♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 430436 ครั้ง)

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ลุ้นอย่าเป็นไรน้าต่ายน้อย :z3: :z3:
ขอบคุณจ้า  :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
อีทิมมมมม   เกมส์บ้าอะไรของแกอีกกกกกกกกกกก
ทำขนาดนั้นแล้วมาถามว่ายังเชื่อมั้ย  หล่งท่งจี!!!!
กั๊กอะไรไว้ คายออกมาให้หมด!!!!

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
พ่อทิม  หรือ  ยัยแนน ??
อาจจะเป็นพ่อทิม  เพราะมันน่าแปลก  ที่ทิมไม่เคยพูดเรื่องเกี่ยวกับที่บ้านให้คะน้าฟังแม้แต่นิดเลยอ่ะ
ซึ่งคนเป็นแฟนกัน  เราว่ามันเป็นอะไรที่ผิดปกติมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  ที่จะไม่บอกไม่คุยเรื่องครอบครัวตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้เลยแบบนี้
เพราะงั้นแสดงว่า  บ้านทิม  คงจะ...  อะไรยังไงน่าดูเลยแหละ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
ต่ายน้อยไม่เชื่อไม่เป็นไร

เจ้เชื่อ  ทิมของเจ้ :กอด1:

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
ตุลกะนังแนน สองคนเนี่ยน่าสงสัย  :serius2:
............
ลุ้นแบบหงุดหงิดมาก อยากอ่านต่อเร็วๆจังเล้ย

เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราอ่านคอมเม้นท์คนอื่นนะเนี่ย
อ่านไปขำไป :jul3:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ไม่เชื่อ

อีเลวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ warnana001

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านกระทู้อื่นๆแล้วคิดตามแล้วก็ฮาตัวเอง
คิดสมองแทบระเบิดถึงความเป็นไปได้ที่ทิมทำแบบนี้ :serius2:
แต่ยังไงก็ชอบทิมมากกว่าอยู่ดี เวลาตุลอยู่กับคะน้ามันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กับเพื่อน
แต่เวลาอยู่กับทิม....มันให้ความรู้สึกหวาน เกร็ง ตื่นเต้น กลัว แล้วก็บลาๆๆๆๆ ใช่ไหม? :o8:
ยังไงก็เชียร์ทิม เชียร์ตั้งแต่เริ่มดำเนินเรื่องจนมาถึงจุดนี้แต่ถ้าทิมเป็นตัวร้ายจริงด่าทีหลังคงไม่เป็นไร o18
สุดท้ายแล้วตุล....เพราะว่าสมัยก่อนทิมยังเป็นเด็กทำอะไรไม่ได้คิดถึงทำไปแบบนั้น แต่ถ้ามันเลวร้ายจริงๆถ้าจะแค้นคงไม่ผิด
แต่การกระทำแบบนั้นแล้วยิ่งเป็นช่วงเวลาที่คบกับคะน้าอยู่มันช่างเป็นการกระทำที่ผิดอย่างแรงจริงๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tune

  • ⅓ of TUNEiND ...
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไม่เชื่อได้ไหมทิม ณ จุดนี้ไม่ยอมเชื่อใครซักคนแล้ว ลึกลับซับซ้อนกันจริงแต่ละคน พี่หมอตุลงี้ ตกลงรักแบบไหนมีมาตัดพ้อต่อว่า อะไรรรร
ลุ้นไม่ไหวแล้ว สู้เพื่อตลาดนะพี่ผักกาดน้องคะน้า!

babynevercry

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีวันที่จะเชื่อแกอีกแล้ว ทิม เสียใจครั้งเดียวพอ จบนะ

แต่คิดว่าต่ายน้อยคงเชื่ออ่ะ รักซะขนาดนั้น หึหึ


ปล. ยังสอบไม่เสร็จครับ แต่ทนไม่ไหวนะ ไม่ได้อ่านนี่ จะพาลให้ไม่มีแรงอ่านหนังสือสอบ ฮ่าๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Gutjang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ทิม จำใจต้องทำแบบนั้นสินะ โกหกคะน้า

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
คิดถึงต่าย นอนไม่หลับ  :z3:
ค้างคาใจมากกกก มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ AoMSiN555

  • กรูบ้า.....อย่าทักกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :angry2: เลววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

hongyia

  • บุคคลทั่วไป
ทำแบบนี้ทำไมทิม น่าสงสารคะน้าอ่ะ

ออฟไลน์ pimBNY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
[











                                                                                                                                                                       ]

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ยังไม่มาหรอคะ คิดถึงจังค่ะ

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
โกรธอ่ะ   ลากหมอตุลมาเจ็บซ้ำอีกรอบทำไม
ทิมน่าจะมีเหตุผล ปะป๊าอาจเป็นผู้ร้ายตัวจริง

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
refresh และ refresh รออยู่นะค้าาาา  :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
สวัสดีครับ ตอนที่ 36 มาแล้ว บอกไว้ก่อนว่าตอนนี้มีการใช้ภาษาที่รุนแรงเหมือนกัน
แล้วก็มีฉากที่ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากเป็นตอนบู๊เลยมีอะไรประมาณนี้นิดนึงครับ
คนใจไม่แข็งทำใจก่อนอ่านนิดนึงนะครับ มีขึ้นภาษาพ่อขุนรามและฉากแรงพอควร
ตัวหนังสือติดกันยาวๆ อ่านยากนิดหน่อย ยังไงขอฝากอีกตอนด้วยครับ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนที่ 36



ผมได้ยินเสียงตะโกนดังกึกก้องไปทั่วพื้นที่รกร้าง มีเสียงฝีเท้าคนวิ่งไปมาอย่างขวั่กไขว่ ในความวุ่นวายผมได้ยินเสียงลมหายใจที่ยังไม่สม่ำเสมอ เสียงเหงื่อของตัวเองที่กำลังหยดซึมจากร่าง ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจที่กำลังเต้นผิดจังหวะของตัวเองจากเหตุที่สั่นประสาทเมื่อครู่ ผมได้ยินคำถามนั้น ได้ยินเสียงทุ้มที่ผมคุ้นหูและถ้อยคำสั้นๆ ที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ บางทีนั่นอาจจะเป็นเพราะบางสิ่งบางอย่างในตัวผู้พูด คำถามง่ายๆ นั้นจึงกัมปนาทกว่าทุกสรรพเสียงรอบๆ ตัว

ผมได้ยิน ...แต่ผมไม่ขอรับรู้

ไม่ใช่ทั้งเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่มีทั้งคำตอบรับและจะไม่มีให้แม้คำปฏิเสธ ขอบคุณสติของตัวเองที่กลับคืนมาพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างในระเบียงแห่งความจำที่เกือบผุพังเพราะใจที่อ่อนแอของตัวเอง ผมมองคนที่นั่งเผชิญหน้าในขณะนี้ด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า ผมมอง ...แต่ไม่เห็น แล้วอุ้งมือนั้นก็ออกแรงบีบข้อมือของผมจนแน่น ...ผมไม่รู้สึก ท่าทางของเขาดูจะหงุดหงิดและขัดใจ และหากผมอ่านความรู้สึกนั้นไม่ผิด เขากำลังปวดร้าว ซึ่งนั่นไม่ใช่ทั้งเรื่องดีหรือเรื่องแย่สำหรับผม

...มันไม่ได้มีความสำคัญใดๆ อีกแล้ว

สหายร่วมโลกเอย... จงอิ่มกับทุกสิ่งที่เงินซื้อหาได้ แต่จงกระหายอย่างไม่จบสิ้นในสิ่งที่เคยมองว่าด้อยค่า ขอให้คุณมีแต่ความสุขนะครับ ...เพียงความสุขที่ได้มาจากสิ่งที่เงินซื้อได้เท่านั้น

“สายตาพี่มันฆ่าคนได้ โดยเฉพาะกับคนที่...” เสียงนั้นไม่ต่อเนื่องและสั่นกระทั่งหยุดอยู่แค่นั้น ชายคนนั้นเหมือนกับคนที่กำลังขาดอากาศหายใจ

“ขอบคุณครับที่ช่วยผมไว้” คะน้าเปรยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป ไม่ไต่ถามหรือรอฟังอะไรที่เปล่าประโยชน์ในเวลาแบบนี้ เขายกแขนปัดป่ายฝุ่นผงบนตัวแล้วมองดูสถานการณ์ตรงหน้า ตั้งสติและสอดส่อง แต่ยังไม่ทันไร ร่างของคะน้าก็เซถลาด้วยแรงกระชาก วินาทีถัดมาเขาก็รู้สึกถึงวงแขนที่โอบรัดจนแน่น ร่างกายนั้นถูกบดเบียดและโน้มนำเข้าหา ทิมจูบลงที่ปากของคะน้า เน้นสัมผัสที่ผ่าวร้อนไปทั่วทั่งใบหน้าและลำคอ

คะน้าไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาเพียงแต่ปล่อยให้คนตรงหน้าระบายทุกอย่างให้สาสมแก่ใจ แต่เพียงครู่เดียว ทุกสิ่งก็หยุดตัวลง ทิมผละจาก ดวงตาสีดำคู่นั้นไหวไปชั่วครู่ก่อนจะถูกฉาบด้วยโทสะที่ร้อนแรง ทิมแสยะยิ้มแบบยียวนที่เจ้าตัวมักติดเป็นนิสัย

“ด่าสิ หรือจะต่อยหน้าให้หายแค้นดีนะ”

คะน้าไม่ได้โต้ตอบสิ่งใด เขาแค่ใช้สายตาผละจากแล้วหันกลับมองทุกสิ่งรอบตัว เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ไล่ล่า ...ไม่มีแม้คำพูดใดๆ ไม่มีแม้คำบอกลากับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คะน้าก็ดีดตัวขึ้นแล้ววิ่งออกไปตามทางที่คุ้นเคยด้วยฝีเท้าที่ว่องไวและเงียบเชียบที่สุด สายตาระวังภัยทำงานสอดคล้องกับขาที่ขยับพาร่างกายให้เคลื่อนไปข้างหน้า ชั่วพริบตาเขาก็ถึงทางแยก แผนการมีอยู่ในความคิดอยู่แล้ว คะน้าเบี่ยงตัวแล้วเลี้ยวไปทางด้านขวาซึ่งเป็นทางออกอีกด้านของตลาด การย้อนกลับไปทางเดิมซึ่งเป็นทางเข้าออกทางหลักของตลาดดูจะเอิกเริกไป การเลี่ยงไปออกด้านข้างน่าจะเป็นตัวเลือกที่เสี่ยงน้อยกว่า ขาขยับและออกแรงอีกครั้ง แต่ฉับพลัน แรงกระชากที่แทบจะทำให้ตัวหมุนนั้นก็ทำให้เขาตัวหยุดตัวขืน

...พวกมัน?

สัญชาตญาณการระวังภัยทำให้คะน้ากำหมัดแล้วสวนกลับไปเต็มแรงในจังหวะที่หมุนตัวกลับ แต่มันไม่ใช่กลุ่มคนที่ถือปืนไล่ยิงเขา หากแต่หมัดนั้นก็สุดจะยั้งได้ทัน

...นั่นดูจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับทิม คนที่วิ่งตามมาเบี่ยงใบหน้าเล็กน้อยและหลบพ้นอย่างเฉียดฉิว ทิมโจมตีเขากลับด้วยดวงตาที่จ้องเขม็งและใบหน้ามีสีแดงจัดด้วยความโมโห คนที่วิ่งตามมาคำรามด้วยเสียงต่ำในลำคอ “ทางออกด้านนั้นมันเสี่ยง ไปทางซ้ายแทน”

ประโยชน์อะไรจะเชื่อมั่นในคนๆ นี้อีก คะน้าขืนแรงที่ข้อมือเต็มที่ ฝืนตัวเองจากแรงฉุดกระฉากของทิมไว้จนร่างสูงหันกลับมาแยกเขี้ยวด้วยโทสะที่มากกว่าเดิม เขาไม่ทุกข์ร้อนกับท่าทางนั้น หวั่นแค่ว่าตัวเองจะเป็นเป้านิ่งให้กระสุนเอา คะน้ารีบย่อตัวแล้วหลบด้านข้างไม่ให้เป็นเป้าสายตา เมื่อเขาขยับ ทิมก็ขยับตามเช่นกัน

“นายต้องการอะไร เป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่”

“ก็แล้วแต่จะคิด”

ทิมพูดเหมือนกับไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เขากวาดสายตามองรอบๆ ตัวแล้วคว้าท่อนไม้ขนาดพอดีมือ กะน้ำหนักด้วยการเหวี่ยงเบาๆ ในอากาศ จากนั้นก็ออกกำลังเขวี้ยงเต็มแรงไปในทิศทางที่ใกล้กับทางออกด้านข้าง และทันทีที่ท่อนไม้นั้นตกลงพื้น ก็มีเสียงกระสุนปืนรัวใส่บริเวณท่อนไม้นั้นสองสามนัดพร้อมกับเสียงสบถที่ตามมา คะน้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง ผิดกับดวงตาของอีกคนที่ดูเยือกเย็นจนนิ่ง ทิมหันกลับมามองที่เขาอีกครั้ง

“จำนวนคนสิบสองคน พวกมันมีทั้งปืนและอาวุธมือ อาจจะมีพวกมีดพกหรืออะไรอื่นๆ อีก ฟังนะ หลีกเลี่ยงการปะทะให้มากที่สุด แล้วหาทางออกผ่านทางพวกบ้านที่อยู่รอบตลาด โอกาสรอดมีสูงกว่า” คะน้ามองคนตรงหน้านิ่งและเนิ่นนาน ชั่งใจดูแล้วนับว่าเป็นความคิดที่เข้าท่าอยู่ไม่น้อย แต่เขาจะเชื่อทิมได้มากแค่ไหน ในเมื่อที่ผ่านมานั้น สิ่งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับเขามันร้ายแรงจนเกินทน

“ไปสิ” ทิมผ่อนลมหายใจเบาๆ แล้วเอี้ยวตัวกลับหลัง “ไม่มีอะไรน่าห่วงสำหรับรองประธานของธาดาพิพัฒน์หรอก”

คำพูดของทิมนั้นไม่ต่างอะไรกับยัดเยียดความผิดทุกอย่างไปที่ธาดาพิพัฒน์ในที นัยว่าพวกผู้ร้ายเหล่านี้เป็นคนของบริษัทที่ตนเองบริหารงานอยู่จัดมา ซึ่งเขาไม่คิดว่ามันฟังขึ้นเลยที่ผู้ร้ายจะประกาศปาวๆ ว่าตัวเองสามานย์ขนาดไหนหรือมีความผิดอะไร แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับความขัดแย้งในคำพูดก่อนหน้าที่เจ้าตัวทำนองว่า ‘เราจะรอดจากที่นี่ไปด้วยกัน’ นั่นควรจะแปลว่าตัวของทิมก็น่าจะอยู่ในสถานะที่ต้องหลบหนีเหมือนกันไม่ใช่หรือ? ในท่วงท่าที่เฉยเมยยะโสโอหังนั้นมีอะไรบางอยางที่แอบแฝงอยู่แน่นอน คะน้าไม่รู้ว่าแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณห้านาที คนๆ นี้กำลังเล่นละครบางอย่างและลวงเขาด้วยคำโกหกไปแล้วกี่ครั้ง

ผมรู้ว่าคุณกำลังจะทำอะไร ...แต่มันเพื่ออะไร เมื่อไม่มีทางไหนที่มันจะมีประโยชน์กับคุณเลย

คะน้าหันหลังกลับแล้ววิ่งลัดเลาะผ่านระแนงไม้ที่กร่อนผุ ก่อนจะมุ่งเข้าสู่บ้านเรือนที่ถูกเผาไหม้ด้วยสีหน้าที่หนักใจ เขากระโดดข้ามกรอบหน้าต่างแล้ววิ่งไปอีกเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจซ่อนตัวอยู่เฉยๆ ในบ้านที่ผุพังจากไฟไหม้นั้น คะน้าซุกตัวอยู่ข้างตู้รองเท้าที่ทำจากโลหะ เขาดึงฝาตู้ให้กางออกมาบังตัวให้มิดชิดเพื่อกำบังตัว บนหัวมีตู้ยาสามัญประจำบ้านแขวนอยู่ จากตรงนี้ไม่ว่ามองจากด้านหน้าหรือชะโงกจากมุมสูงจากทางหน้าต่างก็ไม่มีทางเห็นตัวเขา แล้วนั่งรอเวลาให้ผ่านไปอีกสักพักจนกว่าอะไรๆ จะชัดเจน

ไม่ถึงหนึ่งนาทีดี เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอย่างที่คิดเอาไว้ คะน้าได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางที่หน้าต่าง เขาจึงมองลอดผ่านช่องเล็กๆ ระหว่างตัวตู้เหล็กขึ้นสนิมกับบานประตูที่ซอมซ่อ ทิมยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ สำรวจทุกอย่างด้วยสายตาเมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดอยูตรงหน้าอีกแล้วจึงหันหลังกลับแล้วรีบวิ่งออกไป ทิ้งระยะเวลาชั่วครู่ คะน้าก็ตัดสินใจวิ่งตามทิมในระยะห่างๆ ด้วยฝีเท้าที่เงียบเชียบอย่างถึงที่สุด ดวงตาของคะน้าเห็นทิมก้มตัวแล้วออกแรงวิ่งย้อนไปอีกทางที่ตรงกันข้ามก่อนจะหยุดที่พื้นที่ซึ่งรกร้างไปด้วยซากไม้ที่เผาไหม้จนเป็นรอยดำ เขาก้มตัวแล้วนั่งนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น มองจ้องทุกสิ่งรอบตัวอย่างระแวดระวัง ใบหน้าของทิมในตอนนี้ฉายแววแห่งความประหม่าและวิตกจนปิดไม่มิด ชั่วอึดใจที่คะน้าเห็นแผ่นอกนั้นขายตัวออกแล้วกลับมานั่งสงบ ชายหนุ่มปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ ทิมค่อยๆ หยิบเศษไม้ขึ้นมาสองสามชิ้นแล้วโยนให้เกิดเสียงรอบๆ ตัว

โง่ชะมัด ...นั่นมันตัวล่อถ่วงเวลาชัดๆ

คะน้ากำหมัดแล้วทุบลงที่หน้าขาตัวเองพร้อมความรู้สึกสับสน เขาไม่เข้าใจว่าคนที่หักหลังทรยศได้อย่างร้ายกาจกับตัวเองสารพัดจะทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร สร้างภาพเพื่อให้ดูดีจนผักกาดและเขาใจอ่อนขายที่ดินให้อย่างนั้นหรือ ...ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำมากมายขนาดนี้เลย แล้วทำทำแบบนั้นไปทำไม จะบอกว่าเพื่อช่วยเขาอย่างนั้นเหรอ

...บ้าน่า ทำแบบนั้นเพื่ออะไร

ในช่วงเวลาที่สมองกำลังเรียงร้อยเงื่อนงำต่างๆ เข้าด้วยกันแล้วคลายปมออก คะน้าได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งตรงมาจากทางออกด้านข้างและทางเข้าหลักของตลาดทั้งสองทาง พวกมันมีจำนวนแปดคน สามคนแรกเป็นพวกขี้ยาที่เขามีเรื่องด้วย และอีกห้าคนเป็นคนที่สวมชุดยาม คะน้าเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีเพียงคนเดียวที่ถือปืนอยู่ในมือ นั่นนับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เบาใจไปไม่น้อยทีเดียว

“เข้ามาที่นี่ได้ยังไง ไม่เปิดให้คนนอกเข้า” พวกมันตะคอกด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง ในมือยังถือปืนสั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความแปลกใจสงสัย

“เข้ามาเดินเล่นแล้วหลงทาง” ทิมตอบสั้นๆ แบบนั้นแล้วบิดขี้เกียจ ฟังดูเป็นคำตอบที่สร้างขึ้นเพื่อจงใจกวนโทสะมากกว่าจะตอบจริงจัง “อะไรกัน แค่นี้ถึงกับจะใช้ปืนยิงกันเลยเรอะ”

มันคนนั้นที่มีดวงตาหวาดระแวงทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะจำใจเก็บปืนใส่กระเป๋าสะพายเล็กๆ ข้าง สะโพกแล้วหันมาเสียงเข้มจนเกือบจะเป็นเสียงตะคอกใส่ทิม “คุณออกไปได้ละ ถ้าไม่อยากมีเรื่องให้เจ็บตัว”

“แหม รีบไล่กันจัง ชักอยากรู้แล้วสิว่าจะรีบไปทำอะไรกันนะ” ทิมเดาะลิ้นเล่นในโพรงปากแล้วย่างเข้าไปพวกมันทั้งแปดอย่างไม่เกรงกลัว ร่างสูงที่มีใบหน้ายียวนล้วงมือเข้าไปในกางเกงแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ ทิมหยิบธนบัตรสีเทาจำนวนหนึ่งขึ้นมา พับและยัดใส่กระเป๋าเสื้อของยามคนหนึ่งเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา “แบ่งๆ กันนะ อย่าไปบอกตำรวจเลยนะพี่ชาย ผมกลัวมีเรื่องว่ะพี่ ...นะ ขอร้อง”

กระดาษสีเทานั้นทำให้คะน้าเห็นรอยยิ้มของพวกมัน คนที่รับเงินไปดันตัวทิมให้เคลื่อนไปข้างหน้าตรงไปสู่ทางออกหลักของตลาดทำนองว่าให้พ้นๆ ไป ทิมเป็นคนเอาตัวรอดได้ดี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คะน้าสนใจอะไรนัก ประเด็นก็คือยามพวกนั้นรวมทั้งพวกขี้ยา พวกมันทั้งหมดไม่รู้จักทิม และน่าจะไม่รู้ด้วยว่าทิมเป็นลูกชายคนเดียวของธาดาพิพัฒน์

เท่ากับสรุปว่าคนพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับธาดาพิพัฒน์ได้หรือเปล่า? ธาดาพิพัฒน์ก็ไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องการวางเพลิงอย่างนั้นหรือ? ในเมื่อลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของบริษัทเจ้าพ่อนักธุรกิจคนนั้น

ระหว่างที่เงื่อนปมต่างๆ ในความคิดมัดตัวแน่นกว่าเดิม ทันใดนั้นเอง คะน้าก็เห็นพวกขี้ยาที่เดินตามหลังยกมีดสั้นขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง พวกมันค่อยๆ เอาซ่อนเข้าไว้ข้างตัวเหมือนรอจังหวะอะไรบางอย่าง เขาเห็นมันซุบซิบกันเบาๆ ที่ด้านหลังก่อนจะเร่งฝีเท้าตามไปประกบทิมในระยะกระชั้นขึ้น เขาเห็นพวกที่ใส่ชุดยามหันมามองแล้วส่งสัญลักษณ์บางอย่าง จากนั้นพวกมันที่อยู่ด้านหลังก็พยักหน้า แล้วมือนั้นก็ง้างมีดขึ้น กะจังหวะและตั้งท่าจะเสียบเข้ากลางหลังทิม

โผล๊ะ!!! สัญชาตญาณบางอย่างทำให้คะน้าคว้าก้อนอิฐขนาดกระชับมือข้างๆ ตัวแล้วเขวี้ยงไปหาคนที่ง้างมีดทันที แม่นเหมือนจับวาง! ก้อนอิฐกระทบหัวอย่างจังพร้อมกับร่างที่ร่างลงของขี้ยาคนนั้น!! หัวใจของกำลังเต้นรัว เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นออกไปโดยไม่คิด คะน้ากำลังตกใจตัวเอง พอๆ กับที่ทิมตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

พวกมันอีกเจ็ดคนก็เช่นกัน วัยรุ่นขี้ยาสองคนที่เหลือกรูเข้าไปหาร่างของเพื่อนที่นอนนิ่งบนพื้นทันที แรงวิตกกดดันมหาศาลแผ่ออกปกคลุมทั่วบริเวณนั้น ทิมดูจะตั้งสติได้ไวกว่าคนอื่นเมื่อสายตาปะทะเข้ากับอาวุธที่ยังคาอยู่ในมือของร่างที่ล้มไปนอนแน่นิ่ง เขาก็ปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างได้ทันที ทิมรีบกระโดดเข้าหายามที่มีปืน เหวี่ยงหมัดด้วยความเร็วสูงเข้ากระแทกหน้าแล้วรีบย่อตัวลงต่ำก่อนจะกระแทกหมัดที่แรงกว่าเข้าที่เป้ากางเกงตรงหน้า อีกหกชีวิตที่ยืนอยู่โถมเข้าโรมรันชายหนุ่มที่แปลกปลอมในหมู่ทันที พวกมันส่งเสียงคำราม กระบองขนาดกระชับมือถูกเหวี่ยงจนเสียงเสียงในอากาศ

...นั่นยังช้ากว่าทิม!

ทิมก้มลงต่ำเหมือนเสือที่หมอบรอจังหวะตระครุบเหยื่อ รอจนกระบองไม้ผ่านตัวเองไปกระแทกความว่างเปล่าจนผู้เหวี่ยงจึงเสียหลักไปชั่วขณะ ทิมใช้จังหวะนี้โหม่งหัวขึ้นกระแทกเข้าที่คางแล้วฟาดศอกซ้ำเข้ากลางท้องของมันจนร่างนั้นทรุดลงตัวโค้ง ทิมออกแรงผลักมันคนนั้นจนเซไปชนอีกคนตรงข้ามก่อนจะพากันหัวทิ่มคะมำตามกันไป ทิมวิ่งเข้าไปหา ง้างขา แล้วกระทืบซ้ำบนอกก่อนจะฉวยกระบองที่ร่วงอยู่ที่ปลายเท้าเมื่อครู่ขึ้นมาฟาดใส่อย่างว่องไว!

ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงนาที! รวดเร็วและชุลมุนจนคะน้ามองตามแทบไม่ทัน แต่แรงคนเดียวหรือจะสู้แปดชีวิตได้ ระหว่างที่กำลังโรมรันสองคนที่นอนอยู่ มันคนอื่นก็รีบทะยานเข้ามาหา ทิมพลาดในที่สุด ร่างสูงนั้นโดนล็อคแขนไว้จากผู้ชายในชุดยามสองคน ก่อนที่คนที่ถือปืนคนแรกจะพยุงตัวลุกขึ้นมาได้สำเร็จ มันเอาหลังมือปาดเลือดตัวเองที่ซึมออกทางมุมปาก แล้วย่างเข้ามาหาทิม อัดหมัดหนักๆ เข้าที่กลางท้องจนคนที่ถูกขึงตัวไว้ทรุดจนตัวงอ

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!!!” เสียงตะคอกนั้นสนั่นดัง

แค่นั้นก็สุดทนกว่าที่คะน้าจะดูไหว แม้จะไม่รู้อะไรที่แน่ชัดมากมาย แต่สิ่งที่ทิมเลือกที่จะทำให้เขานั้นทำให้คะน้าทนที่จะดูดายอยู่เไม่ได้ คะน้าทะยานไปหาทิมด้วยความเร็วเทียบเท่ากับความคิด ท่อนไม้ขนาดกระชับมือถูกยกขึ้นฟาดลงบนหัวของคนที่ยืนอัดหมัดอยู่ แล้วฟาดลงกลางหลังของอีกคนที่อยู่ไม่ไกลอีกสองที

แม้จะทรุดหนัก แต่ความไวของทิมยังไม่ตก ทิมสะบัดหลุดจากสองคนที่ล็อคอยู่อย่างไม่ยากเย็น จังหวะที่ทุกคนยังสับสนกับการปรากฏตัวของคะน้า ทิมรีบวิ่งไปฉวยปืนขึ้นมาจากคนที่เสียหลักไป

“แบ่งกัน ผมห้า พี่เอาไอ้ขี้ยาไปสาม ไม่สิ สองแล้วสินะ” ทิมตะโกนใส่คะน้าพร้อมกับลั่นกระสุนใส่หัวเข่าของสองคนที่เคยล็อคแขนตัวเองไว้ และอีกนัดที่ตำแหน่งเดียวกันสำหรับเจ้าของปืนที่ต่อยเขาเมื่อครู่

“สี่-สี่ คนละครึ่ง” คะน้าเหวี่ยงท่อนไม้ใส่ขี้ยาคนหนึ่งที่โถมเข้ามา หากแต่ความล้าจากการที่วิ่งมาและการออกแรงติดๆ กันทำให้ความเร็วของคะน้าช้าลง การออกแรงในครั้งนี้จึงพลาดเป้าไปถูกอากาศ คะน้าเสียหลัก มันอีกคนจึงถือโอกาสวิ่งเข้าชาร์จเขาจนล้มลง แล้วรีบพลิกตัวล็อคคะน้าไว้ให้เพื่อนอีกคนมารุมซ้ำตะลุมบอน คะน้าปัดป้อง ถึงแบบนั้นเขาก็จุกไปหลายหมัด

“ก้ม!!”

เสียงตะโกนของทิมทำให้คะน้าย่อตัวลงทันที เขารู้สึกถึงกระสุนที่แหวกอากาศเฉียดใบหน้าของตัวเองไปในระยะเพียงหนึ่งนิ้วพร้อมกับแรงประทุระเบิดของลูกตะกั่วกับบริเวณหัวไหล่ขี้ยาที่ยืนอยู่ด้านหลัง คะน้าสั่น หัวใจเหมือนร่วงหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้า หากแต่สถานการณ์ที่บีบคั้นทำให้เขารีบสลัดความฝ่อในใจตัวเองออกไป คะน้ารีบเงยหน้าขึ้น ภาพที่เห็นแทบทำให้โลกหยุดหมุน เมื่อพวกมันอีกสองคนฉวยโอกาสช่วงที่ทิมยิงกระสุนช่วยเขา จังหวะที่พลั้งเผลอนั้น พวกมันก็เอาไม้ฟาดลงที่ข้อมือของทิม!

ปืนหลุดจากมือแล้วกระดอนหล่นไปทันที! ทิมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมข้อแขนตัวเองที่กำลังสั่นไหว มันคนหนึ่งจับข้อมือของทิมล็อคไว้ ขณะที่อีกคนก็กระหน่ำฟาดลงที่ข้อมือและฝ่ามือซ้ำๆ

“ยิงปืนเก่งนักเหรอ คราวนี้มึงจะจับอะไรไม่ได้อีกเลย”

เสียงตะโกนที่อยู่ด้านหลังทำให้เขารู้สึกใจไม่ดี หากแต่ตัวคะน้าเองในขณะนี้ก็ย่ำแย่ เมื่อกลุ่มวัยรุ่นติดยาเห็นเพื่อนสองคนได้เลือด หนึ่งคนที่เหลือก็ไม่ต่างอะไรกับคนคลุ้มคลั่ง คะน้าเสียหลักล้มลงพร้อมกับหมัดที่ปะทะเข้าที่กระพุ้งแก้มจนเขาได้กลิ่นคาวเลือดของตัวเองในปากตัวเอง คะน้าสะบัดหน้าขึ้นพร้อมกับภาพที่ราวกับจะหยุดลมหายใจตัวเองในพริบตา เขาเห็นทิมคุกเข่าตัวงออยู่กับพื้น ใบหน้าข้างหนึ่งนั้นแนบราบไปกับพื้น ส่วนอีกด้านนาบไปด้วยพื้นรองเท้าของคนที่ยืนอยู่ ใบหน้าของทิมแดงก่ำจากแผลและแรงกดจากปลายรองเท้า ดวงตาของทิมนั้นไม่ยอมแพ้และเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวขัดขืน ครู่หนึ่ง คนที่ถูกยิงหัวเข่าสามคนขยับตัวตามมาสมทบด้วยแววตาที่อาฆาตมุ่งร้าย

“ตัดนิ้วของมันออกทีละนิ้ว!!”



(มีต่อด้านล่างครับ)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
(ต่อครับ)




หนึ่งในสามตัวนั้นตะโกนขึ้นจนดังก้องและคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็หยิบมีดสั้นขึ้นมาทันที มันตัวนั้นเป่าลมหายใจลงบนคมมีดแล้วเช็ดกับขอบกางเกงมอๆ ของตัวเอง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คะน้าไม่อาจทนอีกต่อไป เขาออกแรงเต็มที่กับหมัดของตัวเองที่ซัดลงไปกลางหน้าของขี้ยาคนที่เหลือ ก่อนจะถีบซ้ำให้ไปชนกับสามตัวที่ยืนด้วยความเจ็บปวดที่หัวเข่าจนล้มพังพาบไป คนในชุดยามนั่นจึงละจากทิมแล้วหันมาสนใจที่เขาทันที!!

คะน้าหลบคมมีดที่ฟันเข้าหาตัวเขาด้วยความระมัดระวัง อีกทั้งก็พยายามหาจังหวะสอยกลับอีกสองคนที่เหลือ เขาหลบมีดแต่ก็พลาดโดนหมัดเข้าจังๆ ที่ท้อง คะน้าจุกจนตัวงอ มันคนที่ถือมีดง้างของแหลมขึ้นแล้วจะปักลงที่กลางหลัง แต่ทันใดนั้นร่างของมันก็หยุดนิ่งเหมือนถูกตรึง!

แม้ทิมจะถูกตีที่มือขวาจนเจ็บหนักแต่แขนทั้งสองข้างและมือซ้ายของชายหนุ่มนั้นยังใช้การได้ดี ทิมล็อคลำคอของคนที่ถือมืดด้วยท่อนแขนทั้งสองข้าง ใบหน้าของมันคนนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดด้วยเลือดที่คั่ง ดวงตาที่เคยฮึกเหิมของมันบัดนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว สายตาของทิมดูนิ่งกว่าทุกครั้งที่คะน้าเคยเห็น วงแขนทั้งสองข้างของทิมนั้นค่อยๆ เบียดรัดแน่นขึ้นพร้อมกับค่อยๆ เริ่มขยับตัวสวนทางกัน ทันใดนั้น มือซ้ายของทิมก็กระชากหัวของมันบิดอีกทาง!

...มีเสียงดังกร๊อก! ร่างในมือของทิมร่วงลงทันทีพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง ทุกอย่างรวดเร็วจนแม้แต่อีกคนที่เหลือหรือแม้แต่ตัวคะน้าเองก็มองตามแทบไม่ทัน

ไม่ปล่อยเวลาผ่านไปแม้แต่นาที ทิมย่อตัวลงอย่างเป็นปราดเปรียว หยิบมีดด้วยมือซ้ายแล้วยกขึ้นฟันใส่คนสุดท้ายที่ยังยืนอยู่ อารามตกใจ มันคนนั้นยกแขนตัวเองขึ้นกำบัง คมมีดจึงเสียดถากเป็นทางยาวสีแดงพร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บร้าว ทิมยิงหมัดซ้ายที่ถือมีดเข้ากระแทกหน้ามันด้วยความแรงที่ไม่ต่างกับมือขวาที่ตัวเองถนัด ร่างนั้นล้มลงทันที ทิมยกเท้าขึ้นทั้งเตะไปบนร่างและกระทืบนับครั้งไม่ถ้วนจนร่างนั้นสลบไป ชายหนุ่มรอบคอบพอจะตามจัดการกับคนที่เหลือทั้งหมดจนสลบ ก่อนจะทรุดเข่าด้วยอาการหอบ

“ห้า-สาม ตามที่ตกลง”

คะน้าก็ตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน สะบักสะบอมและบอบช้ำไปทั่วทั้งตัวด้วยความรู้สึกเหมือนกับเพิ่งรอดมาจากสนามรบ เขาทั้งเหนื่อยและหอบจนเจียนหมดแรง คิดไม่ถึงว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ จะมีลูกบ้าดีเดือดลุกขึ้นมาสู้กับคนแปดคนทั้งที่มีแค่ตัวคนเดียว

“กลับมาทำไม”

ทิมหันมาถามด้วยเสียงที่แหบและแห้ง คะน้าส่ายหน้าไม่คิดจะโต้ตอบอะไรให้ได้ความในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีใดๆ เฉกเช่นที่ผ่านมา ผู้ถามก็ก้มหน้าสำรวจข้อมือขวาของตัวเองต่อ หากแต่ในความนิ่งเฉยนั้นมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความรู้สึกของคะน้าแน่นอน ผิดเพียงแต่ในตอนนี้หัวใจของคะน้ายังเต้นไม่ปกติกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครถึงขั้นเสียชีวิตหรือเปล่า แต่คิดว่าเพียงแต่เจ็บปางตาย แต่ถ้าไม่เป็นเช่นความคิดนั้น เขาและทิมจะกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนหรือเปล่า ต้องติดคุกไหม แล้วเขาควรทำอะไรต่อไปดี

“รีบเถอะ ก่อนที่พวกมันที่เหลือจะมาเจอ”

เสียงของทิมดึงเขาให้ออกจากภวังค์อีกครั้ง ทิมลุกขึ้นแล้วหันมาสบตาของคะน้า เขาหลบสายตาคู่นั้นทันทีแล้วจงใจลุกขึ้นยืนราวกับว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อน คะน้ายืนนิ่ง ทิมเองก็เช่นกัน คล้ายกับมีคำพูดและความรู้สึกมากมายที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจะบอกอีกคนให้ได้รับรู้ หากแต่แล้วทั้งคู่ก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ อยู่แบบนั้น วินาทีถัดมา ทิมก็เดินเข้ามาหาเขา จ้องมาองลึกลงไปในดวงตา ...คะน้าไม่อยากเห็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นเลย

แต่ทันใดนั้นเอง! ทิมก็กระแทกเข้ามาที่ลำตัวของคะน้าจนร่างเขาเซไปด้านข้าง!

คนที่ตัวสูงกว่าเบี่ยงตัวแล้วกลับมายืนเผชิญหน้ากับเขาเต็มตา ในส่วนลึกอันสับสนและเวิ้งว้างนั้นห่างไกลจากสำนึกตื่นตัว คะน้าได้ยินเสียงลูกปืนที่แหวกมาในอากาศ เสียงนั้นดังขึ้นแทบจะพร้อมกับเสียงร้องเจ็บปวดโหยหวนจากคนตรงหน้า เขาจ้องมองหน้าอกของทิม มีจุดเล็กๆ สีแดงค่อยๆ ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว วินาทีถัดมาแผ่นอกนั้นก็ทรุดลงพร้อมกับร่างที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ทิมพยายามสะกดเสียงตะโกนร้องด้วยการกัดฟันของตัวเองแน่น ร่างสูงนั้นยกอุ้งมือจิกขยุ้มลงที่บริเวณใกล้หัวไหล่ข้างซ้ายซึ่งไม่ห่างจากหัวใจ

ทุกอย่างอื้ออึ้ง คะน้าได้ยินเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร บางทีมันอาจจะเป็นเสียงของเขาเอง ร่างกายของคะน้ากระโจนไปข้างหน้าราวกับสัตว์ป่า สองมือของเขากระหน่ำลงบนใบหน้าของคนที่ถือปืนอย่างควบคุมไม่ได้ ...สิบ ...ยี่สิบ ...หรือบางทีอาจจะห้าสิบหมัด ร่างนั้นส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

เจ็บรึ? เทียบได้กับสิ่งที่มันเพิ่งทำลงไปไหม?

คะน้ากระชากกระบอกสีดำออกจากมือของผู้ร้าย เขาพลิกปืนกลับแล้วกระหน่ำฟาดลงบนหน้าของสัตว์ชั่วตัวนั้น หนักขึ้นและแรงขึ้นราวกับจะให้สิ้นพลังทั้งหมดที่ตัวเองมี กระทั่งรับรู้ถึงสัมผัสของแรงเขย่าเบาๆ บนบ่าพร้อมกับเสียงทุ้มที่ร้องเรียกชื่อเขา คะน้าหยุดกำปั้นของตัวเองในอากาศ เป็นครั้งแรกที่เขามองภาพคนที่คร่อมอยู่ ร่างสิ้นสตินั้นบอบช้ำไปด้วยรอยหมัดจนจำโครงหน้าเดิมแทบจะไม่ได้

“พอแล้วมั๊ง” ทิมส่งเสียงปรามเบาๆ คะน้าหันเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ย่อตัวอยู่ข้างๆ พร้อมกับใบหน้าที่ยังเหยเกเพราะความเจ็บปวด ทิมค่อยๆ แค่นริมฝีปากของตัวเองยกขึ้น รอยยิ้มนั้นเหมือนแสงแดดอ่อนๆ ที่อบอุ่น หากแต่อะไรบางอย่างในใจของคะน้าในตอนนี้นั้นหวั่นไหวจนน่ารำคาญ เขาจึงส่งเสียงแข็งกลับไป

“ไม่รักชีวิตตัวเองบ้างเลยหรือไง”

คนฟังไม่ได้ตอบคำถามอะไรแต่กลับมีเสียงกลั้วหัวเราะน้อยๆ ดังขึ้นในลำคอ กระทั่งในเวลาแบบนี้ ทิมก็ยังมีกระจิตกระใจฉีกยิ้มร่าโชว์ฟันที่เรียงขาวครบทุกซี่ ใบหน้าที่บอบช้ำจนดูยุ่งเหยิงยังคงเปื้อนไปด้วยความทะเล้นยียวนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และแปลกที่รอยยิ้มกวนๆ นั้นกลับทำให้ดวงตาของคะน้ารู้สึกรื้นขึ้นมา

“เจ็บไหม?” คะน้าเอื้อมมือไปสัมผัสบนไหล่ซ้ายของคนที่นอนอยู่แล้วแตะเบาๆ ทิมทำหน้าเหยเก สะดุ้งตัวเล็กน้อยด้วยความเจ็บตามสัญชาตญาณ แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ฝืนกลับมาทำหน้าตายเหมือนไม่รู้จักความเจ็บปวด

“ถามอย่างกับว่าโดนยุงกัดมา นี่มันกระสุนปืนนะ”

“อย่าพูดเล่นได้ไหม” คะน้ารู้สึกวิตกผสมปนเปไปกับความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดหรือเตรียมใจกับสถานการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้มาก่อนเลย ทั้งเรื่องที่ทิมโดนยิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เอาตัวเองเข้ามาบังลูกกระสุนไม่ให้โดนเขา ...นี่มันบ้าไปแล้วชัดๆ ในริมฝีปากนั้นแย้มขึ้น คนที่เลือดซึมสบตานิ่ง ดวงตาคู่นั้นฉายชัดด้วยความรู้สึกบางอย่างที่แรงกล้า
 
“คงไม่ได้หรอก เพราะผมยังอยากเห็นพี่ยิ้มได้ตลอดเวลาแม้ในเวลาที่เจออะไรหนักๆ น่ะสิ”

คำตอบนั้นทำให้คะน้าอึ้งไปชั่วขณะ แค่อีกนิดเดียว ...อีกนิดเดียวเท่านั้นกำแพงแห่งความหมางเมินที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากก็จะกร่อนลงด้วยคำพูดและการกระทำที่ตรงกันข้ามจากวันก่อนราวกับคนละคน คะน้าไม่รู้ว่าคนๆ นี้กำลังเล่นตลกอะไรกับเกมที่สนุกสนานซึ่งเจ้าตัวสร้างขึ้นมาอยู่ ไม่รู้แม้แต่เหตุผลอะไรสักอย่างกับสิ่งที่ทิมทำลงไปตลอดมา สิ่งไหนจริงและสิ่งไหนเท็จคะน้าแยกไม่ออก มีหลายคนบอกว่าเขาเป็นคนไว้ใจคนมากเกินไป ซื่อเกินไป ซื่อจนเหมือนคนโง่ ...บางที เขาก็คิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้น

“ทิม...”

“ครับผม”

คำตอบสั้นๆ รอยยิ้มกวนและดวงตาที่ฉายแววแห่งความรู้สึกอ่อนโยนแบบไม่ปิดบังคู่นั้น มันทำให้หัวใจของคะน้ารู้สึกคึกโครมขึ้นมาอย่างประหลาด เขารู้ตัวทุกขณะ แต่เขาพยายามจะฝืนมันไว้ ไม่อยากกลับไปเป็นตัวตลกซ้ำซากให้ใครต่อใครหัวเราะเยาะด้วยความเวทนาอีกแล้ว แต่ความรู้สึกบางอย่าง อะไรบางอย่างที่เขาก็ไม่เข้าใจและอธิบายไม่ถูกมันเรียกร้องเขาให้เดินกลับไปหาวังวนเดิมๆ ลางสังหรณ์หรือเปล่า? บางทีอาจจะเป็นสัญชาตญาณที่บอกแบบนั้น หรือจริงๆ แล้ว ...มันอาจจะเป็นแค่ความโง่ที่ไม่จดจำบทเรียนในอดีตที่แสนเจ็บปวด

“ไอ้บ้าเอ้ย!”

คะน้าสบถออกมาโดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะบริภาษใคร ด่าตัวเขาเองที่โง่ซ้ำซาก หรือด่าทิมที่ไม่รู้จักห่วงตัวเอง บางที อาจจะพาลด่าพระเจ้าที่ทำให้เขาต้องมาเจอะเจอกับอะไรแบบนี้มั๊ง ...ทิมยิ้ม เป็นรอยยิ้มกวนประสาทแบบที่เจ้าตัวถนัดถนี่ คนๆ นี้ทำอะไรเอาแต่ความพึงพอใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่เคยกลัวใคร ไม่แคร์อะไร ไม่คิดหน้าคิดหลัง และไม่เคยคาดเดาได้เลย

ท่ามกลางเศษซากแห่งความสิ้นสูญและคนร้ายแปดคนที่นอนพังพาบหมดสภาพอยู่บนพื้น ทิมจูบเขา!!! จูบด้วยความรู้สึกที่อ่อนโยน ทะนุถนอม และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่มีความหมายมากมาย วงแขนนั้นโอบคะน้าไว้แนบแน่นจนไม่มีช่องว่างที่จะให้แม้แต่อากาศแทรกตัว หยดเลือดของทิมถ่ายเทและซึมผ่านผืนผ้าจนสัมผัสกับผิวกาย เมื่อฝืนออกแรง ทิมก็ทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บจากบาดแผลตรงหัวไหล่ กระนั้นก็ยังยิ้มแล้วส่งสายตาพราว แววตาคู่นั้นทำให้คะน้าสั่น ...สั่นเพราะความหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง เขากำลังกลัวหัวใจตัวเอง

“โคตรคิดถึงเลย”

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!”

นั่นคือการตอบรับของคะน้า เขาด่า ...ด่าเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอย่างไรกับภาพที่ซ้อนทับระหว่างเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าในตอนนี้ เขาด่า ...จะด่าให้แรงและเจ็บแสบกว่านี้อีกร้อยพันเท่าด้วยซ้ำกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเป็นตายพอกัน และให้รุนแรงเป็นล้านเท่าให้กับตัวเองที่ปล่อยให้ความรู้สึกแบบเดิมๆ กลับมา ในตอนนี้คะน้าทั้งเชื่อและไม่เชื่อเจ้าของรอยยิ้มนั้น และสิ่งหนึ่งที่เขาเพิ่งรับรู้ก็คือไม่ว่าจะผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหน วิ่งหนีเท่าไหร่ หรือพยายามจะลืมอย่างไร สุดท้าย เขาก็วิงวนกลับมาสู่จุดเริ่มต้นที่ความรู้สึกเดิม

ผมไม่รู้ว่ามันเป็นคนดีหรือเป็นคนเลวกันแน่ แต่พระเจ้า... ให้ตายเถอะ! ผมโคตรรักมันเลย

ชั่วเวลาที่ความสับสนโรมรันในความคิดของคะน้า อยู่ๆ ทิมก็ดึงกระชากเขาให้ล้มลง คะน้าร้องโอยด้วยความตกใจ แต่ก็ชะงักค้างกับเสียงปะทุระเบิดตัวของอะไรบางอย่างที่ปะทุระเบิดที่ด้านหลัง

...คะน้ารู้สึกยะเยือกกับเสี้ยววินาทีที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด เขาเหลียวไปมองมองเศษไม้เล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัว มันแตกสลายย่อยยับ สิ่งที่ตามมาคือกลิ่นไหม้ของดินปืนในอากาศ ทั้งหมดที่เขาทำนั้นเกิดในช่วงเวลาไม่ถึงวินาที คะน้าย้อนสายตากลับไปที่ตรงหน้าแล้วชะงักค้าง มันผู้นั้นฟื้นขึ้น!!! เขี้ยวขาวๆ ที่กลบไปด้วยเลือดกำลังส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น มันถ่มน้ำลายลงพื้นแล้วค่อยๆ พยุงยกแขนที่ถือปืนขึ้นทั้งที่ยังสั่นๆ

“มึงอย่าคิดว่าจะรอด กูไม่ปล่อยมึงไว้ให้บนหิ้งหรอก” มันจ้องมองมาที่คะน้าแล้วเค้นหัวเราะอย่างเลือดเย็น ก่อนจะสะบัดสายตาไปที่ทิมแล้วเยาะขัน รอยยิ้มและน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความสนุก “แม่งเป็นผัวเมียกันสินะ กูเห็นใจมึงสองตัวจริงๆ ไม่อยากพรากให้จากกันเลย”

“แต่เอาตรงๆ เลย กูขยะแขยงพวกเกย์ว่ะ กูเลยจะเป่ามึงสองตัวให้ไปอยู่ในนรกด้วยกัน มึงได้อยู่ด้วยกันต่อ ส่วนกูก็ได้อย่างที่ต้องการ วิน - วิน” เสียงระเบิดหัวเราะดังขึ้น พร้อมกับที่คะน้าได้ยินเสียงแหวกมาในอากาศ!

จังหวะนั้น ทิมหมุนตัวอย่างรวดเร็วเหมือนจรวด เพียงพริบตาคะน้าก็คะมำไปกองอยู่แนบพื้นด้วยความงง ก่อนจะรู้สึกถึงแรงบีบบบนหัวไหล่ตัวเองที่แน่นเหมือนจะป่นให้เป็นผง เลือดสีแดงข้นที่ทะลักออกจากช่องท้องคนที่นอนทับอยู่จนเปรอะไปทั้งตัวเขาพร้อมกับเสียงแผดของทิมนั้นถูกเค้นออกมาจากลำคอจนดังสนั่น มันแหบและแห้งจนไม่ใช่เสียงของมนุษย์

อีกครั้งแล้วที่ทิมเอาตัวเองมาบังลูกกระสุนให้กับเขา! ทั้งๆ ที่ตัวเองก็บาดเจ็บขนาดนี้ นี่หรือคือสิ่งที่ไม่เคยเห็นค่าในสายตาแบบที่เจ้าตัวบอก? นี่หรือคือสิ่งที่คนหลอกใช้กันมาตลอดเขาทำต่อกัน?

ไอ้บ้าเอ้ย! ไอ้ทิม! ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้! มึงนี่มัน...

...มึงมันคนขี้โกหก ...มึงโกหกหน้าตาย!!!

จากนี้ กูจะไม่เชื่อไม่ฟังคำพูดมึงอีกต่อไปแล้ว กูไม่สนอีกแล้วว่ามึงทำบ้าอะไรมาแล้วจะทำอะไรอีก กูจะเชื่อตัวกูเองเท่านั้น กูจะฟังเสียงของหัวใจกูเอง!


ร่างกายของทิมสั่นสะเทือนหวั่นไหว ก่อนแรงบีบบนหัวไหล่ของคะน้าจะคลายตัวออก ทิมทิ้งตัวลงนอนหงายอยู่บนพื้นที่สกปรก บิดเร่าเหมือนกำลังถูกสุมอยู่บนกองไฟที่ร้อนดั่งนรกก่อนจะเหยียดเกร็งจนตัวค้าง ทิมหอบจนสะท้านก่อนจะฝืนขยับใบหน้าหันกลับมามองที่คะน้าด้วยจังหวะที่กระตุก เสียงที่เบาจนแทบไม่ต่างกับอากาศเสียดแทรกขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกมึนคล้ายกับคนที่ถูกตีหัวของคะน้า

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หากแต่สายตาคู่นั้นก็สำรวจทั่วร่างกายของคะน้าอย่างรอบคอบแล้วยิ้มยวนขึ้นมา ในความใกล้ชิด ทิมเอื้อมมือขึ้นมาลูบแก้มคะน้าเบาๆ แล้วทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“...เจ็บเหมือนถูกยุงกัดเลยว่ะพี่”

ดวงตาของทิมกำลังยิ้ม และรอยยิ้มนั้นกำลังลามลงมาถึงริมฝีปากที่แห้งผากนั้น ดวงตาของคะน้ามองเห็นรอยยิ้มที่ค่อยๆ จุดขึ้นเพื่อทดแทนร่องรอยของความเจ็บปวดบนใบหน้านั้น เป็นรอยยิ้มที่เงียบสงบ

...แล้วทิมก็หลับตา

คะน้าตะโกนเรียกชื่อของทิมอย่างคลุ้มคลั่ง เขาพลาดเองที่ยั้งมือกับคนชั่วๆ แบบนั้นจนมันย้อนกลับมาทำสิ่งที่เขาไม่มีวันอภัยให้ได้เช่นนี้ ...แต่มันจะไม่มีอีกแล้ว! แรงมาแค่ไหน เขาจะคืนกลับให้สองเท่า!!!

“มันคงรักมึงมากนะ ถึงเอาตัวเองมาบังกระสุนให้สองทีติดๆ แม่งคงอยากเป็นพระเอกสินะ” มันเย้ยเยาะแล้วหัวเราะร่า “แต่มึงไม่ต้องเสียใจไป เดี๋ยวมึงจะได้ตามมันไปติดๆ นั่นล่ะ”

กำแพงแห่งความสำรวมและอดกลั้นอดทนของคะน้าปริร้าวแล้วถล่มลงมาในที่สุด เขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหมาบ้าที่พร้อมจะขย้ำทุกอย่างโดยไม่สนว่าหน้าไหนและไม่เกรงกลัวอะไรแม้แต่ชีวิต คะน้าโถมตัวเข้าหามันอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปกระชากคอแล้วอัดหมัดใส่ไอ้สารเลวตัวนั้นเต็มกำลัง ครั้งแรกที่บนดั้งจมูก เขารู้สึกเหมือนมีเสียงแตกของกระดูกอีกฝ่ายติดอยู่ที่ปลายกำปั้น

...มันยังน้อยไป!

คะน้าอัดซ้ำลงไปทีเดิมด้วยน้ำหนักที่ไม่ลดลงจนร่างที่อยู่ในมือนั้นเซและร้องด้วยเสียงที่โหยหวน

...ยังไม่พอ!

คะน้ากระชากกระบอกปืนสีดำมาจากมืออีกฝ่าย เหนี่ยวไกอย่างรวดเร็วแล้วปล่อยลูกกระสุนออกมาด้วยเสียงที่ดังเท่ากับเสียงหวีดของสายลม ร่างนั้นเหยเกและบิดเร่าด้วยความเจ็บปวดแล้วทรุดลงไปนอนนิ่งไปในทันที จังหวะนั้น เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คะน้าสะดุ้งชะงักงัน ผิวกายของเขาสัมผัสกับของเหลวบางอย่างที่กระเด็นขึ้นมาบนใบหน้า จมูกเริ่มได้กลิ่นคาวของเลือดฉุน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คะน้าเพิ่งจะรับรู้ถึงหยดน้ำตามากมายของตัวเองที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

นาทีนั้นเองที่ทุกอย่างนิ่งสนิท เขาปล่อยมือทั้งสองลงข้างลำตัวพร้อมๆ กับสติที่เริ่มกลับมา ผละจากร่างสะบักสะบอมที่หมดสภาพอยู่ที่พื้นแล้วสะเปะสะปะย้อนกลับไปหาทิมที่นอนขดตัวด้วยลมหายใจที่รวยริน คะน้าย่อตัวนั่งลงข้างๆ เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าที่คุ้นเคย ใจหายเหมือนโลกทั้งใบถล่มทลายลงตรงหน้า ดวงตาสีดำที่เคยเป็นประกายวาวหยอกล้อกลับดูมืดสนิท ไม่มีรอยยิ้มหรือคำพูดยียวนแบบที่เจ้าตัวชอบพูดจนเป็นนิสัย ทุกอย่างมันพร่าเลือน ที่เห็นชัดเจนเพียงสิ่งเดียวคือสีแดงขนาดใหญ่ที่เพิ่มมาอีกจุดที่บริเวณท้อง เลือดของทิมค่อยๆ ย้อมไปบนพื้นจนกลายเป็นสีชาด

มนุษย์เรามักไม่เห็นค่าของเวลา คิดว่ามันเดินช้าและมีมากมายเหลือเฟือจนใช้ไม่หมด เราหลงลืมพันธะสัญญาแห่งโชคชะตาที่ผูกไว้อยู่บนเส้นด้ายบางๆ นั้นและใช้เวลาอย่างสูญเปล่าให้กับเรื่องที่ไม่ควรทำไปมากมาย เราลืมว่าทุกคนต่างมีเวลาที่จำกัด เราใช้ชีวิตอย่างประมาท ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าในวินาทีข้างหน้าบนเส้นด้ายบางๆ นั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ...เราไม่เคยรู้เลย

มือที่เปื้อนเลือดของคะน้าโอบร่างที่รวยรินนั้นขึ้นกอดแนบอก เนื้อตัวของเขาสั่นเทาด้วยความไม่เชื่อไม่ยอมรับ ความหวังและศรัทธาในใจปรปักษ์กับความจริงตรงหน้าอย่างแข็งขืน ทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เข็มนาฬิกาของบางคนกำลังหยุดนิ่ง ...เป็นความนิ่งที่ดูเหมือนกัลปวสาน


 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ฝากเพลงไว้ให้ฟังกันครับ หลายวันก่อนนี้เพิ่งจะเคยได้ยิน(เชยได้อีก)
ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่ามันตรงกับสามตัวละครหลัก คะน้า ทิม ตุล ในช่วงที่ผ่านมา
เลยแปะลิงค์ไว้เผื่อจะมีคนอยากฟังกันเล่นๆ ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=nfMtC4kRpXw

ขอบคุณสำหรับทุกๆ คนที่ติดตามกัน ทุกๆ คอมเมนต์ที่อยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจกันครับ
ถ้าลงสปีดประมาณนี้ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบภายในกลางเดือนมีนาคมนี้แน่นอนครับ

ปล. ถ้ามีคำผิดเยอะ หรืออ่านตอนไหนแล้วงงๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ สดๆ ร้อนๆ ไม่ได้อ่านทวนเลย :o8:

ออฟไลน์ Gemm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
น้ำตาไหลพราก
จุกไปหมดแล้ววว
ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะ
หลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นไหม
TTTTTTTTT

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เปลี่ยนเป็นนิยายแนวแอ๊คชั่นเถอะ
เลือดสาดขนาดนี้
ทิมพรุนแล้วนะ พรุนไปเลย
โดนยิงจนพรุนเลย เอิ่มม

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
จะร้องไห้  :m15: ทิมจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย จะพากันไปหาหมอทันมั้ยเป็นห่วงมาก ๆ
ไอ้คนที่ยิงทิมนี่แม่งต้องฆ่าให้ตายจริง ๆ น่ะแหละ สรุปธาดาพิพัฒน์ทำมั้ยเนี่ย
บางทีอาจไม่ใช่ หรือถ้าธาดาพิพัฒน์ทำ แต่ิทิมไม่ได้ทำแน่ ๆ ที่พูดอาจเพื่อหลอกให้คนอื่นเชื่อ
บู๊ล้างผลาญกันมากตอนนี้ อารมณ์ตอนทิมจูบคะน้าแล้วคะน้าแบบไม่สนใจนี่แบบเจ็บนะ
แต่ทิมก็ยังพยายามช่วยคะน้าต่อไป ถ้าไม่แอบดูคงไม่รู้ใจกัน เอาตัวมาบังกระสุนอีกหลายรอบ
เฮ้อ พระเอกชั้นกวนแม้กระทั่งตอนกำลังจะตาย แต่นี่แหละคือทิม แพ้ใจกับผู้ชายคนนี้วุ้ย
เรื่องราวเข้มข้นจริง ๆ ค่ะ เต็มไปด้วยอารมณ์มาก ๆ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
ถ้านายให้ทิมตาย เราจะงอน

เสียน้ำตาให้ตั้งแต่ตอนที่ทิมบอกว่าเจ็บเหมือนยุงกัด
ดีใจที่ตัวเองยืนข้างทิม ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่จริงหรืออะไรอีกก็พร้อมแล้วล่ะ
เรารักทิมไม่น้อยกว่าที่ต่ายรักนะ อิอิอิ

----

คนแต่งแต่งเก่งมากครับ
คือปกติจะไม่ค่อยชอบอ่านแนวบู๊ ยิ่งตัวหนังสือติด ๆ กันด้วย
แต่นี่คือเห็นภาพ นึกภาพตามได้ไม่งงแม้ตัวละครจะเยอะ
แต่แบบไม่น่าเบื่อเลย เก่งมาก ๆ ครับ

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
กรี๊ดดดดดดด มันยังงัย กันแน่ ทิมอย่าตายนะ

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
จะเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ยลุ้นจนตัวโก่งแล้ว

ขอบคุณจ้า :L1: :pig4: :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด