เรื่อง(สั้น) บังคับรัก ^^
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง(สั้น) บังคับรัก ^^  (อ่าน 49283 ครั้ง)

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
เรื่อง(สั้น) บังคับรัก ^^
« เมื่อ29-03-2012 03:09:34 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

 o18


นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่ง ชายกับชาย แต่เคยแต่งฟิคดงบังมาแล้วแต่เป็นเรื่องสั้น เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องสั้นอยู่ดี เพราะฉะนั้นการแต่งเรื่องนี้เฟิร์นก็ถือว่าเป็นมือใหม่(ป้ายแดงมากมาก)เพราะฉะนั้นสามารถติชมกันได้ แต่ช่วยถนอมน้ำใจคนเขียนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ






Rrrrrr


“สวัสดีค่ะ ปั้นชาพูดค่ะ”

 
“โหล ชาเหรอ แย่แล้วไอ้หินหายตัวไป”


“ห๊ะไอ้หินนี่นะหายตัวไป มันจะหายไปได้ไงวะ ตอนเย็นยังอยู่กับมันอยู่เลย”


“ก็เพราะแกอยู่กับมันไง มันเลยเห็นภาพบาดตาบาดใจแกกับแฟนแกไง”


“แล้วเกี่ยวไรกับฉันวะ”


“มันชอบแก ได้ยินรึป่าว มันชอบแกตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะเว้ย จนตอนนี้พวกเราอยู่ปีสองมันก็ชอบแกเรื่อยมา แกอ่ะไม่ยอมเลิกกับ
แฟน สงสัยวันนี้อารมณ์มันคงจะระเบิด”


“ยังไงก็เป็นเพื่อนกันช่างเถอะ แกไปหาที่ไหนมาแล้วบ้าง”


“ไปทั้งหอมัน ร้านอาหารที่พวกเราชอบไปก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ถามรูมเมทมันก็ไม่รู้ ชาฉันเป็นห่วงมันว่ะ”


“เออได้ เดี๋ยวฉันลองโทรหาคนอื่น แค่นี้ก่อนนะ”


Rrrrrr


“ฮัลโหล”


“ปั้นชา เพื่อนแกมานั่งเมาอาละวาดอยู่ที่ร้านเหล้าของวิศวะเนี่ย แถมอ้วกใส่คนอื่นด้วย รีบมาตามกลับไปด่วนเลย ก่อนที่เพื่อนแก
จะได้ชิมตีนของเด็กวิศวะ แม่งเมาไม่รู้เรื่องรู้ราวรีบมาไวเลยๆ”


“ได้พี่โต้ง เดี๋ยวชาไปลากคอกลับหอพักเอง”


“ทำมายๆ ชาไม่ร้ากเรา เราไม่ดีตรงหนาย เอิ๊ก  น้องเอาเหล้ามาอีกเด๊ะ มากระแทกปากให้เละไปเลย”
หึหึ คนที่เมาพูดไม่รู้เรื่องรู้ราวไม่ใช่ใครที่ไหน ผมเอง นาย พสุธา ถาวรกุล ใครๆเรียกกันว่าไอ้หิน หรือหินสีของไอ้ปั้นชา ผมขอเล่าเรื่องก่อนที่จะมาเมาหัวราน้ำแบบนี้ก่อนและกัน
อดีตที่ลิขิตที่ทำให้ผมเจอมัน


“เห้ย หินสี พรุ่งนี้มีสอบใช่ป่ะ มาติวให้ชาหน่อยดิ ชาไม่ค่อยเข้าใจ ที่เดิมใต้ตึกคณะนะ”
คนที่พูดกับผมตอนนี้ ชาหรือปั้นชา เป็นผู้หญิงที่ผมหลงรักตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ชาเป็นคนสดใส ร่าเริงตลอดเวลา ใครอยู่ใกล้เธอก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย นี่แหละมั้งทำให้ผมรักเธอ แต่ก็ทำได้เพียงแค่แอบรักในเมื่อเธอมีแฟนแล้วแถมยังรักกันมาก  ผู้ชายคนนั้นดีกว่าผมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น การศึกษา ฐานะแม้แต่หน้าตาที่ออกจะหล่อมาดแมนสมชายชาตรี ส่วนผมไอ้แห้งประจำคณะ ผิวขาวซีดยังกับศพเดินได้ หน้าก็โคตรจะแมนมากถึงมากที่สุด มีแต่คนมาทัก ”ว่าไงจ๊ะน้องสาวคนสวย” ขอโทษทีผมผู้ชายทั้งแท่งนะครับ ผมไม่เข้าใจไอ้คนที่มาทักมันใช้ส่วนไหนดู ผมว่าหน้าผมออกจะแมน ถึงมันจะไม่ค่อยเข้มแต่ผมมั่นใจและกันว่าผมหล่อสไตล์เกาหลี ห้วย!ยอมรับก็ได้แม้แต่แม่ผมยังบอกเลยว่าผมน่ะมันเกิดมาผิดเพศ เพราะหน้าผมจะออกไปทางหวานมากกว่า


“หินสีๆๆ เห้ยหินสี ยืนเหม่อไร ชาจะบอกว่าไม่ต้องติวแล้วเพราะแฟนชามารับแถมมันยังมาถึงตึกคณะแล้วด้วย”


“งั้นเหรอชา แต่มันยากมากนะชาที่สอบวันพรุ่งนี้”


“ฮ่าๆๆ หินสีแกคิดว่าชาเป็นคนยังไง ชาเกิดมาพร้อมกับดวงอยู่แล้ว อีกอย่างชาก็มีพื้นฐานเหมือนกันแหละ แค่หินสีเก่งกว่าชาแค่นั้นเอง”


“งั้นเหรอ งั้นชาไปดีมาดีนะ”


“แหมพูดยังกับชาไปออกรบ เดี๋ยวเถอะ ไอ้หินสี อ๊ะมาแล้วชาไปก่อนนะ หินสี”
ทุกคนอาจจะงงว่าชื่อเล่มผมนั้นชื่อหินสี หรืออย่างไร ไม่ใช่ผมขอย้ำอีกทีว่าชื่อผมน่ะแค่”หิน” แต่ผมนั้นเรียนศิลปกรรม แถมไอ้ชายังบอกผมว่า หน้าผมเหมือนผู้หญิง เลยให้ฉายาว่าหินสี ผมก็งงๆกับมัน  มาเข้าใจอีกทีตอนมันบอกว่าห้ามผวนนี่แหละ ผมยืนมองชากับแฟนชา เห็นแล้วอยากจะเอาพู่กันไปจิ้มตา เอากระดานไปโบกหัว เอาสีไปสาดใส่แฟนชาซะจริงๆ เหอๆแต่คงทำได้แค่ในความคิดมีหวังผมทำจริงผมคงเละเป็นโจ๊ก พวกคุณลองคิดดูและกันไอ้ผมสูงแค่ 170 กะประมาณส่วนสูงของแฟนชาก็คงจะ 180 กว่าๆ คุณคิดว่าผมยังกล้าทำอีกไหมล่ะครับ แถมหุ่นออกจะต่างกันไปเยอะทีเดียว และที่ผมรับไม่ได้ที่สุดรู้สึกอารมณ์ตอนนี้ผมใกล้จะระเบิด ก็ดูดิเดินกระหนุงกระหนิงกันต่อหน้าเลยนะนั่น


“ห่าราก ให้กูเหนื่อยเดินมาตาม มือถือก็ไม่รับ มาจีบสาวศิลปกรรมอีกแล้ว ไปแดกเหล้ากันเหอะ รุ่นพี่วิศวะที่จบไปมาเปิดร้านเหล้าปั่นหลังมหาลัย อร่อยเลยนะมึง”
เหมือนผมจะได้ยินไรแว่วๆ ร้านเหล้าหลังมหาลัย


“จริงดิ งี้กูต้องไปชิมซะหน่อยแล้วไปเหอะ กูอยู่กับพวกศิลปกรรมนานเดี๋ยวกูจะติสก์แตกตาม”


“อ้าวแล้วมึงมาจีบสาวคณะนี้”


“ มึงลองคิดดู ให้กูจีบสาวคณะเดียวกัน แม่งมีแต่อึด ถึก ควาย เออแล้วก็มีน้องจุ๊บแจงแตงร่มใบ มีน้องฟ้าใสใจสะออน ที่หุ่นจะเทียบเท่าหมีควาย มึงคิดว่าระหว่างคณะนี้กับคณะเราคณะไหนมันน่าจีบกว่ากันวะ”
โหย ไอ้เด็กวิศวะแม่งดูถูกสาวคณะตัวเอง  ร้านเหล้างั้นเหรอ เห็นพวกวิศวะมันชอบดื่มกันจัง ทั้งชีวิตเกิดมายังไม่เคยดื่มเหล้า ยังไงวันนี้ขอดื่นเหล้าย้อมใจหน่อยแล้วกัน
กลับมาสู่ปัจจุบัน


“เอ่อ พี่ครับ ผมว่าพี่เมามากแล้วนะครับ ผมว่าพี่กลับบ้านเหอะ”
ไอ้บริกรหน้าลิงนี่หาว่าผมเมาเหรอ คนอย่างผมนี่นะเมา สงสัยมันจะเมาแทนผม


“ไม่ได้มาว โอ๊ะร้านนี้เขาจ้างลิงมามาเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยเหรอวะ บอกให้เอาเหล้ามาอีกงาย พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอวะ หรือต้องให้พูดภาษาลิงถึงจะเข้าใจ”


“อยากแดกเหล้ามากใช่ไหมครับได้เดี๋ยวผมไปเอามาให้ กระแทกให้ปากแตกไปเลยนะครับ”


“เป็นเด็กเสิร์ฟก็ต้องตามใจลูกค้าดิ เอิ๊ก” ผมพูดอยู่ดีๆรู้สึกเหมือนมีเงาหมีควายมาทาบทับ


“น้องพี่ว่า น้องกลับบ้านก่อนเถอะ น้องเมามากแล้ว คนอื่นเขาลำบากเพราะน้องนะ มัวแต่โวยวายไปโวยวายมา มันลำคานแก้วหู” 
ใครมาพูดกับผมเนี่ย นอกจากไอ้บริกรนั่นแล้วยังมีคนไล่ให้ผมกลับบ้านอีกเหรอผมเงยหน้ามองมัน โห ตัวแม่งโตว่ะ อิจฉา อยากได้หุ่นแบบนี้มั่ง


“ม่ายกลับ ใครบอกว่าเมา ไม่ได้เมาสักหน่อย ไม่ได้เมา เอิ๊ก เดี๋ยวเดินให้ดูเลย”
ผมลุกขึ้นยืน มีเซๆไปเล็กน้อย ทำไมผมรู้สึกไอ้คนที่พูดกับผมมีสองคน หรือแม่งมีฝาแฝด ฮ่าๆคงใช่มันมีฝาแฝด


“ถอยไปดิ เดี๋ยวเดินไปหาแล้วจะรู้ว่า คนอย่างไอ้หินไม่เคยเมา เอิ๊ก”
อื้อมันมีสองคนจริงๆด้วย เดิน เดิน ก้าวแรก เอียงซ้ายหน่อยๆ ก้าวสองหน้าจะถลำไปข้างหน้านิดๆ  ก้าวสามเซไปทางขวาเยอะไปหน่อย เอาใหม่ตั้งลำใหม่


“เอ็งมีฝาแฝดเหรอวะ ยืนให้มันตรงกันหน่อยดิ เดินไปหาไม่ถูก”


“พูดบ้าไรวะ เมาแล้วน่ะ กลับบ้านไปได้แล้วไป”
นั่นไงมันพูดอีกแล้วว่าเมา ก็บอกอยู่ว่าคนอย่างไอ้หินไม่เคยเมา เพราะไม่เคยดื่มเหล้า ฮ่าๆ แล้วจะเคยเมาได้อย่างไร แม่งโง่จริง
ตั้งหลักเสร็จก็เดินไปหามันอีก  เอนไปหน้าไปหลังเล็กน้อย รู้สึกโลกมันไม่ค่อยเป็นใจกับการเดินหรือโลกมันตกหลุมอากาศ แล้วโลกตกหลุมอากาศได้ไงวะ ก้าวไปอีกนิด รู้สึกเหมือนมีมือผีมาดึงข้างหลังให้หงายลงไปกับพื้น


“เห้ยระวัง”
ผมนึกว่าผมจะได้เลือดเป็นการฉลองในการดื่มเหล้าครั้งแรกของผมซะอีก


“เหอะบอกว่าไม่เมา ไม่เมา ถ้ารับไม่ทัน หัวจะแตกนะ”
ผมรู้และสาเหตุที่ผมยังไม่โหม่งพื้นเพราะไอ้คนที่หาว่าผมเมามารับผมไว้ได้ทัน รู้สึกเหมือนอะไรๆที่ผมกินไปมันจะตีขึ้น แล้วมันกำลังจะพุ่งออก
พรวด


“อ้วก แหวะๆๆๆ อ่อก อ้วกกกกกกกกกกก”


“อ้าวเหี้ย อ้วกใส่กูซะงั้น”


“โอย โล่ง อืมม เหม็นๆๆ อย่ามาเข้าใกล้”


“ก็อ้วกมึงน่ะแหละ ไอ้เวรเอ๊ย”
ผมรู้สึกเหมือนมีแมงหวี่มาบินใกล้ๆหูผมนะ หรือผมคิดไปเอง รู้สึกง่วงจังขอหลับตรงนี้จะมีใครว่าไหมนี่


“ไอ้หิน ไอ้หินสี อยู่ไหน อยู่ที่นี่รึป่าว”
เหมือนได้ยินเสียงนางฟ้าของผมเลย เสียงชารึป่าว ขนาดผมมาดื่มเหล้าแล้วชายังตามมาหลอกหลอนผมอีกเหรอ


“น้องครับ เพื่อนน้องคนนี้รึป่าว มันมาอ้วกใส่เพื่อนพี่” ใครพูดไรกันวะแม่งรบกวนการหลับจริงๆ


“เอ่อขอโทษด้วยค่ะพี่ พอดีเพื่อนชามันไม่เคยดื่มเหล้า มันเลยเมาเหมือนหมาแบบนี้ งั้นชาขอตัวมันกลับก่อนนะคะ” ผมได้ยินเสียงชาอีกครั้ง ผมเลยพยายามบังคับให้ยืนด้วยร่างกายตัวเองแต่เมื่อกี้รู้สึกสบายมากเหมือนไปพิงอกใครเขาเลย


“พี่ขอตัวไปห้องน้ำ เอาของพวกนี้ที่เพื่อนน้องอ้วกใส่พี่ออกก่อนนะ”


"ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ"


“ชาเหรอ สวัสดีๆ ชามาทำไม ไม่เหมาะสมนะชา ชาเป็นผู้หญิง แถมยังเป็นผู้หญิงที่หินรักอีกไม่ดีๆชาออกไปๆ”


“พูดจาเหลวไหลอะไรกันหิน กลับกันเถอะ ชามารับแล้วเดี๋ยวชาจะไปส่งหินที่หอนะ”


“ไม่กลับ หินไม่กลับจนกว่าชาจะบอกรักหิน”


“พูดไรบ้าๆหิน ชากับหินเป็นเพื่อนกันนะ ชาก็ต้องรักหินอยู่แล้วสิ”


“หินไม่อยากได้ความรักแบบเพื่อน หินอยากให้ชารักหิน รักหินแบบที่จะแต่งงานกัน”


“ชาทำไม่ได้หิน กลับกันเถอะหิน เดี๋ยวเราไปคุยกันพรุ่งนี้”


“ไม่ ในเมื่อชาไม่รักหิน หินก็ไม่กลับหินจะเมาๆแบบนี้”


“มันได้ประโยชน์ไรขึ้นมาห๊ะ แค่ชาไม่รักหินแบบที่หินต้องการ หินยอมมาดื่มเหล้าเลยเหรอ ยอมทำให้ตัวเองหมดสภาพไม่ต่าง
อะไรกับหมาเลยนะตอนนี้ หินรู้ตัวไหม”


“ใช่สิหินมันจะไปมีค่าอะไรเท่าแฟนชา หินมันก็แค่เพื่อน เป็นได้แค่เพื่อน เป็นมากกว่านั้นไม่ได้แล้ว”


“ชาว่าหินคุยไม่รู้เรื่องแล้วนะ หินกำลังเมา ไว้เราค่อยคุยกันพรุ่งนี้”


“ไม่กลับ หินจะอยู่ที่นี่”


“จะให้ชาทำยังไง หินถึงจะยอมกลับ”


“บอกเลิกกับแฟนของชาสิ”


“หิน ไม่ตลกเลยนะ กลับเดี๋ยวนี้”


“ไม่กลับ”


“ไม่กลับใช่ไหมหิน”
ผมรู้สึกเหมือนผมจะชนะชานะคราวนี้
ปึก


“ทำไมชาถึงต่อยหินรู้ไหม”
ผมเซถลาล้มไปกับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ ผมรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดที่มุมปาก หึ ชาต่อยผม ผมมันเป็นได้แค่เพื่อนจริงๆด้วยสิ หมดหวังแล้วสินะ


“ข้อแรก หินเป็นเพื่อนชา ชาพยายามจะเตือนสติหิน ข้อสองตอนนี้หินกำลังไร้สติจากสุรานี่ ข้อสามหินไปอ้วกใส่พี่เค้า เพราะฉะนั้นหินต้องเอาเสื้อพี่เค้าไปซักด้วย ข้อสุดท้าย เพราะชาเป็นห่วงหิน”
เป็นห่วงงั้นเรอะ ไอ้เพราะความเป็นห่วง เพราะความอ่อนโยนที่ชาให้กับผมมาตลอดไม่ใช่เหรอที่ทำให้ผมหลงรักชามากขนาดนี้


“เป็นห่วงงั้นเหรอชา ก็เพราะชาเป็นแบบนี้ หินเลยรักชา รักมาตลอด อย่ามาทำดีกับหินเพราะเราเป็นแค่เพื่อนกัน”


“หิน ชาขอโทษ กลับเถอะนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยซักเสื้อคืนพี่เขา”  ผมรู้สึกเหมือนพี่เขาจะกลับมาจากห้องน้ำแล้ว หลังจากที่ผมได้อ้วกใส่พี่เขา ต้องขอบคุณเขาที่ไม่ต่อยผม


“ชาบอกให้ซักเสื้อให้พี่เขางั้นเหรอ งั้นหินจะกลับกับพี่เขา เพราะยังไงๆหินก็ต้องซักเสื้อให้อยู่แล้ว จะแปลกอะไรถ้าหินจะกลับกับพี่คนนี้”
ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ผมรู้แค่ว่าขอแค่วันนี้ เวลานี้เท่านั้นที่ผมไม่อยากอยู่ใกล้ชา อยากทำใจ อยากลืมผู้หญิงคนนี้ที่ผมรักหมดใจ


“หินแต่พี่เขาเป็นคนแปลกหน้านะ”


“ขนาดชายังให้หินไปซักเสื้อให้คนแปลกหน้าได้เลย”


“ตามใจหินแล้วกัน ชาเหนื่อยที่จะพูดกับหินแล้ว”
นั่นสินะ ใครมันจะไปอยากพูดกับคนเมา 


“รบกวนพี่หน่อยนะคะ ชื่อปั้นชาค่ะ ปีสอง ม.U เพื่อนของหิน พี่ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน เบอร์ติดต่อ ชาพูดตรงๆชาไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า ยิ่งเพื่อนของชาเมาไม่รู้เรื่องราว ขนาดมันไม่เมาชายังอดเป็นห่วงไม่ได้เลย” 


“ไม่เป็นไร ยังไงก็เป็นพี่น้องมหาลัยเดียวกัน พี่ชื่อ ยุ่ง อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ปีสาม ม.Uเหมือนกัน นี่เบอร์พี่”


“ขอบคุณมากค่ะพี่ยุ่ง ถ้าพรุ่งนี้มันเสือกลืมว่าทำอะไรที่ไหนพามันไปส่งที่คณะศิลปกรรม ทีนะคะ”


“อื้ม ได้”


“ฝากดูแลหินด้วยนะคะ มันไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว”
ผมรู้สึกชาคุยกับพี่คนนี้จนทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ


“ไปก่อนนะหิน หินเป็นคนเลือกกลับกับพี่ยุ่งเองนะ ฝากด้วยนะคะพี่ยุ่ง”
ชาพูดกับผมอยู่ดีๆชาก็ไปพูดกับพี่ยุ่งย่างห่าเหวไรนั่น แล้วชาก็ออกไป ผมรู้สึกเหมือนใจสลายจริงๆซะแล้วสิ ผมคิดมาตลอดว่าผมสามารถทำใจได้ จนวันนี้วันที่ชาเดินทิ้งผมไป เพราะผมสินะผมไล่ชาไปเอง ผมรู้สึกความเข้มแข็งของผมที่พยายามสร้างมาตลอดสองปีมันกำลังพังทลาย ตอนนี้เวลานี้ ขาของผมไม่มีแรง ผมทรุดไปกับพื้นปล่อยน้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมา


“หึ แค่อกหักเพราะผู้หญิงไม่รัก ร้องไห้ฟูมฟายอย่างกับเผาเต่า นี่ถ้าแม่นายตายจะร้องแบบนี้ไหม”


“ปากเสีย อย่ามาแช่งแม่ผมนะ”


“โอเค ยอมๆ จะกลับกันรึยัง อยู่ไปก็สร้างปัญหาให้คนในร้าน”


“ใครสร้างปัญหากัน แล้วไม่ต้องมายุ่งกับผม ผมกลับเองได้ ผมก็มีตีนเหมือนกัน”


“อกหักแล้วปากหมารึไง เดินไหวรึป่าว ถ้าเดินไม่ไหวจะได้อุ้ม”


“ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่ต้องการให้ผู้ชายมาอุ้มหรอก อีกอย่างผมก็แค่บอกชาไปงั้นเองว่าจะกลับกับพี่ แต่ไม่ได้หมายความตามนั้น
ผมแค่ไม่อยากกลับกับชาตามลำพัง”


“รู้ว่าเป็นผู้ชาย เมื่อได้ยินเสียงน่ะนะ ขนาดเสียงยังยากที่จะฟังออกเลย”


“เอ๊ะ พี่จะเอาไงกับผมเนี่ย”


“ก็ไม่เอาไง ก็แค่เราต้องกลับไปกับพี่เท่านั้น พี่ไม่ชอบผิดสัญญาซะด้วยสิ แถมนายต้องเอาเสื้อพี่ไปซักตามคำสั่งของน้องชา”


“อย่ามาเรียกชาว่าน้องชานะ”


“ทำไมจะเรียกไม่ได้ในเมื่อน้องชาเป็นรุ่นน้อง หรือจะให้เรียกว่าน้องหิน”


“ไม่ได้ทั้งนั้นแหละทั้งน้องชาน้องหิน พอๆไม่อยากเถียงกับพี่แล้วเอาเสื้อมาผมจะไปซัก”


“ไม่ได้ หินต้องกลับไปกับพี่”


“ไม่กลับ หินไม่กลับกับพี่ หินจะกลับเอง”


“พี่ไม่ได้เป็นคนใจดีด้วยสิ เอาไงเอากันแหละวะ”
ผมนั่งอยู่ ไอ้พี่บ้านี่ก็เอามือมาสอดใต้ขาผมแล้วอุ้มท่าแบบเจ้าชายอุ้มเจ้าหญิง ว้ากก กูผู้ชายนะเว้ย


“ไอ้พี่บ้า ไปกูลงเดี๋ยวนี้เลยนะ”


“ถ้ายังไม่หยุดดิ้นจะจูบโชว์คนทั้งร้าน จะลองไหม พูดจริงทำจริง”


“ไม่เชื่อ”


“แปลว่าอยากโดนจูบงั้นสิ ทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก”
ไอ้พี่บ้านี่มันกำลังจะก้มจูบจริงๆด้วย ไอ้พี่เกย์หื่น


“กูเป็นผู้ชายนะโว้ย”


“กูก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแหละโว้ย มีเหมือนกับมึงแหละว่ะ”


“ไอ้พี่หื่น”


“สงสัยหินยังไม่รู้จักกับคำว่าหื่นดีพอสินะ ถ้าแค่นี้เรียกว่าหื่น แล้วถ้าพี่ทำมากกว่านี้หินจะเรียกว่าอะไร”


“ไอ้ ไอ้ ไอ้”


“ด่า จูบหนึ่งที ถ้าดิ้นอีก ปล้ำหนึ่งครั้ง”
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2012 00:49:24 โดย archaeoloable »

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่อง(สั้น) บังคับรัก
«ตอบ #1 เมื่อ29-03-2012 03:32:08 »

“ไอ้”


“จูบหนึ่งที”


“ไอ้หื่น”
ผมด่าเสร็จผมก็รีบเอามือสองข้างปิดปากทันที มันอมยิ้มน้อยๆ  จะว่าไปมันก็หล่อเหมือนกันนะ เห้ย หินมึงเป็นผู้ชาย จำไว้เป็นผู้ชายห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด


“ไอ้ยุ่ง มึงจะเอาเด็กนั่นกลับจริงๆเหรอวะ “


“ทำไงได้วะก็เพื่อนน้องเขาฝากมาแล้วนี่นา อีกอย่างกูไม่ใช่คนผิดสัญญาซะด้วยสิ”


“ไม่เห็นมึงต้องอุ้มแบบนั้นเลยนี่หว่า น้องเขาผู้ชายนะมึง”


“ผู้ชายแต่ตัวเบาชิบหาย ไม่รู้แม่งแดกข้าวหรือแดกหญ้า ตัวแม่งเบากว่าผู้หญิงอีก กูไปก่อนนะไอ้โจ”
เหมือนไอ้พี่หื่น แอบด่ายังไงไม่รู้สินะ พอออกมานอกร้านแม่งก็ยังไม่เลิกอุ้ม ไม่รู้ไปเอาแรงควายมาจากไหน


“แล้วตกลงเรากินข้าว หรือ กินหญ้า ทำไมตัวเบาจัง”


“ก็ต้องกินข้าวดิ เอ๊ะ นี่ มึงหลอกด่ากูเป็นควายเหรอ?”


“พูดคำหยาบ จูบสองที”


“ไอ้ ฮึ่ย แล้วตกลงจะปล่อยได้ยัง”


“ยัง เดี๋ยวจะอุ้มไปถึงรถเลย บริการดีๆแบบนี้หายากนะ”
เหอะทำมาเป็นปากดี ผมพยายามทำตัวให้หนักๆให้รู้ไปสิว่ามันจะแรงควายได้ขนาดไหน ผมเชื่อแล้วล่ะมันแรงควายจริงมันอุ้มผมมาถึงลานจอดรถคนก็มองกันเต็ม ผมก็อายสิครับ ทำไงได้ก็ได้แต่เอาหน้าไปซุกกับอกมัน ส่วนมันได้แต่ยิ้มระรื่นแถมผิวปากอีก มันเดินมาหยุดหน้ารถสองคันแถมอมยิ้มน้อยๆ มันอมยิ้มอีกแล้ว อารมณ์ดีจังนะแกล้งกูเนี่ย


“ทายสิ รถของพี่คันไหน”


“ทำไมผมต้องทายด้วย”


“ไม่ทายโดนหอมแก้ม”


“ชอบบังคับจังวะ เอะอะอะไรๆลวนลามกูตลอด”


“เร็วๆ”
คันซ้ายมือเป็นรถยี่ห้อ BMW series 5 ส่วนคันขวา เป็น Beetle Black-Orange Special Edition สีดำ ซึ่งรถคันนี้ผมอยากได้มากๆแต่หน้าอย่างมันคงไม่คิดจะใช้รถของบีทเทิลหรอก มันคงไม่คิขุแบบผมหรอกนะ


“คันซ้าย บีเอ็ม”
ฟอด



“เห้ย หอมแก้มทำไมวะ” ผมรีบเอามือถูแก้มตัวเอง จนมันขึ้นเห่อสีแดง


“อย่าถูสิ ดูดิ๊แดงหมดแล้ว ที่หอมน่ะ เพราะ ทายผิด”


“ในกติกาไม่มีบอกเลยว่าทายผิดจะโดนหอมแก้ม มีแค่บอกว่าไม่ทายโดนไม่ใช่เหรอ”


“เอ้า ไม่ได้ยินเหรอ”


“ได้ยินห่าไรวะ”


“พี่ว่าพี่พูด                ในใจดังแล้วนะ”


“ไอ้” ตามันพราวระยับเลยครับถ้าผมด่ามันตอนนี้ มันต้องจูบผมแน่ ไอ้เลวเอ๊ย ไอ้ชั่ว ไอ้หื่น ผมได้แต่ด่ามันในใจ


“ขึ้นรถกันดีกว่านะ จุ๊บ”


“มึงจูบกู”


“อันนี้เค้าไม่เรียกว่าจูบ เค้าเรียกว่าปากแตะปาก”


“นั่นแหละทำไม”


“เอ้า พี่ได้ยินเราด่าพี่                ในใจดังมาก”
ไอ้สันดาน
ผมขึ้นรถกระแทกหลังกับเบาะ ให้เบาะมันขาดก็ยังดี แต่ผมรู้สึกดีนิดที่ได้นั่งรถมัน เพราะรถคันนี้ที่ผมอยากได้ มันอาจจะใช่ที่ว่ามีเงินก็ซื้อได้ แต่มันเป็นรถนำเข้า หายากมากในประเทศแถม มันยัง Limited อีก ผมรู้สึกโชคดีที่ได้เจอมันแค่เรื่องรถเรื่องเดียว 

“รู้นะว่าชอบรถ”


“ถามจริง มึงอ่านใจได้เหรอ”


“ตอบตรง มั้ง แต่พี่สงสัยว่าเราหายเมาแล้วเหรอ”


“เออ ลืมไปเลยว่าต้องเมา อ่อก”


“เด็กบ้าจริงด้วยสินะ”



Yoong’s part
ผมก็ได้เด็กบ้าคนหนึ่งขึ้นรถเฉยๆซะงั้น พอผมถามมัน หายเมาแล้วเหรอ มันก็สลบคาเบาะผมไปเลย ถ้าไม่เรียกว่าเด็กบ้าแล้วจะเรียกว่าอะไรกันครับ  ผมมาเที่ยวอยู่ดีๆเพราะพี่เจ้าของร้านเป็นลุงรหัสผม เลยชวนผมมาดื่มที่จริงผมก็ไม่ใช่คนชอบดื่มอะไร แค่บางโอกาสเท่านั้น ผมคิดว่าคนเมาไม่ค่อยน่าพิสมัยสักเท่าไหร่เลยไม่อยากดื่ม พอมาถึงร้านก็เจอเด็กนี่โวยวายใส่เด็กเสิร์ฟ กับหน้าแดง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลถ้าเมาแล้วเป็นแบบนี้ผมไม่ดื่มดีกว่า ผมเลยเข้าไปเตือน พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้น ผมคิดว่าเด็กนั่นเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่การพูดจาที่ออกเป็นผู้ชายผมก็คงไม่เชื่อว่าจะมีผู้ชายที่ไหน ผิวขาว หน้าสวยได้อย่างเด็กคนนี้ แถมยังเมาจนอ้วกใส่ผมอีก เมาเหมือนหมาจริงๆเด็กคนนี้ แล้วผมกำลังคิดอีกว่าลุงรหัสผมให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 เข้าได้ด้วยเหรอ จนเพื่อนน้องเขามาแล้วบอกว่าอยู่มหาลัยเดียวกับแถมเป็นรุ่นน้องปีสองอีก หน้ามันเด็กไปไหม ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผมขับออกจากร้านมาได้สักระยะ เออ ผมลืมไปยังไม่ได้ถามมันเลยว่าบ้านมันอยู่ไหน


“หินๆ บ้านหินอยู่ไหน เดี๋ยวพี่จะไปส่ง”


“หา อะไรน้า”
ทีนี้จะมาเมา เด็กบ้า


“บ้านอยู่ไหนครับ น้องหิน”


“บ้านเหรอ ไม่มี๊ มีแต่หอพักจ้า”


“นั่นแหละหออยู่ไหน จะได้ไปส่งดึกแล้ว”


“ใต้ฟ้าบนดิน ข้างๆเป็นต้นไม้ ข้างหน้าเป็นถนน ประเทศเฮติ” แล้วมันก็คร่อกไปตามระเบียบ เขย่าเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น


“บ้านเอ็งสิ ประเทศเฮติ งั้นขับไปคอนโดพี่ก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันอีกที”


“ช่าย พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันอีกที แจ่บๆ ครอก”
เด็กบ้า
ผมขับมาถึงคอนโดก็อุ้มเด็กบ้า ผมล่ะสงสัยจริง ตัวมันเบาจริงๆนะ หรือผมแรงเยอะก็ไม่น่าจะใช่ ผมว่าตัวของหินคงเบาเอง ผมอุ้มหินขึ้นลิฟท์แล้วตรงเข้าห้องของผมไปวางบนเตียง


“สวยจริงด้วย เด็กบ้า เมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ใครเขาทำอะไรจะสู้ไหวไหม”
ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำหากะละมังใส่น้ำอุ่นแล้วผมก็มาเช็ดตัวให้หิน ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรพอถอดเสื้อเสร็จ ผมเผลอมอง เผลอจริงๆนะ ไม่ได้ตั้งใจ อาจจะตั้งใจมองนิดหนึ่ง แค่นั้นก็ทำให้ผมลอบกลืนน้ำลาย ไม่ๆคนเมา ไอ้ห่ายุ่งมึงผู้ชาย รู้สึกในสมองของผมกำลังต่อสู้กันเอง แล้วไงวะผู้ชายเดี๋ยวนี้ชายรักชายมีออกถมเถ แต่น้องเขาเมามึงอย่าทำนะ นี่แหละโอกาสไอ้ยุ่ง ไอ้ยุ่งเพิ่งเจอกัน คำสามคำที่ทำให้ผมรีบเอาผ้าห่มคลุมร่างกายมัน เพิ่งเจอกัน ผมหันไปมองอีก เห็นคอขาวเพรียวน่าประทับตราจอง เพิ่งเจอกัน คำสามคำนี้อีกแล้ว ผมรีบห่มให้มิดคอ ถ้ามิดหน้าได้ผมทำไปแล้ว ผมทำใจสักพักปรับอารมณ์ผมก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อย่างรวดเร็ว ผมกำลังแขวนเสื้อให้มัน โทรศัพท์หล่นออกมา ผมพลิกดูแล้วปิดเครื่องผมเลยเปิดเครื่องแล้ววางไว้ใกล้ตัวเจ้าของนั่นแหละ ส่วนตัวผมเข้าไปอาบน้ำ แล้วรีบมานอนจะได้ไม่คิดอะไร ขอให้ตอนนอนไม่เกิดอะไรขึ้นด้วยเถิด






Hin’s part
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมสะลึมสะลือเอื้อมมือสะเปะสะปะไปทั่วจนได้มือถือ หรือทั่วไปเขาเรียกกันว่า I phone ผมกดรับสาย


“ฮัลโหล แม่งยังเช้าอยู่เลย โทรมาไม่มีธุระ กูจะสวดให้มึงกลายพันธ์เลยคอยดู”


“ไอ้ห่าหิน มึงปิดเครื่องหาป๊ะป๋าเอ็งเหรอ กูเป็นห่วงแทบแย่ กูนึกว่ามึงจะเป็นไรไปจนไม่ได้สอบแล้ว ดีนะมึงดวงดี”


“ทำไมวะ ไอ้น้ำใส”


“อ้าวก็วันนี้ มีสอบดรออิ้ง แต่อ.ดรออิ้งไม่สบายไง แกเลยโชคดี”


“เออว่ะ เมื่อคืนหนักไปหน่อย แฮงค์ ตอนนี้ยังปวดหัวอยู่เลย”


“ว่าแต่ ตอนนี้แกอยู่ไหนวะหิน”


“จะอยู่ไหนได้ก็อยู่หอดิ ถามไรแปลกๆ”


“เอ็งสิแปลก ฉันโทรไปหาไอ้ปีรูมเมทแกมา มันบอกว่าเมื่อคืนแกไม่กลับห้อง ฉันเลยลองโทรหาแก ในที่สุดแกก็เปิดเครื่อง ว่าแต่แกคิดออกยังอยู่ที่ไหนกับใคร คิดให้ดีล่ะโทรมาถามแกสบายดีไหม แกด่าคนได้แบบนี้แสดงว่าสบายดีบายๆ จุ๊บ”


“แล้วตกลงกูอยู่ไหนเนี่ย”
หมับ


“ว้าก พ่อแก้ว แม่แก้ว ช่วยลูกด้วย โอยลูกอยู่ของลูกดีๆ ตอนเมาลูกล่วงเกินอะไรท่านอภัยให้ลูกด้วย ลูกไม่ได้ตั้งใจ อ้ากอย่าขยับ โอยจะเป็นลม”


“ฮ่าๆๆๆ เห็นเป็นคนปากกล้า กลัวผีเป็นด้วยเหรอ”
เอ๊ะเสียงใคร


“นายเป็นใคร แล้วมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง แล้ว แล้ว เกิดไรขึ้น”


“นี่จำอะไรไม่ได้จริงๆเหรอ เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา อย่างนี้พี่เสียใจแย่เลย ว่าแต่เช้ามาเจ็บสะโพกหรือช่วงล่างรึป่าว”
เมื่อคืนผมไปดื่มเหล้าหลังมหาลัย เจอปั้นชา เจอไอ้พี่หื่นนี่หลังจากนั้นก็โดนมันจูบ อย่าบอกนะว่ามันมีหลังจากนั้นอีก ผมก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง มันไม่ใช่ชุดเมื่อวานนี่ อย่าบอกนะว่า ไอ้พี่หื่น มัน มัน มัน มันสอยไปแล้ว


“เป็นไงนึกออก เมื่อคืนนี่สุดๆไปเลย”


“ไอ้ ไอ้ ชั่วมึงทำอย่างนี้ได้ไง กูผู้ชายนะเว้ย มึงๆพรากเวอร์จิ้นกูไปแล้ว”


“ฮ่าๆๆ”


“ไอ้เลว ไอ้สันดาน ยังมาหัวเราะอีกมึงสอยกูไปแล้ว ฮือๆๆ”
ฮือๆ อย่างนี้ผมจะไปพบพ่อแม่ยังไง ผมเสียความเป็นชายไปแล้ว มันเป็นชายเหนือชาย เอาเวอร์จิ้นกูคืนมานะไอ้เวร


“เห้ยร้องไห้ ทำไม”


“อย่ามาแตะต้องตัวกู ไอ้สัตว์ มึงยังทำร้ายกูไม่พอใช่ไหม”


“โอ๋ๆ อย่าร้องนะ พี่ล้อเล่น”


“หมายความว่าไง”


“ก็เมื่อคืนหินเมามาก พี่ก็เลยเช็ดตัวให้ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้”


“แล้วทำไมมึงถามกูว่าเจ็บช่วงล่างไหม”


“อ้าวแกล้งหินสนุกดี เวลาหินทำหน้าเหวอเหมือนปลาขาดน้ำเลย ฮ่าๆน่ารักดี”
น่ารักดี ทำไมผมถึงใจเต้นกับสามพยางค์นี้นะ ทั้งที่มีเป็นร้อยคนชมผมว่าน่ารักดี แม้แต่ปั้นชาชมผม ใจยังไม่เต้นเท่ากับคนตรงหน้าที่ชมผมว่าน่ารักดี พอคิดอย่างนี้หน้าผมก็แดงขึ้นมาเฉยๆ


“หิน เป็นอะไรทำไมหน้าแดง”


“ปะ ป่าวไม่เป็นไร อ๊ะ สรุปแกล้งกูใช่ไหม อย่าอยู่เลยไอ้พี่หื่น”
ผมหยิบหมอนมาฟาดๆ มันก็ร้องโอดโอยตามสัญชาตญาณสะตอของมัน แรงผมมีน้อยนิดจะทำใครเจ็บได้ ชอบเวอร์ เล่นไปเล่นมามันก็จับมือผม พวกเราจ้องตากัน  ใบหน้าเคลื่อนเข้าหากัน


“พี่”


“.........”



“พี่ว่าหินปากเหม็นนะ ไปแปรงฟันเถอะขอร้อง” 
ผมรีบตะครุบปากตัวเอง


“ไอ้อี่อื่นอ้า อาอ่าอากเอ็น ไอ้เอว” (ไอ้พี่หื่นบ้า มาด่าปากเหม็น ไอ้เลว)


“ขนาดหินปิดปากนะเนี่ย กลิ่นยังโชย”


“ไอ้เอี้ย” ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีเลย จนไม่ได้ฟังประโยคที่โคตรจะสำคัญของพี่ยุ่ง


“ก็ลองได้จูบเมื่อกี้นี้สิ หินได้เป็นเมียพี่แน่”
อาบน้ำสระผมเสร็จผมก็ยืนเจ๋ออยู่หน้าประตูห้องน้ำ ยังดีที่มันมีผ้าขนหนูผืนใหญ่ไว้ในห้องน้ำ ผมเลยได้โอกาสพันรอบเอว แต่ผมเพิ่งมานึกขึ้นได้แล้วผมจะใส่ชุดอะไร เวรชุดเมื่อวานก็โดนอ้วกตัวเองจะใส่ซ้ำสู้ไม่อาบน้ำยังสะอาดกว่า ผมเลยมานั่งปลายเตียงนอนเตรียมหาครีมมาทาผิว ผมไม่ใช่ผู้ชายสำอางแต่อย่างใด แต่แม่ผมบอกว่าให้ทาครีมผิวจะได้ไม่แห้ง เพราะผมเป็นคนเชียงใหม่อยู่อากาศหนาวผิวมักจะแตกเลยทาครีมจนชิน วันไหนที่อาบน้ำแล้วผมไม่ได้ทาครีมรู้สึกเหมือนชีวิตผมขาดอะไรไปสักอย่าง ผมเจอครีมที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งปลายเตียง ผมยกขาวางไว้แล้วเตรียมชโลมกับขาตัวเองนั้น ไอ้พี่หื่นเปิดประตูเข้ามา แถมยังทำตาตั้งอีก


“พี่ลืมไป อ๊ะ ไม่มีชุดใส่ใช่ไหม เอ่อ พี่เอาเสื้อผ้ามาให้ ไปแล้วนะ”
ปัง
เป็นไรของพี่หื่นมันวะ ปิดประตูใส่อีกตังหาก สงสัยถ้าจะบ้า ส่วนคนที่อยู่หน้าห้อง


“แม่งจะเอ็กซ์น้อยกว่านี้ไม่ได้รึไงวะ รู้ไหมว่าทรมาน”
ผมทาครีมเสร็จ ผมก็เอาเสื้อผ้าของไอ้พี่หื่นมาใส่แค่เชิ๊ตมันก็เลยไปเกือบถึงเข่าจะใส่เชิ๊ตอย่างเดียวก็กลัวไอ้หินน้อยโผล่มาแพมๆ ยังดีที่ไอ้พี่หื่นเอาบล็อกเซอร์มาให้ ใส่เสื้อเชิ้ตกับบล็อกเซอร์แล้วกัน
ผมเลยเปิดประตูห้องนอนออกไปเห็นไอ้คนตัวโตนั่งดูทีวี พร้อมขนมกับน้ำอัดลม เห็นแล้วปรี๊ด


“ใครสั่งใครสอนให้กินขนมกับน้ำอัดลมตอนเช้าไม่ทราบหา”


“แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ นานจังนึกว่าเป็นผู้หญิงซะอีก”


“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ทำไมถึงกินแบบนี้”


 “ก็มันหิว รอคนแต่งตัวช้า”


“แล้วทำไมไม่หาอะไรกินก่อน มารอทำไมไม่ทราบ”


“ขอโทษทีผมเป็นหนุ่มโสด แล้วเรื่องกับข้าวถูกกันซะที่ไหน”


“พี่หื่นครับ ลืมอะไรไปรึป่าว ผมก็หนุ่มโสดยังทำเป็นเลยครับ”


“งั้นเหรอออออออออออ” ผมมองตามัน มันทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ เสียวเป็นบ้า


“อะไร”


“งั้นก็วานน้องหินสุดสวย เอ้ย สุดหล่อทำอาหารให้หนุ่มโสดนามว่ายุ่งกินหน่อยได้ไหมครับ”


“ปากดี หยุดกินขนม กับน้ำอัดลมได้แล้วไปเป็นผู้ช่วยผม ทีหลังห้ามกินอีกนะ”


“ก็จะไม่กิน ถ้าหินมาทำอาหารเช้าให้พี่ทาน”


“แดกตีน ก่อนไหมล่ะ”


“อะไรอ่า ก็อาหารเช้าพี่เป็นแบบนี้นี่ พี่ทำกับข้าวไม่เป็น ทุกทีพี่จะซื้ออาหารแช่แข็งแล้วเวฟกินตอนเช้า บางวันลืมก็กินแบบนี้แหละ คนมันทำกับข้าวไม่เป็นนี่”


“เหอะ ถ้าผมว่างผมจะมาทำให้แล้วกัน ว่าแต่พี่ยุ่งชอบกินอะไร”


“ชอบกิน หิน”
พี่หินพูดอะไรไม่รู้ผมฟังไม่ถนัด


“อะไรนะ”


“อ้อพี่อยากกิน ต้มยำกุ้ง ไข่เจียวทรงเครื่อง แค่นี้ดีกว่าเดี๋ยวหินเหนื่อย”


“กินง่ายดีนะ ว่าแต่ของในตู้เย็นมีรึป่าว”


“อ้อ ไม่ต้องห่วงพี่จะสั่งให้แม่บ้านซื้อมาเก็บไว้ สองวันต่อหนึ่งครั้ง ก็จะมีทุกอย่าง”


“แล้วทำไม ไม่สั่งให้แม่บ้านทำข้าวเช้าให้กินล่ะ”


“ไม่รู้ดิ รอหินมาทำให้กินมั้ง”


“ไอ้พี่หื่น”


“ฮ่าๆๆทำได้แล้ว เดี๋ยวหินเป็นโรคกระเพาะนะ”
ผมสั่งไอ้พี่ยุ่ง หยิบนู่นหยิบนี่ที่เป็นส่วนผสมของต้มยำกุ้งกับไข่เจียว ส่วนผมเดินไปดูพวกอุปกรณ์เอามาล้าง  ที่ผมต้องเอามาล้างเพราะเจ้าของห้องมันบอกว่ามันทำกับข้าวไม่เป็น แสดงว่าข้าวของพวกนี้ไม่เคยถูกใช้ฝุ่นอาจจะจับเลยต้องล้างก่อน ผมเลยเอาข้าวไปซาวน้ำตั้งหม้อ


“คุณศรีภรรยาครับ สามีเตรียมของทุกอย่างเสร็จแล้ว”
ผมตกใจกับคำพูดของไอ้พี่ยุ่ง แถมยังมีหน้ามาตะเบ๊ะแบบทหารใส่อีก


“ใครเป็นศรีภรรยาพี่กันหา”


“อ้าวก็หินมาทำกับข้าวให้พี่กินแถมพี่มาเป็นลูกมืออีก พี่ก็คิดว่ามันเหมือนครอบครัวเลยสิ”
พี่ยุ่งพูดเสร็จผมก็หน้าแดงสิ เพราะผมก็คิดเหมือนกันแต่ไม่หน้าด้านเหมือนพี่ยุ่งที่พูดออกมาโต้งๆ ผมเลยพูดแก้เขิน


“คิดไปเองคนเดียวเลยสิ”


“ฮ่าๆๆทำต่อๆจะให้พี่ทำอะไรอีก”


“หั่นผัก คงทำเป็นใช่ไหม”


“มือชั้นนี้แล้ว ไม่เป็น แต่ทำได้เชื่อดิ”


“อย่าให้มีดบาดคอก็ถือว่าทำเป็นแล้วกัน”


“โหดร้าย”
ผมมองไอ้คนตัวโตที่มาทำหน้าตาแอ็บแบ๋วใส่ เห็นแล้วหมั่นไส้น่าเอามีดจ้วงลำไส้ ผมตั้งหม้อน้ำกำลังต้มอยู่ดีๆ


“โอ๊ย”


“เป็นอะไร”


“มีดบาด”


“ไหนๆ ไม่เห็นมีเลย บาดตรงไหน”


“ไม่ได้บาดที่มือ”


“อ้าวพี่ยุ่งใช้เท้าแทนมือเหรอ”


“มันบาดใจ”


“ถ้ามุขมันจะเสี่ยวขนาดนี้ ตกตึกตายยังดูดีกว่านะไอ้พี่หื่น”


“โหย หินโหดร้ายกับพี่อีกแล้ว”
ผมหันกลับไปสนใจทำกับข้าวต่อ นานมากจนผมรู้สึกเหมือนไอ้พี่ยุ่งไม่อยู่จนกระทั่งผมทำกับข้าวเสร็จ


“ถามหน่อยหินรักปั้นชามากไหม”


“ถามทำไม อยากตายด้วยมีดเรอะ”


“ก็แค่อยากรู้ เห็นเมื่อคืนหินเสียใจมาก”


“ก็ไม่ให้เสียใจได้ไง แอบรักมาตั้งสองปี แต่ช่างมันเหอะยังไงๆหินกับปั้นชาก็คงเป็นได้แค่เพื่อนกัน”
ใช่ผมกับปั้นชาเรามาได้ไกลสุดแค่คำว่าเพื่อน ปั้นชาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับผม แต่ผมกลับต้องทำให้ปั้นชาผิดหวัง ผมกลับแอบชอบเพื่อนตัวเองได้ ทั้งที่ปั้นชามีแฟนอยู่แล้ว


“แล้วทำไมถึงชอบปั้นชาล่ะ”


“ก็เพราะชาทำให้ผมมีความสุขมั้ง”


“งั้นเหรอ แค่นั้นเหรอ”


“อื้ม ผมหาเหตุผลอื่นไม่ได้แล้ว”


“หินเคยมีแฟนมาก่อนรึป่าว”


“ไม่เคยมีแม้แต่คนเดียว ถามทำไม”


“พี่ว่าหินไม่ได้ชอบปั้นชาหรอก”


“อย่ามาพูดเรื่องนี้กับผมอีก พี่จะมารู้ใจเท่าตัวผมได้ไง”

 :bye2: :bye2: :bye2: :t3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2012 17:35:37 โดย archaeoloable »

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
“ก็หินชอบปั้นชา เพราะปั้นชาเป็นเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวของหิน พอปั้นชามีแฟนหินเลยหวง หินกลัวจะเสียเพื่อนไป หินเหงา เพราะปั้นชาเริ่มไปกับแฟนมากขึ้นจนทำให้หินคิดว่าหินรักปั้นชา”


“ถ้ายังไม่หยุดพูดเรื่องนี้อีก หินจะกลับแล้วนะ”


“ทำไมหินถึงไม่ยอมรับความจริง”


“ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ เข้าใจไหมว่าผมไม่รู้”
ผมตะโกนใส่หน้าไอ้พี่ยุ่ง น้ำตาผมไหล มันไหลหนักขึ้นจนผมต้องหลับตา เป็นครั้งที่สองแล้วสินะที่ผมร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ทำไมผมถึงกล้าอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายคนนี้ทั้งๆที่เราเพิ่งรู้จักกัน เพราะอะไรกัน ผมรู้สึกเหมือนผมโดนกอดด้วยอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นมันทำให้ผมนิ่งลง ผมลืมตา ผมพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่ผมเพิ่งรู้จัก แต่ผมรู้สึกว่าอยากอยู่ในอ้อมแขนนี้ตลอดไป


“หยุดร้องนะเด็กดี”


“อย่าปลอบสิ มันก็ยิ่งร้องดิ ฮึก ฮือๆ”


“ซะงั้นแล้วทำยังไงจะหยุดร้อง”


“ไม่รู้”
ผมเงยหน้าตอบพี่ยุ่ง คงเป็นจังหวะเดียวกันที่พี่ยุ่งก็ก้มลงมามองผมเหมือนกัน มันทำให้เราสองคนเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหากัน พี่ยุ่งก้มมาเรื่อยๆ จนในที่สุดปากของพี่ยุ่งได้แตะกับปากของผม ผมคิดว่าผมคงต้องรังเกียจแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ผมรู้สึกดี รู้สึกดีจนอยากให้พี่ยุ่งทำมากกว่านี่ พี่ยุ่งเล็มริมฝีปากผมอยู่นานจนผมต้องอ้าปากออก พี่ยุ่งควานหาความหวานในช่องปากผม แล้วเล็มจากปากมาใบหู จนไปที่หน้าผากแล้วกลับมาที่ปากอีกครั้ง พี่ยุ่งหยุด แต่หน้ายังไม่แยกจากกันไปไหนจมูกชนจมูก เราจ้องดวงตากันและกัน 


“หยุดร้องไห้แล้วนะ เด็กดี เป็นพี่ได้ไหมหิน เป็นพี่ที่ได้รับความรักจากหิน ถึงมันอาจจะเร็วไป แต่พี่เชื่อว่าพี่รักหิน รักตั้งแต่ครั้งแรกที่หินเงยหน้ามองพี่”


“หินกลัว”


“ไม่ต้องกลัวเราจะจูงมือกันและกัน และเดินผ่านไปด้วยกัน คบกับพี่ได้ไหมหิน”


“หิน”
ผมรู้สึกว่าปากผมหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ในใจผมตอบตกลงไปตั้งนานแล้ว คนมันก็อายเป็นนะเว้ย เกิดมายี่สิบปี เพิ่งมีคนมาขอเป็นแฟนครั้งแรก แถมยังเป็นผู้ชาย ไม่ให้เขินได้ไง แถมไอ้คนที่มาขอใช่ว่าจะแย่ หน้าตาออกจะดี บางทีหล่อกว่าแฟนของไอ้ชาอีก(ผมไม่ได้เข้าข้างว่าที่แฟนผมนะ)บึกกว่า อกเป็นอก (สัมผัสมาแล้ว) แถมรวยดูจากรถที่ขับและคอนโดที่มันอยู่ ภาษีมันเอนเอียงตกลงไปแล้ว แต่ปากผมก็ยังหนักอยู่ดี


“ว่าไงครับ”


“ขอหินเป็นแฟนทั้งทีพูดแบบนี้เหรอ”
อยู่ดีๆไอ้พี่ยุ่งก็คลุกเข่าลงหน้าตาเฉยเลย


“หินเป็นแฟนกับพี่ยุ่งได้ไหมครับ”


“ไม่เห็นจะซึ้งเลย”


“ถ้าหินยังไม่ตอบตกลงนะพี่จะปล้ำ”


“ยังงี้สิค่อยเป็นพี่ยุ่งของหินหน่อย”


“แล้วตกลงว่าไงหิน”


“ไม่”


“แสดงว่าอยากถูกปล้ำ” ว้ากกกกกกกกกกไม่ใช่(แต่ก็แอบหวังลึกๆนะ) มันอุ้มตัวผมลอยแถมยังพาเข้าห้องนอนอีก ไอ้พี่หื่นตกลงข้าวไม่กินแล้วหรือไง


“ตกลงๆ หินจะเป็นแฟนกับพี่ยุ่ง แต่ปล่อยหินได้แล้ว”


“ไม่ทันแล้วครับน้องหิน ตอนนี้ยุ่งน้อยมันเริงร่าไปแล้ว” :haun4:


“ไอ้พี่ยุ่งย่างหื่น”   :angry2:

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นี่เป็นเรื่องสั้นชายกับชายครั้งแรก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2012 17:38:19 โดย archaeoloable »

ออฟไลน์ moneza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: เรื่อง(สั้น) บังคับรัก
«ตอบ #3 เมื่อ29-03-2012 03:41:42 »

 o13 น่าร๊ากกกกกกก ภาคพิเศษด่วนเลยคะ

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
Re: เรื่อง(สั้น) บังคับรัก
«ตอบ #4 เมื่อ29-03-2012 06:23:02 »

โอเคเยี่ยมมาก
น่ารักชิงๆเบย
ขอตอนพิเศษแหล่มๆสักดอก2ดอก ละกันนะ
อะหิอะหิ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
Re: เรื่อง(สั้น) บังคับรัก
«ตอบ #5 เมื่อ29-03-2012 08:57:17 »

จบแล้วหรอ????

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
Re: เรื่อง(สั้น) บังคับรัก
«ตอบ #6 เมื่อ29-03-2012 12:27:06 »

อยากได้ตอนพิเศษอ่ะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[

รอตอยพิเศษจ้าาา  :call:

 o13 o13

 :bye2:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
รอตอนพิเศษของน้องหินกับพี่ยุ่ง

 :-[ :-[

+1  ค่ะ

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
น้องหินกับพี่ยุ่งน่ารักมาก :-[
อ่านแล้วสนุกมาก o13
รอตอนพิเศษนะจ๊ะ
บวกบวกจ้า :bye2:

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนมากนะคะ แต่เฟิร์นมีเรื่องจะมาชี้แจง เรื่องแรกก็คือ เฟิร์นแต่ง NC ไม่เป็น (เฟิร์นมือใหม่ ป้ายแดงโคตรๆ เพราะฉะนั้น ถ้ามีอะไรผิดพลาด ต้องขอโทษไว้ตรงนี้นะคะ อย่าถือสานักเขียนคนนี้เลยแล้วช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะคะ)และหลังจากได้อ่านนิยายหลายๆเรื่องของเล้าเป็ดแล้ว ทำไมพี่นักเขียนเหล่านั้นเขาแต่งNCได้เทพมาก แล้วNC เด็กน้อยแบบเฟิร์น ก็คงจะอนาจไป เฟิร์นเลยคิดว่า เฟิร์นจะลงตอนพิเศษ 2 ตอน โดยที่ตอนแรกจะเป็นฉากธรรมดา ที่ทุกคนสามารถอ่านได้ ส่วนตอนที่สอง ถ้าเฟิร์นศึกษาพอแล้วจนจะมีวิชาเกือบจะเข้าขั้น ปรมาจารย์ เฟิร์นจะแต่งแบบจมกองเลือดกันเลยทีเดียว :jul1:
แล้วเรื่องที่สองคือ เฟิร์นเคยเป็นนักอ่าน ตามติดเรื่องนี้อยู่ดีๆนักเขียนเลิกแต่ง เราก็รู้สึกมันค้าง เพราะฉะนั้นเฟิร์นจะบอกว่า เฟิร์นเลยแต่งเรื่องยาวไม่ค่อยเป็น เลยแต่งได้แต่เรื่องสั้นๆพอคิดจะแต่งเรื่องยาวแล้วมันไม่จบ เลยคิดว่าอาจจะทำให้นักอ่านไม่พอใจก็เป็นได้ เฟิร์นก็จะพยายามแต่งให้จบในวันเดียว มันเลยกลายเป็นเรื่องสั้น (ฮ่าๆ ให้เป็นเรื่องสั้นที่กระชุ่มกระชวยหัวใจไปแล้วกันเนอะ)  :-[ :-[ ยังไงๆก็ติเตียน มีอะไรให้ปรับปรุง บอกมาได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกคนมากค่ะ :o8: (พูดเองซึ้งเอง :o12: :o12:
   

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ MooJi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
พี่ยุ่งน่ารักมาก perfect อ่ะ

น้องหินก็น่าลากกก อุ๊ย น่าร๊ากก จ้า

พยายามเข้านะจ๊าาา  เป็นกำลังใจให้น๊า

^^

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
                                                                    ตอนพิเศษ 1
   


หลังจากวันนั้นคนที่คุณรู้ว่าใครมันได้ทำการสะบึมละฮึ่มผมแล้ว ผมจะเป็นยังไงงั้นเหรอ ถ้าคุณอยากรู้คุณก็ไปลองสิ จะให้พูดได้ไง ผมเป็นผู้ชายแต่กลายมาเป็นฝ่ายรับใครรู้ที่ไหนอายถึงที่นั่น ผมยังมิเคยเปิดซิงผู้หญิงคนไหนแต่กลับมาโดนเปิดด้วยกันกับผู้ชาย ไม่พอ มีคนเคยพูดกับผมไว้ว่า ฟ้านั้นลำเอียง ผมคิดในใจมาตลอดว่าอย่าไปโทษฟ้าโทษสวรรค์ มันขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเราเอง แต่พอมาวันนั้น วันที่ผมได้ประจักษ์กับคำที่ว่า ฟ้าลำเอียงอย่างถ่องแท้ ผมไม่เข้าใจ ไอ้หนูของผมมันแตกต่างกับไอ้หนูของพี่ยุ่งมาก ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆหรือมันจะโตตามตัว  เอ๊ะนี่ผมชวนคุณคุยเรื่องอะไรกัน อยากรู้อะไรไปถามไอ้พี่ยุ่งหื่นเอาเองสิ หลังจากที่พี่ยุ่งนั้นทำการเผด็จศึกผม แล้วสังเกตอาการของผมคงจะอ่อนล้าเกินไปจนไม่สามารถไปเรียนไหว มันเลยใจดี(รึป่าว)โทรไปบอกปั้นชาว่าผมไปเรียนไม่ได้ ตอนเย็นถึงค่อยพาผมไปส่งที่หอ พอวางสายปุ๊บ มันทำหน้ากรุ้มกริ่มแล้วเดินเข้ามาหาผม ตอนนั้น ณเวลานั้น ผมได้รับรู้ว่า ไอ้พี่ยุ่งนี่หื่นตัวพ่อ อึดควายอย่างแรงกล้า แถมไม่เคยปราณีใคร มึงเห็นกูเป็นอะรายยยยยยยย ตุ๊กตายางเหรอที่พอมึงเสียบแล้วไม่เหนื่อย แล้วผมก็ชวนคุณวกมาคุยเรื่องนี้อีกแล้ว ทำไงได้ ครั้งแรกของผมนะ 
กลับมาสู่โลกปัจจุบัน


“หินสี แกย้ายไปอยู่คอนโดของพี่ยุ่งแล้วเหรอ”
คนที่พูดกับผมไม่ใช่ใครที่ไหน ปั้นชานางฟ้าที่รักผมเอง แหมเมื่อมีโอกาสเราก็ควรคว้าไว้ ผมก็ยังรักปั้นชาเหมือนเดิม แต่แบบเพื่อนแล้วนะ บางทีผมอาจจะเป็นพวกโดนหลังแล้วลืมหน้าก็ได้นะ (ก็ผมเป็นรับนี่ จะบอกว่าได้หลังลืมหน้าได้ยังไง)ผมนั่งคุยกับปั้นชาใต้ตึกคณะ  ครั้งแรกที่ผมเจอปั้นชาผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่ยุ่งรวมทั้งเรื่องที่เราผิดผี แหมจะให้ผมใช้คำว่าอะไร เล่าให้ผู้หญิงฟังนะครับ แต่ผมไม่ได้เล่ารายระเอียดในการผิดผีของผมครั้งนี้ จะให้ชารู้ได้ไงว่าผมน่ะเสียเชิงชาย ส่วนมันกลายเป็นชายเหนือชาย แล้วที่ผมเล่าเพราะชาเป็นเพื่อนสนิทผมที่สุดตามที่ไอ้พี่หื่นนั่นบอกอ่านะ ผมไว้ใจชาได้ และเชื่อใจชาได้เหมือนกัน 


“ก็ใช่ ชาถามทำไม ชาจะบอกว่าให้หินย้ายกลับมานอนหอเดิมเหรอ ถ้าชาต้องการแบบนั้นหินทำได้นะ”


“ไม่ช่ายยยย ก็แบบว่าหินสีไปอยู่กับพี่ยุ่งที่คอนโดใช่ไหมล่ะ ก็แบบว่าบางทีหรือบางวัน หรืออาจจะทุกวันที่หินสีอาจจะต้องเหนื่อยนะ”


“นี่ชากำลังจะสื่ออะไรเนี่ย”


“ก็แหมชาโตแล้ว เรื่อง วายๆแบบนี้ ชาโคตรชอบ ชาต้องอ่านมาบ้าง ยิ่งมาเจอกับเพื่อนตัวเองแบบนี้ ก็ต้องกรีดวี๊ดว๊ายเป็นธรรมดาสิ”
โอ้ชาของผมเป็นได้ถึงขนาดนี้ เพราะอะไรกัน ใครเอาอะไรให้ชาอ่าน ผมกำลังสาปแช่งคนที่หาอะไรมาให้ชาอ่าน อยู่ดีๆก็มีมือมารโผล่มา
ป้าบ แม่งตบหัวผม


“หวัดดี หินน้อย สวัสดีน้องปั้นชา”


“หินน้อยไรของมึงไอ้พี่ยุ่ง แล้วท่าจะตบขนาดนี้ ไม่จับหัวกูโขกกับโต๊ะไปเลยล่ะ”
ไอ้ตัวการที่ทำให้ผมเสียเชิงชายกับการที่เป็นตัวประกอบที่ทำให้ชาของผมคิดอะไรไร้สาระ


“อ้าวพี่นึกว่า พี่ลูบหัวของหินน้อยสักอีก”
โห ลูบบ้านพี่มึงเหรอครับพี่ยุ่ง ลูบซะหัวกูเซไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกเลย


“แหม หินเขาบอบบางค่ะ แต่พี่ยุ่งกับหินสีนี่หวานกันตลอดเลยนะคะ ชาชักอิจฉาแล้วสิ”


“ทำไงได้ล่ะน้องปั้นชา พี่รักของพี่ไปแล้ว”


“O///O” มันพูดอะไรของมัน ต่อหน้าปั้นชาที่รักของผมเลยนะ


“โหว พี่ยุ่งก็พูดซะตรงเลยดูดิ๊ หินสีของชาหน้าแดงหมดแล้ว”


“ชา พูดจาอะไรไร้สาระ” ผมได้แต่ตวาดปั้นชา ผมต้องไปโทษคนที่มันหาอะไรมาให้ปั้นชาอ่าน ขอให้มันตกนรกที่ทำให้ปั้นชาที่น่ารักของผมพูดอะไรแบบนี้


“แหมทำเป็นเขินนะหินสี”


“อากาศมันร้อนเข้าใจไหม อากาศมันร้อนน่ะชา หินตัวขาวพอร้อนนิดร้อนหน่อยก็เลยหน้าแดง”


“เหรอออ/เหรอออ”
ทำไมต้องพูดพร้อมกันด้วยวะ


“พี่ว่าหินพูดก็ถูกนะ อากาศมันร้อน ร้อนเพราะว่าพี่เป็นคนมีไฟ พี่เลยกะว่าคืนนี้พี่จะทำให้  หินมันติดไฟ”


“กรี๊ด พี่ยุ่งพูดจาน่ารัก เหมาะสำหรับการเป็นรุกสุดๆเลย โอยชาทนไม่ไหวเขินแทนหิน ชาขอตัวก่อนนะคะ อยู่ตรงนี้นานๆแล้วตามันจะลุกเป็นไฟ”
อย่าถามว่าผมเป็นยังไง ตอนนี้ก็อึ้งไปแล้วสิครับ แล้วรุกเริกอะไรปั้นชารู้ได้งาว่าผมเป็นคนถูกจิ้ม อ้ากนอกจากนิสัยขี้บังคับ หื่น แม่งยังหน้าด้านสุดๆไปเลยไอ้พี่ยุ่ง ชาลุกออกไปได้สักพัก ประโยคแรกที่มันทำผมน็อคเอ้าท์ประโยคที่สองก็ตามมาด้วยความหน้าด้านของมัน


“เป็นไงเราอากาศยังร้อนอยู่อีกไหม คืนนี้พี่จะเพิ่มองศาให้ร้อนระอุไปเลย หินจะได้ตัวแดงๆน่าฟัด เอ้ย น่ารัก” 


“นี่ไอ้พี่ยุ่งครับ มึงจะหื่นตลอดเวลาเลยรึไงครับ”


“แหมน้องหินครับ พี่ก็หื่นเฉพาะ เมียพี่เท่านั้นแหละครับ”


“ไอ้”


“อย่าด่านะ นี่น้องหินคงยังไม่ลืมกฎของเราใช่ไหมครับ ด่า จูบหนึ่งที พี่ไม่สนด้วยว่าจะที่ไหน อย่างไร”


“ไอ้พี่หื่นนรกแตก” ผมด่าเสร็จผมจะโง่ทำไม ผมก็รีบเอามือตะครุบปากตัวเอง มันมองซ้าย มองขวาสองสามทีมันก็เอาลิ้นมาเลียที่มือผม โอยขนลุกแถมยังมีหน้ามากระซิบข้างหูผมอีก


“ถึงจะหื่นก็ผัวน้องหินนะครับ”


 “หยาบคาย”
มีการเลียหูผมด้วย ไอ้พี่หื่น ผมคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ที่เอามาเป็นแฟน


“55  ขี้เกียจแกล้งแล้ว วันนี้มีเรียนต่อรึป่าว”


“ไม่มีอ่ะ ตอนแรกกะจะไปเดินเที่ยวกับชา แต่พอดีมีมารผจญ ก็เลยอด”


“ใจร้าย น้องหินชอบใจร้ายตลอดตลอด”


“ตัวโตอย่างกับหมีควาย มาทำแอ็บแบ๋วใส่ ไม่เข้าเลยว่ะไอ้พี่ยุ่ง”


“แหมพี่ก็ลองดู เผื่อทำแล้วน่ารัก หินจะได้รักพี่เพิ่มขึ้น”


“ใครรักพี่ยุ่งกัน โมเมตลอด”


“เออใช่นี่ ตั้งแต่สานสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา น้องหินยังไม่เคยบอกรักพี่เลย มีแต่พี่บอกหินทุกวันๆ”


“ทำไมชอบย้ำจังหา ไอ้สามีภรรยาเนี่ย แล้วอีกอย่างคำว่ารักมันมีค่าโว้ย ไม่ใช่พูดทุกวันๆ สักแต่จะพูด”


“พี่ผิดตลอด บอกรักทุกวันก็ผิด ใช่สิ พี่มันเป็นคนอาภัพ รักคนชื่อหิน มันยังปากหินพอๆกับใจมันเลย นี่แหละน้า เวรกรรมของคนชื่อยุ่ง”


“นี่จะพร่ำพรรณนาอีกนานไหม จะมารับกลับบ้านไม่ใช่รึไง มัวแต่พูด หินหิวจะตายอยู่แล้ว”


“ขอโทษครับน้องหิน เชิญเลยครับคุณน้องหิน รถพี่ยุ่งจอดอยู่ทางนู้น นู่นๆ”
พอมันชี้ปุ๊บ ผมก็เห็นรถมันรำไรๆ ไม่ให้เห็นได้ไงรถมันเด่นออกจะตาย ผมรีบเดินออกจากตึกคณะ คงจะเรียกว่าวิ่งซะมากกว่า จนได้ยินประโยคสนทนาที่ทำให้ผมต้องชะงัก


“เห้ย ส้มนั่นมันพี่ยุ่ง วิศวะนี่หว่า หล่อเนอะ”


“เออใช่ เด็กวิศวะจะมาทำอะไรคณะศิลปกรรม แต่เห็นแล้วใจละลาย หล่อมาก ใครได้เป็นแฟนนี่โคตรโชคดี หล่อ รวย เก่ง หา
ยาก”
ผมหยุดยืนฟังผู้หญิงคณะผมสองคนคุยกัน แสดงว่าผมโคตรโชคดีสินะที่ได้ไอ้พี่ยุ่งเป็นแฟน


“หรือมาจีบเด็กคณะเรา”
ถูกเผงเลยครับผม


“เออใช่ มาจีบปั้นชาแน่เลยแก ก็ปั้นชาสวยที่สุดในคณะเราแล้ว ถ้าไม่ให้คนหล่อจีบคนสวยแล้วจะจีบใครได้”
จีบกูไง ผมตอบในใจ คงไม่มีใครคิดหรอกว่าคนอย่างไอ้พี่ยุ่งจะมาจีบผมหรือเป็นแฟนผม อย่างแรกผมไม่ใช่ผู้หญิง คนอื่นคงไม่คิดว่าไอ้พี่ยุ่งนี่จะมีกิจกรรมชอบขุดทองหรอก แถมหน้าตาผมไม่ได้ดีเดออะไรเลยด้วยมันคงเป็นไปไม่ได้เลยสินะ


“ขอโทษนะครับน้องสองคน พี่ไม่ได้มาจีบปั้นชา แต่พี่มารับแฟนพี่ที่คณะนี้”


“เอ่อ”


“ไปเร็วหิน รีบกลับคอนโดกัน พี่หิวข้าวแล้วไปทำให้พี่กินด้วยนะ”
ผมไม่รู้ว่ามันเดินมาถึงผมตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วได้ยินประโยคนั้นได้ยังไง แต่รู้แค่ว่าพอมันพูดจบมันก็รีบจูงผมขึ้นรถทันที ผมหันไปมองผู้หญิงสองคนนั้น ทั้งสองคนทำหน้าอึ้งตามกันไปเลยทีเดียว


“ทีหลังท่ามีคนพูดแบบนี้ หินบอกไปเลยสิว่าหินเป็นแฟนพี่”


“ไม่อายรึไง มีแฟนเป็นผู้ชาย”


“ไม่อาย คนเราถ้ารักกันแล้วมาหลบๆซ่อนๆกลัวคนอื่นรู้ก็อย่าคบกันเลยดีกว่า”


“แล้วไม่กลัวคนอื่นจะคิดไม่ดีกับตัวเองเหรอ หินมันไม่เท่าไหร่หรอก แต่พี่ยุ่งโคตรฮอทเลยไม่ใช่รึไง อย่าคิดว่าหินไม่รู้นะ”


“ไม่กลัว ถ้าการที่พี่คบกับหินแล้วทำให้พี่กลัว พี่คงไม่คบกับหิน อีกอย่างหินรู้ด้วยเหรอว่าพี่ฮอท แอบหึงอ่ะเด้”


“บ้า พูดไรบ้าๆ”


“หินพี่จริงจังนะ ถ้ามีคนพูดแบบนี้หรือถามอะไรที่เกี่ยวกับเราสองคน หินตอบไปเลย ว่าหินเป็นแฟนพี่ ใครมาถามกับพี่พี่ก็จะตอบเหมือนกัน”


“พี่ยุ่ง”


“พี่จะไม่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้หินร้องไห้ แต่พี่จะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่ทำให้หินร้องไห้”


“เลี่ยนไปนะ บางที”


“ถึงเลี่ยนก็รักหินคนเดียว”
แล้วพี่หินก็ก้มมาจูบผม มันเนิ่นนานและนุ่มนวล จนมันทำให้ผมเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้ผมร้องไห้ แล้วมก็รู้สึกดีอีกครั้งกับรถของไอ้พี่ยุ่ง เพราะมันติดฟิล์มดำมาก ถึงมากที่สุด จนคนข้างนอกมองไม่เห็น ข้อดีของพี่ยุ่ง คือ มันมีรถที่ดี อาเมน


“แต่ยกเว้นเรื่องนึงที่หินต้องร้องไห้นะ”


“หมายความว่าไง หรือจะบอกว่ามีลูกแล้ว”


“ป่าว”


“แล้วอะไร”


“ก็ตอนเรามีอะไรกัน พี่เห็นหินน้ำตาเล็ดตลอดเลย”


“ไอ้พี่ยุ่ง”


“555 พี่รักหินนะ”


“รู้แล้ว”


“พี่รักหิน”


“เอ๊ะก็บอกว่ารู้แล้ว”


“พี่รักหิน”


“พี่ยุ่ง”


“พี่รักหิน”


“ได้ยินแล้วจะพูดไรมากมาย”


“ยุ่งรักหิน”


“จะเอาอะไร ถ้าพูดอีกที หินจะไม่กลับกับพี่แล้วนะ”


“พี่แค่จะบอกรักหินจนกว่าหินจะบอกรักพี่”


“ไม่”


“บอกสักครั้งให้พี่ชื่นใจหน่อยไม่ได้รึไง”


“ก็”


“ก็อะไร”


“ก็”


“อะไร”


“ก็”


“มัวแต่พูดก็ๆๆๆ วันนี้พี่ต้องการฟังความรู้สึกหินนะไม่ได้ต้องการ ก็ๆๆๆๆ”
ตอนแรกผมพยายามสรรหาคำพูดซึ้งที่จะบอกรักมัน ให้ผมใช้เวลาคิดไม่ได้เลยรึไง กูฟิวส์ขาดแล้วนะเว้ย


“ไอ้ห่าพี่ยุ่ง มึงนี่เร่งกูจัง เอะอะอะไรๆก็บังคับกู มึงให้เวลากูคิดคำบอกรักมึงไม่ได้รึไงหา เร่งกูอยู่นั่นแหละ กูก็อายเป็นจะให้มาบอกรงบอกรัก มึงเป็นผู้ชายคนแรกที่กูจะพูดคำว่ารักด้วยนะเว้ย แถมมึงยังเป็นแฟนคนแรกกูเลยจะหาคำพูดดีๆพูดกับมึง แต่มึงเสือกเร่งกูอยู่นั่นแหละ มึงรู้ไรไว้นะ ครั้งเดียวครั้งนี้เท่านั้น กูชอบตอนที่มึงมีอะไรกับกู ชอบฟังเวลามึงบอกรักกู กูชอบเวลาที่มึงเอาใจใส่กู  แล้วกูก็รักมึง”  เล่นเอาหอบเหมือนกันแห๊ะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวฟังไม่ทันเรื่องของมึงแล้วไอ้พี่ยุ่ง


“โหว มาเป็นชุดเลยแห๊ะ”


“พอใจยังมึง เร่งกูอยู่นั่นแหละ จะพูดหวานๆซะหน่อย”


“พอใจมากๆเลยครับน้องหิน ไม่ต้องพูดหวานๆหรอกหิน แค่หินบอกรักพี่พี่ก็มีความสุขที่สุดแล้ว”


“ไอ้บ้า”


“อ้าวด่าอีก ก็คนมันดีใจนี่นา บอกรักทุกวันถึงจะบอกเป็นร้อยครั้ง แต่ได้กลับมาครั้งเดียวก็ถือว่าโอเคและกัน”


“ไอ้เสี่ยว”


“ครับพี่มันเสี่ยว ถึงจะเสี่ยวยังไงก็รักหินนะ รักคนเดียวและจะรักตลอดไป”


“ไอ้ที่รักของหิน”


“ห๊ะ พี่ไม่ได้ยิน หินพูดว่าไรนะ”


“ป๊าวว ไม่ได้พูดไรหูฝาดแล้ว เร็ว หินหิวข้าวแล้ว”
สมน้ำหน้าอยากไม่ตั้งใจฟัง ผมจะไม่มีทางพูดอีกครั้งหรอก ไอ้ประโยคน่าอายพรรคนั้น แต่ผมจะพูดในใจแทนแล้วกัน ไอ้ที่รักของหิน ถือว่าพูดซ้ำแล้วนะ “ในใจ”


“สงสัยหินจะไม่ได้กินข้าวแล้วล่ะ เพราะพี่น่ะชอบกินหิน”


“ไอ้หื่น”


“หื่นก็หื่น ไอ้ที่รักของพี่ยุ่ง”


“ไหนบอกไม่ได้ยินไง”


“พี่ได้ยิน ในใจ” :o8:
" o22"





ก็เอาตอนพิเศษ หนึ่งมาฝากกัน ช่วยเป็นกำลังในการแต่ง NC ด้วยนะคะ  :bye2: :bye2: :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2012 17:41:41 โดย archaeoloable »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
หวานกันแบบเถื่อนนิดๆ ฮิฮิ ชอบอ่า

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :o8:   น่ารักที่สุดอ่ะ

ผู้ชายแบบพี่ยุ่งนี้คงมีแค่ในนิยาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆ ในการแต่ง NC นะค้าาา  :กอด1:

แล้วจะรออ่าน  :z1:

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
เนื่องจากนักเขียนไม่ปรมาจารย์ในด้าน NC พอ นักเขียนเบื่อๆกับวันนี้เลยหยิมโน๊ตบุ๊คขึ้นมาแตะ แล้วนึกถึงพี่ยุ่งกับน้องหิน เลยแต่งภาคพิเศษ(ที่ยาวๆมาฝากกัน) NC ใกล้จะมาแล้วนะคะอีกวันสองวันเป็นกำลังใจให้ด้วย สู้ โว้ย :m31: :fire:(รู้สึกว่าตัวเองมีไฟ










ตอนพิเศษ 2




สวัสดีครับทุกคน กระผมนายยุ่งขอรายงานตัวครับหลังจากปล่อยให้สุดที่รักของผมนามว่าน้องหิน ได้รายงานสถานการณ์ความเป็นไปของพวกผม ความเป็นไปที่มีแต่ความสุข แน่ล่ะความรักของผมหรือของทุกคนต้องมีทะเลาะกันบ้าง เพราะคนเราไม่ได้เข้ากันได้ทุกเรื่อง แต่ผม นายยุ่งคนนี้จะขอปรับตัวเข้ากับน้องหินเอง ผมก็รู้เหมือนกันว่า น้องหินก็พยายามปรับตัวเข้าหาผมเหมือนกัน เพราะพวกเราต่างพร้อมปรับตัวเข้าหากันทำให้เราไม่ได้ทะเลาะกันร้ายแรง แค่ทะเลาะกันให้เป็นสีสันของชีวิตก็พอ ใครมันจะไปอยากทะเลาะกับคนที่รักบ่อยๆกันจริงไหมล่ะครับ ชีวิตของผมตอนนี้กับกับน้องหินก็เรื่อยๆครับไม่มีอะไรหวือหวา 


“พี่ยุ่ง ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย เหงื่อท่วมตัวเลย ตัวเหม็นอีกตังหาก”


“โห หินพี่ขอพักแปปนึงสิ พี่พึ่งเล่นบอลมาเหนื่อยๆนะ”


“ไม่ต้องเลย วันนี้ก็ไม่ได้ไปรับ แถมยังกลับเย็นอีก”
ฟังจากน้ำเสียงของน้องหินเหมือนจะดูงอนๆผมนะ  ก็วันนี้เพื่อนๆ ผมมันโทรชวนผมไปเตะบอล พอผมบอกว่าไม่ไปมันก็หาว่าติดเมีย ผมไม่ว่างจริงๆผมต้องไปรับหิน แต่มันบอกว่านานๆครั้งผมเลยโทรบอกหิน สงสัยผมเล่นจนเพลิน ลืมเวลา ลืมไปว่าหินรอทานข้าวกับผมอยู่


“พี่ขอโทษครับหิน ทีหลังพี่จะไม่ไปเล่นบอลอีกแล้ว แล้วก็จะไปรับหินทุกวันเหมือนเดิม”


“หินไม่ได้ว่าอะไร พี่ยุ่งก็ต้องไปกับเพื่อนๆบ้าง ทีหลังจะกลับเย็น น่าจะโทรมาบอกกันบ้าง หินรอกินข้าวอยู่”
ฟอด


“ยี้ เหม็นแถมยังตัวเน่าอีก ไอ้พี่ยุ่ง”
 ผมเดินเข้าไปหอมแก้มหินดูเหมือนหินจะรังเกียจผมนะ ผมคงต้องไปอาบน้ำแล้ว หลังจากที่ผมพยายามจะหอมแก้มหินเป็นครั้งที่สอง


“เห้ย หินคว้ามีดทำไม”


“ลองโดนตัวหินอีกสิ จะเฉือนให้เลือดพุ่ง”


“หินจะเฉือนอะไรพี่ พี่กลัว”


“ไอ้พี่ยุ่ง”


“โอเค พี่ไปอาบน้ำก็ได้”
ฟอด ก่อนเข้าห้องน้ำผมก็อาศัยความวัยขั้นเทพขโมยหอมแก้มหินอีกครั้งนึง


“ออกมา มึงตาย ไอ้พี่ยุ่ง”
น้องหินของพี่โหดมาก
ผมบอกอะไรคุณไปยังว่ามหาลัยผมจะปิดสองอาทิตย์ เนื่องจากครบรอบร้อยปีมาการก่อตั้งมหาลัย ผมว่าผมจะเซอร์ไพรส์หินพาไปเที่ยวทะเล ที่จริงผมอยากพาไปมัลดีฟส์นะ แต่ในเมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยบอกให้เที่ยวในไทย ใช้ของไทย ผมควรจะสนองนโยบายของเขาสักหน่อย อีกอย่างหินเป็นคนเหนือคงจะเห็นทะเลหมอกบ่อยกว่าน้ำทะเล อีกอย่างมันโรแมนติค ผมคาดว่าผมจะพาหินไปเสม็ด สโลแกนมันชวนให้ไปมาก “ไปเสม็ด เสร็จทุกราย” น่าเที่ยวสุดๆ ถึงไม่ไปหินก็เสร็จผมอยู่ดี อุวะฮ่าๆ ผมกำลังจินตนาการอะไรๆพิเรนท์ในสมอง สียงหินก็มาเร่งให้ผมอาบน้ำเร็วๆสงสัยหินจะหิวข้าวจริงๆ ผมรีบอาบดีกว่า


ฟอด
ในมื่อผมอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมก็มีสิทธิ์หอมแก้มหินแล้ว


“เห้ย วันนี้อะไรกับแก้มหินมากป่ะ หอมอยู่นั่นแหละ มันช้ำหมดแล้ว”


“ไหน ยังไม่เห็นช้ำเลย มาๆมาให้พี่หอมอีกที”


“ประชดโว้ย”


“55555”
แหมไม่ให้หอมได้ไงแก้มหินน่ะ ทั้งนุ่ม ทั้งใส ทั้งหอม ทั้งขาว แค่เห็นผมก็ขึ้นแล้วล่ะครับ


“ไปนั่งได้แล้ว หินทำกับข้าวเสร็จแล้ว จะได้กินกัน หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว”


“จ้าๆ แม่ศรีเรือน”


“ไอ้พี่ยุ่ง”


“จ้า”
เดี๋ยวนี้หินเป็นอะไรไป แปปๆเป็นคว้ามีด ผมคนนะครับไม่ใช่เนื้อหมูจ้องจะฆ่ากันลูกเดียวเลย ผมนั่งทานข้าวกับหินได้สักพักผมก็เหมือนจะนึกไรได้


“หิน/พี่ยุ่ง” ผมกับหินพูดพร้อมกันเลยครับ หรือจะคิดเหมือนกัน


“เอ่อ พี่ยุ่งมีอะไรเหรอ”     


“เรื่องพี่ไม่สำคัญหรอก หินพูดก่อนเลย”


“เอ่อ คือว่า สองอาทิตย์ที่จะหยุดนี้ หินไม่อยู่นะ”


“หินจะไปไหน”


“โอย ทำไมต้องตวาดด้วย”


“เอ่อ ขอโทษ”
สงสัยผมจะลืมตัว เลยตวาดออกไป ผมอุตส่าห์วางแผนไว้เป็นอย่างดี มารับรู้ว่าไอ้คนที่อยากให้ไปด้วยนี่มันไม่อยู่ เจ็บใจใช่เล่น


“หินจะไปไหน”


“คือหินจะกลับบ้านน่ะ”


“หือ? กลับบ้าน บ้านที่เชียงใหม่อ่านะ”


“อื้อ พอดีเมื่อกี้พ่อของหินโทรมาบอกว่าให้ไปหาบ้าง มันพอดีที่มหาลัยหยุด ผมเลยตอบตกลงว่าจะไปหาท่าน”


“แล้ว หินจะไปทั้งสองอาทิตย์เลยเหรอ”


“ก็คงจะเป็นอย่างนั้น”
น้องหินของผม น้องหินของผมไม่อยู่ กิจกรรมยามค่ำคืนผมก็ต้องหยุด ห่างกันตั้งสองอาทิตย์ผมจะทนไหวไหม ผมคิดถึงน้องหินแน่ๆ


“คือ”


“มีอะไรเหรอหิน”


“คือ”


“หรือหินจะไม่ไปแล้ว”


“ไม่ใช่”


“อ้าว”
ผมก็อุตส่าห์ดีใจ ใจแป้วเลยกูไอ้ยุ่งเอ๊ย


“แล้วอะไรล่ะหิน หินทิ้งพี่ไปสองอาทิตย์ หินจะพูดอะไรทำร้ายจิตใจพี่อีกล่ะ”


“หึ พี่ยุ่งอย่ามาปัญญาอ่อน แค่หินจะชวนพี่ยุ่งไปเชียงใหม่กับหินเท่านั้นแหละ”


“ไม่เอา อ๊ะ เมื่อกี้หินพูดไรนะ”


“หินพูดว่า พี่ยุ่งจะไปเชียงใหม่กับหินไหม”


“ไป ไป ไปแน่”


“ไปเจอพ่อหินด้วยนะ ไม่กลัวเหรอ”


“ไม่กลัว ถือโอกาสไปสวัสดีคุณพ่อตาด้วย ไปเอาลูกเขาแล้ว ไม่รับผิดชอบได้ไง”


“พูดอะไรน่ะ พี่ยุ่งน่าเกลียดว่ะ”


“ไว้รอหินเรียนจบพี่เอาพ่อไปขอหินแน่ๆ แต่ตอนนี้ขอไปเซอร์เวย์นิสัยพ่อตาก่อนแล้วกัน”


“แล้วจะได้รู้กันพี่ยุ่ง”


ว้ากก น้องหินพูดให้คิด ผมรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ไม่หรอกน่า พ่อของหินน่าจะไม่โหด ผมหวังให้เป็นอย่างนั้น สาธุ

แท่นแท๊น
ผมมาหยุดหน้าประตูไม้ที่ดูขลัง ผมขอมอบคำนี้ให้เลยแล้วกันทำไมน่ะเหรอ คุณเคยเห็นรั้วไม้ที่ดูหนาและแข็งแรง เก่าๆ มีไม้เลื้อยบนขอบประตู  ทำนองโจรปีนขึ้นยาก ออกลักษณะนั้นเลย มันเลยได้จำกัดความว่า ขลัง(แฝงความน่ากลัว)  พอเงยหน้ามองเลยข้ามรั้วไปก็จะเห็นบ้านเรือนไทยทรงเก่าแก่ตามสไตล์บ้านเรือนไทยของชาวเหนือ ผมรู้มาว่าพ่อของหินเป็นกำนันอำเภอหนึ่งในเชียงใหม่ แล้วยังเป็นเจ้าของไร่ส้ม หลังจากที่ผมซักประวัติคร่าวๆของพ่อตาจากน้องหินนั่นเอง


“นี่เหรอบ้านหิน”
พวกเรามาถึงบ้านหินก็เกือบจะห้าโมงเย็น ผมแพคมาแบบเป้ ผู้ชายจะเอาอะไรมามากกางเกงใส่ซ้ำกันหลายวันก็อยู่ได้ ส่วนน้องหินนี่สิ มาแบบกระเป๋าเดินทางแล้วลำบากใครลำบากผมที่ต้องช่วยถือ


“อื้อ เล็กล่ะสิ”


“ไม่เล็กหรอก แค่พี่คิดว่ามันดูขลัง และดูน่ากลัวนะ”


“แค่เห็นตัวบ้านก็ใจเสาะแล้วเหรอ พี่ยุ่ง”


“ป่าวไม่ได้ใจเสาะ แค่ใจมันหวิวๆ”


“หึ เดี๋ยวก็รู้”
คำพูดของหินทำให้พี่กลัวนะ ผมหันไปมองหน้าน้องหิน นั่นทำหน้าตาหน้ากลัวใส่ผมอีกตังหาก ไว้เจอกันคืนนี้หินน้อย ก่อนที่ผมจะคิดไรมากไปกว่านี้ หินก็เดินไปกดออดหน้าประตู ไม่น่าเชื่อประตูแบบนี้มีออดให้กดด้วย 


“สักครู่เจ้า ข้าเจ้ากำลังจะไปเปิดเดี๋ยวนี้และเจ้า”


“สวัสดี น้าเม้ย”


“อ่ะ คุณหิน คุณหินกลับมาแล้ว”


“โอย น้าเม้ยหินกระดูกแหลกหมดแล้ว”


“ก็เม้ยคิดถึงคุณหินจ้า ไม่ได้ป๊ะกันตั้งนาน”


ผมยืนมองผู้หญิงที่ดูมีอายุหน่อยๆกอดหินของผมซะแน่นเลย ผมหึงนะ ถึงจะเป็นคนสนิทที่บ้านหินก็เถอะ แต่ทำไงได้ผมได้แต่ยืนมองตาปริบๆ


“อ่ะ สุมาเตอะเจ้า ผู้ใด๋กา คุณหิน”


“อ้อ นี่รุ่นพี่ของหิน ชื่อยุ่งน่ะ”


“สวัสดีครับ น้าเม้ย”
ผมยกมือไหว้  น้าเม้ยดูเหมือนจะเป็นคนรับใช้ที่บ้านของหิน


“ไม่ต้องไหว้หรอกเจ้า เพื่อนของคุณหินก็เหมือนนายของข้าเจ้าด้วยอีกคน มากันเหนื่อยๆขึ้นเฮือนก่อนเตอะเจ้า ไปดื่นน้ำดื่มท่ากันก่อนดีกว่า”
ผมหยุดมองน้าเม้ยจูงมือหินขึ้นเรือนไปพร้อมกระเป๋าของหิน ผมลองมองไปรอบๆบ้าน มีต้นไม้ต้นใหญ่ๆรอบบ้าน มีรากไม้ที่ย้อยมาจากกิ่งของต้นไม้ใหญ่ มีต้นไม้เล็กๆตามพื้นดิน สองข้างทางเดินเข้าไปขึ้นตัวบ้านก็จะมีพวกพุ่มเข็มพุ่มกุหลาบ นี่สินะความแตกต่างระหว่างสังคมเมืองกับชนบท ผมเคยมาเชียงใหม่หลายครั้ง แต่ผมก็ได้เที่ยวแต่ตัวเมืองของเชียงใหม่เช่น ดอยสุเทพ กำแพงท่าแพ ห้างเซนทรัลกาดแก้ว คูเมือง ถนนคนเดิน ตอนแรกผมอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเชียงใหม่จะเจริญเท่ากรุงเทพหรือจะมากกว่า  เพื่อนต่างชาติของผมคนหนึ่งเคยถามว่าเมืองหลวงของประเทศไทย คือเชียงใหม่ใช่หรือป่าว นั่นแหละครับ จังหวัดเชียงใหม่ดังกว่ากรุงเทพมหานครเสียอีก

หมับ
เฮือก
มีคนมาจับไหล่ผมด้านหลัง


“ผู้บ่าว บ้านใดล่ะนี่ มายืนอยู่หน้าบ้านฮา” (ฮา ในภาษาเหนือ แปลว่ากู: คนเขียน(นักเขียนไม่ใช่ชาวเหนือ เด็กกทมโดยกำเนิดแต่ชอบภาษาเหนือเลยลองๆเขียนเป็นเหนือๆนิดนึงผิดยังไงขอโทษด้วยนะคะ))


“เอ่อ สวัสดีครับ”


“หือ ไม่ใช่คนเหนือหรอกหรือ”


“ครับ”
ผมหันกลับมาสวัสดี ผู้ชายอายุประมาณ 50กว่าๆ ดูน่าเกรงขาม แล้วผมรู้สึกว่า หน้าตาผู้ชายคนนี้เขาคล้าย นายจันทร์หนวดเขี้ยวของบางระจัน ไว้หนวดสวยมากครับ So good!   เขายืนมองหน้าผมสักพักก็มีเสียงข้างบนเรือนตะโกนลงมา


“กำนันเจ้า  คุณหินกลับมาแล้วเจ้า”


“แล้วนี่ใคร เม้ย”


“อ้อ นั่นคือเพื่อนของคุณหินเจ้า”


“อ้าวเพื่อนของไอ้หนูเองเรอะ  แล้วไม่บอก ข้าเป็นพ่อของไอ้หนูเอง ชื่อกำนันจันทร์”
หนวดเขี้ยวใช่ไหมครับ ผมต่อเองในใจ เหมือนมาก ผมไม่ได้ลามปามนะครับแต่มันอดคิดไม่ได้


“สวัสดีครับ ผมชื่อยุ่งครับ คุณพ่อ เอ้ย กำนันจันทร์”


“ฮ่าๆๆ ชื่อยุ่งเหรอวะ พ่อแม่เข้าใจตั้งชื่อนะเรา เรียกว่าพ่อเหมือนไอ้หนูก็ได้ เป็นเพื่อนของไอ้หนูก็เหมือนลูกข้าอีกคนนั่นแหละ”


“ครับ คุณพ่อ”
เริ่มได้ดีไอ้ยุ่งทำคะแนนเข้าไว้เว้ย เรียกคุณพ่อได้แล้วต่อไปต้องทำให้ยอมเป็นพ่อตาให้ได้ ไฟท์ติ้ง


“พ่อจันทร์ หินกลับมาแล้ว คิดถึงพ่อจัง”
หินที่ขึ้นไปบนเรือนแล้ว กลับวิ่งลงมากระโดดกอดคอพ่อจันทร์เหมือนเด็กๆ ผมมองแล้วน่ารักจริงๆ น้องหินของพี่ยุ่ง ถ้าเป็นผมกับพ่อคงไม่มีแบบนี้หรอก ไม่ใช่พ่อผมยุ่งกับธุรกิจมากเกินหรืออะไร แต่ผมกับพ่อตัวโตพอๆกันจะมากอดกันกลมแบบหินกับพ่อจันทร์แค่ผมคิดภาพผมก็ไม่ไหวแล้วครับ ผมกับหินไม่มีแม่เหมือนกัน แม่ของหินเพิ่งตายไปเมื่อสามปีที่แล้ว ส่วนแม่ผมหนีไป ช่างมันเหอะ ยังไงๆผมก็โตมากับพ่อ อดีตจะเป็นยังไงก็ช่างมัน


“พ่อก็คิดถึงไอ้หนูของพ่อ ไปๆ ขึ้นบ้าน ไอ้หนู ไอ้ยุ่งขึ้นบ้าน”


“ครับคุณพ่อ”
ผมเดินตามหินและพ่อจันทร์ขึ้นมาบนบ้าน นี่สิเรือนไทยของแท้ เป็นเรือนแบบกว้างๆ  ตรงกลางก็จะมีพื้นยกสูงขึ้น รอบก็เป็นทางเดินและแยกไปเป็นห้องต่างๆ ผมเห็นความทันสมัยก็แค่ทีวี โทรศัพท์บ้าน แล้วพัดลมที่ติดอยู่บนเพดาน คาดว่าคงไม่มีแอร์แน่ๆ


“ไม่ชินล่ะสิไอ้ยุ่ง บ้านข้าเป็นแบบธรรมดา อยู่แบบพอเพียงอาศัยอากาศจากธรรมชาติ ไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องทำนำร้อน ไม่มีเตียงอยู่ได้ไหมล่ะ”


“เอ่อ อยู่ได้ครับ”
อ่ะเดี๋ยวก่อนหมายความว่าไง ไม่มีอย่างอื่นผมอยู่ได้ แต่ไม่มีเตียงนี่หมายถึงอะไรกันครับ


“ไอ้พี่ยุ่งแน่ใจเหรอว่าอยู่ได้ หินว่าพี่ไปเช่าโรงแรมนอนเถอะ”


“บ๊ะ ไอ้หนู ก็ไอ้ยุ่งบอกว่าอยู่ได้มันก็ต้องอยู่ได้สิวะ  ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้นใช่ไหม ไอ้ยุ่ง”


“ครับ คุณพ่อ”
ผมได้แต่ตอบรับและพยักหน้าหงึกๆ ก็เล่นพ่อตาพูดมาซะขนาดนี้ ผมไม่พยักหน้ารับก็อย่าหวังทำคะแนนต่อไปได้เลย 


“ฮ่าๆๆ ไอ้ยุ่งนี่ถูกใจข้าจริงๆ เม้ยฉลองหน่อย ไปทำกับข้าวมาเยอะๆ”


“เจ้า กำนัน คุณหินกับคุณยุ่งมา เม้ยจะทำสุดฝีมือ”


“น้าเม้ยให้หินไปช่วยไหม”


“ไม่ต้องเลยเจ้า งานนี้ฝีมือเม้ยเอง”


“หินพาเจ้ายุ่งไปเก็บกระเป๋าก่อนเถอะไป ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมานั่งคุย”
ผมเดินตามหินที่พาผมมาเก็บกระเป๋า  เป็นห้องไม้ๆ ที่ประตูเป็นแบบขัดกลอนประตู  เป็นพัดลมติดเพดานเหมือนเดิม มีเตียงไม้แล้วก็มีเสื่อปู มีหมอน หนึ่งใบ มีหมอนข้าง ผ้าห่มหนึ่งผืน ในห้องก็จะมีโต๊ะเครื่องเขียนที่ทำจากไม้ มีโคมไฟแบบเก่าๆ ขอบคุณนะครับที่มีโคมไฟและหลอดไฟให้ผมอยู่


“พี่ยุ่งนอนห้องนี้นะ เก็บกระเป๋าแล้วหินจะพาไปห้องน้ำ”


“อ้าวแล้วหินไปนอนไหน”


“หินก็ไปนอนห้องหินสิ”


“ไม่นอนกับพี่เหรอ”


“เหอะ  ไม่บางทีหินอาจจะไปนอนกับพ่อด้วย”


“งั้นเหรอ ”
ผมได้แต่ทำหน้าหงอยๆ โยนกระเป๋าเป้ลงกับพื้น ผมแอบสังเกตหน้าน้องหินที่ดูจะผิดสีไปนิดหน่อย


“พี่ยุ่งไม่อ้อนหินเหรอ”


“ไม่อ่ะ มันเป็นความต้องการของหินพี่ก็คงจะไม่ห้าม อีกอย่างคุณพ่อกับหินก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วย”


“พี่ยุ่ง”


“ทำไมเหรอหิน”


“พี่ยุ่งไม่เข้าใจหินเลย”
ผมมองหน้าหินแล้วอมยิ้มน้อยๆ


ฟอด
“ไม่ต้องมาหอมหินเลย”
ผมโอบกอดหินจากด้านหลังแล้วเอาคางเกยบนไหล่ของหิน หินเหมือนจะดิ้นนิดหน่อย


“พี่รู้ว่าหินคิดถึงพ่อ พี่ก็เลยอยากให้หินอยู่กับพ่อเยอะๆ ก่อนจะกลับไปเรียนอีกเป็นปีๆ หินกับพ่ออยู่ไกลกันนานๆเจอกันที”
ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น


“ที่จริงพี่ก็อยากให้หินนอนห้องเดียวกับพี่ หรือไม่พี่ก็ไปนอนกับหิน แต่วันนี้ที่พี่เห็นหินกอดกับคุณพ่อ พี่เลยอยากให้หินอยู่กับท่านเยอะ เพราะยังไงๆหินกลับกรุงเทพหินยังอยู่กับพี่อีกนาน อีกอย่าง เตียงมันก็แค่นี้จะนอนเบียดกันก็ใช่เรื่อง หินไปนอนห้องหินจะสบายกว่านะ”


“ขอบคุณนะพี่ยุ่งที่เข้าใจหิน”


“แล้วไอ้เด็กคนไหนบอกว่าไม่เข้าใจหินนะ”


“ไอ้พี่ยุ่งบ้า”
น้องหินหันกลับมา ผมเห็นน้ำตาของหินรื้นๆขึ้นที่ดวงตา แล้วเขาก็เข้ามากอดผมแน่น


“ฮึก ฮือๆ”


“ร้องไห้ทำไมหิน เดี๋ยวพ่อหินเข้าใจผิดคิดว่าพี่ทำหินร้องไห้”


“หินซึ้งอ่า”


“เด็กขี้แง พี่เคยบอกแล้วไงว่าจะไม่ทำให้หินร้องไห้”


“แง มันห้ามไม่ได้”
ผมจับหน้าหินแล้วประทับจูบบนริมฝีปากที่นิ่มๆสีชมพู


“นี่ไงหยุดร้องไห้แล้ว”


“ไอ้พี่ยุ่งบ้า”


“หินรีบออกจากห้องนี้เถอะ”


“ทำไมอ่ะ”


“เพราะพี่รู้สึกว่าพี่กำลังจะทนไม่ไหว ถ้าพี่กดหินขึ้นมาแล้วจะยุ่งพี่ไม่อยากกินลูกซองเป็นอาหาร”


“ไอ้พี่ยุ่งหื่น ซึ้งไม่ทันไร”


“รีบไปหาคุณพ่อกันเถอะ เดี๋ยวพี่อยากกินหนุ่มเหนือขึ้นมาแล้วจะยุ่ง”


“ชิ ไอ้หื่น”
หินพาผมเดินดูรอบๆบ้าน พาไปดูห้องน้ำที่อยู่ชานเรือน เป็นห้องน้ำที่คลาสสิคสุดๆ เป็นแบบเหมือนนำไม้ไผ่มาสร้างติดๆกัน เป็นสี่เหลี่ยมกว้างๆอยู่เหมือนกัน  มีโอ่งอยู่สองใบ ขอบคุณที่ห้องน้ำยังมีความทันสมัยโถส้วมเป็นแบบชักโครก มีสายยางฉีดก้นแล้วก็ที่กดเหมือนชักโครกทันสมัยทั่วๆไป


“ที่นี่มีห้องน้ำสามห้อง ชั้นล่างสองห้อง ส่วนชั้นบนหนึ่งห้อง ส่วนมากทุคนจะมาอาบน้ำชั้นล่างมากกว่าชั้นบน ชั้นบนเอาไว้สำหรับใครมีกิจธุระตอนกลางดึกเท่านั้น”


“อ้อ แล้วหินสนใจมาอาบน้ำชั้นล่างพร้อมพี่ไหม แบ่งกันคนล่ะห้อง”


“ก็ได้นะว่าแต่ทำไม กลัวผีเหรอ”


“ป่าว ก็เผื่อพี่แหวกไผ่ดูหินอาบน้ำ น่าตื่นเต้นไปอีกแบบนะ”


“ไอ้โรคจิต”


จบข่าว หินเดินขึ้นบ้าน งอนไปตามระเบียบ


“อ้าวขึ้นบ้านมาพอดี มาๆๆกินข้าวกินปลา ไอ้หนู ไอ้ยุ่งไปล้างมือแล้วมากินข้าว”


“ครับ คุณพ่อ”
หินไม่สนใจผมเดินจ้ำอ้าวไปยังห้องน้ำชั้นบน


“หินๆ ที่นี่มีน้าเม้ยเป็นแม่บ้านคนเดียวเหรอ”
ผมกระซิบกระซาบกับหิน


“อ้อที่จริงมีอีกสองคน มีแมเลาะ ที่เป็นกระเหรี่ยง แล้วก็ลุงใหญ่เป็นชาวสวนบ้านนี้น่ะ”


“แล้วเขาไปไหนกันหมด”


“สงสัยลาหยุดมั้ง”


“สองคนนั้นน่ะ จะมากินข้าวหรือจะมากระซิบกระซาบกัน บอกพ่อมั่งสิ กระซิบอะไรกัน”


“เอ่อ คือผมสงสัยว่าที่นี่มีน้าเม้ยเป็นแม่บ้านคนเดียวเหรอครับ”


“อ้อป่าวหรอก มีอีกสองคน  แมเลาะแล้วก็ไอ้ใหญ่ไปทำธุระที่ตัวเมือง เดี๋ยวก็คงกลับมา เดี๋ยวเจอเองแหละ”


“มาแล้วเจ้า มาแล้วเจ้า อาหารขันโตกต้อนรับคุณหิน กับคุณยุ่ง”


“เวอร์ซะไม่มีนะนังเม้ย”


“แหม กำนันเจ้า มีแขกมาบ้านข้าเจ้าก็ต้องเต็มที่ไม่ให้อายหน้ากำนันไง”


“แล้วแมเลาะกับใหญ่กลับมารึยัง”


“กลับมาแล้วเจ้า เดี๋ยวก็ขึ้นเอาอาหารมาเสิร์ฟเจ้า”


“แมเลาะมาแล้ ป้อกำนา เอาอาหามาเสิร์ฟแล้วเจ้า”


“ภาษามาแต่ไกลเลยนะแมเลาะ”


“กรี๊ด คุณหิ”

“หิน แมเลาะหิน”
ผมอดอมยิ้มไม่ได้ ฮ่าๆนี่แหละน้าเป็นความยากของภาษาไทย


“ขำไร พี่ยุ่ง นี่แมเลาะ คนนี้ชื่อยุ่งเพื่อนหิน”


“โอ้ว ว้าววว เพื่อนคุณหิ หล่อจางคะ”


“ขอบคุณครับ”
ผมมองหน้าแมเลาะแล้วก็ขำๆ ฮ่าๆ หน้าตาเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าจะไม่เกิดสิบหกสิบเจ็ด ปะแป้งน่ารักใสซื่อดีจังครับ


“กรี๊ด แมเลาะปลื้มจังคุณหิ แมเลาะเขิน แมเลาะขอตัวลงไปข้างล่างก่อนนะคะ”


“ทำเป็นเขินไปได้นะเจ้าเด็กแมเลาะ”
พ่อจันทร์หันมาหัวเราะกับผม มืออาหารมือนี้เต็มไปด้วยความสุขและเต็มไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัว พอทานเสร็จ พ่อจันทร์ก็เล่าเรื่องวีรกรรมต่างๆของหินให้ฟัง ผมฟังไปเรื่อยๆมีแต่แสบๆทั้งนั้นเลย


“ไม่ฟังแล้วพ่อ หินงอนพ่อแล้ว เล่าอะไรก็ไม่รู้ให้พี่ยุ่งฟัง”


“ก็มันจริงนี่ไอ้หนู ไอ้ยุ่งว่าจริงไหมล่ะลูกของพ่อน่ะแสบสุดๆไปเลย”


“จริงครับ”


“ไอ้พี่ยุ่งไม่สนแล้ว หินขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนและกัน”


“แค่นี้ทำเป็นงอนนะไอ้หนู เห้อ”


“เป็นอะไรไปครับคุณพ่อ”


“มองไอ้หนูแล้วนึกถึงแม่ไอ้หนูมันน่ะ”


“คุณพ่อรักคุณแม่มากเลยเหรอครับ”


“มากสิ ข้าน่ะรักแม่ของไอ้หนูตั้งแต่แวบแรก  ข้าไปเจอแม่ของไอ้หนูที่งานบุญที่วัดตอนนั้น ข้าน่ะเป็นแค่เด็กวัดทโมนไปเห็นแม่ของไอ้หนูนั่งฟังพระสวดอยู่ สวยยังกับนางฟ้าข้าได้แต่แอบมอง จนวันนึงที่แม่เขาเดินมาหลังวัดมานั่งชิงช้าที่ข้าทำไว้ ข้าเลยเดินไปหาพอแม่เขาเงยหน้าขึ้นมา ถึงทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ข้าพยายามจีบจนแม่ไอ้หนูรักข้า แต่แม่ของไอ้หนูรวยเป็นเจ้าของไร่ส้ม พ่อแม่ของเขาพยามยามกีดกันทุกทาง แต่จำไว้นะไอ้ยุ่งไม่มีอะไรชนะความดีได้หรอก ข้ารักจริง ข้ายอมทนจนพ่อแม่หรือตายายของไอ้หนูยอมรับ จนมีไอ้หนู ข้ารักไอ้หนูมาก”


“ครับผมก็รักหินเช่นกัน”
ผมได้แต่พึมพำในลำคอ



“อะไรนะ ข้าฟังไม่ถนัด”


“ไม่มีอะไรหรอกครับ”


“ข้าฝากไอ้หนูด้วยนะ”


“ครับ งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป จะว่าไปผมก็ตกหลุมรักหินตั้งแต่เงยหน้ามองเหมือนกัน รักมาก ผมได้นุ่งผ้าขาวม้าเป็นครั้งแรก ถือขันไปอาบน้ำ น้ำโคตรเย็นเลยครับขนาดอากาศร้อน จะว่าไปมันก็เย็นชื่นใจ ผมขึ้นจะไปนอนก็เห็นยืนอยู่ตรงระเบียงกำลังมองดูดาวอยู่


“ยังไม่นอนอีกเหรอหิน”



“ยัง พี่ยุ่งเพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ จะเข้านอนแล้วสิ”


“ใช่ อาบน้ำที่นี่ นี่มันเย็นชื่นใจจริงๆ ล่อซะพี่ตัวซีดเลย”


“ฮ่าๆๆ ก็งี้แหละชีวิตเด็กตจว”


“ว่าแต่หินมาทำไรตรงนี้”


“หินคิดถึงแม่ ทุกทีแม่หินจะพาหินมาดูดาวตรงนี้เสมอ แม่บอกว่าพลังของดวงดาวจะช่วยปกป้องหิน”


“นั่นสิเนอะ หินวันนี้พ่อของหินเล่าเรื่องความรักของพ่อจันทร์ต่อแม่ของหินด้วยล่ะ”


“อื้มพ่อจันทร์น่ะรักแม่หินมากตอนแม่หินเสียแทนที่หินจะร้องไห้หนักจนพ่อต้องปลอบกลายเป็นว่าหินต้องไปปลอบพ่อแทน”


“พี่ไม่รู้หรอกว่าพ่อจันทร์รักแม่หินมากขนาดไหน แต่พี่อยากบอกว่าพี่รักหินมาก พี่อยากจะรักหินให้ได้เท่ากับความรักของพ่อจันทร์”


“ขอบคุณนะพี่ยุ่ง ที่รักหินมากขนาดนี้”
ผมหอมหน้าผากหินแล้วไล่ให้ไปนอน ผมก็เข้านอนเหมือนกัน ผมต้องขอบคุณพ่อจันทร์ที่ทำให้วันนี้ผมมีหิน ต้องขอบคุณหินที่ชวนผมมา ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกของเราหมุนช้าลง และก็ขอบคุณน้องหินที่ให้โอกาสคนอย่างผมได้รักน้องเขา พี่ขอบคุณจริงๆนะหิน แล้วก็เดินเข้าห้องนอนไป








“เอ็งรักไอ้หนูของข้า จริงๆด้วยสินะ ไอ้ยุ่ง”




archaeoloable

  • บุคคลทั่วไป
ผมอยู่ไปหลายวัน ผมก็เริ่มคุ้นชินกับที่นี่ เริ่มตื่นเช้า ผมจะเห็นพ่อจันทร์ออกไปวิ่ง ส่วนน้องหินอุตส่าห์เป็นเด็ก ตจว กลับเป็นเด็กตื่นสายจนไม่น่าเชื่อ แต่ยอมรับว่าผมปวดหลังไม่ใช่น้อยวันแรกนี่ผมไม่หลับเลย ร้อนจนผมต้องถอดเสื้อ แถมที่นอนยังแข็งโป้ก คันๆที่หลัง พอวันต่อๆมาผมก็เริ่มทำใจได้นอนหลับสบายอุราแถมยังตื่นเช้า ผมเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ ก็เจอเข้ากับพ่อจันทร์


“นี่ไอ้ยุ่งอาบน้ำเสร็จแล้วข้ามีไรจะคุยด้วยหน่อย”


“ได้ครับ”
ผมรู้สึกว่าในสายตาของพ่อจันทร์มีแววตาแบบเจ้าเล่ห์บวกอาฆาตแค้น หรือผมรู้สึกไปเอง
ผมอาบเสร็จแต่งตัวเสร็จก็เดินไปกลางบ้าน เห็นพ่อจันทร์นั่งรออยู่แล้ว


“นั่งสิไอ้ยุ่ง”


“ครับ”
ผมค่อยคลานเข้าไปนั่งวันนี้ผมกลัวนิดหน่อยไม่ใช่อะไร  ก็เล่นพ่อจันทร์เช็ดปืนลูกซองไปมาขนาดนั้นไม่กลัวก็บ้าแล้ว


“รู้จักกับไอ้หนูได้ยังไง”


“เอ่อผมเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยครับ”
จะให้ตอบได้ไงเจอที่ร้านเหล้าแถมยังเอาลูกเขามาเป็นเมียตั้งแต่วันแรก


“เหรอ แล้วเรียนอะไรล่ะ”


“เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ครับ”


“อ้าวแล้วไอ้หนู มันเรียนศิลปกรรมจะไปรู้จักกันได้ยังไง”


“คือว่า บังเอิญเจอกันเลยรู้จักกันครับ”


“อ้อ แล้วเราเรียนอยู่ปีอะไรแล้วล่ะ”


“ปีสามครับ”
ผมรู้สึกว่าตัวผมทั้งตัวเกร็งไปทั้งตัวแม้กระทั่งยังหนัก โอยมองปืนแล้วเหลือบไปเห็นลูกซองที่วางอยู่ข้าง คุณพ่อคร้าบเอาออกมาทำไมกันคร้าบ


“งั้นก็เป็นรุ่นพี่สิ”


“ครับ เป็นรุ่นพี่ครับ”


“แล้วเป็นอะไรอีกไหม”
เออ คุณพ่อหมายถึงอะไรกันครับ หมายถึงเพื่อนหรือสามีกันครับ ความสัมพันธ์ของผมมีหลายรูปแบบ


“เอ่อ หมายถึงอะไรเหรอครับ”


“ความสัมพันธ์น่ะ”


“ผมเป็นทั้งรุ่นพี่ เพื่อนแล้วก็...”


“แล้วอะไรเหรอ ไอ้ยุ่ง”
ห้วนไปไหมครับคุณพ่อ


“คือ”


“คืออะไร ไอ้ยุ่ง”


“คือ” ผมชักเริ่มติดอ่างแล้วสิ


“พูดมาตามตรง ข้าไม่ชอบคนโกหก”


“คือเป็นทั้ง รุ่นพี่ เพื่อน ทาส คนขับรถ  แล้วก็”


“แล้วก็”
คุณพ่อครับขึ้นนกทำไม ไม่ต้องชักไกก็ได้ครับ ผมปากสั่นหมดแล้ว


“เป็นคนรักครับ”
เท่านั้นแหละ พรึ่บพรั่บๆๆ เสียงผมและพ่อจันทร์ที่กำลังคว้าปืนแล้วยืนขึ้น ส่วนผมยืนแล้วเตรียมวิ่ง ผมกับพ่อจันทร์หยั่งเชิงกันไปมา


“เอ็งพูดว่าอะไรนะไอ้ยุ่ง เป็นอะไรกับไอ้ยุ่ง”


“ปะ เป็นคนรักครับ”


ปัง


เห้ย ผมรีบคลำตัวเองทั่วทั้งตัว ผมเงยหน้ามองพ่อจันทร์ที่ถือปืนยิงขึ้นฟ้า แล้วผมก็ได้ยินเสียงทึ่กทักๆของหิน ของน้าเม้ย ของแมเลาะ แล้วผู้ชายแก่ๆก็คงจะเป็นลุงใหญ่


“เกิดไรขึ้นพ่อจันทร์ ทำไมพ่อถือปืนแล้ว พี่ยุ่ง เห้ยพี่ยุ่ง พ่อจะทำไรพี่ยุ่งน่ะ”


“หึ ก็ไอ้ยุ่งมันบอกว่าเป็นคนรักของแกไง”


“พ่อรู้แล้วเหรอ”


“ไอ้ยุ่งมึงตาย”


“พ่ออย่าทำไรพี่ยุ่งนะ”
หินวิ่งมาบังผมส่วนคนอื่นๆไปยื้อพ่อจันทร์ไว้


“กำนันใจเย็นๆไว้ กำนันเจ้าใจเย็นๆไว้เจ้า”


“กำนา ใจเย็งๆ  แมเลาะเสียดายคนหล่อ”


“พ่อกำนันครับ เก็บปืนก่อนเถอะครับ”


“พ่อ อย่าทำอะไรพี่ยุ่งเลยนะ”


“คุณพ่อครับ ผมรักหินจริงๆ”
สุดท้ายเป็นเสียงผมเอง ผมดันหินไปอยู่ข้างหลัง


“รักงั้นเหรอ มึงคิดว่าความรักระหว่างเพศเดียวกันจะจีรังรึไง”


“ผมไม่รู้ว่าจีรังหรือไม่จีรัง แต่ทุกวันนี้ผมรักหินแล้วผมมั่นใจว่าผมจะรักหินไปจนวันตายของผม”


“มึงตาย ใหญ่ เม้ย แมเลาะ ไปจับไอ้หนูมา”


“พ่อ”


“กำนันเจ้า/กำนา/พ่อกำนัน”


“ข้าสั่งยังไงก็ทำสิวะหรืออยากถูกไล่”
ทั้งสามคนตรงมาจับหินไปจากผม ผมเห็นหินร้องไห้ นี่น่ะเหรอความรักของพ่อที่มีต่อลูกเห็นลูกร้องไห้จะเป็นจะตายยังจะทำ  ไหนบอกว่ารักลูก  ไหนบอกว่ารักหินถ้าเป็นผม ผมจะไม่วันทำกับลูกของตัวเองแบบนี้เด็ดขาด 


“พ่ออย่าทำนะ อย่ายิงพี่ยุ่งนะ”


“เอ็งยังยืนยันที่จะรักไอ้หนูต่อไปใช่ไหม”


“ครับผมจะรักหินต่อไปครับ”


“พ่ออย่านะพ่อ ฮือ พ่ออย่านะอย่าทำไรพี่ยุ่งนะ”



“แม้เอ็งต้องตายเอ็งก็ยอมใช่ไหม”


“ใช่ครับ”


“ฮือออ ฮึกๆ พ่ออย่านะ”


“รักไอ้หนูจริง งั้นก็เตรียมตัวตาย”


“พ่อนั่นสามีหินนะ พ่อจะฆ่าได้ลงเหรอ”


“อะไรนะ ไอ้ยุ่งเป็นสามีไอ้หนูเหรอ”


“ใช่ หินกับพี่ยุ่งมีอะไรกันแล้ว”


“หิน”
นี่เป็นเสียงผมเอง ไม่น่าพูดเลยหินพี่ว่าพี่จะตายเร็วขึ้นเพราะหินบอกว่าพี่เป็นสามีหินนี่แหละ   


“ดีเลยตอนแรกพ่อกะขู่เฉยๆ  ทีนี้พ่อก็มีเหตุให้ยิงมันได้แล้วสิ”
นั่นไงผมทายไม่ผิด ขอบคุณหินเป็นครั้งสุดท้ายที่ทำให้ผมตายเร็วขึ้น



“พ่ออย่า ฮือๆๆ”


“ผมรักหิน ผมจะไม่มีวันเลิกรักหินแม้ผมต้องตายผมก็จะรักหินต่อไป”




ปัง ปัง ปัง 










“พ่อ”


“กำนัน”


“กำนา”


“พ่อกำนัน”
พรึ่บๆ เสียงนกบินออกจากต้นไม้  ผมหันไปมองหินที่ตอนนี้ทรุดตัวลงไปแล้วแถมยังน้ำตาไหลจนนองหน้า ผมหันไปมองทุกคน ทุกคนมีสีหน้าตะลึง แล้วผมก็ก้มลงมองตัวเอง กลับพบว่าพ่อจันทร์ยิงกระถางต้นไม้ข้างตัวผม


“ฮ่าๆๆ นี่สิเหมาะเป็นลูกเขยข้า ไม่วิ่งหนีด้วย ฮ่าๆถูกใจข้าจริง”


“คุณพ่อ”
หินเงยหน้ามามองผม แล้วก็วิ่งมากอดผม


“พ่อจันทร์ ผมรักพ่อครับ”


“เหอะไอ้หนู พูดว่ารักพ่อ รักพ่อแต่เอ็งกลับไปกอดไอ้ยุ่ง น่าขำไหมล่ะ”


“ขอบคุณมากครับคุณพ่อ”
พ่อจันทร์เดินมาหาผมกับหินที่กอดกันกลมดิก มาลูบหัวของหินแล้วก็ตามมาด้วยลูบหัวผม


“ที่จริงข้าก็ไม่คิดจะยิงเอ็งตั้งแต่แรก ข้าแค่อยากทดสอบว่าเอ็งรักลูกข้าจริงไหม รักเท่าที่ข้ารักไอ้หนูไหม ตอนที่ข้าทดสอบไม่ใช่แค่เอ็งรักไอ้หนู ไอ้หนูก็รักเอ็งมาก ถึงแม้กระทั่งตะโกนว่าเป็นสามีขนาดไอ้หนูขี้อายนะ ข้าล่ะเชื่อความรักของพวกเอ็งจริงๆ ข้าน่ะยกไอ้หนูให้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้ารู้อยู่ว่าถ้าข้าหวงต่อไปก็ไม่มีใครมาสู่ขออยู่ดี ยกให้ฟรีแถมข้าวสารให้อีกเอาไหมล่ะเจ้ายุ่ง”


“พ่อ ไม่ตลกนะทำไมเล่นแรงๆแบบนี้ ทำหินขวัญกระเจิงหมด”


“พ่อแค่อยากรู้ว่าถ้าพ่อไม่อยู่แล้วจะมีใครรักไอ้หนูของพ่อเท่าพ่ออีกหรือป่าว แต่คนตรงหน้าก็พิสูจน์ให้พ่อเห็นแล้ว”
พวกเราสามคน พ่อจันทร์ หิน ผมกอดกันกลมดิก ผมสัญญาครับพ่อจันทร์ผมจะดูแลหินอย่างดีที่สุดเท่าที่พ่อจันทร์ไว้ใจ 


“ฮือออออออ”
นี่ไม่ใช่เสียงผม เสียงหิน หรือเสียงพ่อจันทร์แต่อย่างไร



“แมเลาะร้องไห้ทำไม”



“ฮึกๆๆ แมเลาะซึ้งในความรักน่ะ น้าเม้ย ฮือๆแมเลาะอยากมีความรักแบบนี้มั่ง”



“เอ็งก็ไปหาผัวดอยเอ็งสิ”



“กำนาใจร้าย แมเลาะไม่โสหรอก แมเลาะโสแต่คนรวยๆ หล่อๆ รักแมเลาะคนเดียวแบบคุณยุ่งรักคุณหิ”


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เป็นเสียงหัวเราะของคนทั้งบ้าน พร้อมกับน้ำตาของพ่อจันทร์ที่รื้นขึ้นมา ขอบคุณทุกคนมากครับที่ทำให้ผมกับหินเป็นอย่างทุกวันนี้


Special พิเศษ 2


นี่ก็เป็นคืนสุดท้ายที่ผมกับหินจะกลับกรุงเทพ หลังจากที่เราจัดงานฉลองกันเล็กๆตอนเย็น ทุกคนในบ้านหลับหมดแล้ว ผมมายืนมองท้องฟ้าที่มีดาวนับล้านๆดวง ที่หินเคยบอกว่าแม่ของหินชอบพามาดู ผมยืนมองได้สักพักพ่อจันทร์มายืนข้างๆผม


“ยังไม่นอนอีกเหรอครับ คุณพ่อ”


“ยังหรอก ข้ารู้สึกใจหายน่ะ ที่พรุ่งนี้พวกเอ็งจะกลับแล้ว ข้าใจแป้วๆ”


“คงไม่อยากให้หินกลับกรุงเทพสินะครับ”


“นั่นแหละ อีกอย่างข้าเป็นห่วงไอ้หนู ข้ารักไอ้หนูมาก”


“ผมก็รักหินมากเหมือนกันครับ”


“พ่อฝากดูแลหินด้วยนะยุ่ง ถ้าหินทำไรผิดเตือนๆน้องด้วย”


“ครับคุณพ่อ”


“พ่อเชื่อว่ายุ่งจะดูแลหินได้”
พ่อจันทร์พูดเป็นทำนองฝากแต่ผมเชื่อว่าพ่อจันทร์กำลังต้องการความมั่นใจจากผม ผมจึงพยักหน้ารับ


“ครับ คุณพ่อ”


“อื้ม งั้นพ่อไปนอนก่อนล่ะ”


“ราตรีสวัสดิ์ครับ”











“เรียบจบแล้วอย่าลืมมาสู่ขอล่ะ ทำให้ถูกประเพณีหน่อย เป็นสามีของไอ้หนูแล้ว อย่าลืมซะล่ะข้ารออยู่”


“ครับ”
ไชโย ในการมาบ้านของหินครั้งนี้ผมได้รับความรู้สึกต่างๆมากมาย แถมยังได้ลูกของเขามาเป็นเมียอีกครับ ไว้กลับกรุงเทพผมจะพาหินไปหาพ่อ แล้วไปเตรียมการลับๆกับพ่อผมให้มาสู่ขอลับๆกับพ่อจันทร์
รอก่อนนะ หิน ไว้พวกเราเรียนจบเมื่อไหร่ หินเป็นเมียที่ถูกต้องแน่ๆ ผมไปนอนแล้วล่ะครับ หลับฝันดีครับทุกคน

สุดท้ายอยากบอกว่า ผมรักหิน
PS. ตอนที่พ่อจันทร์ยิงผมรู้สึกางเกงในผมเปียก เอาง่ายๆผมฉี่เล็ด ลูกปืนแบบลูกซองนะครับคุณ ไม่ใช่ลูกเด้งที่โดนแล้วเด้งกลับนี่มันฝัง อีกอย่างที่ไม่วิ่งหนีเพราะขามันไม่ไป มันค้างครับ ทุกคนอย่าไปบอกพ่อจันทร์นะครับ ผมกลัวเขารู้ความจริง






พิเศษ 2 ยาวเกือบจะเท่าๆเนื้อเรื่องเลย แหะๆๆ NC มาพร้อมตอนพิเศษ 3 แน่นอนค่ะ (ตอนพิเศษ 3ก็ต้องมีอะไรเซอร์ไพรส์หน่อยๆ ) แล้วก็กำลังจะมีเรื่องสั้นเรื่องใหม่เป็นแนวแฟนซีนะคะ รับรอง ทุกคนได้หมั่นไส้กับพระเอก องค์นี้ เอ้ย หรือ ตนนี้ แน่นอน :bye2: :bye2: :bye2:


ヒナーサクラ

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษได้ใจค่า :laugh:

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนพิเศษ 3  :z1:

รอเรื่องใหม่ด้วย

สู้ๆ ค่าา  :L2:

haloo

  • บุคคลทั่วไป
ชอบบบบบบมากกกกกกกกกค่ะ

พี่ยุ่งน้องหิน น่าร๊ากกกกกกกอ้ะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนแต่งต่อนะค๊าาาาหนุกหนานสวดดยอดดดด

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
น่ารักอ่ะ มาต่อเร็ว ๆน้า o13

Way

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปอมยิ้มไปปวดแก้มง่ะ

วายร้ายหน้าหวาน

  • บุคคลทั่วไป
รอร้อรอ ฮับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด