♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430481 ครั้ง)

NaNaAS

  • บุคคลทั่วไป
เอากุหลาบมาให้ใครอะ :fire:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
คนที่ตุลรัก  คือทิม  ไม่ใช่คะน้าหรือเปล่าอ่ะ

zerea

  • บุคคลทั่วไป
ค้างอีกแล้ว :o12: :o12:
หมอก้อยเหมือนจะดูดีขึ้นมานิดแต่พออ่านจะจบ ลบคะแนนออกอีกนิด
รอลุ้นไปด้วยฮัฟ

ปีใหม่เที่ยวให้หนุกน๊าาาา

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
ก็พอเข้าใจนะ แต่พอเจอทิมตอนท้าย ตึบเลยตู -*-

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
ไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรดี
เอาเป็นว่างงทิม งงว่าทิมกำลังใช้แผนไหนเพื่อให้ได้ใคร
เอาจริงตอนนี้ไม่ไว้วางใจอะไรทั้งนี้ คือไม่เข้าใจว่าเข้าหาตุลแล้วทิมจะได้คะน้ามาได้ยังไง
แล้วถึงแม้ว่าตุลจะดูโอเค ดูรักคะน้า แต่เราก็ยังตะหงิดใจแปลก ๆ

โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย อึดอัดดดดดดดดดดดดดดด

ทำได้อย่างเดียวคือรอสินะ 

เฮ้ออออ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
เฮ้ย ไอ้ทิม...
เอ็งมาทำอะไรที่นี่ เอ็งจีบตุล?? ว่างั้น
ไม่นะ...มะ... ไม่.....

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
พี่ผักกาดเริ่มแล้วจ๊ะตามประสาพี่สาวที่เป็นห่วงน้อง เต็ม ๆ จึ้ก ๆ ทั้งใจทิมและคะน้า
หมอตุลคิดไปขนาดนี้เลยเหรอ น่าสงสารนะ แต่ก็เห็นด้วยที่จะตัดใจ เรื่องความรักมันบังคับไม่ได้จริง ๆ
หมอตุลเป็นคนดีมาก รักคะน้ามากด้วย แอบเสียดายเบา ๆ เอ...แล้วอีตาทิมถือช่้อดอกไม้มาให้ใครฟระ
อยากรู้มากกกกกกกก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
,,เอาใจช่วยคะน้าเหมือนเดิม แบบงงๆ ไม่เข้าใจอะไรเลยT_T

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ตกลงทิมรักใครกันแน่เนี่ย :serius2:
อ่านแล้วงง หมอตุลรักคะน้าแน่ๆใช่ไหมเนี่ย ฟังบางคำแล้วฟันธงไม่ได้เลยว่ารักคะน้าน่ะ :z3:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ฮ่าฮ่า อ่านแล้วเอ๋อต่อไป
สรุปตามความเข้าใจ หมอตุลรักคะน้าจริง หมอก้อยรักหมอตุลแต่ก็เป็นเพื่อนที่ดี
คะน้ายังไม่รู้จะเอาแน่เอานอนกับทางไหน
และทิมผู้ที่ยังเป็นปริศนาว่าจะเป็นพระเอกหรือนางอิจฉา

MERRY CHRISTMAS :mc3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
ทิมเอาดอกไม้มาให้ใคร ??  :z3:

ออฟไลน์ davina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
ถ้าเทียบกับนิยายที่เคยอ่านมา อ่อย ดราม่าโหดที่สุดในตอนเดียว
เส้นมาม่าลอยอืดอยู่ในท้องเลย

แล้วทิมมามำอะไรมี่รพ.???
วางแผนอะไรไว้ หรือเราต้องทำใจเตรียมรอพลิกล็อก???

กรี๊ดดดดดด   :z3:

ปล. ถ้าสุดท้ายทิมกะตุลได้กันเอง มีเฮ! 555

patloom

  • บุคคลทั่วไป
ทิมร้ายโคตรๆๆ มึงจะเอาอะไรอีกห๊ะ ดูสิคะน้ากูก็มีความล้ำลึกทางจิตใจอยู่แค่นี้ มึงมันปัญญาอ่อนบอกว่ารักก็จบไปสามสีชาติแปดแล้ว=[]=   :m31:

นี่ยังมาเจอศึกผักกาดอีก เจ๊เขาห่วงน้องเขามึงรู้ไหมมมมมมมม มึงไม่รีบทำตัวโตๆให้เจ๊เขาวางใจมึงอดแด๊กแน่ โอ๊ยฟินๆๆๆๆ
จะสอบก็จะสอบ ฟินก็ฟิน พัดลมหายไปนานมากกลับมาไม่คิดว่ามันจะฟินขนาดนี้  :serius2:
เข้าใจอารมณ์ตุลเลยสุดๆอ่ะ แล้วไอ้คำว่าผลเมืองชั้นสองนี่แบบมันเจ็บจี๊ดมากอ่ะ เอามาจากไหนค่ะ มันเจ็บมาก :m15:
หมอก้อยก็ใส่ไฟตลอด ทิมเป็นตัวดำเนินเรื่องไปแล้วนะเนี่ย ทุกคนจะรอว่าแกจะทำอะไรต่อไป

ถามเรื่องความดราม่านะ
เท่าทีพัดลมอ่านมาเรื่องนี้ดราม่าหนักและเดาทางยากมาก เซอร์ไพร์ตลอด รักษาฝีมือไว้นะคะ ปลื้มมม :z2:
อ่านแล้วปลื้มรู้สึกแบบมือทองเลือกถูกเรื่อง อุฮิอุฮิ ฟินอีกแล้ว :laugh:

ประกาศตัวเลือกแล้วกัน หนูอยู่ทีมคะน้า ใครราวีคะน้า พัดลมสู้ตายยยยยย ด้วยมนต์ดำ :z2:

ออฟไลน์ tune

  • ⅓ of TUNEiND ...
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย -คว่ำโต๊ะคอมแรงๆ-

ไม่ไหวอ้ะ มันกิ๊วก๊าวกรุบกริบ(?)ไม่ไหวไม่ทนแล้วววว


เพิ่งสอบเสร็จเลยแวะเข้าเล้า กะจะนอนอ่านให้ฉ่ำปอดไปเลยย แต่นี่ไมม่ไหวแล้ว ง่วงก่อน ๕๕
อ่านถึงตอนสิบค่ะ มาเม้นไว้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ตะลุยต่อจะมาเม้นเป็นแม่ยกดันวิศวะซึนๆ ล่ะค่ะ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
คราวนี้แหละจะได้รู้ว่า รอยดูด ที่คอหมอตุล มันมีที่มายังไง อุอุ

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
หวังว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เพื่อนๆจะมีช่วงเวลาที่ดีๆ กันทุกคนนะครับ
อยากจะมาเร็วมากมายกว่านี้แต่งานมันสุมเกิ้น :sad4:
ยังไงก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ คำเสนอแนะ ติชม นะครับ บวกคะแนนให้กับทุกคอมเมนต์นะ  o13
เห็นยอดรีพลายน้อยลงอย่างต่อเนื่องแล้วก็พอเข้าใจ นิยายมันมาม่าเกิ้น  :-[
ตอนนี้ น่าจะโอเคกับหลายๆ คนนะครับ ถ้ามีผิดพลาดต้องขอโทษด้วย
เพราะรีบพิมพ์แบบเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้อ่านทวนเอาเสียเลย
ในตอนนี้ มีคำไม่สุภาพโผล่ออกมาเยอะ ยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




ตอนที่ 19



รอยยิ้มนั้นยังดูคุ้นตาแม้ว่าดวงตาสีหม่นจะดูหมองไปกว่าทุกครั้ง คะน้าพยายามตั้งสติ
ปรับความรู้สึกต่างๆ ให้เป็นปกติที่สุดจากความจริงอันหนักอึ้งที่เพิ่งได้รับรู้มา
ความเคลือบแคลงในตัวของตุลในตอนนี้นั้นแทบจะไม่มีหลงเหลือในความคิดของคะน้าเลย
เมื่อถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอัดแน่นมากมายนั้นถูกระบายออกมาทั้งหมดโดยมีหมอก้อยเป็นผู้รับรู้
...ผิดกับเจ้าของรอยยิ้มที่ยืนอยู่ตรงหน้าในเวลานี้

“มาหาตุลเหรอครับ” ทั้งที่เสียงยังสั่นๆ แต่ก็ไม่รู้ทำไมคะน้าถึงเอ่ยถามออกไปแบบนั้น
ดวงตายังคงมองที่ช่อดอกไม้สีแดงสดในมือราวกับตั้งคำถาม
กระทั่งทิมมองไปที่สิ่งที่คะน้าจับจ้องอย่างไม่วางตา

ไม่มีคำตอบใดๆ เว้นแต่เสียงแค่นหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่พลิกตัวกลับแล้วเดินจากไปอย่างไม่คิดจะให้คำตอบ
แม้ว่าใจจะนึกห่วงคนที่อยู่ในห้องแค่ไหน หากแต่ความค้างคาใจมากมายรุดให้คะน้าเดินตามทิมไป

“มาหาตุลแล้วทำไมไม่เข้าไป” ยิ่งห่าง คะน้าก็ยิ่งเร่งตัวเองให้เข้าใกล้
ปลายเสียงที่สั่นไหวกลืนความขมลงในลำคอ
พร้อมกับความรู้สึกหน่วงกลางหน้าอกอย่างบอกไม่ถูก
“...เอาดอกไม้มาแสดงความยินดีไม่ใช่เหรอ”
คนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินต่อไปเร็วขึ้น

“ยินดีที่อะไรๆ มันเป็นแบบนี้ เป็นอย่างที่นายคิดเอาไว้ไง”
เมื่อได้รับการเพิกเฉย คะน้าก็ส่งเสียงดังยิ่งขึ้น
นึกแปลกใจตัวเองที่รู้สึกอยากประท้วงอะไรแบบเด็กๆ ขึ้นมาอย่างนี้
ทิมหันกลับมามองจ้องด้วยแววตาที่ไม่ชอบใจ

“เลิกตามเสียที”

หากแต่คะน้าไม่ถดถอย คนตัวเล็กกว่ารุดเดินไปข้างหน้า ดวงตาจ้องมองทิมอย่างไม่เกรงกลัว

“เลิกตาม!”

หนามยอกก็เอาหนามบ่ง เคยคิดว่าความเงียบของทิมนั้นได้ผล
จึงเลือกที่จะเงียบกลับไปให้ทิมบ้าง คะน้ายังคงรั้นเดินตามคนข้างหน้าอย่างเพิกเฉย
และก็ได้ผลจริงๆ เมื่อเป็นฝ่ายทิมที่ทนไม่ไหว ชายหนุ่มออกแรงดึงแขนคะน้าแล้วดันเข้ากับฝาผนัง

“คิดว่าทำอะไรอยู่ เข้าท่าแล้วใช่ไหม” ทิมจ้องเขม็งด้วยแววตาลุกโชน
เอาตัวเองดันคะน้าจนแนบชิดติดฝาผนัง

“แล้วคิดว่าทำอะไรอยู่” ตาต่อตาฟันต่อฟัน คะน้าตอบกลับไม่ลดละ
ด้วยคำถามยอกย้อนแบบที่ทิมชอบใช้ เจอกับตัวเองทิมถึงกับพ่นลมหายใจฟึดฟัด
พยายามระงับความไม่สบอารมณ์เต็มที่ แต่คะน้าไม่คิดจะถอย “...แล้วมันเข้าท่าหรือเปล่า”

“แล้วไง?” ทิมข่นเสียงเข้มลอดผ่านทางไรฟัน
ยื่นหน้าเบียดเข้ามาใกล้ คะน้าจ้องตากลับอย่างไม่เกรงกลัว

“แล้วยังไงเหรอ นั่นสินะ คนแบบนายมันได้ทุกอย่างตามที่นายต้องการอยู่แล้วนี่
นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่เห็นต้องสนใจความรู้สึกของใคร
คนแบบนายมันเอาแต่ความรู้สึกตัวเอง ไม่แคร์ใครสักคนอยู่แล้ว”

เกินกว่าจะคาดคิด จังหวะที่รวดเร็วนั้น ทิมบดริมฝีปากของตัวเองเข้ากับปากของคะน้าอย่างรุนแรง
แขนทั้งสองข้างของทิมออกแรงตรึงข้อมือที่พยายามผละจากอย่างแนบแน่น
ร่างกายเบียดดันคะน้าอย่างถือครอง ทุกสัมผัสที่แนบชิดนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงกักขฬะ
ริมฝีปากนั้นยังคงบดเบียดอย่างลึกล้ำ คะน้าพยายามบ่ายเบี่ยงหากแต่ความรุนแรงนั้น
เกินกว่าจะต้านทาน ...กระทั่งทิมเป็นฝ่ายที่ผละจาก

“นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่เคยสนใจความรู้สึกใคร เอาแต่ตัวเอง และไม่แคร์ใครสักคน”
รอยยิ้มยียวนจุดขึ้นที่มุมปาก “...ตรงแฮะ” ทิมกระซิบเบาๆ ใกล้กับริมฝีปากของคะน้า
ใบหน้าคมค่อยๆ ถอยห่างช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มราวกับผู้กำชัยชนะ

คะน้าพ่นลมหายใจหนักๆ ด้วยความไม่ชอบใจ แม้แต่จะยกฝ่ามือขึ้นมาเช็ดปาก
แสดงความไม่พึงใจหากแต่ทิมกลับดันข้อมือนั้นไว้กับผนังด้วยมือ ...มือที่ถือช่อกุหลาบสีแดง

“งี่เง่า” คะน้าบ่นอุบด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
เพราะแพ้แรงที่มากกว่า ผิดกับทิมที่หัวเราะขันอย่างสมใจ

“ติดใจมากใช่ไหม ไอ้ดอกไม้พวกนี้น่ะ”

“อย่าไร้สาระ” แม้จะไม่ชอบใจกับสัมผัสล่วงล้ำบนริมฝีปาก
แต่ก็ไม่คิดอะไรไปมากมายด้วยความที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทิมทำอะไรแบบนี้ หากแต่สิ่งที่คะน้ากระฟัดกระเฟียดอยู่นั้น
กลับเป็นการที่ถูกต้อนให้จนมุมขยับไปไหนไม่ได้
ความคิดที่อยากจะชกหน้าทิมสักครั้งก็คงเกินหวัง เมื่อเริ่มรู้สึกตัว
ทิมจึงค่อยๆ ถอยตัวออกห่างพร้อมคลายวงแขนที่กดไว้
คะน้าขัดขืนตั้งหลัก ฝ่ามือกำแน่นจนเกร็งพร้อมจะจู่โจมในชั่วพริบตา

...หากแต่ดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่ถูกยัดใส่มือของคะน้าจนเจ้าตัวรู้สึกประหลาดใจ
ลืมความคิดจะเอาคืนในนาทีก่อนหน้าไปเสียหมด

“ถ้ามันเป็นเรื่องนักก็เอาไป” ทิมถอยห่างพร้อมกับทำท่าประดักประเดิก
เขายืนนิ่งอยู่เฉยๆ แบบนั้น แล้วหมุนตัวไปมาแบบไม่รู้จะอยู่หรือไป
สักพักก็ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเบาๆ จนยุ่ง ผิวที่ขาวจัดทำให้เห็นลำคอ
และใบหูที่เป็นสีแดง ก่อนพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน






“...ให้”

คะน้าได้แต่ยืนมองช่อดอกกุหลาบสีสวยในมือด้วยความมึนงง
และปรับตัวไม่ถูกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย ร่างของทิมก็หายวับไปราวกับเล่นกลเสียแล้ว
ทั้งๆ ที่คิดจะเอ่ยถามถึงเรื่องราวมากมายที่เป็นคำถามในใจ
หรือแม้แต่จะซัดกลับสักหมัดให้กับความเอาแต่ใจของคนที่เด็กกว่าคนนี้
หากแต่ทุกอย่างเหมือนกับกลับตาลปัตร นอกจากคะน้าจะไม่ได้รับคำตอบที่สงสัย
กลับยิ่งรู้สึกประหลาดใจกับความแปลกประหลาดของทิม

นึกถึงจูบที่หยาบคายเมื่อครู่แล้วมองช่อดอกกุหลาบสีแดงในมือ
ถ้อยคำที่ผักกาดเคยพูดถึงทิมในอีกด้านย้อนกลับมาในความคิด
...คะน้าได้แต่ถอนหายใจอยู่กับคำถามและความไม่เข้าใจมากกว่าเดิม

ดอกกุหลาบสีแดงสดช่อนั้นถูกปักวางอยู่ในแจกันบนโต๊ะอาหาร
สร้างความประหลาดใจให้กับผักกาดที่กำลังรีบเร่งเป็นอย่างยิ่ง
หญิงสาวได้แต่ทำหน้าสงสัยใส่คะน้าที่กำลังงัวเงียในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นจากการนอนหลับ
แต่ก็ไม่ได้คิดจะหาความอะไร เมื่อสภาพการจราจรของกรุงเทพในตอนเช้า
น่ากลัวขึ้นทุกวันด้วยปริมาณรถที่แห่มาเหมือนถมถนน ผักกาดสวมรองเท้าส้นสูง
แล้วเปิดประตูออกจากบ้านไม่ลืมที่จะหอมแก้มน้องชายสุดที่รักเช่นทุกวัน
คะน้าที่มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวห่อหุ้มท่อนล่างได้แต่โบกมือหยอยๆ
ให้กับผักกาดแบบสะลึมสะลือ ส่งพี่สาวไปทำงานในตอนเช้า

ตลาดยังคงคึกคักดั่งเช่นทุกวัน และนับตั้งแต่ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการของตลาด
ทำให้ระบบระเบียบของตลาดดูเรียบร้อยมากขึ้น มีลำโพงขยายเสียงเปิดเพลงเพราะๆ ทุกวัน
มีกิโลที่เป็นเครื่องชั่งส่วนกลางเพื่อให้ผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยตรวจสอบน้ำหนักของสินค้าที่ซื้อไป
รวมทั้งหลอดไฟและพัดลมที่ทำให้ตลาดดูสว่างและมีอาการระบายอย่างทั่วถึง

แม้ว่าบรรยากาศใกล้ตัวในเวลานี้จะเต็มไปด้วยมลพิษทางเสียง
จากการเถียงที่ดูจะเป็นกิจวัตรประจำวันของจันทูและสายใจ
ที่เหมือนเป็นกิจกรรมสันทนาการให้เหล่าพ่อค้าแม่ขายในท้องตลาดแล้ว
ในความคิดของคะน้ายังวนเวียนกับเรื่องราวๆ ต่างๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ทุกวันคะน้าได้แต่บอกตัวเองว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาตุลเจ็บปวดกับความรู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหน
หากแต่รอยแดงที่ตุลพยายามปิดบังนั้นก็สร้างความเจ็บปวดให้กับคะน้าไม่ต่างกัน
แต่ตุลพูดแบบนั้น มันเหมือนกับว่า ...ทิมรักคะน้าอย่างนั้นหรือ?!?!

คู่แข่งทางความรักอะไรแบบนี้หรือเปล่านะ เป็นไปได้ไหม
ตุลแอบชอบทิมหรือเปล่า เคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าแล้วมีเรื่องผิดใจกัน
ถ้าใช่... อะไรๆ ก็พอเป็นรูปร่างขึ้น เพราะแบบนั้นใช่ไหม
ตุลเลยเข้ามาเพื่อกำจัดคะน้าออกจากทิม ...มันจะบ้าไปได้ขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?!?!

แล้วทิมล่ะ ถ้าแบบที่ตุลคิด หรือแบบที่ผักกาดสงสัย แม้แต่การกระทำแปลกๆ ที่ผ่านมาของทิม
...จู่ๆ หัวใจของคะน้าก็สั่นอย่างประหลาด ความรู้สึกบางอย่างปะติดปะต่อรูปร่างขึ้นมาจนแจ่มชัด




หมายความว่าทิม...

บ้าน่า!!!! ถ้าแบบนั้น ทิมจะสร้างรอยแดงบนคอของตุลไปทำไม คะน้าทึ้งผมตัวเองด้วยความมึน
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมทุกอย่างถึงได้กลายเป็นแบบนี้

...ความสัมพันธ์ที่มีแต่ผู้ชายสามคน

“บ้าที่สุด! พอซะที นี่มันไร้แก่นสารชะมัด!” แค่คิดก็อยากจะอาเจียน
จนคะน้าเผลอพูดออกมาเสียงดัง จันทูและสายใจถึงกับสะดุ้งด้วยความเข้าใจไปอีกทาง

“เก๊าะเอสายจายมานมาด่าจันทูก่อนเน่ มานขี้อิดฉา”
หลังจากทำงานมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จันทูก็เริ่มพูดภาษาไทยได้ชัดขึ้น

“เอ๊ะ อีนี่ ชั้นมาพี่คะน้า แกล่ะมาสแหล๋นแต๋นอะไร”
สายใจเท้าเอวเถียงกลับอย่างไม่หวั่นกลัว
หากแต่ทุกคำพูดกลับไม่อยู่ในความสนใจของคะน้าแม้แต่นิด
ชายหนุ่มยังคงวนเวียนกับสมมติฐานและความรู้สึกมากมายในใจ

ถ้าเราเป็นแฟนกับตุล แต่ตุลอยากเป็นแฟนกับทิม
แล้วทิมก็อยากเป็นแฟนกับเราเหรอ? บ้าไปแล้วแน่ๆ มันสับสนไปหมด
ถ้าอย่างนั้น ทั้งๆ ที่คบกับเรา ...แต่ตุลคงชอบทิมมากเลยสินะ ...แล้วเราล่ะ




..เราชอบใคร?

“เห้ออออออ!!!” คะน้าถอนหายใจเสียงดังจนสองสาวทำหน้างง
แล้วทะลึ่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มหันกลับมาทางสาวพม่าหน้าตาแบบ Korea
“จันทู วันนี้ฝากดูแลแผงด้วยนะ มีธุระอะไรต้องทำนิดหน่อย ผมคงไม่เข้ามาแล้ว”
ว่าแล้วก็รีบเดินออกไปทำเอาสองสาวหันมามองหันกันแบบอึ้งๆ

เพียงไม่นาน รถกระบะคันเก่าซึ่งเจ้าของขนานนามว่า ‘ไอ้แก่’
ที่ครางหึ่งๆ อยู่บนท้องถนนก็เลี้ยวเข้าสู่โรงพยาบาลที่อยู่ไม่ห่างจากตลาด
...อย่างน้อย สิ่งที่ควรทำก็คือขอโทษตุล

คะน้าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาตุล หากแต่ปลายสายกลับเป็น
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพร้อมแจ้งว่าหมอตุลได้คืนโทรศัพท์ให้กับทางโรงพยาบาลไปแล้ว
พร้อมแจ้งว่าตุลน่าจะอยู่ที่ห้องพักเพราะเพิ่งออกเวรไปเมื่อสักครู่

จำทางทุกอย่างได้เป็นอย่างดีจากเมื่อวาน คะน้าใช้เวลาเพียงเล็กน้อย
ก็มายืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานส่วนตัวของตุล ใช้เวลาทำใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะเคาะประตูห้องเข้าไป
ด้วยความรีบร้อนที่ลืมดูว่าคนที่จะมาหานั้นอยู่ในห้องหรือไม่
กลับกลายเป็นมีเพียงหมอก้อยที่นั่งทำงานอยู่ในห้องพักเพียงผู้เดียว
หญิงสาวทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบๆ

“ที่นี่เป็นพื้นที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ คนนอกไม่ควรจะเข้ามานะคะ”

“เอ่อ... ผมขอโทษครับ คือผม... นึกว่าหมอตุลจะอยู่”
คะน้าขอโทษด้วยความสำนึกผิด

“อยู่หรือไม่อยู่ ก็ไม่สมควรค่ะ” หมอก้อยถอนหายใจเบาๆ
“เอาเถอะค่ะ ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ตุลไม่อยู่หรอก
มี Conference Call กับมหาวิทยาลัยที่นั่นน่ะค่ะ
คงอีกนาน ฝากเรื่องไว้ก่อนไหม หรือให้ตุลโทรกลับหาไหมคะ”

“เอ่อ... งั้นไม่เป็นไรดีกว่าครับ ผมไม่อยากรบกวนหมอก้อยด้วยครับ
ยังไง ...ผมขอตัวก่อนแล้วกันครับ” คะน้าตั้งท่าจะออกจากห้องไป หากแต่หญิงสาวกลับร้องเรียกไว้

“ถ้าคุณพอจะว่าง คุยกันหน่อยดีไหมคะ” คะน้าหันมามองด้วยความงง
หมอก้อยดึงเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลตัวออก คะน้าจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้นั้น
หญิงสาวจึงเดินไปเปิดตู้เย็นเล็กๆ แล้วหยิบน้ำให้กับคะน้าแล้วเดินมานั่งตาม

“คุณคงพอรู้เรื่องเกี่ยวกับที่ตุลได้ทุนใช่ไหมคะ”
คะน้าพยักหน้ารับ ในใจยังรู้สึกปวดร้าวกับเหตุการณ์เมื่อวันวาน

“มันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ตุลจะได้โอกาสทำสิ่งที่เขารัก
และมีโอกาสเติบโตในวงวิชาการ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้คุณเป็นกำลังใจให้กับตุลด้วยนะ”

“ครับ ผมทราบดี”

บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมกับความรู้สึกที่ค่อยๆ ชาขึ้นแบบทบทวี
ข้อสันนิษฐานสวนทางกับสิ่งที่ออกจากปากของแพทย์หญิงอย่างต่อเนื่องจนคะน้าจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ช่วงนี้ ตุลคงยุ่งมาก ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ลองโทรนัดกับตุลเค้าก่อนเข้ามาก็ดีนะคะ”

“ผมมีแต่เบอร์เครื่องของโรงพยาบาลน่ะครับ” คะน้าลอบถอนหายใจเบาๆ

“งั้นเดี๋ยวหาให้แล้วกันนะ” หมอก้อยยิ้มให้น้อยๆ แล้วหยิบมือถือมากดไล่รายชื่อหาเบอร์โทรศัพท์
หากแต่คะน้ากลับรู้สึกกังวลใจ เพราะความที่ไม่รู้ว่าจะทำให้ตุลลำบากใจหรือเปล่าจึงปฏิเสธไป
คะน้าเดินทางกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย
ดูเหมือนปมต่างๆ ยังคงขมวดจนเป็นกองโตจนยากจะสะสางออกมาได้ง่ายดั่งใจคิด
และไม่รู้ว่าจะคลายปมต่างๆ นั้นได้อย่างไร

คะน้ากลับมาสู่คอนโดด้วยความรู้สึกที่แน่นไปทั้งหัว พักหลังๆ
ชายหนุ่มมักจะพักที่คอนโดของผักกาดมากกว่า
บ้านหลังเก่าๆ อีกหลังที่เคยอยู่ตอนสมัยเด็กๆ กับครอบครัว
เดิมทีเดียว คะน้าตั้งใจจะพักที่บ้านไปเรื่อยๆ เพราะชอบบรรยากาศต่างๆ
และความไม่ต้องพิธีรีตรองอะไรให้มากความ หากแต่การพักคอนโดนั้นทำให้พบเจอ
ได้เรียนรู้อะไรต่างๆ นานาเกี่ยวกับทิมและตุลมากขึ้น

...ทิม? ทำไมถึงมาเกี่ยวด้วย ไม่สิ หมายถึงตุลต่างหาก
เพราะว่าวันนั้น เราตัดสินใจจะคบกับตุลเป็นแฟนต่างหาก
คะน้าขยี้หัวตัวเองจนยุ่งเหยิง จนผักกาดที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่หันมามองด้วยความห่วง

“ต่าย เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย หน้าตาเราดูเครียดๆ ยังไงไม่รู้”

“ไม่มีอะไรหรอกเจ้ รถติดก็คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย”
คะน้าเดินไปหาผักกาดที่นั่งอยู่ที่โซฟา การยื่นแก้มให้ผู้เป็นพี่สาวหอมนั้น
ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมสำหรับบ้านนี้ไปเสียแล้ว
ผู้เป็นน้องชายทิ้งตัวลงข้างๆ ที่สาวบนโซฟานุ่มหนา
ผักกาดเดินไปเปิดตู้เย็นและรินน้ำใส่แก้วสูงเดินมาส่งให้ คะน้ากล่าวขอบคุณ

“ต่าย เจ้ถามตรงๆ นะ ชอบงานที่ตลาดไหม ยังอยากจะทำหรือเปล่า
เจ้เป็นห่วงเรานะ เราออกจากงานออฟฟิศแล้วมาทำงานค้าขายแบบนี้
งานพวกนี้จะว่าไปมันก็ใช้พลังงานเยอะอยู่ ถ้าไม่ชอบก็บอกกัน
อย่าฝืนตัวเองรู้ไหม คนที่เค้าสนใจจะซื้อที่ตรงตลาดเรามันมีเรื่อยๆ แหละ”

“ป๋ากับแม่จะได้ว่าเราเอาไง ให้แล้วก็ดูแลไม่ได้”
คะน้าจิบน้ำแล้วหันมายิ้มให้พี่สาว “อ๊า... ชื่นจายยยยย...”

“เจ้ก็เป็นห่วงเรานั่นแหละ ดูสภาพสิ อะไรก็ไม่รู้
บางทีเจ้ก็คิดว่าเจ้ทำให้เราไม่มีความสุขหรือเปล่า”
ผักกาดมองคะน้าด้วยความเป็นห่วง ผู้เป็นน้องชายยิ้มกว้างแล้วโผเข้ากอดพี่สาว
...หอมแก้มฟอดใหญ่ ผักกาดหัวเราะขำแล้วตีมือน้องชาย

“นี่ๆๆ ไม่ต้องเลย เราน่ะ ไปเอากุหลาบมาจากไหน สาวที่ไหนให้มา บอกมาเลย”
คำถามของผักกาดทำให้คะน้าสะอึก สาวเหรอ? ...ไม่ใช่เลย



(ยังมีต่อด้านล่างนะครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ครึ่งหลังนะครับ)




“เอ่อ... เจ้หิวไหม ไหนๆๆๆ วันนี้มีอะไรกินมั่ง”
คะน้าตีมึนลุกขึ้นเดินไปทางครัวแล้วชะโงกหน้าไปมา
หากแต่พื้นที่ของห้องครัวและโต๊อาหารล้วนว่างเปล่า
...ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้ามาในใจในเสี้ยววินาที




...ใจหาย

“จากนี้ไปเพื่อนเราก็คงไม่มาทำอาหารอะไรแบบที่ผ่านมาแล้ว
เจ้เกรงใจเพื่อนเรา ก็เลยบอกเขาไปว่าขอบคุณ”
ผักกาดเดินตามมาตบบ่าน้องชายเบาๆ เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก รู้ดีว่ากระต่ายรู้สึกยังไง

แม้จะรู้ว่าน้องชายจงใจเลี่ยงไม่ตอบเรื่องดอกไม้ แต่ก็ไม่อยากคาดคั้นอะไรในเวลาแบบนี้
“ข้างล่าง ร้านอร่อยๆ ก็มีนะ หรือจะสั่งอะไรมาทานกัน เอาไหม?”

คะน้าหันมาฝืนยิ้มให้ผักกาดอย่างร่าเริง ในใจรู้สึงหวิวๆ ไปอย่างบอกไม่ถูก
ไม่มีกลิ่นอาหารหอมฉุยแบบที่ผ่านๆ มา อาหารที่เขาแทบไม่สนใจจะทาน
และจากนี้ ...คงไม่มีโอกาสจะได้ทานอีกแล้ว

ผักกาดยื่นสารพัดเมนูอาหารจากร้านรวงต่างๆ ที่มีบริการส่งให้กับคะน้าเพื่อเลือกดู
น้องชายรับมาเปิดพลิกไปเรื่อยๆ แม้ตาจะจ้องมองตัวหนังสือบนกระดาษมากมาย
หากแต่ใจกลับคิดไปถึงคนที่หายไป

ดอกกุหลาบในห้องส่งกลิ่นหอม และความรู้สึกของรสสัมผัสเมื่อคืนก็ยังคงอยู่
ท่าทีของทิมดูแปลกประหลาดและเกินคาดเดาเสมอสำหรับคะน้า
...ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายที่ทำแบบนั้น แต่แล้วก็รู้สึกเก้อๆ แบบนั้นเอง
...เวลาที่ทิมไม่กล้าสบตา ...เวลาที่ยืนทำอะไรไม่ถูก
...เวลาที่ผิวขาวๆ เปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ ...ใบหูแดงๆ นั่น




...ตลกดี

คะน้ายิ้มออกมาน้อยๆ โดนที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว
กระทั่งพบกับสายตาของผู้เป็นพี่สาวที่จ้องมองเขม็งก็สะดุ้ง
พลันนึกแปลกใจที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่มีสาระ

“เป็นอะไรน่ะเรา เดี๋ยวทำหน้าหงอย เดี๋ยวก็ยิ้มกริ่ม ประหลาดขึ้นทุกวันนะ” ผักกาดทำหน้าสงสัย

“ไม่ได้ยิ้ม ไม่มีอะไรสักหน่อย เจ้คิดไปเรื่อย”
หากแต่ผู้เป็นพี่สาวยังคงมองจ้องจนคะน้าเขิน “อะไรเล่า!”

ก่อนที่จะคาดคั้นอะไรน้องชายที่ทำตัวประหลาดขึ้นทุกวัน
เสียงกริ่งก็ดังขึ้น ทั้งผักกาดและคะน้าทำหน้าแปลกใจ หญิงสาวบ่นเบาๆ ว่าใครมา
แล้วก็เดินไปเปิดประตู แขกผู้มาเยือนทำให้ผักกาดมีสีหน้าประหลาดใจ

ทิมยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูพร้อมกับอาหารสดในมือในถุงพลาสติกใสจำนวนหนึ่ง
และโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง ชายหนุ่มก็แทรกตัวผ่านผักกาดที่ยืนเหวอ
ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าวของพะรุงพะรังในมือบ่งบอกได้ดีว่า
เจ้าตัวคงแวะที่ตลาดและเตรียมพร้อมที่จะทำอาหารแบบหลายวันที่ผ่านมา

ร่างสูงโปร่งเดินตรงไปที่ครัว จังหวะที่เดินผ่านคะน้า เขาหันมาส่งยิ้มยวนๆ
ให้อย่างไม่ทุกข์ร้อน แล้วก็จัดแจงทำอาหารราวกับเป็นสถานที่ที่ตนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เพียงครู่เดียวเสียงมีดกระทบเขียงก็ดังขึ้นเป็นจังหวะ มีเสียงส้อมกระทบชามรัวๆ
เป็นจังหวะตีไข่ และเสียงอะไรอีกมากมาย เพียงไม่กี่นาทีต่อมา
กลิ่นหอมชวนเรียกน้ำย่อยก็โชยออกมาจากทางครัว ไม่ใช่แต่เพียงผักกาดที่ยืนอึ้ง
แม้แต่คะน้าก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน


...ก็เมื่อวานคุยกันไปแล้ว

ไม่นานนัก ทิมก็ยกจานอาหารมากมายที่ดูน่ารับประทานมาวางบนโต๊ะเรื่อยๆ
ผิดจากทุกวันที่เป็นอาหารราวกับส่งตรงจากภัตตาคาร มื้อเย็นวันนี้
ส่วนมากเป็นอาหารง่ายๆ สี่ห้าอย่างที่ทำเสร็จโดยใช้เวลาไม่นาน
จานเปล่าสามจานถูกยกขึ้นจัดวางตามตำแหน่ง ไม่ช้าข้าวสวยร้อนๆ
ในหม้อหุงที่ส่งกลิ่นหอมก็ถูกทัพพีคดจนร่วนซุยดูน่าทานอยู่บนจาน

“วันนี้หิวมาก ขอฝากท้องด้วยแล้วกัน” ทิมพูดเบาๆ
แล้วยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะหันมาเชื้อเชิญทุกคน “เชิญครับ”

แม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่คะน้าเป็นฝ่ายที่ลุกขึ้นยืนก่อนในฐานะเจ้าบ้าน
เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นพี่สาวกำลังอึ้งกับการกระทำแบบไม่แคร์อะไรของทิม
น้องชายสะกิดเรียกคนที่นั่งมองอย่างไม่เชื่อสายตาให้รู้สึกตัว
หญิงสาวจึงค่อยๆ ลุกขึ้นเดินตามมานั่งที่โต๊ะอาหาร ผักกาดนั่งลง
โดยมีคะน้านั่งอยู่ข้างๆ ฝั่งตรงข้ามคือแขกผู้มาเยือนที่ทำหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นั่งเขี่ยข้าวในจานไปสองสามครั้งสุดท้ายผักกาดก็วางช้อนส้อมลงแล้วเอ่ยถาม

“เมื่อวานก็พูดคุยกันแล้ว เจ้นึกว่า...”

“จะไม่มา?” ทิมเอ่ยถามราวกับเป็นเรื่องทั่วไป ผมเข้าใจนะ และก็รับทราบแล้ว”
ทิมตักไข่เจียวหมูสับที่ฟูกรอบดูน่าทานวางลงในจานข้าวของผักกาด “พี่ลองทานนี่ดูครับ”

“แล้ว...” ผักกาดมองชายหนุ่มตรงหน้าสลับกับ
ไข่เจียวหอมฉุยไปมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ก็รับทราบไงครับ” ทิมยิ้มให้ผักกาดแล้วก้มหน้าทานอาหารต่อไป

เพราะความที่พอจะรู้จักคนทั้งคู่เป็นอย่างดี เมื่อเห็นท่าไม่ดี
คะน้าจึงเอาปลายเท้าเตะทิมเบาๆ ที่ใต้โต๊ะ แล้วส่งสัญญาณเรียกไปคุยกันต่างหาก
ผักกาดมีสีหน้าไม่สบายใจ คะน้าเดินน้ำทิมเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
คนที่ตัวสูงกว่าเดินตามอาดๆ อย่างไม่ทุกข์ใจ

“อย่ากวนเจ้ได้ไหม นายต้องการอะไร เมื่อวานเจ้ก็พูดไปแล้ว”
คนที่เป็นแขกยืนเฉยเหมือนไม่ได้สนใจ
ซ้ำยังเดินลงไปนั่งบนเตียงนอนของคะน้าอย่างสบายอกสบายใจ

“ว่ายังไง อย่ายั่วโมโหกันได้ไหม”

“ก็คุยแล้ว รับรู้ทุกอย่าง”

“งั้นก็น่าจะเข้าใจ ผมไม่อยากให้เจ้ไม่สบายใจ”
คะน้าผ่อนลมหายใจหนักด้วยความกลุ้มใจ

“เข้าใจ ...แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำตาม”

“นายนี่มัน...” คะน้าถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ เป็นไปอย่างที่คิดทุกอย่าง
ชายหนุ่มได้แต่ตีหน้ากลุ้มเพราะทำอะไรไม่ถูก
และไม่รู้จะแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง “มึงนี่มัน...”

ไม่บ่อยที่คะน้าจะขึ้นคำพวกนี้ จนชายหนุ่มที่นั่งอยู่ขมวดคิ้วเข้มขึ้นสูง
เหมือนไม่เชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ “เมื่อวานก็ทีนึงแล้ว คิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน
อยากจะทำอะไรก็ทำตามใจตัวเองไปทุกอย่างเลยตลอด”

“ไหนมึงบอกมาซิ ช่วยบอกหน่อยว่ามึงต้องการอะไรจากคนอย่างกูนักหนา
ไอ้เรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นมาเนี่ย มันคืออะไร” คะน้าพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด
ทุกอย่างที่ผ่านมาดูเหมือนว่าปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้น
นับจากทิมลุกขึ้นมาทำอะไรแปลกๆ ใน 15 วันนับจากวันนั้น

“ที่ไปทำอะไรแบบนั้นกับตุล หรือแม้แต่มาทำอาหารแบบนี้ทุกวัน มึงต้องการอะไร”
คะน้ารุดเดินเข้าไปหาทิมที่นั่งอยู่ นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้ว
ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าติดจะดูยิ้มขันน้อยๆ อย่างอารมณ์ดีด้วยซ้ำ
และนั่นทำให้คะน้ารู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่

“ไหนบอกมา เรื่องระหว่างมึงกับตุลคืออะไร มึงรู้จักกันมาก่อน
มึงสองคนเคยรักกันใช่ไหม ถ้าใช่ แล้วมึงดึงเอากูไปเป็นของเล่นปั่นหัวแบบนี้ทำไม”
คะน้าระเบิดความในใจมากมายออกมาด้วยความหัวเสีย
ความเสียใจระคนไปด้วยความน้อยใจที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

“แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ” ทิมสบตานิ่ง ร่องรอยแห่งความสนุกไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว
ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความแน่วแน่และจริงจัง
แรงกล้าจนกลายเป็นคะน้าเองที่กลัวใจในแววตาที่ฉายคมคู่นั้น

“ถามว่าถ้าไม่ใช่ล่ะ มึงจะฟังกูไหม”

คะน้าชะงักไปกับท่าทางของทิม เวลาที่เล่นสนุก ทิมก็ดูคล้ายกับ
เด็กซนๆ ที่คึกคะนอง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ชายหนุ่มผู้นี้เอาจริงขึ้นมา
คะน้ารู้ดีว่าเขาจริงจังจนกลายเป็นคนที่ดูน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย

“แล้วยังไงล่ะ ใช่หรือไม่ใช่” คะน้าพยายามข่มเสียงกลับ แต่ก็ยังรู้สึกหวาดๆ

“ไม่ใช่”

“ไม่ใช่อะไร”

“ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ อย่าเซ้าซี้” ทิมตอบด้วยเสียงเรียบๆ ดวงตาสีดำเข้ม
จ้องเขม็งกลับอย่างไม่ไหวติงจนคะน้าต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา
เมื่ออารมณ์ที่คุกรุ่นเริ่มเย็นลง คะน้าเป็นฝ่ายที่ยืนสงบอยู่นิ่งๆ อย่างนั้น “เชื่อกู”

“อือ” คะน้ารับคำอย่างแผ่วเบา แม้จะดูเป็นคนที่แปลกอยู่ไม่น้อย
แต่สำหรับคะน้า ทิมเป็นคนที่มีคำสัตย์แบบลูกผู้ชายมากพอที่จะเชื่อถือได้เสมอ

“กูไม่ชอบให้มึงพูดขึ้นมึงขึ้นกู”

“ทีมึงยังพูดกับกู” มันทันขาดคำ คะน้าก็เถียงกลับอย่างไม่สบอารมณ์

“มันไม่ใช่มึง มึงไม่ต้องพยายามทำอะไรที่มันต้องฝืนตัวเองมากมาย กับกู
มึงแค่เป็นอย่างที่มึงเป็นก็พอ ไม่ต้องดี ไม่ต้องเลว แค่เป็นมึงที่เป็นมึง”
แม้คำพูดของทิมนั้นจะห้วนไม่น่าฟัง แต่มันทรงพลังมากพอจะสั่นคลอนบางอย่างในใจของคะน้า
หากแต่ทิฐิที่มีทำให้คะน้าเถียงกลับแบบไม่ชอบใจที่ทิมพูดจาวางตัวแบบนี้

“อย่างน้อยกูก็อายุมากกว่ามึง มึงควรจะให้ความเคารพกูมากกว่านี้หรือเปล่า”

“มึงแคร์นักใช่ไหม กฎเกณฑ์สังคมบ้าบอน่ะ ถ้ามึงอยากให้กูเรียกมึงมากๆ
กูเรียกมึงว่าพี่ก็ได้นะ หรือจะให้กูเรียกว่าพ่อเลยก็ได้ เอาไหม”
คะน้าอึ้งไปกับสิ่งที่ทิมพูดและแนวคิดในแบบของเขา

“กูนับถือตัวมึงที่ความดีที่มึงมี ไม่ได้เกี่ยวกับอายุของมึง”
ทิมลุกขึ้นยืนแล้วเป็นฝ่ายเดินย่างเข้ามาหาคะน้าด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น จริงจัง

“กูไม่เคยมองว่ามึงเป็นพี่หรือน้อง สำหรับกูแล้ว
ระหว่างมึงกับกูจะเสมอภาคและเท่าเทียมกันทุกเรื่อง”

“อย่างน้อยกูก็เกิดก่อนมึง” คะน้าเถียงกลับ ไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ทิมพูดแม้แต่น้อย

“เงียบแล้วฟัง” ทิมส่งเสียงกลับดัง สองมือยกขึ้นจับบ่าของคะน้าแล้วออกแรงกด

“มึงไม่จำเป็นหยาบเพื่อให้มึงดูโตกว่าหรือเหนือกว่ากู มึงเป็นมึงก็ดีอยู่แล้ว
กูฟังคำพูดมึงทุกคำ ดังนั้นช่วยเลิกพูดคำหยาบเสียที กูไม่ชอบ เข้าใจไหม”
ทิมจ้องลึกไปในดวงตาของคะน้าที่ค่อยๆ สลดลง



“เข้าใจไหม?” ทิมถามย้ำอีกครั้ง

“...ครับ” ลงท้าย คะน้าก็รับคำอย่างนึกแปลกใจตัวเอง
ทิมรู้จักคะน้ามากกว่าที่คะน้ารู้จักตัวเอง เปลือกนอกที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ดูแข็งแกร่ง
แต่แท้จริงแล้ว คะน้าก็อึดอัดตัวเองที่ต้องฝืนพูดอะไรแบบนี้ แต่ก็เพราะไม่รู้ว่า
จะแสดงออกทางความรู้สึกที่มีอย่างไร ทุกอย่างจึงดำเนินไปในแนวทางแบบนี้

“ทีกับมันนะ อี๋อ๋อตามใจมันอย่างนั้นอย่างนี้ ทีกับกูล่ะ เถียงเอาๆ” ทิมบ่นอย่างหัวเสีย

“ก็...” คะน้าเอ่ยปากจะพูด แต่พอเจอสายตาดุๆ ของทิม
ก็ค่อยๆ หุบปากลงพร้อมกับเสียงที่หายไป
ทิมส่ายหัวไปมาอย่างระอาใจ ก่อนจะเริ่มพูดต่ออีกครั้ง

“มึงเป็นเหมือนเพื่อนที่กูสนิทไว้ใจ เป็นเหมือนคนในครอบครัวของกู
แต่ละวันที่น่าเบื่อ มีมึงเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่กูอยากเห็นทุกวัน
มึงมันไม่เหมือนใคร มึงน่ารักมาก และมึงก็ใจดีกับทุกคน
มึงทำให้กูมีความสุข แล้วกูเองก็ได้เป็นตัวของตัวเองอย่างที่กูก็อธิบายไม่ถูก”
ทิมผ่อนลมหายใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“คะน้า ต่าย ชื่ออะไรก็เรื่องของมึง กูแค่อยากบอกว่า”





“...มึงไม่ใช่แค่พี่กูหรอกนะ แต่มึงจะเป็นทุกๆ อย่างในชีวิตกู”

คะน้าถึงกับยืนอึ้ง คำพูดที่ไม่ได้มีความไพเราะแม้แต่น้อยของทิม
กลับกอปรไปด้วยความรู้สึกมากมาย แม้ถูกฉาบไปด้วยความไม่สุภาพบนพื้นผิว
แต่ความนัยกลับอัดแน่นไปด้วยความละเอียดอ่อนและความอ่อนโยนที่น้อยคนจะมองเห็น
ปกติทิมไม่ใช่คนพูดจาแบบนี้ หากแต่คงเพราะเหตุผลบางอย่าง
บางทีอาจไม่ต่างกับตัวคะน้าเท่าไหร่ เมื่อความรู้สึกมันอัดแน่นมากมาย
จนอยากจะระเบิดระบายออกให้อะไรๆ ที่ค้างคามันจบเรื่องไปเสียที

“มึงจะด่าอะไรกูก็ได้ แต่ไหนแต่ไรกูก็เป็นของกูแบบนี้ กับมึงในตอนนี้
กูอยากจะพูดอะไรตรงๆ ที่สุดแล้ว กูไม่อยากอ้อมค้อมอะไรอีกต่อไปแล้ว
กูขอให้มึงฟังกูได้ไหม” คะน้าพยักหน้ารับเบาๆ
มองคนคุ้นเคยที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ทิมวันนี้ดูแปลกตากว่าทุกครั้ง
หากแต่นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่คะน้าได้รู้จักตัวตนของทิมจริงๆ

“ไม่ใช่ว่ากูเข้มแข็งมาจากไหน กูก็เหนื่อยกับอะไรพวกนี้ไม่ต่างกับมึง
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กูเองก็ไม่รู้ แล้วกูก็ไม่อยากจะรับรู้ด้วย
กูไม่อยากให้มึงเป็นแค่พี่หรือเป็นเพื่อนกู”

คะน้ายืนอึ้ง หัวใจเต้นแรงอย่างไร้สาเหตุและรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เคยรู้สึกมา
ลมหายใจขาดช่วงและสั้นเป็นห้วงราวกับเพียงเพื่อพยุงให้ร่างกายยังดำรงชีวิตได้ต่อไป
ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวังและหวาดกลัวกับช่วงนาทีต่อไป ไม่รู้ว่าจะทิมจะพูดอะไร
ไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอย่างไร ดูเหมือนว่าตัวคะน้าเอง
ก็คงจะยอมโดยไร้ข้อแม้ต้านทาน อึดอัดตัวเองที่เป็นอย่างนี้
แต่เหมือนกับคะน้าปล่อยให้คนตรงหน้ามีอิทธิพลเหนือทุกอย่างไปแล้ว

“สัญญากับกู มึงเชื่อกูได้ไหม ทุกการกระทำ ทุกๆ คำพูดของกู”
คะน้าพยักหน้ารับแต่โดยดี

ไล่ไปตั้งแต่ลำคอกระทั่งถึงใบหน้า ผิวที่ขาวจัดของทิมค่อยๆ ระเรื่อเป็นสีฝาดเลือด
“งั้นเชื่อกู แล้วฟังคำพูดของกูให้ดีๆ”

ทิมจ้องลึกลงไปในแววตาของคะน้า ดวงตาคู่นั้นนิ่งสงบ มุ่งมั่น และเข้มแข็ง
ทว่าแปลกที่สีดำเข้มแวววาวนั้นกลับดูอ่อนโยนกว่าทุกๆ ครั้งที่คะน้าเคยเห็นมา





“กูรักมึง”



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



จะพอไหวไหมนะ ภาพลักษณ์ตัวละครพลิกผันแบบนี้ 55555
ตอนแรกทรามกว่านี้เล็กน้อย แต่เดี๋ยวจะพากันอึ้ง ทึ่ง เสียวกันเกินไป ฮ่าๆ

แอบหวังลึกๆ ว่าคนที่เริ่มห่างหายไปเพราะขยาดกับมาม่าถ้วยโต
จะกลับมาอ่านนิยายอีกครั้งนะครับ ใจจริงอยากเข็นตอนนี้ให้ออกมาทันก่อนปีใหม่
แต่ก็นะ ไม่ไหวจริงๆ เอาเป็นว่านับจากนี้ก็อ่านแบบหายใจสะดวกขึ้นบ้าล่ะเนอะ
ขอบคุณทุกคนที่ร่วมอ่าน คอมเมนต์ และร่วมเวิ่นเว้อโดยพร้อมเพรียงกันล่วงหน้านะครับ
ไหนๆ ก็หายไปนาน ขอกอดทุกๆ คนให้ชื่นใจหน่อยเถอะนะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
มาม่าก็ไม่หายค่ะ

ทิมกลับมาแล้ววว เย่ๆ   ชอบอะผช.แบบนี้

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีว่าทิมกับตุลมีอะไรยังไงต่อกัน
เรื่องทิมรักคะน้า เราเชื่อ เราเชื่อว่าคะน้ารักทิม เพราะคะน้าบอกเอง
แต่ตุลรักคะน้าจริงมั้ย ไม่รู้

เอาจริงตอนนี้ปวดหัวแทนคะน้าละ 5555

เค้าไม่ได้หายไปไหนนะตัวเอง เค้าตามอ่านตามเม้นท์ตลอดนะ
นิยายตัวน่าอ่าน น่าปวดหัวดีออก เค้าชอบ 555555555555

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
คิดถึงคะน้ามากค่ะ :m7: เข้ามาดูทุกวันไม่หายไปไหนแน่ๆ

รอลุ้นปฏิกิริยาของคะน้าที่มีกับคำบอกรักของทิม :m3:

น้องต่ายจะทำไงน้อ :m17: พี่ผักกาดจะได้ยินหรือปล่าว

รอลุ้นค่ะ :m5: ทิมสู้ สู้ :ped149: :ped149:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ก็ยังงงกับความสัมพันธ์สามคนนี้อยู่ดี

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
รักสามเศร้า เราสามคน
สับสนตุลกับทิม
มันมีอะไรกันแน่ๆ อบยากได้ความกระจ่างงงงง

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย..วิ่งรอบซอย เขาจะเป็นแฟนกันแล้วใช่ม่ะ เชียร์ทิมมาตลอดเลยนะ แต่ก็ยังอยากรู้ความจริงของตุลย์อยู่ดี (เราไม่หาแน่ตามอ่านตลอดเลย)

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :-[ แอร๊ยยยยยยยยยยยย
ตกลงทิมเป็นพระเอกชิมิ
มาม่าก็รับได้ ทรามก็รับได้ ยังไงก็รับได้ขอแค่มาต่อก็พอ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เฮ้ยๆๆๆ กูรักมึง คำนี้แหละ คำนี้~~~~ ที่คนอ่านรอฟังมานานมาก รวมถึงคะน้าด้วย
เจอทิมเวอร์ชั่นจริงจังเข้าไปคะน้าถึงกับเชื่องเลยอ่า น่าเกรงขามเหมาะเป็นผู้นำครอบครัวมาก ๆจ้า
แม้จะบอกรักกันแล้วแต่สิ่งที่คะน้า (และคนอ่าน) สงสัยก็ยังมีมากมาย คายมาให้หมดนะตาทิม
แต่ชอบทิมจัง เป็นผู้ชายที่เถื่อนและจริงใจดี ทำกับข้าวเก่งด้วยนะเออ ปลื้มอ่ะปลื้ม  :-[
จะปลื้มกว่านี้ถ้าไม่มีความลับกับคะน้าแล้ว ดอกไม้ที่ถือไปตั้งใจเอาไปให้ใครอ่ะ
พี่ผักกาดแอบฟังอยู่หน้าห้องป่าว ถ้ารู้ว่าทิมบอกรักน้องขนาดนี้แล้วพี่จะยอมมั้ย
ยอมเหอะนะ พลีสสสส คนอ่านขอร้อง (เอาใจช่วยพระนายสุดติ่งค่ะ)

ขอบคุณค่ะ มาต่อเร็ว ๆ นะค้าาาาา  :L2:

MonaLis

  • บุคคลทั่วไป
เอาเป็นยังงงและมึน
และไม่อยากคิดอะไร  :เฮ้อ:

รักทิมเหมือนเดิม  :L2:

zerea

  • บุคคลทั่วไป
เปลี่ยนอารมณ์ตามแทบไม่ทัน 555
สู้ๆค๊าบ ยังไงเราก็จะตามไปจนจบนั่นแหละนะ>< :mc2:
:ped149:

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
แอร๊ยยยยยยยยยย  มันพลิกสุดๆเมื่อกี้กินมาๆผัดพริกตอนท้ายๆนี้
ฉันคงทำน้ำตาลหรืออย่างไรมาม่าในปากมันถึงหวานจนอยากคายออกเพราะความเลี่ยน
รักคนเขียน

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่

ออฟไลน์ davina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
โล่งใจไปเปลาะนึง แต่ยังเหลือปมใหญ่อยู่อีก
อยากรู้เฉลยแล้วว่าตุลทิมมีอะไรในก่อไผ่รึป่าว
อดใจรอไม่ไหวแล้ว อึนมึนมาหลายตอนเกิ๊นนนน 

ปล. คิดถึงจันทู อยากให้มีบทแซมเยอะขึ้นในตอนต่อๆไปนะคะ
ตอนนี้เข้าใจว่าพยายามคุมโทนคุมเรื่องให้อยู่ในอารมณ์สับสน โกรธ น้อยใจของคะน้า
เลยไม่จัดบทฮามาขโมยซีนมากค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด