♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430511 ครั้ง)

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
555 สุดๆไปเลย ช่างคิดได้นะมุกนี้
คะน้ากลายเป็นผีวาเลนไทน์ไปแล้ว


my only valentine that made memorial valentine day

ออฟไลน์ yumsonteen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอบคุณครับ แฮปปี้วาเลนไทน์ครับ

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
ผีวาเลนไทน์ วร้ายยยย

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
น่ารักกกกกม้ากกกกกกก
ทุกครั้งที่ทิมออกตัว มักพิเศษทุกครั้ง ชอบมากฮะ
เป็นวาเลนไทน์ที่แหวกแนวดีจริงๆ ขอบคุณฮะ

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ชอบผีวันวาเลนไท ทีุ่สุดเลย o13 o13 o13

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ผีโหดมาก 55555

คนงานช่างคิดไปได้เนอะ

กำลังนึกอยู่เชียวว่าตอนทิมขู่พวกคนงานไว้

ผีขาวๆ นี่เดี่ยวต้องมีคะน้ามาเกี่ยวข้องแน่ๆ เลย

แล้วก็เป็นจริงๆ สรุปเรื่องนี้มีทิมคนเดียวที่รู้ที่มาที่ไป

ออฟไลน์ devotionNightmare

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อุซางิจัง :ใจหายหมดเลย
ทิม :เก็บให้ ไม่หายไปไหนหรอก
ชอบมุกนี้อ่ะ อ่านแล้วเขินอ่ะ >///<

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ มาแล้ว 5555 ตอนที่แล้วเป็นตอนพิเศษ เนื้อหาออกนอกลู่นอกทาง
ได้เวลากลับมาสู่โลกความเป็นจริงแล้วล่ะนะ มีอะไรรออยู่ในตอนนี้ เดี๋ยวลองอ่านกันดูนะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจนะครับ อ่านกันเลยเนอะ ตอนที่ 29 ครับ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนที่ 29



เคยไหมที่เราเห็นอะไรบางอย่าง ใจกลับไปเผลอคิดถึงอีกสิ่งที่เราผูกพันโดยไม่รู้ตัว

ทุกครั้งเวลาที่เห็นนางพยาบาลมาซื้อไอศกรีม ผมมักจะตักให้เยอะเป็นพิเศษ จะว่าไม่รู้ตัวก็ไม่ใช่ เหมือนกับว่ามันเป็นความตั้งใจมากกว่า คล้ายๆ กับว่าเครื่องแบบขาวๆ พวกนั้นทำให้ผมรู้สึกอยากจะชดเชยบางสิ่งเท่าที่พอจะทำได้ให้กับคนๆ หนึ่ง แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกันและคงไม่มีทางเป็นไปได้แต่ก็ยังทำ ...ยังฝันลมๆ แล้งๆ กับจินตนาการของตัวเองไปเรื่อยเปื่อย หัวสมองเจ้ากรรมมักทำงานได้ดีนักหนาในเวลาแบบนี้ พอพยายามจะลืมเรื่องหนึ่งก็กลับไปคิดถึงเรื่องเก่าๆ วนกลับไปมาอยู่ไม่กี่เรื่อง ถ้าไม่ใช่เรื่องของตุลที่ยังรู้สึกติดค้างอยู่ไม่เลิกรา ก็เป็นเรื่องของทิมที่นับจากนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แน่นอนว่าเรื่องหลังหนักหนากว่าจนไม่อยากจะคิดถึง หลายวันที่ผ่านมาแม้อะไรๆ จะเงียบสงบ แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกได้หายใจทั่วท้องเลย ยังจำสายตาคู่นั้นในตอนที่จากลาได้ เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นต้องการ เธอผู้นั้นคงทำอะไรได้ทุกอย่างแน่นอน ทิมดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย แทบจะเรียกได้ว่าออกแนวจะมีความสุขด้วยซ้ำ เพราะนับจากเหตุการณ์ในเย็นวันนั้น แนนก็ไม่มาทำงานอีก ถ้าเรื่องวุ่นๆ มันจบลงแบบที่คิดก็ดี

แนนเป็นผู้หญิงที่ดูร้ายกาจ แต่เทียบกับทิมแล้ว ...ความบ้าบิ่นทำให้คะน้ายังรู้สึกสยองแทน แต่กับครอบครัวมันก็อีกเรื่อง ถามเจ้าตัวกี่ครั้งก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ทุกข์ร้อนอะไร เอาเถอะ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้ คงไม่มีอะไรจะให้ปิดให้อายอีกแล้ว ในเมื่อเธอคนนั้นก็ไม่ใช่คนที่มาดี จากนี้คงไม่ผิดอะไรถ้าเขาจะไม่ยอมแบบที่ผ่านๆ มา

“ทำไมตลาดมันเงียบได้ขนาดนี้นะ คนหายไปไหนกันหมด ไม่ใช่ตังค์กันแล้วหรือไง” เจ๊เป็ดหาวหวอดแล้วบ่นเป็นรอบที่สิบ ทุกครั้งเวลาที่นั่งนิ่งๆ หญิงวัยกลางคนมักจะง่วงแล้วพาลไปเรื่อย แต่หลายวันมานี้ตลาดก็ดูหงอยจริงๆ จะคึกคักหน่อยก็วันสิ้นเดือนกับวันที่ล็อตเตอรี่ออกนั่นล่ะที่คนเดินตลาดจะเยอะเป็นพิเศษ

แต่ไม่ทันขาดคำ เสียงเจี๊ยวจ๊าวตรงปากทางเข้าตลาดก็ดังขึ้น คะน้าพยายามชะเง้อดูได้แต่เห็นคนมุง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแน่ พอหันหน้ากลับมาอีกทีก็เห็นจันทูตาลีตาเหลือกควักแป้งขมิ้นสีเหลืองๆ ขึ้นพอกหน้าพอกตาอย่างลุกลน ว่าแล้วสาวพม่าก็หยิบมีดโกนขึ้นมาแล้วเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกลัวใครจะมาเห็น ทางไม่สะดวกก็หันหน้าเข้าแผงแล้วชูจักกะแร้ขึ้น โกนแกรกๆ คะน้ารีบเบือนหน้าหนีด้วยจิตใจที่หดหู่กว่าเดิม โชคดีที่ยังไม่เห็นอะไรชัดมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกเสียดายเส้นหมี่หมูตุ๋นที่ทานไปเมื่อกลางวันไม่น้อย

น้ำหนักที่วางลงบนบ่าเบาๆ ก็ทำให้คะน้าสะดุ้งหลุดจากความรู้สึกที่เหมือนโดนผีอำ พ่อค้าหนุ่มหันกลับไปมองก่อนจะพบต้นเหตุในท่าทางแปลกๆ ของคนที่ตลาดรวมถึงหญิงสาวที่อยู่ใกล้ๆ นี้ ...ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย

แทนที่จะเดินเล่นแบบทุกที ในวันนี้ จู่ๆ ก็กลายเป็นทิมปีนขึ้นมาบนแผงแล้วหย่อนตัวลงคั่นตรงกลางระหว่างสองคนที่นั่งอยู่ ร่างสูงหันไปยิ้มให้จันทูที่กำลังบิดม้วนไปมาจนจะเป็นก้นหอยแล้วหันมายักคิ้วให้คะน้า

“ทำอะไรเนี่ย ไม่ทำงานเหรอ”

“ทำไม? จะจู๋จี๋กัน?” ทิมปรายตามองไปที่จันทูที่กำลังส่งเผยอปากส่งจูบ ...ทำไมรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาวะ?

“ประสาท”

“บอกไว้ก่อน” ทิมหันกลับมาจากจันทูแล้วส่งสายตาพิฆาต “...คิดจะกลับใจ ได้ตายไม่สวยแน่”

คะน้ากลืนน้ำลายเอื้อกไม่ใช่เพราะคำขู่ของทิม แต่เป็นเพราะคนที่ถูกจับคู่ด้วยต่างหาก ว่าแล้วก็หันไปจัดของต่อด้วยความไม่อยากต่อความ ในวันที่เงียบเหงา แต่แผงของคะน้ากลายเป็นคึกคักตลอดเวลาเมื่อสาวๆ ในตลาดต่างแวะเวียนไปมาแล้วส่งสายตาให้กับวิศกรกรโดดงานจนคะน้ารู้สึกหน่าย บอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบใจเท่าไหร่กับท่าทางชะม้อยชะม้ายของสาวๆ ในตลาดเหล่านี้ ยิ่งเห็นทิมที่ปกติแทบจะฆ่าแกงคนที่มาใกล้ กลับดูเหมือนอัธยาศัยดีกว่าทุกวันซะได้

“ว่าแต่ไม่อยู่ที่ไซด์แบบนี้จะไม่มีปัญหาเหรอ เกิดพวกคนงานมาเห็นเข้าจะเป็นเรื่องหรือเปล่า” ไม่ได้ไล่หรอกนะ แต่ก็ควรจะแยกย้ายกันไปทำงานไม่ใช่เหรอไง

ทิมหันมามองด้วยใบหน้าที่ตึงเต็มที่ ไม่ค่อยพอใจกับน้ำเสียงที่แข็งๆ ของเจ้าของแผง กระนั้นก็ไม่ขยับหรือลุกไปไหน เจ้าตัวหันไปทำหน้าเข้มให้กับคนเดินผ่านไปผ่านมาต่อ แทนที่จะขยาด กลับกลายเป็นสาวๆ ยิ่งพากันยิ้มเขินไปหมด แล้วค่อยตอบด้วยเสียงเรียบๆ

“ถ้าอยู่สิจะมีปัญหา” คะน้ามันไปมองนิ่ง คำตอบของทิมนั้นทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ค่อยดีนัก

“เช้านี้ มีคำสั่งให้ย้ายไปทำส่วนออฟฟิศ พรุ่งนี้ย้าย ให้หยุดงานที่นี่ทันที มีวิศวกรคนอื่นมารับช่วงต่อแล้ว” ทิมตอบเบาๆ ยังคงส่งสายตาดุๆ ไปยังสาวๆ ที่เดินผ่านไปมา คะน้านิ่งเงียบไปพักใหญ่ อยู่ๆ ก็เหมือนมีคนยกภูเขามาถมทับสมองจนหนักอึ้งคิดอะไรไม่ออก ทิมหันมายิ้มให้ เสียงทุ้มนั้นยังคงดูร่าเริงเหมือนเรื่องธรรมดาสามัญ

“ไม่มีอะไรหรอก เรื่องธรรมดาน่ะ ยังไงพองานเสร็จก็ต้องย้ายไปทำที่อื่นตามแต่ออฟฟิศจะมอบหมายอยู่ดี” แต่มันไม่ได้ทำให้คะน้ารู้สึกสบายใจขึ้นเลย

“ทิม... อย่าโกหกผมเลยนะ คือ... มันเกี่ยวกับแนนไหม”

“ไม่รู้สิ อาจจะมีส่วนมั๊ง” ทิมแค่นหัวเราะร่าเริง แต่ดวงตาคู่นั้นให้ความรู้สึกที่ตรงกันข้าม “พ่อของแนนสนิทสนมกับคุณธาดาเจ้าของกลุ่มบริษัทธาดาพิพัฒน์ มันอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้ แต่อย่างที่บอกน่ะ ยังไง สักวันก็ต้องย้ายอยู่ดี” ทิมหัวเราะคึกครื้นสบายๆ แล้วตักไอศกรีมที่เริ่มละลายในถ้วยเข้าปาก



“จากนี้ไปคงไม่ได้มาเดินตลาดบ่อยๆ แบบเดิมอีกแล้ว ขอนั่งสักวัน ไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

“ทิมมม...” คะน้าส่งเสียงเรียงแผ่วเบา เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันมาแล้วยิ้มที่มุมปาก



“อย่าไล่กันเลยน่า ให้ผมได้อยู่ในที่ที่อยากอยู่ต่อหน่อยเถอะ”

คำพูดสั้นๆ นั้นตีความไปได้หลากหลายในความคิด ไม่รู้ว่าทิมหมายถึงที่ตลาด ที่ไซด์งาน หรือแม้แต่หมายรวมถึงที่อื่นๆ มันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า?

ตั้งแต่รู้จักกันมาคะน้าไม่เคยเห็นครอบครัวของทิม และไม่เคยสักครั้งที่ทิมบอกว่าจะกลับไปที่บ้าน นอกจากเพื่อนร่วมงาน คะน้าไม่เคยเห็นเพื่อนของทิม อาจจะเพราะไม่สุงสิงกับสังคมหรืออาจจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม แต่ความรู้สึกของเขาคือทิมไม่ผูกพันกับใคร และไม่เคยพูดถึง ไม่ว่าจะเรื่องที่บ้านหรือแม้แต่เรื่องเพื่อนฝูง หากจะมองดูดีๆ แล้ว บ่อยครั้งที่ชายหนุ่มดูจะใช้เวลากับเขาและผักกาดเหมือนกับเป็นทั้งคนในครอบครัว และเป็นทั้งเพื่อนที่ดูแลกันและกัน ดูเหมือนว่าเจ้าของเพนท์เฮาส์ราคาแพงหลายสิบล้านจะใช้ชีวิตเพียงลำพังราวกับเศรษฐีอายุน้อยที่เติบโตบนทรัพย์สินที่ปูพรมราวกับเตียงนอนที่อ่อนนุ่ม

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแม้จะยังไม่จางไปจากใบหน้าที่คมสันได้รูป แต่มันดูแข็งขืนเหมือนกับโดนตะปูตอกยึดไว้ กี่ครั้งกี่หนที่คะน้ามองเห็น ทิมดูเข้มแข็ง แข็งแกร่งตลอดเวลา แต่ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้ว่าในความเข้มแข็งและความคิดที่ดูเติบโตไปกว่าวัยนั้น ทิมมีมุมที่อ่อนโยนมากกว่าความเข้มแข็งเหล่านั้นเสียอีก ทั้งยังมีมุมของความเป็นเด็กไม่ต่างกับคนในวัยเดียวกันเลย

คะน้าค่อนข้างมั่นใจว่าความเข้มแข็ง ดุดัน ไม่แคร์โลกนั้น เป็นเพียงแค่เปลือกที่เจ้าตัวหยิบขึ้นมาสวมใส่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจพุ่งเข้าหาได้ทุกเวลาในทุกเวลา มีอะไรบางอย่าง ...บางอย่างที่เขายังไม่รู้ ในดวงตาสีดำที่ดูลึกลับนั้น ดูจะซุกซ่อนความลับอะไรเอาไว้มากมาย และซ่อนไว้ได้อย่างแนบเนียนเสียด้วย

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่เขาจะต้องรีบค้นหาในตอนนี้ คะน้ากำลังแข่งกับเวลาที่เดินผ่านไปทุกนาที ...จะจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวกับแนนได้อย่างไร

มื้ออาหารในตอนเย็นเป็นไปด้วยรสชาติที่กร่อยสนิท ไม่ใช่อาหารที่ทานอยู่นั้นให้รสชาติที่ไม่ดี แต่คงเป็นเพราะลิ้นของเขาไม่มีความสุนทรีย์มากพอจะรับรสอะไรมากกว่า คะน้านั่งเขี่ยเม็ดข้าวสุกในจานไปมาจนเบื่อ ลงท้ายจานอาหารมากมายก็มีค่าไม่ต่างอะไรกับดอกไม้ประดับบนโต๊ะอาหารให้ดูสวยงาม เสียงกริ่งที่ดังขึ้นที่หน้าประตูทำให้เจ้าของห้องที่อยู่คนเดียวลุกขึ้นไปเปิด ความที่หลงคิดไปว่าจะเป็นผักกาดทำให้คะน้าลืมที่จะดูทางช่องประตู ถ้าย้อนเวลากลับได้ บางที... เขาอาจจะไม่เปิดมัน

“สวัสดีค่ะ”

“ทำไมคะ ไม่ได้เจอไม่กี่วัน อย่าบอกนะคะ ว่าลืมชื่อกันไปแล้ว”

คะน้ายืนนิ่งอึ้งก่อนจะปรับสายตาให้เห็นสิ่งต่างๆ รอบตัว แนนไม่ได้มาคนเดียว หากแต่ข้างกายของหญิงสาวประกบไปด้วยผู้ชายร่างกำยำสองคน คะน้านึกโทษระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดที่ปล่อยให้หญิงสาวขึ้นมาถึงที่บนที่พักได้ หากแต่เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ผู้หญิงที่ร้ายกาจแบบแนนคงทำมันได้ไม่ยากเย็น

“มีความสุขดีหรือเปล่าคะ กับการแย่งของของคนอื่นไป”

“แนน...”

คะน้าเรียกชื่อของหญิงสาวอีกครั้ง เจตนาคือปรามในความรุกล้ำที่ไม่ปิดบัง คะน้ากวาดตามองข้างๆ สายตาของผู้ชายทั้งสองคนดูท่าทางไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่ ไม่เชิงว่าเดาไม่ถูก แต่ไม่มั่นใจว่าการมีตัวตนของคนทั้งสองที่ไม่คุ้นหน้านี้มีบทบาทมากน้อยแค่ไหนกับเขา ซึ่งดูเหมือนคะน้าจะไม่ต้องคิดอะไรนานมาก เมื่อร่างเล็กหันไปมองชายหนุ่มข้างๆ แล้วพยักหน้าเบาๆ เพียงพริบตา ร่างกายของเขาก็ถูกตรึงไว้ด้วยวงแขนที่ล็อกแน่นจากด้านหลัง

“ตายจริง ยังจำกันได้ด้วย แนนดีใจจังเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องพูดเรื่องเดิมๆ แนนก็ไม่มีเวลามากหรอกนะคะ ว่าจะรีบทำธุระให้มันเสร็จๆ ไป” หญิงสาวหัวเราะคิกด้วยท่าทางน่ารัก “มาคุยธุระกันดีกว่านะคะ คุยกันดีๆ จะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บตัว”

คะน้าสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามตั้งสติและพูดจาด้วยท่าทีที่ราบเรียบที่สุด “ที่ทิมโดนย้ายกะทันหัน...” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาร่างเล็กตรงหน้า เธอยิ้มแล้วหัวเราะขันขึ้นทันที

“แนนว่าแล้วล่ะค่ะว่าพี่ไม่ใช่คนโง่ ...เพราะถ้าโง่ ก็คงไม่เลือกตัวท้อปแบบพี่ทิมสินะ” แนนสบตากร้าวแล้วเดินมาข้างหน้า มือเล็กเอื้อมขึ้นแล้วลูบแก้มคะน้าไปมา

“แต่รู้อะไรไหมคะ ...พี่ก็ไม่ได้เป็นคนฉลาดเลย”

แรงตบเบาๆ เหมือนหยอกล้อบนแก้มทำให้คะน้ารู้สึกตึง ร่างบางตรงหน้ายังคงไม่หยุดกับถ้อยคำและท่าทีที่ก้าวร้าว จาบจ้วง “นี่แค่เริ่มต้น ถ้าพี่ไม่เลิกยุ่งกับพี่ทิม ชีวิตของพี่และพี่ทิมจะไม่มีความสุขอีกเลยนับจากนี้ แนนจะบอกอะไรเอาไว้ให้นะคะ ถ้าแนนไม่มีความสุข คนอื่นก็ไม่ต้องหวังว่าจะได้มีความสุขกัน”

“ถ้าพี่ยืนยันที่จะไม่เลิกยุ่งล่ะ” คะน้าสูดลมหายใจเข้าลึกจนเต็มปอดแล้วถามคนตรงหน้า

“ไม่เลิกเหรอคะ เอ... จะทำอะไรดีนะ ป่าวประกาศว่าพี่เป็นเกย์ดีไหม แต่คนแบบพี่ก็คงไม่มีอะไรจะเสียสินะ งั้นก็เอาเป็นป่าวประกาศให้ทั้งสังคมรู้ไปเลยว่าพี่ทิมเป็นเกย์ ...เริ่มจากที่บ้าน ที่ทำงานทั้งหมด แล้วก็ทั้งสาขาวิชาชีพ คิดว่ามันจะเป็นยังไงนะคะ อืม... แต่แนนคิดว่าพี่น่าจะไม่อยากให้พี่ทิมต้องมาเสื่อมเสียเพราะคนแบบพี่ใช่ไหม? พี่คงเลือกทางที่ดีกับพี่ทิมใช่ไหมคะ? เพราะถ้าไม่... เชื่อเถอะค่ะ ว่าแนนจะทำมากกว่าที่พี่จะคาดคิดได้ก็แล้วกัน” คะน้ามองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าหนักใจ

“แล้วแนนจะได้อะไรกลับไปครับ”

“ตายจริง สรุปว่านี่ฉลาดหรือโง่นะคะ?” แนนหัวเราะร่วน

“คิดว่าถ้าทิมรู้แล้วเขาจะรู้สึกดีกับแนนหรือเปล่าครับ” คะน้านิ่งสงบมองผู้หญิงหน้าตาสะสวยตรงหน้าแล้วสบตานิ่ง “คิดว่าเขาจะกลับมารัก ...มาใยดีกับคนที่มีนิสัยแบบนี้ได้จริงๆ หรือครับ พี่อยากให้แนนลองคิดดูดีๆ ถึงสิ่งที่แนนกำลังทำอยู่”

“พี่ไม่ได้เป็นคนฉลาดอะไรมากมาย แต่พี่ไม่คิดว่ามันเป็นการกระทำที่ฉลาดเลย”

เพี๊ยะ!! คะน้ารู้สึกชาไปที่แก้มข้างซ้าย เมื่อเบือนหน้ากลับมาก็เห็นร่างที่สั่นไปตั้งตัวของหญิงสาวตรงหน้า แปลกที่ใบหน้าที่เคยสะสวยและดูเป็นธรรมชาติของแนน ในตอนนี้กลับดูน่าเกลียดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ริมฝีปากที่อิ่มเอิบได้รูปบิดเบี้ยวจนดูแปลกตา ดวงตาที่เคยใสแบบหยดน้ำค้างถมึงทึงจนไม่น่ามอง

“กล้ามากนะที่ยังปากเก่ง ถ้าฉลาดนักทำไมไม่รู้จักประมาณสถานะของตัวเองบ้าง” แนนสะบัดหน้าไปทางผู้ชายสองคนที่ล็อกคะน้าไว้ด้านหลังแล้วยิ้มเยาะ

“พี่ๆ คะ ช่วยทำให้ไอ้เกย์วิปริตนี่มันเลิกส่งเสียงทีสิคะ แนนหนวกหู” สิ้นคำคะน้าก็สัมผัสได้ถึงลมวูบที่เฉียดข้างหู

เขาไม่ชอบการวิวาทกับใคร ไม่เคยมีปัญหากับใคร ตั้งแต่เด็กๆ คะน้าถูกปลูกฝังให้เติบโตขึ้นมาด้วยความรู้จักเสียสละและให้อภัย ทุกครั้งที่เด็กชายคะน้าถูกรังแก เด็กตัวน้อยๆ ได้แต่ร้องไห้งอแงไปตามวัยจนโดนใครๆ ในชั้นเรียนล้อ แต่แล้วทุกอย่างก็จะคลี่คลายเมื่อความจริงเปิดเผย ทุกครั้งจะเป็นคะน้าที่ได้คำชมจากคุณครูประจำชั้น แม้กระทั่งคำขอบคุณเสียใหญ่โตจากผู้ปกครองของคู่กรณี และแปลกไปกว่านั้นคือเด็กขี้แยคนนี้กลับได้เพื่อนฝูงที่รู้ใจกลับมาจากความเกลียดชังในเริ่มต้น คะน้าเป็นที่รักของเพื่อนทุกคนและเติบใหญ่ขึ้นมาพร้อมกับความรักและเพื่อนฝูงมากมาย แม้จะไม่หล่อเหลาเอาการแบบใครๆ แต่กลับเป็นที่รักเป็นเหมือนศูนย์รวมของเพื่อนทุกคน

การใช้กำลังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เขาเชื่อและยึดมั่นในแบบนั้นมาตลอด...แม้กระทั่งในเวลานี้ก็ตาม เขาเกลียดการทะเลาะและใช้กำปั้นเข้าพูดจาเป็นที่สุด




...แต่การวิวาทนั้นต่างกับการป้องกันตัวเอง

เพียงเสี้ยววินาทีร่างของชายแปลกหน้าก็ลอยไปตามหมัดที่ปะทะเข้าเต็มแรงที่กระพุ้งแก้ม ชายคนนั้นเซตัวลงไปนั่งมึนพร้อมกับหยดเลือดสีแดงสาดกระจายลงบนพื้น สร้างความตกใจให้กับหญิงสาวที่มองอย่างไม่เชื่อสายตา รวมไปถึงชายหนุ่มอีกคนที่เหลือซึ่งพยายามล็อกแขนเอาไว้ในตอนแรก แต่คะน้าก็สะบัดหลุดได้อย่างง่ายดาย ระหว่างที่ยืนงงกับอีกคนที่นั่งหมดสภาพอยู่ พริบตานั้นตัวเองก็ถูกฝ่าเท้าอัดลงที่กลางแผ่นอกจนถลา เสียจังหวะ



และการที่เขาไม่ชกต่อยกับใคร ไม่ได้แปลว่าเขาอ่อนแอ

เมื่อเห็นว่าเพื่อนตนถูกถีบจนเซ ประดังกับความแค้นที่โดนลบเหลี่ยมต่อยปากแตกเมื่อครู่ คนที่นั่งอยู่จึงทะยานตัวเข้ามาเหมือนกระทิงที่บ้าคลั่ง



ช้า...

คะน้าซัดซ้ำไปอีกทีที่จุดเดิมเต็มแรงเหวี่ยง หากแต่ในครั้งนี้กระทิงป่านั้นตั้งมั่น พร้อมจะแลกไม่กลัวเสีย หมัดหลุนๆ เหวี่ยงเข้าที่หน้าของคะน้า



ช้าไป...

คะน้าหลบอย่างว่องไว ร่างสูงนั้นจึงเหวี่ยงอีกหมัดเข้าเต็มแรงที่ท้อง



ยังช้าไปอยู่ดี...

คะน้าพลิกตัวหลบอย่างง่ายดาย จังหวะที่เซเพราะพลาดเป้า คะน้ายกหัวเข่าขึ้นอัดลงกลางท้องอย่างเต็มแรง ได้ยินเสียงอุกด้วยความจุก ร่างนั้นชะงักเสียจังหวะ คะน้าสวนหัวเข่าขึ้นอีกครั้งตรงหว่างขาด้วยแรงทั้งหมด ชายคนนั้นจะทรุดเข่าลงกับพื้นง่ายดาย สิ้นสภาพและนอนหมดแรง เสียงแนนที่ร้องวีดว้ายก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกคนรีบโจนทะยานเข้ามาด้วยความโมโห ชายคนนั้นเอื้อมมือไปด้านหลังแล้วหยิบมีดพกด้ามกระชับมือขึ้นมาแล้วตั้งมั่นรอจังหวะ คะน้าที่เริ่มหอบจากการออกแรงรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็จะไม่ประมาท

เสียงลมเฉียดท่อนแขนเขาไปในวินาทีเมื่อครู่ทำให้คะน้าผงะ ถ้าเขาช้าหรือเสียสมาธิกว่านี้แค่เพียงน้อยนิด มีหวังได้แผลใหญ่เป็นของฝากทั้งแขนเป็นแน่ ชายที่ถือมีดกระหยิ่มยิ้มย่องกับการจู่โจมเมื่อครู่ ในกรณีที่มีอาวุธ นับว่าเสี่ยงเกินไปที่จะปล่อยให้ทุกอย่างยืดยาว ต้องหาจังหวะจัดการกับอาวุธนั้นเสียก่อน



...และจังหวะนั้นก็มาถึง

คะน้าต่อยเข้าที่กลางหน้าด้วยแรงเต็มที่จนอีกฝ่ายเซปะทะผนัง เลือดกำเดาไหลลงมาช้าๆ จนชายคนนั้นเผลอยกมือขึ้นมาจับจมูกตัวเองด้วยความเจ็บ คะน้ากระแทกเข้าไปที่ข้อมือที่จับด้ามมีดนั้นทันที แล้วของแหลมนั้นก็ร่วงหล่นลงอย่างง่ายดาย ดูไปก็เหมือนฉากสู้ของพระเอกหนังบู๊ที่คุ้นตากันที่ปลดอาวุธได้ก็รีบเอาเท้าเขี่ยไปให้ไกล



...บังเอิญว่าเขาไม่หล่อไม่เท่แบบพระเอกในละครเสียด้วยสิ

ในโลกความจริงก็คงไม่มีอันธพาลคนไหนปล่อยอาวุธไปอย่างเปล่าประโยชน์ คะน้าจึงรีบวิ่งเข้าชาร์จชายคนนั้นเข้ากับข้างฝาเต็มแรงแล้วคว้ามีดที่ตกลงนั้นขึ้นมา เดินเข้าไปหาแล้วค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงตามร่างของชายคนนั้นที่ยังจุกอยู่ คมแหลมของมีดถูกยกขึ้นจ่อเข้าที่คอหอย



...ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่พระเอก

“จะกลับไปดีๆ หรือจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่” กดคมมีดเข้ากับซอกคอเบาๆ จนเกิดเป็นแผลซิบๆ




“ไม่มีเวลาให้พี่คิดนานหรอกนะ”

ชายทั้งสองคนรีบพยุงตัวลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้คะน้าก่อนจะรีบวิ่งจากไป ทิ้งให้นายหญิงที่เคยยืนสง่าราวกับผู้ทรงอำนาจเมื่อครู่อยู่สั่นเป็นเจ้าเข้า หญิงสาวพยายามวิ่งหนี แต่อารามตกใจทำให้สะดุดรองเท้าส้นสูงตัวเองล้มลง

“แกมันป่าเถื่อน หยาบคาย แกจะทำอะไรฉัน!!!” แนนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ท่าทางที่ดูไม่ยอมคนเมื่อครู่ถูกลบไปไม่มีเหลือ

“เอาสิ อยากทำอะไรก็ทำ แกมันป่าเถื่อนนี่ ทำได้แม้แต่กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่มีทางสู้อยู่แล้ว” ร่างเล็กสะท้านพร้อมกับหยดน้ำตาใสๆ ที่ไหลลงมาเต็มแก้ม “เอาสิ ทำเลย แต่อย่าให้ฉันรอดกลับไปได้นะ ฉันสัญญาว่าจะทำให้แกได้ตกนรกทั้งเป็นแน่ๆ”

คะน้ามองคนตรงหน้า ถอนหายใจแล้วเหวี่ยงมีดในมือเต็มแรงเข้าห้องของตัวเองไป หวังว่ามันจะลึกพอจนไม่สร้างปัญหาให้กับตัวเขาเองในภายหลัง เขาเดินไปใกล้ๆ แล้วย่อตัวลงนั่งตรงหน้าของหญิงสาว

“หยุดทำอะไรแบบนี้เสียทีเถอะแนน ความอดทนผมไม่ได้มีมากมายนะ”

“หยุดเหรอ ไม่มีทาง! แนนมาถึงขนาดนี้ แนนหยุดไม่ได้แล้ว!”

“อะไรที่ทำให้คุณหยุดไม่ได้” คะน้าถอนหายใจ เหน็ดเหนื่อยเหลือเกินกับผู้หญิงตรงหน้า ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นเพศแม่ เขาก็ไม่รู้ว่าจะอดทนไม่ตะบันหน้าไปได้นานแค่ไหน หญิงสาวสะบัดหน้าไปด้านข้าง ร้องไห้จนตัวโยน

“ว่าไงครับ?”

“แกไม่อยากฟังหรอก มันน่าสนเพช”

“ว่ามา” คะน้าพูดเสียงเรียบๆ แล้วปล่อยให้หญิงสาวสะอื้นสักพักจนเริ่มนิ่ง ครู่หนึ่งแนนก็พูดด้วยเสียงสั่นๆ ใบหน้าก้มลงต่ำไม่ยอมสบตา




“ถ้าเป็นพี่ พี่จะรู้สึกยังไง ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นคนแรกของพี่”


(มีต่อด้านล่างอีกนะครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ต่อครับๆ)




“ถ้าเป็นพี่ พี่จะรู้สึกยังไง ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นคนแรกของพี่”

คะน้าชะงักอึ้งไป ดวงตาเบิกกว้างมองผู้หญิงตรงหน้า ในใจรู้สึกหวิวขึ้นมากะทันหัน ไม่รู้เพราะความอ่อนล้าจากการต่อสู้หรืออะไร แต่จู่ๆ ก็เหมือนเรี่ยวแรงที่มีมันจะหมดเอาเสียดื้อๆ หายใจติดๆ ขัดๆ ...ไม่สิ เขาลืมหายใจไปด้วยซ้ำ ...นี่เขากำลังฟังเรื่องอะไรอยู่?

“ว่ายังไงล่ะ รับได้ไหม กับคนที่ภาพลักษณ์แสนดีหนักหนาในสายตาแกน่ะ หรือคนเป็นเกย์เขาไม่ถือกัน จริงสิ ผู้ชายชอบบอกว่าไม่มีอะไรสึกหรอนี่ ผู้ชายจะมาสนใจอะไรกับผู้หญิง แกไม่ใช่ผู้หญิง! แกเป็นเกย์! เป็นพวกจิตวิปริต! แกจะสนใจอะไร!” แนนจ้องหน้าด้วยดวงตาเขม็ง รอยยิ้มเหยียดหยันฉายชัดบนหน้าที่เปรอะไปด้วยน้ำตา คะน้านิ่ง ...นิ่งไปเนิ่นนานเหมือนทบทวนเรื่องราวทุกอย่างในความคิด แต่เพียงครู่เดียวชายหนุ่มก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยเสียงเรียบๆ แบบปกติ



“คาดหวังอะไรกับการมาพูดแบบนี้”

แนนมีสีหน้าชะงักไปเล็กน้อย กระนั้นหญิงสาวก็สู้ฝืนใจพูดเรียกร้องในสิทธิที่ตนเองคิดว่าควรจะได้รับต่อ “นั่นสินะ มันไม่มีอะไรให้หวังได้อยู่แล้ว จบแล้วก็จบกันไป ผู้ชายทุกคนก็แบบนี้แหละ ฉวยโอกาส เอาแต่ได้”

“แล้วน้องคิดว่าพี่ควรจะทำยังไง ให้วิ่งฟูมฟายไปร้องไห้แล้วรับไม่ได้กับการไม่ได้เป็นคนแรกของคนที่รักแบบนั้นเหรอ หรือจะให้พี่ลุกขึ้นมาตีอกชกหัวแล้วก็ขอเลิกราเพราะไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องแบบนั้นใช่ไหม”

“แนน... พี่เป็นผู้ชายนะ แต่ถึงพี่เกิดเป็นผู้หญิง พี่ก็คิดว่าเหตุผลที่ว่ามานี่ มันไม่งี่เง่าไปหน่อยเหรอ?” คะน้าถอนหายใจหนักๆ แล้วไหวหน้าไปมา

“อีกอย่างนะ... ขอโทษที่พี่ขอถามตรงๆ”




“ครั้งแรกที่ว่า... ก็ไม่มีการเมาจริงๆ ใช่ไหม?”

สิ้นคำหญิงสาวก็เบิกตากว้างแล้วนิ่งเงียบ แนนนิ่งอยู่สักพักก็ระเบิดเสียงหัวเราะใส ดวงตาที่เอ่อไปด้วยหยดน้ำใสๆ กลับมาเต็มเปี่ยมไปด้วยจริตเล่ห์แพรวพราว


“ถึงได้บอกไง ...ว่าพี่ไม่ใช่คนโง่”

“แล้วไงคะ ในเมื่อของที่แนนอยากได้ แนนก็ต้องได้ แนนไม่ถือหรอกค่ะว่าจะด้วยวิธีการไหน แต่แนนต้องได้ และจะบอกไว้เลยนะคะว่าจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ แนนจะไม่มีวันรามือ คนอย่างพี่น่ะ มันเป็นสุภาพบุรุษ ให้ตายพี่ก็ทำอะไรผู้หญิงไม่ลงหรอก” หญิงสาวหัวเราะขำ คะน้ารู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ จริงอย่างที่เธอพูด แม้ว่าจะเป็นคนที่ดูร้ายกาจแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ทำอะไรเธอไม่ลงจริงๆ

“...เสียดายนะ น่าจะเป็นผู้ชาย” ร่างบางเอื้อมมือมาลูบหน้าคะน้าสักพักก็ผลักออก

“เพราะผู้ชายดีๆ น่ะ มันหาได้ยากเหลือเกินไงล่ะ โทษกันไม่ได้หรอกนะ ของดีๆ มันก็หายาก ไอ้ที่ดีๆ น่ะก็กินกันเองซะหมด ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ถึงต้องเป็นแบบนี้ไง ต้องแรงๆ จะมาอ้อยสร้อยเนี่ย ไม่ทันกินหรอก แล้วรู้อะไรไหม เรื่องพวกนี้ แนนไม่ถือหรอกค่ะ”

เสียงกระแทกกำแพงดังสนั่นขึ้นที่ข้างหูของหญิงสาวทันที แนนอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง และสักพักร่างเล็กๆ ของเธอก็ไหวสั่นด้วยความกลัว หยดน้ำเล็กๆ เอ่อชื้นขึ้นมาและเพียงเสี้ยววินาทีมันก็ทิ้งตัวลงมาอย่างพร่างพรู กำปั้นของคะน้าห่างจากใบหูของหญิงสาวนับเป็นเซนติเมตร

“เป็นผู้หญิงอะไรทำไมพูดจาแบบนี้” ชายหนุ่มสบตามองหญิงสาวด้วยใบหน้าที่โกรธจัดจนน่ากลัว




“รู้ไหม ว่ามันไม่น่ารัก!!!”

สีหน้าของแนนดูจะอึ้งและตกใจกว่าเดิม ...กว่าเดิมมากๆ ราวกับร่างกายทั้งร่างถูกจับสต๊าฟไว้จนแข็งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง แต่คะน้าไม่หยุดอยู่แค่นั้น ชายหนุ่มพล่ามยาวด้วยความรู้สึกอดกลั้นมาเนิ่นนาน

“ทำไมถึงทำตัวไม่มีคุณค่า เกิดมาเป็นผู้หญิงและก็เป็นคนสวยมากแท้ๆ น้องไม่รู้ตัวเหรอว่าคนแบบน้องตัวเองเป็นเหมือนกับคนในฝันของผู้ชายตั้งกี่คน ทำไมถึงหมิ่นตัวเองแบบนี้ ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว แค่กินเหล้าเมามายก็ว่าแย่แล้ว แล้วยังจะมาพูดเรื่องที่ไปมีอะไรกับใครเขาได้หน้าตาเฉยอีก มีจริงหรือไม่มีจริงพี่ก็ไม่รู้หรอกนะ แต่เคยคิดไหมว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่น้องมาได้ยิน ท่านจะเอาหน้าไปไว้ไหน เราน่ะเป็นผู้หญิงนะ! บ้าเหรอไง!!”

“แล้วไหนจะที่ชอบคุยหนุงหนิงกับผู้ชายอีก ไม่รู้จักวางเนื้อวางตัวเลย นี่ยังไม่นับกับเรื่องแต่งเนื้อแต่งตัว เนี่ย! ดูสิครับ ทำไมนุ่งสั้นแบบนี้ แล้วจะเดินจะทำอะไรก็ไม่รู้จักระวังเลย รู้ไหมว่าเวลาเดินแกว่งๆ แขนเนี่ย พี่เห็นไปโน่นเลย! สะดือน้องเลยนะ! สะดือน่ะ! ถามว่ามันควรเห็นไหม! มันโป๊เกินไปหรือเปล่า? ทำไมไม่คิดดูบ้าง”

“พี่สาวของพี่ชื่อผักกาด ทั้งสวย ทั้งฉลาด ไม่เคยแต่งตัวน่าเกลียดแบบนี้เลย มีผู้ชายดีๆ อยากคุยด้วยทั้งนั้น รู้ไหมว่าถ้าเป็นคนในครอบครัวพี่นะ แต่งตัวแบบนี้ไม่ได้ออกจากบ้านหรอก ถ้าเป็นน้อง พี่จะจับตีให้ตายเลย แล้วเสื้อผ้าพวกนี้ก็จะเอาไปเผาให้หมดตู้ด้วย ทำตัวน่าเกลียดมาก เราเป็นโรคประสาทโรคจิตหรือไง? ชอบให้ผู้ชายมองตัวเองไม่ดี ชอบให้มองแบบของไม่มีค่าราคาถูก แล้วเคยมองดูตัวเองไหม? เกิดวันไหนกลับบ้านมืดๆ ขึ้นมา ถ้าเกิดโดยฉุดโดนลวนลามขึ้นมาจะว่ายังไง น้องเคยคิดบ้างไหมครับ!”

ใบหน้าของแนนที่อ้าปากค้างด้วยความอึ้ง ในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หญิงสาวทำหน้าเหมือนอยากจะเถียงใจจะขาดแต่แล้วก็สะบัดหน้าหนีแล้วก้มหน้างุด คะน้าได้แต่ระบายลมหายใจด้วยความหงุดหงิด เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้เลย ไม่ชอบสักนิด เห็นแล้วมีแต่ขัดตา

“ไม่น่ารักเลย!”




“เฮ้อออออออออออออออออ...”

แล้วเสียงทุ้มที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง คะน้าสะดุ้งสุดตัว แค่เสียงถอนหายใจก็จำได้ว่าเป็นเสียงของใคร หันไปมองดูเห็นเห็นสีหน้าที่ปั้นไม่ถูกของทิม จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ ติดจะอึ้งๆ ผสมกับหน่ายๆ บอกไม่ถูก

“นี่คือโกรธจัดๆ โมโหสุดๆ แล้วใช่ไหม?”

“ก็ใช่น่ะสิ!” คะน้ารับคำถามยียวนของทิม คนตั้งคำถามถึงกับถอนหายใจพรืดแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ

คะน้ามองหน้าทิมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เขาไม่รู้เลย ไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าทิมโผล่มาตอนไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ และที่สำคัญเห็นอะไรไปบ้าง

“อยากถามใช่ไหมว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” คะน้าพยักหน้า รู้สึกเขินๆ เล็กน้อย ใจจริงเขาไม่อยากให้ทิมเห็นอะไรแบบนี้เลย

“ก็เห็นแต่ช่วงแรกๆ ที่โดนล็อกตัวไว้น่ะ ยืนฟังอยู่อยากรู้ว่ามันจะยังไง พอเริ่มเห็นไม่ได้การว่าจะเข้าไปช่วย แต่เห็นท่าแล้วก็... อืม... จะว่ายังไงดีล่ะ มันไม่น่ามีซีนแบบนี้เกิดขึ้นหรือเปล่า?” ทิมพูดไปเรื่อยๆ เหมือนกับบ่นกับตัวเอง ใบหน้ายังอยู่ในอาการงงอยู่ไม่น้อยจนคะน้ารู้สึกหมั่นไส้ ...เห็นเขาเป็นอะไรกัน!

“ก็บอกแล้วไง ดูแลตัวเองได้ จะจัดการเอง” ทิมพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มแล้วหันไปที่ตัวก่อปัญหา

“ไง? คนโกหก เราเคยมีอะไรกันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ ทำไมพี่จำไม่ได้ หรือว่าในฝัน?” จำเลยที่ไม่มีความผิดส่งสายตาคาดโทษชนิดหนักให้กับหญิงสาว แปลกที่คะน้ากลับรู้สึกหัวใจลิงโลดขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

“ที่ไม่ออกมาขัดเนี่ย เพราะอยากรู้หรอกนะว่าคนฟังแล้วจะว่ายังไง แต่พูดกันแมนๆ เลยนะ สะเทือนใจฉิบ มันง่ายไปไหม จะหึงจะหวงกันสักนิดไม่ได้เหรอไง” ทิมยกแขนขึ้นแล้ววางบนบ่าของคะน้า กอดคอหลวมๆ แล้วดึงมาใกล้ ทำเสียงเง้างอดจนพิลึกหู




“เปิดซิงเค้าแล้วก็จะทิ้งกันชิมิ?”

“ทิมมม!!!”

คะน้าเสียงแข็งใส่ ไม่เชิงตะคอก แต่รู้สึกกระดากอายกับคำพูดล้อเลียนแบบนั้น ซ้ำยังท่าทางที่ไม่คิดจะปิดบังอีก แต่เจ้าตัวกลับไม่ใส่ใจอะไรแม้แต่น้อย ทิมหันไปพูดเสียงแข็งกับแนน น้ำเสียงผิดไปเหมือนกันคนละคน

“จะไปฟ้องคุณธาดาอีกก็ตามใจนะ อยากจะทำอะไรก็ทำ วันนี้จะปล่อยให้ แต่นับจากนี้ ถ้าไม่หยุด บอกไว้ก่อนว่าพี่ไม่ได้ใจดีแบบ เมีย พี่หรอกนะ” สิ้นคำคะน้าก็จัดศอกถลุงลงเข้าสีข้างทิมหนึ่งดอกเน้นๆ ทันที เจ้าตัวรีบทำสำออยร้องโอดโอยรับอย่างรวดเร็ว

“ทำไมทำพี่ทิมแบบนี้ล่ะครับ เห็นแบบนี้ พี่ทิมก็บอบบางนะ”

...ทุกอย่างอยู่ในสายตาแนนทั้งหมด หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มเบื้องหน้าทั้งสองคน ท่าทางการแสดงออก ถ้อยคำต่างๆ ที่หยอกล้อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ...ชายหนุ่มที่เธอหลงรักมาเนิ่นนานหลายปี

“เมื่อก่อนแนนเคยคิดว่าพี่ทิมเป็นคนที่น่ากลัวมาก สาวๆ ต่อให้สวยแค่ไหน โพรไฟล์ดีแค่ไหน แต่พี่ทิมก็แค่ควงเล่นๆ พี่ทิมไม่เอาใคร ไม่เคยสนใจใคร ตาของพี่ทิมมองไปแต่ข้างหน้า แต่พอพี่ทิมได้มาสนิทกับพี่คะน้าแนนก็ถามตัวเองว่ามันหมายความว่ายังไง ทำไมตาที่มองตรงไปคู่นั้นถึงหันมามองคนที่อยู่ข้างๆ ตลอดเวลา” แนนพูดด้วยเสียงเรียบๆ รอยยิ้มน้อยๆ ระบายบนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่สร้างขึ้นมาเพื่อปลอบใจตัวเธอเอง

“มันเจ็บใจมากที่คนที่เราเฝ้ามองมาหลายปี คนที่ไม่เคยยิ้ม ไม่เคยหัวเราะ ไม่เคยล้อเล่นกับใคร กลับเปิดใจเอาง่ายๆ กับคนอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง และที่สำคัญ ...คนๆ นั้นกลับไม่ใช่ผู้หญิง” คะน้ายืนดูผู้หญิงตรงหน้า เข้าใจตัวตนของเธอมากขึ้นทีละนิดๆ

“แนนไม่ยอม แนนรับไม่ได้ ถ้าคนที่พี่ทิมเลือกสวยกว่าแนน โพรไฟล์ดีกว่า ทำงานเก่งกว่า แนนอาจพอรับได้ แต่นี่คนที่พี่เลือก กลับกลายเป็นผู้ชาย ...และผู้ชายที่หน้าตาดีมากๆ ด้วยอีกคน มัน... ไม่รู้สิ แนนรับไม่ได้” ร่างบางสะบัดหน้าไปมาแล้วกดหน้าลงราวกับจะกดความรู้สึกทั้งหลายเอาไว้ “แนนไม่รู้หรอกว่าพี่คะน้ามีอะไรดี ทั้งหน้าที่การงาน ทั้งฐานะทางสังคม อะไรๆ มันก็ไม่ได้เหนือไปกว่าแนนเลย”

ทิมจ้องหน้าของหญิงสาวด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์ กระทั่งคะน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้องสะกิดมือรั้งเอาไว้ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปในทางที่เลวร้าย ดูเหมือนร่างสูงข้างๆ จะสงบลงเล็กน้อย กระนั้นความโมโหก็ยังกรุ่นอยู่บนใบหน้า แนนเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาที่ดูหม่นมัว รอยยิ้มบางๆ แต่งแต้มใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาให้น่ามองขึ้น




“แต่วันนี้ ...วันนี้แนนได้เห็นแล้ว แนนรู้แล้วว่าแนนไม่มีอะไรเหนือไปกว่าพี่คะน้าเลย”

คำพูดของหญิงสาวทำเอาทิมยิ้มกริ่ม ผิดกับคะน้าที่รู้สึกปั้นหน้าตัวเองไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมา ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่ได้มีอะไรเหนือไปกว่าใครเขาได้จริงๆ

“เอ่อ... คือพี่ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรเลยนะ ไม่มีอะไรไปเทียบกับคนแบบแนนได้ด้วยซ้ำ”

แนนระบายรอยยิ้มน้อยๆ ดวงตาหม่นราวกับพระอาทิตย์ที่อ่อนล้า เธอเหนื่อย ...เหนื่อยทั้งกาย และเหนื่อยทั้งใจ หลายวันมานี้ หญิงสาวกระวนกระวายจนแทบไม่หลับไม่นอน ครุ่นคิดถึงแผนการต่างๆ นานา กลัวว่าอีกคนจะมีความสุข จะสมหวัง แล้วก็เป็นเธอที่ทุกข์ทรมานอยู่คนเดียวทุกวันทุกคืน บัดนี้เธอรู้แล้วว่าความเจ็บปวดต่างๆ นานาที่ทำให้จงเกลียดจงชังชายหนุ่มสองคนตรงหน้า ล้วนที่มาจากมือของตัวเธอเอง

“แย่จัง ที่ทำอะไรที่แย่ๆ ไปตั้งมากมาย ขอโทษพี่ทิมด้วยนะคะ ขอโทษพี่คะน้าด้วย และหนูก็ขอโทษพี่ผักกาดด้วย แนนทำเรื่องยุ่งๆ มากมาย เรื่องที่ไม่ดีเลย”

“พี่ผักกาด? พี่ผักกาดเกี่ยวอะไรด้วย” คะน้าอุทานด้วยความตกตะลึง

“แนนบุกไปที่สถานฑูตที่พี่เขาทำงานอยู่น่ะค่ะ ไม่ดีเลย ขอโทษจริงๆ”

“เอ่อ... เอ่อ... คือ... ก็... ก็ได้มั๊ง ไว้พี่บอกให้ครับ” เล่นเอาชายหนุ่มปรับตัวไม่ถูก และไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ยืนอึ้งๆ งงๆ แนนบุกไปถึงที่ทำงานของผักกาดเลยหรือ? แล้วแบบนี้เจ้จะเจออะไรบ้างเนี่ย!!! ตายแน่!!!

คะน้ายืนเกาหัวแกรกๆ จินตนาการถึงพี่สาวของตนเองเวลาเจอกับคนแบบแนน ร่างบางเบือนหน้าต่อไปที่ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ ...คนที่เธอรักหมดใจ

“ขอโทษพี่ทิมด้วยนะคะ”


“คงไม่ล่ะ มันมากเกินไป”

ชายหนุ่มที่ถูกเอ่ยชื่อตอบกลับโดยไม่ต้องคิดแล้วมองด้วยสายตาเย็นชา ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรกับคำพูดของคนตรงหน้า อันที่จริงคงต้องเรียกว่าเขาแทบจะไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ หญิงสาวหน้าเสียไปเล็กน้อยแต่ก็พยายามฝืนยิ้มสู้

“แนนเข้าใจค่ะ ไม่แปลกเลยที่พี่จะคิดแบบนั้น”

“แต่แนนจะไม่ทำความลำบากให้อีกแล้วค่ะ แนนจะออกไปจากชีวิตพี่ และคงไม่ให้พี่ต้องเห็นหน้าให้สบายใจอีก แนนจะขอคุณพ่อไปเรียนต่อนอกน่ะค่ะ คิดว่าคงไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องที่ครอบครัวหมั้นหมายเรากันไว้ แนนจะพยายามจัดการให้ไม่เป็นเรื่องค่ะ”

ทิมลอยหน้าลอยตายืนเงียบๆ ไม่พูดอะไรตอบกลับ จนคะน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ อดรนทนไม่ไหวยกศอกขึ้นกระทุ้งอีกครั้ง คราวนี้ทิมสนใจทันที แน่นอนว่าไม่ใช่หญิงสาวอีกเช่นเคย

“อะไร! มันทำขนาดนี้ยังประสาทไปยกโทษให้มันอีกนะ ไม่ต่อยเลือดกลบปากก็ดีแค่ไหนแล้ว” ทิมหันไปเขม่นสายตาดุๆ ใส่แนน ท่าทางหงุดหงิดไม่มีปิดบัง หญิงสาวเอาแค่ก้มหน้างุด สักพักก็ขอตัวลาจาก

“อย่าลืมไปเก็บศพพักพวกอีกสองตัวที่หน้าลิฟต์ไปทิ้งด้วยล่ะ” ทิมตะโกนไล่หลัง หญิงสาวหันมาทำหน้าตกใจ คะน้าก็ไม่ต่างกัน แต่ทิมยังฟึดฟัดไม่เลิก


“ก็มันทำเมียกู! ...ทำพี่น่ะ”

“ทิม! พูดบ้าอะไรเนี่ย แล้วอีกอย่างก็ไม่เป็นไรด้วย เอาแค่นั้นก็มากพอแล้ว”

“แต่...”

“ไม่ต้องมาแต่ ไม่ชอบพวกอันธพาลใช่ไหม แล้วไปทำตัวเป็นอันธพาลแบบเค้าไปทำไม”

“เออๆๆ ถ้าทำได้อย่างที่พูดจริงๆ เวลาก็คงจะทำให้อะไรดีขึ้นเองล่ะ” ได้ยินคนตัวสูงกว่าบ่นพะงาบ คะน้าก็ยิ้มออกมาได้เสียที เขาไม่อยากให้ทิมผูกใจเจ็บกับใคร ความแค้นไม่ได้เผาผลาญแค่ตัวคนที่เราไม่ชอบ แต่ตัวเองก็จะโดนเพลิงแห่งทิฐิเผาจนรุ่มร้อนไม่ต่างกัน

“หมดปัญหาไปอีกอย่าง” คะน้าพูดอย่างโล่งใจ ถอนหายใจเพราะรู้สึกโล่งอกจริงๆ

“มันไม่ใช่ปัญหาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” คนที่กอดคออยู่เอื้อมมือขึ้นมาขยี้หัวเบาๆ

“แล้วเจ็บไหม?”

คะน้าส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม ทิมยิ้มกว้างตอบกลับเช่นกัน หากแต่ชายหนุ่มยังคงทำหน้าทำตาพิกลไม่เลิก ดูเหมือนว่าบางสิ่งบางอย่างจะยังติดค้างอยู่ในใจของชายหนุ่มร่างสูงมาตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว

“คือจะว่าไปก็ชอบเลยนะ ไม่หยุมหยิม ไม่เรื่องมาก ใจดี มีน้ำใจ ให้อภัยคน พูดอะไรง่ายๆ แบบผู้ชายคุยกัน” คะน้าหันไปมองหน้าทิมที่ดูเหมือนจะนับนิ้วคุณสมบัติอะไรสักอย่างอยู่ คนกำลังพูดยังมามองเหมือนตั้งคำถาม คะน้าพยักหน้า เจ้าตัวก็พยักหน้าตามแต่ก็ไม่วายไล่คุณสมบัติต่อ

“แล้วก็แข็งแรงมาก” ...คะน้าพยักหน้าหงึก

“ต่อยเก่งมาก มีซิคแพ็คด้วย” ...ถึงจะทะแม่ง แต่ก็พยักหน้าหงึกอีกครั้ง

“เป็นกระต่ายจอมพลัง” ...แล้วก็อีกครั้ง มันก็พอรับไหว

“พี่ทิมต้องชินกับเรื่องพวกนี้ให้ได้ใช่ไหมครับ? เพราะ เมียจ๋า เป็นผู้ชาย” ...แต่คราวนี้ไม่ไหว คะน้าจ้องหน้าเขม็ง

“พยักหน้าอีกสิครับ พยักเร็วๆๆ เร็วๆ สิ” ทิมส่งเสียงรบเร้าเต็มที่

“เราเป็นเมียพี่ทิมใช่ไหมครับ พยักหน้าๆ”



คำก็เมีย! ก็คำก็เมีย! สักวันกูจะจับมึงกดมั่ง ไอ้เด็กเปรต!


“เออ!!! แล้วไง???”

หันไปตะคอกชนิดเซอร์ราวด์เต็มสองหู ระบายความรู้สึกหมั่นไส้คนข้างๆ ที่ก่อตัวขึ้นมาตะหงิดๆ เจ้าตัวหัวเราะร่าแล้วทำท่าแคะหู ยียวนจนคะน้าหันไปแยกเขี้ยวใส่ทิมอีกรอบ สู้กับพวกจิ๊กโก๋ที่มากับแนนยังไม่เหนื่อยเท่ากับเถียงคำไม่ตกฟากกับคนข้างๆ ตัว พูดอะไรไปไม่เคยมีสักครั้งที่จะสลด

“มองหน้าทำไม”

ทิมยกคิ้วขึ้นน้อยๆ ขึ้นอย่างอารมณ์ดี ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าที่แม้แต่ทุกคืนหลับตาก็ยังเห็นนั้นแค่ส่งรอยยิ้มบางๆ กลับมาให้ ดวงตาสีดำที่ดูลึกลับในเวลานี้ดูอบอุ่นเหมือนแสงของพระอาทิตย์ยามเย็น อ่อนโยนและน่ามอง และยิ่งมองรอยยิ้มบางๆ นั้นก็ยิ่งแจ่มชัดขึ้นทีละน้อย เป็นยิ้มกวนๆ ที่มุมปากแบบที่คะน้าชอบ ทิมไม่ได้พูดอะไรสักคำ ร่างสูงเพียงแค่สบตานิ่งๆ กับยิ้มแบบเป็นเอกลักษณ์เหมือนที่ทำทุกวัน



ตึก...ตัก ตึก...ตัก

แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้คะน้าก้มหน้าลงพร้อมกับจังหวะที่เต้นแปลกๆ ในใจ


 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ผ่านไปอีกตอน ตอนนี้เป็นตอนที่สนุกนะ รู้สึกมีแอ็คชั่นนิดๆ แล้วมันดี
คะน้าของเราไม่ใช่ผักสวนครัวเอาไว้ให้เคี้ยวได้เล่นๆ นะครับ 5555
ทิมก็ดูจะมีความเป็นธรรมชาติเวลาอยู่ต่อหน้าน้องต่ายเรามากขึ้นทุกวัน
มาม่าชามนี้จะหมดแล้วจริงๆ หรือเปล่าหนอ แล้วนับจากนี้ไปจะมีอะไรรออยู่
โปรดติดตามครับ ฮ่าๆ ถ้าไม่ขี้เกียจจะปั่นเรื่องนี้ให้จบไวๆ อยากทำถิติจบได้ใน 1 ปีนั่นเอง
+ 1 ให้กับทุกคอมเมนต์พร้อมกับแอบจิ๊กกอดคนละทีสองทีนะครับ :กอด1:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
 :m20: :m20:
เงิบไปเลยหนูแนนเอ๊ยยยย
ชอบเรื่องนี้มากอะ ยิ่งตอนนี้ยิงชัด คือเป็นนิยายที่แหวกแนว ไม่หวานเลยซักกะติ๊ด
อ่านฉากที่ต่ายบู๊แล้วนึกถึงตอนเรทไม่ออก
ดูไปดูมาเรื่องนี้ตัวพระของเราจะหน่อมแน้มกว่าตัวนาย  :z3:
เอาเถอะ แบบนี้ก็ดี แมนๆ เข้าใจกันง่าย ไม่พิรี้พิไร แนนหงายเงิบ
ปล. แอบอยากรู้มาซักพักแล้วว่าคนแต่งนี่จบวิศวะ โยธา มาใช่มั้ย ภาพชัดมาก เรื่องการทำงานของทิมอะ เจ๋งๆ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ ryoushena

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-2
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า...เวลาผู้ชายง้องแง้งก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ^ ^

เมียจ๋าๆๆๆๆ ....>>>> ฟังแล้วสยิวใจดี

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เข้าใจอารมณ์น้องนีแนนนะเป็นเจ้ เจ้ก็เจ็บ 5555
แต่ทิมกะหนูต่ายนี่เจ้ยอมมมม
ต่ายเท่ห์มากกกกกกก  คู่นี้น่ารักมากจริงๆ
อ่านไปแล้วยิ้มแก้มแตกเลย   :3123: :3123:

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
ชิมิหรอ..
เมียจ๋าหรอ..
ทิมจ๋า ตอนนี้เราฮานายมาก 5555
คะน้าเจ๋งว่ะ กระต่ายซ่อนเล็บนี่นา (?) :-[

โอ้ยย อย่าเพิ่งพูดเรื่องจบเลย อยากอ่านต่อไปอีกนาน นานนนนน  :z2:

ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
คะน้าสุดยอด ยายแนนหงายเงิบไปเลย เป็นไงล่าาาาา

ชอบที่คะน้าไม่ทำตัวดราม่า แก้ไขปัญหาอย่างมีสติ ^^

ออฟไลน์ เมฆาสีน้ำเงิน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
บทจะง่ายก็ง่ายเชียว แต่ดีแล้ว
เพราะแค่ปัญหาตุลที่ยังเฉลยไม่หมด
(หรือหมดแล้ว? เรื่องรอยที่คออะ เฉลยยังฟร่ะ ขอไปอ่านอีกรอบ)
ก็ยังหน่วงมาจนวันนี้ ถ้าปัญหาน้องแนนยังหนักอกอีก คนอ่านอาจตายได้

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
โอ๊ยยย คะน้าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่น่ารักมากกกกกก ชอบๆๆๆ ชอบมากกกกก สุดยอดจริงๆ
ตอนเด็กๆคะน้าต้องเคยไปฝึกวิทยายุทที่วัดเส้าหลินมาแน่ๆเลย
สนุกมากๆๆๆเลยค่ะ รักคนแต่ง +1  :กอด1:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
สุดยอดนายเอก ปลื้มมมมมมมมมมมม  o13

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ทิมเสียวหลังวาบบเลย คะน้าจะจับกด หุหุ
พี่ทิมกับคะน้า นี่น่ารักสุด ๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ whitefang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ตอนนี้มันมาก คะน้าบู๊ เล่นเอาอึ้งไปเลย
เเต่ฉากหยอกล้อกันเล่นเอาอ่านไปยิ้มไปไม่หุบเลย น่ารักมากกกก

ออฟไลน์ yumsonteen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ผมชอบตอนนี้มากเลยครับคุณ.  o13 คะน้าเก่งมากๆ. ขอบคุณมากๆนะครับ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
แหม่ะ  อิพี่ทิมนี่ก็เดี๋ยวหยอดเดี๋ยวจีบน้องคะน้า ได้ตลอดเวเลยนะ
ถึงตอนนี้จะมีซีนบู๊  แต่ก็หวานกันเว่อออออจริงๆวุ้ย คู่นี้  :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ยะฮู้ววว :วู้วว1:.........สะจายยยย~~
คะน้าเมียพี่ทิมเจ๋งไปเลยเว้ยย :a2:..........เป็นงัยล้าานังนู๋แนน :a14:
ทิมรู้สึกแกจะแอบฟังเค้ามีเรื่องกันจนจบแล้วค่อยออกมาทุกทีเลยนะ :m16:
 :angry2: ตกลงแกจะปกป้องดูแลนู๋ต่ายของเจ๊ได้ป่ะเนี่ยย........
เดี๋ยวปั๊ดยุให้เจ้าต่ายมันจับกดจริงๆซะเลยหนิ :haun5: :laugh3:

 :catrun:

Alphas

  • บุคคลทั่วไป
เมียจ๋า เมียจ๋า เมียจ๋า เมียจ๋า 

แอร้ยยยยยพี่ทิมของน้องต่ายมันช่าง....น่ารัก

ท่าทางจะเป็นคนหลงเมียเนอะ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
พาร์ทนี้ชอบคะน้ามากๆเลย


 :กอด1:

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
คะน้าไม่อ่อนนะครับ 5555555555555
ตอนที่พูดว่า ไม่น่ารักเลย!!! ต่ายน้อยน่ารักมากก คิดเหมือนทิมว่า นี่โกรธสุดๆแล้วใช่ไหม 5555555

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ฮ่าๆ
กระต่ายจอมพลัง
แบบว่าเห็นภาพกระต่ายยักษ์ กร๊ากกกก
ทิมน่ารักที่สุด น้องแนนอึ้งรับประทานเลยสินะคะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
กระต่ายน้อยมหัศจรรย์ ทิมเหมือนจะหลงคะน้าหัวทิ่มหัวตำ เมื่อไรจะพาเข้าบ้าน อยากรู้จะมาม่าไหม  :a9: :a2:

ออฟไลน์ poompoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
โอ้ยยยยยยยยยย  สนุกมากๆคะ

คะน้าสุดยอดไปเลยอ่ะ   o13

นั่งลุ้นไปกับคะน้า ลุ้นไปว่าอยากให้ทิมโผล่มาเจอ

ทิมก็โผล่มาจริงๆด้วย   มีทุกอารมณ์จริงๆเลยตอนนี้

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด