♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430412 ครั้ง)

moonlightjoe

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Teatime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารทิมอ่า ตอนรู้เรื่องคะน้ากับหมอตุล

ทิมแบบออกแนวแบดบอย มั่กๆ

ถ้าเป็นในชีวิตจริงการกระทำของทิมนี่มันผิดถนัดเลยนะเนี่ย

แต่ไมรู้สิ ใจมันเชียร์ทิมให้คะน้าไปแล้ว

สู้ๆน้าทิม!!!

เพราะดูแล้วคะน้าก็รู้สึกดีกับทิมอยู่หรอก คิคิคิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ทิมจะทำอะไรได้ 

หากคะน้ามั่นคง

อยากเห็นน้ำตาคนอวดดีว่ะ  คงสาแก่ใจพิลึก

ปล.  หากแม้คะน้าจะเห็นแววตาที่ "ทอแสงลง" และหากพอจะสัมผัสรับรู้สิ่งที่เจอือยู่ในน้ำเสียงที่แปรเปลี่ยนนั้น

พิมพ์ผิดเปล่า  มันน่าจะ "ยอแสงลง" มากกว่านา  เพราะ คนไทยใช้ ยอ ยอ  เวลาบอกให้วัวเดินช้าๆ ลง 

ส่วนทอนี้มันน่าจะเข้าข่ายทำให้เพิ่มขึ้นมากว่านะ  เช่น ถักทอ  ตะวันทอแสง  อะไรเทือกนั้น

ลองดูๆ

ikin

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ยอมรับว่าเป็นแฟนกับอีกคนซะงั้น เสียใจแทนน้องทิม
หมอสมัยนี้เชื่อใจไม่ได้ อาจจะได้แล้วสังหารเมียตัวเองทิ้งหมกส้วม
เพราะฉะนั้น เราขอร้ายแบบเปิดเผยเหมือนน้องทิมดีฝ่า  :laugh:

ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
 o13 ยกป้ายไฟเชียร์น้องทิมมมมมมม :z2: :z2:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
อ๊าค!!!ย๊าค!!!ซี๊ส!!!โฮก!!!!!!!!!!!!!!
 :z3:
แม่ม คนบ้าอะไร!!!ทำไมหล่อ!!!หล่อเชี่ยๆ!!!//มือสั่น

เสียงทุบฟูกแรงๆ ดังขึ้น คะน้าสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความคิด
เมื่อเหลือบมองดูก็เห็นทิมออกอาการหัวเสียขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
สันกรามนูนขึ้นจนเด่นชัดจากการบดของฟันที่อยู่ด้านใน
เสียงลมหายใจหนักๆ บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
ดวงตาสีทมิฬที่เคยกลอกกลิ้งซุกซน บัดนี้ แข็งกร้าวลุกวาวดุจเปลวไฟ
ที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกสรรพสิ่งให้วอดวายในชั่วพริบตา

โอ๊ย ขบกรามได้หล่อเร้าใจ ฮ๊อตมากอ่ะ  แบบอ่านแล้ว เผากูเลย ยอม!!!!
อ๊าค คนอ่านบ้าไปแล้ว

ตอนคะน้าตอบว่าไปกับแฟนนะ
ทิ้งมือลงบนโต๊ะดังปึกแล้วอ้าปากพะงาบๆเลย ไอ้คะน้าบ้า คะน้าดื้อ คะน้างี่เง่า~~~~
ทิมแม่งโคตรหล่อ แบบพูดมาแต่ละคำ อ๊าค มึงเอาใจกูไปเลย!ทำนองนี้อ่ะคะ!ซี๊ส!!!
15วันนะ15วัน เขาจะอดทนกับ15วัน ทิมทิม เรารู้ว่านายทำได้ตามพูด ขนาด15วิแรกคะน้ายังใจอ่อนยวบตัวอ่อนยาบ แทบจะพลีกายถวายตัวให้(คนอ่านด้วย)แล้วเลย!
ปล.รู้สึกว่าอ่านแล้วจับอะไรไม่ได้นอกจากความหล่อเผาพลาญของทิมทิม...

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ นะครับ ที่แวะมาทักทายกัน
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และคำแนะนำดีๆ นะครับ ตอบคอมเมนต์ก่อนนะ ^ ^


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



@ Rafael มือหนึ่งมาทวงบัลลังค์แชมป์คนแรกอีกแล้ว
โอ้วว่าความรักนั้นทำให้เหล่าแม่ยกตาบอดจริงๆ ฮ่าๆๆ

@ cotone เวรกรรม หมอต้องโดนยัดเข้าคุกแน่ๆ
ข้อหาฆ่าหั่นศพกระต่ายตัวอ้วนๆ ผู้แสนน่ารัก

@ gupalz ฮ่าๆๆ แม่ยกมาแล้ว ใครแฟนคลับเยอะได้เปรียบนะนั่น 555

@ kratoey ยังจะมีคนตามเชียร์อีกเหรอครับนั่น! มันร้ายมากจริงๆ นะฮะ ท่านหัวหน้า!

@ papa_paolo เรามาคืนดีกันนะครับ อย่างอนกันเลยนะ โอ๋ๆๆๆๆ
เดี๋ยวปั่นเรื่องทิมมาให้เยอะๆ เลย ...เยอะพอๆ กับตุลเลย สัญญา 55555

@ arisa_sa เหมือนแม่ยกของทิมบางคนจะเริ่มใจอ่อนกับความน่ารักของตุลล่ะสิ
เรามาเชียร์ตุลกันเถอะครับ น่ารัก นิสัยดี มีเวลาให้ กร๊ากกกกกกก

@ boobooboo หมายถึงโกงสุดยอดใช่หรือเปล่านะครับ 55555

@ fullymoonny นี่ขนาดว่าสงสารกันนะครับเนี่ย!!!!
ถ้าไม่สงสารไม่เอ็นดู ให้คิดดูเลยว่าจะโดนขนาดไหน 5555

@ malula แฟนคลับเริ่มตัดพ้อต่อว่า ขืนชักช้าร่ำไรมีหวังเสียฐาน FC นะเออ

@ vascular งั้นต้องลองอ่านต่ออีกสักตอนนะครับ หวั่นใจแทนทิมจะเสียคะแนนจากแฟนคลับจริงๆ T_T

@ fastation พี่แกคงคิดว่าทั้งหล่อ ทั้งเท่ ทั้งรวยไรงี้ น้องต่ายเรามึนๆ อึ้งๆ เพราะนึกไม่ถึง
อาการนี้ ยังคงต่อเนื่องมาในตอนที่อัพนี้ ส่วนจะออกมารูปแบบไหน ลองอ่านดูนะครับ ^ ^

@ beautifuldead ที่ให้คะน้าเป็นคนเลือกเลขเพราะมีความมั่นใจในตัวเองมากไงครับ
ประมาณว่าเลือกมาสิ เดี๋ยวพี่หล่อจะทำให้ดู 55555 ชั่วเนอะ แต่ไหงแฟนคลับเพียบเลยไม่รู้

@ mur@s@ki เอ๊ะ อ่านดูตอนแรกขึ้นมาเหมือนจะแอบเห็นใจหมอตุลนิดๆ นะ
แต่พอสรุปปิดปุ๊บ โอเค ชัดเจน เปลี่ยน! 555555

@ -west- โอ้ย ให้ตายสิ ชอบคอมเมนต์อันนี้จัง 5555555

@ RoseBullet เกิดมาเป็นคนหล่อ พ่อรวย แถมชอบเอาแต่ใจ มันก็เป็นอย่างนี้ล่ะนะ
แต่เป็นคอมเมนต์ที่อ่านแล้วสับสนดีจังเลยครับ ฮ่าๆๆๆ ก็เหมือนจะเชียร์ทิมนะ
แต่ก็สงสารคุณหมอด้วยในเวลาเดียวกัน เอาเป็นว่ากระสุนกุหลาบต้องอ่านตอนต่อไปนะครับ
อ่านไปอ่านมา จะยิ่งมึนตึ๊บแถมยิ่งสับสนกว่าเดิมเอา 5555555

@ RBG.___ ฮั่นแน่! มีแอบอินตาม ตุลมันน่ารักแต่มันยังไม่ถึงใจเหล่าแฟนๆ เห็นๆ
เจอตาทิมโผล่มาโผล๊ะเดียว ขโมยซีนไปหมดเลย หมอต้องทำใจแล้วล่ะมั๊งเนี่ย ฮ่าๆๆ

@ faratellll 555555 เรามาปั้นทิมให้เป็นซุป’ตาร์กันนะครับ

@ BONE การศึกยังไม่เสร็จ อย่าเพิ่งนับศพทหารเลยนะครับ
ช่วงนี้มันจะมีความแปรปรวนนิดนึง ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วจะเป็นไปทางไหน
ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะคนแต่งมันชอบกั๊กนั่นเอง มีอะไร ไม่บอก
คนอ่านรู้เท่าที่คะน้ารู้ และจะเข้าใจทุกอย่างตามที่คะน้าเข้าใจ
จะว่าไปแต่งไปก็อึดอัดตัวเองเหมือนกัน อยากจะใส่ฉากตั้งหลายฉาก
แต่ไม่ได้ๆๆๆ ตั้งใจไว้แล้ว ต้องอดทน อย่างตอนต่อไปนี่ อ่านแล้วระวังมึนกว่าเดิมนะครับ T_T

@ ikin ขอบคุณมากๆ นะครับสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ พร้อมกับร่วมอินไปพร้อมๆ กัน 555
เนื้อเรื่องไม่ได้เน้นแค่ความรักเพียงอย่างเดียว ถ้าพอแทรกอะไรได้ก็จะแทรกๆ ไปน่ะครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วผมก็ก้อปต้นเรื่องมาจากคนที่เป็นต้นแบบของตุลล่ะครับ
เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขาจะต้องผ่านพ้นไปให้ได้จริงๆ ส่วนทิม ตัวจริงก็วอนแบบนี้ล่ะครับ

@ janamanza สวัสดีครับ ดีใจจังที่มีคนแวะมาอ่านเพิ่มอีกคน แถมออกมาคอมเมนต์ให้ด้วย
ไหนๆ ก็ไหนๆ มาลงเรือกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตลอดรอดฝั่งนะครับ
ไหนๆ ก็เป็นน้องใหม่ ขอสปอยล์ล่วงหน้าเล็กๆ ว่าถ้าชอบทิม อ่านไปสักพักจะมีทีเด็ดครับ 5555

@ ด.ช.อาร์มานี่ นี่คือเหตุผลที่ต้องแยกตอนครับ ตะหงิดๆ ว่าคุณหมอจะโดนขโมยซีนเอา 555

@ bobby_bear ก่อนอื่นต้องขอกล่าวต้อนรับเพื่อนใหม่นะครับ
แล้วก็ขอขอบคุณอย่างแรงๆ สำหรับคอมเมนต์เลยล่ะครับ
อ่านแล้วตกใจ ทำไมมันเหมือนกับมานั่งอยู่ในใจคนแต่งซะงั้น
เรื่องทำไมคะน้าเลือกตุล ตามนั้นเป๊ะๆ แต่ตกไปอีกเรื่องนึง แต่เดี๋ยวก็มีบอกออกมาครับ
เรื่องนิสัยของทิม ก็ตามนั้นเป๊ะๆ เปิดตัวมากขึ้น พูดเก่งขึ้น มีแอบอบอุ่นในทีจริงๆ
เรื่องนี้ยังอีกยาวพอสมควรเลยล่ะครับ แล้วมันก็จะช่วงชิงตำแหน่งพระเอกกันอยู่อย่างนี้ 555
ไม่รู้ว่าที่เก็บรายละเอียดได้เยอะขนาดนี้ เพราะว่าอ่านรวดเดียวหรือเปล่านะ (ตกตะลึงจริงๆ)
อ่านแล้วอยากจะกดบวกเพิ่มแต้มให้ยี่สิบแต้มซะจริงๆ เลยครับ เป๊ะมาก 5555

@ Aksel ตามเชียร์ต่อไปก็ไม่ผิดกติกาครับ หรือวันไหนเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็ไม่ผิดกติกาเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ สาวพม่าที่ถามถึง จัดมาให้แฟนๆ ให้หายคิดถึงกันแล้วนะครับ เขียนไป หัวเราะไป เหนื่อยจริง

@ moonlightjoe แฟนคลับวิศวกรเจ้าเล่ห์ปรากฏโฉมอีกหนึ่งคนแล้วครับ 5555

@ Teatime อันที่จริง ดูเหมือนมันก็เป็นไปตามวัยผสมกับนิสัยอยู่เหมือนกันน่ะครับ
มันก็ต้องมีอาการเหวี่ยงๆ แบบนี้ล่ะนะ ใครบ้างล่ะอยากจะเสียของรักของตัวเองไป
แต่ก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ยังไม่จบง่ายๆ ล่ะครับ คดีนี้ 5555

@ oaw-eang โอย มีคำแนะนำดีๆ มาอีกแล้ว ขอบคุณพี่มากๆ เลยนะครับ จะจำไว้เลย
บางครั้งก็พิมพ์อะไรไปตามความเคยชิน คุ้นหูคำไหนก็พิมพ์ไปน่ะครับ ขอบคุณนะครับๆ ^ ^

@ ikin ขอบคุณที่แวะมาทักอีกรอบนะครับ มาแล้ววววววววววววว 5555

@ 2pmui เอาล่ะสิ แม่ยกทิมเริ่มผนึกกำลังแล้วสิ ตุลเอ้ย ทำดีไปก็เท่านั้นแหละแก 5555
แถมยังโดนตั้งข้อสังสัยว่าจะแอบหั่นศพอะไรพวกนี้เปล่าอีกต่างหาก อยู่ๆ ก็ซวยแบบนี้ ปีชงแน่ๆ

@ boong086 ไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่คิด แล้วคิดดูเถอะครับ นี่พูดออกมาเต็มๆ คะแนนทิมพุ่งพรวดๆ แล้ว

@ rubymoona 555555555555555 เป็นคอมเมนต์ที่สุโค่ยจริงๆ นะครับ ชอบมาก 5555
ในสต็อคที่เขียนไว้มีบรรยายทิมแบบเด็ดขาดกระชากใจกว่านี้เยอะมากเลย
อ่านแล้วจะเป็นไงนะ อยากจะลัดคิวมาลงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเนี่ย คอมเมนต์ตอนนั้นต้องเจ๋งมากแน่ๆ 55


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


คนที่นี่ ส่วนใหญ่ชอบเชียร์มวยรองเหรอเนี่ย คะแนนทิมพุ่งพรวดๆ เลยแฮะ
ตอนต่อไปมาแล้วล่ะครับ สาธุ! ขอให้คะแนนวิศวกรโรคจิตตกลงซะทีเถ๊อออออออ 5555

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
ขอกอดพร้อมกับสวัสดีทุกๆ คนนะครับ อ่านคอมเมนต์แล้วรู้สึกปลาบปลื้มตื้นตันใจ
ตอนที่ 14 นี่ยาวหน่อยนะครับ ตัดสินใจลงรวดเดียว เอาให้อ่านกันให้ตาลายกันไปข้าง
เพราะว่าอย่างเร่งเนื้อหาช่วงประมาณนี้ให้มันผ่านไปเร็วๆ สักหน่อยนั่นเอง

เอาล่ะครับ ใครที่คิดถึงจันทูสุดสวย ตอนนี้คิดว่าพอจะหายคิดถึงกันบ้างล่ะเนอะ ^ ^


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ตอนที่ 14




นับจากวันนั้นก็เป็นเวลาห้าวันแล้ว หากแต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
รอยแผลที่ปากหายสนิทแล้ว โชคดีที่มันเป็นเพียงแผลเล็กๆ ไม่ได้สะดุดตาใครๆ
แต่คะน้าไม่รู้เลยจริงๆ ว่าทิมต้องการอะไรกับการทำตัวเป็นอันธพาลแบบนั้น

...หรือทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่คำขู่ที่ไว้แกล้งกัน หรือมันเป็นก็เป็นเพียงแค่
เกมสนุกๆ ที่มีไว้ใช้การแกล้งหยอกแบบการกระทำแปลกๆ ที่ผ่านมา
...หรือมันก็แค่นิสัยห่ามๆ ของผู้ชายเวลาเอามาเล่นกัน ไม่ถือสาหาความ

จนปัญญาจะคิดอะไรในเวลานี้ให้มากมาย เมื่อทุกอย่างมันยังไม่เกิด
บางที อาจจะเป็นเราเพราะคิดมากไปเองก็ได้ มันคงไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก
ในเมื่อไม่เคยทำอะไรให้โกรธหรือแค้นใจกัน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาทำร้ายกันไม่ใช่เหรอ
ที่สำคัญ กับผู้ชายเหมือนกัน ทิมก็คงไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว




...มันคงไม่เหมือนกับเรา

ตลาดยังคงเงียบแบบหลายๆ วันที่ผ่านมา คนเดินตลาดน้อยจนพ่อค้าแม่ขายนั่งสัปหงกกันแล้วกันเล่า
คุณลูกค้าหายไปไหนกันหมดนะครับ ช่วยมาเดินตลาดกันทีเถอะ ผมเบื่อจะแย่อยู่แล้ว
ยิ่งเวลาว่างยิ่งเยอะก็ยิ่งคิดมาก ยิ่งคิดมากก็ยิ่งเครียด และยิ่งเครียด ...เครียดแบบจัดๆ เลยเมื่อ...

คะน้าเหล่ไปมองหญิงสาววัยขบเผาะในชุดสายเดี่ยวสีบานเย็น ซึ่งตัดกันฉูดฉาด
กับกางเกงสีเขียวมะนาวสะท้อนแสงสั้นเต่อ ผิวสีน้ำผึ้งที่เข้มคล้ำ ...ไม่สิ อันที่จริง
น่าจะเรียกว่าสีน้ำปลาจะดีกว่า วอกจนน่าตกใจด้วยแป้งพม่าที่พอกจนเหลืองอ๋อยทั้งตัว
จันทูหันไปโปรยยิ้มให้กับพ่อค้าแม่ค้าแผงใกล้เคียงราวกับซุป’ตาร์ประจำตลาด

เสียงเฮดังลั่นพร้อมกับเสียงหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหล
เมื่อจันทูยืนเด่นเป็นสง่าแล้วเด้งหน้าเด้งหลังในท่าพิลึกกึกกือ
ได้โปรดอย่าคิดภาพตามเลยครับ เพราะมันเป็นภาพที่ไม่ส่งเสริมจินตนาการใดๆ ทั้งสิ้น
อ้อ... เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรจะมองนะ ไม่สิ! ขอร้องเถอะ อย่ามองเลย

“พอเถอะจันทู อายเค้า” คะน้าเบือนหน้าหนีเมื่อสาวเกาหลี
ที่ไปพลัดเกิดในครรภ์คนพม่าเดินเข้ามาใกล้ แล้วเด้งๆๆๆๆ
โปรดอย่าคิดว่าเป็นหน้าอกหน้าใจเลยนะครับ
ผมหมายถึงหน้าท้องหลามๆ ของจันทูต่างหาก


“โอ๊ปป้า! กำนันสไตล์!!!” จันทูเด้งจนกระเพื่อม

“เอ่อ... เค้าร้องกังนัมสไตล์ไม่ใช่เหรอ” คะน้าเกาหัวแกรกๆ ด้วยความเครียด
ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อจันทูยื่นหน้ามาใกล้ แล้วถลนตาใส่

“กำนันสไตล์!!!!!!” จันทูอ้าปากกว้างราวกับปีศาจพ่นพลัง
แผดเสียงหมื่นเดซิเบลจนขี้หูแทบจะหลุดออกมาเต้น
...โอ้ย ขอกูสามคำเหอะ จันทู



มัน-เหม็น-มาก!!!

ระหว่างที่คะน้าเอามืออุดจมูกยอมขาดใจตายคาที่อยู่นั้น เสียงกริ๊ดก็ดังขึ้นจากมุมตลาด
ไม่บอกก็รู้ว่าหายนะกำลังจะมาเยือนที่แผงของคะน้าแน่ๆ
เมื่อ สายใจ ...หอยใหญ่หอยสด เดินส่ายอาดๆ ส่งเสียงกริ๊ดกร๊าดเข้ามา

“กำนันผู้ใหญ่บ้าน บ้านแกสิอีจันทู หน้าอย่างแกเนี่ย ไปร้องเพลงคันหูไป๊ ทุเรศลูกตา”
ก็ยอมรับว่ามีหลายครั้งที่คะน้าแอบเห็นด้วยกับสายใจเบาๆ
“ทำอะไรที่มีดูอุบาศว์ๆ น้อยกว่านี้หน่อย คนเดินตลาดหายหมดก็เพราะแกนั่นแหละ”

จันทูหยุดเต้นทันที แล้วเดินมามองหน้าสายใจด้วยเซ็ง สาวพม่านัยน์ตา Korea ยื่นหน้ามา
กระทั่งแนบชิดเหมือนกับจะมีเรื่องกัน คะน้ารีบลุกขึ้นมาตั้งท่าจะห้ามทัพ แต่คนอย่างสายใจไม่เคยกลัว!

“มองอะไรยะ ไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ” สายใจเขม่นมองหัวจรดเท้าแล้วทำหน้าแหยงๆ
ยืดอกไซส์บึ้มเป็นไข่ฟูเข้าหาแล้วมองไข่ดาวตะหลิวตบรีดน้ำมันแบบจันทู
ก่อนจะส่ายหน้าแล้วยกนิ้วก็มาดีดเลียนแบบท่าเซเลปคนดังที่เพิ่งเป็นข่าว

“ไหวป่ะ!!!”

ไม่มีอก แต่จันทูก็แอ่นพุงสู้ไม่ถอย! ฆ่าไม่ได้หยามก็ไม่ได้
มีหรือจันทูจะยอมรามือ และทันใดนั้นเอง...





“โอ๊ปป้า! กำนันสไตล์!!!!!!”

คราวนี้จันทูเด้งเหมือนคนโดนไฟช็อต ผมเผ้าที่มัดรวบอยู่สยายออกราวกับคนบ้า
สายใจสะดุ้งเฮือกคล้ายคนโดยอาคมเขมรต้องห้าม! ตั้งท่าจะถอยหนี แต่...


“กำนันสไตล์!!!!!!”


ไส้เดือนโดนขี้เถ้ายังต้องตีไฟเลี้ยว ท่วงท่าปริศนาที่เหมือนระบำบูชาภูติผีพม่าอะไรสักอย่างของจันทู
ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อสภาพจิตแค่เฉพาะสายใจ เพราะแม้แต่คะน้าที่เห็นบ่อยๆ ยังมีอึ้ง ทึ่ง (ไม่)เสียว
...ช่างไม่เหลือเค้าของต้นฉบับเลย เมื่อหันไปมองสายใจก็อดสงสารไม่ได้

สายใจกริ๊ดสะดุ้งตกใจสุดพลังราวกับเห็นผีมาทั้งป่าช้า คะน้าถึงกับเอามือกุมขมับ
ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แม่ค้าหอยทอดสุดสวยกรีดร้องเหมือนคนสติไม่ดี
ถอยกราดด้วยความตกใจ สายใจสุดสวยปากสั่นอุทานด้วยความงันงก


“อีจันทู! ก...กูมีพระนะ!!!!” สายใจหอบสั่น



น่ากลัวยิ่งกว่าพายุแกมี เมื่อเจอกับแกไม่มี(อะไรจะเสีย)กันอีกแล้วแบบสองสาวนี้
และกว่าเหตุการณ์จะสงบลง ก็พาเอาเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่นั่งสัปหงก
ลุกขึ้นมาขำจนปวดท้อง ตีนกาขึ้นมาทักทายราวกับเพื่อนสนิทกันเป็นแถว

...จันทู ...สายใจ อย่าเป็นแม่ค้าเลย เธอสองคนน่าไปจับคู่เล่นตลกคาเฟ่ซะจริงๆ

“ดูสิคะ” ตั้งสติได้ สายใจทำหน้าออเซาะ กวาดสายตามองไปรอบๆ ตลาด
มือไม้เลื้อยเกาะตัวคะน้าเป็นหนวดปลาหมึก “เหงาหงอยมากเลยนะคะพี่คะน้า”
...ฟองน้ำ เอ้ย! หน้าอกหน้าใจเบียดบี้เข้ากับต้นแขนของคะน้าเต็มที่

อีกฝ่ายมีหรือที่จะยอมแพ้ จันทูเบ้ปากแล้วเดินมาเกาะแขนอีกข้างของคะน้า
มีอะไรที่เธอสู้สายใจไม่ได้! ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มองหน้าอกของสายใจ
แล้วสูดลมเข้าปอดให้ลึกที่สุด ...เอามันบดบี้กลับช็อตต่อช็อต



...พุงนะ

“เปนราย หล่อนเถิงเหงาหอย” จันทูทำหน้าสะอิดสะเอียน

“เหงาหงอย!!!!!” สายใจกริ๊ดจนเจ๊เป็ดถึงกับยกมือมาอุดหู
“อีบ้า! อีผีลูกกรอก หอยชั้นไม่เคยเหงาย่ะ อีนี่”
พูดจบก็หันมาสะดุ้งเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายืนอยู่ข้างๆ คะน้า

“ว๊า แย่จัง เค้าพูดไรออกไปม๊ะรู้วววว์” คะน้ามองตาปริบๆ
ชักสงสัยว่า หรือจริงๆ สายใจก็มาจากพม่าเหมือนกัน?

“พอๆๆ อย่าทะเลาะกัน” คะน้าห้ามศึกก่อนจะบานปลายไปไกล
และหลังจากคึกครื้นกันพอเป็นพิธี คะน้าก็หันมาพูดสิ่งที่อยู่ในความคิดมาหลายวัน
“เจ๊เป็ด จริงๆ แล้วฉันก็คิดมานานแล้วนะ อยากทำอะไรให้ตลาดนี่มันดีขึ้นน่ะ
ฉันว่าพวกเราลองมาจัดตั้งกรรมการตลาดกันดีไหม”
คะน้าหันไปถามเจ๊เป็ดที่อยู่คู่กับตลาดแห่งนี้มานาน

“มันคืออะไรวะ ไอ้คะน้า” เจ๊เป็ดถามกลับ
สายใจและจันทูก็หันกลับมาฟังด้วยความสนใจ

“กรรมการตลาดก็คือพ่อแม่พี่น้องชาวตลาดเรานี่แหละ ไม่ได้มีเงินเดือนหรอกนะ
เหมือนอาสาสมัครน่ะแหละ เป็นตัวแทนที่เราเลือกขึ้นมาเพื่อเป็นหูเป็นตา
คอยรับเรื่องต่างๆ จากชาวตลาดของเราแล้วมาปรับปรุงตลาดเราไงจ๊ะ”

“ฟังดูมันก็เข้าท่าดี แต่มันยังไงวะ” เจ๊เป็ดงง

“นั่นสิพี่คะน้า อะไรเหรอจ๊ะ” สายใจก็สงสัยเช่นกัน

คะน้ายิ้มแล้วอธิบายเรื่องเกี่ยวกับระบบต่างๆ ที่เขาซุ่มคิดมาสักพัก
เพื่อพัฒนาตลาดแห่งนี้ให้ดียิ่งขึ้น เหล่าพ่อค้าแม่ขายเริ่มให้ความสนใจ
แล้วเดินมารวมกลุ่มกันฟัง ต่างก็เห็นด้วยและคิดว่าน่าจะทำให้ตลาดกลับมาดูคึกคักได้อีก

นึกถึงภาพวันวานที่เขาและผักกาดวิ่งตามป๋าและแม่เดินตลาดแห่งนี้
ตลาดที่เหมือนกับบ้านหลังที่สอง เหมือนกับสนามเด็กเล่น
และเป็นเหมือนกับโรงเรียนตอนปิดเทอมฤดูร้อน
ป๊ามักจะพามาเขาและผักกาดเดินทักทายเหล่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
ก่อนจะมาหยุดที่แผงเล็กๆ ที่ขายไข่ไก่จากฟาร์ม
มะพร้าวอ่อนจากสวน และไอศกรีมเย็นๆ ฝีมือของแม่

เจ๊เป็ด แม่ค้าขายผักแผงข้างๆ ที่เป็นสาวรุ่นหน้าตาสะสวย
มักจะเดินมาเล่นกับเราสองคนประจำ บางครั้งก็นั่งป้อนไอศกรีมอร่อยๆ ให้เราสองคนกิน
...คนละถ้วยโตๆ เลยล่ะ รู้ไหมว่าไอติมเย็นๆ ของแม่อร่อยกว่าขนมอะไรบนโลกนี้
และตลาดของป๊าก็ดูคึกคักครื้นเครง ไม่มีสักครั้งที่พื้นที่แห่งนี้จะเงียบเหงา


...มีความทรงจำมากมายอยู่ที่นี่

...ป๋าครับ ...แม่ครับ ในเมื่อป๋ากับแม่มอบมันให้กับเจ้ผักกาดและต่ายดูแล
ต่ายจะทำให้ตลาดของป๊ากับแม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
จะต้องมีตลาดแห่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ ให้ได้ จะไม่ทำให้ป๋ากับแม่ผิดหวังครับ

คะน้านิ่งรอฟังความคิดเห็นของเหล่าพ่อค้าแม่ขาย และเป็นไปตาคาด
ทุกอย่างเป็นที่ยอมรับของพี่น้องชาวตลาด ทุกคนเห็นดีเห็นงาม
กับแนวคิดการปรับระบบให้เป็นระเบียบขึ้น แทนที่จะเป็นตลาดสดแบบเดิมๆ
คะน้าภูมิใจกับก้าวเล็กๆ ของการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
จันทูเดินมาใกล้ๆ แล้วส่งยิ้มให้ คะน้าจึงยิ้มตอบอย่างมีความสุข
จันทูแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง ดวงตาเป็นประกายวิ๊งๆ

“หล่ออ่ะ โกดไลค์ ละมาขึ้นอิน รีเลชั่นฉิบกานป่ะ”
ฉิบเหรอ ฉิบหายล่ะสิกู คะน้ารู้สึกขนลุกเกรียว

เย็นวันนั้น ตุลแวะมารับคะน้าที่ตลาดแล้วพาแวะไปทานข้าวเย็น
คะน้าเล่าเรื่องที่ตลาดให้ตุลฟัง แล้วก็เป็นไปตามคาด
จันทูสุดสวยเป็นเรื่องที่เรียกรอยยิ้มได้เสมอ หากแต่คะน้าก็ลอบเห็นใบหน้าที่ครุ่นคิดของตุล
ชายหนุ่มเหมือนมีความคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ...อาจจะเป็นเรื่องงาน
พักหลังๆ ตุลมารับคะน้าช้าลง บางครั้งหนึ่งชั่วโมง บางครั้งก็สองชั่วโมง
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะคะน้ามักมีอะไรให้ทำที่ตลาดเสมอ

“ช่วงนี้งานเครียดๆ เหรอครับ” ตุลยังคงสงบนิ่ง
คิ้วเข้มขมวดจนยุ่งเหยิง จนคะน้าต้องถามย้ำ

“เอ้อ... โทษทีนะอ้วน ตุลคิดอะไรเพลินๆ น่ะ”

“ยังคิดเรื่องบทความที่จะเขียนลง journal เหรอครับ”
คะน้าเอ่ยถามเมื่อเห็นดวงตาที่มองเหม่อของตุล

“อะไรๆ มันมีปัญหานิดหน่อยน่ะ ทั้งเรื่องงาน เรื่องอื่นๆ”

“ถ้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้ ตุลไม่ต้องเกรงใจนะ”
ตุลหันกลับมายิ้มกว้าง ฝ่ามือกว้างขยี้ลงบนผมของคะน้าเบาๆ

“รู้ไหม ว่าอ้วนมักทำให้ตุลลืมเรื่องปัญหาได้อย่างง่ายดาย
เหมือนกับอ้วนทำให้ตุลรู้สึกว่าปัญหามันแค่นี้เอง”
รอยยิ้มที่สดใสของคนที่ใส่แว่นกลับมาอีกแล้ว ตุลสบตาของคะน้าด้วยความสุขที่เต็มเปี่ยม


“แล้วตุลก็จะผ่านพ้นมันไปได้ ...กับอ้วน”

คะน้าก้มหน้างุด ไม่รู้จะพูดอะไรดี การที่มีใครสักคนให้เราได้ดูแล
ช่วยกันแบ่งปันทั้งความทุกข์หรือความสุข มันดีแบบนี้เอง ...นี่ล่ะมั๊งที่เรียกว่าความรัก



“อ้วน... ตุลรักอ้วนนะ”

คะน้าเบือนหน้าไปมองวิวที่นอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเป็นสีดำมืด
บนกลางผืนผ้าสีดำที่กางคลุมโลกทั้งใบไว้นั้น
มีสีเหลืองนวลเป็นวงกลมวงโต ...พระจันทร์มันสวยจังเลยเนอะ

และเมื่อแยกกันที่หน้าห้อง คะน้าก็รู้สึกแปลกใจ
เมื่อทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องไปก็ได้กลิ่นอาหารหอมฉุยมากมาย
จนพาลให้คะน้าที่อิ่มจนพุงจะแตกกลับมารู้สึกหิวได้อีกอย่างน่าประหลาด

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย พี่สาวลุกขึ้นมาทำกับข้าวกินเองเพียบ”
ลองหยิบขึ้นชิม รสชาติช่างอร่อยถูกปากจนน่าตกใจ

“เจ้ทำเองเป็นที่ไหนเล่าต่าย ทำได้แบบนี้ หนุ่มๆ มารุมจีบหัวบันไดไม่แห้งแล้ว”
ผักกาดตอบผู้เป็นน้องชาย “ว่าแต่กินอะไรมาแล้วหรือยังล่ะเรา”

“อื้อ กินแล้ว รู้งี้หอบท้องกลับมากินที่บ้านดีกว่า”
คะน้าวิ่งเข้าไปกอดผักกาดจากทางด้านหลัง

“ไปไกลๆ เลยแก ชั้นเป็นพี่สาว ไม่ใช่แม่ ไม่ต้องเลยๆๆ”

“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่แหละ” คะน้าหอมแก้มผู้เป็นพี่สาวฟอดใหญ่
ผักกาดหัวเราะแล้วพูดถึงอาหารน่าตาน่าทานมากมายที่อยู่ตรงหน้า

“แต่เพื่อนเรานี่ฝีมือดีมากเลยนะ เจ้ล่ะตกใจหมดเลย”

“เพื่อน?”

“อ้าว ก็เพื่อนต่ายน่ะสิ ไม่ได้คุยกันหรอกเหรอ”

“ใครอ่ะ ไม่เห็นรู้อะไรเลย”

“ที่วันก่อนมากินข้าวไง ไม่ใช่หมอข้างห้องเรานะ คนที่ซนแบบลิงล่ะ”

“ห๊ะ?!?!”

“ชื่อทิมใช่ไหม แปลกนะ ท่าทางดูเป็นคุณชายสำอางขนาดนั้น
แต่พออยู่หน้าเตาคล่องแคล่วจนเจ้อายเลยล่ะ”

“ทิมน่ะเหรอ” คะน้าทวนชื่อซ้ำแบบไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูตัวเอง

“เห็นบอกว่าตอนเรียนอยู่เมืองนอกทำกินเองประจำ
แล้วนี่ก็อยู่บ้านคนเดียวก็เลยทำบ่อยๆ ต่ายนี่เป็นเพื่อนประสาอะไร
ก็เห็นบอกว่าจะแวะมาทำให้ต่ายกิน
เนี่ย... เจ้เลยเหลือไว้ให้ ไม่งั้นฟาดเรียบไปหมดแล้ว”

“แล้วอยู่ในห้องเหรอ” คะน้ามองสำรวจทุกอย่างตรงหน้าอีกที
แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยจริงๆ ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของทิม
ลองตักชิมแต่ละจานดูก็ยิ่งแปลกใจ ทั้งหมดไม่ต่างกับ
อาหารจากร้านอาหารชั้นดีเลย ทั้งรสชาติและหน้าตา



“กลับไปแล้ว”

เป็นคำตอบที่หน้าแปลกใจยิ่งกว่า ...ทิมกำลังทำอะไร

ทุกอย่างเหมือนฉากที่เล่นซ้ำเดิมทุกวัน ทิมแวะมาทำอาหารให้กับผักกาดทาน
แล้วขอตัวกลับก่อนที่จะได้เจอะเจอกับคะน้าทุกครั้ง
แม้ว่าผักกาดจะเชื้อเชิญให้อยู่ต่อเพื่อรอเจอยังไงก็ตาม
แต่คำเชิญนั้นก็ดูจะไม่เป็นผลกับผู้ชายที่ชื่อ ...ทิม
...คงไม่ได้คิดจะเอาของกินมาล่อหรอกนะ


เด็กชะมัด! ไม่มีใครหลงกลหรอก

สิบนาทีต่อมา จานอาหารทุกใบบนจานว่างเปล่าด้วยฝีมือของคะน้า
ชายหนุ่มลูบท้องป่องๆ ของตัวเอง ไม่มีอะไรจริงๆนะ แค่รู้สึกเสียดาย ...จริงๆ นะ
แต่ก็รู้สึกนิดๆ ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังได้อ้วนขึ้นแน่ๆ ว่าแล้วก็เรอออกมาเบาๆ

อ๊า... สวรรค์ชัดๆ เลยคะน้า

เข้าวันที่เก้า ตุลโทรมาบอกว่าวันนี้คงมารับไม่ได้ เพราะมีธุระที่ต้องทำ
คะน้ารู้ดีว่าเป็นช่วงเวลาที่เคร่งเครียดสำหรับตุล หลายวันที่ผ่านมา
ตุลมีสีหน้าครุ่นคิดตลอดเวลา ดวงตาเหม่อลอยบ่อยครั้ง ซึ่งคะน้าอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
แต่ความกังวลทั้งหลายก็มลายสิ้นไปอย่างง่ายดาย ในเวลาที่คะน้าชวนคุย
เรื่องตลกๆ ของจันทู หรือเพียงแค่ให้กำลังใจด้วยถ้อยคำสั้นๆ

อาชีพหมอไม่ได้ว่างแบบอาชีพไหนๆ ไหนจะคนไข้ที่ต้องรักษา
สัปดาห์นี้นอกจากมีลงตรวจผู้ป่วยนอกแล้ว ยังมีเคสผ่าตัดใหญ่ๆ
อยู่สองสามเคสตามที่ตุลเล่าให้ฟัง ไหนจะต้องมาเขียนบทความวิชาการอีก
ก็ไม่แปลกเลยที่จะเครียดแบบนั้น วันนี้ทั้งวัน คะน้าจึงง่วนอยู่กับการจัดระบบใหม่
ของตลาดที่ได้พูดคุยกับเหล่าพ่อค้าแม่ขายเมื่อวันก่อน

ผลการจัดตั้งกรรมการแล้วเสร็จลงด้วยดี คณะกรรมการตลาดมีทั้งหมดสิบคน
กระจายไปยังแผงต่างๆ ทั่วทั้งตลาด และเพราะความที่อยู่กับตลาดแห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น
และอัธยาศัยดี เจ๊เป็ดจึงได้รับเลือกเป็นหัวหน้าคณะกรมการตลาด
แผนการแรกหลังจากที่ได้พูดคุยกับทุกแผงในตลาดก็คือ
จะมีการจัดตั้งกิโลสำหรับชั่งอาหารที่กลางตลาด เพื่อให้คนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด
มั่นใจในความยุติธรรม สามารถมาชั่งน้ำหนักของที่ตัวเองซื้อมาได้
นอกจากนี้ก็จะมีการติดตั้งลำโพงเพื่อเป็นเสียงตามสายในตลาด
คอยเปิดเพลงเพราะๆ ทั่วทั้งตลาดทั้งสัน ช่วยให้ตลาดคึกครื้นขึ้น

ช่วงบ่าย จู่ๆ คะน้าก็มีแขกทีเกินความคาดหมายมาปรากฏตัวที่แผง
หมอก้อยในชุดเรียบง่ายมาหาเขาถึงที่ตลาด
สีหน้าที่เฉยเมยกับดวงตาที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ของเธอ
ยังเหมือนกับครั้งก่อนที่คะน้าได้พบเจอไม่ผิดเพี้ยน

“คงไม่ต้องถามว่าหาคุณเจอได้ยังไง พอจะมีเวลาว่างไหมคะ
ดิฉันมีเรื่องอยากจะขอคุยด้วย” ใจจริงคะน้าไม่อยากจะทิ้งแผงไปไหน
แต่เมื่อเห็นสายตาเขม่นของจันทู คะน้าจึงตัดสินใจตามหมอก้อยออกไปอย่างจำใจ

หมอก้อยพาคะน้าเดินไปที่รถของเธอ คะน้ามีสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่
ไม่ใช่เพราะห่วงว่าหมอก้อจะทำอะไรไม่ดี แต่เป็นห่วงแผงที่ทิ้งให้จันทูดูแลคนเดียว
“ไม่ไปไกลหรอกค่ะ ดิฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น” คะน้าจึงจำยอมขึ้นรถแต่โดยดี
หญิงสาวพาคะน้าไปที่ร้านกาแฟหรูในย่านห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลออกไป

“คงทานได้นะคะ” เธอพูดเบาๆ เหมือนคุยกับตัวเอง และโดยไม่รอคำตอบใดๆ
ก้อยก็เดินนำเข้าไปในร้านกาแฟแล้ว เธอสั่งกาแฟปั่นโดยไม่ต้องดูเมนูเครื่องดื่ม
แล้วหันมามองคะน้าที่ยืนข้างๆ สีหน้าปราศจากรอยยิ้มและท่าทีของความเป็นมิตร

“ทานอะไรคะ” เหมือนเป็นคำชวนตามมารยาทมากกว่า คะน้าไม่อยากคิดมาก
พยายามไล่อ่านดูเมนูเครื่องดื่มชื่อแปลกๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทานอะไร

“โห กาแฟอันนี้แพงจัง แก้วละตั้งเกือบสองร้อย” คะน้ารำพึงขึ้นเบาๆ
ตกใจกับราคาเครื่องดื่ม ได้ยินเสียงถอนหายใจของหญิงสาวข้างๆ เบาๆ
ก่อนที่เสียงหวานจะสั่งเครื่องดื่มที่คะน้าเพิ่งบ่นว่าราคาแพงให้กับคะน้า

“ให้ดิฉันเลี้ยงเถอะนะคะ” เธอหันมาสบตาแล้วยิ้มน้อยๆ
แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูแปลกประหลาดเสียจริง เมื่อรับกาแฟนมาแล้ว
หญิงสาวก็เดินนำเข้าไปยังโซฟาที่อยู่ด้านในของร้าน
คะน้าหยิบแก้วของตัวเองแล้วเดินตามไปโดยดี หมอก้อยหยิบกาแฟปั่นขึ้นดื่ม
แล้วนั่งเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร คะน้าก็เลยได้แต่เงียบตาม
พยายามนึกหาเรื่องคุยไม่ให้บรรยากาศอึดอัดเกินไป

“ปกติทานที่ตลาดจนชิน เห็นแบบนี้เลยตกใจน่ะครับ น่าอร่อยดีจัง”
คะน้าหยิบกาแฟขึ้นดื่ม ...ไม่ใช่คอกาแฟ
ลิ้นจระเข้แบบเขาแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างอะไร

“ดิฉันขอถามตรงๆ แล้วกันนะคะ” ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ได้สนใจกับสิ่งที่คะน้าพูดนัก
เธอเปิดบทในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะรู้ในวินาทีต่อมา “คุณเป็นแฟนกับตุลเหรอคะ”

เล่นเอาคะน้าถึงกับอึ้งในความตรงไปตรงมา ชายหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบ
ไม่รู้จะหาคำตอบอย่างไรให้ฟังแล้วดูเหมาะสม
หากแต่ดูเหมือนว่าหมอก้อยจะรู้เรื่องดังกล่าวมาก่อนหน้าอยู่แล้ว

“ตุลเป็นคนเก่งมากนะคะ ในรุ่นเดียวกันเขามีผลงานมากกว่าใคร
ลำพังการต่อสายศัลยศาสตร์ก็ถือว่าเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าอายุรศาสตร์พอสมควรอยู่แล้ว
แต่ตุลถือเป็นมือหนึ่งในรุ่นที่ต่อเฉพาะทางด้านระบบประสาทได้อย่างเก่งกาจ
ไหนจะผลงานด้านวิชาการต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับจาก journal ระดับโลก”
หมอก้อยพูดถึงตุลไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดชะงักไป “เรื่องพวกนี้ คุณคงไม่เข้าใจเท่าไหร่ล่ะมั๊งคะ”

คะน้ากลืนน้ำลายลงอย่างฝืดเคือง รับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่แฝงไว้ในคำพูด
น้ำเสียง หรือแม้แต่ท่าทางของหญิงสาว ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่นิ่งเงียบและรับฟังโดยดี

“ความรักของพวกคุณไม่ใช่สิ่งผิดหรอกค่ะ แต่อยากให้คุณรับรู้ไว้ว่า
การที่มันไม่ผิด ก็ไม่ได้แปลว่ามันถูกต้อง” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
“ตุลเป็นเหมือนกับคนที่รุ่นใหม่ที่แบกรับหน้าตาของโรงพยาบาล
เค้าแบกความคาดหวังเอาไว้มากค่ะ เป็นเหมือนกับหน้าตาที่ต้องดูดี และสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง”

“ถึงแม้ว่าโลกปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ยอมรับเถอะค่ะ
มันก็แค่คำพูดที่สวยหรู ...ที่นี่ประเทศไทยนะคะ ในความเป็นจริงแล้ว
คุณคงไม่อยากให้ตุลที่มีความสามารถ และเพียบพร้อมไปทุกอย่าง”



“...เป็นได้เพียงประชากรชั้นสองในวงการแพทย์”

คะน้าถึงขั้นอึ้งกับสิ่งที่ได้รับฟัง ยอมรับว่าเขาไม่เคยรับรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
ในสายวิชาชีพของตุลแม้แต่น้อย หากแต่เห็นความมุ่งมั่น
ความสามารถที่เต็มเปี่ยมของตุล และเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ...ตุลรักงานที่เขาทำ

“ผมไม่ทราบเรื่องพวกนี้เลยครับ”

“ดิฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่น่ารักมากๆ เลยนะค่ะ
และคุณก็น่าจะเป็นคนที่มีความคิดดีๆ มากๆ คนหนึ่งด้วย”
หมอก้อยเอื้อมมือมาแตะที่แขนของคะน้าเบาๆ

“หากคุณมองว่าดิฉันเป็นมารความสุขของคุณ
อะไรๆ ที่มันกำลังเป็นอยู่ เลวร้ายกว่าสิ่งที่ดิฉันทำลงไปมาก”

คะน้านิ่งเงียบไปพักใหญ่ๆครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ที่ได้รับฟังแล้วชั่งใจ
ก่อนจะตั้งคำถามกลับถึงสิ่งที่เขาไม่อาจหาคำตอบใดๆ ได้
“ผมควรจะทำยังไงครับ” คะน้าสูดลมหายใจเข้าลึก
ก่อนจะระบายความอัดแน่นนั้นออกมาอย่างยากลำบาก



“...เพราะไม่ว่าผมจะทำสิ่งไหน ล้วนเป็นการทำร้ายและทำลายตุลทั้งนั้น”


“คุณนิยามความรักว่ามันเป็นยังไงคะ”

คะน้าครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ของผู้คนมากมายรอบๆ ตัว
แล้วทบทวนหาคำจำกัดความในความรู้สึกของตนเอง
ป๋า แม่ ผักกาด เจ๊เป็ด จันทู สายใจ ตุล หรือแม้แต่ใครๆ

...อะไรคือนิยามความรักที่ตัวเขามอง?

“ความรัก...” คะน้าทวนความคิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา




(ยังเหลืออีกครึ่งนึงนะ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ต่อเลยๆๆๆ)


“ความรัก...” คะน้าทวนความคิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา



“ความรัก ...คือการให้ครับ”

ก้อยยิ้มน้อยๆ แล้วคนแก้วกาแฟ วิปปิ้งครีมสีขาวขุ่นค่อยๆ ละลายตัว
ผสมในน้ำกาแฟที่ปั่นจนเนื้อละเอียดเนียน “โดยหวังผลตอบแทนหรือเปล่าล่ะคะ”

“ไม่ครับ ผมไม่เคยต้องการสิ่งที่ตอบแทน” หญิงสาวหัวเราะร่วนเสียงใส
ดวงตาจ้องมองราวกับฟังเรื่องตลกขบขันมาสดๆ ร้อนๆ

“คงไม่ว่าอะไรนะคะ ถ้าดิฉันจะบอกว่าดิฉันไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพูดเลย”

“คงยากที่จะพิสูจน์ให้คุณเชื่อในสิ่งที่ผมคิดจริงๆ”

“มันไม่ยากเลยค่ะ น่าจะทราบว่าดิฉันหมายถึงอะไร”
หมอก้อยเก็บข้าวของของเธอแล้วลุกขึ้นยืน
“ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกผลประโยชน์ของตัวคุณเอง
หรือว่าผลประโยชน์ของคนที่คุณรักอย่างที่คุณพูด”

คะน้าอึ้งไป ชะงักไปกับสิ่งที่หญิงสาวพูด ควรจะเชื่อสิ่งที่เธอคนนั้นพูดไหม
มันเป็นเรื่องจริง หรือมันเป็นเพียงคำหลอกลวง แม้ว่าเหตุผลต่างๆ นานา
ที่ได้ยินจากปากเธอผู้นั้น ไม่มีข้อใดๆ ที่ฟังดูเป็นเรื่องลวงหลอกเลย


“ถ้าเป็นไปได้ ดิฉันก็หวังว่าจะไม่ได้พบกับคุณอีกต่อไป”

...บางที นี่อาจจะเป็นคำเอ่ยลาในรูปแบบของเธอ



เย็นวันนั้น หลังจากชั่งใจอยู่นาน คะน้าก็ตัดสินใจกดสายโทรหาตุลว่ากำลังจะกลับบ้าน
และถ้าเป็นไปได้ ก็คงจะแอบถามไถ่เรื่องงานของเขาสักหน่อย แล้วลองกลับมาคิดดูอีกครั้ง
หากแต่หมอหนุ่มไม่ได้รับสาย และเมื่อลองกดโทรไปอีกครั้ง เหมือนว่าตุลจะกดปิดเครื่องโทรศัพท์ไปแล้ว
ความรู้สึกบางอย่างบอกคะน้าว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องงานเสียทีเดียว
...บางที มันอาจจะเป็นเรื่องของหญิงสาวที่เขาได้พูดคุยเมื่อตอนกลางวันก็เป็นได้
...อาจจะ ...หรืออาจจะไม่ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร คะน้าก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีกับมันเลย

ตอนค่ำ คะน้าเดินออกมาที่หน้าตลาด ครุ่นคิดเรื่องเกี่ยวกับตุลไปตลอดทาง
เพราะเราหรือเปล่าที่ทำให้ตุลมีปัญหา และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ตุลไม่มีทางที่จะยอมบอกเรื่องพวกนี้จากปากแน่ๆ

...อนาคตการงานของตุล ...สิ่งที่เขารักและภูมิใจ เธอคนนั้นบอกว่าตุลเป็นคนเก่ง
เป็นคนที่มีความสามารถมาก ถ้าเทียบกับคนในวัยเดียวกัน

“สายตาของตุลดีและมือก็นิ่งมาก เขาผ่ากล้องได้เนี๊ยบราวกับเป็น
ศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิบปี ตุลเติบโตในสายอาชีพไวมาก”



แต่ทุกอย่าง ...มันต้องมาหยุดเพราะเราหรือเปล่า?

การจราจรยามเย็นนั้นคลาคล่ำไปด้วยรถรามากมาย ระหว่างที่ยืนรออยู่ที่ริมถนนนั้น
รถยนต์ของทิมที่เพิ่งเลี้ยวออกมาจากตลาดชะลอจอดตามรถคันข้างหน้า
เขามองซ้ายมองขวารอบตัวก็จะหันมาพบกับคะน้าที่ยืนอยู่ตรงนั้น
ทิมนิ่งและมองจ้องที่คะน้าซึ่งยืนอยู่ในระยะห่างแค่ไม่กี่คืบ ...ก่อนจะหันหน้ากลับไป

ไม่มีคำเชื้อเชิญ รอยยิ้ม หรือคำทักทายใดๆ จากคนที่คุ้นเคย



...อันที่จริง เหมือนกับคะน้าไม่มีตัวตนเสียด้วยซ้ำ

น้ำหนักของที่แบกอยู่ในมือเหมือนจะหนักอึ้ง ความรู้สึกแปลกๆ เสียดแทงในใจอย่างบอกไม่ถูก
คล้ายกับอยู่ๆ ร่างกายก็เกิดความเหนื่อยล้าจนไม่อย่างจะทำอะไร
หวิวๆ เหมือนกับตัวเราพร้อมจะโอนเอนหรือล้มลงได้อย่างง่ายดาย

ก็สมควรแล้วที่ทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ มันดีแล้วล่ะกับทุกๆ อย่าง
ทั้งกับตุล ทั้งกับตัวเรา และทั้งกับทิม ก็ในเมื่ออะไรที่มันเป็นไปไม่ได้
ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือ คะน้าก้มหน้านิ่ง ...แสบตา ...แสบใจ

ที่คอนโด อาหารของทิมยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผักกา
ดผู้เป็นพี่สาวแบบเช่นทุกๆ วัน กลิ่นหอมๆ ดูยังไงก็เหมาะสมแล้ว
กับหน้าตาของแต่ละจาน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารสชาติของมันจะอร่อยขนาดไหน

“ต่าย วันนี้กลับบ้านเร็วเหรอ” เสียงของผักกาดดังขึ้นมาจากในครัว
“กินไรมายังน่ะ วันนี้ จ๋อมันจัดเต็มมากๆ”

“อ่อ... อิ่มแล้วล่ะ” คะน้ายิ้มตอบอย่างคนไม่มีแรง ถ้าเป็นเวลาปกติ
ผักกาดคงเอะใจกับความเปลรี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ นี้
แต่อาหารระดับร้านอาหารหรูๆ เบื้องหน้าดึงความสนใจของหญิงสาวไปเสียหมด
เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ผักกาดเงยหน้าขึ้นมา ผู้เป็นน้องชายก็หายตัวไปเสียแล้ว

คะน้าบิดประตูห้องนอนของตัวเอง เปิดออก แล้วเดินเข้าไป
ห้องทั้งห้องมืดมิดและปราศจากแสงไฟ คะน้ายืนสงบนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพัก
ความคิดในสมอง ปั่นป่วนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
...รอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่ถอนหายใจกับตัวเอง มือขวายกขึ้นแล้วกดเปิดสวิตซ์ไฟ
ก่อนจะพลิกตัวหันกลับมา ...ราวกับสองเท้าถูกยึดตรึงให้อยู่กับที่
ด้วยพันธนาการที่แน่นหนา ...ดวงตาสีดำขลับคู่นั้น



ทิมนั่งอยู่บนเตียงของเขา

บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ควรจะเรียกว่าอะไร
โมโห ตกใจ เหนื่อยใจ ...หรือดีใจ เสื้อเชิ้ตสีขาวยับย่นถูกเก็บปลายแขนให้พับขึ้น
สีขาวกระจ่างตัดกับสีน้ำเงินเข้มของกางเกงยีนส์เข้ารูป
กระดุมเม็ดบนถูกคลายออกสบายๆ เผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง
สองมือเหยียดวางไปด้านหลังแล้วถ่ายเทน้ำหนักตัวโน้มอย่างเอกเขนก
รอยยิ้มง่ายๆ แบบที่คุ้นเคยติดอยู่บนใบหน้า ...แต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายเลย

“ทิม... เอ่อ... สบายดีไหม” ไม่รู้ว่าทำไมถึงถามออกไปแบบนั้น

“หายหัวไปไหนซะล่ะ”

“อะไรเหรอ” คะน้าถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ

“เห็นติดกันแจ” อึ้งไปนิดๆ กับคำพูดของทิม
...เห็น ...เห็นอย่างนั้นเหรอ เห็นได้ยังไง?

“ช่วงนี้ เค้ามีธุระยุ่งๆ น่ะ” คะน้าตอบไปตามที่คิด
ทิมเลิกคิ้วสูง ริมฝีปากเหยียดออกอย่างขบขัน

“ธุระที่ว่าคงอยู่ที่ซอกคอขวามั๊ง ถึงไม่กล้าโผล่มาเจอหน้า”

คะน้าหันกลับมามองด้วยความแปลกใจ เหมือนทิมจงใจจะเสียดสี
เรื่องที่ตุลมักมีสาวๆ ในโรงพยาบาลตามติด แต่ทิมรู้ได้ยังไง
อีกอย่างนึง นับตั้งแต่ตอนนั้น ตุลก็ไม่เคยมีร่องรอยใดๆ พวกนี้อีกเลย
เหมือนเขาค่อนข้างจะชัดเจนกับสถานะที่เป็นอยู่ในตอนนี้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว

...หรือว่าเธอคนนั้น




...โกหกอย่างนั้นหรือ?

แต่มัน... เธอคนนั้นจะทำเรื่องแบบนั้นได้จริงๆ เหรอ

เหมือนยืนอยู่บนทางแยกที่ไม่รู้ว่าทางไหนเป็นทางที่ควรเดินหน้าไปต่อ
เป็นทางที่เหี้ยมโหดที่ไม่ว่าจะเลือกทางใด สุดท้ายปลายทางเหมือนจะมีความเจ็บปวดรอคอยอยู่ทั้งคู่
คะน้าถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว คิดไม่ตกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
อย่างน้อย ถ้ามีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับตุลสักครั้ง อาจจะพอช่วยให้เขา
ได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ง่ายขึ้น หากแต่คะน้ายังไม่มีโอกาสเหล่านั้นเลย

“อีกหกวัน” จู่ๆ ทิมก็พูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

คะน้าถอนใจ วกกลับเข้ามาเรื่องของทิม คะน้าไม่เข้าใจเลย
กับสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำอยู่ ทั้งการมาทำอาหารให้พี่สาวเขาทานทุกเย็น
หรือแม้แต่ที่อยู่ก็เฉยชา แล้วอยู่ๆ ก็โผล่ตัวมาพูดจาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้

“ทิม ผมไม่เข้าใจว่าทิมต้องการอะไร กับการเข้ามาทำดีกับเจ้ผักกาด
หรือทำอาหารอะไรพวกนี้” คะน้าพูดด้วยความสับสนและเหนื่อยล้าในใจ
หากแต่คนที่นั่งฟังกลับตอบกลับง่ายๆ ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“เข้าหาทางพี่ ไม่มีอะไรผิดกติกา”

จนปัญญาจะหาความอะไรกับคนที่กวนโทสะ บอกกับตัวเองว่า
จะไม่ต่อล้อต่อเถียงใดๆ กับทิมอีก คะน้าได้แต่นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น
...นิ่งนานหลายนาที แต่แววตาเจ้าเล่ห์และรอยยิ้มยียวนของคนข้างหน้าช่างรบกวนจิตใจ
ยอมรับกับความรู้สึกตนเองว่ายิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจอย่างที่ตัวเอง
ก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากอีกครั้ง

“ต้องการอะไร ผมไม่เข้าใจจริงๆ”

“แค่เตือนความจำ”

ทิมหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืนอย่างเกียจคร้าน
ร่างสูงเดินเข้ามาหาอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดลงที่ตรงหน้าของผู้เป็นเจ้าของห้อง
ดวงตาสีดำลุกวาวเป็นประกาย ก่อนที่เขาจะเดินจากไปโดยไม่มีแม้แต่คำลา

เรื่องราวต่างๆ ประดังประเดเข้ามาในหัวสมอง มากมายจนนอนไม่หลับ
ทั้งเรื่องของตุลที่เธอคนนั้นพูดถึง หรือแม้แต่เรื่องที่ทิมพูดขึ้นมาเกี่ยวกับตุล
หรือแม้แต่คำขู่แปลกๆ ของทิม ...ตุล



...อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมพอจะทำได้สำหรับตุลนะครับ

ป๋าเคยบอกว่าจะคบหา จะเป็นเพื่อน หรือจะทำธุรกิจกับใคร
สิ่งหนึ่งที่เป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ก็คือความไว้ใจ
...ป๋าครับ คนเราจะสามารถเชื่อใจหรือไว้ใจใครสักคนได้มากมายขนาดไหนกันนะ
ยิ่งโดยเฉพาะคนที่เขามีความสำคัญกับความรู้สึกของเรามากมายแบบนี้

พื้นที่สวนในตอนกลางคืนเย็นสบายด้วยสายลมที่พัดเอื่อยตลอดทั้งคืน
ท้องฟ้าสีมืดมิดสว่างไสวไปด้วยแสงดาวที่กระพริบระยิบระยับมากมาย
น่าเสียดายที่พระจันทร์กลับซ่อนกายในเงามืด กระนั้น เสี้ยวเล็กๆ ที่โค้งเป็นวง
ก็ยังสวยงามในความรู้สึกของชายหนุ่มอยู่ดี


ใครคนนั้นที่ฉันเฝ้าฝันจะเจอ
เธอคนนั้นจะได้พบกันวันไหน
ช่วยปลดปล่อยความเหงา ไปจากหัวใจ
หวังเพียงจะพบใคร ให้ใจได้ลืม ความเหงาเสียที...


คะน้าหยุดฮัมเพลงลง ที่ตรงนี้ เป็นที่ที่พบกับตุลเป็นครั้งแรก
เป็นเวลาหลายเดือน นับจากวันนั้นจนกระทั่งมาถึงวันนี้
ไม่ค่อยอยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่เลย
...ผู้ชายคนนั้น ได้กลายมาเป็นคนสำคัญของเขาไปเสียแล้ว

คะน้าเดินกลับขึ้นห้องด้วยคำถามมากมายที่ยังคงดังก้องในใจ
และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำถามเหล่านี้จะได้รับคำตอบที่แท้จริงของมันเสียที
ประตูลิฟท์เปิดออก คะน้าเดินออกมาจากพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้นด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง
เมื่อเลี้ยวตัวออกจากพื้นที่ลิฟต์ ก็ได้ยินเสียงตุลเอ่ยทักขึ้นที่บริเวณหน้าห้องของเขา

“อ้วน ลงไปเดินเล่นมาเหรอ” เขารีบเดินเข้ามาหาและทักทาย
เขาสวมเสื้อยืดคอกลมง่ายๆ กับกางเกงขาสั้นในชุดที่พร้อมนอน
และรอยยิ้มของตุลเหมือนจะทำให้คะน้าคลยความหนักอึ้งในใจลงไปได้อยู่ไม่น้อย

“อื้อ ยังไม่นอนเหรอ”

“ออกมาทิ้งขยะน่ะ วันนี้ตอนที่โทรมาขอโทษทีนะ ตุลกำลังยุ่งๆ อยู่
ว่าจะโทรกลับก็วุ่นจนลืมไปเลย อ้วนกลับบ้านยังไงน่ะ
รู้สึกไม่ดีเลยที่ให้อ้วนต้องกลับบ้านคนเดียว รู้สึกไม่ค่อยดีเลย
ว่าแต่วันนี้ทานอะไรน่ะครับ ทานไปเยอะไหม ระวังอ้วนนะ ฮ่าๆๆ”

ตุลก็ยังเป็นตุลที่เขารู้จัก เป็นชายหนุ่มที่อารมณ์ดีและช่างพูด
หมอหนุ่มรัวคำถามด้วยความเป็นห่วง
หากแต่ในหูคะน้าในเวลานี้ กลับอื้ออึงด้วยสิ่งที่มองเห็นตรงหน้า



...ด้านขวาของคอตุลเป็นรอยแดง

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นร่องรอยของอะไร เหมือนความผิดปกติจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้
หมอหนุ่มค่อยๆ ยกฝ่ามือขึ้นลูบคอตัวเอง ...คล้ายกับจงใจปิดบังมันอย่างเป็นธรรมชาต
 ตุลยังคอชวนคะน้าคุยมากมาย แต่สิ่งที่อีกฝ่ายพอจะทำได้ก็คือยิ้มรับ
แล้วก็เออออไปตามประสา ...ทั้งๆ ที่เหมือนจะฟังถ้อยคำพวกนั้นไม่เข้าใจสักคำ

“สีหน้าดูไม่ดีเลย อ้วนเหนื่อยเหรอ” คะน้าได้แต่ยิ้มตอบ ใจสั่นๆ ยังอึ้งๆ กับสิ่งที่เห็น
และอาการที่ตุลจงใจปกปิดแทนที่จะพูดกันตามความเป็นจริง

...เราเชื่อใจและไว้ใจใครสักคนได้มากมายแค่ไหนกันนะครับป๋า

คะน้าแยกกับตุลด้วยความคิดและคำถามมากมาย สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองก็คือ
ทิมรู้ได้ยังไงว่าที่ร่องรอยพวกนั้นที่ซอกคอด้านขวาของตุล ...บังเอิญ ...หรือว่ารู้จริงๆ?
แล้วใครกันที่สร้างร่องรอยนั้นไว้ที่ลำคอของตุล? ...หมอก้อยอย่างนั้นหรือ?

...อะไรคือความจริง แล้วอะไรคือเรื่องโกหก

คะน้าหยิบการ์ดที่ใช้เข้าห้องของทิมขึ้นมา แล้วตัดสินใจตรงไปที่ลิฟต์อีกครั้ง
กดลิฟต์เปิดออกแล้วเลือกชั้นสูงสุด ลิฟต์ทะยานตัวขึ้นเบื้องสูงอย่างรวดเร็ว
หากแต่เหมือนความเร็วนั้นเหมือนจะยังช้าเกินไป
กว่าคำถามที่ผุดขึ้นมามากมายในใจของคะน้าในตอนนี้

...ดึกแล้ว และไม่สมควรเลยที่วิสาสะขึ้นมารบกวนกับคำถามแปลกๆ ที่ไร้สาระแบบนี้
หากแต่คะน้าก็ไม่รู้จะทำยังไงกับความรู้สึกในตอนนี้ของตัวเองเช่นกัน



...ทิม นายรู้อะไรมา?

ประตูลิฟต์เปิดออก เพนท์เฮาส์ของทิมดูว่างเปล่า มีแสงสลัวๆ เปิดทิ้งไว้
หากแต่ไร้ร่องรอยของผู้เป็นเจ้าของ คะน้ามองสำรวจไปทั่วบริเวณ ไม่พบว่าทิมอยู่ที่ไหน
จิตใจที่ว้าวุ่นค่อยๆ สงบลงเมื่อความงามที่กางฉายอยู่เบื้องหน้านั้น ...งดงามราวกับหยุดลมหายใจ

คะน้าเดินตรงเข้าไปด้านใน ผนังด้านในสุดของห้องตีเป็นกระจกใสตลอดทั้งแนว
แทนที่จะเป็นปูนซีเมนต์ทึบแบบชั้นอื่นๆ ในคอนโด ผ้าม่านสีครีมเนื้อละเอียดถูกมัดไว้หลวมๆ ที่มุมห้อง
เผยให้เห็นทัศนีภาพที่งดงามราวกับภาพวาดที่อยู่เบื้องหน้า ...สวยงามจนเกินบรรยาย

...ตอบความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมถึงต้องร้อนใจแบบนี้
หึ... นี่หรือที่เขาเรียกกันว่าความรัก ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

เพียงครู่เดียว ร่างกายของคะน้าก็ถูกรวบรัดด้วยวงแขนจากด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยอบอวลในบรรยากาศ สัมผัสอุ่นๆ ของร่างกายที่อยู่ด้านหลังนั้นแนบแน่น นุ่มนวล

“จะให้คิดยังไงกับคนที่มาเยือนในเวลาดึกแบบนี้”
เงาสะท้อนในกระจกใสสะท้อนภาพเลือนลางของใบหน้าทิม
ที่ประกบจนแนบชิด ริมฝีปากกระซิบถ้อยคำที่ข้างหู

“ผมขอโทษ” คะน้าเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด “ดึกจริงๆ แต่นายก็ยังไม่นอน”

“...ถ้าบอกว่ารออยู่?” ลมหายใจอุ่นๆ พริ้วพรมอย่างอ้อยอิ่ง ...ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย
ฝืนใจพูดให้ดูเหมือนเข้มแข็งทั้งๆ ที่ในใจปั่นป่วนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุอีกแล้ว

“พูดเหมือนรู้ว่าจะขึ้นมา” พยายามแกะมือที่รัดนั้นออก หากแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
คนที่ยืนด้านหลังหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เข้าใจถึงเหตุผลของคงมาเยือนอย่างแจ่มชัด

“คงเห็นแล้วสินะ จะถามอะไรดีล่ะ”

คะน้าก้มหน้านิ่ง เอ่ยปากถามด้วยเสียงที่สั่นไหว “ใคร ...ใครเหรอทิม หมอก้อยเหรอ”

“ไม่ใช่หรอก”

คะน้าเงยหน้าขึ้น ใจวูบไปกับคำตอบที่ได้รับ หมายความว่าคนอื่น
...หมายความว่าถ้อยคำที่เธอพูดในตอนบ่ายนั้น ทุกๆ คำคือเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ

“ไม่ใช่? แล้วใคร นายรู้ได้ยังไง”

“รู้สิ”

ทิมปล่อยวงแขนที่กอดอยู่ลง คะน้ารีบหันตัวกลับมามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างรีบร้อน

หากเพียงคะน้าจะพอมองเห็นเสี้ยววินาทีแห่งความเปลี่ยนแปลงในแววตาคู่นั้น
ดวงตาสีดำที่ดูเหมือนจะซุกซ่อนความเจ็บปวดไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดภายใน
และเพียงเสี้ยววินาทีนั้น ทุกอย่างก็แปรเปลี่ยนเป็นความกระด้างไร้ความรู้สึกใดๆ
เสียงทุ้มกระแทกเสียงจนกร้าว “รู้ด้วยว่าถูกกดวางสาย รู้ว่ากดปิดโทรศัพท์ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ”



“รู้ได้ไง”

ทิมยิ้มเยาะ มองจ้องคะน้าด้วยสายตาที่เฉยชา


“รู้ ...เพราะผมทำมันเอง”

นับว่าเป็นคำตอบที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกชาไปทั้งร่าง เหมือนกับประสาทการรับรู้ผิดปกติไปชั่วขณะ
แม้ถ้อยคำทุกอย่างจะชัดเจน แต่คะน้าไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองได้ยินคำตอบแบบนั้น
...นี่มันต้องเรื่องโกหกแน่ๆ ทิมโกหก ...โกหกอย่างหน้าตาเฉย ร่างของคะน้าสั่นไหว
รู้สึกปั่นป่วนรุนแรงภายใน ...ไม่จริงหรอก ...ไม่ใช่ ...ไม่มีทาง!

“แล...แล้วคนที่สร้างรอยจูบที่ซอกคอนั่น” คะน้าถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ
ไม่รู้ว่าทำไมถึงถามออกไปเช่นนั้น หากแต่ทิมยังคงนิ่งเฉย
ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองมาที่เขาราวกับคนแปลกหน้าที่คะน้าไม่รู้จัก

“ใคร”

เสียงของคะน้าแหบโหย หากแต่ร่างสูงตรงหน้าก็ยังคงนิ่งเฉย
รอยยิ้มน้อยๆ ยิ้มเยอะขึ้นที่มุมปากราวกับสะใจกับความรู้สึกของอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า



“...ใครเหรอทิม”


ได้โปรดเถอะ ...บอกผม ...บอกผมที
ได้โปรด บอกผมที ...ว่ามันไม่ใช่

...ไม่ใช่อย่างที่ผมคิด



“................”

ภาพนั้นยังคงติดตา ทิมผ่อนลมหายใจอย่างผ่อนคลาย
แววตาคู่นั้นที่จ้องมองเขาด้วยความว่างเปล่า รอยยิ้มที่ดูเหมือนเหยียดเยาะนั้น
ทำให้คะน้ารู้สึกเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก ...และถ้อยคำ
...ถ้อยคำที่ทิมเอ่ยขึ้นมานั้น สร้างความเจ็บปวดในใจของคะน้าจนไม่อาจอธิบาย

“...ใคร”



“ผมเอง”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ช่วงนี้ หากอะไรๆ ดูไม่ค่อยเป็นอย่างที่คาดไว้ ก็อย่าเพิ่งรุมสหบาทาคนแต่งเลยนะครับ
จะว่าไปเรื่องนี้ใครเดาแนวทางถูกหมดเนี่ย ขอปรบมือให้เลยจริงๆ นะ 5555555

เป็นตอนที่ยาวและเครียดนิดนึงนะครับ ฮ่าๆๆ มันต้องมีครบทุกรสสิ จริงไหม  o18

:กอด1: เนียนกอดคุณผู้อ่านที่น่ารักสักที ก่อนจะชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
 o22

อ๊ากกก เอ้าไหงงั้น
อย่าบอกนะว่าขอเปลี่ยนตัวพระเอกนรายเอกกันน่ะ ฮ่าๆ
เป็นงั้นไป
ทิมทำอะไรแล้วตุลย์ทำอะไร
รอมาต่อ แอร๊ยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2012 20:17:02 โดย Rafael »

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
 o22 o22 o22 o22 o22
ช็อค พ่อเจ้าประคุณรุนช่องเกิดมาไม่เคยเจอนิยายที่พระเอกอยากแย่งนายเอกโดยการไปจีบแฟนนายเอกเลย
เซอร์ไพร์ใหญ่มาก  และค้างมาก คือถ้าคนเขียนไม่มาต่อเร็วๆขู่บึ้มบ้าน 555
ปล.สรุปแล้วนายเอกที่แท้จริงของเรื่องนี้คือพี่หมอ ส่วนน้องต่ายคือนายเอกปลอม?? 555+

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อะไรฟระเนี่ย น้องทิมชั้น
อุตส่าห์กะจะเม้นบอกว่า
อิตุลย์ทำเช่นนี้แล้วทิมจะได้
เข้าเสียบง่ายๆ แต่พอมางี้และ
ขอรอตอนหน้า เพื่อความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
 :o :o :o หะ หะห หักมุม เอาจริงดิ อะไรยังไง ทำไมเราอ่านจบแล้ว งง ๆ  ทิมแอบไปมีอะไรกับตุล เพื่อที่จะได้คะน้าคืน สรุปตอนจบเค้าจะอยู่กัน 3 คนบนดวงจันทร์หรอ :a9:  จริงดิ ตุลนี่ ตอนแรกเกลียดทิมนะไปยอมเค้าอีท่าหน๊ายยยยยยยยยยยยยย :m2:

ขอกรีดร้องดังๆ กับตอนนี้ :serius2: :serius2: :serius2:

ขอร้องรีบมาต่อเถ๊อะะะะะะ  ระงมเกรียวกราวพ่อคุณ  อย่างช้าพรุ่งนี้นะ :sad11:  แค่วันนี้จะนอนหลับ ยังรู้สึกว่าช้าไป
 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2012 23:51:52 โดย armmyrine »

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อ้าวเฮ้ย นี่มันคืออารายยยยย ฮวากกก งง ไม่นะ
งงสเตตัสของทุกคนเลย หมอ ทิม ต่าย อาร๊ายยยย


เดียวนะ น้องทิมเป็นพระเอกแน่ๆ น่าจะใช่นะ
แต่นายเอกนี่เริ่มงงละO_o!!! อึ้งแด่วววว

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
ช๊อคอะสรุปทิมชอบหมอหรอ

ไม่ได้ชอบค่ะน้าใช้มะ

 :serius2:หรือยังงัย นี้งงไปหมด

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อึ้งจนเม้นท์ไม่ถูกเลย อืม ก็นะ  o22 o22 o22 ช๊อคไปเลย :z3: :z3:  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

cotone

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ว๊ากกก ฮ่าๆๆๆๆๆ   :a5:
ฮาน้ำตาเล็ด ทิมชอบหมอหรอลูก มันจริงใช่มั้ยยย  :laugh:  :mc4:
ถ้าจริงเราจะได้เชียร์ให้ถูกคู่เสียที ทิม&หมอ  หมอ&ทิม  ได้ทั้งน้านนนน
เอาอิน้องต่ายโยนทิ้งไป โทษฐานใจโลเลดีนัก
แม่ยกไม่ต้องทะเลาะกันและ

หรือจะ 3p มันดี ไม่ต้องเลือก  :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22

ตอนที่ทิมบอกว่าธุระที่ซอกคอขวาก็สังหรณ์ใจแล้ว แต่คิดว่าคงไม่ดริฟท์แหกโค้งแบบนี้หรอก แต่พออ่านจบ...



คุณพระ !!!!!!!!!! #เอามือกุมหัวใจ



อะไรกันนี่ สรุปทิมตุลรึ 5555555555555 ไม่อยากคาดเดาจริงๆ เดี๋ยวมีมาอีกโค้งจะช็อค  :laugh:

ออฟไลน์ DINNDANN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชอบเรื่องนี้มากเลยครับ ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วล่ะ

แอบชอบและเชียร์ทิม มาโดยตลอด

ก็รู้สึกนะว่าคะน้า ลังเล ไม่แน่ใจ  ไม่รู้ใจตัวเอง ทิมเองก็ด้วย

แต่พออ่านไปถึงตอนที่ 12 ตอนคะน้ารับว่า "ครับ" ยอมเป็นแฟนกับตุล

รู้สึกหนึบๆ อึนๆ อยู่ในอกเพราะสงสารทิม จนไม่อยากจะอ่านต่อ

แต่ก็ทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ อ่านจนมาถึงวันนี้ตอนที่ 14

มีความรู้สึกว่า.......









ไม่เข้าใจ!!!!!!!!!!!






ทำไมทิม ถึงทำแบบนี้????????




ผิดหวังอ่า




สงสารคะน้า




ไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลยยยยยยยยยย อธิบายไม่ถูก
แต่เอาเป็นว่า......จะกลับมาอ่านอีกครั้ง เมื่ออะไรมันชัดเจนขึ้นแล้วกันครับ
ไม่อยากอึนๆ นอยด์ๆ ทุกครั้งที่ได้อ่าน
ไม่ใช่ไม่ชอบเรื่องนี้นะครับ แต่ไม่อยากรู้สึกค้างคา


หรือว่าเราอารมณ์อ่อนไหวเกินไป T T

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :a5: o22 :a5: o22 :a5: o22 :a5: o22 :a5: o22 :a5:
ตอนนี้ช็อคมาก ตอนแรกน้ำตาปริ่มๆสงสารคะน้าจัง
พอตอนทิมบอกผมเอง น้ำตาไหลเลย ทิมมมมมมมมมมมมม
ทิมมมมมมมมมมม บอกฉันว่ามันไม่จริง  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
-ถ้าอิสองคนนั้นมันจะซั่มกันเองแล้วมายุ่งกับน้องต่ายทำไม งือ...
-แล้วอิหมอตุลถ้ามีทิมอยู่แล้วมาขอคะน้าเป็นแฟนทำไม งือ...
-ทิม จริง ๆ แล้วเธอเป็นนางอิจฉาใช่ไหม งือ...
-หรือว่า เธอจะรวบทั้งสองคนเหรอทิม งือ...
-โคตรช็อกเลย ใครจะรับผิดชอบ งือ...

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ย ว่าจะไม่แล้วนะ
แต่ก็เป็นอันต้องแวบเข้ามาอ่านคอมเม้นชาวบ้านเยี่ยงกระทู้ของตัวเองได้ตลอด
อ่านแล้วก็ฮากันไปตามๆกัน

ป่านนี้เจ้าของเรื่องนั่งยิ้มจนแก้มปริอยู่คนเดียวแล้วมั้ง
ทำคนอ่านช็อกได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
“เอ่อ... เค้าร้องกังนัมสไตล์ไม่ใช่เหรอ” คะน้าเกาหัวแกรกๆ ด้วยความเครียด

เขา = น. เนินสูง; สิ่งที่งอกจากศีรษะสัตว์เช่นวัวหรือ กวาง เป็นกระดูกแข็ง; ชื่อนกพวกหนึ่ง เรียก นกเขา; เถาวัลย์ เช่น เครือเขา.
      = ส. แทนชื่อคนที่เราพูดถึง (เป็นบุรุษที่ ๓)

เค้า = น. สิ่งที่เป็นเครื่องกําหนดหมายบอกให้รู้ เช่น ฝนตั้งเค้า; สิ่งที่ส่อแสดงให้รู้ได้ว่ามีลักษณะเหมือนสิ่งอื่น เช่น นาย ก มีเค้าหน้าเหมือนนาย ข
      = น. ชื่อนกหลายชนิดในวงศ์ Strigidae ขนนุ่ม หัวใหญ่ ตาโต ตัวลาย ออกหากินเวลากลางคืน กลางวันหลบพักผ่อนตามต้นไม้ มีหลายชนิด เช่น เค้าเหยี่ยว  เค้าแมว

“ทำอะไรที่มีดูอุบาศว์ๆ น้อยกว่านี้หน่อย คนเดินตลาดหายหมดก็เพราะแกนั่นแหละ”

อุบาทว์ = สิ่งที่เกิดโดยปัจจุบันทันด่วน, ภัย, อันตราย, ความทุกข์ร้อน, ภัยซึ่งลุกลามไปทั่ว. ว. ร้าย, ชั่ว, เป็นอัปมงคล

อุกกาบาต = ดาวตก, แสงสว่างที่เห็นเป็นก้อนตกลงมาจากฟ้า.

บ่วงบาศ = บ่วงสําหรับโยนไปคล้อง.


คะน้าบิดประตูห้องนอนของตัวเอง เปิดออก แล้วเดินเข้าไป

พิมพ์อะไรตกไปหรือเปล่าเอ่ย?



อย่างไรก็แล้วแต่  เนื้อหายังสนุกเหมือนเคย

นึกไปไม่ถึงว่าทิมจะทำรอยนั่น  เพียงแต่เดาว่าทิมคงมีส่วนรุ้เห็นให้เกิดรอย

จะกระแทกใจกว่านี้  หากรู้ว่าก่อนหน้านั้น  ทิม เคยคบกับหมอตุลมาก่อน


กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คนอ่านตายแน่  พ่อเอ้ย

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :fire: :fire: ทิม  หมอตุล  :a5: :a5:

ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด  ควรไปตายซะทั้งคู่เลย  :call: :call:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
โอ้ ช็อคจนเกินจะบรรยาย เหมือนดูเอ็มวี K.Will - Please don't เลย

ฮือ ไม่น๊า อย่าทำกับแม่ยกทิมแบบนี้ T^T

Aksel

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เชียร์ทั้งทิมแล้วก็ตุลย์ ได้ม่ะ คะน้าน่าสงสารมากอ่ะ หมอก้อยมาแบบน่ากลัวมาก.
ถ้าตุลกะทิมเคยมีอะไรกันมาก่อนเจอคะน้าจะช้อคแหงๆแค่นี้ก็สงสารคะน้าแล้ว
ชอบชาวตลาดมาก555 ออกมาเยอะๆน้า

ให้ทิมกะหมอตุล :L2:  สงสัยเรื่องนี้จะดราม่ายาว ปมแต่ละคนแลดูเยอะ

รักต่าย<3~ :L1: และคนแต่ง:)))
มาต่อเร็วๆน่ะ..

ออฟไลน์ annna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หรือจะเป็นตุลย์ ทิม คะน้า  สามพีเลยอิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด