บ้านเดี่ยวเล็กๆในหมู่บ้านที่อยู่ในโครงการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว อธิปซื้อมาตั้งแต่เพิ่งทำออกขาย เขาแวะมาค้างที่นี่บ้างสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง แล้วแต่โอกาสจะอำนวย แต่ส่วนใหญ่จะมาค้างเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศเพราะเส้นทางไปสนามบินนั้นสะดวกและรวดเร็วกว่า
ชายหนุ่มไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน แม้จะไม่ได้มาอยู่ทุกวัน แต่เขาก็จ้างแม่บ้านให้มาคอยทำความสะอาด ดังนั้นจึงแทบไม่มีฝุ่นให้เห็น
“เดี๋ยวพี่เอาจานให้” พวกเขาแวะซื้อผัดไทจากตลาดใกล้ๆหมู่บ้าน แม้จอมขวัญจะยืนยันว่าไม่หิว แต่อธิปก็ยังซื้อมาให้ถึงสองกล่อง
เจ้าของบ้านเดินแยกเข้าไปในครัวด้านหลัง ปล่อยให้แขกยามดึกยืนอยู่กลางบ้านแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างลงตัว ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกหน้าต่างทั้งหมด แม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่เมื่อมองออกไปข้างนอกก็พอจะเห็นสวนไม้ดอกและน้ำตกจำลองสลัวๆด้วยแสงไฟสีส้ม ยิ่งทำให้พื้นที่ใช้สอยเล็กๆในบ้านกลับดูกว้างขวางและโอ่โถง
จอมขวัญไม่ค่อยนึกชอบบ้านที่สร้างด้วยปูนเสียเท่าไร อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยกับบ้านเรือนไทยโปร่งๆของลุงและป้า แต่พอเป็นบ้านหลังนี้ของอธิป เขากลับรู้สึกว่าน่าอยู่ใช้ได้เหมือนกัน
“ดูอะไรหรือ” อธิปเดินออกมาจากครัวพร้อมด้วยจานสองใบ ก็เห็นจอมขวัญยืนมองกระจกหน้าต่างนิ่ง
“เอ่อ…บ้านพี่โตน่าอยู่ดี”
“ค่าตกแต่งแพงกว่าราคาตัวบ้านทั้งหลังอีกนะ” ร่างสูงชวนคุยแล้วยิ้มกว้าง เขาจัดการวางจานลงกับโต๊ะอาหารทรงกลมที่อยู่ชิดผนังกระจก ก่อนจะแกะกล่องผัดไทออกมาเทใส่ แล้วเลื่อนให้จอมขวัญ
“ขอบคุณครับ” คนถูกบริการทรุดตัวลงนั่ง รอจนอีกฝ่ายจัดแจงเทผัดไทใส่จานเรียบร้อย จึงเริ่มทานพร้อมกัน
“พรุ่งนี้ ไอ้พลนัดให้ผมไปเจอมันที่ผับตอนสองทุ่ม…” จอมขวัญเอ่ยปาก และแทบจะในทันทีที่คนฟังถึงกับชะงัก ร่างสูงเงยหน้าจากจานผัดไทขึ้นมามอง ก่อนจะพยักหน้ารับรู้
“อย่างนั้นหรือ…” จอมขวัญคงจะลืมอีกแล้วว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นมีนัดกับเขา แต่…เรื่องน้ำทิพย์ก็สำคัญ เขาเข้าใจ…
สีหน้าของอธิปที่เปลี่ยนไปเพียงชั่ววูบหากไม่สังเกตคงไม่ทันเห็น แต่…เพราะจอมขวัญมองอยู่พอดี ถึงได้เห็นสีหน้าเหมือนจะน้อยใจอยู่ลึกๆของอีกฝ่าย เขาก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองรับนัดของอธิปเอาไว้
“เอ่อ…พรุ่งนี้…เรื่องที่นัดกับพี่โต เลื่อนไปก่อนได้มั้ย”
อธิปได้แต่ยิ้มบาง แม้จะไม่ถูกลืม แต่ก็ถูกเลื่อนนัดอยู่ดี…เพราเรื่องของน้ำทิพย์สำคัญ ใช่…เพราเรื่องของน้ำทิพย์เป็นเรื่องสำคัญ
“ได้” จะให้บอกอย่างเห็นแก่ตัวว่าไม่ได้อย่างนั้นหรือ…อธิปไม่ใจร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยๆ น้ำทิพย์ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเสียที่ไหน
“ถ้าอย่างนั้น…ไหนๆ พรุ่งนี้พี่โตก็ไม่มีนัดแล้ว ไปกับผมมั้ย” คำถามกล้าๆกลัวๆเหมือนไม่รู้ว่าควรจะถามดีหรือเปล่าของจอมขวัญทำเอาอธิปต้องเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้งอย่างคาดไม่ถึง
“เอ่อ…คือ…คือ…ผมอยากให้พี่โตไปด้วยกัน” จะไปเองคนเดียวก็ได้หรอก แต่…ไม่รู้ทำไม จอมขวัญอยากให้อีกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตของเขามากขึ้น อยากให้ร่วมรับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง…อยากให้รู้…
“พี่ไปได้เหรอ?”
“ก็ถ้าพี่อยากไป…” จอมขวัญได้แต่ตอบงึมงำ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะเขินอีกฝ่ายบ่อยขึ้นทุกที แค่ถูกถามด้วยน้ำเสียงทุ้มๆอ่อนโยนเหมือนกระซิบอยู่ข้างหู หัวใจเขาก็เต้นถี่รัวจนหายใจลำบาก
“พี่อยากไป” อธิปตอบแค่นั้นด้วยหัวใจที่พองฟูจนแทบคับอก แค่ไม่กี่ประโยคของจอมขวัญทำให้เขาเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน จากตอนแรกที่นึกน้อยใจเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสลักสำคัญใดๆ ตอนนี้กลับดีใจจนยิ้มไม่หุบเพราะถูกอีกฝ่ายชวนไปด้วยกัน
พวกเขานั่งทานผัดไทกันต่อเงียบๆ แต่บรรยากาศรอบตัวกลับทำให้อธิปนึกอยากให้ช่วงเวลานี้ยืดยาวไม่มีที่สิ้นสุด แม้จะไม่มีเรื่องราวต้องพูดคุยกัน แต่ความรู้สึกของอธิปกลับอบอุ่นอย่างประหลาด การได้นั่งมองอีกฝ่ายทานอาหาร ได้เห็นมือขาวๆจับช้อนจับส้อมค่อยๆตักอาหารเข้าปาก ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาเคี้ยวตุ๊ยๆเหมือนเด็กๆแล้วยิ่งทำให้อธิปอยากให้อีกฝ่ายมานั่งกินข้าวกับเขาทุกมื้อ
“มองอะไรล่ะ” จอมขวัญชักนึกเขิน ที่ถูกอีกฝ่ายจ้องเอาๆแบบนี้ อธิปยิ้มน้อยๆแล้วตักผัดไทเข้าปาก
“พี่แค่…มีความสุข” ในขณะที่ปากเอ่ยว่ามีความสุข สายตากลับจับจ้องมาที่จอมขวัญอย่างที่ทำเอาคนถูกจ้องยิ่งเขินหนัก เพราะเหมือนอีกฝ่ายจะบอกเป็นนัยๆว่าเพราะเขาอยู่ตรงนี้ อธิปเลยมีความสุข
…เข้าข้างตัวเอง…จอมขวัญไม่เคยคิดอยากจะเข้าข้างตัวเองเลย…แต่…แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาคิดอยากจะเข้าข้างตัวเองบ้าง…อธิปมีความสุขเพราะเขาใช่ไหม?...
“อ่า…งั้น…งั้นก็มีความสุขไปแล้วกัน ผมจะไปล้างจาน” แม้สายตาอ่อนโยนจะทำให้หัวใจอบอุ่น แต่จอมขวัญก็เขินเกินกว่าจะนั่งต่อให้อีกฝ่ายจ้องต่อไป เขาลุกจากโต๊ะ ถือจานเข้าครัว ครู่หนึ่งหลังจากนั้น อธิปก็ตามเข้าไปพร้อมกับจานของตัวเองเช่นกัน
“มา ผมล้างให้” มือขาวที่เปื้อนฟองน้ำยาล้างจานยื่นมารับ อธิปก็ส่งไปให้แต่โดยดี แต่ก็ยังอุตส่าห์ขยับมายืนใกล้ๆ เขาแค่อยากใช้เวลากับจอมขวัญให้นานๆ อยากเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันกับจอมขวัญให้มากขึ้น ยังไม่ต้องกลายเป็นคนสำคัญเทียบเท่ากับครอบครัวของจอมขวัญ แต่ขอแค่ในสายตาคู่นั้นมีเขาอยู่บ้างก็พอ…
มือขาวล้างฟองจนสะอาดดีแล้วจึงยื่นไปหมุนก๊อกปิดน้ำเป็นอันว่าล้างจานเสร็จ และ…ไม่มีเหตุผลอะไรให้อยู่ที่นี่ต่อ
ร่างโปร่งหันมามองคนข้างกาย ริมฝีปากสีสดกำลังจะเอื้อนเอ่ยลากลับบ้าน แต่อธิปกลับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“คืนนี้ค้างที่นี่ได้มั้ย ของขวัญ”
……………………….
…ค้าง…หมายความว่าให้เขาค้างที่บ้านของอธิปอย่างนั้นหรือ…
ดวงตาเรียวเบิกโตเล็กน้อยอย่างตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าจะถูกชวน อธิปเองก็ชักอึกอักและนึกโทษตัวเองที่ปากไวไปแล้ว เขาควรจะขยับเข้าหาจอมขวัญอย่างช้าๆ แต่พอรู้ตัวอีกที หัวใจก็อยากจะก้าวกระโดดไปข้างหน้าอยู่เรื่อย
“เอ่อ…พี่…ไม่ได้จะทำอะไร แค่…แค่อยากให้เราได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น” อธิปนึกเก้อขึ้นมา ยิ่งอธิบายก็ยิ่งเหมือนเข้าตัว ยิ่งทำให้ดูเหมือนเป็นคนเอาแต่ใจไม่เป็นผู้ใหญ่อย่างไรชอบกล หรืออาจจะเพราะเขาไม่ได้จีบใครมานานแล้ว พอมาใกล้ชิดกับจอมขวัญ เขาจึงทำอะไรไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
“ได้มั้ย…” เมื่อจอมขวัญยังเอาแต่มองเขาเงียบๆ อธิปเลยต้องทำใจกล้าเอ่ยปากถามย้ำอีกรอบ
“แล้ว...ผมจะเอาชุดไหนใส่ล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน แล้ว…”
“ใส่ของพี่ก็ได้ พี่มีเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่หลายตัว แล้วพรุ่งนี้ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่โรงแรม ตอนเย็นจะได้ไปรับของขวัญพาไปหานายทรงพลพร้อมกัน” อธิปพูดยาวเร็วราวกับกลัวว่าถ้าช้ากว่านี่อีกนิดเดียว จอมขวัญจะไม่ยอมค้างกับเขา
พวกเขาสบตากันนานเกือบนาทีเต็มๆ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร ก่อนที่จอมขวัญจะเป็นคนเอ่ยปาก
“งั้น…ผมขอโทร.บอกป้ารีก่อน เดี๋ยวป้ารีเป็นห่วง”
…………………
คุณพัชรีวางสายจากหลานชายด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
…หลานชายสุดที่รักของเธอโทร.มาบอกว่าจะค้างที่บ้านของอธิป…
…แปลก…เธอไม่เห็นรู้มาก่อนว่าสองคนนี้สนิทกันมากถึงเพียงนี้ มันก็ใช่ที่จักรกฤษณ์เล่าเรื่องที่ทั้งจอมขวัญและอธิปออกไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันบ่อยๆ แต่…การที่กินข้าวเที่ยงด้วยกันบ่อยๆ สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ให้กลายเป็นความสนิทสนมถึงขั้นนอนค้างบ้านอีกฝ่ายเลยหรือ?...
หรือเธอจะคิดมากไป จอมขวัญไม่เคยไปค้างบ้านเพื่อนคนไหน ช่วงเรียนม.ต้นเธอก็ห่วงเกินกว่าจะให้ไปค้างไกลสายตา ยกเว้นเข้าค่าย พอจะขึ้นม.ปลายก็ดันเกิดเรื่องเสียก่อน จอมขวัญเลยต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ช่วงนั้นยิ่งแล้วใหญ่ หลานชายของเธอกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่สนิทกับเพื่อนคนไหนสักคน พอกลับมาเมืองไทยอีกครั้งก็เข้าทำงานเลย ไม่ได้คบหาเพื่อนวัยเดียวกัน ยกเว้นจะไปกินดื่มตามประสา แต่ก็ไม่เคยค้างแรมที่อื่น
…แต่นี่…อธิปกำลังเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของชีวิตหลานชายของเธอ!!...
“ไอ้ขวัญโทร.มาว่าไงแม่” จักรกฤษณ์ยังไม่นอน เขาเองก็กังวลไม่น้อยไปกว่าจอมขวัญ ขึ้นชื่อว่าคนที่น้ำทิพย์เข้าไปเกี่ยวข้องคือทรงพลแล้ว อะไรก็น่าเป็นห่วงทั้งสิ้น
“ของขวัญโทร.มาบอกว่าจะค้างบ้านโต…เอ่อ บ้านคุณอธิปน่ะ เพราะว่าเกรงใจเขา ไม่อยากให้เขาขับรถมาส่ง”
“หือ?! ไอ้ขวัญเนี่ยนะ! ค้างบ้านคุณอธิป?!!” จักรกฤษณ์ร้องเสียงแทบหลงอย่างตกใจ
“อือเห็นว่าบ้านคุณอธิปอยู่ไม่ไกลจากที่ที่ไปหานายทรงพลน่ะ ก็เลยแวะค้างที่นั่นเลย แล้วพรุ่งนี้เดี๋ยวคุณอธิปขับไปส่งที่โรงแรม” คนเป็นลูกเกาหัวแกรกๆแล้วขมวดคิ้วมุ่น เขาเป็นพี่ของจอมขวัญมาตั้งไม่รู้กี่สิบปี ทำไมจะไม่รู้ว่าน้องชายตัวเองเป็นพวกปิดตัวแค่ไหน แต่…กับอธิป…จอมขวัญถึงขั้นค้างด้วย…
…แปลก…แปลกมาก…แปลกมากถึงมากที่สุด!...
“ไม่อยากจะเชื่อ ไอ้ขวัญเนี่ยนะนอนค้างบ้านคุณอธิป” ถ้าไม่นับที่อธิปเคยเป็นศัตรูหัวใจกันมาก่อน จักรกฤษณ์ก็ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่ดี! ท่าทางอธิปจะมีของขลังเสียล่ะมั้ง จอมขวัญถึงได้ยอมนอนค้างด้วย
“เอาเถอะๆ ของขวัญอยู่กับคุณอธิปก็ดีแล้ว ดีกว่าไปหาเรื่องนายทรงพลเยอะเลย ไปจักร ไปนอนได้แล้ววันนี้เครียดมามากแล้วลูก” คุณพัชรีตัดบทไล่ลูกชายให้เข้านอน จักรกฤษณ์ยอมลุกจากเบาะสามเหลี่ยมก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง
พอลับร่างสูงใหญ่ของบุตรชายแล้ว คุณพัชรีก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือก พลางนึกย้อนถึงละครที่เคยดูตั้งแต่สมัยยังสาวจนกระทั่งถึงเรื่องล่าสุดที่เธอติดหนึบเพราะพระเอกหล่อเข้ม แทบทุกเรื่องมักจะมี ‘เพื่อนพระเอก’ แต่…เธอจำไม่เห็นจะได้ว่ามีเรื่องไหนบ้างที่พระเอกไปค้างกับเพื่อนพระเอกแบบสองต่อสอง…
…อะ…เอ๊ะ?...สองต่อสอง?...คำนี้…ใช้กับพระเอกและเพื่อนพระเอกได้เหรอ?...
‘…แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเพื่อนพระเอกเป็นตุ๊ด…’
ประโยคของสาวใช้ที่ชื่อเต็มดังขึ้นมาในสมองของคุณพัชรีอีกครั้ง ทำเอาสตรีร่างอวบถึงกับเบิกตาโพลงแล้วรีบสั่นหัวแรงๆ
“เป็นไปไม่ได้หรอก! เป็นไปไม่ได้!” คุณพัชรีเดินสั่นหัวไปตลอดจนกระทั่งเข้าห้องนอน พร้อมกับคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’
…ใช่! เป็นไปไม่ได้! ถ้าอย่างอธิปเป็นตุ๊ด จักรกฤษณ์ก็คงเป็นด้วยล่ะมั้งนี่!!...
…………………………
จอมขวัญอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ของอธิปอันได้แก่เสื้อยืดและกางเกงนอนขายาวเนื้อนิ่ม บนไหล่มีผ้าขนหนูผืนเล็กที่เจ้าตัวใช้ซับน้ำจากเส้นผมที่เพิ่งสระหมาดๆ
ส่วนอธิป…กำลังอาบน้ำอยู่…
ร่างโปร่งมองไปรอบห้องนอนขนาดใหญ่ที่ใช้พื้นที่ทั้งหมดบนชั้นสองของบ้าน เตียงกว้าง โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางโทรทัศน์และตู้หนังสือ ทุกอย่างเข้าชุดกันและถูกจัดวางอย่างที่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ฝาผนังด้านหนึ่งเป็นประตูสู่ระเบียงข้างนอก จอมขวัญทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียง แม้สายตาจะจมอยู่กับภาพเคลื่อนไหวบนโทรทัศน์ แต่สมองของเขากลับคิดถึงเรื่องที่ตนเองกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนของอธิปตอนนี้
…แค่วันนี้วันเดียว แต่มีอะไรเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าก้าวกระโดดของเขาและอธิป
…จากคนเกลียดขี้หน้า มาวันนี้กลับยอมค้างที่บ้านของอธิปอย่างที่แม้แต่ตัวจอมขวัญเองยังแปลกใจ
“ของขวัญ เอาที่เป่าผมมั้ย” เสียงทุ้มของเจ้าของห้องดังขึ้น ทำเอาคนกำลังคิดอะไรเพลินๆถึงกับสะดุ้งแล้วหันมอง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็แห้ง” เขาใช้ผ้าขนหนูที่พาดบนไหล่ขยี้ลงกับเส้นผมชื้นๆ แล้วหันไปให้ความสนใจกับโทรทัศน์ที่เปิดเอาไว้ต่อ ทั้งๆที่ไม่ใช่คนติดละครโทรทัศน์ แต่เพราะไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านี้
อธิปเดินออกจากห้องน้ำไปพาดผ้าขนหนูลงกับราวตาก เขายิ้มน้อยๆที่เห็นผ้าขนหนูอีกผืนพาดเอาไว้เช่นกัน
…หัวใจอุ่นซ่านอย่างประหลาด…ผ้าขนหนูสองผืน แปรงสีฟันสองด้าม หมอนสองใบ…อะไรอีก…อะไรที่คืนนี้เปลี่ยนไปจากทุกๆคืนที่ผ่านมา เพียงแค่จอมขวัญมาค้าง…ทุกอย่างที่เคยมีแค่ของเขาคนเดียว กลายเป็นมีของใครอีกคนเพิ่มเข้ามาด้วย…ใครอีกคน...ที่ชื่อจอมขวัญ…
ร่างสูงหันกลับมาที่เตียง ดูเหมือนจอมขวัญกำลังมองเขาอยู่ และพอเขาหันกลับมากะทันหัน ฝ่ายนั้นก็เลยสะดุ้งน้อยๆอย่างตกใจ
“มองพี่ทำไม”
“อ่า…ก็…ก็…ปิดโทรทัศน์ไม่เป็น…คือ…” จอมขวัญอ้างไปเรื่อยเพราะไม่รู้จะพูดอะไร เมื่อกี้นี้เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสายตาตัวเองจมอยู่กับแผ่นหลังกว้างๆของอีกฝ่าย จนกระทั่งอธิปหันกลับมานั่นล่ะ
“จะนอนแล้วหรือ?”
“ครับ เริ่มง่วงแล้ว” ดวงตาเรียวปรือลงเล็กน้อย คงเพราะวันนี้นอนเยอะเกินไปทั้งตื่นสาย ทั้งนอนกลางวัน แถมท้ายด้วยตอนเย็นมีเรื่องเครียดอย่างเรื่องของน้ำทิพย์อีก ก็เลยทำให้เขาง่วงเร็ว
อธิปเดินมาปิดโทรทัศน์ จอมขวัญเลยคลานจากปลายเตียงไปล้มตัวลงนอนบนหมอน เขาพลิกตัวไปมาเพื่อหาท่าเหมาะ แต่ก็ยังเหมือนขาดอะไรบางอย่าง จนต้องหันมาทางเจ้าของห้องที่ยืนมองเขาอยู่
“มีหมอนอีกใบมั้ยครับ” ดูจากท่าพลิกซ้ายตะแคงขวาขยับยุกยิกอยู่ไม่สุข ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายติดหมอนข้าง อธิปอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินไปหยิบหมอนสำรองออกมาจากถุงกันฝุ่น แล้วจึงส่งให้คนที่ลุกขึ้นมานั่งรอ
“ยิ้มอะไร” แม้มือจะรับหมอนมากอด แต่จอมขวัญก็ทันเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของร่างสูง เขาถามด้วยประโยคเอาเรื่องแต่น้ำเสียงไม่จริงจังเท่าไหร่นัก อธิปยังยิ้ม เขาวางมือลงกับศีรษะของจอมขวัญแล้วลูบเบาๆ
“นอนได้แล้ว” มืออุ่นๆลูบเส้นผมที่เพิ่งสระแผ่วเบาอย่างที่ทำเอาจอมขวัญต้องฝังหน้าลงกับหมอนเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชักจะหน้าร้อนจนไม่กล้าให้อีกฝ่ายเห็น
…ทั้งๆที่ไม่ใช่มีแต่อธิปเสียหน่อยที่ลูบหัวเขา ทั้งลุงทั้งป้าทั้งพี่ชายก็ลูบหัวเขาทั้งนั้น ตอนพ่อแม่ยังอยู่ พ่อแม่ก็ทำออกบ่อยๆ แต่…แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่อธิปกำลังทำอยู่นี่เลย…
มืออุ่นละออกไปแล้ว จอมขวัญเหลือบตามองคนที่หมุนตัวเดินไปกดปิดสวิทซ์ไฟ ก่อนจะเดินกลับมาทรุดตัวลงนั่งอีกฝั่งของเตียง อธิปหันมามองเมื่อเห็นว่าจอมขวัญไม่ยอมเอนกายลงนอนเสียที
“ของขวัญ…” เขาเรียกชื่อ เพ่งมองอีกฝ่ายในความมืดสลัวของห้อง
“เอ่อ…ราตรีสวัสดิ์ครับ” แล้วจอมขวัญก็พลิกตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้เจ้าของห้องที่ยังนั่งนิ่ง อธิปกะพริบตาปริบๆอย่างตามไม่ทัน กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เขาไม่เห็นหน้าจอมขวัญแล้ว เพราะฝ่ายนั้นเล่นนอนหันหลังให้ แถมห่มผ้าห่มจนแทบจะมิด
…ให้ตายเถอะแค่นี้เขาก็หลงจะแย่อยู่แล้ว ยังจะมาบอกราตรีสวัสดิ์กันอีก…
อธิปส่ายศีรษะไปมากับตัวเองเมื่อคิดว่าเขาคงไม่รอดจากจอมขวัญ ในเมื่อเจ้าตัวขยันทำแต่เรื่องให้เขาหลงบ่อยเสียขนาดนี้…
ชายหนุ่มเอนกายลงนอนเคียงข้าง ก่อนจะส่งมือไปวางลงบนศีรษะของจอมขวัญอีกครั้ง
“ราตรีสวัสดิ์ ของขวัญ…”
ติดตามตอนต่อไปปปป (พฤหัสหน้านะคะ)
เธอเป็นผู้หญิงที่ซวยมากกกกก
ตั้งแต่เขียนนิยายและฟิคมา ไม่เคยเขียนเรื่องไหนแล้วมีคาแรกเตอร์ผู้หญิงที่ซวยตล้อดดดด…อย่างน้ำทิพย์เลย ฮ่าฮ่า
เพราะฉะนั้น ขอทุกคนให้อภัยที่ ‘บทของเธอ’ เยอะมากๆด้วยนะคะ กร๊ากกกก
(จริงๆตัดบทของน้ำทิพย์ออกไปเยอะมากแล้วนะเนี่ยยยยย…นี่ขนาดตัดออกไปเยอะแล้ว? )
เห็นมีคนเม้นท์เชียร์พี่จักรไอ้ขวัญด้วย ไม่อยากจะบอกคนอ่านเลย ว่าเวลาบัวเขียนฉากสองคนนี่ บัวชอบเวลาพี่น้องเขาถึงเนื้อถึงตัวกันอ่ะ
แต่พอมาเขียนฉากพี่โตกับของขวัญ บัวก็ชอบเวลาพี่โตอ่อนโยนและมั่นคง (สรุปว่าหลายใจ อิอิ)
เพราะงั้น…เรามาจิ้นไปด้วยกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม การอ่าน การเม้นท์ กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคย
เจอกันพฤหัสหน้ากับคุณน้ำ เอ๊ย! ไม่ใช่ๆ กับของขวัญและพี่โต กร๊ากๆๆๆ