♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430420 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ ช่วงนี้เหมือนจะฟิตเนอะ อัพเข้าไปสิ เหมือนเก็บกดมาจากไหนสักอย่าง
ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจกัน +1 นะครับ
ตอนที่ 28 มาแล้วล่ะ คำเตือนก่อนอ่าน อาจมีอาการคันไม้คันมือระหว่างอ่านก็เป็นได้ 5555



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนที่ 28



คืนที่นกกลืนดาวจนหมดฟ้า แสงสีเงินลอดกายผ่านเถาไม้จนเกิดเงาทอดยาวเป็นเส้นสาย ช่อบุหงาส่าหรีสีขาวที่เหมือนโรยตัวลงมาจากปุยเมฆส่งกลิ่นหอมบางเบาในอากาศยามค่ำคืน สายลมพัดพริ้วกรีดตัวเป็นลายบรรทัด นิ้วของผมจับดินสอที่ว่างเปล่า ขีดเขียนตัวหนังสือมากมายในอากาศ พลิกสู่กระดาษหน้าใหม่ของนิทานที่แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่รู้ตอนจบ



“แนนชอบพี่คะน้าค่ะ”

คะน้าวางแขนลงบนขอบกระจกผืนบางของสระว่ายน้ำไร้ขอบ พระจันทร์สะท้อนเป็นวงกลมเหมือนเหรียญบาทขนาดใหญ่ที่หล่นอยู่ใต้สระน้ำชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียม มีเพียงแผ่นแก้วบางใสที่กั้นท้องฟ้าเหนือกรุงเทพกับผืนน้ำที่เย็นสบาย ดวงตาทั้งคู่จ้องมองแสงสีของมหานครที่ไม่เคยหลับไหลซึ่งตัดกับเส้นสีดำที่ปลายขอบฟ้า


“เรื่องวันก่อน แนนจำไม่ได้ว่าคืออะไร แต่เมื่อทบทวนดูแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้แนนแน่ใจ พี่ใจดีกับแนนมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่พี่คะน้ารักษาเกียรติของแนนไม่ให้ถูกทำลาย” ร่างบางสั่นไหวไปด้วยความประหม่า ใบหน้าของหญิงสาวระเรื่อแดงและดูปราศจากความมั่นใจผิดกับทุกครั้ง “มันน่าอายมากๆ แนนไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ความรู้สึกของแนนมันค่อยๆ เปลี่ยนไป”

“แนนก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังยืนตรงหน้าผู้ชายที่แนนรู้สึกดีๆ ด้วยแล้วขอความรักจากเขา ถึงแม้แนนจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่มันก็ไม่ง่ายเลย แนนรู้ดีว่าถ้าถูกพี่ปฏิเสธ มันก็คงทุเรศมากและไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน แต่แนน... แนนอยากลองเสี่ยงดูค่ะ”

“ถ้าพี่คะน้ายังไม่มีใคร ...จะรังเกียจไหมคะ ที่เราจะลองคบๆ กันดู”

ผมในเวลานั้นได้แต่ยืนแข็งทื่อ เหมือนกับไม่เข้าใจถ้อยคำมากมายที่ผู้หญิงตรงหน้ากำลังพูดอยู่แม้แต่น้อย หลายวันที่ผ่านมาแนนแวะมาที่ตลาดเกือบทุกวัน เธอมาเดินซื้อข้าวของและก็เลยแวะมาซื้อของที่ร้านตามโอกาส แต่มันก็เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ผมไม่รู้ว่านี่มันเรื่องตลกอะไร ความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีใครเอามาล้อเล่นไม่ใช่หรือ แต่เธอก็ดูจริงจังกับเรื่องที่ผมไม่อยากแม้แต่จะจดจำ ...จริงจังจนผมกลัว

“ขอโทษครับ คือ... คือพี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่คือแนนเป็นผู้หญิงที่สวย แล้วก็...”

คำพูดตะกุกตะกักดูเหมือนจะมีแค่อากาศที่รับฟังเมื่อเธอหันตัวกลับแล้วเดินจากไปช้าๆ นี่คือสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดในเวลานั้น แต่สายตาคู่นั้นทำให้รู้สึกใจไม่ดี ไม่ใช่แค่ความผิดหวังที่เจืออยู่ในแววตาที่กลมโตชวนมองนั้น มีความรู้สึกบางอย่างในนั้น ...สิ่งที่ทำให้ผมกลัว




เสียงวักน้ำดังขึ้นพอๆ กับจังหวะที่น้ำกระจายลงบนหัว ทิมกอบน้ำจากทั้งแขนแล้วยกขึ้นปาใส่หน้าราวกับจะให้เจ็บ ...หัวเราะซะมากมาย คะน้าหันไปต่อยกระพุ้งน้ำกลับ ต้นเรื่องเอี้ยวตัวหลบแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี ฝ่ามือกว้างขยี้ลงบนหัวแล้วเลื่อนลง วาดวงแขนกอดเหนี่ยวคอของเขาแล้วดึงเข้าหา

“หนาวเปล่า” ...หมอนี่ก็ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งสิน่า คะน้าหันกลับไปวาดสายตาเขม่น จงใจกวนโทสะ

“ถ้าตอบว่าหนาวจะเปลี่ยนเป็นสระน้ำอุ่นให้เหรอ”

“เถียง มีเถียง” ทิมล็อคคอแล้วดึงเข้าใกล้ หอมลงบนแก้มของคะน้าฟอดใหญ่จนปัดป่ายไม่ทัน

“ไอ้นี่...” คะน้าโวยวาย แต่คราวนี้เป็นที่ริมฝีปากที่โดนจู่โจมเหมือนจงใจให้อีกฝ่ายหุบปากลงเสียที คะน้าทั้งดันทั้งถีบ พอหลุดออกมาได้ทิมก็ยักคิ้ว หัวเราะชอบใจ

“เถียงอีกไหม เอาเลย มีปากก็เถียงเข้าไป เถียงอีกสิ”

...เขาจึงง้างขาแล้วถีบลงกลางยอดอกของคนที่ยืนท้าไปหนึ่งที

แปลกไหมที่ผมจะหวาดกลัวกับการสูญเสีย ไม่รู้จริงๆ ว่าความสุขในเวลานี้ มันจะอยู่กับผมไปได้อีกนานแค่ไหน ลางสังหรณ์ประหลาดบอกว่าไม่ช้าก็เร็ว แนนจะต้องพาเรื่องปวดหัวครั้งใหญ่มาให้กับเขาแน่ๆ และถ้าโชคร้าย คือหมายถึง... ถ้าลางสังหรณ์บ้าๆ นี้มันแม่นยำพอ ในเวลาเหล่านั้น เขาจะรับมือกับมันยังไง




แรงตึงของผ้าปูเตียงที่ดูจะนิ่งจนไม่คลายขยับและเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของอีกคน ทำให้คะน้าลืมตาขึ้นในความเงียบ พลิกตัวไปอีกด้านมองทิมที่นิ่งสงบราวกับรูปปั้นของปฏิมากรชั้นเอกเบื้องหน้า เอื้อมมือออกไปจับหน้าผากของคนที่นอนอยู่ ปลายนิ้วลูบเบาๆ บนผมเส้นเล็กนุ่มละเอียดมือ

“คนแบบนายจะเลือกใครก็ได้ มันไม่ยากเลย ทำไมนะ? กลับมาเป็นคนธรรมดาแบบนี้ หึ... แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก” คะน้าหัวเราะให้กับตัวเองเบาๆ ท่าทีนั้นเหมือนจะข่มความรู้สึกของความหวาดหวั่นในใจเสียมากว่าจะรู้สึกตามที่แสดงออกไป

“แล้วคนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน มันจะมั่นคงไปได้แค่ไหนนะ”

คะน้าถอนหายใจเบาๆ หลายวันมานี้ เขาไม่อาจสลัดภาพของแนนที่ได้เห็นในวันนั้นได้ แววตาที่ดูแปลกตากว่าที่เคยเห็น มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่อยากจะพูดออกไปให้คนที่นอนอยู่ต้องพลอยมาเครียดกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ความรู้สึกในตอนนี้ก้ำกึ่งระหว่างปิดบังและหวังดีจนคะน้าไม่รู้ว่ามันดีหรือเปล่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนแบบเขาคงทำได้เพียงสารภาพในเวลาที่อีกฝ่ายหลับไหลในความฝันที่สวยงาม

“เฮ้อออ... ทิม... กูไม่สบายใจกับผู้หญิงคนนั้นเลย บอกตามตรงว่าเขาทำให้รู้สึกแปลกๆ เขาสนิทกับครอบครัวนายใช่ไหม มันจะเป็นอะไรหรือเปล่า ถ้ากูจะไม่ดูแลใส่ใจเขา ถ้ากูจะไม่พูด จะไม่คุยอะไรกับเขาเลย”

“แล้วมันจะทำให้นายลำบากหรือเปล่า ถ้าเผื่อว่ากูเผลอแสดงออกอะไรที่อาจไม่ดีออกไป” คะน้าป่ายเส้นผมที่ไม่เป็นระเบียบบนใบหน้าที่นิ่งสงบไปด้านข้าง ดวงตาจ้องมองทิมด้วยความรู้สึกที่มีความหมายมากมาย




“ถ้ากูเผลอทำให้เขารู้... ว่ากูรักมึงแค่ไหน”

แสงนวลของพระจันทร์แทรกผ่านผ้าม่านสีอ่อนชั้นนอกลงมาสัมผัสกับผิวเนื้อของชายหนุ่มที่นอนหลับตาอยู่ ร่างสูงที่ในเวลากลางวันดูกราดเกรี้ยวกลับดูอ่อนเดียงสาบนหมอนนุ่มๆ ที่นอนหนุน รอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากดูน่ามองจนคะน้าอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

“กูอยากให้เบาใจนะ ไม่อยากให้นายต้องเหนื่อยหรือดูแลอะไรมากไปกว่านี้ ทุกวันนี้ ที่กูได้มา มันก็มากพอแล้ว มันมากมายจนไม่รู้จะขอบคุณยังไงไหว” คะน้าจูบเบาๆ บนสันแก้มที่โหนกสูงแล้วเลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างๆ ใบหู

“ขอแค่อยู่ข้างๆ กันแบบทุกวันนี้ สำหรับกู แค่นั้นก็พอแล้ว แล้วกูจะพยายามจัดการทุกอย่างนะ กูไหว จะไม่ให้ต้องเป็นห่วง”

คะน้าหอมเบาๆ ลงที่แก้มของทิมอีกครั้ง แล้วล้มตัวลงนอน มองแสงสีเงินที่ค่อยๆ เลือนลงจนกลายเป็นสีขาวโพลน แล้วทุกอย่างก็ดำดิ่งสู่สีดำที่มืดสนิทพร้อมกับอ้อมกอดของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ที่กระชับแน่นกว่าเดิม



อาหารมื้อเช้าส่งกลิ่นหอมเตะจมูก นับจากที่สถานะเปลี่ยนแปลงไป ดูเหมือนว่าทิมจะดูแลเอาใจใส่มากขึ้นไปอีก ไม่เพียงแต่ที่ตัวของเขา หากแต่เผื่อไปที่ครอบครัวของเขาด้วย อาหารมื้อเช้าสำหรับผักกาดหรือแม้แต่ตัวคะน้าที่ปกติเป็นแค่เพียงกาแฟสำเร็จรูปเทซอง ชงง่ายๆ กลายเป็นมื้ออาหารจริงจังอุดมไปด้วยโภชนาการ

ข้าวต้มหมูใส่หม้อหิ้วขนาดใหญ่ถูกลำเลียงลงไปที่ห้องของคะน้า สภาพของชายหนุ่มเจ้าของห้องงัวเงียจับใจ แต่ผู้เป็นพี่สาวกลับแล้วกว่า ผักกาดหาวหวอดๆ เอามือเกาหัวเหมือนโดนบังคับให้มาร่วมโต๊ะอาหารอย่างไม่เต็มใจ

“ไม่ง่วง ไม่เหนื่อยเหรอ ลุกขึ้นมาทำแต่เช้าแบบนี้” คะน้าถามด้วยความเกรงใจ แม้รู้ว่าทิมจะจัดเตรียมบางส่วนไว้ตั้งแต่กลางคืนก่อนนอนก็ตาม พ่อครัวแค่เพียงหันมามองแล้วไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนเจ้าตัวจะมีความสุขเสียด้วยซ้ำ ...รอยยิ้มแบบนั้นดูคุ้นๆ ตา

“พี่ผักกาดทานเยอะๆ นะครับ” บรรจงตักใส่ชามข้าวของหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม เล่นเอาคนขี้เซาแบบผักกาดส่ายหัวยอมแพ้แล้วแย้มริมฝีปากตาม

“ขอบคุณค่ะ แหม... เอาใจเจ้เหลือเกินนะ กลัวเจ้เปลี่ยนใจหรือไง” ทิมยิ้มน้อยๆ เขาไม่ได้ตอบอะไรคำล้อเลียนของหญิงสาว ไม่รู้ว่านั่นคือการยอมรับโดยทีหรือเปล่า

มื้อเช้าเริ่มต้นขึ้น และเป็นการเริ่มต้นที่ดีของหลายๆ วันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ข้าวต้มหมูใส่เห็ดหอมง่ายๆ ของทิมยังมีรสชาติมหัศจรรย์สำหรับคะน้าและผักกาดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่กี่นาทีหลังจากช้อนแรก ชามก็ดูว่างเปล่า หลังอาหารเช้าผักกาดแยกตัวไปทำงาน ส่วนคะน้าติดรถของทิมไปที่ตลาด เขาออกช้าลงตามเวลาทำงานของทิมแทนที่จะเป็นเวลาเช้ามืดแบบปกติ แผงของคะน้าในเวลาเช้ามืดนั้นไม่ได้วุ่นวายเหมือนแผงอื่นๆ ไอศกรีมเย็นๆ ที่ขายตอนเที่ยงไปถึงบ่ายต้นๆ ดูจะทำให้ระหว่างวันเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงมากกว่า

ด้วยคำสั่งห้ามเหยียบไปที่ไซด์เด็ดขาด ทุกเย็น ทิมจึงเป็นฝ่ายที่มาหาถึงแผง การปรากฏตัวของเทพบุตรในตำนาน เรียกรอยยิ้มให้กับจันทูทุกครั้งด้วยที่คิดว่าของตนมีเสน่ห์ไม่ธรรมดา ก็เล่นเอาคะน้ามึนตึ๊บไปหลายครั้งและก็ยังไม่ชิน ...ไม่บ่อยที่จะเป็นแบบวันนี้

ดูเหมือนว่าทิมจะเลิกงานช้ากว่าปกติ คะน้าจึงไปรอทิมที่บริเวณที่จอดรถข้างๆ ตลาด แม้บริเวณใกล้ที่จอดรถก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกอึดอัด ของค้าของขายมีตลอดแนวให้ดูได้เพลินตา ส่วนมากจะเป็นของทานเล่นซื้อง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ลูกชิ้นเอ็นหมูปิ้งเจ้าอร่อยถูกส่งเข้าปาก น้ำจิ้มรสหวานเผ็ดที่ราดจนชุ่มให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี กลิ่นหอมๆ แบบที่เพิ่งออกจากเตาปิ้ง เรียกน้ำลายให้เตรียมทำหน้าที่จนเต็มปาก


อื้มมมมม... อร่อยจริงๆ

อะไรจะสุขใจไปมากกว่านี้! คะน้ายิ้มให้กับลูกชิ้นหมูปิ้งตรงหน้าอีกครั้ง โชคดีที่ความเป็นคนคุ้นกันทำให้พี่ศักดิ์แถมให้อีกไม้ฟรีๆ ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ...ลูกแล้วลูกเล่าถูกส่งเข้าปากชายหนุ่มอย่างเพลิดเลิน



“อยู่ที่นี่เองหรือคะ”

เสียงหวานดังขึ้นที่ด้านหลัง แม้ไม่ต้องหันไปมองคะน้าก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเสียงของใคร ...ลูกชิ้นปิ้งในมือหมดอร่อยโดยไม่รู้ตัว แนนเดินอ้อมร่มไม้มาทางด้านหลัง ปัดเศษฝุ่นของม้านั่งแล้วค่อยๆ ย่อตัวลง ในมือหญิงสาวคือไอศกรีมกะทิของที่แผงคะน้า ...คงเป็นจันทูที่ขายให้กับเธอในตอนที่เขาออกมาแล้ว

“ไอศกรีมของพี่คะน้าอร่อยดีนะคะ แนนชอบมากเลย”

เกร็ดน้ำแข็งสีขาวในถ้วยดูเหมือนจะพร่องไปเพราะไอร้อนมากกว่าจะถูกทานโดยผู้ที่ซื้อมา กระนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มน้อยๆ ให้กับคำพูดของหญิงสาวร่างเล็ก นึกขอบคุณที่ช่วยซื้อหาของจากที่แผงเขา

“ขอบคุณครับ”

“พี่คะน้ายังไม่กลับบ้านหรือคะ”

“อ่อ... ครับ อีกเดี๋ยวก็คงกลับแล้วครับ”

“รอพี่ทิมอยู่หรือคะ?”

เป็นคำถามที่คะน้ารู้สึกถึงความอึดอัดที่เริ่มก่อต่อขึ้น ลึกๆ แล้วเขารู้ดี ไม่ใช่ว่าถ้าตอบคำถามไปแล้วอะไรๆ มันจะจบลงง่ายๆ แนนมีเจตนาบางอย่างแฝงอยู่ในคำถามนั้น เพียงแต่เขาแค่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“ทำไมคะ พี่คะน้าทำเหมือนอึดอัดที่จะตอบ” ร่างบางหัวเราะน่ารักราวกับบ่งว่ามันก็แค่คำถามทั่วไป

“ตอนนี้พี่ทิมทำงานอยู่น่ะค่ะ ค่อนข้างจะยุ่งหน่อย แล้วก็คงจะอีกนานเลยล่ะค่ะกว่าจะเสร็จ แต่แนนออกมาก่อนค่ะ อยากจะมาซื้ออะไรเย็นๆ หวานๆ ทานให้ชื่นใจหน่อย แนนเลยนึกถึงพี่คะน้าก่อนใครเลยนะคะ” แนนพูดพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะเอื้อมมือที่ถือถ้วยไอศกรีมที่เริ่มละลาย ...แล้วปล่อยลงในถังขยะใกล้ๆ



“...คือแนนกลัวอ้วนน่ะค่ะ”

“ผู้หญิงนี่นะ ก็ต้องกลัวเรื่องพวกนี้บ้างล่ะค่ะ พี่คะน้าคงไม่ว่ากันนะคะ” เธอหันมายิ้มน่ารักด้วยดวงตาสดใส เสียงหวานๆ ออดอ้อนจนน่าเอ็นดู คะน้ายิ้มน้อยๆ พอจะเข้าใจเรื่องที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักกังวล หญิงสาวส่งยิ้มกลับ

“พี่คะน้าใจดีจัง เข้าใจใช่ไหมคะ ว่าแนนก็แอบเครียดๆ เหมือนกัน” หญิงสาวกระพริบตาน่ารัก “จะว่าไปแนนนี่โชคดีจังเลยนะคะ ที่พี่คะน้าไม่ถือความกับแนนในวันก่อน วันที่แนนเมาๆ น่ะค่ะ เผลอทำอะไรลงไป เผลอพูดอะไรออกไปบ้างก็ไม่รู้ แนนจำไม่ค่อยได้เลย”

“อ่อ... ไม่เป็นไรครับ อย่าคิดมากเลย” คะน้าก้มหน้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ รู้สึกหนักใจกับท่าทีและรอยยิ้มใสๆ ของหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก แนนผ่อนลมหายใจพร้อมรอยยิ้มหวานแล้วหันมาสบตา

“แนนจำไม่ได้จริงๆ เลยค่ะ ที่ถามว่าพี่คะน้าชอบผู้หญิงหรือเปล่านี่ พี่คะน้าตอบว่าอะไรนะคะ”

คะน้ารู้สึกชาไปทั้งหน้า อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ๆ กว่าจะตั้งสติได้ ก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ด้วยความตกใจราวกับถ้อยคำที่ได้ยินนั้นเป็นเขาที่หูแว่วไปเอง คะน้ากระพริบตาถี่ ตั้งรับกับคำถามที่จงใจจู่โจมนั้นไม่ทัน และที่ร้ายกาจไปกว่านั้นคือรอยยิ้มน่ารักและดวงตาใสราวกับน้ำค้างที่แวววา คล้ายกับสิ่งที่เพิ่งพูดออกมานั้นเป็นเรื่องทั่วไปที่เธอเพียงแค่อยากรู้แบบเด็กน้อยช่างสงสัย แนนหัวเราะคิก ดวงใสๆ พราวจนน่ากลัว

“ว่ายังไงนะคะ แนนลืมน่ะค่ะ จำไม่ค่อยได้ว่าตอนนั้นพี่คะน้าตอบอะไร” ร่างเล็กค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้

“หรือว่ากลัวความจริงเปิดเผยจนไม่กล้าตอบนะคะ”

คะน้ากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น และไม่เข้าใจในท่าทางที่เปลี่ยนไปราวกับพลิกหน้ามือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย ภาพลักษณ์ต่างๆ ที่ใครๆ ต่างชื่นชมเอ็นดู ใบหน้าที่น่ารัก และรอยยิ้มแบบใสซื่อนั้น คือเปลือกนอกที่ฉาบเอาไว้เพียงพื้นผิวเท่านั้นจริงๆ หรือ

แนนสบตาพร้อมกับรอยยิ้ม หญิงสาวเอียงใบหน้าน้อยๆ แล้วทำหน้าไม่รู้เดียงสา

“ว่ายังไงคะ พี่ไม่ตอบอีกแล้ว หรือไม่เข้าใจคำถามนะ” ร่างเล็กยกนิ้วขึ้นแตะที่ขมับแล้วเคาะเบาๆ เหมือนครุ่นคิด ริมฝีปากรั้นเหมือนคนที่คิดไม่ตก “หรือแนนพูดอ้อมค้อมไปนะ งั้นก็ถามตรงๆ เลยแล้วกันนะคะ”

“พี่คะน้าเป็นเกย์หรือเปล่าคะ เกย์น่ะค่ะ ผู้ชายที่มีรสนิยมชอบผู้ชายด้วยกัน แล้วก็มีอะไรกันน่ะคะ” แนนยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วยิ้ม “...แบบนี้ชัดพอไหมคะ จะยังไม่เข้าใจอีกหรือเปล่านะคะ”

“ว่ายังไงคะ แนนสงสัย อะไรแบบนี้ ผู้หญิงแบบแนนไม่เข้าใจน่ะค่ะ”

หญิงสาวรุกหนักจนคะน้าไม่รู้จะพูดตอบไปว่าอะไร ถ้าหนทางให้เลือกมีอยู่แค่เพียงสองอย่างคือการพูดความจริง ...ความจริงที่อาจจะทำร้ายทิม หรือคำโกหกเพื่อซื้อเวลา แต่มันคงอาจทำร้ายเขาต่อไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนัก พยายามมองหาตัวเลือกอื่นๆ ที่จะดีกับทุกฝ่ายมากกว่านี้

“แค่ใช่หรือไม่ใช่เองค่ะ มีอะไรให้พี่ลังเลหรือคะ”


“พี่...”

“พี่อะไรคะ แนนรอฟังอยู่ ตอบสิคะ” แนนส่งเสียงหวาน มือเล็กค่อยๆ เอื้อมมาบีบต้นแขนของคะน้าแล้วออกน้ำหนัก “เป็นเกย์หรือเปล่า ตอบสั้นๆ ก็จบ มีอะไรให้คิดหนักคะ”

ในเสี้ยววินาทีที่ความคิดเต็มไปด้วยความสับสนกระวนกระวาย คะน้าพยายามชั่งน้ำหนักในใจของตัวเองซ้ำมาซ้ำไป ลงท้ายแล้วเมื่อเขาหาตัวเลือกอื่นไม่เจอ บางทีการเลือกทางที่จะทำให้ตัวเองให้เจ็บปวดนั้น อาจจะดีกว่าที่เขาจะต้องทำร้ายทิม

“ช้าจังเลยค่ะ” เสียงที่เคยแว่วหวานสะบัดห้วนขึ้นด้วยความไม่พอใจจนเริ่มออกทางสีหน้า “เอาแบบนี้แล้วกันนะคะ จะว่าอะไรไหมคะ แนนถามไปรวดเดียวเลยดีกว่า ให้พี่คะน้าตอบให้จบทีเดียว”

“พี่คิดอะไรกับพี่ทิมหรือเปล่าคะ เข้ามาตีสนิท เข้ามาใกล้ชิดเพื่อที่จะทำอะไรหรือเปล่า เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ คิดว่าความสนิทจะเปลี่ยนให้พี่ทิมหันมาสนใจพี่แบบอื่นที่มากกว่าเพื่อนหรือเปล่า ว่ายังไงคะ เป็นคนเข้าใจ เห็นใจผู้หญิงไม่ใช่เหรอ แล้วเข้าใจไหมคะ แล้วว่าแนนหมายความว่าอะไร แล้วเห็นใจแนนไหมคะ ว่าแนนจะรู้สึกยังไง”

คะน้าถอนหายใจหนักกับคำถามที่ถาโถมเช่นมาราวกับพายุที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างตรงหน้าให้เป็นจุล ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าคำตอบในแต่ละคำถามนั้นคืออะไร ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหญิงสาวต้องการสิ่งใด คำตอบอาจจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำสำหรับแนนในเวลานี้ มันมีหน้าที่เพื่อระบายความชิงชังมากกว่าจะอธิบายให้เข้าใจอะไร และดูเหมือนว่าแนนจะจงใจเลือกเวลาที่ทิมไม่อยู่มาเพื่อตั้งคำถามจู่โจมเหล่านี้ นั่นหมายความว่าลึกๆ แล้วเธอน่าจะพร้อมที่จะไม่พูดถึงทิมในแง่ร้ายๆ และถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็เบาใจไปหนึ่งเปลาะ พร้อมแล้วกับคำโกหกที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวด


“พี่...”

“พี่อะไรคะ อ้ำอึ้งอะไร”

“พี่... พี่ไม่ได้เป็น...”

“ไม่ได้เป็นอะไรคะ ไม่ได้เป็นเกย์ หรือว่าไม่ได้เป็นผู้ชายคะ? อย่ามาโกหกกันเลยดีกว่าค่ะ” ผู้ที่เอ่ยถามดูเหมือนจะไม่รับฟังถ้อยคำใดๆ อีกแล้ว ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาประจันตรงหน้าแล้ว คะน้าถอนหายใจหนัก ลำบากใจกับโทสะที่ถาโถมของคนที่ยืนประจันหน้า




“แนนเห็นพี่คะน้าจูบกับพี่ทิม”


(มีต่อด้านล่างครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ครึ่งหลังของตอนครับ)




“แนนเห็นพี่คะน้าจูบกับพี่ทิม”

“ได้ยินชัดไหมคะ แนนเห็นพี่จูบกับพี่ทิม ...ที่นี่ ...ที่ตรงนี้นี่แหละค่ะ”

“แนนอยากจะถามนะคะ ว่าพี่ทำเรื่องแบบนี้ไปได้ยังไง พี่ทิมเป็นผู้ชาย ทำไมพี่ถึงถือโอกาสเอาคำว่าเพื่อนมาทำแบบนี้ พี่เป็นเกย์แล้วทำไมต้องทำให้ผู้ชายดีๆ กลายไปเป็นพวกวิปริตแบบพี่ด้วยล่ะคะ”

“คนแบบพี่นี่มันตีหน้าซื่อได้อย่างเหลือเชื่อเลยนะคะ เห็นเขาหน้าตาดี มีฐานะดีใช่ไหม ก็เลยอยากจับขึ้นมาหรือไงคะ ปั้นเรื่องขึ้นมาว่าเรียนจบต่างประเทศ พยายามแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูดี อยากรู้จัก อยากเข้าสังคมของพี่ทิมเหรอ” หญิงสาวเหยียดหัวเราะแล้วเหยียดสายตาลงมอง “...หน้าตาพี่ก็ดีนะคะ ดีมากด้วย แต่ทำไมพี่ไม่เลือกเอาใครสักคนที่เหมาะสมกับพี่ล่ะ ประเภทในตลาดสดที่ทำงานอยู่นั่นไง น่าจะมีสักคนที่พี่ถูกใจสิ คนระดับเดียวกันน่าจะเข้าใจกัน ...ไม่ใช่เหรอคะ”



“พอได้แล้วมั๊ง”

เสียงคุ้นหูของทิมดังขึ้นจากทางด้านหลัง ไม่ใช่แต่เพียงคะน้าที่รู้สึกตกใจ ดูเหมือนว่าคนที่รู้สึกไม่ต่างกับเขายังมีอีกคน ใบหน้าของแนนซีดเผือดเหมือนกับเลือดหยุดสูบฉีดหล่อเลี้ยงขึ้นมาในพริบตา



“พี่ทิม... มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

ทิมไม่ได้ตอบอะไร เขาค่อยๆ อ้อมจากด้านหลังต้นไม้แล้วเดินลงมานั่งข้างๆ กับคะน้า เอื้อมมือขึ้นมาตบลงบนบ่าเบาๆ ราวกับส่งกำลังใจแล้ววางแขนลงบนบ่านั้นเหมือนไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่แนนโจมตีคะน้ามาก่อน หญิงสาวที่ยืนอยู่จับจ้องภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างไม่วางตา ใบหน้าผ่าวร้อนเหมือนกับคนที่กำลังจะร้องไห้

“พี่ทิม... ทำไม... ทำไมคะ ทำไมต้องไปปกป้องมัน ...ปกป้องเพื่อนพี่แบบนี้ด้วย เพื่อนพี่น่ะเขาเป็นคนวิปริตนะคะ เขาชอบผู้ชายเหมือนกัน แล้วตอนนี้ก็คงจ้องพี่ตาเป็นมันแล้ว” เสียงเล็กๆ ของหญิงสาวดังขึ้นจนแทบจะกลายเป็นเสียงตะโกน ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์เบาบางค่อยๆ ก่ำจนแทบจะกลายเป็นสีชาด แนนจ้องมองไปที่ทิมด้วยแววตาที่กรุ่นไปด้วยคำตัดพ้อ ผิดกับทิมที่ได้แต่มองหญิงสาวเงียบๆ ข้างๆ คะน้า

“บอกให้พอไง”

“นี่พี่บ้าไปแล้วใช่ไหม ทำไมต้องออกหน้าแทนด้วย พี่ก็รู้ว่าผู้ใหญ่ของตระกูลเรามองเราทั้งคู่ในฐานะแบบไหน แนนทำอะไรเพื่อพี่ทิมมากมาย แต่พี่ทิมไม่เคยเห็นเลย ห่างเหิน และไม่คิดจะสนใจ พี่ทิมเอาเวลาไปสนใจเพื่อนคนนี้ของพี่อยู่คนเดียว ที่ไซด์ หรือแม้แต่ที่ร้านอาหารนั่น พี่ทิมคิดไหมว่าแนนจะรู้สึกยังไง?” ร่างบางปล่อยความรู้สึกที่อัดแน่นมานานด้วยความเรียกร้องในสิ่งที่เธอควรจะได้รับ

“กี่ปีแล้วที่แนนรอพี่ แล้วพี่จะให้คนแบบแนนต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้เหรอคะ จนแนนต้องเอาตัวเข้าไปแทรกตรงกลาง คิดว่าถ้าทำให้พี่คะน้ากลับมาชอบผู้หญิงได้ จะได้ห่างกับพี่ทิม แล้วทุกอย่างระหว่างเราจะได้เป็นเหมือนเดิม ผู้หญิงคนนี้ทำเพื่อพี่ขนาดนี้ พี่ทิมไม่เคยมองเห็นเลยใช่ไหมคะ”

ถ้อยคำของแนนทำให้ทิมหันกลับมามองที่คะน้าด้วยสายตาที่ยากจะอ่านความรู้สึก คะน้าได้แต่นั่งนิ่งๆ ภาวนาให้นาทีที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่รู้จะทำอย่างไร หรือแม้แต่จะรับมือกับอารมณ์ที่กราดเกรี้ยวของผู้หญิงแบบไหน ตั้งแต่เกิดมา ลำพังแค่เรื่องชกต่อยกับเด็กผู้ชายด้วยกันยังแทบไม่มี แล้วไหนจะการปรากฏตัวของทิมขึ้นมาในเวลานี้อีก

หากแต่การที่ครอบครัวของทิมหมายหมั้นกับทางครอบครัวของแนนนั้นดูจะหนักหนากว่า โลกแห่งความจริงที่เล่นเอาคะน้าไปไม่ถูก แม้ว่าจะพอรับรู้ถึงความสนิทชิดใกล้จากการทำงาน แต่ก็ไม่เคยฉุกคิดในเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อย ความจริงที่ได้รับรู้ทำเอารู้สึกนิ่งงัน ลางสังหรณ์ที่เคยหวาดหวั่นมาถึงอย่างรวดเร็วจนเขาใจหาย ความสุขที่หวงแหนและหวาดกลัวจะสูญเสียดูเหมือนจะอยู่บนเส้นด้านตึงที่รอเวลาจะขาดสะบั้นเหลือเกิน ความรู้สึกในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับการดำดิ่งลงสู่ก้นเหวที่ลึกที่ดำมืด แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ทางออกไปสู่แสงสว่างหรืออากาศที่จะใช้หายใจ

“คนที่พี่ควรจะปกป้องคือแนนนะคะ พี่ทิมทำเหมือนกับว่าพี่ทิมเป็นแฟนมัน”



“ไม่ใช่!”

คะน้าโพล่งขึ้นมาด้วยความรู้สึกกดดัน ทิมหันกลับมามองด้วยแววตาที่นิ่งจนน่าใจหาย น้ำเหนียวๆ ในคอกลายเป็นเหมือนของแหลมที่กลืนแล้วบาดจนปวดปร่า คะน้าเบือนหน้าหลบแววตาคู่นั้น เขาก็จะไม่ถอยหลังอีกแล้ว

“มันไม่ใช่ ...ไม่ใช่อะไรแบบนั้นหรอกครับ”

สุดท้าย ทางเลือกที่คะน้าคิดว่าดีที่สุดก็เป็นอย่างนั้น เขาต้องพยายามฝืนความรู้สึกส่วนลึกของตัวเองแล้วหันไปพูดกับแนนด้วยเสียงที่แห้งแหบ รู้ดีว่ามีสายตาอีกคู่หนึ่งที่มองจ้องอย่างไม่วางตา แต่คะน้ารั้นฝืนต่อ หวังเพียงให้ผ่านเรื่องวุ่นๆ นี้ไป รู้สึกแย่กับตัวเองแค่ไหน ...ก็ดีกว่าทำให้ทิมลำบากใจกับเรื่องวุ่นวายที่อาจจะตามมา

“มันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่ทุกอย่างแบบที่น้องแนนคิด”




“...ทิมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่หรอกครับ”

พูดเองยังรู้สึกใจหาย หวิวจนเหมือนใจจะขาด คะน้าผ่อนลมหายใจของตัวเองที่หนักอึ้ง ไม่แม้แต่จะกล้าสบตาคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เสี่ยงดวงวัดใจกับตัวเองว่าทิมจะเล่นตามเกมโกหกของเขา หรือเลือกที่จะทำอีกอย่าง คะน้าไม่รู้เลยว่าบทลงท้ายจะเป็นอย่างไร ได้แต่ภาวนาในใจเงียบๆ ว่าทิมจะเข้าใจในความปรารถนาดีของเขา ชายหนุ่มอีกคนหายใจอึดอัดราวกับคนที่ขาดอากาศหายใจ ทิ้งทุกอย่างให้ดำดิ่งสู่ความเงียบ เนิ่นนานกว่าที่ทิมจะตัดสินใจเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา



“...ก็จริง เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่เคยเป็นด้วยมั๊ง ไม่ได้เป็นแฟน”

เสียงเรียบๆ คล้ายคำตัดพ้อของที่ได้ยินจากคนใกล้ตัวทำเอาใจร่วงหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้า นั่นสินะ... บางทีมันก็อาจเป็นเพียงแค่ความฝัน แล้วมันก็คงจะถึงเวลาแล้วที่ต่างคนจะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงเสียที

คิดแล้วก็ได้แต่เวทนาตัวเองที่ทำเป็นเก่ง รับไหวไม่มีปัญหา แต่พอถึงเวลาจริง ถ้อยคำที่เตรียมใจเอาไว้แล้วกลับทำให้เรื่องง่ายๆ อย่างหายใจ...คะน้าก็ยังทำไม่เป็น ในสายตาที่พร่าเลือน เขามองเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้า เธอหันไปยิ้ม ...ยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับทิม


“แต่เป็นเมีย”

ราวกลับลูกบอลยางที่ตกลงพื้นแล้วกระดอนขึ้นสู่ที่สูงยิ่งน้ำหนักที่ดิ่งตัวลง เหมือนโดนกระชากกลับจนหน้าหงาย จู่ๆ หัวใจของคะน้าก็เต้นโครมคราม แค่ฟังยังรู้สึกกระดากและเหวอจนทำอะไรไม่ถูก ...เมีย!!! ทำไมถึงพูดคำแบบนั้นออกมาได้แบบไม่รู้สึกอะไร! คะน้ายังคงนิ่งอึ้ง ...อึ้งไม่หาย สิ่งเดียวที่เขาพอจะแสดงออกได้คือการหันไปมองหน้าของต้นเสียง แม้มองไม่เห็นใบหน้าตัวเองในตอนนี้ก็รู้ว่าคงทุเรศสิ้นดี ทิมยกมือคว้าเข้าที่เอวของคะน้าแล้วโอบแน่น

“ได้ยินไหม? เป็นเมียน่ะ ...เป็นเมีย! ไม่ใช่แฟน!

“ทิมมม!!!”

“พี่ทิม!!!”

เสียงของคะน้าและแนนดังขึ้นแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน ทิมหันขวับมาส่งเสียงดุใส่คะน้า แววตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ไม่พอใจ

“เงียบ! ฟังเฉยๆ อ้อยสร้อย ร่ำไร รำคาญ!” จากนั้นก็หันไปมองที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า

“ย้ำอีกทีแล้วกัน เผื่อยังไม่ชัด เป็นเมีย!!! แล้วผัวจูบเมียมันแปลกหรือไง? มีอะไรสงสัยอีกไหม?”

ทิมแหงนหน้าขึ้น ดวงตาลุกวาวเหมือนสัตว์ป่าที่พร้อมขย้ำเหยื่อตรงหน้าอย่างไม่ปรานี คะน้าก้มหน้างุด ปั้นหน้าที่ร้อนวาบของตัวเองไม่ถูกจนไม่กล้าสบตาใคร คะน้าเห็นเพียงท่อนขาเล็กๆ ตรงหน้า รู้ดีว่าหญิงสาวกำลังสั่นไปทั้งร่าง เสียงลมหายใจฟืดฟาดนั้นบอกได้ดีว่าแนนพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักแค่ไหนกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ยิน

“ก็ดีค่ะ ถ้าพี่ทิมทำแบบนี้ แนนก็จะบอกคุณพ่อพี่ทิม ถึงจะยังไม่ได้หมั้นหมายกันแต่ครอบครัวก็ปูทางให้เราสองคนเอาไว้แล้ว ยังไงเราก็จะแต่งงานกันค่ะ พี่ทิมก็รู้ใช่ไหมคะว่าคุณธาดา คุณพ่อพี่ทิมเอ็นดูแนนขนาดไหน” หญิงสาวยิ้มเยาะ ไม่ยอมแพ้

“อะไรที่แนนอยากได้ แนนก็ต้องได้ค่ะ เรื่องนี้ พี่ทิมอย่าคิดนะคะ ว่ามันจะจบง่ายๆ” ร่างเล็กที่ไหวไปทั้งตัวพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราว ผิดกับอีกคนที่รับฟัง ทิมสบตากลับอย่างไม่หวันเกรง ซ้ำยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ไม่จบหรอก มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”

“แบบนั้นเราคงจะได้เห็นอะไรดีๆ กัน” หญิงสาวสั่นไปทั้งตัว ...สั่นแม้กระทั่งเสียง

“รับรองว่าจะได้เห็นอะไรดีๆ กว่าจูบแน่นอน”

ทิมยิ้มแล้วกระชับวงแขนที่โอบให้แน่นขึ้นอีก คะน้ากลืนน้ำลายเหนียวๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกไม่ถูกว่าควรดีใจหรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นดี แต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจอย่างไร้ข้อกังขาก็คือนับจากนี้ คงต้องเจอเรื่องที่ยุ่งยากตามมาเป็นทวีคูณแน่ๆ

แนนเดินจากไปแล้วพร้อมกับความรู้สึกที่พร้อมจะระเบิดทุกอย่างที่ขวางขัดในสิ่งที่เธอต้องการ คะน้ารู้แล้วว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่น่ากลัว ผิดกันลิบลับกับรอยยิ้มน่ารักบนใบหน้าที่ดูใสซื่ออ่อนเดียงสาตลอดเวลา ยิ่งขบคิดก็ยิ่งร้อนใจ เธอที่ร้ายกาจขนาดนั้นคงทำได้ทุกอย่างตามที่พูดไว้จริงๆ และถ้าเป็นเช่นนั้น ...ทิมจะเป็นอย่างไร

“ทำไมพูดแบบนั้นไปวะ ไม่คิดหน้าคิดหลังให้มันดีๆ ก่อน ทีนี้เราจะแก้ปัญหายังไง ทำยังไงกันดี ที่บ้านนายจะเป็นยังไงบ้าง ทำไมไม่ระวังเลยวะ บ้าชะมัด เรื่องยุ่งๆ มันเกิดขึ้นแน่ๆ เพราะความที่พูดอะไรออกไปแบบนั้นน่ะ” ความกังวลที่ซ่อนไม่มิดทำให้คะน้าหันไปโวยกับทิมที่นั่งข้างๆ เป็นชุด หากแต่เจ้าตัวกลับหันมาโวยกลับเสียงดังสนั่นด้วยอีกเรื่อง ดูเหมือนทิมจะไม่ได้สนใจกับสิ่งที่คะน้าพล่ามไปแม้แต่น้อย

“ทำไมถึงไม่บอกเรื่องที่แนนมาป่วน! แดกเหล้าเองเหรอ โกหกเก่งนักนะ ไหนบอกมาสิ! หรือว่าจริงๆ ก็ชอบมัน!!”

ได้ฟังก็ฉุน จนป่านนี้ทิมยังมีกะใจมาพิพาธอะไรไม่เป็นเรื่องแบบนี้อีก “ฟังหน่อยสิ เรื่องตรงนี้มันเล็กน้อยมากเลยนะ ถ้าเทียบกับปัญหาจากนี้ที่มันจะตามมา บ้าหรือไงที่พูดออกไปแบบนั้น” คะน้าโมโหกลับที่ร่างสูงดูจะไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขากังวลใจอยู่เลย ได้แต่นั่งกระฟัดกระเฟียดจนโทสะตัวเองเย็นลงมาบ้าง “เฮ้อออ... เอาเถอะ ยังไงก็ขอบคุณนะที่ให้เกียรติกัน แต่พูดแบบนั้นออกไป แต่รู้ใช่ไหมว่าไม่ใช่ทุกคนจะรับอะไรแบบนี้ได้แบบพี่ผักกาดนะ แต่ความคิดจะให้ไปชอบกับผีอะไรเนี่ย พอที มึงบ้าเปล่าเนี่ย!!!”

“ก็เท่านั้นล่ะ” บทจะเลิกราวีก็ทำได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนใบหน้าที่ตึงเมื่อครู่ติดจะเปื้อนรอยยิ้มขึ้นมาด้วยซ้ำ ทิมยกมือขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ “หิวววววว... ลูกชิ้นหมูใช่ไหม กินมั่ง”

ระอาจนเหลือจะกล่าว คะน้าส่งลูกชิ้นปิ้งที่เหลืออยู่สองไม้ให้กับทิม รับไปได้ก็หยิบไม้ขึ้นแล้วกัดลูกกลมๆ เคี้ยวตุ้ยจนคล้ายกับว่าไม่กี่นาทีที่ผ่านมานั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น ...ไม่ถึงสองนาทีก็หมดเกลี้ยง ทิมเล็งที่มั่นแล้วโยนแล้วถุงที่เหลือแต่น้ำจิ้มกับไม้เสียบลูกชิ้นลงเป้าหมายที่เป็นถังขยะอย่างแม่นยำ

“กลับบ้านเถอะ” เจ้าตัวลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้จับ คะน้าถอนหายใจหนักๆ แล้วเอื้อมมือไปจับฝ่ามือที่รออยู่ตรงหน้า พยุงตัวแล้วลุกขึ้น ยังอดไม่ได้ที่จะบ่นกับเรื่องเดิมซ้ำๆ

“เฮ้อออ... ทำไมมันเป็นแบบนี้นะ พูดอะไรหน่อยสิ” ได้ยินก็ทำหน้าครุ่นคิด ทิมคิ้วขมวดเหมือนพยายามนึกคำพูดที่อยู่ในใจ

“โทษทีแล้วกัน แค่อยู่ข้างๆ แบบที่ขอ มันทนไม่ไหว”

“หมายความว่าไง” คะน้าขมวดคิ้วยุ่งแล้วทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าคนที่เดินอยู่ข้างๆ หมายถึงอะไร

“พยายามแล้ว แต่บอกตรงๆ ว่าไม่ชอบวิธีการเลย ก็เห็นว่าอยากจะจัดการเอง เลยลองทนดูทนฟัง” ทิมพูดเนือยคล้ายคนเกียจคร้านขึ้นมาดื้อๆ เหมือนกำลังพูดอะไรที่ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เจ้าตัวอยากพูดสักเท่าไหร่

“คือไม่รู้หรอกนะจะทำอะไร แต่อยากกลับบ้านแล้ว ขี้เกียจยืนคอย”

ร้อนวาบขึ้นมาทั้งหน้า เป็นอันเข้าใจแล้วกับสิ่งที่ทิมกำลังพูดอยู่ เมื่อคืนนี้ ทุกๆ อย่างที่เขาพูดไป ให้ตายเถอะ! ไม่น่าพลั้งกับความเจ้าเล่ห์ของทิมเลย! ...ขำกูเลยสิ แสบนักนะไอ้เด็กเวร!


“เมื่อคืนยังไม่ได้หลับใช่ไหม”

คิ้วเข้มยกตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ทิมลอยหน้าหันมายิ้มกวนประสาท ...แต่ดวงตาคู่นั้นดูอ่อนหวานจนน่ามอง



“เมื่อคืนพี่ทำให้ผมนอนฝันดี”

คะน้าเบือนหน้าไปด้านข้าง หน่ายที่จะเห็นรอยยิ้มงี่เง่ากับแววตาคู่นั้นของคนสติไม่ดีแล้ว สาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงในเวลานี้ ทิมเป็นคนประเภทที่คะน้าไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน ไม่มีอะไรจะแปลกประหลาด ประสาท และบ้าบอเท่ากับคนที่เดินเอื่อยเฉื่อยแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนี้ ชายหนุ่มได้แต่ภาวนาให้ประชากรทั่วทั้งโลกกว่าเจ็ดพันล้านคนในตอนนี้ อย่าได้มีคนแบบทิมไปมากกว่านี้เลย

“อืมมม... ที่พูดเมื่อคืนน่ะ ...รู้เหมือนกันใช่ไหม ว่าในนี้...” ทิมกำมือหลวมๆ แล้วยกขึ้นทุบลงที่อกตัวเองเบาๆ “...มันรู้สึกมากแค่ไหน”

เพราะสำหรับคะน้าในตอนนี้แล้ว แค่ไอ้บ้าที่เห็นอยู่ในตอนนี้...

“ไม่รู้โว้ย”

โบ้ยตอบไปด้วยความรำคาญสุดขีด คนประสาทผิวปากอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะเอื้อมมือนั้นมาโอบฝ่ามือของคะน้าแล้วกุมไว้ ทิมหันมายิ้มกว้างอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นรอยยิ้มกวนๆ แบบที่คะน้าเห็นบ่อยจนคุ้นตา

“แล้วเย็นนี้อยากกินอะไรล่ะ”



เจ็ดพันล้านคนบนโลกนี้น่ะ ...มีแค่มันคนเดียวก็พอ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


จะเรียกความรู้สึกตัวเองหลังจากอ่านตอนนี้จบว่าอะไรดีหนอ ฮ่าๆๆๆ
วันนี้วันศุกร์น่ะครับ แบบนั้นก็นับให้เป็นวันสุขแล้วกัน อ่านแล้วไม่ต้องเครียดกับมาม่าเกินไป
จริงๆ แล้วดูจะนับว่าเป็นมวยที่ถูกคู่ชกมากเลยนะ สำหรับมุมแดง น้องแนนสุดน่ารัก
และมุมน้ำเงินที่ดูจะขอแท็คทีมเปลี่ยนคู่ชกเป็น คนประสาทที่สติไม่ค่อยดี 5555555
ศึกนี้ ใครต่อยแตก แอนตาซิลแจกสร้อยคอทองคำ 1 สลึง (ไม่เต็มบาท)
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมาทักทายกันล่วงหน้าครับ ติดตามกันต่อไปเนอะ ฮิฮิ

:L2: :กอด1: :L1: :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
แหมน้องทิม แกล้งทำเป็นหลับปล่อยต่ายน้อยรำพึงรำพัน

บอกตรงๆ คนอ่านเขินมากมาก :o8: :o8:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สงสัยทิมแกล้งตาย เอ๊ย! แกล้งหลับเนียนน่าดู  คะน้าถึงพร่ำไปไม่ได้สังเกตขนาดนั้น 555  :laugh:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
“แต่เป็นเมีย”

กรี๊ดดดดดดดดดดดด จบนะนังแนน


//ฟาดหน้านังแนนด้วยรองเท้าfitflop   :z6:

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:  ถีบอีนั้งน้องแนน ค่ะ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รอๆๆๆ ยัยแนนร้ายจริงๆๆๆ
ตอนหน้ามันส์แน่ๆๆ สู้ๆๆน้า คะน้าทิม

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คิดไว้แล้วเชียวว่ายัยแนนนี่ต้องไม่ได้มาดีแน่ ๆ
น้องทิมตอบได้สะใจมั่ก ๆ เลย  หุ หุ หุ

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
หวานดีวุ้ย เป็นเมีย ฮิ้วววววเขินแทน อิอิ มาไวเคลมเร็วดีแท้อ่านตาแฉะอิอิชอบ  o13 o13 o13

ขอบคุณจ้า รักคะน้าที่สุด  :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
เป็นเมีย ทิมแร๊งงงได้ใจมาก o13
ยัยแนน เกลียดน่ะ ไม่ชอบคนแบบนี้เลยจริงๆ :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริงๆ
ดีนะที่ทิมหนักแน่น

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
อู้วววว์........เริ่มก็มันส์เลย :m4:

เขินแทนนู๋ต่าย แพล่มตอนน้องทิมแกล้งหลับ :-[

ทิมก็แรงได้ใจจริงๆ :angry2:  สมกับที่นังแนนมันกลัว

ต่อไปคงต้องรอแก้ปัณหากับครอบครัวของทิม

นู๋ต่ายสู้ สู้ :ped149:    :ped149:    :ped149:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
 ฟินค่ะ   พระเอกในอุดมคติเหลือเกิลลลล

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ทิมเอาใจไปเลยยย ฮิ้ววว
ส่วนยัยแนน ถ้าไม่จบ เจอกันหลังไมค์ได้นะ
เอ๊ะ หรือเปลี่ยนเป็นหลังไมค์กับคนเขียนดี ฮ่าๆ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :L2:ขอไปนับดาว บนดวงจันทร์ด้วยนะ น้องต่าย

zerea

  • บุคคลทั่วไป
นังคุณน้องแนน...ฮึม เสียสถาบันผู้หญิงหมด
ไม่สิๆ เราอยู่ในสปีชีส์สาววาย ส่วนน้องแนนเป็นชะนีหน้าดำ ชิ

ส่วนคะน้าน่ะคะน้า นางเอกไปถึงไหนฮ่ะ แรงมาก็แรงตอบเซ่ ไม่ได้ดั่งใจเล้ย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก :m31:
ทิม ได้ใจมาก ตอนที่บอกว่าเป็น "เมีย"

คุณ Lucea ไม่ให้มาม่าก็คงไม่ไหว โอ๊ยยยย
มาต่อเร็วๆนะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
แทบละลายไปกับคำนี้  :impress2:

เจ็ดพันล้านคนบนโลกนี้น่ะ ...มีแค่มันคนเดียวก็พอ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ชอบจังเลย เรื่องที่พระเอกตามตัวร้ายทันเนี้ย ชนะเลิศค่า   :mc4:

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เจ้าเล่ห์เหลือเกินะทิม ปล่อยให้กระต่ายเพ้อได้ตั้งนาน   :laugh: :laugh:

ส่วนยัยน้องแนน เป็นไงหล่ะ เจอคำตอบของทิมเข้าไป


ส่วนนี้ทอบให้คนเขียนที่น่ารัก :กอด1: :กอด1: :กอด1:

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
เป็นวันศุกร์ที่มีความสุขจริงนะทิม 555 สงสารคะน้าแอบโดนทิมแกล้งเนียมอีกล่ะ ยอมรักนะ ใจแป๋วอ่ะ ตอนทิมบอกไม่เคยเป็นแฟน แต่พอบอกเป็นเมีย เราก๊ากกกกเลยอ่ะ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ keniji01

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณมากมาย สำหรับความสุขที่มอบให้ อ่านรวดเดียวไม่ลุกไปไหนเลย ชอบมากครับ เป็นกำลังใจให้นะ :mc4: :n1:

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
นังแนน :angry2: :z6: :beat:
เอิ้ก หวานตรงผัวๆเมียๆนี่แหละ
หวังว่าคะน้ากับทิมจะจับมือก้าวผ่านเรื่องร้ายๆไปด้วยกันได้ด้วยดีนะ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
อ่านตอนนี้จบแล้วรักทิมเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า พระเอกเราเริ่ดอ่ะ  o13
คนใจอ่อนแบบคะน้าจะไปทำอะไรได้ ที่คิดว่าไม่เป็นไรน่ะมันเป็นทุกทีเลย นังน้องแนนแกเปิดตัวร้ายรอบสองได้ดีมาก
ร้ายหมดเปลือกกันเลยทีเดียว กำลังนั่งงงว่าทำไมคะน้าต้องมายอมให้อีนี่คาดคั้นด่ากดดันขนาดนั้น ทั้งทีตัวเอง
ก็ทำดีกับมันสารพัด พอพระเอกออกโรงแบบสะใจมากกกกกกกกกกกกก (ก. ล้านตัว) มันต้องเจอแบบนี้นังชะนีสองหน้า
(อินลื้มมม) เจอคนรู้ทัน เจอคนแรง เจอคนจริงแบบทิมนี่ จะมาแสนดีแบบคะน้ามันใช้ได้กับคนดีด้วยกันเท่านั้น
ไม่ใช่แฟนแต่เป็นเมีย เคป่ะ ชัดเจนป่ะ ตอกกลับให้หน้าหงายเสร็จ หันมาหึงต่อ 555 น่ารักจัง แล้วก็กินลูกชิ้นลั้นลากันไป
อารมณ์ดีข้ามวันที่ได้ฟังคะน้่าพูดเมื่อคืนอ่ะเซ่

ขอบคุณค่า มาต่อเร็วแบบนี้ ขอบอกว่ามีความสุขม้าก  :impress2:

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
  :z6: ตอนหน้าช่วยจัดหนักนังแนนให้ด้วยนะคะ
มันวอนโดนตบมากค่ะ...
คะน้าก็ไม่ได้ดังใจแม่ยกเล้ย สู้เค้าหน่อยสิลูก อะไรมันจะหม่นจะหมองขนาดน๊าน :เฮ้อ:
ส่วนน้องทิม.. ทำดีมากลูก o13

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ดีมากทิมประกาศไปเลย

นังแนน กำลังคิดอยู่ถ้าอยากให้ทิมมาได้ยินจริงๆ

แล้วทิมก็ได้ยินจริงๆ ด้วย แต่สงสัยยังคงไม่จบแน่เลย

นังแนนตัวป่วน วุ่ยวายมาก ทำให้คะน้าเสียใจ ชิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น้องต่ายน้อยของเราก็มัวแต่อึ้ง ปล่อยให้ยัยแนนชกอยู่ฝ่ายเดียว
ต้องเจอน้องทิมพระเอกมาดเหี้ยม เพื่อปกป้องเมียรัก ไม่ไว้หน้าแม้แต่ชะนี ยกนี้ทิมทำได้ถูกใจที่ซู้ด!!!!

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
นู๋ทิมของเจ๊ ><" เลิศที่สุด อะไรจะน่าจับไปรักอย่างงี้  :-[
ต่ายน้อยค่ะ ชีวิตจริงต้องไม่เป็นคนดีเกินไปนะค่ะ เพราะคนดีมักจะเป็นได้แค่เพื่อนนางเอก  :laugh:

P.S. เจ๊ล้อเล่นนร้า เป็นคนดีนั่นแหละดีละ ไม่งั้นก็ไม่ใช่คะน้าสิ

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อินังน้องแนน ไปตายซะ  :z6: :z6:

สู้ๆนะทิมคะน้า อย่าไปแคร์ชะนี

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
+1 พี่ต่ายกะ น้องทิม อ่ะ น่ารักที่สุดเลย ชอบมากอ่ะเรื่องนี้ :o8: :o8: :o8: อินมาก  ๆ ทุกตอนเลย เลย :pig4:

ออฟไลน์ whitefang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ตามอ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก o13
เลิฟทิมสุดๆ
ตอนล่าสุดก็ฟิน เเต่เป็นเมีย กรี๊ดดด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด