♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430502 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ตอนนี้นู๋ต่ายกับน้องทิมน่ารักมากๆเลยค่ะ :give2:

เอ่ออ คุณนักเขียนคะพี่ขอยืมตัวจันทูไปเต้นแก้บนแถวบ้านได้ป่าว o3!!???

รับรองว่าไข่ไม่ตกถึงพื้นแน่.....แต่! มันจะไปอยู่บนตัวจันทูเต็มไปหมด!!!!! :laugh:

 :laugh3:  :laugh3:  :laugh3:

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
สรุปแน่แล้วใช่มั้ย
ทิมใช่มั้ย อิอิอิ แต่เค้าไม่อยากไว้ใจอะไรคนแต่งเลยอ่ะ
คือที่ผ่านมจนถึงตอนนี้ ก็เหมือนว่าหวยจะออกที่ทิม แต่ประเด็นระหว่างทิมกับตุล
ก็ยังไม่ได้เคลียร์ให้กระจ่าง เอาจริง ๆ ก็อีคนอ่านนี่แหละอยากรู้มาก 555

สนุกอ่ะ ตอนนี้ทิมน่ารัก เคยแต่สั่งเคยแต่เป็นฝ่ายคุม พอต้องมาเอาใจ มารับส่งก็เขินล่ะสิ อิอิ

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จันทูมาแล้ว คิดถึง5555
ตอนนี้แอบหวานนะ
ผักกาดทำใจเรื่องคะน้ากับทิมได้แล้วเหรอ
แล้วกับตุลจะเอาไงต่ออ่ะ
คนแต่งรีบมาต่อน้า

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เจ้าเล่ห์จริงๆ ทิม...ต่ายกว่าจะคิดทันก็..ไม่ทันละ ><555

zerea

  • บุคคลทั่วไป
โอเคแล้วนะเจ้ผักกาด

ส่วนทิมกับคะน้านี่ก็น่ารักน๊า ไม่รู้ใครอายุมากกว่าใคร หุหุ
คิดถึงหมอตุลจัง // แฟนคลับทิมรุม  :beat:  :z6:

ืnnick

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :-[ :-[
ตามอ่านทันจนได้กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด~
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ +1 ให้เป็นกำลังใจนะคะ!
ตามอ่านตั้งแต่เช้าเลย เฮ้อออออ~ ทันจนได้ เชียร์ทิมตั้งแต่ต้นค่ะ!  :o8:
แต่ก็แอบคิดถึงตุลน้าาา 55555 สู้ๆ นะคะ
เชียร์ทิม เชียร์คะน้าา เชียร์คนเขียน สู้ๆ!   :กอด1:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ PlenG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนแรกๆ ฮาดีค่ะ ชอบคะน้า น้องต่ายน่ารัก มีผู้ชายเข้ามาในชีวิตพร้อมกันสองคน
แข่งกันจีบ แต่ดูยังไงทิมก็มาวินและเราก็เชียร์ทิมด้วย ดูจริงใจกว่าหมอเยอะ

จนมาถึงตอนที่คะน้าคบหมอใหม่ๆ รู้สึกอึ้งมาก บ้าไปแล้ว!
คะน้ามันมึนหรือเปล่าเนี่ย อ่านยังไงก็รักทิมแท้ๆแต่ดันไปเลือกหมอ

เจ๊ผักกาด ขอบคุณดราม่าของเจ๊มากค่ะ ที่ทำให้ในที่สุดคะน้าก็รู้ใจตัวเองเสียที

เรื่องทิมกับหมอคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก เชื่อใจทิมค่ะ ฮ่าๆ

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับเราไม่ได้แค่อมยิ้มนะ แต่มันมีความสุขเหมือนเป็นคะน้าเองเลย

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ทิมเขินแล้วน่ารักดี ตีเนียนเก่งซะด้วยสิ
ส่วนต่ายก็ไม่ทันอะไรทิมเล๊ยยยยย  โดนหยอดก็กว่าจะรู้ตัว แต่ก็น่ารักดี ทั้งคู่เลย  :o8: :o8:

ส่วนจันทู ไม่มีใครจะฮาเท่าเธอคนนี้แล้ว จริงๆ นะ  :laugh: :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ตอนนี้น่ารักมากกกกกก อิอ๊างสุดเท่าที่เคยอ่านมาค่ะ  :-[ 
พี่ผักกาดเป็นใจแล้วสินะ 555 คะน้าเอ๋ยคราวนี้ไม่รอดแน่แค่ทิมคนเดียวก็รับมือแทบแย่แล้ว
เจอเจ้เ็ป็นใจอีกคนคราวนี้ได้มีแฟนแ่น่จ้า
อีตาทิมก็น่ารักไปไหนน้อ มารับก็ไม่บอกว่ามารับ มากะงึกกะงืออยู่ได้ สุดท้ายก็อ้อมแอ้มบอกมาเนอะ
แล้วจัดการเสร็จสรรพว่าต่อไปนี้คงจะขอเป็นสารถีด้วยตัวเอง คะน้าโดนหลอกไปกินข้าวกับเค้าแล้วจ้า
อร่อยจนลืมความตั้งใจไปเลยเนอะ คะน้าน่ารักมาก คำสุดท้ายนั่นอีกเข้าทางพระเอกสุด ๆ
คือพาร์ทนี้เรตติ้งพระเอกพุ่งแรงมากจริง ๆ ค่ะ

จันทู~~ เธอจะเอาฮาไปไหน ฮาแถมมั่นใจมันทุกตรงเนอะ คะน้าถึงกับทำงานไม่รู้เรื่องกันเลย
ไข่แตกไปสามใบ 555

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
เขินมาก

ทิมเนียนแบบต่ายไปต่อไม่ถูกเลยยยยย

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้นะครับ
อ่านคอมเมนต์ทีไรรู้สึกชื่นใจจริงๆ ผม +1 ให้กับทุกคอมเมนต์แทนคำขอบคุณนะครับ
สำหรับตอนต่อไปที่จะลงนี้ ถือว่าเป็นตอนที่แต่งยากที่สุดเท่าที่เคยแต่งมา
อืม... บอกไม่ถูกเหมือนกัน ลองอ่านดูแล้วกันนะครับ แล้วยังไงก็เสนอแนะกันด้วยนะ

สปอยล์ล่วงหน้านิดนึง ว่าทำใจให้ร่มๆ ก่อนอ่านนะครับ สวดมนต์ไหว้พระด้วยยิ่งดี
ไม่รู้ว่าจะโดนด่าหรือเปล่าแฮะ ตอนอ่านเช็คตัวสะกดก็อึ้งๆ เหมือนกัน
ยังไงก็อยากให้อ่านนะครับ ไม่สิๆ เอาใหม่ๆ ต้องอ่าน นะครับ!!!
อ่านช้าๆ ค่อยๆ อ่านแล้วจะรู้สึกอยากลุกขึ้นมาถีบหน้าคนแต่งแน่นอนครับ 5555
คนแต่งน้อมรับคำด่ามากมายที่จะกระหน่ำมาหลังอ่านจบตอนแล้วครับ  :o12:

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ตอนที่ 22




ใต้ร่มไม้ที่เพิ่งลงในเขตก่อสร้างเมื่อหลายเดือนก่อนระบัดใบแผ่ทั่วกิ่งก้านจนดูร่มรื่นขึ้นมาก กว่าครึ่งชั่วโมงที่คะน้านั่งจ่อมอยู่บนพื้นดินด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างถึงขีดสุด ต้นเหตุมาจากชายหนุ่มสูงโปร่งในหมวกสีเหลืองที่ยืนสั่งงานกับทีมช่างอยู่บริเวณเครื่องตอกเสาเข็ม ทิมกำลังทำงาน และอันที่จริงเขาก็ควรจะต้องทำงานเช่นกัน แล้วโผล่มาที่นี่ทำไมน่ะหรือ? คำตอบก็คือเพราะยอดชายนายคะน้าผู้นี้ โดนไอ้เท่ห์ที่ยืนเก็กสั่งงานนั่นทั้งมัดมือชก ทั้งตุ๋นจนเปื่อยกว่าหมูตุ๋นในก๋วยเตี๋ยวเจ๊พรที่ขายอยู่ท้ายตลาดเสียอีก แต่ขอบอกเอาไว้เลย ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้เว้ย! งานนี้มันเลยต้องมีเคลียร์กับเคลียร์ให้หายข้องใจ!

ทิมยืนตรวจงานของช่างต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว ใกล้ๆ ตัวมีหญิงสาวที่มีดวงตากลมโตแบบตุ๊กตาช่วยกางกระดาษแปลนม้วนโต ในมือมีสมุดเล่มเล็กที่จดอะไรยุกยิกเป็นครั้งคราว คะน้าจำแนนได้จากครั้งตอนที่เจอที่ร้านอาหารคราวก่อน ดูเหมือนว่าเธอน่าจะเป็นผู้ช่วยของทิมที่คอยจดบันทึกช่วยจำต่างๆ แต่ดูจากท่าทีของหญิงสาวแล้ว บางทีแนนอาจจะสนิทสนมกว่าแค่ฐานะผู้ช่วยก็เป็นไปได้ ห่างไปอีกไม่ไกลนัก เป็นผู้หญิงใส่แว่นที่คะน้าก็เดาไม่ถูกว่าทำงานในหน้าที่อะไร บางที อาจจะเป็นผู้ช่วยของผู้ชายร่างสูงโปร่งอีกคนที่ยืนคุยกับทิมอยู่ในตอนนี้

ลึกๆ แล้วก็รู้สึกเกรงใจทิมที่จู่ๆ ก็โผล่มาโวยวายกับเรื่องไร้สาระ แต่ไม่ทำแบบนี้มันก็ติดค้างในใจอย่างบอกไม่ถูก ก็ใครจะไปรู้ว่าจะยุ่งล่ะ! วันก่อนยังเห็นโผล่ไปนวยนาดที่ตลาดขนาดนั้น

“พี่คะ” เสียงเรียกของหญิงสาวทำให้คะน้าสะดุ้งตัวหันไปมอง เป็นแนนที่เดินมานั่งใกล้ๆ แล้วยื่นน้ำเย็นๆ ให้กับคะน้า “พี่ทิมกำลังยุ่งๆ อยู่ พี่รอแป๊บนึงนะคะ”

“อ่า... ครับ ขอบคุณครับ” คะน้าเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำเปล่าแช่เย็นจากมือเธอพร้อมขอบคุณ

“ที่ร้านอาหาร... ใช่พี่ใช่ไหมคะ แนนคุ้นๆ” คะน้าพยักหน้ารับ อยู่ๆ ก็รู้สึกเขินขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ “สนิทกับพี่ทิมหรือคะ เห็นพี่ทิมเคยบอกว่าพี่... เป็นคนขายไอติมที่ตลาด”

ปลายเสียงของแนนฟังดูแปลกๆ หากแต่ความสดใสในดวงตาและรอยยิ้มน่ารักนั่นทำให้คะน้านึกตำหนิตัวเองว่าคิดมากไป คงไม่มีอะไรที่ทำให้แนนต้องนึกไม่พอใจอะไรเขาแบบนั้น บางทีอาจเป็นเพราะจังหวะการพูดที่เว้นช่วงเหมือนเน้นคำเหล่านั้นมากกว่าที่ทำให้ดูแปลกแปร่ง กระทั่งทิมเดินมาสมทบพร้อมกับผู้ชายร่างสูงอีกคน

“พี่เจ นี่คะน้า นี่พี่เจ”

“สวัสดีครับ” คะน้ารีบลุกขึ้นยืนแล้วทักทาย หากแต่เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของคนที่ตนเองไม่คุ้นตาก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก

“อ้ออออ... คนนี้” พี่เจลากเสียงยาวก่อนที่ทิมจะเอาศอกกระทุ้งแล้วเขม่นสายตาใส่ ชายหนุ่มอีกคนจึงหันมายิ้มร่าเริงให้กับคะน้า แล้วทักทายตอบ “สวัสดีครับ”

...ไม่บอกก็รู้ว่าแม้จะไม่เคยเห็นหน้าตากันมาก่อน แต่ชายหนุ่มอีกคนรู้จักเขาเป็นอย่างดีแน่นอน

“พี่เจคะ พี่ทิม มีอะไรกันหรือเปล่าคะ” แต่เป็นแนนที่เก็บความสงสัยจากท่าทางยุกยิกของสองหนุ่มไม่ไหว ทิมกลับมายืนนิ่งเงียบเหมือนไม่ได้ยินคำถาม หากแต่ชายหนุ่มอีกคนกลับหันมาหัวเราะให้หญิงสาวอย่างขี้เล่น

“คิดมากไปน่ะเรา” แนนทำหน้าไม่ค่อยเชื่อนัก แต่ทิมไม่สนใจ วิศวกรหนุ่มหันกลับมาถามคะน้าที่ยืนเก้ออยู่

“มีอะไร” คะน้าอ้าปากจะตอบแต่พอเห็นสายตาของแนนกับพี่เจที่มองอยู่ก็ชะงัก ...จะบอกว่ามาคิดบัญชีเรื่องเมื่อวันก่อนต่อหน้าคนอื่นมันก็ใช่ที่เปล่าวะ? ฝากไว้ก่อนเถอะทิม!

“ก็... ไม่มีอะไร” แนนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ในขณะที่พี่เจทำหน้างงๆ สักพักหัวเราะร่วนขึ้น คะน้าไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของแนนเท่าไหร่ แต่กับชายหนุ่มแปลกหน้าอีกคน อะไรบางอย่างบอกถึงลับลมคมใน

“จะกลับบ้านเหรอ รออีกหน่อยได้ไหม” ดูเหมือนว่าทิมจะตีความหมายไปอีกอย่าง อันที่จริงก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคะน้าอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มจึงหันมายิ้มเออออห่อหมกไปเสียให้จบเรื่อง


...เออ ช่วยพาออกไปจากตรงนี้ทีเหอะ!

ทิมยิ้มน้อยๆ อืม... คิดว่าตาของตัวเองไม่ฝาดไปหรอกนะ ทิมยิ้มให้กับเขาจริงๆ ก่อนที่จะหันหน้าแล้วรีบรุดกลับไปที่บริเวณก่อสร้างอีกครั้ง ทิ้งให้คะน้าอยู่กับแนนและพี่เจด้วยความรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ลับหลังทิม แนนก็ยิงคำถามด้วยความสงสัยจนคะน้าไม่รู้จะตอบยังไง

“ทำไมต้องกลับบ้านพร้อมกันด้วยคะ ทำไมพี่ทิมต้องขับรถให้พี่ด้วย หรือมีธุระอะไรกันต่อคะ”

“แนน... พี่กวนให้ไปเอาน้ำเย็นๆ ให้พี่ขวดสิ” พี่เจพูดแทรกขึ้นมาเหมือนจงใจ หญิงสาวหน้ามุ่ยแต่ก็หันกลับไปยิ้มหวานให้พี่เจแล้วพยักหน้า ไม่วายจะทิ้งทวนด้วยการส่งสายตาตั้งคำถามให้คะน้าก่อนจะเดินจากไป

“นั่งไหม” ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงนั่งใต้ร่มไม้ คะน้าที่ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้ก็เลยรีบนั่งลงตามผู้เชื้อเชิญ นึกอยากจะขอบคุณสักล้านครั้งที่ช่วยทำลายบรรยากาศที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ให้กับคะน้า

“ขอบคุณพี่เจมากนะครับ” รู้ดีว่าชายหนุ่มแปลกหน้าช่วยเหลือเอาไว้

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร ไม่ต้องเรียกพี่หรอก เราอายุเท่ากัน ...แค่เจ้าทิมมันเรียกไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง” ...อ้าว!!!! ทำไมเป็นอย่างนั้น! “จะว่าไปนายนี่... อืม... เป็นเหมือนอย่างที่เจ้าทิมมันพูดเลยนะ” พี่เจพูดพร้อมหัวเราะขำ ...เป็นเหมือนอย่างที่ทิมพูด?!? พูดว่าอะไร?!?

“เอ่อ... ทิมพูดถึงผมว่าอะไรหรือครับ?”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก วางใจได้”

ไม่รู้ว่าคะน้าจะคิดไปเองหรือเปล่าเพราะดูเหมือนกับว่าพี่เจ ซึ่งอันที่จริงต้องเรียกว่าเจพูดแบบนั้น มันดูกำกวมในความหมายอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนเจจะรู้เรื่องราวของคะน้าอยู่ไม่น้อย อย่างน้อยก็เรื่องอายุนั่นล่ะ ไหนจะท่าทีที่ดูคุ้นเคยเป็นกันเองมากกว่าคนที่เคยพบครั้งแรกแบบนี้อีก ยิ่งคิดยิ่งน่าสงสัยจนคะน้านึกอยากจะเอ่ยถาม จังหวะนั้นเองที่แนนเดินกลับมาพร้อมกับทิม คะน้าจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจต่อไป แนนยื่นน้ำเย็นให้กับเจ

“หัวเราะอะไรกันคะ นินทาแนนหรือเปล่านะ” หญิงสาวหน้ามุ่ยแล้วหันไปกระเซ้าเจ

“กำลังนินทาอยู่พอดีว่าเมื่อไหร่สาวน่ารักๆ ยิ้มหวานๆ แบบน้องแนนของพี่จะมีแฟนกับเค้าเสียที หรือว่าเดี๋ยวนี้หนุ่มๆ มันไม่ได้เรื่องจนผู้หญิงต้องลุกขึ้นมาจีบผู้ชายแทนนะ” เจหันไปหยอกเย้าตอบ

“พี่เจพูดอะไรคะเนี่ย น่าเกลียดจัง” แนนเง้างอดพร้อมกับเหลือบไปมองหน้าทิมเหมือนจะจงใจให้รู้ แต่ชายหนุ่มกลับมองไปทางทีมช่างที่กำลังทำงานอยู่ หญิงสาวจึงหันกลับมาสบตาคะน้าแล้วยิ้มให้แทน

“แนนเป็นผู้หญิงนะคะ จะให้ลุกขึ้นมาตามตื้อตามตอแย มาหาคนที่ชอบถึงที่อะไรแบบนั้น คนเขาจะได้มองไม่ดีเอา”

ลึกๆ แล้วคะน้ารู้สึกอึดอัดกับคำพูด หรือแม้แต่กับรอยยิ้มหวานๆ ของแนนอย่างบอกไม่ถูก จะเรียกว่าจงใจพูดกระทบตัวเขา แนนก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไรพวกนี้ไม่ใช่หรือ หรือเพราะว่าบางที เขาอาจจะร้อนตัวกับคำพูดที่มันดูละม้ายกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่แบบนั้น ...ใครจะคิดอะไรก็ช่าง กูไม่ได้มาสวีทเฟ้ย กูมาคิดบัญชีกับไอ้ขี้เก็กนี่ต่างหาก!

“สวยๆ น่ารักๆ แบบเรา แถมครอบครัวก็ดี เราน่ะ มีแต่คนแย่งกันจีบล่ะไม่ว่า” เจหยอกล้อกับแนน หญิงสาวหัวเราะแล้วหันไปเกาะแขนทิมที่ยืนอยู่เคียงกัน ทิมจึงหันหน้ากลับมาฟังบทสนทนาอีกครั้ง “พี่ทิมดูพี่เจสิคะ แซวแนนอยู่ได้”

“แนนอยากให้เป็นคนที่แนนรักน่ะค่ะ ไม่ใช่แค่ใครก็ไม่รู้ที่มาจีบเล่นๆ แนนอยากมีคนที่เราเรียกว่าแฟนได้อย่างเต็มปากมากกว่าควงเรื่อยเปื่อยแบบนั้น จะเรียกว่าหัวโบราณก็ได้ แต่บอกตามตรงว่าแนนไม่ชอบค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจแล้วหันไปมองที่ทิม หากแต่ทิมยังคงนิ่งเฉยแบบทุกที แนนจึงหันไปยิ้มให้กับเจแบบเก้อๆ แทน

“บางทีก็อยากมีคนที่เรากลับบ้านด้วยกัน คนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน ไปเดินเล่นไหนๆ หรือไปนั่งเล่นกันที่บ้าน ...บ้านแนนหรือบ้านแฟนก็ได้น่ะค่ะ เป็นคนที่เข้ากับที่บ้านเราได้ แนนถือเรื่องแบบนี้นะคะ อืม... แล้วก็อาจจะทำอาหารทานกันเอง แนนนั่งทานกันบนพื้นก็ได้ ทานจานเดียวกันก็ได้ ง่ายๆ น่ะค่ะ แนนไม่ชอบอาหารตามร้านน่ะค่ะ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ คงให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ เลยนะคะ”

แนนยิ้มให้กับความคิดฝันของตัวเอง ผิดกับคะน้าที่นั่งนิ่งแข็งเป็นตอไม้ เมื่อแต่ละอย่างที่แนนพูดออกมา มันช่างเหมือนกับ...

“ก็ใช่ แต่สมัยนี้จะมีใครไปทำแบบนั้นล่ะ ใช้เวลาด้วยกันเหรอ ไปนั่งเล่นที่บ้านเนี่ยนะ ยิ่งทำอาหารกินเองนี่ยิ่งยากไปใหญ่เลย สมัยนี้ใครจะไปมีโมเมนต์แบบนี้ จริงไหมทิม ว่าไหมคะน้า” เจหันไปพยักหน้าให้ทิมแล้วหันกลับมามองหน้าคะน้าที่กำลังนั่งอึ้งๆ คะน้านั่งตัวแข็งทื่อ เผลอกลืนน้ำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัวด้วยความที่พูดไม่ออก


...ไม่มีใครทำ ...ไม่มีใครมีช่วงเวลาแบบนี้เหรอ?

โดยอัตโนมัติ คะน้าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนอยู่เหมือนร้อนตัว เป็นแบบทุกครั้ง ทิมไม่ได้พูดอะไร ผิดเพียงแค่ว่าในครั้งนี้ ดวงตาสีดำขลับของชายหนุ่มไม่ได้มองไปเบื้องหน้าเช่นทุกที หากแต่กลับทอดมองลงมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่ดูน่ามองนั่น



...เพียงแค่นี้ ก็รู้สึกร้อนวูบที่หน้าอย่างบอกไม่ถูก

“เฮ่ย!” แรงสะกิดเบาๆ ของเจทำให้คะน้าสะดุ้งตัว “เป็นอะไร อยู่ๆ ก็ทำหน้าเหรอหรา”

“เอ่อ... ป..เปล่า ไม่มีอะไรนะ” คะน้ารีบปฏิเสธ เจหลิ่วตาแบบไม่ค่อยจะเชื่อนัก แต่ชายหนุ่มก็ดูจะไม่ได้สนใจจริงจังอะไรกับท่าทางประหลาดของคะน้ามากมายไปกว่าหันไปแซวแนนว่าเพ้อฝันแบบเด็กๆ ผิดกับอีกคนที่ยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี

“กลับกันไหม”

ทิมที่ยืนอยู่หยิบกุญแจรถขึ้นมาแกว่งเล่น คะน้าจึงลุกขึ้นแล้วขอตัวกลับ โดยมีแนนที่มองทิมด้วยสายตาตัดพ้อ หญิงสาวบ่นอุบว่าทิมน่าจะอยู่ต่อให้ครบเวลางาน ส่วนเจก็เอ่ยลาแบบทั่วไป ก่อนจะลุกขึ้นแล้วพูดกับคะน้าเบาๆ ให้พอได้ยินแค่สองคนแล้วเดินจากไป คำๆ นั้นยังก้องอยู่ในหูของคะน้าจนถึงตอนนี้




“...รู้ตัวหรือเปล่าว่านายหน้าแดงอยู่”


คิดแล้วก็เซ็ง ไม่รู้ว่าป่านนี้เจจะคิดไปถึงไหน แล้วไหนจะเรื่องที่ทิมไปเล่าไว้ให้ฟังอีก ตัวการของปัญหาทั้งหมดดูจะนั่งสบายใจเฉิบอยู่หลังพวงมาลัยอย่างไม่ทุกข์ร้อน

“อะไร” ทิมพูดขึ้น ทั้งๆ ที่สายตามองไปที่ไฟแดงข้างหน้าที่ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเสียที

“ไปพูดอะไรให้เจฟัง”

“พูดอะไร”

“ก็ไปเล่าอะไรให้เขาฟังบ้างล่ะ ถึงได้พูดอะไรแปลกๆ ทำท่าอะไรแปลกๆ” ทิมชักสีหน้าแล้วหันมาโวยใส่

“สนใจนักนะ แคร์มากหรือไง ไหน? มันคุยกันถูกคอเลยใช่ไหม หมดจากไอ้แว่นก็เอาอีกล่ะสิ ชอบนักล่ะ หัวเราะคิกคัก คุยกับคนนั้นคนนี้”

“บ้าอะไรเนี่ย” หันกลับไปมองทิมอย่างอึ้งๆ

“อย่าคิดว่าไม่เห็น”

“ไม่ต้องมาทำโวยกลบเกลื่อน ไม่อย่างนั้นเจจะรู้จักได้ยังไง ไปพูดอะไรไว้บ้าง อย่าบอกนะว่าเรื่องบ้าๆ ที่ทำเอาไว้” ทิมหันมาแล้วทำหน้าดุใส่

“นั่งเงียบๆ ไปเลย”

“ก็เงียบตั้งแต่แรกแล้วเปล่า ไม่ได้พูดอะไรสักคำ” คะน้าหันไปบ่นใส่ ดูทิมชะงันงันไปเล็กน้อยแล้วขับรถต่อไปแบบเงียบๆ พร้อมกับทำกระสับกระส่ายพิลึกกึกกือก็เริ่มรู้สึกเอะใจ



...อย่าบอกนะว่า ...ว่า ห..หึง

คิดขึ้นมาคะน้าก็ใจสั่นแปลกๆ แต่เมื่อเหลือบดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่ใบหูเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วก็อดใจเต้นรัวยิ่งขึ้นไปอีกไม่ไหว ลงท้ายถ้อยคำมากมายจึงกลืนหายกลับไปในลำคออย่างช่วยไม่ได้ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ความเงียบนำพามาซึ่งความรู้สึกมากมายที่ซุกซ่อนไว้ในใจ คิดแล้วก็อยากจะนึกหัวเราะตัวเองที่อยู่ๆ คะน้าก็รู้สึกว่าผู้ชายตัวโตจอมกวนประสาทที่นั่งข้างๆ ในตอนนี้ดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก อยู่ๆ ก็นึกอยากจะเข้าไปกอดแล้วฟัดสักหลายๆ ที ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ความสนุกคิดต่อยอดให้กับความคิดประหลาดที่ผุดขึ้นมาในหัว




...ถ้าหอมแก้มทิมตอนนี้จะเป็นยังไง?

ในใจเต้นรัวอย่างประหลาด ...อยากรู้ ...อยากเห็น ...อยากลอง

บ้าชะมัด อยู่ๆ ก็คิดว่าทิมดูน่ารัก!!! บ้าไปแล้วที่คิดว่าถ้าทำอย่างที่คิด คนขี้เก็กที่นั่งข้างๆ มันจะเป็นยังไง จะอึ้ง จะทำอะไรไม่ถูก หรือจะทำยังไง คะน้าหายใจติดขัด พยายามอดกลั้นความคิดพิเรนทร์ที่กำลังโลดแล่นอยู่ในหัว ในใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากลองอย่างบอกไม่ถูก

“อะไร” ทิมเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งด้วยท่าทีที่กระฟัดกระเฟียด ริมฝีปากเม้มแน่นจนตึง

“ข..ขอ” คะน้าพูดตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าความคิดห่ามๆ กับความบ้าบิ่นนี่ผุดขึ้นมาได้อย่างไร

“อะไร!” ทิมถามเสียงเข้ม ใบหูยังแดงระเรื่ออยู่ไม่หาย

เห็นแค่นั้นความรู้สึกฮึกเหิมก็ทะยานถึงขีดสุด ความกระหายใคร่รู้อัดแน่นเกินกว่าอคติและถ้อยคำมากมายที่ครุ่นคิดขึ้นมาทั้งวัน ...ไม่พูด ...ไม่ขอให้มากความ คะน้าดันตัวเองขึ้นจนเข็มขัดนิรภัยรั้งตึง หากแต่ความอยากรู้นั้นมากมายเกินกว่าตัวเองจะรู้สึกตัว มือขวาของคะน้าจึงปลดสายเข็มขัดนิรภัยที่ดูเกะกะ เมื่อหมดพันธนาการที่เกี่ยวรั้ง ริมฝีปากของคะน้าก็สัมผัสกับแก้มของคนที่นั่งข้างๆ อย่างแผ่วเบา



...นิ่ม

...นิ่มและให้ความรู้สึกที่ดี

ไม่ได้หอมหวานจนเลี่ยน ไม่ได้นิ่มจนนุ่ม มันมีความกระด้างน้อยๆ บนผิวสัมผัส อีกทั้งกลิ่นหอมแบบไม่ฉุนบนร่างกายของทิมก็ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก ให้ความรู้สึกว่าไม่พอ ...ยังไม่พอ คะน้าค่อยๆ ถอยตัวเองออก หากแต่ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกลับเรียกร้องมากขึ้น ...ต้องการมากขึ้น ...มากกว่านี้

ชายหนุ่มผู้จู่โจมเผยอริมฝีปากของตัวเองขึ้นแล้วโน้มใบหน้าเข้าหาอีกครั้ง ค่อยๆ ลากไล้ไปที่ใบหูที่แดงระเรื่อ ร่างของคนที่นั่งนิ่งอยู่ชะงักงันก่อนจะเลื่อนไถลลงตามพนักพิงของเบาะ เป็นคะน้าเองที่โจนทะยานไปกับความรู้สึกที่โหยหา ริมฝีปากของคะน้าลากผ่านผิวแก้มเบาๆ แล้วงับบดที่ใบหูที่แดงระเรื่อ ขบเม้มด้วยความรู้สึกฮึกเหิม

กระทั่งรถยนต์เบรคตัวจนแรงเหวี่ยงทำให้คะน้าเซตัวออกจากคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ทิมเหมือนถูกกลืนหายเข้าไปในเบาะหนังที่หนานุ่ม ดวงตาที่เคยดึงดันเบิกกว้างพร้อมกับริมฝีปากที่เผยอขึ้นด้วยความแปลกใจ ...ไม่สิ อาจจะตกใจ ร่างสูงโปร่งหอบสะท้านก่อนที่เสียงแตรรถที่ดังด้านหลังจะดึงให้สติของคนทั้งคู่กลับมาเหมือนเดิม ทิมเอื้อมมือไปฉุดรั้งคะน้าที่เซเสียจังหวะไปขึ้นมา


บ้า... บ้าไปแล้วแน่ๆ นี่เขากำลังทำอะไรอยู่



“ข..ขอโทษ ...ขอโทษ ม..มะ” เสียงของทิมดูสั่นๆ แต่ใบหน้าที่คะน้าเห็นในตอนนี้แดงจัดจนเข้ม

“ม..มะ คือ... ตกใจ ม..ไม่เป็นไรใช่ไหม” ทิมจับมือคะน้าแน่น หากแต่คะน้ากลับรู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหวบนความแน่นที่บีบรัดนั้น ทิมจ้องตาของคะน้า ร่างสูงยังหอบสะท้านจนเห็นความสั่นไหว ใบหน้าที่คมคายได้รูปรีบเบือนหน้าหนี สักพักก็สะบัดน้อยๆ ไปมา คะน้าเห็นไรฟันขาวๆ ขบบนริมฝีปากล่างจนปลั่งแดง

จู่ๆ ทิมก็ดึงรั้งร่างของคะน้าเข้ามากอดจนแน่น พื้นที่ที่แคบกลับกว้างใหญ่จนน่ารำคาญ ริมฝีปากของคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยบดตัวไปบนปากของอีกคนอย่างเหิมเกริม แปลกไปกว่าทุกทีที่คะน้าไม่ได้ถอยหนีแบบครั้งที่ผ่านมา เขาตอบรับทุกสัมผัสที่ถาโถมของทิมอย่างไม่หวั่นเกรง



พระเจ้า... ผมจะอธิบายถึงความรู้สึกในตอนนี้ยังไง

อึดอัดไปทั้งตัวเหมือนร่างกายจะระเบิด หายใจไม่ทัน หัวใจมันรู้สึกหวิวๆ ทั้งๆ ที่มันเต้นรัวเหมือนใจจะขาด ร้อนเหมือนเป็นไข้ ทำอะไรก็ไม่ถูก ไม่รู้จะอธิบายอะไรพวกนี้ได้ยังไง แต่คือให้ตายเถอะ ...มันรู้สึกดีชะมัด!

กระทั่งเสียงแตรของรถด้านหลังดังกึกก้องไปบนท้องถนนจนน่ารำคาญ ทิมจึงผละตัวออกอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มทุบฝ่ามือลงบนพวงมาลัยรถพร้อมกับลมหายใจที่หอบแรง ทิมหันมาสบตาของคะน้า หัวเราะน้อยๆ ให้กับตัวเองแล้วส่ายหน้าเบาๆ ให้กับสิ่งที่เพิ่งทำลงไป ...เขาเองก็ไม่ต่างกัน คะน้าร้อนวาบไปทั้งหน้า รีบเอื้อมมือจับเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาคาดแล้วนั่งนิ่ง นึกโทษตัวเองที่ทำอะไรบ้าๆ ลงไปด้วยความรู้สึกชั่ววูบ แต่กระนั้นก็กลับรู้สึกดีในรสสัมผัสที่ผ่านพ้นอย่างประหลาด

ทุกอย่างนิ่งเงียบจนกระทั่งรถของทิมหักเลี้ยวเข้าสู่คอนโดแล้วจอดสนิทในลานจอดรถ คะน้ารีบพาตัวเองออกจากรถของทิมด้วยความรู้สึกกระดาก แต่เพียงครู่เดียวก็ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมกอดที่แนบแน่นจากด้านหลัง สัมผัสแผ่วของลมหายใจอุ่นบนต้นคอร้อนจนเหมือนไฟ ความอ่อนนุ่มที่พรมไปทั่วลำคอทำให้แทบหมดแรงต้านทาน

“ไปที่ห้องนะครับ” ทิมกระซิบเบาๆ ข้างใบหูแล้วคลอเคลียริมฝีปากตัวเองไปมาอย่างอ้อยอิ่ง

ในใจของคะน้าคึกโครมอย่างประหลาด ความรู้สึกเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมายังค้างคาในความรู้สึก เขายอมรับว่าติดใจกับรสสัมผัสที่ให้ความรู้สึกร้อนวาบในใจนั้น ยอมรับว่ายิ่งได้เห็นท่าทางของทิมที่จำนนยิ่งกระตุ้นเร้าให้อยากรู้ให้มากขึ้นกว่าเดิม ยอมรับว่าถ้อยคำต่อว่าหรือแม้แต่เจตนารมย์เดิมที่จะถอยหนีให้ห่าง มันพังไม่เป็นท่าทุกครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าของคนๆ นี้ และยอมรับ ...ยอมรับทุกอย่างว่าเป็นคนที่ไม่เข้มแข็ง แต่ความรู้สึกพวกนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรก็ไม่รู้ บ้าชะมัดที่ตัวเองเป็นคนเหลวไหลแบบนี้

...แล้วถ้าทำมากกว่านี้ล่ะ ทิมจะเป็นยังไงนะ

คะน้าหลับตานิ่ง พยายามสลัดคำถามบ้าๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวอย่างไร้ที่มาที่ไป ไม่ชอบให้อะไรๆ มันเป็นแบบนี้ เกลียดตัวเองที่เสียการควบคุมเอาง่ายๆ เพราะทิม...กับสิ่งที่ทิมเป็น แต่ความรู้สึกเหล่านั้นที่ค้างคามันทวีความรุนแรงในใจ

อยากลอง ...ลองให้รู้
อยากรู้ ...อยากรู้ให้มากกว่าที่เคยเห็น
อยากเห็น ...เห็นให้มากกว่านี้

“ได้โปรด ผม...”

เสียงทุ้มๆ ของทิมกระซิบแผ่วข้างใบหู ฝ่ามือกว้างลูบไล้เบาๆ ในวงแขนที่กอดกระชับ คะน้าพยายามอย่างหนักที่จะหักห้ามความคิดบ้าๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวสมองอีกครั้ง หากแต่กำแพงแห่งเหตุผลที่หนาหนักกลับพังทลายลงอย่างง่ายดายด้วยคำพูดสั้นๆ ของคนที่ยืนแนบชิดที่ด้านหลัง



“...ผมรักพี่นะครับ”




(ยังไม่อยากให้จบใช่ไหมล่ะ 5555 มีต่อด้านล่างนะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2013 11:12:35 โดย Lucea »

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(พวกแม่ยกทั้งหลายอยากอ่านต่อล่ะสิ!!!)




ร่างเปลือยเปล่าของคะน้านิ่งอยู่ที่ปลายเตียงนอนของทิม มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวผืนพอดีตัวที่พอจะปกปิดร่างกายเอาไว้ ดวงตาสีเข้มสั่นสะท้าน เหลือบมองไปรอบๆ ตัวราวกับเป็นสถานที่แปลกตา ไม่คุ้นเคย ไม่รู้ว่ามันดีหรือเปล่ากับความคิดบ้าๆ ที่โลดแล่นขึ้นมาในหัว ในใจตอนนี้กลับรู้สึกหวาดๆ กับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนับจากนี้ แม้รู้ว่าเมื่อทำลงไปแล้ว ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจากเดิม และรู้ว่าคงยากที่จะเดินถอยหลังกลับ

...แต่ทิมให้รู้สึกที่มั่นคงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่มั่นคงเพราะคำพูด คำสัญญา แต่มั่นคงจากความรู้สึกที่ค่อยๆ ก่อตัว และยิ่งนานวันที่เจ้าความรู้สึกนี้ก่อตัวขึ้นมากมายเท่าไหร่ ในใจของคะน้าก็ยากที่จะปฏิเสธทิมมากขึ้นไปทุกที

เพดานห้องที่สูงโปร่งหลายเมตรทำให้พื้นที่สี่เหลี่ยมนี้ดูโอ่งโถงและสบายตากว่าห้องชั้นอื่นๆ ในคอนโด ผ้าม่านสีอ่อนที่กรุยอยู่ถูกรวบมัดอยู่มุมห้องเป็นระเบียบ เผยให้เห็นผนังตีกระจกใสสูงยาวจรดเพดานไปตลอดแนว แสงสีระยิบระยับของกรุงเทพจากในมุมสูงด้านนอก ตัดกับแสงดาวที่ทอประกายอยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืนราวกับเงาสะท้อนนั้น ไม่อาจทำให้จิตใจในตอนนี้ของคะน้าสงบลงได้เลย

ผิวกายยังชื้นชุ่มจากการอาบน้ำใหม่ๆ กลิ่นสบู่และแชมพูที่เคยคุ้นจากกายของเจ้าของห้องที่คงอยู่บนตัวเองในตอนนี้ พาลให้ใจเตลิดไปไกลแสนไกล เพียงไม่นาน คะน้าก็รู้สึกถึงน้ำหนักที่กดยวบลงบนเตียงนอนและกลิ่นหอมที่เจือมาในอากาศ ...ด้านหลัง ...ที่ด้านหลังและอยู่ห่างเพียงแค่นิดเดียว




“...แชมพูกลิ่นเดียวกันเลย”

ปลายนิ้วของอีกคนแทรกเข้ามาในผมที่เปียกชื้นจากท้ายทอย คะน้าก้มหน้าลงช้าๆ แล้วนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น พยายามกดอาการสั่นไหวของใจที่เต้นรัวจนไม่เป็นจังหวะอย่างเต็มที่ ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่บางสิ่งบางอย่างนั้นจุดเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆ ในลำคอของทิมให้ทุ้มดังขึ้นในความมืด มือกว้างค่อยๆ สอดเอื้อมผ่านลำตัวมาทางด้านหลังช้าๆ แล้วปลดเปลื้องผ้าขนหนูจนลงไปกองที่พื้นราวกับเป็นสิ่งแปลกปลอม ก่อนจะลากไล้ร่างของคะน้าเข้ามาสวมกอดอย่างแผ่วเบา




“กอดหน่อยนะครับ ...เด็กดี”

ริมฝีปากของคนที่อยู่ข้างหลังขบลงเบาๆ ที่ใบหูอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะกดฝังปลายจมูกลงบนผิวช้าๆ สัมผัสที่ลามไล้พรมลงไปที่ต้นคอ เคราที่สากกร้านเสียดสีที่หัวไหล่ไปมาอย่างยั่วเย้า ร่างกายของคะน้าสั่นสะท้าน ความรู้สึกแปลกประหลาดแทรกซึมเข้ามาอย่างเหนือการควบคุม ความเหยียดเกร็งไปทั่วร่างนั้นยิ่งทำให้คนที่ซ้อนกายอยู่ข้างหลังส่งเสียงอย่างพึงใจ ทิมบดริมฝีปากแนบเน้นบนใบหู แล้วกระซิบถ้อยคำแผ่วเบา





“...เรียกว่าพี่ทิมสิครับ”




...นิ่งไปเนิ่นนาน หากแต่สัมผัสจากคนด้านหลังยังไม่เลิกรบเร้าให้จำนน คะน้าพยายามขืนตัวแต่ก็ดูจะป่วยการ ร่างกายที่มีน้ำหนักกลับรู้สึกเบาหวิวราวกับคนไร้เรี่ยวแรง สุดท้าย คะน้าก็ส่งเสียงออกมาเบาๆ กับสัมผัสที่ไม่อาจต้านทาน



“พ...พี่ทิม”

“อืมมมม...”
สิ้นคำ ริมฝีปากคู่นั้นก็ผลิออกจนเห็นไรฟันสีขาวที่เรียงตัว ทิมกัดลงบนหัวไหล่เบาๆ ร่างกายของคะน้าสะดุ้งไหวสะท้านในทันที รอยยิ้มที่มุมปากจุดขึ้นเมื่อได้รับการตอบสนองของคนเบื้องหน้า ทิมค่อยๆ เหยียดตัวลุกขึ้น ฝ่ามือยังคงคลอเคลียลูบไล้ไปบนลำคอและบ่าของคนที่นั่งอยู่ราวกับจะไม่ปล่อยให้ห่างไกล ก่อนที่ร่างสูงกำยำค่อยๆ ขยับย่างกรายมาด้านหน้าอย่างเชื่องช้า แสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านกระจกใส เผยให้เห็นร่างสูงที่เปล่าเปลือยอย่างชัดเจนเต็มตา กล้ามเนื้อทั่วกายของทิมหลั่นเรียงจนน่ามอง ผิวเนื้อที่สะท้อนแสงนวลนั้นยิ่งทำให้เกิดมิติของแสงเงาผ่านรูปร่างที่ยวนเย้าจนตรึงสายตาให้หยุดนิ่งอยู่บนร่างสูงสง่านั้นราวต้องมนตร์

คะน้าร้อนวาบขึ้นทั้งใบหน้า หัวใจสั่นรัวจนไม่เป็นจังหวะกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน เมื่อเรือนร่างที่ไม่ต่างอะไรกับตนเองนั้น ในเวลานี้กลับพาให้หัวใจมันกระเจิดกระเจิงไม่มีชิ้นดี

...ไม่ไหว ...ไม่ไหวแล้วจริงๆ หัวใจเต้นรัวจนหายใจติดขัด ทรมานเหมือนแทบจะระเบิดออกในเสี้ยวนาที คะน้ารีบเบือนหน้าตัวเองไปอีกทาง หากแต่คนที่ยืนอยู่กลับอุทธรณ์แทรกขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล




“มองสิครับ ...เด็กน้อย”

หยุดนิ่งเหมือนต้องมนต์สะกด ...ราวกับกระแสแม่เหล็กที่ดึงดูดจนไม่อาจต้านทาน คะน้าก็ค่อยๆ เบือนหน้ากลับมาช้าๆ แล้วมองเรือนร่างตรงหน้าอย่างเต็มตา ทิมยิ้มเย้าอย่างท้าทาย ดวงตาสีดำลึกลับนั้น แวววาวกว่าทุกครั้งจนน่าค้นหา และดูเหมือนว่าเสน่ห์ที่แทบจะหยุดทุกลมหายใจในดวงตาคู่นั้นจะยังไม่สาสม มือข้างขวาของทิมที่ลูบสัมผัสบนร่างของคะน้าเมื่อครู่ บัดนี้กำลังลากไล้บนเรือนร่างตัวเองเหมือนชี้นำสายตาคนข้างหน้าให้มองตามทุกการเคลื่อนไหว

...ค่อยๆ ลากผ่านแผ่นอกที่แผ่กว้าง ...เลื่อนลงสู่หน้าท้องที่ดูแข็งแกร่งแน่นหนา
...ค่อยๆ เคลื่อนลง ...เลื่อน ...และเลื่อนลง ก่อนจะหยุดอยู่แค่นั้น

ลมหายใจของคะน้าแทบจะหยุดนิ่ง ดวงตากลมใสมองตามทุกสัมผัสอย่างสั่นสะท้าน ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ยิ้มน้อยๆ เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามบ่วงแห่งสเน่หาที่วางไว้ ทิมยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าอย่างลวกๆ ริมฝีปากที่ชวนสัมผัสนั้นยกกระตุกขึ้นที่มุมปาก คนอายุน้อยกว่าสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ ...เชื่องช้า



“ไม่หลบนะ”

เอื้อมมือไปลูบไล้เรือนผมคนที่นั่งอยู่ ปลายนิ้วขยุ้มเบาๆ จนยุ่งเหยิง ดวงตาสีเข้มสบลึกไปในแววตาคะน้า ทั้งออกคำสั่งอย่างถือครอง ทั้งเย้ายวนและท้าทายอยู่ในที



“...มองให้เต็มตา”

รอยยิ้มเพียงแค่มุมปากและเสียงทุ้มเบาๆ ในลำคอของทิมดูเจ้าเล่ห์กว่าทุกครั้ง ดวงตาคู่นั้นยังจ้องมองที่ใบหน้าของคนอายุมากกว่าอย่างวิสาสะถือดี มือข้างขวาลูบไล้ไปทั่วใบหน้าก่อนที่นิ้วหัวแม่มือจะเกลี่ยปาดริมฝีปากของคนที่นั่งอยู่อย่างอ่อนเบา





“ชอบไหม?”

กระดากอายจนไม่รู้จะทำอย่างไร วูบหนึ่ง คะน้ารู้สึกอิจฉาทิมที่แสดงความรู้สึกของตนเองออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่รู้สึกเขินอาย หากแต่ภาพที่เห็นตรงหน้านั้น ช่างเย้ายวนจนทานทนไม่ไหว คะน้าลากสายตามองสำรวจทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่มตามคำเชื้อเชิญด้วยลมหายใจที่ติดขัด มีเสียงระรัวในใจก้องสะท้านจนแทบระเบิดออกมา




“...หื้มมมมมม?”

คำถามที่เหมือนคำกระซิบแผ่วเบาในอากาศนั้นราวกับจะหยุดลมหายใจของคะน้า คนที่นั่งอยู่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยใดๆ ออกไป ในความคิดจับจ้องอยู่แค่เพียงร่างที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า ใต้แสงจันทร์นวลกระจ่าง เรือนร่างของทิมนั้นนิ่งสงบ เผยให้เห็นทุกสัดส่วนที่งดงามราวกับรูปปั้น ไหล่กว้างรับกับต้นแขนที่นูนด้วยกล้ามเนื้อ และผิวที่ขาวกระจ่างนั้น ยิ่งดูขาวจัดเมื่อตัดกับสีเข้มๆ ของท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่อยู่เบื้องหลัง เหนือลำคอที่เหยียดตรงและหน้าผากกว้างนั้น เป็นผมเปียกชื้นสีดำขลับที่เสยขึ้นลวกๆ ผิดกับทุกที แปลกที่มันกลับดูน่ามองอย่างเหลือเชื่อ ผิวหนังที่ละเอียดราวกับภาพวาดของเขายังคงเปียกชื้นไอจากละอองน้ำ หยดน้ำกลมใสที่พร่างพรมอยู่ทั่วแผ่นอกหยอกล้อกับแสงเงาที่เกิดจากสีนวลที่ทาบทอจากฟ้าอย่างแยบยล

คะน้าจ้องมองหยาดน้ำที่เล่นเย้ากับแสงจันทร์แพรวพราวบนบนกายของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกในตอนนี้ช่างปรปักษ์ต่อความกระดากอายในใจที่มีเหลือเกิน ...ราวกับคนที่รอนแรมอยู่กลางทะเลทรายกว้างใหญ่ แววตาของชายหนุ่มจับจ้องหยดน้ำใสๆ ตรงหน้าอย่างไม่วางตา คะน้าค่อยๆ กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างโหยหา ก่อนที่ละอองน้ำบนผิวกายนั้นจะค่อยๆ ทิ้งตัวลงช้าๆ ไหลผ่านแผ่นท้องที่หนั่นแน่นไปด้วยมัดกล้ามแล้วทิ้งตัวเป็นเส้นสายที่วาวแวว

ทุกความรู้สึกยิ่งทบทวี เมื่อทิมค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามาข้างหน้าอีกครั้งอย่างช้าเชื่อง สายตาเจ้าเล่ห์จับจ้องทุกส่วนของร่างกายคนที่นั่งอยู่อย่างท้าทาย สัญชาตญานบางอย่างบ่งบอก คะน้ารีบกระถดตัวหนีอย่างระวังตัว หากแต่เสี้ยววินาทีก็ยังช้าไป เมื่อมือกว้างของคนที่ยืนอยู่เหนี่ยวยึดลำคอเขาให้อยู่กับที่อย่างแนบเนียน ...ไม่มีทางใดๆ ให้ถอยหนี คะน้าจึงได้แต่ฝืนเกร็งอยู่อย่างนั้น หากแต่คนข้างหน้าก็ยังขยับย่างเข้ามาหา


...ใกล้




...ใกล้เข้ามา

คะน้าหายใจหอบสั่นกับภาพที่เห็นตรงหน้า หากแต่ผู้จู่โจมกลับยิ่งคึกคะนอง ดวงตาสีเข้มสาดแสงวาวราวกับราชสีห์หนุ่มงามสง่าที่หมายจ้องกระต่ายตัวน้อยเบื้องหน้าที่ถูกพันธนาการไว้ ทิมขยับตัวอย่างเชื่องช้าทว่าแน่นหนักมาจนใกล้คนที่นั่งอยู่


...และใกล้เข้ามา




...กระทั่ง

...กล้ามเนื้อหนั่นแน่นตรงช่วงท้องนั้นค่อยๆ แนบลงกับใบหน้าของคะน้า กลิ่นสบู่อ่อนๆ ของทิมซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกันกับบนร่างกายในเวลานี้ ผสานจนหอมฟุ้งในปลายจมูกที่กดฝังลงบนกล้ามเนื้อแน่นเบื้องหน้า ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ออกคำสั่งของผู้คุมเกมอีกครั้ง ดวงตาสีดำคู่นั้นวับวาว และมือคู่นั้นยังคงลูบไล้เบาๆ ไปทั่วทั้งศีรษะของคะน้าจนยุ่งเหยิง




“...จับดูสิ”

ไม่เคยมีครั้งไหนที่เป็นเช่นครั้งนี้ เพียงแค่ผิวกายที่หุ้มห่อกล้ามเนื้อแน่นของทิมสัมผัสกับใบหน้าของคะน้า ราวกับโลกทั้งใบนั้นถูกแผดเผาไปด้วยเปลวเพลิง คนๆ นี้เป็นเหมือนกับเชื้อไฟที่ทรงพลังอย่างร้ายกาจ แม้ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่แสนหนาวที่แผ่กระจายไปทั่วห้องจนแทบยะเยือก ก็ไม่อาจทาบสัมผัสที่ร้อนแรงจนพาลให้ทุกความรู้สึกกระเจิดกระเจิงได้ถึงเพียงนี้ มือของคะน้าขยับยกขึ้นช้าๆ แล้วค่อยๆ ลากไล้ไปบนร่างกายเปล่าเปลือยที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของทิมโดยดุษณี



“อยากทำอะไรกับมันก็ได้นะ”

“ทำได้เหรอ”
คะน้าพูดด้วยเสียงแผ่วเบาที่ฟังแทบไม่เป็นภาษา

“อึ้มมมม... ทุกอย่างที่ต้องการ”


“พี่ทิม”

“อืมมมมม...”




“...พี่ทิมมม”

“ค...ครับบบ”


ความร้อนระอุแผดเผาไปทั้งร่างจนสั่นไหว สองมือกว้างของทิมค่อยๆ กดใบหน้าของคะน้าลง วินาทีนั้น ร่างของคนที่ยืนอยู่เหยียดเกร็งจนกล้ามเนื้อนูนชัดไปทั้งร่าง ทิมแหงนหน้าขึ้นสูงแล้วดันร่างกายไปข้างหน้าให้แนบแน่นขึ้นอีก ท้องน้อยเกร็งจนแอ่นตัวก่อนจะงุ้มไหล่ทั้งสองไปเบื้องหลังเพื่อรักษาสมดุลย์ของร่างสูงไว้ให้คงที่ ใบหน้าของทิมรีบเร่งก้มลงมองคนที่อยู่ด้านล่างอย่างโหยหา ริมฝีปากบนและล่างบดตัวกันด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมก่อนจะค่อยๆ แย้มขึ้นน้อยๆ เสียงทุ้มเบาๆ ในลำคออย่างพึงใจคล้ายกับเสียงครางที่ฟังดูไม่เป็นภาษา


“โอยยยย...”

ไม่ใช่ทุกครั้งที่ผู้ล่าจะเป็นฝ่ายกำชัย แค่เพียงครู่เดียว ทิมก็เชยหน้าของคะน้าขึ้นอย่างเร่งร้อน เขาโน้มตัวลงแล้วบดเบียดริมฝีปากตัวเองกับคนที่นั่งอยู่ด้วยความรู้สึกที่ร้อนดั่งไฟ ขยี้ทุกอย่างตรงหน้าให้ระอุร้อนจนแทบมอดไหม้ ก่อนจะยื้อวินาทีแห่งความสุขนั้นด้วยความชุ่มชื้นจากปลายลิ้นที่แทรกเข้าไปในริมฝีปากคนที่นั่งอยู่อย่างโหยหา ดั่งพายุที่โหมกระหน่ำ ร่างสูงทรุดตัวลงต่ำในระดับพื้นในวินาทีต่อมา ทิมคุกเข่าลงตรงหน้าคะน้าแล้วสัมผัสเรือนร่างนั้นด้วยริมฝีปากทั่วทุกตารางอย่างถือครอง

คะน้าบิดตัวด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน พยายามพยุงตัวขึ้นเพื่อมองทุกสิ่งที่เป็นไปเบื้องหน้า หากแต่ในพริบตาที่คนหอบสั่นเผลอจ้องลึกลงไปในดวงตาสีทะมึนนั้น หัวใจก็รู้สึกเบาหวิวจนสะท้านไหวไร้เรี่ยวแรง ...คนๆ นี้ ...ทำไมถึงให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดได้ถึงขนาดนี้

..ทิม

...ทิมมมม

ร่างของคะน้าหอบโยนไปพร้อมๆ กับรอยยิ้มฮึกเหิมของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า วงแขนกว้างช้อนลงบนแผ่นหลังแล้วดึงตัวคนที่นอนอยู่ขึ้นยืนในพริบตา ทิมพลิกตัวเข้าด้านหลังแล้วสวมกอดอย่างแนบแน่น พรมจูบไปทั่วทั้งร่างกายพร้อมค่อยๆ ดันร่างคะน้าไปด้านหน้า ...ทีละน้อย ...ทีละน้อย กระทั่งร่างกายของคนตัวเล็กกว่าแนบชิดกับผนังกระจกบานใสที่ตีสูงจรดเพดาน คะน้าหอบสะท้าน ใบหน้าร้อนวาบด้วยความรู้สึกกระดากอาย หากแต่ว่าความปรารถนานั้นกลับทบทวีเมื่อถูกเร่งเร้าโดยอีกคน



“ไม่นะ ...ไม่ใช่ตรงนี้”

คะน้าเอาฝ่ามือทั้งสองดันร่างตัวเองที่เบียดแนบกับกระจกใสทั้งลำตัว ร้อนวาบไปทั้งหน้าด้วยความละอาย หากแต่หัวใจกลับระรัวด้วยความรู้สึกที่กระเจิดกระเจิง ทิมคำรามเสียงหัวเราะผ่านไรฟัน เขาไม่ได้สนใจถ้อยคำอุทธรณ์ของคนที่อยู่ด้านหน้าแม้แต่น้อย กลับบดร่างตัวเองจากด้านหลังจนแนบแน่นกว่าทุกสัมผัส ...เกินกว่าจะต้านทาน คะน้าตอบรับทุกสัมผัสที่ปรนเปรอ และปล่อยให้ทุกการเคลื่อนไหวให้เป็นไปโดยธรรมชาติของมัน ทิมยิ้มแล้วกัดลงที่ซอกคอของคะน้าเบาๆ ก่อนจะบดเบียดทุกสิ่งทุกอย่างจนแนบแน่นราวกับจะขยี้ร่างกายคนทั้งสองให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว


“ต่ายรักพี่ทิมไหมครับ” เสียงของทิมหอบสั่น

“ค...ครับ”

“หื้มมมมม... ว่าไงนะ”
กลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ


“...รักครับ”

“มากไหม”
เสียงสั่นดังขึ้นที่ข้างใบหู

“ไอ่...ไอ้เด็กบ้า!”

“...มากไหม”
...จนกว่าจะได้มาซึ่งสิ่งที่อยากรู้
เสียงหอบพร่ายังเวียนวนกับคำถามเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ทิมมม...”


“...ถามว่ามากไหม”




“ม...มาก ...มากครับ”


ทิมกัดลงบนใบหูของคะน้าเบาๆ แววตาเรืองรองสุกใส ดวงตาดวงโตเป็นสีดำจัด สีดำดุจสีนิลของอัญมณีน้ำงาม สีดำของดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงแผดเผา สีดำของน้ำตาลที่ถูกเคี่ยวจนมอดไหม้ สีดำราวกับท้องฟ้าแห่งราตรีกาล บัดนี้เจ้าของดวงตาคู่นั้นได้ถือครองทุกสิ่งทุกอย่างของคนที่อยู่ในอ้อมแขนโดยสมบูรณ์


“อะไรที่เป็นของผม ...ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอาไป”

วินาทีนั้น เสียงลมหายใจของทั้งสองคนแทบจะผสานเป็นเสียงเดียวกัน


“พี่เป็นของผม”



“...ของผม ...ของผมคนเดียว”




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อันที่จริง ตั้งใจจะลงตอนดึกๆ แต่อาจกลับบ้านมืด ลงมันแต่เช้าเลยแล้วกัน กร๊ากกกกกก
คนแต่งก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี พิมพ์ไปก็รู้สึกตื่นเต้นไป ซึ่งก็ออกมาเป็นตามที่เห็นล่ะนะ :m25:
แต่ตอนนี้ บอกตามตรงว่าอยากเห็นหน้าแม่ยกทั้งหลายที่ตามเชียร์แต่แรกจัง 555555
อืม... ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ทั้งๆ ที่มันไม่ได้โป๊เอาเสียเลยเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ
แต่ไม่รู้ทำไมมันให้ความรู้สึกเหมือนกับมันโป๊จังก็ไม่รู้ (หรือเพราะไม่เคยแต่งก็ไม่รู้) :-[
ถือว่าเป็นเซอร์วิสให้กับเหล่าแม่ยกของทิมที่ให้กำลังใจและร่วมเวิ่นเว้อกันมาตลอดแล้วกันเนอะ

สำหรับ “เจ” เป็นตัวละครในเรื่องสั้นอีกเรื่องที่เขียนนะครับ (สนใจโปรดติดตาม 55)
อืม... ยังไงต่อดี ลาแค่นี้ไปรออ่านคอมเมนต์จากทุกคนแล้วกันครับ :monkeysad:
พวกซุ่มทั้งหลายและแฟนคลับลับๆ ของทิมโปรดแสดงตัวด้วย 555555
เอ๊ะ! นี่ตรูพิมพ์อะไรลงไปหว่า เอาเป็นว่ากอดคนอ่านแก้เขินหน่อยนะ 555555555555  :กอด1:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
 :jul1:

อ่านแล้วคอแห้งอย่างไรพิกล อ๊ากกกกกกกกกก

ในที่สุด ต่ายไม่ได้อยู่คนเดียวบนดวงจันทร์อีกต่อไปแล้วนะ  :-[

//เป็นลมคลานไปดมยาดมพม่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2013 10:38:42 โดย Millet »

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อร้างงงงงส ตอนนี้ ในที่สุดด กระต่ายน้อยโดนจับกินด้วยความเต็มใจเรียบร้อยย
หุๆ><~~~ชอบตอนในรถที่ทิมเขิลลลลล รู้สึกว่าน่ารักแบบที่คะน้าคิดเลยยย

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มันช่างอีโรติกมากมาย   :m25:

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยย ทิมมันเซ็กซ์เป็นบ้าเลย ต่ายก็เหมือนสาวน้อยในการ์ตูนตาหวาน บอกตรงๆว่าอิ่มเอิ่มเปรมปรีมาก 555 เป็นบทเซ็กซ์ทีร้อนแรงทีเดียว ไม่โป๊ ไม่เรทเท่าไร แต่มันก็ได้เลือดนะเออ//ต่ายจ๊ะ เธอไม่มีทางชนะทิมได้หรอก เพราะทิมมันบ้ามันหน้ามึนมันน่าฟัดเป็นบ้าเลย 555 ไม่โกรธนะกระต่ายน้อยเค้าแซวเล่น รักเธอนะจ๊ะเบบี้ (แอบเครียดนะตอนอ่านสปอยคนเขียน เราก็นึกว่าตอนนี้มาม่าแน่เลย ที่ไหนได้เผ็ดจัดจ้านซะ><)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2013 16:22:48 โดย namtarn11 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






zerea

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกก กรี๊ดดดดดดด
โอเคๆ บอกตัวเองให้ใจเย็นๆ

ปล. รู้สึกแปลกๆ ตรงเรียกพี่ทิมเนี่ยแหละงับ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่ทิมเวลานี้ช่างเร่าร้อนจริง ๆ เอื๊อก...(เสียงกลืนน้ำลาย)

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงง  อร๊ายยยยยยยยยยยยย  แอร๊ววววววววววววววววว  มันใช่!  มันใช่อะ!!!!! 
แบบนี้สิหนูทิมของเจ้  กรี๊ดดดดดด
เอาจริง หนีงานมานั่งอ่านเนี่ย ไม่ไหวแล้วค่ะ  ฟินโคตรรรรรรรร 
งานมาเท่าไหร่ไม่หวั่น  นั่งยิ้มแก้มบานไปอีกสิบวัน กร๊าซซซ   ที่บ้านเธอมีอีกไหม มีอีกไหม มีอีกคนไหมเทออออ

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
อ๊ากกกกกก กว่าจะจบบทแทบขาดใจตาย
เพิ่งรู้ว่าตัวเองกลั้นหายใจ ลุ้นไปกับต่ายด้วย
สงสารต่ายบ้างนะ พี่ทิม
ในที่สุดก็มีฟิลล์นี้ซะที รอมานานนนนนนน ขอบคุณฮะ 5555+

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เออะ !!
ตอนแรกไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้
มันแบบว่า อ๊ากกกกกกก ทิมมันเซ็กซี่จังวะคับ ฮ่าๆ
เป็นฉากเรทที่แบบว่าดูดีมากเลยอะ ชอบบบบ ><

BF-e

  • บุคคลทั่วไป
เขิ๊นนนนน!! พี่ทิมมมมมม

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
ทิมโคตรเซ็กซี่เลยเว้ยเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย
เอากล้ามมาให้เค้าลูบมั่งดิเค้าอยากลูบ   :-[
เขินแทนน้องต่ายมากเลย มาให้เขาเรียกพี่อีก เป็นน้องเขานะนั่น หรือทิมมันแอบจิตฟระ !!!!?  :laugh:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
คำโปรยมันออกจะไปทางดราม่า แต่พออ่านไปทางอีโรติก 555 ล้อเล่นค่ะ บรรยายได้เซ็กซี่และไม่โป๊ดีค่ะ
รู้แต่ว่าตาทิมหล่อเอ็กซ์แตกมาก หุ่นดีมาก หุ่นดีเว่อร์ ๆ บางทีก็อยากอ่านคะน้าในมุมมองของทิมบ้างนะคะ
ว่าเป็นยังไง แบบอารมณ์จะหลงคะน้าเหมือนคะน้าที่หลงทิมในตอนนี้บ้างหรือป่า (คนอ่านก็หลงพระเอกจ้า)

เริ่มต้นด้วยนังน้องแนนผู้น่าหมั่นไส้ หล่อนมาแบบใส ๆ แต่อยากรู้อยากเห็นทุกสิ่ง และที่สำคัญคือเหน็บแนม
น้องคะน้าของเจ้ ซึ่งเจ้ทนไม่ได้จ้า รักในฝันของหล่อนรอไปก่อนนะจ๊ะ เพราะคนที่หวังไว้เค้ามีคนที่เค้ารักซะแล้ว
บนรถคันนั้นขอบอกว่าต่ายยั่วมากกกกกกกกกกกกก (ก. ล้านตัว) ตอนน้องทิมหึงนี่น่ารักมากนะ หลังจากนี้
อาจจะยิ่งเพิ่มเลเวลเพราะได้เป็นเจ้าของแล้ว เอ็นซีตอนนี้ล้วนมาจากต่ายน้อยล้วน ๆ เลยจ้า
ทิมจัดให้ เค้าดูหลงกันและกันและรักกันมากนะ อารมณ์แบบทนไม่ไหวแล้วล่ะ ตลกตอนพระเอกให้ต่าย
เรียกว่าพี่... 555 มีปมป่ะเนี่ยที่เกิดช้า น่ารักดีอ่ะ บอกรักกันด้วยนะ เป็นฉากรักที่หวานมาก
แต่มีความรู้สึกว่าหลังจากนี้มันจะดราม่าไงไม่รู้นะ สังหรณ์สังเห่าไปเรื่อยค่ะ รู้แต่ว่าอยากอ่านตอนหน้ามากกกกกกกจุดนี้

ขอบคุณค่าาา  :L2:

ออฟไลน์ Usukushii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mc4: :mc4:

ในที่สุด :กอด1:

สมกับที่รอคอย ทิมๆๆๆๆๆๆๆ  :-[

 :pig4:

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
คิดว่าจะมาม่า...ที่ไหนได้
เซ็กซี่สุดๆอ่ะ ไม่โป๊แต่ก็อีโรติกมากมาย
แม่ยกทิมขอตายค่ะ :m25:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด