Re: (เรื่องสั้น) มรดกทาส แถม (ต่อ+)P.9 29/6/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มรดกทาส แถม (ต่อ+)P.9 29/6/12  (อ่าน 133148 ครั้ง)

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เอาเว้ยยยย พี่ีซันข้าวอ่ะกินเข้าไปเยอะๆ


จะได้ไม่ผิดซ้ำสอง  :jul3:

ออฟไลน์ nutsumi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-0
หึหึ พี่ซันสู้ๆน้า เอาไนท์คนเดิมกลับมาให้ได้นะ
ปล.วันนี้มันวันที่ 13 น่ะคะ ตอนแรกเห็นหัวเรื่องแล้วนึกว่าจะอัพพรุ่งนี้

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
มาต่อด่วน  :z3:

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
รออยู่น๊า

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ปูเสื่อรอเลยครับ  :z2:

ออฟไลน์ Nunun_B2UTY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยนะคะ  คราวที่แล้วโพสวันที่ผิด  ฮ่า ๆ ขอยอมรับโดยตรงว่า "เบลอ...ว่ารักแถบ" 

"แบบ....ว่ารักเธอ "  ฮ่าๆ  จริงกดผิดนั่น กร๊ากกกกกกกก  อายอ่ะ 

วันนี้มาต่อกันแล้วค่ะ


คว่ำชามมาม่า~1(ต่อ)


ไม่ถึง  30 นาทีผมก็มาถึงบ้านพักรองผู้จัดการ  ผมเลือกจอดในที่ลับตาเพื่อจะได้ไม่เป็นที่สังเกตุมากนัก  ด้านหลังบ้าน

มองเห็นคนตัวเล็กกำลังก้มๆ เงยๆ ตากผ้า  แค่เห็นรูปร่างก็พอรู้ว่าเป็นน้องไนท์  ไอ้คนข้างจ้องมองตาโต ทำท่าจะลุกพรวดพราด
เข้าไปหาน้องทันที  ดีที่ผมตะคลุบมันไว้ทัน 
“เดี๋ยวสิมึง  ....ใจเย็นๆ  ไม่อยากรู้เหรอว่าน้องมีใครรึยัง” ผมเอ่ยเสียงเบา  ราวกับว่าจะมีใครมาได้ยิน  (ได้ข่าวว่ามึงสองตัวอยู่ในรถ)
มันพยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่ใจคงแทบอยากจะไปกระโดดกอดน้องให้หายคิดถึง   ผมหยิบกล้องส่องทางไกลส่งให้มันเพื่อที่จะได้เห็น

หน้าน้องได้ชัด ๆ ไอ้ซันมองอย่างอาลัยอาวรณ์   ความคิดถึงของมันแผ่ซ่านรังสีมาให้ผมได้รับรู้  สองตาแน่นิ่งจับไปที่น้อง

“ไนท์”  มันเอ่ยแผ่วเบา ราวกับเพ้อ  ผมมองมันด้วยความเป็นห่วงความรักแม้จะเป็นพลัง  แต่ในทางกลับกันก็เป็นดาบสองคม

ทิ่มแทงให้เราแทบตายได้เหมือนกัน 

“ไนท์ผอมลงไปเยอะเลย”  มันว่ารำพึงรำพันให้ผมฟัง  ผมนั่งฟังมันเงียบ ๆ สักพักเห็นน้องเข้าไปในบ้านแล้ว  ไอ้ซันละกล้อง

ส่องไกลลง  หันมาหาผมด้วยสีหน้าจริงจัง .......  ดวงตามันดูอ้อนวอนมากกว่าครั้งไหน

“กุอยากไปหาน้อง.......คิดถึง  จนแทบใจจะขาดแล้ว”  มันบอกในที่สุด  ผมตบไหล่มันเบา ๆ

“อดทนอีกนิดซัน  ถ้ามึงไปหาน้องตอนนี้ น้องจะคิดยังไงคิดว่ามึงให้นักสืบตามสืบน่ะสิ  รอ..ทำให้มันเป็นเรื่องบังเอิญ

กุว่าน้องคงโกรธถ้ามึงขนาดให้นักสืบจับตาดูน้อง  แต่อย่างแรกกุอยากให้มึงแน่ใจ...ว่าน้องไม่มีใคร”  ผมตอบ

“อืม ....แล้วกุจะทำยังไงที่จะเจอน้องโดยบังเอิญโดยที่น้องไม่รู้สึกว่ากุก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวน้อง ไม่อยากให้น้องโกรธแล้ว

กุทนไม่ไหวแล้วแทน  ..... กุไม่อยากเห็นสายตาที่เกลียดชังของน้องมองมาที่กุ    มันเจ็บ  มันทำให้กุเกลียดตัวเอง”   

“กุเข้าใจ  แต่บริษัทที่น้องทำงานอยู่พ่อกุเป็นหุ้นส่วนกุรู้จักลุงพลรภดีมึงไม่ต้องห่วงเลย   อ๊ะ....น้องออกมาแล้ว 

วันนี้แค่ตามดูน้องไปก่อน   ถ้าน้องมีใครจริงเราคงจะเจอกันวันนี้แหล่ะ”  ไอ้ซันพยักหน้ายอมรับมองกลับไปที่น้องเช่นเดิม

กล้องตัวเก่าถูกยกขึ้นมาส่องอีกครั้ง  ถึงจะเห็นไม่ชัดเท่ากล้องแต่ก็มองเห็นได้พอสมควร น้องไม่ได้อยู่ไกลมากแต่กล้อง

ก็ช่วยให้มองเห็นน้องราวกับอยู่ข้าง ๆ กันเลยทีเดียว   วันนี้น้องใส่ยีนส์ขาสั้นยาวพอดีเข่ากับเสื้อคอปกแขนสั้น พาดลายขาวฟ้า

สลับกันไปมาทั่วทั้งตัว ตอนนี้กำลังเดินจ้ำพรวด ๆ วิ่งตามรถโดยสารที่พึ่งวิ่งแซงน้องไปไม่ไกล  รถจอดสนิทรอน้องที่

ตอนนี้กระโดดพรวดเดียวก็ขึ้นรถไปแล้ว  สองมือจับแน่นที่เสาด้านนอกตัวรถ บริเวณที่เชื่อมต่อระหว่าทาง พื้นดินกับตัวรถ

โดยมีบันไดเล็กคั่นตรงกลาง  น้องแทรกตัวซุกมุมด้านขวา โหนอยู่อย่างนั้นปล่อยให้รถสองแถวคันเล็กแล่นพาน้องไปยังจุดหมาย  ผมขับรถตามทันทีแต่ทิ้งระยะห่างพอสมควร  แต่ดูน้องจะไม่ได้ใส่ใจสายตาเหม่อมองไปยังข้างทาง 

และแล้วสองแถวคันที่ว่าก็พาน้องมาส่งที่ห้างดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรี  สองแถวจอดผมเห็นน้องเดินลงรถก่อนจะอ้อมไป

จ่ายค่าโดยสารตรงคนขับแล้วตรงไปยังห้าง   ผมจอดรถตามไอ้ซันโดดลงอย่างว่องไว  ผมยักคิ้วให้เป็นอันรู้กันว่าให้มันไปก่อน

ไปจอดรถเสร็จเดี๋ยวตามไป  ผมมองภาพไอ้ผู้บริหารมาดเข้มแอบวิ่งตามเด็กน้อยไปอย่างระมัดระวังไม่ให้น้องจับสังเกตุ

ก่อนจะเดินถึงทางเข้าห้างมีครั้งหนึ่งเหมือนน้องจะรู้สึกว่ามีคนตามน้องเลยหันขวับมามองข้างหลัง  ไอ้ซันกระโดดซ่อน

หลังต้นปลามที่เขาปลูกประดับไว้หน้าห้างไวปานวอก  ผมเห็นน้องเกาหัวงงๆ ก่อนจะเดินไปต่อ  แต่ไอ้ผู้บริหารสุดหล่อ

ยังยืนเกร็งอยู่หลังต้นปลามไม่ขยับ....สักพักเหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่าซ่อนนานไปแล้ว ค่อยๆ โผ่หัวออกมาดูน้องไม่อยู่แล้ว

ไอ้ซันหน้าเหวอเล็กสอดส่ายสายตาไปมามองหาน้องอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะสาวเท้าเข้าห้างตามไป  ฮ่าๆ เป็นภาพที่ฮามาก

ผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย  ได้แต่แอบขำอยู่คนเดียว ไม่อยากนึกว่าพนักงานที่เคารพมันมาเห็นจะว่ายังไง  ฮ่าๆ

มีเจ้านายติ๊งต๊องสุด ๆ  ส่วนรถที่ไม่รู้จะเยอะไปไหน ก็ค่อยๆ คืบคลานไปยังลานจอดรถ ถึงจะเซ็งแต่ก็แอบอารมณ์ดีนิดๆ นะ

พอมาถึงลานจอดรถก็ต้องวนอยู่นานกว่าจะหาที่จอดได้  เสียงโทรศัพท์ผมดังครืดคราด ผมเอื้อมมือไปหยิบแล้วกดรับ

“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไปตามสายอย่างอารมณ์ดี

“อยู่ไหนว่ะ”

“ลานจอดรถอ่ะ...รถติดโคตร แล้วมึงอ่ะ”
“ชั้นสอง ร้านXXX อ่ะ มึงรีบตามขึ้นมาหล่ะ”

“เออ  แล้วตอนนี้น้องอยู่กับใคร”

“คนเดียว  อ๊ะ....น้องกำลังออกจากร้านว่ะ  เหมือนจะไปซื้อของใช้ เห็นจดกระดาษอะไรยิ๊ก ๆ อยู่นานสองนาน”

“อืม  ....  ให้กุไปรอแถว ๆ ซุปเปอร์เลยมั้ยหล่ะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวกุโทรบอกอีกที  แค่นี้นะ”
“เออ ๆ”  ผมตรงไปยังโซนของซุปเปอร์มาเก็ต  สายตาเหลือบมองไปรอบๆ ระแวดระวังน้องเผื่อจะเดินมาทางนี้  ผมหลบฉากหัน

หน้าเข้าร้านมือถือ  ทำเป็นเลือกรุ่นใดรุ่นหนึ่งน้องเดินผ่านไปโดยไม่ทันได้สังเกตุ  เหตุแต่น้องก้มหน้าก้มตาอ่านรายการ

ในกระดาษที่ถือทวนไปทวนมาอยู่อย่างนั้น  ไอ้ซันตามมาไม่ห่างนักมันทิ้งระยะสักหน่อย  แม่งเนียนมากครับ ทำเป็นแวะ

ร้านนั้นร้านนี้ระหว่างทางเหมือนมาเดินดูของปกติ พอเวลาเดินตามน้องก็หยิบมือถือมาเนียนๆ  คุยคนเดียว กร๊ากกกกกก

ไอ้บร้า.......  ฮ่าๆ  ผมไม่รู้แม่งไปเอาวิชาเนียนนี่มาจากไหน  สักพักมันก็เกินมาสะกิดผม พยักเพยิดให้เดินตามน้องไปได้หล่ะ

อยากจะบอกมึงว่ากุหล่ะเห็นน้องตั้งนานแล้ว  .....รอแต่มึงน่ะแหล่ะลีลาเกินเหตุ  ผมอดยิ้มขำไม่ได้กับท่าทางนักสืบจำเป็น

ของไอ้เพื่อนสุดหล่อตรงหน้า  แต่ไม่ได้พูดอะไร  ได้แต่เออออห่อหมกไปตามมันเพื่อไม่ให้เสียเวลามากไปกว่านี้ 

น้องเข้าไปในซุปเปอร์ ก็แวะโซนนั้นออกโซนนี้  หยิบนั่นซื้อนี่ เพราะได้ของก็ทำเครื่องหมายบนกระดาษรายการอันเดิม

ของหลายอย่างเห็นน้องอ่านสรรพคุณและเทียบกันทั้งราคา และคุณภาพก่อนจะเลือกทั้งนั้น  พวกผมเดินตาม แอบซุ่ม

หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมงเหนื่อยชะมัด  เพราะมันตื่นเต้นตลอดเวลาจริงๆ ก็น้องอ่ะ เดี๋ยวหันหน้า เดี๋ยวหันหลัง

หยิบของยี่ห้อหนึ่งเทียบกับยี่ห้อหนึ่งอยู่นั่นแหล่ะ  ไอ้พวกผมก็หลบฉากออกไปกลัวว่าจะอยู่ในรัศมีสายตา  แต่ว่า......ฮ่าๆๆๆ

น้องไม่แลเลยครับเลือกของจนจุใจ  ได้ของเต็มรถเข็น   ก่อนจะเดินไปยังที่จ่ายเงิน  พวกผมก็เดินตามไปติด ๆ นึกขึ้นได้ว่า

เดินตั้งนานไม่เห็นมีไรต้องจ่าย  เลยพากันเดินออกไปซะเฉยๆ ไปดักรอน้องตรงโซนที่จ่ายเงินเสร็จแล้ว  เห็นน้องเข็นรถมายัง

ทางเลื่อน ก่อนจะตรงไปทางออก แค่นั้นแหล่ะครับผมวิ่งหูตูบเลย ขณะที่ไอ้ซันยังคงเดินตามน้องไปเรื่อย  ๆ  ผมวิ่งด้วยความเร็ว

180 กม/ชม  (แหะ ๆ เว่อร์ไปหน่อย) เร็วที่สุดเท่าที่ขายาวๆ จะวิ่งได้ดีที่ตอนกลับยังไม่ค่อยมีคนกลับเท่าไหร่ แป๊บเดียวเท่านั้น

ก็ถึงหน้าห้างไอ้ซันยืนรออยู่แล้ว  สาวๆ มองมันตาเป็นเกลียวแต่ไอ้หล่อไม่ยักก็รู้ตัว  หรือว่ามันชินไม่รู้พอผมขับรถมาถึงมัน

กระโดดขึ้นรถเลย ผมก็เร่งเครื่องต่อไม่ต้องบอกว่าไปไหนเพราะว่ามันแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งที่น้องต้องกลับบ้าน  ผมขมวดคิ้วมุ่น

น้องไม่ได้เอารถออก  จริงๆ น่าจะไม่มีรถส่วนตัวมากกว่า  แล้วน้องกลับบ้านยังไงในเมื่อของที่ซื้อมาก็มากกมายขนาดนั้น

“น้องกลับยังไงว่ะ  ของเยอะขนาดนั้น  อย่าบอกน่ะว่ากลับสองแถว”  ผมถามขึ้น  ไอ้ซันหัวเราะ

“เปล่า  เหมาตุ๊กตุ๊ก กลับ”  มันตอบ อืม....อย่างนี้นี่เอง  ถ้าเป็นกรุงเทพผมก็พอนึกออกหล่ะ ก็แท็กซี่เยอะแยะตาแปะไก่เลยนี่นา

แต่ที่นี่แท็กซี่สักคันก็ไม่มี  เลยอดเป็นกังวลไม่ได้  แต่ก็ยังดีที่มีสองแถว  ผมเห็นไอ้ซันยิ้มแก้มบานไม่รู้ดีใจอะไรหนักหนา หรือว่า

แม่ง....ยังสะใจที่เห็นน้องลำบาก   ผมเหลือบมองมันหลี่ตาให้เล็กลงมากกว่าเดิมเพื่อให้มันรู้ว่า ..กุกำลังจับผิดมึง

ฉะนั้นพูดความจริงมาซะดีๆ

“มึงยิ้มอะไร  ......เชี่ย  อย่าบอกน่ะว่ามีความสุขที่น้องลำบาก ”  ผมถามน้ำเสียงข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด  ไอ้ซันฮาแตก ตบหัวผม

ซะแรง  เชี่ย..............กุเจ็บโว้ยยยยยยยยยยย  แม่ง............  แง่ง  ๆๆ เดี๋ยวกุกัด  กุดุนะจะบอกให้

“เปล่าเพียงแต่ว่าน้องมากซื้อของเยอะ  แล้วน้องก็มาคนเดียวอ่ะ  ....หึหึหึ”  มันพูดแค่นั้นก็ยิ้มแก้มปริต่อไป  ปล่อยให้ผมงง

“แล้วยังไงว่ะ  ....  กุก็ไม่เห็นว่ามันควรจะดีใจตรงไหน  ก็แค่มาซื้อของจะเยอะจะน้อย  ก็มาคนเดียวได้อยู่ดี”  ผมทำหน้าสงสัย

“โง่อีกแล้วนะมึง......มาซื้อของเยอะขนาดนี้ปกติก็ต้องให้แฟนมาช่วยถือของดิ   นี่มาคนเดียวก็แสดงว่า.......  หึหึหึ”  มันยิ้มต่อ

อย่างอารมณ์  ยักคิ้วหลิวตา อวดฉลาดกับผม  ผมส่ายหน้าขำ  ......รอดูพรุ่งนี้ก่อนเถอะมึง  ถ้าแฟนเค้ามาหากุจะฮาแตก

ผมขับรถตรงดิ่งไปยังบ้านน้อง  เห็นน้องกับคนขับรถสองแถวกำลังขนของมากมายลงจากรถ  ประหนึ่งว่าน้องจะไม่ออกไปห้าง

อีกแล้วสักสามเดือนประมาณนั้น  ขนลงเสร็จน้องก็ควักตังค์จ่ายค่าโดยสาร ผมเห็นคุณลุงคนขับยิ้มแก้มแทบปริเหมือนน้องให้

พิเศษก่อนจะขับรถออกไป  แล้วจากนั้นน้องก็ทยอยขนของที่ซื้อมาเข้าบ้าน  ตัวเล็กยกของจะตัวเอน  ไอ้ซันทำท่าจะเข้าไปช่วย

แต่ผมรั้งคอแม่งไว้  ......  ไวเกิน  มันหันมามองแล้วทำคอตกเพราะพึ่งสำเนียกได้ ว่ามันกับผมมาแอบดูน้อง  .... 

น้องขนอยู่หลายเที่ยวก็เสร็จลง  น้องกลับเข้าไปในบ้านคาดว่าคงไปจัดเข้าของให้เข้าที่  ทุกอย่างผ่านไปจนเย็นย่ำไม่เห็นน้อง

ออกมาอีก  หลังจากกินข้าวเย็นแล้ว  ตอนนี้เป็นเว่ลา 3 ทุ่มห้องนอนน้องที่เปิดไฟสว่างอยู่ ....ดับวูบลง  คาดว่าน้องคงจะนอนแล้ว

ไอ้ซันมองที่ห้องน้องตาไม่กระพริบ  ปากยังคงยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าวันทั้งวันน้องอยู่คนเดียวไม่ได้มีใครคนไหนมาเกี่ยวพันธ์ แต่มี

อยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเห็นมันมีแววตาเศร้าสร้อย ตอนที่น้องขนเข้าของมากมายจนตัวเอน  ราวกับหนักมากมาย  ผมรู้ว่ามันอยากไปช่วย

แต่ผม.....อยากให้มันพิสูจน์ความจริงมากกว่า  เวลาล่วงเลยมาจนถึง 4 ทุ่ม ผมกระทุ้งศอกเบาๆ ที่ แขนไอ้ซัน เป็นสัญญาน

เตือนว่าเราควรจะกลับได้แล้ว   น้องคงไม่ได้ไปไหนอีกหรอก  มันพยักหน้าอย่างว่าง่าย ทั้งๆ ที่สายตาของมันไม่ได้ละไปจาก

ห้องนอนน้องสักนิด   ยังมองมาจนสุดลูกหูลูกตาตามความสมรรถนะทางตาที่จะมองเห็นได้  พอมองไม่เห็นมันก็หันกลับมา

ด้านหน้าเช่นเดิม ...  ผ่อนลมหายใจยาวเหยียด เหมือนไม่อยากจะละสายตาจากห้องๆ นั้น  ห้องที่น้องนอนอยู่  ผมตบไหล่มัน

เบาๆ เป็นการให้กำลังใจ ตรงดิ่งกลับโรงแรง  โชคดีที่ระแวกนั้นยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวขายอยู่พวกผมสองคนเลยซัดไปคนละสองชาม

ไอ้หล่อที่อยู่ตรงหน้าเหมือนเป็นคนละคนกับเมื่อเช้า   มันยิ้มแย้มอารมณ์ดี และหิวโซ  ฮ่าๆ   หลังจากกินเสร็จก็เข้าเช็คอิน

ที่โรงแรมใกล้ๆ กัน ไอ้ซันมันให้เลขาจองไว้ให้ตั้งแต่ตอนที่เฝ้าน้องขนของเข้าบ้าน  .....  ดูท่าจะอยู่นาน นี่จองไว้ตั้งอาทิตย์

เรื่องเคลียร์งานคงต้องติดต่อทางเมล์ ก็ไอ้ไอโฟนรุ่นใหม่ก็ใช้งานได้ดีพอสมควร   รวมถึงโน๊ตบุ๊คที่ติดตัวมันเสมอก็เลยทำให้

ทำงานสะดวกมากขึ้นไปอีก  ผมยื่นกุญแจรถยนต์ให้ไอ้หล่อวันนี้ขับรถทั้งวัน  อดอาหารทั้งวัน  ตามน้องต้อยๆ ทั้งวัน หึหึ

เหนื่อยเหมือนกัน  และจะทำงานอย่างอื่นต่อด้วยแหล่ะ 

“พรุ่งนี้มึงไปคนเดียวแล้วกัน”

“อ้าว.....แล้วมึงไม่ไปกับกุเหรอว่ะ”

“ไม่ได้ว่ะ  พรุ่งนี้กุมีธุระ  กุต้องไปหาคุณลุงพลรภไง  ก็ที่น้องเค้าทำงานด้วยน่ะแหล่ะ  กุจะได้หาทางวานแผนกับลุงก่อน

ส่วนมึง  ก็ติดตามน้องไปเรื่อยๆ แล้วกัน จะได้แน่ใจว่าน้องไม่ได้มีใครจริงๆ  แล้วค่อยเดินหน้าขอคืนดี เข้าใจป่ะ”

ไอ้ซันยิ้ม ...... มันมองหน้าผมตอบ  สายตามันที่บอกมาว่าขอบคุณ  .... เหมือนมีคำพูดมากมาย

“ขอบใจมึงจริงๆ ว่ะแทน  ถ้าไม่มีมึงกุก็ไม่รู้จะหาน้องเจอรึเปล่าเลย  ขอบใจ”  มันบอก

“กุขอ 500”  ผมบอกยักคิ้วบอกมัน  ไอ้ซันมันยิ้มขำ ก่อนจะต่อปากต่อคำกับผม

“น้อยว่ะ กุให้ 5000 บาทขาดตัว”  มันยักคิ้วตอบ  เอาดิมึงกวนมา  กุจะกวนกลับ  ฮ่าๆ

“5000 บาทอ่ะ กุไม่เอาหรอกโว้ย  ขอแค่ 500ล้านบาทอ่ะ  มึงพอจะจ่ายไหวมั้ย ” ผมยิ้มกว้าง เตะแม่งที ,,,,, หน้ามันดูกวนตีน

ไอ้ซันหัวเราะ กร๊ากกกก ๆๆ  เตะผมตอบ

“โห...  ไอ้ห่านี่ได้คืบเอาศอก  เอางี้กุต่อ กุให้ 5000 กับหาเมียให้คนเอามั้ยวะ แต่ค่าสินสอดมึงไปหาเองล่ะกัน” ไอ้นี่สันดานมากครับ

เอาเรื่องแบบนี้มาต่อรองกับหมอแทนสุดหล่อ  พ่อรวย  เป็นว่าที่ผู้สืบทอดกิจการโรงพยาบาล สาวๆ นี่วิ่งหาตรึม (ถึงจะน้อยกว่ามัน)

รู้ถึงขนาดนี้แล้วมึงยังกล้าเอาเรื่องเมียมาต่อรองกะกุอีกเหรอว่ะ  ผมส่ายหน้าขบขัน แล้วหันไปมองหน้าไอ้เพื่อนรักจริงจัง

“เชี่ย  มึงพูดมาได้นะ  เออ......กุเอา  หามาให้ถูกใจกุหล่ะ  ถ้าไม่ถูกใจ ต้องยกน้องไนท์ให้กุ”  ผมหัวเราะตอบ

“สัด ฝันไปเถอะมึง ....ไม่ถูกใจก็เรื่องของมึงอ่ะ  แต่ไม่ยกน้องให้เว่ย  ฮ่าๆ ”  ไอ้ซันว่า  (ไม่ใช่ยี่ห้อก๊อกน้ำนะตัวเอง)

แล้ววิ่งหนีเข้าห้องไป  ผมยืนส่ายหน้าอยู่สักพัก.....  แล้วก็ปิดประตูเข้าห้องตัวเองบ้าง เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

อยาก...................อาบน้ำใจจะขาด  (คึคึ  รู้นะว่าคิดอะไรอยู่)  หลังจากทำความสะอาดร่างกายแล้ว ผมก็ล้มตัวลงนอน

พรุ่งนี้คงต้องขอให้คุณลุงพลรภช่วยซะแล้ว  เรื่องที่มันจองห้องพักไว้เป็นสัปดาห์ผมก็พอรู้ ไอ้ผมเป็นหมอจะหยุดทั้งสัปดาห์

ก็หาได้ไม่วิ่งลอกกันกรุงเทพ-ชลบุรีเป็นว่าเล่น แถมยังเข้าไปหาเลขาคนสวยของไอ้ซันเพื่อรับเอกสารมาให้มันเซ็นต์  และต้อง

เอาไปส่งกลับให้ด้วย คล้าย ๆ ตัวเองเป็นเด็กส่งเอกสารก็ไม่ปาน  อาทิตย์นี้ผมกลับกรุงเทพมาสามวันแล้ว ไปๆ กลับๆ

และก็แอบตัดต่อคลิปภาพ ประกอบเพลงอะไรมากมาก  ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้ว

.

.

.


ไอ้ซันตามน้องจากที่ทำงานไปบ้าน รอจนน้องนอนค่อยกลับทุกวัน แอบเฝ้ามองน้องอยู่ห่างๆ โดยมีคุณลุงพลรภ ให้ความช่วยเหลือ

ไอ้ซันเลยเข้านอกออกในบริษัทได้อย่างสบาย แถมปลอมตัวเป็นพนักงานบริษัทซะเฉยๆ วิกมั่ง แว่นมั่งกลายเป็นที่ปรึกษาของ

บริษัทลุงกุซะงั้น  ..... อดทนจริง ๆ มึง   เท่าที่ทราบน้องอยู่คนเดียวตลอดไม่ได้คบหากับใคร  คนที่ทำงานก็มีจีบน้องบ้างแต่น้อง

ก็วางตัวดีซะจนคนที่จีบต้องล่าถอยไปเอง  เป็นอย่างนี้ไอ้เพื่อนซี้ของผมยิ่งดีใจ  หายใจหายคอคล่องกันเลยทีเดียว

มันโทรมาเล่าตลอดน้องทำงานเก่งอย่างนั้น  น้องวางตัวดีอย่างนี้  ขนาดผมที่ชอบ ๆ น้องอยู่นะเนี่ย  ฟังมันเพ้อซะจนรำคาญ

แต่ก็ต้องฟัง  มันดูมีความสุขมากตอนที่เล่าเรื่องต่างๆ ของน้อง  มันแอบมอง.....อยู่ห่างๆ แต่ไม่เคยเข้าใกล้ 

เมื่อมันมั่นใจแล้ว......ว่าน้องไม่มีใคร

.

.

.

ผมก็คิดว่า  ควรจะถึงเวลา..................เปิดตัวสักที    ถึงเวลาแล้วที่ไอ้ซันจะทวงน้องกลับคืน  ลองถามหาหัวใจ

ว่ายังมีเหลือเยื่อใยต่อกันมั้ย  ถ้าหากตรงกันแล้ว......ก็ไม่รู้จะเสียเวลาหลบหนีกันทำไม  กลับมายืนที่เดิม  ที่ๆ เคยอยู่

คงจะดีมากๆ ถ้าผมได้เห็น  สองคนนี้.....กลับมารักกันเช่นเดิม   ผมรักน้อง....และยังอยากเห็นน้องมีความสุข

รอยยิ้ม....... แบบที่มีความสุขจนเอ่อล้น  น้องไม่เคยยิ้มแบบนั้นกับใคร...... ผมเคยเห็นแต่น้องยิ้มกับไอ้ซัน

ยังจำได้ดีทั้งสีหน้าแววตา  โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยที่สนแต่ไอ้คนตรงหน้า จนเผลอยิ้ม.....รอยยิ้มที่หวานกินใจ

น้องไม่รู้สักนิด.....ตั้งแต่วันนั้น  ใจผมถึงได้เผลอไผลหลงไหลในตัวน้อง  ไม่ใช่หน้าตา...แต่ผมศรัทธา

ในความรู้สึกของน้องที่ “รักมั่น”  ในตัวไอ้ซันทั้งที่เจ็บปวดมากมายขนาดนั้น แต่ดวงตาคู่นั้นกลับมองแต่ไอ้ซัน 

นั่นแหล่ะ  .......คือสิ่งที่ผมหลงไหล   อาจจะดูเพ้อฝันไปหน่อย  .....  ผมเองก็อยากมีใครสักคน  ที่มองมาตรงนี้

มองมาที่ผม.......ด้วยสายตาที่ “รักมั่น”  ไม่เสื่อมคลายเช่นกัน

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
พี่ไนท์ก็เนียนจริงๆ นะ  :laugh:

หวังว่าตอนหน้าคงเปิดตัวแล้วนะ  :z2:

รอตอนต่อไปนะครับ  o13

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
จัดคู่ให้หมอแทนด่วนนน

พ่อพระรองเกาหลี  :กอด1:

ออฟไลน์ nutsumi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-0
ลุ้นๆๆๆค่ะ

สู้ๆนะค่ะพี่ซัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
มีอีกคู่ไหมหนอ

popup2u

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:

รอตอนหน้าค่ะ

pronpailin

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: อยากให้น้อง มีคนดูใจชั่วคราว ก่อน จัง

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
แทนเป็นเพื่อนที่ดีนะเนี่ย

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
คว่ำชามมาม่า~2

นึกถึงวันแรกที่ผมเจอน้องตอนนั้นผมปลอมตัวเป็นที่ปรึกษาของคุณลุงพลรภ..... แน่นอนคุณลุงรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว

เรื่องที่ผมกับน้องเป็นอะไรกัน  น้องมองหน้าผมแบบแปลกใจดวงตาเบิกกว้าง  จ้องมองมาที่ผมตาไม่กระพริบ

ผมอมยิ้มนิดๆ เก็บอาการแทบแย่ทั้งที่ดีใจสุดๆอยากจะกอดคนตรงหน้า  แล้วน้องก็กระพริบตางงๆ  จ้องผมอีกครั้ง

ตอนนี้ผมใส่วิกผมหน้าม้า ใส่คอนแทคเลนตาสีฟ้าอมเทา แล้วยังจะแว่นหนาเตอะ ให้สมเป็นที่ปรึกษา ผมพูดไทยคำฝรั่งคำ

มันยิ่งทำให้ผมเหมือนพวกฝรั่งมากขึ้น  และน้องรู้ดีว่าผมเกลียดการใส่คอนแทคเลนส์ยิ่งกว่าอะไร ดังนั้นสายตาที่มองมา

แม้จะสงสัยแต่ก็คงไม่แน่ใจนัก   เป็นวันเดียวที่ได้ใกล้ชิดน้องขนาดนี้ ที่เหลือก็ได้แต่แอบมองน้องอยู่ห่าง  งานของน้องยุ่งมาก

ผมเห็นความสามารถหลากหลายที่ไม่เคยเห็น  แต่ก็ใช่จะเหนือการคาดเดา...น้องเก่ง  บ้างครั้งงานยุ่งจนเห็นน้องวิ่งไปวิ่งมา

ตามล่าตรวจงานกับแผนกอื่น เหงื่อไหลละหน้าหน้าสวย ยิ่งทำให้หน้ามอง  ปากอิ่มแดงระเรื่อเผยอหน่อยๆ น่าจูบยิ่งนัก

ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ  อยากเข้าไปดึงน้องเข้าซอกตึกมุมใดมุมหนึ่ง แล้วจุมพิศปากหวานของอีกฝ่ายลงโทษที่ทำให้ผม

คิดถึง....แทบตาย  แต่.....ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น   ตอนนี้ก็คงทำได้แค่มอง  สักพักก็เห็นใครอีกคนที่คอยตามก้อร่อก้อติดน้อง

ไอ้คนนี้ไม่ว่าน้องไล่เท่าไหร่ก็ไม่เคยไป  มันทั้งจีบทั้งตาม   ดีแต่ยังไม่ทำอะไรเท่านั้น  แต่วันนี้มันมาแปลกผมเห็นมันดึงแขนน้อง

น้องก็กระชากแขนกลับแต่ไม่หลุดก็ไอ้นั่นมันตัวใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด  ยื้อยุดฉุดกระชากกันเป็นเวลานาน....

กลายเป็นผมเองที่ทนไม่ไหว ยังไงไอ้แทนก็บอกว่าพรุ่งนี้วางแผนจะเปิดตัวอยู่แล้ว.....งั้นวันนี้ทำไรอย่าได้แคร์  น้องกับมัน

ยังดึงกันไปดึงกันมาอยู่อย่างนั้น จนผมเดินไปถึง. ผมผลักมันออกอย่างแรง ทั้งน้องทั้งมันหันมามองหน้าผม  กับมันคงงงว่าผม

มาเสือกอะไร  สำหรับน้อง......น้องก็คงคาดไม่ถึงว่าคนที่ไม่รู้จักมักจี่ยังจะกล้ายื่นมือเข้ามายุ่ง.....   เพราะผู้ชายตรงหน้า....

นายคมกริชผู้จัดการฝ่ายบุคคลทั้งหล่อทั้งเท่ห์ที่สำคัญเส้นใหญ่พอตัว..... แต่ใครจะสนหล่ะ มายุ่งกะของกุ

“ยุ่งอะไรด้วยไม่ทราบ เรื่องของชาวบ้านอย่ายุ่งได้มั้ยครับ”  ไอ้คมกริชเลิกคิ้วถามอย่างหาเรื่อง หน้าตาท่าทางพร้อมจะต่อยผม

อยู่รอมร่อ  แต่ถามว่าใครกลัวมันหล่ะ  ผมยกยิ้มยักคิ้วตอบกวน ๆ อย่างไม่หยี่หระ

“จะยุ่งอ่ะ  มีปัญหาไรมั้ยครับ.....ของของผมไม่ยุ่งได้ไง”  ตอนโมโหดันลืมตัวพูดไทยซะชัดแจ๋ว  น้องเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

ประมาณว่า “ผมไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่”  ผมเห็นสายตานั้นแล้วถอนหายใจยาวยืด   ก่อนจะดึงวิกออก

พร้อมกับถอดแว่นเก็บ น้องตาค้างมองผมอย่างมึนงงเข้าไปอีก

“พี่ซัน”  เสียงเอ่ยแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน  ริมฝีปากน้องขบกันแน่น คิ้วขมวดเป็นเส้นตรง ก่อนจะสบัดหน้าหนีอย่างไม่ใยดี 

ไอ้คมกริชมันมองน้องที มองผมที น้องก็ไม่ได้พูดอะไร  ผมเห็นมันโมโหจนหน้าแดงกล่ำ ท่าทางมันจะตามจีบน้องตลอด 2เดือน

แล้ววันดีคืนดี ....เจ้าของน้องก็โผล่มาซะงั้น  มันหันมาทำหน้าเซ็งอย่างเหลืออด  ก่อนจะสบถคำเฮงซวยแล้วเดินหนีไป

“มีผัวแล้วก็ไม่บอก”   น้องหันไปมองตามหลังไอ้คมกริช ถอนหายใจอย่างโล่งอก  แล้วหันมามองผมอีกที  ก่อนจะหันหลัง

เตรียมจะชิ่งหนีผมอีกคน   ไม่ได้การแล้ว.....ปล่อยไปไม่ได้แล้วตอนนี้   ท่าทางน้องโกรธผมเอาเรื่องเหมือนกัน  ผมเอื้อมมือ

ไปฉุดแขนน้องไว้  ไม่ให้เดินหนี

“ไนท์”  ผมเรียก  ดึงน้องให้หันมาเผชิญหน้า  น้องขมวดคิ้วมุ่น พยายามขืนตัวจากการดึงของผม

“ขอโทษครับ คุณคงจำคนผิดแล้ว  ผมไม่รู้จักคุณ”  น้องว่าสะบัดแขนหลุดจากมือผม เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

ผมวิ่งไปดักหน้า น้องชะงักกึก

“พี่ขอโทษ...ยกโทษให้พี่นะ  จะให้ทำอะไรพี่ยอมทั้งนั้น  ขอแค่ไนท์ให้อภัยพี่ ....นะ...นะครับ”  ผมเว้าวอนเต็มที่

“เหรอครับ”  น้องหันมามองหน้า  แววตาเรียบเฉย  จนผมเจ็บ...... หรือว่าน้องจะเกลียดผมซะแล้ว

“อะไรพี่ก็ยอมทั้งนั้น   ขอแค่ไนท์เลิกโกรธ เลิกเกลียด  อย่าหนีพี่ก็พอนะครับ”  ผมตอบสิ่งที่ค้างอยู่ในใจ

“ลองคุกเข่าอ้อนวอนสิครับ  เผื่อผมจะจำอะไรได้บ้าง”  น้องว่า คงคิดว่าผมไม่กล้าก็ดูตอนนี้สิจะเที่ยงแล้วพนักงานก็ทยอยลงมา

เพื่อจะไปทานอาหารกลางวัน  เพราะเป็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่านไปยังแคนทีน  น้องยกยิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ 

มองหน้าผม....เหมือนจะถามหาความจริงใจ  เมื่อผมนิ่งเงียบ  แอบเห็นแววตาผิดหวังวูบหนึ่ง..... ก่อนจะค่อย ๆ ถอยห่าง

“พอเถอะครับ....ผมไม่รู้จักคุณ  คุณก็ไม่รู้จักผม ให้มันจบแค่นี้เถอะครับ ”  น้องว่า  กำลังจะหนีผมไปอีกครั้ง 

ผมมองด้วยสายตาที่เว้าวอน  ถึงน้องจะสัมผัสมันไม่ได้ก็ตามที  ผมรั้งน้องไว้......และน้องหันมามองด้วยแววตาสงสัย 

คงอยากจะถามว่ายังต้องการอะไรอีกหรือ  ....  ผมก็แค่อยากบอกว่าต้องการ......แค่น้อง  คนเดียวจริงๆ

.

.

.

ผมก้มลงคุกเข่าตรงหน้าน้อง บีบมือน้องเบาๆ จ้องมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายที่ดูจะตกใจในสิ่งที่ผมทำตอนนี้

อยากให้รู้ว่าต่อให้มากกว่านี้.........ผมก็ไหว   ขอแค่น้องยอมใจอ่อน  กระชับมือที่จับมือน้องไว้แน่น 

สบตาอีกฝ่าย.....  และผมเห็นแววตาไหววูบลังเลในตาคู่สวยคู่นั้น   ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองมายังเราทั้งคู่

แต่ผมไม่แคร์แล้ว ..... ขอแค่น้อง   ......ให้อภัยคนเลวๆ อย่างผมบ้างก็พอ

“ไนท์ครับ  ..... จะให้อภัยพี่ซันคนนี้ได้ไหมครับ”  ผมเอ่ยเสียงหนักแน่น  สายตาหลายสิบคู่มองตรงมาที่ผม

ใบหน้าน้องมองไปยังคนรอบกายที่หยุดมองการกระทำของผม แล้วหันมาสบตาผม กระตุกแขนเบาๆ

“ลุกขึ้นเถอะครับ  ไนท์แค่ล้อเล่นไม่นึกว่าผู้บริหารระดับสูงจะกล้าทำจริงๆ”  ผมลุกขึ้นอมยิ้มมุมปาก  น่าที่พี่ทำก็เพื่อไนท์นะ

“ถ้าเพื่อไนท์......ให้พี่ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น  พี่อยากมาทวงหัวใจของพี่คืน ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมาพี่สัญญาจะไม่ทำให้ไนท์

เจ็บปวดเสียใจอีกแล้ว   กลับไปกับพี่นะไนท์”  ผมบอกไปตรงๆ  ผู้คนที่หยุดมองหรือแม้แต่ที่ผ่านไปมา

ซุบซิบกันตลอดทาง แล้วก็เดินจากไป  แต่น้องยังมองผมด้วยคำถาม......คำถามที่ว่าสิ่งที่ผมพูดน่ะจริงไหม 

มันไม่แปลกที่น้องยังลังเล  เพราะสิ่งที่ผมทำกับน้องตลอดเวลาที่ผ่านมามันมากมายจนเกินจะไว้ใจสินะ 

น้องหลับตาลงราวกับพยายามเก็บกลืนความเจ็บร้าวในอดีตที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจไม่ให้โผล่พ้นออกมา  กลืนน้ำลายลงช้าๆ

ก่อนจะถอดหายใจยาวเหยียด เหมือนพยายามจะทำอะไรสักอย่าง  สายตาคู่สวยจ้องหน้าผมนิ่ง  ก่อนจะขยับริมฝีปากเล็กๆนั่น

“ขอบคุณครับสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อไนท์  ไนท์ไม่ได้โกรธเกลียดพี่ซันแล้ว”  น้องยิ้มให้ผม  ประโยคนี้ทำให้หัวใจผมพองโตไปด้วย

ความหวังรอฟังประโยคตอบรับจากปากน้อง รอ........ความหวังที่ริบรี่ให้โชนแสงขึ้นมาอีกครั้ง 

ผมยิ้มกว้าง  ....  อยากจะกอดน้องซะตอนนี้  ตีตราจองเป็นเจ้าของ  ไม่ให้ใครต่อใครมายุ่งกับน้องอีก

“แต่...........พอเถอะครับ   พี่ซันจะทนมองหน้าลูกคนที่ฆ่าพ่อแม่พี่ซันได้เหรอครับ  ความจริงข้อนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนมันได้”

น้องก้มหน้าลง น้ำตาเอ่อคลอเบ้า

“พี่เห็นผม ก็เหมือนเห็นพ่อแม่ผมใช่มั้ยหล่ะ  มันตอกย้ำความเจ็บปวดเดิมๆ ใช่ไหม”  ผมอยากจะบอกว่าไม่ใช่ พี่เลือกแล้วเลือก

ที่จะอยู่กับไนท์  เลือกที่จะลืมอดีต .....  แต่ปากกับหุบฉับ  รอยยิ้มเมื่อสักครู่หายไปแล้ว หัวใจเต้นเร็วราวกับจะฉีกขาด

แต่ไม่ใช่เพราะความดีใจ  มันเป็นความเจ็บปวดต่างหาก

“ให้ทุกอย่างมันจบแค่นี้.......ให้พี่คิดซะว่าน้องไนท์คนนั้นได้ตายไปแล้ว  ขอให้พี่ลืมทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างที่ผ่านมา

ลืมความเครียดแค้นให้หมด....ให้มันจบซะที พี่เองก็เจ็บมามากพอแล้ว  ไนท์....เองก็เหมือนกัน เจ็บจนไม่มีอะไรให้เจ็บแล้ว

งั้นก็ปล่อยให้มันจบนะครับ   แล้วเราเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเองเถอะครับพี่  ไนท์ขอแค่นี้พี่ซันทำให้ไนท์ได้มั้ยครับ” 

ผมเงียบแทบลืมหายใจ  มองคนตรงหน้านิ่ง  มองน้องค่อยๆ แกะมือออกช้า ๆ  แรงที่พยายามรั้งน้องเมื่อกี้มันหายไปไหนไม่รู้

เพราะผมทำร้ายน้องมาเยอะ น้องถึงอยากให้ผมหายไปจากชีวิตสินะ  ดวงตาคู่สวยตอนนี้มันเศร้าอย่างบอกไม่ถูก 

ดวงตาที่เคยมีประกายยิ้มสดใส  เพราะผมสินะถึงเป็นไปได้ขนาดนี้  พูดไม่ออกเลย   น้องแกะมือออกไปแล้ว  แต่ผมดึงน้อง

เข้ามากอดอีก กดจูบเบาๆ ที่หัวทุยๆของอีกฝ่าย ใจแตกสลายอีกแล้ว  ........ มีแต่ประโยคนี้ที่ดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหัว

“ไนท์ขอแค่นี้พี่ซันทำให้ไนท์ได้มั้ยครับ”    ทำได้อยู่แล้ว ถ้าไนท์ต้องการแบบนั้น  เพราะสิ่งที่พี่จะทำให้ไนท์ได้มีแค่นี้

“ได้ครับ.....ถ้ามันเป็นความต้องการของไนท์  ต่อไปพี่จะไม่มาให้เราเห็นหน้าอีกนะคนดี ”  ผมดันน้องออกเบาๆ

กดจูบที่หน้าผากนวลเนียนเพื่อร่ำรา แล้วผละออก  จ้องมองหน้าหวานให้ชุ่มปอดเป็นครั้งสุดท้าย 

“ขอโทษนะ   พี่ขอโทษจริงๆ ”    ผมเอ่ยเสียงแผ่ว   ส่งยิ้มให้น้องครั้งสุดท้าย  ค่อยๆ หันหลังเดินจากไป

ก็บอกแล้ว.........หัวใจที่แตกสลาย    ต่อให้เก็บมาต่อใหม่ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม  ไม่ว่าผมหรือน้อง   ......  ก็คงต้องปล่อยมือ

หันกลับไปไม่ได้แล้ว  ถ้าหันไปมองน้ำตามันคงไหลแบบห้ามไม่อยู่   ให้น้องจำรอยยิ้มพี่ซันไว้นะ .....จำไว้แต่สิ่งดีๆ

.

.

.

ผมกลับมาที่โรงแรม เก็บข้าวของสัมภาระทุกอย่าง  อยากหลบไปเลียแผลใจตัวเองสักพัก  ........  ขับรถตรงไประยอง

หนีไปไกลมากอ่ะ  ชลบุรีระยอง-นั่งเรือข้ามฟากไปเกาเสม็ด  เดินหาที่พักจนได้ที่เป็นส่วนตัวมากๆ ไขกุญแจเข้าไป

ทิ้งสัมภาระทุกอย่างบนเตียงก่อนจะพาตัวออกจากห้อง ไปนั่งริมทะเล ปิดมือถือ ทิ้งหัวใจที่เจ็บร้าวเพราะน้ำมือตัวเอง

ลงทะเล ..............................................  จบแล้วทุกๆ อย่าง  ................

.

.

.

ในที่สุดน้อง...............ก็เลือกที่จะเดินจากไป อีกครั้ง 

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :a5:


เจ็บทั้งคู่....  :z3:


คุณหมอแทนคือความหวังสุดท้ายล่ะนะ.....



ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :z3: :z3:


คว่ำชามมาม่าตรงไหน ใครเก็บ เอา่กินอีกกกกกกกก  :angry2:

tippy

  • บุคคลทั่วไป
:z3: :z3:


คว่ำชามมาม่าตรงไหน ใครเก็บ เอา่กินอีกกกกกกกก  :angry2:


 :m31: เห็นด้วยๆ ต้อแค่นี้ยอมแพ้แล้วหรอ ชิชิ ที่ทำน้องเจ็บตั้งนานน้องยังทนได้เลย :angry2:

ออฟไลน์ Nunun_B2UTY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ม่ายยยยยย   :z3: :z3:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
ใจแข็งเข้าไว้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pronpailin

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: เจ็บปวด อ่ะ  :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
ไนท์เจ็บเพราะซันมามากกกกกกก
โดนแค่นี้ถึงกับถอดใจเลยเหรอซัน
ใจเสาะชะมัดเลย สู้ซิย่ะไหนบอกว่ารักน้อง  :angry2:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เจ็บจี๊ด แทนพี่ซันจริงๆ

ออฟไลน์ nutsumi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-0
เศร้าอีกแล้วอ่า เฮ้อ!

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เศร้ามากมายอะ
 :m15:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

รักที่เลือก ......

ผมมองตามหลังพี่ซันที่ค่อยเดินจากไป  เจ็บ.....ก็ต้องทน พอซะทีความเครียดแค้นชิงชัง ความเจ็บปวดทั้งหลาย

ลืมมันไปให้หมด ณ ตอนนี้  ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น  ความอยากอาหารเมื่อสักครู่หายไปหมดแล้ว  ทั้งที่ตั้งใจจะไปเติมพลัง

ให้ตัวเองแท้ๆ ถึงจะไปตอนนี้ผมก็คงกินอะไรไม่ลงแล้ว  เป็นครั้งแรกเลยที่ไม่อยากพบปะผู้คน  อยากจะหายตัวไปซะจากตรงนี้

สายตานับสิบๆ คู่ที่มองมา  ...... ไม่นึกเลยว่าพี่ซันจะกล้า ผู้ชายที่เหย่อหยิ่ง ผู้บริหารระดับสูง ไม่เคยก้มหัวให้ใคร  จะคุกเข่าลง

ตรงหน้าผม  เพียงแค่ขอร้องให้ผมกลับไป......    แต่......พี่จะทำเพื่ออะไรหล่ะ  ผมไม่เข้าใจเลย มันไม่มีเหตุผลอะไร

ที่ทำให้พี่ยอมลดตัวทำเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีได้ขนาดนี้  คอนแทคเลนส์นั่น ....ทำไมถึงยอมใส่  ทั้งที่เมื่อก่อน

แค่เห็นก็จับขว้างทิ้งแล้วแท้ๆ  ถ้าไม่ใช่เพราะคอนแทคเลนส์นั่นผมคงจะเชื่อแน่ว่าเป็นพี่ซัน  ผมได้แต่ครุ่นคิดวกไปวนมา

หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้  ... ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ   ว่าคนๆ นั้นตองการอะไร 

สุดท้ายผมพาหัวใจที่เจ็บร้าว....ตรงดิ่งไปยังห้องทำงาน ขังตัวเองอยู่เงียบๆ มันไม่พร้อมจะเจอใคร   ก็เมื่อหัวใจมั่นสั่นคอน

ซะขนาดนี้ ........แข็งใจตัดขาดความสัมพันธ์ทุกอย่างของเรา  ไม่ใช่แค่เพื่อผม   แต่เพื่อพี่ซันด้วย  เราเจ็บกันมามากพอแล้ว

ผมทั้งเหนื่อย  ทั้งกลัว และมันก็ควรหยุดซะที   งานตรงหน้าวางกองเป็นตั้ง  ถึงไม่ใช่งานด่วนมาก  แต่ผมก็เลือกที่จะหยิบ

มันมาทำแบบไม่ลืมหูลืมตา เพื่อที่จะเบนความสนใจ  ......ไปจากใครบางคนที่ยิ่งกว่าคิดถึงมานาน  อยากจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้น

เมื่อสักครู่  .....    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ   รู้เพียงแต่ว่าผมยังเปิดแฟ้มเล่มเดิม ......และค้างอยู่หน้าเดิมแบบนั้น

สายตาเหม่อมองเลื่อนลอย  ไม่เห็นแม้จุดหมายปลายทาง  ด่ำดิ่งสู่ภวังที่ตัวเองได้สร้างขึ้น

.

.

.

“กริ๊งงงงงงง...”  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ทำผมตื่นจากภวัง ค่อยๆ เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์

“สวัสดีครับ รัชตะวัน พูดสายครับ”  ผมกรอกเสียงให้เป็นปกติที่สุด ตอนนี้เป็นเวลางานผมไม่ควรจะคิดเรื่องส่วนตัว

“สวัสดีคุณไนท์  ผมพลรภพูดนะ พรุ่งนี้คุณต้องไปไหนรึเปล่าน่ะ  พอดีผมมีเรื่องจะรบกวนคุณสักหน่อย”

“ครับ  พรุ่งนี้ผมไม่ได้ไปไหนครับ  ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรจะให้ผมรับใช้ครับ”

“อืม....  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ  พอดีลูกชายหุ้นส่วนผมเค้าจะจัดงานเลี้ยง  ผมเห็นว่าคุณเคยจับงานประเภทนี้มาก่อน

ก็เลยอยากให้ไปช่วย ๆ ดูแลความเรียบร้อยของงานให้หน่อย  พรุ่งนี้สักช่วยบ่ายๆ ก็ได้ แค่ไปตรวจดูความเรียบร้อยของงานน่ะ

จริงๆ ก็เป็นแค่งานเลี้ยงภายในคนไม่กี่คนหรอก  แต่หลานผมเค้าไม่อยากให้มีข้อผิดพลาด เพราะเชิญผู้ใหญ่มาร่วมงานทั้งนั้น

จริงๆ ก็ตั้งใจไปดูเองอ่ะนะ  แต่ว่าดันติดธุรสำคัญซะก่อน  และผมก็ไม่ไว้ใจใครมากพอ  ก็คงจะต้องเป็นคุณนี่แหล่ะ”

“ได้ครับท่าน  ไม่ทราบว่าสถานที่จัดอยู่ที่ไหนครับ  แล้วรูปแบบของงานนั้นเป็นแบบไหนไม่ทราบครับท่าน”

“จัดที่โรงแรม xxx ห้องจัดเลี้ยงxxx ส่วนรูปแบบของงานก็ไม่มีอะไรมาก แค่ดูเรียบแต่หรูก็เท่านั้น ยังไงก็ขอบใจมากนะคุณไนท์”

“ด้วยความยินดีครับ  ท่านประธาน”    ท่านประธานวางสายไปแล้ว  ผมสูดหายใจแรงๆ  เรียกสติของตัวเองกลับมา

ตะโกนบอกตัวเองในใจ  “ทำงานๆ”  ก่อนจะตบหน้าตัวเองแรง ๆ ไปที  จนหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ  ก่อนจะมุ่งมั่นทำงานต่อไป

.

.

.

สองทุ่มแล้วพนักงานส่วนใหญ่ทยอยกลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงผมกับพนักงานไม่กี่คน  ผมตรงไปยังรถประจำตำแหน่ง

ขับกลับไปที่พัก  ปกติผมจะใช้รถบริษัทแค่จันทร์-ศุกร์เท่านั้น  ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็จะใช้รถสาธารณะ  แม้รถคันที่ว่าจะจอดนิ่ง

อยู่ที่บ้านพักก็ตามที  ไม่นานนักก็ถึงที่พักผมหยิบอาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาเก็บไว้เข้าตู้ไมโครเวฟ  สักพักก็นำมารับประทาน

แม้ใจจริงจะไม่อยากแตะมันสักเท่าไหร่  แต่ร่างกายที่ร้องประท้วงอยุ่ตอนนี้คงรับสภาพไม่ไหว  ตั้งแต่เที่ยงยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง

ผมทานไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ทานเพื่อจะให้ร่างกายรับอาหารได้มากที่สุด  ทานได้ไม่ถึงสิบคำ ... น้ำตามันก็ไหลออกมาดื้อ 

ทั้ง  ๆที่อดทนมาได้ทั้งวันแล้วแท้  พอมันไหล....ผมก็ห้ามไม่ไหวซะอย่างนั้น  ถึงจะสัญญากับตัวเองไว้แล้ว  แต่พอนึกถึงสายตา

คู่นั้นที่มองมาที่ผมอย่างผิดหวัง  ดวงตาเศร้าสร้อยราวกับจะร้องไห้  เหมือนๆ หัวใจคนๆ นั้นได้แตกสลายอยู่ตรงนั้น  ฝืนยิ้ม

ส่งมาให้ผม ไม่บอกก็รู้........ว่าพี่เจ็บขนาดไหน  คุกเข่าทั้งที่.....พี่ไม่เคยแม้จะยอมก้มหัวให้ใคร  นึกถึงวันที่ไปส่งพี่ที่สนามบิน 

“แกจะไม่ก้มกราบผู้มีพระคุณของแกหน่อยเหรอ ที่อุตส่าห์ส่งแกไปเรียนถึงอเมริกา”  พ่อว่า  ยกยิ้มที่มุมปากนิด

พี่ซันที่เริ่มต่อต้านและ กระด้างกระเดื่องเพราะได้รู้ความจริงแล้วนั้น  จ้องหน้าพ่อผมนิ่ง  ......  ไม่มีปฏิกิริยาใด ตอบกลับ

“ถ้าแกไม่ก้มลงกราบแทบเท้าชั้นงามๆ เงินสักแดงชั้นก็จะไม่ให้แกติดตัวไป  ว่าไงหล่ะ  ถึงแกจะไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน

หรือแม้แต่ค่าที่พัก  แต่แกก็จะไม่มีเงินกินข้าวนะรู้ไว้  แต่ถ้าหากแกก้มลงกราบเท้าฉันตอนนี้ เงินก้อนนี้ชั้นจะใจดียกให้แก”

พี่ซันยังยืนนิ่งๆ โดยที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง   ผมที่ร้อนใจ เกาะแขนพ่อแน่น   ตกใจอย่างคาดไม่ถึงที่พ่อทำอย่างนี้

“พ่อครับ  ให้พี่ซันไปเถอะนะ  เรามีเงินตั้งเยอะตั้งแยะ  พ่อจะหวงทำไม”  ผมได้แต่เอ่ยเสียงสั่น  เขย่าแขนพ่อให้เห็นใจ

“อย่ายุ่งไม่ใช่เรื่องของแก  ชั้นจะดัดนิสัยไอ้คนไม่รู้จักบุญคุณคน”  พ่อตวาดลั่น  ผมเห็นพี่ซันกัดฟันแน่น ก่อนจะลากกระเป๋า

หันหลังแล้วเดินหนีเข้าไปยังส่วน ตม.  ผมรู้แค่ว่าพี่ซันมีเงินติดตัวไม่มาก  อาจจะแค่ 2-3 หมื่นบาทไทย  แต่นั่นไม่ก็พอที่จะใช้

ชีวิตอยู่ที่อเมริกา  สำหรับ 3-4 ปี แน่นอน  พี่ซันทำงานพิเศษทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น สำหรับพี่ซันต่อให้ตายก็คง

ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเรื่องนี้ผมรู้ดี   นั่นยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจ.....เพราะอะไรพี่ถึงทำแบบนั้น ในเมื่อผมไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย

.

.

.

เช้าอีกวันผมไปทำงานตามปกติ  ไปถึงก็ตรงดิ่งเข้าห้องเลยไม่อยากสนใจสายตานับสิบๆ คู่ที่มองมา ผมไม่อยากใส่ใจ

รีบเข้าไปเคลียร์งานที่ยังค้างอยู่  เพราะช่วงบ่ายต้องไปดูงานที่โรงแรมต่อตามที่คุณพลรภท่านขอร้องมา  ทำงานไปสักพัก

ยุ่งจนไม่มีเวลาสนใจอะไร  แม้จะมีเรื่องค้างในใจ แต่ผมก็แกล้งลืม  ก้มมองนาฬิกา บอกเวลา บ่ายโมงยังไม่ทันแตะเข้าเที่ยง

ด้วยซ้ำ ผมตัดสินใจไปหาอะไรทานข้างนอก เป็นห่วงเรื่องงานที่โรงแรมจะไม่เรียบร้อยด้วย และผมก็ยังไม่อยากเจอะเจอใคร

ในตอนนี้  ตรงดิ่งลงมาที่รถ พนักงานเข้างานเรียบร้อยตรงทางเดินถึงโล่งขนาดนี้ ผมเดินตรงไปเรื่อย กำลังจะเลี้ยวไปยังลาน

จอดรถ ก็ต้องชะงัก......  คุณคมกริชยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงประตูทางออก สายตาที่มองมาที่ผมทั้งดูแคลน และแค้นเคือง

ก็คงจะเป็นเรื่องเมื่อวานนี้  แต่ก็มองอยู่แค่พักหนึ่งก่อนจะสะบัดหน้าราวกับไม่อยากพบอยากเจอผมอีกแล้วในชีวิตนี้

จากนั้นก็ค่อยถอยห่างเดินเลี่ยงไปอีกทาง  ผมถอนหายใจพลางโล่งอก 2 เดือนที่ผ่านมาโดนตามทุกฝีก้าว ดีที่ไม่ตามไปถึงที่พัก

ด้วย  คุณคมกริชเป็นหลานของผู้จัดการคุณอลงกรณ์  เลยทำให้ทุกคนเกรงใจเพราะท่านเป็นคนที่นับน่าถือตาและเป็นผู้ใหญ่

ใจดีท่านหนึ่งเลยทีเดียว เสียแต่หลานชายออกจะเกเรไปสักหน่อยเท่านั้นเอง  ผมตรงดิ่งไปที่รถ  ขับออกมาอย่างรวดเร็ว

ตรงดิ่งไปที่โรงแรมดังกล่าว  ไม่ถึงชั่วโมงผมก็มาถึงที่หมาย... แต่ก่อนถึงเลยแวะทานอาหารกลางวันตามร้านแถวๆ นั้นดู

อร่อยได้ที่เลยที่เดียว  จากนั้นค่อยขับรถไปที่โรงแรม  บ่ายสองนิดหน่อยผมรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงฟร้อนท์ มีเจ้าหน้าที่ตรงมา

เชิญผมไปตรวจงานที่ห้องจัดเลี้ยง  ผมสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ว่าจัดเตรียมสถานที่ไปถึงไหนก็ได้รับคำตอบว่าเรียบร้อยดี

พอผมเปิดประตูเข้ามาก็ต้องอึ้งไปเลย ห้องไม่กว้างมากนักน่าจะเหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยง หรือ สัมมนาสำหรับ 10-20 คน

ภายในห้องฉาบด้วยสีเหลืองทองอร่าม  ด้านบนเวทีมีจอสีขาวสำหรับฉายภาพ โปรเจคเตอร์ไม่ใหญ่มากนัก

แต่ที่ทำผมตกใจคือ  ดอกลิลลี่นับร้อยดอกถูกจัดเรียงอย่างสวยงามทั่วทั้งห้อง ไม่แน่ใจว่าเหมาะหรือเปล่า

ที่ใช้ดอกลิลลี่  แต่แน่นอนผมชอบมาก  เพราะมันเป็นดอกไม้ที่ผมชอบที่สุด ในบรรดาอกไม้ทั้งมวล ขาวสะอาด และดูจริงใจ

ผมเดินเข้าไปใกล้มวลหมู่ดอกไม้  เผลอไผลสัมผัสและสูดดมกลิ่นหอมที่ยวลใจ  ไล้สายตามองอย่างอ้อยอิ่ง  รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

แต่อดแปลกใจไม่ได้ที่คนจัดงานใช้ดอกลิลลี่ ถึงจะจัดได้อย่างสวยงาม แต่ก้านที่ยื่นระโยงระยางนี้ถ้าคนจัดไม่เก่งจริง

ผมว่ามันก็อาจเป็นจุดบอดของงานได้เลยทีเดียวที่สำคัญ คนจัดไม่ได้ตัดมันออกมาแต่ทำเป็นซุ้มขนาดใหญ่ กระถางถูกแขวน

เรียงต่อกันเป็นชั้นตรงกลางซุ้ม แล้วยื่นดอกออกมาด้านนอกซุ้มที่เป็นตาข่ายเหล็กห่างๆ จนเป็นพุ่มใหญ่โตสวยงาม 

สุดท้ายผมก็หันไปถามเจ้าหน้าที่

“ทำไมต้องใช้ดอกลิลลี่สีขาวด้วยหล่ะครับ”

“เจ้าของงานระบุมาค่ะว่าต้องเป็นดอกลิลลี่เท่านั้น”  ผมพยักหน้าเข้าใจ เดินมองรอบห้องทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม

แต่ที่แปลกอีกอย่างคือ ทั้งห้องมีโต๊ะวางอยู่เพียงโต๊ะเดียว.......  เก้าอี้เพียงตัวเดียว  ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย

“ทำไมมีแค่โต๊ะกับเก้าอี้อย่างละตัวหล่ะครับ  หรือจะจัดเพิ่มอีกที”

“ไม่ค่ะ  แขกของเราวันนี้มีแค่โต๊ะนี้โต๊ะเดียวค่ะ  รบกวนคุณไนท์ช่วยตรวจสอบภาพที่จะต้องจัดแสดงในงานด้วยนะคะ

เดี๋ยวพี่ต้องไปทำหน้าที่อื่นต่อต้องขอตัวนะคะ  อ้อฯท่างเจ้าของงานย้ำมาว่ายังไงก็ขอให้ตรวจภาพที่ต้องแสดงคืนนี้ให้

ดีๆ นะคะ  เพราะจะผิดพลาดไม่ได้  พี่ขอตัวก่อนนะคะคุณไนท์ ยังไงเรื่องนี้พี่คงตองรบกวนคุณไนท์แล้วหล่ะค่ะ”

เจ้าหน้าที่สาวสวยส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะเดินออกไป ผมพยักหน้ารับก่อนที่ประตูห้องจะปิดสนิทลง  พร้อมกับแสงไฟที่ถูกหรี่ลง

เพื่อให้พร้อมสำหรับดูภาพในโปรเจคเตอร์ที่กำลังจะฉาย  ผมเดินสำรวจมองทั้งห้องอีกครั้ง  ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้เพียงตัวเดียว

ในห้อง นึกถึงความประหลาดของเจ้าของงานที่จัดงานแบบแปลก ๆ เก้าอี้ตัวเดียวน่าจะสำหรับคนเพียงคนเดียว แล้วทำไม

ผมจะต้องมานั่งตรวจสอบภาพอะไรที่ว่าในเมื่อผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นภาพอะไร และมีสิ่งผิดพลาดตรงไหน แปลกที่อยู่ดี ๆ

ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องซะงั้น  จนต้องถอนหายใจยาวๆ เพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียดที่ว่า  มือผมเอื้อมไปกดเปิดการทำงาน

ของเครื่องโปรเจคเตอร์ตรงหน้า  แสงค่อย ๆ สาดส่องไปยังจอสีขาวที่อยู่ตรงหน้า สักพักหน้าจอสีมืดก็ปรากฎขึ้น

อ้อ... ผมลืมกดเล่นบนโน๊ตบุคข้าง ๆ น่ะเอง แค่ขยับเม้าก็ปรากฎหน้าจอที่เหมือนเล่นค้างไว้อยู่แล้ว  ผมกดมันลงไป

มีเสียงเพลงดังขึ้นมาเบาๆ ทำผมใจเต้นไม่น้อย

http://www.youtube.com/watch?v=DFOfSz5gG5E&feature=related

มีเพียงความเดียวดาย กับใจเราดวงเดิมๆ
กับฝันวันเก่าๆ กับเหงาที่ไม่จางไป
มีเพียงดวงดารา กับจันทราที่ลอยไป
ที่รักเราอยู่ห่าง อ้างว้างเริ่มเกาะกินใจ

อยู่ไหนไม่เห็นเธอมานานแล้ว คิดถึงกันบ้างไหม
อยากเห็นหน้าเธออีกสักครั้งหนึ่ง
หวั่นไหวทุกครั้งที่ใจคิดถึง มันทนไม่ค่อยไหว
เมื่อมองไปเห็นหน้าเธออยู่บนฟ้านั่น

เมื่อไรหนอที่เธอจะกลับมา คอยนับวันเวลาเธอจะให้อภัย
โกรธนานไปแล้วหรือเธอจะมีรักใหม่ ดีกันอีกครั้งได้ไหมฉันขอโทษ

อยู่ไหนไม่เห็นเธอมานานแล้ว คิดถึงกันบ้างไหม
อยากเห็นหน้าเธออีกสักครั้งหนึ่ง
หวั่นไหวทุกครั้งที่ใจคิดถึง มันทนไม่ค่อยไหว
เมื่อมองไปเห็นหน้าเธออยู่บนฟ้านั่น

เมื่อไรหนอที่เธอจะกลับมา คอยนับวันเวลาเธอจะให้อภัย
โกรธนานไปแล้วหรือเธอจะมีรักใหม่ ดีกันอีกครั้งได้ไหมฉันขอโทษ

โกรธนานไปแล้วหรือเธอจะมีรักใหม่
ดีกันอีกครั้งได้ไหมฉันขอโทษ
ดีกันอีกครั้งได้ไหมฉันขอโทษ
.

.
มีข้อความปรากฎขึ้นช้าๆ 
“ช่วยดูจนกว่าจะจบ .....ขอแค่นี้ได้ไหม  แค่ช่วยมองเห็น อีกมุมของใครบางคน ที่ไนท์ยังไม่เคยเห็น”

ผมกลืนน้ำลายลงช้าๆ  รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรตีบตันที่ลำคอ

“พี่อาจจะเป็นได้แค่สื่อกลาง ระหว่าง คนสองคน”

“อยากเห็น “คนที่พี่รัก” เค้ากลับมารักกัน ”

“ถ้าดูจบแล้ว.....จะตัดสินใจยังไง  พี่จะไม่ห้ามเลย  ถามแค่ใจตัวเองดูก็พอ”

“ว่าเลือกที่จะรัก  หรือ เลือกที่จะจากไป.........  ให้หัวใจคอยนำทาง” 

ผมอ่านตามข้อความอย่างงุนงง  แต่ก็ตัดสินใจที่จะนั่งดูต่อไป  เมื่อมาถึงขนาดนี้....จะหนีเพื่ออะไรหล่ะ

14.5.55  Time : 18:00
สักพักภาพใครบางคนที่นั่งกอดเข่าริมระเบียง  ดวงตาเหม่อลอย  บนใบหน้ามีหยดน้ำตาเลียดใบหน้าคม เหมือนเป็นถาพถ่าย

แบบต่อเนื่อง สองมือกอดแน่นที่ตุ๊กตาเพนกวินสีดำขาว  ในภาพชี้ไปที่ตุ๊กตาตัวนั้นว่าคือ  ตัวแทนน้องไนท์

ภาพค่อยๆ เล่นต่อเนื่อง เป็นผู้ชายคนเดิมกดจูบที่ริมฝีปากนกเพนกวิ้นตัวเดิมซ้ำ  ๆอยู่อย่างนั้น  เหมือนกับมันเป็นของรักนักหนา 

ก่อนเอามาแนบอก แล้วเหม่อต่อ  ผมกระพริบตาถี่ๆ ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล 

ใครคนนั้นนอนกอดตุ๊กตาแน่นที่โซฟาน่าจะหลับสนิท ห้องนี้ผมจำได้ห้องพี่แทน  แล้วตุ๊กตาหล่นจากมือ ใครคนนั้นควานหา

แล้วไม่เจอ  เลยกลิ้งตัวลงบนพื้น  ควานหาตุ๊กตาตัวที่ว่าอีกครั้งจนเจอ  แล้วนอนกอดตุ๊กตาอยู่อย่างนั้น

มันเป็นภาพจากกล้องวิดิโอที่ถูกตัดเป็นภาพนิ่งมา  ผมนิ่งอึ้งไป......น้ำเหรอ  เค้าคนนั้นมีน้ำตา

10.5.55  Time : 17:00
ภาพใครคนนั้น เหม่อลอยที่ริมระเบียง  กอดตุ๊กตาเพนกวินไว้แน่น แนบอก เหมือนเดิมไม่มีผิด แตกต่างตรงที่ดวงตาที่

เศร้าราวกับสูญเสียของรักไป  สักพัก ภาพใครคนนั้น เมาหลับไม่ได้สติ  ในมือยังจับแก้วเหล้าไว้แน่น  แต่มืออีกข้างกับกอด

ตุ๊กตาบ้าๆ ตัวนั้น  ตุ๊กตาที่พี่ซันซื้อให้วันเกิดผมตอนอายุ 11 ขวบ  ผมเม้มริมฝีปากแน่น  และแล้วมันก็ร่วงลงไปอีกแล้ว

ใครคนนั้น เอื้อมมือคว้าทั้งที่ไม่มีสติ  และแน่นอน เค้ากลิ้งตกจากเก้าอี้ตามเพนกวิ้นไป  โชคยังดีที่พื้นเป็นพรม  ผมเห็นภาพที่

พี่แทนเข้ามาดู แล้วยกมือชูนิ้วโป้งแทนคำว่าปลอดภัยให้กล้อง แม้จะเป็นภาพที่ตัดมาจากวิดิโอ แม้จะเป็นแค่ภาพนิ่ง...

ทำไมพี่ซันต้องทำบ้าอย่างนั้น    ทำไมต้องทำตัวอย่างนั้น  ไนท์...ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นสักหน่อย  ได้โปรดหยุดทีเถอะ

7.5.55  Time : 12:55 
ผู้ชายคนนั้นเขี่ยข้าวในจานไปมา ทั้งที่อาหารยังเหลือเต็มจาน สุดท้ายก็วางช้อนลง  เหม่อมองไปข้างนอกอีกครั้ง

แต่ผมเห็นอะไรรู้มั้ย  เก้าอี้ผู้บริหาร..... มีเก้าอี้อีกตัววางข้างๆ  และบนนั้นมีนกเพนกวินตัวเดิมวางอยู่ มือใครคนนั้น

ลูบหัวเพนกวิ้นตัวที่ว่า    ผมพูดไม่ออกเลย  .......... พี่ซันดึงเพนกวินตัวเดิมมากอดอีกครั้ง  กอดแน่นๆ  หยดน้ำตาพราว

อยู่ข้างแก้มนั่น  สิ่งที่ผมไม่เคยเห็น  พี่ซัน......ไม่เคยร้องไห้สักครั้ง นอกจากวันนั้นวันที่ลุงกับป้าจากไป  ผมสงสารเค้าจับใจ

น้ำตาค่อยซึมไหลเลียดอาบแก้มตัวเอง  กัดริมฝีปากแน่น  ......  ทำไมถึงเจ็บตามไปด้วย


(มีต่อ)

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :กอด1:


กลับไปหาพี่ซันเถอะนะ...

ออฟไลน์ nutsumi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-0
สู้ๆน้าไนท์


ตัดสินใจตามหัวใจตัวเองเลย

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
 :L2:  ตอนหน้าคงหวานกันแล้วใช่มะ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
คราวหน้าให้ ไนท์ ตามหาซันบ้างซิ
มาม่า ต่อไป
 :oo1: :oo1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด