ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]  (อ่าน 817273 ครั้ง)

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป

น้องสาเรียกคุณลูกแม่เดือนว่า "รบ" แล้วแถมยังยิ้มหวานให้ด้วย ความรู้สึกดีๆกำลังเกิดขึ้นสินะ :m1: :m1: :m1:
อ๊า...... นักรบจ๊ะ ถึงขั้นต้องดูรูปน้องสาก่อนนอนทุกคืนเลยหรอ..?? อาการหนักแล้วนะเนี่ย คึคึ :kikkik: :kikkik: :kikkik:

+1จ้า  :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2012 08:08:12 โดย Mc_ma »

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ตกหลุมรัก ตกหลุมลึกซะด้วย เพราะคำว่า "รบ" คำเดียว  :-[

มีแอบอมยิ้มกับรูปน้องสาที่ตัวเองถ่าย น่ารักดีอ่ะ

กด + และ + เป็ด ให้คนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เอาน่ารบ คนอื่นได้แค่เบอร์ แต่รบได้เจอทุกวัน ได้คุยแบบเห็น  แถมยังได้กินซาลาเปาที่สาเลี้ยง จะกลัวไปทำไม

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ลูกแม่พลอย
ยังไม่ได้ขุดหลุมเลย
ลูกแม่เดือนตกหลุมซะแล้ว :z2:

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 14


แม้จะเป็นวันที่สอง....
และแม้จะขอให้คนขับช่วยจอดรถโฟล์กเต่าให้ใกล้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วก็ตาม
แต่การที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาเพราะชุดราชปะแตนเต็มยศ
ก็ไม่ทำให้ความอายของสาลี่ลดลงแม้แต่น้อย


...มันก็แน่อยู่แล้วนี่หว่า
เขาไม่ได้หน้าหนาสักหน่อย
ถึงมันจะช่วยทำให้ขนมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
แต่ยังไงก็อดที่จะรู้สึกเกร็ง ๆ ไม่ได้อยู่ดี

เขายอมรับว่าแผนกลยุทธ์โปรโมทร้านแบบนี้ได้ผลมากกว่าที่คาดไว้
และไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดจากไอเดียของใครบางคน
ทั้ง ๆ ที่เขาเห็นมันเป็นคู่แข่งแท้ ๆ
แต่กลับยอมมาช่วยเหลือกันแบบนี้


....ลูกแม่เดือน มันคิดอะไรของมันอยู่กันแน่นะ?



หนุ่มเจ้าของร้านขนมไทยเหม่อมองร้านฝั่งตรงข้าม
ก่อนเสียงเรียกทักจะทำให้ความความคิดสะดุดลง


“น้องจำพี่ได้รึเปล่าจ๊ะ”


เขาเงยหน้ามองคนถาม แล้วก็ต้องร้องอ๋อขึ้นมาในใจ
พี่พนักงานออฟฟิศผมยาวลูกค้ารายแรกที่ทักเขาว่าเรียนอยู่มอปลายนี่เอง


“จำได้สิครับ แล้ววันนี้จะรับขนมอะไรดีครับ”


สาลี่ยิ้มอย่างยินดีที่ลูกค้าเจ้าเดิมกลับมาอุดหนุน
และยิ่งทวีความตื้นเต้นมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคต่อมา


“เมื่อวานพี่ซื้อขนมปังสังขยาของน้องไป
ที่บ้านชมกันใหญ่ว่าอร่อยมากเลย
พี่เลยกะว่าจะมาขอเหมาเอาไปแจกที่ทำงานด้วย
สักสิบห้าถุง พอจะมีบ้างมั้ยจ๊ะ”


“มีครับมี ขอบคุณมากเลยครับ”


ดวงตากลมวาบวับเป็นประกาย
ละล่ำละลักร้องบอกอย่างดีใจเป็นล้นพ้น
ในที่สุดความพยายามที่จะสร้างเมนูใหม่ก็ไม่สูญเปล่า
แถมยังมีคนชอบถึงขนาดเหมาหมดด้วย


...โอยยย แบบนี้ไม่ให้ไอ้สาลี่ปลื้มได้ยังไงคร้าบบ!!



เขาหันรีบหยิบถุงใบใหญ่ใส่ขนมปังสังขยาที่แพ็คเอาไว้
หูก็ยังคงได้ยินคำชมที่เอ่ยมาไม่ขาดปาก


“ขนมปังของน้องอร่อยมากนุ่มหอมไม่เหมือนที่ไหนเลย ซื้อหรือว่าทำเองจ๊ะ”


“อ๋อ ผมทำเองครับ”


“ต๊ายย จริงเหรอ ทำเก่งขนาดนี้น่าจะเปิดร้านเบเกอรี่ขายด้วยเลยนะเนี่ย”


ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอามือที่หยิบขนมชะงัก



...เก่งเหรอ?


...เปล่าเขาไม่ได้เก่งอะไรเลย
เพราะสูตรขนมปังที่ได้มาเขาไม่ได้เป็นคนคิดขึ้นเอง
วิธีทำต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ก็ทำไม่เป็นเลยสักนิด
ที่เขาสามารถอบขนมได้ดีแบบที่ตัวเองต้องการ


...มันก็เพราะใครบางคนที่คอยแนะนำเขาอยู่ข้าง ๆ ตลอดต่างหาก



สาลี่เผลอมองร้านฝั่งตรงข้ามที่ลูกค้าดูจะบางตากว่าปกติทุกวัน
ก่อนจะตัดสินใจหันมาตอบหญิงสาวซึ่งยืนรออยู่


“ไม่หรอกครับ ถ้าพี่อยากทานเบเกอรี่อร่อย ๆ
ผมแนะนำร้านบ้านขนมเดือนใจตรงข้ามร้านผมนี่เลยครับ
ขนมปังเขาอร่อยมาก แล้วพวกเค้กโฮมเมดก็ทำเองใหม่ ๆ ทุกวันด้วย”


“แหนะ สงสัยเป็นเพื่อนกันล่ะสิ ถึงเชียร์ร้านนี้น่ะ
แต่ถ้าน้องว่าอร่อย เดี๋ยวพี่จะลองซื้อชิมดูนะ”


คนฟังมองตามไปยังร้านอีกฝั่งพลางเอ่ยแซว
ซึ่งสาลี่ก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ตอบกลับ
แต่เมื่อรับถุงขนมแล้วเจ้าตัวก็เดินลิ่วไปหยุดอยู่ที่ร้านฝั่งตรงข้ามทันที
เห็นชี้ ๆ เลือกขนมกลับไปอยู่หลายชิ้น
ทำให้คนสังเกตดูอยู่เงียบ ๆ อดไม่ได้ที่จะโล่งใจเมื่อคำแนะนำได้ผล


อ้าว...แล้วไหงเขาถึงได้พลอยดีใจที่เห็นร้านคู่แข่งของตัวเองขายได้ขึ้นมาล่ะ
มันต้องหงุดหงิดไม่ใช่เหรอ
ทั้ง ๆ ที่เคยประกาศชัดเจนแล้วว่าจะตั้งใจทำยอดขายถล่มร้านบ้านขนมเดือนใจให้ได้
แล้วทำไมถึงไปแนะนำลูกค้าเขาแบบนั้น


...บ้าไปแล้วรึเปล่าวะ?


แม่งเอ้ยยย ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ เว้ยยย!!




“นี่ไง ร้านหวานละไมขนมไทยแม่พลอยที่ลงในโฆษณา”


เสียงของลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ทยอยเข้ามา
ทำให้สาลี่รีบดึงสติอันสับสนของตัวเองเข้าร่างโดยด่วน
เขาหันไปยิ้มต้อนรับลูกค้าสาว ๆ ทั้งรุ่นลูก รุ่นแม่ รุ่นป้า
ที่เหมือนจะยกโขยงมาเป็นครอบครัวใหญ่
ดูจากท่าทางการแต่งตัวสุดชิคบอกชัดเลยว่าเป็นคนเมืองกรุง
ที่แวะมาเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้


“ว๊ายยย!! คนขายแต่งชุดไทยด้วย
ไม่เห็นจะเขียนบอกไว้ในโฆษณาเลย เก๋ดีจัง”


คำในท้ายประโยคสะดุดหูคนขายอย่างแรง
จนเขาต้องเอ่ยถามซ้ำอย่างสงสัย


“เออ โฆษณาที่ว่าคืออะไรเหรอครับ?”


สาวรุ่นแม่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเจ้าของคำทัก
รีบยื่นแผ่นพับมาโบกตรงหน้าของคนถามทันที
พร้อมกับขยับปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดอธิบาย


“ก็นี่ไงจ๊ะ โฆษณาถนนคนเดินที่ลงในใบปลิวการท่องเที่ยว”


สาลี่รับของที่อีกฝ่ายยื่นส่งมาให้
ดวงตากลมพลิกมองด้านหน้าของแผ่นพับ
ที่ดูเหมือนจะเป็นการโปรโมทจังหวัดจัดร่วมกับททท.
ด้านหน้ามีการบอกประวัติที่มาที่ไปของการจัดถนนคนเดินริมน้ำขึ้นมา
ส่วนภายในแนะนำร้านค้าที่น่าสนใจต่าง ๆ เอาไว้

แล้วเขาก็พบร้านของตัวเองอยู่ตรงแผ่นพับหน้ากลาง
โดดเด่นด้วยภาพน้องหงส์ขนมไทยที่ล้อเล่นแสงสวยเหมือนปะติมากรรม
รายล้อมไปด้วยรูปขนมไทยอื่น ๆ ซึ่งถ่ายซูมจนดูน่าทาน
มิหนำซ้ำยังมีรายละเอียดของร้านค้าแทรกกรอบเล็ก ๆ
ทั้งการวางเลย์เอาท์และการใช้สีสันลงตัวพอเหมาะ


...นี่ไม่ใช่แค่ใบปลิวโฆษณาแล้ว
แต่เหมือนสูจิบัตรงานศิลป์ดี ๆ สักชิ้นมากกว่า

และคนที่มีหัวครีเอทมีฝีมือถ่ายรูป
ทั้งยังนำภาพมาเข้าคู่จัดวางได้ขนาดนี้
ก็คงมีแค่คนเพียงคนเดียว


...ลูกแม่เดือน มันจะทำให้เขานึกทึ่งในไปถึงไหนกันนะ
มาช่วยกันมากขนาดนี้
เขาควรเลิกตั้งแง่กับมันสักทีดีรึเปล่า

ที่ผ่านมามันเคยพยายามขัดแข้งขัดขาไม่ให้ร้านหวานละไมขายได้มั้ย?


ก็เปล่านี่...


มีแต่เขาที่คิดไปเองว่ามันเป็นคู่แข่ง


และถ้าต่อจากนี้....
เขาสองคนคอยช่วยเหลือพัฒนาร้านด้วยกัน
คอยช่วยแก้ปัญหา มีอะไรก็ปรึกษากันและกัน
มันจะดีสักแค่ไหนกันนะ


...มันจะดีสักแค่ไหน


หากวันนี้ ‘ลูกแม่พลอย’ กับ ‘ลูกแม่เดือน’
จะเปลี่ยนมาเป็นคนที่ต่างฝ่ายต่างเรียกกันว่า



‘เพื่อน’



คำถามที่ตั้งไว้ในใจหยุดลงเมื่อกลุ่มลูกค้าเริ่มเลือกชี้ขนมให้คนขายหยิบใส่ถุง
สาลี่หันกลับไปให้ความสนใจกับการขายตามเดิม


โดยไม่รู้ตัวเลยว่าหลังจากนั้น...
สายตาของตนก็มักจะเหลือบมองไปยังร้านฝั่งตรงข้าม
ที่มีเจ้าของเป็นหนุ่มติสต์มาดเซอร์อยู่ตลอดทั้งคืน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ห้าทุ่มครึ่ง บนรถโฟล์กเต่า


นักรบพยายามบังคับตัวเองให้เพ่งความสนใจไปที่ถนน
โดยไม่สนร่างซึ่งนั่งอยู่บนเบาะข้าง ๆ
ที่กำลังพยายามถอดโจงกระเบนออกจากขาทั้งสองข้าง
จนเหลือแค่บ็อกเซอร์ลายตารางยาวปิดต้นขามาได้แค่คืบหนึ่งเท่านั้น
ขนาดวันนี้ขนพัดลมตัวเล็กมาช่วยเป่าคลายความร้อนจากการใส่ชุดไทยแท้ ๆ
แต่สภาพอากาศเมืองไทยก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าอบอ้าวมากแค่ไหน
จึงทำให้ทันทีที่ขึ้นรถ คนที่เหงื่อแตกพลั่กต้องรีบถอดเสื้อผ้าหันไปเร่งแอร์เพิ่มทันที


“เฮ้อ...ร้อน ๆๆๆๆ”



...ไอ้ร้อนก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าร้อน
แต่เล่นถอดซะจนเหลือแค่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์แค่นี้
ลูกแม่พลอยมันจงใจยั่วกันชัด ๆ

...น่าแปลกที่ร่างกายผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ
แถมไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งให้ดูน่าเย้ายวนตรงไหน
แต่ทำไมเขากลับรู้สึกตื้นเต้นแปลก ๆ


...อยากจะแตะต้องเนื้อนวล ๆ เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะนุ่มขนาดไหน

...อยากจะลิ้มชิมกลีบปากสีชมพูจาง ๆ ว่าจะหวานละมุนลิ้นคล้ายกับสังขยาที่กินในคราวนั้นมั้ย

...อยากจะตระกองกอดคนตรงหน้านี้ไว้

...อยากให้รอยยิ้มและหัวใจเป็นของเขาคนเดียว


มันจะเป็นไปได้มั้ย...?

ลูกแม่พลอยพอจะให้โอกาสกันบ้างรึเปล่า...?



“เห็นโฆษณาที่คุณถ่ายในแผ่นพับแล้วนะ”


สติที่หลุดลอยไปไกลของนักรบ
ถูกขัดจังหวะลงด้วยเสียงพูดของคนข้างตัว
เขาพยายามทวนสิ่งที่ตัวเองได้ยินผ่านหู


โฆษณา... แผ่นพับ...

อ๋อ...แผ่นพับโปรโมทถนนคนเดินที่คณะกรรมการจัดงานช่วยขอให้เขาทำน่ะหรอ
ความจริงมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้นหรอก
เพราะเขาทำเลียนแบบสูจิบัตรงานศิลปะของตัวเองในโปรเจคจบมหาลัย
อีกอย่างเขาก็ชอบใช้โปรแกรมแต่งภาพจนคล่องมือแล้วด้วย
มันก็เลยเป็นงานที่เสร็จออกมาได้แปลกและน่าสนใจ
จากความคิดที่นอกกรอบไม่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆ ในแบบของเขา


“แล้วชอบมั้ยล่ะ”


นักรบย้อนถามกลับ
เกริ่นออกมาแบบนี้
ถ้าให้เดาคงต้องมีถูกใจกันอยู่บ้าง


“อือ ก็สวยดี”


คำตอบสั้น ๆ จากอีกฝ่ายทำให้เขาขยับยิ้มขึ้นมา
กำลังคิดหาคำแหย่กลับ ทว่ายังไม่ทันได้พูด
เสียงของสาลี่ก็ร้องขัดขึ้นมายาวเหยียด


“พอเห็นคุณถ่ายรูปสวยแบบนี้
ผมก็เลยคิดว่าอยากให้คุณช่วยถ่ายรูปขนมของผมหลาย ๆ แบบ
แล้วเปิดเว็บเพจไว้เรียกลูกค้าจากต่างจังหวัด
ถึงเขาจะรู้จักร้านเราจากถนนคนเดิน
แต่ร้านใหญ่จริง ๆ ของเราคนยังไม่รู้จักเท่าไร
ถ้าเปิดเว็บร่วมกันทั้งขนมไทย ทั้งเบเกอรี่
บางทีอาจจะช่วยดึงพวกลูกค้าที่มาเที่ยว
ให้เขาอยากซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้
ไหน ๆ ร้านเราก็เปิดติดกันอยู่แล้ว หรือคุณว่าไง”



หืม...ลูกแม่พลอยคิดได้ขนาดนี้เลยหรอ
เขาเองก็เล่นเน็ทบ่อยอยู่เหมือนกัน
แต่ไม่เคยคิดจะใช้โลกโซเชียลให้เป็นประโยชน์
อย่างดีก็แค่เล่นเกมคลายเครียดนิดหน่อยเท่านั้น
แล้วยังจะมาบอกให้ช่วยกันทำด้วย
คนรักศักดิ์ศรีไม่ยอมแพ้ใครอย่างลูกแม่พลอย
เลิกมองว่าร้านเขาเป็นคู่แข่งแล้วหรือไง
มาญาติดีร่วมมือกันแบบนี้ไม่อยากจะเชื่อเลย



หรือว่านี่...
จะเป็นโอกาสดี ๆ ที่จะทำให้เขาพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้มากกว่าเดิม


นักรบพยายามข่มความดีใจของตัวเอง
พยักหน้าตอบกลับด้วยท่าทีสงบนิ่ง


“อืม เข้าท่าดี ผมเห็นด้วย”


เจ้าของไอเดียได้ยินคำสนับสนุนก็ยิ้มกว้าง รีบบอกเสียงเริงร่า


“ใช่มั้ยล่ะ งั้นพรุ่งนี้คุณว่างมั้ย ผมจะได้เตรียมทำขนมเอาไว้เลย”


“โอเค ร้านผมมีห้องว่างอยู่ พอใช้เป็นสตูดิโอชั่วคราวได้
พรุ่งนี้ตอนสาย ๆ คุณก็ขนขนมมาร้านผมเลยแล้วกัน”


ความจริงเขาเคยใช้สถานที่ในร้านถ่ายรูปทำโปสการ์ดขายมาก่อน
อุปกรณ์อะไรก็พอหาประยุกต์เองง่าย ๆ
มีโคมไฟ กระดาษแข็งสีขาว
แล้วก็...



“คุณจะคิดค่าจ้างเท่าไร”



...คำถามเพียงคำเดียว
ไม่ใช่แค่ทำให้ความคิดเตรียมการทั้งหมดสะดุด
แต่ยังรวมถึงลมหายใจของคนฟังที่แทบขาดห้วงลงไปด้วย


“ค่าจ้าง?”


ร่างสูงเอ่ยทวนคำขึ้นช้า ๆ
รู้สึกคล้ายกับถูกถ้อยคำนี้ตบหน้า บีบลงไปในใจกลางความรู้สึก
ทั้ง ๆ ที่จะร่วมมือกันทำไมต้องมาคิดถึงเรื่องเงินทองด้วย
ทว่าคู่สนทนากลับเอ่ยเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ


“ก็เดี๋ยวว่าผมงกอีก ถึงจะเป็นเพื่อนกันผมก็ไม่คิดจะเอาเปรียบหรอกนะ”


“เพื่อน?”


นักรบเอ่ยทวนออกมาเป็นครั้งที่สอง
แต่แปลกที่ครั้งนี้
ถ้อยคำไม่ได้โยงถึงความหมายที่ห่างเหิน
แต่เขารู้สึกถึงแรงบีบรัดรุนแรงกว่า คล้ายถูกมีดกรีดลงตรงหัวใจ


“อ่ะ เออ...ก็...
เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ”


สาลี่เกาต้นคอแก้เก้อ
เหมือนคนยังไม่ชินปากที่จะเอ่ยคำพูดนี้ออกมา
แต่ก็เพราะตกลงใจแล้วว่าจะยอมรับอีกฝ่ายในฐานะเพื่อน
และนึกว่าลูกแม่เดือนก็คงคิดไม่ต่างกัน
ทว่า ทุกสิ่งกลับผิดความคาดหมาย
เมื่อร่างสูงกลับพูดย้อนถามออกมาเสียงเรียบ



“ผมเคยบอกเหรอว่าอยากเป็นเพื่อนคุณ”




...หัวใจหล่นวูบ


...รู้สึกทั้งเสียหน้า และเสียศักดิ์ศรี


เปล่า... มันไม่เคยบอกว่าอยากเป็นเพื่อน
มีแค่เขาที่คิดเองเออเองอยู่คนเดียว
ทั้ง ๆ ที่ยอมลดกำแพงของตัวเองลง
เพื่อให้อีกคนได้เข้ามาอยู่ข้าง ๆ
เพราะคิดว่ามันเข้าใจเขามากที่สุดแท้ ๆ
แต่โดนเหยียบย่ำน้ำใจกันขนาดนี้


...น่าขายหน้าชะมัด



รถโฟล์กเต่าจอดลงสนิทที่ร้านหน้าเหมือนเช่นเคย
สาลี่รีบหยิบเสื้อยืดกางเกงขาสั้นของตัวเองมาสวม
เอี้ยวคว้าข้าวของจากเบาะหลัง
เตรียมตัวจะเปิดประตูลงรถ
แต่ยังไม่ทันจะผละตัวออกห่างเสียงจากคนที่นั่งนิ่งอยู่ ๆ ก็พูดขึ้น


“ถ้าให้ผมเป็นเพื่อนคุณได้ปวดหัวตายชัก
ทั้งขี้โวยวาย ทั้งเอาแต่ใจ แถมยังปากเก่งอีก
แหนะ ๆ ดู...
ไม่ทันไร หน้าบึ้งอีกล่ะ
เพื่อนกันมันก็ต้องพูดได้ทุกเรื่องสิ
ผมพูดไม่กี่เรื่องก็ทำงอน
แล้วอย่างนี้จะมาบอกว่าเป็นเพื่อนกันได้อีกเหรอ”


แค่ฟังน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าโดนแกล้งเข้าให้อีกแล้ว
ใจที่หม่นเศร้าในตอนแรกเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิด
กระแทกประโยคตอกกลับไปอย่างโมโห


“เออ ผมก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนปากหมาอย่างคุณหรอก
คุยด้วยดี ๆ ต้องแหย่เล่นให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย
โรคจิตรึไงวะ”


ทว่าคนโดนด่ากลับทำลอยหน้าลอยตา


“เพิ่งรู้เหรอ สงสัยจะติดมาจากน้องสาลี่เนี่ยแหละ
เลี้ยงพันธุ์อะไรไว้ในปากเหรอครับ ถึงได้ดุเชียว ฮ่าๆๆๆๆ”


เสียงหัวเราะอย่างสะใจยั่วความโกรธให้พุ่งปรี๊ด
สาลี่กระชากประตูรถปิดดังโครม
ก่อนเดินลิ่วเข้าบ้านไปอย่างไม่สนใจ
ทิ้งให้คนที่ยังก้มหน้าอยู่กับพวงมาลัยหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายเพียงลำพัง



...หัวเราะ


...หัวเราะจนหมดแรง


...แต่ต่อให้หัวเราะมากแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บปวดทรมานลงไปได้เลย



ลูกแม่พลอยจะรู้มั้ยว่าคำคำนั้นเขาไม่ได้แหย่เล่นเลยสักนิด

แต่เขาพูดมันออกมาจากความรู้สึกลึก ๆ ข้างในใจ


ความรู้สึกที่มันฟ้องอยู่ชัดเจนว่า...



...เขาไม่อยากเป็น 'แค่เพื่อน' กับลูกแม่พลอยจริง ๆ




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




เปลี่ยนรสขมสลับกันบ้างกลัวคนอ่านจะเป็นเบาหวานกันหมดเสียก่อน   
ฝากเพลงของบร๊ะเจ้าโจ๊ก แทนความรู้สึกในใจที่เข้าก๊านนเข้ากันกับของพ่อนักรบ  :-[

เหตุผลที่ไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ



http://www.youtube.com/v/o-1EQKv_Sq4?



แล้วพบกันใหม่กับชิ้นหน้าค่ะ
เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก หนึ่งวันสามฤดู
ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ


รัก


 :กอด1:


BitterSweet


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2013 15:13:19 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
พ่อนักรบก็รีบรุก
สักทีสิจ๊ะจะได้เปลี่ยน
สถานะจากเพื่อนเป็น
คนรู้ใจ :z1:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ขมน้อยๆเบาๆพอนะคะ  สงสารนักรบจัง

รบต้องใจกล้าบอกแบบแมนๆไปเลยว่าชอบสาลี่

ไม่งั้นน้องสาลี่ไม่มีวันรู้ตัวหรอก เนอะ

บวกเป็ด

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
สงสารสาลี่....
ไอ้รบเอ๊ย! น้องสาอุส่าเปิดใจแล้วนะ ยอมๆเป็นเพื่อนไปก่อนแล้วค่อยเลื่อนขั้นไม่ได้หรอไง  :sad4:
รีบง้อด่วนๆเลยนะ! T ^ T

น้องสาลี่แต่งชุดไทยไปขายขนมทุกวัน...ร้อนทุกวัน.... เดี๋ยวไอ้รบมันก็ทนไม่ไหวเข้าซักวัน !
5555555555555

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
หัวเราะทั้งน้ำตา มันเศร้ามากนะ
กับารต้องเสแสร้งแกลงทำในสิ่งที่ตรงข้ามความรู้สึก
สงสารนักรบ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
แบบนี้ต้องจับปล้ำแล้วควบกิจการ  :z1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อยากเป็นมากกว่าเพื่อนก็รุกสิจ๊ะ



ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
 :3125:  นักรบทำไมพูดจาแบบนี้อ่ะ   แล้วแบบนี้เมื่อไรจะพูดจาภาษารักกันได้ล่ะนี่    น้องสาอุตส่าห์พูดดีและยอมเป็นเพื่อน แถมยังช่วยคิดไอเดียที่จะเปิดเว็บร่วมกันด้วย   ช่วยกันทำมาหากิน


รออ่านชิ้นที่ 15 ต่อไป กด+ ให้กับความน่ารักของน้องสา

ฮาเดส

  • บุคคลทั่วไป
โอยยยยยยยยยยยยยย....
เริ่มจิดราม่าแล้วใช่มั้ยเนี่ยยย
ตอนที่แล้วยังหวานอยู่เลยยยย


Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
นักรบเค้าไม่อยากเป็นเพื่อน เพราะอยากเป็นมากกว่าเพื่อน  :m1: :m1:

เริ่มแอบมองกันไป ชำเลืองกันมาแล้ว ทีนี้ก็รอลุ้นว่านักรบจะทำยังไงให้เป็นได้มากกว่าเพื่อนซักที คิคิ

+1 ค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
อยากเป็นมากกว่าเพื่อน ก็บอกเค้าไปซิจ๊ะ
ไม่ใช่กวนอารมณ์กันแบบนี้

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
แค่บอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนแต่อยากเป็นแฟนก็บอกไปสิลูกแม่เดือน

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เริ่มอึดอัดนิดหน่อยกับนักรบแล้วนะ เมื่อไรจะเดินหน้าจีบสาลี่จริงจังสักทีเนี่ย

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
 เพื่อน กู รัก เมิง วะ

สำหรับสาลี่

นักรบคงต้องใช้คำนี้ละ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
แล้วหนูสาลี่จะรู้ใจตัวเองเมือไหร่นิ

แอบสงสารคุณช่างกล้องเบาๆ

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:sad4:แล้วเมื่อไร ขนมปังจะได้กอดสังขยา

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น่าจะเริ่มจากเพื่อนก่อนแล้วค่อยพัฒนาจากความใกล้ชิด
เล่นไปพูดแบบนี้เด๋วลูกแม่พลอยก็โกรธจนมองหน้ากันไม่ติดหรอก

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
รบทำสาลี่ซะใจแป้วเลยอะ  รุกก็รุกดีๆสิจ๊ะ

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 15


สาลี่เดินหอบตะกร้าหวายเหมือนไปจ่ายตลาด
แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยขนมไทยหลายชนิด
ซึ่งเจ้าตัวจัดเตรียมมาพร้อม
เพื่อให้ใครบางคนถ่ายรูปสินค้าไว้สำหรับการโฆษณาโดยเฉพาะ


พื้นที่ห้องว่างชั้นสามร้านบ้านขนมเดือนใจ
ถูกยึดสร้างเป็นสตูดิโอถ่ายรูปชั่วคราวแบบง่าย ๆ
สาลี่นำขนมจัดวางบนโต๊ะว่าง ๆ
เหลือบมองนักรบที่กำลังง่วนอยู่กับการวางโคมไฟให้ส่องไปยังกระดาษโปสเตอร์สีขาว
ซึ่งแปะผนังยาวเลยลงมาที่โต๊ะเพื่อใช้เป็นฉากพื้นหลัง
ทั้งยังมีอุปกรณ์วัดแสง ขาตั้งกล้อง กระดาษไข และอะไรต่อมิอะไร
ดูแล้วชวนวุ่นวายไปหมดประหนึ่งเขาจ้างพวกมืออาชีพ


คนที่เป็นลูกมือทยอยส่งขนมของตัวเองไปให้ทีละอย่าง
ซึ่งช่างกล้องก็รับมาจัดวางโลเกชั่น
ก่อนกดชัตเตอร์ถ่ายภาพด้วยสีหน้าคล้ายจะเคร่งเครียดมากกว่าปกติ
ผมยาวเพิ่มมาดเซอร์ ๆ  ถูกรวบเป็นมวยเอาไว้
ให้เห็นดวงตาคมที่ไม่ฉายแววขี้เล่นเหมือนอย่างเคย
แถมยังไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดรอดออกมาจากปากที่ชอบแกล้งแหย่เขาเป็นประจำ


มันเงียบ...


...เงียบเสียจนอึดอัด


ลูกแม่เดือนมันเป็นอะไรของมันวะ?


...เป็นเพราะว่าจริงจังกับงาน

...หรือเป็นเพราะมีเรื่องอย่างอื่นกันแน่


เมื่อวานหลังจากแยกกับมัน
ก็เป็นเขาไม่ใช่เหรอที่เป็นฝ่ายโดนมันแกล้งยั่วโมโห
ยอมรับว่าโกรธอยู่หรอก
แต่เขาเป็นประเภทโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว
อีกอย่างมีวันไหนบ้างทีเขากับมันไม่ตีกัน
ทะเลาะกันตอนเช้า พอตอนเย็นก็กลับมานั่งรถไปขายของด้วยกันเหมือนเดิม
เป็นกิจวัตรซ้ำ ๆ ซะจนเขาไม่เก็บเอาเรื่องที่มันแหย่เล่นมาใส่ใจแล้ว
ขืนเต้นตามเกมที่มันแกล้งทุกครั้งคงได้เหนื่อยกันเปล่า ๆ
แล้วพอเขางอน มันก็หาวิธีแซวให้เขาหลุดด่าเปิงออกไปอีกจนได้


แต่กับครั้งนี้มันไม่ใช่...

เขารู้สึกเหมือนลูกแม่เดือนกำลังมีอะไรบางอย่าง
เป็นความคุกกรุ่นหงุดหงิดในใจคล้ายกับอารมณ์โกรธ


โกรธ...


โกรธใคร?



...เขาเหรอ?




“คุณโกรธผมเรื่องอะไรรึเปล่า”


แค่เพียงคิดในใจ แต่สาลี่ก็หลุดปากถามออกไปอย่างยั้งไม่ทัน
คนที่ได้ยินเสียงถามทำลายความเงียบชะงักมือที่กดชัดเตอร์
ก่อนหันมาตอบย้อนเสียงเรียบ


“เปล่านี่ ทำไมผมต้องโกรธคุณล่ะ”


“ไม่รู้สิ  ก็...มันไม่เหมือนทุกที”


ไม่ใช่แค่ดวงตาคมจะฉายแววประหลาดใจ
แต่สาลี่เองก็แปลกใจในสิ่งที่ตัวเองพูดไม่แพ้กัน


...อ้าว  พูดอะไรออกไปอีกแล้ววะ
ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าไอ้ทุกทีมันคือแบบไหน
แต่ดันฟันธงด้วยคำตอบข้าง ๆ คู ๆ ออกไปอย่างนั้น
ขนาดตัวเองยังคิดว่างี่เง่าเลย
อีกคนไม่หาว่าเขาบ้าก็คงจะเกินไปหน่อย


แล้วก็จริงดังคาด...
เมื่อหนุ่มมาดเซอร์หยอดคำแหย่เล่น
พร้อมกับยิ้มบาง ๆ เหมือนที่เจ้าตัวชอบทำ


“อะไรกัน คิดไปเองรึเปล่า ผมก็เหมือนเดิมทุกทีนั้นแหละ
เมื่อคืนนอนน้อยเหรอ ถึงได้หลอนเอากลางวันแสก ๆ”



ไม่ใช่แล้ว...


ไม่ได้คิดไปเอง...


ยิ่งเห็นว่ายิ้มแบบนี้ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ชัดเจน
เขาเข้าใจแล้วในสิ่งที่ใครบางคนเคยบอก



“คุณยิ้มที่ปากแต่ตาไม่ได้ยิ้ม”



“......................”



ความนิ่งอึ้งเข้าครอบคลุมทันทีที่จบคำ
นักรบยืนตะลึงเหมือนถูกแช่แข็ง
ราวกับตกใจในคำทักที่ไม่คิดว่าจะโดนย้อนกลับมาที่ตัวเอง


...นี่เขาเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนลงไปกัน
และที่สำคัญ ลูกแม่พลอยมันรู้ได้ยังไง


แล้ว...


แล้ว...


...ลูกแม่พลอยจะรู้ถึงความลับในใจของเขาด้วยรึเปล่า...



ไม่ต้องรอนานเมื่อความสงสัยในใจได้รับคำตอบ
จากคนเปิดประเด็นที่กลับเป็นฝ่ายปฏิเสธเสียเอง


“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจอะไร
แต่ถ้ามีเรื่องอยากระบายก็เล่าให้ผมฟังได้นะ”


ประโยคกึ่งปลอบไม่ได้ช่วยทำให้นักรบรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย
กลับทำให้ร่างสูงถอนหายใจหนักอย่างเหนื่อยหน่าย

...ที่แท้ลูกแม่พลอยก็แค่เดาถูกใช่มั้ย



“อย่าเลย บอกไปคุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”


ถ้อยคำที่เหมือนไม่สนใจทำให้คนที่อุตส่าห์หวังดีเริ่มชักอารมณ์ขึ้น


“ก็ถ้าไม่บอกแล้วจะไปรู้ได้ไงเล่า!”


สาลี่เอ่ยคาดคั้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
เห็น ๆ กันอยู่ว่ามีเรื่องในใจชัด ๆ
แล้วยังจะมาโกหกกันซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้อีก
ทีเขามีปัญหาอะไรก็ไม่เคยจะปิดบังให้ลูกแม่เดือนรู้เลยสักนิด
แต่พอตัวเองมีมั้งกลับไม่ยอมพูดอะไรออกมา


...ทำไม หรือไม่ไว้ใจเขา?


....แล้วแบบนี้มันจะไม่น่าโมโหได้ยังไง!



คนรอคำตอบกอดอกนิ่งมองอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ปุด ๆ
แต่คนถูกบีบกลับทำแค่เพียงพูดออกมาสั้น ๆ


“พอเถอะ ผมจะทำงาน”


แค่คำตัดบทของช่างกล้องที่หันไปสนใจการถ่ายภาพต่อ
ก็เพียงพอจะจุดระเบิดความโมโหในตัวคนเลือดร้อน


...แม่งเล่นตัวนักใช่มั้ย

...กูไม่ทนแล้วโว้ยยยย!!!



สาลี่เดินเข้าไปกระชากไหล่ของร่างสูงให้หันมาเผชิญหน้า
ดวงตากลมโตที่บัดนี้ไร้แว่นบดบังวาวโรจน์ด้วยอารมณ์คุกกรุ่นชัดเจนมากกว่าเคย


“พูดออกมานะ รบ!”


ชื่อเรีำยกสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดจริงจัง
จนคนโดนดุต้องเหลือบมองมือที่บีบแขนของเขาไว้แน่น
บ่งบอกว่าถ้าไม่ได้คำตอบคนตรงหน้าคงไม่มีวันปล่อย


...ลูกแม่พลอยจะมาบังคับเขาทำไม
ที่วันนี้เขานิ่ง ๆ ไปก็เพราะเมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับ
แล้วที่นอนไม่หลับก็เพราะมัวแต่คิดถึงใครบางคน
วนเวียนซ้ำไปซ้ำมากับความรู้สึกที่เก็บซ่อนอยู่ในใจ


...รัก

...อยากจูบ

...อยากกอด

...อยากทำให้เป็นของเขาคนเดียว


ความจริงพวกนี้...
บอกไปแล้วลูกแม่พลอยจะเชื่อมั้ย
แล้วจะยินดีรับความรู้สึกที่มันล้นอยู่ในใจเขารึเปล่า


“แน่ใจนะว่าคุณอยากได้ยิน”


สาลี่พยักหน้าลงอย่างแน่วแน่
ยิ่งสร้างความลังเลให้กับนักรบ


...ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้
คงไม่มีทางให้หนีอีกต่อไปแล้ว
ถ้าลูกแม่พลอยอยากรู้มากนัก
เขาก็จะขอบอกกันตรง ๆ
ส่วนผลจะเป็นยังไง...


...เขาจะยอมรับมันไว้ทุกอย่างเอง



นัยน์ตาคมประสานสายตาเข้ากับคนรอฟัง
ซึ่งเจ้าตัวก็มองตอบโดยไม่หลบ
นักรบสูดลมหายใจลึก
พยายามเก็บเกี่ยวทุกความรู้สึก
ก่อนถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด


คำที่อยู่ในใจมาเนิ่นนาน...



“ผมอยากบอกคุณมานานแล้วว่า ผมระ....”



กริ๊งงง... กริ๊งงง... กริ๊งงง...



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา
สาลี่รู้สึกถึงการสั่นเบา ๆ ไม่หยุดในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
เขาลังเลเล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบ
แต่เสียงร้องก็ยังคงดังแผดขึ้นจนน่ารำคาญ
ท้ายที่สุดเจ้าของก็ต้องล้วงกระเป๋าหยิบมือถือขึ้นมากดรับ


“ฮัลโหล....
ครับ... สาลี่ครับ....
อ๋อ...จำได้สิครับ...
ขอบคุณมากเลยครับที่อุดหนุนขนมของผม...”


เมื่อได้ยินเสียงอธิบายจากปลายสายว่าใครเป็นคนโทรมา
เจ้าตัวก็เปลี่ยนท่าทีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
ปล่อยมือที่บีบแขนร่างสูงไว้
ผละออกห่าง แล้วเดินไปคุยอีกทาง

แต่เสียงพูดเหล่านั้น จะให้เบายังไง
ก็คล้ายกับเป็นการเร่งให้ดังท่ามกลางความเงียบ
แม้ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ใครอีกคนในห้องแคบ ๆ ก็ยังคงได้ยินทุกถ้อยคำ


“ร้านผมอยู่ไหนเหรอ พี่รู้จักตลาดเก่ามั้ยครับ...
นั้นแหละครับ...เข้ามาจากหอนาฬิกาสักสามร้อยเมตร
อยู่ตรงข้ามกับร้านขายชุดนักเรียน...
อะไรนะ...ให้ผมไปรับพี่เหรอ..
พูดจริงรึเปล่าครับเนี่ย...ผมไปได้นะ...”


“เปล่าครับ... ผมยังไม่มีแฟน
ผมเลยว่างมารับพี่ได้ไง...
อ๋อ...ร้านผมยังไม่มีเดลิเวอรี่ครับ...
แต่ถ้าพี่สั่งเยอะผมยินดีบริการให้พี่เป็นพิเศษเลย...”


“ครับ....ไม่ลืมลดให้อยู่แล้วครับ
โห...พี่ไม่ต้องชมผมเลย....
...ผมเขินไปหมดแล้วครับ...ฮ่าๆๆ”


“โอเคครับ...แล้วผมจะรอ...
ครับ...
...ขอบคุณมากเลยครับ”


สาลี่กดวางสายจากลูกค้าเจ้าประจำ
...ดีจริง ที่พี่คนที่เหมาขนมไปคราวนั้นบอกว่าจะแวะมาสั่งขนมปังสังขยาเพิ่มอีกที่ร้าน
แถมยังช่วยแนะนำร้านเขาให้คนอื่น ๆ ด้วย


เออ...ว่าแต่..


จริงสิ...เมื่อกี๊ถึงไหนแล้วนะ


คนที่ยังคาใจในบทสนทนาซึ่งยังไม่จบดีกำลังจะหันไปถาม
แต่ช่างกล้องที่เพิ่งกดชัตเตอร์รูปถ่ายใบสุดท้ายกลับพูดขัดขึ้น


“เสร็จแล้ว พรุ่งนี้คุณค่อยมาเลือกรูปแล้วกัน”


เอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนร่างสูงจะปิดโคมไฟ
แล้วหิ้วกล้องเดินเปิดประตูออกไปนอกห้อง


“เฮ้ย เดี๋ยว...”


สาลี่ร้องอย่างตกใจให้กับการกระทำปุบปับ
เขารีบเดินลงบันไดมาด้านล่าง
แต่ก็ยังไม่กับคนที่นำมา ซึ่งเดินขึ้นรถเต่าที่จอดอยู่หน้าร้าน
ก่อนขับรถออกไปโดยไม่ทิ้งคำอธิบายใด ๆ ไว้เลย


“อ้าว...สาลี่ ถ่ายรูปเสร็จแล้วใช่มั้ยลูก
เห็นเจ้ารบรีบร้อนไม่รู้ไปไหนของเขา
ว่าจะฝากให้ซื้อแป้งขนมปังเพิ่มเสียหน่อย
เฮ้อ...ใช้ไม่ได้เลยเจ้าลูกคนนี้”


แม่เดือนบ่นถึงลูกชายเมื่อเห็นแขกเดินลงมา
คนฟังยิ้มรับแห้ง ๆ ก่อนจะขอตัวเดินกลับขึ้นไปเก็บขนมไทยของตัวเอง
เขากวาดตามองขนมที่วางกองอยู่บนโต๊ะ
แล้วก็ต้องเผลอหงุดหงิดให้กับคนที่ทิ้งงานไปกลางคัน


...เสร็จบ้าอะไรกันวะ
ยังเหลือขนมอีกตั้งห้าหกอย่างที่ยังไม่ได้ถ่าย
แถมเรื่องที่พูดก็ยังคุยกันไม่จบด้วย



“ผมอยากบอกคุณมานานแล้วว่า ผม....”



ผมอะไร...?


..อยากรู้จริง ๆ ว่าลูกแม่เดือนมันตั้งใจจะบอกอะไรเขากันแน่นะ



สาลี่ทยอยเก็บข้าวของไปยังร้านของตัวเอง
แล้วก็กลับไปช่วยแม่เฝ้าร้านหวานละไมขายขนมไทยตามเดิม
ทว่าภายในใจยังคงวนเวียนสงสัย
กับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากใครบางคนตลอดทั้งวัน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



...เก้าโมงเช้า


หนุ่มเจ้าของไทยเดินเข้าไปในร้านบ้านขนมเดือนใจตามคำนัด
เผื่อที่จะไปดูรูปซึ่งถ่ายเอาไว้เมื่อวาน
เขาชะโงกหน้ามองเข้าไปในครัวเห็นนักรบกำลังนวดแป้งอยู่


..เออ...เอาไงดีวะ
จะทักมันตอนนี้ดีมั้ย
หรือจะรอให้ทำเสร็จก่อนแล้วค่อยมาดูรูปอีกที


ทว่ายังไม่ทันจะหันหลังกลับ
ดวงตาคมก็เหลือบเห็นพอดี


“คุณเข้าไปห้องผมเลย ชั้นสองใกล้ห้องน้ำ
เปิดคอมดูในไฟล์ชื่อว่าขนม
แล้วตั้งโฟลเดอร์ใหม่เลือกรูปใส่เข้าไปเลย
เดี๋ยวผมอบเค้กเสร็จแล้วจะตามขึ้นไป”


ท่าทีที่พูดคุยอย่างเป็นปกติ ทำให้คนฟังพยักหน้า
แม้จะยังคงตงิดใจนิด ๆ กับเรื่องที่ยังไม่ได้คำตอบเมื่อวาน
แต่จะให้มาคาดคั้นตอนนี้มันก็กระไรอยู่
ไว้รอโอกาสที่อยู่ด้วยกันค่อยถามใหม่
ถ้ายังยึกยักไม่ตอบก็คงต้องบังคับกันอีกรอบล่ะ
คราวนี้เขาไม่ยอมปล่อยให้หนีอีกแน่ ๆ


สาลี่คิดในใจอย่างมุ่งมั่นขณะเดินขึ้นชั้นบนเปิดประตูห้องตามที่ได้ยิน
ห้องของนักรบดูรกกว่าที่คิดไว้
เห็นแล้วก็แอบขัดตากับความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
ตามประสานิสัยรักสะอาดอย่างเขา
ดวงตากลมมองหาโน๊ตบุ๊คซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะติดผนังใกล้ ๆ ประตู
เขาหยิบปลั๊กขึ้นเสียบ กดเปิด รอให้เครื่องดาวน์โหลด
พักเดียว หน้าจอก็สว่างวาบขึ้น

โห...โฟลเดอร์เต็มแน่นไปหมด หัดจัดบ้างรึเปล่าเนี่ย
ไม่ต่างอะไรจากห้องตัวเองเลยจริง ๆ
เออ...ลูกแม่เดือนบอกชื่อไฟล์ว่าขนม
แล้วมันอยู่ไหนวะ
มีแต่ชื่อเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น


....Music

....Game

....Download

....Photo101

....Sweet....



...Sweet?


 
‘Sweet’ มันแปลว่า ‘ขนม’ เหมือนกันนี่หว่าใช่มั้ย?



เขาให้คำตอบตัวเองเสร็จสรรพ
มือเลื่อนคลิกเปิดอัตโนมัติ
และทันทีที่ภาพหน้าจอเปลี่ยนสลับไฟล์
ดวงตากลมก็เบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏ


รูป...


รูปนับพัน.....


และที่สำคัญมันเป็นรูปของเขา

...ทุกสีหน้า ทุกการกระทำ
ถูกถ่ายเก็บเอาไว้โดยไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหนและเมื่อไร
รูปที่ไล่เรียงเหมือนถูกแก้ไขปรับให้เป็นโปสการ์ด
โดยมีข้อความเขียนไว้ข้างใน


สาลี่คลิกเปิดมันขึ้นมาให้ขยายรูปจนเห็นข้อความสั้น ๆ ที่ประกอบเข้ากัน
หากแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาจากใจของคนทำ


ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว
หัวใจเต้นระรัวด้วยความสั่นไหว
เมื่อสายตาจับจ้องไล่อ่านตัวอักษร....



“อยากให้ยิ้มของคุณเป็นของผมคนเดียว”

...ภาพที่เขากำลังยิ้มหลังจากกินขนมปังสังขยาที่ทำเองครั้งแรก


“คุณมองอะไร... จะมองเห็นผมบ้างรึเปล่า”

...ภาพที่เขากำลังเหม่อมองบางสิ่งจากแผงขายในถนนคนเดิน


“อรุณสวัสดิ์ คนน่ารัก"

...ภาพที่เขาลงมาพร้อมชุดนอนหลังจากเจอกับแม่เดือนครั้งแรก


“ผมบอกหรือยังว่าชอบหน้าคุณตอนกำลังงอน”

...ภาพที่เขากำลังโมโหเพราะโดนแกล้ง


“คุณเมาเหล้า แต่ผมเมารัก”

...ภาพที่เขาชูสองนิ้วยิ้มให้กล้องอีกมือถือกระป๋องเบียร์ตอนอยู่ถนนริมน้ำ


“อย่าเศร้านะคนดี มีผมอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ คุณ”

...ภาพตอนที่เขากำลังยืนซึมเพราะขายขนมปังสังขยาไม่ได้


“จูบของคุณคือขนมที่หวานที่สุด”

...ภาพหลังจากที่เขาโดนขโมยจูบแรก


“คุณจะรู้มั้ยว่ามีใคร ‘ตกหลุมรัก’ คุณ”

...ภาพที่นักรบหอมหน้าผากของเขาที่กำลังหลับตาเอนซบกับไหล่



นี่มัน...


มันอะไรกัน...




...แกร๊ก



“เลือกได้หรือยะ...”


คำถามสะดุดลงทันที
เมื่อคนเปิดประตูเข้ามาเห็นชัดเต็มสองตาว่าในจอคอมปรากฏภาพบางสิ่ง...


...บางสิ่งที่ไม่กล้าเอ่ยคำบอก

...บางสิ่งที่พยายามเก็บไว้ในใจ

แต่บางสิ่งในตอนนี้...


...กลับถูกคนที่ไม่สมควรเห็นมากที่สุดรับรู้เข้าเสียแล้ว...



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2013 15:21:09 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ค้างงงที่ซู๊ดดดดเลยค่า
พ่อรบของพี่ เป็นพระเอกเก็บกดน่าสงสารจริงจริ๊ง
คราวนี้น้องสาลี่รู้ความจริงแล้วทำไงดี
ตอนนี้คิดออกอยู่ทางเดียว ตามฟอร์มนางเอกแล้ว
นางต้องไม่ยอมรับรักแน่ๆ ต้องหนีนักรบไปห่างๆ
คนอ่านต้องเจ็บช้ำแน่ๆ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อุ้ยยยยยยเห็นจนได้
แล้วจะเป็นไงล่ะที่เนี้ย
สู้สู้น๊าพ่อนักรบหัวใจแกร่ง :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด