: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: : ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]  (อ่าน 226894 ครั้ง)

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อ ความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่..


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2017 20:31:27 โดย kagehana »

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #1 เมื่อ20-04-2012 20:47:41 »

kagehana : ลองเอาเรื่องใหม่มาลงค่ะ หลังจากเรนนี่เดย์ย้ายไปห้องนิยายที่ยังไม่จบเรียบร้อย กร๊ากกกกก (แต่ยังอัพเดทอยู่นะ เพิ่งอัพไปเลยล่ะ /ยืด)

ยังไงก็ขอฝากพี่เดฟน้องปันไว้ในอ้อมใจ(?)ด้วยนะคะ



-------------------------------------------------------------------



-1-





นัยน์ตา เรียวคมสีนิลจับจ้องใบหน้าของคนมาใหม่จากด้านบนของบันไดด้วยความรู้สึกอึด อัดภายในอก ชายหนุ่มร่างสูงกับเรือนผมสีทองยาวเคลียไหล่ล้อมกรอบใบหน้าที่ดูแปลกตากวน ให้ตะกอนในใจขุ่นข้นขึ้นมาอีกครั้ง

...ทำไมทีคนแบบนี้ถึงได้รับความรัก...

ปัณวิทย์ มองภาพบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ร่วมตระกูลที่พากันล้อมหน้าล้อมหลังผู้ชายที่ ชื่อ 'ชยางกูร' ด้วยความรู้สึกเกลียดชัง แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรต่อ สายตาก็เหลือบไปเห็นญาติผู้พี่ที่เก็บตัวเงียบและทำตัวราวกับตัดขาดตัว เองออกจากตระกูลกำลังมองไปในทิศทางเดียวกัน

'ญาณัช' คือชื่อของญาติผู้พี่คนนั้น

ปัณวิทย์ เป็นลูกชายที่เกิดจากชู้ของเพ็ญแข เพราะเหตุนี้ถึงได้กลายเป็นเหมือนแกะดำ ความรักที่เคยได้จากบิดามารดาในฐานะลูกชายคนเล็ก และน้องชายของคณัสนันท์ได้หายไปในพริบตาเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ ความลับของเพ็ญแขนั้นถูกเปิดโปง-- จากชีวิตที่มีแต่ความสุขและความรัก กลับกลายเป็นเด็กที่เติบโตมาท่ามกลางความเกลียดชัง พลภัทรที่เขาเรียกว่าพ่อ ก็มองเขาด้วยสายตารังเกียจราวกับไม่ใช่คน เพ็ญแขก็ไม่รักเขาอีกต่อไปเพราะเป็นสาเหตุให้ทะเลาะกับพลภัทรใหญ่โต คณัสนันท์ก็ไม่สนใจเขาเพราะทำตามคำสั่งของพลภัทร

...ไม่มีใครเห็นใจสักคน

ปัณวิทย์ ถึงได้เติบโตขึ้นมาโดยปราศจากความรัก มีเพียงชายหนุ่มผมยาวผู้มีศักดิ์เป็นอาที่พักอยู่ห้องตรงข้ามกันเท่านั้น ที่คอยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ

แต่วันนึง พิชญ์ก็จากไป และจากวันนั้น... ก็ไม่มีใครสนใจ ว่าเขาจะทำอะไร

แม้กระนั้น พลภัทรก็ยังส่งเขาเรียนตามปกติ มีค่าขนมให้ใช้เหมือนอย่างคนอื่น แต่ข้าวของมากมายนั้น ปัณวิทย์ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด

...แค่อยากเรียกว่าพ่ออีกครั้ง...

...ก็เท่านั้น...

แล้วในวันนี้ ที่ลูกที่เกิดกับสาวชาวอเมริกันของพลภัทรกลับมา ตอกย้ำบาดแผลของเขา

"พี่นัท..." เด็กหนุ่มร่างโปร่งเดินไปหาญาติผู้พี่ที่ตัวเล็กกว่า

"........ ครับปัน"

"กินอะไรรึยัง" เพราะตั้งแต่พิชญ์จากไป เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าของญาณัชเลยด้วยซ้ำ

"................. อืม"

นานๆ ทีจะได้พบกัน ก็มีเพียงถามคำตอบคำอย่างนี้ ก่อนที่ญาณัชจะหายเข้าห้องไป-- ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ปัณวิทย์จึงตัดสินใจเดินไปขึ้นลิฟท์ เพื่อกลับเข้าไปอยู่ในห้องของตัวเอง

...อยู่ในที่ที่มีความรักให้เขา...

 

//////////////////////////////

 

ชยา งกูรมองคนรอบกายที่เอาแต่ปั้นหน้ายิ้มแย้มต้อนรับเขาแต่แววตาจริงใจแทบไม่มี สักคน กระทั่งพลภัทรที่เป็นพ่อแท้ๆก็ยังดูเหมือนมีอะไรในใจถึงเรียกตัวเขากลับ มา..ทั้งๆที่เคยติดต่อกันปีละแทบนับครั้งได้

"ขอบคุณครับ แต่ปาร์ตี้ผมขอเอาไว้ก่อนดีกว่า วันนี้เหนื่อยๆ" จะบ้าหรือเปล่า ให้คนมาเหนื่อยๆร่วมปาร์ตี้เนี่ยนะ?

เขายกยิ้ม...ที่ไม่ว่าใครก็เรียกว่ารอยยิ้มเจ้าชู้ให้คนรอบๆกาย วูบหนึ่งเขาเห็นแววตาไม่พอใจของเพ็ญแข ผู้มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยง

"งั้น ไปพักผ่อนก่อนก็ได้ ฉันจัดห้องรอไว้แล้ว แต่ถ้าไม่พอใจจะเลือกห้องไหนก็ได้" น้ำเสียงถูกปรับให้อ่อนโยน แต่คำแทนตัวเองที่เย็นชาทำให้หลุดแค่นหัวเราะไม่ได้

"ผมขอไปดูก่อนแล้วกัน แต่ผมอยากได้ชั้นสูงๆหน่อย...พอได้ไหมครับ คุณพ่อ"

พลภัทรดูจะชะงักไปเมื่อถูกเรียกอย่างนั้น แต่ก็รีบปรับสีหน้ารวดเร็ว

"ชั้น ของญาณัชกับปัญวิทย์ยังว่างอยู่ห้องนึง...เอาเป็นที่นั่นไหมคะ" เพ็ญแขเดินเข้ามาจับแขนลูกชายคนใหม่...คนที่มาประจานว่าสามีเธอนอกใจมานาน แค่ไหน

...และเป็นคนที่ทำให้เธอคิดนอกใจจนเกิดปัณวิทย์ขึ้นมา...

"หึ...จะดีเหรอ คนนึงก็เก็บตัวจะตายในห้องเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อีกคนก็...เด็กเหลือขอลูกเสือลูกตะเข้"

"ไม่เป็นไรครับ ที่นั่นแหละดีแล้ว" ชยางกูรรีบตัดบทเพราะกลัวจะต้องอยู่ให้ถูกล้อมหน้าล้อมหลังนานกว่านี้

"เดี๋ยวผมเอาของไปเก็บก่อน"

ชยางกูรเดินเข้าไปในลิฟท์แล้วกดชั้นตามที่ได้ยินเสียงแว่วบอกมา

ทันทีที่อยู่ในลิฟท์คนเดียว ลมหายใจหนักๆก็ถูกพรูออกมา

"คิดผิดเปล่าวะ..."

จะอย่างไรก็ตาม...เมื่อเดินมาถึงตอนนี้จะถอยกลับก็ไม่ได้

...เขาไม่ยอมให้ใครแย่งส่วนที่เขาควรได้ไปแน่...

 

////////////////////////////////////////////////

 

"ฟู ฝุ่น ไปเดินเล่นข้างนอกกันไหม" เด็กหนุ่มเจ้าของห้องลุกขึ้นพร้อมทั้งอุ้มกระต่ายทั้งสองตัวที่ตัวเองเลี้ยง ไว้ตั้งแต่ยังตัวเล็กอยู่ มืออีกข้างเอื้อมเปิดประตูห้องของตัวเองออกมา

"โอ๊ะ!" คนที่กำลังเดินผ่านตกใจเล็กน้อยที่เห็นเด็กหนุ่มผมสั้นอุ้มกระต่ายเดินออกมาเกือบชนกัน

ชยางกูรมองช้าๆแล้วฉีกยิ้มให้

"ฮาย ญาณัชหรือปัณวิทย์เนี่ย" มือใหญ่เอื้อมจะไปจับเจ้าขนฟูตัวนุ่มหวังผูกมิตร

ทว่าคนที่อุ้มกระต่ายอยู่กลับถอยตัวหนี

"ปัณวิทย์" เด็กหนุ่มตอบเสียงห้วนสั้นพลางเดินเบี่ยงตัวหนีแทบจะทันที เพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องผูกมิตรด้วย

"เฮ้ คุยกันก่อนสิ...น้องชาย" ใช่ว่าไม่รู้ว่าสายเลือดไม่ได้เกี่ยวกัน แต่ชยางกูรจงใจเรียกอย่างงั้นเพราะหมั่นไส้ที่ถูกหนีไปเฉยๆ

"พาไปที่ห้องหน่อยได้ไหม ห้องไหนที่ว่างน่ะ"

"อย่ามาเรียกว่าน้องชาย!" นัยน์ตาเรียวคมหรี่มองอย่างขัดใจพลางพยักหน้าไปที่ประตูห้องข้างๆตัวเอง

"นั่นไง ห้องว่าง"

"ถ้าไม่ให้เรียกว่าน้องชายจะเรียกอะไร ปัน วิทย์ หรืออะไร" ชยางกูรยักไหล่แล้วเสยเส้นผมสีทองขึ้นลวกๆ นัยน์ตาสีฟ้าใสฉายแววขี้เล่น

"แล้วเจ้าสองตัวนี่ล่ะ ชื่ออะไรกันบ้าง"

"ไม่ต้องเรียกก็ได้........" เขามองด้วยความแปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงจะอยากมาพูดคุยด้วย

"..... ฝุ่น.... กับฟู"

"แล้วชื่อนายล่ะ อ่อลืมไป ฉันเดฟ..ชยางกูร" ชายหนุ่มยื่นมือรอจับ

"อ่อ โทษทีๆ ไม่มีมือสินะ ขอฉันลองจับได้ไหม" ชยางกูรจับที่หัวนุ่มๆเบาๆ

"........" เขาไม่ตอบอะไร แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีไปเหมือนตอนแรก ปัณวิทย์ได้แต่มองนิ่งๆและยืนเฉย

"ปัน..."

"โอเค แล้วห้องนั้นคงเป็นญาณัช...นัท? ใช่ไหม" เขาชะโงกไปดูประตูที่ยังปิด

"จะไปนั่งคุยกันก่อนไหม ฉันอยากรู้จักนาย... รู้จักบ้านนี้ให้มากขึ้น"

ชยางกูรอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายยังงงๆดึงกระต่ายสีเทาจากมือมาอุ้ม

"ตัวกำลังกินนะเนี่ย ฉันเคยกินกระต่ายย่าง...อร่อยมากๆ"

"เฮ้ย!" เพียงเท่านั้น ปัณวิทย์ก็คว้าเอากระต่ายคืนมาแทบจะทันที

"อย่า มายุ่งกับกระต่าย" เด็กหนุ่มแทบจะขึ้นมึงขึ้นกูใส่กันแล้วถ้าไม่ยั้งปากไว้ สำหรับปัณวิทย์ที่อยู่ตัวคนเดียวมีเพียงกระต่ายสองตัวเป็นเพื่อนแก้เหงา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเจ้าฟูกับเจ้าฝุ่นแล้ว

คนที่ถูกดึงไปดื้อๆพอจะรู้ว่าสาเหตุเกิดจากความกวนของตัวเอง แต่ไม่นึกว่าจะถูกทำท่าทางอย่างนี้ใส่

"แค่ล้อเล่นจริงจังไปได้... อาหารสำรองมันต้องเอาไว้กินตอนฉุกเฉิน ฉันยังไม่กินกระต่ายนายตอนนี้หรอกน่า"

"อย่า มาเรียกว่าอาหารสำรองนะ ห้องอยู่นั่นไง ก็เข้าไปเดะ" ร่างโปร่งหันหลังให้โดยไม่สนใจ ตั้งใจจะออกไปตรงส่วนระเบียงของชั้นตัวเอง ไปให้พ้นจากคนที่เกลียด

"ถามจริงเหอะ นายไม่ชอบอะไรฉันป่าววะ" ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะญาติดี เขาก็ไม่รู้จะพูดดีด้วยทำไม

ชยางกูรจับไหล่เล็กของเด็กหนุ่มที่ยังโตไม่เต็มตัว แต่เพราะออกแรงมากเกินไป เด็กหนุ่มตรงหน้าเลยทำเจ้าตัวสีขาวตกลงพื้นดังอั่ก

"เฮ้ย!"

"ฟู!!" ปัณวิทย์รีบเข้าไปประคองกระต่ายตัวฟูสีขาวสะอาดขึ้นมาโดยปล่อยให้เจ้าตัวสี เทาลงไปหมอบรอก่อน ดวงตาสีเข้มตวัดมองขึ้นอย่างไม่พอใจ

"ก็ เข้าห้องไปดิวะ จะมาเสือกอะไรเรื่องคนอื่นนักหนา" เขาอุ้มกระต่ายพลางลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนทิศทาง อารมณ์ไม่ดีแบบนี้ ซ้ำฟูยังหล่นลงพื้น กลับเข้าไปอยู่ในห้องก่อนยังจะดีกว่า

"เฮ้ย! อะไรวะ อยู่ๆก็ด่าคนอื่นว่าเสือกเนี่ย" ทั้งที่ตั้งใจจะขอโทษแต่เพราะอีกฝ่ายใส่อารมณ์มาแบบเต็มๆก็อดโมโหไม่ได้

ชยางกูรมองนัยน์ตาสีเข้มที่ราวกับมีดวงไฟลุกในตา แต่เขาเองก็ไม่คิดจะขอโทษอีกแล้ว...

"เป็นเด็กตัวแค่นี้ยังพูดจาฟังไม่ได้ โตขึ้นจะขนาดไหนวะ มิน่าล่ะ คุณพ่อถึงบอกว่าเหลือขอ!"

"..........."

...ทำไมคนอย่างแกถึงเรียกพ่อได้...

...คนอย่างแก...

"เออ กูเหลือขอ!" เขาเปิดประตูห้องตัวเองออกแล้วก้มลงรุนหลังเจ้าตัวเล็กให้กระโดดเข้าไป ร่างโปร่งหันมามองอีกฝ่ายด้วยความโมโหที่พุ่งพล่านอยู่ภายใน

"แล้วก็ไม่อยากรู้จักแก ชัดไหม"

"ชัด แต่เผอิญว่ากูอยากกวนตีน มีไรป่ะ" ชยางกูรยักไหล่ทำหน้าใสซื่อใส่

"ต้องอยู่ ด้วยกันอีกนาน ฝากตัวกันไว้ก่อน มารยาทเบื้องต้นไม่รู้จักหรือไง หรือว่าคบแต่กระต่ายไม่คบคน....." ชายหนุ่มเว้นเสียงไปก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสะใจ

"...หรือไม่มีคนคบ"

"เรื่องของกู!" ประตูห้องถูกกระแทกเสียงดังใส่หน้าคนที่ยืนกวนตีนอยู่แม้แต่น้อย กระต่ายสองตัวรีบวิ่งไปยังเบาะนอนของมันด้วยความตกใจ

"...........ไอ้นี่..." ชยางกูรเหวี่ยงเท้าเตะประตูก่อนจะเดินจากไป

...ไม่นึกเลยว่าจะมีเด็กกวนตีนขนาดนี้..

...แต่ต้องอย่างงี้แหละ ถึงจะน่าสนุก...

 

///////////////////////////

 

"ปัน... เป็นอะไรน่ะ หน้าบูดเชียว" น้ำเสียงหวานใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับท่อนแขนเรียวบางที่เลื่อนผ่านไหล่ของเด็ก หนุ่มจากด้านหลังแล้วโอบกอดเอาไว้

"... มีคนงี่เง่ามาที่บ้านน่ะ" ปัณวิทย์เอ่ยตอบเสียงขุ่นพลางจับแขนของเด็กสาวแล้วดึงให้มานั่งบนตัก

"อุ๊ย!"

"เจอไอซ์แล้วค่อยสบายใจหน่อย" ปลายจมูกกดลงที่ข้างแก้มใสเจือสีชมพูอ่อนเพราะบลัชออนที่ปัดไว้

"ปากหวานไปเรื่อยเลย" แม้จะพูดแบบนั้น แต่ไอลดาก็ค่อยแนบริมฝีปากลงสัมผัสกัน

"โห่ว แต่เช้าเลยนะมึง" คนมาใหม่ตบบ่าดังตุ้บก่อนจะทรุดนั่งลงข้างๆ

"ที สาวนี่อี๋อ๋อ กะเพื่อนมองตาเขียวเชียว เป็นเหี้ยไรวะ หน้าบูดเป็นตูดหมาทั้งวัน" เด็กหนุ่มหน้าตากวนๆแต่ดวงตาขี้เล่นเอ่ยทักน้ำเสียงร่าเริง

"เรื่องที่บ้าน กูขี้เกียจพูด" ปัณวิทย์ละออกมาจากแฟนสาวแต่ก็ยังโอบเอวไว้หลวมๆ

"ซายน์ล่ะ" เขาเอ่ยถามต่อถึงอีกคนที่มักจะตัวติดกันกับอาธิปเสมอ

"ไปขี้มั้ง น้องไอซ์คร้าบ-- ตักไอ้ปันไม่นุ่มเท่าตักพี่อัสซี่หรอก มานี่มามะ" อาธิปทำท่าทะเล้นจะกอดทั้งไอลดาและปัณวิทย์

อัส ซี่...หรือจริงๆคือ อัฐ..อาธิป เพื่อนซี้ของปัณวิทย์คู่หูกับซายน์ หรือ ศิวะ ทั้งสามคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาตั้งแต่ประถมเลยทำให้สนิทกันเสียยิ่ง กว่าครอบครัว

"ไอซ์ ไม่ต้องไปฟังมันเลย" มือข้างหนึ่งเอื้อมมาดันเอาแขนของอาธิปออกไปให้พ้นทาง

"ไม่ฟังหรอก ไอซ์ไม่ได้ชอบปันเพราะตักนุ่มนี่นา" พูดจบเด็กสาวก็หัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน

"อ๊อก กกก!" อาธิปทำเสียงอ้วกยาวเหยียด และเป็นจังหวะเดียวกับที่ศิวะเดินมาพร้อมมือใหญ่ที่ตบลงบนกลางหัว ทำให้เจ้าของเสียงหยุดชะงักด้วยเสียงสุดท้ายที่เหมือนปลาสำลักน้ำ

"เหี้ยศิวะลึงค์ มือเลอะขี้ตบหัวกูป่าววะ"

"ศิวะลึงค์พ่อมึงดิ สัด ชื่อกูดีๆแปลงซะเสียหมด" ศิวะทักทายแล้วนั่งลงข้างปัณวิทย์

"เลิกเรียนมึงไปไหนป่าววะ กูอยากแดกเหล้า..."

"พ่อมึงคงให้เข้าหรอกผับน่ะ"

"ห่า ก็แดกบ้านกูก็ได้ ไปไหมปัน" ศิวะชวน

"ไอซ์ไปไหม" เขารวบเอวบางให้แน่นขึ้นแล้วพาดคางไว้กับไหล่เล็ก

"จับไว้แบบนี้ก็ไปสิ จะให้ชวนพวกผู้หญิงไปด้วยไหมล่ะ" ไอลดาหันมาถามความเห็นของเพื่อนอีกสองคน

"จัดไปเลยที่รัก" สองเสียงพูดพร้อมกันแล้วหัวเราะร่า

"หน้าหม้อว่ะไอ้ซายน์

"เหมือนกันละวะไอ้อัฐ"

"มึงดึกได้ป่าววะปัน เดี๋ยวหม่อมแม่มึงด่าป่ะ" ศิวะตบบ่าแล้วถาม

"ไม่ ด่าหรอก มีคนใหม่มา เห็นว่าจะจัดปาร์ตี้ กูไม่อยากไปว่ะ" เขาตอบแบบขอไปที ยิ่งนึกถึงใบหน้ากวนอารมณ์ของชยางกูรก็ยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิม

"ใครวะ เมียใหม่พ่อมึงเหรอ" อาธิปถามตามประสาคนปากเบา

"ลูกติด..." ปัณวิทย์ตอบสั้นๆห้วนๆอย่างไม่ใส่ใจ

...เด็กเหลือขอเหมือนกันแท้ๆ...

"หัวเน่าเลยสิมึง" อาธิปส่งท้าย พร้อมป้าบใหญ่ที่ตบใส่หัวจนหน้าหงาย...เห็นดาวกลางวันแสกๆ

 

///////////////////////////

 

...น่าเบื่อชะมัด...

บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับ..ที่ดูไม่ค่อยอยากต้อนรับเท่าไหร่ของครอบครัวนี้ ทำให้ชยางกูรรีบอยากให้มันจบไวๆจะได้นอนเสียที

การที่ต้องเดินติดเป็นอึปลาทองของบิดาแล้วถูกแนะนำกับคนโน้นคนนี้ว่าแย่แล้ว แต่สายตาแฝงคำถามที่ส่งมายิ่งแย่กว่า

หลังจากร่วมสองชั่วโมงผ่านไป เขาถึงได้โดนปล่อยให้ยืนเฉยๆข้างมุมห้องเสียที

ชยา งกูรกวาดสายตามองรอบห้อง นัยน์ตาสีฟ้าใสมองเห็นชายหนุ่มผมดำยาวในชุดสูทยืนเงียบๆอยู่ที่มุมคนเดียว แวบแรกเขาก็เกือบจะละสายตาไป...แต่พออีกฝ่ายหันมาสบตา นัยน์ตาเศร้าๆสีดำคู่นั้นกลับดึงดูดใจจนร่างกายพาเดินเข้าไปหาเอง

...หน้าตาไม่เท่าไหร่...แต่สายตานี่ฆ่ากันชัดๆ...

"ฮาย..." เพราะไม่รู้ว่าจะทักยังไง มือใหญ่จึงจับที่เส้นผมสีดำเบาๆ

"ผมสวยดีนะ..ย้อมสีไหม"

ร่างบางขยับตัวถอยออกไปโดยอัตโนมัติ เขาเอ่ยตอบอย่างสุภาพ

"... เดี๋ยวผม ไปเดินดูรอบๆก่อนนะครับ" นัยน์ตาโศกจ้องมองเพียงครู่เดียวก่อนจะหันตัวเดินหนีจากมา

"เดี๋ยวสิ..ญาณัชใช่ไหม" เพราะท่าทางที่แตกต่าง ทำให้ไม่อาจจะละสายตาได้

ชยา งกูรรู้ว่าตัวเองเป็นไบเซ็กชวลกันตั้งแต่ไฮสคูล เขาเคยคบทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง...ซึ่งเขาเองก็ชอบทั้งสองแบบ บางครั้งผู้ชายตัวเล็กๆบอบบางก็น่ากอดไม่แพ้ผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้น ถึงจะมีอะไรกันเท่าไหร่ยังไม่มีปัญหาเรื่องท้องตามมาอีกด้วย

...คนที่เพิ่งเลิกไปก็คล้ายๆอย่างนี้ เด็กหนุ่มผมยาวบอบบางที่เหมือนจะแตกได้ตลอดเวลา...

"เดี๋ยวสิ... ญาณัชใช่ไหม" เพราะท่าทางที่แตกต่าง ทำให้ไม่อาจจะละสายตาได้

ชยา งกูรรู้ว่าตัวเองเป็นไบเซ็กชวลกันตั้งแต่ไฮสคูล เขาเคยคบทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง...ซึ่งเขาเองก็ชอบทั้งสองแบบ บางครั้งผู้ชายตัวเล็กๆบอบบางก็น่ากอดไม่แพ้ผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้น ถึงจะมีอะไรกันเท่าไหร่ยังไม่มีปัญหาเรื่องท้องตามมาอีกด้วย

...คนที่เพิ่งเลิกไปก็คล้ายๆอย่างนี้ เด็กหนุ่มผมยาวบอบบางที่เหมือนจะแตกได้ตลอดเวลา...

...เล่นยากแฮะ...

"เปล่า ครับ แค่อยากรู้จักกันไว้ ไหนๆก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน...แล้วนี่ปัณไปไหนครับ ผมไม่เห็นเลย" ไอ้เด็กกวนตีนพรรค์นั้นไม่มาให้เกะกะตาก็ดีแล้ว

"ผมไม่ทราบครับ... ยินดีที่ได้รู้จักครับ... ผมขอตัวนะครับ" ญาณัชค้อมหัวอีกครั้ง

ชยางกูรยกมือโบกให้ เขาไม่คิดจะรั้งไว้ ในเมื่ออีกฝ่ายดูจะยังไม่ยอมรับเขา...

เอาเหอะ ของอย่างนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป

...ขืนรุกเร็วก็ตื่นกันหมดพอดี...

ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มส่งท้าย ก่อนที่จะยกไวน์ในมือขึ้นจิบช้าๆด้วยความรู้สึกท้าทายที่ฝั่งแน่น...ติดตราตรึงใจ

 

//////////////////

 

 


To be continued.....

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #2 เมื่อ20-04-2012 21:33:53 »

ตกลงใครเป็นตัวเอกละเนี้ย \ =[]= /!!!! NO!!!!!!!!

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #3 เมื่อ20-04-2012 21:41:27 »

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ฟิคเรื่องใหม่มาแล้วเย้ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาอัพต่อบ่อย ๆ นะฮับ

แล้วตกลงเดฟคู่กะใครกันแน่เนี่ย  แต่ว่าก็อยากให้คู่กับปันนะ

เหลือขอดี  ชอบ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #4 เมื่อ20-04-2012 22:03:05 »

เป็นครอบครัวที่วุ่นวายอลังการมาก แหะๆ

บวกจ้า รออ่านต่อนะ ไม่มาม่าเกินไปใช่มั้ยอ่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #5 เมื่อ21-04-2012 01:09:38 »

 :mc4: :mc4: :mc4:

mello-frappe

  • บุคคลทั่วไป
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #6 เมื่อ21-04-2012 02:28:13 »

แอบงงชื่อไม่เบาเลย
เชียร์ปัณณี่นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 1 [20/04/12]
«ตอบ #7 เมื่อ21-04-2012 08:44:19 »

งงตัวละครเหมือนกันค่ะ เยอะตั้งแต่แรกเลย แต่เชียร์ปันเหมือนกันน้า

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
«ตอบ #8 เมื่อ22-04-2012 16:50:38 »

kagehana : แปะตอนสองไวๆอย่าให้เสีย











-2-




 

"...... เยอะไปมั้งวะ" เด็กหนุ่มเดินโซเซออกมาจากลิฟต์ มือเอื้อมยันผนังไว้เพื่อทรงตัว

ชยา งกูรที่ตั้งใจจะเดินออกมารับลมดูพระจันทร์ข้างนอกหันไปตามเสียงลิฟท์ เปิด..ในที่แรกที่เห็นว่าเป็นใครก็เกือบจะปิดห้องหนี แต่เพราะอาการเซกับกลิ่นเหล้าหึ่ง ปากของคนที่ไม่ถูกกันก็อดไม่ได้

"เหม็น..."

"ก็ไม่ต้องดมดิวะ" นัยน์ตาสีเข้มตวัดมองขวางๆแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

...ทำไมยังอยู่อีกวะ...

"นึกว่าหายไปไหนไม่มาร่วมงาน ที่แท้แอบไปกินเหล้าทั้งชุดนักเรียนเหม็นโฉ่กลับมาเลย" ชยางกูรแค่นหัวเราะแล้วเดินเข้าไปใกล้

"เด็กน้อย คนที่กินจนเมาน่ะแสดงว่ากินไม่เป็น รู้ไหม" มือใหญ่วางทาบไปบนเส้นผมสีดำสนิทที่ไม่ยาวนักแล้วลูบอย่างจงใจแกล้ง

"อย่างนายไปกินนมนอนดีกว่าไป ไอ้หนู..."

"อย่ามาเสือกน่า ไปแล้ว..." คนตัวเล็กกว่าปัดมือของชยางกูรออกแล้วเดินไปหยุดที่หน้าห้องของตัวเอง

"กระต่ายอร่อยดีนะ" คนที่เดินตามมาเปรยเบาๆแล้วเลียริมฝีปากตัวเอง

"ยิ่งสีขาวยิ่งอร่อย"

"เฮ้ย!! บอกว่าอย่ายุ่งไงวะ" คนตกใจรีบเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วร้องเรียกหากระต่ายทั้งสองตัว

"ฟู ฝุ่น อยู่ไหนครับ" หลังจากร้องเรียกหาได้สักพัก เจ้าตัวเล็กขนฟูทั้งสองตัวก็ค่อยกระโดดออกมาหา

"กับกระต่ายนี่พูดเพราะเชียวนะ" ชยางกูรเดินตามเข้ามาหน้าตาเฉย เขาเดินไปหยิบเจ้าตัวสีฝุ่นสมชื่อขึ้นมาอุ้มแล้วลูบขนมันเบาๆ

"ไงอาหารสำรอง จ้ำม่ำน่ากินเชียวนะเรา"

"จะมายุ่งกับกูทำไมวะ ออกไป ใครให้เข้า" พออุ้มเจ้าฟูสีขาวไว้ได้ ก็ตั้งหลักไล่อีกฝ่ายทันที เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเสวนาด้วย

"งั้นไปเที่ยวห้องฉันกันเนอะ ไอ้ตัวอ้วน" เมื่ออีกฝ่ายออกปากไล่ ชยางกูรก็ออกไปแต่โดยดี

...เพียงแต่ยังมีเจ้าตัวในมือติดมาด้วย

ร่างสูงสาวเท้าเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าห้องไปได้ เขาปิดประตูทันที..และเร็วพอจะกระแทกปิดต่อหน้าใครบางคน

"เฮ้ย!! เปิดเดี๋ยวนี้นะ!!! กูบอกให้เปิด!! จะทำอะไรก็ทำ เอากระต่ายกูคืนมา!!" ปัณวิทย์ทุบประตูห้องของอีกฝ่ายดังลั่นพลางร้องเรียกให้เอาสัตว์เลี้ยงตัว เล็กของตนคืนมา

"ย่าง อบ ทอด ต้ม นึ่ง...แบบไหนดีนะ" เขาปล่อยให้เจ้ากระต่ายตื่นวิ่งเล่นบนเตียงพลางพูดดังๆให้คนข้างนอกได้ยิน

"แบ่งส่วนดีกว่า.."

อารามคนเมาทำให้เขายิ่งทุบประตูดังขึ้น และแรงขึ้น

"เปิดนะ!! กูบอกให้เปิด!!" เพราะนึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆว่าเจ้ากระต่ายสีเทาจะเป็นอะไรไป น้ำตาถึงได้ออกมาคลอเบ้าโดยไม่รู้ตัว

"เฮ้ย!! เป็นบ้า..." ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก คำด่าที่ตั้งใจจะพูดออกมากลับถูกกลืนลงลำคอเพราะหยาดน้ำตาใสๆที่คลออยู่ใน ดวงตาที่ฉายแววโกรธขึ้ง

...ร้องไห้เหรอวะ...

...แค่นี้เนี่ยนะ...

"ปัน..เป็นไรวะ" ร่างสูงลากเด็กหนุ่มเข้ามาในห้องแล้วปิดลง

เจ้ากระต่ายที่อยู่บนเตียงส่งเสียงเรียกหาเจ้านาย พลางวิ่งไปมาทำจมูกดุกดิก ราวกับจะหาที่ซุกเหมือนทุกๆครั้ง

"เอากระต่ายกูคืนมา... ฮึก... มึงจะเอาอะไรเอาไปเลยไอ้ฝรั่งเฮ็งซวย...... ขอกระต่าย... กู...." น้ำเสียงลากยาวถามพร้อมเสียงสะอื้น

"เฮ้ย! กู....เปล่า แม่งเอ๊ย!" ชยางกูรสบถเป็นภาษาไทยชัดเจน แม้ว่าเขาจะอยู่ต่างประเทศ แต่ตามประสาวัยรุ่น...ที่มีเพื่อนเป็นนักเรียนไทยที่มาเรียนที่นั่น ก็ไม่แปลกอะไรที่จะใช้กันจนติด

"ร้องไมวะ กระต่ายยังไม่ตายซะหน่อย"

ท่าทางสะอื้นของเด็กหนุ่มตรงหน้าทำเอาอดสงสารไม่ได้ ชยางกูรโอบน้องชายต่างสายเลือดเข้ากอดตบบ่าเบาๆ

"ไม่เอาหรอก...อย่าร้องนะปัน"

"มึงมีทุกอย่างแล้ว... อึก... อย่าเอากระต่ายของกู.... ไป" ปัณวิทย์สะอื้นพลางปล่อยให้อีกฝ่ายโอบกอดเอาไว้

กระต่ายตัวน้อยกระโดดลงจากเตียงมาซุกแทบเท้าเจ้านายที่รัก จมูกเล็กๆซุกลงบนหลังเท้าคล้ายจะปลอบใจ

"ไม่ เอาแล้ว ไม่เอากระต่าย...ไม่ร้องนะปันนะ" เพราะอาการสะอึกสะอื้นอย่างจริงจังของปัณวิทย์ทำให้ชายหนุ่มปลอบด้วยน้ำ เสียงที่เจือความอ่อนโยนอยู่มาก

ชยา งกูรกอดร่างเพรียวของเด็กหนุ่มให้มาที่เตียง ท่อนแขนแข็งแรงยังคงกอดอยู่ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปจับเจ้าตัวเล็กขี้ตกใจมา วางไว้บนตักเจ้านาย

"ฝุ่น..." รอยยิ้มจับขึ้นบนใบหน้าพลางเอื้อมมือมาประคองกระต่ายตัวจิ๋วเอาไว้

"ไม่เป็นไรแล้วนะครับ..."

.....จะเป็นไรได้ไงวะ ยังไม่ทันทำอะไรเลย

"ไม่มีใครเอาหรอกกระต่ายแกน่ะ ไอ้เด็กขี้แย"

"แก มีพ่อ เรียกพ่อ เรียกแม่ มีครอบครัวดีแล้ว ก็อย่ามายุ่ง... กับกู อย่ามาแย่ง... ครอบครัว.... สองคนของกู" เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่มั่นคงนัก ร่างกายไหวเอนคล้ายกลับพร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อ

"ปัน........." น้ำเสียงทุ้มเปล่งออกมาเบาๆ เขารู้ว่าปัณวิทย์เป็นลูกชายชู้ของเพ็ญแข

....แต่ไม่รู้ว่าเป็นเด็กที่ขาด...ขนาดนี้...

"ปันก็มีคุณเพ็ญไง...จะมีแค่เจ้าสองตัวได้ไง"

"มีไว้ทำไม ถ้าไม่ได้เรียกแม่น่ะ" ดูเหมือนว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้เด็กหนุ่มลืมเลือนความเกลียดชังไปได้ชั่วครู่

"ครอบครัวของฉันมีแค่ฝุ่นกับฟูเท่านั้น!"

สำหรับคนที่รักแม่จนสุดหัวใจอย่างชยางกูร..เขาไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ปัณวิทย์พูดเท่าไหร่

...แต่คงเป็นเด็กที่มีแผลในใจ..ถึงจะพูดทั้งน้ำตาแบบนี้ได้...

"เจ้าอ้วนฝุ่นเป็นห่วงใหญ่แล้ว หยุดร้องเหอะน่า"

"ทำไม กูร้องไห้แล้วทำไม งี่เง่าใช่ไหม กูเป็นแค่เด็กเหลือขอ" เขากอดกระต่ายตัวฟูไว้ให้มั่นก่อนจะพยายามก้าวลงจากเตียง

"เลือกได้กูก็ไม่อยากเกิดมาหรอก"

...ไอ้นี่...

พอใจร้ายใส่ก็ร้องไห้ พอใจดีด้วยก็ประชด จะเอาไงกับมันดีวะ

"พูด สักคำหรือยังว่างี่เง่า ก็เกิดมาแล้วจะทำไงได้ ก็รีบโตซะสิ...จะได้ไม่ต้องทนอยู่ที่ที่ไม่ชอบ มัวแต่ทำเป็นเด็กเรียกร้องความสนใจอยู่อย่างงี้ใครเขาอยากจะสนใจล่ะ" ชยางกูรพูดด้วยน้ำเสียงสั่งสอน แต่กลายเป็นถูกตวัดตามองโกรธๆเสียอย่างนั้น

"ให้ เรียนดีกูก็เรียนดี ให้ทำอะไรกูก็ทำ มึงพูดง่ายนี่หว่า ไม่เจออย่างกู ฮึก ไม่มีใครเข้าใจหรอก!" เด็กหนุ่มโวยวายเสียงดังพลางก้าวเดินไปข้างหน้า ทว่าพื้นกลับเอียงจนทำให้ล้มลงบนพื้นห้อง แม้กระนั้น เขาก็ยังกอดกระต่ายไว้กับตัว ประคองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

"ซวย แล้วกู" ร่างสูงสืบเท้าเข้าไปใกล้แล้วช้อนทั้งคนทั้งกระต่ายขึ้นมาดู เด็กหนุ่มในอ้อมกอดตาปิดสนิท... ลมหายใจกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบที่เผยอเล็กน้อยบ่งบอกว่า อีกฝ่ายคงถูกฤทธิ์เหล้าเล่นเข้าให้แล้ว

ชยา งกูรส่ายหัวเบาๆแล้วอุ้มไปวางไว้บนเตียงตัวเอง เขาดันเจ้าตัวนุ่มๆในมือให้ลงไปนอนข้างๆเจ้าของ ชยางกูรเสยผมที่ปรกใบหน้าเด็กหนุ่มให้...แล้วพบว่าจริงๆแล้วปัณวิทย์เป็น เด็กหน้าตาดีมากคนหนึ่ง...ถ้าไม่มีปากที่เอาแต่พูดประชดนั่น

โครง หน้าเรียวรับกับคิ้วไม่รกตาที่พาดเหนือดวงตาเรียวเชิดที่ปิดสนิท ขนตาแม้ไม่ยาวมากแต่ก็ไม่สั้นกุด ผิวพรรณขาวสะอาดสมกับเป็นลูกตระกูลผู้ดี จมูกโด่งรั้นดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องปรุงแต่ง...และริมฝีปากบางเฉียบสีอ่อนที่ ว่ากันว่าคนดื้อเท่านั้นที่จะได้ครอบครองมัน เส้นผมซอยไล่ยาวเลยหลังคอมานิดหน่อยเป็นสีดำนุ่มละเอียดมือกว่าที่คิด

...แต่ก็แค่นั้น...

นัยน์ตาเชิดๆกับดวงตากร้าวหรือจะสู้เด็กหนุ่มผมยาวนัยน์ตาโศกคนนั้นได้

...ญาณัช...

"ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย มาร้องมาโวยวาย...แล้วก็หลับซะงั้น"

"อือ... พ่อ..." คนที่หลับไปแล้วหันมาคว้าฝ่ามือใหญ่ของชยางกูรเอาไว้ก่อนจะจับไว้แน่น

"... ปันปันรักพ่อ... รักพ่อที่สุดในโลกเลยครับ"

...ปันปัน...

นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างมองเด็กหนุ่มตัวเล็กที่จับมือเขาไว้แล้วซุกหน้าแนบฝ่ามือด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา

...ปันปันรักพ่อ...

มืออีกข้างที่ว่างอยู่ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเล็กเบาๆ ก่อนที่จะก้าวข้ามคนที่นอนอยู่ขึ้นมานอนบนเตียงด้วย

เอาเหอะ...จะถือสาคนเมาทำไม

"อย่าตื่นมาด่าแล้วกันไอ้เด็กดื้อ" ชยางกูรพูดข้างหูน้องชายต่างสายเลือดก่อนจะสอดตัวลงใต้ผ้าห่มด้วยความเหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน

...ราตรีสวัสดิ์ น้องชาย...

 

 

 

To be continued..
 



ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
«ตอบ #9 เมื่อ22-04-2012 17:18:28 »

 o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
« ตอบ #9 เมื่อ: 22-04-2012 17:18:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Mio

  • บุคคลทั่วไป
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
«ตอบ #10 เมื่อ22-04-2012 17:24:34 »

ว้าวๆๆๆ น้องกระต่ายและเจ้าของที่คิดว่าน่ารักคล้ายกระต่าย  :-[
แอบรู้สึกว่ามันจะกลายเป็นรักสามเศร้าตะหงิดๆ  o18
สามคำ>>>กลัว สาม เศร้า  :z10:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
«ตอบ #11 เมื่อ22-04-2012 21:34:34 »

ตกลงว่าใครนายเอกอะ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
«ตอบ #12 เมื่อ23-04-2012 03:52:24 »

ลุ้นต่อๆๆๆ เหอๆ :D

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 2 [22/04/12]
«ตอบ #13 เมื่อ23-04-2012 22:24:09 »

ตกลงว่าใครนายเอกอะ
[/quot]

แฮ่---- ใบ้ให้แค่ว่าหนุ่มนัยน์ตาโศกเค้ามีเจ้าของแล้วค่ะ ฮิ

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
SCAR : ตราบาปไร้รอยเลือน 3 [29/04/12]
«ตอบ #14 เมื่อ29-04-2012 22:40:04 »

อ๊ากกกกก   นอนไม่หลับค่ะ

ขอแอบมาลงหน่อยนะคะ ฮิ









-3-



"เฮ้ย!!! ไอ้ฝรั่ง มานอนที่นี่ได้ไงวะ???" ปัณวิทย์โวยวายลั่นเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าข้างๆมีผู้ชายตัวโตนอนอยู่ ด้วย ซ้ำยังจับมือเขาไว้ชวนให้รู้สึกขนลุก

"อย่ากวน...." ร่างสูงยังคงไม่ลืมตา เขาพูดเบาๆแล้วซุกหน้าลงกับหมอน เส้นผมสีทองที่ยาวประบ่าปัดชี้ยุ่งเหยิงถูกเสยลวกอย่างไม่ใส่ใจ

"...หนวก..หู.."

ปัณวิทย์ กระชากมือที่ถูกจับไว้ออกมาแล้วรีบคว้ากระต่ายของตัวเองลุกก้าวลงจากเตียง ทันที รู้สึกขนลุกขึ้นมาจนอยากจะอ้วก พอมองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าไม่ใช่ห้องของตัวเอง

"ฟู?!" เขานึกถึงกระต่ายอีกตัวที่ยังอยู่ในห้องได้ก็รีบวิ่งออกจากห้องนอนของชยางกูรทันที

กระต่ายสีขาวตัวน้อยหมอบอยู่ที่พื้น ทันทีที่เห็นเจ้านายและพื้นมันก็ลุกขึ้นมากระโดดวิ่งเข้าหา

ชยางกูรที่ถูกปลุกลุกตามมาที่ห้องของปัณวิทย์ด้วยอารมณ์ที่ติดจะหงุดหงิด

"ทิ้งไว้คืนนึงไม่ตายหรอกน่า ปันปัน"

"!!!??? เฮ้ย!!! ชื่อปัน ไม่ใช่ปันปัน อย่ามาเรียกงี่เง่าเหมือนผู้หญิงนะเว้ย!!" เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกเรียกด้วยชื่อเล่นแบบนั้น ทั้งๆที่เป็นชื่อในความทรงจำงดงามยามเด็ก

...ที่แหลกสลายกลายเป็นธุลีไปแล้ว

ครั้งหนึ่ง ในตอนที่ตนยังได้รับความรักมากมาย บิดาและมารดาก็เคยเรียกเขาเช่นนั้นด้วยรอยยิ้ม

"ก็เห็นละเมอ เรียกตัวเองว่าปันปัน...ชื่อน่ารักดีนี่ น้องปันปัน" ชยางกูรลากเสียงยียวนพลางเดินเข้ามานอนบนเตียงปัณวิทย์หน้าตาเฉย

"ห้องฉันแดดส่อง ยืมหน่อย"

"ไม่ ให้ยืมเว้ย!!! ไปนอนห้องตัวเองไป แล้วอย่ามาเรียกแบบนั้นไอ้ฝรั่ง" เจ้าของห้องถึงกับโวยวายดังลั่นกว่าเก่า เขาเดินเข้ามาถึงเตียงแล้วดึงผ้าห่มออก หมายจะกระชากให้คนที่มาโมเมเอาเตียงเขาเป็นที่หลบแดดได้ล้มกลิ้งลงบนพื้น

"Fuck! แม่งเอ๊ย!" อารามนอนไม่พอก็ร้ายแรงอยู่แล้ว ยิ่งเจอคนกวน ไอร้อนยิ่งกรุ่นขึ้นทวีคูณ

ชยางกูรกระชากทั้งคนทั้งผ้าห่มให้ล้มลงบนเตียงแล้วอาศัยร่างที่หนากว่ากดเด็กหนุ่มผอมบางไว้ใต้ล่าง

"คน ล่าสุดที่ปลุกฉันตอนเช้าโดนเอาไปสองที... อยากลองหรือไงไอ้เด็กเปรต" น้ำเสียงหงุดหงิดแทบจะตะคอกใส่ แต่ใบหน้าหล่อเหลากับโน้มเข้าหา

"โทษที...แต่แกไม่สเปคว่ะ เหม็นกลิ่นเด็กยังไม่โต"

คราวนี้ปัณวิทย์อึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะร้องโวยวายต่ออย่างไม่เกรงใจ

"กูเป็นผู้ชายนะเว้ยไอ้ฝรั่งตุ๊ด ไม่เปคกูก็ไป ไปไกลๆเลย อย่ามานอนบนเตียงกูดิ เหม็นกลิ่นกูก็ลงไปจากเตียงกูดิวะ"

"เป็น ไบ… เอาได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เคยทำผู้ชายแท้ๆเป็นเกย์มาแล้ว… ไอ้คนนั้นมันชอบพูดว่าเกลียดตุ๊ดเลยจับปล้ำแม่ง ตอนนี้ค้นพบตัวเองแล้วเรียบร้อย" ชยางกูรพูดยาวเหยียดในขณะที่มือใหญ่จับลงตรงส่วนอ่อนไหวใต้กางเกงนักเรียน ของปัณวิทย์

"เฮอะ...อันแค่นี้เองเหรอ น้องปันปัน..."

"เฮ้ย! จับอะไรวะไอ้ฝรั่งโรคจิต!!" ปัณวิทย์หน้าถอดสีพลางดิ้นและเตะอีกฝ่ายให้ลุกออกไป

"ไม่เคยช่วยตัวเองหรือไง" ปลายนิ้วที่ชำนาญการไล้เบาๆตรงส่วนที่แข็งเกร็งผ่านผ้าเนื้อแข็ง

"มีอารมณ์แต่เช้า...วันนี้วันอาทิตย์ซะด้วย ถึงฉันจะเกลียดเด็กแต่ยอมเล่นให้ก็ได้..."

"อย่า เฮ้ย--!! ปล่อยดิวะไอ้โรคจิต!!" ถึงจะมีอารมณ์แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายก็อดจะขยะแขยงไม่ได้ ความรู้สึกค่อยๆจางหายไป มีแต่รังเกียจเพิ่มขึ้น

"ปากอย่างงี้โดนมา หลายรายแล้ว" มือที่ลูบไล้เปลี่ยนเป็นขยำอย่างรุนแรงจนคนตัวเล็กกว่าเจ็บจนงอตัว ชยางกูรเกือบจะทำต่อหากแต่เสียงเปิดประตูที่ดังจากข้างนอกกลับรั้งสติเขาไว้ ได้

ร่างสูงลุกจากท่านอนทับพลางดึงเสื้อผ้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอยยิ้มมุมปากจุดขึ้นเล็กๆเมื่อเห็นตาเขียวๆของคนที่นอนงอตัวอยู่มองมาอย่าง แค้นเคือง

"ทีหลังอย่ามาเล่นกับฉัน..."

ญาณัชที่เปิดประตูออก มาได้ยินเสียงโวยวายหยาบคายดังมาจากห้องของปัณวิทย์ก็อดแปลกใจไม่ได้ ปกติแม้จะอยู่ห้องตรงข้ามกันแต่ก็ไม่เคยได้ยินอีกฝ่ายโวยวายอะไรทั้งนั้น

...แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเขา...

มือเล็กกระชับถุงดำมัดให้แน่นแล้วเดินต่อไป

"ฮาย คุณนัท" ร่างสูงเปิดประตูออกมาแล้วส่งเสียงเรียก ชยางกูรยิ้มหวานให้เด็กหนุ่มเงียบขรึม

"ตื่นเช้าจัง จะไปไหนครับ"

"...... ทิ้งขยะครับ" นัยน์ตาสีเข้มเหลือบมองเพียงชั่วครู่ก่อนจะค้อมศีรษะให้อีกทีหมายจะเดินจากไป

"ช่วยนะ" ชยางกูรฉวยถุงในมือมาถือให้โดยไม่รอให้อีกฝ่ายยื่นส่ง

"ปกติขยะต้องเอาทิ้งเองเหรอ ฉันนึกว่าเมดทำให้ซะอีก"

"........................ ผมชอบทำเองครับ" ญาณัชตอบสั้นๆแล้วเดินไปด้วยไม่ให้เสียมารยาท

ชยางกูรหันมองประตูห้องที่ยังเปิดอยู่ของปัณวิทย์ เขาจึงหันกลับมาแล้วเดินไปที่ห้องนั้น

ชายหนุ่มหยุดยืนสบตาเด็กหนุ่มในห้องก่อนจะยิ้มมุมปากอีกครั้ง

...เอาเหอะ...

...กับอีแค่เด็กขาดความอบอุ่นคนเดียว จะไปสนใจทำไม...



...ไอ้เหี้ยฝรั่ง...

เจ้าของห้องลุกไปปิดประตูของตัวเอง นัยน์ตาเรียวได้แต่มองเหม่อด้วยความรู้สึกไม่สงบนิ่ง

...แม่งเป็นไบ...

เขายังรู้สึกถึงความขยะแขยงของตัวเองได้

ถึงอย่างนั้น ปัณวิทย์ก็เห็นสายตาที่มองไปยังญาณัช ดูปราดเดียวก็รู้ว่าฝรั่งโรคจิตคนที่ว่าคิดยังไงกับญาติของเขาคนนี้

...พี่นัทตกอยู่ในอันตรายไหมวะ...



////////////////////////



"คุณพ่อครับ" ชยางกูรมองคนที่ร้อนรนหันกลับมาด้วยสีหน้าที่แสดงความสนอกสนใจปิดบังอาการ

...ทำไมต้องสะดุ้งทุกครั้งที่เรียกว่าพ่อด้วยวะ

"ญาณัชนี่เป็นญาติสายไหนของเราเหรอครับ"

"ลูกน้องชาย...แต่เสียไปนานแล้ว" พลภัทรตอบห้วนๆเหมือนไม่อยากพูดถึง ชายวัยกลางคนยกกาแฟขึ้นจิบ

เมื่อ เช้าชยางกูรได้คุยกับญาณัช คนๆนั้นเป็นคนพูดน้อย...จนดูเหมือนประหยัดถ้อยคำเกินไปด้วยซ้ำ ท่าทางเซื่องซึมดูไม่ค่อยสนใจใคร หากแต่ท่าทางเหล่านั้นกลับชวนดึงดูดมากมายสำหรับเขา

หลังจากคุยกับญาณัชได้นิดหน่อยเขาก็ลงมาหาอะไรกิน จนได้มานั่งทานอาหารเช้ากับผู้เป็นพ่ออย่างนี้

"แล้วทำงานที่ไหนครับ หรือเรียนอยู่ แต่หน้ายังอ่อนๆอยู่เลย"

"ก็ก็องๆแก๊งๆไปตามประสา แกอย่าไปยุ่งกับมันมากเลย... ทั้งสองคนนั่นแหละ" พลภัทรพูดรวบรัดสั้นๆแล้วยกกาแฟขึ้นดื่มจนหมด

"ปัณวิทย์ด้วย?" ชยางกูรเลิกคิ้วถาม

ถึงปากจะบอกยังไง... แต่ท่าทางไอ้เด็กคนนั้นก็ดูจะรักพ่อที่ไม่มีสายเลือดเดียวกันคนนี้มากอยู่

"โดยเฉพาะคนนั้น มันเป็นตราบาปของตระกูลเรา ไอ้เด็กที่เกิดจากความโง่ของเมียฉัน ไอ้ลูกชู้นั่น" พลภัทรแสดงความเกลียดชังออกมาอย่างไม่ปิดบัง

นัยน์ตาสีฟ้าสดหรี่ลงพลางมองประเมินฝ่ายตรงข้าม...

ตัวเขาเองถ้าจะให้บอกว่ารักคนๆนี้ก็พูดได้ไม่เต็มปาก ความผูกพันระหว่างพ่อลูกก็แทบไม่มี เขาเติบโตมากับมารดาที่เป็นผู้หญิงที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร ตัวเขาเองก็ไม่นึกว่าหลังจากมารดาเสียจะต้องมาอยู่ร่วมตระกูลกับคนที่นี่ ด้วยซ้ำ

...แต่เอาเหอะ ในเมื่อเขามีสิทธิ์ เรื่องอะไรจะไม่ใช้ให้โง่...

"งั้น ผมก็เป็นตราบาปของคุณสินะ...ลูกชายที่เกิดจากชู้รัก...เหมือนปัณวิทย์..." ชยางกูรถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะลุกเดินออกจากห้องอาหารโดยทิ้งจานที่ไม่ ได้แตะต้องไว้

...เขาไม่เคยรักพลภัทร...

...และไม่เคยคิดว่าต้องรักเลยด้วยซ้ำ...



////////////////////////



"นี่ เดี๋ยวปิดเทอมไปทะเลกันดีไหม พ่อให้ไปนอนที่บ้านได้" ไอลดาพูดขึ้นมาขณะที่กำลังม้วนเส้นสปาเก็ตตีเข้าปาก

"ถามไอ้อัฐไอ้ซายน์ด้วยสิ" ปัณวิทย์พูดแล้วพยักหน้าไปทางฝั่งตรงข้ามที่มีเพื่อนซี้นั่งฉีกยิ้มกว้างจนเหมือนสุนัขรอกระดูกจากเจ้านาย

"ไปไหม" เด็กสาวถามพร้อมเสียงหัวเราะ

"จัดไปอย่าให้เสียคร้าบ พาเพื่อนๆไปด้วยดิ่ คนไม่มีแฟนก็เหงาเป็นนะ" อาธิปพูดเสียงทะเล้น

"เชี่ย หน้าหื่นมาก" ศิวะพูดพลางหัวเราะลั่น

"เหยย กูจริงจังว่ะ อยากมีแฟน"

"ใครอยากเป็นแฟนมึงไอ้อัฐ... ไอซ์แนะนำให้ฉันแทนดีกว่า ศิวะหน้าตาดี ใจดีเทคแคร์เก่ง"

"...แถมหน้าเหมือนศิวะลึงค์ด้วย"

"ไอ้เชี่ยอัฐ!!!"

"จริงๆ ซีก็แอบสนใจซายน์ตั้งแต่คราวก่อนแล้ว เดี๋ยวชวนไปอีกรอบน่าจะโอเคแหละ" ไอลดาขยิบตาให้พลางหันไปม้วนเส้นสปาเก็ตตีแล้วยื่นไปตรงหน้าคนข้างๆ

"อ้ามนะปัน..."

ปัณวิทย์ยิ้มให้ก่อนจะอ้าปากรับเอาสปาเก็ตตีที่แฟนสาวตั้งใจป้อนให้

...มีเพื่อน...

...มีแฟนแบบนี้...

...ก็มีความสุขดีแล้ว...

...แต่ทำไม ถึงยังต้องรู้สึกว่างเปล่าด้วยนะ...



///////////////////////////////





To Be Continued......

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 3 [29/04/12]
«ตอบ #15 เมื่อ29-04-2012 23:37:14 »

-w-;; ช่องโหว่ในจิตใจ

qwank8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 3 [29/04/12]
«ตอบ #16 เมื่อ29-04-2012 23:52:34 »

สงสารปันปันวะ ความรู้สึกคือไม่ชอบไอ้เชี้ยหรั่ง
ทะยานเข้าไปมึง ถ้าเกิดตกมาแล้วกูจะเอาตีนน้องปันขยี้ให้แหลกเลยแสด
55555555555555

...อินไปเปล่า  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 3 [29/04/12]
«ตอบ #17 เมื่อ30-04-2012 00:25:58 »

สงสารปันปัน ทำไมต้องโทษเด็กด้วย
ทั้งที่เป็นความผิดของผู้ใหญ่อ่ะ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 3 [29/04/12]
«ตอบ #18 เมื่อ30-04-2012 00:41:02 »

ปัน
กับน้องกระต่าย...

น่ารัก :'D

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 4 [04/05/12]
«ตอบ #19 เมื่อ04-05-2012 22:33:12 »

-4-




จะว่าสงสารหรือเห็นใจก็แล้วแต่...แต่ตอนนี้ชยางกูรมายืนอยู่หน้าห้องของปัณวิทย์พร้อมถุงในมือแล้ว

ร่างสูงมองไปรอบๆอย่างลังเลใจครู่หนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจเคาะเบาๆที่ประตู

"ปัน...ฉันเอง"

เรื่องเมื่อเช้าดูจะเริ่มต้นแย่ไปหน่อย แต่มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ....ถ้าขอโทษคงได้มั้ง

"ปัน...เปิดให้หน่อย"

"ไม่เปิดเว้ย มีอะไรไอ้ฝรั่ง" เจ้าของห้องตะโกนออกมาให้ได้ยินชัดเจน

...จะมาก่อกวนอะไรอีกวะ...

"ทานข้าวยัง" ชายหนุ่มตอบไปด้วยเสียงที่ไม่ดังมาก แต่คงได้ยินชัดเจน

"ซื้อขนมมาฝาก...มีของให้ฟูกับฝุ่นด้วย"

ปัณวิทย์ ถึงกับลุกขึ้นนั่งด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจอีกฝ่ายว่าจะมาไม้ไหน แต่พอได้ยินคำว่ามีของให้ฟูกับฝุ่น กระต่ายสองตัวที่เขารักมากกว่าใครเลยทำให้ต้องยอมลุกไปเปิดประตู ถึงอย่างนั้น บนใบหน้าก็ยังปราศจากรอยยิ้ม

".... ขอบใจ..."

"เข้าไปหน่อยได้ไหม..." ชยางกูรมองหน้า ดวงตาสีฟ้ากระจ่างสบตากับดวงตาดื้อรั้น

"เมื่อเช้าขอโทษนะ" พอได้พูดออกมาก็รู้สึกโล่งใจ

การที่ทำเรื่องแบบนั้นกับเด็กหนุ่มปกติ...เป็นใครก็รับไม่ได้

...แต่ตอนนั้นมันแค่โมโหไปหน่อย...

เจออีกฝ่ายมาไม้นี้ ปัณวิทย์ถึงกับพูดไม่ออก แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องกวนประสาทกันขนาดนั้นก็เลยตัดสินใจจะตอบเฉยๆไป

"... ตกใจเป็นนะ สรุปอำเล่นเรอะ"

ชยางกูรยิ้มให้คำถามนั้น เขายื่นกล่องเค้กให้เด็กหนุ่มตรงหน้าตบท้ายด้วยรอยยิ้ม

"เค้กใกล้ๆบริษัท น่ากินดีเลยซื้อมาฝาก กระต่ายนอนเหรอ?"

"อือ... นอนอยู่... เค้กอะไร..." เด็กหนุ่มที่ชื่นชอบเค้กเป็นพิเศษอดไม่ได้ที่จะถามต่อ คนตัวเล็กกว่าขยับหลีกทางคล้ายกลับเป็นการเชิญอีกฝ่ายเข้ามาในห้อง

"เค้กทีรามิสุ บลูเบอรี่ชีสโอริโอ้ แล้วก็สตรอว์เบอรี่ครีมสด"

ท่าทีที่อ่อนลงเพราะเค้กทำให้อดยิ้มไม่ได้ มือใหญ่ยื่นเค้กให้ปัณวิทย์แล้ววางถุงอาหารกระต่ายกับปลอกคอสีสวยไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือ

"นายชอบอันไหน..."

"บลู เบอร์รี่" คิ้วขมวดเค้าหากันน้อยลงแต่ท่าทีก็ไม่ได้เป็นศัตรูท่าเดียวเหมือนแต่ก่อน เขาก้มลงไปดูถุงที่อีกฝ่ายวางลงแล้วเงยหน้าขึ้นถาม

"ของฟูกับฝุ่นเหรอ...."

"อืม..อาหารกระต่ายกับปลอกคอน่ะ ตอนเย็นไปเดินห้างเลยซื้อมาฝาก....ขอโทษที่วันก่อนทำหล่น"

...ถึงจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่แค่เรื่องทำผิดแล้วต้องขอโทษก็พอรู้หรอก...

"ฉันไม่อยากเป็นศัตรูของนาย เพราะนายก็เหมือนฉัน... ฉันก็เหมือนนาย นายไม่รู้ว่าพ่อเป็นใคร ฉันเอง... มีพ่อก็เหมือนไม่มี"

".... มีแม่ไม่ใช่เหรอ" ปัณวิทย์เอ่ยถามเสียงเรียบ

...เพราะตัวเขาไม่มีทั้งสอง...

"มัม เสียแล้ว..." พูดแล้วอดขมขื่นไม่ได้ ตอนที่แม่มีชีวิต พลภัทรแทบไม่เคยมาเยี่ยมเยียน แต่พอเสียกลับดึงตัวเขากลับมาที่นี่เพียงเพราะจะให้มาคานอำนาจกับคณัศนันท์ ลูชายแท้ๆของตัวเองกับเพ็ญแข

"นายก็มีคุณเพ็ญแขไง เขาเป็นแม่แท้ๆนี่"

"......... แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าแม่... เข้าใจหรือเปล่า...." น่าแปลกที่ตัวเองกลับคุยกับชยางกูรได้อย่างสงบดีต่างจากเมื่อวานหรือตอนเช้า ที่แทบจะฆ่ากันด้วยซ้ำ

"ทำไมถึงเรียกไม่ได้ล่ะ... ก็เขาเป็นแม่นายนี่" ชยางกูรแปลกใจกับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แค่พลภัทรก็ว่าไปอย่าง นี่กระทั่งแม่แท้ๆ..

"โทษที ถามมากไปหรือเปล่า" มือหนาวางบนศีรษะกลมๆแล้วลูบเบาๆ

"ก็.. เขาไม่ให้เรียก... เหมือนพ่อน่ะแหละ.. ก็ไม่ให้เรียก...." ปัณวิทย์ตอบโดยไม่สนใจคำถามที่สอง มือค่อยๆเปิดกล่องเค้กออกมา

"น่าอร่อย....."

"ชอบก็กินสิ ไว้จะซื้อมาฝากอีก" คนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายนึกเอ็นดูขึ้นมากับท่าทีที่อ่อนลง

อัน ที่จริง...แค่ท่าทางยามโกรธหรือถูกแตะต้องของที่รักเท่านั้นที่ดูน่าซัดสัก ที แต่เวลาอยู่กับกระต่าย...ครอบครัวของปัณวิทย์ เด็กหนุ่มคนนี้ก็ดูอ่อนโยนขึ้น

...คงไม่ได้เลวร้ายขนาดที่คุณพ่อพูดหรอก...

"จับได้ไหม" ชยางกูรย่อตัวลงไปมองเจ้าตัวเล็กบนเบาะนอนที่ลืมตาแป๊วขึ้นมาแล้ว ขนฟูนุ่มตัวอ้วนขยับดุ๊ดดิ๊กไปมาน่าสัมผัส

"ไง...อาหารสำรองเบอร์1"

".... บอกว่าไม่ใช่อาหารสำรอง... ชื่อฟู จะเรียกก็เรียกให้ดีๆ..." เด็กหนุ่มทำเสียงเข้มขณะใช้ส้อมจิ้มเค้กเข้าปากทีละคำ

"ได้มาตั้งแต่ตัวนิดเดียว... เลี้ยงไว้จนติดแล้ว... ทั้งสองคนเป็นครอบครัวของฉัน...."

"เก่ง นะ เลี้ยงจนเชื่องได้ขนาดนี้" ปลายนิ้วค่อยๆลูบตามขนสีขาว เจ้าฝุ่นที่เพิ่งตื่นกระโดดจากเบาะนอนมากระแซะข้างเท้า..เออเว้ย เชื่องจริงๆ

"ใส่ปลอกคอไหม หรือว่าไม่ให้ใส่" ชยางกูรเงยหน้ามอง

...โห..ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ...

ปกติมีใครที่ไหนบ้างที่จะมานั่งกินต่อหน้าคนที่เมื่อวานแทบตีกันตาย แถมยังกินจนเกือบหมดแล้วด้วย

"มัน จะอึดอัดหรือเปล่า" คล้ายกับว่าเค้กที่เอามาให้จะเหมือนกับเป็นอาหารติดสินบนให้พูดดีด้วย ปัณวิทย์เอื้อมหยิกอีกกล่องมาเปิดดูเพื่อหยิบสตรอว์เบอร์รี่เค้กออกมา

"ไม่รู้ดิ่ แต่อันเล็กเอง คนขายบอกใส่ได้" เขาอุ้มเจ้าสองตัวขึ้นมาแล้วเดินไปหาปัณวิทย์

"อ่ะ ใส่ให้สิ"

เขา ล้วงหยิบปลอกคอหนังสองเส้นขึ้นมา สีขาวกับสีเทาเส้นเล็กๆดูเหมาะกับทั้งสองตัวดี ปัณวิทย์รับฟูมาอุ้มไว้ก่อนจะพาดเส้นสีเทาเข้ากับลำคอ

"อันนี้ให้ฟูนะครับ" ไม่พูดเปล่า แต่ยังยิ้มให้กับกระต่ายตัวอ้วนที่นอนนิ่งให้เจ้านายใส่ปลอกคออย่างน่าเอ็นดู

"พูดกับกระต่ายใจดีเชียวนะ" ชยางกูรเห็นแล้วอดไม่ได้

รอยยิ้มหวานกับดวงตาอ่อนโยนที่มองมายังฟูกับฝุ่นทำให้รู้สึกอ่อนเยาว์ขึ้น.....เหมือนเด็กเล็กๆที่ได้ของถูกใจ

"ไหนเรียกพี่เดฟมั่งสิ"

".... ทำไมต้องเรียกพี่เดฟด้วย..." เขาเงยหน้ามองพลางทำยุ่ง ก่อนจะค่อยๆใส่ปลอกคอสีขาวให้กับเจ้าฝุ่น

"... จะลองดูก็ได้............... พี่เดฟ...."

"................." ...โอเค เขาดีใจ มากๆด้วยที่เจ้าตัวยอมเรียกชื่อแล้ว

ชยางกูรลอบมองดูใบหน้าของเด็กที่ยังโตไม่เต็มที่ แต่ก็น่ามองกว่าที่ผ่านมา

"เรียกอย่างนี้ก็ดีนะ ดูน่ารักขึ้นมาหน่อย"

พอได้ยินคำว่าน่ารัก เหมือนปัณวิทย์จะนึกอะไรขึ้นมาได้

"เดี๋ยว เมื่อเช้าที่พูดออกมา นั่นอำให้ฉันตกใจ หรือเป็นเสือไบจริงๆ"

"แล้วปันคิดว่าไง" ชายหนุ่มผมทองเลิกคิ้วแล้วระบายยิ้มพร้อมถามกลับ

"ฟูกับฝุ่นว่าไง...หืม?" ชายหนุ่มแหย่นิ้วเข้าปลายคางแล้วลูบเบาๆ

".......... จะรู้เหรอ? แต่ที่นี่เค้าไม่ต้อนรับพวกผิดเพศหรอกนะ" เด็กหนุ่มเจ้าของห้องเอ่ยตอบพลางตักเค้กสตรอว์เบอร์รี่กิน

"ขนาดนั้นเลยเหรอ....." ชยางกูรยิ้มแล้วแค่นหัวเราะ

....งั้นก็คงอยู่ลำบาก...

"ทำไมล่ะ"

"..... อาพีท... ที่ดูแลพี่นัทน่ะเป็นเกย์ เลยโดนที่บ้านแบนน่ะ" ปัณวิทย์ตอบตามตรง

"แต่โดนรถชนตายไปแล้ว"

"มิน่าล่ะ ดูคุณนัทตาเศร้าๆ" พอนึกถึงใครอีกคน ในอกเหมือนมีอะไรพองฟู

"ปันกับคุณนัทสนิทกันไหม"

"..... เคยสนิท..... แต่พออาพีทไม่อยู่ก็เปลี่ยนไปเลยไม่ได้คุยกันเลย" เขาตอบพลางจิ้มลูกสตรอว์เบอร์รี่ใส่ปากก่อนจะยิ้มออกมาจางๆ

"สงสารเนอะ" ชยางกูรพูดเบาๆ

"แล้วนี่ไม่คิดจะให้ฉันกินมั่งเหรอเค้กน่ะ" เสียงทุ้มแกล้งร้องท้วงเมื่อเห็นว่าชิ้นที่สองถูกกินไปค่อนอันแล้ว

"....... โทษที" เขาส่งส้อมคืนให้กับคนซื้อมาฝาก

...พอคุยกันดีๆก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น...

"ล้อเล่นน่า กินไปเหอะ ซื้อมาฝาก" ร่างสูงขยับตัวมาทิ้งร่างบนเตียงนอนแล้วปล่อยให้ 'เด็กๆ'ปีนป่ายซุกบนตัวอย่างสนุกสนาน

".............. ยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย..." คนที่เพิ่งนึกออกตักเค้กกินต่อโดยไม่หันมามองหน้าชยางกูรที่นอนอยู่

"คำถามอะไร" ชยางกูรแสร้งทำไม่รู้

"เป็นไบจริงเหรอ"

"จริง" คนที่นอนอยู่ตอบรับหน้าตาเฉย เพราะไม่รู้สึกว่าต้องปิดบังอะไร

...คนที่เหมือนๆกัน ขาดความรักเหมือนกัน ถ้ามีเพิ่มอีกสักเรื่องคงไม่ทำให้เกลียดกันได้หรอกมั้ง

"เรื่อง ผู้ชายที่ปล้ำด้วย หลังจากนั้นก็คบกันเกือบปี แต่โดนนอกใจเลยเลิกกัน ตอนนี้หมอนั่นก็คบกับแฟนหนุ่มอายุน้อยกว่า เปิดเผยด้วยนะ" ชยางกูรเล่ากลั้วเสียงหัวเราะ

"เชื่อปะ"

".........." ปัณวิทย์เงียบไป ถ้าอย่างนั้น แววตาที่มองญาณัชก็คงหมายถึงอย่างนี้

"ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ...." เขาตอบเสียงเรียบ

"ถ้าเขารู้ อาจจะไม่ยอมรับนะ"

"หมายถึงใคร...คุณพ่อนะเหรอ.."ถามกลับก่อนจะหัวเราะขึ้นจมูก

"ฉัน ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะว่ายังไง ในเมื่อฉันไม่เคยมีความผูกพันกับเขามานานเท่ากับอายุ เรื่องอะไรต้องไปแคร์" ชยางกูรวางกระต่ายในมือแล้วลุกขึ้นนั่งแทน

"นายล่ะปัน พี่ชายเป็นไบรู้สึกยังไง"

"........................ ตรงๆปะ?" เขาเงยหน้าจากเค้กขึ้นมามองคนตรงหน้า

"..... ก็... รู้สึกว่าประหลาดมั้ง แต่ไม่เกลียดนะ"

"เนี่ยแหละ คุณหนูน้อยในหอคอยงาช้าง" ชยางกูรพูดยิ้มๆ

"โลก มันไม่ได้มีแค่ชายหญิงหรอก ซับซ้อนกว่านั้นยังมีอีกเยอะ นายยังเด็กเกินไปละมั้งสำหรับเรื่องนี้" เขาจิ้มพุงกระต่ายตัวน้อยที่กำลังทำหน้าเคลิ้ม

"คนเราก็เหมือนกระต่ายแหละ กิน นอน เซ็กส์”

"อืม...... ก็คงงั้นแหละ" ปัณวิทย์ไม่เถียง เพราะตัวเขาเองตอนนี้ก็ทำตัวแบบนั้น

เด็กหนุ่มตักเค้กคำสุดท้ายเข้าปากก่อนจะพูดต่อ

"พี่เดฟ... ขอบใจ... เค้กอร่อยดี...."

"พูดงี้จะไล่กลับห้องป่ะเนี่ย" ร่างสูงเด้งตัวขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา

"ไว้ออกไปกินด้วยกัน ให้นายพาฉันนำเที่ยวกันหน่อย...ชวนคุณนัทไปด้วยได้ไหมนะ" ประโยคสุดท้ายเหมือนคุยกับตัวเองเบาๆ

...แหง...

...แหงๆ...

"ก็ ได้แหละ ถ้าหาเจอนะ พี่นัทเก็บตัวอยู่ในห้องแทบไม่ออกมา" ปัณวิทย์ดูจะตื่นเต้นกับสมาชิกครอบครัวที่เพิ่มมาใหม่คนนี้เล็กน้อย ไม่ว่ายังไง เขาก็ยังเป็นเด็กที่อยากได้ความเอาใจใส่อยู่ดี

"พี่นัท ของปันมีแฟนยังอ่ะ จีบได้ป่ะ โคตรสเปคเลย" แค่มองดูก็รู้ว่าเด็กนี่น่าจะพอรู้ว่าเขาพอใจในตัวญาณัช เพราะงั้นถ้าบอกไปแล้ว... อาจจะพอมีทางให้สนิทสนมกับคนเก็บตัวได้ก็ดี

"แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไปก็งี้เลย ตาเศร้าๆ ผมยาว น่าทะนุถนอม"

"...... ไม่รู้... ลองถามดิ" เด็กหนุ่มหรี่ตามองก่อนจะส่ายศีรษะไปมา

"ช่างเหอะ...งั้นไปก่อนนะ ฝันดีนะไอ้เด็กดื้อ" มือใหญ่วางลงบนเส้นผมสีดำนุ่มละเอียดแล้วขยี้เบาๆ

"ฝันดี... พี่เดฟ" นัยน์ตาเรียวไร้แววดื้อรั้นเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย

"อือ" ชยางกูรรับคำพร้อมรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู

...บางที...

...เพราะอยู่ในสถานการณ์ใกล้เคียง ถึงได้เข้าใจกันได้ง่าย...

"ปันก็รีบอาบน้ำนอนล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว"

"อือ...." เขาตอบรับเสียงเบาพลางลุกไปส่งชยางกูรที่หน้าประตู

"ขอบใจนะ" น้ำใจของคนที่อุตส่าห์ลุกมาส่งหน้าห้องทำให้อดยินดีไม่ได้

"โรงเรียนปันอยู่ที่ไหน ให้ฉันไปรับไหม พรุ่งนี้จะได้ไปซื้อขนมกัน"

".... ไม่เป็นไร ฉันไปต่อ... ไม่กลับบ้านทันทีหรอก" เขาหัวเราะเบาๆเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายมองเขาเหมือนเด็กๆ

"แล้วอย่าเมาเหล้ากลับมาร้องไห้ใส่แบบวันก่อนอีกล่ะ"

...พอหัวเราะก็ดูหน้าตาเป็นผู้เป็นคนกับเขาเหมือนกันแฮะ...

"บอกฟูกับฝุ่นด้วยว่าฝันดี"

"รู้แล้วน่า" ปัณวิทย์ทำเสียงขุ่นพลางรอให้อีกฝ่ายเดินถอยไปจึงได้ปิดประตูลง

...บางที...

...อาจจะไม่เลวร้าย...

...อย่างที่คิดไว้...






To be Continued......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 4 [04/05/12]
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-05-2012 22:33:12 »





Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 4 [04/05/12]
«ตอบ #20 เมื่อ04-05-2012 22:41:51 »

 :L2:เปนกำลังใจค่า

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 4 [04/05/12]
«ตอบ #21 เมื่อ04-05-2012 23:21:00 »

 :impress2:

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 4 [04/05/12]
«ตอบ #22 เมื่อ05-05-2012 00:01:46 »

ปันน
น่ารักๆๆๆๆ

แต่ดูเดฟ...เจตนายังไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่นะะ
คริคริ

+1
:'D

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 4 [04/05/12]
«ตอบ #23 เมื่อ05-05-2012 00:30:25 »

=_=''' ไม่เข้าใจคุณพ่อเลย

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 5 [14/05/12]
«ตอบ #24 เมื่อ14-05-2012 14:26:12 »

Kagehana : แฮ่--- อย่าเพิ่งรีบเกลียดคุณพ่อเลยนะคะ ยังมีให้เกลียดอีกเยอะ 555  ส่วนพี่เดฟ.........รอดูไปก่อนนะคะ



-5-





"ปัน ลงไปดูที่จอดให้หน่อยไป" คนที่เป็นคนขับพูดบอกคนนั่งข้างๆที่เอาแต่แหย่กระต่ายบนตัก

"เฮ้ย-- บอกให้ลงไปดูให้หน่อย เดี๋ยวชนขอบ" ชยางกูรพูดซ้ำ

จาก วันที่ญาติดีกัน เวลาเพียงสามเดือนก็ทำให้ชยางกูรกับปัญวิทย์สนิมสนมกันเหมือนพี่น้องจริงๆ ในบางวันที่ปัณวิทย์เกิดอาการขี้เกียจ..ชยางกูรก็จะออกไปรับตอนเย็นแล้วพาไป เดินหาขนมเล็กๆน้อยๆมานั่งทานในห้อง

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ของกลางเดือน ชยางกูรที่ว่างไม่มีอะไรทำเลยชวนทั้งคนทั้งกระต่ายให้ออกมาที่คาเฟ่ที่พาสัตว์มาได้

"ไม่ ต้องเฮ้ยก็ได้ ดูเด็กๆให้ด้วย" เด็กหนุ่มพูดห้วนคืนบ้างพลางเปิดประตูรถแล้วก้าวลงไปโบกให้ ถึงจะพูดจารุนแรงใส่กันบ้าง แต่ก็ติดไปทางไม่เป็นจริงเป็นจังมากกว่า กลับกัน เขาต้องยอมรับว่าชยางกูรทำให้เขารู้สึกถึงการมีคนในครอบครัวเอาใจใส่

...เหมือนเมื่อก่อนที่พิชญ์ก็แวะเวียนมาหา มาชวนทานข้าวบ้าง

ชยางกูรถอยรถช้าๆพลางขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเด็กโบกรถมือใหม่ จนเมื่อจอดได้เขาก็อุ้มเจ้าสองตัวใส่ตะกร้าลงจากรถแล้วเดินไปหาเจ้าของ

"อ่ะปัน นายถือเข้าไป"

"เออ" เขารับมาถือไว้อย่างเบามือพลางเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในร้าน กลิ่นหอมหวานๆของเนยและวานิลลากับผลไม้หอมกรุ่นไปทั่วร้าน เค้กหน้าต่างๆได้รับการจัดวางอยู่บนตู้โชว์สวยงามชวนให้น้ำลายสอขึ้นมา

"นั่งไหนอะ"

"ที่ จองไว้...ชยางกูรครับ" วันนี้ชยางกูรใส่เสื้อเชิ้ตสีม่วงอ่อนๆพับแขนกับกางเกงยีนส์เข้ารูปสีขาว เมื่อบวกกับผมสีทองสลวยและนัยน์ตาเจ้าชู้ทำให้ใครหลายคนอดหยุดสายตาที่เขา ไม่ได้

...ไม่เว้นแม้แต่สาวเสิร์ฟตรงหน้านี้ด้วย

"ตะ..ตรงโซฟาเลยค่ะ สองทีกับกระต่ายสองตัวนะคะ มีจัดเบาะไว้แล้วค่ะ" หญิงสาวผายมือไปตรงโซฟาน่ารักๆที่อยู่ถัดไป

"ขอบคุณมากครับ" ตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานที่ทำให้คนมองเคลิ้มไป

"ไปเลยปัน เดี๋ยวน้ำลายหกใส่ตู้เขา"

"ปากหมาแล้วครับพี่เดฟ" อดไม่ได้ที่จะกัดเมื่อถูกอีกฝ่ายล้อเลียน ปัณวิทย์เห็นสายตาสาวๆที่มองมาแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาเล็กๆ

"หมา ไม่เท่านายหรอก" ชยางกูรเดินนำไปที่โซฟาแล้วทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างรอคนกับกระต่ายเดินตามมา มือใหญ่หยิบเมนูขึ้นมาดูเร็วพร้อมกับสั่งแทบทันที

"ชาสตอรว์เบอรี่ร้อน แล้วก็เค้กลาวาช็อกโกแลตทานคู่ไอศกรีมวานิลลานะครับ"

"เฮ้ย ไม่รอ! เอาสตรอว์เบอร์รี่สมูธตี้กับบลูเบอร์รี่ชีสพายครับ" คนที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะรีบโวยวายต่อ

"แล้วของอาหารสำรองเอาอะไร" ชายหนุ่มพูดแล้วหันไปคุยกับพนักงาน

"ชื่อกระต่ายน่ะครับ น่ารักไหมชื่ออาหารสำรองเบอร์1กับ2"

"เฮ้ย! บอกว่าชื่อฟูกับฝุ่นครับไอ้คุณพี่เดฟ" เจ้าของกระต่ายท้วงทันที

"แครอทแท่งหรืออาหารเม็ดไหมคะ ทางร้านเรามีบริการนะคะ" หญิงสาวยิ้มหวานตอบเสียงเชื่อม

"เอาไรอ่ะปัณ"

"แครอทแท่งก็แล้วกันเนอะครับเด็กๆ" เขาหันไปพูดกับกระต่ายสองตัว

ทันทีที่พนักงานเดินไป เจ้าฝุ่นตัวกลมก็ถูกอุ้มมานั่งที่ตักแล้วลูบเบาๆ ขนอ่อนนุ่มสีฝุ่นสมชื่นให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มน่าสัมผัส

"แล้วเจ้าสองตัวนี้ปันได้มายังไงเหรอ ใครซื้อให้"

"ซื้อเอง..." เขาตอบพร้อมรอยยิ้มขณะลูบหัวเจ้าฟูเบาๆ

"น่ารักเนอะ"

"น่ารัก..." ทั้งรอยยิ้มของเจ้าของและกระต่ายเลย

ปัณวิทย์ ไม่ได้อยู่ในสเปคของคนแบบที่ชอบ เจ้าตัวทั้งดื้อ ทั้งเอาแต่ใจในบางที แถมยังไม่หวานใส่...แถ่ถึงอย่างนั้นชยางกูรก็กลับเอ็นดูมากขึ้นในทุกๆวันที่ อยู่ด้วยกัน

...เหมือนน้องชาย..ที่เขาไม่เคยมี...

...เหมือนคนขาดความรักสองคนมาเติมเต็มความอบอุ่นบางๆให้กัน...

"หน้าตาไม่น่าเลี้ยงกระต่ายเลยเหอะ จริงๆถ้าบอกว่าเลี้ยงอีกัวน่าหรืองูยังน่าเชื่อกว่า" ชยางกูรแกล้งยั่วด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะ

"อะไรวะครับ ก็มันน่ารักทั้งสองคน แปลกตรงไหน" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพลางทำหน้าย่นใส่ฝ่ายตรงข้าม

"เออ.. เกือบลืม อาทิตย์หน้าปิดเทอมแล้ว จะไปทะเลกับเพื่อนที่โรงเรียนนะ"

"ไปกับเพื่อนหรือสาว ไอ้เด็กทะลึ่ง" ทะเลเมืองไทยกับสาวๆ...ไม่ว่าใครก็เสร็จแน่ๆ บรรยากาศดีขนาดนั้น

"อย่าลืมป้องกันนะเว้ย เป็นพ่อคนตอนยังไม่จบไม่สนุกแน่ๆ"

"ทั้ง เพื่อนทั้งแฟนแหละ ไม่ต้องห่วง รู้จักป้องกันเว้ย" เขายิ้มยิงฟันจนตาหยี กับไอลดาคบกันได้ไม่นานก็มีอะไรกันแล้ว ปัณวิทย์เองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร

สังคมรอบๆส่วนใหญ่ก็แบบนี้...

"ตัวเท่านี้ทำฟรีเซ็กส์ ระวังเหอะเดี๋ยวโดนจับขึ้นมาจะเดือดร้อน" ชายหนุ่มพูดหยอก

"แต่ตอนฉันอายุเท่านายก็แบบนี้แหละ กิน นอน เซ็กส์ เรียน วนไปวนมา บางวันก็เข้าคลับกลับเช้าโดนมัมด่าด้วยซ้ำ"

เมื่อ นึกไปถึงช่วงชีวิตวัยเรียน เขาเองก็ซ่ามาไม่น้อย วันนึงนอนกับสาวสวย อีกวันได้กอดเด็กหนุ่มน่ารัก...จนเมื่อมารดาเสียนั่นแหละถึงได้เปลี่ยนแปลง แล้วงดเรื่องพวกนั้นไปบ้าง

"เห็นปะ ก็พอกัน ฉันคบกันมาจะครบปีแล้ว" ปัณวิทย์พูดคล้ายกับอยากจะอวดทับบ้างตามประสาน้องเล็ก

"สองปีฉันยังเลิกมาแล้วเลย แม่งนอกใจ...แถมคนใหม่ถ้าหล่อกว่าจะไม่ว่าเลย" ชยางกูรนึกถึงแฟนเก่าคนนั้นแล้วอดขำไม่ได้

เสียงคุยเงียบลงเมื่อพนักงานสาวเดินมาเสิร์ฟเค้ก เธอวางของที่สั่งไว้ตรงหน้าแล้วก้มหัวทีหนึ่งก่อนจะเดินจากไป

"เฮ่ย-- น้ำลายยืดแล้วปัน"

"ยืดไรวะ! ไม่มีครับพี่" ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่มือก็ยกขึ้นเช็ดไปโดยไม่รู้ตัว

ชยางกูรหัวเราะลั่นจนเจ้าตัวน้อยในตักตกใจ ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะแล้วลูบปลอบเบาๆ

"อันที่จริงนายก็หน้าตาดีนะปัน เสียอย่างเดียว...เอ๋อไปหน่อย งี้ไม่ถูกเพื่อนแกล้งแย่เหรอ"

"ไม่มีเว้ย! ไม่ใช่ส่วนล่างของห่วงโซ่ครับ" เขาตอบเสียงเข้มพลางหยิบแครอทแท่งมาป้อนให้กับเจ้าตัวบนตัก

"โห รู้ป่ะ ถ้าคนเป็นเกย์พูดแบบนี้นะ...." ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าไปใกล้แล้วแกล้งใช้ปลายนิ้วจับคางมนบิดไปมา

"ร้อยทั้งร้อย...แม่งรุกไม่รอดชัวส์"

"เฮ้ย!!" ปัณวิทย์สะดุ้งที่ถูกจับคางจนเจ้าฟูตกใจ

"ตกใจเว้ย อย่าเล่น ไม่ขำครับ"

"ฮะ ฮะฮะ ล้อเล่นน่าๆ" ชยางกูรเอื้อมหยิบแครอทแท่งส่งให้ฝุ่นเอาไปแทะแล้วยกวางลงบนเก้าอี้ปล่อยให้ กินอย่างสบายใจ เขาตักไปตรงกลางเค้กช็อกโกแลตอุ่นๆ ทันทีที่จรดช้อนลง น้ำด้านในก็ไหลออกมาสมกับชื่อเค้กลาวา เขาตักเข้าปากพร้อมไอศกรีมก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ

"เจ๋ง ชิมไหมคุณน้องชาย"

"... เยิ้มว่ะ" เขาพูดเสียงขุ่นแต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะลองชิม เด็กหนุ่มจับส้อมแล้วลองตัดมาชิมบ้าง รสหวานปนขมของช็อคโกแล็ตทำให้ยิ้มออกมา

"อือ อร่อยดี"

"ใครจะไปกินเค้กหวานแหววแบบนายล่ะ" ชาสตอรว์เบอรี่ร้อนถูกเทจากกาเป็นสองแก้วแล้วเลื่อนไปให้

"อ่ะ เอาไว้ตัดเลี่ยน"

"ไม่เลี่ยน มีสมูธตี้แล้ว" เด็กหนุ่มแยกเขี้ยวใส่พลางทำเมินชาถ้วยนั้น

"งั้นเดี๋ยวให้ไอ้เบอร์สองกินแทนนะ" ชยางกูรขู่พร้อมทำท่าจะยกถ้วยให้กระต่ายน้อย

"เอ๊ยไม่เอา เดี๋ยวท้องเสีย!" เขารีบคว้าคืนมาทันทีก่อนจะค้อนให้ที

ชยางกูรยิ้มขำกับอาการของคนตรงหน้า เขายกชาร้อนๆขึ้นจิบให้กลิ่นหวานอมเปรี้ยวซึบซาบเข้าสู่ร่างกาย

...แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว...

การได้ใช้ช่วงเวลาดีๆกับใครสักคนในบรรยากาศสบายๆอย่างนี้..เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

...คนที่เข้าใจกัน แม้จะเคยทะเลาะจนจะเป็นจะตาย

...บางทีเขาคงแพ้เด็กนี่ตั้งแต่ที่เห็นความอ่อนแอในวันแรกๆที่ได้เจอกัน...

"วันนี้เลี้ยงฉันใช่ไหม?"

"เฮ้ย!! ไม่เลี้ยง!! ไม่มีตังค์แล้วเดือนนี้!!" พอได้ยินอย่างนั้นเขาก็รีบร้องท้วง

"เอาไปไหนหมดล่ะ นี่มันเพิ่งกลางเดือนเองนะปัณ...." ชยางกูรขมวดคิ้ว

"....ฉันเลี้ยงก็ได้แต่ถามอีกข้อก่อน ค่าขนมตอนนี้ใช้พอหรือเปล่า"

"พอ... ถ้าเลี้ยงไม่พอแน่... จะเก็บตังค์ซื้อไอโฟน..." เขาตอบพลางตักพายของตัวเองเข้าปาก

"แล้ว เก็บได้เท่าไหร่แล้ว" ชยางกูรนึกชื่นชมขึ้นมาบ้างกับการจัดการเรื่องการเงินของปัณวิทย์ เด็กสมัยนี้หลายคนเคยชินกับการขอพ่อแม่ให้โดยที่ไม่รู้จักการสะสมเงินเอง เหมือนอย่างตอนเขา... กว่าจะได้อะไรสักอย่างต้องทำงานพิเศษเก็บหลายเดือน ไม่ใช่ว่ามารดาไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะคุณค่าของของที่ได้มาด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ เล็ก

"..ปันเป็นเด็กดีจังนะ..."

...ถ้าลองคบกันแล้ว สิ่งที่ถูกพลภัทรบอกไว้คงถูกลบเลือนไป...

...ปัณวิทย์ไม่ใช่เด็กเหลือขอแบบที่พ่อเลี้ยงประณามไว้...

...แต่เป็นเด็กดี..ที่ถูกลืมเลือน...

ใบหน้าที่มักจะมีอารมณ์หลากหลายคราวนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น

"...... ก็... ไม่ได้ดีขนาด... นั้น" พอถูกชมเข้าจังๆก็เลือกแสดงอารมณ์ไม่ถูก

"เขิน อ่ะดิ่เนี่ย เฮ้ย--นี่พูดจริงๆนะ ถึงคุณพ่อหรือใครๆจะบอกว่านายเหลือขอนู่นนี่ แต่สิ่งที่ฉันเห็นฉันมีสมองพอที่จะตัดสินเองได้ว่าใครเป็นไง" ชยางกูรตักไอศกรีมเข้าปากอีกคำแล้วยิ้มจางๆ

"ปันเป็นเด็กดี..ในสายตาฉัน"

".......................... ขอบใจ....." เขาหลบสายตากับรอยยิ้มที่มองมา

"อย่าทำหน้าแบบนั้น หลงรักฉันแล้วอ่ะดิ๊---" ชยางกูรหัวเราะเบาๆ

"เดี๋ยวสมูธตี้ก็ละลายหมดหรอก"

"หลง รักบ้าอะไรครับไอ้พี่เดฟ แฟนฉันน่ารักอยู่แล้ว" เขารีบคว้าเครื่องดื่มของตัวเองมาดูดรวดเดียวแก้เขินจนจี๊ดขึ้นสมองให้ต้อง นิ่วหน้า

"ฮะฮะฮะ " มือใหญ่หยิบทิสชูส่งไปให้ พลางขำสีหน้าแหยๆของเด็กหนุ่มที่หลับตาปี๋

"แซวเล่นนิดหน่อยทำเขินเวอร์ ไงล่ะ สมน้ำหน้าเนอะเบอร์2อ้วนกลม"

"เขินอะไรวะ ไม่ได้เขิน!" ชายหนุ่มปฏิเสธเป็นพัลวัน

"ไม่ได้เขินก็รีบๆกินไป เดี๋ยวไปไหนต่อป่ะ" จานที่หมดไปเกือบหมดถูกช้อนขูดเบาๆ ชยางกูรเอาคำสุดท้ายเข้าปากแล้วก้มลงเล่นกับฝุ่น

"ไม่ไป วันนี้แฟนเค้าไปกินข้าวกับที่บ้าน" เด็กหนุ่มรีบตักพายของตัวเองเข้าปากไม่พูดไม่จาต่อ

"ไปซื้อของเป็นเพื่อนหน่อยดิ" ชยางกูรเอ่ยชวน พอปัณวิทย์พูดถึงไอโฟน เขาก็นึกได้ว่าถึงเวลาแล้วที่โทรศัพท์ของตัวเองควรเปลี่ยนเสียที

"ว่าจะไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ ปันเก็บตังค์ได้เท่าไหร่แล้ว?"

"ครึ่งทางแล้ว ไม่มีบัตรเลยผ่อนไม่ได้" เด็กหนุ่มอุ้มเจ้าฟูใส่คืนตะกร้าของมันแล้วรอรับฝุ่นจากอีกคน

ชยางกูรอุ้มกระต่ายอ้วนในมือส่งให้แล้วเรียกพนักงานมาเก็บเงิน เขาจ่ายทั้งหมดแล้วลุกขึ้นจากโซฟาตัวนุ่ม

"งั้นไปซื้อกัน ออกให้ครึ่งนึงก่อนแล้วนายค่อยให้คืนล่ะ"

"เฮ้ยไม่เอา ไม่เท่เลย" ปัณวิทย์รีบร้องท้วงแม้ในใจจะอดรู้สึกดีไม่ได้ ไม่เคยมีใครดูแลหรือใส่ใจเขาขนาดนี้

...แม้ตอนเด็กๆทุกคนจะรักและเอ็นดูเขา แต่เมื่อความลับถูกเปิดโปง เด็กชายวัยเจ็ดปีก็ถูกทอดทิ้งทันที

"ไม่ เท่ตรงไหน ไม่ได้บอกว่าซื้อให้สักหน่อย แค่ออกเงินให้ก่อนแล้วค่อยๆผ่อนคืนไง น่า อย่าเรื่องมากเหอะ เดี๋ยวจับอาหารสำรองย่างกินเลย" เส้นคิ้วสีอ่อนเลิกขึ้นอย่างเป็นต่อ

"ซื้อเหมือนกันจะได้สอนกันไง" ไม่ใช่อยากอวดตัวว่ามีเงิน แต่บางที...กำลังใจของเด็กดีก็ควรสนับสนุน

"อย่าเอามาขู่สิวะครับ ก็ได้ๆ ห้ามทำอะไรฝุ่นกับฟูละกัน" ปัณวิทย์ทำเป็นพูดบ่นอุบอิบ

ชยางกูรตบศีรษะกลมๆของน้องชายนอกสายเลือดเบาๆ รอยยิ้มบนใบหน้าที่กว้างขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเขวี้ยงค้อนคมๆมาให้ทีหนึ่ง

...เออเว้ย ค้อนเป็นกับเขาด้วยแฮะ

"จะดีใจก็ดีไปเลย อย่ามาอ้างกลบ ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย" ปลายนิ้วที่วางอยู่เปลี่ยนเป็นสางเส้นผมอ่อนนุ่มเบาๆแทน

"ไรวะ! อย่าทำแบบผู้หญิงดิวะ" เขายกมือขึ้นปัดมืออีกฝ่ายออกแล้วลุกขึ้น

"จะไปรอที่รถแล้ว"

...ก็เงี้ยละนะ..ถึงไม่โตสักที...

ชยางกูรยิ้มกับอาการดีใจที่แสดงออกในทางตรงกันข้ามของปัณวิทย์ ชายหนุ่มรอรับเงินทอนก่อนจะเดินตามไปยังรถ

...เพราะอยากเห็นสีหน้าที่มีความสุขของเด็กคนนี้...

นี่คือเหตุผลที่เขาทำทุกอย่าง....ด้วยความเต็มใจ

...เพราะเราเป็นคนที่ 'ขาด' เหมือนกัน...




///////////////////




เด็กหนุ่มร่างโปร่งเดินสะพายเป้ออกมาจากทางออกแล้วชะเง้อคอหาคนที่บอกว่าจะมารับ

"ญาติที่ว่าสนิทกันแล้วน่ะเหรอปัน" ไอลดาเอ่ยถามเสียงใสพลางคล้องแขนตัวเองเข้ากับปัณวิทย์

"อือ เขาจะมารับน่ะ"

"เฮีย ลูกครึ่งของมึงอ่ะเหรอวะไอ้ปัน เออพอดีเลย..กูอยากเห็นอยู่ว่าหล่อสู้กูได้ไหม" อาธิปพูดแล้วเก๊กหล่อ...ก่อนจะเก๊กหลุดเพราะมือที่ฟาดกลางหลังดังอั่ก

"เอี้ยซายน์ ทุบหาพ่อมึงเหรอ"

"กุหมั่นไส้มีไรป่ะ" ศิวะหัวเราะเสียงดังพลางโอบสาวน้อยข้างกายที่ซุกหาพลางหัวเราะคิกคัก

"ได้ใจนะมึง เดี๊ยะๆ เฮ้ย--มายังวะไอ้ปัน"

เขาชะโงกมองก่อนจะโบกไม้โบกมือเมื่อเห็นรถยนต์ของชยางกูรใกล้เข้ามา

"มาแล้วเว้ย"

ชยางกูรโบกมือให้ สายตาที่มองผ่านแว่นกันแดดเห็นกลุ่มเด็กหนุ่มสามคนกับเด็กสาวที่แต่งตัววาบหวิวอีกสองคน

เขาหักพวงมาลัยเข้าเทียบก่อนจะลดกระจกลงแล้วยกแว่นกันแดดขึ้นคาดบนหัว

"หวัดดีครับเด็กๆ"

"นึก ว่าหลงทาง" ปัณวิทย์ทักทายด้วยการกวนประสาทพร้อมรอยยิ้มกวนๆ เด็กสาวที่ยืนกอดแขนเขาไว้ในตอนแรกปล่อยให้เด็กหนุ่มได้เปิดประตูรถเพื่อ เหวี่ยงเป้ตัวเองใส่ด้านหลังไป

"ไอซ์เป็นแฟนปันค่ะ พี่ชื่ออะไรเหรอ"

"ไงมึง อึ้งแดกเลยอ่ะดิ่" ศิวะกระซิบด้วยเสียงไม่เบานักพลางยิ้มเยาะอาธิปที่ได้แต่ตาค้าง

ใครจะไปนึกว่าพี่ชายไอ้ปันจะหล่อขนาดนี้วะ

"หวัด ดีครับน้องไอซ์ พี่ชื่อเดฟนะ สองคนนั้นคงเป็นอัฐกับซายน์สินะ" ชยางกูรทักเด็กสาวแต่งตัวจัดแล้วเลยไปทักเด็กหนุ่มสองคนที่ยืนทำหน้าทะเล้น อยู่ด้วย

"หวัดดีคร้าบบบบ" อาธิปและศิวะพร้อมใจกันก้มไหว้พลางลากเสียงทักทาย ทำเอาสาวน้อยที่ควงแขนศิวะอยู่จำต้องก้มลงด้วย

"งั้นไปก่อนนะ กลับบ้านดีๆนะเว้ย" ปัณวิทย์เปิดประตูข้างคนขับแล้วขยับก้าวขึ้น แต่กลับถูกคว้าแขนเอาไว้

"รอคนขับรถไอซ์มาก่อนสิปัน จะทิ้งไอซ์แล้วเหรอ" นัยน์ตากลมโตช้อนมองอย่างออดอ้อนก่อนจะเหลือบไปมองชยางกูรครู่หนึ่งแล้วยิ้มให้

ชยา งกูรมองอาการออดอ้อนแบบไม่รู้จักเวล่ำเวลาแล้วได้แต่เก็บไว้ในใจ ท่าทางแฟนคนดีของปํณวิทย์จะไม่ใช่ย่อย... ดูจากการทิ้งสายตาเมื่อสักครู่ด้วยแล้ว..

"โหน้องไอซ์คร้าบบ เดี๋ยวเฮียโมโหนา พี่อัสซี่กะไอ้ซายน์ก็อยู่รอเป็นเพื่อนนี่ไง ปล่อยไอ้ปันกลับไปเหอะเกรงใจเฮียเค้า"

ชยางกูรมองเด็กหนุ่มที่แทนตัวว่าอัสซี่อย่างนึกขอบคุณ...และพอใจที่เด็กสมัยนี้ยังมีความเกรงใจหลงเหลืออยู่

"เอาไงปัน ฉันแล้วแต่นะ..."

"ฉัน ต้องกลับไปให้ทันทานข้าวเย็นกับที่บ้าน วันนี้วันอาทิตย์ ไอซ์รอกับพวกไอ้ซายน์ได้ไหม" เขานึกถึงภาระหน้าที่ที่ตัวเองพยายามทำให้ดี และพยายามมาตลอด วันอาทิตย์เป็นวันที่ทุกคนในบ้านประสิทธิ์พรวิวัฒน์จะมาร่วมโต๊ะทานอาหาร ด้วยกัน

"ไม่ได้จริงๆเหรอ ปันใจร้ายจัง...." เด็กสาวทำหน้าเบ้พลางส่งเสียงฮึดฮัดอย่างขัดใจให้พอไม่น่าเกลียด

"ขอโทษนะไอซ์..."

แม้จะได้ยินคำขอโทษ แต่ไอลดาก็ทำท่าปั้นปึ่งแล้วหันหลังให้

...สุดๆ...

...จัดหนักเลยทีเดียว...

"ขอโทษนะครับน้องไอซ์ พอดีพี่ติดธุระด้วย ยังไงขอตัวก่อนนะครับ..." ชยางกูรช่วยพูดกับเด็กสาวที่ยืนหันหลัง

".... ก็ได้ค่ะ เพราะพี่เดฟช่วยพูดให้หรอกนะคะ" เด็กสาวหันมาแต่ก็ยังไม่ยอมยิ้มให้ปัณวิทย์

"อืม งั้นไปก่อนนะ แล้วไว้โทรหากัน" เด็กหนุ่มร่างโปร่งโบกมือลาทุกคนก่อนจะปิดประตูรถแล้วถอนหายใจออกมา

"อะไร ถอนหายใจเชียวนะ ไปทะเลไม่สนุกเหรอ" ชยางกูรพูดยิ้มๆแล้วดึงแว่นลงมาคาดใบหน้าเหมือนเดิม

"แฟนนายนี่....ขี้งอนจังนะ" เขาพูดเลี่ยงๆละคำว่า...ไม่มีเหตุผลไว้

"อืม งี้แหละ เด็กผู้หญิง ไม่รู้ทำไมต้องงอนขนาดนั้นด้วย ปกติก็ไม่เห็นว่าอะไร" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันก่อนจะเอนกายพิงกับเบาะที่นั่ง

"เอาน่า เป็นผู้ชายต้องทรีตผู้หญิงงี้แหละ ถ้าไม่อยากทำก็ไปเป็นแฟนเกย์นู่น" ชยางกูรหัวเราะเบาๆเมื่อคนที่นอนพิงเบาะทำตาวาวใส่

"เหนื่อยก็นอนก่อนไป เดี๋ยวถึงบ้านแล้วปลุก"

"อือ... ปลุกนะ" เขาพูดเสียงเข้มก่อนจะค่อยๆหลับตาลง

ชยา งกูรขับรถไปเรื่อยๆ ในใจนึกไปถึงเด็กสาวที่มีท่าทางแปลกตา เขาพยายามจะไม่คิดอะไรแต่อดนึกไม่ได้ว่าทั้งที่ปัณวิทย์เป็นแฟนอยู่ยัง สามารถส่งสายตาให้เขาได้อีก

...ไฟแดง...

ชยางกูรเหยียบเบรกให้รถจอดแบบนิ่มๆ เขาหันมามองเด็กหนุ่มผิวขาวที่ถูกแดดเป็นรอยแดง มือใหญ่เอื้อมหยิบเสื้อมาคลุมทับร่างเพรียวไว้

...เด็กเอ๊ยเด็ก...

ไฟเขียวฉายสว่างวาบในวินาทีเดียวที่ชยางกูรละสายตา เชฟโรเล็ตสีดำทะยานออกไปข้างหน้าด้วยความนุ่มนวล...และอาการเม้มปากแน่นของคนมอง...








To Be Continued.......

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 22:19:58 โดย kagehana »

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 5 [14/05/12]
«ตอบ #25 เมื่อ14-05-2012 17:37:43 »

กินข้าวพร้อมหน้า

จะมีฉากปวดใจอีกป่าวหว่าาาา ?
สู้ๆ กิกิ

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 5 [14/05/12]
«ตอบ #26 เมื่อ14-05-2012 18:11:26 »

เง้อ ใึครจะหวงใครก่อนเนี่ย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 5 [14/05/12]
«ตอบ #27 เมื่อ15-05-2012 22:32:01 »

 :impress2:

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน 6 [16/05/12]
«ตอบ #28 เมื่อ16-05-2012 21:29:18 »




*6*



"...." ปัณวิทย์ออกจะแปลกใจกับการที่ญาณัชลงมาร่วมทานอาหารด้วยในวันนี้ ใบหน้าเรียบเฉยของญาติผู้พี่ดูแล้วชวนอึดอัดไปรอบกาย

แต่ชยางกูรกลับชวนพูดคุยให้โต๊ะอาหารคลายความตึงเครียดลง

...ยังชอบอยู่เรอะ...

"คุณ นัทไม่ค่อยทานเลยนะครับ แต่ผมว่าเชฟที่นี่ฝีมือดีออก..เชฟข้างนอกใช่ไหมครับ" ชยางกูรพูดพลางตักอาหารใส่จานญาณัชและญาติอีกคนที่ขี้เกียจจะจำชื่อ

"... ครับ..." ญาณัชตอบรับเท่าที่จำเป็นก่อนจะเอ่ยขอบคุณที่อีกฝ่ายตักอาหารมาให้ บนสีหน้านั้นไม่แสดงอารมณ์ใดใดทั้งสิ้น

...เอาใจยังกะแฟน ไอ้หน้าหม้อ...

ปัณวิทย์นึกขำๆพลางยิ้มออกมาจางๆขณะเอื้อมไปตักกะหล่ำปลีผัดแฮม

"ปัณเอาไก่ทอดป่ะ" พูดจบ ไก่ทอดก็ถูกเอาไปวางในจานปัณวิทย์พร้อมรอยยิ้ม

"เติมพลังหน่อย ในรถก็งัวเงียซะ"

คำพูดของชยางกูรสร้างความสงสัยในใจหลายๆคน... ว่าสนิทกันได้อย่างไร

...โดยเฉพาะพลภัทร...

"ในรถอะไร" น้ำเสียงห้าวที่กดต่ำถามออกมาพลางเหลือบมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตารังเกียจ

"..... พี่เดฟไปรับผม... ที่สนามบินครับ..." เด็กหนุ่มตอบเสียงเบาเมื่อเจอกับสายตาที่มองมา

"แกเป็นใครถึงใช้ให้เขาไปรับ" พลภัทรมองหน้าปัณวิทย์แล้วรวบช้อนเข้าด้วยกัน

"เป็นแค่ลูก--"

"ผมว่างพอดีเลยอาสาไป...ทานข้าวต่อดีกว่าครับ" ชยางกูรยิ้มเย็นแล้วเติมซุปในถ้วยแบ่งให้

"คุณพ่อยังทานไม่หมดเลย เดี๋ยวคนทำเสียใจนะครับ"

น้ำเสียงหว่านล้อมทำให้นักธุรกิจใหญ่ยอมกินต่อ... แต่ไม่วายลอบมองด้วยหางตาไปที่ใบหน้าซีดๆของอดีตลูกรัก

มื้ออาหารมื้อนั้น เลยกลายเป็นว่าปัณวิทย์ไม่มีโอกาสพูดอะไรอีกเพราะกลัวสายตาที่ถูกมองมาอย่างนั้น

...ขอให้เป็นแค่นั้น...

จน กระทั่งน้ำดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะหมดลง สายตาแข็งกร้าวที่มองไปทางปัณวิทย์ยังคงส่อแววรังเกียจเหยียดหยาม พลภัทรลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วเดินไปหาปัณวิทย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

"แกตามฉันมาที่ห้อง เดี๋ยวนี้!" พูดจบก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงความมืดมัวที่หายใจไม่สะดวก...

ปัณวิทย์ลอบกลืนน้ำลายก่อนจะหันมามองหน้าคนที่เรียกว่าพี่ชายต่างสายเลือดเพียงชั่วอึดใจ แล้วรีบลุกขึ้นเดินตามพลภัทรไป

ภาย ในห้องกว้าง พลภัทรยืนอยู่หน้ามินิบาร์กำลังรินเหล้าจากขวดใส ใบหน้าของชายวัยกลางคนฉายแววไม่พอใจอย่างรุนแรง เขายกเหล้าในแก้วกรอกเข้าปากจนหมดแล้วกระแทกวางลงพลางถอนหายใจหนักหน่วง

...ไอ้เด็กเวรนั่น...

...ไอ้เด็กที่เกิดมาประจานความโง่ของเขา...

พลภัทรรินน้ำสีอำพันลงแก้วอีกครั้งในเวลาเดียวกับที่ประตูห้องถูกเคาะเบาๆ

"เข้ามา!" ตะคอกเสียงไม่เบานัก... ด้วยแรงอารมณ์

ประตูห้องค่อยๆเปิดออกเบาๆพร้อมกับเด็กหนุ่มร่างโปร่ง

"... ครับ คุณพลภัทร..."

"ปิดประตูห้องแล้วเข้ามาเลย" พลภัทรพูดเสียงที่พยายามจะปรับให้ราบเรียบ

ปัณวิทย์หันไปปิดประตูก่อนจะหันมามองหน้าชายที่ครั้งหนึ่งเคยเรียกว่าพ่อ

...จะถูกว่าเรื่องไปเที่ยวหรือเปล่า...

"แก รู้ไหมว่าเดฟเป็นใคร..." พลภัทรมองเด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรักปานแก้วตาดวงใจ เขาเลี่ยงที่จะเจอกับสายตาตรงๆที่มองมาอย่างนี้...นับตั้งแต่วันที่ความจริง เรื่องชาติกำเนิดเปิดเผย

...โตขนาดนี้แล้วหรือ...

เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยรักมาก เมื่อรู้ความจริง ความรักในตอนนั้นจึงแปรเปลี่ยนไปในทางตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง

"ใครใช้ให้แกมายุ่งกับลูกของฉัน!"

"ผม..." เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย แต่กลับหาคำตอบมาให้พอใจไม่ได้

...จะให้ตอบว่าอะไร...

"ตอบ มาปัณวิทย์...แกมีสิทธิ์อะไรมาสนิทสนมกับ ชยางกูร ประสิทธิ์พรวิวัฒน์ ฉันถามหน่อย...แกไม่รู้หรือไงว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ไอ้กาฝาก!!" ดวงตาแข็งกร้าวที่ราวกับมีลูกไฟอยู่จ้องไปทางปัณวิทย์...อดีตลูกคนเล็กขี้ อ้อนแสนน่ารักคนนั้น

...ถ้าเพียงเด็กนี่เป็นลูกเขาจริงๆ...

"แค่ฉันยอมขายขี้หน้าให้แกอยู่ที่นี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว เด็กอย่างแกควรตายไปตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ!! ไม่ควรเกิดมาให้รกหูรกตา!"

"ผมขอโทษครับ แต่พี่เดฟแค่เข้ามาคุยด้วย..."

...แล้วจะโยนความผิดไปให้แทนงั้นหรือ

-เพี๊ยะ-

ฝ่า มือหนาฟาดลงบนผิวแก้มของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างรุนแรงจนพลภัทรนึกตกใจตนเอง เขาดึงมือมาซ่อนด้านหลัง...เขาต้องไม่สงสารไอ้เด็กที่มันเกิดมาประจานความ ชั่วคนนี้

...แม้สายตาคู่นั้นจะมองมาเพียงใดก็ตาม...

"ฉัน สั่งห้ามแกไม่ให้ไปยุ่งกับลูกของฉันไม่ว่าใครทั้งนั้น ทั้งนันท์...ทั้งเดฟ... ถ้าแกยังอยากอยู่ในบ้านนี้อีก" พลภัทรเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้ามาเทลงคอก่อนจะปาลงกับพื้น

เศษแก้วชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายอยู่เต็มพื้นโดยผู้เป็นเจ้าของไม่สนใจสักนิด

"แกบอกมาสิ...ว่าที่แกทำอยู่ตอนนี้แกต้องการอะไร ที่แกมาตีสนิทกับเดฟ แกต้องการอะไร!"

"ผม... ไม่ได้ต้องการ.... อะไร..." มือยกขึ้นจับแก้มข้างที่ถูกตบ พลภัทรไม่เคยลงมือกับเขามาก่อน... ไม่เคย แม้แต่ครั้งเดียว

"แค่คุยกัน เฉยๆครับ..."

"อย่า มาโกหก! สันดานเหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก โกหกได้ทั้งๆที่ฉันเลี้ยงแกมา!" เสียงตะโกนก้องไปทั่วทั้งห้อง พลภัทรหอบหายใจทว่าความโกรธยังไม่เบาบางลง

"ชยางกูรเป็นลูกของฉัน จากนี้ไปห้ามแกเข้าใกล้อีกเป็นอันขาด อย่าให้ฉันเห็นอีก..ออกไปได้แล้ว!" ตวาดซ้ำแล้วหันหลังให้

พลภัทรมองลงบนพื้นที่ยืนอยู่ เสียงแห่งราตรีกาลอันมืดหน่นและเงียบงันถูกแทรกด้วยเสียงเสียดสีกันของเนื้อผ้าจากการขยับกายเท่านั้น



/////////////////////////


ปัณวิทย์ปิดประตูห้องเสียงดัง น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาในที่สุด เขารู้สึกว่าการยอมสนิทสนมกับชยางกูรไม่ได้ทำอะไรดีให้ตัวเองเลยสักนิดเดียว

...ทำให้เจ็บตัวด้วยซ้ำ

ไม่ควรเข้าไปวุ่นวายตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ

กระต่าย ตัวกลมสองตัวกระโดดลงจากที่นอน ขาสั้นตุ้มตุ้ยกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดมาหาเจ้านาย พอถึงตัว จมูกเล็กๆก็ฟุดฟิดขยับเข้าใกล้พลางเงยหน้ามองด้วยดวงตาสุกใส

".... ปันมีแต่ฝุ่นกับฟูนะ... อยู่กับปันนะครับ....." เขาเอื้อมมือมาลูบหัวของเจ้าสองตัวเบาๆ

กระต่ายน้อยเอาหัวดุนอุ้งมือเบาๆพลางเอาลำตัวไถปลอบใจคนร้องไห้

'ก็อกๆ'

ทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าและประตูห้องใกล้ๆปิดลง ชยางกูรที่กำลังรออยู่ก็รีบเดินออกมาจากห้องแล้วเคาะประตูเบาๆ

"ปัน ฉันเข้าไปนะ"

"ไม่!!! ออกไป!!!! ไม่ให้เข้า!!!!" เขารีบตะโกนลั่นเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย

...กูซวยก็เพราะมึง...

ชยา งกูรขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินเสียงตะโกนไล่จากในห้อง ทั้งๆที่ช่วงนี้บรรยากาศระหว่างเขากับปัณวิทย์ดีขึ้นมากแล้วแท้ๆ แต่เพราะอะไรถึงแสดงอาการอย่างนี้อีก

"เป็นไรวะปัน ออกมาคุยกันดีๆ"

"ไม่คุย กูไม่คุยกับมึงแล้ว!! กูซวยก็เพราะมึง!!" ปัณวิทย์ไม่เลิกตะโกนไล่เพราะความเสียใจ และน้อยใจกับความรักที่ไม่เท่าเที่ยม

"อ้าว..." ...กวนตีนแล้วไหมล่ะ

ชยางกูรขยับลูกบิดประตูสองสามครั้งก็ไม่มีท่าทีว่าข้างในจะเปิด ชายหนุ่มเตะประตูเบาๆแล้วส่งเสียงเรียกต่อ

"มึงซวยอะไรวะปัน อย่ามาเหวี่ยงใส่กูได้ปะ มีอะไรคุยกันดีๆไม่เป็นหรือไงทำไมต้องโมโหใส่กูด้วยวะ"

...ข้อเสียที่ร้ายแรงของชยางกูรคืออารมณ์ร้อน ยิ่งโดนยั่วประสาทด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

"ไม่ให้กูยุ่งกับมึงไงสัด! กูมันเหี้ย! ชัดไหม ไปดิวะห่า!!"

"กูบอก ว่าอย่าเหวี่ยง! เชี่ย! ออกมาเปิดให้กูเดี๋ยวนี้!!" จากเตะเบาๆ คราวนี้กลายเป็นซัดเข้าเต็มแรง มือใหญ่ที่จับลูกบิดอยู่หมุนครั้งแล้วครั้งเล่า

"พ่อทำอะไรมึงเหรอวะ! แล้วจะมาลงกับกูทำซากอะไร! เปิดนะเว้ยไอ้ปัน ไม่งั้นกูพังประตูแน่!

ถ้าประตูพังขึ้นมาคงไม่พ้นว่าเขาเป็นต้นเหตุอีก เด็กหนุ่มจึงรีบรุดมากระชากประตูเปิดออก

"กูมันเหี้ย ไม่ควรเกิดมา! ไม่มีสิทธิ์คุยกับลูกแม่งไงสัด!!"

"ใจเย็นๆดิวะ อย่ามาขึ้นเสียงกับกู" ชยางกูรกระแทกประตูทันทีที่อีดฝ่ายยอมเปิด เขาแทรกตัวเข้ามาในห้องแล้วปิดล็อคขังไว้ด้วยกัน

"ห่าเอ๊ย...เจ็บตีนชิบ" ร่างสูงบ่นแล้วเดินเข้าหา

นัยน์ตาสีฟ้าใสมองเห็นรอยฝ่ามือแดงก่ำบนใบหน้าด้านหนึ่งของปัณวิทย์ที่กำลังร้องไห้...ทว่าดวงตากับฉายแววโกรธแค้นราวกับจะฆ่าเขาให้ตาย

"พ่อทำเหรอปัน" เสียงทุ้มกล่าวอ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว

"เออ!! เพราะกูคุยกับมึง!! เพราะงั้นออกไป!!! ถ้าแม่งเห็นกูก็ซวยอีก!!" เขาตวาดลั่นพลางถอยตัวห่างจากอีกฝ่าย

"ถ้าจะตวาดกูขนาดนั้นก็อย่าร้องไห้สิวะ" ชยางกูรพูดเบาๆอย่างอ่อนใจ

..ดูท่าทางความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้คงประสานกันได้ยากแล้ว

"ปัน... ทำไมมึงต้องเชื่อพ่อขนาดนั้นวะ เป็นลูกแหง่หรือไง" มือใหญ่เอื้อมไปหาแล้วแตะเบาๆที่ผิวแก้มแดงและมุมปากแตก

"เจ็บไหม... ประคบน้ำแข็งไหม..."

"ไม่ ต้องอะไรทั้งนั้น แค่มึงออกไปก็พอ อย่ามาใกล้กู!!" เพราะหากยังเห็นว่าสนิทกันอยู่อีก ครั้งต่อไปพลภัทรจะทำอะไรก็ไม่อาจจินตนาการได้

"เดี๋ยวกูก็ต่อยเข้าอีกทีหรอก" ชยางกูรดึงบ่าเล็กมาล็อคใกล้ๆแล้วจับคางให้ใบหน้าบอบช้ำเงยขึ้น

"ปากแตก... ต้องประคบด้วย ไม่งั้นพรุ่งนี้หน้าบวมไปโรงเรียนแหง" ปลายนิ้วสากไล้เบาๆตามแนวแดงบนแก้ม

"ไปประคบน้ำแข็งก่อน ค่อยมาทะเลาะกันต่อ" ชายหนุ่มมองหาตู้เย็นเล็กในห้องนอนแบบที่ห้องเขามี แต่ก็ไม่พบ

"ตู้เย็นไปไหนวะปัน"

"ไม่ มี บอกให้ออกไปไง จะต่อยกูก็ต่อยดิ ไม่มีใครสนอยู่แล้วว่ากูจะเป็นยังไง ห่า" เด็กหนุ่มดันตัวเองออกจากคนที่ยึดเอาไว้แล้วพูดเสียงกร้าวไม่สนใจต่อคำอ่อน โยนที่ชยางกูรพูดออกมา

...เพราะมันไม่มีเหตุผลที่จะต้องดีกัน

...ในเมื่อพ่อก็ไม่เห็นดีด้วยอยู่ดี

"ก็กูสนอยู่นี่ไงเล่า ค่อยดื้อได้ปะ หาน้ำแข็งมาประคบก่อน" ชยางกูรพูดเสียงดังไม่แพ้กัน

"มึงเป็นน้องกูนะปัน จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง"

"มึงไม่ใช่พี่กู!!"

เพราะ เขากับชยางกูรไม่ได้มีสายเลือดทางใดเกี่ยวพันกันเลยสักนิดเดียว ยิ่งถูกทำร้ายมาแบบนี้ ปัณวิทย์ยิ่งไม่คิดว่าจะต้องญาติดีด้วยเพราะมีแต่จะทำให้เขาเดือดร้อน

แค่นี้พลภัทรก็ไม่มองหน้าเขาแล้ว ถ้ายังดื้อด้าน ครั้งต่อไปคงไม่หยุดแค่ตบหน้า

"งั้น มึงจะอยู่คนเดียวกับไอ้กระต่ายบ้าสองตัวนั่นก็เชิญ!!" เหมือนฟางเส้นสุดท้ายขาดลง ชยางกูรตะคอกใส่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของปัณวิทย์แล้วผลักไหล่อีกฝ่ายจนตัวเซ

"กูเกลียดมึงตอนนี้มากเลยรู้ป่ะปัน แม่งเหมือนหมาบ้า..."

"กูก็ไม่ได้ขอให้มึงรัก!!!" คำพูดประชดราวกับต้องการจะเอาชนะตวาดกลับอย่างไม่ยอมแพ้ทั้งที่น้ำตายังไม่หยุดไหล

"แม่ง เอ๊ย!......." ชยางกูรขบกรามแน่นพยายามระงับอารมณ์ที่ประทุเขาผละจากร่างเพรียวไปหากระต่าย สองตัวที่ซุกหลบอยู่ข้างเบาๆแล้วอุ้มมันขึ้นมากอด

"มึงสงบสติอารมณ์ไปก่อน กูรับฝากอาหารสำรองไว้ให้ เดี๋ยวมันตกใจ" พูดจบร่างสูงก็อุ้มฟูและฝุ่นเดินดุ่มๆจะออกนอกห้องไป

"เฮ้ย!! ไอ้ห่าฝรั่ง มึงเอากระต่ายกูคืนมา!!" ถึงจะตะโกนไล่หลังไปเท่าไหร่ ประตูห้องก็ไม่เปิดออกอีกครั้ง ปัณวิทย์เหวี่ยงอารมณ์ลงกับหนังสือและของมากมายที่วางอยู่รกสายตา ถ้าไปโวยวายเอาคืนจากหน้าห้องมีแต่จะกลายเป็นฝ่ายผิดหากพลภัทรมาเห็นเข้า

...ทำอย่างไรก็ไม่มีอะไรดีขึ้น...

...มีแต่ต้องอยู่คนเดียว...

...ไม่ก็ตายไปเท่านั้น...

...จะได้ลืมความเจ็บปวดทรมานพวกนี้ได้...



//////////////////////



...เช้าแล้ว...

แสง แดดที่ส่องออกมาจากหน้าต่างที่รับแดดเต็มๆในตอนเช้าแยงเข้าในตาของคนที่ กำลังหลับอยู่ ชยางกูรพลิกตัวก็แล้ว เอาหมอนปิดหน้าก็แล้ว เขาก็ยังนอนต่อไม่ได้ ชายหนุ่มเลยลุกขึ้นนั่งบนเตียง

"เฮ้ย!!" ก้อนกลมๆขนนุ่มที่ขดอยู่ใกล้ๆเท้าสะดุ้งเฮือก เงยหน้ามองคนที่เพิ่งตื่น

"โห่ ฟูฝุ่น ตกใจหมด" ชายหนุ่มเอื้อมมือไปอุ้มมาวางบนอกแล้วลูบเบาๆ

เมื่อ วาน...หลังจากทะเลาะกับปัณวิทย์ เขาก็พาเจ้าสองตัวนี้มานอนที่ห้อง อารามโมโหที่อยู่ๆก็ถูกด่าทำให้เขาไม่ออกไปหาอีกเลย จนถึงตอนนี้...เก้าโมงแล้ว

...ไม่รู้เป็นไงบ้าง...

ยังดีที่เขาเองสามารถเข้างานสายหรือโดดงานได้...เลยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา

ชาย หนุ่มหยิบโทรศัพท์ข้างตัวขึ้นมากดเข้า โปรแกรมFacebook เพื่อเช็คข่าวและความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆเป็นประจำ แต่วันนี้...สเตตัสของน้องชายต่างสายเลือดที่เพิ่งโพสท์เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ว่า "ไม่สบาย...จดงานให้ด้วย" ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้

...หรือเมื่อวานจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า...

ชยางกูรลุกขึ้นวางกระต่ายตัวเล็กบนเตียงแล้วเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันลวกๆก่อนจะเดินกลับมาอุ้มแล้วออกไปยืนหน้าห้องเจ้าของมัน

"ปัน...เปิดให้ฉันหน่อย"

".... บอกว่าไม่ให้มาไง..." คนที่เพิ่งลุกมาอาบน้ำตะโกนบอกกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก

"เปิดหน่อย ขอเข้าไปคุยก่อน ไม่งั้นจะโยนอาหารสำรองนะ" ชยางกูรพูดขู่แล้วเคาะซ้ำอีก

เพียงเท่านั้น ประตูก็เปิดออกพร้อมกับใบหน้าที่โชว์แก้มบวมเป่ง

"เอากระต่ายคืนมา"

ใบหน้าซีกหนึ่งยังคงบวมเป่ง ยังไม่นับตาแดงๆและเสียงอ่อนแห้ง... ไม่สบายแหง

ชยางกูรสอดตัวเดินเข้าในห้องอย่างคนเอาแต่ใจ เขาเดินไปนั่นที่โต๊ะอ่านหนังสือแล้ววางเจ้าสองตัวเบาๆ

"ไม่สบายเหรอปัน เห็นอัพสเตตัสอยู่..."

"หน้ายังงี้จะให้ไปได้ไงวะ" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน

"ตัวร้อนป่ะ" มือใหญ่ถือวิสาสะแตะลงบนหน้าผากทันทีที่ถาม ก่อนจะเลื่อนลงมาจับที่แก้มบวมๆเบามือ

"นิดหน่อย ก็บอกให้ประคบน้ำแข็งจะได้ไม่บวม...ใช้ไม่ได้เลยนะปล่อยให้กระต่ายเป็นห่วงเนี่ย"

เด็กหนุ่มที่โวยวายจนถูกเรียกว่าหมาบ้าเมื่อคืนกลายเป็นอีกคนด้วยท่าทีที่สงบลง

"... ห่วงเหรอครับ ฟูกับฝุ่น" ปัณวิทย์หันไปหากระต่ายสองตัวที่ดุ๊กดิ๊กไปมา

"คนก็เป็นห่วง" เมื่อเห็นท่าทีที่อ่อนลง ชยางกูรเลยลูบหัวคนตรงหน้าเบาๆ

"ได้กินยาหรือยัง มียาทาไหม พวกแก้ฟกช้ำน่ะ"

"ไม่มี..." เขาเหลือบมองหน้าอีกฝ่ายแล้วพูดออกมาเสียงต่ำ

"..... ไปได้แล้ว... เขาไม่อยากเห็นฉันอยู่กับนาย..."

"เหตุผล แค่นี้เนี่ยนะ ตลกแล้วคุณพ่อเนี่ย ฉันจะคุยกับนายเลยไม่ได้หรือไงวะ" ชยางกูรหงุดหงิดแทน นัยน์ตาสีฟ้าใสมองสบตรงๆกับดวงตาบอบช้ำของปัณวิทย์

"ที่ห้องฉันไม่มียาทา แต่แก้ปวดมี..งั้นเดี๋ยวให้คนเอามาให้นายแล้วกัน"

"ไม่เอา!! ถ้าเขารู้ฉันก็ซวย บอกว่าอย่าก็อย่า... นายทำอะไรเขาก็ว่าดีหมดนั่นแหละ ไปดิวะ"

"เฮ้ย! เลิกโวยวายซะทีเหอะ ทำไปแล้วอะไรดีขึ้นหรือไงไอ้งี่เง่า" ร่างสูงบ่นอุบอิบ หากแต่นัยน์ตาสีสวยกลับยังทอแสงอ่อนโยน

"ก็ อย่าให้เขารู้ไง ชีวิตเป็นของนายนะ จะต้องเชื่อฟังคนอื่นตลอดไปหรือไง...หรือว่านายไม่ชอบอยู่กับฉัน อย่าโกหกนะปัน" ชยางกูรพูดอย่างรู้ทัน

"แล้วไอ้เนี่ย ช่วยได้ไหมล่ะ" เด็กหนุ่มชี้ที่แก้มของตัวเองแล้วเรียกร้องคล้ายกับเด็กเล็กๆ

"เดี๋ยวนวดให้ก็ได้ เด็กเอ๊ย" ชยางกูรดึงร่างเพรียวเข้ามาใกล้แล้วก้มหน้าสำรวจรอยบวม ลมหายใจแผ่วๆถูกเป่ารดผิวแก้มพร้อมรอยยิ้มจาง

..หายเร็วๆนะ...

"...เป่าให้แล้ว เหลือกินยากับทายาก็หาย จะไปซื้อยาให้ อยากกินอะไรป่ะ"

"ไม่อยากเคี้ยว เจ็บ..." ปัณวิทย์เอ่ยตอบเสียงขุ่นอย่างเอาแต่ใจ แก้มสีขาวเป็นสีเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายทำเช่นนั้น

"โจ๊กไง ไม่ต้องเคี้ยว เดี๋ยวให้ทำโจ๊กเด็กงอแงเอาแต่ใจให้ ดีไหม?" ...แถมยังขี้โวยวายด้วย

เพราะรู้สึกเอ็นดูหมือนน้องแท้ๆ... จึงไม่อยากให้ปัณวิทย์ต้องอยู่เพียงคนเดียวเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

"อือ ใส่ไข่ด้วย" เขายังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตา แต่กลับเอ่ยขอเอาแต่ใจ

"เออ"

...ได้ใจนะ ได้ใจใหญ่...

...นี่เห็นว่าป่วยอยู่หรอก จะยอมใจดีด้วยก็ได้....








To Be Continued.....

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด