พจนานุกรมเฉพาะกิจ
คนหนึ่ง "รอ" อย่างตั้งใจ แต่อีกคน "หายไป" อย่างไม่ให้ "อีกคน" ได้ตั้งตัว
ตอนนี้กำลังจะก้าวเข้ามาในโลกของพวกอมนุษย์อย่างเกือบจะเต็มตัวแล้วเน้อเลยทำพจนานุกรมเฉพาะกิจ มาให้เข้าใจคราวๆก่อนนิดนึงว่าอะไรคืออะไร เริ่มจาก
*หญิงกาลี*
กาลี [N] ; bad Syn. ชั่วร้าย, เลวทราม, เลว, ต่ำช้า ในที่นี้หมายถึง พระแพง นาง หรือ พะเตรียง ซึ่งตอนนี้เรื่องยังไม่เปิดออกมาทั้งหมดแค่รู้คราวๆว่าเธอเป็นคู่หมั่นของ องค์ภังคียะแต่กลับไปแต่งกับ มหินทราที่ก่อกบฎ เพื่อตำแหน่งเทวีแห่งสุรโภคานคร เธอบอกว่า รัก องค์ภังคียะ ยิ่งชีวิต แต่ก็เป็นคนฆ่า องค์ภังคียะเองกับมือ? แต่ขอสปอยเลยว่าอย่าลืมนะ มันมีประโยคที่ว่า ถ้าไม่มีเธอ องค์ภังคียะก็มีชีวิตอยู่ยังแดน สุรโภคานครไม่ได้...อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าเธอเป็นหญิงกาลี เรื่องนี้ไม่นิยมตัวร้ายที่เป็นผู้หญิง ทุกการกระทำมันมีเหตุละผลของตัวเองเน้อ
*การแต่งงานของแผ่นฟ้าและผืนน้ำ*
การหมั่นหมายระหว่างวงศ์(นาคา และ เทวา) เป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่พูดอย่างนั้นเพราะการแต่งงานในแต่ละครั้งที่เวียนมาจะมีบางครั้งที่เป็นงานแต่งแห่งท้องฟ้าและพื้นน้ำ การเลือกไม่เคยเจาะจงหรือระบุแต่เราต่างรู้ ว่าครั้งใดครั้งหนึ่ง จะมีการถวายสายเลือดแห่งน้ำ(นาคา)ให้พื้นฟ้า(เทวา) นั้นหมายถึงการเดินทางชั่วนิรันดร์ การเดินทางที่พื้นฟ้าเป็นผู้เลือกโดยสายเลือดแห่งน้ำไม่มีทางขัดขืน ทั้งนี้ที่สายตระกูลแห่งน้ำยอมก็เพราะความรุ่งเรืองของวงศ์ตระกูล มันจึงเหมือนกับการเซ่นสังเวยลูกหลานคนหนึ่งเพื่อสายตระกูลทั้งหมด
*บัพ*
ควาย [N] ; buffalo Syn. กระบือ Sample. ชาวบ้านบางแห่งแบ่งส่วนใต้ถุนไว้เลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ หมู วัว ควาย ฯลฯ Def. ชื่อสัตว์เคี้ยวเอื้องชนิด Bubalus bubalis ในวงศ์ Bovidae เป็นสัตว์กีบคู่ รูปร่างใหญ่ สีดำหรือเทา เขาโค้งยาว ที่ใต้คางและหน้าอกมีขนขาวเป็นรูปง่าม พล่ามมามากมาย เนื้อมีนิดเดียว ภินทร์มันเรียก โฆษิตว่า บัพ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เพราะในความรู้สึกภินทร์ โฆษิตมันเฉือยชา ถามคำตอบคำไม่แสดงความรู้สึก แถมภินทร์ยังคิดว่า โฆ ออกเสียงว่า โค
*ออโตมัสไพรส์ม*
พออะตรอมบอกชื่อ คุณภินทร์ก็ คิดถึง ชื่อนี้ทันที แน่นอนมันมาจาก หัวหน้ากลุ่มฝ่ายไซเบอร์ทรอน ที่เรียกได้อีกชื่อว่า ออพติมัส ไพรม์ ในหนังเรื่อง ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส (Transformers) เนื่องจากอะตรอมตัวใหญ่มากมาย
*อัดยา*
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าติดยา แต่ ตรินทร์ ต้องใช้ยากล่อมประสาทกดอาการที่เป็นผลมาจากการที่ต้องรับรู้เรื่องของ ภังคียะ เหมือนคำสาปที่ผลจะส่งมายังสายน้ำที่ถูกเลือก
*เหี้ยม,เคี้ยม*
เหี้ยม [ADJ] ; ruthless Syn. โหด, เหี้ยมโหด, โหดเหี้ยม วิชาการไปงั้น ที่จริงชื่อนี้ภินทร์ใช้เรียก คิงส์ แต่ภินทร์ก็เรียกถูกนะเพราะ คิงส์เป็น เคี้ยม จริงๆ ซึ่งในภาษาไทยโบราณ เคี้ยม ใช้เรียก จระเข้....
*เรื่องสำคัญ 5 อย่างของพวกนาคา*
1.การเกิด 2.การลอกคราบ 3.การเสพย์สังวาส 4.การนอนหรือสิ้นสติอย่างลึก 5.การตาย เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พวกนาคาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ยกเว้นข้อ 3. ตรินทร์ สามารถ 555+
*สุร*
เป็นชื่อเรียกเชื้อสายยักษ์ ธรรมดาเราเรียก อสูร แต่คำว่าอสูร สำหรับ ยักษ์ มันหมายถึงผู้แพ้ อะ-สุระ แปลว่าไม่กล้า,ไม่ดื่ม เป็นคำที่ได้มาจากการสงครามครั้งสุดท้ายของ เทวาและสุร ภังคียะก็มีเชื้อสาย สุร กึ่งหนึ่ง การดื่มสุราหรือเมรัย จึงเป็นการกดสติการรับรู้ดีชั่ว
*สมิง*
ร่างแปลง ในที่นี้หมายถึง เสือที่สามารถกลายร่างเป็น คนหรืออมนุษย์พวกอื่นได้โดยการจำแลง มี 4 ประเภท คือ เป็นเพราะคำสาป เป็นเพราะเผ่าพันธุ์ เป็นเพราะกินชีพมนุษย์หรือชีพอื่นจนปราณแปรเปลี่ยนไปตามจิตวิญญาณที่กิน เป็นเพราะเวทย์มนต์หรือคาถา
*ศุภะ*
ศุภะ เป็นชื่อเรียกของ หนอนร้อยศพ ใช้กำจัดซากทุกประเภท พวกอมุนุษย์ส่วนมากจะมี ศุภะ เก็บไว้กับตัวเผื่อฉุกเฉิน เวลากำจัดซากหรือศพ
*ตะบองพลำ*
ตะบองพลำใหญ่ยง อยู่ในป่าดงตัวดุจตะขาบไฟแดง มีฤทธิ์มีพิษเรียวแรง
พบช้างกลางแปลง เข้าปล้ำเข้ารัดกัดกิน..............
Cr."สัตวาภิธาน"สัตว์พหุบาทา(สัตว์มีเท้ามาก) โดยพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)
เป็นชื่อของสายพันธุ์ที่ลึกลับที่สุดในพื้นป่า มองจากภายนอกจะเหมือนจะเป็น ตะขาบไฟยักษ์ แต่ที่จริง ตะบองพลำเป็นคนละประเภทกับ ตะขาบไฟ ออกไข่ 1 ใบเท่านั้นในรอบชีวิต ฝังตัวอยู่ในพื้นดิน มีความเชื่อว่า ตะบองพลำกินช้าง แต่ที่จริงใช้ร่างช้างนั้นฝังไข่อ่อนสีเหลืองทอง(อำพัน)ขนาดนิ้วก้อยไว้ต่างหาก ลอกคราบเมื่อเจริญเติบโต คราบที่ลอกตะบองพลำจะกินเข้าไป แต่ถ้ามีการผิดพลาดระหว่างลอกคราบหมายถึงชีวิต คราบที่เหลือในกรณีที่มีการผิดพลาดใดๆเกิดขึ้น ใช้แขวนกันสัตว์ป่าได้ กันได้แม้แต่สมิงก็ยังกลัวกับปล้องคราบนั้น สำหรับ ภัทร ยังเป็นปริศนาอยู่ว่ามี ตะบองพลำอยู่ในร่างได้อย่างไร (ส่วนคนที่เดาได้ป่านนี้คงรู้แล้ว)
องค์มหินทรา
ผู้เป็นเจ้าของนิยามที่ว่า "ไร้พ่าย" นิสัยหยิ่งทะนงมิมีสิ่งใดที่ต้องการได้แล้วมิได้ยกเว้น "ปราณ แห่งผู้เป็นที่รัก" มีเชื้อสาย สรุ บริสุทธิ์ คงตำแหน่งรองแม่ทัพแห่ง สุรโภคานคร เป็น เชษฐาต่างมารดาแห่ง องค์ภังคียะ แม้จักมี บิดา ตนเดียวกัน (องค์ฑิฆังตรัง)แต่รักที่บิดาให้กลับไม่เท่ากันด้วย มารดา แห่ง องค์ภังคียะ ถือเป็นนางแห่งผืนน้ำ(นาคา) อันเป็นที่รัก หากมารดาแห่งมหินทรากับเป็นเพียงหญิงสามัญ จึงถูกรังเกียจจาก สุร และ นาคา ในเชื้อวงศ์ตั้งแต่วัยเยาว์ รักที่องค์มหินทรา มีให้จึงมีแด่อนุชาต่างบิดานาม ภังคียะ เท่านั้น ครั้งทราบว่า ภังคียะ จำต้องหมั่นหมายกับ นางแห่งแผ่นฟ้า (พะเตรียง) คราแรกเพียงแค่ขัดขวางครั้นทราบว่า องค์ภังคียะ มีใจรักใน นางนั้น จากเชษฐาอันเป็นที่รักจึงแปรเปลี่ยนเป็น แม่ทัพกองกบฎ เพียงหวังทวงคืน หัวใจ ของ ตน หากแต่นั่นกลับทำให้เรื่องราวเลวร้ายลงอย่างถึงที่สุด
'ตรินทร์' ษิตรินทร์ ชลวะเท
เครื่องสังเวยแห่งผืนน้ำ ถูกกำหนดมาให้แต่งกับ 'นาง' รักนางมากจนยอมได้ทุกสิ่งแม้แต่การ ห้ามใจไม่ให้รับรู้ความรู้สึกของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากนางคือ การตายทั้งเป็น เพียงเพราะไม่ใช่ คนที่ควรจะเป็น ไม่ค่อยแสดงออกกับคนที่ตัวเองชอบเพราะ เกมส์ที่เคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เกมส์ภาษากาย ถ้าไม่พูดแต่รู้ว่าต้องการอะไร นั่นคือคนสำคัญ มีโรคประจำตัวที่เป็นผลมาจากความฝัน ทำให้มักจะละเมอกรีดข้อมือตัวเอง เก่งเรื่องต่อยตี ที่สุด...มักจะเป็นคนคอยตามล้างตามเช็ดเรื่องที่ ภินทร์ ทำค้างไว้ แต่บางทีก็ไม่โผล่มาซะดื้อๆ แล้วมีอะไรอีกหล่ะ สำหรับตรินทร์ มีลูกชาย 3 คน ชื่อ แม็กกะ โปรตรอน(เสียชีวิตไปแล้ว) และ ซีนอล เอ่อ...เกือบลืม อย่าพูดคำว่า "ไม่" หรือ "หยุด" กับ ตรินทร์... อยากรู้ว่าเพราะอะไร ถาม โฆ....
องค์ชายตรินทร์ (แถวนี้เขาเรียก ราชินี ) อิมเมจ ตรินทร์ ต้อง นิ่ง โหด ซึน
'ภินทร์ /ภัทร ‘ณภัทรตรา’
อยู่กับพี่หมอดีๆ มาเกือบจะ 30 อยู่ๆก็ต้องมาเปลี่ยนกับ ตรินทร์ ซะงั้น จำเรื่องเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ แม้จะมีความทรงจำลางๆ แต่ความทรงจำบางทีก็ไม่น่าจะพิสมัยเท่าไหร่นัก ....เลยไม่ค่อยจะหาอดีตตัวเองเท่าไหร่ ใช้ชีวิตในร่าง ตรินทร์ แบบสุดขั่วขนาดดร็อปความชั่วร้ายและความเจ้าชู้ลงเกือบ 60% แล้วแต่ก็ไม่วาย...คอยสร้างเรื่องให้ ตรินทร์ คอยตามแก้เสมอ ความสัมพันธ์กับ ตรินทร์ ยังเป็น ปริศนา สกิล การต่อสู้เป็นศูนย์ แต่สกิล ความกระล่อน ระดับเทพ เล่นกีตาร์ไม่เป็น ขับรถไม่ได้ ไม่ค่อยรับรู้อะไรมากนักกับชีวิตที่มีตัวประหลาดวนเวียนอยู่รอบๆตัว ไม่รู้แม้กระทั้งตัวเองเคยเป็น 'อะไร' มาก่อน ตอนนี้รับบทนักร้องนำวง 'ลิงกินผัก' กับเพื่อนๆ 3 หน่อ เรด กร้า แป้น มีเพื่อน'รัก' อีกคนชื่อ อะตรอม
ปีศาจภินทร์ (แถวนี้เขาเรียก ภินทร์ของอะตรอม ) อิมเมจภินทร์ ต้อง ขี้เล่น ยิ้มเก่ง กระล่อน
*เหรา*
เหรา [N] ; อ่านได้ทั้ง เหรา และ เห-รา ปกติหมายถึง สัตว์หิมพานต์ ซึ่งสัตว์ค่อนไปทางจำพวกจระเข้ ผสมกับนาค หลายคนเชื่อว่ามันเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ ตระกูลเดียวกับจระเข้ ?! (คุ้นๆหรือยัง?ว่าโยงไปหาใคร) กินเนื้อเป็นอาหาร แต่ในที่นี้หมายถึง 'เหราไฟ' กลุ่มกองโจรที่คุม ด่านเหวเหรา เป็นด่านที่ทัพแห่งสุรโภคานครต้องใช้ผ่านเพื่อทำการศึก แต่เนื่องจากหากรบกัน พวกเหราจะได้เปรียบในแง่ของชัยภูมิที่เป็นหุบหินซอกเขา มีทางผ่านได้เพียงไม่กี่ทาง พวกเหราจึงเป็นผู้ต่อรองเสมอมาในเรื่องค่าผ่านทาง ส่วน มหินทราที่ตอนนี้เป็นเพียงหัวหน้ากอง คิดฝ่าดงเหราเพื่อเปิดทางจึงได้มีสภาพเช่นนี้ ....โดนฝังทั้งเป็นใต้หุบเหรา ต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้าต้องสู้กับเจ้าถิ่นทั้งฝูงก็แพ้อยู่ดี
*อสินขะนรก*
อสินขะนรก เป็นหนึ่งในนรก แปดขุมของ นิรยะแดน เรียกอีกอย่างได้ว่า แดนอสูรเขี้ยว (เล็บ) ดาบ (อสิ [N];. ดาบ, มีด, กระบี่. – นขะ [N];. เล็บ เล็บมือ เล็บเท้า )เนื่องจาก สัตว์นรกที่มาเกิดยังแดนนี้มี เล็บมือเล็บเท้าแหลมยาวกลับกลายคล้ายอาวุธ ใช้ชีวิตโดยการใช้มือที่มีเล็บเป็นอาวุธนั้น จับเกี่ยวกับเพดานหินของแดนแล้ว ห้อยหัวลง แดนนั้นเยือกเย็นและมืดมิดชั่วกาลเนื่องจากเป็นเขตของ นิรยะแดน กล่าวกันว่า สัตว์นรกแดนนี้เคย แข็งขืนขนาดปืนขึ้นไปเชิงเขาไกรลาศเพื่อไถ่ถามหานายตน (แดนนี้เขาเปรี้ยว...บทจะอยู่เฉยก็เฉยซะไม่สนใจแดนไหน บทจะไฮเปอร์วันดีคืนดีก็บุกขึ้นเขาไกรลาศซะงั้น ) จนองค์ศิวะ ประทานนายให้ดั่งคำขอ ...นายนั้นเกิดจากไข่แถมมีเล็บสีนิล เหมือน ภังคียะ องค์ฑิฆังตรัง เลยเล่าเรื่องนี้ให้ ภังคียะ ฟัง ตั้งแต่เด็ก.... ส่วนตอนนี้พี่ชายที่ใกล้ตายนึกไปถึงว่า..เคยคุยเล่นกับน้องชาย ถ้าเขาตายไปจะตกนรกขุมไหน ? น้องชายเลยบอกว่าให้ไปที่ อสินขะนรก (แต่...มันเลือกกันได้ด้วยหรอ? ) เพราะแดนนี้พ่อเคยบอกว่าถ้า ภังคียะสิ้น ภังคียะก็จะไปเป็นนายที่แดนนี้ จะได้อยู่กับพี่ชาย....หวานซะ...
*ตระกูลของ หลิน *
คราวนี้มาในเรื่องของ คุณหลิน หนุ่มหน้าหวานของเรา ที่จบไม่สวยเท่าไหร่ เมื่อเจออะตรอม (อะตรอม...หนูเป็นฆาตกร ตั้งแต่เด็กๆเลยนะลูก )
หลิน มีเชื้อสายตระกูล ทางเหนือ นับถือ ‘ผี’ ในที่นี้หมายถึง‘ผีกะ’ หลิน จะเป็นประเภทยิ่งมืดยิ่งงาม ดึกยิ่งสวย (?)ยิ่งดึกยิ่งเด่น สำหรับพวกที่รับผีกะเข้ามาเลี้ยงและใช้งาน จะมีสำนวนเฉพาะใช้เรียกสายตระกูลด้านนี้ว่า "งามขำ" คือ ยิ่งดึกยิ่งเด่น ยิ่งเย็นยิ่งสวย เล่ากันว่า หากพบคนที่ถูกใจ พวกเจ้าของผีกะจะใช้ ผีช่วย ให้ตนงามตรึงใจให้ใหลหลง( สองแก้มแดง เรื่อใสเนียน ยิ่งดึกยิ่งสวย)สิ่งที่ทำให้แก้มทั้งสองข้างแดงเรื่อ ดังผลมะปราง สุกเดือนเจ็ด ก็เพราะมีมักฏะ(อ่านว่า มัก-กะ-ตะ)คือลิง(ค่าง)2 ตัว นั่งยอหัวอยู่บนไหล่ทั้ง 2 คอยแลบเลียผิวแก้มให้สดใส คนทั่วไปไม่สามารถจะมองเห็น ได้ด้วยตา แต่ว่าหนูอะตรอมเขา พิเศษ ใส่ลูกชิ้นเลยมองเห็น แถม ฆ่าตายคามือ … นอกจากนั้นผีกะก็ยังจำแลงแปลงกายให้คล้ายกับสัตว์ได้อีกหลายชนิด เช่น เป็นแมวดำ หมาดำการสืบต่อหรือการรับมรดกตกทอดร่วมเป็นตระกูลผีกะ ส่วนมากจะตกอยู่กับฝ่ายหญิงฝ่ายชายจะไม่ค่อยรู้ในเรื่องนี้(แต่อาจละเว้นในกรณี ของ หลิน ที่เป็น ลูกชายคนเดียวของตระกูล ) และหญิงชายใดที่ แต่งงานได้เสียกับคนที่เป็นผีกะได้นอน หรือ กินข้าวร่วมไหเพียง 7 ไห ก็ถือว่าได้เป็นตระกูลสายผีกะไปแล้ว….เกือบไปแล้ว ภัทร เอ้ย!!
*เนื้อนาบุญ*
เนื้อนาบุญ เป็น คำเฉพาะที่ใช้เรียก พวกที่เกิดมากินบุญ หรือกินบุญเก่า ชีวิตพวกนี้มักไม่ค่อยประสพความทุกข์ยาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยช่วงชีวิตที่แสนสั้น แม้มักจะเป็นทีรักของผู้ที่ใกล้ชิด แต่ก็เป็นได้แค่ความทรงจำ เพราะมักจะหมดอายุขัยเร็ว ส่วนหนึ่งมักจะตายโหง เนื่องจากถูก สัมพเวสี กิน หรือติดตาม พวกนี่ส่วนมากจะเป็นพวกมีเซนต์ทางวิญญาณ ยกเว้น ภัทร ที่ ไร้ต่อมรับรู้....ส่วนหนึ่งเพราะตอนที่ ภังคียะ สลาย ภังคียะเองไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรกับ เรื่องสายตระกูล ผลมันเลยตกมาถึง ภัทร แบบเต็มๆ แต่ก็เป็นผลดีในบางครั้ง เพราะการมองไม่เห็น แต่บางครั้งก็เป็นผลเสีย เพราะไม่รู้ตัวว่า จะโดนกิน อย่างกรณี ของ หลิน ส่วนการเกิดของเนื้อนาบุญ มักจะมีสัญญาณกลายๆให้ ทางผู้ใหญ่รับรู้ได้ เช่น ตอนที่เด็กเกิดจะมีสายรุ้งเกิดขึ้นพอดี หรือ เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด, เด็กที่เกิดมา ไม่มีรอยยับรอยย่น หรือไม่มีเส้นลายมือ ,เด็กที่เกิดมาผิวเนื้อละเอียดนวลเหมือนแป้งผัดตอนต้องแสงเทียน,ฯ นี่คือสัญญาณคราวๆของ เด็กเนื้อนาบุญ ที่พอเกิดมาทางผู้ใหญ่จะทำใจไว้กลายๆแล้วว่าต้องเสียเด็กคนนี้ไปก่อนเวลาอันควรแน่นอน ส่วนมาช่วงชีวิตที่เด็กจะไม่รอดคือ ตอนเกิด ตอน 2 ขวบ ตอน 4 ขวบ ตอน 7 ขวบ ตอน 8 ขวบ ตอน 9 ขวบ ตอน 14-15 และถ้าหลังจากนั้นมาก็สามารถตายได้ทุกเวลา เพราะ เนื้อจะหอมจน สัมพเวสี รุมตอม
เอ่อเหนอะ ลืม ขอบคุงเน้อซันชา
*ปราณ*
สิ่งแทนวิญญาณ แต่ฝั่งรากลึกกว่านั้น เป็นเหมือน ต้นกำเนิดทั้งหมดของชีพนั้นๆ มากกว่าความรู้สึกแต่ลึกกว่าสันดาน รับรุ้ได้เหมือนลมหายใจ เป็นสัญญาที่ติดตัวมาในทุกๆชาติ
>>>>>เหนื่อยอะ

<<<<<<