ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]  (อ่าน 817175 ครั้ง)

ออฟไลน์ mino

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คนอ่านขอมึนด้วยคน :a6: :a6: :a6:

ออฟไลน์ mino

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เห้ยนาย เรามีไรจะบอกนายว่ะ ขอหยาบคายหน่อยนะ...แม่งบ้าว่ะศร :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
กว่าจะเข้าใจกันได้   เข้าไปตอนที่สิบ :เฮ้อ: ลุ้นเหนื่อย

ภาคนี้น่าจะยาวที่สุดของซีรี่ย์แน่เลย :laugh:

 o13

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
เปิดใจกันแล้ว...บรรยากาศก็กลายเป็นสีชมพูเลยย....

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ค่อยๆใกล้กันที่ละนิด :z2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เจอคมสันขอแบบนี้เรากลัวว่าปลายจะไม่กล้ายิ้มให้น่ะสิ หึหึ

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 11


ความลับไม่มีในโลกฉันใด
นายปลายฟ้าก็ยังคงความหล่ออยู่เหมือนเดิมฉันนั้น


ถุย!  ไม่ใช่...


ที่ความลับไม่มีในโลกเพราะสุดท้ายแล้ววันหนึ่งความจริงมันก็ต้องปรากฏ
ต่อให้พยายามปิดบังมากแค่ไหนก็ตาม


....เหมือนเช่นครั้งนี้
ที่กลุ่มคณะเด็กเภสัชชายล้วนห้าคนกำลังสุมหัวรวมกัน
ขยายความจริงอยู่บริเวณหน้าเต้นท์หลังมื้ออาหารกลางวัน
โดยมีไอ้เกมส์เป็นคนเปิดประเด็น


“ไอ้แว่น มึงรู้เหรอวะ”


“ก็กูไม่โง่นี่หว่า เห็นพวกนั้นมองก็พอเดาออกแล้ว”


...เออ ไอ้ฉลาด

ปลายฟ้าอ่านสายตาคนรอบข้างได้แบบนั้น
แต่ทุกคนยังคงยั้งปากไม่อยากขัดจังหวะให้เสียรูปการณ์
เพราะเรื่องที่กำลังคุยกันมันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด

“ตกลงมึงไปรู้มาได้ยังไงเล่าให้เคลียร์ดิ ๆ”

คำถามถูกพูดขึ้นจี้จุดอีกรอบ
ซึ่งคนตอบแสดงท่าทางจริงจังขยับแว่นให้เข้าทีก่อนเริ่มต้นอธิบาย

“ก็ตอนเที่ยงกูลุกไปตักข้าวมาเพิ่ม
แล้วทีนี้มันต้องผ่านโต๊ะพวกเด็กวิศวะ
กูเลยบังเอิญได้ยินพวกนั้นพูดกันว่า
‘ทำงานแลกเกรด สบายเป็นคุณชาย พวกได้อภิสิทธิ์แม่งก็แบบนี้’
พอคนในโต๊ะมันเหลือบมาเห็นกู เลยสะกิดกันให้เงียบ
ถึงมันไม่ได้บอกชื่อมาว่าพูดถึงใคร
แต่โง่แค่ไหนก็ต้องดูออกล่ะวะว่ากำลังนินทาพวกเราอยู่”

ไอ้เกมส์หันมองหน้าเขาหลังฟังเรื่องราวจากปากเพื่อน
เหมือนกับจะบอกว่าเป็นสถานการณ์เดียวกันกับที่เคยโดยตรงหน้าห้องน้ำ
เจ้าตัวจึงตัดสินใจเล่าสิ่งที่พบเจอมาให้คนอื่นนอกจากปลายฟ้าฟังบ้าง
แถมยังตบท้ายด้วยคำสบถอย่างเคืองแค้น

“แม่งลูกผู้ชายรึเปล่าวะ ขี้นินทายังกับผู้หญิง
มีปัญหาอะไรสู้มาเคลียร์กันตัว ๆ เลยดิ
แม่งไม่แน่จริงนี่หว่า!!”

ปลายฟ้าพยักหน้าเห็นด้วย
ไอ้พวกเด็กวิศวะทำตัวน่าโมโหจริง  ๆ
มานินทากันลับล่อ ๆ สนุกปากเอาเอง
ครั้งแรกยังพอทน แต่ครั้งที่สองแม่งก็ยังพูดแบบนี้
แล้วยังไม่นับกับที่พวกเขาไม่ได้ยินอีกตั้งเท่าไร
ถึงจะทำงานผ่านมาห้าวันถือเป็นครึ่งทางของค่ายอาสาแล้ว
แต่จะให้เขาทนฟังคำดูถูกไปจนจบค่ายมันก็มากไป

...เด็กเภสัชเองก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะโว้ยย!


“แล้วจะให้ทำไง ออกไปต่อยมันเหรอวะ”
รู้อยู่ว่าขืนมีเรื่องกันอาจารย์ชลิดาไม่เอาไว้แน่
เผลอ ๆ มีรายงานความประพฤติไปยันอาจารย์ที่ปรึกษานู้น ”

ไอ้แว่นแจงเหตุผลแย้งคนอารมณ์ร้อน
ซึ่งก็ได้ผลเพราะทุกคนเริ่มคิดถึงสิ่งที่จะตามมา
การมีเรื่องทะเลาะชกต่อยกันในค่ายถือเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
ควรเลี่ยงได้ก็ต้องเลี่ยงไม่งั้นคนก่อเรื่องคงโดนเพ่งเล็งจนเสียประวัติแน่

“แล้วมึงบอกบอลล่ารึยัง”

เกมส์ถามถึงชื่อของบุคคลเดียวที่ไม่ได้มาร่วมวงสนทนา
เพราะตอนที่ไอ้แว่นลากมาคุยมีแค่ เกมส์ โจ ตุ๊ต๊ะ แล้วก็เขา
คนถูกถามรีบส่ายหัวปฏิเสธ

“ยัง ถ้าบอลล่ารู้ กูคงเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านได้เลย”

ทุกคนในกลุ่มเห็นพ้องต้องกัน
เพราะแม้ว่าบอลล่าจะละทิ้งความมาดแมนแรงเกินร้อยไปแล้ว
แต่เรื่องศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเจ๊ยังคงรักษาไว้เหนี่ยวแน่น
จะไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติได้ง่าย ๆ 
แถมเจ๊ยังใจร้อน ถ้าโมโหอะไรเจ๊ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น
หวุดหวิดจะมีเรื่องกับคนอื่นมาแล้วหลายที
เป็นบุคคลที่ไม่สมควรให้ได้ยินคำนินทาพวกนี้เป็นที่สุด

ทว่าดูเหมือนโชคชะตาแห่งความลับจะไม่เข้าข้างพวกเขา
เพราะวินาทีหลังจากนั้นเสียงหวานกึ่งแมนร้องดังมาจากข้างหลังทันที


“ว่าไงจ๊ะหนุ่มๆ คุยอะไรกันเอย...”

คนถูกทักห้าคนสะดุ้งกันเกรียว
โห....ศักดิ์สิทธิ์จริง  ๆ พูดถึงเจ๊ เจ๊ก็มา
แถมยังมาได้จังหวะเรื่องไคล์แมกซ์เข้าพอดีแบบไม่ทันตั้งตัว
จนไอ้เกมส์ต้องรีบตอบปฏิเสธตะกุกตะกัก

“อะ...เออ ไม่มีอะไร
คะ..แค่คุยเรื่องงานเฉย ๆ”

และแน่นอนว่าพฤติกรรมสุดแสนมีพิรุธ
ย่อมไม่พ้นสายตาเจ้าสังเกตของบอลล่า
ที่หรี่ลงมองคนตรงหน้าด้วยอาการจับผิด

“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องหลบ ๆ ซ่อนด้วย
ทำตัวน่าสงสัยเหมือนสามีแอบไปมีกิ๊กแล้วกลัวเมียจับได้เลยนะยะ
นี่! อย่าโกหก บอกมาไอ้เกมส์! แกนินทาชั้นอยู่รึเปล่า”


“เปล๊าครับเจ๊  โห....ใครจะกล้า
ถ้าจะนินทาคงบอกว่าเจ๊ส๊วยยยสวยย
ไอ้แว่นมันเพิ่งจะบอกให้เจ๊เป็นแบบให้น้องดู
เนี่ยกะจะบอกน้องว่าเจ๊สวยเหมือนนางพันธุรัตเลย”


“มันแน่อยู่แล้วว่าชั้นสะ..สวย...
เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน นางพันธุรัตนี่มันชื่อยักษ์ในสังข์ทองไม่ใช่เหรอ
กรี๊ดดดด!! ไอ้เกมส์ แกว่าชั้นเหมือนนางยักษ์เหรอย่ะ
มาให้แม่จับกินซะทีเถอะ!!”

โชคดีที่ไอ้เกมส์หาทางเล่นมุกเอาตัวรอดกลบเกลื่อน
พร้อมกับวิ่งเปิดแน่บไปทางอาคารเรียนเรียบร้อย
โดยมีบอลล่าที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนแหย่ตามไปติด ๆ
เป็นอันแก้ไขสถานการณ์ไปได้อย่างหวุดหวิด
คนในกลุ่มที่เหลือถอนหายใจอย่างโล่งอก
ก่อนจะค่อย ๆ เดินตามไปสบทบที่หลัง


ปลายฟ้าเองมองคนสองคนที่วิ่งไล่กันอย่างกับเด็กประถม
ทว่าในสมองกลับยังคงขบคิดเรื่องที่ได้ฟังซึ่งยังคงคาใจอยู่

...เขาไม่อยากให้เด็กวิศวะเข้าใจเด็กเภสัชผิด
ถึงไม่ได้สนิทกันหรือร่วมงานอะไรกันมากมาย
แต่พวกเราก็ถือเป็นหนึ่งในชาวค่าย ทำงานด้วยจิตอาสาเหมือนกัน
เขาแทบจะลืมเรื่องที่มาค่ายเพื่อแลกกับเกรดไปแล้วด้วยซ้ำ
ดังนั้น เลยอยากอธิบายจะให้ทุกคนได้เข้าใจ
แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มทำด้วยวิธีไหนดี

....จะให้เข้าไปถามตรง ๆ
มันเหมือนไปหาเรื่องกันรึเปล่า
แล้วพวกนั้นจะยอมบอกง่าย ๆ เหรอ

...จะให้เขียนจดหมายไปแปะไว้
มันก็จะดูตลกไปมั้ย
ไม่ใช่เด็กประถมทะเลาะกันสักหน่อย

...หรือจะให้มีตัวกลางเป็นคนประสานดี
เออ...เข้าท่าเหมือนกัน


ถ้างั้นจะเป็นใครล่ะ...

ต้องเป็นคนประสานที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่มีอคติทั้งเด็กเภสัชและวิศวะ
สามารถแก้ไขปัญหาได้ แล้วทุกคนยอมรับฟัง


ภาพของใครบางคนลอยวาบเข้ามาในหัว
สะกิดให้ปลายฟ้านึกขึ้นมาได้


จริงด้วยสิ....


ถ้าเป็นคนคนนั้นล่ะก็...



“เฮ้ย!!  ไอ้ปลาย ระวัง!!”

เสียงตะโกนเตือนดังลั่นทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาคิดต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ทว่ามันกลับช้าไป เพราะแค่เสียววินาทีบางสิ่งบางอย่างกลับพุ่งใส่เขาเข้าอย่างจัง



ซ่า!!



...ขาว


....ขาวเลยกู


ไม่ต้องไปให้หมอฉีดกรูตาไธโอแบบทีเขาฮิต  ๆ
หรือต้องกินวิตามินเป็นกำ ๆ แบบพี่โดม
ตอนนี้ทั้งแขนขาของนายปลายฟ้าขาวผ่องเปล่งออร่าด้วยครีมยี่ห้อใหม่
ที่ชื่อว่า ‘สีน้ำโฟร์ซีซั่น’ สีทนได้ทุกฤดูกาล


“เป็นไรเปล่าวะมึง”

ไอ้เกมส์ที่ร้องเตือนเขารีบวิ่งเข้ามาดูพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ๆ
ซึ่งมีท่าทีตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้า
เมื่อเห็นพ่อเต่าน้อยประจำกลุ่มโดนสีทาบ้านสาดใส่เข้าเต็ม ๆ ตัว
จากชายหนุ่มคู่กรณีสองคนซึ่งกำลังส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิด


“แม่งเอ้ยย...สีหกหมดเลย
แล้วจะทำไงวะเนี่ย ยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย
ไอ้เต้ มีเหลืออีกแกลลอนหนึ่งรึเปล่ากลับไปดูดิ”

คนพูดเป็นชายรูปร่างสูง ผิวแทน หน้าตาคมออกแนวคนใต้
เดินคู่มากับอีกคนที่สูงพอกับนายปลายฟ้าแต่หน้าตาออกตี๋ ๆ
ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักแต่เคยเห็นผ่าน ๆ ว่าอยู่รวมกลุ่มกับพวกเด็กวิศวะ
ทั้งสองคนหันหลังกลับทำท่าเหมือนจะเดินไปเอาสี
โดยไม่สนใจคนที่ยืนตัวขาวโพลนเลยแม้แต่น้อย


“เฮ้ย! จะไปไหนวะ ขอโทษสักคำน่ะเป็นมั้ย”

คำเอ่ยรั้งเรียกให้คนที่กำลังเดินออกห่างชะงัก
ก่อนชายผิวเข้มจะหันมากวาดมองพลางพูดโต้กลับด้วยท่าทางไม่สนใจ


“ทำไมต้องพูดวะ
ไอ้คนที่ไม่ทำงานทำการเอาแต่วิ่งเล่น
แล้วมาชนคนอื่นจนทำสีหกเนี่ย
ใครกันแน่ที่มันต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”


ปลายฟ้ายืนนิ่งฟังถ้อยคำที่เหมือนหาเรื่องอยู่กลาย ๆ ด้วยความตะลึง


....เขายอมรับว่าตัวเองเดินเหม่อจริง
แต่เขายังมีสติเดินตรงไปตามทาง
ไม่ได้เฉไปไหนจนชนใครได้ง่าย ๆ
และเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็ยังเห็นเป็นพยานชัดเจน
เช่นเดียวกับบอลล่าที่ก้าวมานำหน้าออกโรงเถียงแทนอย่างนึกฉุน

“นี่อย่ามามั่วนะยะ!! พวกชั้นไม่ได้วิ่งชนพวกเธอซะหน่อย
เธอเดินสะดุดแล้วกระแทกพ่อเต่าน้อยจนสีหกใส่เองชัด ๆ
ชั้นเห็นเต็มๆ ตา ยังจะกล้าเถียงอีกเหรอห่ะ!!”

ทว่าคำด่ากลับไม่ส่งผลกระทบกระทือนใด ๆ กับคู่กรณี
ซ้ำอีกฝ่ายยังยักไหล่ส่งเสียงในลำคอตอบกลับอย่างดูถูก

“หึ พวกกันมันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้วนี่หว่า
เด็กเภสัชแม่งก็แบบเนี่ย ชอบเอาเปรียบคนอื่น”

“เอาเปรียบยังไงวะ แม่งพูดมาให้ดี ๆ
แล้วไอ้เด็กวิศวะมันวิเศษนักเหรอไง
ถึงได้เที่ยวนินทาคนอื่นเขาไปทั่ว”

ไอ้เกมส์ทนไม่ไหวอีกคน
พูดโพล่งขึ้นมาพร้อมเดินขึ้นไปใกล้อีกฝ่าย
เหมือนตั้งใจว่าถ้าปล่อยหมัดใส่คงได้โดนกันแน่
แต่คนถูกท้ากลับไม่มีทีท่าว่าจะกลัว
เอ่ยสวนกลับด้วยน้ำเสียงชวนทะเลาะ

“นินทาอะไร?
เรื่องที่พวกเภสัชมาค่ายจะเอาเกรดน่ะเหรอ
แล้วมันไม่จริงรึไงวะ!
หรือว่ามันแทงใจ พวกมึงเลยโมโห”


“กรี๊ดดด!!  แกกล้าดียังไงย่ะ!!
มันปากหรือตูด ถึงได้พูดออกมาได้
โอยย...ชั้นทนไม่ไหวแล้ว
ขอแม่ตบล้างน้ำสักทีเถอะ!!”

คนใจร้อนสุดในกลุ่มร้องโวยวายขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
หญิงเดี่ยวในร่างชายใจเด็ดจึงเตรียมยกมือหมายจะประเคนหนุมานถวายแหวนให้เป็นรางวัล
แต่ยังไม่ทันที่มวยคู่เอกจะเริ่มหรือกรรมการสั่งห้ามได้ทัน
เสียงตะโกนดังลั่นจากด้านหลังกลับส่งผลให้การกระทำทุกสิ่งชะงัก


“หยุดนะ มีเรื่องอะไรกัน!!”


คำสั่งเด็ดขาดมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของท่านประธานค่าย
ที่พ่วงมาด้วยรองประธานสุดหล่อ
ซึ่งพอเห็นสภาพเลอะเทอะไม่มีชิ้นดีของใครบางคน
ดวงตาเรียวก็ต้องเผลอเบิกกว้างร้องถามขึ้นด้วยความตกใจ


“ปลายฟ้า! ทำไมขาวไปหมดแบบนั้นล่ะครับ เกิดอะไรขึ้น!?”


บอลล่าไม่รอช้าเมื่อเห็นพระเอกขี่ม้าขาวมาตรงหน้า
จึงรีบปรี่เข้าไปออเสาะพลางแฉเล่าสถานการณ์อย่างตื่นกลัว
เหมือนลืมสนิทว่าเมื่อกี๊แม่ยังจะออกลายท้าตบเขาอยู่เลย


“โอยย... ดิวขา ก็พวกนี้น่ะสิค่ะ
มันสะดุดล้มมาชนปลายฟ้าจนสีหกใส่ทั้งแกลลอน
ไม่ขอทงขอโทษอะไรเล๊ยซ้ากกคำ
แล้วยังมีหน้ามาหาว่าพวกเราเป็นคนวิ่งเล่นไปชนเองอีก
คนอะไรไม่หล่อ แถมยังปากหมาไม่น่าเก็บไว้ทำพันธุ์!!”


กระนั้นเจ๊บอลล่าก็ยังไม่วายลงท้ายด้วยคำจิกกัดเจ็บแสบ
จนคนถูกด่าแทบจะเข้าไปกระชากคอเสื้อร่างบางด้วยความโมโห

 
“ว่าไงนะ อีตุ๊ด!”


“เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน
เขาว่าแบบนั้น จริงรึเปล่าวะ ไอ้บีม”


ยังดีที่นายคมสันประธานค่ายเข้ามาขวางไว้ทันแล้วเปลี่ยนประเด็นขึ้นมาแทน
พอได้ยินชื่อปลายฟ้าจึงนึกออกว่าคนคนนี้คือเจ้าของตำแหน่งเหรัญญิกประจำค่าย

...มิหน่าเขาถึงเห็นว่าดูคุ้น ๆ ตา
และคงจะเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพวกประธานด้วย
จึงทำให้คนเล่าพูดอย่างมีท่าทีสนิทสนม


“จะถามทำไมวะ มึงก็รู้ว่าพวกเภสัชทำแต่งานง่าย ๆ
เลยมีเวลามาเดินเล่นเกะกะขวางทางชาวบ้าน
พวกกูสิยุ่งจะตายห่าไม่มีคนมาช่วยอยู่แล้ว”


แต่เหมือนคำตอบที่ได้รับจะยังไม่เป็นที่พอใจของคนฟัง
คมสันจึงเอ่ยถามซ้ำอีกครั้งให้เข้าประเด็นชัด ๆ


“ตกลงมึงสะดุดแล้วไปชนเขาจริง ๆ รึเปล่า”


คนโดนซักอึกอักเล็กน้อย
ทว่าเมื่อโดนดวงตาคมดุของเพื่อนตัวเองคาดคั้น
จึงได้แต่ตอบรับอ้อมแอ้ม


“....ก็บอกแล้วไงว่าพวกกูกำลังยุ่งอยู่”


“สรุปมึงชนเขา งั้นมึงขอโทษเขาซะ”


ท่านประธานตัดสินง่าย ๆ อย่างคนพอเดาเรื่องได้
อีกฝ่ายส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างหงุดหงิด
ทว่าลงท้ายก็ต้องพูดคำนั้นออกมาตามคำสั่งแกน ๆ


“เออ ๆ ก็ได้

...ขอโทษ

พอใจยัง?”



“ยัง”


ทุกคนในวงสนทนาหันมองผู้พูดทันทีอย่างแปลกใจ
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนที่โดนสีขาวสาดใส่เต็มตัว


นายปลายฟ้ายังคงยืนนิ่งราวกับไม่สนใจจะเช็ดรอยเปื้อนออก
แต่กลับเริ่มต้นพูดในสิ่งที่เขาต้องการมานาน


ถ้อยคำที่เขาอยากจะอธิบาย...



“เรายังไม่พอใจ จนกว่านายจะเข้าใจพวกเราใหม่
จริงอยู่ที่ว่าพวกเรามาค่ายอาสา เพราะมันเป็นคะแนนส่วนหนึ่งในวิชาเรียน
แต่พอเรามาทำงานตรงนี้ เราก็ตั้งใจทำมันเต็มที่ทุกวัน
เราอยากจะช่วยจริง ๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องคะแนนอะไรเลย
แล้วที่เป็นฝ่ายวิชาการกับสวัสดิการพวกเราก็ไม่ได้เป็นคนเลือกเองด้วย
ถ้างานส่วนอื่นมันยุ่ง หรือมีอะไรที่เราพอทำได้ ก็ขอให้บอกมาเราจะช่วย
งานหนัก งานเบา ทำร่วมกับคณะ ชั้นปี เพศอะไรเราไม่เกี่ยง
แล้วไม่คิดจะเอาเปรียบใครทั้งนั้น
เพราะเราถือว่าเราเป็นคนค่ายวิศวะอาสาเหมือน ๆ กัน
มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันกับพวกนายทุกคน”



...สิ้นคำพูด ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบ


เรื่องพวกนี้นายปลายฟ้าเคยคุยกับคนในกลุ่มมาก่อนแล้ว
แรก ๆ ทุกคนเคยคิดว่าไอ้ค่ายนี้มันคงน่าเบื่อ
แต่พอได้มาอยู่นานวันเข้า พวกเขากลับพบว่ามันสนุกมากกว่าที่คิด
ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้เห็นรอยยิ้มของน้อง ๆ ที่ไปสอนหนังสือ
ได้ลองทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ
จนเกือบลืมไปว่าตัวเองมาที่นี่เพื่อหวังเอาคะแนน
ต่างคนต่างช่วยงานกันเต็มที่ด้วยจิตอาสาจริง ๆ
เขาเลยอยากจะลองอธิบายเพื่อหวังให้คนที่มีอคติต่อตัวพวกเขา
ได้เข้าใจชัดเจนว่าตอนนี้เด็กเภสัชรู้สึกกันยังไง


และดูเหมือนความพยายามของนายปลายฟ้าจะไม่สูญเปล่า
เพราะคู่กรณีของเขาพยักหน้าลงเหมือนยอมรับ
ก่อนพูดด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป


“อืม...เข้าใจแล้ว เราขอโทษด้วยแล้วกันที่เคยว่าพวกนาย”

คำกล่าวในประโยคอ่อนลง
คล้ายกับเจ้าตัวกล่าวออกมาจากใจจริง
ทำให้บอลล่าซึ่งเครื่องร้อนเริ่มเย็นลงบ้าง
แล้วจึงหันมาเอ่ยตอบกลับไปเช่นเดียวกัน


“ชั้นเองก็ขอโทษด้วยเหมือนกันที่พูดแรงไป
หาว่านายเป็นหมาไม่น่าเก็บไว้ทำพันธุ์
จริง ๆ หมาพันธุ์อื่นที่น่ารัก ๆ ก็มีเยอะนะ
แบบพุดเดิ้ล ชิสุ เชาเชา อะไรยังเงี้ย”


....พูดไปพูดมาชักฟังทะแม่ง ๆ จนไอ้เกมส์ต้องรีบยั้ง


“เดี๋ยวก่อน แบบนี้มันก็ไม่พ้นหมาอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับเจ๊!”


คนในวงหัวเราะครืนกับมุกที่มาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทว่ามันก็ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดก่อนหน้าคลี่คลายลง


...ดีแล้วที่เริ่มต้นหันหน้าคุยกัน แทนที่จะใช้กำลัง
เรื่องจึงจบลงแบบไม่บานปลายใหญ่โต
เหลือก็แค่ให้คนอื่น ๆ ในค่ายได้เข้าใจพวกเขาบ้าง
และเหมือนโอกาสไปสู่หนทางนั้นอาจจะไม่ยากเย็นเท่าไร
เพราะประธานค่ายหันไปถามบีมก่อนเสนอทางเลือกให้พวกเขา


"เออ...จริงสิ เห็นมึงบ่นว่าขาดช่างทาสีไม่ใช่เหรอ
ก็ชวนพวกเขาไปช่วยด้วยเลยเป็นไง
ส่วนที่ต้องไปสอนเด็กเดี๋ยวเราจะวานบอกให้พวกพี่อ้อมทำให้แทน
งานมันเร่งพวกพี่เขาคงเข้าใจ”


ท้ายประโยคนายคมสันหันมาคุยกับทั้งหัวหน้าหน่วยวิชาการและสวัสดิการ
ซึ่งหันมามองคนในกลุ่มเหมือนถามความเห็น
และได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าตรงกัน
ดังนั้นช่วงบ่ายเด็กเภสัชจึงถูกโอนย้ายไปแผนกก่อสร้างชั่วคราวด้วยความเต็มใจ
เป็นอันสรุปข้อยุติไปได้เรื่องหนึ่ง


...กระนั้นยังเหลืออีกเรื่องที่ยังคาค้าง



“ปลายไปล้างตัวก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมช่วยเองนะ”


ดิวเสนอขึ้นมา หลังจากเงียบอยู่นาน
ทุกคนในกลุ่มจึงเพิ่งตระหนักได้ว่าปลายฟ้ายังยืนขาวผ่องไปทั้งตัว
แต่คนที่โดนเรียกกลับรีบพูดปฏิเสธ


“ไม่ต้องหรอก แค่ไปอาบน้ำใหม่เอง
เราไปคนเดียวก็ได้ ดิวไปช่วยทาสีเถอะ
เสร็จแล้วเดี๋ยวเราตามไป”


ทว่าหนุ่มหล่อกลับขมวดคิ้วถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ


“ไปคนเดียวได้แน่เหรอครับ ให้ผมไปช่วยดีกว่านะ”


“เราทำได้ไม่ต้องห่วง”


ปลายฟ้ายังคงยืนยันหนักแน่น

มันแน่อยู่แล้ว....
จะให้อีกคนไปช่วยอะไรล่ะ
แค่อาบน้ำใหม่ก็เรียบร้อยแล้ว
ขืนมัวมารอกันได้เสียเวลาเปล่า ๆ
ถึงจะเดาได้ว่าดิวคงอยากช่วยเหลือตามประสาบัดเดอร์ที่ดี
แต่จะให้ถึงขนาดไปช่วยเขาแก้ผ้าอาบน้ำมันก็ยังไงอยู่นะ


กระนั้นดิวยังคงไม่ละความพยายามเอ่ยท้วง


“แต่ผมว่า....”


“อูยยย! จีบกันอยู่นั้นแหละค่า อิจฉานะคะเนี่ย
ดิวไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พ่อเต่าน้อยมันทำได้
ขืนไปอยู่รอกว่าจะเสร็จคงทันข้าวเย็นพอดี
ดิวมาช่วยทาสีด้วยกันกับบอลล่าดีกว่า
บอลล่าอยากจับคู่ผสมสีชมพูด้วยกันกับดิวจังเลย~”

บอลล่ารีบร้องสวนขึ้นมาทันที พลางขยับไปคล้องแขนดิว
เดินลากควงไปอีกทางโดยไม่ลืมหันมาขยิบตาให้ปลายฟ้า
เหมือนจะรู้ว้าเจ้าตัวเริ่มลำบากใจจึงเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ให้แทน


คนในวงสนทนาจึงเริ่มต้นแยกย้ายกันไป
กลุ่มเภสัชเดินตามกลุ่มวิศวะกลับไปเอาอุปกรณ์ทาสี
ประธานหายไปทางอาคารเอนกประสงค์คงไปตามพี่อ้อมเหมือนที่เคยพูด
ส่วนเขาหันหลังกลับไปยังเต้นท์รีบวิ่งเร็วจี่ไปหยิบเสื้อกางเกงพร้อมสบู่
เดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ เพื่อจัดการล้างเนื้อตัว


...ดีที่ว่าสีที่โดนสาดเป็นสีน้ำ
ถ้าเป็นสีน้ำมันต้องใช้ทินเนอร์ล้างออก
มีหวังเขาได้เมาทินเนอร์จนเหม็นไปทั้งตัวแน่

แต่ถึงอย่างนั้นโดนสีแค่นี้ก็นับว่าคุ้ม
ที่อยู่ ๆ ดันมีโอกาสเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดไปได้
ไม่งั้นต้องมานั่งคิดว่าจะทำยังไงดี
เกือบต้องหาคนกลางมาประสานรอยร้าวระหว่างคณะซะแล้ว


จริงสิ...


...คนกลางที่เข้าเผลอนึกถึงก่อนโดนสีสาดใส่


และเป็นคนเดียวกับที่เขาได้ฟังอะไรบ้า ๆ
ระหว่างตอนกลับไปค่ายเมื่อวาน


“ปลายช่วยยิ้มบ่อย ๆ หน่อย
...ปลายยิ้มน่ารักดี
เราชอบ...
...ปลายช่วยยิ้มให้เราเห็นบ่อย ๆ ทีนะ”



...บ้ารึเปล่าวะ! 

ตอนที่ได้ยินครั้งแรกเขาถึงกับอึ้ง
ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะพูดออกมาได้
แถมยังตีหน้านิ่งแบบนั้น
เลยดูไม่ออกว่าพูดจริงพูดเล่น

แต่คงเป็นมุกนั้นแหละ
เพราะสุดท้ายมันก็ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มมาอีก
เขาสองคนเลยทำตัวเป็นปกติเหมือนเดิม
แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่
ไม่ได้เจอหน้ากันอีกจนกระทั้งเมื่อกี๊

แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ
แต่ถ้าไม่ได้มันมาห้ามไว้ก็คงแย่
ดีแล้วที่คนอย่างมันมาช่วยพอดี
เพราะฉะนั้นเรื่องมุกบ้าบอที่มาแหย่เขาเล่น
เขาจะยกโทษให้มันไปก็แล้วกัน...


ปลายฟ้าคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
พลางใช้ขันตักน้ำราดตัวซึ่งเปื้อนสี
แต่ชั่วขณะที่กำลังจะเอื้อมมือหยิบสบู่
กลับมีเสียงบางเสียงดังขึ้นขัดจังหวะ...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2012 06:26:32 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
..


.


ก๊อก!  ก๊อก!


อ้าว...ใครเคาะประตูวะ
เห็น ๆ อยู่ว่ามีคนเข้ายังจะเสือกเคาะอีก
ห้องอื่นอีกสองห้องว่าง ๆ ก็มีไม่ใช่รึไง
ทำไมไม่ไปเข้าแทนล่ะวะครับ!


คนหงุดหงิดกำลังจะอ้าปากตะโกนไปว่าห้องนี้มีคนอยู่
แต่เสียงจากด้านนอกดันพูดสวนขึ้นมาเสียก่อน


“ปลาย เราคมนะ”


เจ้าของชื่อชะงักทันที่ได้ยิน

คม... ไอ้หน้าโหดประธานค่าย

คนที่เขาเพิ่งคิดถึงอยู่แหม่บ ๆ
มันไปตามพี่อ้อมมาช่วยงานไม่ใช่เหรอ
ละ...แล้วทำไมมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงล่ะ


“มีอะไร”


คนอยู่ในห้องน้ำรวบรวมสติร้องถามอย่างสงสัย
ซึ่งอีกคนกลับตอบมาเพียงสั้น ๆ


“โยนเสื้อออกมาให้หน่อย”



...ห่ะ?


คำสั่งที่ทำให้แลดูงงหนักกว่าเดิมจนทำให้สับสน
แต่ไม่ต้องรอให้เขาเป็นฝ่ายถาม
เพราะคนด้านนอกกลับขยายความขึ้นมาเอง


“เสื้อกับกางเกงที่เปื้อนสีโยนออกมาเลย
เดี๋ยวเราจะเอาไปซักให้
ใช้แฟ้บกับน้ำคงล้างออกไม่หมดหรอก
แต่คงพอจางบ้าง ยังไงก็รีบเอาออกมาแช่ไว้เร็ว ๆ ดีกว่า”


เออ...จริงด้วยสิเนอะ
เขาเกือบลืมไปเลยว่าต้องรีบซักเสื้อด้วย
แต่อยู่ ๆ จะให้ใครบางคนมาช่วยซักให้มันจะดีเหรอ
ไม่ได้สนิทกันจนกล้าพึ่งพาขนาดนั้นสักหน่อย


คนเกรงใจเริ่มลังเลตามนิสัย
ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงยืนรออยู่หน้าประตูโดยไม่มีทีท่าว่าจะไปไหน
เหมือนเป็นตัวเร่งการตัดสินใจให้เร็วขึ้น

ในที่สุดปลายฟ้าจึงยอมหยิบเสื้อกับกางเกงเปื้อนสีของตัวเอง
พาดไว้กับขอบประตูด้านบนปล่อยให้อีกคนดึงมันไป
เพียงครู่เดียว เขาได้ยินเสียงกุกกักจากด้านนอก
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่คล้ายน้ำกำลังกระทบกับกะละมัง


...เฮ้ย! นี่อย่าบอกนะว่าจะลงมือซักกันในนี้เลย


ยิ่งรู้ว่าคนช่วยมาทำให้ต่อหน้าเลยก็ยิ่งเกรงใจ
ปลายฟ้าจึงเร่งถูสบู่ขัดตัวให้สีล้างออก
เพื่อจะได้รีบไปเอาเสื้อของตนมาซักเอง



“ทำไมไม่บอกเรา”


อยู่ ๆ เสียงสายน้ำจากก๊อกข้างนอกก็หยุดไป
แล้วถูกแทนที่ด้วยคำพูดลอย ๆ จากร่างสูง
ปลายฟ้าหยุดมือที่ถูสบู่
พลางขมวดคิ้วถามซ้ำด้วยความไม่แน่ใจ


"พูดเรื่องอะไร?”


เขาคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจ
ปนมากับเสียงจ๊อกแจ๊กเหมือนคนเอาผ้าลงน้ำ
ก่อนจะตามมาด้วยคำอธิบาย


“เรื่องที่พวกไอ้บีมพูดรู้มาก่อนแล้วใช่มั้ย
ทำไมถึงไม่บอกเรา ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกจะได้ไปเคลียร์ให้เข้าใจ
เราเป็นคนจับเด็กเภสัชลงหน่วยวิชาการกับสวัสดิการเอง
เพราะเราคิดว่ามันเหมาะกับพวกปลาย แล้วก็น่าจะทำได้ดี
ไม่ใช่เพราะเราเห็นเด็กเภสัชทำอะไรไม่เป็นเลยเอาลงตำแหน่งมั่ว ๆ หรอกนะ”


คู่สนทนาชะงักกับประโยคที่เพิ่งรับฟัง



...รู้อยู่แล้ว


ความจริงเขารู้ดีอยู่แล้วว่าคนอย่างคมไม่มีทางทำแบบนั้น
ตอนแรกยอมรับว่าเขามีอคติเลยคิดว่าคมอาจจะเข้าข้างเด็กวิศวะด้วยกัน
แต่พอได้มารู้จัก ได้คุยกันมากขึ้น เขาก็เลยรู้ว่าคมไม่มีทางดูถูกพวกเขา
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เชื่ออย่างนั้น ทั้ง ๆ เพิ่งคุยกันไม่นาน
แต่จากพฤติกรรมที่ผ่าน ๆ มาทั้งหมด
ทำให้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจริงใจและไม่คิดจะเอาเปรียบใครเลยสักครั้งเดียว


ปลายฟ้าทบทวนความรู้สึกของตัวเอง
แล้วจึงตัดสินใจพูดไปตามนั้น


“เรารู้อยู่แล้วว่านายไม่มีทางคิดแบบนั้นเลยไม่ได้บอกไป
อีกอย่างเราไม่อยากให้??ءันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย
นายมีงานยุ่งจะตาย เดี๋ยวจะกวนกันเปล่า ๆ เรื่องแค่นี้เราจัดการได้
เห็นมั้ย... สุดท้ายเราก็พูดเคลียร์ให้พวกเขาเข้าใจกันได้แล้ว”


คำตอบที่ดังจากหลังบานประตูทำให้คมสันนิ่งพิจารณา


....นั้นสิ เรื่องวันนี้ปลายฟ้าไม่จำเป็นต้องให้เขาช่วยอะไรมากด้วยซ้ำ
เพราะเจ้าตัวพูดเองไปหมดแล้ว แถมยังเป็นคำพูดที่ดีมากด้วย
ตอนเขายืนฟังยังนึกทึ้ง ไม่คิดว่าคนเงียบ ๆ อย่างปลายฟ้า
จะสามารถโน้มน้าวใจคนอื่นให้ยอมอ่อนลงด้วยคำเพียงไม่คำ

หรือที่จริงแล้วเห็นปลายฟ้าเงียบ ๆ ไม่ใช่ว่าไม่คิดอะไร
ปลายฟ้ากำลังคิดอยู่ตลอดแต่ไม่พูดออกมาแค่นั้นเอง

...แล้วมันจะเป็นอะไรมั้ย
ถ้าเขาอยากได้ยินในสิ่งที่ปลายฟ้าคิดบ้าง

...อยากให้ปลายฟ้าแบ่งปันเรื่องราวให้เขาฟัง
ไม่ใช่เอาแต่เงียบไปเฉย ๆ เหมือนที่ผ่าน ๆ มา


คมสันนึกใคร่ครวญถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ก่อนกลั่นออกมาเป็นคำขอส่งไปถึงอีกคน


“งั้นวันหลังปลายมีอะไรต้องบอกเรานะ
เราอยากฟังที่ปลายพูดทุกเรื่อง”


“ห่ะ? ฟังเราพูดเนี่ยนะ”


ปลายฟ้าถามซ้ำขึ้นอย่างงง ๆ อีกครั้ง


...อะไรของมัน
บอกว่าจะฟังทุกเรื่องที่เขาพูด
แม่งว่างมากเหรอวะ
หรือทำงานหนักจนสมองเพี้ยนไปแล้วรึไง!


ทว่าร่างสูงก็ยังคงตอกย้ำคำเดิมอีกหน


“อืม ถ้าปลายพูดอะไรมาเราก็จะฟัง
แล้วถ้าปลายอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรา
เราก็จะตอบให้ทั้งหมดเหมือนกัน
ปลายลองถามมาสิ... เรื่องอะไรก็ได้...
เดี๋ยวเราจะบอกปลายเอง
ปลายถามมาเลย...”


...อ้าวไอ้นี่
อยู่ ๆ ก็มาบังคับให้ถามกันหน้าตาเฉย
แล้วใครมันจะไปคิดออกเอาตอนนี้
ตกลงมึงจะเอายังไงกันแน่เนี่ย
กูงงไปหมดแล้วนะเว้ยยย!!


ปลายฟ้าร้องโวยวายในใจ
ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ ทำไมมันถึงวนมาเข้าเรื่องนี้ได้
แต่พออีกฝ่ายเงียบไปนานเหมือนรอคำถามก็ยิ่งสร้างความกดดัน
ท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจถามขึ้นมาตะกุกตะกักโดยไม่ทันได้คิด



“มะ..เมื่อกลางวันกินข้าวกับอะไร”



ถามไปแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาย

....คำถามโคตรปัญญาอ่อน!

หลุดปากไปแล้วเพิ่งจะมานึกได้ว่าตัวเองเป็นบัดเดอร์แท้ ๆ
ควรถามอะไรที่มันน่าจะเข้าท่ากว่านี้
อย่างชอบกินอะไร อยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า
เขาจะได้เทคแคร์จัดของเตรียมไว้ได้ถูก


โอยยย!!! ไอ้ปลายฟ้าทำไมกูมันโง่อย่างนี้ว่ะ!!


ทว่าคนด้านนอกลับไม่ถือสาหาความ
ให้คำตอบแถมเป็นฝ่ายย้อนถามกลับ


“เรากินกระเพราไก่ไข่เจียว แล้วปลายล่ะ”


“ก็...กระเพราไก่ไข่เจียวเหมือนกัน”


อาหารในค่ายกลางวันมันก็มีเมนูเดียวนี่แหละจะให้ตอบอะไร

อายเลยมั้ยกู ...อายเลยมั้ย...


ปลายฟ้ารู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้นมาดื้อ ๆ
รีบใช้ขันตักน้ำเร่งล้างสบู่ออกจากตัวโดยเร็ว
สีหมดไม่หมดไม่สนแล้ว ตอนนี้ขอให้ออกไปก่อน
ขืนคุยกันหลังประตูแบบนี้เดี๋ยวได้เผลอปล่อยไก่อะไรบ้า ๆ อีก


เขาจึงเช็ดตัวลวก ๆ ใส่เสื้อผ้าด้วยความเร็วปานแสงขัดกับนิสัย
แล้วเปิดประตูห้องน้ำที่คั่นกลางระหว่างใครบางคนไว้ออกผั๊วะ

ดวงตากลมสบกับดวงตาคมที่เหมือนจะหันมาพอดี
ก่อนดวงตาคู่นั้นจะหยุดมองร่างที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหมาด ๆ
หยุดอยู่นานจนคนถูกจ้องชักจะเกร็ง ๆ แปลก ๆ
ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะขยับอะไร
ร่างสูงกลับโยนบางสิ่งมาให้


“อ่ะ เอาเสื้อตัวนี้ไปใส่ซะ”


เขาตะครุบรับของมาไว้ในมือ
เสื้อยืดสีดำมีลายโลโก้ยี่ห้อสินค้าอะไรสักอย่างเหมือนเป็นเสื้อแถมมา
ขนาดไซต์น่าจะใหญ่กว่าตัวเขาพอสมควรจนน่าจะเหมาะกับคนที่โยนให้มากกว่า

...แล้วมันจะเอาเสื้อมาให้ทำไมวะ


“จะไปทาสีไม่ใช่เหรอ ใส่เสื้อดี ๆ
แบบนั้นไปเดี๋ยวก็เปื้อนอีกหรอก”


คำถามที่สงสัยถูกเฉลยออกจากคนมอง
พอถูกทักแบบนั้นก็เพิ่งจะนึกได้

เออว่ะ...เขาดันใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตลีวายส์ตัวโปรดมาเลย
ตอนหยิบมาก็ไม่ทันได้คิด รีบแต่จะไปอาบน้ำ
ถ้าใส่เสื้อตัวนี้ไปทาสีคงได้กลายเป็นเสื้อเพ้นท์ลายแน่
แต่ถึงยังนั้นจะให้รับเสื้อคนอื่นมามันก็ดูจะมากไป
คมทั้งมาช่วยซักผ้าให้เขาแล้ว เลยไม่อยากจะรบกวนเพิ่มอีก


ปลายฟ้าจึงบอกปฏิเสธพลางยื่นเสื้อส่งคืนให้


“ไม่เป็นไร เรากลับไปเปลี่ยนที่เต้นท์เองก็ได้”


“เอาไปเถอะ กว่าจะไปกลับเต้นท์เสียเวลา
งานยิ่งเร่ง ๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวเราต้องกลับไปดูโรงเพาะเห็ดต่อแล้ว
เออ...ผ้าที่แช่ไว้ เราจะช่วยบอกคนอื่นให้ว่าเป็นของปลาย
จะได้ไม่มีใครมาหยิบไป
ทาสีเสร็จค่อยมาซักให้สะอาดอีกทีแล้วกันนะ”


คมสันยังคงยืนนิ่งไม่คิดจะรับของตนเองคืน
ซ้ำยังร่ายประโยคยาวเหยียด


...ดีนะที่เมื่อกี๊เขาไปเอากะละมังซักผ้าที่เต้นท์
แล้วหยิบเสื้อติดมือมาด้วย
เขาไม่ค่อยถนัดเรื่องแฟชั่นเท่าไร
แต่ก็พอสังเกตเห็นว่าปลายฟ้าแต่งตัวดูดี
พวกเสื้อผ้าคงใช้ของมียี่ห้อราคาแพง
อย่างตัวที่เลอะสีนี่ก็เหมือนกัน
ถึงจะเป็นเสื้อยืดสีสว่างแต่ไม่รู้ว่าจะจางไปได้มากแค่ไหน
เขาลงแรงขยี้เท่าที่ทำได้ ที่เหลือก็ภาวนาอย่าให้เสื้อเป็นรอยมาก
ถ้าปลายฟ้าใส่เสื้อดี ๆ ไปช่วยทาสีอีก
เกิดทำเลอะเทอะขึ้นมาก็น่าเสียดายแย่
สู้ใช้เสื้อของเขาเลยดีกว่า เป็นเสื้อได้ฟรีแถมมา
ต่อให้โดนสีมากเท่าไรก็คงไม่เป็นไร


คนที่จัดการภารกิจเสร็จสิ้นจึงตัดบททิ้งท้าย


“งั้นไปนะ ทำงานระวังตัวด้วยล่ะ”


บอกไปแค่นั้น...
แล้วนายคมสันประธานค่ายจึงเดินห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งปลายฟ้าไว้กับเสื้อยืดสีดำและผ้าที่แช่ไว้เรียบร้อยในกะละมัง
โดยไม่มีโอกาสทันได้อ้าปากโต้แย้งใด ๆ


อ้าว...อะไรวะ
พอเขาออกมาคุยกันตรง ๆ ดันรีบไปซะงั้น
ยังไม่ได้พูดขอบคุณเลยสักคำ
แล้วนี่ตกลงเขาเป็นฝ่ายโดนให้บัดดี้ช่วยอีกแล้วใช่มั้ย
โธ่เว้ย! งั้นเมื่อไรเขาจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองซะทีล่ะวะเนี่ย


แม่งปวดหัวจริง ๆ โว้ยยย!!



ปลายฟ้าแทบอยากจะยกมือกุมขมับ
มองเสื้อยืดคอกลมสีดำที่อยู่ในมือ
ซึ่งมีขนาดไซต์ใหญ่กว่าตัวเองอยู่มากอย่างลังเล

ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจสวมมันทับลงไปดื้อๆ
ก่อนเดินออกจากห้องน้ำเอาของไปเก็บ
แล้วจึงตามไปสมทบกับพวกเพื่อน ๆ ที่เหลือ
ซึ่งต่างมองกันอย่างแปลกใจในการแต่งตัวของคนที่เพิ่งกลับมา

และแม้ใครต่อใครจะถามถึงสาเหตุ
เจ้าตัวก็จะบอกแค่ว่ามันกันเลอะโดยไม่เล่าที่มาอะไรต่อ
ทั้งยังไม่คิดจะถอดเสื้อตัวใดตัวหนึ่งออกไประหว่างการทำงาน


ด้วยเหตุนี้...

นายปลายฟ้าจึงเป็นบุคคลเดียวในค่าย
ที่เป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นแสนประหลาดล้ำ


....ตลอดทั้งวันนั้นนั่นเอง



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



เป็นครั้งแรกที่ต้องจัด 2 รีพลาย  o22
นับวันเนื้อเรื่องในตอนจะยิ่งยาวขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ถือเป็นการทำให้สมดุลเพราะเต่าปลายมันช้า
แต่ละตอนเลยต้องขอจัดให้กันยาว ๆ   :laugh:

มีบางคนแอบใจร้อน
เริ่มหงุดหงิดกับความชักช้าของเต่าปลายที่ค่อย ๆ คลานกระดืบต้วมเตี้ยมเหลือเกิน
ใจเย็นค่ะ ๆ ต้องทำใจเพราะซีรีย์ภาคนี้มันเป็นสไตล์แบบ
...รักน้อย ๆ ค่อย ๆ รักฉัน ค่อย ๆ คิดถึงกันทุกวัน (ฮิ้ววว~ ครวญเพลงบอกอายุอีกแล้ว)

มันกำลังเป็นความรักแบบพัฒนา
ไม่หวานมาก แค่ใส่ใจดูแลกันเบา ๆ (หราาาาา)

ภาคนี้อาจจะยาวที่สุดในซีรีย์จริง ๆ ก็ได้ :try2:
จะยังไงก็ฝากให้ร่วมด้วยช่วยกันดันเต่าปลายไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้นะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจจ้า

 :กอด1:
 
รักเสมอ


BitterSweet

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2012 06:58:37 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ดีใจจังได้เจาะไข่ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ saiiisai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ปรับความเข้าใจกับเด็กวิศวะได้ซะที
ปลายจะได้โดนจีบสะดวกหน่อย 555

ออฟไลน์ minyoung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
น่ารักอ่ะ






ค่อยๆพัฒนาควมาสัมพันธ์กันทั้งสองคน






เราเดาว่าคมน่าจะเป็นทั้งบัดดี้และบัดเดอร์กับปลายเลยแหละ






เราติดตาทุกภาคแต่พึ่งว่างเหมือนกัน เรียนหนักมาก






เราอยากบอกอีกว่า คู่นี้อยากให้ลงเอยแบบรวเร็วนิดนึงอ่ะ






กลัวบ่มรักนานไปจนกลายเป็นเน่าอ่ะ รีบรักกัน เข้าใจกัน จะได้มีฉากหวาน ๆ มาให้อ่านเยอะ ๆ






และฝากบอกอีกอย่างนางพันธุรัต มาจากเรื่อง สังข์ทองนะจ๊ะ ไม่ใช่เรื่องพระอภัยมณี เรื่องพระอภัยมณีเป็นนางผีเสื้อสมุทร

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักจัง ระวังนายดิวด้วยล่ะ

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
พ่อเต่าน้อยคิดเยอะแต่ไม่พูด ระวังจะเครียดเน้อ ให้พ่อคมเค้ามาช่วยฟังบ้างนะ

ชอบตอนคุยกันข้ามประตูมาก ๆ เลย เขินอ่ะ น่ารักมากกกก

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ค่อยเป็นค่อยไปกันจริงๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ผู้นำแฟชั่นเลยเหรอ
ว่าแต่ไม่ร้อนแย่เหรอ ใส่เสื้อตั้งสองตัว
ไปตากแดดอะ :กอด1:

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ยาวได้ใจมาก >////<
ในที่สุดก็เริ่มค่อยๆ หวานขึ้นเรื่อยๆ ซะที งืม ดูเหมือนว่านายดิวจะพยายามเข้าใกล้ปลายฟ้ามากเลยนะพี่คม
ถ้าไม่รีบชัดเจนระวัง แห้ว นะจ๊ะ

ออฟไลน์ mr_longza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ซีรี่ย์นี้ชอบทุกภาคเลย แต่ชอบภาคน้องเต่าน้อยที่สุด ขอยาวๆ เลยครับ
คนนิสัยดีจิตใจสองคนมาเจอ (และรัก) กัน มันชื่นใจมากๆ
นิยายวาย พระเอกไม่ต้องร้าย นายเอกไม่ต้องรันทด ก็สนุกได้นะเออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
คุณคมน่ารัก คุณเต่าปลายหวั่นไหวบ้างหรือยัง

ออฟไลน์ ~MiKi~

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
พี่จิตอาสาค่อยๆหยอดไปเรื่อยๆ น้องเต่าน้อยเริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้นบ้างแล้ว .//////.



ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เทคแคร์พิเศษแบบนี้ เดี๋ยวไก่ตื่นหมดหรอกคม  :m26:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
คมช่างเอาใจปลายเสียจริง น่ารักอ่ะแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป
พอคุยกันแล้วก็เริ่มที่จะพูดคุยกันมากขึ้น

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
น่ารักจัง

ค่อยๆรักกัน เบาเบา  :กอด1:

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
เราไม่รู้สึกว่าเรื่องเดินช้านะ..แต่กลับรู้สึกชอบเวลาอ่านความรู้สึกมากกว่า....

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
แล้วปัญหาระหว่างค่ายก็จบลงด้วยดี  แลกกับสีเปื้อนตัวเต่าปลาย  แต่ได้หนุ่มคมมาช่วยซัก

คู่นี้เหมือนจะค่อยๆ เรียนรู้ นิสัย เอาใจใส่กันไปแบบสถานการณ์พาไปจริงๆ


ออฟไลน์ YuuYuu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยอมรับอย่างจริงใจว่าหงุดหงิ๊ด หงุดหงิดกับความช้าของเต่าปลาย
ด้วยส่วนตัวเป็นคนทำอะไรเร็ว แต่ไม่ได้จิตอาสามากเหมือนคมนะ ฮ่าาาา

แต่เราก็เห็นหละว่าตัวละครมีการพัฒนามากขึ้น 
ถ้าเป็นเมื่อก่อนปลายอาจจะไม่พูดอะไร  เพราะกำลังคิดอยู่
แต่ตอนนี้ปลายก็พูดมากขึ้น  คิดเร็วขึ้น  (แต่ก็ช้ากว่าคมอยู่ดี)

ต้องให้สองคนนี้คุยกันบ่อยๆ จะได้รู้เรื่องกันและกันมากขึ้น
จะได้ทำตัวเป็นบัดดี้บัดเดอร์กันให้น่ารักสักที  เรารออยู่นะ... ฮ่า


ปล. เพลงนั้น...เราก็ยังฟังทันอยู่เหมือนกันนะ (บอกอายุอีกคน...)
ปล๒. สามสิบตอนไปเลยจ้ะ สามสิบตอนไปเลย ฮ่า

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :กอด1:มันแฝงมาด้วยความห่วงใย

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด