“ซองสี่เหลี่ยมๆ?”
“ครับ ตอนกลางคืน อาของขวัญนั่งเล่นกีต้าร์ให้ฟังที่ระเบียงแล้วขนมเจอซองสี่เหลี่ยมสีเงินๆ แต่พอหยิบออกมาอาของขวัญกับอาโตก็โวยวายใหญ่เลย”
“เดี๋ยวๆ อาของขวัญเล่นกีต้าร์เป็นด้วยเหรอ” คุณพัชรีที่เลี้ยงหลานมาเองกับมือถึงกับต้องถามแทรกด้วยเพราะไม่เคยเห็นจอมขวัญสนใจดนตรีมาก่อน
“เล่นเป็นครับ อาของขวัญบอกว่าอาโตสอน”
และเสียงกรี้ดก็ดังขึ้นอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ “ต๊าย! น่ารักจริงๆ มีการสอนเล่นกีต้าร์ด้วย” เสียงใครเป็นใครไม่รู้ แต่ขนมจับใจความได้ว่าคุณย่าทั้งสามกรี้ดกร้าดกันเรื่องสอนกีต้าร์
“อุ๊ย! กลับมาที่เรื่องซองสี่เหลี่ยมต่อค่ะคุณรี ว่าไงขนม ซองสี่เหลี่ยมมันรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง” คุณรุ่งทิพยังไม่ลืมเรื่องเก่า เลยวกกลับมาถามหลานชายต่อ
“เป็นซองสี่เหลี่ยมครับ สีเงินๆสะท้อนแสงไฟด้วยล่ะ แล้วก็ตรงกลางมันเป็นวงกลมนูนๆขึ้นมา” พอเริ่มอธิบายมากขึ้น คราวนี้สามสาวผู้ผ่านประสบการณ์มามากมายเริ่มบรรลุว่าซองที่หลานชายพูดถึงคือซองอะไร
“ขนมเจอที่ไหนลูก” คุณกนกนุชถาม
“ที่ระเบียงครับ มันตกอยู่”
“กรี๊ดดดด!! ที่ระเบียง!!!” สามสาวกรี๊ดอีกรอบ หน้าตาดูแช่มชื่นและเข้าอกเข้าใจสถานการณ์ไปถึงไหนต่อไหน
“มันคือซองอะไรเหรอครับ” เด็กชายเห็นท่าทางคุณย่าทั้งสามจะรู้เช่นเห็นชาติถึงซองสี่เหลี่ยมเจ้าปัญหานั่นแล้ว ก็เลยร้องถาม สามสาวมองหน้ากันเลิกลั่ก คันปากยิบๆอยากสาธยายให้หลานฟัง แต่ก็ติดที่ว่าเจ้าหนูขนมยังเล็กมากนัก เพราะงั้น…จะบอกเท่าที่บอกได้แบบที่ถ้าเจ้าขนมไปพูดต่อให้พ่อมันฟัง จักรกฤษณ์จะไม่มาแหกอกเอาก็แล้วกัน
“มันเป็นของที่ใช้เพื่อความสะอาด”
“แทนสบู่เหรอครับ?” สามคุณย่าหัวเราะกิ๊ก ก่อนที่คุณกนกนุชจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“ไม่ใช่ลูก แต่มันเป็นการป้องกันเพื่อตัวเองและเพื่อคนที่เรารัก”
“ป้องกันยังไงครับ”
“ก็ป้องกันทางจุ้ดจู๋ของหนูนะลูก พอหนูโตขึ้น หนูต้องใช้ มันช่วยป้องกันโรคได้ ทำให้ไม่เลอะเทอะด้วย ก็เหมือนร่ม เวลาฝนจะตก ถ้าเราไม่กางร่ม มันก็จะเปียกเลอะเทอะใช่มั้ยลูก แล้วพอเปียกก็เป็นหวัดไม่สบาย ขนมอยากให้คนที่ขนมรักเป็นหวัดรึเปล่า”
“ไม่อยากครับ” เด็กชายขนมตอบอย่างรวดเร็ว เพราะพี่ชายอย่างพี่ข้าวนั้นมักจะไม่สบายบ่อยๆ และพอไม่สบายทีไร ขนมก็ไม่มีคนมาเล่นด้วยทุกที
“นั่นล่ะ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาที่จะใช้ ขนมก็ต้องใช้นะลูก ต้องรักและห่วงคนรอบข้างนะลูกนะ” คุณกนกนุชสอนอย่างใจเย็น ในขณะที่คุณพัชรีและคุณรุ่งทิพพยักหน้าหงึกหงักเป็นการสำทับ
“แล้วเวลาไหนถึงจะต้องใช้ล่ะครับ” สามสาวหัวเราะเบาๆ ก่อนที่คุณรุ่งทิพจะตักข้าวเหนียวเปียกลำไยเติมใส่ถ้วยให้หลานอีกเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพร่องลงไปแล้ว
“เอาเป็นว่า เมื่อขนมเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ขนมจะเข้าใจว่าเมื่อไหร่ที่ฝนจะตก และเมื่อไหร่ที่ขนมต้องกางร่มนะลูก” เด็กชายมองคุณย่ากนกนุชอย่างงุนงงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบมันกับร่มที่ป้องกันฝนและทำให้ไม่เป็นหวัดแล้ว เด็กชายก็คิดเอาเองว่าอาโตก็คงไม่อยากให้อาของขวัญไม่สบาย ก็เลยต้องใช้และคงทำหล่นไว้ที่ระเบียงนั่นเอง
“เข้าใจมั้ยลูก” คุณย่ากนกนุชตั้งคำถามเมื่อเห็นหลานชายเงียบไป
“เข้าใจครับ แต่ว่าอาโตนี่รักอาของขวัญจังเลยนะครับ มีทั้งร่มและก็ยาทิ้งเอาไว้ที่ระเบียงด้วย”
“ยา?” สามสาวทวนคำ คราวนี้เด็กชายพยักหน้าหงึกหงักแทน ก่อนจะเผยความลับชิ้นเด็ดต่อไป
“ก็นอกจากขนมจะเจอ ‘ร่มผู้ใหญ่’ แล้ว ขนมเจอหลอดยาด้วยครับ มันตกอยู่ใกล้ๆกัน”
“หลอดยา?”
“ครับ แต่ขนมไม่รู้ว่ามันเป็นหลอดยาอะไร คงจะเป็นยาทาแก้ปวดแบบของพี่เข้มมั้ง”
“หน้าตามันเป็นยังไงลูก” เด็กชายหวนนึกไปถึงหลอดยาที่ตัวเองเจอที่ระเบียง แม้จะเพียงแค่ครู่เดียวที่ได้เห็น แต่เด็กชายก็พอจะจำได้
“มันเป็นหลอดสีฟ้าๆขาวๆ แต่เป็นภาษาอังกฤษหมดทั้งหลอดเลยครับ ขนมอ่านไม่ออก” เจ้าตัวว่าอย่างนั้น ก่อนจะทำตาโตเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก
“อ๊ะ! แต่ขนมจำได้ว่ามันมีตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นตัว K กับตัว Y ด้วยครับ”
เท่านั้นล่ะ เสียงกรี๊ดของสามสาวก็ดังลั่นเรือนสนั่นหวั่นไหว ณ จุดนี้ไม่รู้จะฟินไปถึงขั้นไหน แต่บอกได้คำเดียวว่าสำหรับคุณพัชรี คุณกนกนุช และคุณรุ่งทิพ การเจอ ‘ร่มผู้ใหญ่’ และหลอดยาปริศนาที่มีตัวอักษร K และ Y ที่ระเบียงนั้น ก็ตอบทุกโจทย์ทุกคำถามแล้ว
…เรื่องรักๆ ถ้าเบื่อเตียง ไปที่ระเบียงก็ได้!!!... ใครสักคนกล่าวไว้ และคุณพัชรีจำขึ้นใจ!!!
……………………………………….
“ฮัดชิ้ว!!!” จอมขวัญปิดปากแทบไม่ทัน ทำเอาคนขับรถต้องหันมองแล้วหรี่แอร์ลงเล็กน้อยเพราะคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่สบาย
“เป็นหวัดรึเปล่าของขวัญ”
“เปล่าหรอก” จอมขวัญว่าอย่างนั้น ก่อนจะเหลียวมองไปรอบตัวเมื่อสังเกตเห็นว่าถนนที่อธิปกำลังใช้ไม่ใช่ถนนเส้นกลับบ้านอย่างทุกที
“จะไปไหน” เขาหันไปถามคนรัก
“ไปเที่ยว”
“เที่ยวไหน?”
“ไปเที่ยวกันสองคน อยากไปไหนล่ะ?” ประโยคเหมือนคำถาม แต่จอมขวัญเห็นรอยยิ้มมุมปากนั่นและด้วยเพราะเห็นมาตลอดนับสิบกว่าปี จะไม่รู้เชียวหรือว่าที่เที่ยวในช่วงวันหยุดเพียงวันเดียวที่มีอยู่จะเป็นที่ไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่ร้านอาหารเงียบๆ สำหรับพวกเขาสองคน
ทว่า…แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายจะพาไปที่ใด แต่จอมขวัญก็ยังเป็นจอมขวัญที่มักจะกวนประสาทคนรักเป็นประจำ
“ถ้าอยากไปไหนก็จะพาไปเหรอ? งั้น…ไปดวงจันทร์”
อธิปอมยิ้มบางก่อนจะตอบเสียงเบากลับไป
“พี่พาไปได้ไกลกว่าดวงจันทร์อีก”
รถคันหรูมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง ซึ่งแน่นอนว่ามีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ เนื่องจากตอนนี้สายสืบสะดือจุ่นของเรากำลังซัดข้าวเหนียวเปียกลำไยอย่างเอร็ดอร่อยนั่นเอง
แต่…
ด้วยความที่เด็กชายขนมเกิดในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำเสียจนคิดไม่ถึง เด็กชายตัวใหญ่แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็สามารถตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคุณย่าๆทั้งหลายได้อีกวิธี แม้ว่าเจ้าตัวจะลงจากรถของอธิปและจอมขวัญแล้ว
“คุณย่า เจอแล้วครับ!” เด็กชายเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของคุณปู่ชัยที่ขอยืมมาเปิดโปรแกรมตามหาโทรศัพท์ของตัวเองซึ่งแน่นอนว่าเด็กชายขนมพลีชีพมือถือตัวเองทิ้งเอาไว้ใต้เบาะนั่งในรถของคุณอาทั้งสองเพื่อภารกิจสุดท้ายก่อนจะลงจากรถเมื่อตอนบ่าย
…ทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ แล้วมาใช้โปรแกรมตามหาโทรศัพท์เอาทีหลัง คราวนี้ก็จะได้รู้ว่าจุดหมายปลายทางของคุณอาทั้งสองหลังจากส่งเขาแล้ว คือที่ใด?!!!...
“เอ?...ชื่อภาษาอังกฤษอ่านย้ากยาก! แต่ข้างหลังชื่อเขียนว่าโฮเตล นี่มันโรงแรมใช่มั้ยครับ” เด็กชายร้องถามพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ไหนๆ?!!” สามคุณย่าถลาเข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์มือถือไปจากมือหลาน เด็กชายขนมมองอาการกระตู้วู้นั้นแล้วได้แต่เอียงคอ แต่เมื่อคุณปู่ชัยผู้อยู่ในเหตุการณ์ส่งถ้วยข้าวเหนียวเปียกลำไยที่ถูกเติมเสียเต็มมาให้ เจ้าตัวก็เหไปสนใจของโปรดแทน งานนี้ได้ฟาดคนเดียวทั้งหม้อเพราะเป็นเด็กดีสร้างความกระชุ่มกระชวยให้สาวแก่ทั้งหลาย
“ว้าย!!! โรงแรม!! ส่งหลานเสร็จก็แวะโรงแรม!! กรี๊ด!!!”
สามสาวสมาคมผู้รักละครไทยจิ้นกันไปถึงไหนต่อไหน ในขณะที่คุณปู่ชัยผู้ที่ยืนดูอยู่เงียบๆได้แต่ถอนหายใจเฮือก
…เมื่อไหร่หนอ ผู้หญิงพวกนี้จะรู้จักวิธีสงบจิตสงบใจด้วยทางธรรมสักที…
FIN
<<แถม>>
เช้าแสนสบายในวันหยุดวันหนึ่ง เด็กชายขนมเดินงัวเงียแคะขี้ตาออกมาจากห้องนอนทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนเนื้อนุ่มแขนยาวลายอุลตร้าแมนตัวโปรด ที่ยกพื้นกลางเรือนไทยนั้น มีคุณปู่ชัย คุณย่าพัชรีและคุณพ่ออย่างจักรกฤษณ์ รวมถึงพี่ชายคนโตอย่างพี่เข้มนั่งรับประทานอาหารเช้ากันอยู่
สำหรับวันหยุดสบายๆแบบนี้ จะตื่นสายและไม่ต้องทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากันบ้างก็ได้ คุณย่าพัชรีผู้เป็นเจ้าของเรือนไม่ดุไม่ว่า ซึ่งโดยปกติแล้วทั้งหลานคนกลางและหลานคนเล็กมักจะนอนตื่นสายเล็กน้อย และมาร่วมวงมื้อเช้าก็ตอนที่พวกผู้ใหญ่กินเกือบเสร็จกันแล้วนั่นล่ะ
…ทว่า…วันนี้…เด็กชายขนมหลานคนเล็กของคุณพัชรีกลับเดินสะโหลสะเหลออกมาจากห้องนอนตั้งแต่ยังไม่ทันจะแปดโมงเช้าเสียด้วยซ้ำ
“ขนม ทำไมตื่นเช้าจัง” คุณย่าเอ่ยปากถามเด็กชายที่เดินมานั่งข้างเธอ เจ้าหลายชายหุ่นอ้วนกลมทำจมูกฟุดฟิดเมื่อกลิ่นอาหารหอมฉุยลอยเข้าจมูก ก่อนจะยืดคอมองส่องไปทั่วทั้งโต๊ะเตี้ยที่ใช้เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร
“ขนมหิว ท้องร้องจ้อกๆเลยนอนต่อไม่ไหว” แม้จะมีแววงัวเงีย แต่พอสอดส่ายสายตาไปมาบนโต๊ะเห็นทั้งแกงส้ม ทั้งหมูปิ้ง ไข่เจียว และผัดพริกปลากรอบ ก็ทำเอาตื่นเต็มตา
“วันนี้มีผัดพริกด้วย! ขนมอยากกินมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!” เด็กชายขนมตาโตร้องออกมาอย่างสุดแสนจะปลื้มปิติ กำลังจะถลันไปที่ตู้เก็บจานชามและหม้อข้าว ทว่าถูกคว้าคอเสื้อหมับเสียก่อน
“ขี้ตายังแฉะอยู่เลย ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันรึยัง จะมากินข้าวน่ะ” คนคว้าไม่ใช่ใครที่ไหน ‘พ่อดุ๊ดุ’ ของเด็กชายขนมนั่นเอง จักรกฤษณ์คิ้วยุ่งพลางเอานิ้วโป้งเขี่ยขี้ตาให้ลูกชายคนเล็ก
“แต่ขนมหิวแล้วนะ” เด็กชายหลับตาให้พ่อเขี่ยข้าแต่โดยดี แต่ปากก็ยังเถียงแจ้วๆ
“หิวแล้วก็ต้องอดทน ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน แล้วค่อยมากินข้าว ถ้าคราวหลังไม่อยากทนหิวก็ตื่นก่อนหิวมาแปรงฟันสิ”
“โธ่! พ่อไม่เข้าใจขนม” ลูกชายคนเล็กแต่ตัวใหญ่ทำหน้างอเล็กน้อย แต่เมื่อพ่อปล่อยคอเสื้อ เจ้าตัวก็ยอมเดินกลับเข้าห้องนอนตัวเองอีกรอบเพื่อไปล้างหน้าแปรงฟัน ทว่า…ไม่วายยังหันมาเถียงพ่ออีก
“ทีอาของขวัญ ตื่นมาไม่ทันแปรงฟัน ยังจูบอาโตจ๊วบๆเลย! ขนมแค่ตื่นมากินข้าวเลยก็ไม่ได้! หึ!! เกิดเป็นเด็กนี่มันผิดตลอดดดดดดด!!” ว่าแล้วเจ้าเด็กอ้วนก็ทำสะบัดหัวเดินตุบตับกลับเข้าไปแปรงฟัน เพราะเกรงใจพ่อจะลุกขึ้นมาเตะโด่งโทษฐานดื้อแล้วเถียง
…ทว่า…ถ้าขนมยังอยู่ที่เดิมต่ออีกสักนิด เด็กชายจะรู้ในทันทีว่าครั้งนี้จักรกฤษณ์ไม่กล้ายกเท้าขึ้นเตะตูดมันแน่ เพราะจักรกฤษณ์อยากยกเท้าเตะตูดใครบางคนแทน
“ไอ้ขวัญ!!!!”
…ทำอะไรกับผัวให้ลูกฉันเห็นวะ!!!!...
FIN
ครอบครัวนี้ป่วงอ่ะ ฮ่าฮ่า
ดีใจที่หลายๆคนยังคิดถึงเรื่องนี้ ยังคิดถึงของขวัญ คิดถึงพี่โต ขอบคุณมากๆนะคะ
เคยมีคนถามเรื่องไทม์ไลน์ของเรื่อง เนื่องจากที่ลงในอินเตอร์เน็ตนั้นจบที่จักรกฤษณ์ยังไม่มีลูก แต่พอตอนพิเศษมีลูกโผล่พรวดมาทีเดียวสามคนเลย
เพราะงั้น ในตอนพิเศษที่มีหลานๆโผล่ออกมา จอมขวัญก็อายุสามสิบกว่า ส่วนอธิปก็มากกว่าจอมขวัญ 2-3 ปีค่ะ
ใครรอพันธะหอย บัวคิดว่าน่าจะมาได้ภายในอาทิตย์นี้นะ เลทสุดไม่เกินอังคารหน้าค่ะ
ขอบคุณคนอ่าน คนคิดถึง คนเม้นท์ และกำลังใจ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ