ทะเล…จอมขวัญเลือกทะเลเพราะมันเป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่สวยงาม เขาเจอน้ำทิพย์ครั้งแรกที่ทะเล ตอนนั้นเธอมาเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงาน ชายหนุ่มจำได้ว่าวันนั้นเขาขับรถตีออกจากกรุงเทพมาทะเลใกล้ๆเพราะเบื่อโลกแสงสีของเมืองกรุง และนั่น…ทำให้เขาได้พบหญิงสาวอย่างน้ำทิพย์
…ครั้งแรก…เขาประทับใจที่เธอสวยและดูสดใสสมวัย
…เขาทำทีเข้าไปถามทาง ทั้งๆที่ดูก็รู้ว่าเธอคือนักท่องเที่ยว และนั่น…กลายเป็นสิ่งประทับใจเป็นอย่างที่สอง…เขาถามทาง แต่เธอไม่รู้ และเธอเสนอว่าจะวิ่งกลับเข้าไปถามทางจากโรงแรมที่เธอพักซึ่งอยู่ใกล้ๆให้…
...และท้ายที่สุด…ตอนที่เธอกลับมาบอกทางกับเขานั้น เธอปิดท้ายด้วยประโยคเรียบง่ายพร้อมรอยยิ้มกว้างที่สวยงาม ‘เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ’
หัวใจของจอมขวัญกระตุก
…ชีวิตของเขา…จอมขวัญ วิมลกิตติเกิดมาบนครอบครัวที่เพียบพร้อมไปด้วยชื่อเสียง เกียรติยศและเงินทอง แต่…เขาขาดความรัก…เขาขาดความเชื่อใจที่จะมีให้คนอื่น…แม้จะมีลุงและป้ามาดูแลนับตั้งแต่พ่อแม่จากไป แต่ลึกๆแล้วเขายังโหยหาความรักและความหวังดีจากคนรอบข้าง…
…จนกระทั่ง…วันที่เขาได้พบเธอ…
จอมขวัญไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตาหรือสวรรค์แกล้ง โรงแรมที่น้ำทิพย์เข้าพักในวันนั้นคือโรงแรมในเครือวิมาลาของลุงของเขา…และมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่เขาจะตามหาชื่อของเธอ…
เมื่อได้ชื่อก็ตามหาที่ทำงานหรือแม้แต่ที่อยู่ เขาทำทีเป็นพบเธอโดยบังเอิญอีกหลายครั้ง และในที่สุด…เธอกับเขาก็คบหากัน จากความเป็นเพื่อนพัฒนาเป็นคนรักในเวลาไม่นาน…และก็เพียงไม่นานเช่นกัน…ที่ความรักครั้งนี้สิ้นสุดลง
…ในเมื่อมันเริ่มที่ทะเล เขาก็ควรจะให้มันสิ้นสุดที่ทะเลเหมือนกัน…
“สุดที่รักแกมาแล้วน่ะไอ้ขวัญ” เสียงของจักรกฤษณ์ทำเอาคนที่กำลังนอนเล่นบนเก้าอี้ผ้าใบมองผืนทะเลกว้างเบื้องหน้าต้องหันมองตามเสียง ก่อนจะเลยสายตาไปยังเบื้องหลังอีกทอดหนึ่ง หญิงสาวที่อยู่ในความคิดของเขาเมื่อครู่นี้กำลังจูงมือคุณรุ่งทิพเดินลงมาที่หาด
…สุดที่รัก…อย่างนั้นหรือ…จะเป็นสุดที่รักได้แค่วันนี้เป็นวันสุดท้ายเท่านั้น…จากนี้ไป…เธอจะต้องกลายเป็นสุดที่รักของคนอื่น…
จอมขวัญมองหญิงสาวอย่างใจหาย เรื่องที่เขาจะทำ ดูไร้เหตุผลอย่างที่สุด…แต่…น้ำทิพย์ต้องมีคนปกป้อง เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและใจดี เขากลัวเธอไม่ทันคน กลัวเธอถูกผู้ชายชั่วๆหลอก เขาหวังดีกับเธอและอยากให้เธอมีความสุข…และเขาเชื่อ…เธอจะมีความสุขแน่นอน
ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ผ้าใบก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาน้ำทิพย์และมารดา รวมถึง…คนขับรถที่ชื่ออธิปซึ่งเดินตามหลังหญิงสาวมา
“สวัสดีครับ คุณน้า” จอมขวัญยกมือไหว้ ทำเอาคุณรุ่งทิพนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรับไหว้เลย เพราะหนามยอกในใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนรักของลูกสาวและมีอดีตเป็นพวกเจ้าชู้เสเพลแบบอดีตสามีของเธอ แต่ตอนนี้…จอมขวัญกลายมาเป็นเพื่อนของน้ำทิพย์แล้ว…
หญิงสูงวัยยกมือรับไหว้อย่างที่ทำเอาคนไหว้ถึงกับชะงัก
“คุณชัยกับคุณพัชรีล่ะ”
“ลุงกับป้าอยู่ในบ้านครับ กระเป๋าอยู่ที่ไหนหรือครับ ผมจะให้คนเอาไปเก็บที่บังกะโลให้” จอมขวัญเลือกรีสอร์ทเล็กๆที่ไม่ใช่ในเครือวิมาลา เขาเหมาทั้งรีสอร์ท จองบ้านพักสำหรับคุณชัยและคุณพัชรีหนึ่งหลัง และบ้านหลังเล็กๆอีก 4 หลัง เป็นส่วนตัวของเขา จักรกฤษณ์ อธิป และสองแม่ลูก
“อยู่ท้ายรถของอธิปน่ะ น้ำ…ไปเอากระเป๋ากับอธิปไป เดี๋ยวแม่จะเข้าไปคุยกับคุณชัยคุณพัชรี” คุณรุ่งทิพหันมาสั่งลูกสาว ทั้งน้ำทิพย์และอธิปเดินกลับไปที่รถแล้ว ในขณะที่คนเป็นแม่มองตามสองหนุ่มสาวด้วยความเสียดาย
…เสียดาย…ที่ผู้ชายอย่างอธิป…ดัน…
“เสียดายนายอธิปหรือครับ” เสียงของจอมขวัญดังขึ้นเบาๆ ทำเอาคุณรุ่งทิพต้องหันมอง
“ก็…ทำไงได้ล่ะ แต่ก็ดี…อธิป…เป็น…เป็นแบบที่เธอว่าก็ดีเหมือนกัน”
“ดี?...ดียังไงครับ” จอมขวัญไม่เข้าใจว่าขนาดตัวเองใส่ไฟไปเสียขนาดนั้น ปั้นน้ำกลายเป็นตัวเท่ากับกอซซิล่า 2 ตัวรวมร่างกัน แต่คุณรุ่งทิพก็ยังหน้ามืดตามัวเห็นว่าไอ้อธิปนั่นดี?!!
“อย่างน้อย…ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงนัก เวลาน้ำไปไหนมาไหน มีอธิปเป็นเพื่อนก็พอจะเบาใจ ถึงจะ…เอ่อ…เป็นเพื่อนสาวก็เถอะ”
……………………..
…เพื่อนสาว!!!...
…ให้ตายเถอะวะ! ขำจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว! จอมขวัญเห็นอธิปทีไร เป็นต้องนึกถึงคำนี้ของคุณรุ่งทิพขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าสตรีสูงวัยที่ดูอนุรักษ์นิยมแบบนั้นจะรู้จักคำร่วมสมัยอย่าง ‘เพื่อนสาว’ แถมยังใช้ถูกที่ถูกเวลาด้วย!
“หัวเราะอะไร” จอมขวัญมัวแต่ก้มหน้าก้มตากลั้นหัวเราะจนไม่ทันรู้ตัวว่าคนที่เขากำลังนึกขำแทบเป็นแทบตายนั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
“ผมหัวเราะก็ต้องรายงานคุณรึไง?” คำย้อนทำเอาอธิปส่ายศีรษะอย่างนึกระอาใจที่อีกฝ่ายไม่ญาติดีกับเขาเสียที ถึงจะไม่ตั้งแง่มองเขาแล้วหาเรื่องเหมือนแต่ก่อน แต่ไอ้เรื่องจะตอบคำถามเขาดีๆนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่งสำหรับจอมขวัญ และที่มาทะเลครั้งนี้มีรายชื่อเขาร่วมด้วยทั้งที่คนจัดคือจอมขวัญ ก็เป็นเพราะจักรกฤษณ์เป็นคนชวนเขามา โดยให้เหตุผลว่าน้องชายต้องคิดทำอะไรแผลงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นตัวตั้งตัวตีจะมาทะเลพร้อมกับสองแม่ลูกน้ำทิพย์และคุณรุ่งทิพ
“ปากคุณนี่นะของขวัญ”
“ผมอนุญาตให้คุณเรียกผมว่าของขวัญตั้งแต่เมื่อไหร่” ดุเหมือนที่จักรกฤษณ์ว่าไม่มีผิด อธิปยกยิ้มมุมปาก แล้วก้าวขาเดินเข้าหา ทำเอาจอมขวัญที่กำลังหงุดหงิดกลายเป็นหน้าตื่นแล้วถอยหลังหนีเขา
“เรา…รู้จักกันมาตั้งนานแล้วนะ” นอกจากการขยับเข้าหาแล้ว น้ำเสียงที่อธิปใช้พูดยังจั๊กจี้รูหูจอมขวัญสิ้นดี ชายหนุ่มร่างโปร่งมองซ้ายมองขวาหาทางหนีทีไล่ และคนช่วย แต่…ฉิบหาย! นี่มันหน้าบ้านพักของเขาที่อยู่หลังสุดท้าย! แล้วคนอื่นๆก็รวมกันอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่พักของคุณชัยและคุณพัชรีเพื่อเตรียมมื้อเย็น!
“มองหาป้อมตำรวจเหรอ” อธิปถามแกล้งเมื่อเห็นหน้าตาหล่อเหลาของคนตรงหน้าเริ่มมีท่าจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ของขวัญ…อยู่นิ่งๆแล้วคุยกันก่อนได้มั้ย” เมื่อคนตรงหน้ายังหลุกหลิกและเอาแต่ถอยหลังหนี อธิปเลยต้องเอ่ยปาก แล้วพอเขาอาจหาญเรียกชื่อเล่นของเจ้าตัวเข้า จอมขวัญก็ตวัดสายตามาจ้องทันที
“อย่าเรียกชื่อนั้น!!!”
“ทำไม?”
“แล้วทำไมผมต้องให้คนอื่นเรียก!”
“ชื่อนี้เพราะ” เหตุผลของอธิปทำเอาคนฟังนิ่งงัน จอมขวัญไม่เคยคิดว่าชื่อประหลาดแบบนี้เพราะสำหรับคนฟังคนเรียกมากแค่ไหน เขาแค่ต้องการเก็บชื่อเอาไว้เพราะมันมีความหมายต่อชีวิตของเขา
… ‘ของขวัญ’ ชื่อนี้พ่อเป็นคนตั้งให้ และมันคล้องกับชื่อแม่…
เพราะฉะนั้น จอมขวัญจึงรักษาชื่อนี้ให้มีค่าสำหรับเขาแค่คนเดียว ไม่ให้ใครคนนอกเรียก ไม่ให้ใครใส่คำนำหน้าว่า ‘ไอ้’ กระทั่งจักรกฤษณ์ที่เคยเรียกเขาว่า ‘ไอ้ของขวัญ’ ยังเป็นครั้งแรก ครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย เพราะทันทีที่จักรกฤษณ์เอ่ยปาก เขาก็กระโดดจิกหัวอีกฝ่ายทันที ทั้งๆที่ตอนนั้นอายุแค่สิบขวบเท่านั้น จำได้ว่าคราวนั้นจักรกฤษณ์ร้องลั่นจนลุงป้าและพ่อแม่ของเขาต้องวิ่งมาห้าม ตั้งแต่นั้นมา จักรกฤษณ์เลยเรียกเขาว่า ‘ไอ้ขวัญ’ แทน เนื่องจากหยุดปากเรียก ‘ไอ้’ นำหน้าไม่ได้
“ใครเป็นคนตั้งให้?”
“พ่อ…” จอมขวัญตอบแล้วยิ้มบางยามคิดถึงบิดา หน้าตาพ่อคล้ายลุงชัยมาก สมกับที่เป็นพี่น้องกัน
“พ่อ…เอาชื่อแม่มาตั้ง แม่ผมชื่อขวัญแก้ว” ชื่อของแม่ทั้งเพราะทั้งหวาน ให้ความรู้สึกว่าต้องเป็นผู้หญิงใจดี ใจเย็นคล้ายน้ำทิพย์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย…
“ชื่อแม่คุณก็เพราะ” อธิปออกปากทำเอาจอมขวัญยิ้ม
“เพราะแค่ชื่อน่ะสิ นิสัยแม่น่ะทั้งเอาเรื่อง ทั้งแกร่ง ผมเคยลอกข้อสอบเพื่อนแล้วถูกจับได้ แล้วพอจับผมได้คนนึง ครูก็สาวไปถึงคนอื่นๆจนสุดท้ายคือลอกกันเกือบทั้งห้อง ผมกลับไปบ้านแล้วบอกพ่อกับแม่เรื่องลอกข้อสอบ วันต่อมาแม่ผมบุกไปที่โรงเรียนไปหาครูใหญ่ ครูประจำชั้นแล้วก็ครูประจำวิชาที่ผมลอก คุณรู้มั้ยว่าแม่ผมไปขอเรื่องอะไร” อธิปส่ายหน้า
“…แม่ไปขอให้ปรับผมตก” จอมขวัญพูดแล้วยิ้ม ยามหวนคิดถึงภาพที่ยังคงติดตาเขา แม่บุกไปที่โรงเรียน ไปพูดเสียงแข็งกับครูว่าต้องเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด ให้ปรับเขาตก ให้เรียนซ้ำชั้นไปเลยก็ได้ แม่ยินดี
“แม่คุณใจเด็ดมาก” ร่างสูงเอ่ยปากชม น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้เจอ เพราะอีกฝ่ายอายุสั้นด่วนจากไปเสียก่อน
“ครูที่โรงเรียนก็พูดแบบนี้ หลังจากวันนั้นกลายเป็นเรื่องตลกประจำโรงเรียนว่ามีผู้ปกครองคนนึงมาตบโต๊ะครูบอกให้เอาลูกตัวเองซ้ำชั้น แต่สุดท้ายก็ไม่ซ้ำชั้นหรอกนะ…ไม่ถูกปรับตกด้วย แค่ถูกตัดคะแนนเท่านั้นเอง…”
“…แต่…ถ้าแม่อยู่ถึงตอนนี้ แม่อาจจะใจเด็ดไม่ออกก็ได้ เพราะว่าผมมันเลวเกิน” ยิ่งคิดว่าตัวเองทำอะไรมา และตัวเองคิดจะทำอะไรต่อไป จอมขวัญก็รู้ว่าปลายทางชีวิตของเขาคงไม่สวยงามนัก…อาจจะต้องอยู่คนเดียวไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ อาจจะไม่มีใครคบหา อาจจะกลายเป็นเศษขยะในสังคม ไม่มีเพื่อน ไม่มีพี่ ไม่มีครอบครัว…
ดวงตาเรียวหม่นแสง…ถ้าวันนั้นของชีวิตมาถึง เขา…ก็อาจจะไม่มีกำลังใจจะหายใจต่อไปอีก…ถ้าต้องอยู่โดยไม่มีใคร อยู่…โดยไม่อาจกอดใครได้อีก อยู่…โดยที่ไม่อาจได้รับความรักใดๆจากใครได้อีกแล้ว…เขาก็คง…ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม…
“ของขวัญ…” เจ้าของชื่อเหมือนจะตื่นจากภวังค์…ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด…ในเมื่อเลือกที่จะเป็นคนทำ ก็ต้องยอมรับในผลที่จะตามมา…
“ผมจำได้ที่คุณบอกผม ผม…กำลังพยายาม” ร่างโปร่งตัดบท เมื่อเห็นว่าตนเองกำลังเผยความอ่อนแอ อ่อนล้าให้อีกฝ่ายเห็น
“ไปที่บ้านใหญ่เถอะ ป่านนี้เตาปิ้งบาร์บีคิวคงจะเรียบร้อยแล้ว ผมหิวจะแย่” จอมขวัญหมุนตัวเดินนำออกไป ทิ้งให้อธิปมองตาม
… ‘ผม…กำลังพยายาม’ …ประโยคนี้ของร่างโปร่ง ไม่ได้ทำให้อธิปสบายใจเลย…
…………………………………
ปาร์ตี้บาร์บีคิวริมหาดนั้นสนุกสนานและไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
คุณรุ่งทิพเข้ากับคุณชัยและคุณพัชรีได้เป็นอย่างดี แม้ฝ่ายญาติผู้ใหญ่ของจอมขวัญจะอิหลักอิเหลื่อเล็กน้อยเมื่อยังตระหนักอยู่เสมอว่าครั้งหนึ่ง จอมขวัญเคยลักพาตัวน้ำทิพย์ไป แม้เรื่องคราวนั้นจะกลายเป็นความลับไปแล้วก็เถอะ แต่อย่างไรก็ยังไม่สนิทใจเสียเท่าไหร่
“คุณน้าดูง่วงๆนะครับ” จอมขวัญทักเมื่อเดินออกจากห้องครัวออกมาพร้อมกับจานปลาหมึกสดเพื่อเอาไปเติม แต่ก็ต้องหยุดทักเมื่อเห็นมารดาของอดีตคนรักกำลังจะเดินกลับไปบ้านพักของตัวเอง
“อืม…สงสัยนั่งรถมาเหนื่อยล่ะมั้ง” คุณรุ่งทิพเอ่ยปากแล้วนวดข้างขมับเล็กน้อยเหมือนมันจะช่วยให้เธอหายง่วงได้ แต่…ไม่มีประโยชน์เลย เธอยิ่งรู้สึกง่วงหนักกว่าเดิม
“ถ้าอย่างนั้นราตรีสวัสดิ์นะครับ” จอมขวัญยิ้มให้ คุณรุ่งทิพจึงเดินจากไป ชายหนุ่มมองส่งหญิงวัยปลายที่เดินเข้าบ้านพักไปแล้วได้แต่ยิ้มบาง ก่อนจะรีบก้าวเท้าไปยังสนามหน้าบ้านใหญ่ที่ใช้จัดปาร์ตี้บาร์บีคิว น้ำทิพย์ยืนปิ้งอาหารทะเลอยู่ที่เตาปิ้ง อธิปและจักรกฤษณ์นั่งกินดื่มอยู่ที่โต๊ะไม่ห่างมากนัก ส่วนลุงและป้าของเขาก็คงจะ ‘ง่วง’ เหมือนที่คุณรุ่งทิพง่วงนั่นล่ะ
ชายหนุ่มร่างโปร่งตรงไปที่โต๊ะวางเครื่องดื่ม ซึ่งอยู่ไม่ห่างนัก แล้วใช้ร่างกายตัวเองบังสายตาเอาไว้ ก่อนจะรีบเทผงจากขวดสีชาเล็กๆลงในแก้วน้ำดื่ม จากนั้นจึงถือแก้วเดินมาหาน้ำทิพย์
“สุกบ้างรึยังครับ ผมเริ่มหิวอีกแล้ว” เขาถาม แล้วยื่นจานปลาหมึกสดให้เธอคีบลงปิ้งต่อ
“คุณจอมไปทานที่โต๊ะได้เลยค่ะ ทั้งกุ้งทั้งปลาหมึกเลย” น้ำทิพย์ตอบก่อนจะหันไปหยิบแก้วน้ำมาดื่ม แต่เพราะวางใกล้เตาไฟมันจึงละลายจนจืดชืดอย่างที่ทำเอาหญิงสาวหน้าแหย จอมขวัญหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นแก้วน้ำที่ตนถือมาให้กับเธอ
“เอาของผมก็ได้ครับ ผมยังไม่ได้ดื่ม”
“อุ๊ย! ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวน้ำ…” เธอตอบไม่ทันจบ จอมขวัญก็แกะแก้วน้ำออกจากมือเธอ แล้วดันแก้วน้ำในมือเขาใส่มือเธอแทน
“คุณน้ำอุตส่าห์มาเป็นแม่ครัวคอยปิ้งให้พวกท้องมารทั้งที ให้ผมทำอะไรเพื่อคุณน้ำบ้างเถอะครับ” เขาพูดแล้วขยิบตาพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ขอบคุณค่ะ” น้ำทิพย์ตอบ แต่ยังไม่ได้ยกแก้วขึ้นดื่ม พอดีกับที่อธิปลุกขึ้นเดินมาหาเสียก่อน
“คุณจักรเรียกแหน่ะ” ร่างสูงหันมาบอกจอมขวัญ ทำเอาคนกำลังลุ้นให้น้ำทิพย์ดื่มได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็จำต้องยอมเดินไปที่โต๊ะที่จักรกฤษณ์ยังดื่มกินฟังเสียงคลื่นสุขสมอารมณ์หมาย
“เรียกขวัญเหรอพี่จักร” เขาถามแล้วทรุดตัวลงนั่ง ตาเหลือบมองไปที่เตาปิ้งบาร์บีคิว พยายามมองว่าน้ำทิพย์ได้ดื่มแก้วที่เขายื่นให้แล้วหรือยัง และนั่น…เขาเห็นเธอยกแก้วขึ้นดื่มแล้ว!
“ไอ้ขวัญ…ไอ้ขวัญ!” เสียงเรียกของจักรกฤษณ์ทำเอาคนกำลังจับจ้องอยู่แต่น้ำทิพย์ต้องรีบหันมามองหน้าตื่น
“มีอะไร” จักรกฤษณ์มองตามสายตาน้องชายเมื่อกี้ก็พอจะรู้ว่าจอมขวัญมองใคร เขาถอนหายใจแผ่ว ก่อนจะหันมามองน้องชาย
“เมื่อไหร่จะเลิกอาลัยอาวรณ์ยัยผู้หญิงคนนั้นสักทีวะ” จอมขวัญสบตาตอบ
“วันนี้จะเป็นวันสุดท้าย…” เขาตอบแล้วยิ้มบาง ก่อนจะจิ้มปลาหมึกเข้าปาก จักรกฤษณ์มองน้องชายที่ก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ เขาถอนหายใจ ก่อนจะลุกจากโต๊ะไป
จอมขวัญรู้ดี…รู้…ว่าถ้าทุกอย่างสำเร็จ วันพรุ่งนี้…น้ำทิพย์จะกลายเป็นของคนอื่นตลอดไป…เขาจะไม่อาจใฝ่ฝัน ขวนขวายหรือแม้แต่ละเมอเพ้อพกถึงเธอได้อีกแล้ว…
“เอ้า! เหล้าผสมโค้กของโปรดแก” เสียงจักรกฤษณ์ดังขึ้น ทำเอาจอมขวัญต้องหันมอง แก้วเหล้าถูกวางลงข้างกายเขา
“ฉันไม่ชอบเห็นน้องชายหน้าตาเหมือนจะลาโลกวันละแปดเวลา ขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายอย่างที่แกว่า ถ้าพรุ่งนี้ยังเป็นแบบนี้ ฉันจะไล่เตะแกไปตลอดชีวิต คอยดู!” คนเป็นพี่เอ่ยปากอย่างจริงจัง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เดิมแล้วเริ่มแกะปูแกะกุ้งส่งให้
“ไม่กลัวป้ารีว่ารึไง รู้เปล่าว่าขวัญเด็กใคร” จอมขวัญถามยิ้มๆ เขารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา จักรกฤษณ์เป็นห่วงเขา และรักเขามากเพียงใด
จักรกฤษณ์เหลือบตามองขวางๆ
“กลัว แต่จะทำ มีไรมั้ย?!” จอมขวัญหัวเราะ ก่อนจะจิ้มเนื้อปูกับน้ำจิ้มรสเด็ดแล้วยัดเข้าปาก เขาเหลือบตามองน้ำทิพย์อีกครั้ง เห็นแก้วน้ำใกล้ตัวเธอเหลือเพียงค่อนแก้วก็สบายใจ เขาทำทีเป็นลุกจากโต๊ะ แล้วหยิบแก้วเหล้าของพี่ชายมาถือเอาไว้
“เดี๋ยวไปเติมเหล้าให้”
“แกยกโต๊ะเหล้ามาไว้ตรงนี้เลยก็ได้ พวกแม่ไปนอนหมดแล้ว” จักรกฤษณ์สั่ง ก่อนจะดึงแก้วของตัวเองมาจากมือน้องชาย เป็นเชิงให้จอมขวัญใช้สองมือยกโต๊ะเครื่องดื่มมาไว้ใกล้ๆ เพราะตอนแรกแม่เขาบ่นว่าเหม็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล เลยต้องยกไปไว้เสียไกล
“ก็ได้…” จอมขวัญตอบแล้วยิ้มบาง เขาเดินไปยกโต๊ะมาไว้ใกล้ๆโต๊ะกินอาหาร ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าพี่ชายไปชง ดวงตาเรียวของคนเป็นน้องจ้องมองพี่ชายที่เอาแต่แกะกุ้งแล้วกระตุกยิ้มบาง…
…จากนี้ไปอีกหนึ่งชั่วโมง เขาจะต้องมอมเหล้าจักรกฤษณ์และอธิป!!!…
ติดตามตอนต่อไป (ขออาทิตย์หน้าน้า…)
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมเกรนขึ้น แถมมีงานพิเศษอีกต่างหาก ก็เลยไม่ได้มาต่อเลยยยย (แต่แวะเล้าทุกวัน ฮ่าฮ่า )
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องไปทำอีก แถมเลิกดึกด้วย เลยต้องรีบเอามาลงก่อน
ฮ่วยยยย เมื่อไหร่จะมีพาร์ทที่มีแค่ของขวัญและพี่อธิปฟะเนี่ยยยยย 9 ตอนแล้วนะ ยังไม่ได้สวีทให้คุณรุ่งทิพชื่นใจเลย กร๊ากๆๆๆ
สปอยล์ เดี๋ยวมีได้เสีย อิอิ
แล้วเจอกันพาร์ทหน้า มาต่อก่อนวันศุกร์หน้าชัวร์
ขอบคุณคนอ่าน คนติดตาม คนเม้นท์ และพื้นที่บอร์ดนะคะ