จอมขวัญบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างวางอยู่บนหน้า พอเหลือบตามองถึงได้เห็นว่าเป็นมือคน
…มือ?...มือใคร?...
ร่างโปร่งลองยกแขนสองข้างของตัวเองขึ้นดู
…มือเขาสองข้างอยู่นี่…แล้วอีกมือที่วางอยู่บนหน้าเขาล่ะ?...
หนึ่งนาทีเต็ม ที่สมองเริ่มทำงาน ร่างโปร่งเหลือบตาเงยหน้ามองตามทิศที่มือนั้นวางอยู่ ก่อนจะตาเหลือกโพลงเมื่อเห็นว่าเจ้าของมือกำลังนั่งพิงหัวเตียงหลับอยู่
“เฮ้ย!!!” เสียงร้องของเจ้าของห้องอย่างจอมขวัญทำเอาคนเผลอหลับลืมตาตื่นขึ้นมาบ้าง อธิปก้มลงมองคนที่ยังนอนตาเหลือกจ้องเขาจากบนเตียง ก่อนจะส่งยิ้มให้
“ตื่นแล้วเหรอ” ไม่มีคำตอบ นอกจากจอมขวัญจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“เข้ามาได้ไง?”
“พี่มา แล้วของขวัญหลับอยู่ข้างนอก พอถามป้ารีว่าให้พาของขวัญเข้ามานอนในห้องมั้ย ป้ารีก็บอกว่าดี พี่ก็เลยอุ้มเข้ามา แล้วพอพี่จะออก ของขวัญก็ดึงขากางเกงพี่ไว้” ว่าแล้วอธิปก็ลดสายตาลงมองขากางเกงตัวเองที่แม้จอมขวัญจะคลายมือออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ก็ยังมีรอยยับปรากฏให้เห็น
“นี่พี่หลับไปเลยเหรอเนี่ย…สงสัยเมื่อคืนนอนน้อย” อธิปพึมพำกับตัวเอง เขาลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองจอมขวัญที่ยังนั่งอึ้งอยู่
“เป็นอะไร?”
“เอ่อ…เปล่า…” จอมขวัญแค่ยังประมวลสถานการณ์ไม่ถูกว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไป อยู่ดีๆก็ตื่นขึ้นมาเจออธิปนั่งหลับอยู่ในห้องเขา ก็รู้อยู่หรอกว่าตอนนี้อธิปกำลังพยายามเข้ามาวนเวียนในชีวิตเขา แต่จอมขวัญคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาอย่างช้าๆ แต่ที่ไหนได้…เล่นบุกมาหาถึงที่ มานั่งหลับในห้องเขา แล้ว…ยังเนียนเรียกป้าเขาว่าป้าอีกต่างหาก...
“แล้ว…มาถึงนี่ มีอะไรรึเปล่า” จอมขวัญถามเปลี่ยนเรื่อง อธิปก้มหน้าลงมาใกล้ แล้วยิ้มบาง
“มาทวงราดหน้า เมื่อวานมีบางคนลืม”
“ไม่ได้ลืม!”
“แต่ไม่ได้เอาไปให้” อธิปย้อนกลับแต่ใบหน้ายังคงติดรอยยิ้มบางอย่างเอ็นดู ที่เห็นจอมขวัญลุกลี้ลุกลนพยายามแก้ตัวพัลวัน
“เอาไปให้แล้ว! แต่…แต่..พี่โตกลับไปแล้ว” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด อธิปก็สมควรกลับไปก่อนนั่นแหละ เพราะเขาไปหาตอนเกือบจะสี่ทุ่มนู่น
“นั่นล่ะ วันนี้พี่เลยมาไถ่โทษ…ที่เมื่อวานพี่กลับไปก่อน” เห็นจอมขวัญทำหน้าเศร้าเหมือนเสียใจที่ไปหาเขาไม่ทัน อธิปก็เลิกน้อยใจไปโดยปริยาย ซ้ำยังนึกชอบหน้าคนสำนึกผิดเสียอีก
…ก็จอมร้ายแบบนี้ มีช่วงเวลาสำนึกผิดบ่อยๆเสียที่ไหนเล่า…
“ไถ่โทษ?!” จอมขวัญย้อนเสียงสูง มันควรจะเป็นเขาที่ต้องเป็นฝ่ายไถ่โทษต่างหาก เพราะเขาไปช้าเอง
“ใช่…วันนี้วันเดียว ของขวัญสั่งอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง พี่จะยอมทำตาม” หน้าตาคนพูดนั้นดูกรุ้มกริ่มอย่างน่าประหลาด จนไม่น่าไว้ใจ
“สั่งอะไรก็ได้เลยเหรอ” เขาถามย้ำ พยายามจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของอธิป หวังว่าจะอ่านความเจ้าเล่ห์เพทุบายออก หากแต่…ดวงตาของอธิปยังคงมีแต่รอยท้าทายราวกับจะบอกว่าถ้าจอมขวัญกล้าสั่ง อธิปก็กล้าทำตาม
“แต่เฉพาะแค่วันนี้ คำสั่งไม่มีผลในอนาคต” อธิปยังให้เงื่อนไข
จอมขวัญเม้มปากราวกับจะตรึกตรอง สั่งอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง และมีผลเฉพาะแค่วันนี้เท่านั้น…สั่ง…สั่งอะไรดี…
…ตอนก่อนจะหลับเพิ่งกินราดหน้าเสร็จด้วย ป่านนี้ชามอาจจะยังไม่ได้ล้าง สั่งให้มันไปล้างจานให้ดีมั้ย?...ไม่ดีๆ น้อยไปหน่อย…เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนมาเสนอตัวขอเป็นทาสสั่งอะไรก็ได้หนึ่งคำสั่งนี่ล่ะ!...อย่างงี้มันต้องเอาให้คุ้มสิวะ!...
ร่างโปร่งเงยหน้ามองคนที่ยังจ้องมองเขาอย่างรอคอย
“ถ้างั้น…ผม…สั่งให้พี่โต…”
“…ปีนขึ้นไปเก็บมะม่วงบนต้น!!!”
…………………….
อธิปไม่เหลือสภาพของนักธุรกิจเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้เขาใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่จอมขวัญค้นจากตู้มาให้ยืม เสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งของจอมขวัญเมื่อมาอยู่บนกายเขาแล้วขนาดมันจึงไม่เล็กไปนัก ส่วนกางเกงยางยืดสีเข้มนั้น ก็ยาวได้ครึ่งเข่าพอดิบพอดี ตอนนี้เขากับจอมขวัญเลยแต่งตัวแบบเดียวกันเป๊ะอย่างกับคู่หูรักยมก็ไม่ปาน
หลานชายเจ้าของบ้านพาแขกร่างสูงเผ่นลงจากเรือนก่อนที่คุณพัชรีจะมาเห็นแล้วซักไซ้ว่าเพราะเหตุใดอธิปจึงกลายร่างเป็นเช่นนี้ ก่อนจะพาเข้าไปในสวนหลังเรือนไทยที่มีต้นไม้ใหญ่น้อยหลากหลายชนิด
“พี่ปีนไม่เป็น…” อธิปกำลังจะอ้าปากบอกให้จอมขวัญปีนให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ตัวแสบกลับทำสีหน้าระอาใจ
“เฮ้อ! ผู้ชายเนี่ยน้า…เวลาพูดก็พูดได้ ท้าซะดิบดีว่าสั่งอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง แต่พอถึงเวลาให้ทำตามคำสั่งจริงๆล่ะก็มีเรื่องมาอ้างได้ตลอด…” คำย้อนทำเอาอธิปนึกเข่นเขี้ยว ก็รู้อยู่หรอกว่าถ้าออกปากไปแบบนั้น จอมขวัญจะต้องหาเรื่องแกล้งเขา และถ้าถูกจอมขวัญแกล้ง เขาก็จะถือโอกาสได้ใกล้ชิดจอมขวัญมากขึ้นอีกหน่อย แต่นี่อะไร! นอกจากจะไม่ได้ใกล้ชิดอย่างที่หวัง ยังถูกสั่งให้มาปีนต้นมะม่วง!! ไอ้จอมแสบ!
จอมขวัญหันมามองคนที่ยืนทำหน้าบึ้งถลึงตาใส่เขาอย่างหมดมาด ก่อนจะส่งสายตาให้อีกฝ่ายปีนต้นมะม่วงเสียที
“เอาลูกนั้นนะ…” นอกจากจะต้องปีนแล้ว ร่างสูงยังต้องเก็บมะม่วงลูกที่จอมขวัญชี้ให้ดูอีกต่างหาก อธิปเงยหน้ามองตามนิ้วมือของจอมขวัญที่ชี้ขึ้นไปบนต้น
“ไหน ลูกไหน พี่เห็นมันเหมือนกันหมด”
“ลูกที่อยู่บนกิ่งใหญ่ๆนั่นไง”
“กิ่งไหนล่ะ มันก็ใหญ่เหมือนกันหมด” อธิปยังเถียง แล้วเหลือบมองคนข้างกายที่กำลังชี้อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้หันมามองกันเลยว่าตอนนี้สายตาอธิปไม่ได้อยู่บนต้นมะม่วงอีกแล้ว แต่กลับจับจ้องใบหน้าขาวของร่างโปร่งต่างหาก
“นั่นไง! กิ่งที่มันมีมะม่วงอยู่ห้าลูกนั่นน่ะ!”
“ไม่เห็น”
“จะไม่เห็นได้ยัง…ไ…ง...” จอมขวัญหันกลับมาจะโวย แต่ก็ต้องชะงักเพราะอธิปกำลังจ้องเขาอยู่ แล้วก็จ้องเสียใกล้มาก แต่น่าแปลกที่เขาไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งหันมา
“หน้าผมเป็นต้นมะม่วงรึไง? มองอยู่ได้!” จอมขวัญทำหน้าบึ้งใส่
“เพิ่งรู้ว่าของขวัญหวงแม้กระทั่งไม่อยากให้พี่มองหน้า” นอกจากประโยคหวานๆแล้ว สายตากรุ้มกริ่มที่อีกฝ่ายส่งมาก็ยิ่งทำให้คนถูกมองหน้าร้อนผ่าว รู้สึกเหมือนตัวเองถูกจีบเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที
“ก็ไม่ได้หวง! แต่…ไอ้มุขที่ชี้ให้มองอะไรแล้วไม่มอง เอาแต่มองคนชี้น่ะ มันต้องใช้เวลาชี้ให้ดูดาวไม่ใช่รึไง! จะจีบผมก็ทำให้มันเข้าท่าหน่อย!” ประโยคหลังนั้น คนร่างบางพูดเสียงเบา แต่หน้าร้อนๆเริ่มแดงซ่านจนเจ้าตัวต้องหันไปทางอื่น
“รู้ด้วยว่าพี่จีบ?” เห็นอีกฝ่ายอายจนหันหน้าหนี อธิปก็ยังอุตส่าห์ก้มหน้าลงไปถามใกล้ๆ จนจอมขวัญต้องหันกลับมาถลึงตาใส่
“ไม่รู้ก็โง่แล้ว! จะเก็บมะม่วงให้ได้รึยัง?!”
“มะม่วงมันไม่ไปไหนหรอก ตอนนี้ขอพี่คุยกับของขวัญก่อน” อธิปเอ่ยปากอย่างที่ทำเอาจอมขวัญต้องเหลือบตามอง
“คุยอะไร”
“เดินไปคุยไปได้มั้ย พี่อยากเข้าไปดูข้างในสวนด้วย” ร่างโปร่งที่มีศักดิ์เป็นหลานชายเจ้าของบ้านทำหน้าหน่าย ก่อนจะยอมก้าวเดินนำเข้าไปในสวน ในขณะที่คนเป็นแขกได้แต่อมยิ้มแล้วก้าวขาเดินตาม
“ว่ามา มีอะไรจะคุยกับผม”
“ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆยังไม่อนุมัติให้ของขวัญแทนตัวเองว่าขวัญกับพี่อีกเหรอ” ชักจะมากเรื่องเข้าไปทุกที จอมขวัญเลยหันกลับมาจ้องอย่างเอาเรื่อง แต่อธิปกลับยิ้มบางไม่สนใจสีหน้าเหมือนจะกินหัวของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“ยัง!! ยังไม่เอาเข้าที่ประชุมด้วย! เข้าเมื่อไหร่เดี๋ยว ‘ผม’ มาบอกเอง!! เรื่องแค่นี้ใช่มั้ยที่จะคุย!” จอมขวัญหมุนตัวทำท่าจะเดินกลับออกจากสวน แต่แขนแกร่งกวาดเอวเขามาแนบกายอย่างที่ทำเอาเจ้าของเอวถึงกับตาโต
“คุณ!!”
“คุณอะไร…เมื่อกี้ยังเรียกพี่โตอยู่เลย”
“ปล่อยก่อนเถอะหน่า! เดี๋ยวมีคนมาเห็น!” จอมขวัญมองซ้ายมองขวา แม้ในสวนจะมีแต่ต้นไม้ แต่ก็หวั่นใจว่าคุณพัชรีจะให้ใครมาตามหาเขากับอธิป
“สัญญากับพี่ก่อน ว่าเย็นวันพรุ่งนี้จะไปกินข้าวกับพี่” คนถูกบังคับให้สัญญาเหลือบสายตาเอาเรื่องขึ้นมอง
“สัญญาเร็ว…ไม่งั้นมีคนมาเจอ ของขวัญแก้ตัวเองนะ พี่ไม่ช่วย”
“เออๆ!!” แขนแกร่งยอมคลายออก และพอคลายออกจากเอวแล้ว จอมขวัญก็แทบจะกระโดดหนีไปยืนห่างๆ ทว่ามือหนากลับคว้าแขนขาวเอาไว้มั่นแล้วลากให้คนจะกระโดดหนีต้องมายืนชิดกันเหมือนเดิม
“อย่าดุหน่า พี่แค่จับแขนเอง…” เขานึกขำที่จอมขวัญขยันส่งสายตาดุๆมาให้เขาบ่อยเสียเหลือเกิน เพิ่งจะมาหวงเนื้อหวงตัวเอาตอนนี้รึไงก็ไม่รู้ ทั้งๆที่…ตอนไปทะเล เขากับจอมขวัญแตะตัวกันมากกว่านี้ตั้งเยอะ
มือหนาหยาบที่จับแขนจอมขวัญอยู่ ค่อยๆคลายออกจนเป็นแค่การแตะอย่างหลวมๆ ทว่าเจ้าของแขนกลับไม่ยอมบิดหนี ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วปล่อยให้อธิปจับต่อไปแบบนั้นอย่างที่ทำเอาร่างสูงได้แต่ยิ้มบางกับตัวเอง…อย่างน้อย วันนี้ก็พัฒนาหนึ่งอย่าง…
ระหว่างพวกเขาสองคนมีแต่ความเงียบ จนกระทั่ง จอมขวัญเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมา
“…รู้เรื่องของคุณน้ำรึยัง…” อันที่จริงเขาก็ไม่อยากพูดถึงน้ำทิพย์กับอธิป อะไรบางอย่างบอกจอมขวัญว่าอธิปจะน้อยใจหากเห็นเขาให้ความสำคัญหรือแสดงความรู้สึกรักใคร่น้ำทิพย์ออกมา แต่…คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่ และพอเป็นเรื่องใหญ่แล้ว จอมขวัญก็เลยอยากให้อธิปร่วมรับรู้ด้วย
…ไม่ใช่อยากให้ช่วยแบ่งเบา แต่แค่อยากให้ช่วยรับฟัง…
“รู้แล้ว” เสียงอธิปตอบเรียบๆ ร่างสูงไม่รู้ว่าคนข้างกายต้องการสื่อถึงอะไร แต่เขาก็ยังคาดหวังว่าจอมขวัญเพียงแค่อยากเล่าให้เขาฟังเท่านั้น คงจะไม่พร่ำพรรณนาว่ายังรักน้ำทิพย์หรอก…ใช่ไหม?
“ผมไม่สบายใจเลย เพื่อนผมบอกว่าคราวนี้ผู้ชายคนนั้นจะเอาจริง…” น้ำเสียงของจอมขวัญแสดงความห่วงใยหญิงสาวอย่างเต็มเปี่ยมจนคนฟังได้แต่หันหน้าหนีไปอีกทางเพราะอึดอัดในอกจนแทบระเบิด
“เอ่อ…” ร่างโปร่งเงยหน้ามองอธิป ก่อนจะเริ่มลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นว่าร่างสูงทำเป็นสนใจต้นไม้ใบหญ้าไปเสียแล้ว
“คือ…คือ…คือ…คือผมแค่เป็นห่วง คุณน้ำเป็นผู้หญิง ผม…ผม…ผมเลยอยากถามว่า…พี่โตคิดว่าผมควรทำยังไง คือ…คือตอนนี้ผมให้พี่จักรคอยรับส่งคุณน้ำอยู่ เอ่อ…” น้ำเสียงของจอมขวัญนั้นทำเอาอธิปต้องหันมามอง และพอเห็นสีหน้ายุ่งยากของร่างโปร่งแล้ว ไอ้อารมณ์น้อยใจจนอึดอัดก็มลายหายไปในทันที
…ไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอก แต่จอมขวัญกลัวเขาเสียใจใช่ไหม ถึงได้พยายามอธิบายจนลิ้นแทบพันกันอย่างนี้…
…แต่…ยังไงก็ตาม ขอเขาแกล้งคืนเสียหน่อย ไหนๆก็ต้องไปปีนต้นมะม่วงให้จอมขวัญดูเป็นขวัญตาแล้ว เขาก็ขอดูตัวแสบทำหน้าเสียเป็นขวัญตาสักครั้งเถอะ
“ให้คุณจักรคอยรับส่ง… แล้วอีกหน่อย คุณจักรกับน้ำรักกัน คุณก็ได้น้ำทิพย์มาเป็นพี่สะใภ้…แผนสูงไม่เปลี่ยน” อธิปว่าอย่างนั้นทำเอาจอมขวัญหน้าเสีย ปากที่กำลังพยายามอธิบายพัลวันได้แต่อ้าค้าง ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้าต่ำเพราะจนใจจะพูด
…อีกแล้ว…เขาทำให้อธิปเสียความรู้สึกอีกแล้ว…
“แต่ก่อน…มันก็ใช่อย่างที่พี่โตว่า…ผม…ผมแค่อยากผูกคุณน้ำเอาไว้กับตัวเอง…แต่ว่า…แต่ว่าตอนนี้…ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว…” จริงอยู่ที่จอมขวัญยังคงห่วงน้ำทิพย์เหมือนเดิม แต่…ที่เขาให้จักรกฤษณ์คอยรับส่งแทนที่จะเป็นตัวเขาเอง ก็เป็นเพราะ…
“ไม่ใช่ยังไง?”
“ก็…ก็…ก็ถ้าผมไปรับส่งคุณน้ำเอง เดี๋ยว…เดี๋ยวพี่โตก็โกรธผมอีก ก็เลยให้พี่จักรไปแทน”
จอมขวัญไม่ใช่คนใส่ใจกับความรู้สึกของคนอื่นมากนักหรอก มีไม่กี่คนในชีวิตที่เขายินดีจะเอาใจใส่และอยากรับรู้ความรู้สึกนึกคิด รวมไปถึงเกรงใจ…และ…ไม่นานมานี้คนเพียงไม่กี่คนในชีวิตที่เขา ‘แคร์’ มีอธิปเพิ่มเข้ามาอีกคน…
“กลัวพี่เสียใจเหรอ” อธิปก้มลงถามคนข้างกาย จอมขวัญไม่ยอมตอบ แต่ก้มหน้าเงียบจนคนถามทึกทักเอาเองในใจว่าอีกฝ่ายเริ่มจะห่วงความรู้สึกเขาบ้างแล้ว ร่างสูงเบี่ยงปลายจมูกให้แตะเข้ากับข้างขมับของคนข้างกายเบาๆ รับรู้ว่าอีกฝ่ายสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ยังยืนนิ่งให้เขาสัมผัสแบบนั้น…
“ขอบคุณนะ ของขวัญ…ขอบคุณที่ห่วงความรู้สึกพี่” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วใกล้ๆอย่างที่ทำเอาจอมขวัญใจสั่นจนแทบจะยืนไม่ไหว ไหนจะสัมผัสเบาๆที่ข้างขมับนั่นอีก…แค่ปลายจมูกแตะกับขมับเขา ยังเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆไหลผ่านเข้ามาจนสมองว่างเปล่าขาวโพลน
“คุณขวัญครับ! คุณขวัญ!!”
เสียงร้องเรียกดังขึ้นทำเอาสองหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวานพากันสะดุ้ง จอมขวัญรีบขยับตัวถอยห่างแล้วหันซ้ายหันขวามองหาเสียงเรียก
“คุณขวัญครับ! คุณขวัญอยู่ในสวนรึเปล่าครับ?!!” เสียงนายพุดดังเข้ามาใกล้ ร่างโปร่งปาดเหงื่อบนหน้าผากและซอกคอเหมือนร้อนนักหนาก่อนจะตะโกนกลับไป
“อยู่ครับลุงพุด! อยู่ทางนี้!” พอเขาตะโกนออกไปแล้ว เพียงครู่เดียว นายพุดก็เดินพ้นมุมต้นไม้เข้ามาหาเขาอย่างรีบเร่ง
“คุณขวัญครับ คุณจักรให้ลุงมาตามคุณขวัญกลับขึ้นเรือนด่วนครับ!”
“พี่จักรกับคุณน้ำมาแล้วเหรอ” จอมขวัญเอ่ยปากถาม
“คุณจักรมาคนเดียวครับ คุณน้ำไม่ได้มาด้วย”
“อ้าว! ทำไมพี่จักรมาคนเดียวล่ะ” จอมขวัญจำได้ว่าเขานัดให้จักรกฤษณ์ไปรับน้ำทิพย์แล้วเลยไปรับคุณรุ่งทิพอีกคน เพื่อพามาทานข้าวที่บ้านและปรึกษาเรื่องนายอนุชาไปด้วย
“ไม่ทราบครับ แต่คุณจักรดูร้อนใจมาก ให้ลุงรีบมาตามคุณขวัญขึ้นเรือนเดี๋ยวนี้เลย” ร่างโปร่งเห็นลางไม่ดี จนต้องเหลือบมองอธิปที่ยืนอยู่ข้างกาย
…จักรกฤษณ์กลับบ้านมาคนเดียว…จักรกฤษณ์ท่าทางร้อนใจ…
…แล้วน้ำทิพย์ล่ะ? ทำไมน้ำทิพย์ไม่มาด้วยกันทั้งๆที่นัดเอาไว้แล้ว…
“กลับเรือนเถอะของขวัญ” มือหนาของอธิปแตะเบาๆที่แขนของจอมขวัญราวกับจะเรียกสติคนที่นิ่งงันไปแล้ว จอมขวัญหันมองคนพูดอีกครั้ง เขาใจไม่ดีเลย…น้ำทิพย์ไปไหน ทำไมน้ำทิพย์ถึงไม่มากับจักรกฤษณ์…
…อย่าให้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนั้นเลย…อย่าเลย…
ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า…โบกธงขาวยอมแพ้ มาเร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ววววว ขอโทษนะคะ )
เฮือกกกกก…พอเขาจะได้หวานกันก็มารผจญตล้อดดดดด
พยายามเขียนให้หวานที่สุดแล้ว แต่ช่วงนี้ชีวิตเครียดมากมาย
(อย่าถามว่าบัวมีช่วงเวลาเครียดด้วยหรือ? มีจ๊ะ มี ฮ่าฮ่า )
ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงานพิเศษ ทั้งเรื่องนิยาย ทั้งเรื่องฟิค
ทั้งเรื่องข้างห้องไอเสียงดังทำให้นอนไม่หลับ สารพัดเรื่องเลย ก็เลย…ปั่นความหวานออกได้เพียงเท่านี้เอง
เขาวายช้าๆอย่างมั่นคงอ่ะนะ ก็เลยต้องหวานน้อยๆ (และคาดว่าจะหวานนานๆ ฮ่าฮ่า )
เอาล่ะ ไปปั่นพาร์ทหน้าแล้ว เดี๋ยวไม่ทันลงอาทิตย์หน้า
ขอบคุณสำหรับการติดตามเช่นเคย ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ การอ่าน กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดนะคะ
เจอกันวันพฤหัสหน้า (ไม่สปอยล์แล้ว…เพราะมันไม่มีให้สปอยล์ ฮ่าฮ่า )