มั้ยครับ” ธีชิงถามก่อน

“ยังครับ ให้การตรวจสอบเสร็จก่อน หากคุณคลีน ผมจะพิจารณาต่อว่าคุณเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ ที่สำคัญในตอนนี้ผมต้องหาผู้จัดการคนใหม่ที่เป็นงานและไว้ใจได้”

คำพูดที่ดูเป็นเหตุเป็นผลแต่สรุปจบอย่างเด็ดขาดจนธี----เจ็บ

ธีเจ็บใจที่ตัวเองด้อยประสบการณ์แบบที่คุณหวังว่า.... ถึงแม้คุณหวังเข้าใจว่าเขายังเด็กเกินไป ทว่า ในอีกแง่นั่นคือการการันตีว่า “ธีความสามารถไม่ถึงกับตำแหน่งที่ได้มา”

อนาคตที่เป็นรูปร่างพังคลืนลงในพริบตา

..........

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.

“พี่ธีเป็นอะไรครับ”

แขนของเขาถูกเขย่า

“อ๊ะ เปล่า... ยังเหลืออะไรอีกมั้ย?” ธีถาม

“ไปดูของสดกัน ทุ่มนึงแล้ว น่าจะลดราคาแหละ” พฤกษเดินนำธีไปที่แผนกของสด ธีเข็นรถตามไป พร้อมตั้งสติให้ได้.... ยังไม่ได้ถูกไล่ออก ยังมีความหวังว่าจะได้อยู่ในตำแหน่ง ธีมั่นใจในฝีมือ และความซื่อสัตย์ต่อองค์กรของตัวเอง ---- ‘อย่าตีตนไปก่อนไข้’ ธีบอกตัวเองเช่นนั้น

“พี่ธี เอาหมูไปนะ ผมอยากกินหมู” พฤกษชูหมูที่ลดราคาให้ธีดู ธีพยักหน้ารับ

พฤกษถือหมูมาวางในรถเข็นแล้วบอกว่ากลับกันได้ ... ธีเลยเข็นไปรอชำระเงิน

ช่วงหลังมีปากเสียงกันบ่อย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้น.... พฤกษเริ่มโวยที่เขาคร่ำเคร่งอยู่แต่กับงานมากจนเกินไป เสียสุขภาพบ้างล่ะ ซีเรียสกับชีวิตเกินไปบ้างล่ะ ไม่มีเวลาให้กันน้อยบ้างล่ะ ไม่ชอบพี่ธีแบบนี้ และอื่นๆ อีกมากมาย

แรกๆ ธีฟังผ่านหูไป แต่พอนานวันเขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มเกิดความไม่พอใจ

‘เขาทำงานหนักเพื่อใคร...’ คิดประโยคนี้ขึ้นมาทุกครั้งที่เริ่มน้อยใจกับคำว่ากล่าวหรือท่าทางไม่พอใจของคนรัก

สำหรับคนที่ไม่มีเงินมารองให้ใช้แบบคนอื่นอย่างเขา ธีเหลือแค่ต้องพยายามให้หนัก และหนักที่สุด เขาถึงได้ในสิ่งที่ต้องการ.... โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ เขาต้องคว้าและจับมันไว้ให้สุดความพยายาม สุดกำลังทั้งหมดที่มี

ความเครียดสุมหัว งานก็ต้องมีเรื่องให้คิดมากมาย เจอปัญหาร้อยแปดพันเก้าในที่ทำงาน กลับห้องมาเจอประโยคเดิมๆ ของพฤกษ ถึงรู้ว่าน้องพูดเพราะไม่ชอบใจและไม่ได้เอาความอะไรจริงจัง แต่พอได้ยินซ้ำหลายครั้งเข้า ธีก็เจ็บและน้อยใจเป็นเหมือนกัน....

จริงอยู่ว่าหากรักกันเราต้องแชร์ชีวิตกัน แชร์ทุกข์สุขกัน แต่ธีเป็นผู้ชายที่มีศักดิ์ศรีค้ำคอ เขาจึงไม่เล่าความผิดพลาดของตัวเองให้พฤกษฟัง.... ธีเก็บมันไว้...ในใจคนเดียว โดยมองคนที่รักเป็นแรงใจให้ตัวเอง

หลายครั้งแล้วที่หงุดหงิดโมโหจนเผลอตะคอกใส่น้อง กว่าจะกดอารมณ์ลงได้มันยิ่งใช้เวลานานขึ้นทุกวันๆ.... หลังจากที่มีปากเสียงกันทุกครั้ง น้องจะเฉย เขาก็เฉย.... แล้วเดี๋ยวไม่กี่วันก็กลับมาพูดกันได้ใหม่

‘แบบนี้ก็ดี’ พฤกษคิดในใจ

ธีง้อไม่ค่อยเป็น และยิ่งช่วงนี้ในหัวมันเครียดจนแทบระเบิด ธีไม่อยากปวดหัวกับอะไรอย่างอื่นนอกจากเรื่องงาน

ระหว่างทางไปที่รถ พฤกษหยุดดูของอยู่ที่ร้านหนึ่ง ทีแรกธีใจลอยจนเดินเลยไปไกลแล้ว พอรู้สึกว่าคนที่เดินนำหายไป ธีเหลียวหลังมาดู จึงพบตัวพฤกษและเดินลากรถเข็นถอยหลังกลับไปหา

“อยากได้อะไรเหรอครับ?” ธีถาม

“พี่ธี อันนี้สวยมั้ย เรียบๆ ดีเนอะ” พฤกษชี้ให้ดูแหวนวงหนึ่ง

“อือ... นี่เหรอ.... ก็ดีนะ เรียบแต่ไม่น่าเบื่อ” ธีบอก

“พี่ครับ วงเนี้ย...เท่าไหร่ครับ?” พฤกษถาม

พนักงานขายบอกราคาของมัน.... ไม่ได้แพงเวอร์ แต่ก็มีราคาสูง

“ลายนี้มีอีกมั้ยครับ” พฤกษถามต่อ

“ลายนี้....ไม่แน่ใจว่าจะมีมาอีกไหมนะคะ” พนักงานยิ้มแย้ม

“มีวงเดียวเหรอ” เสียงเสียดายมาก

“เอ่อ...คือวงนี้มีคนจองไว้แล้วค่ะ แต่ยังไม่มารับของ ต้องขออภัยด้วยที่นำมาโชว์โดยไม่ได้ติดป้ายจอง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ” พนักงานก้มหัวนิดๆ อย่างมีมารยาท

“อ้าว เหรอครับ” เสียงเสียดายยิ่งกว่าเดิม

“ลายเราสั่งทำได้ใช่มั้ยครับ?” ธีถามให้

“ได้ค่ะ แต่ลายนี้ถึงดูเรียบแต่มันมีความละเอียดอยู่ ลองดูใกล้ๆ นะคะ” พนักงานหยิบออกมาให้ธีและพฤกษดู

“ช่างไม่ค่อยรับทำกันค่ะ วงนี้พอดีเจอช่างคนใหม่ แต่ช่างก็มาประสบอุบัติเหตุ ไม่แน่ใจว่าจะหายดีเหมือนเดิมมั้ย เค้าต้องพักฟื้นทำกายภาพบำบัดค่ะ มือจะแข็งแรงจนกลับมาทำงานช่างได้เหมือนเดิมไหม ยังไม่แน่เลยค่ะ” เธอบอก

ก่อนเดินออกมา ธีขอนามบัตรของร้านไว้ และแจ้งที่ร้านว่า หากสามารถทำได้ให้ช่วยแจ้งด้วย เธอรับคำและกล่าวขอบคุณด้วยความสุภาพนอบน้อม

“เค้าพูดดีเนอะพี่ธี” พฤกษชม

“อื้อ คนค้าขายนะ ถึงเราไม่ซื้อ แต่หากพูดอย่างนี้ เราเองล่ะที่ติดใจแล้วจะกลับมาซื้อจนได้” ธียังอดชมไม่ได้

“เนอะ ไว้มาลุ้นกันว่าจะได้ลายนั้นมั้ย เดี๋ยวผมเก็บเงินตั้งแต่วันนี้เลย” พฤกษบอก

“แหวนหมั้นพี่ซื้อให้ได้นะ” ธีส่งยิ้ม

“หื๊อ...มีใครเค้าซื้อแหวนหมั้นให้ตัวเองมั่งมั้ย” พฤกษตอกกลับ

ธียิ้มให้กับรอยยิ้มยียวนของคนที่เดินอยู่เคียงข้าง

ไม่ว่าพายุจะลมแรงแค่ไหน หากมีคนที่รักอยู่เคียงข้าง เราก็เดินฝ่าพายุนั้นไปได้...... เดินก้าวต่อไปด้วยความเชื่อมั่น

ทว่า.....

.....

....

...

..

.

หลังจากวันนั้น คุณหวังเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก น้อยครั้งที่จะกลับมาไทย งานที่เมืองไทย คุณหวังฝากให้ญาติคนหนึ่งมาดูแลแทนโดยประจำอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการชั่วคราว เมื่อไม่มีคุณหวังอยู่ที่บริษัท อำนาจสิทธิ์ขาดจึงอยู่ที่ผู้จัดการชั่วคราว

คนในบริษัทไม่มีใครรู้เรื่องที่ผู้จัดการคนก่อนยักยอกเงินไป คุณหวังต้องการให้เรื่องเงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้ ดังนั้นคนที่รู้เรื่องนี้จึงมีแค่ คุณหวัง พี่หญิง หัวหน้าฝ่ายบัญชี.....และผู้จัดการชั่วคราว

ผู้จัดการชั่วคราวแต่ในนามทำงานเป็นไหม ทำงานไหม...ธีไม่แคร์ งานเป็นไปตามทางของมันได้ เพียงแค่เขาและคนอื่นๆ ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็เท่านั้น การเหนื่อยครั้งนี้ไม่ต่างจากที่อดีตผู้จัดการเคยให้ธีลงมือทำ.....

ความเหนื่อยไม่ได้บั่นทอนใจของธีเท่าการกระแหนะกระแหนจาก..... ผู้จัดการชั่วคราว

ญาติคุณหวังปักใจเชื่อว่าเขามีส่วนรู้เห็นกับการยักยอกเงิน พอพี่หญิงเข้ามาช่วยแก้ต่างให้ ก็ถูกเพ่งเล็งไปด้วย.... งานที่ว่าหนัก มันจะหนาเท่าไหร่ก็ไม่สู้.....คับใจ

.......

......

.....

....

...

..

.

ธีกลับมาฉุนเฉียวเหมือนเดิมอีกครั้งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย คราวนี้ธีเงียบกว่าเดิม และยิ่งน่ากลัวมากขึ้นทุกวัน บางวันพฤกษเองยังเข้าหน้าไปติด

ครั้งหนึ่ง...

“ที่บริษัทพี่เค้าทำงานกันไม่เป็นเหรอ งานแค่นี้ก็ต้องให้พี่ทำเองด้วย”

“ปึ๊ง....” เสียงกระแทกโต๊ะปังด้วยกำปั้น เอกสารกองพะเนินล่วงกราวลงสู่พื้น

พฤกษยืนทื่อกับที่

คนที่เคยนั่งลุกขึ้นและเดินตรงไปทางระเบียงห้อง เขาพูดทิ้งท้ายก่อนปิดประตูกระจกว่า “ไม่ต้องเก็บ! ปล่อยมัน!”

พฤกษเดินเข้าไปเก็บเอกสาร รวบรวมมันไปเป็นกองๆ ทางทิศทางที่มันล่วงมา กะว่าเดี๋ยวพี่ธีอารมณ์เย็นลงแล้วจะไปขอโทษ ที่ไหนได้ พอเก็บกระดาษที่เกลื่อนพื้นเสร็จไม่ทันไร กระจกก็เลื่อน และเสียงตวาดก็ดังตามมา “บอกว่าไม่ต้องเก็บ เก็บทำไม!”

พฤกษตัวแข็งอีกครั้ง

“มันรก...หูรกตา แต่หากอยากได้เหมือนเดิม...” พฤกษกวาดกระดาษที่เป็นตั้งหลายกองบนโต๊ะเลื่อนให้ตกลงมากระจายเต็มพื้น...ยิ่งกว่าเดิม

“พฤกษ! ทำไมทำแบบนี้!” ทีตวาด

“อยากเก็บเองไม่ใช่เหรอครับ เชิญ!” พฤกษพูดจบก็เดินกระแทกเท้าปึงออกไปจากห้อง กระแทกประตูห้องตอนปิด----- ทำทุกอย่างที่พี่ธีไม่ชอบ

สนใจกันบ้าง

ฟังกันบ้าง

หากพูดดีๆ ไม่ฟังก็พูดกันแบบนี้ล่ะ!

ครั้งหนึ่งไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งหนึ่งไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เมื่อเรื่องมันวนเวียนซ้ำเดิมไปมาหลายครั้งเข้า... ความอดทนของคนก็มีขีดจำกัด

เคยยอมแล้ว เคยเลี่ยงแล้ว เคยเฉยแล้ว.... แต่ไม่ใช่ถังขยะรองรับอารมณ์ใคร หากไม่รู้ตัว คนที่รักกันต้องบอกกันให้รู้สึกตัว

.....

....

...

..

.













ค่อยๆ ลงนะ
กลัวว่าวันอาทิตย์ "ดีแต๊ก" จะสู้เขามะด้าย
(แต่ไม่จบอยู่ดีอ่ะ  :monkeysad: ทำไมยาวอีกแย้วววว)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 15:55:10 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

...

..

.

พี่ธีไม่เหมือนเดิม พี่ธีไม่ค่อยใส่ใจกันเหมือนเก่า พี่ธีชอบทำหน้าเซ็ง ถึงเขาพยายามร่าเริงยังไง ชวนพี่ธีให้สดชื่นยังไง พี่ธีก็ยังทำหน้าเซ็ง เครียด และเบื่อ..... พฤกษรู้ว่างานมันเครียด งานมันหนัก แต่พฤกษอยากให้พี่ธียิ้มออกและสบายใจเวลาที่อยู่กันสองคน อยู่ในห้องของเรา พื้นที่ของเรา

ความเซ็งเครียดและเบื่อ มันถ่ายทอดกันทางอากาศ หากคนหนึ่งเป็นโรคนี้ อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะเป็นไปด้วย...ในสักวัน

พฤกษเองก็พยายาม... แต่เมื่อนานวันไป สิ่งที่ไม่ควรคิดมันก็คิดขึ้นมา

ไม่ได้อยากทะเลาะด้วยเลย ไม่ได้อยากเถียงด้วยเลย... แต่เห็นพี่ธีแบบนั้นแล้วมันอดปากไม่ได้

ยิ่งคิดก็ยิ่งใจเสีย ไม่มีพี่ธีอยู่ใกล้ๆ ยิ่งใจหาย ยิ่งพี่ธีไม่อยู่ในห้องด้วยกันมากวันมากแค่ไหน ความฟุ้งซ่านมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ... ถึงรู้ว่าพี่ธีไม่มีคนอื่น แต่ห้ามความกลัวไม่ได้----- กลัวพี่ธีเบื่อ กลัวพี่ธีรักน้อยลง กลัวพี่ธีไม่รัก

การถามคำถามคนอื่นแต่ต้องมานั่งวนเวียนอยู่ในคำตอบที่คิดเอาเอง...นานวันเข้า ความน้อยเนื้อต่ำใจก็เริ่มปรับนิสัยของคนที่ตั้งคำถามให้แปรเปลี่ยนเป็นใครอีกคนที่... งี่เง่า พูดไม่รู้เรื่อง เอาแต่ใจ ไม่ยอมเข้าใจ----- สุดท้าย “คนน่าเบื่อ”......โดยไม่รู้ตัว

.....

....

...

..

.

“โจ้.... มึงว่าพี่ธีหมดรักกูแล้วรึเปล่า?” พฤกษถามเพื่อนที่นั่งกินข้าวอยู่ตรงข้าม

นานแล้วที่ไม่ได้กินข้าวที่ห้อง และนานยิ่งกว่าคือไม่ได้กินข้าวร่วมกับคนที่ตัวเองรัก... กินข้าวอยู่คนเดียวมันเหงา พฤกษเลยต้องชวนใครก็ได้มากินข้าวด้วย

“มึงอย่าคิดมากสิ มึงบอกกูเองว่าพี่เค้าทำงานหนักมากไม่ใช่เหรอ?” โจ้ท้วงเพื่อน

“เออ ไม่กลับมานอนที่ห้องจะสองอาทิตย์แล้ว อีกห้าวันก็ครบเดือนละมึง... คนรักกันทำกันอย่างนี้เหรอมึง” พฤกษเริ่มน้ำตาเอ่อ

“พี่ธีมีกิ๊กมั้ย?” โจ้ถามเพื่อน

“เชี่ย ไม่มี ถามเหี้ยอะไรเป็นลาง” ด่าสวนทันที

“แล้วมึงจะห่วงอะไร พี่เค้ารักมึง ที่เค้าทำงานหนักเพราะอยากมีอนาคตไง... ยิ่งสูงยิ่งหนักนะมึง” โจ้พูดถึงตำแหน่งของแฟนเพื่อน

“เอาต่ำแหน่งธรรมดา แล้วได้อยู่ด้วยกันแบบเดิมดีกว่า” พฤกษคิดถึงวันวาน

“มึงน่ะ นิสัยเสีย ไม่ชอบคิดไกล สาระในชีวิตมีน้อย ให้พี่ธีที่มีสาระในชีวิตเยอะๆ นำทางชีวิตให้มึงเถอะ” โจ้เริ่มฉิวเพื่อน คนดีๆ แบบที่ธีใครเห็นใครก็อยากได้... มันน่าด่ามั้ย

“อยากได้แบบเดิมอ่ะโจ้ ไม่เอาแบบนี้ กูเหงา” พฤกษครางครวญ

“มึงต้องทนนะ คนจนๆ อย่างเรา หากไม่ขยันมากๆ มันไม่ก้าวหน้านะมึง มึงก็ทำตัวเป็นเมียที่ดีหน่อย ไม่ใช่เอะอะก็ว๊ากใส่พี่เขา.... พี่เขากลับมาเหนื่อยๆ ให้เค้าพักบ้างไรบ้างสิวะ” โจ้สอนเพื่อน

“........ ก็พี่ธีอ่ะ ทำแต่งาน งาน งาน อะไรๆ ก็งาน งาน งาน กูเห็นแล้วเบื่อ.... ที่ออฟฟิชกูแม่งก็น่าเบื่อ มีแต่ขัดขากัน ชิงดีชิงเด่นกัน กูเซ้ง กูเครียด กลับบ้านกูไม่อยากได้ยินเรื่องงาน เปิดประตูเข้าไป พี่ธีนั่งหน้าทื่อเป็นรูปปั้นอยู่กับงาน! กูเห็นก็เครียดตามดิ เสาร์เอย อาทิตย์เอย วันหยุดเอย ไม่ให้ปี๊ดได้ไงวะ” ว่าแล้วก็เทเบียร์ใส่แก้ว

นี่ก็อีกเรื่อง รู้ว่าพี่ธีไม่ชอบให้ดื่มของมึนเมา แต่เพราะพี่ธีนั่นแหละทำให้เขาต้องดื่ม... ไม่กรึ่มมันนอนไม่หลับ นอนคนเดียวมันเหงา ยิ่งพี่ธีไม่อยู่ในห้องด้วยยิ่งเหงาไปกว่าเดิม แล้วพอได้เจอพี่ธีสักทีหลังจากที่ทนเหงามานาน พี่ธีก็ไม่ใส่ใจกันอีก

มีก็เหมือนไม่มี แล้วจะมีพี่ธีไปทำไม-------- โมโหทีก็คิดแบบนี้ที นึกได้ทีก็คิดถึงเขาอีก วนไปเวียนมาอยู่แบบนี้

“มึงไปบ่นพี่เค้ามาก ระวังเหอะ เค้าจะเบื่อมึงมั่ง ทำตัวไม่น่ารัก” โจ้จิ้มหน้าผากเพื่อน

“ไม่ได้บ่น แค่บอกให้รู้สึกตัวเฉยๆ ว่า ทำงานเยอะเกินไปแล้ว” เถียงคอเป็นเอ็น

“มึงยังไม่ได้ทำงานที่มึงชอบจริงๆ ลองมึงได้ทำแผนกที่มึงฝัน สักวันนะ มึงจะเป็นแบบพี่ธี จำไว้ถึงมึงเป็นเมียพี่ธี แต่มึงก็เป็นผู้ชาย!” โจ้ท้าพนัน

“ทำไมมึงต้องเข้าข้างพี่ธี! กูเพื่อนมึงนะ” ทวงความเป็นเพื่อน

“เพราะแฟนกูเค้าก็เป็นแบบมึงเนี่ยล่ะ กูล่ะเริ่มเบื่อแหละ กลับห้องแล้วไม่เป็นห้อง เบื่อมากๆ กูจะเลิกแหละ กูเลยเตือนมึงไว้ก่อน!” โจ้ขู่เพื่อน

“ปากหมา คนเค้ารักกันดีเว้ย” เถียงเพื่อน

“แบบเนี้ย เฮอะ” โจ้ชี้หน้าว่าที่พูดมานั่นไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป

“กูโกรธมึง” พฤกษลุกพรึบออกไปจากโต๊ะ

ก้าวจ้ำด้วยความโมโหมาได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงเพื่อนไล่ตามหลังมา “ร้อนให้น้อยๆ หน่อยเดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือนนะ!”


**********************************






ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


เมื่อมีปากเสียงกันมากขึ้น รุนแรงมากขึ้น ธีหาได้ทันเอะใจอะไรไม่ เพราะในขณะเดียวกันกับที่เกิดไฟลุกใน “บ้าน” ที่ทำงานของธีก็กำลังจะเกิด “การวางเพลิงไหม้” เช่นกัน

ญาติคุณหวังเธอไม่ทำงานธีไม่ว่า แต่เธอเอาเงินในบริษัทไปใช้ส่วนตัวโดยไม่มีการยั้งคิด ถึงแม้มันไม่ใช่จำนวนมากแต่ควรหรือที่เอาเงินจากน้ำพักน้ำแรงคนอื่นไปใช้แบบนี้.... ถึงเป็นญาติก็ตาม ธีจึงเริ่มขอความร่วมมือจากคนอื่นๆ ให้ช่วยกันคุมก็แล้ว ทว่า----- นึกถึงคำของคุณหวังขึ้นมา

คุณไม่ทันเล่ห์ของคนแบบนั้นหรอก------

เป็นความจริง!

คนที่ซื่อสัตย์มาตลอดชีวิตแบบนี้แบบธี จะคิดตามเล่ห์คนโกงทันได้ยังไง

ด้วยเหตุนี้ ช่วงหลังธีจึงอยู่โยงที่ออฟฟิชและไม่ค่อยกลับมาที่ห้อง... นอกจากความมุมานะที่จะสางปัญหาภายในแล้ว ธีเลี่ยงที่จะกลับบ้านเพราะไม่อยากมีปากเสียงกับพฤกษ

พฤกษเถียงเขามากขึ้นทุกวัน พูดแรงๆ ใส่กัย แดกดันกัน ทำปึงปัง.... ทำทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ ธีไม่อยากให้คำว่า “เบื่อ” กับคนที่รัก แต่เวลานี้เขา “เบื่อ” ........ ทว่าเพราะยังรักถึงเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากันเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น

อีกไม่กี่เดือนคุณหวังจะกลับมาแล้ว เมื่อพ้นช่วงนั้นไป ธีคิดว่าจะลาออกไปสมัครงานที่ใหม่..... และกลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่กระเซอะกระเซิงของตัวเอง....

ขอเวลาอีกนิด---- ธีบอกกับตัวเองเช่นนั้น

.......

......

.....

....

...

..

.

ธีนั่งหน้าตึงฟังคนคนหนึ่งรายงานสิ่งที่ไม่ได้เป็นจริงในเรื่องของตัวเองด้วยใบหน้านิ่งขรึม แต่ใจธีนั้นเดือดเป็นไฟ

พี่หญิงช่วยเถียงแทนธี เสียงโต้ตอบกันไปมาระหว่างผู้หญิงสองคนทำเอาธีปวดหัวตุบ ญาติคุณหวังยืนยันที่จะไล่ธีออก และให้คืนเงินโบนัสก้อนนั้นภายในหนึ่งอาทิตย์

“ได้ครับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้.... คุณเป็นผู้จัดการชั่วคราวเท่านั้น!”

“ชั้นมีสิทธิ์เทียบเท่าผู้บริหาร ไอ้คนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา!”

ธีกัดฟันกรอด “หากคุณหวังได้ดูรายงานการตรวจสอบนี้แล้ว และคุณหวังพิจารณาด้วยตนเองว่าผมสมควรต้องลาออก ผมจะไปก็ต่อเมื่อคุณหวังมาพูดกับผมด้วยปากตัวเอง โดยไม่ผ่านปากใคร! และเงินก้อนนั้น ผมจะคืนให้กับมือคุณหวังเท่านั้น!”

“ทำเป็นผยองไปเถอะ เอกสารปลดเธอจากตำแหน่งชั้นเซ็นต์แล้ว มีผลทันที ฮึ” เธอวางเอกสารไล่ออกไว้บนโต๊ะ และเดินหน้าเชิดออกไป

น้องชายคุณหวังไม่ประสงค์ดี ธีกับคุณหญิงและคนเก่าแก่ในบริษัทระแคะระคาย น้องชายคุณหวังอยากได้บริษัทนี้ไปทำต่อ เพราะเล็งเห็นว่าทำกำไรได้ในช่วงนี้ ภรรยาของเขาที่มาอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการชั่วคราวแอบทำให้งานดูยุ่งยากและมีแต่ปัญหา ด้วยหวังให้คุณหวังปล่อยมือจากบริษัทนี้

คุณหวังมีหุ้นอยู่ในหลายบริษัท หากอยู่เฉยๆ ก็มีเงินใช้สบายไปทั้งชีวิต แต่บริษัทนี้คุณหวังทำด้วยตัวเองมานาน นานจนเลิกไม่ลง บริษัทนี้ถึงแม้ไม่ใช่งานในแบบที่ธีชอบ แต่ด้วยที่มีคุณหวังเป็นผู้บริหารธีจึงอยากเรียนรู้งานที่นี่... คนซื่อสัตย์ย่อมอยากเรียนรู้งานจากคนซื่อสัตย์

ด้วยเหตุนี้ธีจึงยอมสู้หัวชนฝากับญาติคุณหวังคนนี้... เขาตัดสินใจไว้นานแล้ว เสร็จงานนี้เขาลาออกแน่

เงินหลักแสนต้นๆ ตั้งแต่มันมาอยู่ในบัญชีของธีมันมากหรือน้อยธีไม่เคยเห็นความสำคัญของมัน ธีไม่เคยคิดที่จะมองและแตะต้องมันด้วยซ้ำ ชั่วชีวิตนี้เขาคิดว่าจะไม่ใช้มันเด็ดขาด! เงินจำนวนหนึ่งซึ่งแลกมาด้วยชีวิตของผู้เป็นที่เคารพรักของธี

เงินเก็บที่ได้มาจากประกันชีวิตของพ่อและแม่ซึ่งธีไม่เคยแตะเลย เขาอาจต้องเอาเงินก้อนนี้ไปคืนบริษัท หรือเขาอาจใช้อีกวิธี..... ทว่าหากธียอมเป็นหนี้  มันจะสร้างภาระให้กับธีและพฤกษในอนาคต

สุดท้ายธีจึงไม่เลือกทางนั้น ธีตัดใจที่จะนำเอาเงินประกันมาใช้ และเตรียมใจเดินหน้าหาเอาใหม่....

อีกหนึ่งเดือนคุณหวังจะกลับ... ทนอีกแค่เท่านี้

ธีตั้งมั่นว่า หากเขาจะไปเขาต้องส่งงานและเงินคืนสู่มือคุณหวังไม่ใช่มือคนอื่น!

.....

....

...

..

.

อนาคตที่มืดมัวกองอยู่ข้างหน้า

เดือนหน้าต้องเริ่มผ่อนบ้านแล้ว เขายังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปเข้าธนาคาร ธีไล่คิดค่าใช้จ่ายรายเดือนแล้ว มันพออยู่ได้สัก 2 เดือนหลังจากที่เขาลาออกโดยที่ว่ามานี้ ไม่ได้ร่วมค่าผ่อนบ้านแต่อย่างใด

ธีละอายและอับอายกับความผิดพลาดพลั้งของตัวเอง... จนไม่มีหน้าไปมองน้อง แต่ก็อยากเจอใจจะขาด อยากคุยด้วย แต่เขารู้ว่าน้องอารมณ์ไม่ดีมาก ธีไม่อยากปะทะกันให้เจ็บมากไปกว่านี้อีก ธีสั่งตัวเองให้เลี่ยงจากน้อง...

“ธี มากินไอติมกัน” พี่หญิงเรียกชวน

ธีเดินไปหาพี่หญิงที่โต๊ะ แบบซังกะตาย เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ หากได้ยินเสียงน้องคงดีกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้ “ของผมอันไหนครับ?”

“นั่นจ๊ะ สีเขียว มะไฟนะ เสาวรสหมด” พี่หญิงบอก

ธีหยิบไอศครีมเชอเบทไปกิน.... ก่อนนี้เคยชอบแต่เสาวรส แต่ตอนนี้กินได้สองอย่าง ครั้งแรกที่ชิมพฤกษบอกให้น้องหวานตักรวมกันมาในแก้วเดียว... ตอนนั้นขัดใจแฟนไม่เป็น เลยกินแบบเสียไม่ได้ไปคำ---- ก็อร่อยดี

“พี่...ผม.....” ธีมองถ้วยไอศครีมและพูดค้างไว้

“ผมอะไร? เธอจะอย่าพูดค้างๆ คาๆ แบบนี้นะ ขัดใจเจ๊นะยะ” พี่หญิงแว๊ดให้

“ผมกลับบ้านนะ! ผมคิดถึงแฟน!” ธีพูดปุ๊บก็วางถ้วยที่กินคาไว้ครึ่งลงบนโต๊ะ ลุกพรวดจากเก้าอี้ไปเก็บของเสียงดังกุกกัก

งานยังต้องทำต่อ พนักงานที่อยู่ดึกก็ยังนั่งกันหน้าสลอน.... สายตาทุกคนมองตามธีไปจนธีลับหายไปจากทางเดิน

...........

..........

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.

“อ๊ะ!” ชายหนุ่มผมรองทรงอุทาน

“.....!” ชายหนุ่มที่สูงกว่าสะดุ้ง

เกือบเลี้ยวมาชนกันแล้ว โชคดีที่ต่างก็ยั้งเท้าไว้ได้ทัน เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร กลับยิ่งมีอาการกระอักกระอ่วนกันมากขึ้น ----- ครั้งล่าสุดที่เจอหน้ากัน ต่างคนต่างออกไปทำงานด้วยความโมโหอีกฝ่าย

“...จะไปไหนครับ?”

“ซื้อข้าว... เอาไรมั้ยครับ?”

“เอาเหมือนกัน” ธีบอก

“อื้อ” แล้วเดินเลี่ยงออกไป

ธีมองตามเขาไปจนเขาเลี้ยวเข้าไปในซอยที่จะทะลุไปถึงร้านโต้รุ่ง

ธีถอนหายใจและเดินขึ้นไปบนห้อง ธีอาบน้ำเสร็จพฤกษก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องมา เขาแต่งตัวเสร็จอาหารก็ถูกแกะวางไว้แล้วบนจานเรียบร้อยแล้ว ธีเดินไปเปิดโทรทัศน์ ฟังเสียงรายงานข่าวไปพลางกินข้าวไปพลาง

หากน้องยังไม่มีอารมณ์คุยก็ดี ธีไม่ตื๊อ ขอแค่ได้อยู่ตรงนี้ ได้มองเห็นคนคนนี้ ถึงไม่พูดกันแต่อยู่เงียบๆ ไม่ทะเลาะกัน ธีว่าแบบนี้ก็ดี... เขาเหนื่อยเหลือเกิน ให้ทะเลาะด้วยไม่ไหวแล้ว

ธียกแก้วน้ำดื่ม พฤกษก็หยิบจานไปล้าง ล้างเสร็จก็เดินไปเปิดคอมแล้วนั่งทำอะไรไปเงียบๆ... ธีหยิบเอกสารที่เอาติดมามาตรวจต่อแบบเริ่มสบายใจ สักพักก็เดินไปนอกระเบียงกะว่าจะออกไปรดน้ำต้นไม้ ตอนที่ก้มลงหยิบฝักบัว ธีได้กลิ่นหนึ่ง เขามองที่ตะกร้าผ้า สักพักก็ตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา ทุกชุดในนั้นมีแต่กลิ่นนั้นกลิ่นเดียว... ธีเริ่มฉุน

ทำไมเหลวไหลแบบนี้ เขาทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ เขาเครียดกับงานจนแทบไม่มีเวลานอน เขาอดทนแทบตายที่จะไม่กลับมาที่ห้องเพื่อให้มีเรื่องทะเลาะกัน อยากให้ต่างฝ่ายต่างสบายใจ.... แต่คนที่อยู่ห้องนี้เขากลับทำตัวเหลวไหลแบบนี้ได้ยังไง ธีนึกถึงว่าหากพ่อแม่รู้ว่าน้องดื่มทุกวันแบบนี้ เขาจะมีหน้าที่ไหนไปพบพ่อแม่ของน้อง

“ดื่มทำไมทุกวัน รู้ว่าพี่ไม่ชอบ ทำไมยังทำ!” ธีกอดอกยืนค้ำเสียงแข็ง

“แค่กินแกล้มข้าวเฉยๆ” เสียงเนือย

“ทุกวันนี่นะ เหล้านะไม่ใช่น้ำ!” ธีตวาด---- ทำไมทำตัวไร้สาระแบบนี้ ทำไมต้องทำเล่นๆ ทำไมไม่โตสักที

“เบียร์” เสียงเนือย

“ต่างกันมั้ย? เมื่อไหร่จะโตซะที!” ธีตวาดใส่ด้วยความเหลืออด

“แล้วพี่ล่ะ! เมื่อไหร่จะหายบ้าซะที! รักมันนักใช่มั้ยงานที่ทำน่ะ ไปอยู่กับมันซะสิ กลับมาทำไม!” ลุกพรวดขึ้นมาชี้หน้าอีกฝ่าย-------ทนแล้วนะโจ้ กูทนแล้ว!

“แล้วพี่ทำเพื่อใคร? คิดเป็นบ้างมั้ย?” ธีของขึ้น

“เพื่อตัวพี่เองไง! อย่าบอกว่าทำเพื่อผม! ผมไม่ต้องการ! โว้ย! เบื่อโว้ย!” พฤกษเก้าอี้ล้มคว่ำ

“ห้ามทำแบบนี้นะพฤกษ!” ธีเสียงเข้มหนักกว่าเดิม

“แล้วผมห้ามพี่ทำไรมั้ย? พี่ฟังที่ผมพูดบ้างมั้ย!?” เถียงกลับทันควัน

เสียงโทรศัพท์ดังสวนขึ้น ธีหันควับไปมองหา

“ห้ามรับนะพี่ธี กลับมาคุยกันเดี๋ยวนี้!”

“ครับ.. อะไรนะครับ... เดี๋ยว...อ๊ะ”

โทรศัพท์ถูกแย่งไปจากมือธี คนที่แย่งไปกดตัดสาย เอามันใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง “ตายมั้ย?”

“ตายอะไร? เอาคืนพี่มา เขามีธุระด่วนนะพฤกษ” ธีถอนหายใจเฮือกใหญ่

“พี่ธีไม่ทำงานสักนาทีมันจะตายมั้ย?” ตะคอกเสียงดัง ผนังห้องนี้หนา พวกเขาเคยทดสอบมาแล้ว----- ความหนาของมันเคยให้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว ทว่าหลายเดือนมานี้ ความหนาของมันกลับเอื้อประโยชน์อีกอย่างที่ “พวกเขา” ไม่น่าจะได้ใช้มัน!

ธีเดินเข้าไปประชิดตัวพฤกษ จ้องตากับพฤกษเขม็งกร้าว พูดพลางล้วงมือเข้าไปเอาโทรศัพท์คืนมา “โตได้แล้ว พฤกษ! หรือถ้าอยากเป็นเด็กก็อย่าทำตัวน่าเบื่อแบบนี้!”

พูดจบก็เดินไปที่ระเบียง กดสายไปหาคนที่โทรเข้ามาโดยไม่ใยดีกับคนที่อยู่ในห้องนั้นเลย... หากได้ยินไม่พลาด---- งานกำลังเข้าธีอย่างหนัก

ธีไม่รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรออกไป ถึงรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป แต่ธีไม่ทันคิดว่าความหมายของประโยคนั้นบั่นทอนจิตใจของคนฟังเขาไปได้มากมายแค่ไหน

“พรุ่งนี้เช้าลองดูอีกที หากไม่ได้ค่อยมาคุยกัน วันนี้ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว” ธีฟังที่ปลายสายแจ้งทั้งหมดและสรุปความให้อีกฝ่ายไปจัดการต่อ

ธีถอนหายใจ เห็นลองของปัญหามาแต่ไกล.... เซ็นต์สัญญากับลูกค้าต่างประเทศว่าจะทำออเดอร์ของส่งไปให้ แต่ไม่มีคนเซ็นต์สั่งการ! และไม่มีการเซ็นต์เช็คเบิกจ่ายค่าทำงาน!

คนที่ควรทำหน้าที่ไม่ยอมทำ แต่ที่จะเดือดร้อนคือทั้งบริษัท... เสียลูกค้าไม่หนักเท่า “จำนวนเงิน” ของค่าเสียหายจากการผิดนัด! ถ้าบริษัทต้องจ่ายเป็นเงินขนาดนั้น พนักงานตาดำๆ กี่สิบคนต้องรับกรรม ธีไม่อยากคิดต่อว่าคนที่ทำงานได้เงินเดือนน้อยๆ ในตำแหน่งล่างจะเป็นยังไง หากจู่ๆ บริษัทล้มไปอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว คุณหวังต้องให้เงินชดเชย แต่!!.... มีงานทำทุกเดือนย่อมดีกว่ากำเงินชดเชยแค่ก้อนเดียว

ธีถอนหายใจอีกครั้ง พลางคิดคำนวนในใจ......

ตอนที่เขาหันหน้ากลับมา คิดว่าจะเดินเข้าห้องก็พบว่าไฟในห้องดับแล้ว ธีเดินเข้าไปและโล่งใจเมื่อเห็นตัวคนนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง... มาถึงวันนี้ธีคิดว่าดีอย่าง ถึงทะเลาะกันขนาดไหน พฤกษก็ไม่หนีไปไหน หรือหากไปก็ไปไม่นานก็กลับ หรือหากนานก็ยังกลับมาอยู่ดี

ธีเดินไปที่เตียง เลิกผ้าห่ม แล้วซุกตัวเข้าไปในนั้น ธีหันหลังชนหลังกับคนที่เข้าไปนอนอยู่ก่อน

ความสัมพันธ์ของพวกเขาเคยชนะระยะทางมาแล้ว แต่วันนี้ระยะทางที่ใกล้กันจนรับรู้ถึงอุณหภูมิจากแผ่นหลังของอีกฝ่าย กลับไกลแสนไกลเกินกว่าที่สองใจจะสื่อถึงกัน

หากได้ยินเสียงสะอื้น....ธีจะหันไป

การง้อแบบผู้ใหญ่ ธีเคยใช้... จริงอยู่ว่ามันได้ผล แต่สำหรับธีเขาไม่อยากใช้วิธีนั้น

เมื่อทะเลาะกัน ธีอยากให้น้องเข้าใจมากกว่าที่จะลืม... เซ็กส์ไม่ใช่การระบายความโมโห เซ็กส์ไม่ใช่การระบายความเครียด

สำหรับธี การมีอะไรกันคือ "ความรัก"

การมอบความอบอุ่นให้แก่กัน

การผูกด้ายแห่งสัญญา.... ว่าเราจะผูกพันกันมากขึ้น มากขึ้นทุกๆ ครั้ง ทุกวินาที ทุกลมหายใจ

....

...

..

.



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 15:35:49 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

....

...

..

.

ทว่า รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่ทำเสียงอะไรออกมาเลยสักนิดเดียว-------- กลับมาเพราะคิดถึงใจจะขาด ไม่ใช่กลับมาเพื่อให้ใจมันเจียนขาดแบบนี้!

ธีพลิกตัวไปกอดแนบชิดกับแผ่นหลังของคนที่ตัวเองรัก... ศอกกระทุ้งกลับมาใส่ธีแบบกะให้เจ็บ ธีจุกแต่ไม่ได้คลายวงแขนของตัวเอง

“ผมขอโทษ” คนที่หันหลังให้ธีบอกกับเขา

“ครับ พี่ก็ขอโทษด้วย ดีกันนะครับ” ธีพูดพึมพำบนหัวของอีกฝ่าย

“......ต้องไปอีกเหรอ พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ” พฤกษถาม

“อื้อ ไม่หรอกครับ ช่างมัน” ธีบอก

“กินข้าวเช้ากับผมนะ ไปซื้อของกัน ดูหนังก็ได้ หรือจะอยู่ในห้องเฉยๆ ก็ได้ ขอเวลาพี่ธีวันนึงนะครับ ได้มั้ยพี่ธี” พฤกษถาม

“ครับ”

“สัญญานะ”

“ครับ พี่สัญญา”

พูดจบธีก็ผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อย หลับไม่เต็มที่มาหลายอาทิตย์แล้ว พอมากอดคนคุ้นเคยได้ไม่ทันที ใจมันก็เคลิ้ม.... หลับไปโดยไม่รู้ตัว

พฤกษได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอ ซึ่งบ่งบอกว่าพี่ธีหลับไปแล้ว จึงหันหน้ามาดู พอเห็นว่าหลับจริง เขาเลยพลิกตัวมาหาธี สอดแขนกอดตอบธี และค่อยๆ หลับไปในที่สุด

.......

......

.....

....

...

..

.

“พี่สัญญากับผมแล้ว!” พฤกษกระแทกเสียงใส่ธีทันทีที่อีกฝ่ายแต่งตัวเตรียมออกไป---- ทำงาน!

“พี่ต้องทำงานครับ นี่เรื่องด่วนครับ” ธีไม่มองหน้าคนที่ถาม กลัวว่าจะรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอีก....

“กี่ครั้งแล้วที่พี่ไม่รักษาคำพูดตัวเอง! เคยนับมั้ย?” กระฉากกระเป๋าสะพายของธีไป เหวี่ยงมันไปกองกับพื้นโดยไม่เหลียวแล สายตาของคนที่คว้ากระเป๋าไปจับจ้องเขาเขม็ง----ท้าตีท้าต่อย

ปึง! โครม..... เคร้ง! ตึก! ตึก! ------ เสียงข้าวของที่หล่นระเนระนาดดังกราวขึ้นทันที

“พฤกษ.........” เสียงต่ำลึก....

ธีกดความรู้สึกที่ค่อยๆ แย้มเยื่อนหน้าออกมาทันควัน เขาเลี่ยงที่จะไม่พูด เฉยเสีย เดี๋ยวก็ดีเอง

ธีค่อยๆ เดินไปเก็บกระเป๋าที่ไถลไปกองกับพื้น มันไปชนชั้นหนังสืออย่างแรง ของที่ตั้งรวมอยู่กับหนังสือ หล่นตกพื้นแตกหักบ้าง ยังอยู่ดีบ้าง..... ธีหยิบที่ยังอยู่ดีขึ้นมาวางไว้ที่ชั้น ยังไม่เรียง...เขาเดินไปเอาไม้กวาดและที่ตักผงมาเตรียมจะเก็ษเศษไปทิ้ง

“ผมเกลียดพี่! ผมเกลียดงานของพี่!” พฤกษกระแทกตัวลงบนโซฟา เอาหมอนอิงมากอดแนบอกไว้แน่น

ธีกำไม้กวาดในมือแน่น------ ไม่เคยมีคำนี้สักครั้ง โมโหยังไงก็ไม่เคยพูดว่า “เกลียด” มีแต่บอกว่ารัก ประชดกันบ้างก็มี โมโหกันกี่ครั้งแล้วแต่ปากของคนนั้นไม่เคยพูดว่าเกลียดเขาเลยสักครั้งเดียว

คำว่าเกลียดที่ออกมาจากปากคนที่รัก---- สามารถกรีดแทงหัวใจของใครคนหนึ่งให้เป็นแผลตื้นได้

“.......” ธีอดกลั้นและข่มใจที่เจ็บปวดด้วยความน้อยใจไว้ยังส่วนลึกของในอก เขาเดินไปเทขยะและเก็บไม้กวาดอย่างเงียบๆ

“ถ้ามีแฟนแบบพี่ธี ผมยอมไม่มีแฟนซะดีกว่า ห่วยแตก!” พูดลอยๆ เป็นเชิงประชดประชัน

ฉุนกึก----- คำนั้นเขาขอซื้อไว้แล้ว ทว่าประโยคนี้ไม่ต่างจากคำว่า “เลิกกัน” เลยในความรู้สึกของธี

“ทำไมต้องทำตัวน่าเบื่อห๊า พฤกษ แค่งานพี่ก็เครียดพอแล้วนะ ไหนว่าเข้าใจ นี่เหรอเข้าใจ!” ธีตวาดใส่อย่างเหลืออด

“น่าเบื่อเหรอ ใครกันแน่ที่น่าเบื่อ ไปส่องกระจกดูตัวเองก่อนเถอะ!” พฤกษปาหมอนอิงที่กอดมาตลอดลงพื้น

สัญญาณบอกว่าด้ายเส้นสุดท้ายเริ่มขาด------ “น่าเบื่อ” คำต้องห้ามของใครอีกคน…. โมโหใส่กันกี่ครั้งแล้วแต่ปากของคนนั้นไม่เคยพูดว่าเบื่อเขาเลยสักครั้งเดียว

“อย่าทำเป็นเด็ก โตแล้วพฤกษ เข้าใจพี่บ้าง พี่ไม่ทะเลาะด้วยนะ พอ! จบ! ไปกินข้าว” ธีข่มใจตัวเองและเดินนำไปที่โต๊ะทานข้าวซึ่งพฤกษจัดอาหารเช้าง่ายๆ เตรียมไว้เสร็จแล้วเหมือนเช่นทุกวัน

ปุ๊! หมอนอิงใบหนึ่งลอยไปตกที่บนโต๊ะกินข้าว....

ธีหันขวับมาทำตาขวาง เขาสุดจะทนแล้วจริงๆ

“ผมเบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ... ผมเบื่อพี่!” พฤกษตะโกนเสียงดังสุดเสียงจนหน้าแดง

“เออ! เบื่อนักก็เลิกกันไปเลย จบมั้ย จบกันสักที พี่ก็รำคาญเป็นเหมือนกันนะ งี่เง่า!” ธีตวาดเสียงดังไม่แพ้กัน

เขาก้าวแบบย่างสามขุมเข้าไปหา จับใบหน้านั้นแล้วก้มลงไปจูบอย่างรุนแรง ก่อนจะถอนจูบแล้วพูดเสียงแบบได้ยินกันแค่สองคนว่า “ถ้าอยู่แล้วทำดีได้แค่เป็นเพื่อนนอน ก็พอเหอะ แบบนั้นหาที่ไหนก็ได้!”

ธีเดินไปคว้ากระเป๋า ใส่รองเท้า และเดินออกไปจากห้อง… “ปัง” เสียงปิดประตูดังสนั่นลั่นหู-----สั่นไปถึงขั้วหัวใจ

............

..........

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.


หลังจากเสียงปิดประตูดังขึ้น พฤกษทรุดฮวบลงกับพื้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเมื่อกี้เขาได้ยินอะไรจากพี่ธี คำนั้นหรือคำที่พูดกับคนที่รักกัน....

ไม่รักกันแล้วใช่มั้ยพี่ธี หมดรักแล้วจริงๆ สินะ......

ทำไมไม่บอกผม...พี่ธี

ทำไมไม่พูด

ทำไมครับพี่ธี

ทำไม

ทำไม

ทำไม

ทำไม

ทำไม

สิ่งที่กลัวอยู่ในใจพฤกษเริ่มเผยตัวออกมาปกคลุมหัวใจของเขาให้มืดดำ

กลัวที่สุดคือกลัวพี่ธีไม่รัก หมดรัก….. “ถ้าอยู่แล้วทำดีได้แค่เป็นเพื่อนนอน ก็พอเหอะ แบบนั้นหาที่ไหนก็ได้!”

สำหรับพี่ธีคนแบบพฤกษหาที่ไหนก็ได้…

สำหรับพฤกษคนแบบพี่ธีหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว…

พฤกษตกอยู่ในภวังค์ความคิด…. น้ำตาห่าใหญ่ตกลงสู่อาบสองแก้มราวกับมันจะไม่มีวันหมด

ในห้องนั้นมีเพียงหนึ่งชีวิต… เสียงร้องไห้ที่ดังสุดเสียง ทว่า ไร้ซึ่งใครที่จะได้ยินมัน---- ผนังของห้องที่หนาเก็บเสียงภายในได้อย่างหมดจดยังคงทำหน้าที่ของมันโดยไม่แล “หัวใจ” ของเจ้าของห้องนั้นเลย

http://yourepeatr.com/watch/?v=2PUtnhMX7fo

…………

………..

……….

………

……..

…….

……

…...

…..

….



..

.

วันที่เจ็ด….. ชายหนุ่มยืนมองวันที่ในปฏิทิน

หนึ่งอาทิตย์แล้วจากวันนั้น ไม่มีการโทรหามาเขาจากอีกฝ่าย ไม่มีใครก้าวเข้ามาในห้องนี้นอกเสียจากเขา

ห้องที่ไม่ได้ใหญ่มากเวลานี้มันกว้างเหลือเกินสำหรับพฤกษ

เตียงที่ไม่ได้ใหญ่มากหากต้องนอนกันสองคน ทว่าแค่จะกลิ้งไปให้ถึงอีกฝั่ง ทำไมถึงได้รู้สึกว่าแค่ขยับไปทางนั้นมันก็เหนื่อยได้ถึงขนาดนี้….

เตียงกว้างๆ ไม่ได้มีไว้เพื่อให้คนคนเดียวนอนกลิ้งเล่นไปมา….มันควรต้องมีใครอีกคนมานอนอยู่ที่อีกฝั่ง…ด้วยกัน

“โจ้… วันนี้มึงว่างมั้ย?” ถามเสียงเนือย

เมื่อได้ยินคำตอบรับจากอีกฝ่าย เขาจึงบอกสิ่งที่คิดกับเพื่อน “มารับกูหน่อย เดี๋ยวนี้เลยนะ”

“กุ……” ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ “กูขอไปอยู่กับมึงนะ มาเอากูไปที” น้ำตาไหลทะลัก… เสียใจที่ต้องพูดแบบนั้นออกไป ไม่เคยเลย ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้

เขาไล่แล้ว คงหน้าด้านอยู่ไม่ได้อีกต่อไป... หรือความจริงแล้วที่ยังอยู่อยู่นี่ล่ะคือ “เราหน้าด้าน”.... อยู่มาได้เป็นนานจนเขาต้องออกปากไล่

รักมันเป็นยังไงพฤกษเคยคิดว่ารู้จัก….. รักคือความหวาน รักคือการมีกันและกัน

แล้วตอนนี้ล่ะ…. รักคืออะไร?

พฤกษเริ่มไม่แน่ใจ…. หากรักแล้วต้องมีวันนี้ หากรักแล้วต้องเศร้า หากรักแล้วหัวใจต้องเจ็บระบมแบบนี้

อย่ามีเลยดีกว่า….ความรัก!














*******************



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 18:21:38 โดย BaoBao »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เฮ้อ...ทุ่มเทเพื่อใคร เพื่ออะไร ถ้าวันนึงไม่มีสิ่งนั้นอีกแล้ว

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
นี้คือตอนจบของคนไม่พูดกัน สุดท้ายเรื่องมันก็เกิดจากความไม่เข้าใจกันเท่านั้น  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด
«ตอบ #72 เมื่อ04-04-2012 21:08:16 »

วรรคแปด




เพื่อนทุกคนต่างมองเพื่อนที่เทเหล้าเข้าปากแบบไม่ยั้งด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก

ห้ามแล้วแต่เพื่อนมันไม่ฟัง! เลยได้แต่มองมัน

“มึงโทรไปเรียกพี่ธีมาเอามันไปเหอะ” เพื่อนคนหนึ่งทนดูไม่ไหวกระซิบบอกโจ้ เขาไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเองเป็นแบบนี้สักครั้ง

“กูไม่มีเบอร์พี่ธี” โจ้กระซิบบอกเพื่อนๆ

“อ้าว....” อุทานเบาๆ หน้าเหวอแดกไปทั้งบาง

สำหรับธีและพฤกษ ความรักของทั้งสองอยู่ในขอบข่ายของคนสองคน เพื่อนฝ่ายพฤกษไม่ค่อยกล้าไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนของเพื่อนตัวเอง เพราะหนึ่งพี่ธีโตกว่าสองปี แถมยังเป็นคนเงียบนิ่งไม่พูดเฮฮา พวกเพื่อนๆ จึงรู้ตักแค่หน้าตา ทักทายบ้างตามสมควรแต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไอ้โจ้สนิทกับพฤกษที่สุด หากไอ้โจ้ไม่มีที่ติดต่อแฟนไอ้พฤกษแล้วหมาตัวไหนจะมี!

หลายปีที่ผ่านมา รู้ข่าวความรักของเพื่อนก็จากปากเพื่อนตัวเอง นอกนั้นไม่เคยไปขออะไรกับพี่ธี เพราะไม่เคยมีใครคิดว่าจะมีวันนี้!

“งั้นมึงก็โทรเข้าห้องสิ” ก้องกระซิบเสนอความคิด

“กูโทรแล้ว ไม่มีคนรับ!” โจ้กระซิบบอก

“พากูไปห้องพี่ธีเลย ป๊ะ มึงไปกะกูไอ้โจ้” เอกกระซิบบอก

“กูไปที่ห้องพี่ธีแล้ว เหมือนไม่มีคนอยู่ ไอ้พฤกษมันเคยบอกกูว่าช่วงนี้พี่ธีไปค้างที่ที่ทำงานบ่อยๆ หลายวันถึงจะกลับมาที” โจ้กระซิบหน้าเครียด “..... กูไม่ได้ทิ้งเพื่อนนะ แต่กูว่าเพื่อนเรามันก็มีส่วนผิด!”

“อ๊าว....” หน้างงแดกไปทั้งบาง

เพื่อนกันเองซึ้งใจดีกว่าเพื่อนตัวเองมันแสบขนาดไหน เอาแต่ใจขนาดไหน!

แต่พวกเขามันน่ารักนะ เคยเห็นมันอ้อนพี่ธีสองสามครั้ง ก็เข้าใจละว่าทำไมพี่ธีแคร์มันไม่ลืมหูลืมตาได้ขนาดนั้น.... รักให้เห็นแทงลูกกะตามาตลอด แล้วมันมีวันนี้ได้ยังไง...เพื่อนๆ สุดจะงง

“กูเตือนมันแล้ว คนเค้าทำงานมาเครียดๆ อย่าไปชวนทะเลาะ มันจะน่ารำคาญ กูอ่ะ โดนยังไม่ถึงครึ่งของพี่ธี กูยังตะเพิดแฟนกูไปแหละ” โจ้กระซิบบอก

“เออๆๆๆ.... ถึงไอ้พฤกษมันก็ผิด แต่เราก็เพื่อนมัน มึงพยายามบอกติดต่อพี่ธีให้ได้ละกัน... ปล่อยแม่งเมาเป็นหมามาอาทิตย์นึงแหละ กูไม่ไหวนะเว้ย ถึงกูไม่ได้ทำงานแต่กูยังมีเรียนนะเว้ย!” ฟ้ากระซิบท้วงหนักแน่นหลังจากที่ตัวเองซึ่งเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังไม่ได้ทำงาน ต้องขาดเรียนมาอยู่โยงเฝ้าเพื่อนรักคนนี้!

ฟ้าไม่ได้ว่าเอาจริงเอาจัง ใจจริงฟ้าก็กลัวใจไอ้พฤกษมันเหมือนกัน...

คนที่เคยถูกเขาเทคแคร์เอาใจดูแลมาตลอด คนที่รักกันหวานเชื่อมน้ำตาลหยด คู่รักที่ไม่เคยผิดใจอะไรกันนี่แหละตัวดี... แม่งอาจคิดสั้นอะไรขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้!!!



**********************





ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด
«ตอบ #73 เมื่อ04-04-2012 21:11:03 »



ธีเดินสะโหล่สะเหล่เข้ามาในห้อง

ภายในห้องไม่มีแสงไฟ ทุกอย่างเงียบสงบ… สามทุ่มอาจไม่ดึกมาก แต่สำหรับบางคนที่ทำงานอาจเป็นเวลาที่สมควรพักผ่อน

ธีเดินอย่างเงียบๆ เข้าไปวางกระเป๋า มองหาผ้าเช็ดตัวที่พับอยู่เหนือราวตากผ้าซึ่งวางไว้ตรงทางเข้าห้องน้ำ---ไม่มี

ธีชโงกหน้าไปที่ระเบียง มันยังคงอยู่ที่นั่น…. ปกติพฤกษจะเอามาพับไว้ที่ตรงนั้นให้เขาเสมอ แรกๆ มีลืมบ้างแต่หลังๆ ก็จำได้เอง

ธีเดินไปเอามันมาและเดินเข้าไปในห้องน้ำ…. ขณะที่เขาสระผม เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น หนึ่งครั้งและดับไป

ธีไม่ใส่ใจ เขาล้างหัวและอาบน้ำอย่างสบายใจ จนกระทั่งตอนที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง ธีกลัวว่าคนที่นอนอยู่จะตื่น เขาจึงรีบเดินไปรับสาย

“ครับ” ธีรับคำ

“พี่ธี! พี่ธีใช่มั้ยครับ!” เสียงปลายสายฟังดูตื่นเต้นมาก

“ครับ” ธีสงสัย เสียงนั้นไม่คุ้นหูเขาเลย

“พี่ ผมโจ้เพื่อนไอ้พฤกษนะพี่” ปลายสายแนะนำตัว

เพื่อนสนิทของพฤกษ ธีจำชื่อได้ พฤกษเคยพูดถึงบ่อยๆ “อ้อ ครับ พฤกษนอนไปแล้วนะโจ้ มีอะไรค่อยโทรมาใหม่นะครับ” ธีบอก

“พี่! ไอ้พฤกษมันอยู่นี่….” โจ้หยุดพูดไปพักหนึ่งจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม “พี่ธี…พี่…. พี่จะเลิกกันมันจริงๆ เหรอ?” โจ้ถามเสียงอ่อย เขาชักจะแน่ใจแล้วว่าเพื่อนตัวเองอกหัก พี่ธีอยู่ห้อง ทำไมไม่รู้ว่าพฤกษไม่อยู่?

“หือ?...... เลิกอะไร? พฤกษ? พฤกษก็นอนอยู่นี่นะโจ้” ธีเดินไปที่เตียง เอามือวางลงไปตรงตำแหน่งเดิมที่พฤกษนอนเป็นประจำ---- ไม่มี!

ธีเดินไปเปิดไฟ….. เมื่อไฟสว่างเขามองไปที่เตียง เรียบไม่มีส่วนนูนขึ้นมา ธีเหลียวไปมองรอบห้อง ไร้วี่แววของคนที่เขามองหา ธียกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู “โจ้…พฤกษไปอยู่หอโจ้ได้ยังไง?”

โจ้บอกว่าพฤกษโทรหาโจ้และเรียกให้เข้าไปรับ เขาบอกพี่ธีว่า ตั้งแต่พฤกษมาอยู่ที่หอโจ้ พฤกษก็เอาแต่ดื่มเหล้าเมาจนหลับ เช้าก็ออกไปทำงานทั้งที่แฮงค์ๆ แบบนั้น ทำอยู่แบบนี้เป็นอาทิตย์แล้ว

“ผมโทรหาพี่ก็ไม่ติดสักที พี่ทำงานที่ไหนผมก็ไม่รู้ ไอ้พฤกษมันก็เผลอทำโทรศัพท์ตกชักโครก จะเอาเบอร์พี่จากในเครื่องมันก็ไม่ได้ มันไม่ยอมไปเปลี่ยนซิมใหม่ซะที ผมเเลยคอยโทรมาที่ห้องพี่อย่างเดียว…. พี่….พี่จะเลิกกับมันจริงๆ น่ะเหรอ เพื่อนผมมันเป็นเด็กไม่หายก็จริง แต่มันก็รักพี่นะ พี่ทำงานหนัก ผมก็คอยเตือนมันแล้ว ให้เวลามันหน่อยได้มั้ยพี่”

ถึงบอกว่าเพื่อนตัวเองก็มีส่วนผิด ถึงเข้าใจพี่ธีว่าทำไมถึงโกรธเพื่อนตัวเอง แต่โจ้ก็ยังอยากให้เพื่อนมีความสุข ตอนที่พี่ธีกับเพื่อนโจ้รักกันดี ดูแล้วน่าอิจฉา…..เขาไม่อยากให้ภาพนั้นไม่มีอีกต่อไป

“พี่ไม่ได้จะเลิก!..... พี่ไปค้างที่ทำงาน เพิ่งจะได้กลับมาห้อง มันมีเรื่องวุ่นๆ…. พี่ขอคุยกับพฤกษหน่อย” ธีบอก

“มันเมาคุยไม่รู้เรื่องหรอกพี่ หมดสภาพแหละ…เฮ้อ….” โจ้ถอนหายใจ

“พรุ่งนี้พี่ต้องไปต่างประเทศ พี่มีธุระต้องไปหาผู้บริหาร อีกสี่วันถึงจะได้กลับมา พี่ฝากโจ้บอกพฤกษด้วยว่า พี่โทรมาหา หากอยากอยู่ห้องโจ้ก็แล้วแต่ แต่ถ้าพี่กลับมาแล้วพี่จะไปรับพฤกษ…. ระหว่างนั้นบอกให้พฤกษไปเปลี่ยนซิมให้ได้นะโจ้ พี่จะโทรเข้าไปหาพฤกษเอง” ธีสรุปให้โจ้ฟัง

“ได้! พี่ได้! เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะบอกมัน พี่ๆ จดเบอร์หอผมไว้นะ เอาเบอร์ผมไปด้วย ขอเบอร์พี่ด้วย” โจ้ขอหมด ไม่เกรงใจแล้วคราวนี้…. เกือบไม่เป็นอันทำการทำงานกันทั้งก๊วน

หลังจากวางสายของโจ้ ธีทรุดเข่าลงนั่งข้างเตียง เห็นเตียงแล้วใจหาบวาบ….. ธีเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า

ไม่มีเสื้อผ้าของพฤกษเหลืออยู่ในตู้เลยสักชิ้น… ตั้งแต่เข้ามาอยู่ พฤกษมาแค่ตัวกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต คอมพิวเตอร์ตัวเดียว หนังสือคู่มือโปรแกรมสองสามเล่ม---- เท่านี้

ธีบอกเขาเองว่าไม่ต้องเอาอะไรมามาก เพราะเขาซื้อและเตรียมไว้ให้หมดแล้ว…. เพื่อให้น้องสะดวกสบาย---- ไม่เคยคิดเลยว่าการที่ย้ายเข้ามาอย่างง่ายๆ จะทำให้เขาเดินออกไปจากห้องนี้แบบง่ายๆ ด้วยเช่นกัน!!

ธีมองกระเป๋าสะพายที่ใช้ประจำเวลาออกไปทำงาน ตั๋วเดินทางและวีซ่าพร้อมแล้ว อีก 3 ชั่วโมงเขาต้องเดินทาง ไม่สามารถเลื่อนหรือเปลี่ยนคนไปได้อีก!

เอกสารว่าจ้างทำงานที่ไม่มีลายเซ็นต์ของผู้บริหารหรือผู้จัดการชั่วคราว ธีและคนในบริษัทช่วยกันขอร้องจนทางโรงงานรับทำให้ก่อน โดยมีใบว่าจ้างที่ยังมีลายเซ็นต์ไม่ครบเป็นหลักฐานแบบแค่นๆ ทว่าถึงรู้จักและเข้าใจ “เงินก็ยังมีอำนาจ” อยู่ในทุกๆ ที่

ค่าของทั้งหมดไม่ใช่แค่ 50 % เหมือนเดิม ทางบริษัทของธีต้องจ่ายก่อนส่งมอบสินค้า

เงินมากขนาดนั้น อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่มี….. ถึงไม่ใช่ญาติ ถึงเป็นแค่พนักงานคนหนึ่ง แต่ธีกับคุณหญิงก็จะเดินทางไปหาคุณหวัง บอกเรื่องทั้งหมดที่เกิดจึ้นตามความจริง เอาเช็คที่ผู้จัดการชั่วคราวไม่ยอมเซ็นต์ไปให้คุณหวังเซ็นต์และเดินทางกลับมา---- โดยที่มันจะสำเร็จหรือไม่ ธีและคุณหญิงไม่คาดหวัง

ขอแค่ทำให้ดีที่สุด….. อีกอาทิตย์เดียวเท่านั้น!



**********************


ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด
«ตอบ #74 เมื่อ04-04-2012 21:11:38 »

จิตตกแทน เรื่องแบบนี้มีแต่ต้องคุยกันอย่างเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 21:14:41 โดย gupalz »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด
«ตอบ #75 เมื่อ04-04-2012 21:14:50 »


....

...

..

.

เช้านี้โจ้ต้องรีบออกไปทำงานเร็วกว่าปกติ วันนี้คือวันประชุมประจำสัปดาห์ เขาต้องไปเตรียมเอกสาร เพื่อนอีกคนก็หยุดเรียนมานานแล้ว

“กูให้รุ่นพี่ของแฟนกู ออกใบรับรองว่าแม่กูผ่าตัดให้ได้ถึงแค่เมื่อวานนี้ว่ะ… กูโกหกอาจารย์ว่ามาเฝ้าแม่อาทิตย์นึงแล้วนะ มึงจะให้แม่กูอาการโคม่าอีกก็กระไร กูไม่ได้แล้วจริงๆ ว่ะ!” ฟ้าบอก

“….. เอ้า! เขียนจดหมายบอกมันไว้ละกัน ไว้กลับมาค่อยว่ากัน” โจ้สรุป และคว้ากระดาษมาร่างสิ่งที่โจ้ทำ และสิ่งที่พี่ธีฝากบอกพฤกษลงบนกระดาษ

“มึงหาเทปใสสิวะ” โจ้ร้องบอกเพื่อน นิ้วชี้ไปที่กล่องอันหนึ่งใต้เตียง

ค้นสักครู่ ก็เจอ ทว่า “เชี่ย เก่าเน่าฉิบหาย กาวหมดอายุรึยังวะเนี่ย”

“ลองดูก่อนมึง” โจ้ร้องบอก เพื่อนก็พยายาม แกะมันออกมา ลองแปะมันกับหน้าประตู----- ก็ติดดี

ว่าแล้วเพื่อนทั้งสองก็ออกไปจากห้อง ถึงยังเช้าอยู่แต่มันสายแล้วสำหรับคนเมืองกรุง!

เมื่อเสียงประตูปิดดังปัง พฤกษรู้สึกตัวตื่น….. อากาศร้อนอ้าว เพราะฤทธิ์ของน้ำเมา พฤกษกดพัดลมที่ปลายเตียงให้เป็นเบอร์สูงสุด ทั้งสามตัว แล้วนอนอีกสักงีบ กะว่าเดี๋ยวลุกไปอาบน้ำ… หอของโจ้อยู่ใกล้ที่ทำงานของพฤกษเพียงสามป้ายรถเมล

กระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งแปะไว้ด้วยกาวที่เกือบหมดอายุ ถูกแรงจากลมตีกระพรือและหลุดล่วงลงสู่พื้นอย่างง่ายดาย….. ลมที่พัดจากพัดลมสามตัวส่งกระดาษแผ่นนั้นให้เลื่อนลอดออกไปจากห้อง โดยผ่านช่องว่างด้านล่างของประตู









แปดโมงเช้า

แม่บ้านประจำหอเริ่มต้นทำงานของเธอ เธอกวาดทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นทางเดินจนเกลี้ยง โดยไม่สนว่ามันคืออะไร ด้วยเพราะระเบียบของหอที่เคร่งครัด!....

ห้ามทิ้งทุกสิ่งไว้นอกห้องเพื่อความสะอาดของส่วนรวม หากทางหอพบว่ามีสิ่งใดก็อยู่นอกห้อง! ทางหอจะจัดการกับมันอย่างเหมาะสม!

กระดาษแผ่นเดียว… หาใช่สิ่งของใหญ่โตที่แม่บ้านจะเอื้อเฟื้อเคาะประตูถามเจ้าของห้องว่า ลืมวางไว้มั้ยจ๊ะหนุ่ม…..

แค่กระดาษแผ่นเดียว…เธอจริงกวาดมันเข้าที่ตักผงโดยไม่แม้แต่จะเหลียวตามองว่ามันเขียนอะไรไว้บนนั้น!!

……

…..

….



..

.

อนิจจา คนที่ขีดเส้นโชคชะตา เขาไม่มีตาจริง ฤา………..



**********************


ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด
«ตอบ #76 เมื่อ04-04-2012 21:18:56 »

ต้องโทษสกอตเทป และป้าแม่บ้านแล้ว

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


พฤกษเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดด้วยความเศร้าซึม

วันนี้ไปทำงานสาย สายมากๆ…. เกือบเที่ยง

พฤกษถูกหัวหน้าฝ่ายบุคคลเรียกไปหา… หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขามีแต่กลิ่นเหล้าติดตัวมาทำงาน สติในการทำงานก็ไม่มี

คนที่รอทำงานมีเยอะเป็นก่ายกอง มีหรือเขาจะง้อเด็กที่พึ่งจบแบบพฤกษ

พฤกษถูกเชิญออกในทันทีของวันนั้น

หลังจากนั้นเขาก็กลับมาที่หอโจ้ด้วยความเคว้งคว้าง

อีก 2 วันก็เป็นวันหยุดเทศกาลปีใหม่ไทยแล้ว หากกลับบ้านตอนนี้ คงไม่น่าผิดสังเกตุ เขาจะบอกพ่อแม่ว่าเขาขอหยุดเพิ่มได้ แล้วจะทำชดเชยในวันเสาร์อื่นแทน…. ไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้ว พ่อแม่คงไม่ผิดสังเกตุ

ก่อนไป พฤกษเขียนข้อความบอกโจ้เพื่อไม่ให้เพื่อนๆ เป็นห่วง วางมันไว้ที่โต๊ะกระจก เอาขวดสักอันวางทับ…..

ไม่อยากไปเปลี่ยนซิม ตอนนี้ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น พฤกษอยากไปอยู่เงียบๆ….. เขาอยากอยู่คนเดียวสักพัก
 
…..

….



..

.


ธีลงจากเครื่องด้วยความผิดหวัง…. ไม่สิ ไม่ได้คาดหวัง แต่เขาและพี่หญิงทำดีสุดแล้ว และพวกเขาก็เข้าใจคุณหวัง

ความเชื่อใจและสายสัมพันธ์ทางสายเลือด---- คนที่ไม่อาจเชื่อคนอื่นได้เพราะหมดความเชื่อใจที่เคยมี จึงหันไปเชื่อญาติตัวเอง…. แต่แล้วญาติที่ตัวเองเชื่อใจกลับตลบหลังกัน ข้อนี้คุณหวังคงไม่คาดคิด

พวกเขาเป็นแค่คนนอก ไหนเลยจะฝ่าความเชื่อใจในสายเลือดนั้นไปได้

ธีแยกกับพี่หญิงและตรงกลับบ้าน… เขาเหนื่อยเหลือเกิน ช่างมันแล้ว ช่างทุกอย่าง…. เขาอยากกลับไปหาคนที่รัก------- พอแล้ว เขาเต็มที่ที่สุดแล้ว!

…..

….



..

.



ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด
«ตอบ #78 เมื่อ04-04-2012 21:38:29 »

ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ไม่อยากคาดคิดกับตอนจบจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแปด (ต่อ)
« ตอบ #79 เมื่อ: 04-04-2012 21:41:03 »





ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


“ไอ้เหี้ย! ถึงแล้วใช่มั้ย?” โจ้ด่าเพื่อนด้วยใจระทึก เพราะติดต่อเพื่อนไม่ได้ ไอ้เพื่อนมันไม่มีมือถือ

พอโจ้กลับห้องมา เห็นเพื่อนๆ นั่งหน้าสลอน ไอ้เอกยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้เขา

กูกลับบ้านแม่นะ ไม่ต้องเป็นห่วง… พฤกษ

แค่นี้! ไม่มีบอกอะไรอีก จะโทรหาเพื่อนก็ไม่ได้ ได้แต่รอ รอ รอ รอจนดูเวลาแล้วว่า เพื่อนน่าจะถึงบ้านแล้ว เลยโทรเข้าไปที่บ้านเป็นครั้งที่ 10 ----- ถึงมีคนรับ!!

“เออ ถึงแล้ว เมื่อกี้เอง” พฤกษบอก

“มึงเป็นไร? กลับบ้านทำไม?” โจ้ถาม พลางเกิดลำโพงให้เพื่อนทุกคนได้ยิน

“กู….. กูโดนไล่ออกว่ะ แต่มึงเฉยๆ ไว้…. กูทำตัวเองแหละ ช่างมันเหอะ ไว้ค่อยกลับไปหางานใหม่” พฤกษบอกเพื่อน

“…….” เพื่อนทุกคนต่างอึ้งบรรยายไม่ถูก

“…. เออ ไว้กูจะช่วยหา มึงกลับไปพักให้สบายใจเหอะ อย่าคิดมากนะเว้ย ชีวิตต้องสู้นะมึง” เอกบอก

“มึงไมไม่กลับห้องมึงล่ะ” โจ้ถาม พี่ธีบอกแล้วว่าไม่ได้จะเลิก มันจะนอยด์ทำไม โจ้ไม่ค่อยเข้าใจเพื่อน

“ไม่ล่ะ พอเหอะ!”  พฤกษบอก

“มึงยังรักพี่ธีไม่ใช่เหรอ? แล้วมึงจะปล่อย….” โจ้แย้งไม่ทันจะครบประโยคพฤกษก็พวกสวนขึ้นมาก่อน

“กูพอแล้วโจ้… หากต้องรักแล้วเป็นแบบนั้นกูเหนื่อย ขอกูพอเหอะ…… กูขอแค่เวลาทำใจเฉยๆ พวกมึงไม่ต้องห่วง กูขอบใจพวกมึงมาก แต่แค่ก่อนนี้นะ” พฤกษพูดรัวเสียงแข็งและหนักแน่นกับเพื่อนๆ เพื่อแสดงความรู้สึกที่มีภายใน

โจ้และเพื่อนพูดอะไรไม่ออกเลย….

โจ้หวังมากที่กลับมาวันนี้แล้วจะได้เห็นว่าห้องเขาไม่มีไอ้พฤกษ หรือจะเห็นว่าไอ้พฤกษมันวิ่งโร่กลับห้องมันไปแล้ว หรือจะได้กลับมานั่งบอกมันเพื่อเป็นการช่วยพี่ธีย้ำว่า “ไม่ได้จะเลิก รักจริงๆ กลับมาเถอะ ถึงไม่กลับก็จะไปรับนะ”

ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ถึงยังรักแต่หากความสัมพันธ์นั้นเหนื่อย คนนอกอย่างพวกเขาจะบังคับอะไรเพื่อนได้

เพื่อนแต่ละคนทำหน้าเศร้าบ้างขัดใจบ้าง แต่แล้วก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก----- ในเมื่อเพื่อนเราตัดสินใจแล้ว ก็ต้องแล้วแต่เพื่อน….

วางสายไปไม่เท่าไหร่ เสียงเรียกเข้าจากมือถือของโจ้ก็ดังขึ้นมาอีก โจ้หยิบมันขึ้นมาดูด้วยใจที่ห่อเหี่ยว

แต่แล้วไม่ใช่เลย ไม่ใช่เลยสักอย่างที่โจ้คาดการณ์ไว้ มันผิดไปชนิดฟ้ากับเหว

“พี่ธีว่ะ” โจ้อุทาน

เพื่อนๆ หันกันขวับ และยุให้รับสาย… สายตาทุกคนบ่งบอกว่า เอาเลยมึง ช่วยมันอีก! จะเลิกกันเหรอ… แต่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกหนาไอ้พฤกษ

“ครับพี่” โจ้รับสาย

“โจ้ ตอนนี้อยู่ห้องมั้ย? แล้วพฤกษอยู่ที่ห้องมั้ย?” พี่ธีถามเข้าประเด็นทันที

“ผมอยู่ห้องแต่ไอ้พฤกษมันกลับบ้านอ่ะพี่” โจ้บอก

“อื้ม ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่โทรไปหาเอง ว่าแต่จะถึงบ้านรึยัง?” ธีพูดพึมพัมกับตัวเอง

“ถึงแล้วพี่ ผมเพิ่งวางสายจากมันเมื่อกี้ มันยังไม่ได้เอาซิมไปเปลี่ยนนะพี่ พี่ธีโทรเข้าบ้านนะ” โจ้รีบบอก

“ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ อ้อ ขอบคุณนะโจ้ ฝากบอกเพื่อนๆ เราด้วยว่าพี่ขอบคุณมาก”

“ครับพี่” โจ้วางสายแล้วหันไปชูสองนิ้วให้เพื่อนว่า พี่ธียังโอเค “พี่ธีฝากบอกขอบคุณพวกมึงทุกตัวด้วย”
เพื่อนระบายลมหายใจด้วยความโล่งอกอย่างถ้วนหน้า… จากนั้นก็ดีใจกันว่าพี่ธีคงง้อเพื่อนตัวเองได้สำเร็จ โดยที่ต่างหารู้ไม่ว่า------

กระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่ของมัน ข้อความหนึ่งไม่ได้ถูกสื่อสารไปถึงผู้รับ…. กระดาษแผ่นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโชคชะตา

โชคชะตากำลังหมดความสนใจในตัวพฤกษและธี โชคชะตากำลังไปสนใจคู่อื่น เส้นชีวิตของพวกเขากำลังจะขนานกันไปอีกครั้ง…….

โชคชะตาเอาแน่ไม่ได้ ไม่มีใครรู้ว่าเส้นที่ขนาดนั้นจะกลับมาบรรจบกันได้อีกมั้ย? และเมื่อไหร่?

…..

….



..

.

[/size]






 :pig4: คืนนี้เท่านี้นะคะ พรุ่งนี้ไม่อยู่ เจอกันวันเสาร์ละกันนะคะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ไอสามสี่บรรทัดสุดท้ายนี่หมายความว่าไงเนี่ยยย

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
เจอแบบนี้เข้าทางใครทางมันเถอะ


เป็นตูๆก็ไม่คอยเหมือนกันละวะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2012 08:04:59 โดย roseen »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :monkeysad:

เข้าใจทั้งคู่  รอว่าเวลาจะหมุนมาให้เจอกันยังไง

และจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้นมั้ย

บวกเป็ดทุกตอนเลย

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เจอกันครั้งนี้ก็ขอให้ปรับตัว ปรับความเข้าใจกันได้นะครับ สู้ๆ  :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณจ้าที่มาลงยาวๆ  ให้อ่านกันนะ


ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
 :a6: เพลียเล็กน้อย
หากเหนื่อยอาจไม่ได้ลงคืนนี้นะคะ
เจอกันพรุ่งนี้นะคะ

แต่หากพอไหว ก็ทยอยไปเรื่อยๆ คืนนี้เลย :z10: ถึงที่สุด

(จะจบม๊ายยยยยยยยย  :monkeysad: )

ใครไม่สะดวกก็ไปนอนกันนะคะ พรุ่งนี้ตื่นมาอ่านเลยมะคาใจ :กอด1:

ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทู๊กท่าน
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นและทุกความเห็นเป็นแรงใจให้ผู้เขียนเสมอค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ยาวๆเลยคืนนี้
รอจ้า มาเมื่อไหร่กดอ่านเมื่อนั้น
คนเขียนไปพักผ่อนก่อนก็ได้เน่อ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

….



..

.

ธีโทรเข้าบ้านพฤกษ ไม่มีคนรับสาย เขาปล่อยสายไว้จนมันตัดไปเอง เขาทำแบบนี้อยู่สองครั้ง แล้วเขาก็พัก

เพิ่งมาถึงห้อง เข้าห้องมาแล้วก็ไม่เจอคนที่หวัง เขาจึงโทรหาโจ้เลย...


พฤกษอาจไม่อยู่ในบ้าน----ธีจึงคิดว่าจะไปอาบน้ำหาของกินก่อนแล้วค่อยกลับมาโทรอีกรอบ

….



..

.

ธีโทรอีกครั้ง ครั้งนี้กดรอบเดียวก็มีคนรับสาย “เอ่อ....”

ด้วยกลัวว่า พฤกษจะวางสายหนี ธีจึงรีบพูดโดยไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัว “พฤกษ พี่ขอโทษที่พี่พูดไม่ดี แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ไม่เจตนา พี่ขอโทษที่ระบายอารมณ์ใส่พฤกษ.... พี่เสียใจครับ ขอโอกาสพี่นะครับ ขอพี่แก้ตัวอีกครั้งนะ พี่รักพฤกษนะครับ พฤกษยกโทษให้พี่นะ เรายังรักกันอยู่ใช่มั้ยครับ”

แม้พูดไปจนจบแล้ว ทวนอีกครั้งก็แล้ว ทว่ากลับไม่มีเสียงขานรับใดจากปลายสาย.... แต่มีเสียงเคลื่อนไหวดังลอดมาในโทรศัพท์.....ไม่นานนักสายก็ถูกวางลง

ธีรีบกดเบอร์อีกครั้ง แต่ไม่ว่าวันนั้นเขากดเรียกไปอีกกี่ครั้งก็ไม่มีคนรับสายอีกเลย

ธีกดเบอร์พ่อ....ได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติ “หมายเลขนี้ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ เนื่องด้วยอยู่นอกพื้นที่สัญญาณ กรุณาฝากข้อความหรือ..........”

ธีวางสายแล้วกดอีกเบอร์---ของแม่.....เสียงต่อสายดังขึ้น แต่ไม่ว่าโทรอีกกี่ครั้งก็ไม่มีการรับสาย.... นานครั้งเข้า เสียงตอบรับอัตโนมัติก็ดังขึ้น “หมายเลขนี้ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความหรือติดต่อ..........”

ธีกลับมากดเบอร์บ้านตามเดิม....

….



..

.

สามทุ่มแล้ว.... กดจนเจ็บนิ้ว ก็ยังไม่มีคนรับ ธีตัดใจและตั้งใจว่าจะโทรไปใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้

….



..

.

วันหยุดเทศกาลหมดแล้ว

เช้านี้ทุกที่ต้องเริ่มวันทำงาน ทว่าธียังไม่สามารถติดต่อกับพฤกษได้ โทรไปที่บ้านก็ไม่มีคนรับสายอีกเลย พฤกษน่าจะโกรธไม่หาย แต่กระนั้น....ตอนนี้ธีก็ยังกดเบอร์เดิมๆ ที่กดซ้ำไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ในหลายวันนี้

อยากขับรถไปหาน้องแทบขาดใจ แต่ไม่รู้จักบ้านของพฤกษ อันที่จริงจะถามโจ้ก็ได้... แต่ธีไม่อยากไปกระโตกกระตากให้พ่อแม่รู้... และที่สำคัญขนาดได้คุยกับน้องแล้ว น้องยังวางหูใส่ หากเห็นหน้าเขาน้องคงเก็บอาการไม่อยู่.... แม้ตัวเขาเองก็เหมือนกัน

ถ้ากลับมากรุงเทพฯ เรื่องอาจง่ายกว่านี้!

“ฮัลโหล!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย

????!!!!!....

“ครับ สวัสดีครับ เอ่อ....” สายถูกรับโดยที่ธีไม่ทันตั้งตัว

“อ้าว พี่ธี ไอ้เสียงที่โทรเข้ามาตลอดเนี่ย พี่ธีเหรอ มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า?” พ่อถามด้วยความตื่นเต้น

“เปล่าครับพ่อ คือ..... ธีคุยกับน้องค้างไว้ แต่พอโทรมาอีกที น้องไม่รับสาย เลยห่วงว่าเป็นอะไรรึเปล่าน่ะครับ โทรเข้ามือถือก็ไม่รับด้วยน่ะครับ” ธีเลี่ยงไป

“โหย ไอ้ลูกหมามันนั่งรถกลับไปทำงานแล้วล่ะพี่ธี สงสัยนอนบนรถ เลยปิดเครื่อง ดู๊มัน ทำพี่ทำเชื้อเขาเป็นห่วง กดโทรศัพท์มือหงิกเลยสิเนี่ย กลับถึงห้องพี่ธีเตะมันเลยนะ บอกมันว่าพ่อฝากสองป๊าบ นี่พ่อไปงานแต่งงานของญาติตั้งแต่ห้าวันก่อน เพิ่งกลับมาเนี่ยล่ะ....” พ่อบอก และชวนธีคุยต่ออีกสักพักถึงขอตัวไปพักก่อน เพราะขับรถกลับมาทั้งคืนแล้ว

….



..

.

พฤกษเคาะประตูห้องของโจ้ โจ้ยังไม่ได้ออกไปทำงาน

โจ้ไม่ถามอะไรพฤกษมากนักเพราะเห็นหน้าเนือยๆ ของเพื่อนแล้ว… โจ้อยากให้เพื่อนพักผ่อน อยากให้มีพื้นที่ให้เพื่อนได้ใช้ความคิดและปล่อยวาง

กับความรัก… เราบังคับใครไม่ได้

เราเห็นว่ามันดี แต่เจ้าตัวอาจไม่ดีด้วยกับเรา

โจ้จึงหยุดที่จะพูดถึงพี่ธี หยุดที่จะลุ้นเพื่อน เขาคิดว่าจะบอกเพื่อนๆ ว่าอย่าไปสะกิดเรื่องนี้อีก…. หากเรื่องนี้จะเป็นประเด็นขึ้นอีกครั้งก็ขอให้มันเริ่มมาจากเจ้าตัวเขาเอง… เท่านั้น!

……

…...

…..

….



..

.

พฤกษรวบรวมเอกสารเตรียมสมัครงานใส่กระเป๋าเสื้อผ้า… เขาเตรียมเริ่มชีวิตใหม่

แม้จะเจ็บไม่จางแต่ชีวิตต้องเดินต่อ เขาเงียบไป เขารู้ดี ตอนที่กลับบ้านเขาก็เก็บอาการไม่อยู่จนแม่ทักมาทีหนึ่ง เขากลัวว่าแม่จะจับได้ กลัวว่าตัวเองจะเผลอร้องไห้ต่อหน้าแม่ พฤกษจึงออกไปเที่ยวกับเพื่อนที่หยุดงานและกลับมาบ้านเหมือนๆ กันทุกวัน แม่เองก็ไปงานบุญทุกวัน พ่อไม่อยู่บ้านช่วงนี้พอดี...โชคดีที่เขาไม่ต้องโดนพ่อหนีบไปไหนมาไหนด้วย

ตลอดเวลาที่กลับบ้าน เช้ามืดพฤกษก็จะพาแม่ไปส่งที่ที่แม่ต้องไปช่วยงานบุญเค้า แล้วตัวเองก็ไปรวมตัวกับเพื่อน เที่ยวกันไปเรื่อยๆ จนช่วงดึกราวสี่ทุ่ม พฤกษจะไปรับแม่แล้วกลับเข้าบ้านมาด้วยกัน

วันสุดท้ายที่จะกลับกรุงเทพฯ แม่กับลุงเต๋อเพื่อนข้างบ้านขับรถมาส่งเขาเพื่อขึ้นรถ แม่อวยพรให้หน้าที่การงานก้าวหน้าโดยหารู้ไม่เลยว่า… ลูกชายถูกเขาไล่ออกจากงานมาแล้ว

ลุงเต๋อบอกให้ขยัน อดทน มองไปข้างหน้า แล้ววันข้างหน้าจะดีเอง….. ลุงเต๋อยังไม่วายพูดเลียนแบบโฆษณา “อุปสรรคเค้ามีไว้ให้พุ่งชน! เอ็งจำไว้”

------ สมกับเป็นเกลอเกลียวแน่นของพ่อไอ้ลูกหมา มุกไม่ขาด ร่าเริงตลอดเวลา

เช่นนี้เอง จากเดิมที่เคยคิดว่าอย่าไปเลยบางกอก…. กลับกลายเป็นว่าเขาต้องกลับมาสู้อีกครั้ง

งานที่อยากทำ เขายังไม่ได้เริ่มทำเลยสักนิด หลายเดือนที่ผ่านมาในบริษัทเก่า เขาได้แค่เมียงมอง… คอยมอง คอยฟัง หากมีคนที่ดีพอถามได้ก็ให้ถาม---- ทำแบบที่พี่ธีสอนตลอด และมันก็เป็นผล

คิดขึ้นมาแล้วน้ำตาก็รื้อ น้ำตาหยดแรกไหลกลิ้งลงจากหางตา ผ่านแก้มของเขาให้เป็นร่อง มันกรุยทางให้หยดอื่นๆ ไหลตามมาได้โดยสะดวก

ทุกครั้งที่คิดถึงคือทุกครั้งที่เจ็บปวด แต่ใจเจ้าเอย มันยังไม่วายประหวั่นคิดถึงเขา

เขาเหลียวแลหัวใจดวงนี้บ้างมั้ย

ตั้งแต่เกิดเรื่อง… ตั้งแต่ออกปากไล่กันครั้งนั้น เคยโทรหากันสักครั้งมั้ย?

ไม่มีทางที่โจ้จะไม่หาทางบอกพี่ธี หากไม่ใช่โจ้เพื่อนเขาคนอื่นก็ต้องบอก…. แต่ไม่มีวันไหนเลยที่อยู่ที่นี่แล้วเพื่อนคนใดคนนึงบอกเขาว่า “ไอ้พฤกษ พี่ธีโทรหามึงว่ะ….”

จนกลับบ้านพ่อแม่ก็ไม่มี…

พี่ธีไม่ได้โทรหา พี่ธีไม่ได้ถามถึงเขากับโจ้ พี่ธีไม่ได้โทรหาตัวเขากับแม่หรือว่าพ่อ-----ไม่มีเลย

พฤกษบอกตัวเองว่าต้องทำใจ… ‘ต้องอยู่ต่อไปให้ได้’ พฤกษบอกตัวเองทั้งที่ไม่สามารถหยุดน้ำตาของตัวเองได้!

อยากร้องก็ร้องไป ร้องให้พอ ร้องให้มันหมดตัว เอามันออกมาให้หมดจากในส่วนที่เหลือของทั้งชีวิต แล้วอย่าได้ร้องไห้อีกล่ะ ไอ้พฤกษ!

พอกันที “ความรัก”…… มันหวานนะ แต่มันก็ขม!

งั้นลืมมันซะ

อย่าไปจำมัน

ถ้าลืมมันได้ หัวใจมันก็จะไม่เจ็บอีก


.....

….



..

.

“โจ้ พฤกษกลับมาที่โจ้รึยัง?” ธีถามทันทีที่ปลายสายครับ

“มาเมื่อเช้าครับ เจอกันก่อนออกจากหอ” โจ้บอก

“หอโจ้อยู่ไหน บอกพี่หน่อย” ธีถามด้วยความร้อนใจ

“พี่ธี คือผมไม่ขอบอกพี่นะ… ผมไม่รู้หรอกว่าพี่กับมันทะเลาะอะไรกัน คุยอะไรกันบ้างแล้ว แต่เพื่อนผมมันบอกพวกผมว่า “อยากพอแล้ว” ผมเข้าใจพี่ธีนะครับ เพราะผมเองก็เคยอยู่ในฐานะเดียวกับพี่มาก่อน แต่ไอ้พฤกษมันก็เพื่อนผม วันนี้มันกลับมาที่ห้องผม พวกผมก็ดีใจที่พวกผมยังมีพื้นที่ว่างให้มันได้อยู่อย่างสบายใจ ผมจึงไม่อยากให้เพื่อนผมต้องเสียพื้นที่นี้ของมันไป… มันเสียใจมากนะพี่ และผมว่าพี่ก็คงไม่ต่างกันกับมัน แต่มันเป็นเพื่อนรักผม เพราะเหตุนี้…. ผมคงช่วยอะไรพี่ไม่ได้อีก ขอโทษด้วยครับพี่ธี ผมขอตัวทำงานต่อก่อนนะครับ” โจ้บอกอย่างรัวเร็วและตัดสายไปทันที

อยากพอแล้ว!----- หมายความว่าไง….

ธีรู้แต่เขาไม่อยากตีความหมาย ใจมันไม่อยากยอมรับ….

ธีเข้าใจโจ้ดี หากวันนี้ต้องช่วยเหลือตัวเอง ธีก็ควรต้องทำ! เพื่อให้ได้ไปขอโทษคนที่รัก เพื่อเอาตัวคนที่รักคืนมา… หากงอนต้องง้อ

ธีโทรหาเพื่อนๆ ของตัวเอง บอกว่าต้องการติดต่อรุ่นน้องที่มอคนหนึ่งให้ได้ เป็นเรื่องด่วน ให้ช่วยหาที่อยู่หอให้หน่อย…. และบอกชื่อ นามสกุล และคณะกับสาขาของโจ้ไป

ก่อนเลิกงานสิบนาที เพื่อนสองคนก็ส่งที่อยู่ของหอพักโจ้มาให้เขา---- ที่อยู่ตรงกัน

ทันทีที่เลิกงานธีรีบขับรถไป… ขณะที่เขาจะเดินเข้าไปในตึก เสียงคนหนึ่งเรียกชื่อเขา “พี่ธี!” ธีรีบหันหน้าไปหาทันที…. ด้วยหัวใจที่พองโต

“พี่มาที่นี่ได้ยังไง” เสียงนั้นแสดงความไม่พอใจ

“พี่มาพาพฤกษกลับไปครับ” ธีบอกอีกฝ่าย

“ผมพูดกับพี่ไปแล้ว พอเหอะพี่ ถ้าพี่ขึ้นไปมันจะเข้าใจว่าผมไม่เข้าข้างมัน ถ้ามันน้อยใจผม มันจะเตลิดไปไหนบ้างผมก็ไม่รู้ ห้ามเด็ดขาดเลยนะพี่!” โจ้บอกด้วยอาการร้อนรน

“โจ้ไม่ได้บอกพี่ และพี่ก็พยายามหาของพี่เอง ทำไมพี่จะพยายามเพื่อแฟนของพี่ไม่ได้!” ธีเสียงเข้ม

“ห้ามขึ้นไปครับ!” โจ้เอาจริง เขารู้ดีว่าเพื่อนเขาไม่พร้อม หากมันพร้อม แค่คุยกันต้องรู้เรื่องแล้ว หากคุยแล้วมันบอกว่า อยากพอ… นั่นคือเพื่อนรับไม่ไหว!

ธีไม่สนใจเขา และวิ่งขึ้นไปยังห้องที่จำหมายเลขไว้ได้ขึ้นหัว โจ้วิ่งตามหลังเขาไปติดๆ ทันทีที่เห็นป้ายหมายเลขห้อง ธีเคาะประตูเสียงปึงปัง เขาร้องเรียกชื่อของคนที่เขาตามหา และขอให้น้องออกมาคุยกันก่อน…. น้ำเสียงอ่อนโยนต่างจากเสียงเคาะประตูอย่างสิ้นเชิง

“พี่ธี หยุด!  หยุด!” โจ้ร้องห้าม

ธีหยุดมือ และหันไปบอกโจ้ “เจอกันครึ่งทางนะครับ โจ้เข้าไปบอกพฤกษว่าพี่มาหา พี่ขอคุยด้วย และพี่จะรอตรงนี้ พี่จะไม่เข้าไปในห้องโจ้จนกว่าพฤกษจะอนุญาต”

โจ้ถอนหายใจและล้วงกุญแจออกมาไขห้อง เขาระแวงระวังว่าพี่ธีจะฉวยโอกาสตอนที่เขาเปิดประตูหรือเปล่า?.... แต่ก็ไม่ พี่ธียังคงยืนอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่

โจ้มองพี่ธีไม่วางตาและปิดประตูห้อง.... “ไอ้พฤกษ!” โจ้สอดส่ายสายตามองหาเพื่อน---- ไม่มี

ไม่ว่าจะที่ไหน ไม่มีเงาของคนอยู่ในห้องนี้ โจ้ใจหายวาบรีบวิ่งไปที่ระเบียงห้อง และมองลงไปข้างล่าง…. มีแต่พื้นปูนไม่มีร่างคน!

จะว่าคิดมากก็ได้ แต่อกหักแล้วคิดสั้นมันเกิดขึ้นได้นี่นา… โจ้ลองหันกลับมามองรอบๆ ห้อง เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า กระเป๋าของพฤกษไม่อยู่แล้ว ถุงเอกสาร กระเป๋าคอมก็ไม่มี ระหว่างนั้นโจ้หันไปเจอกระดาษแผ่นใหญ่วางอยู่บนหมอน เขาเดินไปหยิบมันมาดู

โจ้ถอนหายใจด้วยความอึดอัดขัดใจ… เขาทำใจสักพักจึงเดินไปที่ประตูห้อง เปิดมัน แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้พี่ธี

พี่ธีรับไปอ่านด้วยความดีใจ…

รอยยิ้มนั้น….บาดหัวใจโจ้เล็กน้อย---- หากได้อ่านกระดาษแผ่นนั้นแล้ว รอยยิ้มนั้นคงไม่มีอีก… และมันจะมีอีกครั้งเมื่อไหร่ โจ้ก็สุดที่จะรู้

ไอ้โจ้ ไอ้ฟ้า ไอ้เอก ไอ้ก้อง

กูขอบใจพวกมึงมาก กูซึ้งใจมากที่พวกมึงห่วงกู ช่วยดูแลกู…. แต่พอดีแหละที่กูโดนไล่ออก มันก็ดีนะ กูจะได้มีเวลาทำใจ ไว้กูโอเคแล้วกูจะกลับมาหางานใหม่ แต่ตอนนี้กูขอไปไกลๆ หน่อย…. อยากอยู่คนเดียวว่ะ แต่กูไม่คิดสั้นหรอกนะ กูยังมีแม่ มีพ่อ มีพวกมึงทุกตัว

ไว้กูจะโทรหาพวกมึงทีหลังนะ

ปล. อย่าบอกอะไรพ่อแม่กูนะ กูไม่ได้บอกเค้าเรื่องที่กูถูกไล่ออกจากงาน

รักพวกมึงว่ะ

ไอ้พฤกษ


….



..

.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2012 21:09:36 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
แล้วเมื่อไหร่จะได้เข้าใจกันนิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด