♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430434 ครั้ง)

hongyia

  • บุคคลทั่วไป
โอ ต่ายน้อยบู้ด้วย^^

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
คะน้าสุดยอดน้องต่ายจอมพลัง

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ

ขอบอกว่าสนุกมากกกกกกก  o13

ต่ายน้อยน่าร้ากกกกกกก  :impress2:

ตอนดราม่านี่เล่นเอาน้ำตาแทบไหล
แต่ตอนหวานก็แทบจะเป็นน้ำตาล  :o8:

รอตอนต่อไป  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
คะน้า  o13
เป็นวิธีรับมือตัวร้ายผู้หญิง(ที่ร้ายแบบละครหลังข่าว)ได้ดีและเหมาะสมมาก
อืม ให้ยังไงก็ไม่ควรลงไม้ลงมือกับผู้หญิง ชอบตอนที่คะน้าพูดจาสั่งสอนมากๆ ถูกต้องที่สุด คะน้าชนะเลิศ  o13
เดี๋ยวเย็นนี้จะซื้อผัดคะน้ามากิน ฉลองให้คะน้า  :laugh:

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
กระต่ายน้อยจอมพลัง น่ารักมากเลย
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักคะน้า แมนมาก โกรธสุดๆแล้วสินะนั่น555
ทิมนี่นับวันยิ่งกระแดะ(?)ขึ้นนะ แต่ก็น่ารักดีเวลาอยู่กับคะน้า

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เก่งนี่นา   o13   o13  ต่ายน้อยของเราสู้คนแล้วเว้ย 55+ ชอบอะเมียจ๋าอิอิ :impress2: :impress2: :impress2:

ขอบคุณจ้า  :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ๊ากกกกกกกกกกกกระต่ายเท่มาก

แมนมาก

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ผิดคาดแต่ชอบจริง ๆ นะ นายเอกแมน ๆ มีซิกแพ็ค เตะผู้ร้ายกระเด็นแต่ไม่รังแกผู้หญิง
พ่อพระเอกก็ได้ใจมาก ๆ ไม่หูหนาตาถั่วเหมือนพระเอกละคร ที่ชวนดราม่าทั้งปี
ทิมสามารถมาก ด่าชะนีฉอด ๆ พร้อมกับหยอดเมียรักเย้ยไปด้วย ซู้ดหยอด... o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2013 17:05:39 โดย malula »

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ได้รับการแนะนำให้อ่านเรื่องนี้จากคุณ Windyne ค่ะ ^^
อ่านแล้วจะมาเม้นท์นะคะ (เห็นที่คนอื่นเขียนยิ่งอยากรู้จัก
น้องคะน้าค่ะ!)

........................

อ่านแค่ตอน1.1 ก็ติดใจน้องคะน้าแล้วค่ะ ^^ น่ารัก ^^

ต้องไปชาร์ตแบตก่อนนะคะ ดึกๆจะตามมาอ่านต่อค่ะ

 :bye2:

.......................

โอย ... ไม่เป็นอันทำการทำงาน! อ่านจนถึงตอนที่23แล้วค่ะ
อยากจะกรี๊ดเป็นระยะๆ น้องคะน้าทำไมน่ารักอย่างนี้คะ!
พี่ผักกาดก็สมกับเป็นพี่คนโต ชอบมากค่ะ ^^

สำนวนการเขียนทำให้เห็นภาพตามเป็นฉากๆ บางฉากทำเอา
คนอ่านนั่งยิ้มเหมือนคนบ้า! จริงๆนะ!

ต้องหยุดอ่านก่อนค่ะ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปทำงาน ^_^
เฟฟไว้แล้วนะคะ 55 คืนนี้หลับไปพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความสุข  :mc4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2013 23:19:17 โดย cinquain »

zerea

  • บุคคลทั่วไป
“ครั้งแรกที่ว่า... ก็ไม่มีการเมาจริงๆ ใช่ไหม?” ประโยคนี้ของคะน้าทำเอากรี๊ดลั่นห้อง
แต่พอประโยคต่อๆมา ขอถอนหายใจดังๆแข่งกับทิม
นี่ขนาดโกรธมากนะนั่น ขนาดโกรธมาก ยังน่ารักขนาดนี้เลย><
น้องแนนคะ หวังว่าจะสำนึกจริงๆ และไม่มาทำเรื่องยุ่งๆ อีกนะคะ
ทิมๆๆ น่ารัก คะน้าก็น่ารัก
กอดนี้ให้คนแต่ง  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






BF-e

  • บุคคลทั่วไป
 :fire: :fire: กระต่ายจอมพลังงงงงง

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
พี่คะน้าสุดยอดเลย เยี่ยมที่สุด

นึกว่าจะสู้ไม่ได้แล้วซะอีก เท่กว่าพี่ทิมไปเลยน้า 5555

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
โกรธสุดๆแล้วใช่ไหมเนี๊ย "ไม่น่ารักเลย!!" :laugh:

กระต่ายน้อยจอมพลังน่ารักที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :man1:

Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
กระต่ายน้อยน่ารัก  :-[
 :3123:  :pig4:

ออฟไลน์ ♥KïssKïss_KÚRÚ♥

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชอบอ่ะ นายเอกสมัยใหม่ แข็งแรง!!!

ทิมง้องแง้งแบบนี้ก็น่ารักดี แต่ชอบเวอร์ชั่นหื่นมากกว่า 555

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
พาร์ทนี้สนุกจริง ๆ ค่ะ รักคะน้าอ่ะ ชอบนายเอกแบบนี้ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอนะ
บอกตรง ๆ ไม่คิดว่าีคะน้าจะต่อสู้กับพวกนั้นได้ เพราะปกติเป็นคนใจดีและยอมคนตลอด
แต่เป็นแบบนี้ชอบมากเลยนะ ใจคิดเหมือนกันแหละว่าทิมอาจอยู่ในห้องด้วย
เพราะปกติก็ต้องกินข้าวด้วยกันทุกวัน สะใจชะมัด ชอบตอนคะน้าสอนแนน
คือชั้นไม่ทำผู้หญิงแต่ขอสอนหน่อยถ้าเป็นน้องนุ่ง มายาวเป็นหางว่าวเลย ซึ่งมันจริงทุกอย่าง
จนนางต้องยอมแพ้ให้กับความดีความน่ารักของคะน้านะ ชอบตอนทิมเปิดตัวออกมามาก
เคยมีอะไรกันตอนไหน ตู่สุด ๆ อ่ะ จบ ๆ กันไปนังน้องแนน

“พี่ทิมต้องชินกับเรื่องพวกนี้ให้ได้ใช่ไหมครับ? เพราะ เมียจ๋า เป็นผู้ชาย” ฮาเงิบกับพี่ทิมมาก
มีบังคับให้พนักหน้าด้วยนะ น่ารักจังเลย คนที่ทิมมองมีแต่คะน้าจริง ๆ อย่างที่แนนบอกแหละ
คนเดียวที่ทิมสนใจ เออ..ทิมมีเพื่อนบ้างมั้ยเนี่ยๆๆ

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ Aleleni

  • 世界中の誰よりきっと
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สวัสดีค่ะ ตอนแรกกะว่าจะสอบเสร็จก่อนแล้วค่อยเริ่มอ่านเรื่องนี้จริงๆจังๆ
แต่ก็ทนไม่ไหวค่ะ จัดเต็มอ่านรวดเดียว 29 ตอน กับสเปเชี่ยลวาเลนไทมืเลย

มายกมือขอเป้นแม่ยกทิมอีกคนได้ไหมคะ
ชอบคาแรคเตอร์ของทิมมากๆ เรารู้สึกว่าทิมเป็นคนที่หนักแน่น จริงจังแล้วก็ตรงไปตรงมาดี เหมาะกับคะน้ามากกว่าหมอตุลเพราะในความรู้สึกเราแล้ว เรารู้สึกว่าคะน้าเป็นคนที่ต้องการที่ยึดเหนี่ยวนะคะ

คะน้าเป็นคนที่ค่อนข้าง จะว่ายังไงดี ในความรุ้สึกเราแล้วคะน้าเป็นคนอ่อนไหวและไม่ค่อยหนักแน่น
ซึ่งเพราะอย่างนี้เลยว่าไม่เหมาะกับหมอตุล เพราะหมอตุลก็ต้องการที่ยึดเหนี่ยวเหมือนกัน 555

อีกอย่างคือเราแอบคิดว่าคะน้ากับหมอตุลคล้ายๆกัน หมอตุลหน่ะในความรู้สึกเราคือคนเจ้าชู้แบบอบอุ่น ส่วนคะน้าเจ้าชู้แบบซื่อๆ กลับคิดว่าคะน้าที่คิดว่ารักตุล มันอาจจะไม่ใช่แบบคนรักอ่ะค่ะ


555 นี่เราเม้นต์อะไรบ้าบอเนอะ อย่าสนใจเลยค่ะ
เอาเป็นว่าสนุกมากๆ จะพยายามติดตามนะคะ รอสอบเสร็จจะได้อ่านเต็มที่ ^^

ปล. เราพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง แต่พูดเก่งนะคะ อ่านแล้วอาจจะงงๆ +เพ้อๆ 555

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ลุ้นให้ทำสถิติจบใน 1 ปีได้ด้วยคน 555+

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
ขอบคุณมากๆ นะครับสำหรับทุกคนที่แวะมาทักทายกัน
ยินดีที่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ทุกๆ คนด้วยครับ คนที่อ่านติดต่อกันหลายๆ ตอนนี่นับถือมาก
เพราะมันยาวมากนะนั่น ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ 5555
และที่ต้องขอขอบคุณยิ่งกว่าก็คือเพื่อนๆ ที่เห็นกันตลอดจนคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
ตอนที่ 30 มาแล้วครับ อัพตอนใหม่ต้นสัปดาห์เวลาแปลกๆ นี่แหละ
ใครที่ว่างอยู่ หรือแอบอู้แวะมาอ่านเล่นๆ กันนะครับ 5555

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 30



รอยแดงช้ำตรงมุมปากของทิมทำให้ผมไม่สบายใจ ผิดกับเจ้าของรอยฟกช้ำที่นั่งเหมือนคนไม่ทุกข์ร้อน ผมได้แต่กดความไม่พอใจที่ก่อตัวไว้เงียบๆ แล้วนั่งมองอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมากมายในมือ ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี เริ่มที่ตรงไหน แล้วต้องทำอะไรบ้างกับขวดสารพัดและสำลีเหล่านี้

“มันใช้ยังไง แล้วต้องใช้อันไหนบ้าง” คะน้าบ่นกวาดตามองข้าวของต่างๆ เหล่านั้นอีกครั้ง คนที่นั่งข้างๆ คอยชะโงกมองแล้วทำหน้ามึนไม่ต่างกัน

“ไม่รู้เหมือนกัน”

คำตอบของทิมทำให้คะน้าหน่ายใจ ดูเหมือนผู้หญิงจะมีพรสวรรค์ในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มากกว่าหรือเปล่า อย่างน้อยก็มากกว่าผู้ชายตัวโตๆ สองคนที่นั่งมองชุดปฐมพยาบาลเหมือนกับเป็นของแปลกประหลาดแบบทิมและเขา คะน้ามองขวดใสๆ ในมือ รอยช้ำมันต้องใช้อะไร เบตาดีนก็ไม่น่าใช่ หรือว่ายาแก้ปวดแบบเม็ด แต่มันใช้รักษาแค่อาการปวดหัวหรือเปล่า? แล้วน้ำมันมวยนี่ล่ะ?

“ไอ้นี่มั๊ง” สุดท้ายคะน้าก็คว้าแอลกอฮอลขวดใหญ่แล้วบรรจงเทลงสำลีอย่างทุลักทุเลก่อนจะหันมาทางทิม พยายามวางท่าราวกับผู้เชี่ยวชาญเต็มที่ ...อย่างน้อยก็ต้องเช็ดแผลล่ะน่า

“เช็ดแผลซะหน่อย”

“แต่ไม่มีแผลเลยนะ แค่ช้ำๆ เอง” ทิมท้วงขึ้น แต่พอมองสีหน้าที่เชิงบังคับขู่เข็ญของคะน้า ชายหนุ่มก็เอียงแก้มข้างขวาให้แต่โดยดี ปลายสำลีซับลงเบาๆ ที่มุมปาก “เย็นๆ ดีนะ”

“ถ้าแรงไปบอกนะ” คะน้าพยายามเกลี่ยสำลีบนกระพุ้งแก้มให้เบามืออย่างถึงที่สุด “ส่วนที่เหลือคงต้องรอเจ้กลับมาแล้วล่ะ ใช้ผิดใช้ถูกเดี๋ยวยิ่งกว่าเดิม” คะน้าว่าพลางหันไปเก็บข้าวของต่างๆ ยัดลวกๆ ใส่กล่องปฐมพยาบาล เพิ่งรู้ว่าถึงเวลาจริง ตัวเองกลับใช้อะไรไม่เป็นสักอย่างเลย

“ไกลหัวใจเยอะ สบายๆ น่า เดี๋ยวก็หาย” คนเจ็บยิ้มระรื่นเหมือนกับไม่ได้มีรอยชกบนแก้ม คะน้าหันกลับไปมองแล้วถอนใจ รอยบวมนั้นคืนนี้ก็คงจะเริ่มเขียว แล้วอีกไม่นานก็คงจะกลายเป็นสีม่วงช้ำอย่างแน่นอน

“แล้วจะบอกได้หรือยังว่าไปทำอะไรมา”

“ออกกำลังนิดหน่อย” ทิมส่ายหน้า บิดขี้เกียจแล้วทำท่าลุกขึ้น ก่อนจะสีหน้ากวนๆ นั้นจะเหยเก ในการเคลื่อนไหวที่แนบเนียน ร่างสูงดูเหมือนทรุดกลับมานั่งยิ้มส่งตาหวานเหมือนเดิม

“เมียจ๋า...” ...ไม่ใช่ว่าเขาจะดูไม่รู้

“...ถอดเสื้อ” คนอายุน้อยกว่าแสร้งเบิกตาโพลงแล้วทำสะดีดสะดิ้งจนน่าถีบ

“น้องต่ายจะทำอะไรพี่ทิมเนี่ย วันนี้บนโซฟาเลยเหรอ ...ขอมาพี่ทิมก็จัดให้นะ” เห็นท่าแล้วชักจะไม่ได้ความ คะน้าจึงจับชายหนุ่มตัวล่ำให้อยู่นิ่งๆ แล้วปลดกระดุมออก จังหวะที่อลหม่านทิมหอมฟอดเข้าที่ข้างแก้มเน้นๆ

“พักหลังชักเยอะนะ เดี๋ยวจะโดน” คะน้าหันมาเขม่นใส่ ไมใช่ว่าโมโหที่โดยหอม (ชินแล้ว) แต่ที่ไม่ชอบใจคือการเล่น กลบเกลื่อนอะไรบางอย่างของทิม

“ดุว่ะ” เจ้าตัวยังไม่วายบ่นอุบแต่เจอหน้าปั้นยากส่งกลับมา ก็เลยนั่งนิ่งอยู่กับที่แล้วให้คะน้าค่อยๆ ปลดท่อนบนออก แววตาขี้เล่นดูนิ่งขึ้นจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

รอยแดงยาวเหมือนโดนฟาดด้วยของแข็งพาดผ่านแผ่นอกช้ำจนชัด ที่น่าตกใจก็คือมีร่องรอยแบบเดียวกันอีกสองสามรอยบนแผ่นหลัง ไม่นับรวมกับเนื้อตัวของทิมที่ถลอกเป็นรอยช้ำหลายจ้ำไปทั่ว และยิ่งดูเห็นชัดเมื่ออยู่บนผิวที่ขาวและไม่เคยมีร่องรอยของบาดแผลมาก่อน คะน้าขบฟันจนสันกรามขึ้นนูน ทั้งใจหายและทั้งกรุ่นโกรธไม่แพ้กัน เขาเงยหน้าขึ้นมองทิมด้วยสายตาที่คาดคั้น

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับคนเก่ง มันเห็นแล้วใจไม่ดีเลย” ทิมส่งรอยยิ้มบางๆ แทนยาแก้มึนให้กับคะน้า แต่มันไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ “แค่มีเรื่องกับพวกช่างนิดหน่อยน่ะ แต่ก็เคลียร์แล้ว”

คำตอบของทิมดูจะไม่ช่วยคลายความเครียดของคะน้าไม่ได้เลย ร่องรอยต่างๆ เหล่านี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน คล้ายกับมันถูกสะสมมานานจนน่าตกใจ แต่เหมือนเจ้าตัวจะปกปิดได้แนบเนียนจนเขาไม่เคยรู้เลย “ตั้งแต่เมื่อไหร่ทิม”

“วันนี้เอง”

...วันนี้?

คะน้าออกน้ำหนักลงบนกำปั้นแล้วต่อยลงที่ท้อง หน้าของทิมบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังหันกลับมาระรื่นได้ ชายหนุ่มเอื้อมมือมาขยี้หัวเขาเบาๆ

“ไม่เป็นอะไรหรอกน่า”

“อย่าบอกว่าแนน?”

“ไม่หรอก ไม่ใช่เลย ก็ตามที่บอกไปน่ะ เรื่องปกติเวลาทำงานแบบนี้น่ะ”

ปกติอย่างนั้นเหรอ? ปกติตรงไหน?

“ที่ทำงานใหม่น่ะเหรอ ไหนว่าทำส่วนออฟฟิศ” คนเฉยๆ กลายเป็นคนช่างซักไปเสียแล้ว คะน้ามองไม่เห็นว่าทิมจะมีปัญหากับพวกคนงานอย่างที่บอกได้อย่างไร เมื่อพักหลังๆ ชายหนุ่มแต่งตัวแนวพนักงานออฟฟิศธรรมดามากกว่าจะออกแนวลุยๆ แบบที่ผ่านมา

ทิมระบายรอยยิ้มพร้อมกับผ่อนลมหายใจ ร่างสูงเอนหลังพิงทั้งตัวแล้วหอมลงบนแก้มคะน้าหนึ่งครั้ง กลิ่นหอมอ่อนๆ บนตัวของทิมผสมกลิ่นเหงื่อและแอลกอฮอลจนตีกันไปหมด “ก็มีไปตรวจไซด์ต่างๆ บ้าง พอเป็นส่วนกลาง ออกไปตรวจเจอที่หมกเม็ดไว้ ได้เป็นเรื่องทุกที”

คะน้าไม่เข้าใจระบบการทำงานต่างๆ หรือแม้แต่ขั้นตอนการทำงาน แม้แต่การพูดจาว่ากันด้วยกำลังเหล่านี้ แต่เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลยกับสิ่งที่ได้ยิน เป็นเหตุผลการชกต่อยที่ฟังไม่ขึ้นในความคิดของเขาเลย



“ห่วงใช่ไหม?”

คะน้าพยักหน้าแล้วก้มหน้าลง คงไม่ต้องพูดแล้วว่าในใจของเขาเป็นห่วงมากขนาดไหน ทิมถอยหายใจหนักๆ แล้วเอาหัวโขกที่ขมับของคะน้าเบาๆ รอยยิ้มน้อยๆ ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง

“บางทีมันก็เผลอใช้ชีวิตแบบเดิมๆ คิดว่าก็เต็มที่มันไปเลย คุยกันไม่รู้เรื่องก็ว่ากันด้วยไอ้นี่” ทิมกำหมัดแล้วแย๊บบนแก้มของคะน้าเบาๆ ชายหนุ่มส่งยิ้มกวนประสาทแบบที่ติดเป็นนิสัย ก่อนที่กำปั้นนั้นจะคลายตัวออกแล้วไล้แก้มของเขาด้วยความอ่อนโยน



“ใครจะคิดว่าคนถ่อยๆ แบบนี้ มันจะมีคนเป็นห่วงกับเขาด้วย”

ทิมสบตาคะน้าด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ดวงตาคู่นั้นหวานซึ้งจนคะน้าต้องเบือนสายตาหนีโดยอัตโนมัติ ไม่ใช่ว่าไม่กล้ามอง แต่ทุกครั้งที่มองตาคู่เดิมๆ คู่นั้น ก็มีอันได้เขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


“พี่...”



“คะน้า...”





“ต่ายครับ...”


“หื้ม”

คะน้าตอบกลับด้วยเสียงในลำคอ กระนั้นก็สร้างความพึงใจให้กับผู้ถามเป็นอย่างดี ทิมเอนหน้าลงวางบนบ่า ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตาคะน้า


“...ขอนอนตักได้ไหม”

“อืม” คำอนุญาตนั้นแผ่วเบาแต่ก็ถือเป็นสิทธิที่ผู้ร้องขอพึงจะกระทำได้ ทิมค่อยๆ ล้มตัวลงแล้วซุกลงบนตักของคนที่นั่งนิ่ง หมายถึงนั่งนิ่งๆ จริงๆ คะน้าได้แต่นั่งเฉยๆ ในขณะที่ทิมเองพอหนุนหัวลงบนหน้าตักได้ก็นอนตะแคงนิ่งๆ อยู่แบบนั้น ต่างฝ่ายต่างนิ่ง ...ไม่ต่างกัน



มันเหมือน...

ฟังดูอาจจะประหลาด แม้ว่าผ่านอะไรด้วยกันมาเนิ่นนานและมากมายขนาดนี้ แต่บ่อยครั้งที่ต่างฝ่ายก็ต่างยังเขินกันไม่ต่างกับวันแรกๆ ที่รู้จัก นานๆ ครั้งคะน้าจะแอบเหลือบมองศีรษะที่นอนหนุนอยู่ ใบหูแดงๆ กับท่าทางที่ทำไม่รู้ไม่ชี้แบบนั้นเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่าคนที่นอนอยู่ก็คงไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ดีกว่าสักเท่าไหร่



“นี่...”

เสียงของทิมดังขึ้นแบบไม่มีที่มาที่ไปจนทำให้คะน้าหลุดออกมาจากภวังค์

“...อะไร”

คะน้าตอบรับแต่อีกฝ่ายกลับนิ่งสนิท ทิมเงียบไปสักพัก สุดท้ายก็ถอนหายใจเสียงดังลั่นออกมา

“เฮ้ออออ... ช่างมันเถอะ”








“นี่...”

“หืม?”

“ลูบผมให้ได้เปล่า”

คะน้ายกมือขึ้นแล้วลูบลงไปเบาๆ บนเส้นผมของคนที่ร้องขอ เส้นไหมสีดำของทิมนิ่มนวลและหยอกล้อไปกับปลายนิ้วของคะน้า แปลกที่มันให้ความรู้สึกเพลิดเพลินจนลืมอาการเก้อเขินลงไปได้ คะน้ารู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลายขึ้น ทิมก็ดูจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน


“ยังเจ็บอยู่ไหม”

“นิดหน่อย”

ทิมตอบเบาๆ ใบหน้ายังตะแคงอยู่ ดวงตาทอดมองไปเบื้องหน้า คะน้าผละมือจากผมลงมาลูบที่บนแผลฟกช้ำตามลำตัวเบาๆ อย่างทะนุถนอม ห่วงแบบไม่รู้จะห่วงไปทำไม ทั้งที่ทิมจะจะดูล่ำสันและแข็งแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ


“ว่าไหม?”

เสียงของทิมโพล่งขึ้นมา ใบหน้าที่ตะแคงนั้นยังจ้องมองไปข้างหน้าเหมือนเดิม



“...เราเหมือนคนที่เขาเป็นผัวเมียกันจริงๆ เลยว่ะ”

รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้ากระตุกช็อตไปชั่วขณะ คะน้าชะงักมือทันที ไม่รู้จะตอบอะไรกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน สายตาหยุดอยู่ที่ใบหูที่เป็นสีแดงก่ำ สิ่งที่วนอยู่ในหัวของเขาเมื่อครู่ทำไมถึงแปลงออกมาเป็นเสียงของทิมแบบนั้น ในห้วงความคิดของคะน้าเมื่อครู่ มันไม่ใช่แค่เหมือนคนเป็นสามีภรรยากันธรรมดา แต่ความคิดนั้นบอกว่ามันเหมือนคนเป็นสามีภรรยาที่โคตรจะรักกันมากๆ จนอยากจะหยิบกระโถนขึ้นมาอ้วกแตกกันไปข้าง



“...ว่าไหมครับ”

เสียงทิมดังขึ้นอีกครั้ง สีแดงเริ่มระบายลามไปบนลำคอและใบหน้าด้านข้าง คะน้านิ่งสงบไม่รู้จะพูดอะไรออกไป อยากจะตำหนิคนถามก็ไม่เชิง มันมึนๆ งงๆ อธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน ไม่รู้จะพูดว่าอะไรต่อ หรือจะตอบรับอะไรดี

“แล้ว... ไม่ใช่เหรอ?”




เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!! พูดอะไรออกไปวะ!


มึนยิ่งกว่าเดิม มึนจนคะน้าถึงกับยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ทิมหันหน้ากลับมาแล้วยิ้มร่า ร่างสูงของคนอายุน้อยกว่ากระเด้งตัวขึ้นมาเหมือนดีดด้วยสปริง สายตาวิบวับแล้วจ้องมองลึกลงในดวงตาของคะน้า



“พูดอีกที”

“พูดอะไร”

คะน้าตีมึนใส่ทำไม่รู้ไม่ชี้ เห็นทีว่านอนน้อยไปหน่อย หรือไม่ก็เมากลิ่นแอลกอฮอลจนลำดับความคิดในหัวสมองไม่ถูก เขาเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน หลบสายตากวนประสาทนั่นด้วย

“นี่...”

ทิมสะกิดยิกๆ จนน่ารำคาญ เสียงหัวเราะครื้นฟังดูจะสร้างความหงุดหงิดไม่สร่าง

“อะไรอีก”

มือของอีกคนจับใบหน้าของคะน้าพลิกกลับมาสบตา ใบหน้าของทิมดูนิ่งไม่ได้กวนประสาทและปราศจากแววตาของความยียวนใดๆ คงเหลือไว้แต่รอยยิ้มเล็กๆ บนมุมปากนั่นที่ดูจะคงอยู่แบบทุกครั้งที่เคยเห็น มือของคนตรงหน้าลูบไล้ไปมาบนท้ายทอย คะน้าเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูง ดวงตาสีดำคู่นั้นลึกล้ำและเชิญชวนแบบมีชั้นเชิงจนเขาเหมือนถูกสะกดให้จ้องมองไม่ให้ละสายตาไปไหน ...แล้วมุมปากของทิมก็ยกขึ้นอีกเล็กน้อย


“จูบที”

ไม่รู้จะปฏิเสธไปให้ได้ความอะไร คะน้าจึงยืนนิ่งแล้วมองริมฝีปากนั้นที่แย้มขึ้น ...รอรสสัมผัสที่คงเลี่ยงบาลีไม่ไหว หากแต่อีกฝ่ายยังคงนิ่งเฉย ทิมไม่ได้เข้าหาแบบทุกที ร่างสูงกว่าส่ายหน้าช้าๆ ใบหน้าที่คมคายเพยิดขึ้นยั่วเย้า ผิดกับแววตาคู่นั้นซึ่งเว้าวอนเหมือนร้องขอ คะน้าขมวดคิ้วมุ่น ชักจะเข้าใจเจตนามากขึ้น

เจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวันนะคุณมึง

ทิมยังยืนยิ้มเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากเปื้อนยิ้มนั้นทำหน้าที่ของมันได้อย่างน่าหมั่นไส้จนรู้สึกหงุดหงิดลูกตา



“กล้าๆ หน่อย”




...ก็แค่ให้มันจบๆ ไปหรอก

กลั้นใจหรือกลั้นหายใจก็ไม่รู้ คะน้าค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วจูบลงที่ริมฝีปากตรงหน้า แผ่วเบา อ่อนหวาน หากแต่เมื่ออีกฝ่ายได้รับการสัมผัสก็กลับเหมือนเชื้อเพลิงที่ถูกจุดไฟทันที สองมือโอบเข้าที่เอวแล้วดึงเข้ามาจนชิด ก่อนจะดูดดื่มราวกับไม่รู้จักเบื่อ ค่อยๆ ลุกลามไปเรื่อยๆ เหมือนเอาน้ำมันราดลงบนกองไฟแบบทุกครั้ง



...แต่คงไม่ใช่ครั้งนี้


“やだも~!”

เสียงวี๊ดของผักกาดดังขึ้นจากหน้าประตูจนคนทั้งสองสะดุ้ง!!!



(มีต่อด้านล่างนะครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ต่อเลยนะครับ)



“やだも~!”

เสียงวี๊ดของผักกาดดังขึ้นจากหน้าประตูจนคนทั้งสองสะดุ้ง

“อกอีแป้นจะแตก!! Do I have supposed to see something like this ค๊า? ああ~” สารพัดภาษาเท่าที่พอจะนึกออกตอนไม่มีสติพร่างพรูออกมาจากปากของอดีตนักศึกษาปริญญาโทจากญี่ปุ่นจนตีกันมั่วไปหมด คะน้าสะดุ้งสุดขีด สัญชาตญาณจึงรีบผลักทิมไปให้ห่าง ลืมไปแล้วซึ่งร่องรอยที่ฟกช้ำตามร่างกายจนชายหนุ่มกลับลงไปนั่งร้องโอดโอยบนโซฟา

“น้องเจ้ จะทำอะไรช่วยให้มันมิดชิดกว่านี้นะคะ ไม่ต้องเผื่อแผ่เจ้ค่ะ ถึงเจ้จะเป็นสาวยุคใหม่ แต่ก็ยังไม่ก๋ากั่นพอ โอย... หัวใจจะวาย” ติดเสียว่าไม่เคยพกติดตัว ไม่อย่างนั้นผักกาดคงควักยาดมขึ้นมายัดสองรูจมูกเอาเสียให้ได้ ไม่เชิงว่ารับไม่ได้ แต่เห็นแล้วมันจักจี๋แปลกๆ “ต่ายซัง ...เจ้จะเป็นลม”

“คือมันไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้”

“ฟังไม่ขึ้นค่ะ มันฟังไม่ขึ้น mouth to mouth - skin to skin ขนาดนั้น ああ~” ผักกาดยังไม่วายส่งเสียงประหลาดด้วยความตกใจ ทิมเผลอหัวเราะขำจนตัวสั่น ขณะที่คะน้ารีบหันไปพะงาบปากห้ามเป็นระวิง

“ไม่ใช่นะเจ้ ทิมมันช้ำไปทั้งตัว ไม่รู้จะทำยังไง ยาพวกนี้ก็ใช้ไม่เป็น” โบ้ยมือไปทางกล่องยาที่วางอยู่ตรงหน้า จนผักกาดเริ่มคลายความตกใจลงไปบ้าง แต่ก็ไม่วายมองแบบจับผิดมาที่ชายหนุ่มทั้งสอง กวาดตามองสำรวจริมฝีปากน้องชายที่เจ่อแดง แล้วมองไปที่อีกคนที่เปลือยท่อนบน สภาพริมฝีปาก ไม่ค่อยต่างกัน แล้วกวาดมองต่อไปที่รอยช้ำเป็นจ้ำๆ

“ตายจริง!!! ทำไมเราสองคนคิสมาร์กรุนแรงแบบนี้ เจ้เพลีย เจ้จะเป็นลมมมม...” ผักกาดทำท่าหน้ามืดอีกครั้ง

นับเป็นเวลาหลายนาทีที่จะอธิบายความกันรู้เรื่อง สุดท้ายผู้เป็นพี่สาวก็สอนสองหนุ่มถึงวิธีการใช้ยาต่างๆ คะน้าทำตามที่ผักกาดบอก หยิบหยูกยาแก้ฟกช้ำแล้วนวดเบาๆ ไปตามจุดต่างๆ โดยมีผักกาดคอยกำกับการดูแลรักษาน้องเขย (?!?!) อย่างใกล้ชิด

“จะว่าไปแล้วก็คิดถึงเจ้าตุลมันนะ ถ้ายังอยู่จะได้ช่วยตามมาดูกัน ไม่ต้องรอเจ้”

ผักกาดบ่นไปอย่างเรื่อยเปื่อย หากแต่คำพูดเหล่านั้นกลับหวนทำให้คิดไปถึงคนที่อยู่ห่างไกล หลายเดือนแล้วนับตั้งแต่เอ่ยลาในวันนั้น คะน้าไม่ได้รับข่าวคราว ไม่ได้รู้เรื่องความเป็นไปของตุลเลยแม้แต่น้อย ยอมรับได้อย่างเต็มความรู้สึกว่าคิดถึง มันไม่ใช่ความรู้สึกรักใคร่ ผูกพัน มันปะปนไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ยิ่งย้อนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยกัน ก็ยิ่งรู้สึกใจหายกับการจากไป



...เคยคิดเล่นๆ ไหม ถ้าวันนั้นเลือกเส้นทางอีกทาง วันนี้มันจะเป็นอย่างไร?

แค่สงสัย แค่อยากรู้ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ามันก็เป็นแค่คำถามที่ไม่มีทางรู้คำตอบก็ตาม

“หลงคิดดีใจว่ามีคนเป็นหมออยู่ใกล้ๆ ตัวแท้ๆ ดันไปต่างประเทศซะได้ อ้อ! ต่าย... เราได้ข่าวตุลบ้างไหม?” ผักกาดหันมาถามเหมือนไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น หากแต่คำถามนั้นกระทบกับใจของเขาเหลือเกิน




หลายวันก่อนคะน้าเพิ่งรู้ว่าพยาบาลที่แวะเวียนมาซื้อไอศกรีมทานทุกวันที่ตลาดนั้นคือ จิ๋ว ที่เคยมากับตุล ความคิดวูบแรก ผมแอบคิด ...แอบคิดว่าตุลจะมาด้วยไหม แต่เวลาผ่านไปนานแค่ไหน กี่วันต่อกี่วัน ก็มีแต่จิ๋วที่มาซื้อไอศกรีมใส่กระติกกลับไป

คิดแล้วก็น่าขำ ผมยังแอบตั้งคำถามเล่นๆ ในใจว่าซื้อไปทานกับตุลหรือเปล่า พอแอบทาน เธอก็บอกแค่ทานกับเพื่อนๆ ในวอร์ด ครั้งหนึ่ง ผมเคยถามไปว่าพอจะได้ข่าวของตุลบ้างไหม จิ๋วแค่ส่ายหน้า จ่ายเงิน แล้วเดินจากไป ห้องข้างๆ ที่เคยได้ยินเสียงกีต้าร์เบาๆ ทุกคืน เงียบสนิทมาเนิ่นนาน ...นานจนผมลืมว่ามีความทรงจำของผมอยู่หลังกำแพงนั้น


“ไม่ครับ ...ไม่รู้เลย”




ถ้าได้เจอกันอีกครั้งก็คงดี ...ถ้าได้เจอกัน ผมจะบอกกับเขาว่าผมทานของเผ็ดน้อยลงแล้ว น้ำอัดลมก็ด้วย เดี๋ยวนี้ผมว่ายน้ำ ผมออกกำลังกายบ้าง ก็ดูแลรักษาสุขภาพน่ะ อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องที่ทุกวันนี้ผมหัวเราะเสียงดัง มีความสุขมากๆ เลยมั๊ง แล้ว... แล้วผมก็เลิกร้องไห้แล้วนะ เจออะไรหนักๆ ก็จะยิ้มสู้ จะอดทน จะไม่ขี้แยเป็นเด็กๆ



แม้แต่ต่อหน้าป๋ากับแม่ ผมก็ไม่ร้องไห้แล้ว ...และจะไม่ร้องอีกแล้ว



...ผมไม่เคยลืมคำสัญญา


“น่าเสียดายนะ ไม่รู้ว่าย้ายไปอยู่ไหน เห็นแม่บ้านบอกว่าหลายวันก่อนมีบริษัทเข้ามาขนย้ายของออกไปหมดเลย ห้องก็ปล่อยขายแล้ว”

“ย้ายของออกหมด? ปล่อยขาย?”

คะน้าถึงกับอึ้งเหมือนโดนตี ตุลบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่เดิม แต่แล้วจู่ๆ ก็ปล่อยห้องขาย หมายความว่าอะไร? ตุลจะไม่กลับมาไทยแล้ว? หรือว่าจะกลับมาแต่ย้ายที่อยู่? และไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน เหตุผลในการตัดสินใจครั้งนี้คืออะไร? ...เป็นเพราะเขาหรือเปล่า? เพราะทางที่เขาเลือกเดินในวันนั้น

“เห็นว่าฝ่ายรีเซลเริ่มพาลูกค้ามาดูบ้างแล้ว เราจะได้เพื่อนบ้านคนใหม่แบบไหนนะ ลุ้นจริงๆ” ผักกาดพูดไปพร้อมกับเก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาลลงกล่องแล้วจัดแจงให้เป็นระเบียบ

ความรู้สึกหน่วงก่อตัวขึ้นในใจอย่างรวดเร็วจนคะน้าตั้งตัวไม่ทัน จะเรียกได้ว่าเขาถูกจู่โจมด้วยความผิดหวังอย่างนั้นหรือเปล่า ภาพสุดท้ายของตุลที่จดจำได้ในความคิดเป็นชายหนุ่มผิวขาวสูงโปร่ง แววตาใต้กรอบแว่นดูหมองเศร้า ใบหน้าที่เคยแต้มด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนโลกให้สว่างได้ทั้งใบนั้นดูฝืดเฝือน มีเพียงรอยยิ้มบางๆ ...บางเหมือนแสงแดดในไอหมอกที่มืดมัว

“เหม่ออยู่นั่นแหละ เป็นอะไร” เสียงเปรยของทิมลอยขึ้นมาในอากาศ ดึงคะน้าออกจากความคิดที่เวียนวน

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร แค่แปลกใจนิดหน่อย”

“ตกลงว่ามี หรือไม่มีอะไร” เสียงทุ่มดูจะขุ่นขึ้นมากะทันหัน ใบหน้าของเจ้าของเสียงดูจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ไม่แปลกเลยที่ทิมจะพอคาดเดาทุกอย่างในความคิดของคะน้าออก ซึ่งเขาไม่ได้มีเจตนา แต่มันรวดเร็วจนคะน้าตกใจจริงๆ

“พอๆ สองคนไม่ต้องมาเล่นซีนหึงหวงพ่อแง่แม่งอนแถวนี้ แค่ซีนเดียวที่เจ้เห็น เจ็ก็ไม่ไหวแล้ว เจ้อยากจะเป็นลม” ผักกาดกุมขมับส่ายหน้าห้ามทัพ เล่นเอาสองหนุ่มนักแสดงทำหน้าไม่ถูก จะขำก็ไม่เชิง จะเขินก็ไม่ใช่

“ไหนๆ ก็ไหนๆ อยู่กันพร้อมหน้า เจ้ของถามเราหน่อยได้ไหม ซีเรียสนิดนึง ทิมก็ด้วย เจ้อยากฟังความคิดเห็นหน่อย” ผักกาดรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะได้เห็นซีนที่ว่าต่อ

“ที่ตลาดเป็นยังไงบ้างน่ะ มันดีขึ้นไหม พักหลังๆ คนเริ่มเลิกขายกันไปเยอะ เจ้ก็เข้าใจนะ เดี๋ยวนี้การแข่งขันมันสูง เราไม่ได้สู้แค่พวกห้าง พวกซุเปอร์ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตลาดนัด หรือแม้แต่ตลาดสดด้วยกัน เรายังต้องสู้กับอาหารสำเร็จรูป อาหารพวกเดลิเวอรี่ตามบ้านต่างๆ อีก ตัวเลขมันติดลบต่อเนื่องเลยจนคนดูบัญชีเขาท้วงเจ้มา”

คะน้าถอนหายใจ ยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นแต่เขาก็จะพยายามแก้ไขอย่างดีที่สุด ที่ผ่านมาก็พยายามปรับปรุงตลาดให้น่าเดินขึ้น และเสียงตอบรับก็ค่อนข้างเป็นไปด้วยดี แต่มันคงต้องใช้เวลาที่มากกว่านี้

“เจ้เองแหละที่ผิดที่ปล่อยให้เราดูคนเดียว ต่าย... อย่าทำหน้าหนักใจแบบนั้น เจ้เห็นแล้วเซ็ง คุยกันสบายๆ ดีกว่า ช่วยๆ กัน อะไรที่พอทำได้ก็จะได้ทำ” สีหน้าของคะน้าดูจะดีขึ้นมาสักหน่อยหลังจากได้ยินถ้อยคำของพี่สาว

“ตอนนี้ตัวแผงต่างๆ ในตลาดก็โอเคกับสิ่งที่ทางเราดูแลนะ แต่ปัญหาคือจำนวนคนมาเดินที่ลดลง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เสียงตอบรับจากคนที่เดินอยู่มันก็ดี แต่คิดว่าทุกอย่างก็คงต้องใช้เวลาถึงจะขยายสู่วงกว้าง” คะน้าตอบตามความเป็นจริงในสิ่งที่เขาคิด

“บริษัททำบัญชีบอกมาอีกว่ามีคนมาขอซื้อที่จากเรา เขาก็เชียร์ใช้เราขายนะ เพราะตัวเลขมันแดงมานาน อีกอย่างคือเขาก็ให้ราคาสูงมาก ถามไปทางญาติฝั่งป๋าด้วย ทางนั้นก็นะ เห็นอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เห็นว่าจะทำคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่แบบครบวงจร เจ้เคยปฏิเสธไป ก็ยังสู้ราคาไม่ถอย แถมบอกว่าจะยอมรับข้อเสนอทุกอย่าง”

“เจ้ผมขอได้ไหม... ผมคงไม่ขายนะ ผมรับไม่ได้ สำหรับเราทุกคน เจ้ก็รู้ว่าที่นี่มันไม่ใช่แค่ตลาด หรือแค่ที่ค้าขาย มันมีอะไรมากกว่านั้น อีกอย่างถ้าเราขายไป แล้วคนที่ตลาดจะทำอะไรกินกัน เขาอยู่กันมาเป็นสิบปี จู่ๆ หายไป มัน... ผมคิดไม่ออกจริงๆ มันคงยากสำหรับทุกคนนะเจ้”

“แล้วเราน่ะ โอเคใช่ไหมกับที่ต้องทำงานแบบนี้ ไม่ได้ดูโก้แบบเพื่อนๆ ของเราที่ตอนนี้เติบโตไปไหนๆ กันแล้ว” ผักกาดมองน้องชายของตนเองด้วยความเป็นห่วง

“ผมโอเคครับ ที่นี่อาจไม่โก้ ไม่มีชื่อเสียงหน้าตา แต่ที่นี่ มันทำให้ผมมีความสุขทุกวัน คิดไม่ออกจริงๆ นะเจ้ ว่าไม่มีมันแล้วชีวิตวันพรุ่งนี้ ตื่นมาแล้วจะทำอะไร” คะน้าตอบเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้ม

อยากจะเก็บที่นี่ไว้สำหรับทุกคน เสียงหัวเราะของเจ๊เป็ด เสียงทะเลาะกันของจันทูและสายใจ เสียงต่อราคาของคนที่มาจับจ่ายซื้อของ แม้แต่รอยยิ้มของทุกๆ คนในตอนที่เดินกลับออกไปพร้อมกับข้าวของเต็มมือ ทุกคนช่วยกันทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่จากไปรู้สึกอยากกลับมาเดินที่ตลาดใหม่ สินค้าราคาประหยัด มีคุณภาพ อาหารปลอดสารพิษ แม้กระทั่งความอบอุ่น จริงใจเหมือนกับคนในครอบครัว

“ไอ้จ๋อ แกคิดว่ายังไง” ผักกาดหันมาตวาดเสียงแข็งใส่ทิมที่นั่งฟังจนเคลิ้ม เล่นเอาเจ้าตัวสะดุ้งขึ้นมา ดูทิมจะหงุดหงิดกับที่โนเรียกว่าเป็นลิงอยู่ไม่น้อย

“เงินก็เป็นเรื่องสำคัญ ธุรกิจก็คือเรื่องของกำไรขาดทุน มันขึ้นอยู่กับว่าพี่ผักกาดกับเมี...” ทิมชะงักกับสายตาคมกริบสองคู่ที่ทิ่มแทง “...กับต่ายจ๋ามองว่ามันคือธุรกิจหรือเปล่า ถ้าตอบตรงนี้ได้อย่างชัดเจน คำตอบมันก็มีอยู่ในตัวมันชัดแล้ว”

นับว่าคำตอบของทิมค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจสำหรับผักกาด หญิงสาวหันกลับไปยักคิ้วให้คะน้า

เดี๋ยว... ภาพนั้นมันคุ้นตาจนน่าตกใจ คะน้าหันกลับไปมองคนที่นั่งข้างๆ ท่วงท่า สีหน้าเรียกได้ว่าแทบจะไม่ต่างกัน หลังจากที่เคยครุ่นคิดอยู่นานว่าชายหนุ่มนั้นมีอะไรบางอย่างที่คุ้นตา เป็นอันว่าวันนี้คะน้าได้พบกับคำตอบชนิดเส้นผมบังภูเขานั้นแล้ว


มีคนเคยบอกว่าผู้ชายมักจะตกหลุมรักผู้หญิงที่มีลักษณะบางอย่างที่เหมือนกับแม่ของตนเอง

คะน้าหันกลับไปมองทิมที่เขม่นตาใส่พี่สาวเขาได้อย่างไม่ลดรา อีกฝ่ายก็ดูจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ความใจกล้า บ้าบิ่น และใจนักเลง เรียกว่าแทบจะไม่ทิ้งลายกัน ทิมหันมายกคิ้วใส่แบบที่เจ้าตัวเป็นนิสัย คะน้าถึงกับส่ายหน้าตัวเองในความคุ้นเคยที่มองผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว


...และก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน

“งั้นเราจะยืนยันว่าหัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ขาย” เสียงของผักกาดกึกก้องราวกับโฆษกประกาศประจำเวทีมวย “และเมื่อเราไม่ขาย ก็มาลองคิดกันดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง ในเมื่อปัญหาของเราคือคนเดินที่น้อยลง อาจจะเพราะไม่รู้จัก หรืออาจจะเพราะไม่อยากเดิน หรือจะอะไรก็แล้วแต่ นั่นเป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าตลาดเรามันพัฒนาไปแล้ว ทั้งๆ ที่เรามีอะไรหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ” คะน้าพยักหน้าตาม ปัญหานี้เขาเคยขบคิดกับคนในตลาดหลายรอบแล้ว แต่มันก็ไม่ตกผลึกเอาเสียที

“แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เคยนั่งคิดกันแล้ว แต่ก็ดูจะไม่ใช่”

“ต้องแก้ให้ตรงจุด ถ้าชาวบ้านไม่รู้ ก็ทำให้รู้ซะ” พี่สาวโอบมือลงบนบ่าของน้องชายเบาๆ คะน้าหันไปมองมือที่วางบนบ่า ...นับว่าเหมือนมาก ...มากจริงๆ

“เชิญรายการทีวีมาถ่ายเป็นไง” คำตอบของผักกาดทำให้คะน้าตื่นตะลึง แม้จะฟังดูเข้าท่า แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าที่ตลาดเล็กๆ แบบนี้จะเอาอะไรไปโชว์ “เจ๊จะให้เพื่อนช่วยหาทางติดต่อรายการมาถ่ายที่ตลาดของน้องเจ้ คราวนี้ล่ะ ได้รู้จักกันไปทั่วแน่ๆ”

“แต่จะเอาอะไรไปโชว์เขา ของผมก็เล็กแค่นี้”

“เฮ่ยยย! ไม่เล็กนะ!” เสียงทิมแทรกขึ้นมาชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย



ทุกอย่างจะตกลงสู่ความเงียบจนเข้าขั้นสงัด คะน้าหันไปมองทิม เจ้าตัวคงพอรู้ว่าผิดจังหวะและสถานการณ์ไปมากๆ ดวงตาคู่นั้นจึงกลอกไปมาอย่าหลุกหลิก ผักกาดหันมายิ้มเย็นจนคนอายุน้อยสุดในห้องคว้าถุงสำลีใกล้ตัวขึ้นมาดูอ่านวิธีใช้ เสียงทุ้มยังคงงึมงำเหมือนพูดกับตัวเอง

“ถึงจะเล็กกว่าก็ไม่ได้แปลว่าเล็กนะ พี่ทิมชอบนะ กำลังดีเลย” คะน้าคิ้วกระตุก ชักจะไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเนื้อตัวถึงมีแต่แผล มันวอนขนาดนี้

“...เกิดใหญ่กว่าก็เสียความมั่นใจหมดสิ”



คือว่าคุณมึงจะไม่เลิกใช่ไหม?

คะน้าชักคันไม้คันมือขึ้นมตะหงิด ผักกาดรีบตบมือเป็นระฆังพักยกให้สองหนุ่ม “อย่าเพิ่งทะเลาะกัน โปรดให้เกียรติสุภาพสตรีที่สวยที่สุดในที่นี้ก่อนค่ะ”

“ฟังนะ เจ้มีไอเดียดีๆ และทุกคนต้องห้ามปฏิเสธ เราจะจัดการอะไรพิเศษๆ ที่ไม่เหมือนกับตลาดอื่นๆ ให้เห็นทั่วกัน ทำแบบนี้รับรองว่าจะต้องได้รับการกล่าวขานไปทั้งประเทศแน่นอน” ท่วงท่าและความมั่นใจของผักกาดทำให้คะน้ากับทิมงงว่าสิ่งที่ว่าคืออะไร

“อะไรเหรอเจ้ที่ไม่เหมือนคนอื่น” คะน้าถามด้วยอาการหวาดๆ ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา



“จันทูไง!”

สองหนุ่มตะลึงจนอ้าปากค้าง “เจ้จะให้จันทูนำเต้นประกอบเพลงเป็นกิจกรรมรื่นเริงพิเศษให้กับลูกค้าในตลาด”

“จะดีเหรออออออ!!!” เสียงคะน้ากับทิมดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้คาดหมาย

“ดีแน่! แต่นั่นยังไม่ใช่ไฮไลต์เด็ดของตลาดเรา” สองหนุ่มมองหน้าผักกาดที่ยืนส่งยิ้มหวาน ...หวานไปนะ ...หวานจนน่าใจหายเลยนะ

หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้แล้ววางมือลงบนบ่าของชายหนุ่มทั้งสองคนเบาๆ จู่ๆ ขนแขนก็ลุกซู่ขึ้นมาอย่างประหลาด

“คะน้าน้องรัก... น้องทิมจ๊ะ... พี่ฝากทุกอย่างไว้ที่เราสองคนนะ”

แล้วเสียงหัวเราะหึหึของผักกาดก็เริ่มกลายเป็นเสียงกึกก้องจนน่ากลัว หญิงสาวหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาแล้วชู่ขึ้นระดับหน้า “มาค่ะน้องๆ เรามาฉลองน้ำเปล่าให้ความสวยและความอัจริยะที่มาพร้อมกันของเจ้นะ”

คะน้าและทิมหยิบแก้วน้ำเปล่าของตนเองที่วางชืดมาตั้งแต่ตอนก่อนทำแผลขึ้นมาด้วยความจำใจ


“คัมปายยยยย!!!”

เสียงแก้วกระทบกันดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบแปลกแปร่ง คะน้าไม่รู้ว่าอนาคตจะต้องเจออะไร แต่ถ้ามันจะพอทำให้อะไรๆ ดีขึ้นมาได้ ตัวเขาเองก็ยินดีที่จะทำ ...และจะทำให้เต็มที่ เต็มความสามารถ เพื่อรักษาทุกสิ่งทุกอย่างตรงนี้ไว้ให้เหมือนกับภาพในวันวาน



ที่นี่...มีรอยยิ้ม มีความผูกพัน ที่นี่...มีความทรงจำที่สูญหายและรอให้ทุกคนที่จากไปคืนกลับ ...ให้ทุกๆ คำร่ำลา ทุกๆ ความคิดถึงกลับมาหากันอีกครั้ง ผมจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ ให้ดีที่สุด เพื่อวันพรุงนี้ที่จะมาถึง ...วันที่ทุกคนที่จากไปได้กลับคืนมา

...รอยยิ้มที่คุ้นตารอยยิ้มนั้น แจ่มชัดอีกครั้งในความทรงจำ


รออยู่นะครับ ...จะรออยู่ตรงนี้



...สัญญา

 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ตอนที่พิมพ์ไปก็รู้สึกหมั่นไส้ทิม-ต่ายขึ้นมาตะหงิด อะไรมันจะปานนั้น (ก็แกพิมพ์เอง 55555)
แถมช่วงหลังๆ ทิมหลุดมากขรึมกลายเป็นติงต๊องไปซะแล้ว ภาพลักษณ์เสียหายจริงๆ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่แวะมาทักทายกันนะครับ +1 ให้กับทุกคอมเมนต์พร้อมแถมกอดแน่นๆ สักที :กอด1:
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่บอกต่อๆ กันจนมีคนมาอ่านนิยายเรื่องนี้มากขึ้นด้วยนะครับ
คนแต่งดีใจมากๆ เลย ขอบคุณมากๆ นะครับ ทีนี้ก็ มาลุ้นกันว่าตอนหน้าจะเป็นยังไงกันหนอ 5555

ปล. ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเป็นพวกคำอุทานเวลาตกใจนะครับ ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
นึกภาพจันทูนำเต้นออกเลย

hongyia

  • บุคคลทั่วไป
อ้ากกก~ จะให้จันทูแดนซ้

ออฟไลน์ Aleleni

  • 世界中の誰よりきっと
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
้เห็นนิยายอัพตกใจมากรีบวิ่งเข้าอย่างด่วน 55
ทั้งๆที่พรุ่งนี้ก็มีสอบ แต่อดใจไม่ไหวทุกทีเลย ^^

ตอนนี้หวานจังเลย~ ชอบจังค่ะ
ตอนนี้ทำให้เริ่มรุ้สึกเข้าใจความรู้สึกคะน้าที่มีต่อตุลขึ้นมา
มันเป้นความรู้สึกของคนที่รู้สึกดีๆต่อกัน
แต่ไม่ถึงขั้นคนรัก เข้าใจถูกหรือเปล่าน๊า
ช่วงที่คณะนึกถึงตุลเราแอบหน่วงนิดๆด้วย*พอดีเป็นคนค่อนข้าง Sensitive อิอิ*
やだ~~~~~ だめろう~~~~
แต่ยังไงก็แม่ยกทิมนะคะยืนยันตัว 555
รออ่านยิ่งกว่าหนังสือเรียนอีก ฮ่าา

ปล. จันทู มายไอดอลโผล่มาแล้วววว คิดถึงจังเลย

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ยาดะกะโม่นี่ถ้าเว้นดีๆแลดูเหมือนภาษาเอวีเลยนะตอนอ่านไปเจอแอบตกใจ555
พี่ผักกาดวางแผนอะไรล่ะนี่ อยากรู้ๆ
น้องต่ายน่าร้ากก :m1:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
มันน่าบ้องหูไอ้คุณทิมชะมัด เค้าคุยการคุยงานกันอยู่ดันพาออกนอกอ่าวไปได้
พ่อคุณเอ๊ย  ถ้าเปนคะน้าจะขอดึงขนคิ้วซักที   หมั่นเขี้ยว 5555 
ว่าแต่ไปมีเรื่องกะใครมา?  ต้องให้เมียสอนศิลปะการต่อสู้มะ กลับมาเยินขนาดนั้นเสียชื่อเด็กต่ายหมด

แอบใจกระตุกเรื่องตุลย์นิดๆ  ใจหายไปกับต่ายด้วย แล้วก็หึงแทนทิมไปพร้อมๆกันเลย
รออ่านตอนต่อไปของจันทู
เป็นตปก.ที่มีบทเด่นกว่าเจ้อีก ให้ตายยย  5555

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เง้อ เฮียทิมเรา เข้าโหมดหลุดกระจุยกระจายเลย ฮ่าๆ
น้องต่ายฟีเวอร์
ฮาพี่ผักกาดเข้ามาเห็นฉากเด็ด กร๊ากกก
ลุ้นกันต่อไป หึหึ  ....

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

อยากให้ตลาดของน้องต่าย ดำเนินกิจการไปด้วยดี ความรักกับพี่ทิมก็ไม่มีอุปสรรค


ออฟไลน์ norimakii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ตอนนี้น่ารักมากกก อ่านแล้วก็เขินแฮะ  :o8:

คิดถึงจันทูนะ 555

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
มาบ่อยดีจังเลย ชอบที่สุด แต่ยังคิดถึงตุลอยู่เสมอน้า เป็นไงบ้างก็ไม่รู้คุณหมดคนดีของเรา ช้ำใจแอบไปทำใจที่ไหนเนี่ยข่าวคาวไม่ส่งกันเลย รู้บ้างใหมคนเชียแอบคิดถึงแต่ก็รักพี่ทิมน้า อย่าน้อยใจไปหล่ะ  o13 o13 :bye2:

ขอบคุณมากจ้า รักน้องต่ายที่สุด  :L1: :pig4: :L1:

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
ทิม แกนอกเรื่องไปนะ  :laugh:

อะไรใหญ่อ่ะ  :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด