♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430427 ครั้ง)

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จันทูนำเต้น!!!!!!!!!


แค่คิดก็ฮาแล้วอ่ะ  :m20: :m20: :m20:

 :กอด1: สำหรับคนเขียนนะคะ หุหุ

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
ไอ้ลิงจ๋อเอ๊ย  :m20: หลุดมาดเข้าไปทุกวัน

BF-e

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ภาพลักษณ์ทิมไม่เสียหายค่ะ ยังเท่ห์ยังดูดีเสมอในสายตาคนอ่าน เพราะเป็นแบบนี้กับคะน้าคนเดียวนี่เนอะ
(กับพี่ผักกาดอีกคน)
ทิมไปโดนใครตีมาน่าเป็นห่วงจังปิดบังความเจ็บปวดอีกยิ่งน่าสงสัย คะน้าห่วงจะแย่แล้ว ชอบตอนนอนหนุกตักกัน
เหมือนผัวเมีย 555 แล้วไม่ใช่เรอะ ก็ใช่น่ะสิ พี่ผักกาดมีเห็นคิสซีนจะได้ตกใจไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว
ถึงคราวปรับปรุงตลาดกันแล้ว อยากให้เป็นไปด้วยดีเพราะคะน้ารักตลาดนี้มาก ซึ่งมันต้องดีแน่ถ้าถึงมือพี่ผักกาดแล้ว
พี่ผักกาดเก่งที่สุด แต่คะน้าจะโดนทำอะไรน้า รอดูรอชม... ฮาพระเอกจ๊ะ เล่นทะลึ่งไม่เลิกเค้ากำลังคุยธุระกันอยู่
มีเขินมีอายบ้างมั้ยเนี่ย
เรื่องตุลก็ใจหายเหมือนกันเนอะ หายไปไหน สรุปรอยคิสหมอตุลย์มันก็เป็นความลึกลับของโลกใบนี้
ที่ยังไม่ได้เฉลย รอชมอีกเช่นกัน

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
เห็นตอนที่ 30 อัพเลยเข้ามาอ่านก่อน ตอนที่ 24 ถึง 29 เอาไว้ก่อน! 555

ต่ายน้อยหลุดปากอีกแล้ว "แล้วมันไม่ใช่เหรอ" ขำก๊ากเลยค่ะ คนเขียน
เก่งมากที่คะน้าไม่หลุดคาแรกเตอร์เลย!!

ผักกาดก็นะ ... น่ารักคงเส้นคงวา ชอบจังค่ะ มีพี่อย่างนี้คงได้ทะเลาะกัน
วันละหลายรอบ ^^

อยากรู้ว่าผักกาดวางแผนจะให้สองหนุ่มทำอะไร? นอกจากที่จะให้จันทูเต้น ...

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทิมแอบไปมีเรื่องกับใครอีกแน่ ๆ แต่ทำต๊องอำพรางใช่ไหม
หรือตุลย์จะไปแล้วไปลับ...

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
พี่ทิมกวนได้น่ารักเชียวอ่ะ

อ้อนด้วย อิจฉาพี่ต่าย

อยากได้แบบนี้มั่งอ่า 555555

อ่านแล้วก็คิดถึงตุลนะ หายไปนานเลย

จะได้กลับมามั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
“เฮ่ยยย! ไม่เล็กนะ!”!!!???? ขำว่ะทิมเอ๊ยย :eiei1:

น่าให้ต่ายมันโบกหัวทิ่มจริงๆ  o16

แต่เค้าคุยกันสามคนน่ารักดีนะ เหมือนทิมเป็นน้องเจ๊คนนึงเลย

เจ๊ผักกาดจะให้น้องชายทั้งสองทำอะไรน๊าา ลุ้นๆ :m28: :m5:

 :angellaugh2:     :110011:     :z7:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ไม่ไหวๆ  รออยุ่ทำไม  ถ้าเขากลับมา  แล้วคนที่มีตอนนี้จะเอาไปไหวไหน

ไม่ไหวๆ  กระต่ายทำแบบนี้  ไม่ไหวๆ

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :o8: sweet  มาก น้องต่ายที่ทิมอิอิ  :o8: เจ๊กาด คิดได้ :laugh: จันทูจะออกโรงแย้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
พี่ผักกาด คิดอารายนอกจากให้จันทูแดนซ์ เกี่ยวพันถึงน้องต่ายกะพี่ทิมเต็มๆใช่ไหม

ออฟไลน์ whitefang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ทิมต่ายน่ารักเว่อออ ช็อตนอนตักนั่นน่ารักไปม้ายย  :-[
ตาทิมนี่ก็ปากไวจริง วอนโดนตรีนต่ายน้อยเเล้วมั้ยล่ะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
ทิมน่่ารัก

แต่ต่ายน่ารักกว่า  :m1:

ตลกทิมอะ มันไม่เวลาพูดเรื่องเล็กไม่เล็กมั้ยฮ้าาาาา???  :laugh:

(ผมไม่เล็กนะครับ : น้องต่ายในตำนาน )

สู้ๆนะ2หนุ่ม  :ped149:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
หมั่นไส้ด้วยคน  :laugh:
เขาหวานกันตลอดเวลา  หวานจนน่าอิจฉาเกิ๊นนนนน  :-[

ออฟไลน์ Gutjang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
รอดูจันทูเต้น  :sad4:

ทิมติงต๊องแต่น่ารัก

pinkfuku

  • บุคคลทั่วไป
คะน้านี้ยังไงหนา เอาแต่คิดถึงตุลย์อยู่ได้ นี้ถ้าเราเป็นทิมเราคงโกระหน้าดู แฟนเราเอาแต่คิดถึงแฟนเก่าแบบนี้ แต่ทิมน่ารักนะ โกรธบ้าง งอนบ้างเถอะพ่อคุณ

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมาทักทายกันนะครับ +1 ทุกคนเลยนะ
วันนี้คุยน้อยหน่อย ขอตัดเข้าตอนที่ 31 เลยแล้วกันครับ อ่านเลยครับ 5555555


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ตอนที่ 31



“และนี่คือแผนการในการโปรโมตลาดของเรา”

เสียงของผักกาดดังก้องท่ามกลางพ่อค้าแม่ขายในตลาดที่ต่างตื่นตัวกันไม่น้อย คะน้ายืนอยู่ข้างขวาของผักกาด และด้านซ้ายของหญิงสาวก็คือทิมที่โดนลากเข้ามาเอี่ยวด้วยโดยที่เจ้าตัวก็ได้แต่อึ้งรับประทาน

“ดังนั้น ผักกาดต้องขอความร่วมมือจากพี่ๆ น้องๆ ทุกคนด้วยนะคะ” หญิงสาวยิ้มสดใส เผื่อแผ่ไปถึงคะน้า ทิม และยังเผื่อแผ่ไปทั่งถึงทั้งกรุงเทพแบบระบบ 3G ก็ยังได้ ดูเหมือนแผนการต่างๆ ก็เข้าท่าดีเว้นเสียแต่มีอะไรบางอย่างที่ยังเป็นปัญหาที่เคลียร์กันไม่ลง

“แล้วทำไมสายใจไม่ได้เต้นนำ มีอะไรที่แพ้นังสก๊อยพม่านั่น” แม่ค้าที่เคลมว่ามีหอยที่ใหญ่ที่สุดในตลาดยกมือประท้วงท่ามกลางเสียงอื้ออึงของคนทั้งตลาด ด้วยศักดิ์ศรีของจันทูที่สาบานต่อลูกมะพร้าวสองลูกที่แผง หญิงสาวหันมาเชิดใส่แล้วทำหน้าโชว์เหนือข่ม เล่นเอาแทบจะเกิดสงครามย่อมๆ ระหว่างสองสาวเพราะกินกันไม่ลง

ระหว่างที่คะน้าภาวนาให้ลมพายุสักลูกหอบเอาทั้งคู่ไปทิ้งในเล้าเป็ดที่ไหนสักที่ ผักกาดกลับจ้องมองหญิงสาวอย่างพิจารณา และแม้ว่าน้องชายที่ยืนข้างๆ พยายามส่งสายตาห้าม หากแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจสักนิด ติดจะคิดอะไรที่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ คะน้ามองหวาดๆ ผักกาดก็อมยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว

“งั้นก็ได้ เปลี่ยนจากจันทูเต้นนำคนเดียวเป็นจันทูเต้นคู่กับสายใจ”

สิ้นคำ คะน้าถึงกับยกมือกุมขมับ ไม่ใช่ว่าสองสาวเต้นไม่เก่งอะไร แต่สิ่งที่ชายหนุ่มสังหรณ์ใจว่าจะเกิดขึ้นก็คือการชิงดีชิงเด่นไม่ยอมกันอันจะพาให้เกิดปัญหาวุ่น แทนที่จะโชว์อะไรดีๆ กลายเป็นโชว์อะไรไม่รู้เอา ความที่ไม่รู้จะขัดพี่สาวอย่างไร คะน้าจึงได้แต่ปลงแล้วถามถึงหน้าที่ของตนเองแทนที่จะสนใจอะไรกับสองสาวที่เขม่นกันฮึ่มๆ

“แล้วจะให้ผมทำหน้าที่อะไรล่ะเจ้”

“ต่ายซังน้องรัก...” ผักกาดส่งยิ้มหวาน “น้องของพี่ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แค่อยู่เฉยๆ ข้างๆ ทิมก็พอ ชวนกันคุย กระจุ๊กกระจิ๊ก มองกันงุ๊งๆ งิ๊งๆ ยิ้มให้กันอะไรแบบนี้ก็พอแล้ว” คำพูดของผักกาดเล่นเอาทิมทำหน้างง ส่วนคะน้าก็สงสัยในแผนการประหลาดของพี่สาว มันไม่ใช่แค่นี้แน่ๆ มันต้องมากกว่าที่พูดเห็นๆ

“เพื่ออะไรเนี่ยเจ้?”

“เอาเถอะน่า เชื่อเจ้สิ เราต้องสร้างจุดขายที่ไม่เหมือนคนอื่น”

“ก็จันทูไง ไม่เหมือนใครสักคน ไม่เหมือนคนด้วยมั๊งนั่น” ประโยคหลังแสดงความในใจอย่างเต็มที่

“อันนั้น มันสับขาหลอก ของจริงมันอันนี้... อันนี้ๆๆๆๆๆ เชื่อเจ้สิ มันกำลังมา”

“อันนี้น่ะมันอันไหน แล้วอะไรที่ว่ากำลังมาเนี่ย” คะน้ากระซิบถามพี่สาว กลัวว่าทิมที่ยืนขมวดคิ้วจะรู้สึกขยาดกับแผนประหลาดแล้วมาลงกับเขาแทน ผักกาดยิ้มร่าแล้วหันมาส่งสายตาระยิบระยับเป็นประกาย

“ตอนที่เจ้เรียนที่ญี่ปุ่นนะ มันมีกระแสหนึ่งที่กำลังมาเลย คนชอบกันมาก เขาเรียกว่า ‘ยะโอะอิ’ เคยได้ยินไหม พลังวายน่ะ”

“อะไรวาย” เสียงทิมแทรกขึ้นมาด้วยความสงสัย

“เอาเถอะน่ะ ก็ทำๆ ตามเจ้บอกไปแหละ เดี๋ยวมันก็ดีเอง ไม่ต้องทำอะไรมาก ง่ายๆ เป็นตัวของตัวเอง เข้าใจไหม” สองหนุ่มหันมามองหน้ากันแล้วส่ายหน้าไม่เข้าใจ เล่นเอาผักกาดถอนหายใจ

“เอางี้ ง่ายๆ เลยนะ จะเดินไปไหนให้จับมือกันตลอด ไม่งั้นก็โอบบ่ากัน แล้วตัวน่ะ ห้ามห่างกัน ติดกันเข้าไว้ ยิ่งใกล้ยิ่งดี อ้อ... เวลาหิวน่ะ ป้อนกันได้ยิ่งดี”

“เฮ่ย! มันจะดีเหรอ” เล่นเอาคะน้าปั้นหน้าไม่ถูกกับคำร้องขอแปลกประหลาดนี้ ผิดกับชายหนุ่มอีกคนที่ลอยหน้าลอยตาไม่ทุกข์ร้อน

“แต่ผมไม่มีปัญหา ตกลง”

“เฮ้ย!!!!!” คะน้าหันไปมองหน้าทิมที่ดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรจริงๆ ซ้ำยังขอตัวหนีกลับด้วยข้ออ้างว่าจะไปทำงานเอาเสียดื้อๆ ทิ้งให้คะน้าได้แต่ยืนต่อรองกับพี่สาว ซึ่งแน่นอนว่าไม่เป็นผล

ผักกาดหันไปกำชับกับคนในตลาดว่าให้แต่งตัวหล่อๆ สวยๆ มาเต้นกับจันทูและสายใจที่ลานด้านข้างตลาดในวันที่จะนัดหมายในอีกสัปดาห์ข้างหน้า แล้วหันไปกำชับสองสาวให้แต่งตัวเต็มที่ไม่ต้องมีกั๊ก

“งานนี้ได้ออกทีวีเลยนะคะ พี่บอกไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าถ้างานนี้มีแมวมามองเห็น ...รู้ใช่ไหมคะว่าจะเป็นยังไง” แค่นี้จันทูกับสายใจก็วาดฝันในอากาศตามแผนทุกอย่าง เรียกว่าเล่นเอาคะน้างง เมื่อสองสาวจองขี้เกียจกลายเป็นคนขยันขึ้นมาในพริบตา ซ้ำยังกระวีกระวาดกลับไปเตรียมตัวและนัดซ้อมกันอย่างสามัคคีได้เหลือเชื่อ

“แล้วเราน่ะ อย่าลืมนะ ว่านั่นมันแค่เรียกน้ำจิ้ม ของจริงน่ะคือเรากับทิม อ้อ ใส่เสื้อเหมือนกันหรือเข้ากันด้วยก็จะดีมาก” ผักกาดออกคำสั่งแบบเบ็ดเสร็จมัดมือชก

“ให้ทำอะไรเนี่ย” คะน้ายังไม่วายต่อรอง รู้สึกกระดากอย่างบอกไม่ถูก

“พูดแล้วไม่พูดซ้ำ ส่วนอีกหนึ่งสัปดาห์นับจากนี้ เรามีหน้าที่ดูพวกคนในตลาดซ้อมกัน แล้วอย่าลืมมารายงานเจ้ทุกวัน เข้าใจไหม รายการทีวีเขาตอบรับมาแล้ว ห้ามปฏิเสธ! ส่วนเรื่องระบบต่างๆ ที่ตลาดเราพัฒนาขึ้น เจ้ดูแล้ว โอเค น่าสนใจ แค่นี้พอแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร” ฟังพี่สาวพูดฉอดๆ ก็เหนื่อยแทน มีแต่ออกคำสั่งแปลกๆ แล้วตัวเองทำอะไร

“ให้แต่คนอื่นทำโน่นทำนี่ แล้วเจ้ทำอะไรเนี่ย” คะน้าติงเหมือนเกี่ยงหน้าที่ ฟังคำน้องชายว่าแล้วคนเป็นพี่สาวก็หยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมแล้ววางมาด

“ทำตัวสวยๆ” เป็นคำตอบที่ทำเอาคะน้าอ่อนใจ ผักกาดเดินก้าวฉับๆ อย่างคล่องแคล่วออกจากแผงที่ตลาด ก่อนจะพ้นเขตแดนยังไม่วายหันมากำชับอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจังจนก้องไปทั้งหูของคะน้าทั้งวัน

“ห้ามป่วย! ห้ามลา! และห้ามปฏิเสธ!”

ตลอดทั้งบ่าย ตลาดกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวา แม้ว่าผู้คนที่มาเดินจับจ่ายข้าวของจะบางตา แต่ความวุ่นวายนั้นไม่ต่างกับมีคนนับร้อยอยู่ในตลาดสดแห่งนี้ จันทูเปิดนิตยสารดาราแล้วทำหน้าเครียด คะน้ามักจะได้ยืนเสียงสวดมนต์แปลกๆ มาเป็นระยะๆ ให้ขนลุกขนพอง เมื่อหันไปถามหญิงสาวข้างตัว ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังฮัมเพลงอยู่ ...จ้างให้เขาก็ไม่เชื่อ ถ้าไม่สวดมนต์มันก็ต้องเป็นอาคมเล่นของอะไรสักอย่างแน่ๆ ล่ะ

คนอื่นๆ ก็เช่นกัน ทุกคนดูจะตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการโปรโมตตลาดผ่านทางรายการโทรทัศน์ตอนปลายสัปดาห์ตามที่ผักกาดบอก

“ซื้อไอติมด้วยค่ะ”

กระติกใบเล็กถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับเสียงเล็กๆ ที่ดังขึ้นดึงคะน้าให้กลับมาสนใจลูกค้าตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเป็นลูกค้าประจำ พ่อค้าหนุ่มก็ยิ้มออกมา ร่างบางในชุดนางพยาบาลที่คุ้นตามักมาซื้อไอศกรีมทานเวลาเดิมๆ แบบนี้แทบทุกวัน ยิ่งเห็นก็ยิ่งห้ามความคิดแปลกๆ ของตัวเองไม่ได้ ยังไม่ชิน และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะชาชินเวลาที่เห็นเครื่องแบบสีขาวๆ พวกนี้เสียที

“คุณจิ๋วมาซื้อทานทุกวันเลย เดี๋ยววันนี้พ่อค้าแถมให้เป็นพิเศษนะครับ” คะน้ายิ้มแล้วก้มหน้าลงตักไอศกรีมขึ้นมาใส่ภาชนะ



...แถมหรือชดเชย บางทีเขาก็ตอบคำถามนี้กับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบรับอยางยินดีด้วยคำขอบคุณและแววตาที่เป็นประกายขึ้น

“เอ่อ... ว่าแต่ช่วงนี้ คุณพยาบาลได้ข่าวของหมอตุลบ้างไหมครับ”

สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป ทั้งๆ ที่คิดเอาไว้แล้วว่าจะเลิกคิดมาก เลิกถามคำถามที่ดูจะไม่มีประโยชน์ แต่ความรู้สึกที่จู่โจมเมื่อวันก่อนเกี่ยวกับการย้ายออกจากคอนโดของเพื่อนบ้าน ทำให้ความคิดเหล่านี้กลับมาวนเวียนในหัวสมองอีกครั้ง สีหน้าของลูกค้าสาวมีแววเปลี่ยนไปขึ้นมาทันที พยาบาลคนนั้นสบตาแล้วถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

...ไม่มีคำตอบใดๆ ออกจากปากของหญิงสาวซ้ำสอง ซึ่งคะน้าก็เข้าใจดี ชายหนุ่มส่งยิ้มให้พร้อมกับกระติกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเกล็ดสีขาวหวานเย็น เธอเอื้อมมือเล็กๆ ออกมารับ

“ถ้ารู้จักคุณหมอ ก็น่าจะทราบนี่คะว่าคุณหมอลาไปทำวิจัยที่ต่างประเทศ และไม่ทราบกำหนดกลับที่แน่นอน ข่าวว่าอาจจะทำเรื่องขอวิจัยระยาวที่นั่นต่อหลายปีด้วยน่ะค่ะ” พยาบาลร่างเล็กส่งเงินให้แล้วเดินจากไป คะน้ายิ้มรับแล้วมองหญิงสาวที่เดินจับจ่ายซื้อของต่อโดยไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ ความรู้สึกในใจว่างเปล่าจนยากจะหาถ้อยคำใดๆ มาอธิบาย

ตกเย็นของทุกวัน คะน้าต้องไปเฝ้าดูการซ้อมเต้นของคนในตลาด ผ่านไปห้าวันแล้ว ดูเหมือนว่าจันทูและสายใจจะเข้ากันได้ดีกว่าที่เขาเคยคาดคะเนเอาไว้ ท่าทางชิงดีชิงเด่นดูเหมือนจะไม่มี อาจเพราะแบ่งช่วงเต้นกันเป็นจังหวะที่ต่างฝ่ายต่างจัดเต็มไม่มีกั๊กกันก็ได้ เพราะลำพังแค่วันซ้อมธรรมดา สองสาวยังประโคมเสื้อผ้าหน้าผมแบบลิเกที่จะไปรำแก้บนขนาดนี้ วันจริง คะน้ายังไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ

เสียงดนตรีกระหึ่มขึ้นพร้อมกับหน้าท้องที่เด้งดึ๋งๆ เป็นลอนเหมือนหนอนชาเขียวกำลังไต่กิ่งไม้ จันทูสะบัดผมจนสยายเหมือนปอบผีฟ้าแล้วเด้งสะโพกป๊าบๆ ...จังหวะถัดมา หญิงสาวอีกคนที่ยีผมจนเหมือนรังนกกระจอกเทศก็เดินส่ายเป็นงูหลามออกมา สายใจเคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าที่ร้อนแรงเหมือนไฟ ...ไฟจากนรก แม่ค้าหอยทอดกระแทกสะโพกบั๊มเข้าหาจันทูด้วยจังหวะที่ทรงพลัง เหมือนสาส์นท้ารบ มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอมแพ้ จันทูจัดเต็มกลับด้วยสเต็ปที่คะน้าอธิบายไม่ถูกว่าจะเรียกว่าอะไร พูดง่ายๆ ก็ประมาณว่าเป็นเหตุการณ์ฝนตกขี้หมูไหล คนสวยใสมาพบกัน อะไรสักอย่างประมาณนั้น

ชาวตลาดคนอื่นๆ แน่นอนว่ารวมไปถึงรุ่นใหญ่ๆ อย่างเจ๊เป็ด เฮียตี๋ หรือแม้แต่ใครๆ ก็พากันหน้าเครียดกับท่วงท่าพิลึกกึกกือ ดูยังไงก็ไม่เหมือนแอโรบิกกายหรือบริหารแบบที่ผักกาดบอกเลยสักนิด ออกแนวระบำเปลื้องผ้าผสมบูชาภูติผีพิลึก แต่ถึงกระนั้นทุกคนก็ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ผิดบ้างถูกบ้าง เรียกเสียงหัวเราะขึ้นเป็นระยะแก้เครียด

แดดร่มลมตกทุกคนก็มานั่งรวมกันใต้เงาไม้ใหญ่ใกล้ลานกิจกรรม ต่างคนต่างหยิบอาหารต่างๆ จากแผงตนเองมาร่วมกินร่วมดื่มกันอย่างเต็มที่ ข้าวเหนียวส้มตำ หอยทอด ผัดไทย รวมไปถึงยำประเภทต่างๆ กินกันไปหัวเราะแซวกันไปอย่างครื้นเครง ไม่บ่อยที่ชาวตลาดจะมารวมกลุ่มกันแบบนี้แล้วทำอะไรสักอย่าง โดยปกติ ทุกวันเมื่อตลาดเสร็จต่างกันก็ต่างเก็บแผงแล้วแยกย้ายกลับบ้าน แต่พอมีกิจกรรมแบบนี้ แม้ว่าบางคนจะดูอิดออดในวันแรกๆ ด้วยเขินอาย แต่พอวันหลังๆ กลับดูคล่องตัวและกระตือรือร้นอย่างเต็มที่

“พี่คะน้าจ๊ะ ออกทีวีแล้วคนจะมาเดินตลาดมากขึ้นใช่ไหม ทุกวันนี้มันเงี๊ยบบบบบบเงียบ เงียบเป็นชีวิตสาวโสดของนังจันทูเลยเนี่ย” สายใจตักตำปูปลาร้าเข้าปากแล้วสูดปากด้วยความแซ่บ

“ม๊ะสัวแล้ยาขี้อิฉา” จันทูสะบัดหน้าแล้วตอบกลับ แต่ปากก็ตักผัดไทยของสายใจเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วสองสาวก็ทะเลาะกันต่อแบบข่มกันไม่จบไม่สิ้น เรียกเสียงตบมือโห่ร้องได้อย่างสนุกสนาน

คะน้ามองภาพตรองหน้าอย่างโล่งใจ หลายวันที่ผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างหนัก แม้ว่าอะไรหลายอย่างยังดูไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่เวลาที่เหลืออีกสองวันทุกอย่างน่าจะเพียงพอและไม่ขายหน้าชาวตลาดแน่ๆ ทุกคนตั้งใจและทุ่มเทกว่าที่คะน้าจะคาดได้ หลายคนลงทุนตัดผมทำเล็บกันยกใหญ่ ส่วนฝ่ายชายทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ก็ฟิตกล้ามกันน่าดู ถ้าถามคะน้าแล้ว เขาไม่รู้ว่าสุดท้ายผลจะออกมาเป็นแบบไหน แต่ภาพตรงหน้านี้มันชัดเจนในความรู้สึก ความผูกพัน ความอบอุ่น และบรรยากาศเป้นกันเองแบบคนในครอบครัวทำให้ชายหนุ่มมีความสุขจนอธิบายไม่ถูก

คะน้ารายงานเรื่องผลการซ้อมเต้นให้ผักกาดฟังทุกคืนหลังจากกลับบ้าน ผู้เป็นพี่สาวดูจะไม่สนใจอะไรมากมายสักเท่าไหร่ ...ก็อย่างที่บอกไป มันไม่ใช่ไฮไลต์สำคัญ

“ต่ายน้องพี่ แล้ววันถ่ายต้องแต่งตัวหล่อๆ หวีผมเท่ๆ เข้าใจไหม เอาผมปรกหน้าลงมาแบบวันก่อนก็ดูดีนะ เจ้ว่ามันรับกับหน้าเราเหมือนกัน”

“เอ่อ... เจ้ครับ มันไม่น่าจะซีเรียสอะไรขนาดนั้นมั๊ง”

“ซีเรียสสิ เจ้จะดันเราสองคนสัมภาษณ์ออกรายการเลยนะ พ่อค้าหล่อล่ำอะไรแบบนี้” ความคิดพิสดารที่หมกเม็ดไว้ค่อยๆ ผุดขึ้นมาทีละอย่างจากปากของผู้เป็นพี่สาวจนคะน้าชักหวาดขึ้นทุกที ความรู้สึกกังวลเรื่องจันทูกับสายใจนาทีนี้เรียกว่าหายไปหมดสิ้น กลายเป็นความกังวลเปลี่ยนเป็นเรื่องทิมกับตัวเองไปหน้าตาเฉย



...เจ้จะทำอะไร ต้องมีอะไรแน่ๆ แต่มันคืออะไรเนี่ย?

คะน้าขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หากแต่ผู้เป็นพี่สาวกลับทำไม่รู้ไม่สน ผักกาดเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเองเอาดื้อ ซ้ำยังส่งเสียงร้องเพลงอย่างมีความสุขจนชายหนุ่มรู้สึกหวาดกลัว คืนนั้นคะน้านอนอย่างรู้สึกไม่เป็นสุขเอาเสียเลย





พระจันทร์เป็นเสี้ยวเหมือนกลีบส้มที่ถูกแกะ  มีเกล็ดน้ำแข็งสีเงินระเบิดตัวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า กลิ่นชื้นของหญ้าสีเขียวลอยมาตามลมที่พัดเย็น แล้วแกะสีขาวน่ากอดตัวนั้นก็กระโดดข้ามรั้วไป

ใครสักคนบอกว่าถ้านอนไม่หลับให้ลองนับแกะ ชายหนุ่มหลับตาแล้วนับเจ้าขนฟูที่กระโดดหมุนตัวตีลังกาลงมาส่งยิ้มแป้นไปกว่าครึ่งร้อย สรุปว่าตาสว่างกว่าเดิมเสียอีก คะน้าเอามือก่ายหน้าผากแล้วจ้องเพดานห้องสีขาวที่ดูมืดกว่าทุกวัน อีกครั้งแล้วที่เขาเผลอถอนหายใจออกมาเพราะไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านอนกลิ้งตัวอยู่บนเตียงแบบนี้

ตีหนึ่งกว่าแล้วที่คะน้ายังหลับไม่ลง ในความมืดและเงียบงัน เสียงเคาะประตูเป็นจังหวะรัวๆ ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตูห้องนอนออก ร่างเล็กของพี่สาวในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวดูผิดตากว่าชุดนอนที่เห็นเมื่อค่ำ ใบหน้าของผักกาดดูซีดจนเหมือนไร้สีเลือด

“ต่ายหลับอยู่หรือเปล่า” เสียงเล็กๆ สั่นไหวจากทุกทีที่ได้ยินมา คะน้าส่ายหน้าปฏิเสธ

“รีบแต่งตัวแล้วตามเจ้มา ขอไม่เกินสองนาที”

แม้ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คะน้าก็รีบจัดแจงทุกอย่างตามที่ผักกาดร้องขอ ระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของพี่สาวคุยโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา ชายหนุ่มก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก วันนี้ ผักกาดขับรถเร็วกว่าทุกครั้ง ใบหน้าที่ดูรื่นเริงนั้นแข็งขืนจนดูแปลกตา กระทั่งผู้เป็นน้องชายอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“เราจะไปไหนกันน่ะเจ้”

คำถามนั้นดังชัด แต่ผักกาดกลับให้คำตอบด้วยการนั่งนิ่งๆ แล้วผ่อนลมหายใจหนักอึ้งออกมา นับตั้งแต่ออกจากห้อง หญิงสาวก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย คะน้าเก็บงำความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้ในใจ หากแต่ไม่ถึงเสี้ยววินาที เสียงไซเรนและเสียงดังอึกทึกก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจไม่ดี เบื้องหน้าที่สุดปลายสายตานั้นมีกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่กำลังแผ่ขยายขึ้นสู้ท้องฟ้า สีดำสลับกับสีแดงร้อนจนดูน่ากลัว รถที่ทะยานไปข้างหน้าทำให้มันค่อยๆ ใหญ่ขึ้นและใกล้เข้ามาจนรู้สึกหวั่นหวาด ยิ่งใกล้ใจของคะน้ายิ่งสั่น เขากลัว ...กำลังกลัว เป็นความกลัวที่ถึงขีดสุด ภายในใจตอนนี้ได้แต่ภาวนาเป็นร้อยๆ ครั้ง คะน้าจ้องมองไปที่กลุ่มควันสีทมิฬนั้น ...เขาจำสถานที่แห่งนั้นได้ดี



...ที่ตลาด


(อ่ะนะ ต่อครึ่งหลังของตอนเลยแล้วกันครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ครึ่งหลังครับ)




ในควันสีเทาและกลิ่นไหม้ที่เหม็นจนน่าขยะแขยงคือมัจจุราจสีส้มแดงที่ลุกโชนอย่างไม่ปรานีเหนือตลาด ใจของคะน้าต้นรัวเหมือนถูกอัดไปด้วยระเบิดที่พร้อมจะปลิดชีวิตเขาลงในพริบตา แอร์ปรับอากาศในรถยนต์เหมือนจะพ่นไอร้อนจนเหงื่อเขาซึมแตกออกมาโดยไม่รู้ตัว คะน้าเร่งเครื่องปรับอากาศขึ้นอีกจนสั่นไปกับความหนาว และเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้า ใจของชายหนุ่มแทบจะกองลงไปอยู่ที่ปลายเท้า นับเป็นครั้งแรกที่คะน้าไม่อยากจะรับรู้ความจริง ...ความจริงที่เขาภาวนาให้เป็นเพียงความฝันที่โหดร้ายในคืนนี้

ผักกาดจอดรถอยู่บริเวณที่ไม่ไกลออกไป ทันที่ที่รถนิ่งสนิท คะน้าก็ทะยานตัวไปที่กลุ่มคนมากมายที่ออล้อมอยู่ทั่วบริเวณด้านนอกของตลาด เจ๊เป็ด จันทู สายใจ พี่ศักดิ์ และใครต่อใครอีกมากมายต่างร่วมด้วยช่วยกันดับเปลวไฟที่กำลังลุกโหม บ้างก็ช่วยย้ายข้าวของที่จำเป็น บ้างก็หาน้ำมากมายมาดับไฟตรงหน้าร่วมกับรถดับเพลิงที่ตระหง่านอยู่กลางถนนแคบๆ

“ขอโทษครับ เราเป็นเจ้าของตลาดครับ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ” คะน้าวิ่งเข้าไปหาพนักงานดับเพลิงคนหนึ่งที่กำลังยิงน้ำเข้าไปในเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ ผักกาดวิ่งตามมาสบทบ ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือดด้วยความตกใจ

“น้ำไม่พอ เราต้องการน้ำเพื่อดับไฟอีก คุณครับ มีจุดต่อน้ำได้บ้างไหมครับ” เจ้าหน้าที่คนนั้นตอบกลับมาด้วยความร้อนรน แม้ในเวลาที่ตกใจจนแทบช็อค หากแต่หญิงสาวก็พร้อมจะรับมือได้เป็นอย่างดี ผักกาดตะโกนสู้กับความวุ่นวายและเสียงของกองเพลิงตรงหน้า

“หัวจ่ายมีกระจายทั่วไปค่ะ แต่มันต้องปลดวาล์วก่อน รู้สึกจะอยู่ด้านใน”

“อยู่ตรงไหนครับ”

“ด้านในค่ะ รู้สึกช่วงท้ายตลาด ค่อนข้างหายากสักหน่อย ดิฉันก็ไม่แน่ใจ” เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีสีหน้าวิตก ดูเหมือนเพลิงที่เผาไหม้นั้นจะร้ายแรงกว่าที่คาดคะเน อีกทั้งรถดับเพลิงจากเขตอื่นก็ดูเหมือนจะติดเหตุการณ์อัคคีภัยที่จุดอื่นเช่นกัน

“ด้านในครับ ผมคุ้นเคยดี เดี๋ยวผมเข้าไปเองครับ ไม่นาน”

“ไม่ได้นะ มันอันตรายเกินไป” ผักกาดแทรกเสียงแหลมขึ้นมาทันที คะน้าหันไปมองผู้เป็นพี่สาวแล้วพูดอย่างจริงจัง

“ตอนนี้ยังพอคุมไฟไว้ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้ มันจะยิ่งแย่ และถ้าเกิดลุกลามไปบ้านเรือนหรือเขตก่อสร้างใกล้ๆ มันจะยิ่งไปกว่านี้ ละแวกนี้ไม่มีคลองให้สูบน้ำมาช่วย เราไม่มีตัวเลือกอื่น” ชายหนุ่มตะโกนสู้กับเสียงระเบิดและข้าวของที่ตกลงมา

“เจ้... ตอนนี้ปัญหาคือน้ำไม่พอ เราต้องการน้ำ และคนก็ไม่พอ แค่นี้ ผมพอทำได้ ผมคุ้นเคยดี” ชายหนุ่มหันมาพูดกับเจ้าหน้าที่ที่พยายามควบคุมเปลวไฟอยู่ “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมทำเอง ไม่เกินสิบนาที รบกวนคุมเพลิงให้ได้นะครับ”

“แต่มันอันตรายเกินไปนะครับ”

“ถ้าผมไม่ทำ ผมมองไม่เห็นว่าใครจะทำได้ในตอนนี้ เรามีคนไม่พอ” เสียงของคะน้ากร้าวแกร่งและเข้มแข็ง พนักงานดับเพลิงหันไปมองเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ทำหน้าที่อยู่ ต่างคนก็ต่างอยู่ในสภาวะที่ไม่ต่างกัน

“น้ำพร่องลงไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่รู้ว่ารถเสริมจะมาถึงตอนไหน ก่อนที่น้ำจะหมด และก่อนที่มันจะลุกลาม ต้องมีใครสักคนเปิดวาล์ว และในที่นี้ นอกจากผู้หญิงกับคนที่เป็นผู้ใหญ่มากๆ ผมคุ้นเคยกับที่นี่ดีที่สุด” เจ้าหน้าที่มีสีหน้าที่หนักใจ

“เราแข่งกับเวลาอยู่นะครับ!” คะน้าตะโกนย้ำอีกครั้ง เพลิงค่อยๆ ลุกลามมากขึ้นด้วยกำลังน้ำที่อ่อนกำลังลง เจ้าหน้าที่มีสีหน้าลำบากใจ ครุ่นคิดอย่างหนักถึงสถานการณ์ตรงหน้า เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย สุดท้ายก็ตัดสินใจ

“รบกวนด้วยครับ!”

สิ้นเสียงร่างสูงของคะน้าก็ฝ่าเข้ากองเพลิงที่ลุกโชนตรงหน้าทันที เสียงผักกาดหวีดร้องจากด้านหลัง หากแต่เขาก็ยังวิ่งตรงไปข้างหน้าไม่หยุด ไม่ใช่ว่าไม่ห่วงใย แต่สิ่งนี้ ในเวลานี้ มีทางเลือกไม่มากสำหรับทุกคน ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง เจ๊เป็ด สายใจ เฮียตี๋ พี่หมู คนในตลาดที่คุ้นตาจนไล่ชื่อไม่หมด ใครต่อใครต่างก็พยายามตักน้ำมาสาด หรือแม้แต่ช่วยย้ายข้าวของที่พอจะทำได้ แม้กระทั่งจันทู หญิงสาววิ่งไปตักน้ำจากบ้านข้างๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มือที่วันๆ พลิกอ่านหนังสือดาราด้วยความเกียจคร้าน ในตอนนี้กลับทรงพลังจนน่าเกรงขาม คนอื่นๆ ก็เช่นกัน

ในภาพที่เห็น ดวงตาของทุกคนที่นี่ พวกเขาทุกคนล้วนมีน้ำตาไหลมาอย่างไม่ขาดสาย และภายใต้หยดน้ำใสๆ นั้น กลับมีสิ่งหนึ่งที่ลุกโชนยิ่งกว่าเปลวไฟตรงหน้า สิ่งนั้นคือความมุ่งมั่น สิ่งนั้นคือความรู้สึกที่จะไม่ยอมแพ้ ถ้าที่นี่พัง เราทุกคนก็พร้อมจะพังไปด้วยกัน!

...เพราะที่นี่คือบ้าน

...และที่นี่ ...ก็คือชีวิตของเรา!


คะน้าหันกลับไปมองภาพที่จากมา ผักกาดค่อยๆ ปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็ง หญิงสาววิ่งออกไปปะปนกับฝูงชนในท้องตลาดจนกลายเป็นหนึ่งหนึ่งเดียวกับทุกคน

...คนที่เราเรียกกันว่าเป็นครอบครัว

มือเล็กๆ ที่จับแต่ปากกาและพิมพ์คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ บัดนี้ จับกระป๋องน้ำหนักๆ และสายยางเข้าสู้กับเปลวไฟตรงหน้า เสียงตะโกนส่งแรงของทุกคนดังลั่นราวกับจะประกาศกร้าวในสงครามที่เผชิญอยู่

ให้ไอ้ไฟบ้าๆ นี่มันมันรู้ว่า... ถ้าชาวตลาดเราลุกขึ้นสู้ เราจะไม่มีวันแพ้ใคร!

คะน้ากำหมัดแน่นแล้วส่งเสียงคำรามก้อง สองขาวิ่งไปด้านหน้าตามทางด้วยความแคล่วคล่อง กลิ่นไหม้ฉุนกึกในจมูก และเปลวไฟก็รุนแรงขึ้นทุกที หากแต่คนที่คุ้นเคยในสถานที่แบบเขานั้นถือว่าไม่หนักหนา กำลังใจที่เต็มเปี่ยมจากความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันปลุกอะดรีนาลีนและลูกบ้าให้หลั่งไหลไปทั่วร่างกาย ชายหนุ่มกระโจนไปข้างหน้าเหมือนกันเสือที่วิ่งอยู่ในป่าที่คุ้นเคย

ทางที่เดินตรงไปที่วาล์วนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและสิ่งกีดขวาง แม้จะพยายามฝ่าเข้าไปให้ถึงด้านใน แต่เปลวเพลิงที่ร้อนแรงนั้นขวางกั้นราวกับกำแพงสูง ความลึกจากด้านนอกทำให้สายน้ำจากที่ฉีดส่งมาไม่ถึง ยิ่งเข้าด้านใน เปลวไฟก็ยิ่งโหมแรง ทางออกที่ดีที่สุดในเวลาอันจำกัดคือการเลี่ยงไปใช้เส้นทางอีกด้าน ไกลกว่า อ้อมกว่า แต่สิ่งที่กีดขวางน้อยกว่า และน่าจะปลอดภัยกว่า

ไวเท่าความคิด คะน้าชักฝีเท้ากลับแล้วเบี่ยงไปอีกทางทันที ทางคดเคี้ยวนั้นเต็มไปด้วยเปลวไฟที่ร่วงหล่นเช่นกัน หากแต่เทียบกันแล้วนับว่าง่ายกว่าทางเดิมอยู่มาก แต่แล้วจังหวะหนึ่งที่ไม่ทันระวังตัวก็เกิดเสียงแก้วระเบิดจนเศษกระจกปลิวไปในอากาศ และวินาทีต่อมาแก้วน้ำที่เก็บเรียงอยู่ในแผงใกล้ๆ ก็ล้มระเนระนาดและแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ท้อถอย แม้จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยในการเลี่ยงเศษแก้วที่มากมายบนพื้นซีเมนต์ร้อน

และเมื่อพ้นไปได้ แผงไม้อื่นๆ ก็ประทุแตกกระเด็นปลิวมาในอากาศ คะน้าพยายามเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็มีบ้างที่ปะทะเข้ากับผิวหนังเขาโดยตรง ร่างสูงสะบัดมือลวกๆ เหมือนไม่กลัวเจ็บปวด กระทั่งถึงเป้าหมาย เปลวไฟที่ชั่วร้ายลุกโพลงขึ้นอีกระลอกที่หน้าวาล์วน้ำ ชายหนุ่มปาดเหงื่อที่ซึมขึ้นมาตามไรผมจนเปียกชื้น เสื้อผ้าเปียกไปด้วยวงเหงื่อที่ซึมผ่านเป็นวงกว้าง คะน้าพยายามตั้งสติ ครุ่นคิดหาทางฝ่าเข้าไปเพื่อเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าเพียงไม่กี่เมตร

เหลือบมองไปรอบข้างเพื่อหาวิธี ไม่ช้าชายหนุ่มก็ย้อนกลับไปที่แผงไม้ที่เริ่มแตก ออกแรงกระทืบถีบท่อนไม้เก่าๆ เต็มแรง ไม่กี่ครั้งก็แตกเป็นชิ้นระแนง คะน้าควานหาท่อนที่กระชับมือขึ้นมาแล้ววิ่งตรงไปที่วาล์ว เปลวเพลิงสีส้มตรงหน้ายังคงสาดแสง ชายหนุ่มเหวี่ยงไม้ในมือไปที่ต้นเชื้อซึ่งเป็นไม้เก่าๆ ให้กระเด็นออกไปคนละทิศทางกระทั่งเปลวไฟใหญ่นั้นจึงลดขนาดลง และเมื่อจังหวะนั้นมาถึง ชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะวิ่งตรงเข้าไปที่วาล์วน้ำแล้วออกแรงบิดสุดกำลัง

ทันทีที่มือสัมผัสกับโลหะเป็นวงกลมนั้นก็ต้องสะดุ้งสุดขีดกับด้วยความร้อนที่สุมมานาน คะน้าสะบัดมือไปมาในอากาศด้วยความแสบร้อน และเมื่อฝืนพยายามจับอีกครั้งก็ไม่ไหวที่จะออกแรง ชายหนุ่มนิ่งหอบแล้วทุบกำปั้นลงกับพื้นด้วยความโมโห สู้บุกฝ่ามาถึงที่หมายแต่กลับพ่ายแพ้ให้กับการบิดหัววาล์วง่ายๆ แบบนี้ ความปวดแสบกัดกินในดวงตาพร้อมกับหยดเหงื่อเอ่อขึ้นจนสองมือเปียกชื้น ชายหนุ่มจึงยกฝ่ามือขึ้นถูกกับเสื้อที่ตนสวมใส่อย่างลวกๆ ก่อนที่เขาจะชะงัก

...รอยยิ้มระบายขึ้นบนใบหน้า

คะน้าถอดเสื้อตัวเองออกแล้วคลุมทับวาล์ว ในครั้งนี้เขาออกแรงบิดเต็มกำลัง หากแต่ความฝืดเคืองด้วยไม่ได้ใช้บ่อยเท่าที่ควรทำให้หัววาล์วน้ำนั้นหนักอึ้งจนไม่เคลื่อนที่ คะน้านั่งหอบจนตัวโยน เหงื่อซึมออกจนหยดเป็นน้ำ มือทั้งสองข้างทั้งปวดร้อนและอ่อนล้า ...แต่เขาจะไม่ยอมแพ้กับเรื่องแค่นี้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ออกแรงบิดหัววาล์วอย่างเต็มแรงราวกับไม่รู้สึกปวดแสบ บิด... และบิดอย่างเต็มที่ ท่อนแขนทั้งสองข้างเกร็งตัวขึ้นจนเป็นมัดกล้าม ...ออกแรง และออกแรงขึ้น ...มากกว่านี้ ...มากขึ้นกว่านี้อีก


ครืดดดด...

หัววาล์วคลายตัวออกช้าๆ แต่ก็เล่นเอานั่งหอบอยู่กับที่ ตั้งสติได้ คะน้าก็อ้าปากตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนที่อยู่ใกล้ที่สุดว่าวาล์วน้ำได้ถูกปลดเรียบร้อยแล้ว และให้ต่อสายแล้วใช้ได้ทันที หากลมหายใจแรกที่สูดเข้าไปนั้นมีแต่ความร้อนและไอควัน ชายหนุ่มจึงสำลักจนตัวโยน เสียงที่ออกไปแหบแห้งจนแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่ได้ยิน แต่คะน้ายังไม่เลิกพยายาม

ชายหนุ่มจ้องมองอีกครั้งแล้วหาจังหวะที่พอเหมาะ หากแต่เสียงตะโกนข้างนอกนั้นดังสนั่นจนเขาสู้ไม่ไหว และจะฝืนรออยู่แบบนี้คงไม่ได้เช่นกัน ทางเดียวที่มีคือการย้อนกลับทางเดิมออกไปบอกทีมเจ้าหน้าที่ต่างๆ ให้เร็วที่สุด คะน้าจุ่มเสื้อที่ถอดออกลงที่น้ำก็อกใกล้ๆ ที่ระอุจนเกือบเดือด ความร้อนทำให้สะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อเอาผืนผ้าเปียกๆ นั้นปิดจมูกตัวเองให้พ้นจากควันไฟ เขาไม่ลืมที่จะเอาน้ำร้อนๆ พวกนั้นราดลงบนตัว จะพุจะพองช่างมัน เมื่อผิวกายเขายังทนไหว

...ขอเพียงให้ตลาดแห่งนี้อยู่ต่อไปได้ แค่นี้ถือว่าเล็กน้อย

กึ่งคลานกึ่งวิ่งต่ำๆ อ้อมกองไฟ เอามือปัดไฟที่ร่วงหล่นลงมา มือเปล่าๆ ของเขานี่ล่ะที่ตบละอองไฟให้พ้นจากตัว ทว่าจังหวะที่พลาดนั้นทำให้เสื้อที่ถอดมาจุมน้ำปิดจมูกหลุดมือ ผ้าเปียกๆ ตกลงไปในเปลวเพลิงขนาดใหญ่ ไม่ช้ามันก็กลายเป็นธุลีเถ้าไปคาตาให้เจ็บใจ เปลวควันและความร้อนจู่โจมร่างกายทันที มันกัดกร่อนและทำให้ชายหนุ่มสำลักจนน้ำตาไหล เขาไอตัวโยนจนของเหลวเหนียวๆ ในปากบีบเกร็งออกมาด้วยความทรมาน

สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นซ้ำสองเมื่อในจังหวะที่ไม่ได้เคลื่อนไหวนั้น ปิ๊บน้ำมันที่ซุกตัวอยู่ในแผงใกล้ๆ ก็ระเบิดตัวจนเกิดเสียงดังก้อง แต่นั่นคงเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสะเก็ดน้ำมันที่ร้อนจัดกระจายทั่วทั้งบริเวณ คะน้าเอี้ยวตัวหลบตามสัญชาตญาณ แต่น้ำมันร้อนๆ ก็ราดเข้าที่กลางหลัง ซ้ำการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้ายังทำให้ชายหนุ่มไม่อาจหลบท่อนเหล็กร้อนๆ ซึ่งเป็นโครงสร้างหลังคาที่ร่วงหล่นลงมาในนาทีถัดไปพ้น เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อเสียงนั้นสิ้นสุด คะน้าก็ทรุดลงท่ามกลางเปลวไฟที่โหมเข้ามาอย่างไร้ความปรานีด้วยน้ำมันที่ระเบิดเมื่อครู่

ร้อนจนเหมือนร่างกายจะเผาไหม้เป็นจุล แต่เขาไม่มีแรงพอจะขยับหนี คะน้าเอามือบีบหน้าแข้งและข้อเท้าที่ชาจนไร้ความรู้สึก เขาสำลักอีกครั้ง และไม่นานความชานั้นก็เริ่มแปรสภาพเป็นความเจ็บปวดทรมาน ท่อนขาข้างซ้ายปวดหนึบและหนักอึ้งจนขยับเคลื่อนไม่ไหว แม้แต่แรงแขนที่จะยกท่อนเหล็กออก ชายหนุ่มก็ยังทำไม่ได้ แม้จะออกแรงจนสุดกำลังก็ทำได้เพียงปลายนิ้วที่สั่นระริก ...โลหะนั้นร้อนจัด ...ร้อนระอุจนเหมือนจะเผาขาเขาให้ขาด

ตาของเขาเริ่มมองไม่เห็น จมูกเริ่มแสบ แขนขาเริ่มอ่อนกำลังจนชายหนุ่มไม่มั่นใจว่าจะพาตัวเองให้กลับออกไปหาเจ้าหน้าที่ด้านนอกได้หรือไม่ คะน้าได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ ความหวังในใจที่มีนั้นพอๆ กันกับความหวาดกลัวจนไม่กล้าลืมตา

...เจ๊เป็ด จันทู สายใจ บังอร พี่ศักดิ์ เฮียตี๋ พี่หมู พี่น้องทุกคนของเรา

...ป๋า แม่ เจ้ผักกาด

...ทิม


ท่ามกลางความวุ่นวาย ความร้อนที่เหมือนกับเปลวไฟจากนรก เสียงตะโกนที่ดังกึกก้องและเสียงกรีดร้องที่โหยหวนที่ดังตลอดเวลา ในควันหนาทึบ ทุกอย่างนิ่งสนิท คะน้าหลับตา ต้านความร้อนด้วยความหวังและความเชื่อมั่นอันแรงกล้าที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจอีกครั้ง

ทุกๆ คน...

ผมจะไม่ยอม...



ผมจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่!


แขนขาจะหนักอึ้งก็ช่างปะไร เดินไม่ไหวก็ไม่ใช่จะจำนน ลำคอที่แห้งผากราวกับถูกเผาจนไหม้นั้นค่อยๆ รวบรวมพลังขึ้นทีละน้อย ...ทีละนิดจนมากขึ้น ...และมากขึ้น คะน้าสูดลมหายใจเข้าลึก ตะโกน ...ตะโกนจนสุดเสียง สุดแรง และสุดพลังที่เขามี

[b’“ต่อน้ำ... ฉีดน้ำได้!!!”[/b]

เสียงร้องหวือดังกึกก้องในหูของตัวเอง ไม่รู้ว่าเสียงมนุษย์หรือปีศาจ เสียงพระเพลิงหรือเสียงอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเสียงภายนอกหรือเสียงตัวเอง ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นเพียงแค่เสียงในหัวหรือเปล่า แต่ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งไหน ...เขาจะไม่ยอมแพ้

“ต่อน้ำ! ...ฉีด! ฉีดเลย! น้ำใช้ได้แล้ว!!!”

เสียงที่เคยคิดว่าสุดลมหายใจแล้วกลับยังคงดังต่อไป แหบโหยและยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ กังวานและท่วมท้น เป็นเสียงสุดท้ายที่ดังไร้ขอบเขต เสียงที่จะดังลั่นเหมือนจะสนั่นไปทั่วทั้งโลก



...แล้วเสียงนั้นก็จางหายไป เหลือเพียงเสียงคำรามแห่งเปลวเพลิง

คะน้านั่งหอบ ...หอบจนสั่น เขาหมดแรง หมดแล้วซึ่งกำลัง แม้แต่ความหวัง แม้แต่ความเชื่อมั่น กำลังใจ ...ทุกๆ อย่างที่เขามี มันค่อยๆ ถูกเปลวไฟแผดเผาจนเลือนหาย ตาที่พร่าเลือนมองความฝันต่างๆ ผุพังลงตรงหน้า แม้ทุกอย่างรอบตัวจะวุ่นวายอึกทึก หากแต่ในใจกับเงียบงัน โลกกำลังหยุดหมุนและค่อยๆ มืดลง

ภาพความทรงจำในวัยเด็กค่อยๆ ชัดขึ้น เด็กชายตัวน้อยที่เคยวิ่งเล่นไปตามทางที่เลี้ยวลดในตลาด เสียงหัวเราะ ดังพอๆ กับเสียงตะโกนด่าไล่ด้วยความเอ็นดู เสียงปรบมือ รอยยิ้ม และน้ำตา กระทั่งวันแรกที่กลับมาที่นี่อีกครั้งในฐานะพ่อค้า ความไม่ประสา ความเหนื่อยล้าและหยาดเหงื่อที่ตกตะกอนลงเป็นความสุขที่โรยตัวอยู่รอบข้างเขาตลอดเวลา ความทรงจำเหล่านี้หล่อหลอมให้เขาเติบใหญ่ขึ้นมา ...มันกำลังพังทลายลง ...ต่อหน้า ...ตรงนี้ ...ตอนนี้ ...และเขาทำอะไรไม่ได้เลย

ผิวหนังลวกพองกลับเริ่มไร้ความรู้สึก อากาศเบาบางจนเหมือนไม่มีเหลือ คะน้าไอจนไม่เหลือเสียง น้ำลายเหนียวๆ เกร็งและบีบตัวออกจากปากอย่างที่เขาไม่ได้ตั้งใจ ทรมาน ...ทรมานเหมือนจะขาดใจ ตาที่เคยแสบจากไอควันเริ่มไร้ความเจ็บปวด และภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็เป็นเพียงแค่สีเทา ไม่สว่าง ไม่มืด ไม่ขาว และไม่ดำ



“น้ำ... น้ำ...”

เสียงสุดท้ายแผ่วลงก่อนที่เสียงฝีเท้าที่วุ่นวายพร้อมเสียงตะโกนเรียกอะไรสักอย่างจะเข้ามาแทนที่ นาทีต่อมา ท่อนขาที่โดนเหล็กทับรู้สึกเบาโล่ง สักครู่ก็มีแรงกระชากทำให้ชายหนุ่มประคับประคองสติที่เหลือเพียงน้อยนิดจ้องมองภาพตรงหน้า



“น..น้ำ            ...ใช้ได้แล้ว”

ผมสำลักจนหายใจไม่ออกและไม่มีเสียงอีกแล้ว สีเทานั้นทำให้มองไม่เห็น มันแสบตา ร้อนเคืองจนต้องปิดตาลง แรงเขย่าเหมือนจะเรียกชื่อผมซ้ำๆ มันเป็นเหมือนเสียงก้องที่กลับกลายเป็นเพียงเสียงแว่วๆ ในหู ที่พอจะรับรู้ได้คงเหลือเพียงสัมผัส ...สัมผัสนั้น อบอุ่น และเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย



“ต..ต่อน้ำ... บอกให้ฉีดได้เลย ..ผ..ผมไม่เป็นไร”

เสียงก้องดังขึ้นแต่มันอื้ออึง แรงเขย่านั้นกระชากจนตัวโยนแต่ผมไม่รู้สึกเจ็บ ในความร้อน ผมกลับสัมผัสถึงหยดน้ำบนหน้า มันเล็กน้อย ...น้อยมากๆ แต่ก็อุ่น หนึ่งหยด ...สองหยด ...แล้วก็อีกหยด และเพียงไม่นานก็ระเหยกลายเป็นไอ ผมเอื้อมมือขึ้น ใช้แรงเกือบทั้งหมดที่เหลือในการสัมผัสใบหน้าคนตรงหน้า และอีกน้อยนิดสำหรับรอยยิ้ม


“บอกทีว่าผมทำได้ มันยังทันใช่ไหม? ยังไม่พังทั้งหมดใช่หรือเปล่า?”

มีเสียงตอบกลับอะไรบางอย่างที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง แล้วร่างของผมลอยหวือเหมือนถูกเหวี่ยงขึ้นฟ้าก่อนจะตกลงมาบนแผ่นหลังที่ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ปลายเท้าที่แกว่งเพราะไร้เรี่ยวแรงลอยอยู่บนเปลวเพลิงร้อน ผมค่อยๆ เคลื่อนตัวสู่ทางออกช้าๆ ด้วยจังหวะที่มั่นคง แล้วสติการรับรู้ก็ขาดห้วง

รู้สึกตัวอีกทีเมื่อกลิ้งตัวเองไปบนพื้นซีเมนต์เปียกๆ ฝนกำลังตก หรือบางทีมันอาจจะเป็นน้ำจากรถดับเพลิง เสื้อผ้าที่ร้อนคลายอุณหภูมิลง ผิวหนังที่ลวกพองก็เช่นกัน ผมอ้าปาก กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ ตักตวงหยดน้ำที่พร่างพรมลงบนผิวหน้า จมูกเริ่มได้กลิ่นไหม้ที่น่ารังเกียจทั่วบริเวณ สายตาที่มองทุกอย่างเป็นสีเทากลับเห็นภาพได้อีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นภาพที่ไม่อยากจะเห็นก็ตาม ดูเหมือนสถานการณ์เพลิงจะถูกควบคุมไว้ได้ในที่สุด ประสาทสัมผัสต่างๆ ของผมเริ่มกลับมา ได้สติและรับรู้ถึงมือที่เกาะกุมแน่นอยู่ตลอดเวลาและไม่ปล่อยไปไหน

เสียงหอบสะท้านของคนที่นอนพังพาบอยู่ข้างๆ ตัวนั้นดังเป็นจังหวะแทบไม่ต่างอะไรกับตัวคะน้า เสื้อสกปรกและฉีกขาด เผยให้เห็นผิวหนังที่เป็นรอยถลอกพองเปรอะเปื้อนด้วยคราบเขม่าไหม้จนเป็นสีดำสลับกับริ้วแดงจากความร้อนที่กร่อนผิว คะน้าค่อยๆ ปรับภาพตรงหน้าที่พร่าเลือนให้แจ่มชัดขึ้นทีละน้อย

เปลวไฟสีแสดถูกดับลงไปพร้อมกับเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นซึ่งจบลงไป หากแต่ในใจของคะน้ากลับยังรู้สึกสั่นรัวราวกับเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดฝันซึ่งให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน

“หวัดดี”

ผมจำเสียงที่อ่อนโยนนั้นได้ ดวงตาคู่นั้นก็เช่นกัน แม้มันจะเปื้อนคราบเขม่าจนมัว แต่ผมก็ยังจำกรอบแว่นพลาสติกสีดำนั้นได้ และที่จำได้ดีที่สุดคือรอยยิ้มนั้น ...ยิ้มที่ดูเหมือนจะดับได้ทุกเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ


“...ผมกลับมาแล้ว”


 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เอาล่ะครับ คนแต่งพร้อมให้ด่าและรุมประนามแล้ว กร๊ากกกกกกกกกกกกกก...
แต่คนแต่งชอบนะ รู้สึกช่วงแอ็คชั่นมันสนุกดี ถึงแม้จะมีบางช่วงแอบสงสารต่ายน้อยก็ตาม
ตอนนี้เลยไม่ใช่ผักบุ้ง แต่เป็นคะน้าไฟแดงเสิร์ฟทุกคนกลางดึกให้อกสั่นขวัญแขวนเล่น
ส่วนท้ายตอนจะว่ายังไงดีล่ะ 555555 กลับมาให้หายคิดถึงกันแล้วสำหรับคุณหมอนะครับ
นับจากตอนนี้ไป เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น เอาเป็นว่าจะเริ่มมันส์ในอารมณ์ขึ้นทีละน้อยพะยะค่ะ
ช่วงนี้จะพยายามอัพเร็วนะครับ เข้าใจว่ามันอาจค้างคา ถ้านานอารมณ์เสียได้ 555
พบกันใหม่ตอนหน้าครับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ครับ +1 ให้ทุกคนนะ จุ๊บุๆๆ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เฮ้ยยยฃหมอกลับมาแล้ว
แววดราม่ากำลังจะมา
คะน้าบาดเจ็บ
หมอเสียบคิวได้สบายๆ แหม่
ลงล็อคจริงๆ
แล้ว...ทิมล้าาาาาาา

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ชอบตอนนี้มากค่ะ ต่ายคะน้าผัดไฟแดงน่าสงสารมาก

อย่าเป็นอะไรเลยนะ เท่าที่บรรยายมาได้นอนรพ.เป็นอาทิตย์แน่ T___T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พี่หมอมาแล้วววว นังจิ๋ว ไหนหล่อนบอกหมอไม่อยู่แงะ
เด๋วจับจันทูจูบซักที
( เด๋วนะ แกเป็นแม่ยกทิมไม่ใช่เหรอ?)

แล้วทิมไปไหนนนน น น   เจ้ไม่บอกทิมเหรอ ไม่สิ ต่ายน่าจะนึกถึงทิมปะ เวลาเกิดเรื่องอะไรควรนึกถึงคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเราก่อนลุยเซ่ ซักนิดก็ยังดี งอนแทนทิมอะ

แต่ปลอดภัยก็ดีแล้ว ต่ายเข้มแข็งมาก จริงๆแล้วพระเอกของเรื่องนี้คือต่ายชะ?
ขอบคุณตัวประกอบทั้งสองอย่างเป็นทางการ 5555555555+

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :o12: น้องต่ายเราจะเป็นอะไรมากมั๊ยเนี่ย

DIIK

  • บุคคลทั่วไป
 :fire:

อ่านตอนนี้จบถึงกับอุทานออกมาทันทีแบบไม่ต้องกลั่นกรองว่า "เหี้ยละ!!!" //ขอโทษที่ไม่สุภาพค่ะ  :call:

คือแบบก็เชียร์ทิมรักทิมนะคะ แต่ก็แอบเชียร์ตุล รักพี่เสียดายน้อง แงๆๆๆๆๆๆๆ
ขอให้กลับมาคราวนี้ไม่มีมาม่า *ชักดิ้นชักงอ

คะน้าแมนขึ้นทุกวี่ทุกวันอ่าาา *ชอบ

ตื่นเช้านี้จะวิ่งไปสั่งคะน้าไฟแดงมากินบูชาให้ตอนหน้าๆๆๆ ++ ไม่มีมาม่า 555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อะไรกันนี่ แค่ชั่วข้ามคืน ฝันก็สลายกลายเป็นขี้เถ้า
แล้วทิมคนดีของเจ้หายไปไหน
หมอตุลมาทันคะน้าสุกกำลังดี งือ...อะไรจะเกิดต่อไป

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
อ่านไปจะร้องไห้ไปด้วยความเป็นห่วงคะน้า  :monkeysad: คะน้าไม่ห่วงตัวเองเลยอ่า
แผลที่โดนมาเหมือนจะเยอะนะ หลายที่อ่ะ มือ หลัง สะเก็ดน้ำมัน ที่ขาอีก โอย... :เฮ้อ:
หมอตุลย์มาได้ไงไม่รู้ แต่ก็ดีใจที่มาช่วยทัน พระเอกล่ะ สงสัยยังไม่รู้แน่เลย
สงสารคะน้าอ่ะ ตลาดกำลังจะไปได้ดี อยู่ ๆ มาไหม้ได้ไง พวกที่จะอยากซื้อทำเหรอ เลวนะ  :m31:
เจ้มจ้นทั้งเรื่องตลาดและเรื่องความรักเลยความนี้

มาด่วนนะคะ พลีสสสสสสสสสสส~~~  :pig4:

ออฟไลน์ Aleleni

  • 世界中の誰よりきっと
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตุลกลับมาแล้ว โอ๊ววววว มีแววว่าจะต้ิงได้ดราม่าแน่ๆ
จะไปซื้อผ้าเช็ดหน้ามาเตรียมไว้ให้ตัวเองกับทิม
ตอนนี้สงสารคะน้ามากเลยค่ะ
ท่าทางจะเจ็บมาก โอ๊ยยย น้ำตาจะไหล

ส่วนทิมเนี่ยวันนี้ติดคิวที่ไหนหรอจ๊ะ ออกน้อยเกินไปแล้ว
นี่นายเป็นพระเอกจริงๆหรือเปล่าเนี่ย ตอนนี้นายดูจืเจางมากๆ

เค้ารออ่านตอนต่อไปน๊า ถึงแม้จะดราม่าแต่เค้าก็ต้องทน เพื่อจันทู เอ๊ยยยยย ไม่ใช่ละะะะะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ผิวสวยๆของคะน้า มันต้องมาม่าแน่ๆ

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
ภาวนา ว่าอย่าให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงด้วยเถอะ เราก็ยังอยากให้ทิมกับคะน้ารักกันอยู่นะ แต่ดูเหมือนตุลจะมาแบ่งเศษเสี้ยวใจของคะน้าที่ละนิด แล้วครั้งนี้ก็มาพร้อมกับไฟที่ร้อนแรงด้วย

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เฮ้ย ตุลโผล่มาจากไหนนิ
แล้วคะน้าจะเป็นยังไงบ้างล่ะนี่ ทิมด้วยหายไปเลย

hongyia

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด